Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 10,000 คุรุชน คนคุณธรรม นางสุดาทิพย์ สนั่นเอื้อ ประจำปี 2566

10,000 คุรุชน คนคุณธรรม นางสุดาทิพย์ สนั่นเอื้อ ประจำปี 2566

Published by อภิศร ทิพเสนา, 2023-07-19 05:35:38

Description: นางสุดาทิพย์ สนั่นเอื้อ ครูโรงเรียนบ้านโนนสวรรค์

Search

Read the Text Version

ก คำนำ แบบรายงานประวัติผู้ประกอบวิชาชีพครูและผลงานเล่มน้ี จัดทาขึ้นเพ่ือเสนอขอรับรางวัล “๑๐,๐๐๐ คุรุชน คนคุณธรรม” ประจาปี ๒๕๖๖ ประเภทครู ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พื้นฐาน ขอขอบพระคุณ นายอภิศร ทิพเสนา ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ คณะกรรมการ การศึกษาข้ันพื้นฐาน คณะครู ผู้ปกครองและชุมชน ท่ีให้การสนับสนุนและเอื้อเฟื้อข้อมูล จนแบบรายงาน ประวตั ิและผลงานเลม่ น้ีสาเรจ็ ไปได้ด้วยดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแบบรายงานประวัติผู้ประกอบวิชาชีพครูและผลงานเล่มน้ี จะอานวยประโยชน์ แกผ่ ทู้ ีส่ นใจศึกษาค้นควา้ หากมีข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทาขออภัย ณ ทนี่ ด้ี ว้ ย สุดาทพิ ย์ สนน่ั เอื้อ ผจู้ ดั ทา

ก สำรบญั หนำ้ ก คานา ข สารบญั ๑ ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ส่วนบุคคล ๒ ตอนที่ 2 ผลการประพฤติปฏบิ ัติตน และผลการปฏบิ ัตงิ านตามเกณฑ์เอกสารและหลกั ฐานอา้ งอิง ๒ ๗ ๑. ความพอเพยี ง ๙ ๒. ความกตัญญู ๑๕ ๓. ความซ่ือสตั ย์สุจรติ ๒๐ ๔. ความรับผดิ ชอบ ๒๕ ๕. อดุ มการณค์ ณุ ธรรม ๒๖ ตอนที่ 3 ความคดิ เหน็ ของผูบ้ ังคบั บัญชาชนั้ ต้นเกย่ี วกบั คณุ ลกั ษณะ คณุ สมบัติ ภาคผนวก

แบบเสนอขอรบั การพิจารณาเพือ่ ยกยอ่ งเชิดชเู กยี รติ “๑๐,๐๐๐ ครุ ชุ น คนคุณธรรม” ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๖ ตอนที่ ๑ ขอ้ มลู ส่วนบุคคล ประเภท  ครู ผู้บริหาร ชอ่ื นาย  นาง นางสาว สดุ าทพิ ย์ นามสกลุ สนั่นเออ้ื Name Mrs. Sudathip SURNAME Sananoue อายุ ๔๖ ปี วทิ ยฐานะ ปฏิบตั กิ าร ชานาญการ  ชานาญการพิเศษ เชีย่ วชาญ เช่ยี วชาญพเิ ศษ วฒุ ิการศกึ ษา ตา่ กวา่ ปริญญาตรี  ปรญิ ญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก สถานทปี่ ฏิบตั ิงาน โรงเรยี น บา้ นโนนสวรรค์ สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาหนองคาย เขต ๒ เลขที่ ........-........หมู่ ๖ ถนน .........-.........ตาบลรตั นวาปี อาเภอรตั นวาปี จงั หวดั หนองคาย รหสั ไปรษณีย์ ๔๓๑๒๐ โทรศพั ท์ ................-.............. โทรสาร ................-............... E-mail : [email protected] ท่อี ยู่ทต่ี ดิ ต่อไดส้ ะดวก เลขที่ ๑๔๕ หมู ๑๐ ถนน ....-…. ตาบลรตั นวาปี อาเภอรตั นวาปี จงั หวัด หนองคาย รหสั ไปรษณยี ์ ๔๓๑๒๐ โทรศพั ท์..........-......... โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่ ๐๙๕-๖๗๑๐๘๗๙ E-mail : [email protected]

๒ ตอนที่ ๒ ผลการประพฤตปิ ฏบิ ัติตน และผลการปฏบิ ัติงานตามเกณฑ์ เอกสารและหลักฐานอา้ งองิ ๑. ความพอเพยี ง ๑.๑ ประหยดั อดออมใช้ชีวติ แบบพอเพียง ข้าพเจา้ ดารงชวี ติ ตามแนวทางหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยใช้จา่ ยเงนิ เพื่อซ้อื สนิ คา้ หรือบริการอยา่ งมีเหตผุ ลและคานึงถงึ รายรบั เกบ็ ออมเงนิ บางส่วนเพอื่ เอาไวใ้ ชจ้ า่ ยในคราวจาเปน็ โดยมี หลกั การว่า “ออมก่อนจ่าย” บริจาคให้ทานทาบญุ ตามกาลงั และโอกาส ไดร้ ับโล่ประกาศเกียรตคิ ณุ โรงเรยี นท่ีสนบั สนนุ การออมแกน่ ักเรียนดีเดน่ เขา้ ร่วมประชุมคณุ ธรรมนาความรูส้ ู่การเรยี นการสอนตาม หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งเพ่ือนาความรู้และคุณธรรมท่ีไดร้ บั มาใช้ในการพัฒนาตนเอง งานในหนา้ ท่ี ศาสนาและวฒั นธรรม สงิ่ แวดล้อมและสังคม และเป็นแบบอย่างท่ดี ีในการประกอบสมั มาอาชพี อยอู่ ย่าง พอเพยี ง ปลูกพืชผกั สวนครัว เลีย้ งปลาในบอ่ ดินเพอ่ื นามาประกอบอาหาร ลดภาระคา่ ใชจ้ า่ ยในครวั เรอื น นอกจากนี้ขา้ พเจา้ ยังปลูกฝังและสรา้ งความตระหนกั ใหน้ กั เรียนประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตามหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียง โดยให้ความร้กู ับนักเรียนเพือ่ ลงสกู่ ารปฏิบตั ิ กจิ กรรมทรี่ ่วมทากับนกั เรียน เชน่ การ เก็บ คัดแยกขยะ การปลกู พืชผักสวนครัว และการออมเงนิ เมื่อนักเรยี นมีทกั ษะทด่ี แี ล้วจะสามารถเป็น ตัวอย่างที่ดใี หก้ บั บคุ คลในครอบครัวได้ ทาสวน ปลกู ผกั สวนครวั เล้ยี งปลาในบอ่ ประกอบอาหารรับประทาน ลดคา่ ใชจ้ า่ ยในครวั เรือน

๓ ๑.๒ ละเว้นจากอบายมขุ และสง่ิ เสพติดทุกชนิด ขา้ พเจ้าประพฤติและปฏบิ ัติตนละเวน้ จากอบายมขุ และส่ิงเสพตดิ ทกุ ชนดิ รักษาศีล ๕ ปฏิบตั ติ น เป็นพุทธศาสนิกชนทด่ี ี โดยทาบญุ ตามศาสนสถานต่าง ๆ และร่วมงานทางศาสนาตามโอกาสอนั ควร เชน่ นานักเรยี นรว่ มงานสร้างอุโบสถ งานแหเ่ ทียนเข้าพรรษา ปฏบิ ตั ธิ รรม ตลอดจนทาโรงทานในโอกาสท่ี พระสงฆแ์ สดงธรรมในชว่ งเวลาเข้าพรรษา ท้งั นีเ้ พอื่ ปลูกฝงั ใหน้ ักเรียนเห็นคณุ คา่ ของการละเว้นอบายมุข และสรา้ งคุณงานความดี เจริญเติบโตไปเป็นเยาวชนท่ีดีของชุมชน สังคมและประเทศชาตติ ่อไป ปฏบิ ตั ติ นเปน็ พุทธศาสนิกชนที่ดี ร่วมงานประเพณชี ุมชนตามควร ๑.๓ ใช้ทรัพยากรสว่ นรวมอย่างประหยัดและค้มุ ค่า ข้าพเจา้ เป็นแบบอยา่ งดา้ นการประหยัด มธั ยัสถ์ และใช้ทรพั ยากรสว่ นรวมอย่างคุ้มคา่ ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากเมื่อมอี ุปกรณ์หรอื ส่ิงของตา่ งๆ ชารดุ เสียหายแตป่ ระเมนิ แล้วยงั สามารถซอ่ มแซมได้ ขา้ พเจา้ ก็จะ ซ่อมแซม ปรับปรุงส่ิงของเหล่านนั้ ให้สามารถใช้ประโยชนไ์ ด้ โดยไม่ตอ้ งซอ้ื ของใหม่ เช่น การทาสปี รบั ปรงุ ชัน้ วางของ ทาสกี ระดานดาที่เกา่ ใหม้ ีสีสันสวยงามขึ้น การทาสีปรบั ปรงุ ห้องเรยี น โตะ๊ ทางาน และหม่นั ตรวจสอบอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ให้อยู่ในสภาพทพี่ ร้อมใช้งานเพื่อความปลอดภัยของนกั เรยี น รวมถงึ การ ปรับปรงุ ซอ่ มแซมหอ้ งเรียนให้น่าอยู่น่าเรยี น ตลอดจนบอกประโยชนข์ องการรกั ษาทรพั ยากรสว่ นรวมให้ นกั เรียนเข้าใจ ส่งเสรมิ ปลูกฝังใหน้ กั เรยี นช่วยกันทานุ บารุงและใชส้ ่งิ ของตา่ ง ๆ ให้ใช้งานไดน้ านสง่ ผลให้ นกั เรยี นมีทกั ษะชวี ติ ในการรกั ษาสิ่งของใหค้ งทน ซ่อมแซม ปรับปรงุ ส่งิ ของเคร่ืองใชส้ ่วนรวมใหใ้ ชง้ านได้นาน

๔ ๑.๔ มีมนุษยสมั พนั ธท์ ด่ี ีตอ่ เพื่อนร่วมงาน และสงั คม ขา้ พเจา้ ปฏบิ ัตติ นโดยยดึ หลกั พรหมวหิ าร ๔ คอื เมตตา กรณุ า มทุ ติ า และ อุเบกขา รกั ษาความ สมคั รสมานสามคั คี มนี ้าใจ เอื้อเฟ้อื เผื่อแผต่ ่อเพื่อนร่วมงาน เสียสละและทางานรว่ มกับผู้อ่ืนไดอ้ ย่าง ราบรื่นและประสบความสาเรจ็ ทัง้ ในองคก์ รและองคก์ รอืน่ ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ปฏบิ ัตติ ามคาสงั่ ของ ผูบ้ งั คบั บัญชา อีกท้ังการทางานรว่ มกบั ผอู้ ืน่ น้นั ข้าพเจา้ ใช้หลักกลั ยาณมติ ร และมีมนุษยส์ ัมพันธท์ ดี่ ี ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อนื่ สามารถทางานรว่ มกบั ผ้อู ่นื ได้ทุกกลุ่ม ทุกเพศ และทุกวยั จงึ ไดร้ ับการ ยอมรบั จากผบู้ ริหารผู้รว่ มงาน ผูป้ กครอง และประชาชนทว่ั ไป นอกจากนี้ ข้าพเจา้ มีความสามารถในการ ประสานงาน มีเหตุผลแกป้ ัญหาไดด้ ี มีเทคนคิ การพดู ชกั ชวน เสนอแนะ ใหก้ าลงั ใจ มีความอดทนอด กลัน้ รูจ้ กั ควบคุมอารมณ์ ไมใ่ ช้อารมณ์ในการตัดสนิ ปัญหา และใช้หลักการประนีประนอมเป็นหลัก สามารถทางานรว่ มกับผูอ้ นื่ โดยสามารถวางตวั ในการเป็นผนู้ า ผูต้ าม เป็นผใู้ ห้และผ้รู ับท่ดี ี มีหลักในการ ทางาน มคี วามบริสทุ ธิ์ยตุ ิธรรมและทางานอยา่ งโปร่งใส ปราศจากอคติ ยึดประโยชน์ของนักเรียน และ ส่วนรวมเปน็ ท่ตี ้งั และมจี ิตอาสาชว่ ยเหลอื งานชมุ ชนตามโอกาสอันควร การประพฤติปฏบิ ตั ิตนขา้ งตน้ ส่งผลใหข้ ้าพเจ้าไดพ้ ฒั นาตนเองในดา้ นตา่ ง ๆ เปน็ แบบอย่างทด่ี ใี ห้แก่เพื่อนรว่ มงาน นักเรยี น การทางาน รว่ มกับผอู้ ื่น อกี ทั้งยังเป็นประโยชนต์ อ่ สถานศึกษาและองค์กรอ่ืน ๆ ท่ีรว่ มงาน ส่งผลให้งานประสบ ความสาเรจ็ ตามวตั ถุประสงคท์ ี่วางไว้ องคก์ รมมี นษุ ยสมั พนั ธท์ ีด่ ตี ่อกนั มีมนษุ ยสัมพนั ธ์ท่ีดตี ่อเพอ่ื นร่วมงานและองคก์ รตา่ ง ๆ

๕ ๑.๕ ชว่ ยเหลือเกื้อกลู เพอ่ื นรว่ มงานและสงั คมในด้านต่าง ๆ อย่างสมา่ เสมอ ข้าพเจ้าช่วยเหลือเกอ้ื กูลเพอื่ นร่วมงานและสังคมในดา้ นต่าง ๆ อยา่ งสมา่ เสมอ มคี วาม เอือ้ เฟอ้ื เผ่ือแผ่ แบ่งปัน และสรา้ งสัมพันธภาพทด่ี ตี อ่ เพอ่ื นรว่ มงาน เช่น อาสาชว่ ยงาน กจิ กรรมตา่ ง ๆ จน ประสบผลสาเรจ็ รว่ มงานกบั ผู้นาชุมชน และชุมชน รว่ มกจิ กรรมในสังคมตามความเหมาะสม ตลอดจน รว่ มแสดงความยนิ ดีและเป็นขวญั กาลังใจแก่เพ่ือนรว่ มงาน หรอื สมาชกิ องค์วิชาชพี ครูอยา่ งสม่าเสมอ นอกจากขา้ พเจา้ จะเป็นแบบอย่างแล้วยงั ปลกู ฝงั นักเรียนใหม้ ีจติ สาธารณะเสมอ เช่น การช่วยงานใน ชมุ ชน หรือการร่วมประเพณีตา่ ง ๆ ของชมุ ชน ปฏิบตั งิ านด้วยความเตม็ ใจกับเพอ่ื น ๆ ซ่งึ จะสง่ ผลให้ นกั เรียนมีความรับผิดชอบยงิ่ ขนึ้ มีจิตอาสา ร่วมงานกบั ผนู้ าชุมชน และชุมชน รว่ มเปน็ ขวญั และกาลงั ใจใหก้ ับองคท์ างการศึกษา

๖ ๑.๖ เปน็ ผูน้ าและผตู้ ามท่ดี เี ป็นทย่ี อมรบั ของผบู้ รหิ ารและเพ่อื นร่วมงาน ขา้ พเจ้าปฏิบัติตนเป็นผูน้ าและผ้ตู ามทดี่ ี ดังจะเห็นได้จาก การท่ีขาพเจาไดรบั มอบหมาย แตงตง้ั ใหปฏิบัตหิ นาทรี่ กั ษาราชการในตาแหนง่ ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา หวั หนากลมุ งานการบริหาร งบประมาณ ขา้ พเจา้ ปกครองและดูแลสมาชิกในกลุมงานดวยหลักประชาธิปไตยใหความสาคัญต่อ สมาชิกเทาเทียมกนั ใหความเสมอภาค ใหอสิ ระ ใหโอกาสแกทุกคนในการแสดงความคิดเหน็ ความสามารถ ใจกวาง ยอมรบั ยินดีปรบั เปลี่ยนหากเปนความคิดเห็นทดี่ ีกวา และเปนมติของเสยี งสวน มาก รกั ษาความสามัคคีของหมูคณะใชหลกั คาสอนของพระพุทธศาสนาเปนแนวทางในการดาเนินชีวติ และปฏิบตั ิหนาที่ โดยอาศัยหลักอิทธิบาท ๔ ในการทางาน คอื ฉันทะ วริ ยิ ะ จิตตะ วิมังสา และทา หน้าท่ีครูท่ปี ระจาชั้นนักเรยี นระดับช้นั ประถมศึกษาปท่ี ๕ ในการดแู ลและปกครองช้ันเรียน ใชหลกั ประชาธิปไตย รบั ฟงความคิดเห็นของนกั เรียนทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื ได้ กล้าคดิ กลา้ แสดงออก มภี าวะ ความเป็นผนู้ า และสามารถเปน็ ผตู้ ามทด่ี ี ปฏิบตั ิหนาทีร่ ักษาราชการในตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศึกษา

๗ ๒. ความกตญั ญู ๒.๑ ดแู ลบดิ ามารดาผมู้ พี ระคุณตามกาลังความสามารถเหมาะสมแกฐานะ ขา้ พเจา้ ปฏบิ ตั เิ ป็นลกู ทด่ี ี ให้ความรัก ดแู ลปรนนิบตั ิ ดแู ลรักษาเมอื่ ป่วยไข้ ชว่ ยเหลอื คา่ ใช้จ่าย มารดาและครอบครวั ตามกาลังความสามารถเหมาะสมแกฐ่ านะ ขา้ พเจา้ ไดร้ บั การปลูกฝังจากมารดาให้ เป็นผทู้ ี่มคี วามกตญั ญูตอ่ ผู้มีพระคุณ เนอื่ งจากบดิ าของขา้ พเจ้าเสยี ชีวติ เปน็ เวลานานแลว้ ดงั นัน้ มารดา ของขา้ พเจา้ จงึ เปน็ ผู้ทีเ่ ลี้ยงดขู ้าพเจา้ มาโดยลาพัง ขา้ พเจา้ จงึ สญั ญากับตนเองวา่ จะดูแลมารดาให้ดที ีส่ ุด เท่าท่จี ะทาได้ใหส้ มกบั ทมี่ ารดาได้เล้ียงดขู ้าพเจา้ ให้การศกึ ษาจนสามารถประกอบสมั มาชีพได้ ตลอดจน แสดงความกตัญญูต่อญาติและผู้มพี ระคณุ ในด้านต่าง ๆ สรา้ งความมัน่ คงให้สถาบันครอบครัว เป็น ตวั อย่างที่ดีให้แกบ่ ุตรหลาน นกั เรยี น และเพอื่ นรว่ มงาน ร่วมทากิจกรรมกบั มารดาและครอบครวั รับรางวัลแม่ดเี ด่นระดับจังหวดั จ.นครพนม

๘ ๒.๒ มคี วามจงรกั ภกั ดตี อ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ขา้ พเจา้ มคี วามจงรักภักดตี อ่ สถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์ โดยแสดงออกถงึ ความ จงรกั ภักดตี อ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ตามโอกาสอันเหมาะสม เช่น ร่วมลงนามถวายพระพร รว่ ม กจิ กรรมวันสาคัญทางศาสนา รว่ มกจิ กรรมวนั เฉลมิ พระเกียรติ และทานุบารงุ ศาสนา ร่วมสบื สานมรดก ทางวัฒนธรรมของชาติ รว่ มถวายพระพรในหลวงรัชการท่ี ๑๐ ณ หอประชมุ อาเภอรตั นวาปี จงั หวดั หนองคาย ๒.๓ ปฏบิ ัติตนและส่งเสริม ปลูกฝงั ใหน้ กั เรยี น เพอ่ื นรว่ มงาน และบคุ คลอื่นมคี วามกตญั ญูรูคุณ องคก์ ร ขา้ พเจ้าได้ปฏิบัตติ นและส่งเสริม ปลกู ฝงั ใหน้ กั เรยี น เพอื่ นรว่ มงาน และบุคคลอื่นมคี วาม กตญั ญูรคู ุณองคก์ ร ดงั จะเหน็ ได้จากการต้งั ใจทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ปฏิบัตงิ านในสถานศกึ ษากบั เพอ่ื น ร่วมงานทกุ กจิ กรรมเป็นอย่างดี ข้าพเจ้าไดต้ ง้ั ปณธิ านวา่ จะปฏบิ ัตหิ น้าทค่ี รผู สู้ อนด้วยความต้งั ใจ ดแู ล รกั ษา หวงแหน ตอบแทนทาคุณประโยชน์ให้แผน่ ดิน ขา้ พเจา้ ไดใ้ หก้ ารอบรมนักเรียนปลูกฝงั ความ กตญั ญรู คู้ ณุ ต่อผมู้ พี ระคณุ และสถานศกึ ษาอยเู่ สมอ รว่ มกิจกรรมต่างๆ ของทางโรงเรียน

๙ ๒.๔ ปฏบิ ตั ิตนและสง่ เสรมิ ปลกู ฝงั ให้นกั เรยี น เพอื่ นรว่ มงานและบุคคลอนื่ รู้รักษส์ งิ่ แวดล้อม ใชอ้ ยา่ ง ประหยดั และค้มุ คา่ ขา้ พเจา้ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอย่างในดา้ นการรรู้ กั ษ์ส่งิ แวดล้อม และใชท้ รัพยากรอยา่ งประหยัดคมุ้ ค่า โดยข้าพเจ้า ปดิ ไฟ ปิดนา้ เมือ่ ไมใ่ ช้งาน ใชก้ ระดาษ ๒ ดา้ น เพอ่ื เป็นการประหยัดทรพั ยากร อบรมให้ ความรแู้ ละส่งเสริมให้นกั เรยี นรรู้ ักษ์สงิ่ แวดลอ้ มโดยการแยกขยะและนาเศษวสั ดุเหลือใชน้ ากลบั มาใช้ ประโยชน์ใหม่ รณรงค์ใหท้ ้ังคณะครแู ละนักเรียนใช้กระเปา๋ ผ้า ปลูกฝังชว่ ยกนั รกั ษาสภาพแวดล้อม ๓. ความซอื่ สัตย์สุจริต ๓.๑ รกั ษาคาพูดท่ีให้ไวต้ อ่ ตวั เอง ข้าพเจ้านอ้ มนาพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ทีว่ ่า “ผหู้ นักแนน่ ในสัจจะพดู อยา่ งไร ทาอยา่ งนน้ั จงึ ไดร้ ับความสาเรจ็ พร้อมทงั้ ความศรทั ธาเช่ือถือและความยกย่องสรรเสรญิ จากคนทกุ ฝา่ ย การพดู แลว้ ทา คือ พดู จริง ทาจรงิ จงึ เปน็ ปัจจัยในการสง่ เสรมิ เกยี รตคิ ณุ ของบคุ คลให้เดน่ ชดั และสรา้ งเสริมความดี ความเจรญิ ให้เกิดขนึ้ ทง้ั แก่ บคุ คลและส่วนรวม” มาเปน็ แนวทางในการแสดงถงึ ความซ่ือสัตยท์ างวาจา ขา้ พเจา้ ไดต้ ้ังปณิธานตอ่ ตนเองวา่ จะเป็นครูทตี่ ั้งใจสอนนกั เรียน และประพฤติตนเป็นแบบอย่างดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ดังนน้ั ข้าพเจา้ จึงต้องรกั ษาคาพดู และปฏิบัติตามคาปฏญิ าณตนในการเป็นขา้ ราชการที่ดี ประพฤตติ นตาม จรรยาบรรณของวชิ าชพี ครูอย่างเตม็ กาลัง ประพฤตติ นตามจรรยาบรรณของวิชาชพี ครูและปฏิญาณตนเป็นข้าราชการทีด่ ี

๑๐ ๓.๒ ให้ข้อมูลท่ถี ูกตอ้ งและเป็นจรงิ ขา้ พเจ้านาศลี ๕ มาเปน็ หลกั ธรรมในการดาเนนิ ชวี ติ เพราะหลักธรรมศลี ๕ เปน็ หลกั ธรรมท่ี ครอบคลมุ ให้ผปู้ ฏบิ ตั ิตามเกิดความสขุ สงบในชวี ติ ทุกขอ้ ลว้ นแลว้ แตม่ คี วามสาคัญ โดยเฉพาะขอ้ ๔ คอื “มุสาวาทา เวรมณี สิขาปะทังสะมาธยิ ามิ ข้าพเจ้าสมาทานสกิ ขาบท คือเว้นจากการพูดเทจ็ คาไมเ่ ป็นจรงิ และคาล่อลวงอาพรางผอู้ ่ืน” ซ่ึงการปฏิบัตติ นเชน่ นส้ี ่งผลให้ข้าพเจ้าได้รับความไวว้ างใจ และเปน็ ที่ น่าเชอื่ ถือต่อ ผู้บงั คบั บัญชา เพือ่ นรว่ มงาน นกั เรยี นและสังคม ข้าพเจา้ มีสตใิ นการรับฟงั ขอ้ มูล ข่าวสาร และตรวจสอบขอ้ เท็จจรงิ กอ่ นมีการบอกเลา่ หรอื ส่ือสารกับทุกคนเสมอ ทงั้ นก้ี ารใหข้ ้อมูลท่ีถกู ตอ้ งและ เปน็ จรงิ จะทาให้ผูร้ ับสารได้รับฟงั ข้อมลู ท่ีถกู ต้องไม่บดิ เบือนซึง่ อาจเกิดความเข้าใจผดิ สง่ ผลให้มีการ ทะเลาะเบาะแวง้ ทาใหส้ งั คมวนุ่ วายได้ หรอื เมือ่ ข้าพเจา้ ถ่ายทอดความรู้ในฐานะครผู ู้สอนใหก้ บั นกั เรยี นก็ ต้องศกึ ษาเน้อื หานนั้ ใหถ้ กู ต้อง ชดั เจนตามหลกั วชิ าให้แก่นกั เรียน จนนกั เรียนสามารถเรียนร้ไู ดเ้ ตม็ ศักยภาพ อกี ท้ังการรายงานข้อมลู ทเ่ี ปน็ จรงิ เช่น ข้อมูลด้านยาเสพตดิ ในสถานศกึ ษา ใหน้ ักเรยี นรจู้ ัก แยกแยะส่งิ ไหนที่ควรทาและไม่ควรทาและใหข้ อ้ มลู ที่เปน็ จรงิ แกผ่ ู้มาติดตอ่ ราชการ ตรวจสอบและใหข้ อ้ มลู ทเ่ี ปน็ จริงแกผ่ มู้ าตดิ ต่อราชการ

๑๑ ๓.๓ ปฏบิ ตั ิตนโดยคานงึ ถึงความถูกตอ้ งละอายและเกรงกลัวต่อการกระทาผิด ขา้ พเจ้า ไดร้ บั มอบหมายปฏบิ ตั ิหนา้ ทปี่ ระธานกรรมการเลือกต้ังสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร ประจาปี ๒๕๖๖ หมู่ท่ี ๑๐ บ้านโนนสวรรค์ อาเภอรัตนวาปี จังหวดั หนองคาย และได้ปฏบิ ัติตนโดย คานึงถงึ ความถกู ตอ้ ง ละอายและเกรงกลวั ตอ่ การกระทาผดิ โดยปฏิบัตหิ น้าทท่ี ไี่ ดร้ บั มอบหมายอย่าง เขม้ แข็ง สดุ กาลงั ความสามารถ ปฏบิ ัติตามกฎกตกิ าของสว่ นรวม ไม่เอารดั เอาเปรยี บเพ่อื นรว่ มงาน ประพฤติตนเป็นแบบอย่างทด่ี ี ไมใ่ ห้เกิดขอ้ ผิดพลาดใด ๆ ร่วมกจิ กรรมคณุ ธรรมเพ่ือปลูกฝังคณุ ธรรม จรยิ ธรรมทดี่ ีงามและขดั เกลาจิตใจให้คดิ ทา และพดู ในสง่ิ ท่ถี กู ต้องอยูเ่ สมอ และยึดกฎระเบียบของทาง ราชการ ไมท่ าการใดทจี่ ะส่อไปในทางทจุ รติ และพงึ ระลึกอยูเ่ สมอวา่ เม่อื ทาการใด ๆ ท่ีผิดศีลธรรมทัง้ ทางตรงและทางออ้ มจะสง่ ผลการกระทานัน้ ในภายภาคหนา้ ซึ่งขา้ พเจา้ กจ็ ะพรา่ สอนนักเรียนเสมอว่าให้ ประพฤติตนให้ดหี ากจะประพฤติไม่ดีก็จงระลึกวา่ เราจะไดร้ บั ผลจากการกระทาของเราเอง อกี ทง้ั การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนขา้ พเจ้าได้บูรณาการบทเรยี นและคณุ ธรรม จรยิ ธรรมสอดแทรกในเนื้อหาทกุ บทเรียน โดยเฉพาะนักเรียนระดับประถมศกึ ษาทีย่ งั ไมม่ ปี ระสบการณ์และตอ้ งคอยเตือนถงึ พฤตกิ รรมที่ไม่ พงึ ประสงค์ให้นกั เรยี นเตบิ โตเป็นเยาวชนทดี่ ขี องสังคมและประเทศชาติสบื ไป ปฏิบตั หิ น้าท่ีประธานกรรมการเลือกตงั้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจาปี ๒๕๖๖ หมทู่ ี่ ๑๐ บา้ นโนนสวรรค์ อาเภอรตั นวาปี จงั หวัดหนองคาย

๑๒ ๓.๔ ปฏิบัตงิ านโดยไมเ่ อื้อประโยชน์ต่อตนเอง ข้าพเจา้ ปฏิบตั หิ นา้ ท่ี โดยยึดหลักความถูกตอ้ ง ไม่มีพฤติกรรมทจุ ริตหรือทาให้ทางราชการเสยี ผลประโยชน์ เชน่ เมื่อได้รับแต่งต้ังให้เปน็ ผ้ตู รวจรบั พสั ดุ หรือจดั ซือ้ -จดั จา้ ง กจ็ ะปฏบิ ัติหน้าที่อยา่ ง เครง่ ครดั โปรง่ ใส ตรวจสอบได้ และรายงานการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ต่อผู้บังคับบัญชา คานึงถงึ ส่วนรวมเปน็ หลกั ปฏิบตั ิ หน้าท่ี โดยคดิ ถงึ ประโยชนข์ องส่วนรวมเปน็ หลัก เชน่ การปฏิบตั ิจิตอาสา ข้าพเจา้ ปฏิบัตงิ านดว้ ย ความซอื่ สัตยส์ ุจริต ปฏิบตั ิตามหลักเกณฑ์ กฎระเบียบ ของทางราชการ จรรยาบรรณครู และไดป้ ฏญิ าณ ตนเป็นขา้ ราชการทด่ี ี รักษาผลประโยชน์ของทางราชการ ปฏบิ ตั งิ านโดยไมเ่ อื้อประโยชนต์ ่อญาติพน่ี ้อง หรอื ผใู้ กลช้ ิด ตลอดจนปลูกฝังนกั เรยี นใหเ้ หน็ คุณค่าของการปฏิบัตติ นให้เป็นคนทซี่ ือ่ สตั ย์ สุจรติ ตาม บทบาทหน้าท่ีของตนเอง ปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ไี่ ดร้ บั มอบหมายด้วยความตั้งใจและรักษาผลประโยชนข์ องราชการ

๑๓ ๓.๕ รกั ษาคาพดู ท่ีใหไ้ วต้ ่อผอู้ ่ืน ขา้ พเจ้ารกั ษาคาพดู ทใี่ หไ้ ว้ตอ่ ผู้อนื่ หรือรักษาสัจจะสญั ญาในการพดู และคาปฏิญาณการเปน็ ขา้ ราชการทดี่ ตี อ่ หนา้ พระบรมฉายาลกั ษณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวรชั กาลที่ ๑๐ ดงั นน้ั จงึ ตัง้ ใจ ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ตี นองใหเ้ ต็มตามศักยภาพ เช่น ได้รบั แตง่ ต้งั ใหเ้ ป็นหัวหนา้ กล่มุ การบรหิ ารงบประมาณ ครู ประจาชนั้ มธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ อบรมส่ังสอนนักเรยี นปลกู ฝงั คุณธรรมในดา้ นต่างๆ ดงั นั้นเมื่อเราเปน็ ผู้ อบรมสง่ั สอนนักเรียนแล้วจกั ต้องสามารถปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอย่างใหส้ มกบั ทไี่ ด้อบรมนักเรยี น ปฏิบตั ติ นเปน็ แบบอย่างในการรกั ษาคาพดู -อบรมคุณธรรมจรยิ ธรรมแกน่ ักเรยี น ๓.๖ ปฏิบัตติ ่อผอู้ ่ืนดว้ ยความซ่อื ตรง ขา้ พเจา้ ปฏิบัตติ อ่ ผู้อ่ืนด้วยความซือ่ ตรง ท้ังต่อหนา้ และลบั หลงั ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั เกณฑ์ กฎระเบียบ ของทางราชการ จรรยาบรรณครู ปลกู ฝังใหน้ กั เรยี นปฏิบตั ิตามระเบยี บและปฏิบตั งิ านท่ี ไดร้ บั มอบหมายด้วยความซอื่ ตรง ซอื่ สตั ย์ สจุ รติ เชน่ เม่อื เกบ็ สง่ิ ของหรอื ทรพั ย์สินของผู้อน่ื ได้ ใหน้ ามา แจ้งฝา่ ยประชาสมั พนั ธใ์ หต้ ามหาเจ้าของทีแ่ ทจ้ รงิ และชน่ื ชมผู้ท่ปี ฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอยา่ งด้านความซื่อตรง ให้นกั เรียนคนอน่ื ไดป้ ฏบิ ัติตามตลอดจนปลกู ฝงั ความเปน็ ประชาธปิ ไตยในโรงเรียน ยอมรบั คะแนนผลการ เลือกต้ัง มเี หตุผลรับฟังเสยี งส่วนมาก ซง่ึ การปลกู ฝังคุณธรรมดา้ นนีจ้ ะสง่ ผลใหน้ ักเรียนสามารถนาไปปรับ ใช้ในชีวติ ประจาวันได้ ปลกู ฝงั ความเป็นประชาธปิ ไตย การรกั ษาระเบยี บวนิ ยั ความซอื่ สัตย์ใหก้ บั นกั เรียน

๑๔ ๓.๗ รักษาผลประโยชนข์ องทางราชการและของส่วนรวม ข้าพเจา้ รกั ษาผลประโยชน์ของทางราชการและของสว่ นรวม โดยใหค้ วามร่วมมือ ชว่ ยเหลือ และ ประสานงานระหว่างราชการกบั ชุมชน ตลอดจนอบรมส่งั สอนใหน้ กั เรยี นมจี ิตสานกึ ในการประหยดั พลงั งาน ร่วมกนั รกั ษาผลประโยชนแ์ ละทรัพยส์ นิ ของโรงเรยี น ร่วมอนรุ ักษแ์ ละพฒั นาส่งิ แวดลอ้ ม ทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม เชน่ พัฒนาสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียน รว่ มมอื กบั คณะครแู ละนักเรยี นดูแล สง่ิ แวดลอ้ มบรเิ วณโรงเรยี นอย่างสม่าเสมอ เอาใจใส่สถานท่ีทางานใหอ้ ย่ใู นสภาพสะดวก สะอาด เรียบรอ้ ย เปน็ ระเบยี บ สวยงาม เพอ่ื สร้างบรรยากาศที่ดีเออ้ื ต่อการเรียนการสอนในช้ันเรียน มคี วามต้ังใจ ในการปฏบิ ัตติ ามนโยบายประหยดั พลงั งานของโรงเรียน ปรับปรุงพฒั นาสถานทต่ี า่ ง ๆ ใหส้ วยงาม ๓.๘ ปฏิบตั งิ านโดยไมเ่ ออ้ื ประโยชนต์ ่อญาติพีน่ อ้ งหรือผใู้ กล้ชดิ คนุ้ เคย ขา้ พเจา้ ปฏบิ ัตงิ านโดยไมเ่ ออื้ ประโยชนต์ ่อญาตพิ น่ี อ้ งหรือผใู้ กลช้ ดิ คนุ้ เคย รกั ษาผลประโยชน์ของ ราชการและส่วนรวม ปฏิบัตหิ นา้ ที่ด้วยความซ่อื ตรงไมเ่ อ้อื ประโยชนต์ ่อพวกพอ้ ง ในการทาหนา้ ทด่ี งั เชน่ เปน็ คณะกรรมการตัดสินการแข่งขนั หรือเป็นคณะกรรมการคมุ สอบ ระดบั โรงเรยี น ระดบั อาเภอ ระดบั เขตพน้ื ที่การศึกษา ขา้ พเจ้าให้ความรว่ มมอื และเต็มใจ ให้ความชว่ ยเหลือผรู้ ่วมประกอบวิชาชีพในสงิ่ ท่ี ตนเองมีความรคู้ วามสามารถ ทางานรว่ มเปน็ คณทางานนเิ ทศกากบั ตดิ ตามโรงเรียนที่มนี กั เรยี นพกิ ารเรยี นรวม

๑๕ ๔. ความรับผิดชอบ ๔.๑ แต่งกายถูกต้องตามระเบียบและสภุ าพ เรียบร้อย เหมาะสมกบั กาลเทศะ ข้าพเจ้าแต่งกายถกู ตอ้ งตามระเบยี บและสภุ าพเรียบร้อย เหมาะสมกาลเทศะเป็นแบบอย่างท่ีดใี ห้ กับนักเรยี นและบุคคลอ่ืนทัว่ ไปในโอกาสตา่ ง ๆ เชน่ แต่งกายเคร่อื งแบบชดุ ปกติขาว ชุดข้าราชการ ชดุ ลกู เสอื ซ่ึงข้าพเจา้ จะเกบ็ ผมใหเ้ รียบร้อย สวมถุงนอ่ งและใสร่ องเท้าหุ้มสน้ ทกุ คร้งั แต่งกายชดุ ผา้ ไทยใน โอกาสตา่ ง ๆเพือ่ เปน็ การอนุรกั ษก์ ารใช้ผา้ ไทย และแตง่ กายให้เหมาะสมกบั งาน พธิ กี ารต่าง ๆ ท่เี ข้ารว่ ม เสมอ สง่ ผลใหน้ กั เรยี นรจู้ กั กาลเทศะดา้ นการแตง่ กาย อย่ใู นกฎระเบียบวนิ ยั ของสถานศึกษา รจู้ กั ให้ เกียรติสถานทแ่ี ละงานตา่ ง ๆ ทเี่ ขา้ ร่วม เชน่ การเข้ารว่ มงานทางพระพุทธศาสนาในชุมชนทาใหน้ กั เรยี น ได้รับคาชมเชย แตง่ กายถูกต้องตามระเบยี บ และสภุ าพเรยี บร้อย

๑๖ ๔.๒ มีความรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและหนา้ ทที่ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ข้าพเจา้ มีความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเองและหนา้ ทท่ี ่ไี ดร้ ับมอบหมาย ทมุ่ เท กาลังใจ กาลังกายเพอ่ื ให้ ภารกจิ เสรจ็ สน้ิ ด้วยดี ขา้ พเจ้าปฏิบัตงิ านดว้ ยความวิรยิ ะอุตสาหะ ขยัน อดทน มงุ่ ม่ัน รบั ผิดชอบตอ่ ผลสัมฤทธขิ์ องงาน และปฏบิ ัติหนา้ ทด่ี ว้ ยความขยนั หมั่นเพยี ร จนไดร้ ับมอบหมายงานภารกิจต่าง ๆ ที่ สาคญั ในโรงเรยี น ดงั น้ี ๑. รักษาราชการในตาแหน่งผู้อานวยการสถานศกึ ษา ๒. หวั หน้ากลุ่มการบรหิ ารงบประมาณ ๓. หัวหน้าเจา้ หนา้ ทก่ี ารเงิน ๔. คณะกรรมการยกระดับผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น และการแข่งขันศลิ ปหัตถกรรม กลมุ่ สาระ การเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ๕. ครูประจาช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ ๖. คณะกรรมการจัดการเรียนรวม ๗. งานเย่ยี มบ้านนักเรยี น งานทุนการศกึ ษานกั เรยี น ๘. คณะกรรมการรับผิดชอบกิจกรรมโครงการอาหารกลางวนั ๙. คณะกรรมการรับเดก็ เขา้ เรยี น ๑๐. ครูผรู้ บั ผิดชอบหอ้ งพิเศษสนับสนุนการเรยี นการสอน ห้องคณิตศาสตร์ ๑๑. ปฏิบัตหิ นา้ ที่เป็นคณะกรรมการเตรียมความพรอ้ มและพัฒนาอยา่ งเข้มตาแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาหนองคายเขต ๒ จานวน ๒ ราย รบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่ได้รับมอบหมายอย่างเตม็ ความสามารถ

๑๗ ๔.๓ เป็นแบบอย่างท่ดี ีในการปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บของสถานศึกษา ข้าพเจ้าเปน็ แบบอย่างท่ีดีในการปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานศกึ ษา มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ต่อสงั คมและหนา้ ทีท่ ไ่ี ดร้ ับมอบหมายอย่างเตม็ ท่ี การปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ุกหน้าท่ีจะคานึงถึงกฎระเบยี บ ของสถานศกึ ษาและคาสง่ั ของผบู้ ังคับบัญชาโดยมกิ ระดา้ งกระเดื่อง เชน่ การแต่งกายประจาวัน การ ปฏบิ ตั หิ น้าทต่ี ามคาสง่ั ของโรงเรยี น หรือการไดร้ บั มอบหมายในงานกจิ กรรมต่าง ๆ เช่น รับผิดชอบ หัวหนา้ กลมุ่ การบรหิ ารงบปราณ ทาหนา้ ทค่ี รูเวรประจาวนั พฤหสั บดี ครผู สู้ อนวชิ าคณติ ศาสตร์ ป.๕- ม.๓ ซ่ึงแตล่ ะภาระงานมคี วามแตกต่างกนั ดังนน้ั จงึ ตอ้ งศึกษาและไตรต่ รองกฎระเบยี บต่าง ๆ ให้ชดั เจนอนั จะ นาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิทถี่ ูกตอ้ ง ปฏิบตั ิงานตามหนา้ ทที่ ีไ่ ด้รับมอบหมาย ตามระเบยี บของสถานศึกษา

๑๘ ๔.๔ ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิงาน ขา้ พเจา้ ตรงเวลาในการปฏบิ ตั ิงาน ไดแ้ ก่ การมาปฏบิ ัติงานทันเวลา เข้าห้องเรยี นและออก ห้องเรียนตรงเวลา ปฏิบัติหนา้ ทต่ี ามเวลากาหนดของสถานศึกษาไม่เคยมาสาย รว่ มประชมุ และเข้าสอน ตรงเวลา อย่เู สมอ เมอื่ มกี จิ กรรมท่ีต้องทางานลว่ งเกนิ กวา่ เวลาทที่ างราชการกาหนด ข้าพเจา้ ก็จะทา ภารกิจจนเสร็จสน้ิ ไม่เคยใช้เวลาราชการในการทาภารกิจส่วนตัวอนั จะส่งผลเสียต่อส่วนรวม หรือเม่อื ข้าพเจา้ มีภารกิจสว่ นตวั ก็จะลางานลว่ งหนา้ เพอื่ ผู้บังคับบัญชาจะไดท้ ราบและวางแผนให้ฝ่ายวิชาการ จัดการเรยี นการสอนแทนข้าพเจ้าเชอ่ื มั่นวา่ หากครูผสู้ อนทาเปน็ แบบอย่างทีด่ ีแล้วผเู้ รียนกจ็ ะปฏบิ ัตติ าม อยา่ งไร้ขอ้ สงสัยดงั คากลา่ วที่วา่ “ตัวอยา่ งท่ดี ีมคี า่ กวา่ คาสอน” ตรงต่อเวลา รู้หนา้ ท่ี มนี า้ ใจ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ดี ว้ ยความเตม็ ใจ

๑๙ ๔.๕ ปฏิบัตงิ านไดส้ าเร็จอย่างมคี ณุ ภาพภายในเวลาท่ีกาหนดและมผี ลงานเปน็ ท่ียอมรบั ขา้ พเจ้าปฏิบตั งิ านไดส้ าเร็จอยา่ งมีคุณภาพภายในเวลาทกี่ าหนดและมผี ลงานเปน็ ท่ยี อมรับ ผลจากการมุ่งมน่ั และต้ังใจ มคี วามรับผิดชอบตอ่ ตนเองและหน้าทท่ี ่ไี ด้รับมอบหมายสง่ ผลใหง้ านสาเร็จ อยา่ งมคี ณุ ภาพภายในเวลาท่ีกาหนดและมผี ลงานเป็นทย่ี อมรบั ของผู้บังคบั บัญชา เพื่อนรว่ มงาน ชมุ ชน และองค์อืน่ ทเ่ี กย่ี วข้อง สง่ ผลให้องค์กรมสี มั พันธอ์ นั ดีต่อกัน จนไดร้ บั รางวลั เป็นทช่ี ืน่ ชมของชมุ ชน เกียรตบิ ตั รดีเดน่ รางวัลทไ่ี ด้รับ ๔.๖ สร้างนวตั กรรมในการพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรมนกั เรยี น ข้าพเจา้ และคณะครไู ดร้ ว่ มกนั สร้างนวัตกรรมในการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม เพือ่ เปน็ การ สง่ เสรมิ พัฒนาคณุ ธรรมของนกั เรยี น คอื “SAWAN Model ขับเคลอ่ื นความร้คู คู่ ณุ ธรรม ด้วย กระบวนการ Active Learning” ซ่ึงโมเดลของนวัตกรรม คือ จากนวัตกรรมนี้มีกิจกรรมที่ปลกู ฝังคุณธรรมให้นักเรียนหลายกิจกรรม เช่น โครงงานเล่นดี วนิ ัย กิจกรรมยิม้ ง่าย ไหว้สวย ฝกึ ระเบียบวินยั สร้างนสิ ัยของคนดีใหก้ บั นกั เรียน

๒๐ ๔.๗ มีผลงานทเี่ กดิ จากการใชน้ วัตกรรมในการพฒั นาคุณธรรมจรยิ ธรรมนักเรยี น ผลงานที่เกิดจากการใชน้ วัตกรรมในการพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรมนกั เรยี น สง่ ผลให้นกั เรียนมี คณุ ธรรมจรยิ ธรรม มมี ารยาทและมีสัมมาคารวะ มจี ิตอาสา ชว่ ยเหลอื แบง่ เบาภาระงานครูและโรงเรยี น รวมถงึ มีความรบั ผิดชอบ มีความสามคั คี ทางานรว่ มกันกบั ผู้อื่นไดอ้ ย่างมีความสุข เช่น กิจกรรมทาความ สะอาดตามกลุ่มสี เปน็ ต้น นอกจากนี้นักเรยี นยังนาไปปฏบิ ตั ิทบ่ี า้ นทาใหผ้ ปู้ กครองชน่ื ชมและภมู ิใจในตัว นกั เรียน นกั เรียนมคี วามรบั ผิดชอบ มจี ติ อาสา ๕.อดุ มการณค์ ณุ ธรรม ๕.๑ อุทศิ เวลาในงานทีไ่ ดรับมอบหมายและงานอนื่ ๆ อย่างต่อเนือ่ ง ขา้ พเจ้าอุทิศเวลาในงานทไ่ี ดรับมอบหมายอยา่ งตอ่ เน่อื ง ท้ังงานในหน้าทค่ี อื งานสอน หรืองาน พเิ ศษอ่ืน ๆ ท่ีได้รบั คาสัง่ ของโรงเรยี น เช่น อยู่เวรวนั หยดุ ราชการ รว่ มกจิ กรรมตามที่ได้รับมอบหมายทง้ั ในเวลาราชการและวนั หยดุ ของโรงเรียน ทางานลว่ งเวลาแมใ้ นชว่ งปิดเทอม เพ่ือพฒั นาโรงเรียน และ นกั เรยี นใหไ้ ด้ตามศกั ยภาพของตนเองเกดิ ประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล เอาใจใส่ต่อผเู้ รียน-นานักเรนี รว่ มกจิ กรรมศลิ ปหถั กรรม

๒๑ ๕.๒ เปน็ แบบอยา่ งให้กบั ผ้อู ื่นในเร่ืองการตรงต่อเวลาและการอุทิศเวลา ตลอดระยะเวลาของการเปน็ ข้าราชการครู ข้าพเจา้ ปฏิบตั ติ นเปน็ แบบอย่างใหก้ บั ผอู้ ่นื ในเรอ่ื ง การตรงตอ่ เวลาและการอุทิศเวลามาโดยตลอด จะเหน็ ได้จากการเสยี สละเวลาสว่ นตวั เพอ่ื งานสว่ นรวม การไมว่ า่ ภารงานทไี่ ดร้ ับจะยากหรือง่าย หรอื ตอ้ งใชเ้ วลาและความอดทนเพยี งใดข้าพเจา้ ก็มีความ พยายามทจ่ี ะทางานน้นั ให้สาเร็จแม้จะต้องเสียสละเวลาหลังเวลาราชการกต็ าม เช่น การเตรยี มงาน กิจกรรมตา่ ง ๆ ทตี่ อ้ งมกี ารจดั สถานท่ีซึง่ ต้องใช้ความประณตี และความคดิ สรา้ งสรรคใ์ ห้สถานทจ่ี ดั งาน ออกมาสวยงาม หรือการมาโรงเรียนตงั้ แตเ่ ช้า ดแู ลนักเรียนเมื่อเป็นเวรประจาวนั อบรมนักเรยี นทกุ วนั ศุกร์ การประชมุ พบปะผูป้ กครอง การไปเยย่ี มบา้ นนกั เรยี น และงานอืน่ ๆ ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย เป็นตน้ ตรงตอ่ เวลา อทุ ศิ ตน อทุ ศิ เวลาและเสยี สละสว่ นตนเพ่อื เยีย่ มบา้ นนักเรียน ๕.๓ มีจติ สาธารณะช่วยเหลืองานขององคก์ ร ชมุ ชน และสงั คม ขา้ พเจา้ มจี ิตสาธารณะชว่ ยเหลืองานขององค์กร ชุมชน และสงั คม โดยช่วยเหลอื งานชมุ ชนอยู่ เสมอ ท้งั ทางตรงและทางอ้อม ปลูกฝังให้นกั เรียนสานกึ รักบา้ นเกดิ โดยนานกั เรียนเข้าร่วมกิจกรรม รณรงค์การเลอื กตั้ง ร่วมปลูกปา่ กับชมุ ชน และร่วมกับชมุ ชนอนุรกั ษ์ประเพณีวัฒนธรรมทอ้ งถิ่น งานบุญ ต่าง ๆ รว่ มงานชุมชนตามโอกาสอันควร

๒๒ ๕.๔ อดทนต่อความยากลาบากในการพัฒนา คุณธรรม จรยิ ธรรม นกั เรียน ข้าพเจา้ มีความอดทนต่อความยากลาบากในการพฒั นา คณุ ธรรม จรยิ ธรรม นกั เรียน โดยการ เอาใจใส่ พรา่ สอนนักเรยี นเกีย่ วกบั คณุ ธรรม จริยธรรม จดั กจิ กรรมทห่ี ลากหลายตลอดจนบูรณาการการ เรียนการสอนท่สี อดแทรกคณุ ธรรม และเป็นแบบอย่างทดี่ พี งึ ให้นักเรียนประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ าม รบั ฟงั ความ คิดเห็นและไมเ่ หน่ือยหน่ายทีจ่ ะให้คาปรกึ ษา ช้ีแนะแนวทางเม่ือนักเรยี นมาปรกึ ษา หารอื ชว่ ยแกป้ ญั หา ใหก้ ับนกั เรียนทงั้ เร่อื งการเรยี นและเรอ่ื งสว่ นตัว เพราะข้าพเจา้ เชื่อวา่ หากนักเรียนมีคณุ ธรรมทด่ี จี ะสง่ ผล ให้นักเรยี นคิดดี เมือ่ นกั เรยี นมีความคดิ ทดี่ แี ลว้ กจ็ ะกระทาแตส่ งิ่ ท่ีดี อนั จะเกิดผลดีกับชุมชนและสงั คม ไม่ ก่อความเดือดรอ้ นวนุ่ วายให้กบั ผ้ปู กครอง เพราะนักเรยี นคือผา้ ขาวทพี่ ร้อมจะเรยี นรูห้ ากไดร้ ับการปลกู ฝงั ตามกรอบแนวคดิ คณุ ธรรมที่ สพฐ. กาหนดอนั ไดแ้ ก่ พอเพยี ง กตัญญู ซอื่ สัตย์สจุ รติ ความรับผดิ ชอบ และอุดมการณค์ ณุ ธรรม ก็จะทาให้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดีมคี ณุ ภาพของประเทศชาติ อดทนต่อการปลูกฝงั วินยั จดั กจิ กรรมทห่ี ลากหลายเพอ่ื เสรมิ สรา้ งคุณธรรมใหก้ ับนักเรียน

๒๓ ๕.๕ เอาใจใสตอ่ งานทไ่ี ดรบั มอบหมาย ข้าพเจ้าเอาใจใสต่องานทไี่ ดรับมอบหมาย และปฏบิ ัตงิ านท่ไี ด้รับมอบหมายอย่างเต็มกาลงั ความสามารถ ท้ังงานดา้ นการสอน และงานพิเศษอื่น ๆ แม้งานบางอย่างไม่มีความถนัดแต่กต็ อ้ งเรียนรู้ และศึกษา เพอ่ื พัฒนาตนเองและผ้เู รยี นใหด้ ีขนึ้ พฒั นาตนเองดว้ ยการเขา้ รบั การอบรม เสรมิ สรา้ งความ รอู้ ยูต่ ลอดเวลาเพื่อนาความรูแ้ ละประสบการณ์มาพัฒนาตอ่ ยอดความคดิ สรา้ งสรรคท์ าใหง้ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายประสบผลสาเรจ็ รวมถึงการช่วยเหลือสังคม หรือองคก์ รตา่ ง ๆ เพอ่ื ความสัมพนั ธ์อนั ดีระหว่าง โรงเรยี นและหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้อง จดั กจิ กรรมที่หลากหลายเพื่อพัฒนาคณุ ธรรมจรยิ ธรรมของนักเรียน ๕.๖ ปฏบิ ตั ิงานท้งั ในและนอกเวลาราชการอยา่ งเตม็ ความสามารถ ขา้ พเจา้ ปฏบิ ัตงิ านทัง้ ในและนอกเวลาราชการอยา่ งเตม็ ความสามารถ โดยปฏิบตั ติ งิ านตามเวลา ราชการไม่เคยขาดงาน และยงั เสียสละเวลาเมือ่ มีภารกิจที่ต้องทาเรง่ ดว่ นหรอื ทางานล่วงเวลาดว้ ยความ เต็มใจเพื่อให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ แก่ทางราชการ และรว่ มกจิ กรรมของชมุ ชนและท้องถิน่ ตามโอกาสตา่ ง ๆ ท้งั ในและนอกเวลาราชการอย่เู สมอ ปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความเตม็ ใจและเสียสละเวลาทงั้ ในและนอกเวลาราชการ

๒๔ ๕.๗ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ปรกึ ษา แนะนาวธิ ีการปฏิบัติตน ปฏบิ ัติงาน เพ่อื พัฒนา คณุ ภาพของเพอ่ื น ร่วมงานและคนในชมุ ชน ขา้ พเจ้าใหค้ วามชว่ ยเหลอื ปรกึ ษา แนะนาวธิ ีการปฏิบัตติ น ปฏิบตั ิงาน เพอ่ื พฒั นา คณุ ภาพของ เพ่อื นร่วมงานและคนในชมุ ชนเปน็ อยา่ งดี เสยี สละเข้ารว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี นด้วยความท่มุ เท ดว้ ย ความเต็มใจ และใหค้ วามชว่ ยเหลือกิจกรรมตา่ ง ๆ ของหนว่ ยงานราชการ องคก์ รและชมุ ชนที่อยใู่ กล้เคยี ง อย่างสมา่ เสมอ รว่ มมอื ในการประสานส่งเสรมิ ความสามัคคีในหม่คู ณะดว้ ยความจริงใจ ทางานรว่ มกบั ผู้อื่นได้อย่างราบร่นื และประสบความสาเร็จ ให้เกียรติเพ่ือนรว่ มงานในการแสดงความคดิ เหน็ มกี าร ประชุมคณะครูกอ่ นการทางาน และ PLC เพ่ือใหค้ าปรึกษาและแนะแนวทางการปฏบิ ตั ิงานใหม้ ี ประสทิ ธิภาพ ออกเย่ยี มบ้าน ประสานงานระหว่างโรงเรยี นกับผูป้ กครอง เพอ่ื ให้คาปรึกษา ให้ความ ชว่ ยเหลือแกน่ ักเรยี นชว่ ยคดั กรองเดก็ ยากจน ประชุมแลกเปลีย่ นปรึกษารว่ มกนั ระหวา่ งผ้ปู กครองกบั ครู และใหค้ วามร่วมมอื กับชมุ ชนตามความเหมาะสม PLC หลงั เลิกเรยี น/ เย่ียมบ้านนักเรยี น /ดแู ลนักเรยี นเป็นรายบุคคล และประชมุ ผปู้ กครอง

๒๕ ข้าพเจา้ ขอรบั รองวา่ เป็นผมู้ ีคุณสมบัติตามหลกั เกณฑ์ในประกาศฯ ทกุ ประการ ลงชือ่ .......................................................ผู้ขอรับการพจิ ารณา (นางสดุ าทิพย์ สน่นั เอื้อ) ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ วนั ที่ ๑๙ เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ตอนที่ ๓ ความคดิ เหน็ ของผู้บงั คับบัญชาช้ันตน้ เกีย่ วกบั คุณลักษณะ คุณสมบตั ิ และผลงานท่โี ดดเด่นเป็นแบบอยา่ งตามหลกั เกณฑก์ ารประเมนิ คุรุชน คนคุณธรรม นางสดุ าทพิ ย์ สนน่ั เอือ้ ผู้ใตบ้ ังคับบัญชาของขา้ พเจา้ มคี ณุ ลกั ษณะ คณุ สมบัติและผลงานทโ่ี ดด เดน่ เปน็ แบบอย่าง ตามหลักเกณฑ์การประเมนิ ครุ ชุ น คุณธรรม ดงั นี้ รู้จกั พ่งึ พา มคี วามขยนั อดทน ไม่ ทอ้ ถอย มคี วามสามัคคี รจู้ กั พฒั นาตนเองขึ้นตามลาดับ ยึดความประหยัด ในการดารงชวี ิตตามปรชั ญา เศรษฐกิจพอพียง ไมย่ ุ่งเกีย่ วกับอบายมขุ และส่งิ เสพติดทุกชนิด ใชท้ รพั ยากรสว่ นรวมอย่างประหยดั และ คุ้มค่า เปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบทรพั ย์สินทางราชการ มมี นุษยสัมพนั ธท์ ่ีดตี อ่ เพ่ือนรว่ มงานและสงั คม ช่วยเหลือ เกื้อกลู เพ่อื นร่วมงานและสังคมในด้านตา่ ง ๆ อย่างสมา่ เสมอ ทางานแบบมสี ่วนรว่ ม สามัคคี มีน้าใจ เอื้อเฟ้อื เก้ือกูลกนั ไดป้ ระพฤติปฏบิ ตั ิงานอยา่ งกลั ยาณมิตรตอ่ เพื่อน ปฏบิ ัติหนา้ ท่ีผ้ตู ามทีด่ ี ปฏบิ ัติหน้าท่ี ผ้นู าท่ดี ใี ห้กบั นักเรียน มคี วามจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ปฏิบัตติ นเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ไี ด้ เรมิ่ จากภายในครอบครวั ตนเอง ปฏบิ ัติหน้าท่ี โดยคดิ ถงึ ประโยชนข์ องสว่ นรวมเป็นหลัก ปฏบิ ัติงานด้วย ความวริ ยิ ะอตุ สาหะ ขยัน อดทน มุ่งม่นั และรบั ผดิ ชอบต่อผลสมั ฤทธิข์ องงาน มคี วามมงุ่ มั่นและต้งั ใจทจี่ ะ ทางานในหนา้ ท่ีให้ไดร้ บั ความสาเรจ็ ดว้ ยตนเอง และตอ้ งการใหง้ านเสร็จตามกาหนดเวลา แมบ้ างคร้งั จะ เกิดปัญหาหรอื อุปสรรคในการทางานบ้าง ก็ไม่ย่อท้อต่อปัญหาหรอื อปุ สรรค ใชส้ ติปญั ญาความสามารถ และความอดทนในการแกป้ ัญหาให้ผา่ นพ้นไปด้วยดี ปลูกฝังให้นักเรียนมีทักษะกระบวนการคดิ , มีวินยั , ซือ่ สัตย์ สจุ รติ , อยู่อย่างพอเพียง และมีจติ สาธารณะ ข้าพเจา้ ขอรบั รองวา่ นางสุดาทพิ ย์ สนน่ั เอ้ือ (ระบชุ ือ่ ผขู้ อรบั การพิจารณา) ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ เป็นผมู้ คี วามเหมาะสมแกการยกย่องให้เป็นแบบอย่าง คุรชุ น คนคุณธรรม เพ่อื รบั รางวัล ๑๐,๐๐๐ ครุ ชุ น คนคณุ ธรรม ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๖ ลงชอ่ื ...........................................................ผู้บังคบั บญั ชา (นายอภิศร ทพิ เสนา) ตาแหนง่ ผ้อู านวยการโรงเรียนบา้ นโนนสวรรค์ วนั ที่ ๑๙ เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖

๒๖ ภาคผนวก เอกสารอา้ งองิ