Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้สุขศึกษาและพลศึกษา-ป.3 (2)

ใบความรู้สุขศึกษาและพลศึกษา-ป.3 (2)

Published by Aa Aa, 2022-01-26 04:53:42

Description: ใบความรู้สุขศึกษาและพลศึกษา-ป.3 (2)

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ วชิ าสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 3

ใบความรู้ การเจรญิ เตบิ โตของมนุษย์ การเจริญเติบโตของมนษุ ย์ ลกั ษณะและการเจรญิ เติบโตของรา่ งกายมนษุ ย์ เมอื่ เจรญิ เตบิ โตขน้ึ รา่ งกายของมนษุ ยม์ ีการเปลี่ยนแปลงไปตามเพศและวัย ทาใหม้ ลี ักษณะ รูปร่าง น้าหนกั และส่วนสูงแตกตา่ งกัน ดังภาพตอ่ ไปนี้ 1 2 วยั ทารก อายุ 0 – 1 ปี วยั ก่อนเรียน อายุ 1 – 6 ปี 3 4 ลักษณะรูปรา่ งจะเปล่ยี นไปตามวัย วยั เรียน อายุ 6 – 12 ปี วัยรนุ่ อายุ 12 – 20 ปี 5 6 วยั ผู้ใหญ่ อายุ 20 – 60 ปี วยั สงู อายุ อายุ 60 ปีขนึ้ ไป

ใบความรู้ การเจริญเติบโตของมนษุ ย์ ปจั จัยที่มผี ลต่อการเจรญิ เตบิ โต การท่เี ราจะเจรญิ เติบโตได้เป็นปกตนิ ั้นรา่ งกายจาเปน็ ต้องได้รบั ปจั จยั ท่ีส่งผลต่อการ เจริญเติบโต ดังนี้ พนั ธกุ์ รรม พันธ์กุ รรมเป็นการถ่ายทอดลักษณะต่างๆ จากบรรพบุรุษไปสลู่ ูกหลานทาใหม้ นษุ ยม์ ลี กั ษณะ การเจรญิ เติบโตทแ่ี ตกตา่ งกนั ไป เชน่ สดั สว่ นของรา่ งกาย ความสงู เพศ อากาศ อากาศจาเป็นตอ่ การดารงชีวติ และการเจรญิ เตบิ โต อากาศที่เราหายใจเข้าไปจะใช้ใน กระบวนการทางานต่างๆของร่างกาย น้า นา้ เป็นส่วนประกอบท่สี าคัญของอวยั วะตา่ งๆในร่างกาย เราควรดม่ื นา้ สะอาดอยา่ งน้อยวนั ละ 8 แก้ว เพ่อื ให้อวยั วะต่างๆทางานปกติ

ใบความรู้ การเจรญิ เติบโตของมนุษย์ ปจั จัยที่มีผลต่อการเจรญิ เตบิ โต การทเี่ ราจะเจรญิ เติบโตได้เป็นปกตนิ ้ันร่างกายจาเปน็ ตอ้ งได้รับปจั จัยที่ส่งผลตอ่ การ เจรญิ เตบิ โต ดังนี้ อาหาร เราจาเปน็ ต้องรับประทานอาหาร เพ่อื ใหร้ ่างกายได้รบั สารอาหารอย่างเพียงพอเพื่อใชใ้ นการ เจริญเตบิ โต และซอ่ มแซมสว่ นทสี่ ึกหรอของรา่ งกาย อาหารทม่ี ปี ระโยชน์ต่อร่างกาย คอื อาหาร หลัก 5 หมู่ อาหารหมู่ท่ี 1 เนอ้ื สตั ว์ นม ไข่ ถวั่ เมลด็ แหง้ สร้างเสริมการเจรญิ เติบโตและซอ่ มแซมสว่ นทส่ี กึ หรอของร่างกาย อาหารหมูท่ ี่ 2 ข้าว แป้ง น้าตาล ชว่ ยใหร้ า่ งกายทางานเป็นปกติใหพ้ ลงั งานแกร่ ่างกาย อาหารหมทู่ ่ี 3 ผกั ตา่ งๆสรา้ งภมู ติ า้ นทานโรคช่วยใหร้ ่างกายแขง็ แรง อาหารหมทู่ ี่ 4 ผลไม้ตา่ งๆสร้างภูมิต้านทานโรคชว่ ยใหร้ า่ งกายทางานปกติ อาหารหมทู่ ี่ 5 นา้ มันหรือไขมนั จากพชื และสตั ว์ใหพ้ ลังงานและความอบอ่นุ แกร่ ่างกาย

ใบความรู้ คณุ คา่ ของครอบครัวและเพ่อื น ความส้าคญั และความแตกตา่ งของครอบครวั การอยู่ในครอบครัวทม่ี ีความแตกต่างกนั และการถูกเลย้ี งดูทีไ่ ม่เหมือนกัน ทาใหค้ นเรามี ลักษณะนสิ ยั และพฤติกรรมแตกต่างกนั ไป ความส้าคัญของครอบครวั ครอบครัวเป็นสถานทแี่ รกที่เลี้ยงดูเราจนเติบโต และอบรมสง่ั สอนใหเ้ ราเปน็ คนดี มสี มาชิก ในครอบครัวทีร่ ู้จักชว่ ยเหลอื กนั ความแตกตา่ งของครอบครัว ครอบครัวมคี วามแตกต่างกนั ตามพนื้ ฐานของแต่ละครอบครัว ดังนี้ 1. ครอบครัวเดยี่ ว คือกล่มุ คนต้งั แต่สองคนขึ้นไปใชช้ วี ิตรว่ มกนั และมี ความสมั พนั ธ์กันเป็นครอบครัว เชน่ คชู่ ีวติ ชายกบั ชาย คู่ชีวติ หญิงกับหญิง 2. ครอบครัวขยาย คอื กลมุ่ คนหลายคนที่เปน็ ญาตพิ ีน่ ้องใช้ชีวติ ร่วมกันและมี ความสัมพนั ธก์ นั เป็นครอบครัว ประกอบดว้ ย พอ่ แม่ ลูก และญาติ 3. ครอบครัวพอ่ แมเ่ ดีย่ ว คอื กลมุ่ คนต้งั สองคนขนึ้ ไปใช้ชวี ิตร่วมกันและมี ความสัมพันธก์ ันเป็นครอบครัว เช่นกะเทยกับลูกติด หรอื ลูกบญุ ธรรม 4. ครอบครวั ข้ามรนุ่ คือกลมุ่ คนตั้งแต่สองคนขึน้ ไปใชช้ ีวิตรว่ มกนั และมี ความสัมพนั ธก์ นั เปน็ ครอบครวั เช่นหลานอย่กู ับปู่ ยา่ หรือตา ยาย

ใบความรู้ คุณค่าของครอบครัวและเพ่อื น วิธีสรา้ งความสมั พนั ธภาพในครอบครวั และกลุ่มเพ่ือน สัมพันธภาพ คอื ความสมั พันธ์ท่ีดรี ะหว่างบคุ คลการอยู่รว่ มกันในครอบครัวและกลุม่ เพื่อน จงึ ตอ้ งอาศยั การสรา้ งสมั พนั ธภาพ เพื่อใหใ้ ชช้ วี ิตอยรู่ ่วมกันอยา่ งมคี วามสุข วธิ สี รา้ งสมั พนั ธภาพในครอบครวั 1. ช่วยเหลอื งานในบา้ นเทา่ ทีส่ ามารถทาได้ 2. ใช้ความเคารพ เชื่อฟงั คาส่งั สอนของผใู้ หญ่ 3. ใชค้ าพดู สุภาพ ออ่ นหวานหน้าตายม้ิ แยม้ แจม่ ใสอยูเ่ สมอ 4. ใชเ้ วลาว่างทากิจกรรมรว่ มกบั สมาชิกในครอบครัว 5. ยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผูอ้ ่นื ไมท่ าอะไรตามใจตนเอง 6. ใหก้ าลังใจ และรว่ มมอื หาทางแก้ไขเมอ่ื ครอบครวั มปี ญั หา วิธีสร้างสัมพันธภาพในกลุม่ เพอ่ื น 1. ไม่เอาเปรียบหรอื รังแกเพือ่ น 2. มีนา้ ใจ รู้จักแบง่ ปนั และเอ้ือยเฟื้อเผอื่ แผต่ ่อเพือ่ น 3. ใชค้ าพูดท่สี ภุ าพกบั เพือ่ นและยม้ิ แย้มแจ่มใสเสมอ 4. ใหค้ วามช่วยเหลือเมื่อเพ่อื นเดอื นรอ้ นหรือมปี ัญหา 5. มีความจรงิ ใจ ไม่โกหกหลอกลวงเพือ่ น 6. รจู้ กั ยอมรับฟังความคิดเห็นของเพ่อื น

ใบความรู้ การลว่ งละเมดิ ทางเพศ การลว่ งละเมดิ ทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศ หมายถงึ การกระทาหรอื การพูดเกี่ยวกบั เรื่องทางเพศทีล่ ามก อนาจาร หรือการแสดงออกทางเพศตอ่ ผอู้ ืน่ โดยบุคคลนั้นไมย่ นิ ยอม เช่น ใชค้ าพดู หรือ สายตาแทะโลม กอด จบู ลบู คลา ข่มขนื่ ใชก้ าลังบังคบั ขม่ ขู่ หรอื ล่อลว่ งใหม้ เี พศสมั พันธ์ การหลกี เลยี่ งและป้องกนั พฤติกรรมทน่ี า้ ไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศ การหลกี เลยี่ งและปอ้ งกันจากการลว่ งละเมิดทางเพศ ทาได้ดังนี้ 1. แต่งกายเรยี บร้อยและเหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ถา้ มีใครมาจับ แตะต้อง สัมผสั ลูบไล้เนอ้ื ตัวร่างกายของเราและเราไมเ่ ตม็ ใจ 3. ไม่หลงเชื่อคาชักชวนหรอื ไมร่ ับสิ่งของจากคนทีไ่ มร่ ้จู ัก 4. ไม่อ่านหนังสอื หรือดสู ่ือลามก 5. ไม่ดื่มเคร่อื งด่มื ที่มีแอลกอฮอลแ์ ละเสพสารเสพติด 6. เคารพในสทิ ธเิ น้อื ตวั ร่างกายของผอู้ น่ื การล่วงละเมดิ ทางเพศ 1. การลว่ งละเมิดทางเพศ การทบี่ คุ คลแตะต้องสัมผสั เน้ือตัวร่างกายของผ้อู ่ืน โดยทเี่ ขาไมต่ ้องการ รวมถึงการที่บคุ คลถกู ชักชวนหรอื บังคบั ให้ตอ้ งสมั ผัสอวัยวะเพศของผู้อื่น 2. สิทธิในร่างกาย สัมผสั ที่ไมด่ ีและสัมผัสทดี่ ี เราเปน็ เจ้าของเนื้อตัวรา่ งกายของตนเอง มีสิทธทิ จ่ี ะปฏเิ สธใครกต็ ามไมใ่ ห้ มาสัมผัสรา่ งกายถ้าเราไมย่ ินยอม เราจึงต้องรจู้ กั สัมผัสทไ่ี ม่ดีและสัมผัสทดี่ ี 3. การหลกี เล่ียงและป้องกนั พฤตกิ รรมที่นา้ ไปสู่การล่วงละเมดิ ทางเพศ การเคารพในสทิ ธเิ น้อื ตัวรา่ งกายของกันและกัน แต่งกายใหเ้ รียบร้อย เหมาะสม ไม่ชกั ชวนหรือบงั คบั ผู้อน่ื ในเรื่องเพศ ไม่ดสู ่อื ยวั่ ยแุ ละไมด่ ืม่ เคร่ืองดืม่ ท่ี มีแอลกอฮอลจ์ นขาดสติ

ใบความรู้ การเคลือ่ นไหวรา่ งกายขนั้ พนื้ ฐาน การควบคุมรา่ งกายใหเ้ คลื่อนไหวในทา่ ทางท่ีถกู ต้อง คนเรามกี ารเคล่ือนไหว เชน่ การนอน คลาน นั่ง ยนื เดนิ วิ่ง กระโดด นับต้งั แต่ เปน็ ทารก จนเจรญิ เติบโตเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ และวยั ผู้สูงอายุซ่ึงการเคลือ่ นไหวของรา่ งกาย เกิด จากการส่ังงานของสมอง ท่สี งั่ ใหก้ ลา้ มเนื้อและกระดูกสว่ นต่างๆทางาน ประโยชน์ของการควบคุมการเคล่ือนไหวอยา่ งถกู ตอ้ ง 1. เคลอ่ื นไหวด้วยท่าทางตา่ งๆไดอ้ ยา่ งมนั่ คงคล่องแคลว่ วอ่ งไว 2. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมด้วยทา่ ทางต่างๆอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. สามารถเคลอื่ นไหวไดอ้ ย่างปลอดภยั 4. มบี ุคลกิ ภาพทด่ี รี ปู ร่างสมสว่ น

ใบความรู้ เล่นเกมสนกุ สร้างสุขทางใจ การเล่นเกมเบด็ เตล็ด เกม เป็นกจิ กรรมการออกกาลังกายประเภทหน่งึ ท่ีทาให้รา่ งกายแข็งแรง นิยมเล่นกันเป็น กลุ่ม ทาใหเ้ กิดความสนกุ สนาน เกมเบ็ดเตล็ด เปน็ เกมทมี่ ีกติกาการเลน่ ง่ายๆไม่ยงุ่ ยาก สว่ นใหญจ่ ะไม่ใช้อุปกรณ์ในการเล่น หรอื ใชอ้ ุปกรณ์น้อย เกมเบด็ เตล็ดที่เหมาะสมกับวัย หลักสา้ คัญในการเลน่ เกม การเล่นเกมใหส้ นกุ สนานและปลอดภัย ควรยึดหลกั ปฏิบัติ ดงั นี้ 1. เลอื กเลน่ เกมท่ีเหมาะสมกบั ความสามารถและความถนัดของตน 2. ไมเ่ ล่นเกมขณะท่รี ่างกายอ่อนแอหรอื เจบ็ ป่วยอยู่ 3. ไมเ่ ลน่ เกมที่มคี วามรุนแรงซ่ึงนาไปสู่อันตราย 4. เม่อื ชนะต้องไม่ดถู ูกเยาะเย้ยผแู้ พ้ 5. เมอ่ื แพ้ต้องไม่เสียใจหรือแสดงความโกรธ 6. เคารพกติกาและข้อตกลงของเกม

ใบความรู้ การออกกาลังกาย รปู แบบการออกกา้ ลังกาย การออกกาลังกาย เปน็ กจิ กรรมทร่ี า่ งกายได้ออกแรงใช้กลา้ มเน้ือกระดูกและขอ้ ในการ เคลอ่ื นไหวส่วนตา่ งๆของร่างกาย การออกกาลงั กาย มีหลายรูปแบบและมีประโยชนด์ ังตอ่ ไปนี้ ประโยชน์ของการออกกา้ ลังกาย 1. สนุกสนาน เพลิดเพลนิ จติ ใจแจม่ ใส 2. ไดเ้ คล่อื นไหว รา่ งกายแขง็ แรง 3. สรา้ งเสรมิ บุคลกิ ภาพให้สง่างาม 4. สรา้ งความรกั ความสามคั คีในกล่มุ เพอ่ื น 5. ฝึกความมีระเบียบวินัยในตนเอง

ใบความรู้ การสรา้ งเสริมและทดสอบสมรรถภาพทางกายเพ่ือสขุ ภาพ องคป์ ระกอบของสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ สมรรถภาพ หมายถงึ สภาพความสามารถและความพร้อมในการออกแรงปฏิบัตกิ จิ กรรม หรือทางานต่างๆ ได้โดยไม่เหนอ่ื ยงา่ ยและทาได้นานตามความต้องการ 1. ความอดทนของระบบหายใจและระบบไหวเวียนโลหิต 2. องคป์ ระกอบของร่างกาย 3. ความออ่ นตวั 4. ความอดทนของกล้ามเนื้อ 5. ความแขง็ แรงของกลา้ มเนือ้

ใบความรู้ การปอ้ งกนั โรคติดตอ่ ความหมายของโรคติดตอ่ โรคตดิ ต่อ หมายถงึ โรคท่ีเกดิ ข้ึนกับคนหรือสตั ว์ แลว้ สามารถตดิ ตอ่ หรือแพรก่ ระจายจาก คนหรอื สตั ว์ท่ปี ่วยเป็นโรคสู่คนหรือสตั ว์อ่นื ได้ เช่นโรคดังตอ่ ไปน้ี 1. โรคหวดั ใหญ่ 2. โรคตาแดง 3. โรคไข้เลอื ดออก 4. โรคหดั 5. โรคอีสกุ อใี ส

ใบความรู้ การป้องกนั โรคติดต่อ การปอ้ งกันโรคตดิ ตอ่ โรคติดต่อ หมายถึง โรคทีเ่ กิดข้นึ กบั คนหรือสัตว์ แล้วสามารถติดต่อหรอื แพรก่ ระจายจาก คนหรือสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคส่คู นหรอื สัตว์อ่ืนได้ เช่นโรคดังต่อไปน้ี การปอ้ งกนั โรคตดิ ตอ่ ท่ีส้าคัญ 1. แยกผู้ปว่ ยและแยกสิ่งของเครือ่ งใช้ตา่ งๆของผปู้ ว่ ยไม่ให้ปะปนกับผ้อู ่ืน 2. ไม่ใกล้ชิดกับผปู้ วดโรคหัดจนกวา่ จะแนใ่ จว่าหายแลว้ 3. เมื่อหายปว่ ยควรทาความสะอาดเครื่องนงุ่ หม่ ที่นอนใหส้ ะอาดอย่เู สมอ. 4. ดูแลรกั ษารา่ งกายใหแ้ ขง็ แรงดว้ ยการรบั ประทานอาหารท่ีมปี ระโยชน์และพักผ่อนอย่างเพียงพอ

ใบความรู้ อาหารหลัก 5 หมูแ่ ละธงโภชนาการ อาหาร 5 หมู่ อาหาร คือ ส่งิ ที่รับประทานเขา้ ไปแล้วชว่ ยสร้างเสรมิ ร่างกายให้แข็งแรงและเจรญิ เตบิ โต เรา จึงต้องเลอื กรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย และควรรบั ประทานอาหารให้หลากหลาย เพ่อื ใหไ้ ด้สารอาหารครบถ้วน หมู่ที่ 1 อาหารประเภทเนือ้ สตั ว์ ไข่ นม ถั่วชนดิ ตา่ งๆ อาหารเหล่าน้จี ะทาให้ร่างกายเจรญิ เตบิ โต หมู่ท่ี 2 อาหารประเภทขา้ ว แปง้ เผอื ก มนั และนา้ ตาล อาหารเหล่าน้ี ทาให้ร่างกายอบอุ่น และมีพลงั หมทู่ ่ี 3 อาหารประเภทผักต่างๆไดแ้ ก่ ผกั คะน้า ผกั กาด กะหล่าปลี ฟักทอง มะเขือ อาหารเหลา่ นที้ าให้มสี ขุ ภาพดี รา่ งกายแขง็ แรง ทอ้ งไม่ผูก หมูท่ ี่ 4 อาหารประเภทผลไม้ต่างๆ ไดแ้ ก่สม้ สบั ปะรด มะละกอ แตงโม กล้วย เงาะ อาหารเหลา่ นที้ าใหม้ ีสขุ ภาพดี ต้านทานโรคใหแ้ ก่รา่ งกาย หมู่ที่ 5 อาหารประเภทไขมันจากพชื และสัตว์ ได้แก่ น้ามัน จากสัตว์ น้ามนั จากพืช เนย อาหารเหล่าน้ที าใหเ้ กดิ ความอบอุ่น แกร่ า่ งกาย

ใบความรู้ ทันตสุขภาพ ความสา้ คญั ของฟัน ฟัน เป็นอวยั วะท่ใี ชใ้ นการบดเคี้ยวอาหารให้ละเอียด หากไม่มฟี ันจะไมส่ ามารถกดั และเคี้ยว อาหารได้ นอกจากนีฟ้ นั ยังช่วยให้ใบหนา้ ของเราสวยงามและทาให้พดู ออกเสยี งไดช้ ัดเจน ฟันเขียว ฟันกราม หน้าท.่ี ใช้ฉกี อาหาร หน้าทใี่ ชบ้ ดเคย้ี วอาหารให้ ละเอียด การดแู ลรักษาฟนั ควรปฏิบัติ ฟันตัด อย่างไร หน้าทใี่ ชก้ ดั หรอื ตัดอาหาร 1. แปรงฟันอยา่ งสมา่ เสมอ 2. ลดการกินขนมหวาน 3. ตรวจฟนั กับทันตแพทยต์ าม เวลา 4. แปรงฟนั อยา่ งถูกวิธี

ใบความรู้ ความปลอดภยั จากอุบตั เิ หตุในบ้าน โรงเรยี น และการ เดินทาง ความปลอดภัยจากอบุ ัติเหตุในบ้าน อุบตั ิเหตุ หมายถงึ เหตุการณ์ทเ่ี กดิ ขึ้นไม่ไดค้ าดคิดมากอ่ นหรอื ไม่รู้ลว่ งหน้า ซ่งึ ให้เกิดการ บาดเจบ็ หรือสญู เสียชีวติ และทรัพยส์ นิ การปฏบิ ัตติ นเพ่ือความปลอดภัยจากอบุ ัติเหตใุ นบ้าน ไม่วิ่งเลน่ ปีนป่ายในบา้ น ใช้ของมคี มอย่างระมัดระวงั จัดสง่ิ ของในบา้ นใหเ้ ปน็ ระเบียบ เชด็ มอื ใหแ้ ห้งก่อนใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ไม่เลน่ ส่ิงทท่ี าให้เกดิ ประกายไฟ

ใบความรู้ ความปลอดภัยจากอุบตั เิ หตุในบ้าน โรงเรียน และการ เดินทาง การขอความชว่ ยเหลือเมือ่ เกดิ เหตรุ า้ ยหรืออุบัตเิ หตุ เมอ่ื มีเหตรุ า้ ยหรอื ได้รับอุบัติเหตตุ ้องรบี ขอความช่วยเหลอื จากบคุ คลอ่ืน ซง่ึ บคุ คลทเี่ ราสามารถ ขอความช่วยเหลอื เมือ่ เกิดเหตุรา้ ยหรอื ได้รับอบุ ตั ิเหตุ ไดแ้ ก่ พ่อแม่ ผปู้ กครอง ครู อาจารย์ บุคคลที่ควรขอความชว่ ยเหลอื เมอ่ื มี เหตรุ ้ายหรืออบุ ัตเิ หตุ เพอ่ื น รุ่นพี่ ต้ารวจ หน่วยงานของรัฐหรือเอกชน

ใบความรู้ การปฐมพยาบาลเมือ่ บาดเจ็บจากการเลน่ การปฐมพยาบาลเมื่อบาดเจบ็ จากการเล่น การปฐมพยาบาลบาดแผลถลอก ทาไดโ้ ดยการล้างแผลให้สะอาด ซับแผลให้แห้ง ใชแ้ อลกอฮอล์เชด็ แผลและ ใส่ยารกั ษาแผลสดโดยไม่ต้องเปดิ แผล การปฐมพยาบาลเม่อื การปฐมพยาบาลรอยฟกชา้ บาดเจ็บในการเลน่ ทาได้โดยใช้ผา้ ห่อน้าแขง็ ประคบบรเิ วณฟกชา้ หลังจากนน้ั 1 วัน ให้ ประคบดว้ ยผ้าชุบนา้ อุ่น การปฐมพยาบาลเลอื ดกา้ เดาไหล ทาได้โดยกม้ หนา้ ลงใชม้ อื บีบจมูก และหายใจทางปาก หากเลอื ดไม่หยุดไหล ใหใ้ ช้ผา้ หอ่ น้าแขง็ ประคบบรเิ วณดงั้ จมูก การปฐมพยาบาลแผลถกู ของแหลมคมบาดหรอื ทม่ิ ต้า ทาได้โดยบาดแผลทไี่ ม่ใหญ่ ใช้มอื กดหา้ มเลอื ดให้หยดุ ไหล ใช้สาลีชุบ แอลกอฮอล์เชด็ รอบบาดแผลให้สะอาด ใสย่ ารักษาแผลสดและใชผ้ า้ กอ๊ ชปดิ แผล แลว้ นาสง่ หมอทันที การปฐมพยาบาลอาการข้อเคลด็ ทาได้โดยใชก้ ระเปา๋ น้าแขง็ หรอื ผา้ หอ่ นา้ แขง็ ประคบบริเวณข้อเคลด็ การห้ามเลือด เปน็ การทาใหเ้ ลือดหยุดไหล โดยใช้มือหรือส่ิงของต่างๆกดหรอื บบี บาดแผล ไว้ตรงจดุ ท่ีมีเลือดไหลออก กอ่ นทาการรกั ษาตอ่ ไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook