หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 วิทยาศาสตร์ เลม่ 1 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 Slide PowerPoint_สื่อประกอบการสอน บรษิ ทั อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท. จำกัด : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand โทรศัพท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com
1หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ระบบรา่ งกายมนุษย์ ตวั ชวี้ ัด • ระบุอวัยวะและบรรยำยหนำ้ ทข่ี องอวัยวะทเ่ี ก่ยี วข้องในระบบหำยใจ • อธบิ ำยกลไกกำรหำยใจเข้ำและออก โดยใช้แบบจำลอง รวมทง้ั อธบิ ำยกระบวนกำรแลกเปลย่ี นแกส๊ • ตระหนักถงึ ควำมสำคัญของระบบหำยใจ โดยกำรบอกแนวทำงในกำรดแู ลรักษำอวยั วะในระบบหำยใจให้ทำงำนเปน็ ปกติ • ระบุอวัยวะและบรรยำยหนำ้ ทข่ี องอวยั วะในระบบขับถ่ำยในกำรกำจดั ของเสยี ทำงไต • ตระหนกั ถึงควำมสำคัญของระบบขบั ถ่ำยในกำรกำจดั ของเสยี ทำงไต โดยกำรบอกแนวทำงในกำรปฏิบัติตนทชี่ ่วยให้ระบบขับถ่ำยทำหนำ้ ท่ีได้อย่ำงปกติ • บรรยำยโครงสรำ้ งและหนำ้ ท่ีของหัวใจ หลอดเลือด และเลือด • อธบิ ำยกำรทำงำนของระบบหมุนเวียนเลอื ด โดยใช้แบบจำลอง • ออกแบบกำรทดลองและทดลอง ในกำรเปรยี บเทยี บอัตรำกำรเตน้ ของหวั ใจ ขณะปกติและหลังทำกจิ กรรม • ตระหนกั ถงึ ควำมสำคัญของระบบหมุนเวียนเลือด โดยกำรบอกแนวทำงในกำรดูแลรกั ษำอวัยวะในระบบหมุนเวยี นเลือดใหท้ ำงำนเป็นปกติ
1หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ระบบร่างกายมนุษย์ ตัวชีว้ ัด • ระบุอวยั วะและบรรยำยหนำ้ ท่ขี องอวัยวะในระบบประสำทสว่ นกลำงในกำรควบคุมกำรทำงำนตำ่ ง ๆ ของรำ่ งกำย • ตระหนักถึงควำมสำคัญของระบบประสำท โดยกำรบอกแนวทำงในกำรดแู ลรกั ษำ รวมถึงกำรปอ้ งกนั กำรกระทบกระเทือนและอนั ตรำยตอ่ สมองและไขสนั หลงั • ระบุอวยั วะและบรรยำยหนำ้ ทขี่ องอวัยวะในระบบสืบพันธข์ุ องเพศชำยและเพศหญงิ โดยใช้แบบจำลอง • อธบิ ำยผลของฮอร์โมนเพศชำยและเพศหญิงท่คี วบคมุ กำรเปลยี่ นแปลงของรำ่ งกำย เมือ่ เขำ้ ส่วู ัยหน่มุ สำว • ตระหนักถงึ กำรเปลย่ี นแปลงของร่ำงกำยเมื่อเข้ำสู่วัยหนุ่มสำว โดยกำรดแู ลรกั ษำรำ่ งกำยและจิตใจของตนเองในชว่ งทีม่ กี ำรเปล่ียนแปลง • อธบิ ำยกำรตกไข่ กำรมีประจำเดอื น กำรปฏสิ นธิ และกำรพฒั นำของไซโกตจนคลอดเป็นทำรก • เลอื กวธิ กี ำรคมุ กำเนิดทเี่ หมำะสมกับสถำนกำรณท์ ก่ี ำหนด • ตระหนกั ถึงผลกระทบของกำรต้งั ครรภก์ ่อนวัยอันควร โดยกำรประพฤตติ นใหเ้ หมำะสม
ระบบหายใจ ระบบแลกเปล่ยี นแก๊สของร่างกายกบั สิ่งแวดล้อม หายใจเข้า หายใจออก แกส๊ ออกซเิ จน (O2) แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
อวยั วะในระบบหายใจ อวัยวะทีเ่ กยี่ วข้องกบั ระบบหายใจ จมูก กระดูกซี่โครง • ทำงผ่ำนเขำ้ – ออกของอำกำศ • ทำงำนร่วมกับกล้ำมเนื้อยึดกระดูกซี่โครง • มขี นทำหน้ำท่ีกรองเชือ้ โรคและสง่ิ แปลกปลอม ในกำรเปล่ียนแปลงปริมำตรช่องอกระหว่ำง • โพรงจมูกช่วยควบคุมอุญหภูมิและควำมช้ืน หำยใจเขำ้ และออก ของอำกำศก่อนเข้ำสู่ทอ่ ลมและปอด กะบงั ลม ท่อลม • ช่วยรั้งปอดลงขณะหำยใจเข้ำ และดนั ปอดขึ้นขณะหำยใจออก • ท่อกลวงทป่ี ระกอบดว้ ยกระดกู อ่อนรปู เกือกม้ำ ช่วยป้องกันกำรยุบตัวขณะหำยใจเขำ้ และออก ถุงลมมีผนังบำง มีหลอดเลือดฝอย มำห่อหุ้ม ทำหนำ้ ท่แี ลกเปลี่ยนแกส๊ ปอด • มี 2 ขำ้ ง • ประกอบดว้ ยถงุ ลมจำนวนมำก
กลไกการหายใจ การหายใจมี 2 รปู แบบ การหายใจเขา้ อำกำศเข้ำ การหายใจออก อำกำศออก • กล้ำมเนอื้ ยึดกระดูกซ่โี ครงหดตัว ทำใหก้ ระดกู ซโี่ ครงเล่ือนสงู ขน้ึ • กล้ำมเนอื้ ยึดกระดูกซโ่ี ครงคลำยตวั ทำให้กระดูกซี่โครงเล่อื นตำ่ ลง • กล้ำมเน้ือกะบังลมหดตัว ทำใหก้ ะบังลมเลอื่ นตำ่ ลง • กลำ้ มเน้ือกะบงั ลมคลำยตัว ทำให้กะบงั ลมเลอื่ นสงู ขนึ้ • ปรมิ ำตรช่องอกเพม่ิ ขึ้น ควำมดนั อำกำศในชอ่ งอกลดลง • ปริมำตรชอ่ งอกลดลง ควำมดนั อำกำศในช่องอกเพมิ่ ข้ึน
การแลกเปล่ยี นแก๊ส ปอด CO2 - แก๊สออกซิเจนแพร่จำกถุงลมเข้ำ O2 สหู่ ลอดเลอื ดฝอย เซลล์ - แก๊สคำรบ์ อนไดออกไซด์แพรจ่ ำก หลอดเลอื ดฝอยเขำ้ สู่ถงุ ลม - แกส๊ ออกซิเจนแพรจ่ ำก หลอดเลือดฝอยเข้ำสู่เซลล์ O2CO2 OC2 O2 - แก๊สคำร์บอนไดออกไซด์แพรจ่ ำก เซลล์เขำ้ สหู่ ลอดเลอื ดฝอย
การดแู ลรกั ษาอวยั วะ ในระบบหายใจ
ระบบขับถา่ ย ระบบกาจัดของเสียออกจากรา่ งกาย การขบั ถา่ ยของเสียของมนุษย์ CO2 แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ เหง่อื และ ปสั สาวะ จากการหายใจออก อจุ จาระ
อวยั วะในระบบขบั ถา่ ยปสั สาวะ • มี 2 ขำ้ ง รปู ร่ำงคล้ำยเมล็ดถว่ั • ภำยในมีหน่วยไตทำหน้ำท่ีกรองของเสียและสำรต่ำง ๆ ออก ไต ท่อไต จำกเลอื ด • ท่อขนำดเลก็ และยำวทต่ี ่อมำจำกไตท้ัง 2 ข้ำง ไปเชื่อมต่อกับ กระเพำะปัสสำวะ • ลำเลยี งปัสสำวะจำกไตไปสู่กระเพำะปัสสำวะ กระเพาะปสั สาวะ • อวยั วะทีส่ ำมำรถยืดหยุ่นได้ • ทำหน้ำทเ่ี กบ็ ปัสสำวะที่มำจำกไต ทอ่ ปัสสาวะ • นำปัสสำวะจำกกระเพำะปสั สำวะออกส่ภู ำยนอกรำ่ งกำย
การกาจัดของเสียของไต ภายในไต ประกอบดว้ ยหน่วยไตจำนวนมำก ทำหน้ำท่กี รองของเสียและสำรต่ำงๆออกจำกเลอื ดและดดู สำรทม่ี ปี ระโยชน์กลับ สว่ นที่ทาหน้าที่กรองของเสยี สำรที่ผำ่ นกำรกรองเป็นสำรทม่ี ขี นำดเลก็ เชน่ น้ำ กลูโคส ยเู รีย ส่วนสำรท่ีมขี นำดใหญ่ เชน่ โปรตนี เซลลเ์ มด็ เลอื ด จะไมผ่ ำ่ นกำรกรอง หลอดเลอื ดฝอย บริเวณดูดกลบั สาร หลอดเลือดอาร์เตอรี สำรทมี่ ีประโยชน์ เช่น นำ้ กลูโคส จะถูก หลอดเลือดเวน ดดู กลบั เขำ้ สู่หลอดเลือดฝอย ของเสียและสารอ่ืน ๆ ทไ่ี ม่ถูกดูดกลับกลายเปน็ “ปัสสาวะ”
การดแู ลรกั ษาอวัยวะ ในระบบขบั ถา่ ย
ระบบหมุนเวยี นเลอื ด ระบบขนส่งสำรตำ่ ง ๆ เชน่ สำรอำหำร แกส๊ ออกซเิ จน ไปยงั เซลลท์ ัว่ ร่ำงกำย และนำของเสยี ท่เี กิดจำกกิจกรรมของเซลล์ เชน่ ยูเรีย แก๊สคำร์บอนไดออกไซด์ มำกำจัดออกจำกรำ่ งกำย อวยั วะในระบบหมนุ เวียนเลือด หวั ใจ หลอดเลือด เลอื ด
หวั ใจ หวั ใจห้องบนซา้ ย ซรา้ับยเลอื ดท่ีมีแกส๊ ออกซเิ จนสูง หัวใจห้องบนขวา จำกปอดทั้ง 2 ข้ำง รบั เลือดทม่ี แี กส๊ ออกซเิ จนต่ำ จำกอวัยวะตำ่ งๆของร่ำงกำย หวั ใจหอ้ งล่างซ้าย ซสา้่งยเลือดท่ีมแี กส๊ ออกซิเจนสูงไป หวั ใจห้องล่างขวา ยงั อวัยวะตำ่ ง ๆ ของร่ำงกำย สง่ เลือดทมี่ แี กส๊ ออกซเิ จนต่ำ ไปยงั ปอดท้งั 2 ข้ำง ลนิ้ หวั ใจ เพอ่ื แลกเปลย่ี นแกส๊ กัน้ หัวใจห้องบนและหอ้ งล่ำง ปอ้ งกนั กำรไหลย้อนกลบั ของเลอื ด
หลอดเลือด หลอดเลือดอารเ์ ตอรี (artery) - นำเลือดที่มี O2 สูงไปยังส่วนต่ำง ๆ ของร่ำงกำย (ยกเว้นหลอดเลือดอำร์เตอรี ไปยงั ปอด) - ผนงั หนำและยดื หยนุ่ ดี มแี รงดันเลือดสูงและคงท่ี หลอดเลือดเวน (vein) - นำเลอื ดทมี่ ี O2 ตำ่ กลบั เขำ้ สูห่ วั ใจ (ยกเวน้ หลอดเลอื ดเวนจำกปอด) - ผนงั บำง ควำมดันต่ำกว่ำหลอดเลอื ดอำรเ์ ตอรี มีล้นิ กัน้ ภำยใน หลอดเลือดฝอย (capillary) - แลกเปลยี่ นแกส๊ และสำรต่ำง ๆ ระหวำ่ งเซลลก์ บั เลอื ด - มผี นงั บำงมำก ประกอบด้วยเซลล์เพยี งช้ันเดยี ว
เลือด สว่ นทเี่ ป็นของเหลว น้าเลือดหรือพลาสมา • ประกอบดว้ ยนำ้ สำรอำหำร เอนไซม์ ฮอรโ์ มน แกส๊ คำร์บอนไดออกไซด์ และของเสยี ต่ำง ๆ • ทำหนำ้ ที่ลำเลียงสำรไปยงั สว่ นต่ำง ๆ ของร่ำงกำย ส่วนท่เี ปน็ เซลล์เม็ดเลอื ด เซลลเ์ ม็ดเลอื ดแดง (erythrocyte) • รูปรำ่ งกลมแบน ตรงกลำงบมุ่ ไมม่ นี ิวเคลยี ส • มเี ฮโมโกลบนิ เปน็ องคป์ ระกอบ • ทำหนำ้ ท่ลี ำเลียงแก๊สออกซิเจนไปยังเซลล์ท่วั รำ่ งกำย เซลลเ์ ม็ดเลือดขาว (leucocyte) • มขี นำดใหญ่กว่ำเซลลเ์ ม็ดเลือดแดง และมีนิวเคลียสอยู่ภำยในเซลล์ • ทำหน้ำทท่ี ำลำยเช้ือโรคและส่ิงแปลกปลอม โดยกำรสรำ้ งแอนติบอดี หรือกำรกลืนกินของเซลล์ เกลด็ เลือด (plateles) • มรี ูปรำ่ งไม่แนน่ อน ไม่มีนวิ เคลียส • ชว่ ยกำรแข็งตวั ของเลือดเมื่อเกิดบำดแผล
การดูแลรกั ษาอวยั วะ ในระบบหมุนเวียนเลอื ด
ระบบประสาท ระบบควบคมุ และประสำนกำรทำงำนของระบบอวยั วะต่ำง ๆ เพ่ือรกั ษำสมดลุ ของรำ่ งกำย รวมถงึ ควบคุมกำรแสดงพฤติกรรมต่ำงๆของมนุษย์ อวัยวะในระบบประสาท สมอง ไขสนั หลัง เส้นประสาท
สมอง เซรีเบลลมั ควบคุมกำรเคลอ่ื นไหว เซรบี รมั และกำรทรงตวั ของร่ำงกำย ควบคุบควำมคิด ควำมจำ สติปัญญำ และเป็นศูนย์ควบคุมกำรทำงำน เช่น พอนส์ กำรสัมผัส กำรมองเห็น กำรได้ยิน ควบคมุ กำรหำรใจ กำรเคยี้ ว กำรรับรส กำรดมกลิ่น กำรทำงำน กำรหลงั่ น้ำลำย กำรเคล่อื นไหว ของกลำ้ มเนอ้ื ของใบหน้ำ ไฮโพทาลามสั เมดลั ลา ออบลองกาตา ควบคมุ อณุ หภมู ิของร่ำงกำย กำรเต้น ควบคมุ กำรเต้นของหวั ใจ ของหัวใจ ควำมดนั และควำมตอ้ งกำร กำรหำยใจ ควำมดันเลอื ด พื้นฐำน เชน่ น้ำ อำหำร กำรจำม กำรอำเจียน กำรกลืน ทาลามสั ศนู ยร์ วบรวมกระแสประสำทเขำ้ และ ออกจำกสมองสว่ นต่ำงๆ
ไขสันหลงั และเสน้ ประสาท ไขสันหลงั สว่ นทตี่ ่อจำกสมอง อยู่ภำยในกระดูกสนั หลังขอ้ แรกถึงกระดกู บนั้ เอว มีหน้ำท่หี ลัก • สง่ ผ่ำนกระแสประสำทจำกหนว่ ยรับควำมร้สู ึกไปสูส่ มอง • สง่ ผ่ำนกระแสประสำทจำกสมองไปสหู่ น่วยปฏบิ ตั ิงำนต่ำงๆของร่ำงกำย • เป็นศนู ย์รเี ฟลก็ ซค์ วบคุมกำรทำงำนภำยนอกอำนำจจิตใจ ใยประสาท เส้นประสาท ใยประสำทหลำยอันมำรวมกันเป็นมัด ทำหน้ำท่ีส่งกระแสประสำท จำกสมองและไขสันหลังไปยังอวัยวะต่ำง ๆ หรือรับกระแสประสำท จำกอวัยวะต่ำง ๆ มำยังไขสันหลังและสมอง
เซลล์ประสาท เดนไดรต์ แอกซอน ตัวเซลล์ • ประกอบด้วยนิวเคลียสและไซโทพลำซึมที่มีออร์แกเนลล์ต่ำง ๆ อยภู่ ำยใน • ทำหน้ำท่ีสังเครำะห์สำรที่จำเป็นต่อเซลล์ประสำทและส่งสำรไป ยังเซลลป์ ระสำทอ่ืนๆ ใยประสาท • แขนงทแ่ี ยกออกมำจำกตวั เซลล์ • ประกอบดว้ ยเดนไดรตท์ ำหนำ้ ท่นี ำกระแสประสำทเขำ้ สู่ตวั เซลล์ และแอกซอนทำหนำ้ ทน่ี ำกระแสประสำทออกจำกตัวเซลล์
การทางานของระบบประสาท กำรทำงำนประสำนกันของสมอง ไขสันหลัง และเสน้ ประสำท เมื่อมีส่ิงเรำ้ มำกระตุ้นอวยั วะควำมรู้สกึ ต่ำงๆของรำ่ งกำย 1 เมื่อถูกหนำมทิ่ม หน่วยรับควำมรู้สึกใต้ผิวหนัง บรเิ วณปลำยนวิ้ จะได้รับกำรกระตุ้น 1 5 2 2 กระแสประสำทถูกส่งผ่ำนเซลล์ประสำทจำก 3 ปลำยน้วิ ไปยังไขสนั หลัง 4 3 กระแสประสำทถกู สง่ จำกไขสันหลังตอ่ ไปยังสมอง ทำใหร้ ู้สกึ เจบ็ ปวดทบ่ี รเิ วณปลำยนว้ิ ศูนย์ประสำทสงั่ กำรในสมองจะสั่งกำรลงมำยัง 4 ไขสันหลัง แล้วส่ังกำรต่อไปยังหน่วยปฏิบัติงำน คือ กล้ำมเนือ้ ทโ่ี คนแขน 5 กลำ้ มเน้อื ท่โี คนแขนจะหดตัวทำใหแ้ ขนพบั งอและ ยกปลำยนิ้วออกจำกหนำม
การดูแลรักษาอวัยวะ ในระบบประสาท
ระบบสืบพนั ธุ์ มนุษย์มีกำรสืบพนั ธุ์แบบอำศยั เพศ เกิดจำกกำรปฏิสนธขิ องเซลลส์ ืบพันธเุ์ พศชำย คือ เซลล์อสุจิ กบั เซลล์สบื พันธ์ุเพศหญงิ คือ เซลล์ไข่ เมือ่ เซลล์สืบพนั ธท์ุ ั้ง 2 เพศ ปฏิสนธกิ ันจะไดไ้ ซโกต แบ่งเซลล์เปน็ เอ็มบรโิ อ และเจรญิ เติบโตเป็นทำรก เซลลอ์ สุจิ เซลล์ไข่ ปฏสิ นธิ
ระบบสืบพนั ธเุ์ พศชาย ต่อมสร้างนา้ เล้ียงอสุจิ มีสภำพเป็นเบสอ่อนๆประกอบดว้ ยน้ำ อัณฑะ สำรเมอื ก กรดอะมโิ น และน้ำตำล มี 1 คู่ อยู่ภำยในถงุ อณั ฑะ ทำหนำ้ ทผี่ ลิต โมเลกุลเดย่ี ว (ฟรักโทส) ที่เป็นอำหำร ฮอรโ์ มนเพศชำยและสร้ำงเซลลอ์ สุจิ ของเซลล์อสจุ ิ ถุงอัณฑะ ต่อมลกู หมาก ห่อหุ้มอณั ฑะและปรบั อุณหภูมิของอณั ฑะ หลงั่ สำรทมี่ ีสมบัตเิ ป็นเบสเพ่อื ลดควำม ใหต้ ำ่ กว่ำอุณหภูมปิ กตขิ องร่ำงกำย เปน็ กรดในชอ่ งคลอดของเพศหญิง ประมำณ 3 องศำเซลเซยี ส ต่อมคาวเปอร์ หลอดเกบ็ อสุจิ สร้ำงสำรหลอ่ ล่ืนช่วยใหเ้ ซลล์อสจุ ิ อยู่ด้ำนบนของอณั ฑะ ทำหน้ำที่ เคลื่อนทไี่ ดเ้ รว็ ข้นึ เกบ็ อสุจทิ ส่ี ร้ำงมำจำกอัณฑะ องคชาต หลอดนาอสจุ ิ เปน็ อวยั วะสืบพันธ์ุภำยนอกร่ำงกำย เปน็ ทำงผำ่ นของเซลล์อสุจทิ ส่ี ร้ำงจำก ซึง่ เปน็ ทำงผ่ำนของอสุจอิ อกจำกร่ำงกำย อณั ฑะ
การสรา้ งเซลลอ์ สจุ ิ • เซลล์อสจุ ถิ กู สรำ้ งจำกอณั ฑะและเคลอ่ื นที่มำยังหลอดเก็บอสุจิซงึ่ เป็นแหลง่ พฒั นำเซลลอ์ สุจิ • เมอ่ื มีกำรหลัง่ อสจุ ิ เซลลอ์ สุจถิ กู ลำเลยี งตำมหลอดนำอสุจไิ ปยงั ทอ่ ปัสสำวะ ซ่ึงมีกำรหลั่งของเหลวจำกตอ่ มต่ำงๆ มำรวม เรยี กว่ำ นา้ อสจุ ิ • เพศชำยเร่ิมสรำ้ งเซลลอ์ สจุ ิเม่อื อำยุ 12-13 ปี และสรำ้ งตลอดชวี ติ ส่วนหวั มีนิวเคลียสที่บรรจุสำรพันธุกรรม ซึ่งถูกห่อหุม้ ด้วยถุงอะโครโซมท่ี ประกอบด้วยเอนไซมส์ ำหรบั เจำะเยื่อหมุ้ เซลล์ไข่ ส่วนลาตวั มีไมโทคอนเดรียทำหนำ้ ท่สี รำ้ งพลังงำนสำหรับกำรเคลอ่ื นที่ สว่ นหาง ประกอบดว้ ยแฟลเจลลัมชว่ ยในกำรเคล่ือนที่
ระบบสืบพนั ธ์เุ พศหญงิ รงั ไข่ • มี 2 อัน อยูด่ ้ำนขำ้ งมดลูก • ทำหนำ้ ที่ผลติ เซลล์ไขแ่ ละฮอร์โมนเพศหญิง ท่อนาไข่ หรอื ปกี มดลกู • ทำงเชื่อมระหวำ่ งรังไข่กบั มดลูก • เปน็ บรเิ วณที่เกดิ กำรปฏิสนธิของเซลล์อสุจกิ ับเซลล์ไข่ มดลูก • อยู่บรเิ วณอุ้งเชิงกรำนระหวำ่ งกระเพำะปสั สำวะกับทวำรหนกั • เป็นบริเวณฝังตวั ของเอม็ บริโอและเจรญิ เตบิ โตของทำรก ชอ่ งคลอด • อยู่ตอ่ จำกมดลูก ประกอบด้วยกลำ้ มเนอื้ เรียบ จงึ ยืดหยุ่นได้ • เป็นทำงผ่ำนของเซลล์อสุจิเข้ำสู่มดลูกและเป็นทำงออกของ ทำรกเม่อื ครบกำหนดคลอด
การสรา้ งเซลล์ไข่ เซลล์ไข่ท่ีเจรญิ เติบโตเตม็ ท่ีและพร้อมที่จะไดร้ ับกำรผสม เรยี กวำ่ ไข่สกุ ซ่ึงจะเคลือ่ นทจี่ ำกรงั ไข่เข้ำสปู่ ีกมดลกู เรยี กกระบวนกำรนว้ี ่ำ การตกไข่ 1 เซลล์ไข่เจรญิ และพัฒนำอยู่ในรังไข่ 1 2 3 4 2 เมอ่ื เซลลไ์ ขส่ กุ จะตกจำกรังไข่เข้ำสู่ท่อนำไข่ 3 เซลล์ไข่เคลื่อนไปยังผนังมดลูกท่ีหนำตัว เพ่ือเตรียมพรอ้ มรับกำรฝงั ตวั 4 หำกเซลล์ไข่ไม่ถูกปฏิสนธิจะสลำยตัว ผนังมดลูกและหลอดเลือดหลุดกลำยเป็น ประจาเดอื น
ฮอรโ์ มนเพศ สำรเคมีท่ีร่ำงกำยสร้ำงขึ้น ทำหน้ำทคี่ วบคุมกำรสร้ำงเซลล์สืบพันธ์ุ รวมทั้ง ควบคุมกำรเปล่ียนแปลงลักษณะทำงร่ำงกำยเม่ือเจริญเขำ้ สวู่ ัยหนมุ่ สำว ฮอร์โมนเพศชาย : เทสโทสเทอโรน ฮอรโ์ มนเพศหญงิ : โพรเจสเทอโรนและอีสโทรเจน • สร้ำงจำกอณั ฑะ • สร้ำงจำกรงั ไข่ • ควบคุมกำรสรำ้ งเซลลอ์ สุจแิ ละกำรเกดิ ลกั ษณะขั้นท่ี 2 • ฮอร์โมนทัง้ 2 ชนิด ทำหนำ้ ทีร่ ่วมกันกระตนุ้ กำรเจริญของ ของเพศชำย เช่น มีหนวดเครำ ขนบรเิ วณรักแร้ หน้ำแข้ง ผนังมดลกู เพ่อื รองรบั กำรฝังตัวของเอม็ บริโอ และอีสโทรเจน และอวยั วะเพศ หัวนมแข็ง เสียงแหบและห้ำว มีมัดกล้ำมเนอ้ื ยงั ควบคุมกำรเกดิ ลักษณะข้ึนท่ี 2 ของเพศหญิง เช่น สะโพกแคบและไหลกวำ้ ง อวัยวะเพศโต หลัง่ นำ้ อสจุ ขิ ณะหลบั เสียงเล็กแหลม สะโพกผำย หน้ำอกและอวัยวะเพศใหญ่ ขนขึ้นบริเวณรกั แร้และอวยั วะเพศ
ฮอ ์รโมนจาก ัรงไ ่ขการเปล่ยี นแปลงของฮอร์โมนเพศหญงิ โพรเจสเทอโรน อีสโทรเจน ัวฏ ัจกรของมดลูก ประจาเดอื น ระยะก่อนตกไข่ ระยะหลังตกไข่ ประจาเดอื น
การคมุ กาเนิด กำรป้องกนั กำรตง้ั ครรภ์ โดยกำรป้องกันกำรปฏสิ นธหิ รือปอ้ งกนั กำรฝงั่ ตวั ของเอม็ บริโอทผ่ี นังมดลูก 1. วิธีธรรมชาติ กำรนับวันมีเพศสัมพนั ธ์ คอื ก่อนมีประจำเดือน 7 วนั และหลงั จำกมีประจำเดือนวนั แรก 7 วัน ขอ้ ดี : สำมำรถคำนวณระยะเวลำในกำรมเี พศสัมพนั ธไ์ ดด้ ว้ ยตนเอง ขอ้ เสยี : ไม่สำมำรถป้องกันกำรติดเช้อื จำกโรคติดตอ่ ทำงเพศสัมพนั ธ์ 2. การคุมกาเนิดโดยใชอ้ ปุ กรณ์ กำรใชถ้ ุงยำงอนำมัยในเพศชำย กำรใช้หว่ งคมุ กำเนิดในเพศหญิง ข้อดี : สำมำรถปอ้ งกันกำรตดิ เช้ือจำกโรคตดิ ตอ่ ทำงเพศสมั พนั ธไ์ ด้ ขอ้ เสยี : ไม่สำมำรถป้องกันกำรต้งั ครรภไ์ ด้อย่ำงแน่นอน
การคมุ กาเนิด 3. การคุมกาเนิดโดยใช้สารเคมี กำรใชย้ ำคมุ กำเนิด ขอ้ ดี : สำมำรถใชใ้ นกรณีฉกุ เฉนิ ได้ เชน่ ถกู ขม่ ขนื ขอ้ เสยี : อำจส่งผลข้ำงเคยี งตอ่ ร่ำงกำยได้ 4. การทาหมัน กำรปอ้ งกนั ท่ีมีประสิทธิสูงท่สี ดุ ไดแ้ ก่ กำรตัดทอ่ นำอสุจิในเพศชำย กำรตัดทอ่ นำไขใ่ นเพศหญงิ ข้อดี : สำมำรถปอ้ งกันกำรต้ังครรภ์ได้อยำ่ งถำวร ขอ้ เสีย : ไมส่ ำมำรถมีบุตรเพ่ิมในอนำคตอีก
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: