ขน้ั ตอนการเขียนแผนท่ีความคิด (ต่อ) (Baugh & Mellott, 1998) 4. เขียนคาอธิบายสัน้ ๆ กากบั ไว้แต่ละเส้น 5. ควรใช้สีและสัญลักษณ์ภาพท่แี ตกต่างกนั เช่น เพ่อื แสดงความแตกต่างระหว่างมโนทศั น์หลักและ มโนทศั น์ย่อย เพ่อื เรียกความสนใจและกระตุ้นความ คดิ สร้างสรรค์ จากขน้ั ตอนนี้ นาไปประยกุ ตเ์ ขยี นแผนการพยาบาลตอ่ ไป S. Tiansawad (5/06/2018) 51
การเขยี นแผนที่ Clinical Care Plan จากข้อมูลท่รี วบรวมได้ ให้นามาเขียนเป็ นเค้าโครงของ ปัญหา โดยเขียน “การวนิ ิจฉัยของแพทย์” หรือ “ปัญหา สุขภาพสาคัญ”ไว้ตรงกลาง เขียนอาการและอาการแสดงท่ปี ระเมนิ ได้ทงั้ หมด และ จัดให้เป็ นหมวดหมู่หรือเป็ นกลุ่ม เขียนข้อมูลการรักษา หรืออ่ืนๆ ลงในแผนภาพ เช่ือมโยงความสัมพนั ธ์ของข้อมูลทงั้ หมด เขียนข้อวนิ ิจฉัยการพยาบาลและกจิ กรรมการพยาบาล (Baugh & Mellott, 1998) S. Tiansawad (5/06/2018) 52
ขัน้ ท่ี 1: วาดแผนภาพข้อมูลปัญหาสุขภาพของผู้ป่ วย S. Tiansawad (5/06/2018) 53
ขัน้ ท่ี 2: เตมิ ข้อมูลอาการ & อาการแสดงท่เี ก่ียวข้อง S. Tiansawad (5/06/2018) 54
ขัน้ ท่ี 3: เตมิ ข้อมูลเก่ียวกับการรักษา S. Tiansawad (5/06/2018) 55
ขัน้ ท่ี 4: เช่ือมโยงข้อมูลและอธิบายความสัมพนั ธ์ S. Tiansawad (5/06/2018) 56
ขัน้ ท่ี 5: ระบขุ ้อวนิ ิจฉัยการพยาบาล และกจิ กรรมการพยาบาล S. Tiansawad (5/06/2018) 57
- Psychological support Psychological Risk to nutritional - Offer high protein & - Advice & demonstrate distress (anxiety & alteration iron diet as tolerated relaxation techniques - Divide several meals stress) (< requirement) - Suggest relative bring Anorexia & food of preference Medication: insomnia eat little food -Emotional support Tryptanol Depressed & Mild pale, Hb Medication: - Record V/S discouraged 8.9, Hct 27.6 Ferli 6 - Observe sign & symptoms Rx: plan chemotherapy Female client with Risk factor of DVT Risk to Health education pulmonary Risk to drug Ovarian Cancer side effects Medication: emboli Pelvic Tramal & Left leg Medication: Paracetamol swelling & pain Orfarin massDischarge PT 15.5 & Abdominal & Patho. Pain & PTT 39.4 discomfort metastasis Discomfort bleeding sq. cell CA per vg. - Record V/S Medication: - Rest Risk to - Observe signs & symptoms Air-X - Elevate leg bleeding (dry mouth, sour metallic taste, - Upright position - Accident & constipation, blurred vision, bleeding precautions palpitation - Monitoring PT &PTT etc.) Written by Assist. Prof. Dr. Sujitra Tiansawad (August 10, 2006) lab. 58 S. Tiansawad (5/06/2018)
S. Tiansawad (5/06/2018) 59
ประโยชนข์ องแผนท่ีความคิดในการเรยี นการสอน ผู้เรียนสามารถใช้ข้อมูลท่มี ีอยู่มากมายมาสังเคราะห์ให้ เป็ นองค์รวมท่แี สดงความสัมพนั ธ์ระหว่างข้อมูลอย่าง ชัดเจน (Beitz, 1998) ผู้เรียนเรียนรู้วธิ ีการจัดการข้อมูลท่ซี ับซ้อนของผู้ป่ วย และ มองผู้ป่ วยเป็ นองค์รวมมากขนึ้ (Beitz, 1998) ผู้เรียนสามารถเช่ือมโยงความรู้จากทฤษฎีสู่การปฏบิ ัติ (Kathol et al, 1998) ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พฒั นาทกั ษะจากการทางานของสมอง ทงั้ สองซีก ช่วยส่งเสริมการคดิ วจิ ารณญาณ การคิด สร้างสรรค์และการเรียนรู้ (Beitz, 1998; King & Shell, 2002; Schuster, 2000) S. Tiansawad (5/06/2018) 60
ประโยชนข์ องแผนที่ความคิดในการเรยี นการสอน -2 ช่วยพฒั นาความจา ผู้เรียนสามารถจาได้ดี (knowledge retention) แผนการพยาบาลท่เี ขยี นแบบแผนท่คี วามคดิ ปรับเปล่ยี น ได้ง่าย เหมาะสมกับสถานการณ์ของผู้ป่ วยท่ี dynamic (King & Shell, 2002) ผู้เรียนได้พฒั นาทกั ษะการคดิ วจิ ารณญาณ และไม่ คัดลอกแผนการพยาบาลจากตารา (Castellino & Schuster, 2002) (ส่วนผู้เรียนประเมินว่า ลด paperwork ประหยดั เวลาและแรงงาน) ช่วยพฒั นาทกั ษะการตัดสนิ ใจ (clinical judgment and decision making) ของผู้เรียน (Beitz, 1998; Gerdeman et al., 2012) S. Tiansawad (5/06/2018) 61
Student Reflection on Concept Mapping care plan สุจติ รา เทยี นสวัสด์ิ และคณะ (2550)62 S. Tiansawad (5/06/2018)
ขอ้ จากดั ของแผนที่ความคิด แผนท่คี วามคิดเหมาะสมสาหรับ visual learners (ผู้เรียนท่ถี นัดหรือเรียนรู้ได้ดจี ากภาพ แผนภมู ิ และการใช้จนิ ตนาการ) แต่อาจไม่เหมาะสม สาหรับ linear thinkers ผู้เรียนท่ไี ม่คุ้นเคยหรือไม่รู้กระบวนการเขียนอาจ รู้สึกว่ายาก และใช้เวลามาก S. Tiansawad (5/06/2018) 63
ขอ้ ควรคานึงถึงในการใช้ Mapping ใน การเรยี นการสอน วัตถุประสงค์ต้องชัดเจนว่าต้องการให้ผู้เรียนเรียนรู้หรือ พฒั นาอะไร ออกแบบงานให้เหมาะสม เตรียมความพร้อมให้ผู้เรียน ให้มโี อกาสฝึ กทา ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และทาอย่างต่อเน่ือง เพ่อื ให้เกดิ ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ การประเมินผลต้องสอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ ส่งิ สาคัญ คอื ผู้สอนควรใช้เทคนิคเดยี วกนั และ 64 ให้คาแนะนาแก่ผู้เรียนท่สี อดคล้องกัน S. Tiansawad (5/06/2018)
Reflection: การสะท้อนคิด S. Tiansawad (5/06/2018)65
Reflection: การสะท้อนคิด เป็นกระบวนการพินิจพิเคราะห์ ตรกึ ตรอง ใครค่ รวญ อย่างลึกซึ้งตงั้ คาถามเก่ียวกบั สถานการณ์ท่ีเกิดขึน้ อย่างครอบคลมุ ทุกด้านแยกให้เหน็ ปัญหาที่เป็นเหตผุ ล ในการปฏิบตั ิ ทาให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และ ส่งผลต่อการแก้ปัญหาท่ีเหมาะสม เป็นการคิดทบทวนงานอย่างใดอย่างหน่ึงหรอื การ ประเมินตนเองหรอื การวิเคราะหก์ ารเรียนรทู้ ี่เกิดขนึ้ “การคิดไตรต่ รอง” 6S6. Tiansawad (5/06/2018)
Reflection: “การคิดไตร่ตรอง” เป็นปฏิกิริยาของสมองที่สะท้อนคิดอย่างใครค่ รวญ ละเอียดถ่ีถว้ นเก่ียวกบั ส่ิงท่ีบคุ คลนัน้ มีประสบการณ์ มา เพื่อถ่ายโอนความรสู้ ึกต่างๆของตนเองก่อนที่จะ สื่อสารกบั ผอู้ ื่นด้วยการพดู หรอื การเขียน เป็นกระบวนการคิดระดบั สงู ที่เรียกว่า การคิดแบบ อภิปรชั ญา (metacognition) เป็น “การคิดเก่ียวกบั การคิด” ของตนเอง S67. Tiansawad (5/06/2018)
ความสาคญั ของการสะท้อนคิด เปิ ดโอกาสให้มีการสงั เกตและวิเคราะหค์ วามคิดของ ตนเอง พฒั นาทกั ษะการสรา้ งและจดั ลาดบั ความคิดอย่างเป็น ระบบ พฒั นาทกั ษะการคิดวิเคราะหแ์ ละสงั เคราะหข์ องตนเอง เปิ ดโอกาสในการส่ือสารความคิดของตนเองกบั ผอู้ ื่นถึงสิ่ง ที่ตนเองเข้าใจ ส่งเสริมให้เป็นนักคิดท่ีดี ฝึ กการตงั้ คาถามและให้เหตผุ ล 6S8. Tiansawad (5/06/2018)
ความหมายย่อยของการคิดไตร่ตรองหรือการสะท้อนคิด 6S9. Tiansawad (5/06/2018)
รปู แบบของการสะท้อนคิด Reflection-in-action: การสะท้อนคิดขณะ ปฏิบตั ิงาน คิดถึงสิ่งที่กาลงั เกิดขึน้ ขณะนัน้ ใช้การสงั เกต อย่างพินิจพิเคราะห์ และให้ความสนใจกบั ประสบการณ์ส่วนบคุ คล สะท้อนความเข้าใจเกี่ยวกบั การปฏิบตั ิและ ความร้สู ึกของตนเองที่นาไปส่กู ารตดั สินใจ ปฏิบตั ิ และการจดั การปัญหา 7S0. Tiansawad (5/06/2018)
รปู แบบของการสะท้อนคิด Reflection-on-action: การสะท้อนคิดหลงั การ ปฏิบตั ิงาน คิดถึง/ทบทวนสิ่งที่เกิดขึน้ หรือกระทาไปแล้ว เพื่อความกระจ่างในเรื่องที่เกิดขึน้ และความ เข้าใจในการกระทาของตนเองท่ีนาไปส่ผู ลลพั ธ์ 7S1. Tiansawad (5/06/2018)
องคป์ ระกอบสาคญั ของการสะท้อนคิด ตวั บคุ คล – ผปู้ ฏิบตั ิงาน ผเู้ รียน ความร้เู ก่ียวกบั ส่ิงท่ีจะต้องเรียนรู้ วิธีการในการเรียนรู้ S72. Tiansawad (5/06/2018)
การใช้กระบวนการสะท้อนคิด เพื่อพฒั นาการเรียนรู้ การสะท้อนคิดด้วยตนเอง (self-reflection) การสะท้อนคิดกบั กล่มุ (peer reflection) การฝึ กในกล่มุ ผเู้ รียนโดยครผู สู้ อน การสะท้อนคิดกบั ผรู้ ่วมงาน 7S3. Tiansawad (5/06/2018)
การสะท้อนคิดด้วยตนเอง ต้องอาศยั การตระหนักร้ใู นตนเอง (self- awareness) และความเข้าใจในตนเอง (self- understanding) การฝึ กสะท้อนคิดด้วยตนเองเป็นประจาจะทา ให้บคุ คลได้เรียนร้จู ากประสบการณ์ในชีวิตย่ิง ทาให้ได้พฒั นาการตระหนักร้แู ละความเข้าใจใน ตนเองมากขึน้ S74. Tiansawad (5/06/2018)
การตระหนักรู้ การฝึ ก และความเข้าใจ สะท้อนคดิ ในตนเอง S75. Tiansawad (5/06/2018)
ระยะของกระบวนการสะท้อนคิด 1. การตระหนักร้ใู นตนเอง รบั ร้ถู ึงความร้สู ึกและ ความคิด 2. การวิเคราะหค์ วามร้สู ึกและความร้เู ก่ียวกบั สถานการณ์ 3. การพฒั นามมุ มองและความคิดใหม่ S76. Tiansawad (5/06/2018)
เคร่อื งมือ/กลยทุ ธท์ ี่ใช้ในการสะท้อนคิดเพ่ือ พฒั นาการเรียนรู้ ใช้คาถามเป็นส่ือกระต้นุ การคิด มีการสื่อสารความคิด โดยการบนั ทึกหรือการพดู การเขียนบนั ทึก บนั ทึกประจาวนั (reflective diaries หรือ journals) บนั ทึกทางคลินิก (clinical logs) 7S7. Tiansawad (5/06/2018)
การเขียนบนั ทึกจากการสะท้อนคิด Unstructured – ไม่กาหนดหวั ข้อ แต่อธิบาย วตั ถปุ ระสงคข์ องการเขียน Semi-structured – กาหนดเฉพาะหวั ข้อสาคญั Structured – กาหนดหวั ข้อสาคญั และมีแนวทาง (guideline) ในการเขียน หมายเหตุ - ขนึ้ อยู่กับวัตถุประสงค์ของการ นาไปใช้ 7S8. Tiansawad (5/06/2018)
Reflective Diaries, Journal, Clinical Logs เป็นการเขียนบนั ทึกประจาวนั หรือรายงานทาง คลินิกโดยการคิดไตร่ตรองเกี่ยวกบั ประสบการณ์ท่ี ผา่ นไปแล้ว เป็นกระบวนการของ “Reflection on action” “Reflection on action” คือ การวิเคราะหแ์ ละ ตีความประสบการณ์ที่ทาไปแล้ว เพื่อค้นหา ความรู้ ที่ได้นาไปใช้ และตรวจสอบ ความร้สู ึก ท่ีมีต่อ สถานการณ์นัน้ (Schon, อ้างใน Lau et al, 2002) 7S9. Tiansawad (5/06/2018)
Reflective Diaries or Journal เป็นวิธีการที่สะดวกสาหรบั การฝึ กการสะท้อนคิด การเขียนไดอารี่มกั เป็นแบบ unstructured ไมม่ ีการ กาหนดหวั ข้อ มกั เขียนเร่ืองราวของตนเอง เป็นการ มองสารวจตนเอง การเขียน journal เพ่ิมการบรรยายกิจกรรมและ สถานการณ์ต่างๆท่ีผบู้ นั ทึกเข้าไปเกี่ยวขอ้ งด้วย รวมทงั้ สารวจวิเคราะหค์ วามคิด ความร้สู ึกของ ตนเอง และสิ่งท่ีได้เรียนรู้ 8S0. Tiansawad (5/06/2018)
แนวทางสาหรบั การสะท้อนคิดและบนั ทึก คิดทบทวนประสบการณ์/เหตกุ ารณ์ที่จาได้ให้มากที่สดุ รวบรวมรายละเอียด บรรยายเหตกุ ารณ์ว่าเกิดอะไรขึน้ รสู้ ึกอย่างไรกบั เหตกุ ารณ์นัน้ และคิดว่าคนอ่ืนรสู้ ึกอย่างไร สิ่งที่เป็นไปตามความคาดหวงั และไม่เป็นไปตามท่ี คาดหวงั ทาไมเหตกุ ารณ์จงึ เป็นเช่นนัน้ ทาไมจึงรสู้ ึกเช่นนัน้ สาหรบั สิ่งที่ไม่เป็นไปตามท่ีคาดหวงั จะปรบั ปรงุ แก้ไขในครงั้ ต่อไปอย่างไร ทบทวนแนวทางท่ีจะใช้ในการแก้ไข มีเหตผุ ลและขอ้ มูลใด ช่วยในการตดั สินใจ S81. Tiansawad (5/06/2018)
ตวั อย่างการใช้ clinical log ใน กล่มุ นักศึกษาพยาบาลระดบั ปริญญาโท ใช้ในการฝึ กประสบการณ์ทางคลินิกที่แผนก ผปู้ ่ วยนอก นักศึกษาฝึ กปฏิบตั ิให้การดแู ลผปู้ ่ วยที่มารบั บริการที่ห้องตรวจ โดยศึกษาข้อมลู และประเมิน ผปู้ ่ วย เลือกปัญหาที่คิดว่าสาคญั ท่ีสดุ มาวาง แผนการพยาบาล แล้วให้การพยาบาลตามแผน ภายหลงั การปฏิบตั ิงาน เขียนบนั ทึก ประสบการณ์ตามหวั ข้อท่ีกาหนด เป็นแบบก่ึง โครงสร้าง S82. Tiansawad (5/06/2018)
สาระสาคญั ใน clinical Logs (1) ข้อมลู ทวั่ ไปของผปู้ ่ วย โดยย่อเฉพาะประเดน็ สาคญั อภิปรายปัญหาสาคญั ของผปู้ ่ วย พร้อมทงั้ ข้อมลู จากการประเมิน การรกั ษา และเหตผุ ลทีเ่ ลือก ปัญหานัน้ กิจกรรมการพยาบาลที่ได้ปฏิบตั ิกบั ผปู้ ่ วยเพ่ือ แก้ปัญหานัน้ และเหตผุ ลทีเ่ ลือกใช้กิจกรรมนัน้ ปฏิกิริยาตอบสนองของผปู้ ่ วย หรือผลลพั ธท์ ี่ เกิดขึน้ S83. Tiansawad (5/06/2018)
สาระสาคญั ใน clinical Logs (2) ประเมินผลสาเรจ็ ของงาน - บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ หรือไม่ ปัญหาและอปุ สรรค แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข สิ่งท่ีนักศึกษาได้เรียนรู้ และต้องการเรียนรู้ เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถปฏิบตั ิได้ดียิ่งขึน้ ใน อนาคต ความร้สู ึกของนักศึกษา และความพึงพอใจใน ประสบการณ์ครงั้ นี้ 8S4. Tiansawad (5/06/2018)
Clinical Conferences เป็นการอภิปรายแลกเปลี่ยนในกล่มุ ย่อย เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสาหรบั การฝึ กทกั ษะ การสะท้อนคิดระหว่างการปฏิบตั ิทางคลินิก สาระของการสะท้อนคิด มีทงั้ ความร้สู ึก ความคิด และความรู้ S85. Tiansawad (5/06/2018)
ตวั อย่างการใช้ Clinical conferences ใน นักศึกษาพยาบาลระดบั ปริญญาตรี นักศึกษาสงั เกตการณ์การตรวจรกั ษาผปู้ ่ วยนรีเวชที่ห้อง ตรวจผปู้ ่ วยนอก ประเดน็ ท่ีต้องการให้นักศึกษาได้เรยี นรู้ คือ เรื่อง เพศ สภาวะ (gender) และผลกระทบต่อภาวะสขุ ภาพของ ผหู้ ญิง หลงั การสงั เกต ให้นักศึกษาสะท้อนคิดในกล่มุ นักศึกษาบรรยายสถานการณ์ที่สงั เกตได้ ความรสู้ ึก สิ่งท่ี ได้เรียนรู้ ส่ิงที่ตนเองควรปฏิบตั ิในอนาคต 8S6. Tiansawad (5/06/2018)
Questions & Answers S. Tiansawad (5/06/2018) 87
Search