คำนำ รายงานนี้เป็นส่วนหน่ึงของการอบรมหลักสูตรนักบริหารงานท่ัวไป (อำนวยการท้องถ่ิน ระดับต้น) รุ่นที่ 90 ระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม 2565 ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถ่ิน ตำบลคลองหน่ึง อำเภอคลองหลวง จังหวดั ปทมุ ธานี ซึ่งได้รวบรวมจากเนื้อหาการเข้ารับการอบรมหลักสูตรดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนา ศักยภาพ ความรู้ความเข้าใจ ทักษะ ทัศนคติที่จำเป็นในการปฏิบัติงานตามบทบาทอำนาจหน้าท่ีขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถน่ิ หวงั เปน็ อย่างยงิ่ ว่ารายงานฉบับนี้จะเปน็ ประโยชน์ต่อผู้ทีส่ นใจค้นควา้ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ โอกาสนด้ี ้วย นางรจมา วันโสภา ผู้จดั ทำ
สารบัญ หนา้ หัวข้อวิชา 1 2 1. หลักคดิ จติ อาสาและจติ อาสาพระราชทาน 3 2. การบรหิ ารงานบุคคล ความก้าวหน้าและสิทธิประโยชนข์ องขา้ ราชการ อปท. 3 3. กลยทุ ธ์การดำเนินการทางวนิ ัยของท้องถิน่ 4 4. การพฒั นาบุคลิกภาพและพธิ สี มาคม 4 5. หลักการบริการประชาชนตาม พ.ร.บ.กระจายอำนาจ 5 6. พฒั นาภาวะผูน้ ำและผู้นำการเปล่ียนแปลงที่มปี ระสทิ ธภิ าพสูง 5 7. ความรเู้ ก่ียวกับบำเหน็จบำนาญของข้าราชการ อปท. 6 8. การบริหารและพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์ในองค์กร 7 9. การสือ่ สารยคุ ดจิ ิทัล 9 10. งานประชาสมั พนั ธใ์ นยุคดิจทิ ัล 10 11. การใช้เทคโนโลยีเพ่อื เพิม่ ประสิทธิภาพการทำงานในยุค Thailand 4.0 11 12. ทักษะและความสามารถดา้ นการใช้ดจิ ิทัลสำหรบั ข้าราชการและบคุ ลากรภาครัฐ 12 13. เทคนคิ การจัดประชมุ สัมมนา 12 14. การบริหารสญั ญาและการตรวจรับพัสดุ 13 15. ความรเู้ กย่ี วกับ พ.ร.บ.การจัดซ้อื จดั จา้ งและการบริหารพัสดุภาครฐั 14 16. เทคนคิ การพดู และนำเสนออย่างมปี ระสิทธภิ าพ 15 17. หลักและวธิ ีปฏิบตั งิ านรฐั พิธี 16 18. หลกั การจดั งานดา้ นกิจการสภาท้องถิ่นและการประชุมสภาท้องถน่ิ 16 19. กฎหมายปกครองความรบั ผดิ ทางละเมิด 17 20. หลักการปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญตั ิข้อมูลขา่ วสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 18 21. การปรบั เปล่ยี นสกู่ ารเปน็ องคก์ รดจิ ิทัล 19 22. การจดั ทำงบประมาณของ อปท. 19 23. หลักการปฏบิ ตั ิในฐานะผู้อำนวยการทอ้ งถ่ิน 19 24. หลกั การดำเนินงานตามกฎหมายผังเมอื งและควบคมุ อาคาร 20 25.การบริหารความขดั แย้งโดยสันตวิ ธิ ี 21 26. หลกั การทำนิติกรรมและการบรหิ ารสัญญาทอ้ งถิน่ 22 27. หลักการปฏบิ ัตติ ามระเบยี บและวิธปี ฏบิ ัติ 23 28. ยุทธศาสตร์ นโยบายการสง่ เสรมิ และพัฒนาทอ้ งถ่ินรว่ มขับเคลอื่ นลงสู่พื้นที่ 24 29. คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมของนักบริหาร 25 30. ข้อสังเกตของหนว่ ยตรวจสอบเพ่อื ความโปร่งใสและมีประสิทธภิ าพในการปฏิบตั งิ าน 26 31. การบริหารผลงานและการจัดทำคำรบั รองการปฏบิ ัติราชการ 26 32. การจดั ทำแผนอตั รากำลงั ของ อปท. 27 33. ระเบยี บ มท.วา่ ดว้ ยคา่ ใชจ้ ่ายเพอ่ื ช่วยเหลอื ประชาชน 29 34. ระเบียบ มท.วา่ ดว้ ยการเบกิ ค่าใช้จา่ ยในการจัดงาน การจัดกิจกรรมสาธารณะ 31 35. แนวทางการเบิกคา่ ใช้จ่ายในการเดนิ ทางไปราชการ ค่าใช้จา่ ยในการฝกึ อรมและคา่ เชา่ บ้าน ภาคผนวก
จากการเข้าร่วมอบรมหลักสูตรนักบริหารงานทั่วไป (อำนวยการท้องถิ่น ระดับต้น) รุ่นที่ 90 ระหว่างวันท่ี 17 กรกฎาคม – 12 สิงหาคม 2565 ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอ คลองหลวง จงั หวัดปทุมธานี สามารถสรุปสาระสำคัญ ได้ดงั รายละเอยี ดตอ่ ไปน้ี 1. หลักคดิ จิตอาสาและจิตอาสาพระราชทาน การพัฒนาตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง คือ การพฒั นาท่ตี ้ังบนพน้ื ฐานของทางสายกลาง ความไม่ ประมาท โดยคำนงึ ถึงความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การสร้างภูมคิ มุ้ กันท่ดี ีในตวั ตลอดจนใช้ความรคู้ วามรอบ ครอบและคณุ ธรรมประกอบการวางแผน การตดั สินใจ และการกระทำ เหตุผลท่ปี รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งแก้ไขวิกฤตไิ ด้ - ตนเป็นทพี่ ง่ึ แหง่ ตน - ให้ความสำคญั กับการรวมกลุม่ - ความเมตตา ความเอ้ืออาทร คามสามัคคขี องสมาชกิ ในกลุ่ม แนวทางและหลักการในการประยุกต์ใชเ้ ศรษฐกจิ พอเพยี งในภาครัฐ ประกอบด้วย • ความพอประมาณ - การจัดทำแผนงานโครงการทีม่ ีความเปน็ ไปไดภ้ ายใต้งบประมาณท่มี ีอยู่ - ใช้งบประมาณไม่ฟุม่ เฟอื ย ไมฟ่ ุ้งเฟอ้ ไม่เกินตัว • ความมีเหตุผล - ประหยัด มัธยัสถ์ ใชง้ บประมาณตรงตามแผน - อาศยั หลกั วชิ าการพจิ ารณาอยา่ งรอบคอบ • มภี ูมิคุ้มกนั - ระบบติดตามประเมินผล - แผนบรหิ ารความเสยี่ ง • ความรู้ - ขวนขวายความรู้ รรู้ อบ - บรู ณาการภารกิจ บทบาทและหนา้ ที่ - ถ่ายทอดความร/ู้ สร้างองค์กรเรียนรู้ • คุณธรรม - แผนงานโครงการทเ่ี กิดประโยชน์และเปน็ ธรรม - โปรง่ ใส ตรวจสอบได้ การประยกุ ต์ใชเ้ ศรษฐกิจพอเพียงในด้านต่างๆ - ดา้ นจติ ใจ มจี ิตใจเขม้ แขง็ พึง่ ตนเองได้/ มีจติ สำนึกทดี่ /ี เออ้ื อาทรประนีประนอม - ดา้ นเศรษฐกจิ ไมเ่ บียดเบยี นสังคมและสงิ่ แวดล้อม/ เลือกใหใ้ นส่ิงที่ดที สี่ ดุ /ซอ่ื สัตย์กบั ลูกค้า - ดา้ นสังคม ชว่ ยเหลอื เก้ือกลู กัน/ รู้รกั สามัคคี/ สร้างความเข้มแข็งให้ครอบครวั และชุมชน - ด้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม รจู้ กั ใช้และจัดการอยา่ งฉลาดและรอบคอบ - ดา้ นเทคโนโลยี รจู้ กั ใชเ้ ทคโนโลยีท่เี หมาะสม สอดคลอ้ งกับความต้องการและสภาพแวดลอ้ ม รายละเอียดเพ่ิมเตมิ
-2- 2. การบริหารงานบคุ คล ความก้าวหน้าและสิทธิประโยชน์ของขา้ ราชการ อปท. การกำหนดโครงสร้างส่วนราชการของเทศบาล แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท 1. สามญั 2. สามญั ระดงั สงู 3. พเิ ศษ ประกอบด้วย 1. สว่ นราชการหลัก - สำนักปลัด - กอง/สำนกั การคลัง - กอง/สำนกั การช่าง 2. กองหรือสว่ นราชการทีจ่ ำเปน็ ต้องมี เชน่ - กอง/สำนกั การสาธารณสขุ - กอง/สำนักการศึกษา - กอง/สำนกั วชิ าการและแผนงาน 3. สว่ นราชการอนื่ - กองส่งเสรมิ วฒั นธรรมฯ - กองนิตกิ าร - กองเทคโนโลยีสารสนเทศ การประเมินเพ่ือปรบั ประเภทและระดับของเทศบาล จะต้องผา่ นเกณฑ์พื้นฐาน จึงมสี ทิ ธิประเมิน เกณฑป์ ริมาณงานและเกณฑ์ประสิทธิภาพ สทิ ธปิ ระโยชน์โบนัส (แบบใหม่) ประกอบด้วย 1. คะแนน LPA ต้องได้ร้อยละ 80 2. คะแนน ITA ตอ้ งได้ร้อยละ 80 3. โครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จงั หวัด แผนจงั หวัด (จังหวดั เปน็ ผู้กำหนด) 4. โครงการดีเด่น หน่วยงานจะต้องได้รับรางวัลเท่านั้น 5. การกำจัดขยะ อปท.ต้องรายงานกรมควบคมุ มลพษิ 6. เรอ่ื งประสิทธิผล ดา้ น e-Service พฒั นาระบบการให้บริการ เชน่ ชำระเงินออนไลน์ผา่ นระบบ 7. คา่ ใช้จา่ ยดา้ นบุคลากร จะตอ้ งไม่เกิน 40 % จะมีการกำหนดลำดบั คะแนน เรื่องเก่ยี วกับงบลงทนุ * ตอนของบลงทุน ไมน่ อ้ ยร้อยละ 10 ของประมาณการ * ตอนเบกิ จ่าย ให้เอายอดท่จี ่ายจรงิ ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของรายรบั จรงิ หากนำรายรบั จริง มาไม่ได้ ต้องใชย้ อดประมาณการตอนต้ังงบประมาณเท่านั้น * กรณกี ันเงนิ ได้ แต่ต้องกอ่ หน้ผี ูกพนั แล้วเท่านน้ั รายละเอยี ดเพ่ิมเตมิ
-3- 3. กลยทุ ธ์การดำเนนิ การทางวนิ ัยของท้องถ่ิน โทษทางวนิ ยั มี 5 สถาน (ข้อ 25) 1. ภาคทณั ฑ์ 2. ตดั เงินเดือน 3. ลดขนั้ เงินเดอื น 4. ปลดออก 5. ไล่ออก หมายเหตุ ข้อ 1-3 โทษทางวนิ ยั ไม่ร้อยแรง ข้อ 4-5 โทษทางวนิ ยั รา้ ยแรง การใหอ้ อกจากราชการมี 5 เหตุ (ตามมาตรา 15) 1. ตาย 2. เกษยี ณ 3. ลาออก และใหอ้ นญุ าตลาออก 4. ถกู ส่งั ให้ออกจากราชการ (กรณีเจ็บปว่ ย อัมพาต ขาดคุณสมบัติ บุคคลล้มละลาย) 5 ถูกลงโทษปลดออก ไล่ออกจากราชการ (โทษทางวนิ ยั ) * ไลอ่ อกไมไ่ ด้บำเหน็จบำนาญ * ปลดออก 2 ปี เข้ารับราชการได้ * ไล่ออก 3 ปี เข้ารบั ราชการได้ หมายเหตุ ยกเวน้ ข้อหาทจุ รติ ต่อหน้าท่ี ให้ไปสศู้ าลปกครอง นอกนัน้ ยกเวน้ เข้ารับราชการใหมไ่ ด้ รายละเอยี ดเพิ่มเตมิ 4. การพฒั นาบคุ ลกิ ภาพและพธิ ีสมาคม การพฒั นาบุคลิกภาพในการทำงาน 1. การพฒั นาบุคลกิ ภาพทางกาย ควรใช้เคร่ืองแตง่ กายทสี่ ะอาดเรยี บรอ้ ยให้เหมาะสมกับรูปร่างของตน 2. การพฒั นาบคุ ลกิ ภาพทางสตปิ ัญญา ความรูส้ กึ นึกคดิ เจตคติ และความสนใจผทู้ ำงานโดยทั่วไป 3. การพฒั นาบคุ ลกิ ภาพทางอารมณ์ การสังเกต คิดหาเหตุผล ไม่ฉุนเฉยี ว ไม่กา้ วร้าวหยายคาย 4. การพฒั นาบคุ ลิกภาพทางสังคม กริ ิยาท่าทาง นำ้ เสยี ง ภาษาพูด การแต่งกาย และการวางตน ประโยชนข์ องการมีบุคลิกภาพท่ีได้ 1. มคี วามสามารถในการรบั รู้และเข้าใจในสภาพความเป็นจรงิ ไดอ้ ยา่ งถูฏตอ้ ง 2. การแสดงอารมณ์จะอยู่ในลกั ษณะและขอบเขตท่เี หมาะสม 3. มคี วามสามารถในการสร้างความสมั พันธ์กับบคุ คลอื่นและสังคมไดด้ ี 4. มคี วามสามารถในการทำงานท่อี ำนวยประโยชนต์ ่อผอู้ ่ืนและสังคมได้ 5. มีความรกั และสามารถผกู พันต่อผู้อนื่ รายละเอยี ดเพิ่มเติม
-4- 5. หลักการบรกิ ารประชาชนตาม พ.ร.บ.กระจายอำนาจ การบริหารกจิ การบา้ นเมืองที่ดี ทีอ่ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ทุกแห่งต้องถือปฏบิ ัติ ได้แก่ 1. บรหารภารกจิ เพ่ือประโยชนส์ ขุ ของประชาชน 2. บรหิ ารงานเพือ่ ให้เกิดผลสมั ฤทธต์ิ ่อภารกจิ ของรัฐ 3. มีประสิทธภิ าพและเกดิ ความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ 4. ไมม่ ีขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงานเกนิ ความจำเปน็ 5. ปรับปรงุ ภารกจิ ส่วนราชการใหท้ นั ต่อสถานการณ์ 6. อำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของประชาชน 7. ประเมินผลการปฏิบตั ริ าชการอย่างสม่ำเสมอ การบรหิ ารงานให้เกิดผลสัมฤทธต์ิ อ่ ภารกิจ อปท. 1. ให้จัดทำแผนพฒั นา 2. ติดตามและประเมินผลการปฏิบตั ติ ามแผนพฒั นา 3. นำแผนพฒั นาทอ้ งถน่ิ มาใช้เปน็ กรอบในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 4. ให้มีการจดั ทำข้อตกลง การปฏบิ ัติราชการกับผู้บรหิ ารองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น 5. สง่ เสริมการพฒั นาความรใู้ นหนว่ ยงานและมกี ารเรียนรรู้ ว่ มกนั การบริหารภารกจิ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและเกิดความคุ้มคา่ ในเชงิ ภารกิจ 1. กำหนดเปา้ หมายแผนการดำเนินงานระยะเวลาแล้วเสร็จ 2. จดั ซื้อ/จัดจา้ ง โดยเปดิ เผยและเที่ยงธรรม 3. การจัดทำบัญชรี บั เรือ่ งราวรอ้ งทุกขแ์ ละการกำหนดระยะเวลาในการแก้ไขปญั หา 4. การสงั่ ราชการใหก้ ระทำเป็นลายลักษณ์อกั ษร รายละเอียดเพิ่มเติม 6. พัฒนาภาวะผนู้ ำและผนู้ ำการเปลย่ี นแปลงที่มปี ระสิทธิภาพสงู ผนู้ ำ คอื ผู้ทส่ี ามารถในการชักจงู ให้คนอืน่ ทำงานใหส้ ำเร็จตามตอ้ งการ ภาวะผู้นำ คอื ความเปน็ ผนู้ ำ ผูน้ ำท่ยี อดเยี่ยม เนน้ ภารกิจ IPA ได้แก่ Idea (ความคิด) People (ผคู้ น) Action (ลงมือทำ) ความคิดสำคัญของผู้นำ ได้แก่ คดิ เชงิ บวก คดิ เชิงสร้างสรรค์ คดิ เชิงจริยธรรม คดิ เชิงกลยุทธ ผคู้ นสำคญั ของผูน้ ำ ได้แก่ ผบู้ ังคบั บญั ชา ผู้ใต้บงั คบั บัญชา ลกู คา้ , ประชาชน เพอ่ื นร่วมงาน การลงมอื ทำ สำคัญของผนู้ ำ ได้แก่ การวางแผน มอบหมายงาน พฒั นาคน พัฒนางาน และ ควบคุมงาน นสิ ัยหลกั ๆ ทีผ่ ู้ตาม คาดหวังจากผู้นำ คอื - ความสามารถจงู ใจ สรา้ งแรงบนั ดาลใจผอู้ นื่ - การตดั สนิ ใจเดด็ เด่ยี ว ม่งุ มนั่ เช่ือมนั่ - มีวิสัยทัศน์ ความคิดฝัน อยากจะทำอะไร - ความสามารถในการรับมือกับวกิ ฤตการณ์ - ความซ่ือสตั ยแ์ ละการทำในสงิ่ ที่ถกู ต้อง
-5- 7. ความร้เู กี่ยวกับบำเหน็จบำนาญของขา้ ราชการ อปท. หลักเกณฑก์ ารพิจารณาสิทธิทจ่ี ะขอรับบำเหน็จหรือบำนาญ • สิทธิที่จะไดร้ บั บำนาญปกติ - ออกหรือพน้ จากราชการ ดว้ ยเหตุในเหตหุ น่ึง ใน 4 เหตุ และ - มีเวลาราชการอยา่ งนอ้ ย 10 ปบี รบิ รู ณ์ขึ้นไป และ - ไมถ่ กู ลงโทษไล่ออกจากราชการ • สิทธิทจี่ ะไดร้ ับบำเหนจ็ ปกติ - ออกจากราชการโดยไมเ่ ขา้ เหตุใดเหตุหนึ่ง ใน 4 เหตุ ตอ้ งมเี วลาราชการอย่างน้อย 10 ปี บรบิ ูรณ์ หรอื - ถ้าเขา้ เหตใุ ดเหตุหน่ึง ใน4 เหตุ แตม่ ีเวลาราชการไม่ถงึ 10 ปีบรบิ ูรณ์ หรือ - มีสทิ ธิรับบำนาญ จะเปลยี่ นเปน็ รับบำเหน็จปกติแทนได้ และ - ไมถ่ ูกลงโทษไล่ออกจากราชการ รายละเอียดเพิ่มเติม 8. การบรหิ ารและพฒั นาทรัพยากรมนษุ ยใ์ นองค์กร การบริหารทรพั ยากรมนุษย์ คือ กลยทุ ธใ์ นการบรหิ ารจัดการทรัพยากรทีม่ ีคุณค่ามากท่สี ุดในองค์กร นั่นคอื มนุษย์ หรือบคุ ลากรขององคก์ รน่ันเอง ขน้ั ตอนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 1. การสรรหาทรพั ยากรบุคคล 2. การอบรมและพฒั นาทักษะความรู้ 3. การบรหิ ารจดั การเรื่องอตั ราจา้ งงาน 4. การดูแลประสิทธภิ าพในการทำงาน 5. การลดความขัดแยง้ และสรา้ งความสัมพันธท์ ีด่ ภี ายในองคก์ ร ประโยชน์ของการพัฒนาพทรัพยากรมนุษย์ 1. พัฒนาทักษะ ตลอดจนองคค์ วามรูใ้ หม่ๆ ใหก้ ับพนักงาน 2. ทำให้องค์กรมีศักยภาพเพ่ิมขนึ้ 3. เพิม่ มาตรฐานการทำงานใหก้ ับองคก์ ร 4. ทำให้พนกั งานรักในการที่ทำมากขึ้น 5. พนกั งานสามารถคน้ พบการแก้ไขปัญหาตา่ งๆ ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งข้นึ 6. สร้างบรรยากาศการทำงานท่ีดี 7. สรา้ งความภมู ใิ นให้กับพนักงานในองค์กร รายละเอียดเพ่ิมเติม
-6- 9. การสอ่ื สารยุคดิจิทลั สทิ ธิของประชาชน - ประชาชนมสี ิทธิร้ขู ้อมลู ข่าวสารของรัฐต้องนำลงในราชกจิ จานุเบกษา (พ.ร.บ. ขอ้ มลู ขา่ วสาร ม.7) - ประชาชนตรวจดขู อ้ มูลขา่ วสารจากศูนยข์ ้อมลู ข่าวสารของหน่วยงานของรฐั (ม.9) - ประชาชนขอข้อมูลข่าวสารของราชการ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผูม้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสียกับข้อมลู ข่าวสาร ที่ขอน้นั (ม.9 และ ม. 11) ศนู ย์ขอ้ มูลขา่ วสาร มี 2 ประเภท - ศูนย์ขอ้ มูลขา่ วสารทจ่ี ัดตง้ั อยู่ที่หน่วยงาน - ศูนยข์ ้อมูลข่าวสารทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (เวบ็ ไซตห์ นว่ ยงาน) การนำแผนปฏบิ ัตกิ ารดจิ ทิ ลั ของ มท. ไปสูก่ ารปฏบิ ัติ 1. เสรมิ สรา้ งความรูค้ วามเข้าใจให้หน่วยงานในสังกดั - ผู้บริหารให้ความสำคญั - สรา้ งความเข้าใจรว่ มกัน - ใหห้ น่วยงานในสงั กดั จดั ทำแผนปฏบิ ตั ิการทส่ี อดคลอ้ ง - จดั สรรทรพั ยากรให้เหมาะสม - เผยแพร่ประชาสมั พันธ์การดำเนนิ งาน 2. ทำแผนงาน/โครงการในลักษณะบรู ณาการ - สนับสนุนและประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เก่ยี วข้อง - จัดทำแผนในแตล่ ะระดับของหนว่ ยงานใหส้ อดคล้องเช่ือมโยง - กำหนดขัน้ ตอนการดำเนินงานตามแผนใหช้ ดั เจน และจัดลำดบั ความสำคัญของแผน/โครงการ - ตดิ ตาม ตรวจสอบผลการดำเนนิ งาน โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ 3. พัฒนาระบบและกลไกการตดิ ตามและประเมนิ ผล - กำหนดตวั ชี้วัดที่เนน้ ผลลัพธ์ของการดำเนินงานเป็นหลัก - นำผลจากการประเมินมาปรับปรงุ - สร้างมาตรการเรง่ รดั การดำเนนิ งาน ตรวจสอบคุณภาพการดำเนินงานอยา่ งสมำ่ เสมอ - พฒั นาองค์ความรูแ้ ละสรา้ งทกั ษะในการตดิ ตามประเมนิ ผลให้แก่บคุ ลากร - พัฒนาระบบสารสนเทศเพ่ือสนบั สนุนการดำเนนิ งาน และเช่อื มโยงเปน็ เครือขา่ ยเพอ่ื ใชป้ ระโยชน์ รว่ มกนั - กำหนดหว้ งเวลาการติดตามประเมนิ ผลเป็นระยะๆ - ประชาสัมพันธเ์ ผยแพร่ผลการดำเนินงานให้ผเู้ กีย่ วข้องข้องอย่างต่อเนื่อง การขบั เคลอ่ื นการสอื่ สารยคุ ดิจทิ ลั - สร้างทัศนนคติทดี่ ีตอ่ เทคโนโลยีดิจิทัลให้แกบ่ คุ ลากรภาครฐั และผู้ที่เกย่ี วข้อง - พฒั นาทกั ษะเทคโนโลยดี ิจิทลั ให้แก่บคุ ลากรภาครัฐและผู้ท่เี ก่ยี วข้อง - สร้างความมนั่ คงปลอดภัยและความเชอ่ื มมั่น และคมุ้ ครองสทิ ธขิ องผู้ใช้เทคโนโลยีดิจทิ ัลในทกุ ภาคส่วน - ติดตาม และร้เู ท่าทนั การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยดี จิ ทิ ัล - ส่งเสริมการสร้างเครอื ขา่ ยและแลกเปลยี่ นเรยี นรเู้ ก่ียวกบั เทคโนโลยี รายละเอยี ดเพ่ิมเติม
-7- 10. งานประชาสมั พันธ์ในยุคดิจิทลั ประวัติ QR Code QR Code คือ อะไร QR Code (คิวอาร์ โค้ด) คือ สัญลักษณ์สี่เหล่ียม ที่เร่ิมเห็นแพร่หลายมากข้ึน ไม่ว่าจะเป็นจากหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร QR Code (คิวอาร์ โก้ด) ย่อมาจาก Quick Response (คว๊ิก เรสปอน) เป็นบาร์โค้ด 2 มิติ ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โคยบริษัท Denso-Wave (เดน โซ-เวฟ) ตั้งแต่ปี 1994 คุณสมบัติของ QR code คือ เป็นสัญลักษณ์แทนข้อมูลต่างๆ ที่มีการตอบสนองที่รวดเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่จะนำมาใช้กับ สนิ ค้า, ส่ือโฆษณา ต่างๆ เพือ่ ให้ข้อมูลเพ่ิมเติม หรือจะเป็น URL (ยูอาร์แอล) เว็บไซต์ เมื่อนำกลอ้ งของโทรศัพท์มอื ถือ ไปถ่าย QR Code ก็จะเข้าสู่เว็บไซต์ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ QR Code สามารถบรรจุข้อมูลแบบตัวเลขและ ตัวอกั ษร ไดถ้ งึ 7,000 หลกั และยังสามารถอา่ นข้อมลู ไดร้ วดเรว็ กวา่ Bar Code ถึง 10 เท่า วธิ ีการทำ ลงิ ค์ เวป็ ไซด์ ให้เป็น QR Code สมมติว่า เราต้องการ ทำ QR Code เว็ปไซต์ สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถ่ิน เราก็ เข้า เว็ปไซต์ ที่ ตอ้ งการก่อน เช่น เวป็ สถาบนั ฯ พมิ พ์ /pdi. go.th จากนัน้ ทำการ Copy ช่อื เวป็ วธิ ีการ สร้าง OR Code เพือ่ แนบ ส่งิ ทสี่ ่งมาดว้ ย บนหนงั สอื ราชการ ข้ันตอน เราต้องการ ที่เกบ็ บนท้องฟ้า ก่อน (Cloud) ถ้าใช้บนเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ใหเ้ ข้า Gmail ของเรากอ่ น เข้าเวป็ Gmail.com เขา้ E-Mail ของเรา ดา้ นบนขวา กด ปุม่ 9 จดุ เลือกคำวา่ \"ไครฟ์\" เพอื่ เข้าไปท่ี Google Drivc ด้านซา้ ย กด เคร่อื งหมาย บวก เขยี นว่า \"ใหม\"่ เลือก แฟ้ม PDF ทตี่ อ้ งการ จะทำเอกสารแนบ เปน็ QR Code กด ป่มุ Open เพอ่ื ทำการ อัฟโหลดไฟล์ขึน้ Google Drive Upload เสร็จ ให้ ดบั เบ้ลิ คล๊ิกทแ่ี ฟม้ เพอื่ เปีดขึ้นมาคูเอกสาร ด้านขวาบน ของเอกสาร กค จดุ 3 จดุ เลือกคำสัง่ \"แชร์\" กด คำส่ัง \"รบั ลงิ คท์ ส่ี ามารถแชรไ์ ด\"้ ตรงน้ีจะไดล้ ิงคเ์ วป็ ไซด์ยาว ๆ ให้ทำการ Copy ลงิ คน์ ไี้ ว้ กดปุม่ Ctrl + c มาที่เวป็ 0h0888.com ลงมาขอ้ ที่ 1. ขอ้ ยอ่ ย 35. เวป็ สรา้ ง QR Code คลิก๊ ที่ชอ่ ง URL นำลิงคม์ าวาง กด Ctrl + V ดา้ นล่าง กดป่มุ สร้าง QR ค้านขวา จะได้ QR Code ใหล้ องใช้มอื ถอื เข้า App LINE หรือเปดิ กล้อง สแกน QR Code ดู หนา้ 5 จาก 33 ตอ่ ไป เราต้องการ QR Code ทไ่ี ด้ คาวนโ์ หลด ลง คอมฯ เครอื่ งเรา กดป่มุ \"ดาวน์โหลด PNG\" ค้านล่างซา้ ย กคลกู ศร ขึน้ เลอื ก \"เสดงในโฟลเดอร\"์ คลกิ๊ ขวา เลือก Rename เพอ่ื เปล่ียนชอ่ื แฟมั ตอนน้ี เราก็จะได้ QR Code ทอี่ ยใู่ นคอมฯ เคร่อื งเรา ต่อไป เราก็ ทำหนังสือราชการ ข้ึนมา 1 ฉบบั
-8- ถา้ ต้องการ แบบฟอร์ม หนงั สือราชการ ใหถ้ ูกตาม สำนกั นายกฯ เขา้ oh0888.com มาขอ้ ท่ี 1. กด ขอ้ ย่อย 12. แบบฟอร์ม คล๊กิ แบบฟอรม์ หนังสอื ราชการ หรือ ... ดา้ นลา่ ง คลกิ๊ เมนู \"แทรก\" เลอื ก \"รูปภาพ\" เลือก QR Code มาใส่ ถ้า จะให้ QR Code ทเี่ ป็น รูป ขา้ ยไปที่ต่าง ๆ ได้ กด เมนู \"รปู แบบ\" เลอื ก \"ตดั ขอ้ ความ\" เลอื ก \"ข้างหน้าขอ้ ความ\" เสร็จ การทำหนังสอื ทม่ี ี QR Code เทคนิคการ ใช้ Browser Google Chrome บนเครื่องคอมพวิ เตอร์ ถา้ ต้องการ ป่มุ บา้ น (Home) ข้นึ มา ดา้ นบน ของ Google Chrome ด้านขวา บน กด จดุ 3 จุด - การตั้งคา่ แสดงปุม่ หน้าแรก กด เปดิ ตง้ั ชอ่ื เวป็ เปน็ Google.co.th ทดสอบ กดปมุ่ Home เวลาเราใช้ Google Chrome แลว้ เขา้ เว็ปไซด์ Google เม่ือเราพิมพ์ ในช่องคันหา เชน่ สถาบนั พัฒนาบุคลากรท้องถ่นิ เม่อื กด Enter ตวั Google Chrome จะบอกว่า คน้ ไดก้ ่ีรายการ นามสกุล ของ เวป็ .go.th = เป็นเวป็ หนว่ ยงาน ราชการ (Government) .co.th = เปน็ เวป็ บริษัท จำกัด .com = เอกชน จดทะเบียน หรอื บุคคลธรรมดา com เร่ิมเตม็ แลว้ เขากเ็ ลย มอี กี นามสกลุ .net .ac.th = เปน็ เวป็ การศึกษา (โรงเรยี น , มหาวทิ ยาลัย , ติวเตอร)์ ac มาจากคำเต็มวา่ อะไร Academic .org = มลู นิธิ , สมาคม , องค์กร ไม่หวงั ผลกำไร Organization เวป็ ไซด์ ทใี่ ช้ ค้นหา เวป็ ต่าง ๆ (Search Engine) www.google.com,www.wooglc.co.th,www.Blacklc.com www.bing.com www.vahoo.com www.google.co.th ดที ี่สุด ถ้าต้องการ คน้ หา ขอ้ มูล บคุ คล ให้พิมพ์ ภายใน เครื่องหมาย คำพูด \"ชอ่ื - นามสกลุ \" เชน่ \"ชอื่ เรา นามสกุล\" กด Enter Google จะแสดง ข้อมูล ของ คนนน้ั ออกมาเลย พรอ้ มกับ จำนวน รายการทเี่ จอ ถ้าต้องการ หา ตระกลู เรา พมิ พ์ \" นามสกุล \"
-9- 11. การใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือเพม่ิ ประสิทธภิ าพการทำงานในยคุ Thailand 4.0 Thailand 4.0 Thailand 4.0 คือยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ โดยมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทาง เศรษฐกิจมาสู่ระบบเศรษฐกิจท่ีเน้นการสร้างมูลค่า (Value-Based Economy) เพ่ือพาประเทศไทยหลุดพันจาก กบั ดักรายได้ปานกลาง กับดักความเหลื่อมล้ำทางสังคม และกับดักความไม่สมดุลในการพัฒนา โดยมีการปรบั เปล่ียน ใน 4 มิติดังน้ี มติ ทิ ี่ 1 ความม่งั คั่งทางเศรษฐกจิ (Economic Wealth) มิตทิ ่ี 2 ความอยู่ดีมสี ขุ ของผู้คนในสังคม (Social Well-beings) มติ ทิ ี่ 3 การยกระดบั ศักยภาพและคุณค่าของมนุษย์ (Human Wisdom) มิตทิ ่ี 4 การรกั ษส์ ิ่งแวดล้อม (Environmental Wellness) ชีวิตการทำงานในยคุ 4.0 ในยุค 4.0 เทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกด้าน จะทำให้เกิดการเปล่ียนแปลงของ สังคม ในทกุ ดา้ น ทกุ มิติ และครอบคลมุ ทุกชนชัน้ เทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการดำรงชีพชีวิตประจำวัน รูปแบบในการ ทำงาน ทีเ่ ปิดกว้างและหลากหลาย เป็นสังคมท่ีหุ่นยนต์ หรือเครือ่ งจักรสามารถทำงานทดแทนอาชีพท่ีมีกระบวนการ ชดั เจน เป็นมาตรฐาน ไม่ซบั ซอ้ นได้ จงึ เปน็ ท้ังโอกาสและความท้าทาย มนุษย์จำเป็นที่จะต้องมุ่งพัฒนาความสามารถในสายงานที่เน้นการวิเคราะห์การมีปฏิสัมพันธ์ใน สังคม เพื่อที่จะแข่งขันกับเครื่องจกั รอัจฉรยิ ะได้ การทำงานจะมีรูปแบบทมี สหวิชาชีพ ใช้ระบบการทำงานแบบเสมือน จริงในการทำงานของภาครฐั และการนำเทคโนโลยีมาใชแ้ ทนแรงงานมนุษยบ์ างส่วน เครือขา่ ยสงั คม (Social Network) เครือข่ายสังคมออนไลน์ท่ีมีการเชื่อมโยงกันเพ่ือสร้างเครือข่ายหรือความสัมพันธ์ทางสังคม ในกลุ่ม คนท่ีมีความสนใจหรือมีกจิ กรรมร่วมกนั เกิดจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีอนิ เทอร์เนต็ จากเวบ็ 1.0 (เว็บเนื้อหา) มาสู่ เว็บ 2.0 (เว็บเชิงสังคม) ปัจจุบันถูกพัฒนาเป็น Application ท่ีสามารถใช้งานบนอุปกรณ์เคล่ือนท่ีได้ สามารถแบ่ง ตามวัดฤประสงค์หลักของการเข้าใช้งาน ได้ 7 ประเภท 1. สรา้ งและประกาศตัวตน (Identity Network) 2. สร้างและประกาศผลงาน (Creative Network) 3. ความชอบหรือคล่งั ไคลในสิง่ เดียวกนั (Passion Network) 4. เวทที ำงานร่วมกนั (Collaboration Network) 5. ประสบการณ์เสมือนจริง (Virtual Reality) 6. เครอื ขา่ ยเพื่อการประกอบอาชพี (Professional Network) 7. เครอื ข่ายท่เี ชอื่ มต่อกนั ระหว่างผู้ใช้ (Peer to Peer : P2P) การสรา้ ง Infographics ดว้ ย Canva 1. เรมิ่ ต้นใชง้ าน Canva เปิด Canva.com และลงชื่อเข้าใช้หรือสมัครใช้งานบัญชีใหด้วยอีเมล โปรไฟล์ Google หรือ Facebook คน้ หา \"อินโฟกราฟิก\" เพือ่ เรม่ิ ออกแบบ 2. เลอื กแมแ่ บบ สำรวจแม่แบบอนิ โฟกราฟิกหลากหลายของ Canva ตามความต้องการดา้ นการแสดงข้อมูล ใชเ้ ครือ่ งมือค้นหาเพ่ือจำกัดตัวเลอื กของคุณตามธมี สี สไตล์ และอืน่ ๆ 3. ปรับแต่งงานออกแบบอินโฟกราฟิก เริ่มต้นด้วยแม่แบบและแตกแขนงออกไปในทิศทางสร้างสรรคอ์ ย่างไรก็ได้ เปล่ียนข้อความ สี ฟอนต์ และพ้นื หลังด้วยการคลิกเพียงไม่กี่คร้งั
- 10 - 4. ทำงานออกแบบของคณุ ใหส้ มบรู ณแ์ บบด้วยองคป์ ระกอบด่างๆ เรยี กดูคลงั ข้อมลู รูปภาพ ภาพวาด และกราฟิก คันหางานออกแบบลกู ศรสำหรบั ผังงาน และ จัดเรียงตามทต่ี ้องการ 5. บันทกึ แล้วแชร์ ดาวนโ์ หลดและบันทึกอินโฟกราฟกิ เปน็ ไฟล์ PDF, PNG, JPG หรอื GIF แชร์บนโซเชยี ลมีเดีย ฝงั ลง ในเว็บไซต์ หรอื พิมพเ์ พ่ือใช้อ้างอิง 12. ทักษะและความสามารถดา้ นการใชด้ ิจทิ ลั สำหรบั ข้าราชการและบคุ ลากรภาครัฐ ทักษะความเขา้ ใจและการใช้เทคโนโลยดี จิ ติ อล (Digital Literacy) Digital literacy คอื ทกั ษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เปน็ ทกั ษะดา้ นดจิ ิทัลพื้นฐานทจ่ี ะเป็น ตัวช่วยสำคัญ สำหรับข้าราชการในการปฏิบัติงาน การส่ือสาร และการทำงานร่วมกันกับผู้อ่ืนในลักษณะ \"ทำน้อย ได้มาก\" หรือ \"Workless but get more impact\" และช่วยส่วนราชการสร้างคุณค่า (Value Co-creation) และ ความค้มุ คา่ ในการดำเนินงาน (Economy of Scale) เพ่ือการกา้ วไปส่กู ารเปน็ ประเทศไทย 4.0 อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือช่วยให้ข้าราชการ สามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองเพื่อให้ได้รับโอกาสการ ทำงานที่ดีและเตบิ โดกา้ วหน้าในอาชีพราชการ (Learn and Growth) ดว้ ย ทักษะความเข้าใจและใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทลั 4 มติ ิ มติ ิท่ี 1 การใช้ (Use) การใช้ (Use) หมายถึง ความคล่องแคล่วทางเทคนิคที่จำเป็นในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอรเ์ น็ต ทักษะและความสามารถที่เก่ียวข้องกับคำว่า \"ใช้\" ครอบคลุมต้ังแต่พ้ืนฐานการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมประมวลผลคำ (Word processor) เว็บเบราว์เซอร์ (Web browser อีเมล และเครื่องมือส่ีอสาร อ่ืนๆ สู่เทคนิคขั้นสูงขึ้นสำหรับการเข้าถึงและการใช้ความรู้ เช่น โปรแกรมท่ีช่วยในการสืบค้นข้อมูล หรือ เสิร์ชเอ็นจ้ิน (Search engine) และฐานข้อมลู ออนไลน์รวมถงึ เทคโนโลยที ีเ่ กิดใหม่ เชน่ Cloud computing Office มิติที่ 2 เข้าใจ (Understand) เข้าใจ (Understand) คือ ชุดของทักษะที่จะช่วยผู้เรียนเข้าใจบริบทและประเมินส่ือดิจิทัล เพื่อให้ สามารถตัดสินใจเก่ียวกับอะไรที่ทำและพบบนโลกออนไลน์เป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นจะต้องเร่ิมสอนให้เร็วที่สุดเท่าที่ ผู้เรียนจะเข้าสู่โลกออนไลน์ เข้าใจถึงการตระหนักว่าเทคโนโลยีเครือข่ายมีผลกระทบต่อพฤติกรรมและมุมมองของ ผูเ้ รียนอยา่ งไร มผี ลกระทบตอ่ ความเชอ่ื และความรูส้ ึกเกีย่ วกบั โลกรอบตัวผเู้ รยี นอย่างไร มติ ทิ ่ี 3 การสรา้ ง (Create) การสร้าง (Create) คือ ความสามารถในการผลิตเน้ือหาและการส่ือสารอย่างมีประสิทธิภาพผ่าน เครื่องมือส่ือดิจิทัลที่หลากหลายการสร้างส่ีอดิจิทัลเป็นมากกว่าแค่การรู้วิธีการใช้โปรแกรมประมวลผลคำหรือการ เขียนอีเมล แต่มันยังรวมความสามารถในการดัดแปลงส่ิงท่ีผู้เรียนสร้างสำหรับบริบทและผู้ชมที่แตกต่างและ หลากหลายความสามารถในการสร้างและส่ือสารด้วยการใช้ Rich media เช่น ภาพ วิดีโอ และเสียง ตลอดจน ความสามารถในการมีส่วนร่วมกับ Web 2.0 อย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบ เช่น Blog การแชร์ภาพและวิดีโอ และ Social media รูปแบบอ่นื ๆ มติ ิท่ี 4 การเขา้ ถงึ (Access) การเขา้ ถึง (Access) คือ กรเขา้ ถงึ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยดี ิจทิ ลั และข้อมูลข่าวสาร เป็นฐาน รากในการพัฒนา การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต้องเข้าใจอินทอร์เน็ตและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตด้วย ช่องทางตา่ ง ๆ รวมถงึ ขอ้ ดขี ้อเสียของแตล่ ะช่องทางได้ เพ่อื ใหส้ ามารถใช้ Search Engine ค้นหาขอ้ มูลทีต่ ้องการจาก อนิ เทอรเ์ น็ตไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ
- 11 - 13. เทคนคิ การจัดประชุมสัมมนา ความสำคญั ของการประชมุ 1. เป็นกลไกการบริหารองค์กร 2. เป็นชอ่ งทางส่ือสารภายในองค์กร 3. เป็นเครือ่ งมือของนกั บริหารอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 4. เปน็ แนวทางสรา้ งความมสี ่วนรว่ ม 5. เปน็ กลไกการรวบรวมและกระจายข้อมูล 6. เป็นเครอ่ื งมือวดั และติดตามงาน เป้าหมายของการประชุม 1. แจ้งขอ้ มลู ใหส้ มาชกิ ทราบ 2. ปรึกษาหารือข้อคดิ เหน็ 3. พิจารณาหาแนวทางแกป้ ัญหา 4. หาขอ้ สรปุ และแนวทางใหม่ ๆ 5. แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ 6. วางแผนและมอบหมายงาน 7. ปรบั ปรุงและพัฒนางาน องค์ประกอบของการประชุม 1. วาระการประชุม 2. สถานท่ีประชมุ 3. ประธานการประชมุ 4. สมาชิกผเู้ ข้าร่วมประชมุ 5. เลขานุการ 6. รายงานการประชมุ ขน้ั ตอนการประชุม 1. การสรา้ งความสำคญั ในการประชมุ 2. การเริ่มประชมุ 3. การดำเนนิ การประชุม 4. การแสดงความคดิ เห็น 5. การสรุปและปิดประชุม ทกั ษะสำคญั ในการบริหารการประชุม 1. การวางแผนจดั เวลาการประชมุ 2. การส่อื สารและการโน้มน้าวใจ 3. การฟังและจบั ประเด็น 4. การบรหิ ารความขัดแยง้ 5. การสร้างบรรยากาศ 6. การแสดงความคดิ เหน็ รายละเอยี ดเพ่ิมเตมิ
- 12 - 14. การบรหิ ารสัญญาและการตรวจรับพัสดุ การลงนามในสญั ญาจะกระทำได้เมื่อพ้นระยะเวลาอธุ รณ์ ในกรณที ่ีมีผยู้ น่ื ข้อเสนอและผ่านการ พิจารณาเพียงรายเดียว และเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกใหเ้ ข้าเปน้ คูส่ ญั ญา ใหห้ นว่ ยงานของรฐั ลงนามในสัญญาได้ โดยไม่ ต้องให้ล่วงพ้นระยะเวลาอุทธรณ์ (ด่วนท่สี ดุ ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 453 ลว. 28 พ.ย. 60) การทำสัญญา ทำสญั ญาตามแบบท่ีคณะกรรมการน โยบายกำหนด โดยความเหน็ ชอบของสำนกั งานอัยการสงู สุด คณะกรรมการวินิจฉัยปญั หาการจัดซอื้ จัดจ้างและการบรหิ ารพัสดภุ าครฐั กำหนดใหร้ ะหว่างท่ณี ะกรรมการน โยบาย ยงั ไม่ ไดก้ ำหนดแบบสญั ญา ให้ใชแ้ บบสญั ญาตามระเบียบเดิม (ระเบยี บ มท.) ไปก่อน (ดว่ นทสี่ ุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ 418 ลว 3 พย 60) การทำใบสงั ซ้ือหรือใบส่ังจา้ งแทนการทำสัญญา ตาม พ.ร.บ. มาตรา 96 1. การจดั ซือ้ จดั จ้างโดยวธิ คี ัดเลอื กตาม ม.56 (1) (ค) การจัดซ้อื จัดจ้างโดยวธิ ีเฉพาะเจ าะจง ตาม ม.56 (2) (ข)(ง) หรือ (ฉ) การจ้างทีป่ รึกษาโดยวิธเี ฉพาะเจ าะจง ตาม ม.70 (3) (ข) 2. การจดั ซ้อื จดั จา้ งจากหน่วยงานของรัฐ 3. กรณีท่คี ่สู ัญญาสามารถส่งมอบครบถ้วนไดภ้ ายใน 5 วนั ทำการ 4. การเช่าที่ผู้เชา่ ไม่ตอ้ งเสียเงินอื่น ใดนอกจากค่าเชา่ 5. กรณีอน่ื ตามท่คี ณะกรรมการน โยบายประกาศ หลกั ประกันสัญญา (1) เงนิ สด (2) เชค็ หรอื ดราฟท์ทีธ่ นาคารเซ็นสัง่ ฉ่าย (3) หนังสอื คำ้ ประกันของธนาคารภายในประเทศ (4) หนงั สอื คำ้ ประกนั ของบรรษัทเงนิ ทนุ อุตสาหกรรมแหง่ ประเทศไทย (5) พันธบตั รรฐั บาลไทย 15. ความรูเ้ กย่ี วกับ พ.ร.บ.การจดั ซอื้ จัดจา้ งและการบริหารพัสดุภาครัฐ หลกั การจดั ซ้ือจัดจา้ ง 1. คมุ้ ค่า มีลกั ษณะตอบสนองวตั ถุประสงค์การใช้งานและมรี าคาเหมาะสม 2. โปรง่ ใส เปิดเผยข้อมลู เปดิ โอกาสให้แข่งขันอย่างเปน็ ธรรมมีระยะเวลาเพียงพอต่อการยน่ื ขอ้ เสนอ 3. มีประสิทธิภาพ วางแผนการจัดซ้อื จัดจ้าง มีการกำหนดเวลาท่เี หมาะสมและมีการประเมนิ ผล 4. ตรวจสอบได้ เกบ็ ข้อมลู อย่างเป็นระบบเพ่ือการตรวจสอบ วิธกี ารซื้อหรือจ้าง 1. วิธปี ระกาศเชญิ ชวนท่ัวไป แยกออกเป็น - วิธตี ลาดอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ - วิธีประกวดราคาอเิ ล็กทรอนิกส์ - วธิ ีสอบราคา 2. วิธีคัดเลอื ก เงอ่ื นไข มาตรา 56 (1) (ก) ใชว้ ิธีประกาศเชญิ ชวนทว่ั ไปแลว้ แตไ่ ม่มผี ยู้ ืน่ ข้อเสนอ หรือข้อเสนอนน้ั ไมไ่ ดร้ บั การคัดเลือก (2) พัสดุที่ต้องการจัดซื้อจัดจ้างมีคุณลักษณะเฉพาะเป็นพิเศษหรือซับซ้อนหรือต้องผลิตจำหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการโดยผู้ประกอบการท่ีมีฝีมือโดยเฉพาะ หรือมีความชำนาญเป็นพิเศษหรือมีทักษะสูง และ ผู้ประกอบการน้นั มีจำนวนจำกัด
- 13 - (ค) มีความจำเป็นเร่งดว่ นทต่ี ้องใช้พสั ดนุ ้ันอนั เน่ืองมาจากเกดิ เหตกุ ารณท์ ่ีไม่อาจคาดหมายได้ซง่ึ หาก ใชว้ ิธปี ระกาศเชิญชวนทวั่ ไปจะทำให้ไมท่ ันต่อความต้องการใช้พัสดุ (ง) เป็นพัสดุทโ่ี ดยลกั ษณะของการใช้งาน หรอื มขี ้อจำกดั ทางเทคนิคทจี่ ำเป็นตอ้ งระบุยหี่ อ้ เปน็ การเฉพาะ (จ) เป็นพัสดุท่ีจำเป็นต้องซ้ือโดยตรงจากต่างประเทศ หรือดำเนินการโดยผ่านองค์การระหว่าง ประเทศ (จ) เป็นพัสดุท่ีใช้ในราชการลับ หรือเป็นงานที่ต้องปกปิดเป็นความลับของหน่วยงานของรัฐหรือท่ี เกี่ยวกับความมน่ั คงของประเทศ (ฉ) เป็นงานจา้ งซอ่ มพสั ดุท่จี ำเป็นต้องถอดตรวจ ใหท้ ราบความชำรุดเสยี หายเสียกอ่ นจงึ จะประมาณ คา่ ซอ่ มได้ เชน่ งานจ้างซ่อมเครือ่ งจักร เครื่องมอื กล เคร่ืองยนต์ เครอื่ งไฟฟ้าหรือเคร่ืองอิเล็กทรอนิกส์ (ช) กรณีอื่นตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง 3. วธิ เี ฉพาะเจาะจง เง่ือนไข มาตรา 56 (2) (ก) ใช้ท้ังวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปและวิธีคัดเลอื ก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้วแต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอ หรือ ข้อเสนอน้ันไมไ่ ดร้ บั การคัดเลอื ก (ข) การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุท่ีมีการผลิต จำหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการท่ัวไป และมีวงเงินในการ จดั ซอ้ื จดั จ้างคร้งั หนง่ึ ไมเ่ กินวงเงินตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง (ไม่เกนิ 500,000 บาท) (1) การจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุที่มีผู้ประกอบการซ่ึงมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว หรือการจัดซ้ือจัด จา้ งพสั ดุจากผ้ปู ระกอบการซ่ึงเปน็ ตัวแทนจำหน่ายหรอื ตวั แทนผู้ใหบ้ ริการโดยชอบด้วยกฎหมายเพียงรายเดยี วใน ประเทศไทยและไมม่ ีพัสดอุ ่นื ท่ีจะใชท้ ดแทนได้ (ง) มีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เน่ืองจากเกิดอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติ หรือเกิด โรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปหรีอวิธีคัดเลือก อาจกอ่ ใหเ้ กิดความลา่ ขา้ และอาจทำให้เกดิ ความเสยี หายอยา่ งรา้ ยแรง (จ) พัสดุท่ีจะทำการจัดซื้อจัดจ้างเป็นพัสดุที่เก่ียวพันกับพัสดุท่ีได้ทำการจัดซ้ือจัดจ้างไว้ก่อนแล้ว และมคี วามจำเปน็ ต้องทำการจดั ซือ้ จดั จา้ งเพิ่มเติมเพื่อความสมบรู ณห์ รอื ต่อเน่ืองในการใช้พัสดนุ ัน้ โดยมูลค่าของพัสดุ ทท่ี ำการจดั ซ้ือจดั จา้ งเพิ่มเติมจะต้องไมส่ ูงกวา่ พสั ดุทไี่ ด้ทำการจัดซ้อื จัดจา้ งไวก้ ่อนแล้ว 16. เทคนิคการพดู และนำเสนออยา่ งมีประสิทธิภาพ การพดู คอื อะไร การพดู คือการส่ือสารความคิดจากผู้พดู ไปส่ผู ้ฟู ัง โดยอาศยั น้ำเสียง ภายา และกริ ยิ า ท่าทาง เปน็ ส่อื การพดู เป็นทง้ั ศลิ ปะและวทิ ยาศาสตร์อยู่ในตัวของมันเอง หมายความวา่ ส่วนหน่ึงของการพดู ต้องอาศัย ความสามารถฉพาะตวั และอีกส่วนหน่งึ กม็ ีกฎเกณฑ์สำหรับปฏิบตั ิและถ่ายทอดสู่กันได้ คณุ สมบตั ขิ องผพู้ ูดและอ่านออกเสียงท่ีดี 1. มีเสยี งไพเราะ แจ่มใส ไมแ่ หบแหง้ 2. ถูกตอ้ ง ชดั เจนตามอักขรวิธี ลีลาและวรรคตอน 3. ไมพ่ ดู ติดอ่าง 4. เตรยี มตวั ดี ฝกึ ซอ้ มตนเองตลอดเวลา 5. เชอื่ มั่นตัวเอง ไหวพรบิ ดี 6. ตรงต่อเวลา รับผิดขอบต่อหนา้ ท่ี 7.มีความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ 8. วสิ ัยทศั นก์ วา้ งไกล ยอมรับฟังผอู้ ่นื 9. ไม่ดถู กู ผู้ฟัง 10. มีจริยธรรม
- 14 - บคุ ลกิ ภาพภายในสำหรับผู้พูด (INTERNAL PERSONALITY) 1. ความเชื่อมั่นในตนเอง (SELF-CONFIDENCE) 2. ความกระตือรอื ร้น (ENTHUSIASM) 3. ความจรงิ ใจ (SINCERITY) 4. ความคิดริเร่มิ (CREATIVITY) 5. ความรอบรู้ (KNOWLEDGE) 6. ความสงั เกตจดจำ (MEMORY) 7. อารมณข์ นั (SENSE OF HUMOUR) ขอ้ บกพรอ่ งทว่ั ไปในการพดู 1. พูดยาวเกนิ ไป 6. พดู เออ้ -อ้า 2. พดู เร็วเกินไป 7. พูดไทยคำ ฝรัง่ คำ 3. พดู ช้าเกินไป 8. พูดไทยไมช่ ัด 4. พูดคอ่ ยเกินไป 9. พูดคำย่อมากเกินไป 5. พูดติดอ่าง 10. พูดแสลงมากไป 17. หลกั และวธิ ีปฏิบัติงานรัฐพธิ ี พระราชพิธี หมายถึง งานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดไว้ เป็นประจำตามราชประเพณี พระราชพิธี แบง่ เปน็ 2 ประเภท 1. พระราชพธิ ีประจำ คือ งานทกี่ ำหนดไว้ประจำปโี ดยพระมหากษตั รยิ ์จะเปน็ ผู้กำหนด 2. พระราชพิธพี ิเศษ คือ งานพระราชพธิ ีที่จัดขึน้ นอกเหนือจากพระราชพิธปี ระจำปี รัฐพิธี หมายถึง งานท่ีรัฐบาลกราบบังคมทูลขอพระมหากรุณาให้ทรงรับไว้เป็นงานรัฐพิธีมี หมายกำหนดการที่กำหนดไวเ้ ป็นประจำ ซ่งึ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธาน ในพธิ หี รือทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้มีผแู้ ทนพระองค์เสดจ็ พระราชดำเนินไปเปน็ ประธาน รฐั พธิ ี แบ่งไดเ้ ปน็ ๒ ประเภท ดงั น้ี รัฐพิธปี ระจำ คอื งานรัฐพิธที ี่กำหนดไวเ้ ป็นประจำปี รัฐพธิ ีพเิ ศษ คือ งานรฐั พธิ ปี ระกอบขน้ึ นอกเหนือจากรฐั พิธีประจำปี พระราชพธิ ตี า่ งจากรัฐพธิ ีอย่างไร พระราชพธิ ี พระมหากษัตริย์ จะเปน็ ผ้ทู รงกำหนด รฐั พิธี รัฐบาลจะเปน็ ผกู้ ำหนด พิธี หมายถึง งานท่ีผู้ใดก็ตามสามารถจัดขึ้นตามลัทธิตลอดจนแบบอย่าง ธรรมเนียม ประเพณีการ ปฏิบัติของในแต่ละสังคมหรือท้องถิ่นพิธีสำคัญของพระมหากษัตรยิ ์หรอื รัฐบาลแต่ไม่ไดก้ ำหนดเป็นพระราชพิธีหรอื รัฐ พิธี เช่น พิธรี ับรองพระราชอากันตุกะและพิธรี ับรองผู้นำหรือประมุขต่างประเทศท่ีเดินทางมาเยือนประเทศไทย อย่าง เปน็ ทางการในฐานะแขกของรัฐบาล หมายกำหนดการ เป็นเอกสารแจง้ กำหนดข้ันตอน ของงานพระราชพธิ แี ละรัฐพิธีโดยเฉพาะ ลักษณะของเอกสารจะต้องอา้ งพระบรมราชโองการขึน้ ต้นด้วยข้อความว่า \"นายกรัฐมนตรี หรือเลขาธิการพระราชวัง รบั พระบรมราชโองการเหนือเกล้าฯ ส่งั วา่ \" เสมอไปต้องส่งต้นหมายกำหนดการดงั กลา่ วนี้ เสนนายกรฐั มนตรลี งนาม รบั สนองพระบรมราชโองการเพอื่ ใหเ้ ปน็ พระบรมราชโองการทถ่ี ูกต้องตามรัฐธรรมนูญ รายละเอยี ดเพ่ิมเตมิ
- 15 - 18. หลักการจัดงานดา้ นกิจการสภาทอ้ งถิน่ และการประชมุ สภาท้องถ่ิน กระทรวงมหาดไทย ได้วางระเบียบเกี่ยวกับข้อบังคับการประชุมสภาท้องถน่ิ ขององคก์ ารบรหิ ารส่วน จังหวัดเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลไว้ตาม \"ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยข้อบังคับการประชุมสภา ท้องถ่ิน พ.ศ. 2547 แก้ไขเพ่ิมเติมถงึ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2554\" บทฐานอำนาจ - พรบ.องคก์ ารบรทิ ารสว่ นจังหวัด พ.ศ. 2540 แไขเพิม่ เติมถึง (ฉ.5) พ.ศ. 2562 (ม.26) - พรบ.เทศบาล พ.ศ. 2496 แกไ้ ขเพ่ิมเติมถงึ (ฉ.14) พ.ศ. 2562 (ม.23) - พรบ.สภาตำบลและองค์การบรหิ ารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 แก้ไขเพิ่มเติมถงึ (ฉ.7) พ.ศ. 2562 (ม.52) อำนาจหนา้ ทีข่ องผู้บรหิ ารท้องถน่ิ (๑) กำหนดนโยบายโดยไม่ขดั ต่อกฎหมาย และรับผดิ ชอบในการบรหิ ารราชการขององค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถิ่นใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบงั คับ ข้อบญั ญัติและนโยบาย (๒) สั่ง อนญุ าต และอนุมตั เิ กี่ยวกบั ราชการขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น (๓) แต่งตง้ั และถอดถอนรองผู้บริหารทอ้ งถิ่น ทีป่ รึกษาผู้บริหารทอ้ งถน่ิ และเลขานุการ ผบู้ ริหารทอ้ งถ่นิ (4) วางระเบยี บเพือ่ ใหง้ นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปด้วยความ (๕) รกั ษาการให้เป็นไปตามข้อบญั ญัติทอ้ งถน่ิ (๖) ปฏิบตั หิ นา้ ท่อี ่นื ตามท่ีกฎหมายบัญญัติไวใ้ นกฎหมายจัดตง้ั องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นและ กฎหมายอนื่ อำนาจหนา้ ทขี่ องสภาทอ้ งถิ่น (๑) ควบคุมการบรหิ ารงานของผูบ้ รหิ ารท้องถิ่นให้เปน็ ไปตามกฎหมายนโยบาย แผนพฒั นาองค์กร ปกครองส่วนท้องถน่ิ ข้อบญั ญัติ ระเบยี บและข้อบังคับของทางราชการ (๒) พจิ ารณาและให้ความเหน็ ชอบร่างข้อบัญญัติท้องถ่ิน รา่ งขอ้ บญั ญัตงิ บประมาณรายจ่ายประจำปี และร่างข้อบัญญัติ งบประมาณรายจา่ ยเพ่ิมเตมิ (๓) ให้ความเห็นชอบแผนพฒั นาทอ้ งถ่นิ เพ่ือเปน็ แนวทางในการบรหิ ารกจิ การขององค์กรปกครอง สว่ นท้องถน่ิ (เฉพาะสภา อบต.) การประชุมสภาท้องถิ่น ประกอบด้วย - การประชุมสภาครง้ั แรก - การประชมุ สามัญ - การประชุมวิสามญั การประชุมสภาครั้งแรก (ข้อ ๗)6 - ผวจ. ต้องกำหนดใหส้ มาชิกสภา อบจ. / เทศบาล ประชมุ สภาครง้ั แรก ภายใน 15 วนั นบั แต่ ประกาศผลการเลือกต้งั สมาชิกครบตามจำนวนแล้ว - นอก. ตอ้ งกำหนดให้สมาชกิ สภา อบต. ประชมุ สภาครงั้ แรกภายใน 15 วัน นบั แต่ประกาศผลการ เลอื กตั้งสมาชกิ ครบตามจำนวนแลว้ รายละเอยี ดเพ่ิมเติม
- 16 - 19. กฎหมายปกครองความรบั ผิดทางละเมดิ การกระทำท่เี ป็นละเมิด ป.พ.พ. มาตรา 120 บัญญัติไว้ว่า \"ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอ่ืนโดยผิดกฎหมาย ให้เขาเสียหายจนถึงแก่ชีวติ ก็ดีแก่รา่ งกายก็ดี อนามยั ก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรพั ย์สินหรอื สทิ ธิอย่างหนึ่งอยา่ งใดกด็ ี ท่านว่าผู้ นน้ั ทำละเมดิ จำตอ้ งใช้คา่ สนิ ไหมสนิ ไหมทดแทนเพ่อื การนนั้ \" ประเภทความรบั ผดิ ของรัฐ 1. ความรบั ผิดตามสัญญา 2. ความรบั ผิดทางละเมิด 3. ความรบั ผดิ อย่างอน่ื องค์ประกอบของการกระทำละเมดิ 1. มคี วามเสยี หายเกดิ ขึ้น และกระทำต่อบุคคลอน่ื โดยผิดกฎหมาย 2. เปน็ การกระทำโดยเจา้ หน้าท่ีของรฐั 3. การกระทำของเจ้าหน้าท่จี ะต้องอยู่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ 4. เจา้ หนา้ ทข่ี องรัฐจะต้องรบั ผดิ กรณจี งใจหรอื ประมาทเลินเล่ออย่างรา้ ยแรง ความรับผดิ ชอบทางละเมดิ ของเจา้ หนา้ ที่ 1. ความรับผดิ ทางละเมดิ ของเจา้ หนา้ ที่ตอ่ บุคคลภายนอก 2. ความรบั ผดิ ชอบทางละเมิดของเจา้ หน้าทต่ี ่อหนว่ ยงานขอรฐั รายละเอยี ดเพิ่มเติม 20. หลกั การปฏิบัตติ ามพระราชบัญญตั ขิ ้อมลู ข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 หลักการและเหตุผลของพระราชบัญญตั ขิ ้อมลู ขา่ วสารของราชการ พ.ศ.2540 ในระบอบประชาธิปไตย การให้ประชาชนมีโอกาสกว้างขวางในการได้รับข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับการ ดำเนินการต่าง ๆ ของรัฐเป็นส่ิงจำเป็น เพื่อท่ีประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิทางการเมืองได้โดย ถูกต้องกบั ความเป็นจรงิ อันเป็นการส่งเสริมให้มีความเป็นรัฐบาลโดยประชาชนมากขึ้น สมควรกำหนดให้ประชาชนมี สิทธิได้รขู้ ้อมูลข่าวสารของราชการ ทั้งนี้ เพื่อที่จะปกปักรักษาประโยชน์ของตนประการหน่ึง กับสมควรคุ้มครองสิทธิ สว่ นบุคคลในส่วนที่เกยี่ วข้องกับข้อมูลข่าวสารของราชการไปพรอ้ ม อีกประการหนึ่ง บุคคลและชุมชน ยอ่ มมีสทิ ธิตามรฐั ธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 41 ดังนี้ (1) ได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยงานของรัฐตามท่ี กฎหมายบญั ญัติ (2) เสนอเรือ่ งราวรอ้ งทุกขต์ ่อหนว่ ยงานของรัฐและได้รบั แจ้งผลการพจิ ารณาโดยรวดเร็ว (3) ฟ้องหน่วยงานของรัฐให้รับผิดเน่ืองจากการกระทำหรือละเว้นการกระทำของข้าราชการ พนกั งาน หรอื ลูกจ้างของหนว่ ยงานของรัฐ รธน แห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 ม. 59 บญั ญตั วิ า่ \" รัฐต้องเปดิ เผยขอ้ มลู หรอื ข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหนว่ ยงานของรัฐท่ีมิใชข่ ้อมลู เกย่ี วกับ ความม่ันคงของรัฐหรอื เป็นความลบั ของทางราชการตามที่กฎหมายบญั ญตั ิ และต้องจดั ให้ประชาชนเขา้ ถึงขอ้ มลู หรือ ขา่ วสารดงั กล่าวได้โดยสะดวก
- 17 - เจตนารมณแ์ ห่ง พ.ร.บ.ขอ้ มูลขา่ วสารฯ - กำหนดสทิ ธิไดร้ ขู้ องประชาชนใหแ้ จ้งชดั - ระบบราชการ โปร่งใส ตรวจสอบได้ - ปอ้ งกันการทจุ ริต - ใหป้ ระชาชนมีสว่ นรว่ มในการปกครองสามารถคุ้มครองตนเอง &ใชส้ ทิ ธทิ างเมืองได้ถูกต้อง หลักการของกฎหมาย - การเปดิ เผยเป็นหลัก ปกปดิ เปน็ ข้อยกเวน้ - ให้ความคุ้มครองขอ้ มลู สว่ นบุคคล - \"สทิ ธิรบั รู้\" ไม่ตอ้ งมีสว่ นได้เสยี รายละเอยี ดเพิ่มเติม 21. การปรบั เปล่ียนสู่การเป็นองค์กรดจิ ทิ ลั คำนิยาม ดิจิทัล เทคโนโลยีที่ใช้วิธีการนำสัญลักษณ์ศูนย์และหนึ่ง หรือสัญลักษณ์อื่นมาแทนค่าส่ิงท้ังปวง เพ่ือใช้สร้างหรือก่อให้เกิดระบบต่าง ๆ เพ่ือให้มนุษย์ใช้ประโยชน์ (พ.ร.บ. การบริหารและการให้บริการภาครัฐผ่าน ระบบดจิ ทิ ลั ฯ มาตรา 3) รัฐบาลดิจิทัล การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเคร่ืองมือในการบริหารงานภาครัฐและการบริการ สาธารณะโดยปรบั ปรุงการบริหารจัดการและบูรณาการข้อมลู ภาครฐั และการทำงานใหม้ ีความสอดคลอ้ งและเชือ่ มโยง เข้าด้วยกันอย่างมั่นคงปลอดภัยและมีธรรมาภิบาล เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกในการให้บริการ ประชาชน ในการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐต่อสาธารณชน และสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน (พ.ร.บ. การบริหาร และการใหบ้ ริการภาครฐั ผา่ นระบบดจิ ทิ ลั ฯ มาตรา 3) หนว่ ยงานของรัฐ ราชการสว่ นกลาง ราชการสว่ นภูมภิ าค ราชการสว่ นทอ้ งถ่ิน รัฐวิสาหกิจ องค์การ มหาชน รัฐสภา ศาล องค์กรอิสระตามรฐั ธรรมนูญ องค์กรอัยการ สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และหน่วยงานอิสระของ รัฐ (พ.ร.บ. การบรหิ ารและการใหบ้ ริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัลฯ มาตรา 3) องค์ประกอบของ “องค์กรดิจทิ ัล” - ระบบความคิด (Digital Mindset) - กระบวนการ (Digital Processes) - ทักษะ (Digital Skills) - วฒั นธรรมองคก์ ร (Digital Culture) รายละเอียดเพิ่มเติม
- 18 - 22. การจัดทำงบประมาณของ อปท. ระเบยี บทเ่ี ชอ่ื มโยงกับงบประมาณ - ระเบยี บแผน ข้อ 25 ใหใ้ ช้แผนเปน็ กรอบในการจัดทำงบประมาณ - ระเบียบงบประมาณ ข้อ 22 ให้ใช้แผนเป็นแนวทางในการจดั ทำงบประมาณ - ระเบียบพัสดุ ข้อ 129 การแก้ไขเปล่ียนแปลงสัญญาหรือข้อตกลงท่ีมีผลเพิ่มวงเงินให้ปฏิบัติตาม ระเบียบงบประมาณ - ระเบียบเบิกจ่าย ข้อ 39 งบประมาณปีใดให้เบิกจ่ายได้เฉพาะปีงบประมาณนั้น ข้อ 57 กรณีก่อ หนี้ผูกพันไว้ก่อนสิ้นปีหากเบิกเงินไม่ทัน ให้นายกฯ กันเงนิ ไว้เบิกในปีถดั ไป ข้อ 59 หมวดคา่ ครุภณั ฑ์ ที่ดนิ สิง่ ก่อสร้าง ยงั มไิ ด้ก่อหนี้ ให้กันเงนิ ต่อสภาท้องถน่ิ เงินสำรองจ่าย - ตง้ั ใหเ้ พียงพอต่อการเผชิญเหตุ - ใชเ้ พื่อกรณฉี ุกเฉินท่ีมีสาธารณภัยเกิดขึ้นหรือบรรเทาปัญหาความเดอื ดรอ้ นของประชาชนส่วนรวม เทา่ นัน้ (มท 0808.2/ว 2550 ลว. 21 มิ.ย. 2556) การตงั้ งบประมาณคา่ เบี้ยเล้ียงใหก้ ับ อปพร. - จำเปน็ สงั่ ใช้ อปพร. ตามอำนาจหนา้ ที่ - ตามหลักเกณฑ์ระเบียบเดนิ ทางไปราชการ คา่ ใชจ้ า่ ยในการจัดงาน - มท 0313.4/ว 1347 ลว 19 พฤษภาคม 2541 - เบิกได้ตามงบประมาณท่ีต้ังไว้ เท่าที่จำเป็นและประหยัด (คำนึงถึงฐานะการคลังขององค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ) การตง้ั งบประมาณเพ่ือการชว่ ยเหลือประชาชน - อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อปท. - จัดทำโครงการ บรรจเุ ขา้ แผน - ตั้งคณะกรรมการชว่ ยเหลือ - ปฏิบัตติ ามหลักเกณฑช์ ว่ ยเหลอื สงเคราะห์ที่หนว่ ยงานของรฐั ปฏบิ ัติอยู่ ระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ท่ีพ่ึง พ.ศ. 2552 - ช่วยเหลือด้านการเงนิ หรือสิ่งของเป็นวงเงินในการช่วยเหลือไมเ่ กินคร้ังละ 3,000 บาท/ตดิ ต่อกัน ไมเ่ กิน 3 คร้ัง/ครอบครัว/ปีงบประมาณ พ.ร.บ.แพทยฉ์ ุกเฉนิ พ.ศ. 2551 - มาตรา 31 วรรคสอง ให้ อปท. จดั การระบบการแพทย์ฉกุ เฉนิ ในระดับท้องถน่ิ หรือพน้ื ท่ี - ประกาศสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน เร่ือง หลักเกณฑ์การสนับสนุนการดำเนินงานบริหารจัดการ ระบบการแพทยฉ์ ุกเฉนิ พ.ศ. 2553 สรุปวา่ อปท. สามารถดำเนินการลำเลยี งหรอื ขนสง่ ผู้ป่วยโดยชุดปฏบิ ัติ รายละเอียดเพ่ิมเติม
- 19 - 23. หลกั การปฏิบัตใิ นฐานะผอู้ ำนวยการท้องถนิ่ ผ้บู ริหารที่ดีต้องมี 1. ความรู้ ความเขา้ ใจ 2. ทักษา ความเชีย่ วชาญชำนาญ 3. ทศั นคติ ที่มีต่อองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ปจั จัยทส่ี ำคญั สำหรบั ผ้บู ริหาร 1. ศึกษาวสิ ยั ทัศนข์ ององค์กรให้เขา้ ใจ เพ่ือกำหนดแนวทางการทำงาน 2. สรา้ งความรูค้ วามเขา้ ใจและถ่ายถอดให้กับเพอ่ื นร่วมงานภายใตค้ วามรบั ผิดชอบของเรา 3. ตอ้ งสง่ เสริมให้งานนั้น มีการทำงานร่วมกันเรียกว่าทำงานเปน็ ทีม 4. ผู้บรหิ ารมีลักษณะผู้นำ 5. สง่ เสริมบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ ความรบั ผิดชอบ 6. ในการบริหารงานต้องมคี วามคล่องตัว ประชุมร่วมกัน 7. ลดข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 8. รับฟังความคิดเหน็ จากภายนอก เชน่ ประชาชน ชุมชน กองอน่ื ๆ 9. ใหป้ ระชาชนเขา้ มามสี ว่ นร่วม 10. ร่วมมือกนั ทำงานอยา่ งใกลช้ ดิ 11. แปลงนโยบายนายกมาเป็นงานใหไ้ ด้ กำหนดให้เปน็ รูปธรรม 12. ตดิ ตามและประเมนิ ผล 13. การประชาสัมพันธ์ 24. หลกั การดำเนินงานตามกฎหมายผังเมืองและควบคมุ อาคาร ความสำคัญของการวางแผนพัฒนาเมือง/ชุมชนในเขตปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ 1. การจดั สรรทรัพยากร - พืน้ ทอ่ี นุรักษ์ เช่น ธรรมมชาติ สิ่งทีม่ นษุ ยส์ ร้างข้ึน - พนื้ ที่นำมาพัฒนา 1) ภาครัฐ เชน่ ระบบขนสง่ ระบบสาธารณปู โภค สาธารณปู การ และบริการสาธารณะ 2) ภาคเอกชน เชน่ ทีอ่ ยู่อาศัย เกษตรกรรม อุตสาหกรรม 2. ปญั หาการพัฒนาเมือง - ขาดการกำหนดกรอาบท่ชี ัดเจนในการแบ่งพน้ื ที่ - พ้นื ท่ีพฒั นาขาดการวางแผนในการใช้ที่ดนิ อย่างเป็นระบบ ประเภทหรอื ชนดิ ของผงั เมือง - ผงั ประเทศ - ผงั ภาค - ผังจังหวัดหรือผังโครงสรา้ งจงั หวดั - ผังเมืองรวม - ผงั เมอื งเฉพาะ - ผงั เฉพาะพน้ื ที่ รายละเอยี ดเพ่ิมเตมิ
- 20 - 25. การบริหารความขัดแย้งโดยสนั ติวธิ ี ความขัดแย้ง (Conflict) หมายถึง การไม่ลงรอยกนั /ปนี เกลียว ลกั ษณะที่สำคัญ ดังนี้ - เกดิ ข้นึ เมื่อมีการตดั สินใจ - เกิดข้ึนระหว่างบุคคล เม่ือไมส่ ามารถทำใหท้ ุกคนบรรลุเป้าหมายหรอื ความพึงพอใจร่วมกนั ได้ - เกิดขึ้น เมือ่ แต่ละฝา่ ยมีการรบั รู้/ค่านิยม/ความเชื่อทีแ่ ตกต่างกนั ธรรมชาติหรือจุดกำเนนิ ความขัดแยง้ คอื ไมเ่ พียงพอ หรือขาดแคลน จากลกั ษณะ 3 ประการ ดงั น้ี - การขาดแคลนทรพั ยากรธรรมชาติ - คน/กลุ่มบคุ คลต้องการอำนาจ/หรอื ควบคมุ กิจการ - คน/กลุม่ บุคคลไม่สามารถท่ีจะตกลงกนั ได้ในเร่อื งต่างๆ สาเหตุท่มี นษุ ย์ขัดแย้งกัน แบ่งได้ 3 ประการ - ความคิดเห็น - แนวทางปฏบิ ตั ิ - ผลประโยชน์ ผลประโยชน์แบ่งออกเป็น 1. ผลประโยชนท์ ี่จับต้องได้ 2. ผลประโยชน์ทางจติ ใจ 3. ผลประโยชน์ทางกระบวนการ สาเหตคุ วามขดั แย้งระหว่างบุคคล 1. ความแตกตา่ งกันทางบุคลิกภาพและวฒั นธรรม 2. ความแตกต่างกนั ทางค่านิคม คุณธรรม อุดมการณ์ ปรชั ญา การเลี้ยงดู การศึกษา ศาสนา 3. ความแตกตา่ งกันทางด้านการรบั รแู้ ละประสบการณ์ 4. ความแตกต่างกันทางเป้าหมาย ภูมิหลัง 5. การแข่งขนั เพอ่ื ใหไ้ ด้ทรัพยากรทม่ี ีจำกัด เชน่ คน เงิน ยศ ตำแหน่ง 6. การแข่งขันเร่ืองของผลงาน การพงึ่ พาอาศัยกนั งานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง 7. แรงกดดันจากบทบาทท่ีได้รบั 8. การถกู แทรกแซงทางสถานภาพ ทัง้ แบบทางการและไม่เป็นทางการ กระบวนการของการเกดิ ความขดั แยง้ 1. ก่อนเกิดเหตุ 2. เริ่มการรบั รไู้ ด้ พิจารณาจากสภาพการณแ์ วดล้อม 3. เร่ิมโดยร้สู ึกได้ เช่น ถกู เกลียดชงั ถูกคุกคาม ไม่ไว้วางใจ 4. การกระทำที่แสดงออก เชน่ กา้ วรา้ ว แขง่ ขนั โตเ้ ถยี ง แก้ปัญหา 5. การแกไ้ ขปญั หาหรอื ระงับความขดั แย้ง 6. ผลของการแกป้ ัญหา รายละเอียดเพิ่มเตมิ
- 21 - 26. หลกั การทำนติ กิ รรมและการบรหิ ารสญั ญาท้องถน่ิ วตั ถุประสงค์ของการตรวจร่างสญั ญา 1. เพ่ือใหช้ อบด้วยกฎหมายและระเบยี บ ๒. เพอื่ มใิ หท้ างราชการเสยี เปรียบ ๓. เพอ่ื คมุ้ ครองสาธารณชน ๔. เพือ่ ความเปน็ ธรรม 2. เพอื่ ให้มีความชดั เจน ไม่ขัดแยง้ กนั เอง และตรงตามเจตนารมณ์ของค่สู ัญญา เอกสารทีต่ ้องพจิ ารณา ๑. รา่ งเอกสารประกวดราคา ๒. ร่างสญั ญา 3. เอกสารแนบท้ายสัญญา ประเดน็ กฎหมาย / เทคนคิ / ธรุ กจิ 4. เอกสารอน่ื ๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง ประเภทของสญั ญา - สญั ญาเช่า - สัญญาซอ้ื ขาย - สัญญาจา้ ง - สัญญาจา้ งที่ปรึกษา - สัญญาอนญุ าตให้ใช้สทิ ธิ - สัญญาร่วมดำเนนิ การ (Outsourcer) - สัญญารว่ มองทุน รายละเอียดเพ่ิมเตมิ 27. หลกั การปฏบิ ตั ิตามระเบยี บและวิธปี ฏบิ ตั ิเก่ียวกับการเลอื กตั้งท้องถิ่น สาระสำคัญของ พ.ร.บ. การเลอื กตัง้ สมาชิกสภาท้องถน่ิ หรอื ผู้บริหารท้องถนิ่ พ.ศ. 2562 1. หน้าทแ่ี ละอำนาจการจัดการเลอื กตง้ั ให้ กกต. มีหน้าท่ีและอำนาจในการจัดการเลือกตั้ง ส.ถ./ผ.ถ. ซึ่ง กกต.มีอำนาจมอบหมายให้ อปท. เปน็ ผู้รับผดิ ชอบในการจดั การเลอื กต้งั หรือมอบหมายให้หน่วยงานอ่ืนของรฐั ซง่ึ มิใช่ อปท. ดำเนนิ การแทน 2. กำหนดระยะเวลาการจัดการเลอื กตั้ง - ภายใน 45 วนั นบั แต่วันที่ ส.ถ./ ผ.ถ. ครบวาระ - ภายใน 60 วันนับแต่วันที่ ส.ถ./ผ.ถ. พันจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นนอกจากครบวาระ เช่น เสียชีวิต ลาออก ศาลส่ังให้พน้ จากตำแหนง่ ผกู้ ำกับดูแลสง่ั ให้พ้นจากตำแหนง่ - เว้นแต่กรณี ส.ถ. มีวาระดำรงตำแหนง่ เหลืออยู่ไมถ่ งึ 180 วนั จะไมจ่ ัดให้มกี ารเลือกตั้งกไ็ ด้ 3. การประกาศให้มีการเลอื กต้ัง เม่ือมีกรณีที่ต้องมีการเลือกต้ังให้ ผอ.กต. ท้องถ่ิน โดยให้ความเห็นชอบของ ผอ.กต.จว. ประกาศให้ มีการเลอื กตั้ง การประกาศอยา่ งน้อยตอ้ งมีเรอ่ื ง
- 22 - 1) วันเลอื กตั้ง 2) วันรบั สมคั ร 3) สถานทร่ี บั สมคั รเลอื กตั้ง 4) จำนวน ส.ถ. ทจี่ ะมกี ารเลือกต้ังในแตล่ ะเขตเลอื กตง้ั หรอื ผ.ถ. ในเขตเลอื กตง้ั 5) จำนวนเขตเลอื กต้งั 6) หลักฐานการสมคั รรับเลอื กตัง้ 4. การดำเนินการเลือกต้ัง 1) ผดู้ ำเนนิ การเลอื กตั้งกำหนดให้กวั หน้าพนกั งานส่วนทอ้ งถน่ิ เป็น ผอ.กต.ท้องถิ่น 2) คณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เชน่ กกต.ทอ้ งถ่นิ กปน. จนท.รปภ. 3) เขตเลือกตั้ง หนว่ ยเลอื กตง้ั และที่เลอื กต้งั 4) การรับสมัครเลอื กตัง้ 5) การจัดทำบัญชรี ายชื่อผูม้ ีสิทธิเลือกตั้ง 6) คณุ สมบตั ิและลักษณะต้องห้ามของผูส้ มัครรบั เลือกต้ัง 7) ค่าใช้จ่ายในการเลือกตัง้ ของผู้สมัครรบั เลอื กต้ัง 8) การออกเสยี งคะแนน 9) คา่ ใชจ้ า่ ยในการจดั การเลอื กตัง้ 10) ระยะเวลาการแกเสียงคะแนน 11) การถูกกำจัดสิทธิ เน่อื งจากไมไ่ ปใช้สทิ ธเิ ลือกตงั้ 12) การนับคะแนนและการประกาศผลการเลือกต้ัง 5. การตรวจสอบการเลือกตง้ั ผมู้ ีสิทธิเลือกตั้งผู้สมคั รในเขตเลือกตั้งที่ตนมีสทิ ธิ/สมัครเห็นว่าการเลือกตั้งมไิ ด้เป็นไปโดยสุจริตและ เท่ียงธรรมสามารถยื่นคัดค้านต่อ กกต. ได้ตั้งแต่วันที่ประกาศให้มีการเลือกต้ังจนถึง 30 วันนับแต่วันประกาศผลการ เลอื กตง้ั รายละเอยี ดเพิ่มเตมิ 28. ยทุ ธศาสตร์ นโยบายการส่งเสรมิ และพัฒนาทอ้ งถ่ินรว่ มขับเคล่อื นลงสูพ่ น้ื ที่ ประเทศไทย 4.0 เปน็ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่ Value-Based Economy หรือ เศรษฐกจิ ทขี่ ับเคลือ่ นดว้ ยนวัตกรรม กระบวนทศั น์ในการพัฒนาประเทศ ภายใต้ “ประเทศไทย 4.0” ยทุ ธศาสตร์ชาตภิ ายใน 20 ปี ประเทศทม่ี ง่ั คง่ั มน่ั คง และย่งั ยนื อยา่ งเปน็ รูปธรรม Reform in Action การปฏริ ูปโครงสรา้ งเศรษฐกิจ การปฏริ ูปการวิจัยและการพัฒนา การปฏิรูปการศึกษา ผนึกกำลังของทุกภาคส่วน ภายใตห้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง “ประชารฐั ” “ร้จู ักเติม รจู้ กั พอ และรู้จักปัน”
- 23 - ความสำคญั 3 ประการในการขับเคลอื่ นใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลง - เปล่ยี นจากการผลิตสินค้า “โภคภณั ฑ”์ ไปสู่ “นวัตกรรม” - เปลย่ี นจากการเนน้ ภาคการผลติ สนิ ค้าไปสกู่ ารเน้นภาคบริการมากขึ้น “การผลติ สินคา้ ” ไปสู่ “เนน้ ภาคบริการ” - เปล่ยี นจากการขับเคลอ่ื นประเทศ “ภาคอุตสาหกรรม” ไปสู่ “เทคโนโลยี ความคดิ สรา้ งสรรค์และนวัตกรรม” รายละเอียดเพิ่มเตมิ 29. คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมของนักบริหาร ทศพิธราชธรรม หรือ ราชธรรม 10 คือจริยวัตร 10 ประการท่ีพระเจ้าแผ่นดินทรงประพฤติเป็น หลักธรรม ประจำพระองค์ หรือเป็นคุณธรรมประจำตนของผู้ปกครองบ้านเมือง ให้มีความเป็นไปโดยธรรมและยัง ประโยชน์สขุ ให้เกิดแก่ประชาชนจนเกิดความชน่ื ชมยินดี ซง่ึ ความจรงิ แล้วไม่ได้จำเพาะเจาะจงสำหรับพระเจา้ แผ่นดิน หรอื ผู้ปกครองแผ่นดินเท่าน้ัน บุคคลธรรมดาทเี่ ปน็ ผู้บริหารระดบั สงู ในทุกองค์กรก็พงึ ใช้หลกั ธรรมเหลา่ นี้ พรหมวหิ าร 4 หรือ พรหมวิหารธรรม เปน็ หลกั ธรรมประจำใจเพื่อให้ตนดำรงชีวติ ได้อย่างประเสริฐ และบริสุทธเิ์ ฉกเชน่ พรหม เป็นแนวธรรมปฏบิ ตั ิของผูท้ ป่ี กครอง และการอยู่รว่ มกบั ผู้อ่ืน ประกอบด้วยหลกั ปฏบิ ตั ิ 4 ประการ ไดแ้ ก่ 1. เมตตา คือ ความรักใคร่ ปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข มีจิตอันแผ่ไมตรีและคิดทำประโยชน์ แกม่ นษุ ยส์ ัตว์ทั่วหนา้ 2. กรุณา คือ ความสงสาร คิดช่วยให้พ้นทุกข์ ใฝ่ใจในอันจะปลดเปล้ืองบำบัดความทุกข์ยาก เดอื ดรอ้ นของปวงสัตว์ 3. มุทิตา คือ ความยินดี ในเม่ือผู้อ่ืนอยู่ดีมีสุข มีจิตผ่องใสบันเทิง ประกอบด้วยอาการแช่มช่ืนเบิก บานอยเู่ สมอ ตอ่ สัตว์ท้งั หลายผูด้ ำรงในปกติสุข พลอยยินดีด้วยเมอ่ื เขาได้ดมี สี ุข เจรญิ งอกงามยง่ิ ข้นึ ไป 4. อุเบกขา คอื ความวางใจเป็นกลาง อันจะให้ดำรงอยู่ในธรรมตามที่พิจารณาเห็นด้วยปญั ญา คือมี จติ เรียบตรงเทย่ี งธรรมดุจตาชง่ั ไม่เอนเอียงด้วยรักและชัง พิจารณาเห็นกรรมที่สัตว์ทงั้ หลายกระทำแล้ว อันควรได้รับ ผลดีหรอื ช่ัว สมควรแก่เหตุอันตนประกอบ พร้อมที่จะวนิ ิจฉัยและปฏิบตั ิไปตามธรรม รวมทั้งรู้จกั วางเฉยสงบใจมองดู ในเม่ือไม่มีกิจที่ควรทำ เพราะเขารับผิดชอบตนได้ดีแล้ว เขาสมควรรับผิดชอบตนเอง หรือเขาควรได้รับผลอันสมกับ ความรบั ผิดชอบของตน อคติ 4 หมายถึง วิถีในทางท่ีผิดหรือการดำเนินไปในทางท่ีผิด ทั้งนี้ อันเกิดจากทัศนะหรือความ คดิ เห็นในทางท่ีผิด ซ่ึงต่อมาจงึ ใช้คำให้เข้าใจง่ายเป็น ความลำเอียง หรือความไม่เที่ยงธรรม ประกอบด้วย 4 ประการ คือ 1. ฉันทาคติ คอื ความลำเอียงเพราะชอบพอ 2. โทสาคติ คือ ความลำเอียงเพราะโกรธหรือชิงชงั 3. โมหาคติ คอื ความลำเอียงเพราะหลง หรือ ความลำเอยี งเพราะความเขลา 4. ภยาคติ คอื ความลำเอยี งเพราะกลัว
- 24 - 30. ขอ้ สงั เกตของหน่วยตรวจสอบเพอื่ ความโปร่งใสและมีประสทิ ธภิ าพในการปฏบิ ัติงาน แผนและงบประมาณ มหี ลักสำคญั 2 ประการ 1. การใช้จา่ ยงบประมาณตอ้ งเปน็ ไปตามแผนพฒั นาของหน่วยงานนน้ั ๆ และ 2. ต้องได้รบั อนุมัติจากสภา กรณศี กึ ษา - ใช้งบถกู ตอ้ งตามประเภทหรือไม่ - ผา่ นสภาหรือไม่ การจดั หาพัสดุ 1. ใช้วธิ ไี หน 2. ดำเนินการตามข้ันตอนของ พ.ร.บ.การจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖. ระเบยี บกระทรวงการคลัง การจัดซ้อื จดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ 3. อำนาจหน้าทข่ี อง เจ้าของเร่อื ง เจา้ หนา้ ที่พสั ดุ คณะกรรมการชดุ ตา่ ง ๆ ๆลๆ - กรณศี กึ ษา -ราคามาจากไหน - TOR มาจากไหน - เปน็ ผูม้ อี าชพี จรงิ หรือไม่ ฯลฯ - หากมีการกระทำผดิ ป.อาญา มาตรา ๑๕๗ + พ.ร.บ .ฮั่ว มาตรา ๑๑ ถึงมาตรา ๑๓ การประกาศ 1. ตอ้ งดำเนนิ การตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.การจัดซ้อื จัดจา้ งและการบรหิ ารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖. ระเบยี บกระทรวงการคลงั การจัดซอ้ื จดั อ้างและ การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ และทเี่ ก่ียวข้อง 2. ต้องทราบขั้นตอน เช่น ประกาศร่าง ประกาศประกวดราคา การดำเนินการเก่ียวกับประกาศ ระยะเวลา การเปลี่ยนแปลง แก้ไข ยกเลกิ (ถ้ามี) - ข้อแนะนำ (๑) ใช้ประกาศฯ ประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการพจิ ารณาคุณสมบัติ คณะกรรมการตรวจการจ้าง คณะกรรมการตรวจรับ (๒) กรณีประกาศระบุต้องทำ อะไรบ้างต้องเป็นไปตามนั้น เช่น กำหนดให้นำตัวอย่างมาแสดง (๓) แคทตาล็อค เผ่นพับ ท่ีไม่ใช่ภาษาไทย ให้แปล เปน็ ภาษาไทยดว้ ย (ระบไุ ว้ในประกาศ) การพจิ ารณาคณุ สมบัติ 1. คณะกรรมการฯต้องตึกษาประกาศใหด้ ี เพื่อจะได้ทราบรายละเอยี ดต่างฯ 2. เอกสารต่าง ๆ ของนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาที่เข้าเสนอราคาครบทุกรายการตามที่ระบุใน ประกาศหรือไม่ คำแนะนำ - หนังสอื รับรองผลงานมีการตรวจสอบหรอื ไม่ (พบปลอมบอ่ ย) - หนงั สอื รบั รองผลงานตรงตามลกั ษณะงานหรือไม่ - หนังสือแต่งต้ังตัวแทนจำหน่าย มีเอกสารครบถ้วนหรือไม่ กรณีไม่ใช่ภาษาไทย มีการแปลรับรอง หรอื ไม่ - หลกั ประกัน ซอง สัญญา เบิกเงนิ คา่ จา้ งถ่วงหน้า มีการตรวจสอบหรือไม่ (พบมีการปลอม) ฯลฯ การทำสัญญาและบริหารสัญญา 1. ดำเนินการตามข้ันตอนของ พ.ร.บ.การจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ระเบียบกระทรวงการคลงั การจัดซอื้ จดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖ ข้อควรระมัดระวงั - ตรวจสอบหนังสือสัญญาค้ำประกัน เช่น หนังสือค้ำประกันสัญญาหนังสือค้ำประกันเบิกเงิน ลว่ งหน้า เน่ืองจากมกี รณีปลอมเอกสารดงั กลา่ ว
- 25 - - ตรวจสอบมีการจ้างช่วงหรือไม่ (ผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการตรวจการจ้าง มีหน้าที่ตรวจสอบ การทำงานของผู้รับจ้างนั้นมีการนำงานไปจา้ งชว่ งหรือไม)่ - เบกิ เงนิ ล่วงหนา้ ต้องเป็นไปตามสญั ญาและสอดคลอ้ งกบั งานท่ที ำแลว้ เสรจ็ ในชว่ งเบกิ - ตอ้ งตรวจการจา้ ง จัดทำบนั ทึกให้เป็นปัจจุบัน มิใชท่ ำหลกั ฐานภายหลัง การตรวจรับพสั ดุ ข้อควรระมดั ระวัง - ดูรายละเอยี ดในประกาศประกวดราคาและเอกสารประกอบ - ดรู ายละเอียดในสญั ญา -ของท่ีตรวจรับต้องเป็นไปตามประกาศฯ และสัญญาฯ รายละเอียดเพิ่มเติม 31. การบริหารผลงานและการจัดทำคำรบั รองการปฏิบตั ิราชการ ความหมายของตัวช้ีวดั - ตัวชี้วัด หมายถึง เคร่ืองมือ หรือ ดัชนีที่ใช้ในการวัดความก้าวหน้าของการบรรลุแต่ละเป้าหมาย ซ่ึงจะตอ้ งสามารถวัดผลและกำหนดเปา้ หมายของความสำเร็จได้ (สำนกั งาน ก.พ.ร.) - ตัวชี้วัด หมายถึง ดัชนีช้ีวดั หรือหน่วยวัดความสำเร็จของการปฏิบัติงานท่ีถูกกำหนดข้ึน โดยหนว่ ย ที่วัดควรมีผลเป็นตัวเลขท่ีนับได้จริง และส่ือถึงเป้าหมายในการปฏิบัติงาน เพ่ือความชัดเจนในการกำหนดเป้าหมาย การติดตาม และการประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านในดา้ นต่างๆ (สำนักงาน ก.พ.) ความสำคญั ของการกำหนดตัวช้ีวัด - เป็นเคร่อื งมอื ทใี่ ชใ้ นการติดตามประเมนิ ผลเพ่ือใหก้ ิจกรรมนน้ั บรรลตุ ามแผนและเปา้ หมาย - ทำให้คาดการณ์ล่วงหนา้ ได้ เพื่อแก้ปญั หาหรือวางแผนในอนาคต - ภาครัฐ ใช้ตัวช้ีวัดเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาจัดสรรเงินรางวัล (Bonus) และการพิจารณาจัดสรร สิ่งจูงใจอ่ืนๆ - เปน็ เคร่ืองมอื กระตนุ้ ใหข้ า้ ราชการทำงานอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพอ่ื ผลตอบแทนท่เี ปน็ ธรรม ประเภทของตวั ชี้วดั 1. ตวั ชวี้ ดั เชิงปรมิ าณ (Output) 2. ตัวชวี้ ัดเชงิ คุณภาพ/ขั้นตอนการปฏบิ ัติงาน (Outcome/Milestone) 3. ตวั ชว้ี ดั แบบวัดผลสำเรจ็ /ไมส่ ำเร็จ (Pass/Fail) 4. ตัวชวี้ ดั แบบผสมผสาน (Hybrid) รายละเอียดเพ่ิมเติม
- 26 - 32. จัดทำแผนอตั รากำลงั ของ อปท. แนวทางจัดทำแผนอตั รากำลงั 3 ปี 1. เร่งรดั จัดทำแผนอัตรากำลงั 3 ปี ให้ประกาศมผี ลบังคบั ใช้ต้ังแต่ 1 ต.ค. 2563 2. ให้ความสำคัญกับการกำหนดตำแหน่ง โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับภารกิจ ปริมาณงาน คุณภาพงาน และภาระค่าใชจ้ ่ายด้านการบริหารงานบุคคลของ อปท. 3. ใหก้ ำหนดตำแหน่งเพ่มิ ใหม่เทา่ ทีจ่ ำเป็น โดยถือเปน็ ขอ้ ผูกพันวา่ จะต้องจดั สรรงบประมาณสำหรับ ตั้งเป็นอตั ราเงินเดือนของตำแหนง่ ท่กี ำหนดเพม่ิ ใหส้ อดคล้องกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 4. อปท. ต้องสรรหาบุคคลมาบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งที่กำหนดในแผนอัตรากำลัง 3 ปี โดยเครง่ ครดั 5. กรณี ขรก.สายปฏิบัติ รวมถึงพนักงานจ้าง หากว่าแล้วไม่สรรหาภายใน 1 ปี ให้ ก.จังหวัด พจิ ารณายบุ เลกิ ตำแหน่งนนั้ (หากรายงานให้ กสถ.สรรหา ยบุ มิได้) วตั ถุประสงค์การจดั ทำแผนอัตรากำลัง 3 ปี 1. ใหม้ ีโครงสรา้ งการบรหิ ารและระบบงานทีเ่ หมาะสม ไมซ่ ้ำซอ้ น 2. ให้มีการกำหนดตำแหน่ง และจัดอัตรากำลังให้เหมาะสมกับอำนาจหน้าที่ของ อปท. และ กฎหมายทีเ่ กย่ี วข้อง 3. ให้สามารถตรวจสอบการกำหนดตำแหน่งและการใช้ตำแหน่งว่าเป็นไปอย่างถูกต้องและ เหมาะสมหรอื ไม่ 4. เป็นแนวทางในการวางแผนการใช้จ่ายงบประมาณด้านการบริหารงานบุคคลได้อย่างเหมาะสม ดามที่กฎหมายกำหนด 5. เปน็ แนวทางในการพฒั นาบคุ ลากรของ อปท. ใหเ้ หมาะสม หลักการและเหตุผลของการจัดทำแผนอัตรากำลงั 1. ก.กลาง ประกาศมาตรฐานท่ังไปเก่ียวกับอัตราตำแหน่งและมาตร ฐานกำหนดตำแหน่ง เพื่อให้ ก.จังหวัดพิจารณาการกำหนดตำแหน่งพนักงานส่วนท้องถ่ินว่าจะมีตำแหน่งใด ระดับใด อยู่ในส่วนราชการใด จำนวนเท่าใด โดยให้คำนึงถึง ภารกิจหน้าที่ ความรับผิดชอบลักษณะงานท่ีต้องปฏิบัติ ความยาก กุณภาพงาน และ ภาระค่าใชง้ ่ายดา้ นบุคคล 2. ก.กลาง กำหนดให้ อปท. จัดทำแผนอัตรากำลัง 3 ปี โดยให้เสนอ ก.จังหวัด พิจารณาเห็นชอบ และเมอ่ื ครบรอบระยะเวลาแลว้ ให้ อปท.ดำเนนิ การทำแผนฯ ในรอบถัดไป 33. ระเบียบ มท.ว่าด้วยคา่ ใชจ้ า่ ยเพอื่ ช่วยเหลือประชาชน ขอ้ 3 ในระเบยี บนี้ \"การช่วยเหลือประชาชน\" หมายความวา่ การให้ความช่วยเหลือประชาชนท่ไี ด้รับความเดือดร้อน หรอื ไม่สามารถชว่ ยเหลือตนเองได้ในการดำรงชพี โดยอาจใหเ้ ปน็ ส่งิ ของหรอื จา่ ยเปน็ เงนิ หรอื การจดั บริการสาธารณะ เพ่ือให้การช่วยเหลือประชาชนในระดับเขตพ้ืนทหี่ รอื ท้องถ่ิน ตามอำนาจหนา้ ทขี่ ององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ \"องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ \" หมายความว่า อบจ.เทศบาลและ อบต. \"สาธารณภยั \" หมายความวา่ สาธารณภยั ตามกฎหมายว่าดว้ ยการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย \"การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต\" หมายความว่า การส่งเสริมหรือช่วยเหลือบุคคลให้สามารถ เข้าถึงปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุขในสังคม หรอื ส่งเสริมพัฒนาบุคคลให้มีความรู้สามารถนำไปใช้ใน การพฒั นาคุณภาพชวี ิตให้ดขี ึ้นหรอื ผทู้ ีม่ ชี อ่ื อยใู่ นทะเบยี นเพ่ือสวสั ดกิ ารแหง่ รัฐ ตามมติ ครม. \"โรคตดิ ต่อ\" หมายความว่า โรคติดตอ่ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรคตดิ ตอ่ \"โรคระบาด\" หมายความวา่ โรคระบาดตามกฎหมาว่าด้วยโรคติดต่อ และโรคระบาด ตามกฎหมาย ว่าดว้ ยโรคระบาดสัตว์
- 27 - \"ยา\" หมายความวา่ ยาตามกฎหมายวา่ ด้วยยา \"เกษตรกร\" หมายความวา่ ผูป้ ระกอบอาชพี ปลกู พืช เลี้ยงปศุสตั ว์ เล้ยี งสตั ว์น้ำ และทำนาเกลอื ที่มี รายชื่อเป็นเกษตรกรรายย่อย และได้ข้ึนทะเบียนสมาชิกเกษตรกร หรือสมาชิกในครัวเรือนของผู้ท่ีอยู่ในทะเบียน เกษตรกรุของกรมส่งเสริมการเกษตร หรือเป็นผู้ท่ีมีรายช่ืออยู่ในทะเบียนผู้เลี้ยงสัตว์ ของกรมปศุสัตว์ หรือทะเบียน ผเู้ พาะเลยี้ งสัตว์นำ้ ของกรมประมง “เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย\" หมายความว่า เกษตรกรผู้อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะยากจนมีรายได้ไม่ เพียงพอต่อการเลีย้ งชีพ มชี ีวิตอย่างยากลาบาก ขาดแคลนปจั จยั พน้ื ฐาน (นส. 0808.2/ว 3724 ลว 16 ก.ย.63) หลักการชว่ ยเหลือประชาชน ข้อ 6 กรณีเกิดสาธารณภัยในเขต อปท. ไม่ว่าจะประกาศเขตให้ความช่วยเหลือประสบภัยพิบัติ ฉุกเฉินหรือไม่ก็ตาม อปท.ช่วยเหลือในเบ้ืองต้นโดยฉับพลัน เพ่ือดำรงชีพบรรเทาเดือดร้อนเฉพาะหน้า หรือระงับ สาธารณภัย ไม่ตอ้ งเสนอคณะกรรมการฯ กรณีเพื่อเยียวยาและฟ้ืนฟูหลังเกิดสาธารณภัย หรือการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือการ ป้องกนั ระงับโรคติดตอ่ หรือการช่วยเหลือเกษตรกรผมู้ ีรายได้น้อย ให้เสนอคณะกรรมการใหค้ วามเหน็ ชอบก่อน อปท.ใดมคี วามจำเป็นต้องช่วยเหลอื ประชาชนนอกเหนือจากหลกั เกณฑก์ ารช่วยเหลือตามระเบยี บนี้ ใหข้ อความเหน็ ชอบจาก ปมท. กอ่ น ข้อ 7 กรณีจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนเพ่ือเยียวยาหรือฟื้นฟูหลังเกิดสาธารณภัย ให้ อปท. ดำเนนิ การ (1) กรณีประกาศเขตให้ความช่วยเหลือ ให้รายงานอำเภอหรือจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพจิ ารรานำเงนิ ทดรองราชการ ใหค้ วามช่วยเหลอื (2) กรณีมิได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือ ให้ อปท.เสนอคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือ ไม่เกิน หลกั เกณฑท์ กี่ ำหนดฯ 34. ระเบียบ มท.ว่าด้วยการเบิกคา่ ใช้จา่ ยในการจัดงาน การจัดกิจกรรมสาธารณะ ข้อ 4 บทนยิ าม \"การจัดงาน\" หมายความวา่ การจัดงานตามอำนาจหนา้ ที่ของ อปท. และหมายความรวมถงึ การจัด งานรัฐพิธี งานพิธีการ งานประเพณี ท่ี อปท. จัดเอง หรือจัดร่วมกับ อปท. อ่ืน หรือจัดร่วมกับหน่วยงานของรัฐหรือ หนว่ ยงานอ่นื “จัดกิจกรรมสาธารณะ\" หมายความว่า การจัดกจิ กรรมเพอ่ื ประโยชน์ทั่วไปที่ อปท. ดำเนนิ การตาม อำนาจหน้าที่ หรือกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมเพ่ือสาธารณะประโยชน์ ร่วมกัน เช่น การพัฒนาชุมชน การพัฒนาคุณภาพชีวิต การสาธารณสุขและอนามัย การอนุรักษ์และฟ้ืนฟู ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรมประเพณี ทั้งในกรณี อปท. จัดเอง หรือจัดร่วมกบั อปท. อื่น หรอื จัดร่วมกบั หนว่ ยงานของรัฐหรือหนว่ ยงานอนื่ \"การส่งเสริมกีฬา\" หมายความว่า การดำเนินการเพ่ือให้เด็ก เยาวชน ประชาชนได้ออกกำลังกาย และเล่นกีฬา การจัดให้มีและพัฒนาสถานท่ี อุปกรณ์ในการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา การพัฒนาและส่งเสริม ทกั ษะการกฬี า รวมถึงการจัดการแข่งขนั กีฬา การส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแบ่งขันกีฬา และการพัฒนาการกีฬาเพ่อื การ ท่องเท่ยี วและนนั ทนาการ เพ่อื สร้างมลู คา่ เพ่มิ และส่งเสรมิ เศรษฐกิจของทอ้ งถน่ิ \"กีฬา\" หมายความว่า กีฬาตามที่ คกก. การกีฬาแห่งประเทศไทยประกาศกำหนดชนิดกีฬาที่ สามารถขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมกีฬาได้ รวมถึงกีฬาไทยและกีฬาพ้ืนบ้าน (ชนิดกีฬาตามประกาศการกีฬาแห่ง ประเทศไทยฯ ฉบบั ท่ี 11 ลงวนั ที3่ 0 ตลุ าคม 2563 มีจำนวน 89 ชนดิ )
- 28 - ข้อ 6 การจัดงาน การจัดกิจกรรมสาธารณะ การส่งเสรมิ กีฬา และการแข่งขันกีฬาของ อปท. ให้ต้ัง จา่ ยในข้อบญั ญตั ิ/เทศบัญญตั ิงบประมาณรายจ่ายประจำปี/เพมิ่ เตมิ โดยคำนึงถงึ ความเหมาะสมประโยชน์ท่ีประชาชน ได้รับทางตรงและทางอ้อม สถานะการเงนิ การคลัง (งบดำเนินงาน คา่ ใช้สอย ประเภทรายจา่ ยเกย่ี วเนอื่ งกับการปฏิบตั ิ ราชการทไี่ มเ่ ขา้ ลกั ษณะรายจ่ายงบรายจา่ ยอ่นื ) ขอ้ 9 1. การจัดงานในวนั สำคัญของชาติ ได้แก่ 1) วนั สำคัญทางศาสนา เชน่ วันวิสาขบชู า วนั มาฆบูชา 2) วนั สำคญั ทางประวตั ศิ าสตร์ เชน่ วนั ปิยมหาราช 3) วนั อืน่ ๆ ตามมตคิ ณะรฐั มนตรี เชน่ วันพ่อแหง่ ชาติ วนั แมแ่ หง่ ชาติ วันเด็กแห่งชาติ วันท้องถนิ่ ไทย (นส. ที่ มท 0808.2/ว 5547 ลว 28 ก.ย. 61) 2. การจัดงานประเพณี ได้แก่ 1) งานประเพณชี าติ เชน่ งานวนั ลอยกระทง งานวันสงกรานต์ 2) งานประเพณีของทอ้ งถ่นิ หรอื เฉพาะในพ้นื ที่ของ อปท. ต้องมลี ักษณะและวตั ถุประสงค์การจัด งานตามหลักเกณฑ์ - เป็นกจิ กรรมหรืองานที่จดั ให้มีข้ึนสีบทอดเปน็ ระยะเวลาท่ยี าวนาน - มวี ัตถุประสงค์เพอ่ื ส่งเสริมวัฒนธรรมอนั ดีงาม ความเสยี สละ การมสี ่วนรว่ มและความสามคั คีในหมชู่ น ขอ้ 10 - เป็นกจิ กรรมที่ลักษณะเปน็ ความเช่อื ของสังตบโดยรวม และไม่มีลักษณะเป็นความเช่ือส่วนบุคคล - เปน็ กิจกรรมท่ีกอ่ ให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ประชาชนเปน็ ส่วนรวม - มีสัดส่วนของกลุ่มคนท่ีมีส่วนร่วมในการสืบทอดประเพณีใหพื้นท่ีในระดับจังหวัด อำเภอ เทศบาล และ อบต. พอสมควร (นส. ท่ี มท 0808.2/ว 5547 ลว 28 ก.ย. 61) ขอ้ 11 การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การฉดั งานเพอื่ ประชาสัมพนั ธแ์ หลง่ ทอ่ งเทีย่ วและงาน เทศกาล และประเพณีในท้องถ่นิ การจัดงานแสดงศลิ ปะ วัฒนธรรมประเพณใี นท้องถิน่ โดยมีวัตถปุ ระสงค์เพื่อสง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ ว เผยแพร่และอนุรกั ษศ์ ลิ ปวัฒนธรรมอนั ดีของทอ้ งถน่ิ และสง่ เสริมเศรษฐกิจของท้องถิน่ ใหเ้ บิกคา่ ใช้จ่าย เชน่ เดยี วกบั การจดั งาน ข้อ 12 อปท. อาจจัดกิจกรรมสาธารณเพื่อประโยชน์ของประชาชนและท้องถ่ินในพ้ืนท่ี อปท. ภายใตอ้ ำนาจหน้าท่ี ตามทีก่ ำหนดไว้ในแผนพัฒนาท้องถิ่น เชน่ 1. กจิ กรรมเกย่ี วกับการอนรุ ักษ์ พื้นฟูทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม 2. กิจกรรมเก่ียวกับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถ่ิน ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนยี ม และจารีตประเพณีอนั ดีงามของท้องถ่นิ 3. กิจกรรมเกย่ี วกบั การรณรงป้องกนั ยาเสพตดิ 4. กิจกรรมเกย่ี วกับการปอ้ งกันโรคเละระงับโรคตดิ ต่อ 5. กิจกรรมเกย่ี วกับการสง่ เสรมิ การอยดคำลงั กาย รายละเอียดเพ่ิมเติม
- 29 - 35. แนวทางการเบิกคา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางไปราชการ ค่าใช้จา่ ยในการฝึกอบรมและคา่ เชา่ บ้าน 1. คา่ ใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางไปราชการ ระเบยี บท่เี กี่ยวข้อง - ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ด้วยค่าใชจ้ า่ ยในการเดินทางไปราะการของเจา้ หนา้ ทที่ ้องถิน่ (ฉบบั ท่ี 1) พ.ศ. 2555 (ใช้ปังคับ 23 ธ.ค. 55) (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2558 (ใช้บังคับ 24 มี.ค. 58) (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2559 (มีผลใช้บังคับ 17 ส.ก. 59 (ฉบบั ที่ 4) พ.ศ. 2561 (มผี ลใชบ้ ังคบั 17 ส.ค. 61) หนงั สอื สังการทเ่ี กีย่ วข้อง - หนงั สือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0808.2/ว 2709 ลงวนั ที่ 19 พ.ค. 60 เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์และ หลักฐานประกอบการเบกิ จา่ ยและกรณีหลกั ฐานสญู หาย - หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 0808.2/ว 1797 ลงวันที่ 2 เมษายน 2561 เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางการเบิก คชจ. ในการเดนิ ทางและฝีกอบรม ประเภทการไปราชการ 1. ไปราชการชั่วคราว 2. ไปราชการประจำ 3. การเดินทางกลบั ภูมิตำเนาเดมิ 4. การเดนิ ทางไปราชการตา่ งประเทศ คา่ ใช้จ่ายในการเดินทาง 1. เบ้ียเลย้ี งเดนิ ทาง 2. ค่าเช่าทีพ่ ัก 3. ค่าพาหนะ 4. ค่าใชจ้ ่ายอ่นื ทีจ่ ำเปน็ ต้องจา่ ย 2. ค่าใชจ้ า่ ยในการฝกึ อบรม การฝกึ อบรม - อบรมประชุมสมั มนา (วิชาการ/เชงิ ปฏิบตั กิ าร) - บรรยายพิเศษ ฝกึ ศึกษา ฝึกงาน ดงู าน - มโี ครงการ/หลกั สูตร และช่วงระยะเวลาจัดท่แี นน่ อน - เพ่ือพัฒนาบคุ คล/เพ่มิ ประสทิ ธิภาพการปฏิบัตงิ าน - ไมม่ ีการรับปริญญา/ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ ประเภทการฝกึ อบรม - ประเภท ก เกนิ กึง่ หนึ่ง เปน็ เจา้ หน้าที่ทอ้ งถิน่ ระดบั 9 ขน้ึ ไป - ประเภท ข เกินกง่ึ หนงึ่ เป็นเจา้ หนา้ ทท่ี อ้ งถน่ิ ระดบั 1-8 - ประเภท ค เกนิ กง่ึ หนึง่ ไม่ใชเ่ จา้ หนา้ ทีท่ อ้ งถิ่น กรณี อปท. จดั ฝกึ อบรม 1. อยูใ่ นอำนาจหนา้ ที่ 2. คำนงึ ถึงความคุ้มค่าในการใชจ้ ่ายงบประมาณ 3. ได้นบั อนุมัตจิ ากผบู้ ริหารทอ้ งถิน่ 4. อนมุ ัตเิ ฉพาะผูท้ ่ีปฏบิ ัติหน้าท่เี ก่ยี วขอ้ งหรือเปน็ ประโยชน์แก่ อปท. ตามจำนวนทีเ่ หน็ สมควร
- 30 - ค่าใชจ้ า่ ยทจ่ี ะเบิกได้ 1. การใชแ้ ละตกแต่งสถานท่ี 2. พิธีเปดิ และปดิ 3. คา่ วสั ดุ เครือ่ งเขยี นและอุปกรณ์ 4. คา่ ประกาศนยี บัตร 5. ค่าถ่าย/พิมพ์เอกสารและสงิ่ พิมพ์ 6. ค่าหนังสือสำหรบั ผูเ้ ข้ารับการฝึกอบรม 7. ตดิ ต่อสอื่ สาร 8. คา่ เช่าอุปกรณต์ ่างๆ * เท่าท่จี ่ายจรงิ จำเป็น เหมาะสม ประหยัด* 3. คา่ เช่าบา้ น ระเบียบท่ีเก่ยี วข้อง - ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยวา่ ดว้ ยคา่ เช่าบ้านของช้าราชการสว่ นทอ้ งถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๘ - ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าดว้ ยคา่ เช่าบ้านของข้าราชการส่วนท้องถ่ิน ( ฉบบั ที่ 6) พ.ศ. ๒๕๕๑ (มผี ลใชบ้ งั คับตง้ั แต่วนั ท่ี ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๑) - ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยคา่ เช่าบ้านของข้าราชการส่วนท้องถ่ิน (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙ (มีผลใช้บงั คบั ต้ังแต่วนั ที่ ๑๗ ส.ค. ๒๕๕๙) - ระเบยี บกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยคา่ เช่าบ้านของขา้ ราชการส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ (มผี ลใชบ้ ังคับตงั้ แตว่ นั ที่ ๒๖ ม.ี ค. ๒๕๖๒) การใช้สทิ ธไิ ด้ 3 วธิ ี คือ 1. เบิกค่าเชา่ บา้ น 2. เบกิ ค่าเชา่ ซ้อื 3. นำคา่ ผ่อนชำระเงนิ ก้มู าเบกิ คา่ เชา่ บ้าน การเชา่ บ้าน - จะเช่าอยตู่ ่างท้องทท่ี ที่ ำงานกไ็ ด้ - เช่าบา้ นใครก็ไดร้ วมท้งั พอ่ แม่ พอ่ แมค่ ู่สมรส แต่ต้องเชา่ จริงอย่จู รงิ - ไม่จำเป็นต้องเช่าทั้งหลงั - สัญญาเชา่ ควรทำอยา่ งนอ้ ย 3 ปี การเช่าซือ้ - บา้ นทน่ี ำมาใช้สทิ ธิต้องอยใู่ นทอ้ งทท่ี ท่ี ำงาน - เช่าซอ้ื หรือผอ่ นชำระเงินกู้เพอื่ ชำระคา่ บา้ นกบั สถาบันการเงิน (ตามหนงั สือ ว 5862) - การใชส้ ทิ ธิให้ใชภ้ ายในวงเงนิ หรอื ระยะเวลาอะไรหมดกอ่ นกห็ มดสิทธเิ บิกในท้องถิ่นนั้น - ในท้องถ่นิ ที่หนึง่ เบกิ ไดห้ ลกั แรกหลังเดียว - เวน้ แตห่ ลังแรกเกดิ ภยั พิบัติ รายละเอยี ดเพ่ิมเติม
ภาคผนวก
- 32 - ภาพกจิ กรรมการอบรมหลกั สตู รนักบริหารงานทั่วไป (อำนวยการท้องถนิ่ ระดับตน้ ) รนุ่ ท่ี 90 ระหวา่ งวันท่ี 17 กรกฎาคม – 12 สงิ หาคม 2565 ณ สถาบันพฒั นาบคุ ลากรทอ้ งถนิ่ ตำบลคลองหนง่ึ อำเภอคลองหลวง จงั หวัดปทมุ ธานี ดงู าน บรษิ ัท คราฟ์ท จำกดั อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
- 33 -
- 34 -
- 35 - เย่ียมชม พิพธิ ภณั ฑ์ เจษฎา เทคนคิ มิวเซียม อำเภอนครชัยศรี จงั หวัดนครปฐม
- 36 -
- 37 -
- 38 - ดูงาน ศนู ยก์ ารเรยี นรู้เศรษฐกิจพอเพยี งบา้ นสารภี (ลงุ สชุ ล) อำเภอบางคณฑี จังหวดั สมทุ รสงคราม
- 39 -
- 40 -
- 41 - ดูงาน องคก์ ารบริหารส่วนตำบลนางลี่ อำเภออัมพวา จงั หวัดสมทุ รสงคราม
- 42 -
- 43 – กฬี าเชือ่ มความสมั พนั ธ์
- 44 -
- 45 -
- 46 -
- 47 - สังสรรค์ สนกุ สนาน เพลดิ เพลนิ งานวดั
Search
