แผนการจัดการเรียนรู้ เทคโนโลยีและวิทยาการคำนวณ 3

แผนการจัดการเรียนรู้ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1/2 รหสั วิชา ว23103 เทคโนโลยแี ละวทิ ยาการคำนวณ 3 เวลา 8 ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 2 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างรูเ้ ท่าทัน แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ ง การประเมนิ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชีวิตจริงอย่างเป็น ข้ันตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม ตวั ช้วี ดั มาตรฐานตัวชวี้ ัดชนั้ ปี ม.3 ประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมูล วิเคราะหส์ อื่ และ ผลกระทบจากการให้ขา่ วสารทผี่ ิด เพ่ือการใชง้ านอยา่ งรเู้ ท่าทนั 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การศกึ ษาการประเมินความน่าเชอื่ ถอื ของข้อมูล เชน่ ตรวจสอบและยนื ยนั ขอ้ มลู โดยเทียบเคียงจาก ข้อมูลหลายแหลง่ แยกแยะข้อมลู ทเี่ ป็นข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ หรอื ใช้ PROMPT การสบื คน้ หาแหล่งขอ้ มูล ของขอ้ มลู เหตุผลวบิ ตั ิ (logical fallacy) ผลกระทบจากข่าวสารท่ผี ิดพลาด การรเู้ ท่าทันสอื่ เช่น การวิเคราะห์ ถึงจดุ ประสงค์ของข้อมูลแลผู้ใหข้ ้อมลู ตีความแยกแยะเน้ือหาสาระของสอื่ เลือกแนวปฏิบตั ิได้อย่างเหมาะสม เมอื่ พบข้อมลู ตา่ ง ๆ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. มีความรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกับการประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของแหลง่ ข้อมูล (K) 2. สามารถอธิบายวิธีการประเมนิ ความน่าเชื่อถอื ของแหล่งที่มาของข้อมลู (P) 3. มีความตระหนกั และเหน็ สำคัญในการประเมินความน่าเช่อื ถอื ของแหล่งที่มาของข้อมลู (A) 4. สาระการเรยี นรู้ ขอ้ มลู ท่นี ำมาใช้ในการเรียนรูแ้ ละการทำงาน มคี วามถูกต้อง เหมาะสม และน่าเชือ่ ถือ จะทำใหเ้ กดิ การเรียนรู้และทำงานไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ก่อนการนำข้อมูลจากแหลง่ ต่าง ๆ มาใช้ต้องผ่านกระบวนการ ประเมนิ ความน่าเช่อื ถือดว้ ยการตรวจสอบและยืนยนั ข้อมลู โดยอาจใช้หลกั การ PROMPT ซ่ึงได้แก่ การ นำเสนอความสมั พันธว์ ัตถุประสงคว์ ธิ กี าร แหลง่ ท่ีมา และเวลา (Presentation, Relevance, Objective, Method, Provenance, Timeliness: PROMPT)

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. ทกั ษะผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 (3Rs8C2 2Ls) 1. ทักษะในสาระวิชาหลกั (3Rs) 1.1  Reading (อา่ น) 1.2  (W)Riting (เขยี น) 1.3  (A)Rithemetics (การคิดเลขเปน็ ) 2. ทกั ษะการเรยี นรูแ้ ละนวตั กรรม(8Cs) 2.1  Critical Thinking and Problem Solving (การคิดวจิ ารณาและแก้ปญั หา) 2.2  Creativity and Innovation (การสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม) 2.3  Cross-cultural Understanding (ความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม) 2.4  Collaboration, Teamwork and Leadership (การทำงานเป็นทีมภาวะผนู้ ำ) 2.5  Communication, Information, and Media Literacy (การสือ่ สารสารสนเทศ) 2.6  Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยี) 2.7  Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและการเรยี นรู้) 2.8  Compassion (คุณธรรมเมตตากรุณาระเบยี นวนิ ัย) 7. การบูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ความพอประมาณความมีเหตุมีผลและมีภูมิคุ้มกันท่ดี ใี นตวั ภายใตเ้ ง่ือนไขความรู้ (รอบรรู้ อบคอบ ระมดั ระวงั )และเง่ือนไขคณุ ธรรม 8. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1.  รกั ชาตศิ าสน์กษัตรยิ ์ 2.  ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ 3.  มีวินยั 4.  ใฝ่เรียนรู้ 5.  อยู่อยา่ งพอเพยี ง 6.  มงุ่ มั่นในการทำงาน 7.  รกั ความเป็นไทย 8.  มจี ิตสาธารณะ

9. ภาระงาน / ชนิ้ งาน 9.1 ใหน้ กั เรียนหาข้อมลู หรอื ขา่ วท่ีอยูใ่ นเวบ็ ไซต์จำนวน 1 เว็บไซต์ มาวิเคราะห์ความนา่ เชื่อถือของ ขา่ วนัน้ 10. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครูใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การรับฟังขา่ วสารท่นี ักเรียนไดร้ บั ในแตล่ ะวนั นกั เรยี นได้ รบั มาจากช่องทางใดบา้ นและขา่ วสารในแตล่ ะช่องทางมคี วามน่าเชอ่ื ถือหรือไม่และมเี หตุผลในขอใดทไี่ ม่ นา่ เช่ือถือ 2. ครูอธิบายการซ้ือของออนไลน์ หรอื การสั่งซื้อของผา่ นทางเว็บไซตท์ เี่ ปน็ เว็บปลอมหรอื ถกู หลอก ให้หลงเชอื่ และซื้อสนิ คา้ ไป และใหน้ ักเรยี นยกตวั อยา่ ง วิธกี ารท่ีผูก้ ระทำขายสนิ ค้าปลอมในโลกออนไลน์มีวธิ ี ทำอย่างไรกับผู้ถูกกระทำ และจะมวี ธิ อี ย่างไรถงึ จะสามารถป้องกันการซื้อของออนไลนท์ เ่ี ป็นของปลอม 3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ผลการนำเสอนของนกั เรยี นเกยี่ วกับการับขา่ วสารการซ้อื ของออนไลน์ กฎหมายพระราชบญั ญตั ิ หรือ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ และลิขสทิ ธ์ิ ข้นั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ ักเรียนฟังข่าวและประเมนิ จากข่าวสารทไ่ี ด้รับฟัง 2. ครูให้นักเรียนคดั เลือกเวบ็ ไซต์คนละ 1 เว็บไซต์ และพิจารณาตรวจสอบความน่าเช่อื ถือของ แหลง่ ทม่ี าของข้อมูลทไี่ ดจ้ ากเว็บไซต์ทนี่ ักเรยี นคดั เลือกมาลงใน Padlet 3. เรยี นรเู้ ร่อื ง ของ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ 4. เรยี นรเู้ ร่อื งด้านลขิ สทิ ธ์ิ 11. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 1) หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ)ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 2) วีดโี อเร่ือง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 ฉบับเขา้ ใจงา่ ย (แหลง่ ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=LwMSsneKuzc) 3) วีดโี อเรอ่ื ง รู้ทันลขิ สิทธิ์ [Copyright_Information] by_punpun (แหลง่ ท่มี า : https://www.youtube.com/watch?v=XPRrvR69Iyc)

12. การวดั และประเมินผล ความกา้ วหนา้ วิธวี ดั เครือ่ งมอื เกณฑผ์ ่าน ของผเู้ รียน ขน้ั ตำ่ - แบบประเมินใบกจิ กรรม ดา้ นความรู้ (K) - อธบิ ายการพิจารณา - การสังเกตพฤติกรรมใน มากกวา่ class room หรอื ผา่ น ร้อยละ 80 - มีความร้คู วามเข้าใจเก่ยี วกับ ตรวจสอบความนา่ เชือ่ ถือของ google meet การประเมินความน่าเช่ือถือ แหลง่ ขอ้ มลู , ความเขา้ ใจของ ของแหล่งที่มาของข้อมูล , พระราชบัญญตั ิ และลิขสทิ ธ์ิ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ และ ลขิ สิทธิ์ ความก้าวหนา้ วธิ ีวดั เครือ่ งมอื เกณฑผ์ ่าน ของผู้เรียน ข้ันต่ำ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) - สังเกตพฤติกรรมและ - แบบประเมินการทำ มากกว่า - สามารถอธิบายวิธกี าร ประเมนิ ผลงานและการเสนอ กิจกรรม ประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถือของ ความคิดของนักเรียน ร้อยละ 80 แหลง่ ท่มี าของข้อมูล มากกว่า ด้านคุณลักษณะอนั พงึ - สงั เกตพฤติกรรมในการจดั การ - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ร้อยละ 80 ประสงค์ (A) เรยี นการสอน อันพงึ ประสงค์ - มีความตระหนักและเหน็ - ความสามารถในการส่ือสาร ความสำคญั ในการประเมนิ - ความสมารถในการคิด ความนา่ เช่ือถือของแหล่งทีม่ า - ความสามารถในการแก้ปัญหา ของข้อมูล - ความสามารถในการใชท้ ักษะ ชีวติ - ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี

บันทึกผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี...............เรอ่ื ง..................................................................................... สอนวนั ท่ี..............เดือน...............................................................พ.ศ. ................. 1. สรุปผลการเรียนการสอน 1. นักเรยี นระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี .......................... จำนวน....................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ...............................คน คิดเป็นร้อยละ........................................... ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู.้ ...........................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ........................................... ได้แก่ 1. ................................................................... 2. ................................................................... 3. ................................................................... 4. ................................................... ................ นกั เรียนท่มี คี วามสามารถพเิ ศษได้แก่ 1. ................................................................... 2. ................................................................... 3. ................................................................... 4. ................................................... ................ 2. นกั เรียนมีความร้คู วามเข้าใจ (K) ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 3. นกั เรียนมีความรู้เกิดทักษะ (P) ....................................................................................................................................................................... ....... .......................................................................................................................... .................................................... 4. นกั เรียนเจตคติ คา่ นยิ ม คณุ ธรรมจริยธรรม (A) ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. ปญั หา / อปุ สรรค / แนวทางแก้ไข .................................................................................................................................................... .......................... ....................................................................................................... ....................................................................... 3. ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ................................................. ()

แบบทดสอบหลังเรียน แบบประเมินทักษะการปฏิบัตกิ ิจกรรม (10 คะแนน) สำหรบั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ผรู้ ับการประเมิน/กลมุ่ ................................................................................... ระดบั ช้ัน/ห้อง........................ ผู้ประเมนิ  ตนเอง  เพือ่ น  ครู ประเมนิ คร้ังที่ ...............................วันที่ ...........................เดอื น .........................................พ.ศ. ........................ เรอ่ื งท่เี รียนรู้......................................................................................................................................................... คำชี้แจง : ให้ผปู้ ระเมนิ สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น แล้วทำเครื่องหมาย  ใหต้ รงกับระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ พฤตกิ รรม ดมี าก ดี ปาน น้อย น้อย พฤติ กลาง ที่สุด กรรมที่ (5) (4) (3) (2) (1) สงั เกต 1. การทบทวนตรวจสอบความรเู้ ดิม 2. การแสวงหาความรู้ใหม่ 3. การศกึ ษาและสร้างความเข้าใจข้อมูลความรู้ใหม่ 4. การแลกเลี่ยนความรู้กบั ความเข้าใจกบั กลมุ่ 5. การสรุปและจัดระเบียบความรู้ 6. การปฏบิ ัติ การแสดงความรู้และผลงาน 7. การประยุกต์ใชค้ วามรู้ 8. การนำเสนอใน Google meet ใน Classroom 9. การแสดงความคดิ เหน็ ถาม-ตอบ 10. การใช้ เกบ็ รักษาอปุ กรณ์ รวมคะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 5 คะแนน - พฤตกิ รรมทด่ี เี ดน่ เป็นทยี่ อมรบั และเป็นแบบอย่างที่ดี ให้ 4 คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจน ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัติบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิบางครง้ั ให้ 0 คะแนน - พฤติกรรมที่ไม่ปฏบิ ตั ิเลย

หมายเหตุ นำคะแนนท่ีได้ 50 คะแนน มาหารดว้ ย 5 จะได้คะแนนเต็ม 10 คะแนน แล้วแปลความหมาย ตามเกณฑ์ดังนี้ เกณฑ์การแปลความหมายของช่วงคะแนน ชว่ งคะแนน ความหมาย 9 – 10 ดมี าก 7 – 8 ดี 5 – 6 ปานกลาง 3 – 4 นอ้ ย 0 - 2 น้อยทสี่ ุด ผลการประเมนิ ทกั ษะการปฏบิ ตั ิกิจกรรมกล่มุ อย่ใู นระดบั  ดีมาก  ดี  ปานกลาง  นอ้ ย  น้อยทส่ี ุด สรุปผลการประเมนิ ทักษะการปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลุ่ม (ผา่ น ต้องมีคะแนนตง้ั แต่ 5 คะแนนข้ึนไป)  ผ่าน  ไม่ผา่ น ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมนิ (............................................) ......... / .......... / .........

แบบบันทึกหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้  ด้านความรู้  ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น  ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์  ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ)  ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่มี ีปัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี))  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงชอื่ ..............................................ผู้บนั ทึก (................................................) ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงช่ือ................................................ () ตำแหนง่ ครู