Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทพากย์เอราวัณ

บทพากย์เอราวัณ

Published by duangcheewan1401, 2022-08-16 07:44:12

Description: บทพากย์เอราวัณ

Search

Read the Text Version

บทพากย์เอราวัณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จัดทำโดย นางสาวดวงชีวัน แก้วเรียบ ที่มา : https://blog.startdee.com

ที่มา : https://blog.startdee.com

คำนำ สื่อการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (E - Book) เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา การศึกษาภายในหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะกล่าวถึงเนื้อหาในบทพากย์เอราวัณซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งในวิชาภาษาไทยพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามหลักสูตรแกนกลางการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้จัดทำเพื่อประกอบการเรียนการสอน ตลอด จนผู้สนใจ ผู้จัดทำหวังว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจเรื่อง บทพากย์เอราวัณ ไม่มากก็น้อยหากมีความผิดพลาดประการ ปู้จัดทำขอน้อมรับและ ขออภัยไว้ ณ ทีนี้ด้วย ดวงชีวัน แก้วเรียบ ผู้จัดทำ

สารบัญ หน้าที่ คำนำ ก สารบัญ ข ความเป็นมา 1- 2 ลักษณะคำประพันธ์ 3 เรื่องย่อและสาระสำคัญ 4 ถอดคำประพันธ์ 5 -12 ตัวละคร 13 - 19 คุณค่าของเรื่อง 20 - 22 ข้อคิดจากเรื่อง 23 คำศัพท์น่ารู้ 24 - 25 อ้างอิง 26

1 ความเป็นมา ที่มาของเรื่อง บทพากย์เอราวัณ เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อใช้ในการ แสดงมหรสพประเภทหนังใหญ่และโขนโดยนำเนื้อเรื่องในตอนศึกอินทรชิต จากวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ ซึ่งมีเค้าโครงเรื่อง มาจาก วรรณคดีเรื่อง รามายณะ ของอินเดีย ที่มา : https://blog.startdee.com

2 ประวัติผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอิศรสุนทร ฯ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย (พ.ศ.๒๓๑o-พ.ศ.๒๓๖๗ ครองราชย์ พ.ศ.๒๓๕๒-พ.ศ.๒๓๖๗) รัชกาลที่ ๒ พระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช และสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี ทรงมีพระนามเดิมว่า ฉิม พระราชสมภพเมื่อ วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๑ ณ ตำบลอัมพวา เมืองสมุทรสาคร เมื่อพระชนมายุได้ ๑๖ พรรษา พระราชบิดาได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ พระนามว่า \"พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก\" จึงได้รับการสถาปนาพระยศขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า กรมหลวงอิสรสุนทร เมื่อพระชนมายุครบ ๒๒ พรรษา ทรงผนวช ณ วัดพระ- ศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวังและเสด็จไปจำพรรษาที่วัดสมอราย (วัดราชาธิ วาส) ทรงจำพรรษาอยู่นาน ๓ เดือน (๑พรรษา) จึงทรงลาผนวช ต่อมาทรงได้รับการ สถาปนาเลื่อนยศขึ้นเป็น กรมพระราชวังบวรสถานมงคล เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๔๙ หลังจากนั้นอีก เพียง ๒ ปี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอด-ฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จสวรรคต กรม พระราชวังบวรสถานมงคลซึ่งในขณะนั้นมีพระชนมายุได้ ๔๒ พรรษา จึงได้เสด็จเถลิงถวัลย์ ราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๒ แห่งราชวงศ์จักรี ที่มา : https://blog.startdee.com

3 ลักษณะคำประพันธ์ บทพากย์เอราวัณแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทกาพย์ฉบัง ๑๖ สาเหตุที่เป็น ๑๖ ก็เพราะหนึ่งบทจะมี ๑๖ คำ/พยางค์ โดย ๑ บท มี ๓ วรรค มีสัมผัสบังคับอยู่ที่คำสุดท้ายของวรรคแรกและวรรคที่สอง ส่วนคำ สุดท้ายของวรรคที่สามใช้ส่งเข้าบทถัดไป กาพย์ฉบัง ๑๖ มีฉันทลักษณ์ และตัวอย่างดังนี้ ตัวอย่างบทประพันธ์ เหมือนองค์อมรินทร์ เผือกผ่องผิวพรรณ ๏ อินทรชิตบิดเบือนกายิน เศียรหนึ่งเจ็ดงา ทรงคชเอราวัณ ๏ ช้างนิมิตฤทธิแรงแข็งขัน สีสังข์สะอาดโอฬาร์ ๏ สามสิบสามเศียรโสภา ดั่งเพชรรัตน์รูจี ที่มา : https://blog.startdee.com

4 เรื่องย่อและสาระสำคัญ บทพากย์เอราวัณมีที่มาจากรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต ซึ่งศึกอินทรชิตก็เป็น ตอนหนึ่งจากรามเกียรติ์ทั้งหมดกว่า ๑๗๘ ตอน (อ้างอิงจากหนังสือชุดวรรณคดีอมตะ ของไทย โดยเปรมเสรี) อินทรชิตเป็นบุตรของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ เดิมทีชื่อ “รณ พักตร์” แต่เปลี่ยนชื่อเป็น “อินทรชิต” เนื่องจากเป็นผู้รบชนะพระอินทร์ อินทรชิต บำเพ็ญตบะมายาวนานจึงเป็นยักษ์ที่มีฤทธิ์แก่กล้ามาก แถมยังมีอาวุธวิเศษ ๓ อย่างที่ ได้มาจากการทำพิธีขออาวุธจากมหาเทพทั้งสามอีก หนึ่งในนั้นคือศรพรหมาสตร์ และ พรที่ทำให้แปลงร่างเป็นพระอินทร์ได้ (อาวุธและพรนี้อินทรชิตได้มาจากพระอิศวร) ซึ่ง พรข้อนี้มีบทบาทอย่างมากในรามเกียรติ์ ตอน ศึกอินทรชิต จากพรข้อนี้ ในตอนที่อินทรชิตจัดทัพออกไปรบกับฝ่ายพระราม อินทรชิตจึงใช้ อุบายแปลงกายเป็นพระอินทร์ และให้การุณราชแปลงเป็นช้างเอราวัณ เพื่อให้พระราม และกองทัพหลงใหลในความงดงามอลังการ เนื้อหาส่วนใหญ่จึงพรรณนาถึงความยิ่ง ใหญ่สวยงามของช้างเอราวัณ (ปลอม ๆ) และกองทัพเหล่าผู้วิเศษ (ปลอม ๆ อีกเช่น กัน) และมีส่วนที่กล่าวถึงการเคลื่อนทัพของพระรามไปยังสนามรบ ซึ่งระหว่างที่เคลื่อน พลก็เกิดปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติต่าง ๆ มากมาย โดยจุดมุ่งหมายของอินทรชิตในศึกครั้งนี้คือยิงศรพรหมาสตร์ใส่พระลักษมณ์ ศรพรหมาสตร์เป็นอาวุธวิเศษที่อินทรชิตได้มาจากพระอิศวร เป็นอาวุธที่ทรงพลังมาก และทำให้กองทัพของพระรามพ่ายแพ้ไปในศึกครั้งนี้ ที่มา : https://blog.startdee.com

5 ถอดคำประพันธ์ อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองค์อมรินทร์ ทรงคชเอราวัณ เผือกผ่องผิวพรรณ เศียรหนึ่งเจ็ดงา ช้างนิรมิตฤทธิแรงแข็งขัน สีสังข์สะอาดโอฬาร์ สามสิบสามเศียรโสภา ดังเพชรรัตน์รูจี บทแรกนั้นเล่าว่าอินทรชิตได้ “บิดเบือน” หรือ “แปลง” กายเป็นพระอินทร์ (ด้วยการใช้พรที่ได้มาจากพระอิศวร) พร้อมกับทรงช้างเอราวัณที่เป็นช้างทรงของ พระอินทร์ ส่วนช้างเอราวัณที่ถูกเนรมิตขึ้นมานั้นก็แข็งแกร่งสวยงาม ผิวของช้าง เอราวัณนั้นสีขาวสะอาดเหมือนหอยสังข์ มีเศียรงดงาม ๓๓ เศียร แต่ละเศียรมีงา ๗ กิ่ง สวยงามราวกับเพชร งาแต่ละกิ่งมีสระบัว ๗ สระ แต่ละสระมีกอบัว ๗ กอ แต่ละกอมีด อกบัว ๗ ดอก แต่ละดอกมีกลีบบัวบาน ๗ กลีบ แต่ละกลีบมีนางฟ้ารูปงาม ๗ องค์ เรียกได้ว่าวิจิตรอลังการ ที่มา : https://blog.startdee.com

6 ถอดคำประพันธ์ นางหนึ่งย่อมมีบริวาร อีกเจ็ดเยาวมาลย์ ล้วนรูปนิรมิตมารยา จับระบำรำร่ายส่ายหา ชำเลืองหางตา ทำทีดังเทพอัปสร มีวิมานแก้วงามบวร ทุกเกศกุญชร ดังเวไชยันต์อมรินทร์ เครื่องประดับเก้าแก้วโกมิน ซองหางกระวิน สร้อยสายชนักถักทอง ตาข่ายเพชรรัตน์ร้อยกรอง ผ้าทิพย์ปกตระพอง ห้อยพู่ทุกหูคชสาร นางฟ้าแต่ละองค์ยังมีบริวารที่เป็นหญิงงามอีกตั้ง ๗ นาง แถมแต่ละนางก็ กำลังร่ายรำด้วยท่าทางสวยงามอย่างนางฟ้า นอกจากนี้ที่เศียรแต่ละเศียรของช้าง เอราวัณยังมีวิมานแก้วที่สวยงามราวกับวิมานเวไชยันต์ของพระอินทร์ ประดับตกแต่ง อย่างสวยงามด้วยแก้วเก้าประการ ได้แก่ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล มุกดา เพทาย และไพฑูรย์ ซองหาง และกระวินของช้างเอราวัณถูกถักร้อยด้วย สร้อยทอง และมีผ้าทิพย์ปกตระพองซึ่งร้อยประดับด้วยเพชร มีสายสร้อยห้อยเป็นพู่ลง ทั่วทุกหูช้าง ที่มา : https://blog.startdee.com

7 ถอดคำประพันธ์ โลทันสารถีขุนมาร เป็นเทพบุตรควาญ ขับท้ายที่นั่งช้างทรง เปลี่ยนแปลงกายคง รีบเร่งรี้พล บรรดาโยธาจัตุรงค์ เป็นเทพไทเทวัญ ลอยฟ้ามาในเวหน มาถึงสมรภูมิชัย ขุนมารโลทัน (สารถี (คนขับรถ) ของอินทรชิต) แปลงกายเป็นเทพบุตรนั่ง บังคับช้างอยู่ท้ายช้าง ทัพทั้ง ๔ เหล่าต่างแปลงกายเป็นเทพและอมนุษย์ผู้มีฤทธิ์ ทัพหน้าอารักขไพรสัณฑ์ ทัพหลังสุบรรณ กินนรนาคนาคา คนธรรพ์ปีกขวา โตมรศรชัย ปีกซ้ายฤาษิตวิทยา รีบเร่งรี้พล ตั้งตามตำรับทัพชัย ผ้าทิพย์ปกตระพอง ล้วนถืออาวุธเกรียงไกร พระขรรค์คทาถ้วนตน ลอยฟ้ามาในเวหน มาถึงสมรภูมิชัย ตาข่ายเพชรรัตน์ร้อยกรอง ห้อยพู่ทุกหูคชสาร ทัพหน้าคือเทพารักษ์ ทัพหลังคือครุฑ กินนร และนาค ปีกซ้ายคือฤๅษีและ วิทยาธร ปีกขวาคือคนธรรพ์ การจัดกระบวนทัพเป็นไปตามตำราสงคราม ทหารทั้ง ๔ เหล่าทัพต่างถืออาวุธครบครัน ได้แก่ หอก ธนู ดาบ กระบอง เหาะเหินบนฟ้าเคลื่อนทัพ มาถึงสนามรบ

8 ถอดคำประพันธ์ เมื่อนั้นจึงพระจักรี พอพระสุริย์ศรี อรุณเรืองเมฆา เฟื่องฟุ้งวนา ร่อนราถาลง ลมหวนอวลกลิ่นมาลา ไก่ขันปีกตี นิวาสแถวแนวดง ผึ้งภู่หมู่คณาเหมหงส์ แทรกไซ้ในสร้อยสุมาลี ดุเหว่าเร้าเร่งพระสุริย์ศรี กู่ก้องในท้องดงดาน ครั้นรุ่งเช้ามีลมพัดโชยกลิ่นหอมของดอกไม้ฟุ้งไปทั่วป่า ผึ้ง แมลงภู่ และ หมู่หงส์ทองก็บินร่อนถลาแทรกตัวลงในดอกไม้เพื่อหาอาหาร นกดุเหว่าและไก่ขันร้อง ตีปีกไปทั่วเป็นสัญญาณว่าเช้าแล้ว ปักษาตื่นตาขันขาน หาคู่เคียงประสาน สำเนียงเสนาะในไพร สร่างแสงอโณทัย ธิบดินทร์เธอบรรเทือง เดือนดาวดับเศร้าแสงใส ก็ผ่านพยับรองเรือง จับฟ้าอากาศแลเหลือง บรรทมฟื้นจากไสยา นกตื่นนอนร้องขับขานหาคู่ประสานเสียงไพเราะอยู่ในป่า ส่วนเดือนและ ดาวก็อับแสงลง ท้องฟ้าสว่างไสวเป็นสีเหลือง พระรามตื่นขึ้นจากที่บรรทมแล้วจึง เตรียมกองทัพ

9 ถอดคำประพันธ์ เมื่อนั้นจึงพระจักรีเสด็จทรงรถแก้วโกสีย์ ไพโรจน์รูจี จะแข่งซึ่งแสงสุริย์ใส เทียมสินธพอาชาไนย เริงร้องถวายชัย ชันหูระเหิดหฤหรรษ์ มาตลีสารถีเทวัญ กรกุมพระขรรค์ ขับรถมากลางจัตุรงค์ เพลารอยพลอยประดับดุมวง กึกก้องกำกง กระทบกระทั่งธรณี พระรามขึ้นรถทรงอันงดงามที่พระอินทร์ประทานให้ รถม้าส่งเสียงร้อง ม้าชันหู สูงส่งสัญญาณพร้อมที่จะออกรบ มาตลีเป็นสารถีขับรถทรงมากลางกองทัพทั้ง ๔ เหล่า มือถือพระขรรค์ รถทรงประดับพลอยตามเพลาและดุม เสียงรถวิ่งดังกึกก้องทั้งแผ่นดิน มยุรฉัตรชุมสายพรายศรี พัดโบกพัชนี กบี่ระบายโบกลม อึงอินทเภรีตีระงม แตรสังข์เสียงประสม ประสานเสนาะในไพร เสียงพลโห่ร้องเอาชัย เลื่อนลั่นสนั่นใน พิภพเพียงทำลาย สัตภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย อ่อนเอียงเพียงปลาย ประนอมประนมชมชัย ลิงคอยโบกมยุรฉัตร ชุมสาย พัดโบก พัชนี เสียงกลองที่ใช้ตีให้สัญญาณออก รบดังไปทั่ว เสียงแตรสังข์ประสานเสียงกันอย่างไพเราะในป่า เสียงพลทหารโห่ร้องเอาชัยสนั่นหวั่นไหวราวกับจะพื้นถล่มก่อนออกรบ สัตภัณฑ์บรรพต (ชื่อหมู่เขา ๗ ชั้นที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ) ต่างโน้มเอียงลงมาเพื่อทำความเคารพ

10 ถอดคำประพันธ์ พสุธาอากาศหวาดไหว เนื้อนกตกใจ ซุกซ่อนประหวั่นขวัญหนี ลูกครุฑพลัดตกฉิมพลี หัสดินอินทรี คาบช้างก็วางไอยรา วานรสำแดงเดชา หักถอนพฤกษา ถือต่างอาวุธยุทธยง ไม้ไหล้ยูงยางกลางดง แหลกลู่ล้มลง ละเอียดด้วยฤทธิโยธี แผ่นดินและอากาศสะเทือนเลื่อนลั่น สัตว์ต่าง ๆ ตกใจหาที่ซุกซ่อนตัว แม้แต่ลูกครุฑเมื่อได้ยินเสียงของฝ่ายกองทัพพระรามก็ตกใจพลัดตกจากต้นงิ้ว นกหัสดีที่คาบช้างมาก็ตกใจปล่อยช้างหลุดจากปาก ฝ่ายลิงต่างแสดงฤทธิ์เดชหัก ถอนต้นไม้มาถือแทนอาวุธ ป่าไม้ล้มลงอย่างราบเรียบด้วยฤทธิ์ของกองทัพ พระราม อากาศบดบังสุริย์ศรี เทวัญจันทรี ทุกชั้นอำนวยอวยชัย บ้างเปิดแกลแก้วแววไว โปรยทิพมาลัย ซ้องสาธุการบูชา ชักรถรี่เรื่อยเฉื่อยมา พุ่มบุษปมาลา กงรถไม่จดธรณินทร์ เร่งพลโยธาพานรินทร์ เร่งรัดหัสดิน วานรให้เร่งรีบมา ทันใดนั้นอากาศบดบังพระอาทิตย์ เหล่าเทวดาบนสวรรค์ทุกชั้นต่าง อำนวยอวยชัย บ้างเปิดประตู หน้าต่างแล้วก็โปรยดอกไม้ทิพย์เพื่อสักการะบูชา และยกย่องสรรเสริญ บนพื้นเต็มไปด้วยดอกไม้จนทำให้กงรถไม่สัมผัสพื้น นอกจากนี้ยังเร่งกองทัพลิง กองทัพช้างให้รีบมาถึงสนามรบ

11 ถอดคำประพันธ์ จากนั้นจึงเป็นเหตุการณ์ที่พระลักษมณ์พบกับกองทัพพระอินทร์ (ตัว ปลอม) ของอินทรชิต เมื่อนั้นพระศรีอนุชา เอื้อนอรรถวัจนา ตรัสถามสุครีพขุนพล เหตุไฉนสหัสนัยน์เสด็จดล สมรภูมิไพรสณฑ์ เธอมาด้วยกลอันใด สุครีพทูลทัดเฉลยไข ทุกทีสหัสนัยน์ เสด็จด้วยหมู่เทวา อวยชัยถวายทิพมาลา บัดนี้เธอมา เห็นวิปริตดูฉงน ทรงเครื่องศัสตราแย่งยล ฤๅจะกลับเป็นกล ไปเข้าด้วยราพณ์อาธรรม์ พระลักษมณ์ (น้องของพระราม) ถามสุครีพว่าเพราะเหตุใดพระอินทร์ เสด็จมาที่สนามรบนี้ สุครีพจึงทูลบอกพระลักษมณ์ว่า ปกติพระอินทร์จะเสด็จมาพร้อม กับเหล่าเทวดาเพื่ออวยชัยและถวายดอกไม้ แต่คราวนี้ดูผิดปกติและน่าสงสัยแปลก ๆ เพราะพระอินทร์แต่งกายมาพร้อมกับอาวุธดูงดงาม หรือว่าพระอินทร์จะเข้าข้างฝ่ายทศ กัณฐ์

12 ถอดคำประพันธ์ พระผู้เรืองฤทธิแข็งขัน คอยดูสำคัญ อย่าไว้พระทัยไพรี เมื่อนั้นอินทรชิตยักษ์ ตรัสสั่งเสนี ให้จับระบำรำถวาย ให้องค์อนุชานารายณ์ เคลิบเคลิ้มวรกาย จะแผลงซึ่งศัสตรศรพล สุครีพเตือนพระรามว่าอย่าได้ไว้วางใจข้าศึกเด็ดขาด ฝ่ายอินทรชิตก็สั่งให้ยักษ์ (ที่แปลงร่างแล้วอย่างสวยงาม) ฟ้อนรำถวายพระลักษมณ์ เพื่อให้พระลักษมณ์ เคลิบเคลิ้มและจะได้แผลงศรฆ่าให้ตาย อินทรชิตสถิตเหนือเอรา วัณทอดทัศนา เห็นองค์พระลักษณ์ฤทธิรงค์ เคลิบเคลิ้มหฤทัยใหลหลง จึงจับศรทรง พรหมาสตร์อันเรืองเดชา ทูนเหนือเศียรเกล้ายักษา หมายองค์พระอนุชา ก็แผลงสำแดงฤทธิรณ อากาศก้องโกลาหล โลกลั่นอึงอล อำนาจสะท้านธรณี ศรเต็มไปทั่วราศี ต้ององค์อินทรีย์ พระลักษณ์ก็กลิ้งกลางพล อินทรชิตนั่งอยู่บนช้างเอราวัณ เห็นพระลักษมณ์ผู้เก่งกาจในการรบ กำลัง หลงใหลเคลิบเคลิ้มในสิ่งงดงามที่ได้เห็น เมื่อได้โอกาส อินทรชิตจึงจับศรพรหมาสตร์ ขึ้นเหนือหัว เล็งใส่พระลักษมณ์ แล้วก็แผลงศรออกไปหมายจะให้ถูกพระลักษมณ์ ทันใดนั้นอากาศก็แปรปรวนเสียงดังกึกก้องสะท้านแผ่นดิน ศรพรหมาสตร์ที่อินทรชิต แผลงไปนั้นกระจายไปทั่วท้องฟ้า พระลักษมณ์ถูกศรของอินทรชิตแล้วล้มลงกลาง ไพร่พลในสนามรบ

13 ตัวละคร อินทรชิต อินทรชิต เป็นยักษ์มีกายสีเขียว เป็นโอรสของทศกัณฑ์กับนา งมณโฑ เดิมชื่อรณพักตร์ เมื่อสามารถรบชนะพระอินทรืได้ ทศกัณฑ์พอใจ มากจึงเปลี่ยนชื่อให้ว่า “อินทรชิต” อินทรชิตมีชายาชื่อสุวรรณกันยุมา มี โอรส 2 องค์ คือ ยามลิวัน และกันยุเวก มีศรนาคบาศ พรหมาสตร์ และศร วิษณุปาณัมเป็นอาวุธ ทั้งยังสามารถแปลงกายเป็นพระอินทร์ได้อีกด้วย พระพรหมเคยประทานพรให้ว่า เวลาจะตายต้องตายบนอากาศ และ อย่าให้ศีรษะขาดตกถึงพื้น มิฉะนั้นกลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก ต้องใช้พาน แว่นฟ้าของพระพรหมมารองรับ โลกจึงจะปลอดภัย ดังนั้นเมื่อพระลักษณ์ แผลงศรไปตัดคออินทรชิต จึงตรัสสั่งให้องคตเอาพานแว่นฟ้ามาคอยรับ ที่มา : https://blog.startdee.com

14 ตัวละคร พระราม พระราม คือ พระนารายณ์อวตาร (แบ่งภาค) ลงมา ถือกำเนิดเป็นพระราชโอรสของท้าว ทศรถ กับ นางเกาสุริยา เพื่อจะปราบทศกัณฐ์ พระรามมีพระอนุชาต่างพระมารดา ๓ พระองค์ คือ พระพรต พระลักษมณ์ และพระสัตรุต ซึ่งต่างก็มีความรักใคร่กันอย่างมาก พระมเหสีของพระราม คือ นางสีดา พระรามมีกายสีเขียว สามารถปรากฏร่างเป็นพระนารายณ์มีสี่กรได้ อาวุธประจำพระองค์ คือ ศรซึ่งเป็นอาวุธ วิเศษ ที่ได้ประทานมาจากพระอิศวร บทบาทที่สำคัญในเรื่องรามเกียรติ์ ได้แก่ - เมื่อเยาว์วัยพระรามได้รับการศึกษาศิลปศาสตร์ กับสำนักฤาษีสวามิตร หรือวิศวามิตร มีความเก่งกล้า ถึงกับฆ่ากากนาสูร และสวาหุ ซึ่งมารบกวนเหล่า ฤาษีชีไพร - ท้าวชนกจักรวรรดิ์ ได้ให้หมู่กษัตริย์มาประลองยกศรรัตนธนู เพื่ออภิเษกกับนางสีดา พระรามก็สามารถยกรัตนธนูได้สำเร็จ และได้อภิเษกกับนางสีดา ระหว่างเดินทางกลับกรุงอโยธยา สามารถปราบรามสูร(ยักษ์ผู้ถือขวาน) และได้รับศรจากรามสูร - ได้ฆ่าพระยาขร และพระยาทูษณ์ พี่ชายของนางสำมนักขา - ระหว่างออกเดินป่า ได้ปราบพิราบยักษ์ - ได้ช่วยสุครีพปราบพาลี - ไปรบกับทศกัณฐ์ และได้ฆ่าทศกัณฐ์ได้สำเร็จ - สถาปนาพิเภกให้ครองกรุงลงกา ที่มา : https://blog.startdee.com

15 ตัวละคร ช้างเอราวัณ เป็นช้างเผือกพาหนะของพระอินทร์ เชื่อกันว่าช้างเชือกนี้เป็นเทพบุตรองค์หนึ่ง เมื่อพระอินทร์ต้องการจะเสด็จไปไหน เอราวัณเทพบุตร ก็จะแปลงกายเป็นช้างเผือก 33 เศียร แต่ละเศียรมีงา 7 งา งาแต่ละงายาวถึง 4 ล้านวา งาแต่ละงามีสระบัว 7 สระ แต่ละ สระมีดอกบัว 7 ดอก แต่ละดอกมีกลีบ 7 กลีบ มี 7 เกสร แต่ละเกสรมีปราสาทอยู่ 7 หลัง ปราสาทแต่ละหลังมี 7 ชั้น แต่ละชั้นมี 7 ห้อง แต่ละห้องมี 7 บัลลังก์ แต่ละบัลลังก์มี เทพธิดาสถิต 7 องค์ เทพธิดาแต่ละองค์มีบริวาร องค์ละ 7 นาง เทพธิดาบริวารแต่ ละนาง มีนางทาสีนางละ 7 ทาสี รวมทั้งนางเทพอัปสรทั้งหมดประ มาณ 190,248,432 นาง เทพธิดา บริวารรวมกันทั้งหมดประมาณ 13,331,669,031 นาง เศียรทั้ง 33 ของช้าง เอราวัณมีอุเปนทเทพยดาสถิตเศียรละ 1 องค์ โดยปกติศิลปินไทยมักจะทำช้าง เอราวัณ เป็นช้าง 3 เศียร ที่มา : https://blog.startdee.com

16 ตัวละคร พระลักษณ์ พระลักษมณ์ คือ พญาอนันตนาคราชที่ประทับของพระนารายณ์มาเกิด มีกายสีทอง เป็นพระโอรสของท้าวทศรถ กับนางสมุทรเทวี มีพระอนุชาร่วมพระมารดา คือ พระสัตรุต พระลักษมณ์มีความจงรักภักดีต่อพระรามมาก เมื่อพระรามต้องออกเดินป่าถึง ๑๔ ปี พระ ลักษมณ์ก็ได้ติดตามไปด้วย และยังช่วยออกรบกับกองทัพของกรุงลงกา อย่างกล้าหาญ ที่มา : https://blog.startdee.com

17 ตัวละคร ทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์ เป็นกษัตริย์แห่งกรุงลงกา นับว่าเป็นตัวเอกของเรื่องรามเกียรติ์ มีกายสี เขียว มี ๑๐ พักตร์ ๒๐ กร ทรงมงกุฏชัย ลักษณะปากแสยะ ตาโพลง ทศกัณฐ์ เดิมเป็น ยักษ์นนทกกลับชาติมาเกิด เพื่อรบกับพระนารายณ์ ซึ่งอวตารมาเกิดเป็นมนุษย์ ไม่มีใครฆ่าให้ตายได้ เพราะทศกัณฐ์ถอดดวงใจ ใส่กล่องฝากไว้กับพระฤาษีโบุตร ผู้เป็นอาจารย์ ทศกัณฐ์มีนิสัยเจ้าชู้ มีชายาและนางสนมมากมาย แต่ถึงกระนั้นเมื่อรู้ว่านาง สีดาเป็นหญิงที่มีความงดงามมาก แม้นางจะมีพระสวามีอยู่แล้ว ก็ยังลักพาตัวไป จึงเป็น สาเหตุให้ต้องทำศึกกับพระราม จนญาติมิตรล้มตายไปเป็นจำนวนมาก และในที่สุดตนเอง ก็ถูกพระรามฆ่าตาย ที่มา : https://blog.startdee.com

18 ตัวละคร พิเภก พิเภก คือ เทพบุตรเวสสุญาณ จุติลงมาเกิดเพื่อช่วยพระรามปราบทศกัณฐ์ มี กายสีเขียว เป็นน้องของทศกัณฐ์ มีความรู้ทางโหราศาสตร์อย่างยอดเยี่ยม สามารถทำนาย เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ เมื่อทศกัณฐ์ลักพานางสีดามา พิเภกได้ทูลตักเตือน และ แนะนำให้ส่งนางสีดาคืนไปทำให้ทศกัณฐ์โกรธมาก จนขับไล่พิเภกออกไปจากเมืองพิเภกจึงไปสวามิภักดิ์กับพระราม ให้คำแนะนำ ที่เป็นประโยชน์ จนกระทั่งพระรามชนะสงคราม หลังจากเสร็จศึกแล้ว พระรามได้สถาปนา ให้พิเภกเป็นกษัตริย์ครองกรุงลงกา มีพระนามว่า ท้าวทศคีรีวงศ์ ที่มา : https://blog.startdee.com

19 ตัวละคร หนุมาน หนุมาน เป็นลิงเผือก (กายสีขาว) มีลักษณะพิเศษ คืืือมีเขี้ยวแก้วอยู่กลางเพดาน ปาก มีกุณฑลขน เพชร สามารถแผลงฤทธิ์ให้มีสี่หน้าแปดมือ แลหาวเป็นดาวเป็นเดือนได้ ใช้ตรีเพชร (สามง่าม) เป็นอาวุธประจำตัว (จะใช้เมื่อรบกับยักษ์ตัวสำคัญๆ) มีความเก่งกล้ามาก สามารถแปลงกาย หายตัวได้ ทั้งยังอยู่ยงคงกระพัน แม้ถูกอาวุธของศัตรูจนตาย เมื่อมีลม พัดมาก็จะฟื้นขึ้นได้อีก เมื่อนางสวาหะถูกมารดาสาปให้ไปยืนตีนเดียว เหนี่ยวกินลม พระอิศวรจึงบัญชา ให้พระพายนำเทพอาวุธของพระองค์ไปซัดเข้าปากของนาง นางจึงตั้ง ครรภ์และคลอดบุตรเป็นลิงเผือก เหาะออกมาจากปาก ได้ชื่อว่าหนุมาน หนุมาน จึงถือว่า พระพายเป็นพ่อของตน หนุมานได้ถวายตัว เป็นทหารเอกของพระราม ช่วยทำการรบจนสิ้น สงคราม ที่มา : https://blog.startdee.com

20 คุณค่าของเรื่อง คุณค่าด้านสังคม 1. อาวุธในการทำสงคราม อาวุธในการทำสงครามที่ปรากฏในบทพากย์เอราวัณ ส่วนใหญ่เป็นอาวุธของฝ่ายทัพอินทรชิต เช่น โตมร (หอกด้ามสั้น) ศร พระขรรค์ คทา 2. ช้างเอราวัณ บทพากย์เอราวัณกล่าวถึงลักษณะของช้างเอราวัณที่อินทรชิตได้ สร้างขึ้น ซึ่งสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคกลาง เล่มที่ ๑๕ กล่าวถึงช้างเอราวัณว่า คือ ช้างของพระอินทร์อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ บางทีเรียกว่า ไอยรา หรือ ไอยราพรต ใน ไตรภูมิ พระร่วงบรรยายว่าช้างนี้ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน เพราะในเมืองสวรรค์มีแต่เทวดา ดัง นั้น เมื่อพระอินทร์จะไปที่ใดและปรารถนาจะขี่ช้าง เทวดาองค์หนึ่งชื่อ “ไอราวัณเทพบุตร” ก็จะนิมิตกายเป็นช้างเผือกขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือช้างเอราวัณนั่นเอง 3. สัตว์ป่าในหิมพานต์ เมื่อกล่าวถึงการเคลื่อนทัพของพระราม กวีได้พรรณนาความ ถึงแสนยานุภาพที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่สัตว์ต่างๆ ในป่าหิมพานต์ก็ตื่นตกใจในอำนาจของกองทัพ สัตว์ที่กล่าวถึง เช่น ลูกครุฑที่อาศัยอยู่ในรัง ไม้งิ้ว และนกหัสดีลิงค์ 4. ฤๅษีและอมนุษย์ บทพากย์เอราวัณได้กล่าวถึงเหล่าบริวารของ อินทรชิตที่แปลง กายเป็นฤาษีและอมนุษย์ต่างๆ ได้แก่ - วิทยาธร มีลักษณะเป็นครึ่งคนครึ่งเทพ สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ มีพระขรรค์ วิเศษประจำตน ชอบนำนารีผลซึ่งเป็นผลของต้นไม้ในป่าหิมพานต์มาสมสู่ - คนธรรพ์ ตามตำนานกล่าวว่า เป็นบริวารของท้าวธตรฐซึ่งเป็น เจ้าโลกบาลผู้รักษา ทิศตะวันออก ลักษณะเด่นของคนธรรพ์ คือ มีความชำนาญด้านการดนตรีและการขับร้อง มีเวทมนตร์และอิทธิฤทธิ์มาก - กินนร มีลักษณะครึ่งคนครึ่งนก หากเป็นหญิงจะเรียกว่า “กินรี” กล่าวกันว่ากินนรหรือ กินรีอาศัยอยู่บริเวณเขาไกรลาส และมีสระอโนดาตไว้สำหรับอาบน้ำ

21 คุณค่าของเรื่อง คุณค่าด้านวรรณศิลป์ 1. กลวิธีการประพันธ์ ได้แก่ - สัมผัสสระ เช่น ผึ้งภู่หมู่คณาเหมหงส์ ร่อนราถาลง แทรกไซ้ในสร้อยสุมาลี - สัมผัสอักษร เช่น เดือนดาวดับเศร้าแสงใส สร่างแสงอโณทัย ก็ผ่านพยับเรืองรอง - ดุลของเสียง (การซ้ำคำหรือพยางค์อย่างเป็นจังหวะ) เช่น จับฟ้าอากาศแลเหลือง ธิบดินทร์เธอบรรเทือง บรรทมฟื้นจากไสยา 2. การใช้ภาพพจน์ ได้แก่ ทุกเกศกุญชร - อุปมา เช่น เลื่อนลั่นสนั่นใน มีวิมานแก้วงามบวร อ่อนเอียงเพียงปลาย ดังเวไชยันต์อัมรินทร์ - อติพจน์ เช่น เสียงพลโห่ร้องเอาชัย พิภพเพียงทำลาย - บุคคลวัต เช่น สัตภัณฑ์บรรพตทั้งหลาย ประนอมประนมชมชัย

22 คุณค่าของเรื่อง คุณค่าด้านเนื้อหา คุณค่าด้านเนื้อหา สาระสำคัญที่ปรากฏคือ “ความประมาทเพราะลุ่มหลงเป็น เหตุให้เกิดความสูญเสียและพ่ายแพ้” ดังที่ปรากฏในเรื่อง เหตุที่พระลักษมณ์ต้องศร พรหมาสตร์เพราะหลงมองความงามของขบวนทัพพระอินทร์ ทั้งที่สุครีพได้กล่าว เตือนแต่เพราะประมาทจึงต้องพ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้ ที่มา : https://blog.startdee.com

23 ข้อคิดของเรื่อง นอกจากใช้เล่นโขนละครในเพื่อความบันเทิง บทพากย์รามเกียรติ์แต่ละตอนก็มี คติสอนใจให้ผู้อ่านผู้ชมได้คิดตามด้วย บทพากย์เอราวัณเองก็มีข้อคิดที่น่าสนใจหลายข้อ ได้แก่ 1. ความลุ่มหลงเป็นบ่อเกิดของหายนะ เช่น พระลักษมณ์ที่หลงใหลในความงดงามของกองทัพยักษ์จำแลง จนประมาทและถูก ศรพรหมาสตร์ของอินทรชิต 2. การใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกไม่ควร เช่น อินทรชิตที่มีทั้งพรและอาวุธจากมหาเทพ แต่ก็เลือกใช้อำนาจไปในทางที่ผิด ทั้งออก มารบกับพระรามและผู้อื่น (จริง ๆ ก่อนนี้อินทรชิตมีชื่อว่ารณพักตร์ เป็นผู้บำเพ็ญเพียร จนมีฤทธิ์แก่กล้า เมื่อได้พรและอาวุธจากมหาเทพมาก็ไปท้ารบกับพระอินทร์ และได้ ชัยชนะกลับมาด้วย จึงเป็นที่มาของชื่ออินทรชิต ซึ่งแปลว่า “ผู้ชนะพระอินทร์”) 3. การใช้สติปัญญาพิจารณาสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น สุครีพที่ช่างสังเกต ใช้สติปัญญาประเมินสถานการณ์ในสนามรบ และเตือนให้พระ ลักษมณ์อย่าไว้ใจข้าศึก ที่มา : https://blog.startdee.com

24 คำศัพท์ คำศัพท์น่ารู้ กง กบี่ ความหมาย กระวิน กายิน วงรอบของล้อรถ กำ ลิง กินนร ห่วงที่เกี่ยวกันสำหรับโยงสัปคับช้าง เก้าแก้ว ร่างกาย แกล ซี่ล้อรถหรือเกวียน โกมิน อมนุษย์ที่มีรูปร่างครึ่งคนครึ่งนก โกลาหล แก้วเก้าประการ, นพรัตน์ ขวัญ หน้าต่าง ไข โกเมน, พลอยสีแดงเข้ม คนธรรพ์ เสียงกึกก้อง จันทรี หนีตกใจ จับระบำ บอก ฉงน ชาวสวรรค์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านดนตรี ฉิมพลี พระจันทร์ ชนัก ฟ้อนรำ ชันหู สงสัย ตั้ง ต้นงิ้ว ชุมสาย เครื่องผูกคอช้างทำด้วยเชือก ซ้อง อาการแสดงการเตรียมพร้อมของสัตว์โดยยกหู ซองหาง ดวงมาลย์ เครื่องสูงเป็นรูปฉัตรสามชั้น พร้อมกัน เครื่องคล้องโคนหางช้าง ดอกบัว

25 คำศัพท์ คำศัพท์น่ารู้ ถา ทัศนา เทพไท ความหมาย เทพอัปสร ถลา เทียม เห็น ธรณินทร์ เทวดา ธรณี นางฟ้า ธิบดินทร์ เอาสัตว์ผูกกับยานพาหนะ นงพาล แผ่นดิน นาค แผ่นดิน แน่งน้อย พระราม บรรเทือง นางรุ่นสาว บรรพต งูใหญ่มีหงอน บิดเบือน งดงาม บุษปมาลา ตื่นขึ้น โบกขรณี ภูเขา ปักษา แปลง (กาย) ผกา ดอกไม้ ผ้าทิพย์ สระบัว พรหมาสตร์ นก พระขรรค์ ดอกไม้ หรือ ดอกบัว พระจักรี ผ้าคลุมตระพองช้าง (ส่วนนูนสองข้างที่หัวช้าง) พระศรีอนุชา ศรที่พระอิศวรประทานให้แก่อินทรชิต ดาบ พระราม พระลักษมณ์

26 อ้างอิง https://www.baanjomyut.com/บทพากย์เอราวัณ -ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 http://ramayana9.blogspot.com บทพากย์เอราวัณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 https://blog.startdee.com บทพากย์เอราวัณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิชาภาษาไทย



อินทรชิตบิดเบือนกายิน เหมือนองค์อมรินทร์ ทรงคชเอราวัณ เผือกผ่องผิวพรรณ เศี ยรหนึ่งเจ็ดงา ช้างนิมิตฤทธิแรงแข็งขัน สระหนึ่งย่อมมี สี สั งข์สะอาดโอฬาร์ ดอกหนึ่งแบ่งบาน เจ็ดองค์โสภา สามสิ บสามเศี ยรโสภา อีกเจ็ดเยาวมาลย์ ดั่งเพชรรัตน์รูจี ชำเลืองหางตา ทุกเกศกุญชร งาหนึ่งเจ็ดโบกขรณี เจ็ดกออุบลบันดาล กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์ มีกลีบได้เจ็ดกลีบผกา กลีบหนึ่งมีเทพธิดา แน่งน้อยลำเพานงพาล นางหนึ่งย่อมมีบริวาร ล้วนรูปนิรมิตมายา จับระบำรำร่ายส่ ายหา ทำทีดังเทพอัปสร มีวิมานแก้วงามบวร ดังเวไชยันต์อมรินทร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook