การเตน้ แอโรบิคและการแปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน ที่มาเตน้ แอโรบิค
47บทคดั ย่อวัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื ศกึ ษาการออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบิคมสี ว่ นเปลยี่ นแปลงตอ่ สขุ ภาพอะไรบ้าง และพฤตกิ รรมและภาวะสขุ ภาพใดถกู ปรับเปลยี่ นได้กอ่ นหลงั ตามลาดบัสถานท่ีทาการศกึ ษา สวนชมนา่ น เทศบาลนครพิษณโุ ลกวิธีการดาเนินการวิจัย ทาการสมั ภาษณ์เชิงลกึ เชงิ พรรณนา โดยทาการคดั เลอื กประชากรตวั อยา่ งแบบสมุ่ตามอายแุ ละเพศ โดยคดั เลอื กแบง่ ตามชว่ งอายเุ ป็ น อายุ 11-19 ปี (ชาย 1 ราย,หญิง 3 ราย),อายุ 20-59 ปี (ชาย2 ราย หญิง 2 ราย),อายมุ ากกวา่ 60 ปี (ชาย 2 ราย ,หญิง 2 ราย)และคดั เลอื กผ้นู าเต้นแอโรบิค 1 ราย รวมจานวนทงั้ สนิ ้ 13 รายผลการวิจัย จากการศกึ ษาพบวา่ การออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบิคของประชาชนทม่ี าเต้นแอโรบคิณ สวนชมนา่ น จงั หวดั พษิ ณโุ ลก กบั การเปลยี่ นแปลงทางสขุ ภาพพบวา่ หลงั จากการเต้นแอโรบิคแล้วพฤติกรรมสขุ ภาพและภาวะสขุ ภาพของผ้เู ต้นแอโรบคิ เปลี่ยนแปลงไปในทางท่ีดีขนึ ้ ได้แก่พฤติกรรมด้านการนอน, ด้านการใช้ยา,ด้านสมั พนั ธภาพ,ด้านการเรียนการงาน,ด้านความมนั่ ใจ,ภาวะสขุ ภาพ และมีบางพฤตกิ รรมทป่ี ระชาชนในกลมุ่ ผ้เู ต้นสว่ นมากมคี วามคิดเหน็ วา่ ไมม่ กี ารปรับพฤติกรรมสขุ ภาพได้แก่ พฤตกิ รรมด้านการบริโภคอาหาร,พฤตกิ รรมด้านการบริโภคเครื่องดม่ื ท่ีมอี ลั กอฮอล์และบหุ ร่ี ,ด้านการขบั ข่ียวดยาน , นอกจากนยี ้ งั ทาให้ทราบถงึ ลาดบั การเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมและภาวะสขุ ภาพตา่ งๆ ท่เี กิดขนึ ้ ก่อนหลงัหลงั จากทม่ี าออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ โดยตามความคดิ เหน็ สว่ นมากเป็ นไปดงั นี ้พฤตกิ รรมด้านการนอน ,ด้านการบริโภคอาหาร ตามลาดบั และการศกึ ษาพบวา่ มีประชากรกลมุ่ ตวั อยา่ งบางสว่ นได้ปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรมด้านการบริโภคกอ่ นทีจ่ ะเต้นแอโรบคิ แล้วเน่อื งจากมีโรคประจาตวั สว่ นภาวะทางสขุ ภาพท่ถี กูปรับเปลย่ี นเป็ นอนั ดบั แรก คือ ทางด้านสขุ ภาพ และด้านความภมู ใิ จเป็ นอนั ดบั ตอ่ มา ในสว่ นของปัจจยั ท่ีมีผลตอ่ พฤตกิ รรมสขุ ภาพอน่ื นอกจากการเต้นแอโรบิคยงั พบวา่ มกี ารออกกาลงั กายอยา่ งอ่นื ได้แก่ การเดนิ ,วงิ่ ,วา่ ยนา้ ,แบดมินตนั ,รากระบอง เป็ นต้น และการบริโภคอาหารท่มี ีประโยชน์ตอ่สขุ ภาพ ได้แก่ ข้าวกล้อง ,เน้อปลา ,หวั ไชโป๊ ว,ผลไม้ ,นาลกู ยอ เป็นต้น ท่ีมผี ลตอ่ การปรับพฤตกิ รรมสขุ ภาพได้เช่นกนั ประชากรกลมุ่ ตวั อยา่ งได้ไห้เหตผุ ลหรือแรงจงู ใจทีท่ าให้มาเต้นแอโรบคิ คือ ต้องการออกกาลงั กายเพื่อเสริมสร้างสขุ ภาพทงั้ ความสนกุ ทาได้งา่ ยไมต่ ้องใช้อปุ กรณ์ใดๆ มแี หลง่ ใกล้บ้าน และบรรเทาความเจ็บป่ วยทีต่ นเป็ นอยู่ และผ้เู ต้นแอโรบคิ เองก็มสี ว่ นสาคญั ทีช่ ่วยให้บคุ คลท่ีอยรู่ อบข้างไมว่ า่ จะเป็ น ญาติพี่น้อง เพ่ือน หรือแม้กระทงั่ คนที่ไมร่ ู้จกั กนั มาก่อนได้ตระหนกั และปรับเปลย่ี นพฤติกรรมสขุ ภาพดขี นึ ้ จากเดิมโดยผา่ นการสร้างสมั พนั ธภาพระหวา่ งผ้ทู ีเ่ ต้นกบั บคุ คลอืน่ ในลกั ษณะของการพดู คยุ เร่ืองสขุ ภาพ การชกั ชวนกนั มาออกกาลงั กาย
48เป็ นกลมุ่ และการเป็ นแบบอยา่ งในการออกกาลงั กายถงึ แม้มิได้ถกู ชกั ชวนมากอ่ น ทาให้บคุ คลเหลา่ นนั้ ได้รับประโยชน์จากพฤตกิ รรมสขุ ภาพนนั้ ด้วยหลักการและเหตุผล ในปัจจบุ นั มีผ้สู นใจเข้าร่วมการออกกาลงั การโดยการเต้นแอโรบิคมากขนึ ้ ในทกุกลมุ่ อายุ เนื่องจากเป็นการออกกาลงั กายที่ไมต่ ้องใช้อปุ กรณ์มากและผ้เู ต้นก็ได้รับความเพลิดเพลนิ ระหวา่ งการออกกาลงั กายอีกทงั้ ทางองค์กรณ์ตา่ งๆ ทงั้ ภาครัฐบาล และเอกชนก็ออกมารณรงคใ์ ห้ประชาชนออกกาลงั กาย เพ่ือสขุ ภาพท่ีดถี ้วนหน้ากนั เป็นท่ีทราบกนั เป็นอยา่ งดแี ล้ววา่ การออกกาลงั กายนนั้ ช่วยในการเสริมสร้างสขุ ภาพให้แก่ผ้ทู ่ีออกกาลงั กาย ซงึ่ ทางคณะวจิ ยั ได้มีโอกาสศกึ ษาสมมตฐิ านของ Janine Hale จากบทความเร่ือง”does health economics do health promotion justice” ในหนงั สือ“Research health promotion (คศ.2000)”หน้า 142-153 ท่ีกลา่ วถงึ การที่บคุ คลซง่ึ อยู่ในโปรแกรมสขุ ภาพ ไมเ่ พียงแต่ เขาผ้นู นั้ จะได้รับผลดีตอ่ สขุ ภาพเทา่ นนั้ ผ้ทู ่ีอยนู่ อกโปรแกรมก็มีโอกาสท่ีจะได้รับจะได้รับผลดีทางสขุ ภาพนนั้ ด้วย ซงึ่ ทางผ้ทู าการวจิ ยั มีความสนใจในในการเต้นแอโรบคิ วา่ มีสว่ นช่วยให้พฤติกรรม ทางสขุ ภาพ ของผ้ทู ่ีออกกาลงั เปล่ียนแปลงได้หรือไมอ่ ยา่ งไรและสง่ ผลถงึ บคุ คลท่ีอยรู่ อบข้างของผ้เู ต้นหรือไมอ่ ยา่ งไร เพื่อเป็ นประโยชน์ในการเข้าใจถึงปัจจยั ท่ีมีสว่ นเกื่ยวข้องกบั การปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมสขุ ภาพ ซงึ่ อาจนามาใช้เป็นข้อมลู พืน้ ฐานในการศกึ ษาวิจยั เพ่ือสง่ เสริมกิจกรรมสขุ ภาพในการลดพฤตกิ รรมเสี่ยงตอ่ ไปกรอบแนวคดิ ในการวจิ ัย ตวั แปรตาม พฤติกรรมและภาวะสุขภาพท่ี ตัวแปรอสิ ระ การออกกาลงั กาย เปล่ียนแปลง การเต้นแอโรบิค
49 วรรณภา วัฒนกูล,2541.ปริมาณไขมันของนักเต้นแอโรบคิ หญิง.รายงานการวิจัยเพ่อื ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑติ สาขาวทิ ยาศาสตร์การออกกาลังกายและการกีฬา ศกึ ษาโดย RCT โดยกาหนดจานวนนกั เต้นแอโรบคิ หญิงจานวน 59 คนโดยแบง่ เป็นสองกลมุ่ ได้แก่ กลมุ่ ที่ออกกาลงั กายและไมไ่ ด้ออกกาลงั กาย และหลงั จากออกกาลงั กายแล้วให้กลมุ่ตวั อยา่ งงดอาหารข้ามคืน 12 ชวั่ โมง แล้วนาไปเจาะเลือดเพื่อหาปริมาณในเลือด ผลการวจิ ยั พบวา่นกั เต้นแอโรบิคหญิงมีระดบั HCL-C สงู กวา่ ,ระดบั LDL-C/HDL-C และTC/HDL-C ต่ากวา่ หญิงที่ไมไ่ ด้ออกกาลงั กายอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติชมานันท์ บัวงาม,2541.ผลของการใช้กระบวนการกลุ่มและการออกกาลังกายต่อการลดความว้าเหว่ของผู้สูงอายุในตาบลทะเลทรัพย์ อาเภอ ปะทวิ จังหวัดชุมพร.รพ.ประทวิ สานักงาน สาธารณะสุขจังหวัดชุมพร เป็นการวิจยั เชงิ สารวจ เพ่ือศกึ ษาความว้าเหว่ของผ้สู งู อายุ กบั คณุ ลกั ษณะส่วนบคุ คล ด้านประชากร ด้านสงั คม และเศรษฐกิจ ด้านสขุ ภาพ และด้านการสญู เสีย โดยใช้การสมุ่ ตวั อย่างแบบแบง่ กล่มุ และการวจิ ยั ก่งึ ทดลอง โดยใช้กระบวนการกล่มุ และการออกกาลงั กายกบั กล่มุ ทดลอง 45 คน เทียบกบั กล่มุ ควบคมุ ที่ทากิจวตั รประจาวนัตามปกติ ผลการวิจยั พบวา่ การใช้กระบวนการกล่มุ (เกมส์ การประชมุ กล่มุ ร่วมกบั การออกกาลงั กาย)สามารถลดความว้าเหว่ของผ้สู งู อายไุ ด้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ธนาพร หยีวิยม,2538.ผลของการดแู ลตวั เองด้วยการออกกาลังกายเพ่อื ลดระดับความดนั โลหติ และระดับคอเลสเตอรอลของหญิงสูงอายุุ .กระทรวงสาธารณสขุ โดยศกึ ษาในผ้หู ญิงสงู อายจุ านวน 30 คนแบง่ เป็ นกลมุ่ ละ 13 คน 2กลมุ่ กลมุ่ หนงึ่ เป็ นกลมุ่ทดลองออกกาลงั กายด้วยการเดนิ ตามโปรแกรม และกลมุ่ ท่ีสองเป็นกลมุ่ ควบคมุ ผลการวิจยั พบวา่ 1)ความดนั โลหิตขณะหวั ใจบีบตวั และคอเลสเตอรอลระหวา่ งกลมุ่ ทดลองและกลมุ่ ควบคมุ หลงั การทดลอง 12 สปั ดาห์มีความแตกตา่ งอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิตทิ ่ีระดบั 0.052) ความดนั โลหิตขณะหวั ใจบีบตวั และคอเลสเตอรอลระหวา่ งกลมุ่ ทดลอง หลงั การทดลอง 8และ12 สปั ดาห์กบั ก่อนการทดลองมีความแตกตา่ งอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิตทิ ี่ระดบั 0.05
50พรรัชนี วีระพงศ์ ,2540.ผลของการออกกาลังกายและการฝึ กกีฬาต่อการเจริญเตบิ โตและการเข้าสู่วัยเจริญพันธ์ุในเดก็ ไทย.มหาวิทยาลัยมหดิ ล เพ่ือศกึ ษาถึงผลของการฝึกกีฬาตอ่ การเจริญเตบิ โตและการเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธ์ุในเดก็ ไทยจงึ ได้ทาการเปรียบเทียบนกั เรียนจากโรงเรียนกีฬา จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี เป็นชาย 257 คน หญิง 123คน ในช่วงอายุ 9-19 ปี และนกั เรียนในกลมุ่ อายเุ ดียวกนั ในเขตอาเภอเมือง จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี เป็นชาย 231 คน หญิง 258 คน ได้ทาการวดั สว่ นสงู ชง่ั นา้ หนกั วดั ความหนาของชนั้ ไขมนั รวมถึงการตรวจการเจริญวยั ทางเพศแบง่ เป็นระยะตา่ งๆ ตาม Tanner โดยกมุ ารแพทย์ และสมั ภาษณ์ถงึ อายุที่มีประจาเดือนและมีการหลง่ั นา้ กามครัง้ แรก นอกจากนีย้ งั เก็บตวั อยา่ งปัสสาวะครัง้ แรกในตอนเช้าตดิ ตอ่ กนั เกิน 5 วนั นามาตรวจหาตวั อสจุ ิเพื่อยืนยนั ถึงอายทุ ่ีมีการหลงั่ นา้ กามครัง้ แรกในเดก็ ชาย เก็บตวั อยา่ งเลือดเพ่ือนาไปวเิ คราะห์ฮอร์โมน DHEAS ในเพศหญิง DHEAS และ totaltestosterone ในเพศชาย โดยวิธี RIA หลงั จากนนั ้ 9 เดือน ได้ทาการวดั และตรวจร่างกายซา้ โดยผ้วู ดัคนเดิม ผลการทดลองการออกกาลงั กายมีผลในการเพิม่ อตั ราการเจริญเตบิ โต แม้วา่ จะเข้าสวู่ ยัเจริญพนั ธ์ุเตม็ ที่ (post puberty) แล้ว นอกจากนีย้ งั มีผลในการยืดเวลาการมีประจาเดือนครัง้ แรกในเพศหญิง และการเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธ์ุ (peripuberty) ของเดก็ ชาย อยา่ งไรก็ตามการออกกาลงักายไมม่ ีผลตอ่ การเข้าสวู่ ยั เจริญพนั ธ์ุเตม็ ที่ (postpuberty) ชัยสิทธ์ิ ภาวิลาสและคณะ,2531.ผลของการฝึ กออกกาลังกายแบบอากาศนิยมต่อเซลล์ในระบบภมู คิ ุ้มกันของร่างกาย.สมาคมกีฬาเวชศาสตร์แห่งประเทศไทย การศกึ ษาถงึ ผลออกกาลงั กาย (Strenuous exercise) ครัง้ เดยี วและการฝึกออกกาลงั กายแบบอากาศนิยม (aerobic exercise training) ตอ่ เซลล์ในระบบภมู ิค้มุ กนั ในนกั ศกึ ษาชาย โดยการวเิ คราะห์ด้วยวธิ ีพิเศษ (Indirect immune for essence technique with monoclonalantibodies) ในการศกึ ษาท่ี 1 มีนกั ศกึ ษาเป็นนกั กีฬาและไมใ่ ชน่ กั กีฬาอยา่ งละ 5 คน หลงั จากออกกาลงั กายที่หนกั เกินไป โดยขี่จกั รยานวดั งาน (bicycle ergometer) ด้วยระดบั ความหนกั ร้อยละ 70 ของอตั ราชีพจรสงู สดุ เป็นเวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ ท่ีมีการฝึ กออกกาลงั กายแบบอากาศนิยมนีส้ มรรถภาพทางกายดขี นึ ้ รวมทงั้ คา่อตั ราสว่ นของเซลล์ที่กระต้นุ ตอ่ เซลล์ท่ียบั ยงั้ เพ่มิ ขนึ ้ ร้อยละ 16.8 จากก่อนการฝึกออกกาลงั กายซง่ึ เป็นผลจากการลดลงของจานวนเซลล์ท่ียบั ยงั้ อยา่ งมีนยั สาคญั พร้อมกบั มีแนวโน้มในการเพ่มิ ขนึ ้ ของจานวนเซลล์ท่ีกระต้นุ แตก่ ารเพิม่ ขนึ ้ นีข้ องความสามารถในการใช้ออกซิเจน สงู สดุ (R =0.07) การเพมิ่ ขนึ ้ ของอตั ราส่วนของเซลล์ท่ีกระต้นุ ตอ่ เซลล์ที่ยบั ยงั้ จะมีผลดใี นการตอบสนองของระบบภมู คิ ้มุ กนั ซงึ่ แสดงว่าการฝึกออกกาลงั กายแบบอากาศนิยมอยา่ งพอเหมาะและสม่าเสมอ
51นา่ จะทาให้สขุ ภาพร่างกายดีขนึ ้ รัตนา กิตสิ ุข,2526.ผลของการฝึ กแอโรบิคดานซ์ท่มี ีต่อความอดทนของระบบไหลเวียนและเปอร์เซนต์ไขมันของร่างกาย. จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ใช้ผ้รู ับการทดลองเป็นเพศหญิง อายุ 30-45 ปี ซง่ึ มิได้ออกกาลงั กายเป็นประจา จานวน30 คนการศกึ ษาสมรรถภาพการใช้ออกซเิ จนในระดบั เกือบสงู สดุ นนั้ ใช้วธิ ีทดสอบล่กู ลของบอลกี และเปอร์เซ็นตไ์ ขมนั ของร่างกายโดยใช้การวดั ไขมนั ใต้ผวิ หนงั ซง่ึ เป็นผลจากการฝึกเต้นแอโรบคิ ดานซ์ฝึกเป็นระยะเวลา 2 เดือน ฝึ กสปั ดาห์ละ 3 ครัง้ ครัง้ ละ 1 ชวั่ โมง โดยแบง่ การฝึกออกเป็น 2 ชว่ งชว่ งละ 10-150นาที พกั ระหวา่ งชว่ งละ 5 นาที แล้วนาผลที่ได้จากการทดสอบสมรรถภาพทางกายทงั้ ก่อนและหลงั การฝึกเต้นแอโรบคิ ดานซ์มาวิเคราะห์ตามวธิ ีสถิติ โดยการหาคา่ เฉลี่ยและสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน แล้วจงึ ทดสอบความแตกตา่ งของคา่ เฉล่ียด้วยคา่ \"ที\" (t-test)ผลปรากฏวา่ 1. คา่ เฉล่ียของสมรรถภาพการใช้ออกซิเจนในระดบั เกือบสงู สดุ ทงั้ ก่อนและหลงั การฝึ กเต้น แอโรบคิ ดานซ์มีความแตกตา่ งกนั ท่ีระดบั ความมีนยั สาคญั .01 2. คา่ เฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์ไขมนั ของร่างกาย ทงั้ ก่อนและหลงั การฝึกเต้นแอโรบคิ ดานซ์มี ความแตกตา่ งกนั ที่ระดบั ความมีนยั สาคญั .01คาถามหลกั การออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ มีผลตอ่ การปรับ พฤติกรรม และภาวะสขุ ภาพอยา่ งไรในทศั นคตขิ องผ้เู ต้น คาถามรอง 1.พฤติกรรมทางสขุ ภาพและภาวะสขุ ภาพใดที่ถกู ปรับเป็ นอนั ดบั แรกจนถงึ สดุ ท้าย 2.มปี ัจจยั ใดหรือไมท่ ี่มผี ลตอ่ การปรับเปลยี่ นพฤตกิ รรมและภาวะสขุ ภาพนอกเหนอื จากการเต้นแอโรบคิ 3 .แรงจงู ใจและสาเหตใุ ดท่ที าให้ประชาชนหนั มาออกกาลงั กายด้วยการเต้นแอโรบคิ 4.บคุ คลรอบข้างของผ้เู ต้นแอโรบคิ มีพฤติกรรมและภาวะสขุ ภาพเช่นไร และมผี ลจาก ผ้เู ต้นหรือไม่อยา่ งไร ผลท่คี าดว่าจะได้รับ
52 1. ได้ทราบถงึ ภาวะสขุ ภาพท่ีเปลี่ยน แปลง ของผ้อู อกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิ 2. ได้ทราบถงึ ลาดบั การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสขุ ภาพหลงั จากออกกาลงั กาย 3.ได้ทราบถึงแรงจงู ใจและเหตผลของประชาชนท่ีหนั มาออกกาลงั กายโดยการเต้นแอโรบคิเพ่ือนาไปใช้ในการสง่ เสริมกิจกรรมการออกกาลงั กายเพื่อเสริมสร้างสขุ ภาพ 4.ได้ทดสอบสมมตฐิ านที่วา่ การที่บคุ คลซง่ึ อยใู่ นโปรแกรมสขุ ภาพ ไมเ่ พียงแต่ เขาผ้นู นั้ จะได้รับผลดี ตอ่ สขุ ภาพเทา่ นนั้ ผ้ทู ่ีอยนู่ อกโปรแกรมก็มีโอกาสท่ีจะได้รับจะได้รับผลดที างสขุ ภาพนนั้ ด้วย เป็นจริงหรือไม่แนวทางการศึกษา นิยามศัพท์ 1.การออกกาลงั กายแบบ แอโรบิค (aerobic excercies ) เป็นการออกกาลงั กายที่ใช้กล้ามเนือ้ มดั ใหญ่ๆ เชน่ แขนขา โดยทาให้หนกั พอและนานพอ และทาตดิ ตอ่ กนั เพ่ือให้ร่างกาย ต้องใช้ออกซเิ จน เพ่ือสร้างพลงั งาน ทาให้หวั ใจและปอดถกู กระต้นุ เป็นเวลานานพอที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็ นประโยชน์ขนึ ้ ในร่างกาย โดยการออกกาลงั กายที่หนกั พอ คือ ออกกาลงั กายให้หนกั ประมาณ 70% ของความสามารถสงู สดุ ของอตั ราการเต้นของหวั ใจของแตล่ ะบคุ คล อตั ราชีพจรที่หนกั พอ= (220-อายุ ) *.0.7 ครัง้ /นาที นานพอ คือ เม่ือออกกาลงั กายโดยชีพจรขนึ ้ ไปถึงระดบั ที่กาหนดแล้วก็ให้ทาติดตอ่ กนัไปเรื่อยๆ โดยคงชีพจรไว้อย่างน้อยท่ีระดบั นี ้เป็นเวลา 15-20 นาที 2. การเต้นแอโรบิค (aerobic exicercies) เป็นการออกกาลงั กายแบบแอโรบคิ ประเภทหนงึ่ ซง่ึ นาเพลงมาปะกอบเข้ากบั ทา่ กายบริหาร ทา่ เต้นรา การพกั ร่างกายแบบโยคะ โดยใช้ที่ทางตา่ งๆ เข้ากบั จงั หวะเพลง โดยแบง่ การออกกาลงั กายเป็น 3 ขนั้ ตอนดงั นี ้ 2.1 ชว่ งอบอนุ่ ร่างกาย (worm up) เป็นการอนุ่ เครื่อง ให้กล้ามเนือ้ เร่ิมทางาน ทาให้กล้ามเนือ้ ยืดหยนุ่ พร้อมท่ีจะออกกาลงั มากกวา่ ปกติ ถ้าหากออกกาลงั โดยไมม่ ีการอบอนุ่ร่างกายกอ่ นอาจทาให้ กล้ามเนือ้ เป็ นอนั ตรายได้ เชน่ กล้ามเนือ้ ฉีก เคล็ด ขดั ยอก เป็ นต้น
53 2.2 ชว่ งแอโรบคิ (aerobic ) เป็ นขนั้ ตอนการบริหารร่างกาย จะชว่ ยให้กล้ามเนือ้ ทกุ สว่ นได้ทา งาน เป็นผลให้ร่างกายแขง็ แรงขนึ ้ 2.3 ชว่ งผอ่ นคลาย(cool down) เป็นการบริหารอยา่ งช้าๆ เพ่ิม ทาให้กล้ามเนือ้ ท่ีทางาน หนกั คอ่ ยๆ ผอ่ นคลาย รวมทงั้ ลดการทางานของหวั ใจ ให้เข้าสภู่ าวะปกติ ในขนั้ นี ้ อาจเป็นการหายใจเข้าออก อยา่ งช้าๆ ทาให้ร่างกายสบาย ผอ่ นคลายที่สดุ 3.พฤตกิ รรมสขุ ภาพ คือ พฤตกิ รรมใดๆ ที่สง่ ผลตอ่ สขุ ภาพทงั้ ในด้านบวกและด้านลบ 4.พฤตกิ รรมเส่ียงตอ่ สขุ ภาพ คอื พฤตกิ รรมใดๆ ท่ีสง่ ผลเสียตอ่ สขุ ภาพ (ในที่นีห้ มายถงึ พฤตกิ รรมการบริโภคอาหาร สบู บหุ รี่ เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ การนอน การมีเพศสาพนั ธ์ ความปลอดภยั ด้านการขบั ข่ีการใช้ยานอนหลบั ยากล่อมประสาท และอ่ืนๆ) 5.ภาวะทางสขุ ภาพ คือ สภาวะทางร่างกาย จิตใจ และสงั คมที่มีปฏิสมั พนั ธ์กนั เช่น ความเจบ็ ป่ วย ซงึ่ ในการวิจยั นีร้ วมถึง ความมน่ั ใจรูปแบบการวจิ ัย การศึกษาเชิงพรรณนาแบบตดั ขวาง โดยการสมั ภาษณ์เชิงลึกกล่มุ ตัวอย่าง ประชาชนที่ออกกาลงั กายโดยการเตน้ แอโรบิค ณ สวนชมน่าน จงั หวดั พิษณุโลกExclusion criteria - ผทู้ ี่มาออกกาลงั กายโดยการเตน้ แอโรบิกนอ้ ยกวา่ 15 นาที -ผมู้ าเตน้ แอโรบิกนอ้ ยกวา่ 3 วนั ใน 1 สัปดาห์ -ผทู้ ี่มาเตน้ แอโรบิกตอ่ เนื่องกนั นอ้ ยกวา่ 3 วนัเคร่ืองมือวิจยั 1. แบบสมั ภาษณ์ 2. เคร่ืองบนั ทกึ เสียง 3. ใบยนิ ยอมเข้าร่วมในการวิจยัวิธีวิเคราะห์ข้อมูล วเิ คราะห์เนือ้ หา (content analysis)
54Bias in research 1.Selection bias Choice of sampling frame 2.Information bias Imprecision of data/recall bias 3.Confound bias other cause that effect improve health behavior ผลการศกึ ษา 1.ทศั นคตขิ องผู้ออกกาลังกายโดยการเต้น แอโรบคิ ต่อการปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมและภาวะทางสุขภาพ1.1.ด้านการบริโภคอาหาร จากการศกึ ษาพบว่าผ้เู ต้น แอโรบคิ จานวน 4 ราย มีการปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรมด้านการบริโภค โดยทงั้ 4 ราย มีพฤตกิ รรมการบริโภคจากดั การกินอาหารเหมือน ๆ กนั แตต่ า่ งวธิ ีการและเหตผุ ล บางคนมีการจากดั อาหารพวกไขมนั คาร์โบไฮเดรต เลกิ กินของทอด และกินจบุ จบิ หนั ไปดื่มนา้ กบั พวกผกั ผลไม้แทน บางคนให้เหตผุ ลวา่ การบริโภคลดลงก็เพราะการออกกาลงั กายทาให้เห็นอยแู่ ล้ว เบื่ออาหารไมอ่ ยากกิน บางคนก็บอกวา่ ใช้เวลาไปกบั การเต้นแอโรบคิ ทาให้มีการกินน้อยลง จงึ กินน้อยลง และบางคนก็ไมท่ านเพราะกลวั จะเรอ…และได้รับความรังเกียจจากคนรอบข้าง เวลามาเต้นแอโรบคิ จงึ ไมก่ ิน ดงั เชน่ การให้คาสมั ภาษณ์ท่ีวา่ “เราจะเร่ิมจากัดแคลอร่ี หลังออกแอโรบิค พวกไขมัน คาร์โบไฮเดรต เราจะไม่ค่อยได้ทาน จะหันไปด่ืมนา้ กับกนิ พวกผัก แต่ก่อนเป็ นคนชอบทานของทอด และกินของจุบจบิ ค่ะ ท่ชี อบมากคือพวกถ่ัวลสิ ง แล้วกพ็ วกขนมกรอบ ๆ พอรู้ว่าเป็ นพวกไขมันกับคาร์โบไฮเดรตกเ็ ลิกไปบ้าง” “ มันจะรู้สกึ ว่ากนิ อะไรก็อร่อย แต่เราจะพยายามควบคุมตัวเองให้กินให้ปกตหิ รือน้อยลง” “จะรู้สกึ ว่ากินน้อยลงเพราะมันเหน่ือยด้วย เหน่ือยแล้วเบ่ือไม่อยาก” “ค่ะ ก็นา้ หนักมันไม่ลดค่ะ ออกกาลังกายแล้วรู้สึกนา้ หนักไม่ลด เราก็จะดูแลเร่ืองอาหารหน่อยหน่ึง ไม่รู้ว่ามากเกนิ ไปหรือเปล่า ทานข้าวมือ้ เดียว ตอนเช้าก็ทานนา้ เต้าหู้กลางวันกท็ านข้าวมือ้ เดียว ตอนเยน็ ทานผลไม้มากๆ
55 แตส่ ว่ นใหญ่ของกลมุ่ ที่ทาการสมั ภาษณ์ จานวน 8 ราย อ้างว่าไมม่ ีการปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมและภาวะสขุ ภาพ เพราะสว่ นใหญ่บอกวา่ ตนเองได้ มีการควบคมุ การบริโภค มาก่อนหน้านีแ้ ล้ว โดยให้เหตผุ ลวา่ จากดั อาหารพวกเนือ้ และสตั ว์ใหญ่เพราะความเช่ือทางศาสนา คือนบัถือเจ้าแมก่ วนอิมจงึ กินเฉพาะผกั และปลามาก่อนหน้านีอ้ ยแู่ ล้ว บางคนกล่าวว่า มีการควบคมุอาหารจากการที่ต้องการลดนา้ หนกั แตห่ ลงั จากลดนา้ หนกั โดยการคมุ อาหารแล้วสามารถลดนา้ หนกั ได้ ระดบั หนงึ่ แตต่ ้องการลดนา้ หนกั เพ่ิมอีก จงึ เพม่ิ การออกกาลงั กายด้วย แตไ่ มไ่ ด้ควบคมุอาหารเพิ่มขนึ ้ คอื ควบคมุ อาหารเหมือนเดมิ บางคนก็บอกวา่ ไมเ่ ปลี่ยนแปลงเพราะนิสยั การกินเดมิ ก็มีการจากดั อาหารโดยธรรมชาตอิ ยแู่ ล้ว คือกินน้อยไมห่ ิวมากตงั้ แตเ่ ดก็ จงึ ตดิ นิสยั มาตงั้ แต่เดก็ บางคนก็กินมากเหมือนเดมิ กินจบุ จิบเหมือนเดมิ แตพ่ อออกกาลงั กายแล้วนา้ หนกั ไมข่ นึ ้ จงึสามารถกินได้ตามความต้องการ โดยนา้ หนกั ไมข่ นึ ้ จงึ ไมเ่ ปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมด้านการกินดงั เชน่ การให้คาสมั ภาษณ์ ท่ีวา่ “ไม่เปล่ียนแปลง พ่ีจะไม่ทานพวกเนือ้ หมูเหด็ เป็ ดไก่นีท้ านม่ัง แต่จริง ๆ แล้วชอบคือพวกผักพวกปลา ชอบมาก อีกอย่างคือ พ่นี ับถอื เจ้าแม่กวนอมิ ด้วย และมันเป็ นสัตว์ใหญ่ด้วย มันทาให้ย่อยยาก เขาบอกว่ากินเนือ้ มาก ๆ มันจะเป็ นพวกมะเร็ง ปกตแิ ล้วพ่ีเป็ นคนแพ้ทเุ รียน กนิ เยอะกนิ ทกุ วัน วันหน่ึงก็ลูก ละ 3 โล 4 โล กินคนเดียวทกุ วัน จนนา้ หนักขนึ้ เป็ น 60 โลเลย ช่วงนีเ้ รามาเต้นก็จะไม่ค่อยมีเวลากนิ ไง กนิ เฉพาะช่วงเวลากลางวัน บางวันกจ็ ะไม่กิน เพราะบางทีมารอมาเรอ มาเต้นแล้วเขาจะได้กล่ินส่วนมากพอเต้นเสร็จกจ็ ะไปกนิ แล้วมันกไ็ ม่ขึน้ พ่ีลองดูแล้วมันก็ไม่ขึน้ ” “กินผักมากอยู่แล้ว กินผลไม้ ไก่ลวกไก่ต้ม พะโล้ 2 จาน แต่ไม่กนิ กนิ 1 จาน” “ผมควบคุมอาหารตงั้ แต่ก่อนเต้นแอโรบิค ตอนแรกหนัก 84 กโิ ลคุมจนเหลือ 73กโิ ล” “หลังเต้นแอโรบคิ กก็ นิ เหมือนเดมิ คือใช้ข้าวกล้อง จะมีเนือ้ ปลา ผักต่าง ๆ และผลไม้” “เหมือนเดมิ ก่อนออกกาลังภายกก็ ินอาหาร ประเภทผักปลา” “บางมือ้ ก็กนิ หนัก แล้วแต่หวิ เหมือนบางทีแล้วแต่อารมณ์ เรา อยากกนิ ก็กินบางทีก็กนิ ไปเร่ือย เป่ื อยค่ะพ่ี” “ไม่เปล่ียนแปลงค่ะ กก็ นิ ข้าวตอนเช้า กลางวัน เยน็ ก็กิน 3 มือ้ เหมือนเดมิ ปกติทานน้อยอยู่แล้ว ทาน 3 มือ้ ไม่เพ่มิ ขนึ้ หรือลดลง” “ก็คุมโดยไปกนิ อาหารพวกท่มี ีกะทแิ ล้วไม่กินไขมันเยอะ พวกมัน ๆ ก็ไม่กนิ แกงกะทนิ ีก้ ไ็ ม่กนิ เลย ปกตไิ ม่ชอบอยู่แล้ว ก็กินอาหารพวกปลา พวกหมูพวกไก่ พวกเนือ้ ไม่ค่อยกนิ ” “คุมอาหารตัง้ แต่ก่อนเต้นแอโรบิคแล้วแต่ไขมันในเลือดก็ยงั สูงอยู่ หมอก็เลยแนะนาให้ออกกาลังกาย ช่วงนัน้ จะไม่ค่อยได้ออกกาลังกาย
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: