Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานห้องสมุดปี62

รายงานห้องสมุดปี62

Published by ซอ'แซน ฉันท์ชนก, 2022-01-13 08:51:01

Description: รายงานห้องสมุดปี62

Search

Read the Text Version

บันทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรยี นบ้านปวงคา(ประชาอุทิศ) สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาลาพนู เขต ๒ ท่ี พเิ ศษ/๒๕๖2 วนั ที่ 20 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖2 เรือ่ ง รายงานผลการดาเนนิ การโครงการส่งเสริมนิสยั รักการอ่านและห้องสมุดมชี ีวิต ประจาปกการศึกษา ๒๕๖2 เรียน ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นบ้ำนปวงคำ(ประชำอุทิศ) ตำมท่ีขำ้ พเจ้ำนำงสำวฉนั ทช์ นก สมฝัน้ พร้อมดว้ ย นำงอรุณี ต๊ะนอ้ ย และนำงศนั สนั ีย์ หลำ้ หนกั ได้รบั มอบหมำยให้จดั กิจกรรมตำมโครงกำรส่งเสริมนิสยั รักกำรอ่ำนและหอ้ งสมดุ มีชวี ิต ประจำปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ ใหก้ บั นกั เรียนชั้นอนุบำลปที ี่ ๒ –ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๓ ณ โรงเรียนบ้ำนปวงคำ(ประชำอุทศิ ) สำนักงำนเขตพ้ืนท่ี กำรศกึ ษำประถมศกึ ษำลำพนู เขต ๒ จึงขอสรุปรำยงำนกำรจัดกจิ กรรมตำมโครงกำรส่งเสรมิ นิสยั รักกำรอ่ำนและ หอ้ งสมุดมีชีวติ ประจำปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ ดังน้ี ๑. กจิ กรรมทจ่ี ดั ขน้ึ เพือ่ สง่ เสริมนิสัยรักกำรอ่ำนและห้องสมุดมีชีวิต ไดแ้ ก่ ๑. บันทกึ การอา่ นหนงั สือเล่มโปรด ๒. กิจกรรมแนะนาหนงั สือประจาสัปดาห์ ๓. กจิ กรรมจัดปา้ ยความร้สู ูโ่ ลกกว้าง ๔. กจิ กรรมการแขง่ ขนั ตอบคาถามสารานกุ รม ๕. กิจกรรมหนังสือสื่อความรู้ ๖. กจิ กรรมวันสาคญั ๒.ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรม ได้แก่ ๒.๑. คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนบ้านปวงคา(ประชาอุทศิ ) จานวน ๒๐ คน ๒.๒. นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นปวงคา(ประชาอุทิศ) ต้ังแต่ช้นั อนุบำลปีที่ ๒ –ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ ๓ จำนวน ๑๘๒ คน กำรจัดกิจกรรมตำมโครงกำรสง่ เสริมนสิ ัยรกั กำรอ่ำนและห้องสมุดมีชวี ิต ประจำปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ เป็น กิจกรรมที่จัดขน้ึ เพ่อื ปลูกฝังใหน้ กั เรียนมีนิสัยรกั กำรอำ่ น เพ่อื เกดิ พัฒนำกำรทำงด้ำนสติปัญญำ ควำมรู้ ควำมสำมำรถ พฤติกรรมนิยมต่ำงๆ รวมทั้งเปน็ กำรพัฒนำกำรเปล่ียนแปลงชวี ิตไปสูส่ ิ่งที่ดีและนักเรยี นได้รว่ มกจิ กรรมอย่ำงมีควำมสขุ จงึ เรียนมำเพ่ือโปรดทรำบ ลงชือ่ ……………………………………………………… (นำงสำวฉนั ทช์ นก สมฝนั้ ) ควำมคิดเหน็ ผู้บรหิ ำร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอื่ ………………………………………………………………… (นำยชนะชัย เหลืองออ่ น) ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียนบ้ำนปวงคำ(ประชำอุทิศ)

ก คำนำ รายงานผลการดาเนินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและห้องสมุด ปี 2562 ได้รับการจัดสรร งบประมาณจากสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาลาพูนเขต 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและ ขยายผล การพัฒนากิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและห้องสมุดโรงเรียนตามโครงการ “ส่งเสริมนิสัยรักการ อ่าน ปี2562” โดยพัฒนากิจกรรมสง่ เสริมนสิ ัยรักการอ่านและห้องสมุดโรงเรยี นให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ สพฐ.กาหนด และเพ่ือขยายผลเครือข่ายและเป็นพ่ีเลี้ยงให้แก่โรงเรียนอื่นท้ังภายในและภายนอกเครือข่าย สถานศึกษาของตนเอง ทางโรงเรียนบ้านปวงคา(ประชาอุทิศ) ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการจัดกิจกรรมตาม วัตถุประสงค์ทีก่ ล่าวไปขา้ งต้น โดยมกี ารจดั กจิ กรรมอย่างกวา้ งขวางและนาผลการประเมนิ มาใชเ้ ป็นแนวทางใน การปรับปรุงพัฒนารปู แบบและวธิ ีการการจัดโครงการใหม้ ีประสิทธภิ าพมากยิง่ ขึ้น ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องทุกภาคส่วนที่ได้อานวยประโยชน์แก่นักเรียนและเยาวาชนมีผลสาเร็จ ตามโครงการทุกประการ คณะผ้จู ดั ทา โรงเรยี นบา้ นปวงคา(ประชาอุทิศ)

สำรบญั ข เร่ือง หนำ้ คำนำ ก สำรบัญ ข บทท่ี 1 บทนำ 1 -ควำมเปน็ มำและควำมสำคัญ 1 -วตั ถุประสงค์ 2 -เปำ้ หมำย 2 -กำรดำเนนิ กจิ กรรม 3 บทท่ี 2 วิธีดำเนินงำน 4 บทที่ 3 ผลกำรดำเนินงำน 22 บทที่ 4 สรุป อภปิ รำยผล และข้อเสนอแนะ 28 บรรณำนุกรม ค

ค บรรณำนุกรม ชลยั พร เหมรัชตะ. กำรคน้ ควำ้ และกำรเขยี นรำยงำน. พิมพ์ครง้ั ที่ 8. กรงุ เทพฯ : โครงการเผยแพร่ผลงาน วิชาการ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย, 2550. ธาดาศักดิ์ วชิรปรีชาพงษ์. กำรเขียนรำยงำนและกำรใช้ห้องสมดุ . กรงุ เทพฯ : บิสซิเนสเวิลด,์ 2548. ลมุล รตั ตากร. กำรใช้ห้องสมดุ . พิมพ์ครง้ั ท่ี 9. กรงุ เทพฯ : สวุ ีรยิ าสาสน์ , 2545. วลั ลภ สวัสดวิ ลั ลภและคนอ่ืนๆ. สำรนเิ ทศเพอ่ื กำรศกึ ษำคน้ ควำ้ . พมิ พ์ครง้ั ที่ 3. นครปฐม : ภาควิชาบรรณารกั ษศาสตร์ สถาบนั ราชภฏั นครปฐม, 2541. วรี ะวรรณ วรรณโท. เอกสำรประกอบกำรเรยี นกำรสอนวิชำงำนห้องสมุด 2 (ช 0246). กรุงเทพฯ : บรรณกิจ1991, 2545. สุกัญญา กุลนติ ิ. หอ้ งสมุดและสำรนิเทศเพ่อื กำรศึกษำค้นควำ้ . กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2549. หน่วยศกึ ษานิเทศก์ กรมสามัญศกึ ษา. กำรพัฒนำและกำรใช้แหล่งเรียนรูใ้ นโรงเรียน และท้องถ่ินเพ่อื จัดกระบวนกำรเรยี นรู้. กรุงเทพฯ : หนว่ ยศึกษานเิ ทศก์ กรมสามญั ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, 2544.

ง คณะผ้จู ัดทำ 1. นำงสำวฉนั ท์ชนก สมฝนั้ ตำแหนง่ ครู ครูโรงเรียนบ้ำนปวงคำ(ประชำ 2. นำงอรุณี ต๊ะน้อย ตำแหน่ง ครชู ำนำญกำร ครูโรงเรียนบ้ำนปวงคำ(ประชำอทุ ศิ ) 3. นำงศันสนีย์ หล้ำหนกั ตำแหน่ง ครูชำนำญกำรพเิ ศษ ครูโรงเรยี นบำ้ นปวงคำ(ประชำอทุ ศิ )

๑ รายงานผลการดาเนินงาน โครงการส่งเสรมิ นสิ ัยรกั การอา่ น และห้องสมดุ มชี ีวิต ประจาปีการศกึ ษา ๒๕๖2 สว่ นที่ ๑ ความเปน็ มาและความสาคัญ การอ่านจัดเป็นพ้ืนฐานที่สาคัญของการเรียนรู้และการพัฒนาสติปัญญาของคนในสังคมไทย การอ่านทา ให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมและค่านิยมต่าง ๆ รวมท้ังช่วยในการ เปล่ียนแปลงการดาเนินชีวิตโดยพัฒนาไปสู่ส่ิงท่ีดีที่สุดของชีวิต การอ่านจึงมีความสาคัญต่อชีวิตมนุษย์อย่างย่ิง ๒ ประการ คือ ประการแรกสาคัญต่อชีวิตประจาวัน กล่าวคือ การอ่านเป็นการแสวงหาความรู้เพื่อนามาใช้ในการ ดารงชีวิตประจาวนั ประการที่สองมีความสาคญั ต่อการเรียน เพราะการอา่ นเป็นหัวใจของการจัดกิจกรรมทง้ั หลาย ในการเรียนการสอน และมีความ สาคัญยิ่งต่อความสาเร็จ อันส่งผลต่อการเรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยเฉพาะในระดับประถมศึกษา หากเร่มิ ต้นดรี ากฐานการอ่านของเดก็ ก็จะดีด้วย การสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็กและเยาวชนเป็นเร่ืองสาคัญ เพราะการอ่านเป็นทักษะที่ จาเป็น สาหรับการศึกษาหาความรู้ควบคู่กับทักษะอ่ืน การอ่านเป็นพ้ืนฐานท่ีสาคัญของการเรียนรู้และการพัฒนา สติปัญญาของคนในสังคม การอ่านทาให้เกิดการพัฒนาด้านสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมและ ค่านิยมต่าง ๆ รวมท้ังช่วยในการเปลี่ยนแปลงการดาเนินชีวิตพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีท่ีสุดของชีวิต การอ่านจึงมี ความสาคญั ตอ่ เด็กและเยาวชนเป็นอยา่ งยง่ิ ปจั จุบนั การอ่านหนังสอื ของคนไทยเปน็ กจิ กรรมทไ่ี ม่แพรห่ ลาย การ อ่านหนังสือท่ีดีและมีสาระยิ่งน้อยลงไปสาเหตุมีอยู่หลายประการ นับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือท่ีดีและตรงกับ ความสนใจ การขาดแรงจูงใจและแรงกระตุ้นให้เห็นความสาคัญของการอ่าน ตลอดจนนิสัยรักการอ่านทั้งในและ นอกสถานท่ี ดังน้ัน การอ่านหนังสือจนเกิดเป็นนิสัย จาเป็นต้องมีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความสนใจ เพ่ือให้เด็กและเยาวชนมีความสามารถและมีทักษะในการคิดวิเคราะห์ ทักษะการใช้ภาษาทั้งภาษาไทยและ ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างย่ิง การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน เป็นส่วนสาคัญที่จะช่วย ขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนการสอนไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้นและทาให้การดาเนินการตาม เจตนารมณ์ของกระทรวงศึกษาธิการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ดาเนินงานโครงการส่งเสริมนิสัยรักการ อ่านมาโดยตลอดอยา่ งต่อเนือ่ งจนถงึ ปจั จุบนั โรงเรียนบ้านปวงคา(ประชาอุทิศ)จึงเห็นความสาคัญและตระหนักถึงความสาคัญในการปลูกฝังนิสัยรัก การอา่ นและการเรียนรู้ จึงได้จัดกจิ กรรมส่งเสริมนิสัยรักการอา่ นและการเรยี นรู้ บรรจไุ ว้ในแผนปฏิบัติการประจาปี โดยมีเปา้ หมายเพอ่ื สง่ เสรมิ นิสยั รักการอา่ นให้กบั นักเรียนทุกระดบั ชนั้ และมีครูเขา้ ร่วมกิจกรรมของโครงการทุกคน

๒ วตั ถุประสงค์ ๑. เพือ่ พฒั นาผู้เรยี นเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีนสิ ัยรักการอา่ น รกั การคน้ ควา้ เกดิ การใฝร่ ู้ และนาไปสู่ การปฏบิ ัติในชวี ิตประจาวนั ๒. เพอื่ พัฒนาผเู้ รียนใหม้ ีทกั ษะกระบวนการแสวงหาความรู้ รกั การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยา่ งต่อเนอื่ ง ๓. เพ่อื ส่งเสริมให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ ๔. เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักเลือกอ่านหนังสือท่ีดีมีประโยชน์อย่างหลากหลาย นาไปพัฒนาทักษะการ เขยี นบันทกึ ความร้จู ากเร่อื งที่อ่าน ตามความคิดของนกั เรียน ๕. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างต่อเนอื่ ง เป้าหมาย ผลผลิต ๑. จดั กจิ กรรมส่งเสริมนิสยั รักการอา่ นตลอดปกี ารศึกษา ๒. นักเรยี นมนี สิ ัยใฝ่รใู้ ฝเ่ รยี นรกั การอา่ นและสามารถใช้ห้องสมดุ แหล่งเรียนรูแ้ ละสื่อตา่ งๆรอบตัว ๓. นกั เรยี นสรุปความคิดจากเรือ่ งที่อ่านฟังดแู ละส่อื สารโดยการพูดหรือเขียนตามความคดิ ของตนเอง ผลลัพธ์ ๑. นกั เรยี นมนี สิ ยั รักการอ่านใฝ่รู้ใฝเ่ รยี นร้อยละ ๘๐ ๒. นักเรยี นมีทักษะในการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองจากห้องสมุดแหล่งเรยี นรู้และสอ่ื ต่างๆรอบตัวผ่านเกณฑ์การ อ่านร้อยละ ๘๐ ๓. นกั เรยี นสรุปความคิดจากเรือ่ งที่อ่านฟังดูและสื่อสารโดยการพดู หรือเขยี นตามความคิดของตนเองร้อยละ ๘๐

๓ การดาเนินการ/กจิ กรรม/ระยะเวลาและหนว่ ยงานรบั ผิดชอบ ตารางท่ี ๑ ดาเนินกจิ กรรมตามปฏิทินการปฏบิ ตั ิงานดังน้ี ที่ รายละเอยี ดของกิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ 1. บนั ทึกการอ่านหนงั สือเล่มโปรด ตลอดปงี บประมาณ ๒๕๖๑ ครูผทู้ าหนา้ ท่ี บรรณารกั ษ์ 2. กิจกรรมแนะนาหนงั สือประจาสัปดาห์ เดอื นละครงั้ ห้องสมุด รว่ มกบั 3. กจิ กรรมจัดปา้ ยความรู้สู่โลกกวา้ ง เดือนละครั้ง บุคลากร 4. กจิ กรรมการแขง่ ขันตอบคาถามสารานกุ รม เทอมละคร้ัง ทางการศึกษา 5. กิจกรรมหนังสือสื่อความรู้ เดอื นละครั้ง ทมี่ สี ว่ น 6. กิจกรรมวันสาคัญ ข้ึนอยกู่ ับวันสาคัญ เกีย่ วขอ้ ง

๔ ส่วนท่ี ๒ การดาเนนิ งาน กิจกรรม วธิ ีดาเนินการ แบบรายงาน การจัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ นสิ ยั รักการอา่ น โรงเรยี นบา้ นปวงคา (ประชาอทุ ศิ ) อาเภอลี้ สพป.ลาพนู เขต ๒ ๑. ชอื่ กจิ กรรม แนะนาหนังสือประจาสปั ดาห์ ๒. ชอ่ื ผ้รู บั ผิดชอบ นางสาวฉันท์ชนก สมฝั้น ๓. ตาแหน่ง ผู้บริหาร  ครบู รรณารักษ์/ครูผู้ทาหนา้ ทบี่ รรณารักษ์ คณะ ครูทกุ ท่าน ๔. ระยะเวลาดาเนนิ งาน ตลอดปีการศกึ ษา ๕. วัตถุประสงค์ ๕.๑ เพือ่ ใหน้ ักเรียนฝกึ การนาเสนอใหค้ วามร้หู รอื ข้อมลู กับผู้อนื่ และกล้าแสดงออก ๕.๒ เพือ่ ให้นกั เรยี นนาหนังสือทีน่ ักเรียนชนื่ ชอบแนะนาใหก้ ับเพ่ือนนักเรียนได้ทราบ ๕.๓ เพื่อให้นกั เรียนมีทักษะการอ่านและสง่ เสรมิ ความรูใ้ ห้แก่ผู้สนใจ ๖. กลมุ่ เป้าหมาย  นักเรียนจานวน ๑๘๒ คน  เป็นนกั เรียนในโรงเรยี น จานวน ๑๘๒ คน เปน็ นักเรียนจากโรงเรยี นอ่ืนจานวน ..... คน คณะครูและบุคลากรในโรงเรยี น จานวน ..... คน ชมุ ชนจานวน ...... คน ๗. สอ่ื /วสั ดอุ ุปกรณท์ ีใ่ ช้ ๗.๑ หนงั สือในห้องสมดุ ๗.๒ เครือ่ งเสียง ๘. ข้ันตอนการจดั กจิ กรรม ๘.๑ ครูบรรณารักษ์ดาเนินการจัดเจ้าหน้าที่ห้องสมดุ (ยุวบรรณารักษ์) เพอื่ แนะนาหนังสือใหม่ ประจาสัปดาห์

๕ ๘.๒ เจา้ หน้าท่ีหอ้ งสมุด (ยุวบรรณารกั ษ)์ จะทาการแนะนาหนังสอื ใหมป่ ระจาสปั ดาห์ เช้าวนั องั คารของแตล่ ะสปั ดาห์ ๙. การประเมนิ ผล ๙.๑ ความสนใจของนักเรยี นในการรับฟัง ๙.๒ จานวนนักเรียนทเ่ี ขา้ ใชห้ ้องสมุดเพ่อื อา่ นและทากจิ กรรมของหอ้ งสมุดในแต่ละสัปดาห์ ๑๐. สรปุ ผลทเ่ี กดิ ขึ้นกับนักเรียน (ให้ตอบผลเชงิ คณุ ภาพทสี่ ่งผลต่อผลสมั ฤทธิ์ของนกั เรยี นใน ประเดน็ ตา่ งๆพอสังเขป) ๑๐.๑ นกั เรียนสนใจในการอา่ นหนังสือ ๑๐.๒ นกั เรียนกล้าแสดงออก กล้านาเสนอ ๑๐.๓ นกั เรียนเข้าใจบริการหอ้ งสมุดมากข้ึน ๑๑. การบรู ณาการความรกู้ บั กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๑๑.๑ภาษาไทย : นาเสนอหนงั สือทมี่ ีประโยชน์ โดยใชถ้ ้อยคาและภาษาท่ีถูกอกั ขรวธิ ี ๑๒. จดุ เดน่ ของกจิ กรรม ๑๒.๑ นกั เรียนเข้าใชบ้ ริการหอ้ งสมุดมากขึ้นและใชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ ๑๒.๒ นกั เรียนกล้าแสดงออก กลา้ นาเสนอ ๑๒.๓ นกั เรียนสนใจในการอ่านหนงั สือ ๑๓. ขอ้ เสนอแนะ ๑๓.๑ ในการแนะนาหนังสอื ใหม่ นนั้ ควรใหน้ กั เรียนอธบิ ายพอสังเขปเก่ยี วกบั เนื้อหาภายใน หนังสอื เลม่ นน้ั ๑๓.๒ กจิ กรรมสามารถทาให้นักเรยี นมคี วามพยายามศึกษาและหาหนังสอื เลม่ ใหม่เพมิ่ มาก ยิง่ ขึน้ ๑๔. หลักฐานรอ่ งรอย (เชน่ ภาพถ่าย ผลงานนกั เรียน) ๑๔.๑ ภาพถา่ ยกิจกรรมและผลงานนกั เรียน

๖ ประมวลภาพกจิ กรรมการแนะนาหนังสือประจาสัปดาห์

๗ แบบรายงาน การจดั กิจกรรมสง่ เสริมนิสัยรักการอา่ น โรงเรยี นบา้ นปวงคา (ประชาอุทิศ) อาเภอลี้ สพป.ลาพนู เขต ๒ ๑. ช่ือกจิ กรรม การจัดปา้ ยความรู้ส่โู ลกกวา้ ง ๒. ช่ือผูร้ บั ผดิ ชอบ นางศันสนยี ์ หล้าหนกั ๓. ตาแหน่ง ผู้บรหิ าร ครบู รรณารกั ษ์/ครผู ู้ทาหน้าท่ีบรรณารักษ์ คณะครูทกุ ท่าน ๔. ระยะเวลาดาเนินงาน ตลอดปีการศึกษา ๕. วตั ถปุ ระสงค์ ๕.๑ เพื่อฝกึ ใหน้ กั เรียนเกิดความคิดสร้างสรรคใ์ นการวางแผนและการออกแบบปา้ ยนิเทศ ๕.๒ เพ่อื ให้นกั เรียนมีส่วนรว่ มในการทากิจกรรมท่ีเกิดประโยชนก์ ับผูอ้ ืน่ ๕.๓ เพือ่ ฝึกทกั ษะในการอ่านและการสง่ เสรมิ ความรู้แกน่ กั เรียนและผสู้ นใจ ๖. กลุ่มเป้าหมาย  นักเรียนจานวน ๑๘๒ คน  เปน็ นกั เรียนในโรงเรียน จานวน ๑๘๒ คน เปน็ นักเรยี นจากโรงเรยี นอ่นื จานวน ..... คน คณะครูและบุคลากรในโรงเรียน จานวน ..... คน ชุมชนจานวน ...... คน ๗. ส่ือ/วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ๗.๑ กระดาษสี ๗.๒ อปุ กรณ์ตกแต่ง เชน่ กรรไกร มีด กาว ปากกาเคมี ๗.๓ ปา้ ยนเิ ทศ ๘. ขนั้ ตอนการจดั กิจกรรม ๘.๑ ประชาสัมพนั ธ์ใหแ้ ก่ครปู ระจาชั้นในการเข้าร่วมประกวด ระดับช้นั อนบุ าลถงึ ช้ัน ประถมศกึ ษา ๘.๒ จัดประกวดป้ายนเิ ทศในชนั้ เรยี น ภาคเรียนละ ๑ ครัง้ ๘.๓ แต่งต้งั คณะกรรมการตัดสินการประกวด และต้ังเกณฑก์ ารประกวด ๘.๔ ตัดสนิ และมอมเกียรตบิ ตั รผู้ชนะการประกวดตามชว่ งชนั้ ๘.๕ กจิ กรรมเสรมิ อาจเป็นการตอบปญั หาชิงรางวลั การวาดภาพระบายสี การวิเคราะห์เรอื่ ง จากปา้ ยนิเทศ ๙. การประเมนิ ผล ๙.๑ ผลการประกวดจากคณะกรรมการ

๘ ๑๐. สรปุ ผลทเี่ กิดข้นึ กับนกั เรยี น (ให้ตอบผลเชิงคุณภาพที่ส่งผลตอ่ ผลสมั ฤทธข์ิ องนักเรียนใน ประเดน็ ตา่ งๆพอสังเขป) ๑๐.๑ นกั เรยี นรู้จักการวางแผนการทางานและแบ่งหนา้ ท่ีรับผิดชอบ ๑๐.๒ นกั เรียนมีทกั ษะในการออกรูปแบบการจดั ปา้ ยนเิ ทศ ๑๐.๓ นักเรยี นให้ความสนใจเนือ้ หาของป้ายนิเทศและเพ่มิ ทกั ษะการอ่าน ๑๐.๔ นักเรยี นสามารถนาเร่ืองจากป้ายนเิ ทศมาเล่าสู่กันฟัง ๑๑. การบรู ณาการความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้ ๑๑.๑ภาษาไทย : การออกแบบและรูปแบบการนาเสนอข้อมลู ในกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ๑๑.๒ คณติ ศาสตร์ : การออกแบบและรูปแบบการนาเสนอขอ้ มลู ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ ๑๑.๓ วิทยาศาสตร์: การออกแบบและรูปแบบการนาเสนอข้อมูลในกลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ๑๑.๔ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม: การออกแบบและรูปแบบการนาเสนอข้อมลู ใน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๑๑.๕ ศิลปะ: การออกแบบและรปู แบบการนาเสนอข้อมลู ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ศิลปะ ๑๑.๖ สุขศึกษาและพลศึกษา: การออกแบบและรูปแบบการนาเสนอข้อมลู ในกลมุ่ สาระการ เรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ๑๑.๗ การงานพน้ื ฐานและเทคโนโลยี: การออกแบบและรูปแบบการนาเสนอขอ้ มลู ในกล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานพ้ืนฐานและเทคโนโลยี ๑๑.๘ ภาษาตา่ งประเทศ : การออกแบบและรปู แบบการนาเสนอข้อมูลในกลุ่มสาระการ เรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ๑๒. จดุ เดน่ ของกจิ กรรม ๑๒.๑นกั เรียนรจู้ ักการวางแผนการทางานและแบ่งหน้าทร่ี ับผดิ ชอบ ๑๒.๒ นกั เรยี นมีทักษะในการออกรปู แบบการจดั ป้ายนิเทศ ๑๒.๓ นักเรยี นรู้จักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ละเพิ่มทักษะการอ่าน ๑๒.๔ สามารถบูรณาการได้ทกุ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ๑๓. ข้อเสนอแนะ ๑๓.๑ การจัดปา้ ยนิเทศทาใหน้ ักเรียนมีความรู้ สาระเพ่ิมเติมมากยง่ิ ขึ้น ๑๔. หลักฐานรอ่ งรอย (เชน่ ภาพถ่าย ผลงานนกั เรยี น) ๑๔.๑ ภาพถ่ายกิจกรรมและผลงานนกั เรียน

๙ ประมวลภาพกจิ กรรม การจดั ป้ายความรู้สู่โลกกว้าง

๑๐ แบบรายงาน การจดั กิจกรรมส่งเสรมิ นิสัยรักการอ่าน โรงเรยี นบา้ นปวงคา (ประชาอทุ ศิ ) อาเภอลี้ สพป.ลาพนู เขต ๒ ๑. ชอื่ กิจกรรม มุมหนังสือสื่อความรู้ ๒. ช่อื ผู้รับผดิ ชอบ นางศันสนีย์ หล้าหนัก ๓. ตาแหนง่ ผู้บริหาร ครบู รรณารักษ์/ครผู ทู้ าหน้าท่ีบรรณารกั ษ์ คณะครู ทกุ ทา่ น ๔. ระยะเวลาดาเนินงาน ตลอดปกี ารศกึ ษา ๕. วัตถปุ ระสงค์ ๕.๑ เพ่ือฝึกใหน้ กั เรียนเกิดความคดิ สรา้ งสรรค์ในการออกแบบและตกแตง่ มมุ อา่ นหนังสอื ใน ช้นั เรยี น ๕.๒ เพ่อื ใหน้ ักเรียนมีส่วนรว่ มในการทากจิ กรรมท่ีเกิดประโยชนก์ ับตนเองและผู้อนื่ ๕.๓ เพื่อเปน็ การฝึกทกั ษะในการอ่านและการส่งเสริมนิสยั รกั การอ่าน ๖. กลมุ่ เปา้ หมาย  นกั เรยี นจานวน ๑๘๒ คน  เปน็ นักเรยี นในโรงเรียน จานวน ๑๘๒ คน เป็นนกั เรียนจากโรงเรยี นอน่ื จานวน ..... คน คณะครูและบคุ ลากรในโรงเรยี น จานวน ..... คน ชุมชนจานวน ...... คน ๗. ส่ือ/วัสดุอุปกรณท์ ่ีใช้ ๗.๑ หนงั สือ ๗.๒ อปุ กรณ์ตกแตง่ เชน่ สี กรรไกร มีด ปากกาเคมี ๗.๓ ชัน้ หนงั สอื ๘. ขัน้ ตอนการจดั กจิ กรรม ๘.๑ ประชาสัมพนั ธใ์ หแ้ ก่ครปู ระจาชน้ั ในการเขา้ ประกวด ระดับช้ันอนบุ าลถงึ ชน้ั มัธยมศกึ ษา ๘.๒ จัดประกวดมมุ อ่านหนังสือ สื่อความรู้ เทอมละ ๒ คร้งั ๘.๓ แตง่ ต้งั คณะกรรมการตัดสินการประกวดและตงั้ เกณฑก์ ารประกวด ๘.๔ ตดั สนิ และมอบรางวัล ๙. การประเมนิ ผล ๙.๑ ผลการประกวดจากคณะกรรมการ

๑๑ ๑๐. สรปุ ผลทเ่ี กิดขึ้นกบั นกั เรยี น (ให้ตอบผลเชิงคณุ ภาพท่ีสง่ ผลตอ่ ผลสัมฤทธ์ิของนักเรียนใน ประเด็นต่างๆพอสังเขป) ๑๐.๑ นกั เรียนรู้จกั การวางแผนการทางาน และแบง่ หนา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ ๑๐.๒ นกั เรียนมีส่วนร่วมและเกิดทักษะในการตกแต่งชัน้ เรียนของตนเอง ๑๐.๓ นกั เรยี นมแี หลง่ เรียนรใู้ นช้ันเรยี น ๑๑. การบรู ณาการความรูก้ ับกลุม่ สาระการเรยี นรู้ ๑๑.๑ศลิ ปะ: การออกแบบและตกแต่งมุมอา่ นหนังสอื ในชนั้ เรียน ๑๑.๒ การงานพื้นฐานและเทคโนโลยี: การมีส่วนร่วมในการตกแต่งมุมอา่ นหนังสอื ในช้นั เรียน ๑๒. จุดเด่นของกจิ กรรม ๑๒.๑ นักเรยี นรู้จักการวางแผนการทางานและแบ่งหนา้ ท่รี บั ผิดชอบ ๑๒.๒ นักเรียนมีสว่ นรว่ มและเกดิ ทกั ษะในการตกแต่งช้นั เรียนของตนเอง ๑๒.๓ นกั เรียนรู้จกั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ละเพ่ิมทกั ษะการอ่าน ๑๓. ขอ้ เสนอแนะ ๑๓.๑ ควรเพิ่มกิจกรรมที่เกิดขนึ้ ในชัน้ เรียนหลังจากมีการจดั มมุ อา่ นหนงั สอื ในช้นั เรียน ๑๔. หลักฐานร่องรอย (เช่นภาพถา่ ย ผลงานนักเรียน) ๑๔.๑ ภาพถา่ ยกิจกรรมและผลงานนักเรียน

๑๒ ประมวลภาพกจิ กรรม มุมหนังสือสื่อความรู้

๑๓ แบบรายงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอา่ น โรงเรยี นบ้านปวงคา (ประชาอทุ ศิ ) อาเภอลี้ สพป.ลาพูน เขต ๒ ๑. ชือ่ กิจกรรม กิจกรรมการแขง่ ขนั ตอบคาถามสารานุกรม ๒. ชอ่ื ผรู้ ับผดิ ชอบ นางสาวฉนั ท์ชนก สมฝ้นั ๓. ตาแหนง่ ผบู้ รหิ าร  ครูบรรณารักษ์/ครูผู้ทาหนา้ ทบี่ รรณารกั ษ์ คณะครู ทุกทา่ น ๔. ระยะเวลาดาเนินงาน เทอมละหน่ึงครง้ั ๕. วตั ถปุ ระสงค์ ๕.๑ เพื่อฝึกใหน้ ักเรียนเกิดสนุกสนานในการเข้ารว่ มกิจกรรม ๕.๒ เพือ่ ให้นักเรียนมสี ่วนรว่ มในการทากิจกรรมท่ีเกดิ ประโยชนก์ บั ตนเองและผูอ้ ืน่ ๕.๓ เพื่อเป็นการฝกึ ทกั ษะในการอ่านและการสง่ เสรมิ นสิ ยั รกั การอ่าน ๖. กลมุ่ เป้าหมาย  นักเรียนจานวน ๑๘๒ คน  เปน็ นักเรยี นในโรงเรยี น จานวน ๑๘๒ คน เปน็ นกั เรียนจากโรงเรียนอนื่ จานวน ..... คน คณะครูและบคุ ลากรในโรงเรียน จานวน ..... คน ชุมชนจานวน ...... คน ๗. ส่อื /วสั ดุอปุ กรณ์ท่ีใช้ ๗.๑ หนงั สือสารานุกรมฉบับเยาวชน ๗.๒ ปากกาลบคาผดิ ปากกาน้าเงนิ ๗.๓ หนงั สอื สารานุกรมไทย ฉบับธรรมิกราชา ๗.๔ หนังสือสารานกุ รมไทย เล่มที่ ๔๑ ๘. ขน้ั ตอนการจดั กจิ กรรม ๘.๑ ประชาสัมพนั ธ์ใหแ้ ก่ครูประจาช้นั ในระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ และชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๑-๓ ใหค้ ดั เลอื กนักเรียนเขา้ รว่ มการแขง่ ขนั ตอบคาถามสารานกุ รมระดบั จงั หวัด ๘.๒ ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบสารานกุ รมเพื่อคัดเป็นตวั แทนของโรงเรยี นเข้าร่วมแขง่ ขนั ๘.๓ นานักเรียนเขา้ รว่ มการแข่งขนั ระดบั จังหวัด ณ โรงเรยี นศรีย้อย สานกั งานเขตพ้ืนที่ การศึกษาประถมศกึ ษาลาพนู เขต ๑ ของสโมสรไลออน ๙. การประเมินผล ๙.๑ ผลการแข่งขันจากคณะกรรมการระดบั จงั หวดั

๑๔ ๑๐. สรุปผลทเี่ กิดขึ้นกับนักเรยี น (ใหต้ อบผลเชิงคณุ ภาพท่สี ่งผลตอ่ ผลสมั ฤทธ์ขิ องนักเรียนใน ประเด็นตา่ งๆพอสังเขป) ๑๐.๑ นักเรียนรจู้ กั การวางแผนการทางาน และแบ่งหน้าทรี่ ับผดิ ชอบ ๑๐.๒ นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมและเกดิ ทักษะในการคดิ วิเคราะห์และสร้างองค์ความร้รู อบรู้ ๑๐.๓ นักเรียนเกดิ ความสนใจในการอ่านหนงั สอื สารานุกรมมากยง่ิ ขน้ึ ๑๑. การบรู ณาการความร้กู ับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๑๑.๑ ภาษาไทย : การเขยี นสรุปเนื้อหาจากการอา่ น ๑๑.๒ การงานพืน้ ฐานและเทคโนโลยี: การค้นหาข้อมูลในระบบอินเทอรเ์ นต็ ๑๒. จดุ เด่นของกจิ กรรม ๑๒.๑ นกั เรียนร้จู ักการวางแผนการทางาน และแบ่งหน้าท่รี บั ผิดชอบ ๑๒.๒ นกั เรียนมีส่วนรว่ มและเกิดทักษะในการคดิ วิเคราะหแ์ ละสร้างองคค์ วามรรู้ อบรู้ ๑๒.๓ นักเรียนเกิดความสนใจในการอ่านหนงั สอื สารานกุ รมมากย่งิ ข้ึน ๑๓. ข้อเสนอแนะ ๑๓.๑ ควรส่งเสริมนกั เรียนให้มกี ารอา่ นสารานกุ รมมากย่ิงขึน้ ๑๔. หลกั ฐานรอ่ งรอย (เชน่ ภาพถา่ ย ผลงานนักเรยี น) ๑๔.๑ ภาพถ่ายกิจกรรมและเกียรติบัตร

๑๕ ประมวลภาพการแข่งขนั ตอบคาถามสารานุกรม

๑๖ แบบรายงาน การจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ นิสัยรักการอา่ น โรงเรยี นบ้านปวงคา (ประชาอุทิศ) อาเภอลี้ สพป.ลาพนู เขต ๒ ๑. ช่ือกจิ กรรม กิจกรรมบันทกึ การอ่านหนังสือเล่มโปรด ๒. ชื่อผรู้ ับผดิ ชอบ เจ้าหนา้ ท่ีบรรณารกั ษ์ ๓. ตาแหน่ง ผู้บรหิ าร  ครบู รรณารกั ษ์/ครูผู้ทาหนา้ ทบ่ี รรณารกั ษ์  คณะ ครทู กุ ท่าน ๔. ระยะเวลาดาเนินงาน ปีการศกึ ษาละครง้ั ๕. วัตถปุ ระสงค์ ๕.๑ เพอื่ ฝึกใหน้ ักเรียนร้จู ักการสรุปความรู้ท่ีไดจ้ ากการอ่าน ๕.๒ เพอื่ ให้นักเรียนมสี ว่ นร่วมในการทากจิ กรรมท่ีเกิดประโยชน์กบั ตนเองและผู้อ่นื ๕.๓ เพอื่ เปน็ การฝึกทักษะในการอ่านและการส่งเสรมิ นิสยั รกั การอ่าน ๖. กลมุ่ เปา้ หมาย  นกั เรียนจานวน ๑๘๒ คน  เปน็ นักเรียนในโรงเรยี น จานวน ๑๘๒ คน เป็นนักเรยี นจากโรงเรียนอน่ื จานวน ..... คน คณะครูและบุคลากรในโรงเรยี น จานวน ..... คน ชุมชนจานวน ...... คน ๗. สอ่ื /วัสดอุ ุปกรณ์ทใ่ี ช้ ๗.๑ เครอ่ื งเสียง ๗.๒ หนงั สือทีน่ ักเรียนสนใจ ๘. ขัน้ ตอนการจัดกจิ กรรม ๘.๑ ประชาสัมพันธใ์ ห้แกค่ รปู ระจาชั้นในระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ -๖ และชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑-๓ เขา้ ใช้หอ้ งสมดุ ในทุกวนั ๘.๒ ให้นกั เรียนฝึกค้นหาหนงั สือตามมุมต่างๆด้วยตนเอง ๘.๓ นักเรียนฝึกฝนจนเกิดเปน็ ทกั ษะและสามารถค้นคว้าหาความรู้ในห้องสมุดดว้ ยตนเองได้ ๙. การประเมินผล ๙.๑ สถติ ิการเข้าใช้ห้องสมดุ ในแตล่ ะเดอื น ๑๐. สรุปผลทเ่ี กดิ ข้นึ กับนกั เรียน (ใหต้ อบผลเชงิ คุณภาพที่ส่งผลตอ่ ผลสัมฤทธ์ิของนักเรียนใน ประเด็นตา่ งๆพอสงั เขป) ๑๐.๑ นกั เรยี นรู้จกั การวางแผนการทางาน และแบง่ หนา้ ท่รี ับผดิ ชอบ ๑๐.๒ นกั เรยี นมีสว่ นร่วมและเกดิ ทักษะในการคดิ วเิ คราะห์และสรา้ งองค์ความร้รู อบรู้

๑๗ ๑๑. การบรู ณาการความรกู้ ับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๑๑.๑ ภาษาไทย : การอ่านออกเสียง ๑๑.๒ การงานพืน้ ฐานและเทคโนโลยี: การค้นหาขอ้ มูลในระบบอินเทอรเ์ นต็ ๑๒. จุดเดน่ ของกิจกรรม ๑๒.๑ นกั เรียนรู้จักการวางแผนการทางาน และแบ่งหนา้ ท่รี ับผดิ ชอบ ๑๒.๒ นักเรียนมสี ่วนร่วมและเกดิ ทักษะในการคดิ วเิ คราะหแ์ ละสรา้ งองค์ความรรู้ อบรู้ ๑๒.๓ นกั เรียนเกิดความสนใจในการอา่ นหนงั สอื ตามทต่ี นเองช่ืนชอบมากยิ่งข้นึ ๑๓. ข้อเสนอแนะ ๑๓.๑ ควรสง่ เสริมนกั เรียนเกดิ นสิ ัยรักการอ่านที่มากขึ้น ๑๔. หลกั ฐานรอ่ งรอย (เชน่ ภาพถ่าย ผลงานนักเรยี น) ๑๔.๑ ภาพถ่ายกจิ กรรม

๑๘ กจิ กรรมบนั ทกึ การอ่านหนังสือเล่มโปรด

๑๙ แบบรายงาน การจดั กิจกรรมสง่ เสรมิ นิสยั รกั การอ่าน โรงเรยี นบ้านปวงคา (ประชาอุทิศ) อาเภอลี้ สพป.ลาพูน เขต ๒ ๑. ช่อื กิจกรรม กิจกรรมวันสาคญั ๒. ช่ือผรู้ บั ผดิ ชอบ เจา้ หนา้ ทบ่ี รรณารักษ์ ๓. ตาแหนง่ ผบู้ รหิ าร  ครบู รรณารกั ษ์/ครูผู้ทาหนา้ ทบ่ี รรณารักษ์ คณะครู ทกุ ทา่ น ๔. ระยะเวลาดาเนินงาน เดอื นละคร้งั ๕. วตั ถปุ ระสงค์ ๕.๑ เพือ่ ฝกึ ใหน้ กั เรียนเข้าร่วมกิจกรรมทห่ี อ้ งสมดุ จัดข้นึ และมคี วามสนกุ สนาน ๕.๒ เพอ่ื ให้นักเรียนมีสว่ นร่วมในการทากิจกรรมที่เกิดประโยชนก์ บั ตนเองและผ้อู ่นื ๕.๓ เพื่อเปน็ การฝึกทักษะในการอ่านและการสง่ เสรมิ นิสยั รกั การอา่ น ๖. กลมุ่ เป้าหมาย  นักเรียนจานวน ๑๘๒ คน  เปน็ นักเรียนในโรงเรียน จานวน ๑๘๒ คน เป็นนักเรียนจากโรงเรียนอน่ื จานวน ..... คน คณะครแู ละบุคลากรในโรงเรยี น จานวน ..... คน ชุมชนจานวน ...... คน ๗. ส่อื /วัสดุอุปกรณท์ ีใ่ ช้ ๗.๑ เครื่องเสียง ๗.๒ หนงั สอื ท่นี ักเรียนสนใจ ๘. ขน้ั ตอนการจดั กิจกรรม ๘.๑ ประชาสมั พนั ธใ์ หแ้ ก่ครูประจาชั้นในระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑-๖ และช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑-๓ เข้าร่วมกิจกรรมวนั สาคญั ทหี่ ้องสมุดจัดขึน้ ๘.๒ ใหน้ ักเรยี นฝึกค้นหาหนังสอื ตามมุมต่างๆด้วยตนเอง ๘.๓ นักเรียนฝึกฝนจนเกิดเปน็ ทกั ษะและสามารถคน้ คว้าหาความรู้ในห้องสมดุ ดว้ ยตนเองได้ ๙. การประเมนิ ผล ๙.๑ สถิติการเขา้ ใช้หอ้ งสมดุ ในแต่ละเดือน ๑๐. สรปุ ผลทเี่ กดิ ขน้ึ กบั นักเรยี น (ให้ตอบผลเชงิ คณุ ภาพทส่ี ง่ ผลตอ่ ผลสัมฤทธิ์ของนกั เรียนใน ประเดน็ ตา่ งๆพอสงั เขป) ๑๐.๑ นกั เรยี นรจู้ ักการวางแผนการทางาน และแบง่ หนา้ ท่รี บั ผดิ ชอบ ๑๐.๒ นักเรยี นมีสว่ นร่วมและเกดิ ทักษะในการคดิ วเิ คราะหแ์ ละสรา้ งองคค์ วามรู้รอบรู้

๒๐ ๑๑. การบูรณาการความรูก้ ับกลุม่ สาระการเรยี นรู้ ๑๑.๑ ภาษาไทย : การอ่านออกเสยี ง ๑๑.๒ การงานพนื้ ฐานและเทคโนโลยี: การค้นหาข้อมูลในระบบอินเทอรเ์ น็ต ๑๒. จุดเด่นของกิจกรรม ๑๒.๑ นักเรียนรจู้ ักการวางแผนการทางาน และแบง่ หนา้ ทรี่ ับผิดชอบ ๑๒.๒ นกั เรียนมีส่วนรว่ มและเกดิ ทักษะในการคิด วิเคราะหแ์ ละสร้างองค์ความรรู้ อบรู้ ๑๒.๓ นกั เรียนเกิดความสนใจในการเข้าร่วมกจิ กรรมวันสาคัญ ๑๓. ข้อเสนอแนะ ๑๓.๑ ควรสง่ เสริมนกั เรยี นเกดิ นิสยั รักการอ่านที่มากขึ้น ๑๔. หลักฐานร่องรอย (เชน่ ภาพถ่าย ผลงานนกั เรยี น) ๑๔.๑ ภาพถ่ายกิจกรรม

๒๑ กจิ กรรมวนั สาคญั

๒๒ ส่วนท่ี ๓ ผลการดาเนนิ งาน สรปุ ผลการดาเนินงานตามกจิ กรรมแนะนาหนังสอื ประจาสัปดาห์ ลาดับท่ี รายการท่ีประเมนิ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ผา่ น ไมผ่ ่าน ๑ การประชาสมั พันธ์ ๗๖ ๒๐ ๔ -  ๒ กจิ กรรมน่าสนใจเพยี งใด ๖๘ ๓๒ - -  ๓ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม ๗๗ ๑๗ ๖ - เพียงใด ๔ ทาใหเ้ กิดนสิ ัยรักการอ่าน ๘๑ ๑๙ - -  ๕ ควรมีการจัดกิจกรรมในรปู แบบน้ีอีกมากน้อย ๗๘ ๒๒ - - เพยี งใด ๖ สถานท่ี ๗๐ ๑๗ ๑๓ -  เกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๕ ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ ๙๖ สรปุ ผลการประเมิน ระดับดีและดีมากการประชาสมั พันธ์ รอ้ ยละ๑๐๐ ร้อยละ๙๔ ระดับดีและดีมากกจิ กรรมน่าสนใจเพยี งใด ร้อยละ ๑๐๐ ระดับดีและดีมากระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสมเพยี งใด ร้อยละ ๑๐๐ ระดบั ดีและดีมากทาใหเ้ กิดนิสยั รกั การอ่าน ระดับดีและดีมากควรมีการจัดกจิ กรรมในรูปแบบน้ี ร้อยละ ๘๗ อกี มากนอ้ ยเพียงใด ระดับดีและดีมากสถานที่ ข้อเสนอแนะ / ความคดิ เห็น -

๒๓ สรุปผลการดาเนนิ งานตามกิจกรรมจัดปา้ ยความรสู้ โู่ ลกกวา้ ง ลาดบั ที่ รายการทีป่ ระเมิน ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ การประชาสัมพนั ธ์ ๖๕ ๒๙ ๖ -  ๒ กิจกรรมน่าสนใจเพยี งใด ๖๔ ๓๒ ๔ -  ๓ ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมเหมาะสม ๗๕ ๑๙ ๖ - เพยี งใด ๔ ทาให้เกดิ นสิ ยั รักการอา่ น ๘๐ ๑๗ ๓ -  ๕ ควรมีการจดั กิจกรรมในรูปแบบน้อี ีกมากน้อย ๘๐ ๑๘ ๒ - เพยี งใด ๖ สถานท่ี ๖๐ ๒๕ ๑๕ -  เกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๘๕ ผา่ นเกณฑ์ สรปุ ผลการประเมิน ระดบั ดีและดีมากการประชาสมั พันธ์ รอ้ ยละ ๙๔ ระดบั ดแี ละดมี ากกิจกรรมน่าสนใจเพยี งใด รอ้ ยละ ๙๖ ระดบั ดีและดีมากระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมเหมาะสมเพียงใด ร้อยละ๙๔ ระดบั ดีและดมี ากทาใหเ้ กิดนสิ ัยรกั การอา่ น รอ้ ยละ๙๗ ระดับดแี ละดีมากควรมกี ารจัดกจิ กรรมในรูปแบบนี้ รอ้ ยละ๙๘ อกี มากนอ้ ยเพยี งใด ระดับดีและดมี ากสถานที่ รอ้ ยละ ๘๕ ขอ้ เสนอแนะ / ความคดิ เหน็ ๑.อยากให้มกี ารจดั ปา้ ยความรู้ใหม้ ีมากกว่านี้

๒๔ สรุปผลการดาเนินงานตามกจิ กรรมบันทกึ การอา่ นหนงั สือเล่มโปรด ลาดับท่ี รายการทีป่ ระเมนิ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ผา่ น ไมผ่ า่ น ๑ การประชาสัมพันธ์ ๗๐ ๒๓ ๗ -  ๒ กิจกรรมน่าสนใจเพยี งใด ๖๕ ๓๑ ๔ -  ๓ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม ๗๘ ๗ ๑๕ -  เพียงใด ๔ ทาให้เกิดนิสัยรักการอ่าน ๘๐ ๑๖ ๔ -  ๕ ควรมกี ารจดั กจิ กรรมในรูปแบบน้อี กี มากน้อย ๗๖ ๑๙ ๕ - เพียงใด ๖ สถานท่ี ๗๕ ๒๑ ๔ -  เกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๕ ผ่านเกณฑ์ สรปุ ผลการประเมิน ระดับดีและดมี ากการประชาสัมพันธ์ รอ้ ยละ๙๓ ระดบั ดีและดีมากกจิ กรรมน่าสนใจเพยี งใด ร้อยละ ๙๖ ระดบั ดแี ละดีมากระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสมเพียงใด รอ้ ยละ ๘๕ ระดับดีและดีมากทาให้เกิดนสิ ัยรักการอ่าน ร้อยละ ๙๖ ระดับดีและดีมากควรมกี ารจัดกจิ กรรมในรปู แบบน้ี รอ้ ยละ๙๕ อกี มากน้อยเพียงใด ระดบั ดีและดีมากสถานท่ี ร้อยละ๙๖ ข้อเสนอแนะ / ความคดิ เห็น ๑.อยากให้มเี ครอื่ งเสยี งทด่ี กี ว่าน้เี พราะเสียงไมค่ ่อยดัง

๒๕ สรุปผลการดาเนินงานตามกิจกรรมการแขง่ ขันตอบคาถามสารานุกรม ลาดบั ที่ รายการท่ปี ระเมิน ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ การประชาสมั พนั ธ์ ๕๘ ๓๕ ๕ -  ๒ กจิ กรรมนา่ สนใจเพียงใด ๖๕ ๓๐ ๕ -  ๓ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม ๖๕ ๒๐ ๑๕ -  เพียงใด ๔ ทาให้เกดิ นิสยั รักการอา่ น ๗๕ ๒๕ - -  ๕ ควรมีการจัดกิจกรรมในรปู แบบนอี้ ีกมากน้อย ๗๕ ๒๕ - -  เพียงใด ๖ สถานท่ี ๖๕ ๒๓ ๑๒ -  เกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๕ ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ ๙๘ สรุปผลการประเมนิ ระดับดแี ละดีมากการประชาสมั พนั ธ์ ร้อยละ ๙๕ ร้อยละ ๘๕ ระดบั ดแี ละดีมากกจิ กรรมนา่ สนใจเพียงใด ร้อยละ ๑๐๐ ระดับดแี ละดมี ากระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสมเพยี งใด ร้อยละ ๑๐๐ ระดับดีและดีมากทาให้เกิดนสิ ยั รักการอา่ น ระดบั ดแี ละดมี ากควรมีการจัดกจิ กรรมในรูปแบบน้ี รอ้ ยละ ๘๘ อีกมากนอ้ ยเพียงใด ระดบั ดแี ละดมี ากสถานที่ ขอ้ เสนอแนะ / ความคิดเหน็ ๑.อยากให้มกี จิ กรรมนีอ้ ยา่ งต่อเน่ือง

๒๖ สรุปผลการดาเนนิ งานกิจกรรมวันสาคญั ลาดับท่ี รายการทป่ี ระเมิน ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ การประชาสมั พันธ์ ๖๗ ๒๐ ๓ -  ๒ กิจกรรมน่าสนใจเพียงใด ๖๖ ๑๔ ๒๐ -  ๓ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม ๖๒ ๒๓ ๑๕ -  เพียงใด ๔ ทาใหเ้ กดิ นิสัยรักการอ่าน ๘๓ ๑๗ - -  ๕ ควรมกี ารจดั กิจกรรมในรูปแบบนอ้ี กี มากน้อย ๘๒ ๑๘ - -  เพียงใด ๖ สถานที่ ๖๐ ๒๗ ๓ -  เกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๕ ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ ๙๗ สรุปผลการประเมิน ระดบั ดีและดีมากการประชาสมั พันธ์ ร้อยละ ๘๐ ร้อยละ ๘๕ ระดับดีและดมี ากกจิ กรรมน่าสนใจเพยี งใด ร้อยละ ๑๐๐ ระดับดีและดีมากระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสมเพียงใด รอ้ ยละ ๑๐๐ ระดบั ดีและดมี ากทาให้เกดิ นสิ ัยรกั การอ่าน ระดบั ดแี ละดีมากควรมีการจัดกจิ กรรมในรูปแบบน้ี ร้อยละ ๘๗ อกี มากน้อยเพียงใด ระดับดีและดมี ากสถานที่ ขอ้ เสนอแนะ / ความคดิ เหน็ ๑.อยากให้มีขอรางวัลมากกวา่ น้ี

๒๗ สรปุ ผลการดาเนินงานตามกจิ กรรมมุมหนงั สอื สอื่ ความรู้ ลาดับที่ รายการท่ีประเมิน ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ การประชาสมั พันธ์ ๘๑ ๑๕ ๔ - ๒ กจิ กรรมน่าสนใจเพยี งใด ๖๖ ๓๒ ๒ - ๓ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม ๘๕ ๑๕ - - เพยี งใด ๔ ทาใหเ้ กิดนิสัยรักการอา่ น ๘๓ ๑๗ - - ๕ ควรมีการจดั กจิ กรรมในรปู แบบน้ีอกี มากน้อย ๘๒ ๑๘ - - เพยี งใด ๖ สถานที่ ๖๖ ๓๒ ๒ - เกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๕ ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ ๙๖ สรปุ ผลการประเมิน ระดับดีและดมี ากการประชาสมั พันธ์ รอ้ ยละ ๙๘ ร้อยละ ๑๐๐ ระดบั ดแี ละดีมากกจิ กรรมน่าสนใจเพยี งใด ร้อยละ ๑๐๐ ระดบั ดแี ละดมี ากระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสมเพียงใด ร้อยละ ๑๐๐ ระดบั ดแี ละดีมากทาใหเ้ กิดนสิ ัยรกั การอา่ น ระดับดีและดมี ากควรมกี ารจัดกิจกรรมในรปู แบบนี้ รอ้ ยละ ๙๘ อกี มากน้อยเพียงใด ระดบั ดีและดมี ากสถานท่ี ขอ้ เสนอแนะ / ความคดิ เหน็ ๑.อยากให้มีมุมหนงั สือนอกหอ้ งเรยี น และหอ้ งสมดุ

๒๘ สว่ นที่ ๔ สรุปผลและข้อเสนอแนะ โครงการสง่ เสริมนิสัยรกั การอ่านมีกิจกรรมตา่ งๆท้ังหมด ๗ กิจกรรมคอื กจิ กรรมออมทรัพย์ทางปญั ญา บนั ทึกการอ่านหนังสือเล่มโปรด กจิ กรรมภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วนั ละคา กจิ กรรมแนะนาหนงั สือประจา สปั ดาห์ กจิ กรรมจดั ปา้ ยความรู้สู่โลกกว้าง กจิ กรรมหนังสือเลม่ เลก็ กิจกรรมตอบคาถามประจาสัปดาห์ กิจกรรมมุมหนังสอื ส่ือความรู้ จากการดาเนนิ งานตามกจิ กรรมต่างๆสรุปผลดังนี้ นกั เรยี นมีนิสัยใฝร่ ู้ใฝ่เรยี นรักการอ่านมีทักษะในการแสวงหาความรู้ไดด้ ้วยตนเอง สามารถใช้แหลง่ เรียนรู้ ตลอดจนส่อื ต่างๆรอบตวั สรปุ ความคดิ จากเร่อื งทอ่ี ่านฟงั ดูและส่อื สารโดยการพดู หรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง สรปุ ได้ว่าโรงเรียนประสบผลสาเรจ็ ในการดาเนินโครงการสง่ เสริมนสิ ยั รักการอา่ นนั่นคือเม่ือดาเนนิ การ ตามโครงการแล้วพบว่าเปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์และเป้าหมายทกุ ด้านเปน็ เพราะการมสี ่วนร่วมจากบุคลากรทุกฝา่ ย การบรหิ ารจัดการและการพัฒนาอยา่ งเป็นระบบกจิ กรรมที่นา่ สนใจมีความต่อเนื่อง ขอ้ เสนอแนะ ๑. ควรมกี ารปรบั ปรงุ กิจกรรมให้น่าสนใจอยเู่ สมอเหมาะสมกบั สถานการณ์ปัจจุบัน ๒. สง่ เสริมเชิงบูรณาการกับกลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ ้ัง ๘ กลมุ่ สาระ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook