Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกหัดบทที่6 น.ส.ปิ่นเกสร ทิพยวรรณ รหัส 4631071141123 ออกแบบภายในปี3

แบบฝึกหัดบทที่6 น.ส.ปิ่นเกสร ทิพยวรรณ รหัส 4631071141123 ออกแบบภายในปี3

Published by PintPN, 2022-08-02 17:45:54

Description: แบบฝึกหัดบทที่6 น.ส.ปิ่นเกสร ทิพยวรรณ รหัส 4631071141123 ออกแบบภายในปี3

Search

Read the Text Version

ป่ิ นเกสร ทิพยวรรณ ออกแบบภายในปี 3 4631071141123 แบบฝึ กหดั 6 เร่ือง ความรู้พืน้ ฐานเกย่ี วกบั ระบบการส่ือสารข้อมูล 1. จงบอกความหมายของระบบการส่ือสารข้อมูล ระบบการส่ือสารขอ้ มูล คือ การโอนถ่ายหรือแลกเปล่ียนขอ้ มูล (Transmission) กนั ระหว่างตน้ ทางกบั ปลายทางโดยผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์ ระบบการส่ือสารขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ตอ้ งอาศยั อุปกรณ์หรือเคร่ืองมืออิเลก็ ทรอนิกส์ช่วยในการถ่ายโอนหรือเคล่ือนยา้ ยขอ้ มูล รวมท้งั ยงั ตอ้ งอาศยั สื่อกลางใน การนาขอ้ มูลจากตน้ ทางไปยงั ปลายทาง (ฝ่ ายตาราวิชาการคอมพิวเตอร์, 2558) คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์และ โปรแกรมที่ใชค้ วบคุมการไหลของขอ้ มูลและบุคลากรผดู้ าเนินงานจะช่วยส่งเสริมในการปฏิบตั ิการและจดั การ ในส่วนต่างๆท้งั หมด เพอื่ ใหก้ ารสื่อสารขอ้ มูลเป็นไปตามตอ้ งการ 2. อธิบายองค์ประกอบพืน้ ฐานระบบการส่ือสารข้อมูล องคป์ ระกอบพ้ืนฐานหลกั 4 อยา่ งในระบบส่ือสารขอ้ มูล ไดแ้ ก่ 1. ผูส้ ่งหรืออุปกรณ์ขอ้ มูล (Sender) และ ผูร้ ับหรืออุปกรณ์รับขอ้ มูล (Receiver) ท้งั อุปกรณ์รับและส่งขอ้ มูล อาจจะเป็นอปุ กรณ์ชนิดเดียวกนั กไ็ ดอ้ ุปกรณ์รับ/ ส่งขอ้ มูลมี 2 ชนิดคือ 1.1 Data Terminal Equipment (DTE) เป็ นแหล่งกาเนิดและรับข้อมูล เช่น คอมพิวเตอร์ เทอร์มินัล คอมพวิ เตอร์ เมนเฟรม เคร่ืองพมิ พ์ เป็นตน้ 1.2 Data Communication Equipment (DCE) เป็นอุปกรณ์ในการรับ/ ส่งขอ้ มูล เช่น โมเดม็ จานไมโครเวฟ หรือจานดาวเทียม Fibrotic Infrared Wireless เป็น ตน้ 2. โปรโตคอล (Protocol) หรือซอฟตแ์ วร์ (Software) 2.1 โปรโตคอล คือ วิธีการหรือกฎระเบียบที่ใชใ้ นการส่ือสารขอ้ มูลเพ่ือใหผ้ รู้ ับและผสู้ ่งขอ้ มูลเขา้ ใจกนั สามารถติดต่อส่ือสารกนั ได้ ตวั อยา่ งคือ x.25 SDLC TCP/IP 3. ซอฟตแ์ วร์ คือ ส่วนท่ีทาหนา้ ที่ในการดาเนินงานในการสื่อสารขอ้ มูลเป็นไปตามที่โปรแกรมกาหนด ตวั อยา่ ง คือ Windows หรือ Novell’s Netware เป็นตน้

ป่ิ นเกสร ทิพยวรรณ ออกแบบภายในปี 3 4631071141123 4. ข่าวสาร (Message) ข่าวสาร คือสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งผ่านไปในระบบส่ือสาร บางคร้ังเรียกว่า สารสนเทศ (Information) รูปแบบของขา่ วสารมี 4 รูปแบบ คือ 4.1 เสียง (Voice) 4.2 ขอ้ มูล (Data) 4.3 ขอ้ ความ (Text) 4.4 ภาพ (Picture) 5. สื่อกลาง (Medium) เป็นส่ือกลางท่ีใชใ้ นการสื่อสารขอ้ มูลจากตน้ กาเนิดไปยงั ปลายทางส่ือกลางน้ีอาจจะเป็น เส้นลวด สายไฟ สายเคเบิล หรือสายไฟเบอร์ออปติก เป็นตน้ หรืออาจจะเป็นคลื่นท่ีส่งผา่ นในอากาศ เช่น คล่ืน ไมโครเวฟ คลื่นดาวเทียม หรือ คล่ืนวิทยุ เป็นตน้ 3. จงบอกการส่งสัญญาณบนสื่อกลางข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ได้ สื่อกลางส่งขอ้ มูล ประกอบดว้ ยวสั ดุและรวมถึงการนาเทคนิคต่างๆ มาใช้เพื่อนาส่ง สัญญาณ โดย ส่ือกลางส่งขอ้ มูลอาจเป็นไดท้ ้งั แบบมีสายสัญญาณหรือเคเบิลต่างๆ รวมถึง ส่ือกลางแบบไร้สาย เช่น คล่ืนวิทยุ อินฟราเรด หรือดาวเทียม เป็ นต้น เม่ือมีการส่งขอ้ มูล จากคอมพิวเตอร์สัญญาณเหล่าน้ีจะเดินไปตามสื่อกลาง และพ้ืนฐานความเป็ นจริงส่ือกลาง ท่ีนามาใชเ้ พ่ือเชื่อมโยงบนเครือข่ายท่ีมีระยะทางไกลๆ อาจประกอบดว้ ย ส่ือกลาง หลากหลายชนิดท่ีนามาใชง้ านร่วมกนั และอาจมีความแตกต่างกนั ตามความเหมาะสมบน พ้ืนที่น้นั ๆ สาหรับเทคนิคการส่งสัญญาณบนส่ือกลาง อาจส่งเพียงสัญญาณเดียว หรือ มากกว่าหน่ึงสัญญาณก็เป็ นได้ (โอภาส เอ่ียมสิริวงศ์ และสมโภชน์ ช่ืนเอี่ยม, 2558) 3.1 การส่งสญั ญาณบนส่ือกลางแบบเบสแบนด์ (Baseband) เป็ นการใชช้ ่องทาง การส่ือสารเพียงช่องทางเดียวสาหรับการส่งสัญญาณดิจิทลั ในแต่ละคร้ังในช่วงเวลาหน่ึง โดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่มกั ใชก้ ารส่งสัญญาณชนิดน้ี เน่ืองจากเป็นวิธีการที่ไม่ ซบั ซอ้ นและสามารถ จดั การควบคุมง่าย 3.2 การส่งสัญญาณบนสื่อกลางแบบบรอดแบนด์ (Broadband) เป็ นการใช้ ช่องทางการ สื่อสารหลายช่องทางเพื่อส่งสัญญาณอนาลอ็ ก (Analog) โดยแต่ละคร้ังขอ้ มูล สามารถจดั ส่งหรือลาเลียงบนช่วง ความถ่ีที่แตกต่างกัน ดังน้ันการส่งสัญญาณชนิดน้ีจะมี ระบบการจัดการท่ียุ่งยากกว่าการส่งสัญญาณแบบ เบสแบนดม์ าก เพราะจะตอ้ งจดั การกบั จานวนขอ้ มูลต่างๆ ที่ลาเลียงอยบู่ นหลายช่องความถี่ บนสายส่ง

ปิ่ นเกสร ทิพยวรรณ ออกแบบภายในปี 3 4631071141123 สาหรับสื่อกลางข้อมูลที่ นามาใช้เพื่อส่งสัญญาณแบบบรอดแบนด์น้ัน จะรับรองความเร็ว ท่ีสูงกว่าแบบ เบสแบนด์ และมีตน้ ทุนสูงกว่า โดยปัจจุบนั มกั มีการนาเทคโนโลยีบรอดแบนด์มาใชง้ านตามบา้ นเรือน ท่ีพกั หรือองคก์ รธุรกิจมากข้ึน เช่น เทคโนโลยบี รอดแบนดอ์ ินเทอร์เนต็ เป็นตน้ 4. ให้นักศึกษายกตวั อย่างชนดิ ส่ือกลางส่งข้อมูลที่นามาใช้งานบนเครือข่ายน้ัน ท้งั แบบสื่อกลางส่งข้อมูลแบบใช้ สาย และแบบไร้สาย พร้อมท้งั อธิบายการทางาน ส่ือกลางแบบใชส้ าย สายคู่บิดเกลียว (twisted pair cable) ลกั ษณะของสายคู่บิด เกลียวแต่ละคู่จะทาดว้ ยสายทองแดง 2 เส้น แต่ละเส้น จะมีฉนวนหุ้ม พนั กนั เป็ นเกลียว เพื่อป้องกนั การรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า นอกจากน้ีสายคู่บิดเกลียวยงั สามารถแบ่ง ออกเป็ นประเภทที่ไม่มีฉนวนป้องกนั สัญญาณรบกวน หรือเรียกว่าสายยทู ีพี (UTP: Unshielded Twisted-Pair Cable) สาย บิดเกลียวแบบไม่มีโลหะห่อหุ้มนิยมใชก้ บั Ethernet network ซ่ึงมีความเร็วในการส่งขอ้ มูลประมาณ 10 Mbps กบั แบบที่มี ฉนวน ป้องกนั สัญญาณรบกวน หรือเรียกว่าสายเอสทีพี (STP: Shielded Twisted-Pair cable) สายบิดเกลียวแบบมีโลหะ ห่อหุ้มมีความเร็วในการส่งขอ้ มูลสูง มีช้นั โลหะที่ทาหนา้ ท่ี ป้องกนั สัญญาณรบกวนจากภายนอก จึงทาให้มีราคาแพงกว่าสาย UTP ส่ือกลางแบบไร้สาย สัญญาณทูธ (Bluetooth) การทางานของ Bluetooth จะใชส้ ัญญาณวทิ ยคุ วามถี่สูง 2.4 GHz. (ก๊ิก กะเฮิร์ซ) แต่จะ แยกย่อยออกไป ตามแต่ละประเทศ อย่างในแถบยุโรปและอเมริกา จะใช้ ช่วง 2.400 ถึง 2.4835 GHz. แบ่งออกเป็ น 79 ช่องสัญญาณ และจะใชช้ ่องสัญญาณที่แบ่ง น้ี เพื่อส่งขอ้ มูลสลบั ช่องไปมา 1,600 คร้ังต่อ 1 วินาที ส่วนท่ีญ่ีป่ ุนจะใชค้ วามถ่ี 2.402 ถึง 2.480 GHz. แบ่งออกเป็ น 23 ช่อง ระยะท าการของ Bluetooth จะอยู่ท่ี 5-10 เมตร โดย มีระบบป้องกนั โดยใช้ การป้อนรหัสก่อนการเช่ือมต่อ และ ป้องกันการดักสัญญาณระหว่าง ส่ือสาร โดยระบบจะสลบั ช่องสัญญาณไปมา จะมี ความสามารถในการเลือกเปลี่ยนความถี่ ที่ใชใ้ นการติดต่อเองอตั โนมตั ิ โดยท่ีไม่จ าเป็นตอ้ งเรียงตามหมายเลขช่อง ท าใหก้ ารดกั ฟัง หรือลกั ลอบขโมยขอ้ มูลท าไดย้ ากข้ึน โดยหลกั ของบลูทูธจะถูกออกแบบมาเพื่อใชก้ บั อุปกรณ์ท่ีมีขนาดเลก็ เนื่องจากใชก้ าร ขนส่งขอ้ มูลในจานวนที่ไม่มาก อยา่ งเช่น ไฟลภ์ าพ, เสียง, แอพพลิเคชน่ั ต่างๆ และสามารถเคล่ือนยา้ ยไดง้ ่าย ขอให้อยใู่ นระยะ ท่ีก าหนดไว้ เท่าน้ัน (ประมาณ 5-10 เมตร) นอกจากน้ียงั ใชพ้ ลงั งานต่า กินไฟน้อย และสามารถใชง้ าน ไดน้ าน โดยไม่ตอ้ ง นาไปชาร์จไฟบ่อย ๆ ดว้ ย ส่วนความสามารถการส่งถา่ ยขอ้ มูลของ Bluetooth จะอยทู่ ่ี 1 Mbps (1 เมกกะบิตต่อวินาที) และจะ ไม่มีปัญหาอะไรกบั ขนาดของ ไฟลท์ ่ีใชก้ นั บนโทรศพั ทม์ ือถือ หรือ การใชง้ านแบบทว่ั ไป ซ่ึงถือว่าเหลือเฟื อมาก แต่ถา้ เป็ น ขอ้ มูลที่มีขนาดใหญ่ ก็คงจะชา้ เกินไป และถา้ ถูกนาไปเปรียบกบั Wireless LAN (WLAN) แลว้ ความสามารถของ Bluetooth

ป่ิ นเกสร ทิพยวรรณ ออกแบบภายในปี 3 4631071141123 คงแตกต่างกนั ซ่ึงในส่วนของ WLAN กย็ งั มีระยะการรับ-ส่งท่ีไกลกวา่ แต่ขอไดเ้ ปรียบของ Bluetooth จะอยทู่ ่ีขนาดท่ีเลก็ กว่า การ ติดต้งั ทาไดง้ ่ายกว่า และท่ีสาคญั การใชพ้ ลงั งานก็น้อยกว่ามาก อยูท่ ี่ 0.1 วตั ต์ หากเทียบ กบั คล่ืนมือถือแลว้ ยงั ห่างกนั อยู่ หลายเท่า 5.จงอธิบายการหน้าท่ขี องอปุ กรณ์ทีใ่ ช้ในการส่งรับข้อมูลการสื่อสาร มาอย่างน้อย 3 ชนิด 1.โมเด็ม (MODEM) MODEM มาจากคาเต็มว่า Modulator – DEModulator ทาหน้าที่แปลงสัญญาณข้อมูลดิจิตอล ที่ได้รับจาก เครื่องส่งหรือคอมพิวเตอร์ เป็ นสัญญาณแบบอนาลอกก่อนทาการส่งไปยงั ปลายทางต่อไป โดยผ่านเครือข่าย โทรศพั ท์ และเม่ือส่งถึงปลายทางก็จะมีโมเด็มทาหน้าท่ีแปลงสัญญาณจากอนาลอกให้เป็ นดิจิตอล เพ่ือใชก้ บั คอมพิวเตอร์ปลายทาง 2.มลั ติเพลก็ ซเ์ ซอร์ (Multiplexer) วิธีการเช่ือมต่อการสื่อสารระหว่างผูร้ ับและผูส้ ่งปลายทางท่ีง่ายที่สุดคือ การเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุด (Point to Point) แต่ตอ้ งเสียค่าใชจ้ ่ายสูงและใชง้ านไม่เตม็ ท่ี จึงมีวิธีการเช่ือมต่อท่ียงุ่ ยากข้ึน คือการเช่ือมต่อแบบหลายจุด ซ่ึงใชส้ ายส่ือสารเพียงเสน้ 802.3 3.คอนเซนเตรเตอร์ (Concentrator) คอนเซนเตรเตอร์เป็นมลั ติเพลก็ ซเ์ ซอร์ท่ีมีประสิทธิภาพสูง สามารถเพม่ิ สายหรือช่องทางการส่งขอ้ มูลไดม้ ากข้ึน การส่งขอ้ มูลจะเป็นแบบอซิงโครนสั 4.คอนโทรลเลอร์(Controller) คอนโทรลเลอร์เป็ นมลั ติเพล็กซ์เซอร์ท่ีส่งขอ้ มูลแบบอซิงโครนสั ที่สามารถส่งขอ้ มูลดว้ ยความเร็วสูงไดด้ ี การ ทางานจะตอ้ งมีโปรโตคอลพิเศษสาหรับกาหนด วิธีการรับส่งขอ้ มูล มีบอร์ดวงจรไฟฟ้าและซอฟตแ์ วร์สาหรับ คอมพวิ เตอร์ 5.ฮบั (HUB) ฮบั เป็ นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทาหน้าที่เช่นเดียวกบั มลั ติเพล็กซ์เซอร์ ซ่ึงนิยมใช้กบั ระบบเครือข่ายทอ้ งถ่ิน (LAN) มีราคาต่า ติดต่อสื่อสารขอ้ มูลตามมาตรฐาน IEEE 802.3

ป่ิ นเกสร ทิพยวรรณ ออกแบบภายในปี 3 4631071141123 6.ฟรอนต์ – เอน็ โปรเซสเซอร์ FEP (Front-End Processor) FEP เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใชเ้ ช่ือมต่อระหวา่ งโฮสตค์ อมพิวเตอร์ หรือมินิคอมพิวเตอร์กบั อุปกรณ์เครือข่ายสาหรับ ส่ือสารขอ้ มูล เช่น โมเด็ม มลั ติเล็กซ์เซอร์ เป็ นตน้ FEP เป็ นอุปกรณ์ทีมีหน่วยความจา (RAM) และซอฟตแ์ วร์ สาหรับควบคุมการทางานเป็ นของตวั เองโดยมีหนา้ ที่หลกั คือ ทาหนา้ ท่ีแกไ้ ขข่าวสาร เก็บข่าวสาร เปล่ียนรหัส รวบรวมหรือกระจายอกั ขระ ควบคุมอตั ราความเร็วในการรับส่งขอ้ มูล จดั คิวเขา้ ออกของขอ้ มูล ตรวจสอบ ขอ้ ผดิ พลาดในการส่งขอ้ มูล 6. อิมูเลเตอร์ (Emulator) อิมูเลเตอร์เป็ นอุปกรณ์ที่ทาหน้าท่ีเปลี่ยนกลุ่มข่าวสารจาก โปรโตคอลแบบหน่ึงไปเป็ นกลุ่มข่าวสาร ซ่ึงใช้ โปรโตคอลอีกแบบหน่ึง แต่จะเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรือเป็นโปรแกรมซอฟตแ์ วร์กไ็ ด้ บางคร้ังอาจจะเป็นท้งั 2 อยา่ ง โดยทาใหค้ อมพิวเตอร์ท่ีต่อเขา้ มาน้นั ดูเหมือนเป็นเคร่ืองเทอร์มินลั หน่ึงเครื่อง โฮสตห์ รือมินิคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบนั นิยมนาเคร่ือง PC มาใชเ้ ป็นเทอร์มินลั ของเครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ท้งั น้ีเพราะประหยดั กวา่ และ เม่ือไรท่ีไม่ใชต้ ิดต่อกบั มินิ หรือเมนแฟรมกส็ ามารถใชเ้ ป็น PC ทว่ั ไปได้ 7.เกตเวย์ (Gateway) เกตเวยเ์ ป็ นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีมีหนา้ ที่หลกั คือ ทาให้เครื อข่ายคอมพิวเตอร์ 2 เครือข่ายหรือมากกวา่ ซ่ึงมี ลกั ษณะแตกต่างกนั สามารถสื่อสารกนั ไดเ้ สมือนกบั เป็นเครือข่ายเดียวกนั โดยทวั่ ไปแลว้ ระบบเครือข่ายแต่ละ เครือข่ายอาจจะแตกต่างกนั ในหลายกรณี เช่น ลกั ษณะการเช่ือมต่อ (Connectivity) ที่ไม่เหมือนกนั โปรโตคอลที่ ใชส้ าหรับรับส่งขอ้ มูลต่างกนั เป็นตน้ 8.บริดจ์ (Bridge) เป็นอุปกรณ์ IWU (Inter Working Unit) ท่ีใชส้ าหรับเชื่อมเครือข่ายทอ้ งถ่ิน (Local Area Network หรือ LAN) 2 เครือข่ายเขา้ ดว้ ยกนั ซ่ึงอาจจะใชโ้ ปรโตคอลที่เหมือนกนั หรือต่างกนั กไ็ ด้ 9.เราเตอร์ (Router) เป็นอุปกรณ์ที่ใชเ้ ชื่อมต่อเครือข่ายเขา้ ดว้ ยกนั ซ่ึงอาจจะเป็นเครือข่ายเดียวกนั หรือขา้ มเครือข่ายกนั โดยการเช่ือม กนั ระหวา่ งหลายเครือข่ายแบบน้ีเรียกวา่ เครือข่ายอินเตอร์เน็ต (Internet) โดยเครือข่ายแต่ละเครือข่ายจะเรียกวา่

ป่ิ นเกสร ทิพยวรรณ ออกแบบภายในปี 3 4631071141123 เครือข่ายย่อย (Subnetwork) ส่วนอุปกรณ์ท่ีใช้เช่ืออมต่อระหว่างเครือข่าย เรียกว่า IWU (Inter Working Unit) ไดแ้ ก่ เราเตอร์และบริดจ์ 10.รีพีตเตอร์ (Repeater) เป็ นอุปกรณ์ท่ีใชส้ าหรับส่งสัญญาณซ้า เพ่ือส่งสัญญาณต่อไปน้ีในระยะไกลป้องกนั การขาดหายของสัญญาณ ซ่ึงรูปแบบของเครือข่ายแต่ละแบบรวมท้งั สายสัญญาณท่ีใชเ้ ป็ นตวั กลางหรือสื่อกลาง แต่ละชนิดจะมีขอ้ จากดั ของระยะทางในการส่ง ดงั น้นั เม่ือตอ้ งการส่งสัญญาณใหไ้ กลกวา่ ปกติตอ้ งเชื่อมต่อกบั รีพีตเตอร์ดงั กล่าว เพ่ือทา ใหส้ ามารถส่งสญั ญาณ ไดไ้ กลยง่ิ ข้ึน