รายงานผลการดำเนินงาน ไตรมาส3-4 ตำบลน้ำอ้อม

ภารกจิ ท่ีได้รบั มอบหมาย ภาพการจดั กจิ กรรม เข้ำรว่ มโครงกำรอบรมเพิ่มพนู ควำมรู้กำรพฒั นำระบบ ฐำนขอ้ มูล กศน.ตำบล และปฏบิ ตั ิกำรทำจดหมำยข่ำว ในวนั ที่ ๑๐-๑๑ มถิ ุนำยน ๒๕๖๔ ณ หอ้ งประชมุ กศน.อำเภอเกษตรวิสัย ตำบลน้ำออ้ ม อำเภอเกษตรวสิ ัย จงั หวัดรอ้ ยเอด็ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล น้า อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๕๑

ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๕๒

ภาพการจดั กิจกรรม โครงการเสรมิ สรา้ งภมู คิ ุ้มกันปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา่ ๒๐๑๙ ((โควดิ -๑๙) วัสดุอุปกรณ์ในการทำเจลแอลกอฮอล์ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๕๓

ไดร้ ับการนเิ ทศจากนางสาวอาภาภรณ์ มะลซิ ้อน ตำแหน่งครูผู้ชว่ ย และนางพร มะเสนะ ตำแหนง่ ครอู าสาสมคั รฯ ฝกึ ปฏิบตั กิ ารทำเจลแอลกอฮอล์ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๕๔

ฝกึ ปฏบิ ัติการทำเจลแอลกอฮอล์ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๕๕

ฝกึ ปฏบิ ตั ิการทำเจลแอลกอฮอล์ บรรจุในขวดที่เตรยี มและรว่ มถา่ ยภาพ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๕๖

ตวั ช้ีวัดที่ ๙ : ระดับความสำเร็จในการจดั ทำผลการปฏิบตั งิ านที่ (Best Practice) หน่วยวดั : ระดับความสาเรจ็ นำ้ หนกั : ๕ คำอธิบำย : ระดบั ความสาเรจ็ ของการดาเนนิ งานด้านใดดา้ นหน่งึ ทีม่ ผี ลการปฏิบัติงานที่ดสี ูงกวา่ เกณฑ์ มาตรฐาน สามารถเป็นแบบอยา่ ง ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๕๗

แผนการสอนหอ้ งเรยี นออนไลน์ แผนการจดั การเรยี นรู้ แบบออนไลน์ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ตำบลน้ำอ้อม กศน.อำเภอเกษตรวิสัยจงั หวดั รอ้ ยเอ็ด 1. สปั ดาหท์ ่.ี ............ วันท่ี………. เดือน ……………….. พ.ศ.......……….. เวลา.................................. กลมุ่ สาระ ทักษะการดำเนนิ ชวี ติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2. วชิ า สุขศกึ ษา พลศึกษา รหัสวชิ า ทช 31002 3. แผนการเรียนร้ทู ี่ 1 ปญั หาเพศศกึ ษา . เวลา 1 ชั่วโมง 4. มาตรฐานท่ี 4.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เจตคติทดี่ แี ละทักษะเก่ียวกับการดูแล ส่งเสริมสุขภาพ พลานามัยและความปลอดภยั ในการดำเนินชีวติ . 5. หน่วยการเรียนรู้/เรื่อง ปัญหาเพศศกึ ษา . . 6. สาระสำคญั ศึกษา ฝึกปฏิบัติ และประยุกต์ใช้เก่ียวกับสุขศึกษา พลศึกษา เร่ืองเกี่ยวกับระบบต่างๆ ของร่างกาย เป้าหมายชีวิต ปญั หาเกี่ยวกับเพศศึกษา อาหารและโภชนาการ เสรมิ สร้างสุขภาพ โรคท่ีถ่ายทอดทางพันธุกรรม ปลอดภัยจากการใช้ยา ผลกระทบจากสารเสพติด อันตรายรอบตัว และทักษะชีวิตเพ่ือสุขภาพจิต เพื่อใช้ ประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาสุขภาพของตนเองและครอบครัว นำไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวันในการดำเนิน ชวี ิตของตนเอง และครอบครวั ไดอ้ ย่างเหมาะสม ปลอดภยั 7. เนื้อหา 1. ทักษะการจดั การปญั หาทางเพศ 2. ปญั หาทางเพศในเด็กและวยั รนุ่ 3. การจัดการกับอารมณ์ และความต้องการทางเพศ 4. ความเชื่อทผี่ ิดๆ ทางเพศ 5.กฎหมายทเ่ี กีย่ วข้องกับการละเมดิ ทางเพศ 8. จุดประสงคก์ ารเรียนรู/้ ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั วางแผนเป้าหมายชวี ิต ตลอดจนเร่อื งปัญหาเก่ียวกับเพศศึกษาได้ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๕๘

กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขั้นที่ 1 เตรียมความพรอ้ ม 1. ครูจดั เตรียมวสั ดุอุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน คอมพิวเตอร์ โปรเจคเตอร์ ลำโพง และตรวจสอบระบบอินเตอรเ์ น็ต 2. ให้นักศึกษาศึกษาวธิ ีการเขา้ ใช้งาน Google Classroom 3. ครทู ักทายนักศึกษา ผา่ น Google Meeting 4. ใหน้ ักศึกษาลงชอื่ เข้าใช้งานและลงชอ่ื เข้าชน้ั เรยี น Google Classroom ขั้นท่ี 2 อนุ่ เคร่อื ง ผา่ น Application Google Meeting 1. ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรใู้ หน้ กั ศกึ ษาทราบ 2. ครูชี้แจงปัญหาตา่ ง ๆ ท่ีมใี นบทเรียนใหน้ ักศกึ ษาเขา้ ใจก่อนเรียน รวมทัง้ แนะนำวธิ ีแกป้ ญั หา ตา่ ง ๆ ทม่ี ีในบทเรยี นอย่างเป็นระบบและให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเหน็ ในเนอ้ื หาบทเรียนอยา่ งท่วั ถงึ 3. นักศึกษาทำแบบฝึกหดั ก่อนเรยี น ผา่ น Google Classroom ขนั้ ที่ 3 เรือ่ งรายบุคคล นกั ศึกษาวเิ คราะหเ์ น้อื หาบทเรียนตามความเขา้ ใจมาล่วงหน้าตามทค่ี รูมอบหมาย ขน้ั ที่ 4 รวมพลสรา้ งสรรค์ผลงาน ให้นักศึกษาทำใบงานและส่งงาน ผ่าน Google Classroom ขน้ั ท่ี 5 สื่อสารวธิ ี ครูตรวจการส่งงานของนกั ศึกษา ผ่าน Google Classroom พรอ้ มตรวจให้คะแนน แจ้งผล คะแนนกลบั ไปใหน้ ักศึกษา ขั้นท่ี 6 มากมีวชิ าการ ผ่าน Application Google Meeting ครูสรุปเนื้อหา เรอื่ ง ปญั หาเพศศึกษา ตามรายวิชา สุขศึกษา พลศกึ ษา รวมท้งั สอบถาม นักศกึ ษา และมอบหมายใหน้ ักศึกษาศึกษาค้นควา้ ในเร่ืองต่อไป ขั้นที่ 7 สืบสานรายคน นักศึกษาไปเรียนรูเ้ พิ่มเติมจากแหล่งการเรียนร้ตู ่าง ๆ เพิม่ เติม รวมทัง้ ให้นกั ศึกษา นำความรูท้ ไี่ ดร้ บั ไปเผยแพร่ในชุมชน ขนั้ ที่ 8 สรุปผล กศน. นกั ศกึ ษาทำแบบทดสอบหลงั เรียน และครูเกบ็ หลักฐานผลการประเมินของนักศกึ ษาทุกครัง้ เพอ่ื ศกึ ษาความก้าวหนา้ ของการเรียน ขั้นที่ 9 วจิ ัยย่อชัน้ เรียน. บนั ทกึ ผลการจดั กจิ กรรมในช้นั เรียน และนำผลการประเมนิ ผเู้ รียนก่อนและหลงั เรียน และ ปัญหาทีพ่ บจากการทำกจิ กรรม มาวเิ คราะหเ์ พอ่ื ทำวจิ ยั ในการพัฒนาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของผเู้ รียน ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล น้า อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๕๙

สื่อ / แหลง่ เรียนรู้ 1. Application Google Classroom 2. ผ่าน Application Google Meeting 3. แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ INTERNET การวัดและประเมินผล วิธีการวัดและประเมินผล 1. การทำแบบฝึกหัดก่อนเรียน – หลังเรียน 2. สง่ งานตามท่ีมอบหมาบ เครอื่ งมือวดั และประเมินผล แบบฝกึ หัดก่อนเรียน – หลังเรียน เกณฑ์การวัดและประเมินผล คะแนนท่ีไดจ้ ากการทำแบบฝึกหัดก่อนเรยี น - หลังเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๖๐

บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ กศน.ตำบลนำ้ อ้อม อำเภอเกษตรวิสยั จงั หวัดร้อยเอด็ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย สปั ดาหท์ ่ี วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. ครผู ้สู อน นางมนวสิ า ชัยปทุม สาระ ทกั ษะการดำเนนิ ชีวิต รายวชิ า สุขศึกษา พลศกึ ษา รหัสวิชา ทช 31002 . ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ จำนวนนักศกึ ษาที่เข้าเรยี น คน 1.1 การประเมนิ โดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรียน พบว่า คะแนนการทดสอบหลังเรียนมากกว่าก่อนเรยี น จำนวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ . คะแนนการทดสอบหลังเรยี นนอ้ ยกว่าก่อนเรียน จำนวน คน คดิ เป็นร้อยละ . 1.2 การประเมนิ จากการทำใบงาน พบวา่ คะแนนทีไ่ ดผ้ ่านเกณฑ์จำนวน คน คิดเป็นรอ้ ยละ . คะแนนทีไ่ ด้น้อยกวา่ เกณฑ์ จำนวน คน คดิ เป็นร้อยละ . 2. เน้อื หา/สาระที่สอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… 3. กจิ กรรมการเรยี นการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… 4. ปัญหา/อปุ สรรค การเรียนการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… 5. แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… ลงช่อื . (นางมนวสิ า ชยั ปทมุ ) ครู กศน.ตำบล ……………../ / . ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… ลงช่ือ ............................................. ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล น้า อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๖๑

การสรา้ งหอ้ งเรยี นออนไลน์ เข้าขั้นเรียน Google Classroom งานของชน้ั เรยี น Google Classroom ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๖๒

งานของชน้ั เรยี น Google Classroom ลงชอื่ เขา้ ชนั้ เรียน Google Classroom ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๖๓

ภาพกิจกรรม ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล น้า อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๖๔

๑. ชอื่ ผลงำน การจดั ทาสอ่ื การเรยี นการสอนออนไลน์และการใชแ้ พลตฟอรม์ การเรยี นรดู้ จิ ิทัล (Digital Learning Platform) ๒. ชอ่ื เจำ้ ของผลงำน นางมนวสิ า ชยั ปทุม ครู กศน.ตาบล กศน.ตาบลนา้ อ้อม ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเกษตรวสิ ยั สงั กดั สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั ร้อยเอ็ด สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ๓. ควำมเป็นมำ เนือ่ งจากสภาพแวดลอ้ มในการจัดการเรียนรใู้ นหอ้ งเรยี นกับการเรียนผา่ นเครือขา่ ยมีความ ทา้ ทายท่ีแตกตา่ งกันอย่างมาก การนาเอาเทคโนโลยเี ขา้ มาเปน็ ส่อื หรือเปน็ ช่องทางหลักในการถา่ ยทอดความรู้ และกระบวนการคิด แทนทกี่ ารถ่ายทอด และรับรู้รับฟังขอ้ มูลแบบต่อหนา้ น้นั จึงควรจดั เตรยี มความพร้อม และ ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี และโปรแกรมแอพพลเิ คชนั ตา่ งๆ เปน็ อยา่ งดี สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกบั กระบวนการจดั การสอน เพ่ือความสะดวก และราบร่นื ในการถา่ ยทอดองค์ความรู้ หากครูมีทักษะการใช้ และ ความเข้าใจเกยี่ วกับเทคโนโลยีดังกล่าวในเบ้อื งตน้ ได้แก่ วธิ กี ารการใชง้ าน ข้อดหี รอื จุดเด่น ข้อเสียหรือจดุ ด้อย ของแตล่ ะ โปรแกรมหรือแอพพลิเคชันออนไลน์ในการจดั การเรยี นการสอน ความรู้เรื่องการเขา้ ใช้ และเทคนิค การแก้ไขปญั หาระบบอินเทอร์เน็ตในเบอื้ งต้น ความเข้าใจในเรอ่ื งลิขสิทธ์ิ และทรัพย์สินทางปัญญาในการคดั ลอก นาขอ้ มูลของผู้อืน่ มาใช้ การออกแบบเนื้อหาการเรยี น และชอ่ งทางการสื่อสารทส่ี อดคล้องกบั ความสามารถของ แอพพลิเคชนั หรือโปรแกรมออนไลนเ์ ปน็ อยา่ งดี รวมทัง้ ถ่ายทอดทกั ษะการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านน้ั ใหแ้ ก่ นกั เรียนไดม้ ีความสามารถในการแก้ไขปัญหาขัดขอ้ งทอ่ี าจเกิดขนึ้ ระหว่างการจดั การสอน จะทาให้การเรยี นการ สอนดาเนินการได้อย่างราบรื่นมากย่ิงขึน้ ซงึ่ จะต้องประกอบกบั ทกั ษะอ่นื ๆ ควบค่กู นั อกี ด้วย ๔. วตั ถุประสงค์ ๑) เพือ่ สร้างโอกาสให้ผู้สอนและผเู้ รียนไดเ้ ข้าถึงส่ือเทคโนโลยกี ารจดั การเรยี นรทู้ ท่ี นั สมัย ๒) เพื่อให้ผ้สู อนสามารถพฒั นาทกั ษะการจัดการเรียนร้สู ่งผลตอ่ คณุ ภาพการจดั การเรยี น การสอนให้สูงข้ึน ๓) เพอ่ื สร้างเครือข่ายการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ในการจัดการเรียนการสอนของครไู ด้อยา่ ง กวา้ งขวางและท่ัวถึง ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล น้า อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๖๕

๕. ขนั้ ตอนในกำรดำเนินงำน ๑. การออกแบบจัดทาบทเรียนออนไลน์และการใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล (Digital Learning Platform) ถือเป็นขั้นตอนท่ีสาคัญที่สุด เรียกได้ว่าเป็น \"หัวใจ\" ของการเรียนการสอนเลยทีเดียว เพราะบทเรียน ทีม่ ีคณุ ภาพสูงจะสามารถพัฒนาผู้เรียนให้เกดิ การเรยี นรู้ได้ดีเท่า ๆ กบั หรอื มากกวา่ การเรียนการสอนในช้ันเรยี น ข้นั ตอนนีม้ ีวธิ ีการดาเนินการดังนี้ ๑.๑ การออกแบบบทเรียน (Courseware) ออนไลน์และการใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล (Digital Learning Platform) เริ่มจากการศึกษา วิเคราะห์หลักสูตรท่ีใช้อยู่ในปัจจุบัน ศึกษาสภาพความพร้อม ของผู้เรียน เวลาท่ีใช้ในการเรียน โอกาสในการเรียนของผู้เรียน จากน้ันวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง คัดเลือกเน้ือหา กาหนดเน้ือหาออกเป็นหน่วยการเรียน กาหนด จุดประสงค์การเรียนรู้แต่ละหน่วย ออกแบบ กจิ กรรมการเรียนรู้แต่ละหนว่ ย ส่ือการเรยี นรู้ และแหล่งเรยี นรทู้ ี่สาคญั และจาเป็น กาหนดวธิ ีการวดั และประเมิน กจิ กรรมของแต่ละหนว่ ยการเรยี น ๑.๒ การจัดทาบทเรียนออนไลน์และการใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล (Digital Learning Platform) โดยการกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละหน่วยให้สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ และเนื้อหา ทกี่ าหนดไว้ จัดทาส่อื การสอนในรปู แบบต่างๆ ทีเ่ หมาะสมตอ่ การเรียนรู้และนา่ สนใจ จดั สร้างเครอื่ งมอื ในการวัด และประเมินผลกิจกรรมหรือผลงานที่กาหนดในบทเรียน กาหนดเกณฑ์การวัดและประเมินผลให้ชัดเจน เหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อหาและกิจกรรม การใช้ข้อความ รูปภาพ หรือสัญลักษณ์ใด ๆ ในบทเรียน ต้อง คานึงถึงความถูกต้อง สมบรู ณ์ ละเอียดชัดเจนในตัวเอง เนื่องจาก บทเรียนออนไลน์ ถือเป็นการจัดการเรียนการ สอนทางไกลที่ผู้เรียนและผู้สอนอาจไม่มีโอกาสพบปะกัน ดังนั้น การจัดทาบทเรียนจึงต้องคานึงถึงคุณภาพให้ มาก ๑.๓ การบรรจุบทเรียนลงในระบบออนไลน์และการใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล (Digital Learning Platform) หลังจากท่ีจัดทาบทเรียนเสร็จเรียบร้อยครบถ้วนแล้ว ก็บรรจุบทเรียนลงในระบบ หรือ ครูผู้สอนอาจจัดทาบทเรียนลงในตัวระบบเลยก็ได้ ซ่ึงทางระบบส่งเสริมการเรียนรู้ได้จัดเตรียมไว้ให้พร้อมแล้ว หากมีรูปแบบข้อมูลทางอิเลคทรอนิกส์แบบอื่นประกอบในบทเรยี นด้วย จะต้องมีการ Upload file ดังกล่าวเข้า ไปด้วย ซึ่งจะทาให้ตัวบทเรียนมีความน่าสนใจมากขึ้น หลังจากท่ีได้บรรจุบทเรียนเข้าในระบบแล้วควรมีการ ทดสอบการใช้งานของบทเรียน โดยการทดลองเขา้ ดูเน้อื หาหลายๆ คร้งั เพื่อให้เกิดความม่ันใจมากข้นึ ว่าบทเรียน มคี วามสมบูรณพ์ ร้อมแล้ว ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล น้า อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๖๖

๒. การจดั การเรยี นรู้ เป็นขัน้ ตอนของการนาบทเรียนไปใชใ้ นการจัดการเรียนการสอน ดงั น้ี ๒.๑ การนาเสนอบทเรยี นออนไลน์และการใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดจิ ิทัล (Digital Learning Platform) เป็นการนาเสนอข้อมูลเบ้ืองต้นเก่ียวกับบทเรียน หรือเรียกว่าเป็นส่วนแนะนาบทเรียน โดยนาเสนอ ข้อมูลเกย่ี วกบั คาอธบิ ายรายวิชา ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวังรายวิชา จดุ ประสงค์ของแต่ละหน่วยการเรยี นรู้ วธิ ีการเรียน เง่ือนไขการเรียน การนัดหมาย การส่งงาน ช่วงเวลาที่มีการ ทดสอบ ฯลฯ เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นไดร้ จู้ ักและเข้าใจถึงวิธีการใช้บทเรียน ทาให้การเขา้ ใช้บทเรยี นมปี ระสิทธิ-ภาพในการ พฒั นาการเรยี นรู้ของผู้เรยี นมากขน้ึ จากน้ันให้ผู้เรียนสมัครเข้าเรยี น ๒.๒ การรับสมัครและอนุมัติสิทธิ์ผู้เรียน หลังจากที่ผู้เรียนสมัครเข้าเรียน และเลือกรายวิชาที่ ตอ้ งการเรยี นแล้ว ครูผู้สอนจะทาการอนมุ ัติสทิ ธ์ิในการเรยี นของผู้เรยี นที่อยูใ่ นเง่ือนไขที่ครูผูส้ อนกาหนด ๒.๓ การติดต่อสื่อสาร ติดตามการเรียน ในระหว่างเรียนครูผู้สอนอาจนัดหมายเวลาพบปะ เพ่ือให้ผู้เรียนได้ปรึกษาปัญหา พบปะ พูดคุย แสดงความคิดเห็นต่อการเรียน หรือครูผู้สอนอาจใช้โอกาสน้ีช้ีแจง บทเรยี น แนะนา ตดิ ตาม ทาการสอน พจิ ารณางาน แก้ไขงาน รวมถงึ ตรวจผลงานของผ้เู รียนได้ ๓. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นส่วนสาคัญอีกส่วนหน่ึงของกระบวนการจัดการเรียนรู้ ซึ่ง หลงั จากทผ่ี ู้เรยี นเรียนร้แู ล้วตอ้ งมีการประเมินการเรยี นรู้ของผเู้ รยี นเพื่อนาผลมาพิจารณาว่าผเู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ หรือไม่ มากนอ้ ยอยา่ งไร การวดั ผลการเรียนรสู้ ามารถกระทาได้ ดงั นี้ ๓.๑ การจัดทาแบบทดสอบ โดยการทาแบบทดสอบออนไลน์ ท่ีครูผู้สอนจดั ทาไว้ในระบบ ซ่ึงมี วธิ กี ารให้ครูผ้สู อนสามารถจดั ทาได้ในหลาย ๆ รูปแบบ ขึน้ อย่กู บั ลกั ษณะของเน้ือหาความรู้ที่ตอ้ งการวดั การทดสอบอาจทาซ้าได้หลาย ๆ ครั้ง หรือให้ทาเพียงคร้ังเดียวก็ได้ และเมื่อทาแบบทดสอบเสร็จสิ้น ทางระบบ จะทาการประเมนิ ผลการสอบใหผ้ ู้เรยี นทราบทนั ที หรอื อาจปรบั ระบบให้ผเู้ รียนทราบในภายหลงั กไ็ ด้ ๓.๒ การประเมินผลการเรียนรู้ เป็นการประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ เช่น ด้าน ความรู้ ความคิด ด้านทักษะ ด้านเจตคติ โดยพิจารณาจากข้อมูลที่รวบรวมไว้ ท้ังจากผลงานท่ีผู้เรียนจัดทาและ สง่ ให้ประเมินตามที่ผู้สอนกาหนด การทาแบบฝึกหัด แบบทดสอบ รวมถึงการพิจารณาการเข้าเรียน การส่งงาน ความรับผิดชอบ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนหรือผู้เรียนคนอ่ืน ๆ หรือคุณลักษณะอ่ืน ๆ ตามท่ีได้กาหนดไว้ใน บทเรยี น ครูผู้สอนจะตอ้ งรวบรวมข้อมูลตา่ ง ๆ เหลา่ นีเ้ พ่ือทาการประเมนิ การเรียนรูเ้ ปน็ รายบุคคล ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๖๗

๓.๓ การอนุมัติผลการเรียน หลังจากประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนเรียบร้อยแล้ว ก็แจ้งผล การประเมินการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทราบตามระดับ หรือเกณฑ์คุณภาพทก่ี าหนด ผู้เรยี นท่ีไม่ผ่านการประเมินอาจมี การซ่อมเสริมในบางเน้ือหา ผลการเรียนสามารถแจ้งไปยังผู้เรียนทราบได้โดยตรงเป็นลายลักษณ์อักษรทาง ไปรษณีย์ เพือ่ เป็นหลักฐานให้ผู้เรยี นเก็บรวบรวมไว้ใชใ้ นการประเมินอย่างอน่ื ๆ ต่อไปการอนมุ ัติผลการเรียน จะ กระทาในกรณีท่ีมีการจัดการเรียนการสอนตลอดท้ังรายวิชา สาหรับรายวิชาท่ีมีการเรียนการสอนออนไลน์เป็น บางบทเรียน หรือบางเนื้อหา ก็อาจรวบรวมผลการเรียนรู้ที่ได้รวมกับผลการเรียนการสอนปกติก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ กบั นโยบายและเงื่อนไขการจดั การเรียนรู้ ของสถานศึกษาแต่ละแห่ง ๔. การรวบรวมข้อมูลเพ่ือการประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาบทเรียน เป็นส่วนของการพัฒนาบทเรียน ออนไลน์แบบครบวงจร บทเรียนท่ีมีการออกแบบ จัดทา และนาไปใช้แล้ว ควรที่จะได้นาผลการใช้และเก็บ รวบรวมขอ้ มูลการใชจ้ ากผูเ้ รยี นมาวิเคราะห์เพื่อแก้ไข ปรับปรุง พฒั นาบทเรียนให้มีประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึนตอ่ ไป ขอ้ มูลท่ีเป็นผลการเรียนรู้ของผู้เรียนจะนามาประเมินประสิทธิผลของบทเรียน ส่วนในด้านประสิทธิภาพ อาจใช้ แบบสอบถามจากผู้เรียนหรือสุ่มตัวอย่างสัมภาษณ์ผู้เรียนก็ได้ นอกจากครูผู้สอน และผู้เรียนแล้วบุคลากรที่ เกย่ี วข้องอน่ื ๆ กส็ ามารถให้ขอ้ มูลเพอื่ ประเมินถึงประสิทธิภาพของบทเรียนได้ เช่นกนั บุคลากร อน่ื ๆ ที่ควรเกบ็ ขอ้ มูลมาศกึ ษารว่ มด้วยไดแ้ ก่ ผูด้ ูแลระบบ ผู้พัฒนาโปรแกรม ๖. ผลการดำเนินการ/ผลสัมฤทธ/์ิ ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั ๑.การสอนบนเว็บเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนท่ีอยู่ห่างไกล หรือไม่มีเวลาในการมาเข้าชั้นเรียนได้ เรียนในเวลาและสถานท่ี ๆ ต้องการ ซ่งึ อาจเป็นที่บา้ น ท่ีทางาน หรอื สถานศึกษาใกล้เคยี งท่ีผู้เรยี นสามารถเขา้ ไป ใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตได้ การที่ผู้เรียนไม่จาเป็นต้องเดินทางมายังสถานศึกษาท่ีกาหนดไว้จึงสามารถช่วย แก้ปัญหาในด้านของขอ้ จากดั เก่ียวกบั เวลา และสถานท่ศี กึ ษาของผเู้ รียนเป็นอยา่ งดี ๒.การสอนบนเว็บยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมกันทางการศึกษา ผู้เรียนที่ศึกษาอยู่ใน สถาบันการศึกษาในภูมิภาคหรือในประเทศหนึ่งสามารถที่จะศึกษา ถกเถียง อภิปราย กับอาจารย์ ครูผู้สอนซ่ึง สอนอย่ทู สี่ ถาบันการศึกษาในนครหลวงหรือในต่างประเทศก็ตาม ๓.การสอนบนเวบ็ น้ี ยังชว่ ยส่งเสรมิ แนวคิดในเรือ่ งของการเรยี นรู้ตลอดชวี ิต เน่อื งจากเวบ็ เป็นแหล่ง ความรู้ที่เปิดกว้างให้ผู้ท่ีต้องการศึกษาในเรื่องใดเร่ืองหน่ึง สามารถเข้ามาค้นคว้าหาความรู้ได้อย่างต่อเนื่องและ ตลอดเวลาการสอนบนเว็บ สามารถตอบสนองต่อผู้เรียนที่มีความใฝ่รู้รวมท้ังมีทักษะในการตรวจสอบการเรียนรู้ ด้วยตนเอง (Meta-cognitive Skills) ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล น้า อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๖๘

๔.การสอนบนเวบ็ ชว่ ยทลายกาแพงของหอ้ งเรียนและเปลี่ยนจากห้องเรียน ๔ เหลย่ี มไปสโู่ ลกกวา้ ง แห่งการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงแหลง่ ขอ้ มูลต่างๆได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพสนบั สนุน ส่ิงแวดล้อมทางการเรียนท่เี ช่ือมโยงส่ิงทเ่ี รียนกับปัญหาทพ่ี บในความเป็นจรงิ โดยเนน้ ใหเ้ กิดการเรียนรู้ตามบริบท ในโลกแห่งความเป็นจริง(Contextualization) และการเรียนรู้จากปัญหา (Problem-based Learning) ตาม แนวคดิ แบบConstructivism ๕.การสอนบนเว็บเป็นวิธีการเรียนการสอนที่มีศักยภาพ เนื่องจากที่เว็บได้กลายเป็นแหล่งค้นคว้า ข้อมูลทางวชิ าการรปู แบบใหม่ครอบคลมุ สารสนเทศท่ัวโลกโดยไม่จากดั ภาษา การสอนบนเว็บช่วยแก้ปัญหาของ ข้อจากัดของแหล่งค้นควา้ แบบเดิมจากห้องสมุดอันได้แก่ ปัญหาทรัพยากรการศึกษาที่มอี ยูจ่ ากัดและเวลาท่ีใช้ใน การค้นหาข้อมูล เน่ืองจากเว็บมีข้อมูลท่ีหลากหลายและเป็นจานวนมาก รวมทั้งการที่เว็บใช้การเชื่อมโยงใน ลักษณะของไฮเปอร์มิเดีย (สื่อหลายมิติ) ซ่ึงทาให้การค้นหาทาได้สะดวกและง่ายดายกว่าการค้นหาข้อมูล แบบเดิม ๖.การสอนบนเว็บจะช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ท่ีกระตือรือร้น ทั้งน้ีเนื่องจากคุณลักษณะของเว็บที่ เอ้ืออานวยให้เกิดการศึกษา ในลักษณะท่ีผู้เรียนถูกกระตุ้นให้แสดงความคิดเห็นได้อยู่ตลอดเวลา โดยไม่ จาเป็นต้องเปิดเผยตัวตนท่ีแท้จริง ตัวอย่างเช่น การให้ผู้เรียนร่วมมือกันในการทากิจกรรมต่าง ๆ บนเครือข่าย การให้ผู้เรียนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและแสดงไว้บนเว็บบอร์ดหรือการให้ผู้เรียนมีโอกาสเข้ามาพบปะกับ ผู้เรยี นคนอน่ื ๆ อาจารย์ หรือผู้เช่ยี วชาญในเวลาเดียวกนั ที่หอ้ งสนทนา เปน็ ต้น ๗.การสอนบนเว็บเอ้ือให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ ซ่ึงการเปิดปฏิสัมพันธ์นี้อาจทาได้ ๒ รูปแบบ คือ ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนด้วยกันและ/หรือผู้สอน ปฏิสัมพันธ์กับบทเรียนในเนื้อหาหรือสื่อการสอนบนเว็บ ซ่ึง ลกั ษณะแรกนีจ้ ะอยใู่ นรปู ของการเข้าไปพูดคยุ พบปะ แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกนั ส่วนในลักษณะหลงั น้ันจะอยู่ ในรูปแบบของการเรียนการสอน แบบฝกึ หดั หรอื แบบทดสอบทผี่ ้สู อนไดจ้ ดั หาไว้ใหแ้ ก่ผู้เรยี น ๘.การสอนบนเว็บยังเป็นการเปิดโอกาสสาหรับผู้เรียนในการเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ท้ังใน และนอกสถาบันจากในประเทศและต่างประเทศท่ัวโลก โดยผู้เรยี นสามารถตดิ ต่อสอบถามปญั หาขอขอ้ มูลต่าง ๆ ท่ีต้องการศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจริงโดยตรงซ่ึงไม่สามารถทาได้ในการเรียนการสอนแบบดั้งเดิม นอกจากน้ียัง ประหยัดท้งั เวลาและคา่ ใชจ้ ่ายเมอื่ เปรียบเทยี บกบั การติดต่อส่อื สารในลักษณะเดิม ๆ ๙.การสอนบนเว็บเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีโอกาสแสดงผลงานของตน สู่สายตาผู้อ่ืนอย่างง่ายดาย ท้ังน้ีไม่ได้จากัดเฉพาะเพ่ือนๆ ในช้ันเรียนหากแต่เป็นบุคคลท่ัวไปทั่วโลกได้ ดังนั้นจึงถือเป็นการสร้างแรงจูงใจ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล น้า อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๖๙

ภายนอกในการเรียนอย่างหนึ่งสาหรับผู้เรียน ผู้เรียนจะพยายามผลิตผลงานท่ีดีเพ่ือไม่ให้เสียชื่อเสียงตนเอง นอกจากนผี้ ู้เรยี นยงั มโี อกาสได้เห็นผลงานของผู้อื่นเพ่ือนามาพฒั นางานของตนเองให้ดยี ่ิงขึน้ ๑๐.การสอนบนเว็บเปิดโอกาสให้ผู้สอนสามารถปรับปรุงเนื้อหาหลักสูตร ให้ทันสมัยได้อย่าง สะดวกสบายเนื่องจากข้อมูลบนเว็บมีลักษณะเป็นพลวัตร ( Dynamic ) ดังน้ันผู้สอนสามารถอัพเดตเนื้อหา หลักสูตรท่ีทันสมัยแก่ผู้เรียนได้ตลอดเวลา นอกจากนี้การให้ผู้เรียนได้ส่ือสารและแสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง กบั เนือ้ หา ทาให้เนอื้ หาการเรยี นมีความยืดหยุ่นมากกวา่ การเรียนการสอนแบบเดมิ และเปล่ียนแปลงไปตามความ ต้องการของผู้เรียนเป็นสาคัญ การสอนบนเว็บสามารถนาเสนอเน้ือหาในรูปของมัลติมีเดีย ได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่ง เสียง ภาพเคลื่อนไหว วีดีทัศน์ ภาพ ๓ มิติ โดยผู้สอนและผู้เรียนสามารถเลือกรูปแบบของการนาเสนอ เพ่อื ให้เกดิ ประสิทธิภาพสูงสดุ ทางการเรยี น ๗. ปจั จัยควำมสำเร็จ/ปจั จัยที่เกือ้ หนไุ ปส่คู วำมสำเรจ็ การจดั การเรยี นรจู้ ึงเปน็ การจดั การบรรยากาศ จัดกิจกรรม จัดส่ือ จัดสถานการณ์ ฯลฯ ให้ ผเู้ รียนเกิดการเรยี นรู้ได้เต็มตามศักยภาพ ครูจึงมีความจาเป็นท่ีจะต้องรู้จักผู้เรียนครอบคลุมอย่างรอบด้าน และ สามารถวเิ คราะหข์ ้อมูลเพอ่ื นาไปเป็นพื้นฐานการออกแบบหรือวางแผนการเรยี นรไู้ ด้สอดคลอ้ งกับผู้เรียน สาหรับ ในการจัดกิจกรรมหรือออกแบบการเรยี นรู้ อาจทาได้หลายวิธีการและหลายเทคนิค แต่มีขอ้ ควรคานึงว่า ในการ จดั การเรียนรแู้ ต่ละครง้ั แต่ละเรอ่ื ง ได้เปดิ โอกาสใหก้ บั ผู้เรียนในเรื่องต่อไปน้หี รือไม่ ๑. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนเปน็ ผู้เลอื กหรือตัดสนิ ใจในเน้ือหาสาระท่สี นใจ เป็นประโยชนต์ อ่ ตัว ผู้เรยี นหรือไม่ ๒. เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรยี นรู้ โดยไดค้ ดิ ไดร้ วบรวม ความรู้และลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองหรือไม่ ซ่ึง ทิศนา แขมมณี (๒๕๔๓) ได้นาเสนอแนวคิดในการเปิดโอกาส ให้นักเรียนมสี ่วนรว่ มและสามารถนาไปใช้เป็นแนวปฏิบตั ิได้ ดงั นี้ ๒.๑ กิจกรรมการเรยี นรู้ที่ดที ค่ี วรชว่ ยใหผ้ เู้ รียนไดม้ ีสว่ นร่วมทางดา้ นร่างกาย (physical participation) คือ เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเคล่ือนไหวร่างกาย เพื่อช่วยให้ประสาท การเรยี นรู้ของผเู้ รียนตนื่ ตัว พร้อมท่จี ะรบั ขอ้ มลู และการเรียนร้ตู า่ งๆ ทจี่ ะเกดิ ข้นึ การรับร้เู ป็นปจั จยั สาคัญในการ เรียนรู้ ถ้าผู้เรียนอยู่ในสภาพท่ีไม่พร้อม แม้จะมีการให้ความรู้ท่ีดีๆ ผู้เรียนก็ไม่สามารถรับได้ ดังจะเห็นได้ว่า ถ้า ปล่อยให้ผู้เรียนน่ังนานๆ ในไม่ช้าผเู้ รยี นก็จะหลับหรือคิดเรื่องอื่นๆ แต่ถ้าใหม้ ีการเคลอ่ื นไหวทางกายบ้างก็จะทา ให้ประสาทการเรียนรู้ของผู้เรียนต่ืนตัวและพร้อมท่ีจะรับและเรียนรู้ส่ิงต่างๆได้ดี ดังน้ัน กิจกรรมท่ีจัดให้ผู้เรียน ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๗๐

จึงควรเป็นกิจกรรมท่ีช่วยให้ผู้เรียนได้เคลื่อนไหวในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง เป็นระยะๆ ตามความเหมาะสมกับ วยั และระดับความสนใจของผเู้ รียน ๒.๒ กิจกรรมการเรยี นรู้ทีด่ ีควรชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นไดม้ ีสว่ นรว่ มทางสติปัญญา (intellectual participation) คือ เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเคล่ือนไหวทางสติปัญญา ต้องเป็น กิจกรรมที่ท้าทายความคิดของผู้เรียน สามารถกระตุ้นสมองของผู้เรียนให้เกิดการเคล่ือนไหว ต้องเป็นเร่ืองที่ไม่ ยากหรือง่ายเกนิ ไปทาให้ผูเ้ รียนเกิดความสนุกท่จี ะคดิ ๒.๓ กิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ดี ีควรช่วยใหผ้ ู้เรยี นมสี ่วนรว่ มทางสงั คม (social participation) คือ เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับบุคคลหรือส่ิงแวดล้อมรอบตัว เนื่องจากมนุษย์จาเป็นต้องอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะ มนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับผู้อื่นและสภาพแวดล้อม ต่างๆ การเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นมีปฏสิ มั พนั ธก์ บั ผอู้ ื่นจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรยี นรทู้ างด้านสังคม ๒.๔ กิจกรรมการเรียนร้ทู ด่ี คี วรชว่ ยให้ผ้เู รยี นไดม้ ีสว่ นร่วมทางอารมณ์ (emotional participation) คือ เป็นกิจกรรมที่ส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกของผู้เรียน ซ่ึงจะช่วยให้การเรียนรู้ น้ันเกิดความหมายต่อตนเองโดยกิจกรรมดังกล่าวควรเก่ียวข้องกับผู้เรียนโดยตรง โดยปกติการมีส่วนร่วมทาง อารมณ์นี้มกั เกิดขึ้นพร้อมกับการกระทาอื่นๆอยู่แล้ว เช่น กิจกรรมทางกาย สติปัญญา และสังคม ทุกคร้ังที่ครูให้ ผู้เรียนเคล่ือนที่ เปล่ียนอิริยาบถ เปล่ียนกิจกรรม ผู้เรียนจะเกิดอารมณ์ ความรู้สึกตามมาด้วยเสมอ อาจเป็น ความพอใจ ไม่พอใจ หรอื เฉย ๆ ๙. บทเรียนที่ไดร้ บั ๙.๑ ผู้เรยี นเปน็ แหลง่ ข้อมลู คอื สามารถบอกได้ว่าตนเองจะเรยี นเร่ืองอะไร มที กั ษะและ ขอ้ มลู อะไรบ้าง สามารถกาหนดเป้าหมายได้ บอกวิธีการรวบรวมข้อมลู ได้ บอกวิธีการประเมินผลการเรยี นได้ รู้ ถงึ ความสามารถของตนเอง ตัดสนิ ใจได้ มีความรบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ท่แี ละเป็นผเู้ รียนรทู้ ดี่ ี ๙.๒ มกี ารเรยี นรู้จากข้อผิดพลาดและความสาเรจ็ มีการประเมนิ ผลเองและเขา้ ใจถึง ศกั ยภาพของตนเอง ๙.๓ มีความพยายามหาวธิ กี ารใหม่ ๆ เพอื่ หาคาตอบ รจู้ กั ประยกุ ตใ์ ช้ความร้ทู ่ีไดจ้ าก การเรยี นไปใชก้ บั สถานการณ์จรงิ และหาโอกาสในการพฒั นา คน้ คว้าหาขอ้ มูลเพอ่ื แก้ปญั หา ๙.๔ มกี ารวางแผนทร่ี อบคอบขนึ้ ประมาณตนเองตามศักยภาพและก่อให้เกิดภูมคิ ุ้มกนั ที่ดี ในการทางานในครั้งต่อไป ตามวถิ ีพอเพยี งทน่ี อ้ มนามาบรู ณาการกับการเรียนการสอนอาชพี คร้ังนี้ ๙.๕ ผูเ้ รยี นสามารถในความรทู้ ี่ได้นาไปปรบั ใชใ้ นสถานการณ์โลกในปัจจบุ นั เช่น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควดิ - ๑๙) ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล น้า อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๗๑

ภาพกจิ กรรมการจดั ทาสอื่ การเรยี น ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๗๒

ภาพกจิ กรรมการใชแ้ พลตฟอรม์ การเรยี นรดู้ จิ ทิ ลั (Digital Learning Platform) ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๗๓

ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๗๔

คณะผจู้ ดั ทำ ทป่ี รกึ ษำ ผอ.กศน.อาเภอเกษตรวสิ ยั นางมยุรี สตั ยไพศาล ผรู้ วบรวมเรยี บเรียง หวั หนา้ กศน.ตาบลนา้ อ้อม นางมนวิสา ชยั ปทมุ ผู้พิมพต์ ้นฉบบั หัวหนา้ กศน.ตาบลนา้ อ้อม นางมนวสิ า ชยั ปทุม ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล น้า อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๗๕

ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๗๖

ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ดา เ นิ น ง า น ก ศ น . ตา บ ล นา้ อ้ อ ม ( ไ ต ร ม า ส ๓ - ๔ ) | ๗๗