คำนำ หนงั สอื เลม่ น้เี ป็นสว่ นหนง่ึ ของรายวชิ าสอ่ื และของเล่นสาหรบั เด็กปฐมวยั
คำนำ หนังสอื เล่มนีเ้ ปน็ ส่วนหนึ่งของรายวิชาสอ่ื และของเล่นสาหรับเดก็ ปฐมวยั จัดทาขนึ้ เพ่อื ให้ นักศกึ ษาหรือพ่อแม่ ผู้ปกครองไดศ้ ึกษา หาความรู้เก่ยี วกบั เดก็ ปฐมวัย มจี ุดประสงค์เพือ่ ใหไ้ ด้เลือก สอ่ื และของเลน่ ใหเ้ หมาะสมกับลูกในแตล่ ะช่วงวัย และยังมโี ยชนข์ องการเลอื กสื่อท่ีดสี าหรบั ลกู ๆ อีกดว้ ย อกี ทง้ั ยงั มีเพลงและคาคล้องจองสาหรับเดก็ ปฐมวัยอีกดว้ ย ผจู้ ัดทาหวังว่าหนงั สอื เลม่ น้ีจะมปี ระโยชน์สาหรบั พอ่ แม่ ผู้ปกครอง หรือนักศกึ ษาทก่ี าลงั หาข้อมลู ที่กาลงั จะเลือกส่ือให้ลกู ๆ หากผู้จดั ทา ผดิ พลาดประการใดขอ อภัยไว้ด้วย ณ โอกาสน้ี ด้วยนะคะ ผ้จู ัดทำ นางสาวสุทธิการนต์ อัปมะโน สาขาการศึกษาปฐมวยั คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม
สำรบญั หน้ำ เรอื่ ง 1 2 สื่อและของเล่นเด็กปฐมวัย 3 หลักการเลอื กสื่อและของเลน่ 3 หลกั การใช้สอื่ วัสดุ – อุปกรณแ์ ละของเล่น 4 ลกั ษณะของเล่น/ส่อื และวัสดุอปุ กรณ์ที่ดี 4 ลกั ษณะท่ีดีส่ือและของเลน่ 5 ประโยชนข์ องส่ือและของเลน่ 6 ของเล่นท่เี หมาะกบั เด็กวยั 0-6 เดอื น 7 ของเล่นเสริมพฒั นาการ ทีเ่ หมาะกบั เดก็ วยั 7-12 เดอื น 8 ของเล่นเสรมิ พฒั นาการ ที่เหมาะกับเดก็ วยั 1-2 ปี 9 ของเลน่ ท่เี หมาะกบั เด็กวยั 2-3 ปี 10 ของเลน่ เสรมิ พฒั นาการ ที่เหมาะกบั ช่วงวัย 4-6 ปี 11 พัฒนาการทางด้านต่างๆในแตล่ ะชว่ งอายุของเด็กปฐมวยั 12 พฒั นาการทส่ี าคัญในแต่ละวยั 13-14 พฒั นาการ 4 ดา้ น 15-16 กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ 17-18 กิจกรรมสรา้ งสรรค์ 19-20 กิจกรรมเสรี / เล่นตามศนู ย์ 21-22 กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ 23-24 กจิ กรรมกลางแจง้ 25-37 เกมการศกึ ษา เพลงและคาคล้องเด็กปฐมวยั อา้ งอิง
1 ส่ือและของเล่นเด็กปฐมวยั สอื่ และของเลน่ จดั เปน็ ปัจจัยทสี่ าคญั ปัจจัยหนึ่ง สภาพแวดลอ้ มหน่ึง ทีม่ ีผลต่อการ ส่งเสริมพัฒนาการเดก็ สอ่ื และของเลน่ แตล่ ะประเภท มีส่วนในการพฒั นาเด็กแตกต่างกนั ไป การเลอื กใช้และผลิต จึงเปน็ สงิ่ สาคัญทพ่ี อ่ แม่ ผู้ปกครอง รวมทัง้ ครู จะมบี ทบาทในการ พจิ ารณาให้เหมาะสมกับพัฒนาการตามวัยของเด็ก และตรงตามวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะ การนาส่อื และของเล่นมาใชป้ ระกอบกิจกรรมการเรียนการสอน ดังน้นั การผลิตสอ่ื และ ของเลน่ สาหรับเดก็ ปฐมวัย จงึ ควรคานึงถึงหลกั การผลิต การเลอื กใชท้ ่ีถกู ต้องตามหลัก วชิ าการ เพื่อให้สามารถส่งเสรมิ พัฒนาการเด็กดา้ นต่างๆ ไดอ้ ยา่ งครบถ้วน
2 หลกั กำรเลือกสอื่ และของเลน่ 1. การเลือกสื่อควรพิจารณาให้มคี วามสัมพันธ์กับเร่ืองทต่ี อ้ งการให้เดก็ ๆได้ เรยี นรู้ เพอื่ ให้ตรงตาม วตั ถปุ ระสงคท์ ไ่ี ด้กาหนดไว้ และสอดคลอ้ งกบั เนือ้ หาอย่างครบถ้วน 2. การนาสอื่ ไปใชใ้ นกิจกรรมหรอื ประสบการณ์ใหเ้ ด็ก ตอ้ งคานงึ ถงึ ผลท่จี ะเกดิ ข้ึน ดังนั้นก่อนนา สือ่ ไปใชใ้ ห้เกิดประสิทธิผล ควรมีการทดลองใชแ้ ละติดตามผลการใช้สอื่ นั้นๆ ก่อน 3. สอ่ื ควรสร้างเสริมความคิดและให้แนวทางในการแกป้ ัญหาได้หลายๆ ด้าน 4. กรณผี ลติ สื่อขน้ึ ใชเ้ อง ควรพจิ ารณาเทคนคิ การผลิตสอื่ น้นั ๆ ว่า ดี หรอื มีความเหมาะสมในการ ใชง้ านมากน้อยแคไ่ หน เช่น สี ขนาด สดั สว่ น ทใ่ี กล้เคียงกบั ความเปน็ จริง 5. สอ่ื ต้องเหมาะสมกบั วัย เพศ ระดับความรู้ ประสบการณ์เดิมของผรู้ ับ 6. การสร้างสอื่ รวมท้ังการใชส้ อ่ื ควรยดึ หลักการตอบสนองความต้องการพน้ื ฐานของมนษุ ย์ อนั ได้แก่ ความต้องการทางกาย ความต้องการความปลอดภยั ความตอ้ งการการยอมรบั ของกลุม่ ความต้องการการยกยอ่ งนับถือ ความต้องการความสาเรจ็ ในชีวติ 7. ควรเลอื กใชส้ ื่อชนิดที่เข้าถงึ และเป็นท่นี ิยมของกลุ่มเปา้ หมาย รวมถึงภาษาที่สามารถส่อื สารให้ เขา้ ใจไดง้ า่ ย นา่ สนใจ และใช้สื่ออยา่ งคมุ้ ค่า 8. สอ่ื นั้นๆ ผรู้ บั ควรรบั รู้โดยผา่ นประสาทสัมผัสทัง้ ห้าใหม้ ากที่สดุ 9. สือ่ ทใ่ี ช้ควรเปน็ สถานการณใ์ นปัจจุบัน ทนั ต่อเหตกุ ารณ์และความกา้ วหนา้ รวดเร็วตรงตาม เปา้ หมาย 10. ควรนาศิลปวัฒนธรรม ประเพณี กจิ กรรม บุคลากร องคก์ ร หรอื ทรัพยากรต่างๆ ในท้องถิ่น มา ใช้เปน็ สอ่ื ใหม้ ากทส่ี ดุ 3
3 หลกั กำรใช้ส่ือ วัสดุ - อุปกรณแ์ ละของเล่น 1. สอ่ื นนั้ ควรสง่ เสริมพฒั นาการเด็กในดา้ นตา่ งๆ ได้แก่ ดา้ นสตปิ ญั ญา,ร่างกาย, สังคม, อารมณ์ และจติ ใจ ซ่ึงอาจแตกตา่ งกนั ไปตามความเหมาะสม 2. เนน้ สอื่ ที่เป็นจรงิ หรอื เป็นส่อื ทีผ่ ลติ จากวัสดธุ รรมชาติ 3. ควรเป็นส่ิงทีใ่ กล้ตวั เดก็ สะดุดตา เร้าความสนใจของเดก็ ไดด้ ี 4. มีความปลอดภยั ไมเ่ ป็นอนั ตรายตอ่ เด็ก 5. สอ่ื นั้นๆ ต้องเหมาะสมตามวยั หรือพฒั นาการเดก็ 6. มขี นาดเหมาะสมกับเด็กแตล่ ะวัย น้าหนกั เบา เด็กสามารถหยบิ จับ เคล่ือนยา้ ยด้วยตนเองได้ สะดวก ลกั ษณะของเล่น/สอื่ และวสั ดุอปุ กรณ์ทีด่ ี 1. สอื่ และวสั ดุอุปกรณ์ต้องเหมาะกบั วัยของเดก็ 2. มีความมนั่ คง แขง็ แรง ปลอดภยั ไมแ่ หลมคม 3. ทาดว้ ยวสั ดุท่ีไมเ่ ปน็ พิษ และไมต่ ิดไฟง่าย ท่ีสาคญั ไม่ควรทาดว้ ยแก้ว เพราะอาจแตกและเปน็ อนั ตรายตอ่ เดก็ ได้ 4. มีการออกแบบที่ดี มีวิธีการใชท้ ี่ไม่ยุ่งยาก 5. มีสสี ันสวยงาม ดงึ ดดู ความสนใจของเด็กได้ดี 6. เรา้ ใจเด็ก ชวนใหค้ ิดคานึง สรา้ งจนิ ตนาการ สง่ เสรมิ ความคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ และการ แก้ปญั หา 7. หาซอื้ ได้ง่ายดว้ ยราคาประหยัด หรือสามารถผลิตขนึ้ ใชเ้ องได้ 8. ผ่านการทดสอบจากผู้ผลติ และไดม้ กี ารทดลองใชก้ ่อนนาไปใช้จรงิ
4 ลกั ษณะของเล่นทด่ี ี 1. ตอ้ งเหมาะสมกบั วัยและความสามารถของเดก็ 2. มีความปลอดภยั แขง็ แรง ทนทาน ปราศจากพิษ ทาความสะอาดไดง้ า่ ย 3. ดึงดดู ความสนใจของเดก็ และเป็นของเลน่ ท่เี ด็กๆทว่ั ไปนยิ มเล่น 4. ไม่จาเปน็ ตอ้ งมีราคาแพง อาจใชว้ ัสดุเหลือใช้ หรือวสั ดใุ นทอ้ งถน่ิ 5. ชว่ ยพัฒนาประสาทสัมผสั และการรบั รู้ของผ้เู ลน่ ได้เหมาะสมตามวยั 6. กระตุ้นใหเ้ ด็กเกิดจนิ ตนาการและความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ 7. ของเล่นที่ดีควรพัฒนาทักษะการเคลอ่ื นไหวในส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย ตั้งแต่ระดับหยาบ จนถงึ การเคลอ่ื นไหวที่ละเอียดเพิม่ ขนึ้ ตามวัย เช่น ตอ่ บล็อก ลากจูงหรือเข็นรถ ขจี่ ักรยาน เลน่ กฬี า เลน่ เครื่องดนตรี เปน็ ตน้ ของเลน่ จึงเปน็ สิ่งสาคญั และเปน็ สง่ิ จาเป็นสาหรบั เด็ก ทผ่ี ใู้ หญ่ ผปู้ กครอง พ่อแม่ ครู และ ผ้เู กย่ี วขอ้ งกบั เดก็ ปฐมวยั ต้องจดั หาของเล่นที่ดี มีคุณภาพ เหมาะสมตามวยั เพือ่ ส่งเสรมิ ให้เดก็ เจริญเติบโตอย่างมปี ระสิทธิภาพ ประโยชนข์ องของเล่น การจดั หาของเล่นให้แก่เดก็ ควรเหมาะสมกบั วัยและพฒั นาการ รวมทงั้ ใหโ้ อกาสเดก็ ได้เล่น ซึ่งเดก็ จะได้รบั ประโยชน์ดังนี้ 1. ของเล่นชว่ ยให้เดก็ ได้ใช้ประสาทสมั ผัสด้านต่างๆ ได้อย่างเตม็ ทีแ่ ละสง่ เสริมพัฒนาการทุกด้าน 2. ของเล่นชว่ ยกระต้นุ ความสนใจ ความอยากรอู้ ยากเห็นของเด็ก 3. ของเลน่ ชว่ ยตอบสนองความตอ้ งการของเดก็ ในการทากิจกรรมตา่ งๆ 4. ของเลน่ ให้โอกาสเดก็ ได้แสดงความรู้สึกนึกคิดของตนเองอยา่ งอสิ ระในการเล่น 5. ของเล่นชว่ ยสร้างเสริมบคุ ลกิ ลักษณะพน้ื ฐานท่ดี ีให้แก่เด็ก และยังช่วยพฒั นาเดก็ ในการเรยี นรู้ การอยู่ร่วมกับผอู้ ืน่ ได้
5 ของเล่นทีเ่ หมำะกบั เดก็ วัย 0-6 เดือน ของเลน่ ท่ีส่งเสรมิ กระตุ้นพฒั นาการ และระบบประสาทสมั ผัส มดี งั นี้ กระตุ้นการมองเห็น เด็กวัยนีจ้ ะชอบมองของที่มสี สี ันและของทีเ่ คลื่อนไหวชา้ ๆ เชน่ โมบายตกุ๊ ตาสี สดใส วสั ดบุ างเบาที่พริ้วตามลมได้ กระตุน้ การฟงั เสียง เชน่ ของเล่นที่เคาะ เขย่าแล้วเกิดเสยี งกรุง๊ กรง๊ิ หรอื เสียงดนตรี กระตนุ้ การใชม้ อื และปาก เดก็ วัยน้ีมักสารวจสิง่ รอบตัวโดยใชม้ อื และปาก เช่น ของเลน่ ที่เป็นยาง นิ่มๆ ทเ่ี ดก็ สามารถเอาเข้าปากไดโ้ ดยเนน้ วสั ดทุ ่สี ะอาดปลอดภัย ต๊กุ ตาผ้านมิ่ ๆ ลกู บอลเล็กสีสดที่ เดก็ สามารถหยบิ จบั ไขว่คว้าได้
6 ของเล่นเสรมิ พฒั นำกำร ทีเ่ หมำะกับเดก็ วัย 7-12 เดือน เด็กวัยนจี้ ะเริ่มเคลื่อนไหวไดเ้ องมากข้นึ และเร่ิมมที กั ษะทางภาษาดขี ้ึน การเลอื ก ของเลน่ ใหเ้ ดก็ วยั น้ียงั ต้องกระต้นุ ระบบประสาทสมั ผัสด้านตา่ งๆ โดยเสริมทกั ษะดา้ นท่ี ซับซ้อนขึน้ สง่ เสริมใหเ้ ดก็ รู้จักผิวสมั ผัสตา่ งๆ มากขึ้น เชน่ ลกู บอลทมี่ ีผวิ สัมผัสนุ่มเรียบหรือเป็นปุ่มๆ ท่ีเดก็ จับหรือขยาได้ สง่ เสริมการใชก้ ล้ามเน้อื และฝกึ การเคล่ือนไหว เชน่ รถลากจงู ของเลน่ ทก่ี ลง้ิ ได้ บลอ็ กไม้ หรอื พลาสตกิ ขนาดใหญท่ ่ีเดก็ สามารถต่อให้สงู หรือหยบิ ใสเ่ ขา้ ออกภาชนะ เพอ่ื ฝกึ ทกั ษะ การใชก้ ลา้ มเนอ้ื มือและขาใหแ้ ข็งแรงขึ้น ส่งเสรมิ สตปิ ัญญา เชน่ หนังสือภาพท่ีมีรูปสตั วส์ สี ดใสอาจเป็นกระดาษแข็ง พลาสตกิ หรือ ผา้ ก็ได้ การสนใจมองภาพ การหัดจบั หดั เปดิ ปิดหนังสอื เปน็ การกระต้นุ พัฒนาการ ทงั้ ดา้ น ภาษาและกลา้ มเนื้อมอื
7 ของเล่นเสริมพัฒนำกำร ทเี่ หมำะกับเดก็ วยั 1-2 ปี วัยนีเ้ หมาะกับของเลน่ ที่เสริมพฒั นาการทางกล้ามเนื้อ การทรงตัว และดา้ นภาษา ส่งเสริมการใชก้ ล้ามเนื้อ การทรงตัว เช่น รถลากจงู เล็กๆ ของเล่นไขลาน แท่งไมห้ รือพลาสตกิ รปู ทรงต่างๆ เพ่ือหยิบ จับ วาง ของเล่นทบ่ี ีบ กด หรือขยาแลว้ มีการเปล่ยี นรูปหรือตาแหน่ง สีไม้ หรอื สีเทยี นเพื่อฝึกหดั จับและขีดเขียนเสรมิ ทักษะกล้ามเนอ้ื มือ สง่ เสริมพฒั นาการทางภาษา เช่น นิทานตามวยั สมุดรูปภาพสตั ว์ ส่ิงของ ฝกึ ให้เด็กเรยี นรชู้ ่ือ ส่งิ ของต่าง ๆ ส่งเสรมิ พัฒนาการสติปญั ญาและการใช้มอื สายตาประสานกนั เช่น กล่องหยอดรปู ทรงต่าง ๆ
8 ของเล่นที่เหมำะกบั เด็กวยั 2-3 ปี เพิ่มทกั ษะการเรียนรู้เรื่องรอบตัว เพ่อื เตรียมพร้อมกอ่ นเข้าโรงเรียน สง่ เสริมการใชก้ ล้ามเนื้อต่างๆ ให้สมั พนั ธแ์ ละคล่องแคลว่ มากขึน้ เชน่ จกั รยานสามลอ้ ซงึ่ เดก็ ตอ้ ง ใช้ทกั ษะการทรงตัว กลา้ มเนื้อมอื ขาที่ประสานกันรวมถงึ การมองเห็นด้วย ลกู ปัดขนาดใหญใ่ ห้เดก็ ฝกึ ร้อย ช่วยฝึกสมาธแิ ละกล้ามเน้อื มือสายตาประสานกนั ส่งเสริมพฒั นาการทางภาษา เช่น นทิ านตามวยั ทีม่ ีเนอื้ เรื่องรูปภาพทนี่ ่าสนใจและมีสสี นั การอา่ น หนงั สือกบั เดก็ ด้วยน้าเสยี งและบรรยากาศท่ีสนุกสนานจะทาให้เด็กไดค้ าศพั ท์ใหม่ๆ มากขน้ึ ส่งผล ดตี ่อพฒั นาการโดยรวมทัง้ ดา้ นการพูดส่ือสารและด้านอารมณ์ของเด็ก สง่ เสริมพัฒนาการสตปิ ญั ญา เชน่ จิ๊กซอ บล็อกไม้ กอ้ นไมส้ แี ละรปู ทรงต่างๆ ให้เด็กเรยี นรู้การ จบั คู่สี รูปทรงต่างๆ และดา้ นการนบั จานวน ส่งเสรมิ จินตนาการและการแก้ปัญหา เช่น ชดุ ของเล่นเลยี นแบบของจริงเพื่อเล่นบทบาทสมมติกับ เดก็ ซง่ึ นอกจากสนกุ แล้วเด็กยังได้เรียนร้คู าศัพท์ใหม่ๆ เพ่ิมในการส่อื สารและบอกความต้องการ ด้วย
9 ของเล่นเสรมิ พฒั นำกำร ทเ่ี หมำะกบั ชว่ งวัย 4-6 ปี เด็กวัยนี้เรียนรเู้ รอื่ งรอบตัวท่กี วา้ งข้ึนและมปี ฏสิ ัมพันธ์กับคนนอกบา้ นมากขึน้ เช่น เพ่อื นทโี่ รงเรียน เพือ่ นบ้าน ส่งเสรมิ การใช้กล้ามเนื้อต่างๆ คล่องแคล่วมากข้ึน เชน่ จกั รยาน สกูตเตอร์ ซึ่งเด็กตอ้ งใช้ ทกั ษะการทรงตวั กล้ามเนื้อมือขาที่ประสานกัน การได้เลน่ เป็นกลุ่มช่วยเด็กเรียนรูท้ กั ษะ ทางดา้ นสังคมด้วย ส่งเสรมิ ความคิดจนิ ตนาการและการแกป้ ญั หาท่ซี บั ซ้อนขึ้น เช่น ชดุ ของเล่นเลียนแบบของ จริงเพือ่ เลน่ บทบาทสมมตกิ ับเดก็ เป็นเรอ่ื งราว เช่น ชดุ ครัว ชุดอุปกรณ์คุณหมอ ชุดเลโก้ สร้างเมือง นอกจากสนุกไดค้ าศพั ทเ์ พมิ่ ในขณะเลน่ เดก็ ยังไดเ้ รยี นรทู้ ักษะวางแผนและการ แก้ปญั หาซึ่งสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจริงได้ในอนาคต
10 พัฒนำกำรทำงด้ำนตำ่ งๆในแต่ละชว่ งอำยุของเด็กปฐมวยั การศึกษาปฐมวัยเปน็ การศึกษาเดก็ อายตุ ้ังแต่แรกเกดิ จนถึง 6ปแี ละเรียนรูเ้ ก่ียวกบั พัฒนาการเด็กความตอ้ งการของเด็ก สอนใหเ้ ด็กเกดิ ความคดิ สร้างสรรค์ฝึกพัฒนาการทง้ั 4 ด้าน เช่น พฒั นาการทางรา่ งกาย พฒั นาการทางดา้ นสงั คม พฒั นาการทางด้านอารมณ์ และพัฒนาการทางดา้ นจิตใจ เดก็ จะเจรญิ เตบิ โตตั้งแต่อยใู่ นครรภก์ ระทั่งหลงั คลอด รา่ งกายและสมองจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในชว่ ง 0-6 ปี แรกของชีวิต ขบวนการที่ทา ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลง คือ การเจริญเตบิ โต และพัฒนาการ พฒั นำกำร หมายถงึ กระบวนการเปลย่ี นแปลงดา้ นวฒุ ิภาวะ (maturity) ของอวยั วะ ระบบต่างๆและตวั บคุ คล ทาให้เพ่มิ ความสามารถของบุคคลใหท้ าหน้าท่ตี า่ งๆได้อยา่ งมี ประสิทธิภาพสูงขน้ึ ทาสง่ิ ทยี่ ากและซับซอ้ นย่ิงข้นึ ได้ ตลอดจนการเพม่ิ ทักษะใหมแ่ ละ ความสามารถในการปรับตัวในภาวะใหม่ของบคุ คลน้ัน พัฒนาการของเดก็ จะแบ่งออกเป็น 4 ด้านดงั นี้ 1. พฒั นาการด้านร่างกาย 2. พัฒนาการดา้ นสติปญั ญา 3. พฒั นาการด้านอารมณ์ 4. พัฒนาการด้านสังคม
11 พัฒนำกำรที่สำคญั ในแต่ละวัย วยั ทำรก (0-2 ป)ี อำยุ 0-6 สปั ดำห์ เด็กมองหนา้ แม่ ทาเสียงในลาคอ ฟงั เสียงคยุ แล้ว ยม้ิ ตอบ อำยุ 4-6 เดือน จาหน้าแม่ได้ สง่ เสยี งอ้อแอ้และยิ้มตามเสียง เด็กสามารถเอือ้ มควา้ จบั สง่ิ ของมาเข้าปาก อำยุ 6-9 เดือน สามารถแยกเสยี งของแม่ได้ เร่มิ แยกแยะความสมั พนั ธ์กบั ผ้อู ื่นได้ชัดเจน เด็กจาหนา้ แม่ได้ เด็กจะแสดงอาการแปลกหน้ากบั ผู้ทไี่ ม่ คุ้นเคย และจะตดิ แม่ เรยี กวา่ กลวั คนแปลกหน้า (Stranger anxiety) อำยุ 9-12 เดือน เดก็ มีความผูกพนั ใกล้ชดิ กับผู้เลย้ี งดู (Attachment)และจะติดผเู้ ล้ียงดู เม่ือต้องแยกจากพ่อแม/่ ผ้เู ล้ยี งดู เดก็ จะรอ้ งไหแ้ ละรอ้ งตาม เม่อื พอ่ แม่ผู้เลย้ี งดูกลบั มา เดก็ จะแสดงความดใี จโผเขา้ หาและเข้ามาคลอเคลีย เดก็ วัยนีจ้ ะเริ่มกลัวการพลัดพราก (Separation anxiety) อำยุ 12-18 เดือน เด็กหัดเดินและชอบสารวจ ระยะนเี้ ดก็ จะกระตือรอื รน้ ทจ่ี ะสารวจ ส่งิ แวดล้อมคน้ หาส่ิงแปลกใหมเ่ ดก็ มกั จะใช้ประสาทสมั ผัสทง้ั ห้าในการสารวจตรวจตรา ดงั นั้นควรระมดั ระวงั สง่ิ ท่ีเป็นอนั ตราย - ในวัยนเี้ ดก็ จะทดสอบสิ่งตา่ งๆ และดูผลของการกระทาต่อสง่ิ แวดล้อม เชน่ ถ้าพอใจเดก็ จะโยนของเล่น ว่าจะตกลงมาอย่างไร ถา้ พอใจเดก็ จะโยนซ้า ถา้ ไม่พอใจเด็กจะหยุดหรอื หาวิธอี ่นื ๆ บางครง้ั เดก็ จะกรดี รอ้ งจะเอาของมาโยนอกี - เดก็ เรมิ่ พดู ได้ เปน็ คาๆอย่างนอ้ ย 10 คา อำยุ 18-24 เดือน เดก็ เรียนรู้ภาษาอย่างรวดเรว็ และจดจาคาศัพท์ไดด้ ี อำยุ 2-3 ปี เด็กเคลอื่ นไหวไดด้ ีข้นึ อำยุ 3-5 ปี พฒั นาการดา้ นรา่ งกายของเด็กวัยนเ้ี ป็นไปอยา่ ง รวดเรว็ โดยเฉพาะเรอื่ งความ สูงและนา้ หนกั การเพิ่มของ น้าหนักเกิดจากการเจริญเติบโตของกระดกู และกล้ามเน้อื ใน ตอนตน้ ของวัยน้ี สดั ส่วนของรา่ งกายเปล่ียนแปลงใกล้เคยี งกับผู้ใหญ่มากขึน้ ทาให้สามารถ กลา้ มเน้ือในการเคล่ือนไหวดขี น้ึ เด็กจึงชอบวิง่ กระโดด ไมห่ ยุดน่ิง การหยิบจับและการ 12
12 พฒั นำกำร 4 ดำ้ น พฒั นำกำรด้ำนร่ำงกำย -เด็กบังคบั กลา้ มเน้ือได้ดขี น้ึ เด็กชอบปีนปา่ ยเตะบอล รักลูกบอล ชอบเล่นในสนาม เด็กสามารถข่ี จักรยานสามลอ้ ได้ พัฒนาการด้านสติปญั ญา - เดก็ เชอื่ วา่ ส่ิงของทกุ อยา่ งมีชวี ิติ (Animism) เด็กชอบเลน่ สมมุตโิ ดยจะเอาต๊กุ ตาตามมาเล่นแลว้ สมมตุ ิ เปน็ พ่อแมล่ กู แสดงท่าป้อนขา้ วลูก อาบนา้ แตง่ ตวั ให้ลูก แสดงเป็นเร่ืองราวเหมือนว่าตุก๊ ตา เป็นสิง่ มชี ีวติ -เด็กเชอื่ ว่าทกุ ส่งิ ในโลกมจี ุดหมาย เด็กมกั ถามว่า “ทาไม” “ทาไมรถจึงว่งิ ” ฯลฯ - เดก็ จะเชอ่ื มโยงปรากฎการณ์ 2 อยา่ งที่เกิดขึ้นพรอ้ มกนั ว่าเป็นเหตแุ ละเป็นผลซึง่ กนั และกนั พฒั นำกำรดำ้ นภำษำ พัฒนาอย่างรวดเรว็ เด็กชอบใชค้ าถาม “น่ันอะไร” “นีอ่ ะไร” “พ่อไปไหน” เด็กสามารถเข้าใจ คาสัง่ งา่ ยๆได้ เด็กอายุ 4 ขวบชอบใชค้ าถาม “ทาไม” พัฒนำกำรด้ำนอำรมณ์ เด็กเรมิ่ มลี ักษณะอารมณแ์ บบผ้ใู หญ่ คือ โกรธ อิจฉา กงั วล กา้ วรา้ ว พอใจ เป็นตน้ เดก็ จะแสดง ความโกรธ ด้วยการกรีดร้อง ดิ้นกบั พืน้ หรือทาร้ายตัวเองแสดงความอจิ ฉาเม่ือมนี ้องใหมเ่ วลาเลน่ สนุกๆกจ็ ะแสดง ความพอใจ แต่เมือ่ ได้ยนิ เสยี งฟา้ ร้องเด็กก็จะกลัว พัฒนำกำรด้ำนสังคม- เด็กสามารถชว่ ยเหลอื ตนเองไดด้ ขี ึ้น อาบนา้ แต่งตัว ใส่รองเท้าเอง บอก เวลาจะถา่ ยได้ ถอดกางเกง เข้าห้องน้าเอง และทาความสะอาดหลังขบั ถ่ายได้ - เด็กเรียนรู้ที่จะ ปฏบิ ัติตัว เพือ่ ให้สงั คมยอมรบั ทาตวั ให้เข้ากล่มุ ได้ รู้จกั ให้ รับ รจู้ กั ผอ่ นปรน รู้จกั แบ่งปัน เด็ก เรยี นร้จู ากคาสอน คาอธิบายและการกระทาของพอ่ แม่ เดก็ รู้สึกละอายใจเม่ือทาผิด เด็กเริม่ รจู้ กั เห็นใจ ผูอ้ ่นื เมือ่ เห็นแมเ่ สียใจเด็กอาจเอาตุ๊กตามาปลอบ เปน็ ตน้
13 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะ หมายถงึ กิจกรรมท่จี ัดใหเ้ ดก็ ได้เคล่อื นไหวส่วนตา่ งๆ ของรา่ ง กายอย่างอิสระ โดยใช้เสยี งเพลง จงั หวะ และทานอง คาคลอ้ งจอง หรือเครือ่ งดนตรีประกอบ การ เคล่อื นไหว เพื่อสง่ เสรมิ ให้เด็กเกดิ จนิ ตนาการความคิดสรา้ งสรรค์ เรียนรูจ้ ังหวะ และควบคุมการ เคลือ่ นไหวของตนเองได้ ลักษณะกำรเคลือ่ นไหว 1. ช้า ได้แก่ การคบื คลาน 2. เรว็ ไดแ้ ก่ การว่งิ 3. นมุ่ นวล ไดแ้ ก่ การไหว้ การบนิ 4. ขงึ ขัง ได้แก่ การกระทบื เท้าดงั ๆ ตีกลอง ดังๆ 5. ร่าเริงมคี วามสุข ไดแ้ ก่ การตบมอื การหัวเราะ 6. เศรา้ โศกเสียใจ ได้แก่ สี หนา้ ท่าทาง ทศิ ทำงกำรเคล่ือนไหว 1. เคลอ่ื นไหวไปข้างหน้า และข้างหลัง 2. เคลื่อนไหวไปขา้ งซ้าย และข้างขวา 3. เคล่ือนตัวข้นึ ลง 4. เคลือ่ นไหวรอบทิศ รูปแบบการเคล่อื นไหว 1. เคลื่อนไหวพน้ื ฐานไดแ้ ก่ การเคลื่อนไหวตามธรรมชาตขิ องเด็กมี 2 ประเภท 1.1 เคล่อื นไหวอยกู่ บั ท่ี ได้แก่ ตบมอื ผงกศรี ษะ ขยิบตา ชนั เขา เคาะเท้า เคล่อื นไหวมือและ แขน มอื และนว้ิ เท้าและปลายเทา้ 1.2 การเคล่ือนไหวเคลือ่ นที่ ได้แก่ คลาน คืบ เดนิ วิ่ง กระโดด ควบมา้ กา้ วกระโดด
14 2. กำรเลยี นแบบมี 4 ประเภท 2.1 เลียบแบบท่าทางสัตว์ 2.2 เลยี บแบบท่าทางคน 2.3 เลียนแบบเครื่องยนตก์ ลไกล และ เคร่อื งเล่น 2.4 เลยี นแบบปรากฏการณธ์ รรมชาติ 3. กำรเคลื่อนไหวตำมบทเพลง ไดแ้ ก่ การเคลื่อนไหวหรือทาทา่ ทางประกอบเพลง เช่น เพลง ข. ไข่ หรือเพลงตามสมยั นิยม เปน็ ตน้ 4. กำรทำท่ำทำงกำยบรหิ ำรประกอบเพลง ไดแ้ ก่ การทาท่าทางกายบรหิ ารตามจังหวะและ ประกอบเพลง หรอื คาคล้องจ้อง 5. กำรเคล่อื นไหวเชงิ สร้ำงสรรค์ ท่าทางข้นึ เองอาจชน้ี าโดยการปอ้ นคาถามเคล่ือนไหวโดยใช้ อุปกรณป์ ระกอบ เช่น ห่วงยาง แถบผ้า บัตรคา รบิ บิ้น ฯลฯ 6. กำรเล่นหรือกำรทำท่ำทำงตำมคำบรรยำย เร่ืองราว ไดแ้ ก่ การเคล่อื นไหวหรือแสดงท่าทาง ตามจนิ ตนาการจากเรื่องราวหรอื คาบรรยายท่ผี สู้ อน เล่า 7. กำรปฏิบัตติ ำมคำสงั่ หรือข้อตกลงไดแ้ ก่ การเคล่อื นไหวหรือทาท่าทาง ตามสญั ญาณตาม คาสงั่ ตามทต่ี กลงไวก้ อ่ นเร่ิมกิจกรรม 8. การฝึกทา่ ทางเป็นผนู้ า ผตู้ ามได้แก่ การเคลื่อนไหวหรือทาท่าทางจากความคดิ สรา้ งสรรคข์ อง เด็กเองแล้วใหเ้ พอ่ื นปฏบิ ัติตามกจิ กรรม
15 กิจกรรมสร้ำงสรรค์ เป็นกิจกรรมที่ช่วยใหเ้ ด็กไดแ้ สดงออกทางอารมณ์ ความรู้สึกความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ โดยใชศ้ ิลปะ เช่น การวาดภาพระบายสี การปนั้ การแกะ ตัด ปะ การ พมิ พภ์ าพ หรอื วิธีอ่ืนๆท่ีเดก็ ไดค้ ิดสร้างสรรคแ์ ละเหมาะสมกับพัฒนาการ เช่น การเป่าสี ป้นั ดนิ น้ามนั เป็นตน้ จดุ ประสงค์ 1.ส่งเสริมความคิดริเร่มิ สร้างสรรค์และจินตนาการ 2.ใหเ้ กิดความสนุกสนาน เพลดิ เพลนิ ผ่อนคลายความเครยี ด 3.สง่ เสริมการใชก้ ลา้ มเน้ือมือ และพัฒนาประสาทสัมพันธร์ ะหว่างมอื กับตา 4.ส่งเสรมิ การปรบั ตัวในการทางานร่วมกับผ้อู ่ืน 5.สง่ เสริมคุณธรรมในดา้ นความอดทน การรอคอย ความรบั ผิดชอบ และความมวี นิ ยั ในตนเอง 6.ส่งเสริมพัฒนาการทางภาษา 7.ฝึกทักษะการสงั เกต การคดิ และการแกป้ ญั หา กิจกรรม 1.จัดโตะ๊ และวสั ดอุ ปุ กรณใ์ ห้พร้อม โดยให้เดก็ รับผิดชอบชว่ ยจัดอปุ กรณ์ 2.สรา้ งบรรยากาศในการทากจิ กรรมใหม้ ีความสดชน่ื แจ่มใส 3.ให้เด็กเสอื กทากจิ กรรมอยา่ งอสิ ระตามความสนใจของตน 4.สร้างขอ้ ตกลงในการเปลี่ยนหมนุ เวยี นทากจิ กรรม 5.แนะนาอปุ กรณว์ ิธใี ช้และคอยดูแลใหค้ าปรึกษาในการทากจิ กรรม 6.เม่อื ทางานเสร็จต้องให้เดก็ เกบ็ วัสดุ เครอ่ื งมอื เครื่องใช้ และนาเสนอผลงานของตน
16 ข้อเสนอแนะ 1. การจัดเตรยี มวสั ดุอปุ กรณ์ ควรพยายามหาวสั ดทุ ้องถน่ิ มาใชก้ อ่ นเป็นอนั ดับแรก 2.ก่อนใหเ้ ด็กทากจิ กรรมต้องอธิบายวธิ ีใช้วัสดทุ ่ถี ูกต้องพร้อมท้งั สาธิตให้ดู 3.เกบ็ ผลงานท่แี สดงความก้าวหน้าของเด็กเปน็ รายบุคคลเพ่อื เปน็ ขอ้ มูลสงั เกตพัฒนาการของเดก็ 4.หากพบวา่ เดก็ คนใดสนใจทากจิ กรรมอย่าเดียวตลอดเวลาควรกระตุ้นเรา้ และจงู ใจใหเ้ ดก็ เปลยี่ น ทากิจกรรมอ่นื บา้ ง
17 กจิ กรรมเสรี / เลน่ ตำมศูนย์ กิจกรรมเสรีเปน็ กิจกรรมที่เปดิ โอกาสใหเ้ ด็กเล่นอิสระตามศูนย์การเรียน ที่จัดไว้ ภายใน ศูนยเ์ ดก็ เล็กเช่น ศนู ยบ์ ลอ็ ก ศูนย์หนงั สอื ศนู ย์ร้านค้า ศนู ย์บ้าน เป็นต้น ศูนยต์ ่างๆเหลา่ นี้เดก็ มี โอกาสเลือกเล่นได้อยา่ งเสรี ตามความสนใจและความต้องการของเด็กท้ังเปน็ รายบคุ คลและเป็น กลมุ่ ยอ่ ย จดุ ประสงค์ 1. สง่ เสริมพฒั นาการกล้ามเนอ้ื ใหญก่ ลา้ มเนอ้ื เล็กและประสานสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมอื กบั ตา 2. ส่งเสริมให้เดก็ พัฒนาความคดิ สร้างสรรค์และจนิ ตนาการ 3. ส่งเสริมให้เดก็ ร้จู กั ปรับตัวอยรู่ ว่ มกับผู้อ่ืนรู้จักรอคอยเอื้อเฟอื้ เผ่ือแผ่ 4. สง่ เสริมใหเ้ ด็กรจู้ กั คดิ วางแผนและตัดสินใจในการทากจิ กรรม 5. ส่งเสรมิ พฒั นาการทางภาษา กิจกรรม 1.แนะนาศูนย์เรยี นใหม่ให้เดก็ รู้จกั และเสนอแนะวธิ ใี ช้เล่นเครื่องเล่นบางชนดิ เช่นแว่นขยายเครอื่ ง ช่ังฯลฯ 2. สรา้ งขอ้ ตงลกในการเล่นรว่ มกัน 3. เปดิ โอกาสให้เดก็ คิดวางแผนตัดสินใจเลือกเล่นอย่างอิสระโดยมคี รูคอยสังเกตพฤตกิ รรมการเล่น พรอ้ มทง้ั ให้คาช้แี นะและชว่ ยเหลือเดก็ ในการเลน่
18 ข้อเสนอแนะ 1.การจัดกิจกรรมควรให้เดก็ เลอื กทากิจกรรมอย่างอสิ ระโดยเลอื กทากจิ กรรมสร้างสรรคอ์ ย่างนอ้ ย 1-2อย่างในแต่ละวนั 2.ขณะเดก็ เลน่ ควรสงั เกตพฤตกิ รรมของเด็กและดแู ลอยา่ งใกล้ชดิ 3.หากศนู ย์ใดมีเดก็ มากเกินไปควรใหเ้ ดก็ มีโอกาสคิดแก้ปญั หาด้วยตนเอง 4.สอ่ื เครอ่ื งเลน่ ในแต่ละศนู ย์ ควรสับเปลี่ยนหรือเพ่ิมเตมิ เป็นระยะเพอ่ื ไมใ่ ห้เด็กเกดิ ความเบ่อื หน่าย
19 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ เปน็ กจิ กรรมที่มุ่งเนน้ ให้เด็กได้พัฒนาทักษะการเรยี นรูฝ้ ึกการทางาน และอยรู่ ว่ มกนั เป็นกลมุ่ ท้งั กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ จุดประสงค์ 1.เพื่อให้เดก็ เข้าใจเนื้อหาและเรือ่ งราวแผนการจัดประสบการณ์ 2.สง่ เสรมิ การใชภ้ าษาในการฟัง พดู และการถา่ ยทอดเร่ืองราว 3.ฝึกความมรี ะเบยี บวินัย มารยาทในการฟัง พูด และลักษณะนิสัยทด่ี ี 4.กล้าแสดงความคิดเหน็ และรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อ่นื กจิ กรรม 1.การสนทนา อภิปราย เป็นกานสง่ เสริมพัฒนาการทางภาษาในการพูด การฟัง รจู้ ักแสดง ความคิดเปน็ และยอมรับฟังความคิดเหน็ ผู้อ่ืน 2.การเลา่ นิทาน เปน็ การเลา่ เร่ืองต่างๆ ส่วนมากจะเป็นเร่อื งทเ่ี น้นการปลกู ฝงั ให้เกิดคุณธรรม จรยิ ธรรม 3.การสาธิต เปน็ การจดั กิจกรรมท่ีตอ้ งการใหเ้ ด็กไดส้ ังเกตและเรียนรู้ตามข้ันตอน 4.การทดลอง/ปฏิบัติ เปน็ กจิ กรรมท่ีจดั ให้เดก็ ไดร้ บประสบการณ์ตรงเพราะไดท้ ดลองปฏบิ ัติด้วย ตนเอง ได้สังเกตการเปลยี่ นแปลง ฝึกการสังเกต การคิดแก้ปัญหา 5.การศกึ ษานอกสถานที่ เปน็ การจัดกิจกรรมท่ีทาให้เดก็ ไดร้ บั ประสบการณ์ตรง ด้วยการพาเดก็ ไป ทัศนศึกษาสงิ่ ตา่ งๆรอบตวั 6.การเลน่ บทบาทสมมุติ เปน็ การให้เดก็ เลน่ สมมตุ ิตนเองเป็นตวั ละครตา่ งๆตามเน้อื เร่อื ง
20 7.การรอ้ งเพลง เล่นเกม ท่องคาคลอ้ งจอง เปน็ การจัดใหเ้ ด็กได้แสดงออกเพื่อความสนกุ สนาน เพลิดเพลิน และเรียนรู้เกี่ยวกบั ภาษาและจังหวะ ขอ้ เสนอแนะ 1.ควรยดึ หลักการจดั กิจกรรมทเ่ี น้นให้เดก็ ได้รบั ประสบการณ์ตรงและมีโอกาสค้นพบดว้ ยตนเองให้ มากที่สุด 2.ในขณะทีเ่ ดก็ ทากจิ กรรมควรใชค้ าถามปลายเปดิ ท่ชี วนใหเ้ ดก็ คดิ 3.ชว่ งระยะเวลาท่ีจดั กิจกรรมสามารถยดื หยุ่นไดต้ ามความเหมาะสมทัง้ นี้ ใหค้ านงึ ถึงความสนใจ ของเด็กและความเหมาะสมของกจิ กรรมนั้นๆ
21 กิจกรรมกลำงแจง้ เปน็ กิจกรรมที่ทาให้เด็กไดม้ โี อกาสออกไปนอกหอ้ งเพือ่ ออกกาลังกาย เคล่อื นไหวรา่ งกาย และแสดงออกอย่างอิสระ โดยยึดความสนใจและความสามารถของ เด็กแตล่ ะคนเป็นหลัก กจิ กรรมกลางแจ้งท่ีควรจดั ให้เดก็ ได้เลน่ เช่น 1. การเลน่ เครอื่ งเล่นสนาม 2. การเลน่ ทราย 3. การเล่นน้า 4. การเล่นสมมติในบ้านจาลอง 5. การเล่นในศนู ย์ช่างไม้ 6. การเลน่ กันอปุ กรณก์ ฬี า 7. การเลน่ เกมการละเลน่ จุดประสงค์ 1.พฒั นากล้ามเนอื้ ใหญ่ กล้ามเน้ือเลก็ และการประสานสมั พันธข์ องอวยั วะตา่ งๆ 2.สง่ เสรมิ ให้ร่างกายแข็งแรงสุขภาพดี 3.ส่งเสริมให้เกิดความสนุกสนาน ผอ่ นคลายความเครียด 4.รู้จกั ปรับตัว เล่นและทางานร่วมกบั ผ้อู น่ื 5.เรียนรกู้ ารระวงั รักษาความปลอดภยั ทัง้ ตนเองและผ้อู น่ื 6.รู้จกั การตดั สินใจและแกป้ ญั หาดว้ ยตนเอง
22 กิจกรรม 1.เดก็ และครรู ่วมสร้างข้อตกลง กติกาในการเล่น 2.จดั เตรยี มวัสดุอปุ กรณป์ ระกอบการเล่นให้พร้อม 3.การสาธติ การเล่นสนามบางชนิด 4.ใหเ้ ด็กเลือกเลน่ อิสระตามความสนใจ 5.ขณะเดก็ เลน่ ครตู อ้ งคอยดแู ลความปลอดภัยและสงั เกตพฤตกิ รรมการเลน่ 6.เมอ่ื หมดเวลาให้เดก็ ชว่ ยเกบ็ ของเขา้ ท่แี ละทาความสะอาดร่างกาย ข้อเสนอแนะ 1.หม่ันตรวจเครอื่ งเล่นสนามและอปุ กรณต์ า่ งๆให้อยู่ในสภาพท่ปี ลอดภยั และใชก้ ารได้อยู่ เสมอ 2.ใหโ้ อกาสเดก็ เลอื กเลน่ กลางแจง้ อยา่ งอิสระทุกวัน 3.ขณะเด็กเล่นครูตอ้ งดูแลอยา่ ใกล้ชิด 4.หลงั เลิกกิจกรรม ควรให้เดก็ ไดพ้ ักผ่อนหรือน่งั พกั
23 เกมกำรศกึ ษำ เป็นเกมการเลน่ ทชี่ ่วยพัฒนาสตปิ ัญญา มีกฎเกณฑ์กตกิ าง่ายๆ สามารถเล่นคนเดยี ว หรือเล่นเปน็ กลมุ่ ได้ ช่วยใหเ้ ดก็ รจู้ ักสงั เกตคิดหาเหตุผลและเกดิ ความคิดรวบยอดเกยี่ วกบั สรี ูปรา่ ง จานวน ฯลฯ จุดประสงค์ 1.สง่ เสรมิ การสังเกตเปรยี บเทียบ 2.สง่ เสริมการประสานสัมพันธ์ระหวา่ งมอื กับดวงตา 3.สง่ เสรมิ การคิดหาเหตผุ ลและตดั สนิ ใจแก้ปัญหา 4.ปลูกฝงั ใหม้ ีคณุ ธรรมตา่ งๆเชน่ ความรบั ผิดชอบ การแขง่ ขัน ฯลฯ กจิ กรรม 1.ในกรณีท่เี ปน็ เกมใหมค่ รคู วรแนะนาหรือสาธิตอธิบายวธิ ีการเล่นเกมให้เด็กทราบ 2.ให้เดก็ หมุนเวียนเข้ามาเล่นเปน็ กล่มุ หรอื รายบุคคลตามความเหมาะสม 3.ขณะเดก็ เล่นครมู หี นา้ ที่เพียงแนะนา 4.เมอ่ื เลน่ เกมแตล่ ะชุดเสร็จแล้วควรฝึกให้เด็กเกบ็ ใหเ้ รยี บรอ้ ย ตวั อยำ่ งเกมกำรศึกษำ 1. เกมจับคู่ - จบั คู่รูปรา่ งทีเ่ หมือนกนั - จบั ค่ภู าพเงา - จับคู่ภาพสมั พันธ์ - จบั คภู่ าพช้ินสว่ นท่ีหายไป - จับคูภ่ าพกบั โครงรา่ งฯลฯ 2. เกมภาพตดั ต่อ (ท่ีสมั พันธก์ บั หนว่ ยการเรียน ) 3. เกมจดั หมวดหมู่ 4. เกมโดมโิ น 5. เกมเรยี งลาดับ
24 ข้อเสนอแนะ 1. การเลน่ เกมการศกึ ษาในระยะแรกควรเริม่ ใชข้ องจรงิ 2. การเล่นเกมในแต่ละวันอาจให้เล่นทั้งเกมชุดใหม่และชุดเก่า 3. อาจใหเ้ ดก็ หมนุ เวียนเลน่ เกมตามความเหมะสม 4. การเลน่ เกมเม่อื เลกิ แล้วควรจดั เกบ็ รวมไวเ้ ปน็ ชุดๆ
25 เพลงและคำคล้องเดก็ ปฐมวัย เพลงในดวงจันทร์ (อำจำรยเ์ ตอื นใจ ศรีมำรุต) มองขน้ึ ไปในท้องฟ้า เห็นดวงจนั ทราสอ่ งแสงนวลใย เม่อื มองจอ้ งไป เหมอื นมีกระตา่ ยอยู่ในดวงจนั ทร์ นทิ านโบราณเล่า จริงหรือเปล่าใครช่วยตอบฉัน บนดวงจนั ทร์นนั้ ยังมีกระตา่ ยไหมเอย เพลงลอยกระทง (สนุ ทรำภรณ์) วนั เพญ็ เดอื นสิบสอง น้าก็นองเต็มตลิ่ง พวกเราท้ังหลายชายหญิง สนกุ กันจริงวนั ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแลว้ ขอเชญิ นอ้ งแกว้ ออกมาราวง ราวงวนั ลอยกระทง ราวงวนั ลอยกระทง บุญจะส่งใหเ้ ราสขุ ใจ บุญจะสง่ ให้เราสุขใจ เพลงวนั เพญ็ เดอื นสบิ สอง (ไมท่ รำบนำมผู้แตง่ ) วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้าก็นองสองฝง่ั เรามาสนุกกนั จัง นั่งเรือเลียบฝั่งมาลอยกระทง มง มง ปะ๊ เท่งมง มง มง ป๊ะ เทง่ มง ของเชิญมาลอยกระทง ของเชญิ มาลอยกระทง คำคล้องจองกระทงนอ้ ย ( ไมป่ รำกฏนำมผูแ้ ตง่ ) กระทงน้อยนอ้ ย ลอยตามนา้ ใส ตง้ั เอาไว้ ถวายแม่คงคา กลางเดอื นสบิ สอง นา้ นองล้นบา่ พวกเราต่างพา กันลอยกระทง
26 คำคลอ้ งจองนำ (นรำธปิ จนั ทรเนตร) นา้ มปี ระโยชนม์ ากมาย กินกไ็ ดช้ าระล้างกด็ ี ทกุ วนั ตอ้ งใช้น้าทุกที ไมม่ ีน้าเราลาบากกาย เราตอ้ งชว่ ยกันรกั ษา น้าทกุ หยดมีคา่ มากมาย หมดนา้ ลงไปเม่อื ไร เราทกุ คนต้องตายแน่นอน เพลง ต้นไม้ ( ศรีนวล รัตนสวุ รรณ ) ต้นไมป้ ลกู ไวอ้ าศัยร่มเงา ส่วนไมด้ อกเราเก็บเอาไวใ้ ช้สอย ไม้ผลปลูกดไี ดเ้ กบ็ ผลกินอร่อย ราตอ้ งคอยหมน่ั บารุงไวไ้ ม่ละเลย เพลง ตน้ ไม้ ตน้ ไม้ใดใดน้นั มีลาต้น บ้างมดี อกผลทุกต้นนน้ั มใี บ สว่ นอยใู่ นดิน ในดนิ นน้ั รากน้อยใหญ่ กิง่ กา้ น แขนงทัว่ ไป ปกปิดใกลไ้ กลใตร้ ่มไมเ้ อย เพลง กงิ่ กำ้ น ใบ ก่งิ ก้าน ใบ ชะ ชะ ใบ กา้ น ก่งิ ฝนตกลมแรงจรงิ ๆ ( ซา้ ) ชะ ชะ กงิ่ ก้าน ใบ คำคล้องจอง ประโยชนข์ องตน้ ไม้ ( กัญญำ เกตุกล่ำ ) ตน้ ไม้น้ีดี และมคี ุณค่า ต่อเราหนักหนา หนจู ๋าจงฟัง ใช้ไมส้ ร้างบา้ น พักผ่อนนอนน่งั นกได้ทารัง อยู่เป็นสขุ เอย
27 เพลงต้นไม้ ตน้ ไม้อ่อนนอนซบสลบหลับ เฝา้ แตน่ ับวนั คอยดว้ ยหงอยเหงา เมื่อฝนโปรยโรยรืน่ ช่นื เบาเบา หายซบเซาชยู อดทอดกิ่งใบ เพลงป่ำแสนสวย ป่าไม้แสนสวย ต้องชว่ ยรกั ษา อยา่ ทาลายปา่ คุณคา่ มากมี ดินน้าพชื สตั ว์ ผกู มดั โลกนี้ รม่ เย็นทกุ ที่ อยู่ดีสขุ สบาย ปริศนำคำทำย อะไรเอ่ย……….. ลกู กนิ ได้ ใบแกร้ ้อนใน ใบออ่ นใชส้ บู ( ต้นจาก ) อะไรเอ่ย……….. เมอื่ เล็กนงุ่ ผ้า เมื่อชราเปลือยกาย ( ต้นไผ่ ) อะไรเอย่ … สงู เยยี่ มเทยี มเมฆ โดกเดก ดนั ด้ิน หนวดเครารกุ ริก ดกุ๊ ดิก๊ โดกเดก ( ตน้ สน ) อะไรเอย่ ……….. ตน้ เทา่ ลาเรือ ใบห่อเกลอื ไม่มิด ( ตน้ มะขาม ) อะไรเอ่ย……….. ใบหยกั ๆ ลกู ทะลักเตม็ คอ มะละกอไมใ่ ช่ ( ตน้ ตาล ) เพลงดวงอำทติ ยจ์ ๋ำ (ไม่ทรำบนำมผู้แต่ง) ดวงเอยดวงอาทติ ยจ์ ๋า ส่องแสงจา้ เวลากลางวัน ยามเย็นจะไปไหนนนั้ ลบั ขอบฟา้ พลนั กลายเปน็ กลางคืน เพลงดวงอำทิตย์ (คณุ หญิงเบญจำ แสงมล)ิ ยามเช้าตรดู่ วงอาทติ ยช์ ดิ ขอบฟา้ ทอแสงจา้ แลสว่างตา่ ง ๆ สี โอห้ นนู ้อยต่นื เถดิ มองดซู ี อาทิตย์ชี้บง่ เวลาว่าเวลากลางวนั
28 เพลงดวงจันทร์ ( คุณหญิงเบญจำ แสงมล)ิ ยามยา่ ค่านา้ คา้ งหยดกระเซน็ ท้องฟา้ เป็นสคี ลา้ ดาอบั แสง ดวงจนั ทร์ค่อยค่อยโผล่หม่เู มฆแซง กระจ่างแจ้งสนี วลชวนดูเอย เพลงยำมเช้ำตรู่ (ศรีนวล รัตนสุวรรณ) ยามเช้าตรู่ อาทิตย์ทอแสงทอง เป็นประกายเรอื งรองผ่องนภ ส่องแสงสวา่ งไปท่ัวแหล่งหล้า บอกเวลาว่ากลางวนั เพลงดวงอาทติ ย์ ดวงจนั ทร์ (คณุ หญิงเบญจา แสงมลิ) ดวงอาทติ ยอ์ ยูก่ ลางวัน ดวงจนั ทร์นัน้ อยกู่ ลางคนื ข้างแรมนั้นเดือนดบั ดวงจนั ทรล์ ับไปทอ่ี ่ืน ตอนเช้าอาทิตยข์ นึ้ ฉนั ก็ตื่นพร้อมกนั คำคลอ้ งจอง จนั ทรเ์ จ้ำเอย๋ (ไมท่ รำบนำมผู้แตง่ ) จนั ทรเ์ จ้าเอ๋ย ขอขา้ วขอแกง ขอแหวนทองแดง ผูกมอื น้องข้า ขอชา้ งขอมา้ ใหน้ ้องขา้ ข่ี ขอเก้าอ้ี ใหน้ อ้ งข้านัง่ ขอเตยี งตง้ั ใหน้ ้องขา้ นอน ขอละคร ให้น้องข้าดู ขอยายชู เลยี้ งนอ้ งขา้ เถดิ ขอยายเกดิ เล้ียงตัวข้าเอง
29 คำคลอ้ งจอง จันทรเ์ จ้ำขำ (สมใจ ทิพยช์ ยั เมธำ) สวัสดีครับ (ค่ะ) พระจนั ทร์เจ้าขา (ข้า) ขอตกุ๊ ตาให้นอ้ งหน่งึ ตัว ขอดอกบวั ใหน้ อ้ งหน่งึ ดอก ขอข้าวตอกใหน้ อ้ งสองถุง ขอผา้ นุ่งให้น้องสองผนื ขอปืนใหน้ ้องสามกระบอก ขอกระรอกให้นอ้ งสามตัว ขอถ่วั ให้น้องสก่ี อง ขอสรอ้ ยทองให้น้องส่เี สน้ ขอรถเข็นใหน้ ้องห้าคัน ขอมะดันใหน้ อ้ งหา้ ผล ขอรถยนต์ให้น้องหกคนั ขอขนั ใหน้ ้องหกใบ ขอกาไลใหน้ ้องเจ็ดคู่ ขอชมพ่ใู หน้ อ้ งเจด็ ถาด ของผักกาดให้น้องแปดต้น ขอนา้ ฝนให้นอ้ งแปดตุม่ ขอกระดุมใหน้ ้องเกา้ เมด็ ขอแหวนเพชรใหน้ ้องเก้าวง ขอกระโปรงให้นอ้ งสบิ ชุด ของมังคดุ ใหน้ อ้ งสบิ ตะกร้า คำคลอ้ งจองฤดูกำล (เบญจพร ทัพน้อย) ฤดูกาลในเมืองไทย แบ่งออกไดส้ ามฤดู รอ้ น ฝน หนาว หนรู ู้ แตล่ ะฤดูไม่เหมอื นกัน นา้ ร้อนแดดร้อนจัด และอึดอดั ไม่สขุ สันต์ หน้าฝนสดช่นื พลนั หนา้ หนาวน้ันฉันชอบใจ คำคล้องจองฤดูหนำว (เบญจพร ทัพนอ้ ย) ภาคเหนือหน้าหนาว ถึงคราวหนาวจดั เดก็ เด็ก เป็นหวัด คดั จมูกน้ามกู ไหล น้าค้าง หมอกลงหนกั นอนพกั อนุ่ ไอ ห่มผา้ หนาไว้ เพ่อื ใหห้ นาวคลาย
30 คำคลอ้ งจองฤดูหนำว (ไม่ทรำบนำมผแู้ ต่ง) สวัสดหี นจู า๋ หม่ ผา้ ขนสัตว์ มนั หนาวชะมัด หรอื หนวู า่ ไร หนเู ป็นเดก็ ดี อ้วนพแี จ่มใส รกั ษาอนามัย ดจี ริงหนเู อย เพลงวำ่ ว (คณุ หญิงเบญจำ แสงมล)ิ วา่ วลอยอยูบ่ นท้องฟา้ มนั ลอยมาแลว้ ก็ลอยไป ฉันอยากเป็นว่าวน่ีกระไร จะได้ลอยไปลอยมา วา่ วลอยอยูใ่ นท้องฟ้า นน่ั จุฬานปี่ กั เป้า เร็ว ๆ เขา้ ซิพวกเรา ดูปกั เปา้ ควา้ จุฬา เพลงสำมฤดู (ศรีนวล รตั นสุวรรณ) ฤดูฝนเร่มิ ตน้ เดอื นพฤษภา ฤดหู นาวราวเดอื นพฤศจิกา ฤดรู ้อนเร่มิ ราวเดือนมนี า สามฤดูเวยี นกันในรอบปี เพลงหนำว (วิชัย นอ้ ยเสนีย์) หนาว หนาว หนาว พอถงึ หนา้ หนาว แหมมันหนาวจนสัน่ หนาวโน่น หนาวน่ี หนาวน่นั มันหนาวจนส่ัน ไมร่ ้จู ะทาอย่างไร เอาอย่างนี้ เอาอยา่ งน้ี เอาอยา่ งนี้ พอหนาวอีกที ต้องแขง็ แรงว่องไว ตื่นเช้าตอ้ งออกกาลังกาย ตน่ื เช้าตอ้ งออกกาลังกาย แลว้ ทางานไปจะหายหนาวเอย เพลงหนำวจรงิ (เตือนใจ ศรมี ำรุต) หนาวจริง หนาวจริง หนาวจริว หนาวจริง ผงิ ไฟ ก็อุ่น ออกกาลงั วง่ิ กัน ชุลมนุ (ซา้ ) หยุดว่งิ ก็อุ่น หายหนาว แล้วเอย
31 คำคลอ้ งจอง กรรไกร ไข่ ผำ้ ไหม ผ้าไหม ไข่ กรรไกร ไขห่ นงึ่ ใบ สองบาทหา้ สิบ หา้ สิบ หน่งึ บาท สองใบ ไข่ ผา้ ไหม ไข่ กรรไกร คำคลอ้ งจอง “ผกั สดสะอำด” ( โดยประภำภรณ์ สมทุ รเขต) ผักกาดขาวปลี ผักชี ผักคะน้า แตงกวาถว่ั ฝักยาว กระเพราแมงรัก ลูกฟักลกู บวบ ยอดอวบนา่ กนิ มวี ติ ามนิ บารุงรา่ งกาย เพลง มำกนิ ผัก ผลไม้ จนั ทรม์ ากนิ ผักซี มากนิ ผกั ซี กินดี ดี กินดี ดี อีกทง้ั วิตามนิ และเกลือแร่ ( ซา้ ) ร่างกายแขง็ แรง ( ซ้า ) มากินผลไม้ซี มากินผลไมซ้ ี กนิ ดี ดี กินดี ดี วติ ามนิ ซีมีมากมาย ( ซา้ ) ปอ้ งกันเลอื ดออกไรฟัน ( ซ้า ) เพลง ปลกู ผกั ผลไม้ ทำนอง ปลูกข้ำวโพดสำลี ผแู้ ตง่ นำงฉวี พัฒน์จันทร์ พรวนดินกันเสยี ใหห้ มด แล้วเรามาปลกู ผักผลไม้กนั ( ซ้า ) ใหพ้ วกเราชว่ ยกนั สองมือขดุ ดนิ เรว็ ซีผลไม้ดี ( ซ้า ) กินแลว้ มีร่างกายแข็งแรง ( ซา้ )
32 คำคล้องจอง จำจีผัก ผลไม้ ( ฉวี พัฒน์จนั ทร์ ปรบั ปรงุ เนอื หำ ) จา้ จผี้ กั ผลไม้ แตงไทย แตงกวา ผักกาด คะน้า พุทรา มังคุด มะกรดู มะนาว มะพรา้ ว สม้ โอ ฟกั แฟง แตงโม ไชโยโห่ฮวิ้ นทิ ำนเรือ่ ง หนลู ำไย ครอบครวั หน่ึงมี พอ่ แม่ และลกู ซงึ่ เป็นเดก็ อายุ 4 ปี มีชื่อวา่ หนู ลาไย พอ่ แมร่ ักหนลู าไยมาก จงึ ตามใจทุกอย่าง หนูลาไยไมช่ อบรบั ประทาน ผกั ผลไม้ แตช่ อบรบั ประทาน ลูกอม ชอ็ กโกแลต มาก จงึ แอบซื้อรับประทานอยู่บอ่ ย ๆ จนหนูลาไยฟนั ผหุ มดปาก ร่างกายกซ็ ูบผอมเพราะไมท่ านผกั ผลไมเ้ ลย แล้วกเ็ ริ่ม เจ็บปว่ ยบอ่ ย ๆ เม่อื ถงึ หน้าฝน หนูลาไยกช็ อบเลน่ ตากฝน จนทาใหไ้ มส่ บาย ตวั รอ้ น คุณแม่ต้องพาไปหาหมอ หมอจงึ แนะนาให้พกั ผอ่ นมาก ๆ และรับประทาน ผกั ผลไม้ทกุ ชนดิ เช่น มะเขือเทศ ช่วยใหผ้ ิวสวย แกม้ แดง ผกั บงุ้ ชว่ ยใหน้ ัยนต์ าเปน็ ประกาย ถัว่ งอก ช่วยให้ฟันแขง็ แรง ผกั คะนา้ ช่วยให้แขนและขามคี วามแข็งแรง สม้ ฝรง่ั ใหว้ ติ ามินซี ช่วยใหฟ้ ันไม่ผุ ช่วยปอ้ งกนั โรคเลือดออกตามไรฟัน มะละกอ ชว่ ยใหท้ อ้ ง ไมผ่ กู ขับถ่ายสะดวก และทส่ี าคัญหนลู าไยจะตอ้ งไมก่ นิ ลูกอม ขนมหวานบอ่ ย ๆ อกี ดว้ ย เม่ือหนลู าไยกลบั บ้านก็ทาตามคาแนะนาของคุณหมอ จนทาใหห้ นลู าไยมีร่างกาย แขง็ แรงสมบรู ณ์ ไม่เจบ็ ป่วยบ่อย ๆ อกี หนลู าไยจงึ เป็นเด็กดีทน่ี ่ารกั ของพ่อแมต่ อ่ ไป เพลง “ผกั จำ้ ผกั ” ( คุณหญิงเบญจำ แสงมล)ิ ซ้อื ซจิ ะ๊ ผกั สดสะอาด ผักกาดนี่แตงกวา นนั้ คะน้าถ่วั ฝกั ยาว มะเขอื ยาว กะหลา่ ปลี เพลง “กินผกั ผลไม”้ ( ไมท่ รำบนำมผ้แู ตง่ ) กินผักผลไม้ ทาใหแ้ ข็งแรง แก้มกแ็ ดง น่ารักหนกั หนา กนิ ไข่ เนย นม เนื้อหมูปูปลา กนแล้วแกร่วกล้า เตบิ โตว่องไว
33 เพลงสีรุ้ง (ไม่ปรำกฏนำมผู้แตง่ ) รุ้งเลื่อมลายงดงาม สมี ว่ งครามอกี นามน้าเงนิ เขียวเหลืองแดงงามดนู า่ ชม ช่างสขุ สมสีม่วงสวยเอย คำคลอ้ งจองเจด็ วันฉันน่งั นบั (ผศ.วฒั นำ ปญุ ญฤทธ์ิ และคณะ) เจด็ วนั ฉันนงั่ นับ อาทิตยล์ บั เร่ิมสีแดง วนั จันทรน์ ้นั เปล่ียนแปลง เปน็ สีเหลืองเรื่อเรืองตา วนั องั คารสชี มพู ช่างงามหรดู ูทที ่า วนั พธุ สุดโสภา เขยี วขจีสีสดใส วนั พฤหสั บดี ประสานสีแสดวไิ ล วนั ศุกรฟ์ ้าอาไพ เสารส์ ีม่วงเด่นดวงเอย (อำจำรย์เตอื นใจ ศรีมำรตุ ) วนั เด็กวนั น้ี แสนยนิ ดีปรดี า (ซ้า) ชวนกันมาเรงิ ระบาทาเพลง เสาร์ท่ี 2 มกราครน้ื เครง มาร่วมร้องเพลงและเรงิ ระบา พวกเด็กอย่าชา้ ลกุ ขึน้ มาร่ายรา ออกเต้นระบาสนุกสนาน นิทำนเรำแสนเบกิ บำนในวนั เด็กเอย (ไมป่ รำกฏนำมผ้แู ตง่ ) เดก็ ชายนดิ เปน็ เด็กเกเรและชอบโกหก ใครๆ จึงไมอ่ ยากเลน่ ดว้ ย เด็กชายนิดชอบทาลาย ข้าวของ และสร้างความเดอื นร้อนให้แก่เพ่ือนๆ อยู่เสมอ ดงั น้ันทุกคนจึงช่วยกนั คดิ หาทางแกไ้ ข นิสัยข้โี กหกของเด็ก ชายนิด จงึ ไปขอยมื ตน้ ไมจ้ ับโกหกของนางฟา้ ใจดปี ระจาหมูบ่ ้านไปตัง้ ไวก้ ลางปา่ และรา่ ลอื วา่ เปน็ ต้นไมว้ เิ ศษ ใครไดเ้ ป็นเจ้าของจะมีเงินทองมากมาย เรอื่ งนี้ได้ ยินไปเข้าหเู ด็กชายนิดดว้ ย เขาจงึ แอบ เข้าไปในป่าและขโมยต้นไม้มา วนั ต่อมาเขาบอก กับทกุ คนว่า ตอ่ ไปนเ้ี ขาจะมเี งินทองมากมายและจะร่ารวยกว่าทกุ คน ในตอนเย็นวนั นนั้ มี ก่งิ ไมง้ อกออกมาทีศ่ รี ษะของเดก็ ชายนดิ เขาตกใจมาก “เอ๊ะ กงิ่ ไม้พวกน้งี อกออกมา ได้ อยา่ งไร เราจะทายังไงดี แยแ่ ลว้ มนั งอกออกมาใหญ่เลย” เด็กชายนดิ ตกใจมากจงึ ขอรอ้ งใหท้ ุกคนช่วย “เธอเอาตน้ ไมว้ เิ ศษไปใช่ไหม” เดก็ ชายนดิ ตอบ เปล่าไม่ได้เอาไป” ทนั ทที ่ีพูดจบต้นไม้ก็
34 งอกออกมาเต็มตวั “ช่วยผมด้วย ฮอื ฮอื ไม่เอาแลว้ จะไม่โกหกอกี แล้วครบั ” ทันใดน้นั นางฟ้าก็ปรากฏตัวขน้ึ และบอกเดก็ ชาย นดิ วา่ “ถา้ เธอเลกิ โกหกกิ่งไม้กจ็ ะค่อยๆ หายไป” จรงิ อยา่ งที่นางฟ้าบอก เมอ่ื เด็กชายนิดไม่โกหกกงิ่ ไม้ก็ ค่อยๆ หายไป หายไป จนเปน็ ปกติ เขากลายเป็นเดก็ ชาย นดิ คนใหมท่ ่นี ่ารัก นิสยั ดี ไม่โกหก และมีเพ่ือนมา เล่นด้วยมากมาย เพลงชูมอื (โรงเรียนอนุบำลจิตรลดำ) ชมู ือไปข้างหนา้ กามอื ขวาและมอื ซ้าย กางปกี ข้างข้างได้ สง่ มือไปข้างหลงั ตวั เพลง สบำยตวั อาบนา้ แล้วสบายตวั สบายหวั หนูหมนั่ สระผม ตดั เล็บท่มี นั แหลมคม ปากหอมนา่ ชมเพราะหนูแปรงฟัน เพลง แปรงฟนั แปรงซแิ ปรง แปรงฟัน ฟันหนูสวยสะอาดดี แปรงขึน้ แปรงลงทกุ ซ่ี สะอาดดีเมื่อหนแู ปรงฟัน เพลง ลำ้ งมือ ก่อนกนิ อาหารเราตอ้ งล้างมือ เล่นมาเปอื้ นเปรอะก็ตอ้ งล้างมือ กลบั จากห้องน้าเราตอ้ งล้างมอื ลา้ งมือ ลา้ งมอื ให้สะอาดเอย เพลง อำบนำ อาบน้าซซู่ ่า ลา้ งหน้าล้างตาฟอกสบถู่ ตู ัว ชาระเหงอ่ื ไคล ราดน้าให้ทั่ว เสร็จแลว้ เช็ดตวั อย่าได้ขุ่นมวั สุขกายสบายใจ
35 เพลง ช่ือของเธอ ชื่อของเธอฉันไมร่ ้จู ัก ขอถามทักนกั เรียนเข้า ชื่อของเธอฉันจาไมไ่ ด้ ชื่ออะไรขอให้ บอกมา (ซา้ ) เพลง เรำมำโรงเรยี น เรามาโรงเรียน เราเขียนเราอ่าน ครูเล่านิทาน สนกุ ถกู ใจ เราเรยี นเราเล่น เราเป็นสขุ ใจ ร่าเริงแจ่มใส เม่อื มาโรงเรยี น เพลง เกบ็ ของ เก็บของไวใ้ หเ้ ขา้ ที่ เก็บดดี อี ย่าว่งิ ซุกซน มาชว่ ยกนั เก็บทุกคน หนหู นอู ยา่ ซนชว่ ยกันคนดี ช่วยกันช่วยกนั คนดี เพลง ลำ้ งมอื มอื ฉนั นั้นสวยจริงๆ เปือ้ นไมน่ ิ่งรบี ล้างเรว็ ไว กลบั จากห้องน้าและกอ่ นเกนิ ไป ลา้ งมือเสยี ใหส้ ะอาดเอย
36 เพลงดนิ หิน ทรำย (สถำบนั พฒั นำคณุ ภำพวิชำกำร) ไส้เดอื นอยูใ่ นดิน ตามซอกหนิ มสี ัตว์อาศัย มีสัตวอ์ ีกมากมาย อยใู่ นทรายควรตรวจตรา ดินหนิ ทรายมสี ตั ว์มากมาย มอี ันตรายอย่าได้ซกุ ซน เพลง นักบนิ ไทย ( ไมท่ ราบนามผู้แต่ง ) ทอ้ งฟ้าสดใส เครอื่ งบินขับไล่เลือ่ นล้อมา บินเอยี งซ้าย และเอียงทางขวา เสียงกระห่มึ หม่ึ หม่ึ ใบพดั หมุนติว้ นกั บินไทย จงสวสั ดี เพลง เรอื พำย ( ไม่ทรำบนำมผแู้ ต่ง ) พาย พาย พาย ลงเรอื พายไปตามลาคลอง เรอื นอ้ ยลอยลอ่ ง ลอยล่องไปตามนา้ ไหล พาย พาย พาย เราชว่ ยกนั จา้ เราช่วยกันพาย ( ซา้ ) เพลง เกบ็ ของ เนอื รอ้ ง รัชนี ศรไี พศำล ทำนอง เพลงผู้ใหญล่ ี เก็บของไว้ให้ถกู ที่ เก็บดดี อี ย่างวิ่งซกุ ซน มาช่วยกันเกบ็ ทกุ คน มาช่วยกนั เก็บทุกคน หนู หนู อย่าซนช่วยกนั คนดี ช่วยกนั ช่วยกันคนดี (ซา้ ) เพลงยำนพำหนะ (ศรนี วล รัตนสุวรรณ) หม่ึ หม่ึ หึม่ เคร่ืองบินทก่ี ระห่มึ บนฟา้ ปน๊ิ ปน๊ิ ป๊ิน รถยนต์แลน่ มาแตไ่ กล ปนู๊ ปูน๊ ปู๊น น่นั เสียงหวดู ของรถไฟ ตกึ ตึก ตกึ เรือยนตแ์ ลน่ ในแม่นา้ ลาคลอง
37 เพลงรถไฟ (บัณฑติ บณุ ยำคม) ฉกั ฉกึ ฉัก เสียงตัวจักรเครื่องจกั รรถไฟ ว่งิ ตรงมาโดยเรว็ ไว เสยี งรถไฟมนั ดงั ฉักฉกึ ฉัก ฉกึ ฉัก เสยี งตัวจกั รยิ่งฟงั คักคึก ฉัก ฉกึ ฉกั ฉกึ ฉัก วนู้ วู้น วู้น วู้น วู้น วนู้ เพลงเรือพำย (ศรีนวล รตั นสวุ รรณ) พาย พาย พาย ลงเรอื พายไปตามลาคลอง เรอื น้อยลอยลอ่ ง ลอยลอ่ งไปตามนา้ ไหล พาย พาย พาย เราช่วยกันจา้ เราช่วยกนั พาย (ซา้ ) คำคล้องจองเครอื่ งบิน (สุจิตรำ ขำวสำอำง) เสยี งหึ่ม หึ่ม เครอ่ื งบนิ บนิ อยูบ่ นทอ้ งฟา้ เหล่านกกาบนิ มา แลว้ กบ็ ินจากไป ฉนั บอกใคร ๆ ชอบใจอยากไปกบั เครื่องบนิ วันน้ตี อ้ งเดนิ บนดิน ยงั ไมไ่ ดบ้ นิ ไปไหนเอย
อำ้ งองิ http://pornnipa1.blogspot.com/2013/01/blog-post_30.html https://www.sanook.com/health/19949/ http://minjiraporn.blogspot.com/2012/12/blog-post.html https://sites.google.com/site/kickrrmphathnadekpthmway/kickrrm https://sites.google.com/site/kickrrmphathnadekpthmway/kickrrm http://peposhop.blogspot.com/2019/01/blog-post.html
thank you
Search
Read the Text Version
- 1 - 42
Pages: