การสื่อสารกา้ วไกล เทิดไทอ้ งคร์ าชนัCOMMUNICATION FORWARD BECAUSE OF KING RAMA9นายววิ รรธน์ ขตั ิวงษ์ รหสั 59316591นายกรวชิ ญ์ เก้ือผล รหสั 59410077นางสาวกฤษณา ธรรมศร รหสั 59410114นางสาวกญั ญาณฐั อุณหะ รหสั 59410138นางสาวเขมจิรา ฤทธ์ ิบารุ ง รหสั 59410367นายชยั ภมู ิ ป้ องจตั ุรัส รหสั 59410657นางสาวฐิติชญา สุทธิวฒั นกาจร รหสั 59410718นายทศพล โพธ์ ิทอง รหสั 59411036นายณรงคฤ์ ทธ์ิ อ่อนน่วมนอ้ ย รหสั 59410732นายณรงฤทธ์ ิ ปลอดโคกสูง รหสั 59410749โครงงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ าสารสนเทศเพ่ือการศึกษาคน้ ควา้ สาขาวชิ าคณิตศาสตร์ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ปี การศึกษา 2560
ช่ือหัวข้อโครงงาน การสื่อสารกา้ วไกล เทิดไท้องคร์ าชนัผูด้ าํ เนนิ โครงงาน นายวิวรรธน์ ขตั ิวงษ์ รหสั 59316591สาขาวิชาภาควิชา นายกรวชิ ญ์ เกอื้ ผล รหสั 59410077ปกี ารศกึ ษา นางสาวกฤษณา ธรรมศร รหสั 59410114 นางสาวกญั ญาณฐั อุณหะ รหสั 59410138 นางสาวเขมจริ า ฤทธิ์บารุง รหัส 59410367 นายชยั ภูมิ ปอ้ งจตั ุรัส รหสั 59410657 นางสาวฐติ ชิ ญา สทุ ธิวัฒนกาจร รหัส 59410718 นายทศพล โพธท์ิ อง รหัส 59411036 นายณรงค์ฤทธิ์ ออ่ นน่วมน้อย รหัส 59410732 นายณรงฤทธิ์ ปลอดโคกสูง รหสั 59410749 คณติ ศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ 2560……………………………………………………………………………………………………………………………………………… บทคัดย่อ โครงงานน้เี ป็นการศึกษาพระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชเก่ยี วกบั การสื่อสารและเพ่ือระลึกถงึ พระมหากรุณาธิคุณ ซ่งึ ในโครงงานนี้มีเนอ้ื หาเก่ียวกบั พระราชกรณียกิจด้านการส่ือสาร ได้แก่ พระราชกรณียกิจด้านส่ือสารอิเล็กทรอนิกส์ พระราชกรณียกิจด้านวิทยุกระจายเสียง และพระราชกรณียกิจด้านดาวเทียม ที่ได้ทรงงานเพื่อประชาชนชาวไทยได้มีเทคโนโลยที ท่ี นั สมยั ก
Project title Communication forward because of King Rama 9Name Vivat Kattiwong ID 59410749MajorDepartment Korrawit Kueaphon ID 59410732Academic year Kritsana Thammasorn ID 59411036 Kanyanat Unaha ID 59410718 Khemjira Ritbamrung ID 59410367 Chaiyaphum Pongjutturat ID 59410657 Thitichaya Suttiwattanagumjorn ID 59410138 Narongrit Onnuamnoi ID 59410114 Narongrit Plodkoksoong ID 59410077 Thodsaphon Phothong ID 59316591 Mathematics Education 2018……………………………………………………………………………………………………………………………………………… Abstract This project explores the royal duties of King Bhumibol Adulyadej aboutcommunication and to remember the grace. In this project there is content royalduties communication include Royal duties electronic Communications, Royal dutieson radio and Royal duties Satellite. To work for the Thai people have moderntechnology. ข
กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานเรือ่ งการสื่อสารก้าวไกล เทดิ ไท้องค์ราชัน สาเร็วลลุ ่วงไดด้ ้วยความกรุณาจากคณะอาจารย์ประจารายวิชาสารสนเทศศาสตร์เพื่อการศึกษาค้นคว้าทุกคนที่ได้ให้คาเสนอแนะ แนวคิดตลอดจนแนวทางแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ มาโดยตลอด จนโครงงานเล่มนี้เสร็จสมบูรณ์ คณะผู้ จั ด ท า จึ ง ข อ ก ร า บ ข อ บ พ ร ะ คุ ณ เ ป็ น อ ย่ า ง สู ง ขอบคุณเจ้าหน้าที่หอสมุด มหาวิทยาลัยนเรศวร ท่ีให้ความอนุเคราะห์ในด้านการหาข้อมูลจากหนังสือได้อยา่ งมากสาหรับโครงงานชิน้ น้ี ขอกราบขอบพระคุณบิดา มารดา ทใี่ ห้กาลังใจในการศึกษาเล่าเรียน และสมาชิกในกลุ่มท่ีให้ความรว่ มมือเปน็ อย่างดใี นการทาโครงงานคร้ังนจ้ี นกระทั่งประสบความสาเร็จด้วยดี คณะผจู้ ดั ทา ค
สารบญั หนา้บทคดั ย่อภาษาไทย………………………………………………………………………………………………………………กบทคดั ย่อภาษาองั กฤษ………………………………………………………………………………………………………….ขกติ ติกรรมประกาศ……………………………………………………………………………………………………………....คสารบัญ……………………………………………………………………………………………………………………………….งสารบัญตาราง………………………………………………………………………………………………………………………ฉสารบญั รูป……………………………………………………………………………………………………………………………ชบทท่ี 1 บทนา……………………………………………………………………………………………………………..…..…1 1.1 ความเปน็ มาและความสาคัญของโครงงาน………………………………………..…..…………….1 1.2 วัตถปุ ระสงค์ของโครงงาน………………………………………………………………………………….1 1.3 ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รบั …………………………………………………………………………………1 1.4 ขอบเขตการดาเนินโครงงาน……………………………………………………………………………….1บทที่ 2 หลกั การและทฤษฎีทเ่ี กยี่ วข้อง………………………………………………………………………………..…2 2.1 ความหมายของการสื่อสาร…………………………………………………………………………………2 2.2 ความสนพระทัยด้านการสอ่ื สาร………………………………………………………………………….2 2.3 พระราชกรณยี กจิ ด้านส่ือสารอเิ ลก็ ทรอนิกส์…………………………………………………………3 2.4 พระราชกรณียกิจดา้ นวิทยุกระจายเสยี ง…………………………………………………………….12 2.5 พระราชกรณยี กิจด้านดาวเทยี ม………………………………………………………………………..20บทที่ 3 วิธกี ารดาเนนิ โครงงาน…………………………………………………………………………………………….27บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ โครงงาน……………………………………………………………………………………………28บทที่ 5 สรุปผลการดาเนินโครงงาน……………………………………………………………………………………..29เอกสารอ้างองิ ……………………………………………………………………………………………………………………..30ภาคผนวก……………………………………………………………………………………………………………………………31 ง
สารบัญ (ตอ่ ) หนา้ประวตั ิผูด้ าเนนิ โครงงาน……………………………………………………………………………………………………….34 จ
สารบญั ตารางตารางที่ หนา้1.1 วิธกี ารดาเนนิ โครงงาน…………………………………………………………………………………………….…….27 ฉ
สารบญั รปูรูปท่ี หนา้2.1 รัชกาลที่ 9 ทรงประกอบเครอื่ งรับวทิ ยุตั้งแต่ทรงพระเยาว์……………………………………………..…..32.2 สายอากาศสุธี 2……………………………………………………………………………………………………….……52.3 เทเลก็ ซ…์ …………………………………………………………………………………………………………………......82.4 ส.ค.ส. ปี 2530………………………………………………………………………………………………………..…..102.5 ส.ค.ส. ปี 2539…………………………………………………………………………………………………………...112.6 รชั กาลท่ี 9 กับวิทยสุ ือ่ สาร……………………………………………………………………………………………..122.7 รชั กาลท่ี 9 ทรงเลน่ เคร่ืองดนตรี ณ สถานวี ทิ ยุ อ.ส…………………………………………………………..132.8 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์………………………………………………………………………………………….142.9 VR009…………………………………………………………………………………………………………………………152.10 เครอื่ งวทิ ยุคมนาคมทีร่ ัชกาลท่ี 9 ทรงสอนการใช้แก่เจา้ หน้าท่ี………………………………………….162.11 รชั กาลที่ 9 กับดาวเทยี ม……………………………………………………………………………………………...222.12 โรงเรียนวังไกลกงั วล…………………………………………………………………………………………………...232.13 การศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทียม…………………………………………………………………………….……..25 ช
1บทท่ี 1บทนำ1.1 ท่มี ำและควำมสำคญั ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชสมบัติ เป็นท่ีทราบกันดีแก่พวกเราประชาชนชาวไทยว่าพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีมากมายหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาด้านการศึกษา ด้านการสาธารณสุข และอีกหลายเรื่องที่เป็นพระกรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่พวกเราชาวไทยรวมไปถึงพระราชกรณียกิจด้านการสอ่ื สาร เน่ืองจากท่านทรงเห็นความสาคัญของการส่ือสารซ่ึงเปน็ปัจจัยหนงึ่ ทน่ี าไปสู่การพฒั นาประเทศ ไมว่ า่ จะเปน็ พระราชกรณียกิจด้านสือ่ สารอิเล็กทรอนกิ ส์ ด้านวทิ ยกุ ระจายเสยี ง และดา้ นดาวเทียม เพ่อื ที่จะนาประโยชน์จากการสื่อสารไปใชใ้ นการติดตามรับฟังข่าวสารทุกข์สุขของประชาชน เพอ่ื ความอยดู่ กี นิ ดีของประชาชนชาวไทย ดังน้ัน เพื่อสานึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ คณะผู้จัดทาจึงได้ศึกษาและรวบรวมเนื้อหาเกย่ี วกบั พระราชกรณียกจิ ดา้ นการสอ่ื สาร เพอ่ื นาไปใชป้ ระโยชนแ์ ละเผยแพร่ความรู้1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพื่อศึกษาพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการสื่อสารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช 1.2.2 เพือ่ สานึกในพระมหากรณุ าธคิ ุณของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช1.3 ประโยชน์ท่คี ำดว่ำจะไดร้ บั 1.3.1 ได้รับความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจเก่ียวกับการส่ือสารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช 1.3.2 ไดเ้ รียนรกู้ ระบวนการทางานกล่มุ การวางแผนการทางาน 1.3.3 ได้เรยี นรู้เกย่ี วกับทกั ษะการทารายงาน สอ่ื การนาเสนอ และการนาเสนอ1.4 ขอบเขตกำรทำรำยงำน พระราชกรณียกิจด้านการส่ือสาร อันได้แก่ พระราชกรณียกิจด้านส่ือสารอิเล็กทรอนิกส์พระราชกรณียกิจด้านวทิ ยุกระจายเสยี ง และพระราชกรณียกิจดา้ นดาวเทียม
2 บทท่ี 2หลักกำรและทฤษฎที เี่ กี่ยวขอ้ ง2.1 ควำมหมำยของกำรส่ือสำร การสอ่ื สาร หมายถงึ การทาความเขา้ ใจ ให้มีเน้ือหาสาระท่ตี รงกันระหว่างผู้สง่ สารและผรู้ ับสาร วิธีการสร้างความเข้าใจอยา่ งนี้อาจจะเปน็ การใชเ้ ครอ่ื งมือ เทคโนโลยีตา่ ง ๆ เข้าชว่ ย เชน่เคร่อื งมือสื่อสารไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ เป็นสอื่ ส่ิงพิมพ์หรือสิ่งใดก็แลว้ แต่รวมตลอดท้ังการสอ่ื สารในลกั ษณะท่ีเป็นการสื่อสารโดยตรง ที่ไม่ผ่านเครื่องมือ โดยในท่ีน้ีจะศึกษาเกีย่ วกับพระราชกรณยี กิจดา้ นการส่ือสารทใี่ ชเ้ ครอื่ งมือ อันได้แก่ พระราชกรณยี กจิ ด้านสื่อสารอิเล็กทรอนกิ ส์ ดา้ นวทิ ยุกระจายเสยี ง และดา้ นดาวเทยี ม2.2 ควำมสนพระทยั ดำ้ นกำรสอ่ื สำร ความสนพระทัยในด้านการส่ือสารของพระองค์เริ่มมาต้ังแต่ยังทรงพระเยาว์ ดังท่ีหลาย ๆท่านคงจะได้มีโอกาสฟังบทพระราชทานสัมภาษณ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรายการ “พูดจาประสาช่าง”ตอน 18-21 ซ่งึ ออกอากาศในวันอาทติ ย์ทางสถานีวทิ ยุจุฬาฯ ทูลกระหม่อมทรงเล่าถึงพระบิดาวา่ “ เท่าท่ีสังเกตมาต้ังแต่ยังจาความได้ก็เห็นท่านทางานช่างอยู่หลายอย่าง ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนเด็ก ๆ น้ัน ท่านก็มีความสนพระทัยในการช่างมาก แล้วก็ตอนท่านเล็ก ๆ สมเด็จย่าเลี้ยงท่านอย่างค่อนข้างจะเข้มงวด คือ แม้แต่ของเล่นก็ไม่ได้มีของเล่นมากมาย สาเร็จรูปอย่างฟุ่มเฟือยเหมือนอย่างเด็ก ๆ สมัยนี้ แม้แต่เงินทองที่สมเด็จย่าให้เป็นค่าขนมแต่ละคร้ังน้ันก็ให้อย่างจากัด จะซ้ือ จะหา อยากได้อะไรแต่ละอย่างก็ต้องคิดว่า จะเอาอะไรก่อน อะไรหลัง อะไรคุ้มดีไหม อย่างเช่นทา่ นอยากไดว้ ทิ ยุมาฟงั ท่านก็ต้องเข้าหุน้ กับทลู กระหม่อมลุงซอ้ื ชิ้นส่วนของวทิ ยุทีละชิ้นๆ เอามาแล้วก็มาประกอบเองเป็นวิทยุ ซึ่งต้องฟังกันสองคนท่ีเข้าหุ้นกัน แล้วก็การท่ีบางคร้ังเงินท่ีได้รับมาเป็นค่าขนมก็ไม่พอที่จะซ้ือของท่ีท่านอยากได้ ก็ต้องมีการหาเงินพิเศษ วิธีหาเงินพิเศษนั้นก็ต้องใช้ความสามารถของท่านเองน่ีแหละ เช่น มีพ่ีเลี้ยงซึ่งก็ไม่กล้าให้เงินท่านโดยไม่มีเหตุผล เวลาทาอะไรใหแ้ ก แกจงึ จะใหไ้ ด้ ” นอกจากนี้พลตารวจตรี สชุ าติ เผือกสกนธ์ ท่านผรู้ ้แู ละเปน็ ผู้มีประสบการณส์ ูงผู้หน่งึ อดีตเคยดารงตาแหน่งอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข และได้มีโอกาสถวายงานรับใช้ใกล้ชิดเบ้ืองพระยุคลบาทโดยสม่าเสมอได้กล่าวไว้ในบทความตอนหน่ึงของ “พระราชอัจฉริยภาพของสมเด็จพระภูมิพลอดุลยเดชมหาราชด้านการส่อื สาร” ในหนงั สอื วันสื่อสารแห่งชาติ ประจาปี 2530 ว่า พระองค์ทรงสนพระทยั เรื่องวิชาไฟฟ้ามาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ได้เคยทรงทดลองนารถไฟฟา้ ของเล่นจากพระตาหนักลงมาเล่นท่ีสนามได้ โดยใช้เส้นลวดทองแดงเส้นเล็ก ๆ เส้นเดียวเสียบเข้าที่เต้ารับบนพระตาหนักแล้ว
3ล่ามลงมา เพื่อต่อกับรถไฟฟ้าในสนามให้วิง่ ไดโ้ ดยไม่ต้องใช้สายไฟฟ้า 2 เส้นอย่างปกติ แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาท่ีทรงทราบถึงหลักวิชาระบบไฟฟ้าสายเดียวซ่ึงถือว่าเป็นพ้ืนดินเป็นสายนาไฟฟ้าให้ครบวงจรไดส้ ายหนงึ่ รูปท่ี 2.1 รัชกาลท่ี 9 ทรงประกอบเคร่ืองรับวิทยตุ ้ังแตท่ รงพระเยาว์ เม่ือทรงพระวัยข้ึนมา พระปรีชาสามารถก็ย่ิงก้าวไกลและแสดงให้เห็นถึงความสนพระทัยในเร่ืองการส่ง – การรับวิทยุกระจายเสยี ง ต้ังแต่สมัยที่เคร่ืองรบั วทิ ยุยังไม่ได้ใชห้ ลอดวิทยุอย่างปจั จบุ ันพระองค์ได้ทรงประกอบเคร่ืองรับวิทยุชนิดท่ีใช้แร่ได้สาเร็จและหมุนหาสถานีวิ ทยุกระจายเสียงจากตา่ งประเทศในยโุ รปรบั ฟังได้ ซง่ึ ศาสตราจารย์ ดร. มงคล เดชนครนิ ทร์ แห่งวิศวกรรมศาสตร์ จฬุ าลงกรณมหาวิทยาลัย ได้เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง “ในหลวงกับงานช่าง” ว่า พระองค์ได้ทรงซื้ออุปกรณ์เคร่ืองรับวิทยุสมัยน้ัน คือ ผลึกแร่ ลวดหนวดแมว คอยล์ คอนเดนเซอร์และหูฟัง ซึ่งมีวางขายเลหลังราคาถูกในเมืองโลซานน์ แลว้ ทรงประกอบเป็นเครื่องรับวิทยุชนิดใชแ้ ร่ เม่ือได้ทรงต่อเคร่ืองรับวิทยุนี้เข้ากับสายอากาศยาว ๆ ก็ปรากฏว่า ทรงสามารถรับฟังสถานีวิทยุกระจายเสียงในยุโรปได้หลายแห่ง และพอพระทัยเคร่ืองรับวิทยุมาก เพราะใช้อุปกรณ์ท่ีเป็นเพียงของราคาถูก แต่ทางานไดด้ ี ต่อมาเมอ่ื กิจการวิทยุได้เจริญกา้ วหนา้ มากขึ้นและไดม้ ีการนาหลอดวทิ ยุมาใชใ้ นเครื่องรับวิทยุ รวมทั้งเคร่ืองขยายเสียงกันแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชก็ได้ทรงทดลองกับอุปกรณ์แบบใหม่นี้ด้วยเช่นกัน เคยทรงต่อสายส่งสัญญาณเสียงเส้นยาวจากเคร่ืองรับวิทยุในห้องท่ีประทับของพระองค์ท่านไปยังลาโพงในห้องที่ประทับของพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ปรากฏว่า ไดผ้ ลดีเปน็ ท่ีพอพระทัยของทั้งสองพระองค์2.3 พระรำชกรณียกจิ ด้ำนสือ่ สำรอิเล็กทรอนกิ ส์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงอุทิศพระองค์ พระอัจฉริยะและพระอุตสาหะท้ังมวล เพื่อราษฎรในทุกภูมิภาค เพราะสิ่งท่ีพระองค์ทรงขาดไม่ได้คือ การสดับตรับฟังข่าวทุกข์สุขของประชาชน พระองค์ทรงมีดาริให้มีการพัฒนาด้านระบบวิทยุส่ือสารอย่าง
4จริงจงั ต่อเน่อื ง และมปี ระสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขนึ้ กลา่ วคอื สามารถรับส่งได้ไกลยิ่งขึ้น ดังเชน่ พระองค์ทรงดาริให้มีการศึกษาวิจัยรวมถึงการออกแบบ และสร้างสายอากาศย่านความถี่สูงมาก หรือท่ีเรยี กว่า VHF (วี.เอช.เอฟ) ข้ึนโดยมี วัตถปุ ระสงค์ 3 ประการ ประการแรก เพ่ือที่จะได้ใช้งานกับวิทยุส่วนพระองค์ ทั้งน้ีโดยมีพระราชประสงค์ที่จะให้ทราบเหตุการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ในเรอ่ื งของสาธารณภัยทเี่ กิดขน้ึ กบั ประชาชน ประการทสี่ อง เพอ่ื ทจ่ี ะพระราชทานใหแ้ ก่หน่วยราชการตา่ ง ๆ ประการที่สาม เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีความรู้ ความสามารถ และต้ังใจจริงได้ใช้ความอตุ สาหะ วริ ยิ ะ ในการพฒั นาระบบวทิ ยสุ ื่อสารขนึ้ ใช้เองภายในประเทศ นอกจากเหนือจากวิทยุสื่อสารแล้วในเร่ืองของเทเล็กซ์ พระองค์ทรงสนพระทัยอยู่ไม่น้อยและส่ิงหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไม่เคยทรงขาดคือ การพระราชทานพรปีใหม่ นอกจากจะทรงมีกระแสพระราชดารัสพระราชทานพรปีใหม่แก่พสกนิกรชาวไทยทางวิทยุและโทรทัศน์ทุกแห่งแล้ว พระองค์ท่านยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพรทางเทเล็กซ์สม่าเสมอทกุ ปีแตใ่ นชว่ งหลงั ท่านทรงใช้เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ในการประดิษฐบ์ ตั รอวยพรปีใหมแ่ ทน 2.3.1 สำยอำกำศตำมกระแสพระรำชดำริ ความสนพระทัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในเรื่องการสอื่ สารทางวทิ ยุ เร่มิ ข้นึ อยา่ งจรงิ จงั ในปี พ.ศ.2511 พลตารวจตรี สชุ าติ เผอื กสกนธ์ และพลตารวจตรี ไพฑูรย์ ไวจรรยา ได้กล่าวไว้ว่า ทรงใช้เคร่ืองรับ - ส่งวิทยุคมนาคมชนิดมือถือ (Walkie Talkie)เม่ือมีความจาเป็นครั้งคราวในโอกาสที่เสด็จฯ แปรพระราชฐาน และโทรศัพท์ใช้ไม่ได้เน่ืองจากทรงตระหนกั ดีว่า การส่ือสารเป็นเครื่องมือสาคัญที่ช่วยให้พระองค์ได้ทรงทราบข่าวคราวทุกข์สุขของพสกนกิ รได้อย่างรวดเร็ว และตรงกับความเป็นจรงิ เพอ่ื จะได้ทรงช่วยเหลอื บาบดั ทกุ ข์สขุ ให้ได้ทันการณ์ ในประมาณกลางปี พ.ศ.2513 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุธี อักษรกิตติ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (ตาแหน่งในขณะนั้น) ซ่ึงได้ช่วยราชการอยทู่ ี่ศูนยว์ ิจัยและพัฒนาการทหาร ไดเ้ ลา่ วา่ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงมีพระราชดาริให้ออกแบบและสร้างสายอากาศย่านความถี่สูงมากขึ้น โดยมีพระราชประสงค์ เพ่ือทราบเหตุการณต์ ่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดา้ นสาธารณภยั ท่เี กิดขึ้นกับประชาชนในอันที่จะได้ทรงช่วยเหลือ อานวยการได้ทันท่วงที และจะได้ติดต่อสื่อสารรับทราบการปฏิบัติการของหน่วยทหาร ตารวจในท้องท่ีห่างไกลทุรกันดาร ซึ่งปฏิบัติการอยู่ตามชายแดนต่าง ๆ ได้ นอกจากน้ียังมีพระราชประสงค์เพื่อให้ได้ใช้สายอากาศเป็นส่วนสาคัญในการพัฒนาปรับปรุงการใช้งานของเครื่องวิทยุให้มีประสิทธิภาพย่ิงขึ้น แทนการนาเคร่ืองวิทยุต่าง ๆ ไปปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นการยุ่งยากซับซ้อนกว่า และที่สาคัญท่ีสุดก็คือ ทรงมีพระราชประสงค์เพื่อส่งเสริมให้คนไทยท่ีมีความรู้ ความสามารถและต้งั ใจจริงได้มีโอกาสใช้ความสามารถในการออกแบบสรา้ งสายอากาศ และพฒั นาระบบวทิ ยสุ ่ือสารขึน้ ใชเ้ องในประเทศ
5 ต่อมาภายหลังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้สายอากาศที่เรียกช่ือว่า สุธี1, สุธี 2, สุธี 3, และสุธี 4 ซ่ึงผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุธี อักษรกิตติ์ ได้สร้างขึ้นตามแนวพระราชดาริ ไวใ้ นราชกิจจานุเบกษา รปู ที่ 2.2 สายอากาศ สุธี 2 พระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในเร่ืองการใช้ประโยชน์ของสายอากาศ มิได้มีแต่เพียงเท่านี้ พระองค์ยังได้พระราชทานกระแสพระราชดารัสให้กรมอู่ทหารเรือทดลองออกแบบและสร้างสายอากาศหาทิศการแพร่คล่ืนวิทยุย่านความถี่สูงมากตามคุณสมบัติทีท่ รงกาหนดข้นึ เพือ่ ใชก้ บั เครื่องวิทยสุ ่ือสารสว่ นพระองค์เพ่ือใหส้ ามารถกวาดสายอากาศไปได้รอบ ๆ ตัวแบบสายอากาศเรดาร์โดยไม่ต้องหันคืนกลับ เพ่ือกันการบิดตัวจนขาดของสายTransmission Cable ทั้งน้ีเพื่อความสะดวกในการติดตามความเคล่ือนไหวของเครื่องรับ – ส่งวิทยุเคลื่อนที่ ผลงานอันเกิดจากพระราชดาริดังกล่าวทาให้เกิดการทดลองประดิษฐ์ระบบเฝ้าตรวจย่านความถี่สูงมาก โดยมีสายอากาศขับหมุนรอยตัวโดยต่อเนื่องได้ทั้งในทิศทางตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกานาไปสู่การออกแบบสายอากาศตามมาตรฐานสากลท่ีมีคุณสมบัติทางเทคนิคตามที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงกาหนด และต่อมาได้พระราชทานคาแนะนาที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาแนวความคิดอันนาไปสู่การสร้างเคร่ืองต้นแบบวิทยุหาทิศอัตโนมตั ติ ามแนวพระราชดาริ ในด้านการติดต่อส่ือสารทางวิทยุของตารวจตระเวนชายแดน พลตารวจตรี สมพงษ์ สุวรรณะรุจิ ได้เล่าว่าทรงออกแบบสายอากาศไส้กรอก (เป็นสายอากาศที่มีเกนสูงกว่าสูงกว่า 0 dB.)พระราชทานให้ตารวจตระเวนชายแดนนาไปใช้งานสนาม ลักษณะของสายอากาศไส้กรอกยาวเหมอื นสายสง่ กาลังก็คือ นาเอาสายสง่ กาลังมาตัดเป็นท่อน ๆ ท่อนละประมาณ 17.5 นว้ิ จานวน 7-8 ท่อน นามาต่อสลับเส้นนอกกับเส้นใน แล้วนาไปต่อกับสายส่งกาลังเข้าเครื่องรับ – ส่งวิทยุ
6สายอากาศชนดิ นี้นาตดิ ตวั ไปได้งา่ ย และการตดิ ตัง้ ก็สะดวก โดยใช้เชอื กผกู ปลายสายอากาศแล้วโยนไปบนต้นไม้ แลว้ ดงึ สายอากาศให้สงู ขนึ้ ไปกจ็ ะได้สายอากาศเกนสูงท่ีใช้พกพาไปในปา่ ได้ พระราชดาริเกย่ี วกบั เรือ่ งของวิทยุสื่อสารยังมีอีกมากมาย พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยทรงตระหนักถึงคุณประโยชน์ท่ีจะนาไปใช้เพ่ือพัฒนาความเป็นอยู่ และทุกข์สุขของอาณาจักร อาทิ ได้ทรงมีพระราชดาริเมื่อปีพ.ศ.2528 ให้มีการทดลองค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับงานทางวิทยุสื่อสารและสายอากาศ โดยทรงกาหนดวตั ถปุ ระสงคใ์ นการใชง้ าน ตลอดจนคุณสมบตั ิทางเทคนคิ ดว้ ยพระองคเ์ อง เช่น ทรงมพี ระราชดาริให้ค้นคว้าทดลองเกี่ยวกับระบบวิทยุทวนสัญญาณในย่านความถ่ีสูงย่ิงเพ่ือที่สามารถนาไปใช้ถ่ายทอดสัญญาณได้เป็นช่วง ๆ และสามารถสื่อสารได้ในระยะไกลอย่างมีประสิทธิภาพ ทรงมีพระราชดาริใหน้ าสายอากาศยานความถ่ีสูงมากมาทดลองใชง้ านในย่านความถี่สงูยิ่ง ซ่งึ หากทาได้สาเร็จจะเป็นการใชป้ ระโยชน์สว่ นของสายอากาศชุดเดียวกนั แต่เคร่ืองในย่านความถ่ีตา่ งกัน ทรงพระราชดารใิ ห้พฒั นาสายอากาศชนดิ พกพาติดตวั ทมี่ ีคา่ ทวีกาลังพอสมควร และให้สามารถใช้งานตามป่าเขาไดเ้ ป็นอย่างดี และทรงมีพระกระแสพระราชดารัสโปรดเกล้าฯ ให้องค์การโทรศัพท์ประเทศไทยถวายบริการ โดยเริ่มทดลองเชื่อมโยงข่ายวิทยุสื่อสารของกรมตารวจในกรุงเทพมหานครออกอากาศแทนณ จังหวัดเชียงใหม่ ในระหว่างท่ีเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับ ณ ตาหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งการทดลองเช่ือมโยงข่ายวิทยุเข้ากับระบบสื่อสารในคร้ังน้ันทาให้เกิดแนวทางในการปรับปรุงการต่อเชื่อมโยงข่ายวิทยุเข้ากับระบบสื่อสารโทรศัพท์ทางไกลขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยเป็นผลสาเร็จในปีต่อมา ทาให้ข่ายวิทยุในกรมตารวจของกรุงเทพฯ เชื่อมกับข่ายเฉพาะกิจในพระราชตาหนกั ตา่ ง ๆ และสถานท่อี ื่น ๆ ที่มกี ารเสด็จแปรพระราชฐานได้ แนวพระราชดาริในเร่ืองสายอากาศ การทวนสัญญาณ การถ่ายทอดสัญญาณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นจุดเร่ิมต้นให้มีการพัฒนาสายอากาศและระบบการติดต่อสื่อสารทางวิทยุในประเทศอย่างแท้จริง จากการที่การส่ือสารมีประสิทธิภาพมากยิง่ ขน้ึ ทาใหท้ รงสามารถตดิ ต่อประสานงาน และติดตามผลงานโครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดาริซ่ึงมีอยู่เป็นจานวนมากมายให้บังเกิดผลสาเร็จลุล่วง เป็นคุณอย่างมหาศาลแก่ชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกร 2.3.2 ในหลวงกบั กำรพระรำชทำนพรปใี หม่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนาและทรงเป็นผู้นาในการใช้เครอื่ งมือส่ือสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาประเทศ และเพื่อประโยชน์สขุ แกป่ ระชาชนพสกนิกรชาวไทยอย่างแท้จรงิ
7 นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 ประเทศไทยยังขาดแคลนอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมท่ีมีคุณภาพ ประสิทธิภาพเพียงพอ ท้ังยังทรงตระหนักถึงความสาคัญของการสื่อสารท่ีจะช่วยให้พระองค์สดับตรับฟงั ขา่ วสารทุกขส์ ุขของประชาชน จงึ ทรงดาริรวบรวมเจ้าหนา้ ทจ่ี ากหลายหน่วยงานของภาครัฐ มาพัฒนาปรับปรุงระบบวิทยุส่ือสารให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนเช่ือมโยงข่ายส่ือสารให้รับฟังได้ทั่วประเทศ นอกจากน้ีพระองค์ยังทรงสนพระทัยศึกษาค้นคว้าและทดลองเรื่องสายอากาศการแผ่กระจายของคล่ืนวิทยุ รวมท้ังระบบการติดต่อโดยผ่านสถานีทวนสัญญาณในการสื่อสารโทรคมนาคมด้วยพระองค์เองและไต่ถามผู้รู้จนกระทั่งทรงเช่ียวชาญแ ตกฉานทั้งในทางทฤษฎีและปฏิบัติ เม่ือทาการทดลองประสบผลสาเร็จเป็นที่พอพระทัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่ผู้ท่ีเกี่ยวข้องรับไปศึกษาปรับปรุง แก้ไข และพระราชทานคาแนะนาให้แก่ส่วนราชการตลอดจนรฐั วสิ าหกิจไวใ้ ประโยชนต์ ่อไป พลตารวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์ อดีตอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ได้เขียนบทความเรื่องพระราชอจั ฉรยิ ภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชในดา้ นการส่ือสาร ไว้ในหนงั สือวันสอ่ื สารแหง่ ชาตปิ ี 2530 วา่ ในช่วงทเี่ ข้าไปปฏบิ ตั ิหน้าท่ีนายตารวจได้รบั ความชว่ ยเหลือทางด้านวิทยุส่ือสาร จากประเทศสหรัฐอเมรกิ า เป็นจานวนเงินมากกว่า 200 ล้านบาท พร้อมมอบเคร่ืองรับ – ส่งวิทยุ FM-5 ทางานในย่านความท่ี VHF (148-174 MHz) ใช้ระบบเอฟเอ็ม กาลังส่ง5 วัตต์ จานวนมากกว่าหนึ่งหมื่นเคร่ือง ให้กับกรมตารวจด้วย จึงได้นาเคร่ืองรับ – ส่งวิทยุนี้ข้ึนทูลเกล้าฯ ถวายเพ่ือทรงใช้งานจานวน 2 เคร่ือง พร้อมด้วยประมวลสญั ญาณเรียกขาน ประมวลคาย่อ (โค๊ต “ว”) ที่ใช้ในราชการตารวจ กับถวายสัญญาณเรียกขานว่า “กส. 9” และ “รอ. 3” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ทรงใชเ้ ครอ่ื งวิทยดุ งั กลา่ วติดต่อในขา่ ยวิทยุตารวจแหง่ ชาติ มศี นู ย์ควบคมุ ข่ายใช้สญั ญาณเรยี กขานว่า “ ปทมุ วัน ” ตั้งแต่นนั้ มา ทางกองบัญชาการตารวจนครบาล มีศนู ยค์ วบคมุ ขา่ ว ใช้สัญญาณเรียกขานว่า “ ผ่านฟ้า ” ก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเคร่ืองรับ – ส่งวิทยุ FM-5 และเครื่องรับ – ส่งวิทยุมือถือย่ีห้อ Nationalในข่าย “ ผ่านฟ้า ” และถวายสัญญาณเรียกขานว่า “ น. 9 ” การรับฟัง การติดต่อในข่ายวิทยุของตารวจนี้ ทาให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงทราบข่ายรายงานเหตุการณ์ตา่ ง ๆ เชน่ ข่ายโจรกรรม อัคคีภัย การจราจร ไดท้ กุ ระยะ ภาพที่ประชาชนได้เห็นจนเป็นที่ชินตา คือยานท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสร็จพระราชดาเนินเพื่อประกอบพระราชกรณียกิจต่าง ๆ หรือแม้แต่การเสด็จแปรพระราชฐานไปเย่ียมเยียนราษฎรในต่างจังหวัด จะทรงพกพาเคร่ืองรับ – ส่งวิทยุ ชนิดมือถือ(Walkie Talkie) ระบบในยา่ นความถ่ีสูงมาก (VHF) และในยา่ นความถสี่ ูงพเิ ศษ (UHF) ตดิ พระองค์อยู่เสมอ ท้ังน้ีเพ่ือจะได้ทรงทราบถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเร่ืองของสาธารณภัยท่ีเกิดขึ้นกับประชาชน จะได้พระราชทานความชว่ ยเหลือได้ทนั ทว่ งที แสดงให้เหน็ ถงึ ความหว่ งใยทพ่ี ระองค์ท่านทรงมีตอ่ พสกนกิ รของพระองค์
8 ไม่เพียงแต่พระองค์จะทรงสนพระทัยศึกษา พัฒนาปรับปรุงระบบวิทยุสื่อสารเครื่องรับ – ส่งวิทยุให้มีประสิทธิภาพกว้างไกลแล้ว พระองค์ยังทรงสนพระทัยและทรงใช้เคร่ืองมือสือ่ สารโทรคมนาคมระบบส่อื สารขอ้ มลู มากอ่ นหนา้ นี้เป็นเวลานาน เท่าท่ีมีหลักฐานปรากฏคือในปี พ.ศ. 2492 หลังจากท่ีเสด็จข้ึนครองราชย์ได้ 3 ปีระหว่างท่ีพระองค์กาลังศึกษาอยู่ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์น้ันพระองค์ได้ทรงใช้เครอื่ งมือสื่อสารในการเช่ือมโยงติดต่อระหวา่ งพระองค์กับประชากรชาวไทยทั้งประเทศทเี่ ฝ้ารอการนิวัติสู้ประเทศไทยของพระองค์อยู่อกี ซีกหน่ึงของโลกดว้ ยทรงมีพระราชโทรเลขตอบของพระทัยพระเจ้าบรมวงศ์เธอผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ และบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งหลายท่ีได้ถวายพระชัยมงคลเนอื่ งในพระราชพิธขี ึน้ ปีใหม่ พ.ศ.2492 ไปทางโทรเลข ความว่า “ตามท่นี ายกรฐั มนตรีได้มีการโทรเลขถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เน่ืองในโอกาสวันข้ึนปีใหม่ พุทธศักราช 2492 นั้น บัดนี้ราชเลขานุการในพระองค์ ณเมืองโลซานน์ ได้มีโทรเลขเชิญพระราชกระแสรับสั่งมาว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขอขอบใจนายกรัฐมนตรีและบรรดาข้าราชการ ทหาร และพลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยโดยทั่วกันและทรงอวยพรให้ทุกคนประสบความสุขสาราญ ประกอบด้วยพลานามัยอันดี” ต่อมาในปี พ.ศ.2493 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้มีกระแสพระราชดารัสแก่ประชาชนชาวไทยทางวิทยุกระจายเสียง เน่ืองในโอกาสวันขึ้นปีใหม่นับแต่นั้นเร่อื ยมา และในช่วงหลงั พระองคไ์ ดม้ ีกระแสพระราชดารสั ทางโทรทัศนอ์ ีกดว้ ย นอกจากการสื่อสารทางวิทยุ และทางโทรเลขแล้ว ระบบส่ือสารโทรคมนาคมทางสายก็เป็นท่ีทรงสนพระทัย และทรงใช้งานอยู่เป็นประจา เช่น โทรศัพท์ เทเล็กซ์(โทรพิมพ์) โทรสารและคอมพวิ เตอร์ โดยเฉพาะเครื่องเทเล็กซ์น้ัน เนือ่ งจากมโี ครงข่ายเชือ่ มต่อถึงศนู ย์การส่ือสารตารวจแห่งชาติหรือ “ปทุมวัน” แผนกรักษาความปลอดภัยบุคคลสาคัญ กรมราชองครักษ์และหน่วยงานอีกหลายหน่วยงานท่ีพระองค์ท่านทรงมีพระราชภารกิจเก่ียวข้อง จึงทรงมีพระบรมราชานุญาติให้หน่วยงานเหล่าน้ันถวายเทเล็กซ์รายงานข่าวสาคัญ ๆ และข่าวท่ีเกี่ยวข้องกับพระราชภารกิจผ่านเครอื่ งเทเล็กซ์ทไ่ี ด้ติดตงั้ ไวบ้ นพระตาหนักสวนจติ รลดาฯ รูปท่ี 2.3 เทเลก็ ซ์
9 สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพระราชทานสัมภาษณ์พิเศษ เร่ืองพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกับเทคโนโลยีสารสนเทศในหนังสือไอทีเฉลิมพระเกยี รติทส่ี านกั งานเลขานุการคณะกรรมการเทคโนโลยสี ารสนเทศแห่งชาติจัดทาขึน้ ความตอนหนึ่งวา่ “แต่ก่อนท่านใช้เทเล็กซ์ แต่จะเริ่มใช้เม่ือไหร่ก็ไม่ทราบจาไม่ได้เพราะยังเด็กอยู่ จาได้แต่ว่าเรื่องท่ีเข้ามามากคือ ภัยพิบัติ และปัญหาต่าง ๆ เช่น ไฟไหม้ น้าท่วม พายุพัด นอกจากเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ที่เสด็จพระราชดาเนินเยี่ยมเองแล้ว ยังใช้ตารวจตระเวนชายแดนด้วย เอาของพระราชทานไว้ท่ีกองกากับการเลย เวลาเกิดเหตุจะได้ไม่ต้องรอคาส่ังจากท่าน จะได้นาของท่ีพระราชทานไว้ไปช่วยเหลือได้ทันทว่ งทีแล้วค่อยกราบทูลทีหลัง โดยข้อมูลท่ีจะเข้ามาทางเทเล็กซ์ ท่ีเคยเหน็ ก็เปน็ แบบนี้ แต่ไมแ่ น่ใจวา่ จะใช่หรอื เปลา่ ไม่ไดไ้ ปตรวจสอบ นกึ จากความจา ทา่ นเป็นคนเจ้าระเบียบ เวลาเทเลก็ ซ์ออกมา จะออกมาเป็นชุด ๆ ทา่ นจะเกบ็ ไว้เป็นม้วนเป็นเร่อื งราว แตก่ อ่ นใช้เทเลก็ ซ์เยอะ เปน็ งานเร่ืองพระราชทานความชว่ ยเหลือประชาชน” นอกจากจะทรงใช้เคร่ืองเทเลก็ ซ์เพ่ือรับทราบข่าวสารต่าง ๆ แล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังได้พระราชทานข่าว พระราชกระแส ตลอดจนข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์แก่หน่วยงานต่าง ๆ ผ่านทางเครื่องเทเล็กซ์อีกด้วย โดยพระองค์ทรงโปรดที่จะพิมพ์ขอ้ ความลงในแถบโทรพมิ พ์ (ปรแุ ถบ) ดว้ ยพระองค์เองอย่างละเอยี ด ประณีตทุกคร้งั ก่อนส่ง ส่ิงหน่ึงท่ีแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ การเป็นกษัตริย์นักประดิษฐ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน คือทรงคดิ คน้ ประดิษฐ์บตั ร ส.ค.ส. พระราชทานพรปีใหม่ให้แก่ข้าราชบริพาร และหนว่ ยงานทเี่ ก่ียวข้องร่วมกับการพระราชทานพรปีใหม่ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์แก่พสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ แม้จะทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย แต่พระองค์ท่านยังทรงปลีกเวลามาปรุแถบเทเล็กซ์พระราชทานพรปีใหม่ด้วยพระองค์เองเป็นประจาทุกปี โดยในบัตร ส.ค.ส.ฉบับแรก ปี พ.ศ.2528 ความว่า “ในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2529 นี้ ขอขอบใจที่ทุกคนได้ช่วยงานในด้านต่าง ๆ มาด้วยดี ทาให้ภารกจิ ทงั้ มวลลลุ ว่ งไปไดด้ พี อสมควรทีเดยี ว วิถีชีวิตมนุษย์นั้น จะให้มีแต่ความปรกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีทุกข์ มีภัย มีอุปสรรค ผ่านเข้ามาด้วยเสมอยากที่จะหลีกเลี่ยงพ้น ข้อสาคัญอยู่ที่ทุก ๆ คน จะต้องเตรียมกายเตรียมใจ และเตรียมการไว้ให้พร้อมทุกเวลาเพ่ือเผชิญและแก้ไขความไม่ปรกติเดือดร้อนทั้งนั้น ด้วยความไม่ประมาท ด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชาและด้วยความสามัคคี ธรรม จึงผ่อนหนักให้เป็นเบาและกลบั รา้ ยให้กลายเปน็ ดีได้
10 ผู้ใดมีภาระหน้าทีอ่ ันใดอยกู่ ็เรง่ กระทาใหส้ าเรจ็ ลุล่วงไป ให้ทันการณ์ ทันเวลา โดยเตม็กาลังความรู้ความสามารถและโดยบริสุทธ์ิจริงใจ ผลงานของแต่ละคนจักได้ประกอบส่งเสริมกันข้ึนเปน็ ความสาเร็จและความม่นั คงวัฒนาของประเทศชาตใิ นท่ีสดุ ขอให้ทุกท่านประสบความสุข สิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคล นานานศุภผลอันพึงประสงค์จงทกุ ประการ” ท้ายบัตร ส.ค.ส. ระบุว่า “กส. 9 ปรุ” อันเป็นหลักฐานแสดงถึงการใช้เคร่ืองเทเล็กซ์หรือโทรพิมพ์ ในช่วงเวลานั้น เร่ือยมาจนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2530 พระองค์ทรงประดิษฐ์บัตร ส.ค.ส.ใหม้ ีลวดลายมากข้นึ ทา้ ยบัตร ส.ค.ส. ระบุวา่ “กส. 9 ปรงุ ” จนถึงปจั จุบนั แสดงถึงการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยีส่ือสารท่ีทรงใช้ประดิษฐ์บัตร ส.ค.ส. จากเดิมท่ีเคยทรงปรุพระราชทานผ่านเครื่องเทเลก็ ซ์ มาทรงใชเ้ ครื่องคอมพวิ เตอรแ์ ทน รปู ที่ 2.4 ส.ค.ส. ปี 2530 พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช ทรงปรงุ ภาษาคอมพวิ เตอร์เป็นบัตรส.ค.ส. พระราชทานพรปีใหม่พร้อมคาคมแง่คิดท่ีเป็นประโยชน์ให้แก่ทหาร ตารวจ และเจ้าหน้าท่ีหน่วยงานตา่ ง ๆ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ท่ีเก่ียวข้องกับโครงการในพระราชดาริ โดยทรงสง่ ใหท้ างโทรสารซ่ึงสมัยก่อนพอถึงช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่พระองค์จะพระราชทานพรทางวิทยุส่ือสารและทางเคร่ืองเทเล็กซ์แต่ไม่เป็นที่เผยแพร่เช่นในปัจจุบัน เน่ืองจากผู้ท่ีได้รับพระราชทานต่าง ๆ ก็เก็บเอาไว้เป็นที่ระลกึ ในพระมหากรณุ าธิคุณ
11 ปี พ.ศ. 2539 ทรงประดิษฐ์บัตร ส.ค.ส. สวัสดีปีใหม่ 2539 ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์พระราชทานพรแก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่าผ่านเคร่ืองโทรสาร โดยในบัตรอวยพรจะมีภาพของเครื่องดนตรีไทย 4 ชนิด ท่ตี อ้ งอาศัยการเลน่ ท่ตี ่างกนั คือ ดีด สี ตี เปา่ ความว่า “HAPPY NEW YEAR สวัสดีปีใหม่ 2539 ตลอดปเี ก่า โลกประสบปัญหานานาประการคนต้องใช้มือเกาหัว สุนัขใช้เท้าเกา ลิงใช้ทั้งมือทั้งเท้า คนสมัยใหม่ใช้เคร่ืองสมองกล คนโบราณใช้ฝ่าเท้ามากรอง บางคนดีดลูกคิด พูดอย่างน้ีอาจสีซอให้ควายฟัง ขอให้ตีความให้แตก เพ่ือปัดเป่าอุปสรรค ถ้าดีดสีตีเป่า ให้กลมกล่อม ก็มีหวัง ผ่านพ้นปัญหาทั้งหลาย ขอจงมีความสุขความเจริญส.ค.ส.ปี 2539” รปู ท่ี 2.5 ส.ค.ส. ปี 2539 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระทัยในการศึกษาค้นคว้า วิจัย ประดิษฐ์ พัฒนาเคร่ืองมือและอุปกรณ์ส่ือสารเทคโนโลยีสารสนเทศ ทรงเห็นความสาคัญ และประโยชน์ของวิทยาการคอมพิวเตอร์ ทรงคิดสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ ทรงประดิษฐ์ Font หรือรูปแบบตัวอักษรขนาดต่าง ๆ ที่ใช้กับเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษดว้ ยพระองค์เอง และทรงตง้ั ช่ือตามสถานท่ีท่ีทรงประทับขณะทท่ี รงสรา้ งโปรแกรมนนั้ เชน่ Font แบบจิตรลดา Font แบบภพู งิ ค์ เป็นต้น ในงานจุฬาวิชาการ เม่ือปี พ.ศ. 2530 พระองค์ทรงนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตัวอักษรเทวนาครี หรือที่พระองค์ท่านทรงเรียกว่า “ภาษาแขก” โดยทรงศึกษาด้วยพระองค์เองจากพจนานุกรมและตาราภาษาสันสกฤตและทรงสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญภาษาสันสกฤต อาทิ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ ม.ล. จิรายุ นพวงศ์ องคมนตรี มาแสดงให้นักวิชาการได้ชม นับได้ว่าพระองค์ทรงเป็นนักประดิษฐโ์ ปรแกรมตัวอักษรเทวนาครีข้ึนเป็นคนแรกในประเทศไทย
12 นอกจากพระองค์จะทรงสนพระทัยในเร่ืองเคร่ืองมือส่ือสารโทรคมนาคมแล้ว ยังทรงมีพระราชดาริสนับสนนุ บุคคลที่มีความตั้งใจขวนขวายหาความรู้ทางด้านโทรคมนาคมเป็นวชิ าชพี แต่ไม่มีความรู้พ้ืนฐาน ไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอท่ีจะเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาให้ได้มีโอกาสศึกษาอบรมในวิชาชีพท่ีตนต้องการ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดาเนินโครงการพระดาบสขึ้น เพ่ือเปิดรับบุคคลเข้าเรียนโดยไม่จากัด เพศ อายุ และความรู้ไม่ว่าจะเป็นประชาชนข้าราชการ ทหาร ตารวจ หรือผู้ทุพพลภาพ หลักสูตรท่ีเปิดดาเนินการได้แก่ หลักสูตรเตรียมช่างไฟฟา้ หลกั สูตรช่างไฟฟ้าวิทยชุ ัน้ ตน้ และชนั้ กลาง เปน็ ตน้ ดว้ ยสายพระเนตรทยี่ าวไกล ท่ที รงเล็งเห็นถึงบทบาทความสาคัญของการส่ือสารในการพัฒนาสร้างความเจริญก้าวหน้า รักษาความมั่นคง ความปลอดภัยของประเทศและด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์ในการศึกษา ค้นคว้า พัฒนาเครื่องมือ ส่ือสารโทรคมนาคม เพ่ือใช้ในการทานบุ ารงุ บา้ นเมอื ง ปัดเปา่ บาบดั ทุกขบ์ ารุงสขุ ใหแ้ กอ่ าณาประชาราษฎร์ ภายใตร้ ่มโพธิสมภารตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่พสกนิกรชาวไทยทัง้ประเทศ ทางสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยท้ังประเทศ จึงได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายให้พระองค์ทรงเป็น “Telecom Man of The Nation” เพอ่ื เป็นเกียรตยิ ศอันสูงส่งแก่ประเทศชาติ2.4 พระรำชกรณยี กจิ ด้ำนวทิ ยุกระจำยเสียง รูปท่ี 2.6 รชั กาลที่ 9 กับวิทยุสอื่ สาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชหรือรัชกาลท่ี 9 แห่งราชจักรีทรงสนพระทัยเก่ียวกับกิจการวิทยุกระจายเสียงเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากทรงก่อต้ังสถานีวิทยุกระจายเสียง อ.ส. พระราชวังดุสิต ข้ึนในบริเวณพระตาหนักจิตรลดารโหฐาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงปฏิบัติพระองค์ในฐานะนักกระจายเสียงผู้หน่ึง โดยได้ทรงกาหนดผังรายการเพ่ือประโยชน์แก่ประชาชนผู้รับฟังด้วยความเหมาะสมกับเวลา ทั้งภาควิชาการและภาคบันเทิง โดยเฉพาะอย่างย่ิงสถานีวิทยุ อ.ส. ได้กาหนดให้มีการถ่ายทอดเสียงนอกสถานทใ่ี น
13การบรรเลงดนตรจี ากวงดนตรที ่ีอยใู่ นความสนใจของประชาชน ณ เวทสี วนอมั พร (เวทเี ก่า) ในตอนเย็นวันพุธ ปรากฏว่ามีประชาชนไปชมอย่างเนืองแน่น โดยไม่เสียค่าเข้าชมแต่ประการใด ถ้าไม่สามารถไปชมด้วยตนเองได้ก็สามารถเปิดวิทยุรับฟังการถ่ายทอดเสียงได้ หากจะนับว่าสถานีวิทยุกระจายเสียง อ.ส. เป็นสถานีวิทยุท่ีจัดให้มีการถ่ายทอดเสียงการแสดงดนตรีนอกสถานท่ีเป็นแห่งแรกของประเทศไทย รูปท่ี 2.7 รัชกาลท่ี 9 ทรงเล่นเครือ่ งดนตรี ณ สถานีวิทยุ อ.ส. นอกจากได้กล่าวมาแล้วในเบื้องต้น ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกับวิทยุกระจายเสียงท่ีประชาชนชาวไทยทั้งประเทศยังจาเหตุการณ์ท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงห่วงใยพสกนิกรภาคใต้ท่ีประสบวิกฤติท่ีไม่เคยประสบมาก่อนเหตุการณ์คร้ังนี้เกิดขึ้นเม่ือเดือนตุลาคม 2505 ประเทศไทยได้ประสบกับพายุโซนร้อนทางภาคใต้พายุน้ีช่ือ “แฮเรียต” พายุได้พัดผ่านทางตอนใต้ของประเทศไทย สร้างความเสียหายให้แก่จังหวัดทางภาคใต้ถงึ 15 จังหวัด ภยั พิบตั คิ ร้ังนี้ได้สร้างความตน่ื ตระหนกแก่ประชาชนทง้ั ประเทศ เนื่องจากพายุ “แฮเรียต” น้ีมีความร้ายแรงย่ิงกว่าพายุคร้ังใด ๆ ท่ีคนไทยเคยประสบมา ท่ามกลางความต่ืนตระหนกของประชาชนต่อเหตุการณ์เลวร้ายท่ีเกิดข้ึนอย่างฉับพลันน้ี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชทรงขอให้อธบิ ดีกรมประชาสงเคราะห์ ในขณะนั้น คือ นายปกรณ์ องั ศสุ ิงห์ ให้รีบเดินทางไปช่วยเหลือโดยด่วน โดยได้ทรงติดต่อเคร่ืองบินจากกองทัพอากาศ เพื่อนาคณะเดินทางไปช่วยเหลือ คณะเดินทางได้รีบเดินทางทันที แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาและอุปสรรคมากมายเน่ืองจากสภาพอากาศที่เป็นพายุรุนแรงจัด นอกจากนั้นยังเกิดน้าท่วมอย่างหนัก การสื่อสารและเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ด้วยเดชะพระบารมีฯ ซึ่งคณะเดินทางต้องเสี่ยงภยั ธรรมชาติในทุกกรณีก็สามารถเดินทางถึงแหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยปลอดภัยและสามารถให้ความช่วยเหลือราษฎรท่ีประสบภัยตามพระราชประสงค์ได้ในที่สุด และพร้อมกันนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถานีวิทยุ อ.ส. พระราชวังดุสิตจัดรายการประกาศเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์สิ่งของเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการด่วนโดยทรงรับและพระราชทานส่ิงของด้วยพระองค์เอง ปรากฏว่าในช่วงระยะเวลาเพียง 1 เดือน ธารน้าใจจากประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศรวมทั้งบรรดามิตรประเทศท้ังหลายได้ให้ความ
14ช่วยเหลือท้ังด้านเงินทองและยารักษาโรคได้หลั่งไหลมายังสถานีวิทยุ อ.ส. อย่างไม่ขาดสาย โดยช่วงระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนมีการบริจาคเฉพาะเงินสดเป็นจานวนถึง 11 ล้านบาท และส่ิงของมีมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานเงินและสิ่งของดังกล่าวให้กรมประชาสงเคราะห์ไปดาเนินการบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนตลอดมา และได้พระราชทานเงินส่วนหนึ่งให้กระทรวงศึกษาธิการสร้างโรงเรียนประชาบาลที่ถูกพายุ “แฮเรียต” พัดพังเสียหายอย่างหนักรวม 12 โรงเรียน ใน 6 จังหวัดภาคใต้ และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานช่ือว่า “โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์” 1 ถึง 12 ตามลาดบั รปู ท่ี 2.8 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ หลงั จากช่วยเหลือประชาชนแล้ว ในระยะแรกยงั มีเงนิ เหลืออีก 3 ลา้ นบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดาริให้ตั้งเป็นกองทุนก่อตั้งมูลนิธิเพ่ืออุปการะเด็กท่ีขาดบิดา - มารดา และญาติพ่ีน้องเล้ียงดูอันเนื่องมาจากวาตภัยภาคใต้ในคร้ังนั้น และสงเคราะห์ประชาชนที่ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศ โดยพระราชทานนามว่า “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์”ซ่ึงมีความหมายว่า พระราชาและประชาชนต่างอนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน ซ่ึงมูลนิธิน้ียังเป็นที่พ่ึงของประชาชนท่ีประสบความทุกขย์ ากเดือดร้อนจากภัยตา่ ง ๆ สบื เนือ่ งมาจนถงึ ปจั จุบัน ท้ังสองเร่ืองดังกล่าวจะเห็นว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงรอบรู้เรื่องวิทยุกระจายเสียงเป็นอย่างดี และทรงได้นาไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนได้อย่างถูกต้องรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยใช้สื่อทางวิทยุกระจายเสียงดงั กล่าว แมแ้ ต่ส่วนราชการท่ีมีหนา้ ทีใ่ ชว้ ทิ ยกุ ระจายเสยี งกจ็ ะทรงติดตามรับฟังและพระราชทานแนวพระราชดารเิ พอื่ แกป้ ญั หาตา่ ง ๆ ให้กับประชาชน เชน่ ปญั หาการจราจรในกรงุ เทพมหานคร เปน็ ต้น สาหรับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์น้ัน ถือว่าเป็นนโยบายหลักท่ีจะต้องติดตามพระราชกรณียกิจต่าง ๆ เพ่ือนามาเผยแพร่ให้ประชาชนไดท้ ราบทกุ ระยะ ท้งั นี้ เพอ่ื ประชาชนชาวไทยทัง้ ประเทศจะได้ทราบโดยใกล้ชิดเสมือนหนึ่งว่าในดวงใจของคนไทยทุกคนมีส่ิงยึดเหน่ียวเพื่อดาเนินชีวิตไปในทิศทางเดียวกั นและก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ยากที่จะหาประเทศใดในโลกมาเปรียบเสมือนได้
15ดังน้ันในงานพระราชพิธตี ่าง ๆ สถานีวิทยุกระจายเสยี งแห่งประเทศไทยจึงไดร้ ับพระมหากรุณาธิคณุโดยได้รับพระบรมราชานุญาต ให้ดาเนนิ การถา่ ยทอดเสียงทุกครัง้ นับตั้งแต่วนั เฉลมิ พระชนมพรรษาข อ ง พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ ป ร มิ น ท ร ม ห า ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ช แ ล ะ ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น า ง เ จ้ า สิ ริ กิ ติ์พระบรมราชินีนาถให้ถ่ายทอดเสียงในการเสด็จฯ ออกมหาสมาคม ณ พระที่น่ังอมรินทรวินิจฉัยในพระบรมมหาราชวัง เพ่ือให้พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี ข้าราชการ ทหาร ตารวจ พลเรือนเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรเป็นประจาทุกปี นอกจากน้ัน สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยได้ดาเนนิ การถ่ายทอดเสียงในการเสดจ็ พระราชดาเนินเยือนประเทศสาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 8 – 9 เมษายน 2537 และยังมีการถ่ายทอดพระราชพิธีสาคัญ เช่น การถ่ายทอดเสียงพระราชพธิ ีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระราชพิธีมหามงคลในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช เปน็ ต้น และในการถ่ายทอดเสียงทุกคร้งั ในพระราชพธิ ีดังกลา่ ว สถานวี ทิ ยุกระจายเสียงทุกแหง่ ทวั่ ประเทศร่วมถ่ายทอดเสยี งพร้อมกันด้วย ดังน้ัน จึงเห็นได้ว่าสถานีวิทยุกระจายเสียงทุกแห่งได้ถวายความจงรักภักดี โดยการร่วมถา่ ยทอดเสียงในพระราชพิธดี ังกล่าวแล้ว ยงั ไดน้ าพระบรมราโชวาทเผยแพรส่ ู่ประชาชนมาโดยตลอดท้ังน้ี เพ่ือสานึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรที่ยังมีความเป็นอยู่ด้วยความยากลาบากให้มคี วามเป็นอย่ดู ขี นึ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกร 2.4.1 VR009 รูปที่ 2.9 VR009 นับเปน็ พระมหากรุณาธิคุณอยา่ งใหญ่หลวงแก่ปวงนักวิทยุสมัครเลน่ ในประเทศไทยและแก่กรมไปรษณีย์โทรเลข ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสนพระทัยในการติดต่อส่ือสารทางวิทยุ ในเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ทรงทดลองการแพร่กระจายคล่ืนวิทยุและการรับสัญญาณด้วยพระองค์เอง ทรงเคร่งครัดในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของการตดิ ต่อสื่อสาร และการใช้เคร่ืองวิทยุคมนาคมที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล พระองค์จะทรงทักท้วง ตักเตือนหากนักวิทยุ
16สมัครเล่นคนใดมีได้ปฏบิ ัตติ ามระเบียบ ในขณะเดียวกนั ก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานคาแนะนาคาอธิบายปัญหาเทคนิค ดว้ ยภาษางา่ ย ๆ ใหห้ ายขอ้ งใจไดท้ กุ ครงั้ รูปท่ี 2.10 เคร่ืองวทิ ยุคมนาคมทรี่ ัชกาลท่ี 9 ทรงสอนการใชแ้ ก่เจา้ หน้าท่ี ด้วยเหตุผลน้ี เม่ือกรมไปรษณีย์โทรเลขได้ก่อตั้งชมรมวิทยุอาสาสมัครหรือเรียกย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า VR (Voluntary Radio) ขึ้น กรมไปรษณีย์โทรเลขจึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายสัญญาณเรียกขาน VR009 แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในวันท่ี 5 ธันวาคม พ.ศ.2524 ด้วยความรู้สึกสานึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ พระองค์ทรงใช้วิทยุตดิ ตอ่ ในขา่ ยวิทยุอาสาสมัครเป็นคร้ังแรกในปี พ.ศ.2528 และทรงติดต่อทางวิทยุกับศูนยส์ ายลมกลมไปรษณีย์โทรเลข เพ่ือการทดสอบสัญญาณหลายครงั้ ในบางครั้งพระองค์ทรงพระราชทานคาแนะนาทางด้านเทคนิคเก่ียวกับการปรับแต่งเคร่ืองรับส่งวิทยุที่มีความสลับซับซ้อน ตลอดจนพระราชทานความรูเ้ กยี่ วกบั สายอากาศและการแพร่กระจายคล่ืน และลักษณะการถกู รบกวนของคลน่ื วิทยุในข่ายตา่ ง ๆ และวิธกี ารทจี่ ะแกไ้ ขการรบกวนน้นั ด้วย อาทิเชน่ ทรงพระราชทานคาสอนเกี่ยวกับการใช้เคร่ืองรับส่งวิทยุของศูนย์สายลม เมื่อศูนย์สายลมได้รับมอบเคร่ืองรับ – ส่งวิทยุ YAESU แบบติดตั้งประจาท่ีรุ่น FT – 726R จาก VR421 ประมาณเดือนกรกฎาคม 2528 และในคร้ังนั้น VR241 ได้นาเคร่ืองวิทยุรุ่นเดียวกันทูลเกล้าทูลกระหม่อมแถวแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยจานวน 1 เครื่อง เม่ือศูนย์สายลมได้นาเครื่องรับ – ส่งวิทยุเครื่องนี้ใช้งานในศูนย์สายลม พนักงานวิทยุไม่สามารถท่ีจะใช้งานเคร่ืองวิทยุดังกล่าวซ่ึงมีปุ่มปรับต่าง ๆ มากมายได้อย่างถูกต้อง ทาให้มีการรายงานผลการรับฟังผิดพลาด มีสมาชิกนักวิทยุหลายคนได้สอบถามความผิดปกติของเครื่องวิทยุของศูนย์สายลม ในคร้ังน้ันพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดชได้ทรงพระราชทานกระแสรับสัง่ มาทางวทิ ยุในขา่ ยวทิ ยุอาสาสมคั รในความถ่ชี ่องเรียกขานซึ่งพวกเรายังจาได้ดีถึงพระกระแสรับส่ังมีใจความดังน้ี “เคร่ืองวิทยุของสายลม เป็นเคร่ืองพี่น้องของ VR009” และพระองค์ทรงพระราชทานคาแนะนาเก่ียวกับ
17การใชเ้ ครือ่ งวทิ ยุนั้นเปน็ ข้นั ตอนโดยละเอียด จนกระทงั่ พนกั งานวิทยขุ องศนู ยส์ ายลมมีความเข้าใจถึงวธิ กี ารปรับปุ่มตา่ ง ๆ ได้อย่างถกู ตอ้ ง ในการทดสอบสัญญาณครั้งแรกในปี พ.ศ. 2528 กับศูนย์สายลมกรมไปรษณีย์โทรเลขนายมนัส ทรงแสง VR019 ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข ปฏิบัติหน้าท่ีหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการสื่อสารในขณะน้ัน ได้เล่าให้ฟังว่า พระองค์ทรงตรัสเรียกสายลม VR009 ขอเช็คเน็ทและเจ้าหนา้ ท่ีศนู ยส์ ายลมไดก้ ราบบงั คมทลู วา่ Report สัญญาณของทา่ น VR009 59 + 60 dB 73 นั่นคือ วันแห่งความทรงจาของศูนย์สายลมกรมไปรษณีย์โทรเลข และหลังจากเหตุการณป์ ระวัติศาสตร์ได้ผา่ นพ้นไปแลว้ ดว้ ยความปลื้มปตี ิ พระองคไ์ ด้ทรงทดสอบสัญญาณกับศูนย์สายลมอีกครั้ง และเกือบทุกครั้งพระองค์ก็ได้พระราชทานคาแนะนาทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการติดตอ่ สอ่ื สาร ซง่ึ กรมไปรษณยี โ์ ทรเลขใคร่ขอพระราชทาน พระบรมราชานญุ าตเผยแพร่ไว้ ณ โอกาสน้ี วนั ท่ี 2 กรกฎาคม 2528 ทรงทดสอบสญั ญาณและทรงสอบถามวา่ ศูนย์สายลมมคี วามรบกวนมากหรือไม่ เมื่อเจ้าหน้าท่ีกราบบงั คมทูลวา่ บางคร้ังศูนย์สายลมรับสัญญาณ QR Nancy ได้ถึง +55 dB ทาให้ไม่สามารถรับสัญญาณของสมาชิกได้ ทรงพระราชทานคาแนะนาในการแก้ไขปัญหารบกวนด้วยการใส่ Cavity เนื่องจาก Filter ที่ศูนย์สายลมใชป้ ้องกันการรบกวนอยู่ในเวลานมี้ นัไม่แคบพอ และทรงอธิบายเปรียบเทยี บว่า Cavity เปน็ ช่องโหว่ เหมอื น Cavity ในฟันเวลาปวดฟัน นอกจากนี้ ทรงสอบถามเรือ่ งการรบกวนจากคลน่ื วิทยกุ ระจายเสียง เน่ืองจากทรงได้ยินเสียงเพลง และทรงเข้าใจว่าทาง Audio ของสายลม เจ้าหน้าที่ศูนย์สายลมได้กราบบังคมทูลว่า ได้พยายามหาสาเหตุแล้วเข้าใจว่า Ground ของเครื่องวิทยุคงลงไม่ดี แต่ก็ไม่ทราบว่าเกิดการModulation ถ้าทา Ground ให้ดขี ้ึนอาจจะลดลงไป หรอื มิฉะนัน้ อาจจะต้องใส่ Curcuit ป้องกนั วันที่ 11 กรกฎาคม 2528 ทรงพระราชทานคาแนะนาการป้องกันฟ้าผ่า วันท่ี 12 กรกฎาคม 2528 เวลา 02:30 น. คืนน้ัน VR969 และ VR938 ออกไปช่วยรถของสมาชิกที่จอดแช่นา้ ท่วมอยู่ ทรงตดิ ต่อเขา้ ไปพระราชทานกาลงั ใจและแนะนาทางกลบั บา้ น วนั ท่ี 17 กรกฎาคม 2528 ขณะท่ที รงพระราชทานคาแนะนาการใชเ้ ครอ่ื งวิทยุคมนาคมแบบติดตง้ั ประจาที่ YAESU FT – 726R มผี ้กู ดคยี ์ว่างอยนู่ านประมาณเกือบ 25 นาที ทรงสอบถามว่าสายลมกดคีย์หรือเปล่า และเมื่อทรงทราบว่าไม่ใช่สัญญาณของสายลม ก็ได้พระราชทานการReport สัญญาณว่า ผู้ท่ีกดคีย์ว่างเข้ามาน้ันสัญญาณเบี่ยงไปลบจุดหน่ึง และทรงตรัสว่า คงเพราะเราผกู ขาดความถีม่ านานพอสมควร คนอ่ืนอยากเข้ามาถา้ เขา้ ก็เชญิ VR009 เคลยี ร์ ไมต่ อ้ ง Break นับเป็นสิริมงคลกับศูนย์สายลมกรมไปรษณีย์โทรเลขที่ทรงติดต่อเข้ามายังศูนย์อย่างไม่ถือพระองค์และทรงปฏิบัติการตดิ ต่อส่อื สารถูกต้องตามระเบียบวนิ ัยเฉกเช่น นักวิทยุสมัครเล่นทัว่ ไปพระมหากรณุ าธิคณุ ล้นเกล้าฯ หาทส่ี ุดมิได้ ด้วยพระราชจรยิ าวตั รท่ีงดงาม พระปรีชาสามารถและพระราชหฤทัยเมตตา พระองค์ได้ทรงติดตาม monitor การรับส่งสัญญาณของเครื่องวิทยุคมนาคมในเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น และ
18ทรงพระราชทานความช่วยเหลือต่าง ๆ ตลอดมา เหตุการณ์สาคัญท่ีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข เม่ือคร้ังการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ คร้ังที่13 ระหว่างวันท่ี 8 - 17 ธันวาคม 2528 ยังจารึกในความทรงจาตราบนานเท่านาน ในคร้ังน้ันกรมไปรษณีย์โทรเลขได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันให้ รับผิดชอบเกี่ยวกับระบบการติดตอ่ สือ่ สารสาหรับประสานงานของคณะกรรมการสาขาตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ ง เน่อื งจากการแข่งขันกฬี าซีเกมสจ์ าเป็นต้องใชส้ นามแข่งขันจานวนหลายสนาม รวมทงั้ สนามในเขตกรงุ เทพมหานคร และต่างจังหวัด เชน่ จังหวดั ชลบรุ ี จดั แขง่ เรือใบ เสน้ ทางชลบุรี-ระยอง จัดแขง่ จกั รยานทางไกล เป็นตน้ ดังนั้น ในการเตรียมข่ายวิทยุส่ือสารที่จะให้คณะกรรมการจัดการแข่งขัน ได้ใช้ระยะไกลอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพจาเปน็ ต้องใชเ้ ครอ่ื งวทิ ยุถ่ายทอดสญั ญาณ (RE-PEATER) เมอ่ื พจิ ารณาตกลงใจที่จะนาเครื่องวิทยุถ่ายทอดสัญญาณมาใช้งาน ก็เร่ิมต้นสารวจจุดท่ีต้ังสถานถี ่ายทอดสัญญาณทั้งน้ี โดยขอความร่วมมือจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตขอใช้สถานที่ถ่ายทอดสัญญาณที่ยอดเขาฉลากอาเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และได้ดาเนินการติดตั้งก่อนถึงกาหนดการแข่งขันเล็กน้อย ผลการทดลองปรากฏว่าเกิดปัญหา เครื่องถ่ายทอดสัญญาณไม่สามารถทางานทางานได้ตามปกติท่ีได้เคยทดลองมามีสัญญาณรบกวนทาใหเ้ ครื่องถ่ายทอดสัญญาณบางครั้งก็ทางาน บางครั้งกไ็ ม่ทางาน นายมนัส ทรงแสง ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข ผู้รับผิดชอบในการจัดหาเคร่ืองมือสื่อสารและติดต้ังระบบ จาเป็นท่ีจะต้องเร่งดาเนินการแก้ไขปัญหาในเร่ืองรบกวนให้หายไปโดยเร็วและต้องให้เครื่องถ่ายทอดสัญญาณทางาน มิฉะน้ันอาจทาให้เกิดความเสียหายกับการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ซ่ึงประเทศไทยได้รับเกียรตใิ หเ้ ป็นเจ้าภาพ จึงไดพ้ ยายามหาทางแกไ้ ขอยูเ่ ป็นเวลานาน ในท่ีสุดขณะที่กาลังทาการทดลองรับสัญญาณกันอยู่นั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงติดต่อเข้ามาในช่องความถ่ีท่ีกาลังทดลอง และทรงสอบถามถึงรายละเอียดต่าง ๆ เช่นความถี่ท่ีใช้ด้านส่งและด้านรับรองของเคร่ืองวิทยุถ่ายทอดสัญญาณระบบสายอากาศท่ีใช้เป็นแบบใด ลักษณะการแพร่กระจายคล่ืนเป็นเช่นไร การติดตั้งกระทาในลักษณะใดรวมท้ังวงจรกรองคลื่นที่นามาใช้งานมีหรือไม่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคาแนะนาตงั้ แต่ความถข่ี องเครอ่ื งถ่ายทอดสัญญาณในยา่ นความถ่ี VHF และ UHF ความถี่ท่ีเหมาะสมควรจะใช้อย่างไร การติดตั้งสายอากาศควรติดอย่างไรจึงจะใช้งานได้ดี ได้ทรงพระราชทานคาแนะนาในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นข้ันตอน จนกระทั่งเคร่ืองวิทยุท่ีใช้ถ่ายทอดสัญญาณ สามารถใช้งานได้ นับว่าทรงพระปรีชาสามารถสูงยง่ิ และเป็นพระมหากรุณาธคิ ุณเปน็ ลน้ พ้นแก่ข้าพระพุทธเจา้ เหล่าเจ้าหน้าท่ีกรมไปรษณีย์โทรเลข นอกจากน้ีในคราวเกิดวาตภัยที่ตาบลสวนผ้ึง จังหวัดราชบุรี ซ่ึงเป็นภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ประชาชนมาก ได้มีกลุ่มนักวิทยุสมัครเล่นกลุ่มหน่ึง ออกอากาศประสานงานกับกลุ่มสายลมที่จะร่วมกันเดินทางไปให้ความช่วยเหลือ โดยได้มีการวางแผนการติดต้งัเครือข่ายเฉพาะกิจขึ้นในบริเวณที่เกิดวาตภัย และใช้เคร่ืองวิทยุคมนาคมในการถ่ายทอดรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงให้นักวทิ ยุสมัครเล่นอื่น ๆ และทางราชการได้รับทราบข่าวสารโดยเร็ว เพ่ือ
19จะได้ให้ความช่วยเหลือให้ทันท่วงที ในระหว่างท่ีการติดต่อดาเนินไปได้ประมาณ 10 นาทีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช ทรงตดิ ต่อท่ศี ูนยส์ ายลม และไดท้ รงพระราชทานคาแนะนาวิธีการติดต้ังเครือข่ายสื่อสาร โดยให้นาเคร่ืองวิทยุ ติดตั้งในรถยนต์ไป ติดต้ังท่ีบริเวณจังหวัดราชบุรี อาจจะหาสถานท่ีสูง ๆ เพ่ือรับสัญญาณจากผู้ที่จะเข้าไปยังพื้นท่ี และถ่ายทอดข้อความมาให้นักวิทยุสมัครเล่นในกรุงเทพฯ ได้ทราบเหตุการณ์ได้และได้ทรงแนะนาผู้ที่จะเข้าไปในพ้ืนท่ีให้เตรียมแบตเตอร่ีสารองสาหรับเครื่องวิทยุคมนาคมมือถือ ให้ประจุไฟให้เต็มและการที่จะใส่กระเป๋ารวมกับส่ิงของอื่นจะต้องห่อหุ้มด้วยฉนวนที่ขั้วของแบตเตอรี่ เพราะถ้าไม่มีสิ่งห่อหุ้มขั้วแบตเตอรก่ี ็อาจมโี ลหะหรือพวงกุญแจทาใหเ้ กดิ การช็อตขนึ้ ได้และจะทาให้แบตเตอร่ีสารองไมส่ ามารถใช้งานได้ การติดต่อของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนั้นนานเกือบชั่วโมง และนักวิทยุสมัครเล่นกลุ่มน้ี ก็ได้ดาเนินงานตามกระแสรับสั่งจนประสบผลสาเร็จในการแจ้งข่าวสาร และระดมความชว่ ยเหลอื ไดร้ วดเรว็ สมดังตั้งใจ พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้านการสื่อสารในเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สะท้อนให้เห็นเด่นชัด ในพระราชดารัสตอนหน่ึงท่ีพระราชทานแก่คณะกรรมการประสานงานการจัดและบรหิ ารความถี่วิทยุแหง่ ชาติ นาโดย นายประทวน รมยานนท์รฐั มนตรชี ่วยวา่ การกระทรวงคมนาคม นายกิตติ อยโู่ พธิ์ อธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข นายเศรษฐพรคูศรีพิทักษ์ รองอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข คณะกรรมการวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทยและสมาคมวิทยุอาสาสมัคร ซ่ึงเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นช้ันสูงและสัญญาณเรียกชวน HS1A ณ พระตาหนักจติ รดารโหฐาน เมื่อวนั พฤหสั บดีท่ี 17 สงิ หาคม 2532มีใจความตอนหนง่ึ ว่า “ ขอขอบใจท่านท่ีมาให้พรและนาประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นช้ันสูงและสญั ญาณเรยี กขานมาให้ ทาใหป้ ลืม้ ใจมาก เพราะถอื ว่าผู้ทีท่ าการในดา้ นวิทยสุ มคั รเลน่ และวทิ ยุอาสาตอ้ งปฏบิ ตั ิการมาเป็นเวลานาพอสมควร และเขา้ ใจถึงเรื่องวิทยุ และวธิ ศี กึ ษาได้ดี นอกจากรู้จกั หลักวิชาการและเทคโนโลยีของวิทยุ ก็จะต้องเห็นประโยชน์ของการสื่อสารท่ีมีต่อสังคมและประเทศชาติซึ่งผู้ดาเนินงานในด้านวิทยุสื่อสารน้ี ต้องมีทั้งความสามารถ ความสนุกสนานและความสนใจและได้รับประโยชนใ์ นส่วนของตวั เองเปน็ อนั มาก ท้ังจะตอ้ งเหน็ ว่าวทิ ยุส่อื สารนเ้ี ปน็ ประโยชน์อย่างไร ในการพัฒนาและรกั ษาความมน่ั คงของประเทศ สิ่งหน่ึงท่ีได้เห็นและเห็นใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมความถ่ี มีคล่ืนวิทยุท่ีกวนซึง่ กันและกนัท้ังโดยตั้งใจและไม่ต้ังใจ ถ้าเป็นโดยต้ังใจก็เป็นสิ่งท่ีควรแนะนาตักเตือน ถ้าเป็นโดยไม่ตั้งใจ คือทางวิชาการของการแพร่คลื่นวิทยุ ย่อมต้องมีการรบกวนซ่ึงกันและกันได้โดยไม่ต้ังใจ แต่เป็นธรรมชาติตามวิชาการแพร่กระจายคลื่นวทิ ยุท่ีคลนื่ หน่ึง อาจไปรบกวนอีกคล่ืนหนง่ึ ได้อย่างน้ี ถ้าเรียนรู้กันและมีวิธีแกไ้ ขก็จะเปน็ การดี ทางฝา่ ยควบคมุ ความถ่ีนีจ้ งึ มีความรับผดิ ชอบมาก
20 การกวนซ่ึงกันและกันของความถ่ีมาจากธรรมชาติ ความถ่ีที่กวนกันน้ัน ส่วนหนึ่งไม่มีทางแก้ไขและส่วนหน่ึงแก้ไขได้ คือ ต้องปรับเครื่องให้ดี รักษาระดับความถ่ีให้ได้ ทั้งรักษากาลังเครอื่ งใหถ้ กู ต้อง แจกจา่ ยความถไี่ ปในพื้นท่ที ่เี หมาะสมและการทางานโดยมวี ินัย ”2.5 พระรำชกรณยี กจิ ด้ำนดำวเทียม เทคโนโลยกี ารสารวจทรัพยากรด้วยดาวเทียม (Remote Sensing) ในประเทศไทย ได้เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2514 โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการประสานงานการสารวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียม ประกอบด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานตา่ งๆ รวมทั้งได้อนุมัติให้เข้าร่วมโครงการสารวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียมขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) ในการใช้ประโยชน์ข้อมูลดาวเทียมสารวจทรัพยากรดวงแรกได้แก่ LANDSAT – 1 โดยตั้งเป็นโครงการสารวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียม ภายใต้สานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ซึ่งต่อมาภายหลังได้รับการยกฐานะข้ึนเป็นกองสารวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียมในปี พ.ศ.2522 และโดยท่ีได้มีหน่วยงานต่าง ๆ นาเอาข้อมูลดาวเทียมไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง ดังน้ันจึงได้รับอนุมัติให้สานักงานคณะกรรมการวิจัยแหง่ ชาตจิ ดั ต้งั สถานสี ัญญาณดาวเทียมสารวจทรัพยากรขึ้นมาในปี พ.ศ.2523 เพื่อทาหนา้ ท่ีในการรับและผลติ ขอ้ มลู ดาวเทียมรวมท้ังสิ้น 6 ดวงด้วยกัน ไดแ้ ก่ LANDSAT , SPOT , MOS , ERS , JERSและ NOAA ข้อมูลที่ได้จากดาวเทียมสารวจทรัพยากรเหล่านี้ได้นาไปใช้งานในการสารวจและติดตามการเปล่ียนแปลงของทรัพยากร และส่ิงแวดล้อม ในหลายสาขา อาทิเช่น การใช้ที่ดิน การป่าไม้การเกษตร ธรณีวิทยา อุทกวิทยา สมุทรศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับการพัฒนา ท้ังทางด้านบุคลากรและเคร่ืองมือ เพ่ือให้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมลูเหล่าน้ีได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 2.5.1 พระมหำกษตั ริย์กับกำรสำรวจทรัพยำกรด้วยดำวเทียม นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นท่ีใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระทัยในวิทยาการของการสารวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยภาพถ่ายทางอากาศและดาวเทียม โดยได้ทรงนาข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศและดาวเทียมมาวางแผนและแกไ้ ขปัญหาการใช้ที่ดินในแหล่งตน้ น้าลาธารบนภูเขาสูง บนพื้นที่สงู โดยเฉพาะการวางแผน การใช้ที่ดินลุ่มน้าภาคเหนือของประเทศไทย พระองค์และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสนพระทัยและทรงเข้าร่วมการสัมมนาการประยุกต์เทคโนโลยีการถ่ายทาภาพถ่ายทางอากาศและดาวเทยี มในการวางแผนการใช้ทด่ี ินล่มุ น้าภาคเหนือของประเทศไทย เมอื่ วันท่ี 7 มกราคมพ.ศ.2523 ณ โรงแรมรนิ คา จังหวดั เชยี งใหม่
21 นอกจากน้ี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จเป็นองค์ประธานฯ ในพิธีเปิดสถานีรับสัญญาณดาวเทียมภาคพื้นดินทุกครั้ง โดยเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดรับสัญญาณดาวเทียมสารวจทรัพยากร LANDSAT – MSS , LANDSAT – TM และดาวเทียมSPOT และพิธเี ปิดสถานรี บั สญั ญาณดาวเทยี ม MOS-1 เม่ือวนั อังคารท่ี 21 กนั ยายน 2525 วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2531 และวนั องั คารท่ี 23 สงิ หาคม 2531 ตามลาดับ และพระองค์ได้ทรงนาข้อมูลดาวเทียมสารวจทรัพยากร มาศึกษาความถูกต้องของแผนท่ีการใช้ท่ีดินด้วยคอมพิวเตอร์ บริเวณจังหวัดนราธิวาส ซ่ึงเป็นผลงานท่ีเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อการทาแผนที่ด้วยภาพจากดาวเทียมและการรวบรวมระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ต่าง ๆ ผลงานดังกล่าว จึงได้รับการพิจารณาให้ได้รบั รางวัลผลงานวิจยั ดเี ยยี่ มประจาปี 2533 กลุม่ สาขาวทิ ยาศาสตร์กายภาพและคณติ ศาสตร์ ในการประชุม The Twenty – Third International Symposium on RemoteSensing of Environment เมือ่ วนั ที่ 23-25 เมษายน 2533 ท่ีกรุงเทพมหานคร สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี มพี ระกรุณาโปรดเกล้าฯ อธิบายนิทรรศการของพระองค์ในการนาข้อมูลจากดาวเทียมสารวจทรัพยากรไปใช้ในการพัฒนาเกษตรกรรมและส่ิงแวดล้อม บริเวณอาเภอพฒั นานิคม จังหวัดลพบรุ ี ยังความปล้ืมปีติแก่ผู้เขา้ ร่วมประชุมจากประเทศตา่ ง ๆ ท่ัวโลก ในคราวทภ่ี าคใต้ของประเทศไทยประสบปญั หาอุทกภยั อย่างรุนแรงในเดอื นพฤศจิกายน2531 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกร โดยทรงวนิ จิ ฉัยภาพถ่ายจากดาวเทยี มสารวจทรัพยากร LANDSAT – TM บันทกึ ภาพเม่ือวันท่ี25 พฤศจิการยน 2531 บริเวณที่เกิดอุทกภัยในจังหวดั นครศรีธรรมราช และพระราชทานคาแนะนาในการวางแผนชว่ ยเหลือราษฎรทไ่ี ด้รับผลกระทบจากอทุ กภยั ด้วยพระองคเ์ อง 2.5.2 พระรำชทำนนำมดำวเทยี มส่อื สำรแห่งชำติ “ไทยคม” สาหรับพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช องค์พระประมุขซ่งึ เป็นหัวใจของประชาชนชาวไทยท้ังชาติ ไม่มีวันใดท่ีพระองค์จะทรงหยุดนิ่งในเรื่องการค้นคว้าและศึกษาหาความรู้ แม้แต่วิทยาการหรือเทคโนโลยีใดซึ่งเป็นเรื่องแปลกและใหม่ ก็ไม่เคยคลาดไปจากความสนพระทัยของพระองค์ได้ ทรงศึกษาอย่างลึกซึ้งจนเป็นท่ีประจักษ์และซาบซ้ึงของประชาชนและผู้มีโอกาสถวายงานใกล้ชดิ แม้แต่ชาวต่างชาติก็ยังอดไม่ได้ที่จะช่ืนชมดังจะเห็นได้จากเม่ือครั้งที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการบริหารขององค์การโทรคมนาค มทางดาวเทียมระหว่างประเทศ (INTELSAT) คร้ังท่ี 13 ระหว่างวันที่ 8 – 16 มกราคม 2518 นายศรีภูมิศุขเนตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลขในขณะนั้น ได้นาคณะผู้แทนประเทศต่าง ๆ ในคณะกรรมการบริหารขององค์การฯ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระตาหนกั ภูพิงคราชนิเวศน์ จงั หวดั เชียงใหม่ในคร้ังน้ันแม้เร่ืองของกิจการส่ือสารดาวเทียมจะยังเป็นเรื่องใหม่แต่พระองค์ก็ได้พระราชทานพระราชดาริแกผ่ ู้เขา้ เฝ้าได้อยา่ งละเอียดท้ังในเรื่องกจิ การส่ือสารดาวเทียมและเรื่องวทิ ยสุ ื่อสาร ได้แก่
22การกระจายและการรบกวนของคลื่นวิทยุ ประสบการณ์ในการรับส่งวิทยุดว้ ยคลนื่ ขนาดต่าง ๆ และพัฒนาการทางด้านกิจการสื่อสาร เป็นต้น ยังความประหลาดใจแก่ชาวต่างประเทศซึ่งล้วนแต่เป็นผู้เช่ียวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสื่อสารของโลกเป็นล้นพ้น ทุกคนที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทโดยเฉพาะชาวต่างชาติต่างก็ช่ืนชมในพระปรีชาสามารถเป็นเย่ียมในด้านการส่ือสารของพระองค์อย่างที่เขาเหล่านั้นไม่เคยคาดหมายมาก่อน ความปลาบปลื้มปีติดังกล่าวแสดงออกโดยทุกคนจะคุยกันถึงแต่พระราชจริยาวัตรและพระปรีชาสามารถของพระองค์ตลอดการเดินทางกลับลงมาจากพระตาหนกั โดยไมม่ ใี ครสนใจความสวยงามของทัศนียภาพและสภาพส่งิ แวดลอ้ มเลย ประเทศไทยได้เร่ิมใช้ดาวเทียมเพ่ือการติดต่อสอ่ื สารภายในประเทศต้ังแต่ปี 2522 โดยใช้ดาวเทียมปาลาปาของประเทศอินโดนีเซีย ต่อมาเมื่อปริมาณความต้องการใช้ดาวเทียมส่ือสารภายในประเทศเปน็ ของตนเอง โดยการลงทุนของภาคเอกชน ดังน้ัน เมื่อบริษัทชินวัตร แซทเทลไลท์ จากัด (มหาชน) ผู้ได้รับสัมปทานโครงการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศได้ดาเนินการ (โดยความเห็นชอบของกระทรวงคมนาคม) ขอพระราชทานชื่อดาวเทียมสื่อสารดวงแรกของประเทศไทยจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเพ่ือเป็นเกียรติภูมิของประเทศและเป็นสิริมงคลต่อประชาชนชาวไทย และต่อการดาเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศต่อไป ความทราบฝ่าละอองธลุ ีพระบาทแล้ว ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อดาวเทียมส่ือสารดังกล่าวว่า “ไทยคม” มาจากคาว่า “ไทยคม(นาคม)” เขียนเป็นภาษาอังกฤษวา่ “THAICOM” มาจากคาว่า THAICOM (MUNICATION) รปู ที่ 2.11 รัชกาลที่ 9 กบั ดาวเทยี ม ในวันท่ี 17 ธันวาคม 2536 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทอดพระเนตรการส่งดาวเทียม “ไทยคม 1” ขึ้นสู่วงโคจร ณ ศูนย์อวกาศกีอานา เมืองคูรู จังหวัดโพ้นทะเล เฟรนซ์กีอานา ของประเทศฝรั่งเศส ทวีปอเมริกาใต้ และนอกจากนี้พระองค์ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯเสด็จพระราชดาเนินทรงเปิดสถานีดาวเทียมไทยคม ณ ถนนรัตนาธิเบศร์ และทอดพระเนตรกิจการและการสาธิตการควบคมุ สถานีดาวเทยี มไทยคม ในวนั ที่ 26 มกราคม 2537
23 จากการเสด็จฯ ทอดพระเนตรกิจการในสถานีดาวเทียมไทยคม ทรงมีพระราชดารัสสอบถามข้อมูลเป็นเวลานานถึง 3 – 4 ชั่วโมง ดว้ ยความสนพระทยั เป็นอย่างย่ิง ดร. นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อานวยการบริษัทชินวัตรฯ ซ่ึงเป็นผู้ถวายรายงานบรรยายข้อมูลต่าง ๆอย่างใกล้ชิดผู้หนึ่งได้แสดงความรู้สึกว่า จากพระราชดารัสสอบถามผู้เกี่ยวข้อง ทาให้เข้าใจว่าทรงรอบรู้และเช่ียวชาญด้านการส่ือสาร ไม่เฉพาะท่ีเก่ียวกับเคร่ืองวิทยุท่ัวไปเท่านั้น แต่ทรงมีความสนพระทัยในเร่ืองการสื่อสารทุก ๆ ด้านเป็นอย่างมากและทรงเป็นนักปฏิบัติด้วย ทรงมีพระปรีชาสามารถยิ่งทั้งวิศวทฤษฎีและวิศวปฏิบัติในเวลาเดียวกัน ซ่ึงในบรรดาวิศวกรทั้งหลายในเมืองไทยน้ีน้อยรายท่ีจะมีลักษณะเช่นนั้น ทรงติดตามศึกษาเทคโนโลยีสื่อสารมาเป็นเวลานาน จนมีความเข้าพระทัยอย่างลึกซึ้ง ในเร่ืองเทคโนโลยีในอดีตและปัจจุบัน และรวมไปถึงการมองการณ์ไกลไปในอนาคตด้วย 2.5.3 โรงเรยี นวงั ไกลกังวลกับกำรสอนทำงไกล รูปท่ี 2.12 โรงเรียนวงั ไกลกังวล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นม่ิงขวัญของไพร่ฟ้าประชาชนทุกหมู่เหล่า นับตั้งแต่พระองค์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติในปีพุทธศักราช 2489 พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจในด้านต่าง ๆ โดยมิเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ทรงใช้ความอัจฉริยภาพแก้ปัญหาและพัฒนาบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุข ทรงทุ่มเทพระวรกาย เสียสละ ท้ังกาลังกาย พลังความคิด ตลอดจนพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในอันที่จะให้การศึกษาเป็นเคร่ืองมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซ่ึงเป็นจุดกาเนิดของสถาบันการศึกษาหลายระดับ ทั้งท่ีเกิดจากความมุ่งม่ันของพระองค์เองและเกิดจากหน่วยงานต่าง ๆ จัดสร้างขึ้นถวาย เพ่ือเป็นอนุสรณ์สถานทางการศึกษาในวโรกาสต่าง ๆ มากมาย โรงเรียนวงั ไกลกังวลก่อต้ังข้ึนในรชั สมยั พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานนั ทมหิดลเพื่อเป็นท่ีเรียนของข้าราชบริพารในวังไกลกังวลและเด็กในท้องถ่ิน เปิดสอนตั้งแต่วันท่ี 22 มิถุนายนพุทธศักราช 2481 ในช้ันอนุบาล มีนักเรียนรุ่นแรก 25 คน ครูผู้สอน 1 คน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินเดือนครูและค่าอุปกรณ์การสอนปีละ 300 บาท จนกระท่ังวันที่ 13
24กุมภาพนั ธ์ พุทธศกั ราช 2481 ทางราชการจงึ ได้อนุญาตใหเ้ ป็นโรงเรยี นราษฎร์ และสอนตัง้ แตช่ น้ั มูลถึงช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 มีนักเรียนชายหญิง 48 คน และเปิดถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปีพุทธศักราช2488 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับพระราชภารกิจสืบทอดจากสมเด็จพระเชษฐาธิราช มีพระราชประสงค์ขยายกิจการของโรงเรียนให้เจริญก้าวหน้าย่ิงข้ึน เพื่อให้บุตรหลานประชาชนท่ีอยู่ในเขตอาเภอหัวหนิ และอาเภอใกล้เคียง ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นชาวปรางมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนอย่างต่อเนื่องต้ังแต่ระดับเตรียมประถม ประถมศึกษา จนถึงมัธยมศึกษา ให้สามารถไปศึกษาตอ่ ในช้นั อุดมศึกษาและนาความรู้ไปประกอบอาชพี ได้ นอกจากนน้ั ยังไดโ้ ปรดเกล้าฯให้เด็กท่ีขาดแคลนทุนทรัพย์เข้าเป็นเด็กในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนกิจการของโรงเรียนได้พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงปีพุทธศักราช 2497 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตึกกองรักษาการทหารมหาดเลก็ รกั ษาพระองคว์ ังไกลกังวลให้เป็นอาคารเรียน และขยายเน้ือทโ่ี รงเรียนเป็น 14 ไร่ 2 งาน 7ตารางวา จนปีพุทธศักราช 2502 กระทรวงศึกษาธิการได้จัดสรรงบประมาณสร้างอาคารเรียน ยาว44 เมตร กว้าง 22 เมตร มีห้องเรียน 10 ห้องเรียน ห้องพักครู 2 ห้อง โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงเสด็จพระราชดาเนินพิธีเปดิ อาคารเรียนมัธยม เม่ือวันท่ี 31 พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช 2508 ในปีพุทธศักราช 2513 – 2514 กระทรวงศึกษาธิการได้จัดสรรงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารเรียนชั้นประถมให้อีก 1 หลังเป็นอาคารไม้ช้ันเดียวใต้ถุนสูง รูปตัวแอล เสาคอนกรีตเสริมเหล็ก สิ้นค่าก่อสร้าง 399,000 บาท ซึ่งต่อมาสานักพระราชวังได้ดัดแปลงอาคารนี้ เปลี่ยนสภาพเป็นอาคารสองชั้นมีห้องเรียนท้ังหมด 12 ห้องเรียน และได้ทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ครั้งทรงดารงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จไปทรงเปิดอาคารดังกล่าว เมื่อวันท่ี 14 พฤษภาคม 2514 นอกจากนี้พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชไดพ้ ระราชทานรางวลั และทุนการศกึ ษาแก่นักเรียนเรียนดี ต้งั แตป่ ีพุทธศักราช 2496 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณท่ีจะให้โรงเรียนวังไกลกังวลสามารถถ่ายทอดการเรียนการสอนให้ครอบคลุมกว้างขวางออกไปยังโรงเรียนในชนบทท่ีอยู่ห่างไกลท่ัวประเ ทศกระทรวงศึกษาธิการ โดยกรมสามัญศึกษาได้ร่วมกับนายขวัญแก้ว วัชโรทัย องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย กลุ่มบริษัทชินวัตร หน่วยงานต่าง ๆ และบุคคลอีกจานวนมาก ได้ร่วมมือกันจัดทาโครงการการศึกษาสายสามัญด้วยระบบทางไกลผ่านดาวเทียม โครงการนจี้ ะตดิ ตง้ั กล้องถ่ายภาพการสอนจากโรงเรียนวังไกลกังวล จานวน 6 ห้องเรียน สาหรับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ถึง 6 แล้วส่งออกอากาศทางดาวเทียมกระจายออกไปท่ัวประเทศให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 ท่ัวประเทศสามารถรับรายการสอนจากโรงเรียนวังไกลกังวล เสมือนหน่ึงเรียนร่วมกับนักเรียนโรงเรียนวังไกลกังวล เสมือนหน่ึงเรียนร่วมกับนักเรียนโรงเรียนวังไกลกังวล ซ่ึงจะช่วยแก้ปัญหาความขาดแคลนครู
25ซึ่งจากข้อมูลการศึกษาในปี 2538 กรมสามัญศึกษาขาดแคลนครูในสาขาวิชาคณิตศาสตร์จานวน4,226 คน วิชาวิทยาศาสตร์ท่ัวไปจานวน 3,130 คน ฟิสิกส์จานวน 812 คน วิชาเคมีจานวน 542คน และวิชาชีววทิ ยาจานวน 499 คน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2538 อันเป็นวันมหามิ่งมงคลเฉลิมพระชนมายุพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงได้มีการทาพิธีเปิดสถานีสง่ สัญญาณดาวเทียมที่โรงเรียนวังไกลกังวล โดยรองนายกรัฐมนตรีพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ พร้อมดว้ ยรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการข้าราชการช้ันผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธกิ ารและบรรดาพสกนิกร ได้ร่วมมือร่วมใจกันไปในวันพิธีเปดิสถานีส่งสญั ญาณดาวเทยี มกันในวันนั้น การดาเนินงานโครงการนี้ ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน2538 เห็นชอบในหลักการโครงการการศึกษาสายสามัญด้วยระบบทางไกลผ่านดาวเทียม พร้อมท้ังอนุมัติงบกลางสาหรับดาเนินการในปีงบประมาณ 2539 ในวงเงิน 125 ล้านบาท และเม่ือได้ดาเนินการโครงการไประยะหนึ่งแล้ว ให้กระทรวงศึกษาธิการประเมินผลการดาเนินงาน เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาด้วย นอกจากน้ีได้มีผู้ให้การสนับสนุนการดาเนินการในระยะเริ่มต้นท่ีสาคัญไดแ้ ก่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยบริจาคเงนิ 50 ลา้ นบาท พร้อมทงั้ จดั ทาระบบสายใยแก้วการส่งสัญญาณดาวเทียมจากโรงเรียนวังไกลกังวลไปยังสถานีดาวเทียมไทยคม จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีมูลค่านับร้อยล้านบาทให้ใช้ตลอดโครงการ และยังได้จัดสายโทรศัพท์จานวน 6 หมายเลข ติดต้ังที่โรงเรียนวังไกลกังวลใหใ้ ชใ้ นการส่ือสารกับโรงเรียนท่ีรบั รายการโดยไม่ต้องเสียค่าใชจ้ ่ายอีกด้วย และพ.ต.ท. ทกั ษณิ ชนิ วัตร จะบริจาคเงิน 20 ล้านบาท ในการติดตั้งอุปกรณ์สง่ สัญญาณดาวเทียม กระทรวงศึกษาธิการได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านมาร่วมประชุมหารือกัน เพ่ือให้ดาเนินงานของโครงการเป็นไปดว้ ยความรวดเร็วและทนั ตอ่ การเฉลมิ ฉลองปีกาญจนาภเิ ษก และไดต้ ้ังมูลนิธิการศึกษาสายสามัญด้วยระบบทางไกลผ่านดาวเทียมเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดาเนินงานของโครงการนี้ คณะกรรมการมลู นธิ ิได้เลอื กนายขวัญแกว้ วัชโรทัย เป็นประธานกรรมการมูลนิธิโดยมีนายสุรัฐ ศิลปะอนันต์ และนายพนม พงษ์ไพบูลย์ เป็นรองประธานมูลนิธิและมีกรรมการต่าง ๆรวม 20 คน ซง่ึ ส่วนใหญ่มาจากผู้ทรงคุณวฒุ ิ มูลนิธินีม้ ีสานกั งานต้ังท่ีอาคารกรมสามัญศึกษา ช้ัน 3ในบรเิ วณกระทรวงศึกษาธกิ า รูปท่ี 2.13 การศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทียม
26 ในปีการศึกษา 2539 จะมีการถ่ายทอดการเรียนการสอนจากโรงเรียนวังไกลกังวลช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ถึง 6 ไปให้โรงเรียนตา่ ง ๆ ในเครือขา่ ยได้เรียนรว่ มกับโรงเรยี นวงั ไกลกังวล โดยมีจานวนโรงเรียนประมาณ 300 โรง นอกจากครู-อาจารย์โรงเรียนวังไกลกังวลที่สอนออกอากาศแล้วยังมีครู-อาจารย์จากโรงเรียนพ่ีเล้ียงและศึกษานิเทศน์ กรมสามัญศึกษาอีกจานวนมากท่ีมาช่วยสอนออกอากาศอีกดว้ ย และหลงั จากเวลาเรยี นปกตแิ ล้ว จะมีรายการออกอากาศของวิทยาลัยการอาชีพและสถาบนั เทคโนโลยีราชมงคล วทิ ยาเขตวงั ไกลกังวล ซงึ่ ได้จัดทาเทปรายการสอนวชิ าอาชพี ต่าง ๆออกอากาศอีกด้วยเปน็ ประจาทุกวนั ในปีงบประมาณ 2540 สานักงบประมาณได้อนุมัติวงเงินงบประมาณ 235 ล้านบาทเป็นค่าใชจ้ า่ ยของโครงการนี้ ส่วนหนงึ่ ใช้ในการดาเนินการตามรายจา่ ยประจา และอกี สว่ นหนง่ึ จะใช้ในการขยายเครอื ข่ายโรงเรียนท่ีเปน็ จุดรับรายการใหก้ ว้างขวางยิ่งข้ึน นอกจากนี้ มูลนิธิโครงการน้ีก็จะสนับสนุนให้มีการเพิ่มเติมเครือข่ายท่ีเป็นจุดรับรายการให้มากขึ้น เพื่อเร่งรัดให้โรงเรียนต่าง ๆสามารถรับรายการจากโรงเรยี นวังไกลกังวลได้อย่างพร้อมเพรียง เพราะยังมีโรงเรียนท่ีสอนระดับชนั้มัธยมศึกษาอีกเป็นจานวนมาก ซ่ึงได้แก่โรงเรียนขยายโอกาสในสังกัดสานักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ โรงเรียนตารวจตระเวนชายเดนตลอดจนโรงเรียนเอกชนทย่ี งั ขาดแคลนครใู นสาขาวชิ าตา่ ง ๆ และยังไม่มีวิธีการใดท่ดี ีกวา่ นี้ ในการท่ีจะให้เด็กในโรงเรียนเหล่าน้ันได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพเทียบเท่าโรงเรียนวังไกลกังวลที่พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชได้ทรงพระราชทานให้ นับเป็นความก้าวหน้าอีกข้ันหนึ่งของวงการศึกษาไทย ท่ีจะมีการสอนโดยใช้เทคโนโลยีการส่ือสารที่ทันสมัยท่ีสุด ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซ่ึงได้ทรงพระราชทานการศกึ ษาให้พสกนิกรและข้าราชบริพาร ที่โรงเรียนวงั ไกลกังวลได้เผยแพร่ขจรขจายออไปท่ัวทุกแห่งหนในราชอาณาจักรไทยทาให้นักเรียนท้องถิ่นทุรกันดาร และขาดความเท่าเทียมกนัในโอกาสและคุณภาพทางการศึกษา ได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพเท่าเทียมกับโรงเรียนวังไกลกังวลจึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นท่ีพระองค์มีต่อพสกนิกร และต่อวงการศึกษาของชาติเป็นอเนกอนนั ต์ประการสืบไป
27 บทที่ 3 วธิ ีกำรดำเนินโครงงำนตำรำงท่ี 3.1 วิธกี ารดาเนนิ โครงงาน วนั ท่ี งาน กิจกรรม ผู้รับผดิ ชอบ26 กนั ยายน 256030 กนั ยายน – ได้หวั ข้อ ทุกคนในกลุ่มประชุมหารือ ทกุ คนในกลมุ่8 ตุลาคม 25609 ตลุ าคม 2560 เก่ยี วกบั หัวขอ้ ท่ไี ด้9 - 14 ตุลาคม 256014 - 16 ตลุ าคม 2560 สอบกลางภาค ทุกคนในฝ่ายอ่านหนังสือ16 - 18 ตลุ าคม 2560 เตรียมสอบวิชาต่าง ๆ จึงงด19 ตุลาคม 2560 การหาข้อมูล19 - 26 ตลุ าคม 256026 ตุลาคม – แบ่งงานเพื่อค้นหา แบ่งงานตามแตล่ ะคนถนัด ทุกคนในกลุม่1 พฤศจิกายน 25601 พฤศจกิ ายน – เนือ้ หา7 พฤศจกิ ายน 256016 พฤศจิกายน 2560 รวบรวมเนอ้ื หา หาเน้ือหาและสรุปเนื้อหา ฝา่ ยทารายงาน30 พฤศจิกายน 2560 หัวขอ้ ประเด็นสาคัญ แบ่งเน้ือหา นาเนื้อหาท่ีได้แบ่งให้แก่ฝ่าย ฝา่ ยทารายงาน ต่าง ๆ ได้แก่ ฝ่ายนาเสนอ งาน ฝา่ ยสอ่ื นาเสนอ เรม่ิ ทางานตามฝ่าย ให้แต่ละฝ่ายทางาน ตามที่ ทกุ ฝ่าย ไดร้ บั มอบหมาย - ฝ่ายรายงาน นาเน้ือหามา สงั เคราะห์ - ฝ่ายสื่อนาเสนอ นาเนื้อหา มาสรปุ ประเด็นและตดั ต่อ - ฝา่ ยนาเสนอ ทาความเขา้ ใจ เน้อื หา น า เ ส น อ ค ว า ม ฝ่ายนาเสนอ รายงานความ ฝ่ายนาเสนอ คบื หนา้ คบื หนา้ หนา้ ชัน้ เรียน ทารายงานและ E- ฝ่ายทารายงานทารายงาน ฝ่ายรายงาน book และE-book สื่อนาเสนอต้องเสร็จ ฝ่ายสื่อนาเสนอนาผลงานมา ฝ่ายส่ือ ใหเ้ พอ่ื นในกลุ่มตรวจ นาเสนอ ฝ่ายนาเสนอทดลอง เพ่ือนสังเกตการนาเสนอของ ฝ่ายนาเสนอ นาเสนอ ฝ่ายนาเสนอ สง่ รปู เล่มและ ฝ่ายนาเสนอตรวจทานและส่ง ฝา่ ยรายงาน E-Book นาเสนอ นาเสนองาน ทุกคนในกลุ่ม
28 บทที่ 4ผลกำรดำเนนิ โครงงำน จากการศึกษาพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเก่ียวกบั การสอื่ สาร พบว่าพระองค์มคี วามสนพระทยั ดา้ นการสื่อสารตงั้ แตท่ รงพระเยาว์ เน่อื งจากในปีพุทธศักราช 2511 พระองค์เสด็จแปรพระราชฐาน และโทรศัพท์ใช้การไม่ได้ พระองค์จึงตระหนักว่า การสื่อสารมีความสาคัญอย่างยิ่ง จึงได้เกิดพระราชกรณียกิจท่ีเก่ียวกับการส่ือสารด้านต่าง ๆมากมาย ได้แก่ พระราชกรณียกิจด้านส่ือสารอิเล็กทรอนิกส์ อาทิเช่น สายอากาศตามกระแสพระราชดารัส การพระราชทานพรปีใหม่ทางเทเล็กซ์ เป็นต้น พระราชกรณียกิจด้านวิทยุกระจายเสียงอาทิเช่น สถานีวิทยุ อ.ส. VR009 เป็นต้น พระราชกรณียกิจด้านดาวเทียม อาทิเช่น การสารวจทรัพยากรดาวเทียมสื่อสารไทยคมการส่ือสารทางไกลผ่านดาวเทียมวังไกลกังวล การศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม เปน็ ตน้ พระราชอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้นาประโยชน์ของการส่ือสารไปใช้ในการติดตามรับฟังข่าวสารทุกขส์ ุขของประชาชน และสนบั สนุนการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนในชนบท อันเป็นรากฐานความมั่นคงของประเทศ
29 บทที่ 5สรปุ ผลกำรดำเนินโครงงำน จากการดาเนินงานในการสืบค้นในหัวข้อในหลวงกับการสื่อสาร พระราชกรณียกิจด้านสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ด้านวิทยุกระจายเสยี ง ด้านดาวเทียม ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระปรีชาสามารถของพระองค์ท่ีประจักษ์ให้แก่พสกนิกรชาวไทย และยังสามารถช่วยเหลือให้พสกนิกรของพระองค์ ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งด้านภัยพิบัติ การดาเนินงานต่าง ๆ ผ่านพ้นไปดว้ ยดี ดว้ ยบารมีของพระองค์ทาใหป้ ระเทศไทยอยู่อย่างสงบ และสบายมาจนถงึ ทุกวันนี้ หลังจากท่สี มาชิกในในกลุ่มดาเนินงาน สืบคน้ ขอ้ มูล ลงมือทา สมาชกิ ทกุ คนในกลุ่มได้รว่ มมอื กันทางานอย่างเต็มความสามารถ อย่างกับท่ีพระองค์ทรงทาเพ่ือพสกนิกรของพระองค์ พวกเราได้เรียนรู้กระบวนการทางานเป็นกลุ่ม เกิดการแบ่งงานตามท่ีตนถนัด เมื่อมีปัญหาก็ประชุมเพ่ือหาทางออกเพ่ือให้ผลงานของกลุ่มเราออกมาได้ดีท่ีสุด เพื่อให้การสืบค้นน้ีเป็นประโยชน์แก่ผู้ท่ีต้องการสืบค้นข้อมูลในหัวข้อน้ี เมื่อเราลงเมื่อทางานกันเรื่อย ๆ เราได้ประจักษ์ถึงพระปรีชา และพระเมตตาของพระองค์ท่ีมีต่อประชาชนชาวไทยของพระองค์ พระองค์ทรงช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ ในการดาเนินงานหรือการทางาน พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างให้แก่สมาชิกทุกคนในกลุ่ม พระองค์เป็นเสมือนแก้วน้าท่ีมีน้ายังไม่เต็ม ทรงเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อหวังว่าประชาชนของพระองค์จะอยู่ดีกินดี พระองค์ทาให้พวกเราสมาชิกในกลุ่มรู้ ถึงคาว่า “ กษัตริย์นักพัฒนาที่แท้จริง ”
30เอกสำรอ้ำงองิการส่อื สารแหง่ ประเทศไทย. (2530). พระรำชอัจฉริยภำพของพระบำทสมเดจ็ พระเจ้ำอยู่หวั ดำ้ น ส่ือสำร: วันสื่อสำรแห่งชำติ 2530 วันที่ 4 สงิ หำคม 2530. (พิมพค์ ร้ังที่ 1). กรุงเทพฯ: การ สอื่ สาร.คณะกรรมการอานวยการจดั งานฉลองสิรริ าชสมบัติครบ 50 ปี. (2539). เฉลิมพระเกียรติ พระบำทสมเด็จพระเจำ้ อยู่หัวดำ้ นกำรสื่อสำร. กรงุ เทพฯ: บริษัท อมรินทรพ์ ร้ินต้งิ แอนด์ พับลิชช่ิง จากัด.ไชยวฒั น์ สาดแย้ม. (11 ธันวาคม 2559). ครูต้แู หง่ “ไกลกังวล” โรงเรยี นของพระรำชำ. สบื คน้ เมอ่ื 9 ตลุ าคม 2560, จาก https://www.posttoday.com/kingbhumibol/news/469683สชุ าติ เผือกสกนธ.์ (2550). พระเจำ้ อยหู่ ัว นกั วทิ ยุสือ่ สำรผยู้ ่ิงใหญ.่ พิษณุโลก: สมาคม โทรคมนาคมแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์สานักบรกิ ารคอมพวิ เตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (30 ธนั วาคม 2552). พระรำชกรณียกจิ ด้ำน ส่ือสำรอิเลก็ ทรอนกิ ส์. สืบคน้ เมอื่ 9 ตุลาคม 2560, จาก http://www.ku.ac.th/e- magazine/dec52/it/it1.htmMRG Online. (22 ตุลาคม 2559). ในหลวงกับพระอจั ฉริยภำพด้ำนกำรสอ่ื สำร. สืบค้นเมือ่ 9 ตลุ าคม 2560, จาก http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000105733
31ภำคผนวก
32ภำพกำรทำงำนรปู ที่ 14 สมาชกิ ในกลุ่มประชุมหารือ และแบง่ ฝา่ ยตามหน้าที่รปู ที่ 15 ฝ่ายทารูปเลม่ รายงานและ ebook
33ภำพกำรทำงำน (ตอ่ )รปู ที่ 16 ฝา่ ยคน้ หาข้อมลู ในการทารายงานรูปที่ 17 ฝา่ ยนาเสนอและฝา่ ยจดั ทาส่อื การนาเสนอ
34 ประวตั ิผ้ดู ำเนินโครงงำนช่ือ นายกรวิชญ์ เก้ือผลภมู ิลำเนำ 4 หมู่ 7 ต.บา้ นนา อ.บา้ นนาเดมิ จ.สุราษฎรธ์ านีประวตั ิกำรศกึ ษำ - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรยี นเวยี งสระ - ปัจจบุ นั กาลังศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้ันปที ี่ 2 สาขาคณติ ศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรE-mail : [email protected]ช่ือ นางสาวกฤษณา ธรรมศรภมู ลิ ำเนำ 108 หมู่ 10 ต.บา้ นร้อง อ.งาว จ.ลาปางประวตั กิ ำรศกึ ษำ - จบระดบั มธั ยมศกึ ษาจากโรงเรยี นประชารัฐธรรมคุณ - ปัจจุบันกาลังศกึ ษาในระดับปรญิ ญาตรีชนั้ ปีท่ี 2 สาขาคณติ ศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวรE-mail : [email protected]ชือ่ นางสาวกญั ญาณฐั อุณหะภมู ิลำเนำ 22 หมู่ 7 ต.คุ้งนา้ วน อ.เมือง จ.ราชบุรีประวตั ิกำรศึกษำ - จบระดบั มัธยมศกึ ษาจากโรงเรยี นราชโบริกานุเคราะห์ - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดับปรญิ ญาตรีชั้นปที ี่ 2 สาขาคณิตศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวรE-mail : [email protected]
35 ประวตั ผิ ดู้ ำเนินโครงงำน (ต่อ)ชอ่ื นางสาวเขมจริ า ฤทธบิ์ ารงุภมู ิลำเนำ 65/4 หมู่ 7 ต.สายลาโพง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ประวัติกำรศึกษำ - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรยี นพนมรอกวทิ ยา - ปจั จุบนั กาลงั ศกึ ษาในระดบั ปริญญาตรชี ั้นปที ี่ 2 สาขาคณิตศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวรE-mail : [email protected]ชื่อ นายชยั ภูมิ ปอ้ งจตั ุรสัภูมิลำเนำ 143 หมู่ 5 ต.บ้านตาล อ.บาเหนจ็ ณรงค์ จ.ชัยภูมิประวตั กิ ำรศกึ ษำ - จบระดบั มธั ยมศกึ ษาจากโรงเรยี นจฬุ าภรณราชวิทยาลยั บรุ รี มั ย์ - ปจั จบุ นั กาลังศกึ ษาในระดับปริญญาตรีชั้นปีท่ี 2 สาขาคณิตศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวรE-mail : [email protected]ชือ่ นางสาวฐิตชิ ญา สุทธวิ ัฒนกาจรภมู ิลำเนำ 211/1 ถ.ราษฎร์บารงุ ต.ตะกั่วปา่ อ.ตะกัว่ ป่า จ.พงั งาประวตั ิกำรศกึ ษำ - จบระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรยี นตะกว่ั ปา่ “เสนานุกูล” - ปัจจุบนั กาลังศกึ ษาในระดับปรญิ ญาตรีช้ันปีท่ี 2 สาขาคณติ ศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวรE-mail : [email protected]
36 ประวัติผดู้ ำเนนิ โครงงำน (ต่อ)ชอ่ื นายณรงฤทธิ์ อ่อนน่วมน้อยภูมิลำเนำ 115/3 หมู่ 4 ต.ทา่ มะเฟอื ง อ.พชิ ัย จ.อุตรดิตถ์ประวตั ิกำรศกึ ษำ - จบระดบั มธั ยมศึกษาจากโรงเรียนพิชยั - ปจั จบุ ันกาลังศึกษาในระดบั ปรญิ ญาตรชี ้ันปที ่ี 2 สาขาคณติ ศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail : [email protected]ชอื่ นายณรงฤทธ์ิ ปลอดโคกสูงภมู ลิ ำเนำ 538 หมู่ 1 ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชยั ภมู ิประวตั กิ ำรศกึ ษำ - จบระดบั มัธยมศึกษาจากโรงเรียนภเู ขียว - ปจั จบุ นั กาลงั ศกึ ษาในระดบั ปริญญาตรชี น้ั ปที ี่ 2 สาขาคณิตศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรE-mail : [email protected]ช่อื นายทศพล โพธิ์ทองภมู ลิ ำเนำ 151/1 ถ.ยานศลิ าอาสน์ ต.ท่าอฐิ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ประวตั กิ ำรศึกษำ - จบระดับมธั ยมศึกษาจากโรงเรยี นอุตรดติ ถ์ - ปัจจุบนั กาลงั ศกึ ษาในระดบั ปริญญาตรีชนั้ ปที ี่ 2 สาขาคณติ ศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวรE-mail : [email protected]
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: