Office Syndrome

Office Syndrome นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี

อาการออฟฟิศซินโดรม เริ่มแรกคือ รู้สึกปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ สะบัก และบริเวณหลัง การนวดอาจจะช่วยให้ดีขึ้นได้ แต่ผ่านไปสักระยะหนึ่งก็จะกลับมาเป็นอีก และเป็น เรื้อรังมากขึ้น หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มาตรวจหา สาเหตุและทำการรักษา อาจลุกลามจนเป็น โรคไมเกรน หรืออาจเกิดโรคทางระบบกระดูกและ กล้ามเนื้อที่รุนแรงขึ้นตามมาได้

ประโยชน์ของการนวด ลดอาการเกร็งกล้ามเนื้อ ให้ความตึงลดลง ลดการยึดติดของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและแผลเป็น เพิ่มการไหลเวียนกลับของเลือดและน้ำเหลือง เพิ่มการเคลื่อนไหวข้อต้อ ข้อยึดติดที่ไม่รุนแรง ลดอาการปวดจากการกระตุ้นการหลั่งสาร บรรเทาความเจ็บปวด (Endogenous endorphins) เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล และความตึงเครียดของจิตใจ

การนวดป้องกัน Office Syndrome

ท่าที่ 1 ใช้นิ้วหัวแม่มือข้างขวานวดตามแนวกล้ามเนื้อแขนด้านในซึ่งแบ่งออก เป็น 3 แนว ได้แก่ 1) แนวนิ้วหัวแม่มือ 2) แนวนิ้วกลาง และ3) แนวนิ้วก้อยโดย เริ่มนวดจากแขนท่อนล่างขึ้นมาแขนท่อนบนและสิ้นสุดบริเวณรักแร้ ท่านี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อแขนด้านใน กระตุ้นเลือดลมให้ไปเลี้ยงที่แขน อ้างอิงจาก (กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก,2562)

ท่าที่ 1 (ต่อ) ใช้นิ้วหัวแม่มือข้างขวานวดตามแนวกล้ามเนื้อแขนด้านนอก ในแนวนิ้ว กลาง จากข้อมือขึ้นไปสิ้นสุดบริเวณหัวไหล่ ท่านี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อแขนด้าน นอก อ้างอิงจาก (กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก,2562)

ท่าที่ 2 ใช้นิ้วมือข้างขวา (นิ้วชี้, นิ้วกลาง, นิ้วนาง) กดนวดจากแนวกล้ามเนื้อบ่า ด้านซ้าย และแนวกล้ามเนื้อต้นคอสิ้นสุดที่ฐานกะโหลกศีรษะ ท่านี้จะช่วยคลาย กล้ามเนื้อบ่า ต้นคอ ทำให้ให้เลือดลมไปเลี้ยงบริเวณศีรษะเพิ่มมากขึ้น อ้างอิงจาก (กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก,2562)

ท่าที่ 3 ให้นำมือทั้งสองข้างประสานไว้ที่ท้ายทอย แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง กดนวดตามแนวกล้ามเนื้อต้นคอทั้งสองข้างพร้อมกัน โดยกดนวดตั้งแต่ฐานคอ ขึ้นไปสิ้นสุดที่ฐานกะโหลกศีรษะ ท่านี้ช่วยบรรเทาอาการตาพร่ามัว อ้างอิงจาก (กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก,2562)

ท่าที่ 4 ทำท่ากายบริหาร ฤๅษีดัดตนแก้เกียจ โดยประสานมือไว้บริเวณหน้าอกดัด ยืดแขนออกไปทางด้านซ้าย หน้ามองตรง ดัดออกไปทางด้านขวา ดัดออกไปทาง ด้านหน้า และดัดวาดแขนยืดขึ้นไปด้านบน พร้อมกับโน้มเอียงตัวไปทางด้านซ้ายและ ขวา ท่านี้เป็นการยืดกล้ามเนื้อบ่า ไหล่ แขน หลัง หน้าอก และชายโครง อ้างอิงจาก (กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก,2562)

1) ขึ้น-ลง 2) ซ้าย-ขวา 3) เฉียงบน-ล่าง ท่าที่ 5 ทำโดยการมองตามทิศทาง 1) ขึ้น-ลง 2) ซ้าย-ขวา 3) เฉียงบนและเฉียง ล่าง โดยมองค้างไว้ทิศทางละ 5 วินาที และผ่อนคลายตากลับมาสู่ตำแหน่งเดิม ท่านี้ เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้มายังบริเวณรอบดวงตาช่วยขับไล่ของเสียของ กล้ามเนื้อตาที่เกิดจากการจ้องมองเป็นเวลานาน อ้างอิงจาก (มหาวิทยาลัยมหิดลคณะเภสัชศาสตร์,2561)

Exercise to stimulate, not to annihilate. The world wasn't formed in a day, and neither were we. Set small goals and build upon them. การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้น ไม่ใช่การทำลาย โลกของเราไม่ได้สร้างเพียงแค่วันเดียว ร่างกายเราก็เช่นกัน ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ และสร้างมันให้เกิดขึ้น (Lee Haney)

Thank You!