พระพุทธศาสนา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี ๓ กลุมสาระการเรียนรูสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๑ หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๒ หนวยการเรยี นรทู ่ี ๓ หนว ยการเรียนรทู ่ี ๔ หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๕ หนว ยการเรยี นรูท ี่ ๖ หนว ยการเรียนรทู ี่ ๗ หนว ยการเรยี นรทู ่ี ๘ หนวยการเรียนรทู ี่ ๙ ๑_หลกั สูตรวิชาพระพทุ ธศาสนา ๒_แผนการจัดการเรยี นรู ๓_PowerPoint_ประกอบการสอน ๔_Clip ๕_ใบงาน_เฉลย ๖_ขอ สอบประจาํ หนว ย_เฉลย ๗_ขอสอบ_เฉลย ๘_การวัดและประเมนิ ผล ๙_รปู ภาพ ๑๐_เสริมสาระ ๑๑_สอ่ื เสริมการเรียนรู บรษิ ทั อกั ษรเจริญทัศน อจท. จาํ กดั : 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200 Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand โทรศัพท : 02 622 2999 โทรสาร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com
๙หนวยการเรียนรทู ่ี ศาสนากับการอยูรวมกนั ในประเทศไทย จุดประสงคก ารเรียนรู • วิเคราะหค วามแตกตา งและยอมรบั วถิ กี ารดําเนนิ ชวี ติ ของศาสนิกชนในศาสนาอื่นๆ ได
วถิ กี ารดําเนินชวี ิตของพทุ ธศาสนิกชน • พระพุทธเจา ไดต รัสไววา “บุคคลผูใฝประโยชน ควรศกึ ษาบญุ เพราะบุญจะเอือ้ อาํ นวยใหเ กดิ ความสขุ ข้ึนในโลก ทาํ ใหโ ลกปราศจากการเบียดเบยี น การศกึ ษาบญุ จงึ เปนหลักที่พุทธศาสนกิ ชนยึดถอื เปน วถิ กี ารดําเนินชวี ติ ” • การศึกษาบุญ หรือ “ปุญญสิกขา” คือ การฝกฝน การฝกหัด การหม่ันทําความดีใหเจริญงอกงามในจิตใจ มี ๓ ประการ คือ ทาน ศลี และภาวนา เปนเรือ่ งของการปฏบิ ตั ิ เรียกวา “บุญกิรยิ าวตั ถุ ๓” • ทาน ศีล สมาธิ เปนหลักปฏิบัติท่ีชวยใหเอาชนะใจตัวเอง ชนะกิเลสในจิตใจ การใหทานเปนการเอาชนะ ความโลภหรือโลภะ การมีศีลเปนการเอาชนะความโกรธหรือโทสะ และการภาวนาเปนการเอาชนะความ หลงไมร ูจ รงิ หรือโมหะ ทั้งหมดจึงถอื วา เปนการกระทาํ บญุ
วถิ กี ารดาํ เนนิ ชีวิตของพุทธศาสนิกชน การทาํ บญุ ดว ยการใหท าน • ทาน หมายถึง การเอ้ือเฟอเผ่ือแผแบงปนกัน ความต้ังใจที่จะสละหรือบริจาค การมีเจตนาท่ีจะไมเบียดเบียน การตง้ั ใจจะบริจาคส่ิงของใหผ ูอืน่ เพอื่ ชว ยเหลือเผอ่ื แผก ัน แบงเปน ๒ ประเภท คอื อามิสทาน • เปนการใหส่ิงของ คือ ปจจัย ๔ ไดแก เคร่ืองนุงหม อาหาร ท่ีอยูอาศัย และยารักษาโรค การใหทานนี้อาจใหเ จาะจงตัวบคุ คลใดบคุ คลหนง่ึ หรือไมเจาะจงกไ็ ด ธรรมทาน • เปนการใหความรู ใหคําสั่งสอนแนะนําเก่ียวกับธรรมะ การตักเตือนใหประพฤติดีประพฤติ ชอบ รจู ักบาปบุญคุณโทษ การใหธ รรมถอื วา เปน ทานที่สูงกวาการใหสง่ิ ของ
วถิ กี ารดาํ เนินชวี ิตของพทุ ธศาสนกิ ชน การตงั้ มั่นและรักษาศลี • ศีล คอื การประพฤตแิ ตสง่ิ ทด่ี งี าม ไมเบียดเบียนหรือทาํ ใหผูอ่นื เดอื ดรอ น เปน ความดที สี่ งู กวาทานขน้ึ มาขั้นหนึ่ง • ความหมายโดยรวมของศีล คอื การไมเ บียดเบยี นกนั ใหเดือดรอน อาจเรยี กวา อภัยทาน • อภยั ทาน แปลวา ใหค วามไมมภี ัยหรือใหอภัย • ศลี อยทู ีต่ วั ของเราเอง สามารถแสดงออกมาใหเหน็ ไดทง้ั ทางกายและทางวาจา • ศีล ถอื วา เปน พ้นื ฐานหรอื หลักการในการอยูร วมกันกับผูอ่ืนในสังคมดวยความสงบสุข เพราะศีลคือการต้ังใจละเวนจาก การทาํ ช่วั และไมเ บยี ดเบียนกัน คนท่จี ะมศี ีลตองเปนคนที่มีหริ โิ อตัปปะ คือ ความละอายและความเกรงกลวั ตอบาป
วถิ กี ารดําเนินชีวติ ของพทุ ธศาสนกิ ชน การตงั้ ม่นั และรกั ษาศีล ๑. งดเวน จากการฆา สัตวมชี ีวิต ๑. การมีเมตตา กรณุ า ๒. การประกอบอาชีพสจุ รติ ๒. งดเวนจากการถือเอาส่ิงของท่ีเจาของ เบญจศีล เบญจธรรม ๓. การสํารวมในกาม ไมไดใ หอ นุญาต ๔. การพดู ความจริง ๕. การมีสติสํารวม ๓. งดเวนจากการประพฤตผิ ดิ ในกาม ๔. งดเวน จากการพดู เทจ็ ๕. งดเวน จากการฆาด่มื นาํ้ เมา
วิถีการดําเนินชีวิตของพุทธศาสนกิ ชน การเจริญสตภิ าวนา • ภาวนาเปนการฝกอบรมจิตใหบริสุทธ์ิจากกิเลส และเปนการปฏิบัติขางใน แบงเปน ๒ อยาง คือ การฝกอบรม จิตใหต ัง้ ม่นั และการฝก จิตอบรมใหใ ชปญ ญาพิจารณาสิง่ ตา งๆ ตามความเปนจริง จิตภาวนาหรือสมาธิ • การฝก อบรมจติ ใหต งั้ ม่ัน เพอ่ื ทาํ ใหเกิดความสงบ ท้ังทางกาย วาจา และจติ ใจ ปญ ญาภาวนาหรือวปิ สสนา • การฝกจิตอบรมใหใชปญญาพิจารณาส่ิงตางๆ ตามความเปนจริง เพื่อใหเกิดความรูความเห็นที่ถูกตอง จนหลุด พน จากกิเลสและความทกุ ข
วถิ กี ารดาํ เนินชวี ติ ของพุทธศาสนกิ ชน การเจริญสตภิ าวนา การภาวนาขัน้ พ้นื ฐานในชวี ติ ประจาํ วนั การไหวพ ระสวดมนต • เปน การภาวนาขั้นพื้นฐาน เปนการฝกจิตใหสงบ กิเลสเบาบางลง ชวย ใหจิตใจปลอดโปรง นอนหลบั สบาย การแผเ มตตา • เปนการทําความดี เปน การคดิ ปรารถนาใหผูอ่ืนเปนสุข การใหอภัยไมถือ โทษกนั เปน อภยั ทาน
วิถีการดําเนินชวี ติ ของพทุ ธศาสนกิ ชน การเจรญิ สติภาวนา ประโยชนท ไ่ี ดจากการภาวนาในชีวติ ประจําวนั • ชวยในการสงเสริมสุขภาพจิต ทําใหจิตใจผองใส มีความหนักแนนม่ันคง รูจักจิตใจของ ตวั เองดขี ึ้น • ชวยในการทํางานใหดีข้ึน เพราะมีสมาธิที่จะคิดหรือทําอะไรโดยไมวอกแวกไปหาเรื่องอ่ืน ทําใหการงานสําเร็จไปไดด ว ยดี • ชวยใหหลุดพนจากกิเลสตัณหาท้ังหลาย ท่ีหมายถึง มีความอยากเกินพอดี มีความ ทะเยอทะยานอนั ไมร ูจบ
วถิ กี ารดาํ เนนิ ชวี ติ ของพุทธศาสนิกชน การเจรญิ สติภาวนา การทําบญุ ในวันพระหรือวนั สําคัญทางประเพณี • โดยท่ัวไปเมือ่ ถงึ วนั พระ วนั สาํ คัญทางศาสนา หรือวันสําคัญทางประเพณี ชาวพุทธจะนิยมทําบุญพรอมกัน ๓ ดาน คือ ทาน ศีล และ ภาวนา ดวยการตักบาตรถวายอาหาร รักษาศีล ฟงเทศนฟงธรรม น่ังสมาธิ เวียนเทียน หรือปฏิบัติธรรมเปนโอกาสพิเศษในชวงเวลา สั้นๆ เชน ๓-๗ วัน • ในอดตี มปี ระเพณีที่ทกุ ครวั เรือนนิยมใหลูกหลานผูชายท่ีมีอายุครบ ๒๐ ปบริบูรณข้ึนไปปฏิบัติ คือ ประเพณีการอุปสมบท (การบวช) เพื่อรับการถายทอดความรูเกี่ยวกับความจริงของโลกและชีวิต จะไดเปนผูมีสติสัมปชัญญะ เปนท่ีพ่ึงของครอบครัวตอไปได และถือ เปนการตอบแทนคุณบิดามารดาดว ย
วิถกี ารดาํ เนนิ ชวี ิตของพุทธศาสนิกชน การเจริญสติภาวนา วิธกี ารดําเนนิ ชีวติ ของพุทธศาสนิกชนสอดคลองกบั หลักการที่เปน หัวใจของพระพทุ ธศาสนา คือ โอวาทปาฏิโมกข โอวาทปาฏโิ มกข ๓ ประการ ทําความดใี หถ ึงพรอ ม ไมทาํ ความช่ัวทัง้ ปวง ทาํ จติ ใจใหบรสิ ุทธผ์ิ องแผว
วถิ ีการดําเนนิ ชีวติ ของครสิ ตศาสนกิ ชน • คริสตศาสนา มีหลักความเช่ือประการแรก คือ ความเช่ือในพระเปนเจา ผูทรงเปนพระเปนเจา สูงสุด เปน ผูส รางสรรพสิง่ • พระองคไดทรงเผยแสดงพระองคใหมนุษยไดรูจักในฐานะ พระบิดา พระบุตร และพระจิต ซึ่งเรียกวา “พระตรีเอกภาพ” ทรงประทานพระบญั ญัติ ๑๐ ประการ และทรงสัญญาวาจะสง พระผไู ถมากอบกูม นุษยใ หพ น จากบาป • พระเยซู เปนพระบุตรท่ีพระเปนเจาทรงสงมาเพื่อไถบาปมนุษย โดยการเสียสละพระองคเองรับทุกขทรมานและส้ินพระชนม บนไมกางเขน อนั แสดงใหเ ห็นถึงความรักอันบรสิ ทุ ธิ์ • คริสตศ าสนกิ ชน ดําเนินชีวิตโดยอาศัยพระคัมภีรเปนแนวทาง มีความเชื่อความศรัทธาในพระ เปน เจา โดยการรว มพธิ ีบูชามสิ ซาเพ่ือนมสั การ โมทนาคณุ ขอบพระคุณพระเปนเจาในทุกๆ วัน โดยเฉพาะวนั อาทิตย
วถิ ีการดําเนินชวี ติ ของคริสตศ าสนกิ ชน หนา ทีข่ องครสิ ตศ าสนิกชน นิกายโรมนั คาทอลิก • เปนนิกายเกาแกท่ีสุดในศาสนาคริสต ประมุขสูงสุด คือ พระสันตะปาปา มศี นู ยก ลางอยูทสี่ ํานกั วาตกิ ัน ใชภ าษาละตนิ เปน ภาษากลางทางศาสนา คริสตศ าสนาในประเทศไทย มี ๒ นกิ ายหลกั • เปนนิกายที่แยกตัวออกมาจากคริสตจักรโรมันคาทอลิก โดยมี มารติน นิกายโปรเตสแตนต ลูเทอรและผูสนับสนุน ในชวงที่คริสตจักรคาทอลิกเกิดปญหาขึ้น มากมาย
วถิ ีการดาํ เนนิ ชวี ิตของคริสตศ าสนิกชน หนา ทีข่ องครสิ ตศาสนกิ ชน นิกายโรมนั คาทอลกิ • มีพธิ กี รรมทีเ่ รียกวา “พธิ มี สิ ซาบูชาขอบพระคุณ” ซ่ึงมีเปนประจําทุกวัน แตจะ เนนการรวมบูชามิสซาในวันอาทิตย เน่ืองจากเปนวันหยุดท่ีคริสตศาสนิกชน สว นใหญจ ะวางจากการประกอบกจิ การงาน การแสดงออกถึงความเช่อื ความศรัทธาในพระเปนเจา ชาวคริสตนิกายโรมนั คาทอลกิ และนกิ ายโปรเตสแตนตจ ะแสดง ความเชอ่ื ความศรัทธาน้ีโดยการประกอบพธิ กี รรม • มีพิธีที่เรียกวา “พิธีนมัสการ” และยึดมั่นในพระวจนะจากคัมภีรไบเบิลเปน นกิ ายโปรเตสแตนต แนวทางในการดําเนนิ ชีวติ
วิถกี ารดาํ เนินชวี ติ ของครสิ ตศาสนิกชน หนาที่ของครสิ ตศาสนกิ ชน การรับศีลศักด์สิ ทิ ธ์ิ • พระศาสนจักรนิกายโรมันคาทอลิกกําหนดศีลศักดส์ิ ิทธไิ์ ว ๗ ประการ ศีลลา งบาป • เปน พิธกี รรมแรกสําหรับผูทจ่ี ะเขา ถือคริสตศ าสนา ชําระลา งบาปมลทินตางๆ ศีลกําลงั • เปนพิธีเจิมหนาผากดวยนํ้ามันเปน เครอื่ งหมายรปู กางเขน ศลี มหาสนทิ • เปนศลี ทส่ี าํ คัญท่ีสดุ เปนการแสดงวา ผรู ับศีล “รวมสนทิ ” เปน หนึ่งเดยี วกบั พระเจา ศลี อภัยบาป • หรอื เรยี กวา ศีลสารภาพบาป เมื่อไดกระทาํ บาปแลว สํานึกผิดและรสู ึกเสียใจ ศลี เจิมคนไข • เปน พธิ กี ารเจมิ ดว ยนํา้ มันแกผ ปู ว ยหนักหรือผูท ีก่ าํ ลงั จะสน้ิ ใจ ศลี บวช • เปน พิธีกรรมท่ีพระสังฆราชโปรดใหแกผ ูชายทีส่ มัครมาบวช ทีไ่ ดผ า นการคดั เลือกแลว ศลี สมรส • เปนการประกาศวา ชายหญงิ คหู นง่ึ ไดใหคาํ มน่ั สญั ญาวาจะใชช ีวติ รวมชีวติ กนั
วิถีการดําเนนิ ชวี ติ ของครสิ ตศาสนิกชน หนา ทข่ี องครสิ ตศ าสนิกชน การบาํ รงุ ศาสนจักร • การบํารุงศาสนจักร คือ การชวยเหลือกิจการของคริสตจักร โดยการบริจาค ทรัพยตามกําลังความสามารถของคริสตศาสนิกชน เพ่ือบํารุงและเผยแผ ศาสนา
วิถีการดําเนนิ ชีวติ ของครสิ ตศาสนิกชน วนั สาํ คัญของครสิ ตศ าสนิกชน • คริสตศาสนาทุกนิกายมีวันสําคัญทางศาสนาที่เหมือนกันและแตกตางกันบาง ในบางครั้งอาจเรียกชื่อตางกัน เทา นนั้ แตแกน แทค วามสาํ คญั นนั้ มคี วามคลา ยคลึงกัน วนั สาํ คัญทางครสิ ตศ าสนา «�“วŒนั À÷อีส∙µเตŒอ√รè ((EEaastsetre) r) «ว�“นั อŒา÷Àท∙ิตµยŒข√อèง(ทEุกaสsปั tดeาrห) ว«ัน�“คŒริส÷Àต∙µม าŒส√(èC(hEraissttmears))
วิถีการดําเนนิ ชีวติ ของคริสตศาสนิกชน วันสาํ คัญของครสิ ตศาสนิกชน วัน«อ“�าŒทÀ÷ิต∙µยŒข √อèง(ทEุกaสsัปteดr)าห • วนั อาทติ ยของทกุ สปั ดาห เปน วันสําคัญท่ีสืบทอดความเช่ือมาจากศาสนายูดาย เรียกวา “วันสะบาโต” ถือเปนวันบริสุทธ์ิ ชาวคริสตเช่ือวาวันอาทิตยเปน วันหยุดพักผอนที่ควรงดทํากิจการงาน และตองไปประกอบกิจทางศาสนา รว มกันทโี่ บสถ
วถิ ีการดําเนินชวี ิตของครสิ ตศาสนิกชน วันสําคญั ของครสิ ตศาสนิกชน «ว“�นั ŒอÀ÷สี ∙เµตŒอ√รè ((EEaasstteerr)) • วนั อสี เตอร และวนั สมโภชปสกา อยใู นชว งวนั ที่ ๒๑ มนี าคม – ๒๕ เมษายน ของทุกป เปนวันสําคัญ ท่ีสืบเน่ืองมาจากการสิ้นพระชนมของพระเยซู และเมื่อพระเยซูทรงกลับเปนข้ึนมา ชาวคริสตจึง ฉลองการคนื พระชนมชีพของพระเยซู วันอีสเตอรยงั เปนวนั แหงการระลึกถึงเหตุการณที่พระเจาทรง นําชาวอิสราเอลออกจากการเปน ทาสในอยี ิปต
วถิ กี ารดาํ เนินชีวิตของคริสตศ าสนกิ ชน วันสําคัญของคริสตศ าสนิกชน วัน«ค“�รŒสิ ÷Àต∙มµาŒส√è(C(Eharissttemr)as) • วันคริสตมาส เปนวันสมโภชการประสูติของพระเยซู ศาสดาของคริสตศาสนา ซ่ึงจะตรงกับวันที่ ๒๕ ธันวาคม ของทกุ ป ชาวคริสตถอื วา เปนชว งเวลาแหงความช่นื ชมยนิ ดี โดยจะมีการจัดงานเฉลมิ ฉลองกนั อยา งย่ิงใหญ มีการประดบั ไฟตน คริสตม าส รองเพลง และมอบของขวญั ใหแกก ัน
วถิ กี ารดาํ เนินชีวิตของผูน บั ถือศาสนาอสิ ลาม • ศาสนาอิสลามไมไดเปนเพียงแคศาสนา แตเปนระบอบการดําเนินชีวิตต้ังแตเกิดจนตาย เปนระเบียบวินัยท่ี ครอบคลุมทุกอยางของชีวิต ทั้งในดานความคิดและความประพฤติ ซ่ึงแสดงออกดวยการปฏิบัติท่ีเครงครัด สะทอนใหเห็นความศรัทธาอันยิ่งใหญ ท่ีมีตอองคอัลลอฮเพียงองคเดียวเทาน้ัน ซ่ึงจะดําเนินชีวิตโดยยึดหลัก ปฏิบตั ิ ๕ ประการ คอื การปฏญิ าณตน การละหมาด การถอื ศลี อด การบรจิ าคซะกาต การเดินทาง ไปประกอบพิธฮี จั ญ
วถิ ีการดําเนินชวี ิตของผูน บั ถอื ศาสนาอสิ ลาม การปฏิญาณตน • การที่จะเขาสคู วามเปนมสุ ลมิ ที่สมบรู ณ ตอ งมกี ารปฏิญาณตนตามขอความในคัมภีรอัลกุรอานท่ีเปนหัวใจของชาวมุสลิมทุก คน คือ “ไมมีพระเจาอ่ืนใดนอกจากอัลลอฮองคเดียว และแทจริง ทานศาสดามุฮัมมัดเปนเราะซูล (ศาสนทูต ผูนํา โองการ) ของอัลลอฮ” • เม่ือยอมรับเอกภาพของอัลลอฮแตองคเดียว ไมอนุญาตใหหาท่ีพึ่งอื่นหรือหาสิ่งอื่นมาเคารพเทียบเคียงกับพระผูเปนเจา อิสลามจึงมีขอหามสักการรูปเคารพหรือสัญลักษณใดๆ ไมวาจะเปนรูปปน รูปถาย เครื่องรางของขลังหรือธรรมชาติ หาม กราบบุคคลทุกคนไมวาจะเปนบิดามารดา ปูยาตายายหรือเจานาย เพราะการกมกราบเอาหนาผากจรดพ้ืน เปนการแสดง ความเคารพสงู สุด สงวนไวใชกบั พระเปนเจา พระองคเ ดยี วเทานนั้ • การดําเนินชีวิตของมุสลิม เม่ือจะทํากิจกรรมใดๆ จะตองเร่ิมดวยพระนามของพระองคเสมอ ไมวาจะเปนการดื่ม น่ัง นอน เดิน นอน อาบนํ้า การไอ การจาม ตกใจ ดีใจ เสียใจ การศึกษาคัมภีรอัลกุรอานถือเปนหนาท่ีของมุสลิมทุกคนและจะตอง ศกึ ษาคมั ภีรต ัง้ แตเร่ิมจําความได
วิถกี ารดาํ เนินชวี ติ ของผนู ับถือศาสนาอิสลาม การละหมาด • การละหมาด หรือ “นมาซ” มาจากภาษาอาหรับ แปลวา “การขอพร” การละหมาด คือ การนมัสการ การแสดงความ เคารพตอ พระเจา ทง้ั รา งกาย และจิตใจ ความมุงหมายของการละหมาด • ชวยขัดเกลาจติ ใจผทู ่ีกระทาํ ใสสะอาดบริสทุ ธอิ์ ยูเสมอ หลุดพนจากความมัวหมอง • ฝกใหม คี วามรับผิดชอบ ฝก ใหมีระเบยี บวนิ ยั ฝกใหรักษาความสะอาด • เปนการสาํ รวมจิตใจ ทําสมาธิใหจิตสงบ เพอ่ื เขาไปสัมผสั กับเอกภาพของพระเจา • ชว ยยบั ย้งั จากการประพฤติปฏบิ ัติตนในส่งิ ท่ไี มด ี สงิ่ ชวั่ รา ยท้งั หลาย • ชว ยใหเปน ผทู ี่มีความหนักแนน อดทน ในยามทปี่ ระสบความทุกขหรอื ปญ หาในชีวิต
วถิ ีการดาํ เนินชวี ิตของผูนบั ถอื ศาสนาอิสลาม การละหมาด ศาสนาสง เสริมความสะอาด • ศาสนาอิสลามสงเสริมความสะอาด เพราะถือวาความสะอาดเปนสวนหน่ึงของศรัทธา มุสลิมทุกคนจะตอง สะอาดตัง้ แตภายนอกคือรางกาย จนถึงภายในคือจิตใจ จึงตองชําระรางกายและสิ่งสกปรกตามศาสนบัญญัติ กอน หรอื ลา งมอื กอ น • น้าํ ทใ่ี ชชําระตอ งสะอาด เสื้อผา ทสี่ วมใสเขา เฝา พระเจาก็ตอ งสะอาดเรยี บรอย ผหู ญงิ ตองแตงตัวมิดชิด เปดได เฉพาะใบหนาและฝามอื สวนผชู ายตองไมใ หผมปรกหนา ผาก โดยมีการใสหมวกลักษณะตางๆ เชน กะปเยาะ (ดังรปู ) ซอเกาะก ตะกียะห
วถิ ีการดําเนนิ ชวี ติ ของผนู ับถอื ศาสนาอสิ ลาม การละหมาด เวลาปฏบิ ตั ิในการละหมาด • การละหมาด เปนการปฏิบัติที่มีรูปแบบกฎเกณฑตามท่ีศาสดาไดกําหนดไว มุสลิมทุกคนจะตองปฏิบัติตามจนกระท่ังวัน สดุ ทา ยของชวี ิต โดยตอ งปฏิบตั ิวันละ ๕ เวลา เวลารุง อรุณ ๑ กอ นดวงอาทิตยข ้ึน ๒ เวลากลางวนั เมอื่ ดวงอาทิตยคลอ ย เวลาบา ย จากเท่ยี งตรง เวลาคา่ํ หลงั สน้ิ สุดแสงอาทติ ย ๓ ๔ เวลาเย็นทด่ี วงอาทิตย เร่ิมตกดิน ๕
วถิ กี ารดาํ เนินชวี ิตของผูนบั ถอื ศาสนาอิสลาม การถอื ศีลอด • การถือศีลอด หมายถึง การงดเวนจากการบริโภคอาหาร เครื่องด่ืม การรวมสังวาส การละจากการทําชั่วท้ังทางกาย วาจา และใจ ตง้ั แตเวลารงุ อรณุ จนถึงดวงอาทติ ยต ก • ผูท่ีบรรลุศาสนภาวะ คือ อายุ ๑๕ ป ทุกคนมีหนาท่ีตองปฏิบัติ แตมีขอยกเวนสําหรับบุคคลในบางประเภท ไดแก คนชรา คนปว ย หญิงมีครรภหรือหญิงท่ีใหนมแกทารก หญิงขณะมีประจําเดือนหรือหลังคลอด บุคคลท่ีใชแรงกายทํางานหนัก และ บคุ คลทีอ่ ยใู นระหวางเดนิ ทาง เดือนเราะมะฎอน • ในรอบปหน่ึง มุสลิมทุกคนจะตองถือศีลอดคนละ ๑ เดือน คือ ในเดือนท่ี ๙ นับตามฮิจเราะหศักราชท่ีเรียกวา “เดือนเราะ มะฎอน” ชาวมสุ ลมิ จะตอ งตื่นขึ้นรับประทานอาหารเชาต้ังแตกอนดวงอาทิตยข้ึนเม่ือดวงอาทิตยข้ึนแลวตองงดรับประทาน อาหารและน้าํ กระท่งั ดวงอาทิตยต ก • การถือศีลอดเปนการฝกฝนรางกายและจิตใจใหมีความอดทน ใหรูจักความ หิวโหย ไดเขาใจเห็นใจคนยากจน รูจักการ ชวยเหลือเผื่อแผ ท้ังน้ีการถือศีลอดยังถือเปนการทดสอบความศรัทธาและความยําเกรงท่ีมุสลิมมีตอพระเปนเจา และยัง ทดสอบและฝก ฝนความซ่อื สตั ยข องบคุ คลที่ถอื ศีลอดดว ย
วิถีการดําเนนิ ชีวติ ของผนู ับถือศาสนาอิสลาม การบริจาคซะกาต • ซะกาต แปลวา การทําใหบ รสิ ทุ ธ์ิ การทําใหหมดมลทินซะกาต หมายถึง ทานที่บังคับให ผูมีรายไดในรอบ ๑ ป ซ่ึงมีรายไดถึงจํานวนที่กําหนดไว ตองจายหรือบริจาคทรัพยสินใหแกคนท่ีมีสิทธิรับบริจาคตามอัตราท่ี กาํ หนด โดยท่ัวไป คอื ต้ังแตรอยละ ๒.๕ - ๒๐ ตอ ป • การบริจาคซะกาตเปนการขัดเกลาจิตใจของผูบริจาคใหบริสุทธ์ิ ใหลดความตระหนี่เห็นแกตัว ไมใหละโมบ ใหม คี วามเอือ้ เฟอเผ่อื แผ และถือไดวาการบริจาคซะกาตเปน การชวยลดปญหาสังคม
วถิ กี ารดาํ เนินชวี ติ ของผนู บั ถือศาสนาอสิ ลาม การบรจิ าคซะกาต บคุ คลทีม่ สี ิทธิรบั บรจิ าคซะกาตมี ๘ ประเภท • คนอนาถา คอื คนท่ีไมม ที รพั ยส นิ มคี วามเปนอยูแรน แคน • คนขัดสน คือ คนที่หาไดไมคอยพอใช มีภาระที่ตอง • ผทู าํ หนาท่รี วบรวมและจายซะกาต รับผดิ ชอบมาก • ทาสหรอื เชลย เพ่ือชว ยไถต ัวเขาใหเปนอสิ ระ • บุคลท่ีอยูในแนวทางของอัลลอฮ เชน นําเงินไปสรางโรงเรียน • ผูที่หันมารับนับถือศาสนาอิสลามและถูกตัดขาดจาก ครอบครวั โรงพยาบาล • ผทู ่ีมีหนีส้ ินลนพน เพอ่ื ชวยปลดเปลื้องหนี้สินให • ผเู ดินทางทมี่ ีความจาํ เปนตองไดร ับความชว ยเหลอื
วถิ ีการดาํ เนินชีวิตของผนู บั ถือศาสนาอิสลาม การเดนิ ทางไปประกอบพธิ ฮี ัจญ • ฮัจญ แปลวา “การมุงไปสูหรือการไปเยือน” หมายถึง การเดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ วิหารกะอบะฮ หรือบัยตลุ ลอฮ ท่ีนครมกั กะฮ ประเทศซาอุดอี าระเบยี • พิธฮี ัจญกระทําในเดือนท่ี ๒ ของทุกป นับตามปฏิทินอิสลาม มุสลิมทั่วโลก เดินทางไปประกอบพิธีรวมกันท่ี สถานที่แหงนี้แหงเดียว ใชเวลาประมาณ ๒ อาทิตย โดยบังคับเฉพาะบุคคลที่มีความ สามารถเทานั้น คือ ความสามารถทางกาย ทรัพยสิน และความปลอดภัยในการเดินทาง ตองไดรับการยินยอมจากบุคคลใน ครอบครัวกอน
วถิ ีการดําเนินชวี ิตของผนู บั ถอื ศาสนาอสิ ลาม การเดนิ ทางไปประกอบพธิ ฮี จั ญ สถานทปี่ ระกอบพิธฮี จั ญ • วิหารกะอบะฮตั้งอยใู จกลางเมืองมักกะฮ ชาวอาหรับถือวา ท่แี หงนี้เปนใจกลางของโลก เปนจุดศูนยกลางของทุก ทวีป สะดวกแกการเดนิ ทางมาของมสุ ลิมท่ัวโลก • อัลลอฮทรงบัญชาใหทานศาสดาและอิสมาอิลบุตรชายรวมกันสราง “บัยตุลลอฮ” แปลวา บาน ของอัลลอฮขน้ึ มา เพ่อื ใชเ ปนสถานที่แสดงความเคารพจงรักภกั ดีตอ พระองค • คุณสมบัติของมุสลิมที่สามารถประกอบพิธีฮัจญได คือ มีศรัทธาอยางแทจริง มีสุขภาพและสติปญญาสมบูรณ มที รพั ยสินเพยี งพอสําหรบั การเดนิ ทาง ไดประกอบพิธีละหมาด ถอื ศลี อด และบรจิ าคซะกาตครบถวนแลว
วิถกี ารดําเนินชวี ติ ของผนู ับถือศาสนาอิสลาม การเดนิ ทางไปประกอบพธิ ฮี จั ญ ความมงุ หมายของการประกอบพธิ ฮี จั ญ • เพอื่ แสดงความศรัทธา ทมี่ ตี ออัลลอฮ • เพ่ือสรา งสมั พันธภาพและภราดรภาพระหวา งชาวมสุ ลิมท่วั โลก • เพือ่ ฝกฝนและทดสอบความอดทน • เพื่อฝก การสาํ รวมตนและทดสอบคณุ ธรรมในการเสยี สละ • เพอื่ แสดงวา มสุ ลมิ ทุกคนเทา เทียมกันในสายตาของอลั ลอฮ
วถิ กี ารดําเนินชวี ิตของผนู บั ถือศาสนาอสิ ลาม การเดนิ ทางไปประกอบพธิ ฮี จั ญ ขอหามอ่ืนๆ ของมสุ ลมิ • นอกจากหลกั ปฏบิ ตั ิ ๕ ประการแลว มุสลมิ ยงั มขี อ หา มอน่ื ๆ ในการดําเนนิ ชวี ิต ขอหามท่ีสําคัญ เชน • หา มเช่อื ไสยศาสตร เชอ่ื ดวง • หา มเลน การพนันทกุ ชนดิ • หามดูหมอ ดลู ายมือ ดูโชคชะตาราศี • หา มเสพของมึนเมาทกุ ชนดิ แมกระทง่ั • หามกินหมู เลอื ด สัตวท ่ีตายเอง หรอื สัตว บหุ ร่ีก็เปนส่งิ ตอ งหาม ท่นี ําไปเซนไหว • หา มใชอารมณเ หนือเหตผุ ล
วถิ กี ารดาํ เนนิ ชีวติ ของผทู นี่ บั ถือศาสนาพราหมณ- ฮินดู • ขอปฏิบัติในศาสนาพราหมณ-ฮินดู มีทั้งที่เปนขอปฏิบัติเฉพาะสําหรับวรรณะและขอปฏิบัติรวมขอปฏิบัติท่ีตอง ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิท่สี ําคญั คือ ขอ ปฏบิ ัตสิ าํ หรับวรรณะ พิธีสังสการหรอื พิธีประจาํ บาน การบชู าเทวะ
ขอ ปฏิบตั ิสาํ หรับวรรณะ การแตงงาน • จะแตงงานกับคนนอกวรรณะไมได แตชายที่อยูในวรรณะพราหมณแตงงานกับหญิง วรรณะอื่นได สวนหญิงที่เปนพราหมณจะแตงงานกับชายวรรณะอ่ืนไมได ใครฝาฝน กฎจะตองถูกประณามหรอื ตดั ขาดจากวรรณะ • มีขอกําหนด เชน คนในวรรณะต่ําจะปรุงอาหารใหคนวรรณะสูงรับประทานไมได อาหารการกิน พราหมณไมกนิ เนอื้ สัตว คนตา งวรรณะจะรบั ประทานอาหารรวมกนั ไมไ ด อาชีพ • การประกอบอาชีพถูกกําหนดไวสําหรับคนวรรณะตางๆ ซ่ึงแตกตางกัน ใครอยูใน วรรณะใดกจ็ ะตองทําอาชพี น้นั จะลกั ล่ันไมได • ในกฎเดิมจะหามมีถ่ินฐานอยูนอกเขตประเทศอินเดีย และหามเดินเรือในทะเล สถานที่อยู แตป จ จุบันไมค อยถอื กัน
พิธีสงั สการหรือพธิ ปี ระจาํ บาน • พิธีสังสการหรือพิธีประจําบานเปนพิธีท่ีผูที่ประสงคจะเปนฮินดูตองทํา และคนในวรรณะพราหมณ กษัตริย แพศย ยกเวน ศูทร ตอ งผานพิธีสงั สการกอ น จึงจะนับวา เปน ผูบ รสิ ทุ ธิ์ พิธีตง้ั ชอ่ื เด็ก พิธีปอนขา วในเดือนที่ ๕ และ ๖ พธิ คี ลอ งสายยัชโญปวตี พิธแี ตงงาน
พธิ สี ังสการหรอื พิธปี ระจาํ บา น พิธีคลอ งสายยัชโญปวตี • พิธีคลองดายศักด์ิสิทธ์ิ เปนพิธีสําหรับเด็กชายทุกคนที่เกิดใน ๓ วรรณะ ไดแก พราหมณเม่ืออายุครบ ๕ ป กษัตริยเม่ืออายุครบ ๘ ป และแพศยเมื่ออายุครบ ๑๖ ปสําหรับผูชายในวรรณะพราหมณจะตองเขาพิธีนี้ เพื่อ การเปนพราหมณโ ดยสมบรู ณ • หนาท่ีของพราหมณ คือ การส่ังสอนศิลปะวิทยาการ ผูที่ไมใชพราหมณจะสอนไมได พิธีน้ีเรียกวา “อุปนยัน” แปลวา การเขา สทู ศั นะใหม เปนการมอบตนเปนศิษย โดยจะคลองดายศักดิ์สิทธ์ิเรียกวา “ยัชโญปวีต” พิธีน้ีเปน การประกาศตนเปนพรหมจารี (ผศู ึกษาศาสนา) หรือเปนพราหมณโดยสมบูรณ
° ”√∫ ™⁄ ”∙∑«— • เดิมศาสนาพราหมณมีเทพเจาผูสรางโลกเปนผูย่ิงใหญองคเดียว คือ พระพรหม ตอมาหลังพุทธกาลเมื่อ ศาสนาพราหมณไดกลายเปนศาสนาฮินดู ก็ไดมีลัทธิที่เรียกวา “ตรีมูรติ” ซ่ึงเปนการขยายจากเทพผูสราง องคเ ดียวเปน ๓ องค คอื พระพรหม • เปน เทพเจาผสู รางโลกและสรางจกั รวาล พระวษิ ณุ • เปนเทพเจา ผูรกั ษาและคมุ ครองโลก หรือพระนารายณ พระศวิ ะ • เปน เทพผทู ําลาย • ไดทําลายโลกเมือ่ เกดิ ปญ หาจากน้นั กส็ รางโลกขึ้นมาใหม
ความแตกตา งของการดําเนินชีวิตของศาสนิกชนศาสนาตา งๆ มูลเหตขุ องการเกิดศาสนา มลู เหตทุ ่ีทาํ ใหเกิดศาสนา อาจแบง ประเภทของศาสนา ไดเ ปน ๒ ประเภท ศาสนาที่นับถอื พระเจา ศาสนาท่ไี มนบั ถือพระเจา
ความแตกตางของการดําเนินชีวิตของศาสนกิ ชนศาสนาตางๆ มลู เหตุของการเกิดศาสนา ศาสนาทีน่ บั ถอื พระเจา • ศาสนาท่ีนับถือพระเจา เรียกรวมๆ วา เทวนิยม เปนศาสนาที่เชื่อวา พระเจาเปนผูสรางโลก สรางสรรพส่ิง ในจกั รวาล และสรา งกฎเกณฑใหแ กธรรมชาติ แบง เปน เอกเทวนยิ ม • เปนศาสนาที่นับถือพระเจาองคเดียว เชน คริสตศาสนา ศาสนาอิสลาม ศาสนาสขิ เปนตน พหเุ ทวนิยม • เปนเปนศาสนาที่นับถือพระเจาหรือเทพเจาลายองค เชน ศาสนา พราหมณ-ฮินดู เปน ตน
ความแตกตางของการดําเนนิ ชีวิตของศาสนกิ ชนศาสนาตางๆ มูลเหตขุ องการเกิดศาสนา ศาสนาท่ีไมน ับถือพระเจา • ศาสนาท่ีไมนับถือพระเจา เรียกรวมๆ วา อเทวนิยม เชน พระพุทธศาสนา เปนศาสนาท่ีไมเชื่อวามีพระเจาสราง โลกและบนั ดาลคุณและโทษใหแกมนุษย แตเ ชื่อวา ส่งิ ทงั้ หลายเปนผลจากการกระทาํ ของตนเอง
ความแตกตา งของการดําเนินชวี ิตของศาสนิกชนศาสนาตา งๆ จุดหมายปลายทางของชวี ิต สัญลักษณของความสุขที่แทจ รงิ ของแตละศาสนา ศาสนาพราหมณ-ฮนิ ดู • การทไี่ ดอ ยเู ปนอันหน่งึ อนั เดยี วกลมกลนื กับพรหม • พระนิพพานเปน ทสี่ ุดของการประพฤตปิ ฏบิ ัตธิ รรม พระพุทธศาสนา ครสิ ตศ าสนา • การมชี ีวิตนิรนั ดรอยใู นอาณาจักรของพระเจา บนสวรรค • การอยูกบั อัลลอฮในสวรรค ศาสนาอสิ ลาม
ความแตกตา งของการดําเนินชวี ิตของศาสนิกชนศาสนาตางๆ จุดหมายปลายทางของชีวิต คาํ สอนเกี่ยวกับชวี ติ ในโลกนข้ี องแตละศาสนา ศาสนาพราหมณ-ฮนิ ดู • เชอื่ วามีการเวยี นวายตายเกดิ ชวี ิตในโลกมหี ลายครัง้ • เชื่อในเรือ่ งของการเวยี นวายตายเกิด พระพุทธศาสนา คริสตศ าสนา • ไมเ ช่ือเร่อื งเวียนวายตายเกิด เช่อื วา ชีวิตในโลกนม้ี คี รง้ั เดียว • เช่ือวา ชีวิตในโลกนีม้ ีครง้ั เดียว ไมมีการเวยี นวายตายเกดิ ศาสนาอิสลาม
วธิ กี ารยอมรบั วิถีการดําเนินชีวติ ของคนในแตละศาสนาในประเทศ • พระพุทธศาสนามหี ลักคาํ สอนทีช่ อ่ื วา “ฆราวาสธรรม ๔” หลักน้ีสามารถนํามาใชเปนแนวทางปฏิบัติสําหรับการ อยรู ว มกับผทู ี่นับถือศาสนาอ่ืน และชวยใหย อมรบั วถิ ีการดาํ เนินชีวิตของคนในศาสนาอื่นที่แตกตางไปจากตนเอง ไดอ ยา งเหมาะสมทําใหอ ยรู ว มกันไดอ ยางสนั ติสุข มดี ังน้ี ความจริงใจหรอื สัจจะ • มคี วามจรงิ ใจตอตนเอง ตอ บคุ คลอน่ื ตอหนา ทก่ี ารงาน และตอ ประเทศชาติ การขม ใจหรอื ทมะ • การฝกฝนและขมใจตนเองในเรือ่ งตางๆ ไมใหป ระพฤตใิ นสิ่งที่ไมดี ความอดทนอดกลนั้ • มีจิตใจเขมแข็ง อดทนตอความโกระ ความไมพอใจ อดกล้ันท่ีจะตอบโตผูท่ีมีความเห็น หรือขนั ติ ตา งจากเรา ความเสียสละหรือจาคะ • การมีจิตใจกวางขวาง เอื้อเฟอเผ่ือแผสละอารมณท่ีไมดี เชน ความโกรธ ความเกลียด ออกไป จากจิตใจ
Search
Read the Text Version
- 1 - 43
Pages: