รายงานผลการดำเนนิ งาน โครงการ : การเรยี นรหู้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) วนั ที่ 19 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ณ ศาลาประชาคม หมู่ท่ี 1 ตำบลแคตก อำเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา นางสาวประภาพร แก้วตอง กศน.ตาบลแคตก ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางไทร จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา ประจาปี งบประมาณ 2564 ไตรมาส 1-2
บนั ทกึ ขอ้ ความ สว่ นราชการ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอบางไทร ที่ ศธ ๐๒๑๐.๔๘๐๕/๑๐๗๕ วนั ท่ี ๘ เมษายน ๒๕๖๔ เรอ่ื ง รายงานผลการดำเนินงานโครงการการเรยี นรู้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) .................................................................................................................................................................................... เรียน ผูอ้ ำนวยการศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอบางไทร ตามทีผ่ อู้ ำนวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบางไทร ไดอ้ นมุ ัติ โครงการใช้ชวี ติ แบบเศรษฐกจิ พอเพียง กศน.ตำบลแคตก ได้ดำเนนิ การจดั โครงการการเรียนรู้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเกษตร ผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) ในวันท่ี ๑๙ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔ ณ ศาลาประชาคม หมู่ท่ี ๑ ตำบลแคตก อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา มผี ูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ จำนวน ๑๐ คน เอกสารดังแนบมาพร้อมนี้ จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ (นางสาวประภาพร แก้วตอง) ครู กศน.ตำบล ทราบ อื่น ๆ (นางสาวมุกดา แข็งแรง) ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอภาชี รักษาการในตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอบางไทร
คำนำ เอกสาร รายงานผลการดำเนินงาน โครงการการเรยี นร้หู ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) น้ี จัดทำข้นึ เพ่อื รายงานผลการดำเนนิ งานดา้ นการจัดการศกึ ษาต่อเนอื่ ง ของ กศน.ตำบลแคตก ภายใต้การดูแลของศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอบางไทร โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ ตรวจสอบข้ันตอนการดำเนินกิจกรรม ประเมินผลและพฒั นาการดำเนินกิจกรรมของ ตำบล แคตก ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารรายงานผลการดำเนนิ งานการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะเป็น แนวทางในการพัฒนางานและการจดั กจิ กรรมในครัง้ ต่อไป คณะผู้จัดทำ
สารบญั หนา้ คำนำ สารบญั บทท่ี 1 บทนำ 1 เหตุผลและความจำเปน็ วัตถปุ ระสงค์ ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รับ บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กย่ี วขอ้ ง 2 ความสำคัญของการจัดและสง่ กระบวนการเรียนรู้ ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ท่มี าและความสำคญั ของกิจกรรม โคก หนอง นา โมเดล บทท่ี 3 วธิ กี ารดำเนนิ งาน 6 บทที่ 4 ผลการดำเนนิ งาน 8 บทที่ 5 สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ 13 วัตถปุ ระสงค์การดำเนินงาน วธิ ีดำเนนิ การ อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ และแนวทางในการพฒั นากิจกรรม ภาคผนวก ภาพโครงการการเรียนร้หู ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเกษตรผสมผสาน( โคก หนอง นา โมเดล) รายชอื่ ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรม
บทที่ 1 บทนำ เหตุผลและความจำเปน็ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีนโยบายและจุดเน้นการ ดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ จุดเน้นการดำเนินงาน ข้อท่ี ๑ น้อมนำพระบรมราโชบายด้าน การศึกษาสู่การปฏิบัติ ข้อ ๑.๑ สืบสานศาสตร์พระราชา โดยการสร้างและพัฒนาศูนย์สาธิตและเรียนรู “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบต่าง ๆ ทั้งดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพืชพันธุต่าง ๆ และส่งเสริม การใช้พลังงานทดแทนอยา่ งมีประสิทธิภาพ และภารกิจต่อเนื่อง ด้านการจัด การศึกษาและการเรียนรู้ การศกึ ษาตอ่ เน่ือง ๔) การจัดกจิ กรรมการเรียนรูตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่าน กระบวนการเรียนรูตลอดชีวิต ในรูปแบบต่างๆ ให้กับประชาชน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถยืนหยัดอยู่ได อย่างมั่นคง และมีการบรหิ ารจัดการ ความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ตามทิศทางการพัฒนาประเทศสูความสมดุลและ ยง่ั ยืน กศน.อำเภอบางไทร เป็นหน่วยงานจัดกิจกรรม ได้เห็นความสำคัญของการสร้างการรับรู้ในเรื่องหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) เพื่อให้ประชาชนได้นำไปปรับใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั จึงได้จัดโครงการนีข้ ึน้ วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื ให้ประชาชนท่เี ขา้ รว่ มโครงการมคี วามรู้ ความเข้าใจ เกยี่ วกับการดำเนนิ ชวี ติ ตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) และสามารถนำความรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ 2. เพื่อให้ประชาชนท่ีเข้าร่วมโครงการสามารถเรียนรู้ และเขา้ ใจถงึ วธิ ีการปลกู ผกั สวนครวั และการดูแล รักษา บำรุงผกั ที่ปลกู ได้ ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะได้รับ ประชาชนทีเ่ ข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการดำเนินชวี ิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) และสามารถนำความรูไ้ ปใช้ในชีวติ ประจำวันได้ และเข้าใจถงึ วธิ กี ารปลูกผักสวนครัว และการดแู ลรักษา บำรงุ ผกั ทีป่ ลูกได้
บทที่ 2 เอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ ง การจัดและสง่ เสรมิ กระบวนการเรยี นรตู้ ามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการการเรียนรหู้ ลกั ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี งเกษตรผสมผสาน โคก หนอง นา โมเดล) ไดเ้ สนอแนวคิด หลกั การและเอกสารที่เก่ียวข้อง ตามลำดับดังตอ่ ไปนี้ 1. ความสำคัญของการจดั และส่งกระบวนการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. ทม่ี าและความสำคญั ของกจิ กรรม 3. โคก หนอง นา โมเดล 1. ความสำคัญของการจดั และสง่ กระบวนการเรียนร้ตู ามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพียง เป็นปรชั ญาช้ถี ึงแนวการดำรงอยู่และปฏบิ ัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ระดบั ชมุ ชน จนถงึ ระดบั รัฐ ทง้ั ในการพฒั นาและบรหิ ารประเทศใหด้ ำเนนิ ไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะ การพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมี เหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจากการ เปลีย่ นแปลงทัง้ ภายในภายนอก ทงั้ นี้ จะต้องอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยง่ิ ในการ นำวชิ าการต่างๆ มาใชใ้ นการวางแผนและการดำเนนิ การ ทกุ ขนั้ ตอน และขณะเดียวกนั จะตอ้ งเสรมิ สร้างพ้ืนฐาน จติ ใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ีของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ใหม้ สี ำนกึ ในคุณธรรม ความ ซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความ รอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกวา้ งขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดลอ้ ม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกไดเ้ ป็นอย่างดี ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จึงประกอบด้วยคุณสมบัติ ดงั นี้ 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดที ไ่ี ม่นอ้ ยเกนิ ไปและไมม่ ากเกนิ ไป โดยไม่เบียดเบยี นตนเองและ ผอู้ น่ื เช่น การผลิตและการบรโิ ภคที่อย่ใู นระดบั พอประมาณ 2. ความมีเหตุผล หมายถงึ การตัดสินใจเก่ยี วกบั ระดบั ความพอเพยี งนั้น จะต้องเป็นไปอยา่ งมีเหตุผล โดย พจิ ารณาจากเหตุปัจจยั ท่ีเกย่ี วขอ้ ง ตลอดจนคำนงึ ถงึ ผลที่คาดว่าจะเกดิ ขน้ึ จากการกระทำน้นั ๆ อยา่ งรอบคอบ 3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดข้ึน โดยคำนึงถงึ ความเป็นไปไดข้ องสถานการณ์ตา่ งๆ ทคี่ าดว่าจะเกิดข้ึนในอนาคต โดยมี เง่อื นไข ของการตัดสินใจและดำเนนิ กิจกรรมต่างๆ ให้อยใู่ นระดบั พอเพยี ง 2 ประการ ดงั นี้ 1. เง่ือนไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรู้เก่ียวกับวิชาการต่างๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ งรอบด้าน ความรอบคอบท่ี จะนำความรู้เหล่านน้ั มาพิจารณาใหเ้ ชอื่ มโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวงั ในการปฏิบตั ิ 2. เง่อื นไขคุณธรรม ทีจ่ ะตอ้ งเสรมิ สรา้ ง ประกอบดว้ ย มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มีความซ่ือสัตย์สุจริต และมีความอดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดำเนนิ ชวี ติ
2. ทมี่ าและความสำคญั ของกจิ กรรมเศรษฐกิจพอเพยี ง การปลกู ผกั ปลอดสารพษิ พชื ผกั เปน็ พชื อาหารที่คนไทยนยิ มนำ มาใช้รับประทานกนั มากเนอื่ งจากมคี ณุ ค่าทางอาการท้ังวติ ามินและ แร่ธาตุต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูง แต่ค่านิยมในการบริโภคผักนั้น มักจะเลือกบริโภคผักที่สวยงามไม่มี ร่องรอยการทำ ลายของหนอนและแมลงศัตรพู ืช จึงทำ ให้เกษตรกรทีป่ ลูกผกั จะตอ้ งใช้สารเคมีป้องกันและกำจัด แมลงฉีดพ่นในปริมาณที่มาก เพื่อให้ได้ผักที่สวยงามตามความต้องการของตลาด เมื่อผู้ซื้อนำ มาบริโภคแล้วอาจ ได้รบั อันตรายจากสารพิษท่ีตกค้างอย่ใู นพืชผกั นัน้ ได้เพื่อเป็นการแก้ปญั หาดังกล่าว เกษตรกรจึงควรหนั มา ทำการ ปลูกผกั ปลอกภัยจากสารพษิ โดยนำ เอาวธิ กี ารป้องกันและกำ จัดศตั รูพชื หลายวิธีมาประยกุ ต์ใชร้ ว่ มกัน เป็นการ ทดแทนหรือลดปรมิ าณการใชส้ ารเคมใี ห้นอ้ ยลง เพอื่ ความปลอดภัยของเกษตรกร ผู้บรโิ ภคและสง่ิ แวดล้อม ขอ้ ดขี องการปลกู ผกั ปลอดภยั จากสารพษิ 1. ทำ ใหไ้ ดพ้ ชื ผกั ทมี่ ีคุณภาพ ไม่มสี ารพษิ ตกค้าง เกดิ ความปลอดภยั แกผ่ ู้บรโิ ภค 2. ชว่ ยให้เกษตรกรผปู้ ลกู ผักมีสขุ ภาพอนามยั ที่ดีขึ้นเนือ่ งจากไม่มีการฉดี พน่ สารเคมปี ้องกันและกำจัด ศตั รูพชื ทำ ให้เกษตรกรปลอดภยั จากสารพษิ เหล่าน้ีดว้ ย 3. ลดต้นทนุ การผลติ ของเกษตรกรด้านคา่ ใช้จ่ายในการซอ้ื สารเคมีป้องกนั และกำ จัดศัตรพู ืช 4. ลดปริมาณการนำ เข้าสารเคมปี อ้ งกนั และกำ จัดศัตรพู ืช 5. เกษตรกรจะมรี ายไดเ้ พิ่มมากขน้ึ เนอ่ื งจากผลผลติ ท่ีได้มคี ุณภาพ ทำ ให้สามารถขายผลผลิตได้ในราคา สูงข้นึ 6. ลดปริมาณสารเคมีปอ้ งกนั และกำ จดั ศัตรูพืชท่ีจะปนเปือ้ นเข้าไปในอากาศและนํ้า ซ่ึงเป็นการอนรุ กั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติและลดมลพษิ ของส่งิ แวดล้อมไดท้ างหนงึ่
3. โคก หนอง นา โมเดล แนวคดิ การจัดการนำ้ \"โคก หนอง นา โมเดล\" นี้ เป็นการทำเกษตรในพืน้ ท่ีขนาดจำกัด หรือขนาดเล็ก เปน็ การกักเกบ็ นำ้ ไวท้ ง้ั บนดิน (ดว้ ยหนอง คลองไสไ้ ก่ และคันนา) และใต้ดนิ (ด้วยป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง) ตามแนวพระราชดำรขิ องในหลวง ร.9 โดยเฉพาะในพนื้ ทีจ่ ำกัด อย่างน้อยเพยี ง 3 ไร่ หรือ แลว้ แต่ขนาดของทีด่ นิ ตามสภาพความเหมาะสมก็ได้ เม่อื ปี 2561 มีแบบมาตรฐาน โคก หนอง นา โมเดล จำนวนประมาณ 40 แบบให้ กรมพฒั นาท่ดี ินไวแ้ จกจา่ ยประชาชน ทง้ั 40 แบบ เป็นโมเดลตน้ แบบสำหรบั ท่ดี นิ ขนาดแบบ 3 ไร่ 5 ไร่ หรอื 10- 15 ไร่ ทีเ่ ป็นโมเดลพ้นื ทีข่ นาดเล็ก มอี งค์ประกอบดงั น้ี (1) โคก - ดินทขี่ ุดทำหนองนำ้ นั้นให้นำมาทำโคก บนโคกปลกู “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทางพระราชดำริ - ปลูกพืช ผกั สวนครัว เล้ียงหมู เล้ยี งไก่ เลย้ี งปลา ทำใหพ้ ออยู่ พอกิน พอใช้ พอรม่ เยน็ เปน็ เศรษฐกิจพอเพยี งขั้น พื้นฐาน กอ่ นเข้าสูข่ ัน้ ก้าวหน้า คอื ทำบุญ ทำทาน เกบ็ รกั ษา ค้าขาย และเช่อื มโยงเปน็ เครือข่าย - ปลกู ท่ีอยอู่ าศยั ให้สอดคล้องกับสภาพภมู ปิ ระเทศ และภมู อิ ากาศ (2) หนอง - ขุดหนองเพอ่ื กักเกบ็ น้ำไวใ้ ช้ยามหน้าแล้งหรือจำเป็น และเป็นทรี่ บั น้ำยามน้ำท่วม (หลมุ ขนมครก) - ขุด “คลองไส้ไก”่ หรือคลองระบายนำ้ รอบพ้นื ทต่ี ามภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยขุดให้คดเค้ยี วไปตามพ้ืนที่เพ่ือใหน้ ้ำ กระจายเตม็ พื้นที่เพ่มิ ความชมุ่ ชนื้ ลดพลังงานในการรดนำ้ ตน้ ไม้ - ทำ ฝายทดนำ้ เพ่ือเกบ็ นำ้ เข้าไว้ในพืน้ ทใ่ี หม้ ากที่สดุ โดยเฉพาะเม่อื พ้ืนท่โี ดยรอบไม่มกี ารกักเก็บนำ้ นำ้ จะหลาก ลงมายงั หนองน้ำ และคลองไสไ้ ก่ ให้ทำฝายทดนำ้ เก็บไวใ้ ชย้ ามหนา้ แลง้
- พฒั นาแหล่งน้ำในพื้นท่ี ทั้งการขุดลอก หนอง คูคลอง เพื่อกกั เก็บนำ้ ไว้ใช้ยามหน้าแล้ง และเพ่ิมการระบายน้ำ ยามนำ้ หลาก (3) นา - พนื้ ทีน่ านั้นใหป้ ลกู ขา้ วอนิ ทรียพ์ นื้ บ้าน โดยเรมิ่ จากการฟ้นื ฟดู นิ ดว้ ยการทำเกษตรอนิ ทรียย์ ่งั ยืน คืนชวี ติ เลก็ ๆ หรอื จลุ ินทรียก์ ลบั คนื แผน่ ดนิ ใชก้ ารควบคุมปริมาณน้ำในนาเพื่อคุมหญา้ ทำใหป้ ลอดสารเคมีได้ ปลอดภยั ทง้ั คน ปลกู คนกนิ - ยกคนั นาให้มคี วามสงู และกว้าง เพอื่ ใชเ้ ป็นท่ีรับนำ้ ยามน้ำท่วม ปลกู พืชอาหารตามคันนา โดยความรว่ มมอื ของ มูลนิธกิ สิกรรมธรรมชาติและคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จงึ ได้ มกี ารออกแบบพื้นทกี่ สกิ รรมโดยอาศัย “โคก หนอง นา โมเดล” เปน็ แนวคิดหลักในการจัดการพื้นท่ี ในบรเิ วณ พื้นทล่ี ุม่ นำ้ ปา่ สัก แหลง่ น้ำขนาดใหญท่ ี่สำคัญท่สี ดุ ของเมืองไทย
บทท่ี 3 วิธกี ารดำเนนิ งาน ด้วย กศน.ตำบลแคตก ได้จัด โครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน โคก หนอง นา โมเดล) โดยยึดประชาชนในตำบลเป็นสำคัญ ทำให้เกิดเนื้อหาสาระ ระยะเวลาการจัดกิจกรรม สถานท่ี และลกั ษณะกิจกรรมการเรยี นรู้ ทงั้ น้ีข้ึนอยู่กับ ศกั ยภาพและความพร้อมของประชาชนกลุ่มเป้าหมายซึ่ง เปน็ การตอบสนองนโยบายของสำนักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ซ่งึ ได้ดำเนินการ ดงั นี้ โครงการใชช้ ีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพยี ง (19 กมุ ภาพนั ธ์ 2564) สาระสำคญั เศรษฐกจิ พอเพยี ง เป็นปรัชญาทีช่ แี้ นวทางการดำรงชวี ติ ท่ีพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลย เดชมีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยนับต้ังแต่ปี พ.ศ. 2517 เปน็ ต้นมาและถกู พดู ถึงอย่างชัดเจนในวันท่ี 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เพื่อเป็นแนวทางการแกไ้ ขปัญหาเศรษฐกจิ ของประเทศไทย ให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมัน่ คงและยั่งยืนใน กระแสโลกาภิวัฒนแ์ ละความเปลี่ยนแปลงตา่ งๆ เศรษฐกิจพอเพียงเปน็ ปรัชญาทยี่ ึดหลักทางสายกลาง ทีช่ แี้ นวทางการดำรงอยแู่ ละปฏบิ ตั ขิ องประชาชนใน ทุกระดับให้ดำเนินไปในทางสายกลาง มีความพอเพียง และมีความพร้อมที่จะจัดการต่อผลกระทบจากการ เปลย่ี นแปลง ซ่ึงจะต้องอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวัง ในการวางแผนและดำเนินการทุกขน้ั ตอน ทัง้ นี้ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลและยั่งยืน เพื่อให้สามารถอยู่ได้แม้ในโลกโลกาภิวัตน์ที่มีการ แขง่ ขันสูง วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) และสามารถนำความรู้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ 2. เพ่อื ให้ประชาชนท่เี ข้ารว่ มโครงการสามารถเรยี นรู้ และเข้าใจถึงวธิ ีการปลูกผกั สวนครัว และการดูแลรักษา บำรุงผักท่ปี ลกู ได้
กจิ กรรมทด่ี ำเนนิ การ จดั กจิ กรรมให้ประชาชนกลุ่มเปา้ หมายในตำบลแคตก วทิ ยากรบรรยายความรเู้ กย่ี วกับ บรรยายให้ความรู้เกยี่ วกบั หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. บรรยายใหค้ วามรู้เรื่องหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหม่ โดย ครู กศน. ประจำตำบล 2. บรรยายใหค้ วามรเู้ รอื่ ง ระบบเกษตรผสมผสาและ บรรยายใหค้ วามรู้ เรอื่ ง โคก หนอง นา โมเดล โดย ครู กศน.ประจำตำบล 3. สาธติ การปลกู ผักสวนครวั และการดแู ลบำรงุ รักษา และมีการติดตามผลผลิตเปน็ ระยะ โดย ครู กศน.ประจำตำบล ผลทไ่ี ด้รบั จากการดำเนนิ กจิ กรรม ประชาชนทีเ่ ข้าร่วมโครงการมคี วามรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการดำเนนิ ชีวิตตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) และสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ และ เข้าใจถงึ วธิ กี ารปลูกผกั สวนครัว และการดแู ลรักษา บำรุงผกั ที่ปลูกได้
บทท่ี 4 ผลการดำเนนิ งาน จากการสำรวจความพึงพอใจ โครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน โคก หนอง นา โมเดล) ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยใช้แบบประเมนิ ความพึงพอใจ จำนวน 10 ฉบบั และได้รบั กลับคืน มา จำนวน 10 ฉบับ วิเคราะห์ขอ้ มลู โดยใชโ้ ปรแกรม Excel ตามข้นั ตอนต่าง ๆ ดงั ต่อไปนี้ 1. วิเคราะหข์ อ้ มลู จากแบบสอบถามตอนท่ี 1 โดยแจกแจงความถแ่ี ละค่ารอ้ ยละ 2. วิเคราะห์ข้อมลู จากแบบสอบถามตอนท่ี 2 โดยหาคา่ เฉล่ีย ( X) แปลความหมายขอ้ มูลเชิงปริมาณ ให้ระดับคะแนนในแบบสอบถามที่เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความคิดเห็นของ เบสท์ (Best. 1981 :182) ดังน้ี 4.51–5.00 หมายถึงความพึงพอใจอย่ใู นระดับดมี าก 3.51–4.50 หมายถึงความพึงพอใจอยู่ในระดบั ดี 2.51–3.50 หมายถึงความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ปานกลาง 1.51–2.50 หมายถงึ ความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั พอใช้ 1.00–1.50 หมายถึงความพึงพอใจอยใู่ นระดับปรบั ปรุง 3. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามตอนที่ 3 ข้อมูลที่เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (RatingScale) โดย หาค่าเฉลี่ย ( X ) แปลความหมายข้อมูล แปลความหมายข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้เกณฑ์ข้อ 2 ข้อมูลที่เป็น ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวเิ คราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคำตอบและหาค่าความถี่ สรุปผลการประเมินความพึงพอใจ กิจกรรมการจัดและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง โครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน โคก หนอง นา โมเดล) ที่เข้า รว่ มโครงการดังน้ี
ขอ้ มลู พน้ื ฐานของผปู้ ระเมนิ ความพงึ พอใจ ตารางท่ี 1 ขอ้ มลู ท่ัวไปของผตู้ อบแบบสอบถาม จำแนกตาม เพศ อายุ วฒุ ิการศึกษา และอาชพี เพศ ขอ้ มลู ทว่ั ไป จำนวน รอ้ ยละ อายุ ชาย 2 20.00 การศกึ ษา หญงิ 8 80.00 อาชพี ตำ่ กวา่ 15 ปี 0 0.00 15-29 ปี 0 0.00 30-39 ปี 2 20.00 40-49 ปี 2 20.00 50-59 ปี 1 10.00 60 ปขี ้นึ ไป 5 50.00 ตำ่ กวา่ ป.4 0 0.00 ป.4 5 50.00 ประถมศึกษา 0 0.00 มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 2 20.00 มธั ยมศึกษาตอนปลาย 1 10.00 อนุปริญญา 0 0.00 ปริญญาตรี 2 20.00 สูงกวา่ ปริญญาตรี 0 0.00 รับจ้าง 1 10.00 คา้ ขาย 1 10.00 เกษตรกรรม 3 30.00 รับราชการ 0 0.00 อนื่ ๆ(แมบ่ า้ น) 5 50.00 จากตารางที่ 1 แสดงจำนวนผ้ตู อบแบบสอบถามทั้งหมด 10 คน เป็นเพศชาย จำนวน 2 คน (คดิ เปน็ ร้อยละ 20.00) เปน็ เพศหญงิ จำนวน 8 คน (คดิ เปน็ ร้อยละ 80.00) - ด้านอายุ พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถาม ชว่ งอาย6ุ 0ปขี ้ึนไปมากท่สี ดุ จำนวน 5 คน (คดิ เปน็ ร้อยละ50.00) รองลงมาช่วงอายุ 40-49 ปี จำนวน 2 คน (คดิ เป็นรอ้ ยละ20.00) ชว่ งอาย3ุ 0 - 39 ปจี ำนวน 2 คน (คดิ เป็นร้อย ละ 20.00) และชว่ งอายุ 50-59 ปี จำนวน 1 คน (คิดเปน็ รอ้ ยละ 10.00) ตามลำดบั
- ด้านการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีการศึกษาระดบั ป.4มากที่สุดจำนวน 5 คน(คิดเป็นร้อยละ 50.00) การศึกษาระดบั ม.ตน้ จำนวน 2 คน (คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20.00) ระดบั การศึกษาปรญิ ญาตรี จำนวน 2 คน (คิด เป็นร้อยละ 20.00) ระดบั ม.ปลาย จำนวน 1 คน (คิดเป็นรอ้ ยละ 10.00) ตามลำดบั - ด้านอาชีพ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมอี าชีพอ่ืนๆ (แม่บ้าน / พ่อบ้าน)มากท่ีสุด จำนวน 5 คน (คิด เปน็ ร้อยละ 50.00) รองลงมาคืออาชีพเกษตรกรรม จำนวน 3 คน (คดิ เปน็ รอ้ ยละ 30.00) อาชีพรบั จา้ ง จำนวน 1 คน (คิดเป็นรอ้ ยละ 10.00) และอาชีพคา้ ขาย จำนวน 1 คน (คดิ เปน็ ร้อยละ 10.00) ตามลำดับ สรุปผลการประเมินความพึงพอใจ โครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตร ผสมผสาน โคก หนอง นา โมเดล) ของตำบลทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการได้ดงั นี้ แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ มี 4 ดา้ น ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจทมี่ ตี อ่ โครงการโดยรวมและแยกเปน็ รายด้าน ความหมาย รายการประเมนิ X 1. ความพึงพอใจดา้ นเนอื้ หา 2. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม 4.44 ดี 3. ความพงึ พอใจต่อวทิ ยากร 4.45 ดี 4. ความพงึ พอใจด้านการอำนวยความสะดวก 4.47 ดี 4.48 ดี รวม 4.46 ดี จากตารางที่ 2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการ โดยรวมและรายด้าน อยู่ใน ระดบั ดี ทกุ รายการ เม่ือพจิ ารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ อันดับหน่ึงคือ ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก รองลงมาความพึงพอใจตอ่ วิทยากรรองลงมาความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมและด้านความ พึงพอใจดา้ นเนอื้ หาตามลำดับ ตอนท่ี 1 ความพงึ พอใจด้านเนอ้ื หา ผลการประเมนิ X ความหมาย รายการประเมนิ 4.44 ดี 4.44 ดี 1. เนื้อหาตรงตามความต้องการ 4.44 ดี 2. เนอ้ื หาเพยี งพอต่อความต้องการ 4.45 ดี 3. เนือ้ หาปจั จุบันทนั สมัย 4.44 ดี 4. เนอ้ื หามปี ระโยชน์ต่อการนำไปใชใ้ นการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต รวม
จากตอนที่ 1 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจที่มีต่อโครงการความพงึ พอใจด้านเนื้อหาโดยรวม และรายด้านอยู่ในระดับ ดี เมื่อพจิ ารณาเป็นรายข้อ พบวา่ อันดับหนึง่ คือ เนื้อหามีประโยชนต์ อ่ การนำไปใช้ในการ พัฒนาคุณภาพชีวิตรองมาอันดับสองสามและสี่ เท่ากัน คือ เนื้อหาตรงตามความต้องการ/เนื้อหาเพียงพอต่อความ ต้องการ/และเน้อื หาปจั จบุ นั ทันสมยั ตามลำดับ ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม ผลการประเมนิ X ความหมาย รายการประเมนิ 4.45 ดี 4.44 ดี 1. การเตรยี มความพรอ้ มก่อนอบรม 4.46 ดี 2. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ 4.45 ดี 3. การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา 4.45 ดี 4. การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย 4.45 ดี 5. วิธกี ารวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ รวม จากตอนที่ 2 พบว่าผ้ตู อบแบบสอบถามมคี วามพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรมโดยรวมและ รายด้านอยู่ในระดับ ดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งคือการจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั เวลาอันดบั สองสามและส่ี คอื การจดั กิจกรรมเหมาะสมกบั กลุ่มเปา้ หมาย/วธิ ีการวดั ผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์/ การเตรียมความพรอ้ มก่อนอบรมอนั ดบั ห้า คอื การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ตามลำดบั ตอนที่ 3 ความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร ผลการประเมนิ X ความหมาย รายการประเมนิ 4.47 ดี 4.47 ดี 1. วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถในเรอื่ งท่ถี า่ ยทอด 4.47 ดี 2. วิทยากรมเี ทคนิคการถา่ ยทอดใช้สื่อเหมาะสม 4.47 ดี 3. วิทยากรเปิดโอกาสใหม้ ีสว่ นรว่ มและซักถาม รวม จากตอนที่ 3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อวิทยากรโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดบั ดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งสองและสาม คือวิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ถ่ายทอด/ วทิ ยากรมเี ทคนคิ การถา่ ยทอดใชส้ ่อื เหมาะสม/วทิ ยากรเปดิ โอกาสใหม้ ีส่วนร่วมและซักถามตามลำดบั
ตอนท่ี 4 ความพงึ พอใจดา้ นการอำนวยความสะดวก ผลการประเมนิ X ความหมาย รายการประเมนิ 4.48 ดี 4.47 ดี 1. สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณ์และส่ิงอำนวยความสะดวก 4.49 ดี 2. การสือ่ สาร การสรา้ งบรรยากาศเพ่ือใหเ้ กิดการเรยี นรู้ 4.48 ดี 3. การบริการ การชว่ ยเหลือและการแก้ปัญหา รวม จากตอนที่ 4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวกโดยรวมและราย ด้านอยู่ในระดับดี เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อันดับหนึ่งสอง คือการบริการ การช่วยเหลือและการ แก้ปัญหา อันดับสอง คือ สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก และอันดับสาม คือ การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพือ่ ให้เกดิ การเรยี นรู้ตามลำดับ
บทที่ 5 สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ ผลการดำเนิน โครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน โคก หนอง นา โมเดล) ที่เข้าร่วมโครงการครั้งน้ี มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลความพึงพอใจของผู้เรียน/ผู้รับบริการที่มีต่อ โครงการโดยรวมและแยกเป็นรายดา้ น โดยใชแ้ บบสอบถามจำนวน 10 ฉบับ เครอ่ื งมือท่ใี ช้เป็นแบบสอบถามท่ี เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามเกณฑ์ประเมินความคิดเห็นของเบสท์ (Best. 1981 : 182) วิเคราะห์ขอ้ มูลโดยหาคา่ เฉลย่ี (X) แปลความหมายขอ้ มูล แปลความหมายขอ้ มูลเชิงปริมาณ โดยใชเ้ กณฑข์ อ้ 2 ข้อมูลท่ีเป็นความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) จัดกลุ่มคำตอบ และ หาคา่ ความถี่ สรปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจ จากแบบประเมนิ ความพงึ พอใจสรุปผลได้ ดังน้ี 1. ผ้ตู อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจท่ีมีต่อโครงการความพงึ พอใจดา้ นเนอื้ หา โดยรวมและรายด้านอยู่ ในระดับ ดี เม่อื พจิ ารณาเป็นรายขอ้ พบวา่ อันดบั หนงึ่ คือ เนื้อหามปี ระโยชน์ต่อการนำไปใชใ้ นการพัฒนาคุณภาพ ชวี ิตรองมาอนั ดับสองสามและสี่ เท่ากนั คอื เนอ้ื หาตรงตามความตอ้ งการ/เน้อื หาเพยี งพอตอ่ ความต้องการ/และเน้ือหา ปัจจบุ นั ทันสมัย ตามลำดับ 2. ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจทม่ี ตี ่อโครงการ โดยรวมและรายดา้ น อย่ใู นระดบั ดี ทกุ รายการ เมอื่ พิจารณาเป็นรายข้อ พบวา่ อนั ดับหน่งึ คือ ความพงึ พอใจด้านการอำนวยความสะดวกรองลงมาความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร รองลงมาความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม และด้านความพึงพอใจดา้ น เน้อื หาตามลำดบั 3. ผูต้ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจตอ่ วิทยากรโดยรวมและรายดา้ นอย่ใู นระดบั ดี เม่อื พิจารณาเป็น รายขอ้ พบวา่ อันดับหนงึ่ สองและสาม คือวทิ ยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในเร่อื งที่ถ่ายทอด/วทิ ยากรมีเทคนคิ การ ถา่ ยทอดใชส้ อ่ื เหมาะสม/วิทยากรเปดิ โอกาสใหม้ สี ว่ นรว่ มและซกั ถามตามลำดับ 4. ผูต้ อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจด้านการอำนวยความสะดวกโดยรวมและรายด้านอยใู่ นระดบั ดี เมื่อพิจารณาเป็นรายขอ้ พบว่า อนั ดับหน่งึ สอง คอื การบรกิ าร การช่วยเหลอื และการแก้ปญั หา อันดับสอง คอื สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอำนวยความสะดวก และอนั ดบั สาม คือ การส่อื สาร การสรา้ งบรรยากาศเพือ่ ให้ เกิดการเรยี นรู้ตามลำดับ
ผลการดำเนนิ งาน ร้อยละ 80 ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกบั การดำเนินชีวติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) และสามารถนำความรู้ไปใช้ใน ชีวติ ประจำวันได้ และเขา้ ใจถึงวธิ กี ารปลกู ผักสวนครัว และการดแู ลรักษา บำรุงผักที่ปลกู ได้ ปญั หาและอปุ สรรคในการปฏบิ ตั งิ าน - ขอ้ เสนอแนะ -
ภาคผนวก
ภาพกจิ กรรม โครงการการเรยี นรูห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เกษตรผสมผสาน (โคก หนอง นา โมเดล) วนั ท่ี 19 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ณ ศาลาประชาคม หมทู่ ี่ 1 ตำบลแคตก อำเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา
แบบ กศ.ตน.26 (1-2) แบบรายงานผลการจดั การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง กศน.ตำบลแคตก ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอบางไทร 1. โครงการใช้ชวี ิตแบบเศรษฐกิจพอเพยี งจำนวน 6 ชวั่ โมง/วัน 2. ชือ่ วทิ ยากร - วุฒกิ ารศึกษา. ....-.....อาย.ุ .....-.........ปี อาชีพ...............-................... 3. ประเภทของวิทยากร ( ) ข้าราชการ ( ) ลูกจ้าง ( ) วิทยากรภายนอก ( ) อื่นๆ โปรดระบุ.................... 4. พื้นที่ดำเนินการ ( √ ) ในเขตเทศบาล ชื่อหมู่บ้าน/ชุมชนบ้านใหม่ ( ) นอกเขตเทศบาล ชื่อหมู่บ้าน/ชมุ ชน ณ ศาลาประชาคม หมูท่ ี่ 1 ตำบลแคตก อำเภอบางไทร จงั หวัดพระนครศรอี ยุธยา 5. ระยะเวลาดำเนินการ เม่ือวันท่ี 19 เดือน กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2564 ส้ินสดุ เมอื่ วันที่ 19 เดอื น กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2564 6. อนุมตั ิเบิกจ่ายจากงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2564 แผนงาน : พน้ื ฐานด้านการพฒั นาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนุษย์ ผลผลติ ท่ี 4 ผูร้ บั บริการการศึกษานอกระบบ กิจกรรมจัดการศกึ ษานอกระบบ งบดำเงินงาน (เศรษฐกิจพอเพียง)รหัสงบประมาณ 2000236004000000 รหัสกิจกรรมหลัก 200021400P2730 แหล่งของ เงิน 6411200 ศูนย์ต้นทุน 2000200214 จำนวน......1,800........... บาท ค่าวัสดุ.........1,800........บาท คา่ ตอบแทนวทิ ยากร.....-.....บาท ค่าอาหารกลางวัน ...........-.......บาท คา่ อาหารวา่ ง.........-.........บาท 7. วิธกี ารสำรวจความต้องการเรยี น ดำเนนิ การอยา่ งไร ( √ ) ประชาคม ( ) แนะแนว ( √ ) สำรวจความต้องการ ( ) อน่ื ๆ (โปรดระบ)ุ ............................................................................ 8. จำนวนผเู้ รยี นและผผู้ า่ นการเรียน/อบรม จำแนกตามอายุและเพศ เพศ ตำ่ กวา่ 15 ปี 15-29 ปี 30 -39 ปี 40 - 49 50 – 59 60 ปขี นึ้ ไป รวม ปี ปี อายุ ชญ ชญ ชญ ชญ รวมทงั้ สน้ิ -- -2 ชญ ชญ 14 28 ชญ -- -2 11 -1 14 28 10 -1 10 จำนวนผู้เรียน -- 11 จำนวนผผู้ า่ นการฝกึ อบรม - - 9. จำนวนผเู้ รยี นและผู้ผา่ นการฝึกอบรม จำแนกตามกลุ่มอาชีพและเพศ รบั พนักงาน โปรด เพศ ราชการ รฐั วสิ าหกจิ คา้ ขาย เกษตรกรรม รบั จา้ ง อื่นๆ ระบุ รวม รวม อายุ แมบ่ า้ น ทงั้ สนิ้ ช ญ ช ญ ชญ ช ญ ชญชญชญชญ 10 10 จำนวนผู้เรียน - - - - - 1 2 1 - 1 -5 - - 2 8 จำนวนผูผ้ า่ นการฝึกอบรม - - - - - 1 2 1 - 1 - 5 - - 2 8 10. จำนวนผเู้ รียนและผ้ผู ่านการฝกึ อบรม จำแนกตามกลมุ่ เป้าหมายและเพศ ผนู้ ำ ทหารกอง แรงงาน คา้ ขาย เกษตรกร อสม. อ่นื ๆ รวม รวม เพศ ทอ้ งถนิ่ อบต. ผตู้ อ้ งขงั ประจำการ ไทย แมบ่ า้ น ทง้ั สน้ิ อายุ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ชญ ช ญ ชญ ชญ - 1 21 - - 28 10 จำนวนผู้เรยี น - - - - - -- --1 - 1 21 - - -5 28 10 -5 จำนวนผู้ผา่ นการฝึกอบรม - - - - - - - - - 1
11. จำนวนผเู้ รียนและผู้ผ่านการฝึกอบรม แยกตามระดบั การศกึ ษาและเพศ(สอดคล้องกบั แบบ กศ.ตน. 22) เพศ ตำ่ กวา่ ป.4 ประถม ม.ตน้ ม.ปลาย อนุ ปรญิ ญา สงู กวา่ ปรญิ ญา รวม ป.4 ปรญิ ญา ตรี ตรี รวม ทงั้ สนิ้ อายุ 10 ช ญ ชญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ ช ญ 10 จำนวนผเู้ รยี น - - 14 -- 1 1 - 1 - - - 2 - - 2 8 จำนวนผ้ผู ่านการฝึกอบรม - - - - - - - - - - - - - - - - 2 8 12. การตดิ ตามผูผ้ า่ นการฝึกอบรม 12.1 มกี ารตดิ ตามผู้ผ่านการฝกึ อบรม ( ) ไม่มี เพราะ..................................................................................................................................................... () มี ดำเนนิ การอย่างไรมกี ารดำเนนิ การตดิ ตามผู้เรยี น โดยการใช้แบบติดตามผเู้ รียน (กศตน.22) 12.2 ผลการประเมินความพึงพอใจในการจัดโครงการ อยใู่ นระดับใด...................................................................... 12.3 ผู้ผ่านการฝกึ อบรมได้นำความรู้ไปใช้จรงิ เพิ่มรายได้............คน ลดรายจ่าย............คน นำไปประกอบอาชีพ...........คน พัฒนาคณุ ภาพชีวติ .............คน ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ 10 คน อ่ืน ๆ ระบ.ุ ...........................คน 13. ปญั หา อุปสรรค และขอ้ เสนอแนะ 13.1 ปัญหา อปุ สรรค () ไม่มี ( ) มี (โปรดระบุ)................................................................................................................................................... 13.2 ขอ้ เสนอแนะ.......................................................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................................ครู กศน.ตำบล (นางสาวประภาพร แก้วตอง) ลงชอ่ื ......................................................หัวหนา้ งานการศกึ ษาต่อเนอื่ ง (นางสาวฐติ พิ ร พาสี) ลงช่อื .......................................................ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา (นางสาววมุกดา แขง็ แรง) ผูอ้ ำนวยการ กศน. อำเภอภาชี รักษาการในตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการกศน.อำเภอบางไทร
แบบ กศ.ตน 7 (1) แบบประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษาตอ่ เนอื่ ง โครงการใช้ชวี ติ แบบเศรษฐกจิ พอเพยี ง วนั ที่ 19 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 สถานทีจ่ ดั ณ ศาลาประชาคม หมทู่ ่ี 1 ตำบลแคตก อำเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ลำดบั เลขประจำตัว ชอื่ – สกุล 1. ความรู้ 2. 3.คณุ ภาพ 4.ผลการ ระดบั การ ท่ี ประชาชน ความเขา้ ใจ ทักษะ ของ ประเมิน ประเมิน ในเนอ้ื หา การ ผลงาน/ (ผ่าน/ 1 31404 00440 009 นางสาวปญั จมา สุขสมภกั ด์ิ ปฏบิ ัติ ผลการ รวม ไมผ่ ่าน) 2 39305 01035 679 นางสาวเบญจา สุขสมภักด์ิ สาระ (40) ปฏบิ ตั ิ(40) (100) 3 31404 00105 521 นายธงชยั บุญยะวาศ (20) 36 39 ผ่าน 4 31404 00105 881 นางประนอม ไตรยางค์ 18 38 39 93 ผ่าน 5 31404 00164 982 นางแอน สุขสมเชาว์ 19 36 39 96 ผา่ น 6 31404 00105 059 นางสาวประยรู เนื่องชจู ติ 18 38 39 93 ผา่ น 7 31404 00105 814 นางวิภาดา บญุ มี 19 37 38 96 ผา่ น 8 31404 00105 334 นางนารี อรุโณทัย 19 38 39 94 ผา่ น 9 51404 00001 152 นางสมบตั ิ สขุ วรี ะกิจ 19 38 39 96 ผา่ น 10 31404 00045 471 นายอิทธิพล กลน่ิ ระรน่ื 19 36 39 96 ผ่าน 18 38 39 93 ผา่ น 19 36 39 96 ผา่ น 18 93 หมายเหตุ การประเมนิ ผลการจบหลักสูตรอาจดำเนนิ การได้ ดังน้ี การประเมนิ ระหวา่ งเรียน และเมอ่ื จบหลักสูตร ประเมินคร้ังเดียวก่อนจบหลกั สูตร ท้งั น้ี เกณฑก์ ารจบหลักสตู ร จะตอ้ งไดค้ ะแนนรวมไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 จึงจะผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ลงช่อื .............. ..........................หวั หน้า กศน.ตำบล ลงช่ือ.................................................ผอู้ นมุ ตั ิ (นางสาวประภาพร แก้วตอง) (นางสาวมกุ ดา แข็งแรง) ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอภาชี รักษาการในตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการกศน.อำเภอบางไทร
แบบ กศ.ตน.7 (2) กรอบการประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง กรอบการประเมนิ วธิ กี ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ความรคู้ วาม เข้าใจ - ทดสอบความรู้ความเขา้ ใจ - คะแนนเต็ม 20 คะแนน ในเน้ือหาสาระ - สอบถามความรคู้ วามเข้าใจ - ตอ้ งได้ 12 คะแนนขึน้ ไปจึงจะถอื วา่ ผา่ น (20) 2. ทักษะการปฏบิ ตั ิ - สังเกตการปฏิบัตใิ นระหวา่ งการ - ปฏิบัติได้ถูกต้องตามขัน้ ตอน (40) เรยี นรู้การจดั กจิ กรรม คล่องแคล่ว รวดเร็ว ไม่มีข้อผิดพลาด/ 3. คณุ ภาพของ - ประเมนิ โดยให้สาธิต/แสดง ปัญหา หากมีปญั หาสามารถแกไ้ ขได้อยา่ ง ผลงาน ขน้ั ตอน วิธกี ารปฏิบัติ รวดเร็ว ผลการปฏิบัติ (40) - กรณไี มม่ ีการปฏบิ ตั จิ ดั ทำผลงาน รวมคะแนน (100) ให้ ประเมินจากกระบวนการมี สว่ นรว่ ม (รว่ มคดิ ร่วมทำ รว่ ม แก้ปญั หา - สังเกต/ตรวจสอบผลงาน/ผลการ - ความถกู ตอ้ ง/ความสมบูรณ์ ปฏิบัติ ว่าเปน็ ไปตามเกณฑท์ ี่ - ความเขง็ แรงคงทน/ความสวยงามประณีต กำหนดหรอื ไม่ - ความประหยัด - ความเหมาะสมกบั กลมุ่ เปา้ หมายสภาพ พื้นท่ี ฯลฯ ท้ังน้ีเกณฑ์การพิจารณาข้นึ อยกู่ บั ลักษณะ หรือ ธรรมชาติของวชิ า/หลักสูตรนั้น
แบบ กศ.ตน 22 แบบติดตามผเู้ รยี นหลงั จบหลกั สตู รการศกึ ษาตอ่ เนอื่ ง กศน.ตำบล แคตก กศน.อำเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา แบบประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง โครงการใช้ชวี ติ แบบเศรษฐกจิ พอเพยี ง วนั ที่ 19 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 คำชี้แจง 1. แบบติดตามผู้เรียนจบหลักสตู รการศกึ ษาตอ่ เนอื่ ง มวี ตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื รวบรวมข้อมลู ของผู้เรยี นในการ นำความรูไ้ ปใช้ประโยชนห์ ลงั จากจบหลักสูตรแลว้ ดงั น้ี 1.1 จดั ทำทะเบียนผู้เรียนเข้าเรยี นและจบหลกั สูตรอาชพี ต้ังแต่ 1 ชว่ั โมงขนึ้ ไป 1.2 ตดิ ตามหรอื สอบถามผ้จู บหลกั สูตรต้ังแต่ 6 ชวั่ โมงข้นึ ไป ดำเนินการโดยสอบถามจากใบสมัคร และเมื่อจบหลกั สตู รระยะเวลา 1 เดอื น 2. ประเด็นการนำไปใช้ประโยชน์จะข้นึ อยกู่ ับลักษณะหลกั สูตรที่จดั 2.1 ดา้ นพัฒนาอาชพี เช่น เพ่มิ รายได้ ลดรายจ่าย สรา้ งอาชีพใหม่ ต้องการไดร้ บั การพัฒนา และ ต่อยอดอาชพี เดิมทำเปน็ อาชพี เสรมิ 2.2 ดา้ นพัฒนาทกั ษะชวี ติ เชน่ พฒั นาสุขภาพกาย พฒั นาสขุ ภาพจติ พัฒนาการคดิ วเิ คราะห์ 2.3 ด้านพฒั นาสังคมและชุมชนเช่น ร่วมพฒั นาชุมชนแก้ปัญหาภัยแลง้ ดา้ นการประหยัดพลังงาน ท่ี ช่ือ – นามสกลุ ผู้เรียน ต้องการมี ตอ้ งการ การนำไปใชป้ ระโยชน์ อ่นื ๆ หมายเหตุ รายได้ มีอาชพี ต้องการ ใชเ้ วลาวา่ ง โปรดระบุ 1 นางสาวปัญจมา สขุ สมภกั ดิ์ ไดร้ บั การ ใหเ้ กิด 2 นางสาวเบญจา สุขสมภกั ดิ์ พฒั นา ประโยชน์ 3 นายธงชยั บุญยะวาศ 4 นางประนอม ไตรยางค์ √ 5 นางแอน สุขสมเชาว์ √ 6 นางสาวประยรู เน่อื งชูจติ √ 7 นางวิภาดา บญุ มี √ 8 นางนารี อรุโณทยั √ 9 นางสมบัติ สขุ วีระกจิ √ 10 นายอทิ ธิพล กล่นิ ระรื่น √ √ √ √ ลงช่ือ..............................................ผู้รายงาน (นางสาวประภาพร แก้วตอง) ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: