Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Am

Published by amshying, 2018-03-25 23:44:37

Description: Am

Search

Read the Text Version

รายงาน เร่ือง การจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ โดย นายสุริยะ ศรีทันเดช รหสั นกึ ศึกษา 5913101076รายงานเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ าการฝึ กปฏิบตั ิงานวิชาชีพครูระหวา่ งเรียน (EDU 511) คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ สาขาวชิ า วิชาชีพครู วิทยาลยั เทคโนโลยภี าคใต้ จงั หวดั นครศรีธรรมราช

คานา แผนการจดั การเรียนรู้เล่มน้ี จดั ทาข้นึ เพอื่ ประกอบการสอนตามหลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้ันสู ง พุทธศักราช2546 สานักงานคณะกรรมการการอาชี วศึกษา (สอศ.)กระทรวงศึกษาธิการ ประเภทวชิ าอุตสาหกรรมทอ่ งเที่ยว สาขาวชิ าการจดั การธุรกิจท่องเที่ยว จดัอยใู่ นหมวดวิชาชีพ สาขาวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยว รหัสวิชา 2702 2103 วชิ าทรัพยากรการทอ่ งเท่ยี วภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ซ่ึงเป็ นการเตรียมเน้ือหา เตรียมผเู้ รียน เตรียมวิธีสอน เตรียมกิจกรรมการเรียนการสอน เตรียมส่ือที่ใชใ้ นการเรียนการสอน เตรียมเคร่ืองมือวดั ผลประเมินผลและจดั กิจกรรมการเรียนการสอนทม่ี ุ่งเน้นฐานสมรรถนะ (Competency Based) และการบูรณาการ(Intergrated) ตรงตามจดุ ประสงคร์ ายวชิ า มาตรฐานรายวชิ า คาอธิบายรายวชิ า เร่งพฒั นาบทบาทของผเู้ รียนเป็นผจู้ ดั การแสวงหาความรู้ (Explorer) เป็นผสู้ อนตนเองได้ สร้างองคค์ วามรู้ใหม่ และบทบาทของผสู้ อนเปลี่ยนจากผูใ้ หค้ วามรู้มาเป็ นผูจ้ ดั การช้ีแนะ (Teacher Roles) จดั ส่ิงแวดลอ้ มเอ้ืออานวยต่อความสนใจเรียนรู้และเป็ นผรู้ ่วมเรียนรู้ (Co-investigator) จดั หอ้ งเรียนเป็ นสถานที่ทางานร่วมกัน (Learning Context) จดั กลุ่มเรียนรู้ให้รู้จกั ทางานร่วมกัน ฝึ กความใจกวา้ ง(Grouping) มุ่งสร้างสรรคค์ นรุ่นใหม่ สอนความสามารถท่ีนาไปทางานได้ (Competency) สอนความรัก ความเมตตา (Compassion) ความเช่ือมั่น ความซ่ือสัตย์ (Trust) เป้าหมายอาชีพอันยงัประโยชน์ (Productive Career) และชีวิตท่ีมีศกั ด์ิศรี (Noble Life) เหนือสิ่งอ่ืนใดเป็ นคนดีท้งั กายวาจา ใจ มีคุณธรรม จรรยาบรรณและวชิ าชีพ แผนการจดั การเรียนรู้เป็ นเคร่ืองมือสาคญั สาหรับผูส้ อนในการจดั การเรียนรู้ ซ่ึงผูส้ อนจะตอ้ งมีความรู้ความสามารถในการจัดทาแผนการจดั การเรียนรู้เพ่ือไปสู่เป้าหมายของการจดัการศึกษาของหลกั สูตรทีก่ าหนดไว้ ผสู้ อนจะตอ้ งหากลยทุ ธแ์ ละวธิ ีการในการจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ให้ครบถ้วนตามองค์ประกอบสาคญั ว่าจดั ทาแผนอยา่ งไร เพ่ือใคร มีเทคนิคและวิธีการอย่างไร ผลท่ีได้รับจะเป็ นอย่างไร ดังน้ันแผนการจดั การเรียนรู้จึงเปรียบเสมือนเป้าหมายความสาเร็จทผี่ สู้ อนคาดหวงั ไว้ นายสุริยะ ศรีทนั เดช

สารบัญเรื่อง หน้ าบทท่ี 1 บท 1นา…………………………………………………………………………………………..……… 1 2 ขอ้ มูลพน้ื ฐาน/ขอ้ มูลทวั่ ไป......................................................................................... 2บทที่ 2 ข้ันตอนและประโยชน์ในการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้………………………….. 2 3 ข้นั ตอนในการจดั ทาแผนจดั การ 4เรียนรู้…………………………………………………………….. 5 5 องคป์ ระกอบสาคญั ของแผนการจดั การเรียนรู้………………………………………………….. 6 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14ดี……………………………………………………………………………….. 15 15 รูปแบบของแผนการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………… ประโยชน์ในการจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้…………………………………………………….สรุป……………………………………………………………………………………………………………..บทท่ี 3 แผนการจัดการเรียนรู้…………………………………………………………………………….บทที่ 4 ปัญหา อปุ สรรค และข้อเสนอแนะ....................................................................บทท่ี 5 วิเคราะห์ปัญหา อปุ สรรค และปรับปรุงการเรียนการสอน.............................. วเิ คราะห์ปัญหา –อุปสรรค…………………………………………………………………………….

ปรับปรุงวิธีการสอนเพอื่ เพม่ิ 15ประสิทธิภาพ………………………………………………………… 15 เทคนิควิธีการ 16สอน…………………………………………………………………………………………. 18 20 วิธีพฒั นาตนเองเพอื่ ใหก้ ารจดั ทาแผนการจดั การเรียนรูแ้ ละการจดั กิจกรรม มีประสิทธิภาพ……………………………………………………………………………………………… ภาพประกอบการสอน……………………………………………………………………………………ตารางสอน……………………………………………………………………………………………………

ข้อมูลพืน้ ฐาน/ข้อมูลทั่วไป1. รหัสและช่ือรายวิชา : 2702 2103 ทรัพยากรท่องเที่ยวภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ2. ระดับช้ันทเ่ี ปิ ดสอน : ระดบั ช้นั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั ปี ท่ี 23. จานวนผู้เรียน :จานวนนกั เรียนลงทะเบียนเรียน 35 คน4. ครูผู้สอน : นายนายสุริยะ ศรีทนั เดช5. ภาคการศึกษา/ปี การศึกษาที่เปิ ดสอนรายวิชา : ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 25586. สถานทีเ่ รียน : หอ้ งเรียนการโรงแรม วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษานครศรีธรรมราชอาเภอเมือง จงั หวดั นครศรีธรรมราช

ข้นั ตอนในการจดั ทาแผนจดั การเรียนรู้ 1. วิเคราะห์คาอธิบายรายวิชา เพื่อประโยชน์ในการกาหนดหน่วยการเรียนรู้และรายละเอียดของแตล่ ะหวั ขอ้ ของแผนกการจดั เรียนรู้ 2. วิเคราะห์จุดประสงค์รายวิชาและมาตรฐานรายวิชา เพื่อนามาเขียนเป็ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ โดยใหค้ รอบคลุมพฤตกิ รรมท้งั ดา้ นความรู้ (K) ทกั ษะ / กระบวนการ (P) เจตคตแิ ละคา่ นิยม (A) 3. วเิ คราะห์สาระการเรียนรู้ โดยเลือกและขยายสาระท่ีเรียนรู้ใหส้ อดคลอ้ งกบั ผเู้ รียนชุมชน และทอ้ งถ่ิน รวมท้งั วทิ ยาการและเทคโนโลยใี หม่ ๆ ทจ่ี ะเป็ นประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียน 4. วิเคราะห์กระบวนการจดั การเรียนรู้ (กิจกรรมการเรียนรู้) โดยเลือกรูปแบบการจดั การเรียนรูท้ เ่ี นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั 5. วิเคราะห์กระบวนการประเมินผล โดยเลือกใช้วิธีการวดั และประเมินผลท่ีสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 6. วเิ คราะห์แหล่งการเรียนรู้ โดยคดั เลือกส่ือการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ ท้งั ในและนอกหอ้ งเรียนใหเ้ หมาะสมสอดคลอ้ งกบั กระบวนการเรียนรู้ องค์ประกอบสาคญั ของแผนการจดั การเรียนรู้ องคป์ ระกอบสาคญั ของแผนการจดั การเรียนรู้ อยา่ งนอ้ ยตอ้ งมีดงั น้ี 1. สาระสาคญั 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3. สาระการเรียนรู้ 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 5. ส่ือ / อุปกรณ์ / แหล่งการเรียนรู้ 6. การวดั และประเมินผล 7. บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้

3แผนการจดั การเรียนรู้ท่ดี ีลกั ษณะของแผนการจดั การเรียนรู้ทด่ี ี ควรมีดงั น้ี 1. มีความละเอียด ชดั เจน มีหัวขอ้ และส่วนประกอบต่าง ๆ ครอบคลุมตาม ศาสตร์ของการสอนโดยสามารถตอบคาถามต่อไปน้ี 1.1. สอนอะไร (หน่วย หวั เร่ือง ความคิดรวบยอดหรือสาระสาคญั ) 1.2. เพอ่ื จดุ ประสงคอ์ ะไร (จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ซ่ึงควรเขียนเป็น จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม) 1.3 ดว้ ยสาระอะไร (เน้ือหา / โครงร่างเน้ือหา) 1.4 ใชว้ ธิ ีการใด (กิจกรรมการเรียนรู้ซ่ึงใชก้ ิจกรรมการเรียนรู้ทเ่ี นน้ ผเู้ รียน เป็นสาคญั ) 1.5 ใชเ้ ครื่องมืออะไร (วสั ดุอุปกรณ์ ส่ือและแหล่งการเรียนรู)้ 1.6 ทราบไดอ้ ยา่ งไรวา่ ประสบความสาเร็จ (การวดั ผลและประเมินผล) 2. แผนการจดั การเรียนรู้สามารถนาไปปฏบิ ตั ิไดจ้ ริง 3. ส่วนประกอบต่าง ๆ ของแผนการจดั การเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพนั ธ์ เชื่อมโยงสมั พนั ธก์ นั เช่น 3.1 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรูค้ รอบคลุมสาระ / เน้ือหา และเป็นจุดที่พฒั นา ผเู้ รียนในดา้ นความรู้ ทกั ษะ กระบวนการและเจตคติ 3.2 กิจกรรมการเรียนรู้ ควรสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคแ์ ละเน้ือหา / สาระ 3.3 วสั ดุอุปกรณ์ ส่ือ และแหล่งการเรียนรู้ ควรสอดคลอ้ งสัมพนั ธ์กับ กิจกรรมการเรียนรู้ 3.4 การวดั ผลและประเมินผล ควรสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

4 แผนการจัดการเรียนรู้ทดี่ ตี ้องเป็ นแผนการจดั การเรียนรู้ทเ่ี น้นผู้เรียนเป็ นสาคญัดงั น้ี 1. มีการวิเคราะห์หลกั สูตร จดั ทาตารางวิเคราะห์คาอธิบายรายวิชา หรือวเิ คราะหส์ าระการเรียนรู้ จดั ทาหน่วยการเรียนรู้ และจดั ทากาหนดการสอนหรือโครงการสอน 2. มีการวิเคราะห์ผูเ้ รียน โดยการจดั กลุ่มผูเ้ รียนตามความรู้ ความสามารถความสนใจ และความถนดั แลว้ นาไปเขียนแผนการจดั การเรียนรู้ตามศกั ยภาพของผเู้ รียนเพื่อเน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั 3. มีการกาหนดเน้ือหาสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั ศกั ยภาพของผูเ้ รียน และความตอ้ งการของทอ้ งถ่ิน รวมท้งั การบูรณาการระหวา่ งวชิ า 4. มีการกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพของผเู้ รียน มีการบรู ณาการ เนน้ การคิด (ทกั ษะการคดิ ลกั ษณะการคดิ และกระบวนการคดิ ) การฝึกทกั ษะ การปฏบิ ตั ิจริง และการสรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง 5. มีการกาหนดส่ือ /นวตั กรรม/แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั กิจกรรมการเรียนรู้ วยั และความสามารถของผเู้ รียนและใหผ้ เู้ รียนมีส่วนร่วมในการเลือก จดั หาและจดั ทาสื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 6. มีการกาหนดการวดั ผลและประเมินผล สอดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ผลการเรียนรูท้ ีค่ าดหวงั และกิจกรรมการเรียนรู้ มีการวดั ผลตามสภาพจริง ให้ครอบคลุมท้งัดา้ นความรู้ ทกั ษะ และเจตคติ 7. มีองคป์ ระกอบสาคญั ครบถว้ น เนน้ ผเู้ รียนเป็ นสาคญั สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของทอ้ งถิ่น เนน้ คุณธรรม จริยธรรม และมีการบูรณาการตามความเหมาะสม 8. มีความสมบูรณ์ถูกต้อง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็ นประโยชน์ต่อผเู้ รียน ทาใหผ้ เู้ รียนไดพ้ ฒั นาดา้ นความรู้ ทกั ษะและเจตคติ

5 รูปแบบของแผนการจดั การเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้สามารถเขียนได้ท้งั แบบความเรียงและแบบตาราง โดยมี ส่วนประกอบสาคญั ดงั น้ี ส่วนที่ 1 ส่วนนา ประกอบดว้ ยรายละเอียดทว่ั ไป ไดแ้ ก่ ชื่อหลกั สูตร ประเภท วชิ า สาขาวชิ า รหสั วชิ า ช่ือวชิ า หน่วยกิต จานวนชว่ั โมงตอ่ สปั ดาห์ จดุ ประสงคร์ ายวชิ า มาตรฐานรายวชิ า และคาอธิบายรายวชิ า ส่วนท่ี 2 โครงสร้างการจัดการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย ตารางวิเคราะห์คาอธิบาย รายวชิ า และการกาหนดหน่วยการเรียนรู้และเวลาทใ่ี ช้ ส่วนที่ 3 แผนการจดั การเรียนรู้ ประกอบดว้ ย สาระสาคญั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ สมรรถนะ คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ การวดั และประเมินผล และบนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ประโยชน์ในการจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ 1. ทาใหเ้ กิดการวางแผนวิธีการสอน วธิ ีเรียนท่มี ีความหมายยงิ่ ข้นึ 2. ช่วยใหค้ รูมีคูม่ ือการสอนทท่ี าดว้ ยตนเอง 3. เป็ นผลงานทางวชิ าการทส่ี ามารถเผยแพร่เป็นตวั อยา่ งได้ 4. ช่วยใหค้ วามสะดวกแก่ครูผมู้ าสอนแทนในกรณีทีผ่ สู้ อนไม่สามารถเขา้ สอนได้

6 แผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี 2 หน่วยที่ 2 รหัสวิชา 27022102 วชิ า ทรพั ยากรทอ่ งเที่ยวภาค สอนคร้ังท่ี 5-12 ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ช่ือหน่วย ความรู้เก่ียวกบั ทรัพยากรทอ่ งเที่ยวประเภทธรรมชาติ, ช้วั โมงรวม 18 ประวตั ิศาสตร์ โบราณสถาน-วตั ถุช่ือเร่ือง ความรูเ้ กี่ยวกบั ทรัพยากรท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติ, ประวตั ศิ าสตร์ จานวนชวั่ โมง 12โบราณสถาน-วตั ถุ1 . สาระสาคญั ทรพั ยากรทางการทอ่ งเทีย่ ว ซ่ึงเป็ นส่ิงสาคญั ทสี่ ุดทีจ่ ะล่อใจใหน้ กั ทอ่ งเท่ยี วซ่ึงเป็ น “ลูกคา้ ”เขา้ ไปซ้ือ อนั ไดแ้ ก่ - ประเภทธรรมชาติ - ประเภทประวตั ศิ าสตร์ โบราณสถาน โบราณวตั ถุ และศาสนา - ประเภทศิลปะและวฒั นธรรม ประเพณี และกิจกรรมความสาคญั ของทรัพยากรการทอ่ งเที่ยว ทรัพยากรการทอ่ งเทีย่ วประเภทใดกต็ าม นกั ท่องเท่ยี วจะใชบ้ ริการกต็ ่อเมื่อเกิดความพงึพอใจเสียก่อน ท้งั น้ีเพราะทรัพยากรการทอ่ งเท่ียวสามารถดึงดูดใหเ้ กิดความสนใจท่ีจะก่อใหเ้ กิดการท่องเท่ยี ว2. สมรรถนะประจาหน่วย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั ทรัพยากรท่องเทยี่ วประเภทธรรมชาติภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 2. แสดงความรูเ้ ก่ียวกบั ทรัพยากรทอ่ งเท่ยี วประเภทประวตั ิศาสตร์ โบราณสถาน-วตั ถุภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 3. นอ้ มนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาบรู ณาการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนเก่ียวกบัทรัพยากรท่องเท่ียวประเภทธรรมชาติ, ประวัติศาสตร์ โบราณสถาน-วัตถุ ในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

7 4. แสดงพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม ดา้ นความมีวนิ ัย ตรงต่อเวลา ใส่ใจส่ิงแวดลอ้ ม มีความขยนั มีความรบั ผดิ ชอบ มีความเพยี รพยายามในการเรียน3.จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์ปลายทาง (ทั่วไป)ด้านความรู้ 1. เพอื่ ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ทรัพยากรทอ่ งเทยี่ วประเภทศิลปวฒั นธรรม ประเพณี กิจกรรม 2. เพอ่ื ใหม้ ีความรูค้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั ศลิ ปวฒั นธรรม ประเพณี กิจกรรม ของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 3. เพอ่ื ใหม้ ีความรูค้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั ความสมั พนั ธข์ องชุมชนกบั ศลิ ปวฒั นธรรม ประเพณี กิจกรรม ของภาคภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือด้านทักษะ 1. อธิบายลกั ษณะศิลปวฒั นธรรม ประเพณี กิจกรรมของแต่ละภาคได้ด้านคุณธรรม 1. มีความซื่อสตั ยส์ ุจริตในการปฏิบตั งิ านท่ไี ดร้ บั มอบหมาย จดุ ประสงค์นาทาง (เชิงพฤตกิ รรม)ด้านความรู้ 1. ทราบถึงความสมั พนั ธข์ องชุมชนกบั วฒั นธรรมประเพณีด้านทกั ษะ 1. สามารถแสดงศิลปวฒั นธรรม ประเพณี หรือกิจกรรมของแตล่ ะภาคไดอ้ ยา่ งสวยงามด้านคุณธรรม 1. เห็นความสาคญั ของศลิ ปวฒั นธรรม ประเพณี และกิจกรรมของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 2. มีความกระตอื รือร้นในการปฏบิ ตั ิงานที่ไดร้ บั มอบหมายดว้ ยความต้งั ใจ 3. นอ้ มนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งนามาบูรณาการในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนเก่ียวกบั ความหมายและความสาคญั ของทรพั ยากรท่องเท่ยี ว ดงั น้ี

84 . บูรณาการกับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งพอประมาณ - ศึกษาและใชท้ รพั ยากรท่องเทย่ี วแตล่ ะประเภทอยา่ งประหยดั รูค้ ุณค่าความมีเหตผุ ล - ศกึ ษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั ทรัพยากรทอ่ งเท่ยี วประเภทธรรมชาติเพอื่ นาเสนอแก่นกั ท่องเทีย่ ว - ศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั ทรพั ยากรทอ่ งเที่ยวประเภทประวตั ิศาสตร์ โบราณสถาน-วตั ถุ เพื่อ นาเสนอแก่นกั ทอ่ งเทย่ี วความมภี ูมคิ ุ้มกันในตวั ทดี่ ี - มีความรู้พ้นื ฐานเกี่ยวกบั ทรพั ยากรทอ่ งเที่ยวประเภทธรรมชาติ - มีความรู้พน้ื ฐานเก่ียวกบั ทรพั ยากรท่องเทยี่ วประเภทประวตั ิศาสตร์ โบราณสถาน-วตั ถุ ใน ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ - มีจติ สานึกทดี่ ีในการอนุรกั ษท์ รัพยากรท่องเทีย่ วทกุ ประเภท - ร่วมกนั พฒั นาแหล่งทอ่ งเท่ียวทกุ ประเภท การตดั สินใจและการดาเนินกจิ กรรมต่างๆ ให้อย่ใู นระดับพอเพยี งหรือตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งน้ันต้องอาศัยท้ังความรู้และคณุ ธรรมพื้นฐาน ดงั นี้ เง่ือนไขความรู้ - เพอ่ื ใหม้ ีความรูค้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั ทรพั ยากรท่องเที่ยวประเภทศลิ ปวฒั นธรรม ประเพณีกิจกรรม - เพอื่ ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ศลิ ปวฒั นธรรม ประเพณี กิจกรรม ของภาคภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ - เพอ่ื ใหม้ ีความรูค้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความสมั พนั ธข์ องชุมชนกบั ศิลปวฒั นธรรม ประเพณี กิจกรรม ของแตล่ ะภาค เง่ือนไขคุณธรรม - มีวนิ ยั - มีความซื่อสตั ย์ - มีมนุษยสมั พนั ธ์ - มีความสนใจใฝ่รู้

95. เนื้อหาสาระ การทอ่ งเทย่ี วจาตอ้ งใชท้ รพั ยากรท่องเทย่ี วเป็นสินคา้ ทางการท่องเที่ยว พรอ้ มท้งั พฒั นาการเขา้ ถึงและส่ิงอานวยความสะดวกทางการทอ่ งเที่ยว เพอื่ อานวยความสะดวกใหน้ กั ทอ่ งเท่ียวสามารถเดินทางเขา้ มาท่องเท่ียวยงั แหล่งท่องเทีย่ วไดอ้ ยา่ งสะดวกสบายและไดร้ ับความสุขในระหวา่ งท่องเท่ียว ซ่ึงนกั ท่องเท่ียวแตล่ ะคนหรือแต่ละกลุ่มจะเขา้ มาเยย่ี มเยอื นทรพั ยากรทอ่ งเทย่ี วแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ 3 ประเภท ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ทรัพยากรท่องเทยี่ วประเภทธรรมชาติ เป็ นสถานทที่ ่องเทีย่ วท่เี กิดขนึ้ เองตามธรรมชาติโดยเกิดจากสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพตามธรรมชาตทิ ม่ี ีความสวยงามน่าสนใจตอ่ การเดินทางไปเที่ยวชม ซ่ึงรวมถึงบริเวณทม่ี นุษยเ์ ขา้ ไปปรุงแต่งเพม่ิ เติมจากสภาพธรรมชาตใิ นบางส่วน สามารถแบ่งทรพั ยากรท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทยอ่ มคอื 1.1 ทรัพยากรท่องเท่ยี วประเภทภูมอิ ากาศ เป็นสถานทท่ี ่ีมลี กั ษณะอากาศท่ีเกิดข้นึ ตามธรรมชาตขิ องแตล่ ะภูมิภาคของโลก ซ่ึงลกั ษณะอากาศทีป่ รากฏในพ้นื ทีห่ น่ึง ๆ มกั ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบเบ้ืองตน้ 4 ชนิด คอื อุณหภมู ิ ความกด ลม และความช้ืนในบรรยากาศโดยภูมิอากาศของแต่ละพ้นื ท่ีทว่ั โลกจะแตกต่างกนั ไปตามท่ีต้งั ของเสน้ ละติจดู ความสูงของพน้ื ที่ กระแสน้า และพายุ จึงทาใหป้ ระเทศต่าง ๆ มีความสวยงามของธรรมชาตติ ามลกั ษณะภูมิอากาศแตกตา่ งกนั ในแต่ละช่วงของฤดูกาล เป็ นเหตใุ หป้ ระชาชนท่ีอาศยั อยเู่ ขตภมู ิอากาศหน่ึงอยากเดินทางไปเยย่ี มเยอื นภมู ิอากาศเขตอื่น เพอื่ สมั ผสั กบั ภูมิอากาศท่ีแตกตา่ งกนั 1.2 ทรัพยากรท่องเทยี่ วประเภททวิ ทศั น์สวยงาม เป็นสถานทีท่ ่ีมีทวิ ทศั น์ทางธรรมชาติสวยงามและแปลกประหลาด สามารถดึงดูดนกั ทอ่ งเทยี่ วใหเ้ ดินทางเขา้ ไปเยยี่ มเยอื น เช่น ป่ า เขาเกาะ แก่ง ชายหาด ถ้า ทะเล แม่น้า ทะเลสาบ อ่างเกบ็ น้า กวา๊ น น้าตก น้าพรุ ้อน ทุ่งหญา้ ทุ่งดอกไม้ลานหิน เนินดิน เสาหิน ธารน้าแขง็ 1.3 ทรัพยากรท่องเทยี่ วประเภทสัตว์ป่ า เป็นสถานที่ทม่ี ีความงดงามตามธรรมชาตสิ ามารถดึงดูดนกั ท่องเที่ยวไดม้ ากเช่นกนั เพราะนกั ทอ่ งเที่ยวจานวนมากมีความคดิ วา่ สตั วป์ ่ าเป็ นสิ่งมีชีวติตามธรรมชาติทนี่ ่าศกึ ษาหาความรู้ และนบั วนั จะสูญหายหมดไป แตย่ งั คงมีท่ีใหท้ อ่ งเทยี่ วศึกษาได้ตามแหล่งอนุรกั ษพ์ นั ธุส์ ตั วป์ ่ าและสวนสตั วเ์ ปิ ด ในขณะที่นกั ท่องเทย่ี วบางกลุ่มกลบั เห็นวา่ สตั วป์ ่ าเป็นเกมสท์ ่ีน่าตื่นเตน้ ในการล่า นอกจากน้ีนกั ทอ่ งเที่ยวบางกลุ่มยงั ถูกดึงดูดใจให้เดินทางไปชมแหล่งทม่ี ีสตั วอ์ าศยั อยเู่ องตามธรรมชาติเป็ นจานวนมาก เช่น เดินทางไปชมนกปากห่างท่ีวดั ไผล่ อ้ มเดินทางไปชมฝงู นกเพนกวนิ ทบ่ี ริเวณทวปี แอนตาร์คติก เดินทางไปชมหมีขาวข้วั โลกในเขตอาร์คติก เดินทางไปชมสตั วบ์ างชนิดในฤดูอพยพ เป็นตน้

10 2. ทรัพยากรท่องเท่ียวประเภทประวัตศิ าสตร์ โบราณสถาน และโบราณวตั ถุ เป็นทรพั ยากรท่องเทีย่ วทม่ี นุษยส์ ร้างข้ึนตามประโยชนข์ องมนุษยเ์ องท้งั ทีเ่ ป็ นมรดกในอดีตและไดส้ รา้ งเสริมข้ึนในสมยั ปัจจบุ นั ซ่ึงมีความสาคญั ทางประวตั ศิ าสตร์ โบราณคดี และศาสนาเป็ นสิ่งทแี่ สดงถึงอารยธรรมและความเจริญกา้ วหนา้ ของทอ้ งถิ่นน้นั วา่ ในสมยั โบราณมีความเจริญดา้ นใดบา้ ง และเหลือเป็นมรดกตกทอดมายงั ชนรุ่นหลงั อยา่ งไรบา้ ง จึงมีผลดึงดูดใหน้ กั ท่องเทยี่ วไปเยอื นพน้ื ท่นี ้นัสามารถแบ่งทรัพยากรท่องเที่ยวประเภทประวตั ิศาสตร์ โบราณสถานและโบราณวตั ถุออกเป็ น 2ประเภทยอ่ ยทส่ี าคญั ไดด้ งั ต่อไปน้ี 2.1 ประเภทโบราณสถาน เป็ นสถานทท่ี ่ีมีอายนุ บั รอ้ ยปี หรือโดยลกั ษณะแห่งการก่อสรา้ งหรือโดยหลกั ฐานเกี่ยวกบั ประวตั ิของสถานที่น้นั เป็ นประโยชน์ในทางประวตั ิศาสตร์หรือโบราณคดี เช่น ศาสนสถาน อุทยานประวตั ศิ าสตร์ กาแพงเมือง คูเมือง พระราชวงั พระตาหนกับา้ นโบราณ เมืองโบราณ อนุสาวรีย์ อนุสรณ์สถาน ชุมชนโบราณ เป็นตน้ สาหรับโบราณสถานของไทยน้นั กรมศิลปากรไดแ้ บ่งประเภทโบราณสถานไวเ้ ป็น 7 ประเภทคอื 1. โบราณสถานสัญลักษณ์แห่งชาติ หมายถึงโบราณสถานทีม่ ีความสาคญั สูงสุด หากชาติขาดซ่ึงโบราณสถานน้นั ไป จะเป็นการสูญเสียอยา่ งใหญ่หลวง เช่นพระบรมมหาราชวงั พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุพนม เป็นตน้ 2. อนุสาวรีย์แห่งชาติ หมายถึงอนุสรณ์สถานทไี่ ดส้ ร้างข้ึนเพอ่ื บุคคลหรือเร่ืองราวทส่ี าคญัยงิ่ ในประวตั ิศาสตร์ หรือเป็นท่ีเคารพอยา่ งสูงในชาติ ซ่ึงประชาชนจะตอ้ งร่วมราลึกถึงดว้ ยกนั เช่นศาลหลกั เมือง เจดียย์ ทุ ธหตั ถี พระบรมรูปทรงมา้ เป็นตน้ 3. อาคารสถาปัตยกรรมแห่งชาติ หมายถึง อาคาร สิ่งก่อสรา้ งทางสถาปัตยกรรมและวศิ วกรรมอนั ทรงไวซ้ ่ึงคุณคา่ อยา่ งสูงทางศิลปะ อนั แสดงถึงการประดิษฐค์ ดิ คน้ ใหม่ ๆ ในยคุ อดีตท่ีมีผลตอ่ การดาเนินชีวติ ในปัจจุบนั หรือเกี่ยวพนั กบั บคุ คลสาคญั หรือเหตกุ ารณ์สาคญั ของชาติ เช่นพระที่นงั่ อนนั ตสมาคม สะพานพระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลก สนามหลวง เป็ นตน้ 4. ย่านประวัตศิ าสตร์ หมายถึงพ้นื ท่ที ่ีมีความหนาแน่นทางสถาปัตยกรรม เรื่องราวทางประวตั ศิ าสตร์ การวางผงั เมือง และสภาพแวดลอ้ มท่มี นุษยส์ รา้ งข้นึ โดยมีอาคารส่ิงก่อสร้าง ถนนหนทางและองคป์ ระกอบอ่ืน ๆ ในพ้นื ทร่ี วมอยดู่ ว้ ย ทาใหพ้ น้ื ท่นี ้นั จดั อยไู่ ดห้ น่ึงในลกั ษณะต่อไปน้ีคือยา่ นประวตั ิศาสตร์สถาปัตยกรรม ยา่ นประวตั ิศาสตร์การพาณิชย์ ยา่ นประวตั ศิ าสตร์อุตสาหกรรม ยา่ นประวตั ิศาสตร์ทอ้ งถิ่น และยา่ นโบราณคดี เช่นยา่ นประวตั ิศาสตร์สถาปัตยกรรมเกาะรัตนโกสินทร์ ยา่ นประวตั ิศาสตร์การพาณิชยภ์ เู กต็ ยา่ นโบราณคดีแห่งภาพเขียนสีที่อ่าวพงั งาเป็ นตน้

11 5. อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ หมายถึงพน้ื ที่ทม่ี ีเน้ือหาทางประวตั ศิ าสตร์องคป์ ระกอบทางสถาปัตยกรรมและวศิ วกรรมรวมกบั สภาพแวดลอ้ มท้งั ทเี่ กิดตามธรรมชาติและทมี่ นุษยส์ ร้างข้นึอนั ทาใหส้ าระทางประวตั ิศาสตร์ยงั คงดารงไวไ้ ด้ เช่น อุทยานประวตั ศิ าสตร์สุโขทยั อุทยานประวตั ิศาสตร์กาแพงเพชร เป็นตน้ 6. นครประวัตศิ าสตร์แห่งชาติ หมายถึงเมืองหรือนครท่มี ีแบบอยา่ งทางวฒั นธรรม การวางผงั เมือง สาระสาคญั ทางประวตั ศิ าสตร์ และองคป์ ระกอบของเมอื ง สถาปัตยกรรม วศิ วกรรม และหรือชีวติ ความเป็นอยู่ เช่น เมืองสุโขทยั เมืองอยธุ ยา เมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงแสน เป็ นตน้ 7. ซากโบราณสถานและแหล่งโบราณคดปี ระวตั ิศาสตร์แห่งชาติ หมายถึงแหล่งโบราณคดีประวตั ศิ าสตร์และซากโบราณสถาน ซ่ึงเป็ นหลกั ฐานแสดงถึงประวตั ิศาสตร์อนั สาคญั ยง่ิ ของชาติในอดีต เช่นซากโบราณสถานเวยี งกุมกาม เป็นตน้ 2.2 ประเภทโบราณวตั ถุ เป็ นวตั ถุโบราณไม่วา่ จะเป็ นสิ่งประดิษฐห์ รือสิ่งทีเ่ กิดข้ึนตามธรรมชาติ หรือที่เป็นส่วนหน่ึงส่วนใดของโบราณสถาน ซ่ึงโดยอายหุ รือโดยลกั ษณะแห่งการประดิษฐห์ รือโดยหลกั ฐานเก่ียวกบั ประวตั ขิ องวตั ถุน้นั เป็ นประโยชน์ในทางประวตั ิศาสตร์หรือโบราณคดี ในแต่ละจงั หวดั หรือแตล่ ะประเทศอาจเก็บสะสมไวใ้ นพพิ ธิ ภณั ฑห์ รือสถานทเ่ี ก็บแบบอ่ืนๆ เพอื่ ใหป้ ระชาชนเขา้ ชม อนั เป็นเครื่องช้ีใหเ้ ห็นถึงประวตั ิศาสตร์อนั ยาวนานของประเทศและเป็นความภาคภูมิใจของประชาชนในทอ้ งถ่ินท่ีไดพ้ บโบราณวตั ถุล้าคา่ เหล่าน้นั เช่นภาพเขียนโบราณ วตั ถุโบราณ สมบตั โิ บราณ พระพทุ ธรูปโบราณ รูปป้ันโบราณ เป็ นตน้6. กจิ กรรมการเรียนรู้ สอนคร้ังท่ี 1 (ช่ัวโมงที่ 1- 3) 1. ปฐมนิเทศ อธิบายการวางแผนการเรียน โครงสร้างเน้ือหา บทเรียน กิจกรรม งาน 2. ครูบอกวตั ถุประสงคก์ ารเรียนการสอนหน่วยที่ 3 3. ครูอธิบายเร่ืองความรูเ้ ก่ียวกบั ทรัพยากรท่องเที่ยวประเภทธรรมชาติ, ประวตั ิศาสตร์ โบราณสถาน-วตั ถุใหน้ กั ศึกษาฟังจนเขา้ ใจ 4.ครูผูส้ อนใหน้ กั ศึกษาจดั กลุ่ม ๆ ละ 3 คน 5.ศกึ ษาแหล่งท่องเท่ียวของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือและทาใบงาน 6.นาขอ้ มูลทไี่ ดน้ าเสนอหนา้ ช้นั เรียน 7.รวบรวมขอ้ มูลท้งั หมดจดั ทาเป็ นรูปเล่มใหส้ วยงาม 8.ครูและนกั ศึกษาช่วยกนั สรุปเน้ือหาหน่วย

127. การบูรณาการกบั คุณลักษณะ 3 D แก่ผู้เรียน  ด้านประชาธิปไตย (Democracy) 1. การมอบหมายงานใหน้ กั ศกึ ษาออกมารายงานหนา้ ช้นั เรียนไดอ้ ยา่ งอิสระ 2. การใหผ้ ฟู้ ังไดแ้ สดงความคดิ เห็นภายในช้นั เรียนอยา่ งมีอิสระ  ด้านคุณธรรมจริยธรรมและความเป็ นไทย (Decency) 1. ปฏิบตั ิงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายเสร็จตามกาหนด 2. ใชว้ สั ดุอุปกรณ์อยา่ งคุม้ คา่ ประหยดั 3. มีความเพยี รพยายามและกระตอื รือร้นในการเรียนและการปฏบิ ตั ิงาน  ด้านภูมิคุ้มกนั ภยั จากยาเสพติด (Drug – Free) การปลูกฝังใหน้ กั ศกึ ษาเอาใจใส่ในการเรียนรูด้ ูหนงั สืออยา่ สม่าเสมอ และ ส่งเสริมใหเ้ ล่นกีฬาอยเู่ สมอ เพอ่ื ใหร้ ่างกายแขง็ แรงความจาดีเป็ นการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็ น ประโยชน์ ซ่ึงส่งผลทาใหห้ ่างไกลจากยาเสพตดิ อยา่ งแทจ้ ริง8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ - เอกสารประกอบการเรียน เร่ือง ความหมายและความสาคญั ของทรัพยากรการทอ่ งเที่ยว - ใบงาน เร่ือง ความสาคญั ของทรพั ยากรท่องเทย่ี วของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ - หนงั สือแผนท่ี 77 จงั หวดั ในประเทศไทย9. แหล่งการเรียนรู้ - ครูผสู้ อน - หอ้ งสมุด - Internet10. หลกั ฐานการเรียนรู้ หลกั ฐานความรู้ - การบนั ทกึ ศกึ ษาแหล่งทอ่ งเทยี่ วของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ หลกั ฐานการปฏิบัตงิ าน - การนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน

1311. การวดั ผล/ประเมินผลเคร่ืองมือ (เขียนบอกวิธีวดั และเคร่ืองมือการวัด) 1. ใบงาน 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในการทางาน 3. การนาเสนอเกณฑ์การประเมนิ ผล (เขียนบอกเกณฑ์การประเมิน) 1. ตรวจแบบทดสอบ ถูก 60%ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ 2. ช้ินงานตอ้ งมีความถูกตอ้ ง สวยงาม ส่งงานตรงตามเวลาทคี่ รูกาหนด12. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถ้าม)ี ใหน้ กั ศึกษาจบั คูศ่ ึกษาโดยเลือกแหล่งท่องเทยี่ วของภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ คู่ละ 1 แหล่งท่องเท่ยี ว13. เอกสารอ้างอิง หนงั สือเท่ียวไทยใหส้ นุก 77 จงั หวดั

1414.บนั ทกึ หลงั การสอน 14.1 ขอ้ สรุปหลงั การจดั การเรียนรู้............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 14.2 ปัญหาอุปสรรคทพ่ี บ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 14.3 แนวทางแกป้ ัญหาและหรือพฒั นา............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ลงชื่อ......................................ผู้สอน (นายสุริยะ ศรีทนั เดช)

สรุปปัญหาของการจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ปัญหา - อปุ สรรค การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้น้ัน มีเวลาไม่เพียงพอต่อการจัดทาแผนเพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตอ่ ผเู้ รียน และการสอนบา้ งคร้ังไม่เป็ นไปตามแผนการจดั การเรียนรู้ เนื่องจากผูเ้ รียนมีความพร้อมไม่เท่ากนั หากมีนักเรียนกลุ่มใหญ่ไม่เขา้ ใจ คุณครูจาเป็ นตอ้ งแกไ้ ขตวั ผูเ้ รียนทนั ที เพอ่ื ไม่ใหเ้ กิดความไม่รูส้ ะสม จนทาใหผ้ เู้ รียนเบอื่ หน่ายท่ีจะเรียนข้อเสนอแนะ เน้ือหาท่ีเตรียมมาในแต่ละคร้ังของแผนการจดั การเรียนรู้น้ัน ตอ้ งมีเวลาและเน้ือหาท่ีเหมาะสม และสอดคลอ้ งกนั มีความร้อยรดั กนั ไปตลอดเวลาของการนาเสนอในแตล่ ะคร้ังของการเรียนการสอน ครูผูส้ อนมีความสามารถในการปฏิบตั ิกิจกรรมในแผนน้ันได้อย่างครบถ้วนหากครูผูส้ อนใช้เน้ือหามาก แต่เวลานอ้ ย ไม่สัมพนั ธ์กนั นักเรียนก็จะเรียนแบบหนกั นักเรียนไม่ไดฝ้ ึกปฏบิ ตั ิเท่าที่ควร จงึ ไม่มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนในแตล่ ะคร้ัง

วเิ คราะห์ปัญหา – อุปสรรค และจะปรับปรุงกระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนอย่างไร วเิ คราะห์ปัญหา – อปุ สรรค นกั เรียนไม่สนใจในกิจกรรมการเรียนการสอนในขณะเรียน และ นกั เรียนไม่ทราบวา่ แต่ละ แหล่งท่องเท่ียวอยจู่ งั หวดั ไหน หรือจะพูดวา่ นดั เรียนไม่มีความรู้รอบตวั ก็ได้ ครูจึงตอ้ งพยายามมี วธิ ีการชกั จูงนกั เรียนใหส้ ามารถมีส่วนร่วมในการเรียนไดท้ ุกคน และอีกอยา่ งหน่ึงสื่อการเรียนการ สอน เป็ นส่วนสาคญั มาก จะเห็นดว้ ยวา่ ส่ือการเรียนการสอนท่ีน่าสนใจทาให้นักเรียน มีความอยาก เรียนรูม้ ากข้ึน และมีผลการเรียนตามลาดบั ปรับปรุงวิธกี ารสอนเพ่ือเพมิ่ ประสิทธิภาพ 1. สอนแบบกระตนุ้ ผเู้ รียน โดยมีการสร้างขอ้ ตกลงระหวา่ งเรียนเพอื่ สร้างแรงจูงใจใน การต้งั ใจเรียนและการปฏบิ ตั งิ านตามที่ไดร้ บั มอบหมาย 2. สอนแบบใหน้ กั เรียนไดป้ ฏบิ ตั ิ เรียนรู้ทางอินเตอร์เน็ตเพอ่ื เห็นภาพแหล่งท่องเท่ยี วได้ อยา่ งถูกตอ้ งและชดั เจน 3. สอนแบบมีส่วนร่วม ในนกั เรียนมีความช่วยเหลือกนั 4. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการควบคุมเครื่องคอมพวิ เตอร์ 5. มีส่ือการเรียนการสอนท่ที นั สมยั และมีความน่าสนใจในการจดั การเรียนการสอน เทคนิควธิ ีการสอน เทคนิควธิ ีทีใ่ ชส้ อนน้นั มีความเหมาะสมกบั ผเู้ รียน ทาใหร้ ู้เรียนสนุกกบั การเรียนรู้ พร้อม กบั ท้งั ไดป้ ฏิบตั ิจริง โดยมีเทคนิคการสอน 5 ข้นั ตอน ดงั น้ี 1. เปิ ดใจ เป็ นข้นั เตรียมความพร้อมท่ีจะให้นกั เรียนอยากเรียนรู้เรื่องใหม่ในชวั่ โมงน้นั ๆ ซ่ึงการเปิ ดใจใหน้ กั เรียนอยากเรียนรู้ เช่น การสอบถามถึงความชอบของแหล่งท่องเทียวของแต่ละคนและความรู้รอบตวั เก่ียวกบั การท่องเท่ียว มานาเขา้ สู่บทเรียนจะทาให้นักเรียนเกิดความสนุกสนาน และพร้อมที่จะเรียนรู้

17 2. พยายามหารูปภาพเพื่อให้เกิดการเห็นภาพที่ชดั เจนยงิ่ ข้ึน สอดแทรกเน้ือหา เป็ นการนาเสนอเน้ือหาเดิมเชื่อมโยงมาสู่เน้ือหาใหม่ ท่ตี อ้ งการใหน้ กั เรียนเรียนรู้ 3. บูรณาการหลากหลาย เป็ นการจดั การเรียนรู้ที่นากลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาชีพการ ท่องเทยี่ วเป็ นแกน แลว้ ดึงกลุ่มสาระอ่ืนๆ เขา้ มาเชื่อมโยงในเน้ือหาที่เรียนรู้ในชว่ั โมง น้นั ๆ เช่น ศลิ ปะ โดยการใหน้ กั เรียนวาดภาพระบายสี 4. ใชส้ ่ือการสอนจริง และใชเ้ ทคโนโลยใี นการสอนเพ่ือสร้างความต่ืนเตน้ ใหก้ บั ผเู้ รียน หรือให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง อาจจะเป็ นการนาเสนอแหล่งท่องเที่ยวในภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือกไ็ ดเ้ พอื่ เพมิ่ ความจาใหก้ บั นกั เรียน 5. สรุปส่ิงที่ไดจ้ ากการปฏบิ ตั ิ เป็ นการนาเน้ือหาที่เรียนรู้ โดยให้นักเรียนไดส้ รุปเน้ือหาที่ ครูสอนไปแลว้ หรืออาจจะสรุปเป็นผงั ความรูเ้ พอื่ สะดวกในการจา

18 วธิ ีพฒั นาตนเอง เพ่ือให้การจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้และการจัดกจิ กรรมมปี ระสิทธิภาพ 1. กาหนดกลยุทธ์และวิธีการในการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ให้ครบถ้วน ตามองค์ประกอบสาคัญว่าจัดทาแผนอย่างไร เพื่อใคร มีเทคนิ คและวิธีการอย่างไร ผลที่ได้รับจะเป็ นอยา่ งไร ดังน้ันแผนการจดั การเรียนรู้จึงเป็ นเป้าหมายความสาเร็จที่ผูส้ อน คาดหวงั ไว้ 2. บนั ทึกหลังสอนให้ชัดเจนเพ่ือใช้ในการปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้หรือ นาไปสู่การทางานวจิ ยั ในช้นั เรียน 3. วเิ คราะหแ์ ละจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ใหค้ รอบคลุมท้งั 3 ส่วน ดงั น้ี ส่วนท่ี 1 ส่วนนา ประกอบด้วยรายละเอียดทวั่ ไป ไดแ้ ก่ ช่ือหลกั สูตร ประเภทวชิ า สาขาวิชา รหัสวิชา ช่ือวิชา หน่วยกิต จานวนชวั่ โมงต่อสัปดาห์ จุดประสงค์ รายวชิ า มาตรฐานรายวชิ า และคาอธิบายรายวชิ า ส่วนท่ี 2 โครงสร้ างการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย ตารางวิเคราะห์ คาอธิบายรายวชิ า และการกาหนดหน่วยการเรียนรูแ้ ละเวลาทใี่ ช้ ส่วนท่ี 3 แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย สาระสาคญั จุดประสงค์ การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งการเรียนรู้ สมรรถนะ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ การวดั และประเมินผล และบนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 4. มีเทคนิคท่ดี ีเหมาะแก่ช่วงช้นั การเรียนการสอน 5. การมีบุคลิกภาพความเป็ นครูที่น่าเช่ือถือ เป็ นอีกอยา่ งท่ีทาให้นกั เรียนเกิดความรักในคุณครูและเอาเป็นแบบอยา่ ง เพราครูคอื แบบอยา่ งของศษิ ย์ 6. การแสวงหาความรู้ใหม่ๆอย่เู สมอ เพือ่ เพิม่ ความรู้ท่ีหลากหลายให้กบั ครูและ เป็ นการเสริมสรา้ งประสิทธิภาพในตวั เราดว้ ย เด็กจะเก่งไดค้ ุณครูตอ้ งเก่งก่อน

19กจิ กรรมการเรียนการสอน

20

21


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook