แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 7 ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน

๔๘ แผนการจัดการเรียนรูม้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ ๗ ชื่อหน่วย สอนครั้งที่ ๑๒-๑๓ ปฏกิ ิริยาเคมใี นชวี ติ ประจำวัน ช่ัวโมงรวม ๖ ช่ัวโมง จำนวน ๖ ชัว่ โมง ๑. สาระสำคญั รอบ ๆ ตัวเราและในร่างกายเรามีปฏิกิริยาเคมีเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ปฏิกิริยาเคมีเกิดจากกระบวนการ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสารต่าง ๆ มีผลให้พลังงานของระบบเปลี่ยนไป และให้ผลิตภัณฑ์หรือสารใหม่เกิดขึ้น ปฏิกิริยาเคมีบางชนิดเกิดขึ้นเอง แต่บางชนิดต้องได้รับพลังงานจำนวนหนึ่งก่อนจึงจะเกิดปฏิกิริยาได้ปฏิกิริยาเคมี หลายชนิดสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันในอุตสาหกรรมเกษตรกรรม และทางการแพทย์ ใน ขณะเดียวกันปฏิกิริยาบางชนิดก็ให้ผลลบต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตของมนุษย์เองปฏิกิริยาเคมีแต่ละชนิดมีอัตราการ เกดิ ปฏิกิรยิ าทแี่ ตกต่างกนั ขึ้นอยู่กับปจั จยั หลัก ๕ ประการ ไดแ้ ก่ ความเข้มข้น พนื้ ทผี่ วิ อุณหภมู ิ ตัวเร่งปฏิกิริยา และ ธรรมชาติของสาร ผลของปัจจยั ดังกล่าวหาไดจ้ ากการทดลองการท่ีมนษุ ย์สามารถปรบั เปลยี่ นและควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าว ทำใหม้ นษุ ย์สามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากปฏิกิรยิ าเคมีได้ ๒. สมรรถนะหลัก (สมรรถนะประจำหนว่ ย) ๒.๑ แสดงความรู้เกยี่ วกบั ปฏิกิรยิ าเคมีในชีวิตประจำวัน ๒.๒ ปฏบิ ตั ิเกยี่ วกบั ปฏกิ ิรยิ าเคมีในชวี ติ ประจำวนั ๒.๓ ตระหนักถึงการมวี นิ ยั ใฝ่รู้ มีความรบั ผิดชอบ มจี ิตสาธารณะ ๓. สมรรถนะย่อย (สมรรถนะการเรียนร้)ู ๓.๑ สมรรถนะทพ่ี ึงประสงค์ (ทฤษฏี) ๓.๑.๑ อธบิ ายการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมีได้อยา่ งถูกตอ้ ง ๓.๑.๒ ใช้สญั ลกั ษณ์ระบุสถานะของสารในสมการเคมีได้ถูกต้อง ๓.๑.๓ ระบปุ จั จยั ที่มผี ลต่ออัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมไี ด้อยา่ งถูกต้อง ๓.๑.๔ อธบิ ายสมบัติของตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีได้อย่างถูกต้อง ๓.๑.๕ อธบิ ายปฏิกิริยาเคมีท่ีพบเหน็ ในชวี ติ ประจำวันได้อย่างถูกต้อง ๓.๒ สมรรถนะทพ่ี ึงประสงค์ (ปฏบิ ตั )ิ ๓.๒.๑ ระบสุ ารต้ังตน้ และผลติ ภณั ฑ์ พร้อมระบุสถานะได้อยา่ งถูกต้อง ๓.๒.๑ ดุลสมการเคมีไดถ้ ูกตอ้ ง ๓.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ ๓.๓.๑ ตระหนักถึงการมวี ินยั ใฝร่ ู้ มคี วามรับผดิ ชอบ มจี ิตสาธารณะ ๔. เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้ ๔.๑ การเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี ๔.๒ พลังงานกบั การเกิดปฏิกิริยาเคมี ๔.๑ ปจั จัยที่มผี ลต่อการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี ๔.๒ ปฏิกริ ิยาเคมใี นชวี ติ ประจำวนั

๔๙ แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ ๗ ชื่อหน่วย สอนครัง้ ท่ี ๑๒-๑๓ ปฏิกริ ิยาเคมใี นชวี ติ ประจำวัน ชว่ั โมงรวม ๖ ชว่ั โมง จำนวน ๖ ช่ัวโมง ๕. กจิ กรรมการเรียนรู้ ในการจัดการเรยี นการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์เพ่ือพัฒนาทกั ษะชีวติ ไดก้ ำหนดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ให้ผเู้ รยี นเกดิ การเรียนรู้โดยใช้วิธีการจดั การเรียนรู้รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ๕E ของสถาบนั ส่งเสริมการ สอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท., ๒๕๔๖) ๕.๑ ขัน้ นำเขา้ สูก่ จิ กรรมการเรียนรู้ ๑. จดั เตรียมเอกสารประกอบการเรยี น ส่ือโสตทัศน์ ครุภณั ฑ์ เครอ่ื งมือ วัสดุ-อุปกรณ์ ๒. ทดสอบกอ่ นเรยี น โดยใชแ้ บบทดสอบเร่อื ง ปฏกิ ริ ยิ าเคมีในชีวติ ประจำวัน แล้วให้ผู้เรยี นตรวจสอบคำตอบ ตามใบเฉลยโดยสลบั กนั ตรวจแล้วสรปุ ๕.๒ ข้ันการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สอนครั้งท่ี ๑ ๑. นกั เรยี นเขยี นการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมีของสารทพี่ บในชีวิตประจำวันให้ได้มากท่สี ดุ ในเวลา ๕ นาที ตัวอย่างเช่น การเผาไหมเ้ ชื้อเพลิง การเกิดสนิมของเหลก็ การบูดเน่าของอาหาร การทำขนมปัง การสันดาป อาหารในรา่ งกายของสิง่ มชี วี ติ การสุกของผลไม้ และการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพืชสีเขียว ๒. ครใู ชค้ ำถามนักเรยี นว่า “การเกิดปฏิกิริยาเคมขี องสารทีพ่ บในชีวิตประจำวนั ใดเกดิ ขึ้นเรว็ ที่สดุ ” ๓. ครูอธบิ ายความหมายของปฏกิ ริ ิยาเคมีและการเขยี นสมการเคมี ปฏิกิริยาเคมี คือ กระบวนการที่เกิดจากการที่สารเคมีเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วส่งผลให้เกิดสาร ใหมข่ ึน้ มาซ่ึงมีคุณสมบัตเิ ปล่ยี นไปจากเดิม การเกิดปฏกิ ิริยาเคมจี ำเปน็ ต้องมีสารเคมีตัง้ ต้น ๒ ตวั ขึ้นไป (เรียกสารเคมี ตั้งต้นเหล่านี้ว่า \"สารตั้งต้น\" หรือ reactant) ทำปฏิกิริยาต่อกัน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในคุณสมบัติทางเคมี ซ่ึงก่อตัวขนึ้ มาเปน็ สารใหม่ทเี่ รยี กว่า \"ผลิตภัณฑ์\" (product) ซึ่งสารผลติ ภณั ฑ์มีคุณสมบตั ิทางเคมีท่ีเปลีย่ นไปจากเดมิ สมการเคมี สมการเคมีเป็นสัญลักษณ์ที่เขียนแทนด้วยตัวอักษรและสูตรโมเลกุลที่เป็นตัวแทนของธาตุในสารประกอบ เพื่อแสดงการเกิดปฏิกิริยาเคมี ซึ่งบอกถึงปริมาณของสารตั้งต้นที่ใช้ทำปฏิกิริยากัน และปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่ เกดิ ขึ้นหลังจากเกิดปฏกิ ริ ิยา สมการเคมีประกอบด้วย สารตั้งต้น(reactants) คือสารที่ทำปฏิกิริยากันตอนต้น ถ้ามีมากกว่า ๑ สาร ให้เขียนเครื่องหมาย (+) ค้ัน ระหว่างสาร แลว้ เขียนแทนดว้ ยสตู รเคมี ผลิตภัณฑ์ (product) คือสารที่เกิดหลังจากปฏิกิริยากัน ถ้าหากเกิดมากกว่า ๑ สาร ก็ให้เขียนเครื่องหมาย (+) แล้วเขยี นแทนด้วยสตู รเคมี เงอ่ื นไข เปน็ ภาวะตา่ งๆทีม่ ผี ลตอ่ การเกิดปฏิกิริยาเคมี เชน่ อณุ หภมู ิ ตวั เรง่ ปฏิกิริยา เปน็ ตน้ โดยเขียนบอกไว้ บนหรือลา่ งลกู ศรท่คี ่นั อยู่ระหว่างสารตง้ั ตน้ กบั ผลติ ภัณฑ์ แตห่ ากอยูใ่ นภาวะปกตกิ ็ไม่จำเป็นต้องเขยี นก็ได้ นักเรียนแต่ ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาอภิปรายคำตอบที่ได้

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ ๕๐ ช่อื หน่วย หน่วยที่ ๗ ปฏิกริ ิยาเคมใี นชวี ติ ประจำวัน สอนครงั้ ท่ี ๑๒-๑๓ ชวั่ โมงรวม ๖ ชวั่ โมง จำนวน ๖ ชั่วโมง ๔. ครูสาธิตการเขียนสมการเคมี ตัวอย่างท่ี ๑ ปฏิกิรยิ าระหวา่ งแกส๊ ไฮโดรเจนกบั แกส๊ ออกซิเจน ไดน้ ้ำเปน็ ผลิตภณั ฑ์ซงึ่ เขียนแทนสมการ ดังนี้ ๒H๒ (g) + O๒ (g) ---------> ๒H๒O (l) ตวั อยา่ งที่ ๒ ปฏิกิริยาการเผาไหมข้ องถ่านไม้ ได้กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ เขยี นแทนด้วยสมการเคมีดงั น้ี C(s) + O๒ (g) ---------> CO๒ (g) ตวั อย่างที่ ๓ หินปูนทำปฏกิ ริ ิยากบั สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ ได้สารละลายแคลเซียมคลอไรด์ นำ้ และแกส๊ าร์บอนไดออกไซด์” เขยี นแทนดว้ ยสมการเคมี ดังนี้ CaCO๓ (s) + HCl (aq) --------------> CaCl๒ (aq) + H๒O (l) + CO๒ (g) ๕. ให้นกั เรยี นทำใบงาน การเขียนสมการเคมี เม่ือเสรจ็ แล้วให้นักเรียนอภิปรายในกลุ่มว่าคำตอบเหมือนหรือ ต่างกนั อย่างไร ๖. ครใู ห้ความรู้หลักการเขยี นสมการเคมี โดยใช้ PowerPoint ประกอบ เขยี นสูตรเคมหี รอื สัญลกั ษณข์ องสารต้งั ตน้ แต่ละชนดิ หาว่าในปฏกิ ิรยิ าเคมนี ัน้ เกิดสารผลติ ภณั ฑ์ใดขนึ้ บา้ งและเขยี นสูตรเคมีของสารผลิตภัณฑ์ ให้ระบุสถานะของสารไวห้ ลังสูตร โดยเขยี นไว้ในวงเล็บ (s) = ของแขง็ (solid) (l) = ของเหลว (liquid) (g) = แก๊ส (gas) (aq) = สารละลาย (aqueous solution) ๗. ครูสาธิตการเขยี นสมการเคมี ตัวอย่างท่ี ๑ ปฏกิ ริ ิยาระหว่างแก๊สไฮโดรเจนกับแก๊สออกซิเจน ไดน้ ้ำเป็นผลติ ภณั ฑซ์ ึง่ เขียนแทนสมการ ดังน้ี ๒H๒ (g) + O๒ (g) ---------> ๒H๒O (l) ตัวอยา่ งท่ี ๒ ปฏกิ ริ ยิ าการเผาไหมข้ องถา่ นไม้ ได้กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ เขยี นแทนด้วยสมการเคมีดังนี้ C(s) + O๒ (g) ---------> CO๒ (g) ตวั อยา่ งท่ี ๓ หินปูนทำปฏิกริ ิยากบั สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ ได้สารละลายแคลเซียมคลอไรด์ น้ำ และแกส๊ ารบ์ อนไดออกไซด์” เขยี นแทนด้วยสมการเคมี ดังนี้ CaCO๓ (s) + HCl (aq) --------------> CaCl๒ (aq) + H๒O (l) + CO๒ (g)

๕๑ แผนการจดั การเรียนรมู้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี ๗ ช่อื หน่วย สอนครง้ั ท่ี ๑๒-๑๓ ปฏิกริ ิยาเคมีในชีวิตประจำวัน ชั่วโมงรวม ๖ ช่ัวโมง จำนวน ๖ ชั่วโมง ๘. ครอู ธบิ ายการดลุ สมการเคมแี ละสาธิตการดลุ สมการเคมี การดุลสมการเคมี คอื การกระทำท่ีทำใหจ้ ำนวนแต่ละชนิดอะตอมด้านสารตั้งต้นมจี ำนวนอะตอมเท่ากับ ด้านสารผลติ ภัณฑ์ โดยการเติมตวั เลขสัมประสิทธิห์ น้าสตู รเคมขี องแต่ละสาร การดุลสมการเคมีหน่งึ ๆ มหี ลกั การครา่ วๆ ดงั นี้ เขียนสตู รเคมีแทนสารทกุ ชนดิ ในสมการเคมี โดยเขยี นสารตง้ั ตน้ ท้ังหมดอยู่ด้านซ้ายของลกู ศร และ ผลิตภณั ฑ์ทุกชนดิ อยดู่ า้ นขวาของลูกศร โดยเติมเครอ่ื งหมายบวก ระหวา่ งสารแต่ละชนิด เตมิ ตวั เลขสมั ประสิทธิห์ น้าสารทุกชนิดเพื่อทำให้จำนวนแตล่ ะชนิดอะตอมเท่ากันทง้ั ด้านสารต้ังต้น และผลิตภัณฑ์ โดยจำนวนอะตอมของธาตุ H และ O พจิ ารณาหลังสุด หากอะตอมปรากฏอยู่ในรูปกลุ่มของอะตอมที่เหมือนกันทั้งด้านสารตั้งต้นและผลิตภัณฑ์ ให้ พิจารณาจำนวนในรปู กล่มุ ของอะตอม แทนการพิจารณาจำนวนอะตอม ๙. ครูสาธติ การดลุ สมการ ดังน้ี ข้นั แรก เขยี นสมการท่ียงั ไม่ไดด้ ลุ ขั้นสอง เติมตัวเลขสัมประสทิ ธิ์ เพื่อให้จำนวนอะตอมของอลูมิเนียม และ อะตอมของคลอรีน เท่ากันทั้งสอง ด้านของลูกศร จะดเู หมอื นว่าจำนวนอะตอมของอะลมู ิเนยี มเทา่ กันท้งั สองดา้ นแล้ว แตจ่ ำนวนอะตอมของไฮโดรเจนด้านซ้าย เปน็ ๓ และจำนวนอะตอมของไฮโดรเจนด้านขวาเปน็ ๒ เราจึงตอ้ งเตมิ ตวั เลขสัมประสทิ ธิ์เพ่อื ทำให้จำนวนอะตอมของไฮโดรเจนของทงั้ สองด้านทั้งกัน ดงั น้ี เมื่อจำนวนอะตอมของไฮโดรเจนเท่ากันหรือดุลแล้ว เราจะพบว่าจำนวนอะตอมของคลอรีนกลับไม่เท่ากัน โดยจำนวนอะตอมของคลอรีนด้านซ้ายเปน็ ๖ และจำนวนอะตอมของคลอรีนดา้ นขวาเป็น ๓ ดังนน้ั เราจึงเตมิ ตวั เลขสมั ประสทิ ธ์ิ ๒ ลงหนา้ AlCl๓ เพอื่ ทำใหจ้ ำนวนอะตอมของคลอรนี สมดุล ขณะนพ้ี บวา่ ทุกอะตอมสมดุล ยกเว้นอะตอมของอลมู ิเนียม โดยจำนวนอะตอมของอลมู ิเนียมดา้ นซ้ายเป็น ๑ และจำนวนอะตอมของอลูมิเนยี มดา้ นขวาเปน็ ๒ ดังนนั้ เราจงึ เติมเลขสัมประสิทธ์ิ ๒ ลงหน้า Al

๕๒ แผนการจัดการเรียนร้มู ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ ๗ ชอื่ หน่วย สอนคร้งั ท่ี ๑๒-๑๓ ปฏกิ ิรยิ าเคมใี นชีวติ ประจำวัน ชวั่ โมงรวม ๖ ชวั่ โมง จำนวน ๖ ชวั่ โมง ตอนนี้จะกล่าวได้ว่าสมการเคมีดุลแล้ว โดยมีจำนวนอะตอมของอลูมิเนียม ๒ อะตอม จำนวนอะตอม ของคลอรีน ๖ อะตอม และ จำนวนอะตอมของไฮโดรเจน ๖ อะตอม ทัง้ สองดา้ นของสมการ ๑๐. ให้นักเรียนทำใบงาน การดุลสมการ เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนอภิปรายในกลุ่มว่าคำตอบเหมือนหรือ ต่างกนั อยา่ งไร สอนคร้ังที่ ๒ ๑. ครอู ธิบายอตั ราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี โดยใช้ PowerPoint ประกอบ อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี (Rate of chemical reaction) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงปริมาณสารใน หน่ึงหนว่ ยเวลาของการเกิดปฏกิ ิริยาของสารน้นั อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี = ปรมิ าณสารตงั้ ต้นทล่ี ดลง เวลา ๒. ใหน้ กั เรยี นจบั กลุ่มแบบคละความสามารถ กลมุ่ ละ ๕ – ๖ คน ๓. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำใบงาน อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนอภปิ รายในกลุ่มและ ตอบคำถามทา้ ยการทดลอง ๔. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ผลการทดลอง ๕. ใหน้ ักเรียนทำการสืบค้นและอภิปรายภายในกลุม่ ในหวั ขอ้ “ปัจจยั ทที่ ำให้เกิดปฏกิ ริ ิยาเคม”ี ๖. ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ นำข้อมูลทีไ่ ด้มาอภปิ รายหนา้ หอ้ ง ๗. ครูสรุปความรูแ้ ละให้ความร้เู พ่มิ เตมิ เก่ยี วกับปฏกิ ริ ิยาการเผาไหมโ้ ดยใช้ PowerPoint ประกอบ การเผาไหมก้ ค็ ลา้ ยกบั ปฏกิ ิริยาเคมีอ่นื ๆ น่นั คือ มันมแี นวโน้มที่จะเกิดขึ้นไดอ้ ย่างสมบรู ณแ์ ละไมส่ มบูรณ์ ๑. การเผาไหม้ทีส่ มบูรณ์ เป็นปฏิกิริยาออกซิเดชันของสารไฮโดรคาร์บอน (สารไฮโดรคาร์บอนสูญสยี อิเล็กตรอน) โดยทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ซึ่งจะได้คาร์บอนไดออกไซด์และน้ำเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาเทา่ นน้ั และเมือ่ คารบ์ อนไดออกไซด์และไอนำ้ กระจายไปในอากาศ จงึ ไมเ่ หลอื ผลติ ภณั ฑ์ใดอยู่เลย การเผาไหม้แบบสมบูรณ์นี้เกิดขึ้นได้เมื่อมีปริมาณออกซิเจนมากพอจะเผาไหม้สารไฮโดรคาร์บอนจน หมดอยา่ งสมบูรณ์ เชน่ การจดุ เทียนไข ๒. การเผาไหม้ท่ีไม่สมบรู ณ์ เปน็ ปฏกิ ริ ิยาทีเ่ กดิ ข้ึนเม่ือออกซิเจนไม่มปี ระสิทธิภาพมากพอหริอปริมาณ ไม่มากพอ ที่จะทำให้เชื้อเพลิงเปลี่ยนไปเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำได้ทั้งหมด ดังนั้น จึงเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ บางอย่างหลงเหลืออยู่นอกจากน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์ นั่นคือ คาร์บอนมอนอกไซด์ หรือเขม่าของคาร์บอน ตัวอยา่ งการเผาไมท้ ่ีไม่สมบรู ณ์ เช่น การเผาถ่านหิน ๘. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาปฏิกิริยาทเี่ กิดข้ึนในชีวิตประจำวนั และนำข้อมูลทไี่ ด้มาอภปิ รายหน้าชั้นเรยี น ๙. ครสู รปุ ความรู้และเพิ่มเติมความรู้ในเรอื่ งการสงั เคราะห์แสงของพืช โดยใช้ PowerPoint ประกอบ

๕๓ แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี ๗ ชื่อหน่วย สอนครั้งที่ ๑๒-๑๓ ปฏิกริ ยิ าเคมีในชีวิตประจำวัน ชว่ั โมงรวม ๖ ชั่วโมง จำนวน ๖ ช่วั โมง กระบวนการสร้างอาหารของพืชเรียกว่า กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งมีน้ำ และแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์เป็นวัตถุดิบ มีแสงและคลอโรฟิลล์ช่วยทำ ให้ได้ผลิตภัณฑ์ คือ น้ำตาล น้ำและแก๊สออกซิเจน ปัจจัยที่สำคัญ ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ได้แก่ คลอโรฟิลล์แสง แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ และแร่ธาตุ กระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื ชว่ ยให้เกิดการหมนุ เวยี นของแกส๊ และแร่ธาตุ ในดิน ทำให้เกดิ ความสมดลุ ตาม ธรรมชาติซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก การสังเคราะห์ด้วยแสงเป็นกระบวนการที่พืชสีเขียวใช้พลังงานแสง เปลี่ยนเป็นพลังงานเคมี โดยมีน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์เป็นวัตถุดิบ ปฏิกิริยาของการสังเคราะห์แสงเขียนสรุปได้ ดงั นี้ ผลจากการสังเคราะห์ด้วยแสงนอกจากออกซิเจนแล้ว จะได้คาร์โบไฮเดรตเป็นน้ำตาลทีม่ ีคาร์บอน๖ อะตอม คอื กลโู คส, น้ำ และพลังงานทีส่ ะสมในรปู สารประกอบอินทรยี ์ ๑๐. ใหน้ ักเรยี นทำใบงาน ปฏิกริ ิยาเคมใี นชีวิตประจำวนั ๕.๓ ขัน้ สรุปผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ตรวจสอบผลการเรียนรูโ้ ดยการซักถามเปน็ ระยะและตรวจสอบผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม ๒. สังเกตและบันทึกพฤติกรรมผู้เรียนเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม ขณะผู้เรียนศึกษาบทเรียนและปฏิบัติ กจิ กรรม ตามใบงาน ๓.รว่ มกบั ผู้เรยี นประเมินผลการปฏบิ ัติงาน ตามแบบประเมนิ ๔. รว่ มกบั ผูเ้ รยี นประเมินผลการเรยี นรูแ้ ละผลการปฏบิ ัติงาน ๕.๔ การวัดและประเมนิ ผล ๑. ให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง การเกิดปฏิกิริยาเคมี แล้วตรวจสอบคำตอบตามใบเฉลยโดยสลับกันตรวจ และใหค้ ะแนน ๒. ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน การเกิดปฏิกิริยาเคมี เสร็จแล้วตรวจสอบคำตอบตามใบเฉลยโดย สลบั กนั ตรวจและให้คะแนน ๓. ครูเน้นย้ำให้ผู้เรียนตระหนักถึงการมีวินัย ใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบ มีจิตสาธารณะ ในการเรียนเรื่อง สาร และสมบัตขิ องสาร ๖. ส่อื การเรียนรู้ ส่ือสง่ิ พมิ พ์ ๑. ตำราเก่ยี วกับการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี ๒. แบบทดสอบเรื่องสาร การเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี

๕๔ แผนการจัดการเรียนรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ ๗ ช่อื หน่วย สอนครัง้ ท่ี ๑๒-๑๓ ปฏกิ ิรยิ าเคมีในชีวติ ประจำวัน ช่วั โมงรวม ๖ ชว่ั โมง ๓. แบบประเมนิ ผล จำนวน ๖ ช่วั โมง สอื่ โสตทศั น์ ๑. มัลตมิ ีเดีย ประกอบการสอน เรอ่ื ง “การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี” ครภุ ณั ฑ์/เครือ่ งมอื /วสั ดุ-อุปกรณ์ ๑. วสั ดุอุปกรณ์ประกอบการสอน เรื่อง “การเกิดปฏิกิรยิ าเคมี” ๗. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ - ใบงาน เรือ่ ง “การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี” ๘. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธ์กบั วชิ าอ่ืน บูรณาการกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเกย่ี วกับ - นกั เรยี นมคี วามพอประมาณในการอยู่อย่างพอเพยี ง - นักเรยี นมีภมู คิ มุ้ กนั เกยี่ วกับการมวี นิ ัย ใฝร่ ู้ มีความรบั ผิดชอบ มจี ิตสาธารณะ ๙. การวดั ผลและประเมินผล ๑. วธิ วี ัดผลและประเมินผล ๑. การทำทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรยี น ๒. การสงั เกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น ๓.การปฏิบตั ิกจิ กรรมตามใบงาน ๔. การทำแบบฝึกหัด/แบบทดสอบ ๒. เครอ่ื งมอื วัดและประเมนิ ผล ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน/หลงั เรยี น ๒. แบบสังเกตพฤติกรรมระหวา่ งเรียน ๓. แบประเมนิ การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามใบงาน ๔. แบบบนั ทึกคะแนนแบบฝึกหดั /แบบทดสอบ ๓. เกณฑ์การประเมนิ ๑. ประเมินจากการทำทดสอบ หลังเรียน จำนวน ๑๐ ข้อ เกณฑ์ผ่าน ๗ คะแนน จาก ๑๐ คะแนน ๒. ประเมินจากพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี นรู้ เกณฑ์ผา่ น ๗ คะแนน จาก ๑๐ คะแนน ๓. ประเมินจากผลการปฏิบัติกิจกรรมตามใบงาน เกณฑ์ผา่ น ๗ คะแนน จาก ๑๐ คะแนน ๔. ประเมนิ จากคะแนนการทำแบบฝึกหัด/แบบทดสอบ เกณฑ์ผ่าน ๗ คะแนน จาก ๑๐ คะแนน ๑๐. บันทึกหลงั การสอน

๕๕ แผนการจดั การเรยี นรูม้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี ๗ สอนคร้งั ที่ ๑๒-๑๓ ชือ่ หน่วย ช่วั โมงรวม ๖ ชัว่ โมง ปฏกิ ริ ิยาเคมใี นชีวิตประจำวัน จำนวน ๖ ชัว่ โมง บนั ทกึ หลังสอน สัปดาห์ที่ ชอื่ วชิ า รหสั วชิ า หนว่ ยท่ี แผนกวิชา วันท่สี อน จำนวน รายการสอน จำนวน คน เข้าเรียน ชัว่ โมง จำนวน คน เขา้ เรยี น ภาคเรียนที่ ปีการศกึ ษา คน ขาดเรียน คน ขาดเรยี น จำนวนผู้เรียน ชนั้ กลุ่ม คน คน ช้ัน กลุ่ม ๑.เนอ้ื หาที่สอน (สาระสำคัญ) ๒.ผลการสอน ๓.ปญั หา อุปสรรค ทเี่ กดิ ข้นึ ในระหวา่ งการเรยี นการสอน ๔.แนวทางการแกป้ ัญหาของครูผ้สู อน (แนวทางการทำวิจัย) ลงช่อื ผู้สอน (นางสาวจฑุ ามาศ โสมสุวรรณ) // ลงชอื่ หัวหน้าแผนก ลงชอ่ื หวั หนา้ งานหลกั สตู รฯ (นางกศุ ล พรผดุงธรรม) (นายสมศกั ดิ์ หลวงนา) // // ลงชือ่ รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ (นายประเสรฐิ ถงึ วสิ ัย) //