บท4 เทคโนโลยีบล็อกเชน

หน่วยที่ 4 เทคโนโลยบี ล็อคเชน

บทนำ แนวคิดเทคโนโลยัท่ใี ช้ในกำรทำธุรกรรมโดยไม่ต้องผ่ำนบุคคลท่ีสำม หรือท่ีเรียกว่ำ บลอ็ ค เชน (Block Chain) เป็นเทคโนลีท่ีจะส่งผลกระทบต่อกำรเปล่ียนแปลงกำรทำธุรกรรมต่ำง ๆ ในอนำคต และปัจจุบันได้ถูกนำมำใช้ในประเทศไทยแล้วแต่ยังไม่แพร่หลำยมำกนัก เน่ืองจำกเทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) ยังอยู่ในวงแคบเฉพำะผู้เช่ียวชำญด้ำนเทคโนโลยีหรือหน่วยงำนท่ีมีกลยุทธใ์ นกำรพัฒนำ ทำงด้ำนเทคโนโลยีเท่ำน้นั แต่จริงแล้ว เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) มีมำกกว่ำน้ัน หลำยองค์กรนำ เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) มำใช้ในระบบกำรทำงำนเพ่ือลดข้ันตอนกำรทำงำนและเพ่ิมประสิทธ ภำพในกำรทำงำน เช่น ธนำคำรกสกิ รไทย นำเทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) มำใช้ในกำรเช่ือมโยง เอกสำรหนงั สอื คำ้ ประกนั ของคู้ค่ำ ทำให้ลดเวลำข้นั ตอนในกำรจดั ทำเอกสำรจำก 24 ช่ัวโมง เหลือเพียง 30 นำที เป็นกำรประหยดั ค่ำใช้จ่ำยในกำรจดั กำรเอกสำรลง 2 เท่ำ และไม่จำเป็นต้องมคี นกลำงมำเก่ียวข้อง อีก ท้งั ไม่จำเพำะแค่ภำคธุรกิจกำรเงินและกำรธนำคำรเท่ำน้ันแต่ยังรวมถึงภำครัฐกไ็ ด้มีกำรต่ืนตัวและศึกษำ เก่ยี วกบั เทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) กนั อย่ำงแพร่หลำยเช่นกนั

ควำมหมำยของเทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) คือ ระบบกำรเกบ็ ข้อมูลสำธำรณะ ในรูปแบบรำยกำรเดินบัญชี (Ledger) โดย ระบบน้ีไม่จำเป็นต้องใช้ ตัวกลำงในกำรบริกำรจัดกำรข้อมูลเพรำะเป็นกำรเกบ็ ข้อมูลแบบกระจำยศูนย์ (Decentralise) ซ่ึงข้อมูลท้ังหมดจะถูกทำสำเนำและเกบ็ บนคอมพิวเตอร์ใน เครือข่ำยทุกเคร่ืองหรือท่ีเรียกว่ำ Node คำว่ำบลอ็ กเชนน้ันมำจำกกำรเรียกข้อมูลดิจิทัลว่ำ “บลอ็ ก” (Block) ซ่ึงในระบบน้ีจะถูกเกบ็ ในฐำนข้อมูลโดยยังคง ข้อมูลท่เี กบ็ ไว้เดมิ อยู่แล้ว เปรียบเสมือนกำรต่อห่วงโซ่เดมิ หรือ “เชน” (Chain) น่ันเอง ระบบกำรเกบ็ ข้อมูลบนเทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) น้ีสำมำรถเกบ็ ข้อมูลในรูปแบบรำยกำรเดิมบัญชีท่ปี ระกอบด้วยรำยละเอียดยืนยันกำรทำรำยกำร เช่น วันท่ี เวลำ จำนวนเงนิ ช่ือผู้รับเงิน หรือให้เงิน เป็นต้น ข้ันตอนแรกในกำรเกบ็ ข้อมูลบนเทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) ซ่ึงข้ันตอนแรกเกิดข้ึนเม่ือมี ผู้ใช้ย่นื ขอทำธุรกรรมหน่ึงผ่ำนเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) ข้อมูลกำรขอทำธุกรรมดังกล่ำวจะถูกส่งไปยังคอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองท่อี ยู่บนเครือข่ำย เพ่ือ ขออนุญำตกำรทำรำยกำร เม่ือกำรทำรำยกำรดังกล่ำวได้รับกำรอนุญำตจำกทุกคอมพิวเตอร์บนเครือข่ำยอย่ำงครบถ้วนแล้ว จะถูกเกบ็ เป็นข้ อมูลใหม่หรือท่ี เรียกว่ำ “บลอ็ ก” เข้ำใจประวัติรำยกำรเดินบัญชีเดมิ หรือ “เชน” ซ่ึงเม่อื บลอ็ กใหม่ได้ถูกเกบ็ ลงบนเชนแล้วจะไม่สำมำรถเปล่ียนแปลงหรือลบข้อมูล ดังกล่ำวได้ ซ่ึงเป็นท่มี ำท่ที ำให้ระบบบลอ็ กเชนถูกนำมำใช้อย่ำงแพร่หลำยในกำรแลกเปล่ียนสกุลเงินดจิ ิทลั อย่ำงโปร่งใสและปลอดภยั

ววิ ฒั นำกำรของเทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) เป็นเทคโนโลยีท่จี ะมำเปล่ียนวิธกี ำรทำธุรกรรมทุกชนิด และเป็นแพลตฟอร์มใน กำรทำธรุ กรรมแบบเพียทูเพีย (P2P) ท่มี ีกำรบนั ทกึ ข้อมูลรำยกำรธรุ กรรมท้งั หมดแบบกระจำยศูนย์ ซ่ึงมกี ำรพัฒนำและสำมำรถแบ่ง ออกเป็น 3 ช่วงใหญ่ ๆ ดังนน้ี 1.Block Chain 1.0 เป็นยุคแรกสำหรับเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) ซ่ึงยุคน้เี ป็นเร่ืองเก่ยี วกบั “เงินตรำ”โดย จะเป็นกำรนำระบบส่อื กลำงในกำรแลกเปล่ียนรูปแบบดิจทิ ลั มำใช้ในโปรแกรมต่ำง ๆ 2.Block Chain 2.0 เป็นยุคท่เี รียกว่ำ “สญั ญำต่ำง ๆ” เทคโนโลยบี ลอ็ กเชนในยุคน้ีถูกนำไปใช้ในระบบทม่ี คี วำม ซับซ้อนมำกข้นึ และมำกกว่ำระบบกำรโอนเงินท่เี คยมีมำ 3.Block Chain 3.0 เป็นยุคท่เี รียกว่ำ “โปรแกรมบลอ็ กเชน” (Block Chain Applications) เน่อื งจำกเคโนโลยบี ลอ็ ก เชนไม่ได้ถูกจำกดั อยู่ในวงกำรเงินเทำ่ น้ันแต่ยงั ถูกนำไปประยุกตใ์ ช้กบั ธุรกจิ หรือหน่วยงำนรัฐอ่นื ๆ

หลักกำรทำงำนของเทคโนโลยี (Block Chain) 01 หลักกำรทำงำนพ้ืนฐำนท่ีสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชน (Block Chain) เม่ือเกดิ กำรทำธุรกรรมต่ำง ๆ ข้นึ ในระบบข้อมูลจะถูกบันทกึ แบบเข้ำรหัสไว้ เป็นกล่องเกบ็ ข้อมูล (Block) และจะถูกเช่ือมโยงต่อ ๆ กนั โดยท่จี ะไม่มีใครคนใด คนหน่งึ สำมำรถเข้ำไปแก้ไขเปล่ียนแปลงข้อมูลในบลอ็ กใด ๆ ได้เลย สำเหตุกเ็ พรำะ ทุกคนต่ำงกม็ ีสำเนำหรือประวัติกำรทำธุรกรรมท้งั หมดอยู่กับตัว จึงเป็นเร่ืองท่ยี ำก หรือเป้ นไปไม่ได้หำกจะมใี ครซักคนเข้ำมำแก้ไขหรือปลอมแปลงข้อมูลโดยปรำศจำก กำรรับรู้จำกคนส่วนใฟญ่ในระบบท่สี ำมำรถตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับได้ท้งั หมดน้ี ถือเป็นเคร่ืองมือสำคัญท่สี ร้ำงควำมน่ำเช่ือถือให้กับเทคโนโลยีบลลอ็ กเชน (Block Chain)

ข้นั ตอนการทางานเทคโนโลยีบล็อก เชน (Block Chain) ของเกษตร 4.0 ข้นั ตอนการทางานเทคโนโลยบี ล็อกเชน (Block Chain)

องคป์ ระกอบของเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) การทางานของเทคโนโลยบี ลฮ็ กเชน (Block Chain) มีองคป์ ระกอบสาคญั อยู่ 4 องคป์ ระกอบ สาคญั คือ 1. กล่องเก็บขอ้ มูล (Block) ทาหน้าที่กระจายไปให้ทุกคนมที่เกี่ยวขอ้ งเก็บเอาไวโ้ ดยขอ้ มูล เหล่าน้นั ไม่สามารถแกไ้ ขหรือเปล่ียนแปลงได้ 2. ระบบการผูก (Chain) เป็นการนากล่องมาผูกเขา้ ดว้ ยกนั โดยการผูกดว้ ยวิธี Hash Function ซ่ึงเปรียบเสมือนลายนิ้วมือของไฟล์ที่ใชใ้ นการยืนยนั ความถูกตอ้ งจากขอ้ มูลท่ีแต่ละคนถือเอาไวถ้ ือเป็ น ตวั แทนของขอ้ มูลตน้ ฉบบั 3. การตกลงร่วมกนั (Consensus) เป็นการกาหนดขอ้ ตกลงท่ีตอ้ งเห็นพอ้ งร่วมกนั ดว้ ยอบั กอริ ทึมต่าง ๆ แลว้ แต่การตกลง 4.การตรวจสอบ (Validation) เป็ นการยืนยนั ความถูกตอ้ งเพ่ือใหเ้ กิดความเชื่อมนั่ ร่วมกนั ซ่ึง กระบวนการตรวจสอบตอ้ งเกิดข้ึนอยา่ งรวดเร็ว เม่ือมีการทาธุรกรรมเกิดข้ึนจะสร้างกล่องใหม่ข้ึนมา

ประเภทของเทคโนโลยีบล็อกเชน เทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) สามารถนามาใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งมากมายมหาศาลกบั องคก์ รไม่วา่ (Block Chain) จะเป็นองคก์ รขนาดเลก็ ขนาดกลางหรือแมแ้ ต่องคก์ รขนาดใหญ่ลว้ นแลว้ แต่สามารถนาเอาเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) มาประยกุ ตใ์ ชง้ านกบั องคก์ รไดท้ ้งั สิ้น สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 3 ประเภท ดงั น้ี 01 แบบเปิ ดสาธารณะ (Public Block Chain) คือ เทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) วงเปิ ดที่อนุญาตใหท้ ุกคนสามารถเขา้ ใชง้ านไม่วา่ จะเป็นการอ่านหรือการ ทาธุรกรรมต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งอิสระโดยไม่จาเป็นตอ้ งขออนุญาต แบบปิ ด (Private Block Chain) คือ เทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) วงปิ ดที่เขา้ ใชง้ านไดเ้ ฉพาะผทู้ ่ีไดร้ ับอนุญาตเท่าน้นั ซ่ึงส่วนใหญ่ถูกสร้างข้ึนเพอื่ ใชง้ านภายใน องคก์ รดงั น้นั ขอ้ มูลการทุรกรรมต่าง ๆ จะถูกจากดั อยเู่ ฉพาะภายในเครือข่าย แบบเฉพาะกลุ่ม (Consortium Block Chain) คือ เทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) ที่ เปิ ดใหใ้ ชง้ านไดเ้ ฉพาะกลุ่มเท่าน้นั โดยเป็นการผมผสานแนวคิดระหวา่ ง Public Block Chain และ Private Block Chain

คุณสมบตั ิของเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) กำรจัดเกบ็ ข้อมูลในรูปแบบของกล่องเกบ็ ข้อมูล (Block) โดยเช่ือมต่อแต่ละกล่องด้วย HashFunction (กำร นำเอำข้อมูลต้นฉบับ มำทำกำรเข้ำรหัสผ่ำนกระบวนกำรทำงด้ำนคณติ ศำสตร์) และกระจำยให้ทุก ๆ อุปกรณ์ในเครือข่ำยบลอ็ ก เชน (Node) เกบ็ ทำให้เกดิ คุณสมบัติท่สี ำคัญของเทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) 3 ประกำรคอื (Serrano , 2017) 1.ควำมถูกต้องเท่ยี งตรงของข้อมูล (DataIntegrity) เน่อื งจำกกำรเช่ือมโยง Block ปัจจุบันและกล่องเกบ็ ข้อมูล (Block) ก่อนหน้ำด้วย HashFunction และทำกำรกระจำยให้ทุกอุปกรณ์ในเครือข่ำยบลอ็ กเชน (Node) เกบ็ ทำให้ข้อมูลท่ถี ูกบันทกึ ในเทคโนโลยี บลอ็ กเชน (Block Chain) แล้วไม่สำมำรถแก้ไขหรือเปล่ียนแปลงข้อมูลได้ 2. ควำมโปร่งใสในกำรเข้ำถึงข้อมูล (Data Transparency) เน่ืองจำกทุกอุปกรณ์ในเครือขำยบลอ็ กเชน (Node) ใน เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chan) จะเกบ็ ข้อมูลเดียวกนั ท้งั หมดโดยไม่มอี ุปกรณใ์ นเครือบลอ็ กเชน (Node) ใดเป็นตัวกลำงท่มี ีอำนำก แต่เพียงผู้เดยี วในกำรเกบ็ ข้อมูล 3. ควำนสำมำรถในกำรทำงำนได้อย่ำงต่อน่ืองของระบบ (Availability) เน่ืองจำกทุกอุปกรณ์ในเครือข่ำยบลอ็ กเชน (Node) ในเทคโนโลยบี ลอ็ คเชน (Block Chain) จะเกบ็ ข้อมูลเดยี วกนั ท้งั หมดจงึ สำมำรถทำงำนทดแทนกันได้เม่ือมีอุปกรณ์ในเครือข่ำย บลอ็ กเชน (Node)ท่ไี ม่สำมำรถให้บริกำรได้ในขณะน้ัน

ประโยชน์และข้อจำกดั เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) ประโยชนข์ องเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) จำกลักษณะกำรทำงำน และคุณสมบตั ิของบลอ็ กชนท่กี ล่วมำแล้วข้ำงต้น เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chan) มีประโยชน์ดังต่อไปน้ี 1.ไม่ต้องมีคนกลำงในกำรทำธุรกรรม เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) เป็น ระบบ ท่ผี ู้ใช้งำนสำมำรถแลกเปล่ียนข้อมูลกนั ได้โดยท่ไี ม่จำเป็นต้องผ่ำน ตวั กลำง 2. ผู้ใช้งำนสำมำรถควบคุมดูแลข้อมูลของตนเองได้ผู้ใช้งำนในเทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) สำมำรถส่งข้อมูลหำกนั เองได้และยงั มขี ้อมูลกำรทำงำนของตนเองเกบ็ ไว้ท่ตี นเองด้วย 3. ขัอมูลในระบบมีคุณภำพสูง ข้อมูลจะถูกเกบ็ อยู่ในบลอ็ กและเรียงต่อกนั เป็นบลอ็ ก เชนอีกท้งั ยังมีกำรอ้ำงอิงลักษณะของข้อมูลในกล่องเกบ็ ข้อมูล (Block) ก่อนหน้ำ สำมำรถเรียกดูข้ อมูลได้ จำกท้ังตนเองและผู้ใช้ งำนอ่ืนในระบบและข้ อมู ลทุกชุดใน ระบบจะต้องเป็นข้อมูลเดยี วกนั

4. ควำมแข็งแรงและเช่ือถือได้ ของระบบบล็อก 7.มีความเรียบง่าย เน่ืองจากทุกรายการข้อมูล เน่อื งจำกเทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) เป็นกำร เก็บข้อมูลแบบกระจำยและไม่มีกำรเก็บข้อมูลเป็ น เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) ศนู ย์กลำงแบบระบบอ่นื ๆ นนั้ จะถูกบนั ทึกเก็บไวก้ ับผใู้ ชง้ านทุกคนในระบบเรียง 5.มีข้ันตอนท่ถี ูกต้อง ผู้ใช้งำนสำมำรถเช่ือถือในรำยกำร ต่อกนั ไปรอ่ื ยๆ ต่ำง ๆ ท่เี กดิ ข้ึนในเทคโนโลยี 8. มีการส่ือสารข้อมูลกันไดไ้ ว ทุกวันนีธ้ ุรกรรมทาง บลอ็ กเชน (Block Chain) ได้เพรำะเป็นคำส่ังท่เี กดิ มำ การเงนิ ระหว่างธนาคาร เชน่ จำกตัวผู้ใช้งำนเองท้งั หมดไม่เหมอื นกบั ระบบเชค็ เคลียรร์ ่งิ ระบบการชาระเงินระหว่างประเทศ ระบบศูนย์กลำงท่ีจะมีคำส่ังบำงประเภทมำจำกระบบ ยงั ใชเ้ วลาในการทาการอย่ไู ม่สามารถส่ง กลำงด้วย ขอ้ มูลหากันไดใ้ นทันทีแต่ระบบบล็อกเชนสามารถส่ง 6.มคี วำมโปร่งใสและไม่สำมำรถเปล่ียนแปลงได้ ข้อมูล ขอ้ มลู หากนั ไดท้ นั ทีระหวา่ งผใู้ ชง้ านจาก ในเทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) น้ันไม่สำมำรถ ลกั ษณะการทางานของระบบ เปล่ียนแปลงหรือลบท้ ิงได้ อีกท้ังยังสำมำรถมองเห็น 9. ลดตน้ ทนุ ในการส่ือสารหรอื ส่งผ่านขอ้ มลู ไดเ้ ม่ือไม่มี ข้อมูลได้จำก คนกลางในการดแู ลรกั ษา ทุกคนในเทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Block Chain) ขอ้ มลู แล้ ดงั นั้นระบบบล็อกเชนจะสามารถลดต้นทุน ในเร่อื งอตั ราแลกเปล่ียน ค่าบารุงรกั ษา ระบบลงไปได้

ข้อจำกดั ของเทคโนโลยีบลอ็ กเชน 1. ควำมเรว็ ในกำรประมวลผลของบลอ็ กเชน ลักษณะกำรทำงำนของเท คนโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) น้ันต้องมีกำรโอนข้อมูลให้ผู้ใช้งำน ในระบบทุกคนให้ทรำบท่วั กนั อยู่ตลอดเวลำ 2. สิทธใิ นกำรใช้ข้อมูล เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) น้ันเป็น ระบบท่ีเหมำะสำหรั บให้ คนจำนวนมำกเข้ ำมำใช้ ข้ อมูลเดียวกันและ ต้องกำรคนท่เี ข้ำมำตรวจสอบควำมถูกต้อง 3. สทิ ธิในกำรแก้ไขข้อมูล เทคโนโลยีบลอ็ กเชน (Block Chain) เป็น ระบบท่ีนำเทคโนโลยีบลอ็ กเชนไปใช้จะต้องไม่มีกำรแก้ไขข้อมูลเก่ำท่ี เคยทำไปแล้ว เพรำะข้อมูลแต่ละชุดจะถูกบรรจุลงกล่องเกบ็ ข้อมูล 4. ข้อมูลท่มี ีลักษณะเป็นรำยกำรเดินบัญชี (Ledger) กำรตรวจสอบค่ำ ของข้อมูลปัจจุบันน้ันจะต้องอำศัยข้อมูลย้อนหลังมำประกอบ 5. กำรเปิ ดเผยข้อมูลและกำรปรับตวั ของคนในองคก์ ร

THANK YOU THANK YOU THANK YOU THANK YOU