สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการทาเคร่ือง ดื่มสมนุ ไพรเพ่อื สุขภาพ บทที่ 1 บทนา ความเปน็ มาและความสาคัญ ตาบลบญุ ทนั อาเภอสุวรรณคูหา มีพนื้ ทีส่ ่วนใหญ่ทาการเกษตรเช่นการทานาทาไรแ่ ละปลูกผัก หลงั จากการ เกบ็ เก่ยี วผลผลิตทางการเกษตรมกี ารประกอบอาชพี เสรมิ เพม่ิ รายได้ใหก้ ับคนในชุมชนตาบล บุญทัน อาเภอสุวรรณ คหู า เป็นอกี ตาบล ทป่ี ระชาชนใชเ้ วลาวา่ งหลังจากการเก็บเกีย่ วผลผลิตทางการเกษตร โดยการรวมกลุ่มกันประกอบ อาชีพเสรมิ ไดแ้ ก่การทาเครือ่ งด่ืมสมนุ ไพรเพอ่ื สุขภาพสมุนไพร ทมี่ กี ารทาอย่ใู นชุมชน ท่ีมีกรรมวิธีการผลิตจากภูมิ ปัญญาชาวบา้ นบญุ ทนั ตาบลบญุ ทัน เปน็ การสรา้ งมลู คา่ ของสนิ คา้ ท่ีมีอยู่ในทอ้ งถน่ิ ให้เกดิ มูลคา่ ทีส่ ูงขึ้น โดยใช้เวลา ท่ีพกั จากการทาการเกษตรมารวมกลมุ่ กนั เพอ่ื สรา้ งรายได้ ในการผลติ ตอ้ งใชเ้ วลาความอดทนและความละเอียดลออ มี กรรมวิธีทไ่ี ม่ยุ่งยากมากและผ้อู อกแบบต้องมีประสบการณ์และพรสวรรค์ในการออกแ บบตัดเย็บนิยมนามาใช้ใน บ้านเรือนและจาหน่วย ซ่ึงสร้างรายไดใ้ ห้กับชมุ ชนเปน็ อยา่ งดี ดงั น้ันเพื่อเป็นการส่งเสรมิ สนับสนนุ และตอบสนองกบั ความต้องการของประชาชนกลุ่มเปูาหมายในตาบลบญุ ทนั กศน.ตาบลบุญทนั จงึ ได้จดั โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน รปู แบบกลมุ่ สนใจ(ไม่เกนิ 30 ชว่ั โมง) วชิ าการทา เครอื่ งด่มื สมุนไพรเพือ่ สุขภาพ จานวน 8 ชว่ั โมงขนึ้ เพือ่ เป็นการสืบทอดภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ ลดรายจา่ ยและเพ่มิ รายได้ใน ชุมชน ตลอดจนให้ความรู้ ความเขา้ ใจและพัฒนาอาชีพให้กบั ประชาชนกลุ่มเปูาหมายและผู้สนใจในตาบลให้สามารถ นาไปประกอบเป็นอาชพี พฒั นาอาชีพ เพ่อื กอ่ ให้เกิดรายไดก้ บั ตนเองและครอบครวั เป็นการสร้างอาชีพใหเ้ กิดความ มน่ั คงต่อไป วตั ถุประสงคข์ องโครงการ เพ่อื ให้ประชาชนกลุ่มเปาู หมายทว่ี า่ งงานหรอื มีอาชพี อยู่แลว้ และตอ้ งการตอ่ ยอดอาชีพ พัฒนาอาชีพ มี ทกั ษะความรู้ ความเขา้ ใจในการทาเครื่องดืม่ สมุนไพรเพ่ือสขุ ภาพ สามารถนาความรูไ้ ปใช้ในชวี ิตประจาวัน และ ประกอบอาชพี ได้ ขอบเขตของโครงการ 1. ด้านเนอื้ หา โครงการน้ีม่งุ ใหผ้ ู้เรยี นกลุม่ เปูาหมายท่ีเข้ารบั การอบรมสามารถนา ความรู้ ทกั ษะ และประสบการณก์ ารเรยี นรตู้ ่างๆ ไปใช้ในการประกอบอาชีพที่เปน็ การเขา้ สู่อาชพี สรา้ งงาน สร้าง รายได้ หรือพัฒนาอาชพี หรอื ตอ่ ยอดอาชีพเดมิ ทาเคร่อื งด่ืมสมนุ ไพรเพ่ือสุขภาพ 2. ดา้ นระยะเวลา ระยะเวลาในการดาเนินงาน วันท่ี 15-16 ธันวาคม 2564 ณ ศาลา ประชาคมบ้านบุญทนั หมทู่ ี่ 1 ตาบลบญุ ทนั อาเภอสวุ รรณคูหา จงั หวัดหนองบวั ลาภู 3. ดา้ นประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง ประชาชนตาบลบญุ ทนั จานวน 10 คน และครู กศน.ตาบลบุญทัน จานวน 2 คน กศน.ตาบลบุญทนั ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา ๑
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการทาเคร่ือง ด่มื สมนุ ไพรเพื่อสุขภาพ ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รบั - ประชาชนตาบลบญุ ทนั กลมุ่ เปูาหมายมีความรูเ้ กย่ี วกับการทาเคร่ืองด่มื สมุนไพรเพื่อสุขภาพ - เพื่อให้ผู้เข้า รับการ อบรมสามารถนาควา มรู้ ทักษะ และประสบ การ ณ์การเรียนรู้ต่างๆ ไปใช้ใน ชวี ิตประจาวัน สามารถลดค่าใช้จ่ายภายในครวั เรอื น และสามารถสร้างความมน่ั คงทางด้านอาหารให้กับตนเองและ ครอบครัว ตวั ชี้วัด ตัวชว้ี ดั ผลผลิต รอ้ ยละ 80 ของประชาชน ตาบลบญุ ทนั ทีเ่ ขา้ รว่ มโครงการมีความรูเ้ กยี่ วกบั การทาเคร่อื งด่มื สมนุ ไพรเพือ่ สุขภาพ ในสถานการณโ์ ควดิ 19 ตัวช้ีวัดผลลพั ธ์ ประชาชนตาบลบญุ ทนั ทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการมคี วามรู้ ทกั ษะและประสบการณ์การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ไปใช้ใน ชวี ิตประจาวันได้ กศน.ตาบลบุญทัน ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคหู า ๒
สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วิชาการทาเครือ่ ง ดืม่ สมนุ ไพรเพ่อื สขุ ภาพ บทที่ 2 เอกสารทเี่ กยี่ วขอ้ ง ความหมายและความสาคญั ของการทาเครอ่ื งด่มื สมนุ ไพรเพ่อื สขุ ภาพ พชื ผกั เป็นพชื อาหารที่คนไทยนิยมนา มาใชร้ บั ประทานกนั มากเนอื่ งจากมีคณุ ค่าทางอาการทั้งวิตามนิ และแร่ธาตุ ต่างๆ ทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ รา่ งกายสงู แตค่ า่ นยิ มในการบรโิ ภคผกั น้นั มักจะเลอื กบรโิ ภคผักที่สวยงามไม่มรี ่องรอยการ ทา ลายของหนอนและแมลงศัตรพู ชื จงึ ทา ใหเ้ กษตรกรที่ปลูกผักจะต้องใช้สารเคมปี ูองกนั และกา จดั แมลงฉดี พน่ ใน ปรมิ าณทม่ี าก เพอ่ื ใหไ้ ด้ผักท่ีสวยงามตามความต้องการของตลาด เมอื่ ผซู้ อื้ นา มาบริโภคแลว้ อาจไดร้ บั อันตรายจาก สารพษิ ทีต่ กค้างอยใู่ นพืชผักน้ันได้เพื่อเปน็ การแกป้ ัญหาดงั กล่าว เกษตรกรจึงควรหันมา ทา การปลกู ผักปลอกภัยจาก สารพิษ โดยนา เอาวิธีการปูองกันและกา จัดศตั รพู ืชหลายวิธีมาประยุกตใ์ ชร้ ว่ มกนั เป็นการทดแทนหรือลดปรมิ าณ การใช้สารเคมใี หน้ ้อยลง เพอื่ ความปลอดภัยของเกษตรกร ผบู้ ริโภคและสิ่งแวดล้อม “ผกั ปลอดสารพษิ ” หมายถึง ผกั ทม่ี ีกระบวนการการผลติ ที่มกี ารใช้สารเคมสี งั เคราะห์ เช่น ธาตุอาหารตา่ ง ๆ ใช้ ปุย๋ เคมเี พอื่ เร่งการเจรญิ เติบโต รวมถงึ การใช้ปุย๋ อินทรยี ์ต่าง ๆ ไม่ได้หมายความไมใ่ ชส้ ารเคมีหรือเคมีสังเคราะหเ์ ลย เพียงแต่เคมีสงั เคราะห์ดังกลา่ วเป็นเคมีสังเคราะห์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้, ผู้บริโภค และสง่ิ แวดล้อม เมือ่ ถงึ เวลาเกบ็ เก่ียวเคมสี งั เคราะห์พวกน้จี ะไมม่ สี ารพิษตกค้างอยูเ่ พราะเคมีสังเคราะห์พวกน้เี ป็นกล่มุ ของปุย๋ เคมี จุลธาตุต่าง ๆ ซงึ่ มี อย่ใู นใบพชื อยูแ่ ล้ว “ผกั ปลอดภยั ” หมายถงึ ผกั ทมี่ กี ระบวนการการผลติ ที่ใช้สารเคมีกาจดั ศตั รพู ชื หรือยาฆ่าแมลงและเชอ้ื ราต่าง ๆ นามาใชใ้ นช่วงเวลาที่มแี มลงศัตรูพชื ระบาด เพยี งแตจ่ ะตอ้ งมกี ารกาหนดวิธีการใช้อยา่ งเข้มงวด ควรฉีดพน่ ยาฆา่ แมลง ช่วงไหน ช่วงไหนไม่ควรฉดี ช่วงนี้เปน็ ชว่ งเก็บเก่ยี วผลผลติ หากฉีดพน่ จะมสี ารพษิ ตกคา้ งถงึ บรโิ ภค ควรเว้นระยะเวลา การเกบ็ เกยี่ วก่ีวนั หลงั จากฉีดสารเคมีปูองกนั และกาจัดศตั รพู ชื ไปแลว้ แตท่ ีแ่ น่ ๆ ผลผลิตไม่ควรมีสารพษิ ตกคา้ งไมเ่ กิน มาตราฐานทีก่ ระทรวงสาธารณสุขกาหนดไว้ ซ่งึ การผลิตผักปลอดสารพิษของชมรมฯ จะยดึ หลักการนาเอาวิธีการ ปูองกันและกาจดั ศัตรูพืชหลายวิธีมาประยกุ ต์ใชร้ ว่ มกันหรือวิธีผสมผสานโดยไม่สนบั สนุนใหเ้ กษตรกรใช้สารเคมี ปอู งกนั และกาจดั แมลงในแปลงปลกู ใช้วิธตี า่ ง ๆ หลาย ๆ วธิ ีร่วมกนั ซึง่ การทาเครอื่ งดื่มสมุนไพรเพอ่ื สุขภาพทท่ี าง ชมรมฯ แนะนาให้เกษตรกรคิดและนาไปปฏบิ ัติกค็ อื “ทาอย่างไรใหต้ น้ พชื ท่เี ราปลกู แขง็ แรงและต้านทานโรค แมลง ศตั รูพชื ตา่ ง ๆ” คราวน้ีก็จะต้องมาคิดแลว้ วา่ ควรจะเรมิ่ ท่ใี ด ตรวจค่ากรด-ด่างของดนิ และปรบั ใหเ้ หมาะสมกบั การ ปลกู พชื , ให้ปุ๋ยสมส่วน หมายถึง ไม่ใหธ้ าตใุ ดธาตุหนึง่ มากเกนิ ความจาเปน็ เช่น ไนโตรเจน (ยเู รีย) เพราะจะทาให้พืช อ่อนแอขาดความแข็งแรง, การเพมิ่ ซิลกิ า้ โดยใชภ้ ูไมท์หว่านรองพ้ืนก็เป็นอีกวิธีที่ทาให้พืชแข็งแรง, ใชส้ ารสกัดสมุนไพร ชนิดใดกาจัดโรคและแมลงดีหรอื จะใช้จุลนิ ทรยี ์กลุม่ ตา่ ง ๆ ปอู งกันและกาจัด, สภาพแวดลอ้ มเอ้อื อานวยหรือไม่ ซง่ึ หลักการดังกล่าวขา้ งต้นลว้ นสาคัญทั้งสนิ้ และยังมีอีกหลายอยา่ งทผ่ี ู้คิดจะผลิตผักปลอดสารพิษต้องคานึงถึง ซึ่งหากทา ได้โดยละเอยี ดวิธกี ารต่าง ๆ เหลา่ นีจ้ ะทาใหเ้ กษตรกรผู้ทาเคร่ืองดื่มสมุนไพรเพ่ือสุขภาพประหยัดต้นทนุ การผลติ ได้ อยา่ งมากมาย ซึง่ บทความนผี้ ู้เขยี นจะขอเร่ิมจากการตรวจคา่ ความเป็นกรด – ดา่ ง (ค่า PH ) ของดนิ ก่อน โดยค่าดินท่ีเหมาะสม สาหรบั การปลกู พชื ควรอย่ทู ี่ 5.8-6.5 เมอื่ สุ่มดนิ ตรวจพบว่าถ้าดินเปน็ กรด (ตา่ กว่า 5.8) ใหใ้ ชภ้ ูไมทซ์ ลั เฟต (กระสอบ กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา ๓
สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการทาเครื่อง ด่มื สมนุ ไพรเพอ่ื สุขภาพ สเี หลอื ง) หรือวัสดปุ นู ต่าง ๆ (ปูนมาร์ล, โดโลไมท์, ปูนขาว) แต่ถา้ ดนิ ทเี่ ป็นด่าง หรืออกี นยั หนง่ึ คอื ดนิ ท่ีมีคา่ เกนิ 6.5 ใหใ้ ช้ภูไมท์ซลั เฟต (กระสอบสีแดง) ปรบั ค่าดินให้ลงมาจนเหมาะสาหรับปลกู พชื ใหใ้ ช้ตง้ั แต่การเตรยี มดิน การไถพรวนดิน หากดนิ แนน่ แข็ง ระบบการระบายน้าไม่ดี ใหใ้ ชส้ ารละลายดินดาน ALS 29% ในอัตรา 50 ซซี ี./นา้ 20 ลิตร ฉดี พ่นในพ้ืนท่ี 1 งาน โดยราดลงไปขณะที่ดนิ เปยี กหรอื หลังฝนตกหากฝนไมต่ กให้ ทาการรดน้าลงไปในแปลงจากนนั้ กฉ็ ีดพน่ ด้วยสารละลายดินดาน ALS 29% ตามไปทันที จากนัน้ นาเอาป๋ยุ อินทรยี ์ (ปุ๋ยหมัก, ป๋ยุ คอก) ในอัตราสว่ น 50 สว่ น ภไู มท์ซลั เฟต 20 ส่วน และเชื้อไตรโคเดอร์ม่า 1 กโิ ลกรัม คลุกผสม รว่ มกนั แล้วหวา่ นลงบนแปลงท่เี ตรียมไวจ้ ะชว่ ยปูองกันและกาจดั โรคเช้ือรา ทางดินได้ดี พอถงึ ระยะเวลาที่จะต้องปลกู เมลด็ ผักให้ นาเอาภไู มท์ซัลเฟตรองก้นหลุม เพราะตัวภไู มทซ์ ัลเฟต มซี ิลกิ ้าท่ีละลายน้าได้ จะเปน็ ตวั ท่ีสร้างใหเ้ ชลล์ พชื แขง็ แกรง่ ต้านทานศตั รูพชื จะช่วยปูองกัน หนอน เพล้ยี ไร รา แมลงปากดดู วัยอ่อน ท่ีมาดูน้าเล้ยี ง ใต้ใบ พชื จากนั้นพอครบกาหนดทตี่ อ้ งใสป่ ุย๋ ทางชมรมฯ แนะนาใหเ้ กษตรกรทาปยุ๋ ละลายชา้ โดยการเติมธาตอุ าหารตา่ ง ๆ ทัง้ ธาตุหลกั ธาตุรอง ธาตเุ สริม และธาตพุ ิเศษ (ซิลกิ า้ ) ใชเ้ อง ซึ่งวธิ กี ารผสมขน้ึ อยู่กบั ตัวของเกษตรกรเองว่าจะใชป้ ุ๋ย อินทรยี ์หรือปุ๋ยเคมีในการใสใ่ ห้กับพชื ในคร้งั นน้ั ๆ ข้นึ อยกู่ บั ระยะของพืชว่าตอ้ งการธาตอุ าหารใดเปน็ พิเศษ ซ่งึ สตู รที่ เกษตรกรนยิ มใช้กันในการปลกู พชื ผัก อาทเิ ชน่ 16-16-16 ,8-24-24, 25-7-7 ฯลฯ ซง่ึ วิธีการผสมท่แี นะนาหาก เกษตรกรใชป้ ยุ๋ อนิ ทรยี ์ (ปุย๋ หมัก, ปุย๋ คอก) ใหเ้ กษตรกรใชป้ ุ๋ยอนิ ทรยี ์ 100 กโิ ลกรมั ซิลิโคเทรซ 1/2 กโิ ลกรมั ภูไมท์ ซัลเฟต 20 กโิ ลกรัม คลกุ เคลา้ ให้เข้ากนั หากเกษตรกรใชป้ ุ๋ยเคมี จะใช้ปุย๋ เคมี 50 กโิ ลกรมั อตั ราส่วนผสมซลิ ิโคเทรซ และภูไมท์ซลั เฟตยงั คงไมเ่ หมอื นเดมิ พรมน้าพอช้นื แลว้ คลุกเคล้าใหเ้ ข้ากนั เทา่ น้ีเกษตรกรก็จะได้ปุ๋ยละลายช้าทม่ี ธี าตุ อาหารครบ ในปจั จุบันมหี ลายคนที่หันมาใส่ใจและให้ความสาคญั เกย่ี วกับสุขภาพกันมากข้ึน โดยเฉพาะการเลือกทานอาหารที่ดี มี ประโยชน์และคานงึ ถงึ ความปลอดภัย โดยเนน้ ในเร่อื งความเปน็ ธรรมชาตแิ ละไรส้ ารพษิ อย่างเช่น “ผกั ปลอดสารพิษ” ก า ร ป ลกู ผัก ป ล อ ด ภยั จ า ก ส า ร พษิ พืชผกั เปนพืชอาหารทค่ี นไทยนิยมนามาใชรับประทานกันมาก เนอ่ื งจากมคี ุณคาทางอาการทง้ั วติ ามนิ และแรธาตุตางๆ ทีเ่ ปนประโยชนตอรางกายสงู แตคานยิ มในการบรโิ ภคผกั นัน้ มักจะเลอื ก บรโิ ภคผกั ทสี่ วยงามไมมรี องรอยการทาลายของหนอนและแมลงศัตรพู ชื จงึ ทาใหเกษตรกรทปี่ ลกู ผัก จะต องใชสารเคมปี องกนั และกาจัดแมลงฉีดพนในปริมาณทีม่ าก เพือ่ ใหไดผกั ที่สวยงามตามความ ตองการของตลาด เม่อื ผู ซ้อื นามาบริโภคแลวอาจไดรับอนั ตรายจากสารพิษทตี่ กคางอยูในพชื ผักนั้นได เพอ่ื เปนการแกปญหาดังกลาว เกษตรกร จึงควรหนั มา ทาการปลกู ผักปลอกภัยจากสารพิษ โดยนาเอา วิธีการปองกนั และกาจดั ศัตรพู ชื หลายวิธีมาประยุกตใชร วมกนั เปนการทดแทนหรือลดปริมาณการใช สารเคมีใหนอยลง เพือ่ ความปลอดภยั ของเกษตรกร ผูบริโภคและสิ่ง แวดลอม ความหมายของผกั ปลอดภัยจากสารพษิ ผกั ปลอดภัยจากสารพษิ หมายถงึ ผลผลติ พืชผกั ทไี่ มมสี ารเคมปี อง กนั และกาจัดศตั รพู ชื ตกคาง อยู หรือมตี ก คางอยูไมเกินระดบั มาตรฐานท่ีกระทรวงสาธารณสุขกาหนดไว ในประกาศ กระทรวง สาธารณสุข ฉบบั ท่ี 163 พ.ศ. 2538 ลงวันที่ 28 เมษายน 2538 เร่ือง อาหารที่มสี ารพษิ ตกคาง ขอดขี องการปลูกผักปลอดภัยจากสารพษิ 1. ทาใหไดพืชผกั ที่มีคณุ ภาพ ไมมีสารพิษตกคาง เกดิ ความปลอดภยั แกผูบรโิ ภค 2. ชวยใหเกษตรกร ผูปลกู ผักมีสขุ ภาพอนามัยดขี ึ้นเน่ืองจากไมมกี ารฉดี พนสารเคมีปองกัน และกาจดั ศตั รพู ืช ทาใหเกษตรกรปลอดภัยจากสารพิษเหลาน้ีดวย กศน.ตาบลบุญทัน ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคหู า ๔
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการทาเครือ่ ง ดื่มสมนุ ไพรเพอื่ สขุ ภาพ 3. ลดตนทนุ การผลิตของเกษตรกรดานคาใชจายในการซื้อสารเคมปี องกันและกาจัดศัตรูพืช 4. ลดปรมิ าณการนาเขาสารเคมปี องกันและกาจัดศัตรูพืช 5. เกษตรกรจะมรี ายไดเพ่ิมมากขนึ้ เน่ืองจากผลผลติ ทีไ่ ดมคี ุณภาพ ทาใหสามารถขายผลผลิต ไดในราคา สูงขนึ้ 6. ลดปรมิ าณสารเคมีปองกนั และกาจดั ศตั รูพืชทจ่ี ะปนเปอนเขาไปในอากาศและนา้ ซ่งึ เปน การอนรุ ักษ ทรัพยากรธรรมชาติและลดมลพษิ ของส่งิ แวดลอมไดทางหนึ่ง วธิ ีการผลิตผักปลอกภัยจากสารพิษ ในการปลูกผกั ปลอดภัยจากสารพิษนัน้ จะใชหลักการปลกู พืชผกั โดยการใชสารเคมใี นการผลิต ใหนอยทสี่ ดุ หรือใชตามความจาเป นและจะใชหลัก “การปองกันและกาจดั ศตั รพู ชื โดยวธิ ีผสมผสาน หรือไอพเี อ็ม” แทนแตการที่จะปองกนั และกาจดั ศตั รพู ืชใหไดผลนั้นจะตองเลอื กวิธที ่ปี ระหยัดเหมาะสม และมีประสทิ ธภิ าพ ซงึ่ ผูปลูกจะตองเขาใจเรอ่ื งตางๆ ท่ีเก่ียวข อง ดงั น้ี การปลูกผักปลอดภยั จากสารพษิ ❀ 3 1. สาเหตุการระบาดของศัตรูพืช 1.1 ศัตรูพืชเคลอ่ื นยายจากแหลงหนึง่ ไปยังอกี แหลงหนึง่ ทีม่ คี วาม เหมาะสมมากกวา ทาใหมี การขยายพนั ธุและระบาดทาความเสยี หายเพิ่มข้ึน 1.2 สภาพแวดลอมและสภาพทางนเิ วศนเปล่ียนแปลงไปทาใหศัตรูพชื มกี ารขยายพันธุไดดีขึ้น เพม่ิ จานวน มากขึ้น หรือมีผลตการพฒั นาสายพันธุใหมคี วามตานทาน และมปี ระสิทธภิ าพในการเขา ทาลายมากข้ึน เชน การ กาจัดงู ทาใหหนูระบาด การใชสารเคมี ทาใหแมลงที่กนิ แมลงศัตรพู ืชตาย เปนตน 1.3 สภาพแวดลอมทางเศรษฐกิจและสังคมของมนุษยทเี่ ปลี่ยนแปลงไป ทาใหความตองการ ผลิตในการ บริโภคเปลยี่ นไป ทาใหความตองการผลผลิตในการบรโิ ภคเปล่ยี นไป ทาใหความตองการผล ผลติ ทแี่ ตกตางกนั ไปตาม ความตองการของบริโภค ทาใหบางครงั้ รองรอยการทาลายของศตั รูพชื เพียงจุด เดยี ว กถ็ ือวาผลผลิตตกเกรดไมได มาตรฐาน มกี ารระบาดของศัตรพู ชื ได 2. การควบคุมศัตรพู ชื ใหประสบผลสาเร็จ มหี ลักการงายๆ 2.1 ตองปองกนั ไมใหเกดิ โรคในแปลงปลกู เชน การใชพนั ธุทปี่ ราศจากโรคและแมลง การไม นาช้ิน สวนของพืชทีม่ ีโรคแมลงเขามาในแปลงปลกู เปนตน 2.2 ถามีศตั รพู ชื เขามาในแปลงปลกู หรอื แสดงอาการเปนโรคแลว ตองยับยงั้ การแพรระบาด 2.3 และถามีการระบาดแลวตองกาจัดใหหมดไป อยางไรกต็ ามสาเหตุสาคญั ท่ีกอใหเกดิ การระบาดของ ศตั รพู ชื ในแปลงปลูก คอื ตัวเกษตรกรเอง ทลี่ ะเลยการควบคุมดแู ลทาใหศัตรพู ืชสะสมในแปลงปลกู จนถงึ ระดับที่ไม สามารถควบคมุ กาจัดได 3. วิธกี ารควบคมุ ศัตรูพืชอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ มีขน้ั ตอนดังน้ี 3.1 ตองศกึ ษาชนดิ ของศตั รูพืชในแปลงปลกู นนั้ ๆ กอน 3.2 สารวจสถานการณศตั รูพชื ในแปลงปลูก 3.3 พจิ ารณาแนวโนมการระบาดของศัตรูพืชแลวจึงหาแนวทางปองกนั และกาจดั ตอไป 3.4 เมือ่ ควบคมุ การระบาดใหอยูในระดับทไ่ี มกอใหเกดิ ความเสียหายมากขนึ้ แลวใหเลอื กใชวิธี การท่ี เหมาะสมเพอ่ื ลดปรมิ าณ หรอื รักษาระดับการเขาทาลายใหคงทห่ี รือลดลง กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุวรรณคหู า ๕
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการทาเครอ่ื ง ดมื่ สมนุ ไพรเพอื่ สุขภาพ 3.5 ในกรณที ่ีไมสามารถควบคมุ สถานการณศตั รพู ชื ดวยวธิ การอื่นๆ ไดมคี วามจาเปนท่จี ะตอง ใชสารเคมีให เลือกใชสารเคมีทถ่ี ูกตองเหมาะสมกับชนดิ ศัตรูพชื และการระบาดตามคาแนะนาวิธีการใช ในฉลาก 4. ผลดีของการปองกนั และกาจัดศัตรพู ืชโดยวธิ ีผสมผสาน 4.1 ลดปรมิ าณศตั รูพืชใหตา่ กวาระดับทีจ่ ะกอใหเกดิ ความเสียหายแกพชื 4.2 ลดปรมิ าณการใชสารเคมีปองกนั และกาจดั ศตั รพู ชื 4.3 มคี วามปลอดภัยตอสขุ ภาพของเกษตรกรผูบริโภครวมไปถึงสภาพแวดลอม การปลกู ผักปลอดภยั จาก สารพิษ ❀ 4 5. วิธกี ารผสมผสานในการควบคมุ ศัตรพู ืช จะเปนการนาเอาวธิ กี ารปองกนั และกาจัดศัตรู พืชหลายวธิ ีมา ประยุกตใชรวมกัน โดยวิธกี ารปลกู ผกั ปลอดภยั จากสารพษิ นมี้ ขี อแนะนาใหเกษตรกร เลือกใชวิธีการปอกกนั และกาจัด ศตั รพู ืช ทดแทนการใชสารเคมีดงั น้ี 5.1 การเตรยี มแปลงปลกู 5.2 การเตรียมเมล็ดพนั ธุ 5.3 การปลกู และการดแู ล 5.4 การใหธาตอุ าหารเสรมิ 5.5 การใชกบั กดั กาวเหนียว 5.6 การใชกบั ดักแสงไฟ 5.7 การใชพลาสตกิ หรือฟางขาวคลุมแปลงปลูก 5.8 การปลูกผกั ในโรงเรอื นมุงตาขายไนลอน 5.9 การควบคมุ โดยชีววิธี 5.10 การใชสารสกัดจากพชื 5.11 การใชสารเคมปี องกันและกาจดั ศัตรูพืช (กรณที ี่ใชวิธกี ารปองกันและกาจัดศตั รูพืชขาง ตนไมไดผล) การเตรยี มแปลงปลูก เนอ่ื งจากเมลด็ พืชผักสวน ใหญมีขนาดเลก็ มรี ะบบรากละเอียดออน ถาเกษตรกรเตรียมดนิ ไมดี กอาจมีผลกระทบตอการงอกของเมล็ดและการ เจริญเตบิ โตของพชื ผักได ดังน้ัน กอนการปลูกพืชควรมี การปรบั สภาพดนิ ใหเหมาะสมเสยี กอน โดยเฉพาะในพ้ืนทีท่ ีเ่ คยมีการปลกู ผักหรือพชื ชนิดอ่ืนโดยการ ปลอยน้าใหทวมแปลงแลวสูบออก เพอ่ื ใหนา้ ชะล างสารเคมีและกาจัดแมลงตางๆ ท่ีอาศยั อยูในดิน แลว จงึ ทาการไถพลิกหนาดินตากแดดไว เพ่ือทาลายเชื้อโรคและ แมลงศัตรทู ่ีอาศยั อยูในดนิ อกี ครัง้ จากนั้น เกษตรกรควรจะปรับสภาพความเปนกรดเปนดางของดินใหอยูในสภาพท่ีเป นกลาง โดยใชปูนขาว ปูนมารล หรือ แรโดโลไมท อัตรา 200-300 กโิ ลกรัม/ไร แลวรดน้าตามหลงั จากการใสปนู ขาวเพอ่ื ปรับสภาพดนิ ทเี่ ปนกรดใหเปนกลางนอกจากนค้ี วรเพมิ่ ความอุดมสมบูรณ ของดนิ ดวยการใสปุยอนิ ทรยี เชน ปุยคอก ปุยหมัก ในอัตรา 1,000-2,000 กิโลกรมั /ไร ซึ่งจะชวยให ตนพชื ผักมีความแขง็ แรง สามารถตานทานตอการเขาทาลายของโรคและแมลงได โรยปูนขาวเพ่อื ปรับสภาพดิน การ ปลกู ผักปลอดภัยจากสารพิษ ❀ 5 การเตรยี มเมลด็ พนั ธุ กอนนาเมล็ดพันธุผักไปปลกู ในแปลงปลูกหรือแปลงกลา เกษตรกรควรทาความสะอาดเมล็ด พันธุกอน ตามข้นั ตอนดังน้ี 1. คดั แยกเมล็ดพนั ธุ โดยการคัดเมล็ดท่เี สยี เมล็ด กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุวรรณคหู า ๖
สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วชิ าการทาเครือ่ ง ด่มื สมุนไพรเพ่ือสุขภาพ วชั พืชที่มีอยูปะปน และส่ิงเจือปนตางๆ ออก 2. แชเมลด็ พันธุในน้าอุน ทีอ่ ุณหภมู ิ 50-55 องศาเซลเซยี สเปนเวลา 15- 30 นาทีจะชวย ลดปริมาณเชือ้ โรคทต่ี ดิ มากับเมล็ดพนั ธุและยังกระตุนการงอกของเมลด็ อีกดวย 3. ในพ้นื ท่ที ่ีมีการ ระบาดของโรคราน้าคาง และโรคใบจุดควรคลกุ เมล็ดพันธุดวยสารเคมี เชน เมทาแล็กซิน 35 เปอรเซ็นต SD (เอพรอน) และไอโปรไดโอน (รอฟรัล) อตั รา 10 กรมั / เมล็ด พนั ธ1ุ กโิ ลกรัม การ ปลูกและการดูแล การเลือกวธิ ีการปลกู ระยะปลกู เปนเทาใดนัน้ จะขึน้ อยูกบั ชนิดของพชื ผักที่เกษตรกรเลือกปลูก แต มีขอแนะนา คอื เกษตรกรควรปลกู ผกั ใหมรี ะยะหางพอสมควร อยาใหแนนจนเกนิ ไป เพ่ือใหมีการ ระบายอากาศท่ี ดเี ปนการปรับสภาพแวดลอมไมใหเหมาะสมตอการระบาดของโรค นอกจากนคี้ วรหมั่น ตรวจแปลงอยูเสมอ โดยอาจ เลอื กสารวจเปนจดุ ๆ ประมาณ 10-20 จดุ /ไร ถาพบวามกี ารระบาดของ โรคและแมลงในระดับทีก่ อใหเกดิ ความ เสยี หายแกพชื ผักน้นั ก็ควรดาเนนิ การกาจดั โรคและแมลงท่ีพบ ทนั ที การใหธาตอุ าหารเสริมแกพชื จะมีความจาเปนต อพืชผักในบางชนิดเทานน้ั ทัง้ นเี้ พ่ือสรางความตานทานโรคใหแกพชื นนั้ เชน พชื ในตระกลู กะหลา่ จะตองการธาตุ โบรอนเพอื่ สรางความตานทานโรคไสกลวงดา มะเขอื เทศจะตองการ ธาตุแคลเซียมเพอื่ สรางความตานทานโรคผลเนา เปนตน การสุมตรวจนับโรคและแมลง การปลกู ผักปลอดภัยจากสารพษิ ❀ 6 การใชกบั ดกั กาวเหนียว กบั ดักกาว เหนยี วน้มี ีคุณสมบัตไิ มมีสีไมมีกลน่ิ และไมมพี ษิ ตอสิ่งแวดลอม จะใชในการควบคมุ ปริมาณตวั เตม็ วยั ของแมลงศตั รูพชื ไดหลายชนิด เชน เพล้ยี ไฟ แมลงวันเจาะผล แมลงวนั ของหนอนชอน ใบ ผีเส้อื กลางวนั ชนดิ ตางๆ ท้ังของหนอนคืบ และหนอนใย เปนตน โดยทัว่ ไปมกั จะนิยมใชกาวเหนียวมา ทาบนวสั ดทุ ี่มสี ีเหลอื ง เชน แผนพลาสติก หรือกระปองน้า มนั เครอ่ื ง เนอ่ื งจากแมลงมักชอบสีเหลอื งโดย กบั ดักน้จี ะใชลอแมลงใหบนิ มาตดิ กาวเหนยี วท่ที าไวสาหรบั การติดตง้ั น้นั ควรตดิ ต้ังกับดกั ในแปลงผักให สูงประมาณ 30 เซนติเมตร หรอื สงู กวายอดตนผักเมอ่ื เจรญิ เติบโตเต็มทแี่ ลว โดย จะใชกับดกั ประมาณ 60-80 กับดกั /พน้ื ที่ 1 ไร ในชวงท่ีมีการระบาดมาก (ฤดูรอน, ฤดฝู น) สวนในฤดหู นาวมกี าร ระบาด นอย อาจใชเพียง 15-20 กบั ดกั /ไร วธิ กี ารทากาวเหนยี ว วัสดุท่ใี ชประกอบดวย 1. นา้ มนั ละหุง 550 ซซี ี 2. นา้ มนั ยางสน 380 กรมั 3. ไขคารนวั วา (Canova wax) 60 กรัม ข้ันแรกเค่ียวน้ามันระหุงจนเดือดแลวจึงเตมิ น้ามนั ยางสนและไขคารนัววาลงไป คนชาๆ ใหเขา กันดแี ลวจงึ ยกออกจากเตา ตง้ั ทิ้งไวใหเยน็ กอนนาไปใชเปนกับดกั กาว เหนยี วตอไป การใชกับดกั แสงไฟ เปนการใชแสงไฟจากหลอดฟลูออรเรสเซนต (หลอดนอี อน) หรอื หลอดไฟแบล็คไลท ลอแมลง ในเวลากลางคนื เชน ผีเสื้อ หนอน กระทูหอม หนอนกระทูผัก ใหมาเลนไฟและตกลงในภาชนะท่ีบรรจุ น้า มันเคร่ืองหรือนา้ ทร่ี องรบั อยูดานลาง การติดต้ังกับดกั และแสงไฟจะติดตั้งประมาณ 2 จดุ /พ้นื ท่ี 1 ไร โดยติดตั้งใหสงู จากพ้นื ดนิ ประมาณ 150 เซนตเิ มตร และใหภาชนะทีร่ องรับอยูหางจากหลอดไฟ 30 เซนตเิ มตรและควรปดสวนอ่นื ๆ ทจี่ ะทาใหแสงสวางกระจายเปนบรเิ วณกวางเพื่อลอจบั แมลงเฉพาะ ในบรเิ วณแปลง มใิ ชลอแมลงจากท่อี ืน่ ใหเขามาใน แปลง กบั ดักกาวเหนียว การปลกู ผักปลอดภัยจากสารพษิ ❀ 7 การใชพลาสตกิ หรือฟางขาวคลมุ แปลงปลกู เปนกา รควบคมุ ปรมิ าณวัชพชื และเกบ็ รกั ษาความช้นื ในดนิ ไวไดนาน ทาใหประหยัดนา้ ทีใ่ ชรด แปลงผกั การใชพลาสตกิ หรือ ฟางขาวคลมุ แปลงปลูกน้ี ควรใชกับพืชผักที่มรี ะยะปลกู แนนอน ในแปลง ทีพ่ บการระบาดของโรคท่ีมีเช้ือไวรัสเปนสา เหตุ และมเี พลย้ี ออนหรอื แมลงเปนพาหะ แนะนาใหใช พลาสตกิ ท่ีมสี ีเทา-ดา โดยใหดานทม่ี ีสเี ทาอยูดานบน เน่ืองจาก สีเทาจะทาใหเกิดจากสะทอนแสง จึงชวยไลแมลงพาหนะได การปลกู ผกั ในโรงเรือนมุงตาขายไนลอน พน้ื ท่ีทจ่ี ะใชปลกู ผักในโรงเรือน ควรเปนพื้นที่ท่สี ามารถปลูกผกั ไดอยางตอเน่ือง ไมนอยกวา 3 ป เพ่อื จะไดคุมคาตอการสรางโรงเรอื น และการใชตาขายไนลอน โครงสรางของโรงเรอื นอาจทาดวย เหลก็ หรือไมกไ็ ดขน้ึ อยูกบั เกษตรกรวาตองการจะใชพน้ื ท่ี กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคหู า ๗
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการทาเครอ่ื ง ดมื่ สมนุ ไพรเพ่ือสุขภาพ น้ีปลกู ผักนานเทาใด สวนตาขายที่ใชนนั้ จะใช มุงตาขายไนลอนที่มีขนาด 16 ชองตอความยาว 1 น้ิว โดยมุงสขี าวมี ความเหมาะสมกับการปลกู ผกั เน่อื งจากแสงผานไดเกอื บปกตสิ วนมุงสีฟาไมคอยเหมาะสม เนอ่ื งจากแสงผานไดเพียงร อยละ 70 เทา นน้ั การใชกบั ดกั แสงไฟ การใชพลาสติกหรอื ฟางขาวคลกุ แปลงปลกู การปลูกผกั ปลอดภยั จากสารพิษ ❀ 8 การปลกู ผักในโรงเรอื นมุงตาขายน้ี จะไมสามารถปองกนั แมลงศตั รพู ชื ผักไดทุกชนิด มีเพยี ง หนอนผเี ส้อื และด วงหมัดผัก เทาน้นั ทสี่ ามารถปองกนั ได สวนเพลยี้ ออน เพลีย้ ไฟ หนอนแมลงวันชอบ ใบแมลงหวขี่ าวและไร ซ่งึ เปนแม ลงขนาดเล็กจะไมสามารถปองกนั ไดรอยเปอรเซ็นต ซ่งึ ถาหากใชมุงไน ลอนที่มีความถี่เพมิ่ ขน้ึ เปน 24 และ 32 ชองต อนิ้วแลวจะปองกนั ไดแตอาจมปี ญหาเรอ่ื งอณุ หภูมิและ ความชนื้ ภายในมุง ขอควรระวงั สาหรบั การปลูกผกั ในโรงเรือน มงุ ตาขาย ❖ อยาใหมีหนอนผีเส้อื หรอื หนอนตางๆ หลดุ เขาไปในโรงเรือนไดเพราะหนอนตางๆ เหลาน้ี จะสามารถ ขยายพันธุไดอยางรวดเร็ว ❖ ในการยายกลา จะตองตรวจดกู ลาผัก อยาใหมีไขตวั หนอนหรือดักแดติดเขาไปใน โรงเรือน ❖ ควรดแู ลอยาใหมุงตาขายชารดุ ฉีดขาด เพราะอาจทาใหดวงหมดั ผักเลด็ ลอดเขาไปไดอาจจะ มีการรองด วยผาหรือแผนยางบริเวณทม่ี กี ารเสียดสรี ะหวางตาขายกบั โครงสรางเพอ่ื ปองกันการฉดี ขาด ❖ มุงตาขายจะตองป ดมิดชิดตลอดเวลา และควรทาประตูเปนแบบสองชั้น ❖ การปลูกผกั ในโรงเรือนมุงตาขายไมสามารถปองกันแมลง ขนาดเลก็ ไดดังน้นั จึงอาจจะตอง ใชวิธีการกาจดั ศัตรูพชื อืน่ ๆ รวมดวย ❖ ผักทปี่ ลูกไดในมุงตาขายไนลอน ประเภท กินใบ ไดแก คะนา ผักกาดขาว กวางตุง ฮองเตตง้ั โอปวยเลง ข้ึนฉาย เปนตน ประเภทกนิ ดอก ไดแก กะหลา่ ดอก บลอ็ กโคลี่ เปนตน ประเภทกินฝกและผล ไดแก ถว่ั ฝกยาว มะเขอื เปราะ ถั่วลันเตา เปนตน การควมคมุ โดยชวี วธิ ี เป นการใชส่งิ มีชวี ิตควบคมุ ศตั รพู ชื ซงึ่ ไดแก แมลง ตัวห้า ตัวเบียน ที่ทาลายแมลงศัตรูพชื ชนดิ อื่น หรืออาจใชสง่ิ มชี วี ิต เล็กๆ เชน เช้อื บักเตรเี ช้อื ไวรัส เชื้อรา ไสเดอื นฝอย เปนตน ในการควบคมุ ซ่ึงมี รายละเอียด ดงั น้ี เชื้อบักเตรที ่นี ยิ มใช ในการควบคุมแมลง คือ เชื้อบีที (BT) โดยแมลงทไ่ี ดรบั เชื้อบักเตรชี นิดนี้ เขาไปแลว นา้ ยอยในลาไสของแมลงจะ ละลายผลกึ ของเชื้อบกั เตรี ทาใหเกิดสารพษิ ทาลายระบบยอย อาหารและอวยั วะของแมลง ทาใหขากรรไกรแขง็ กนิ อาหารไมไดเคลือ่ นไหวชาลง และตายไปในที่สดุ เช้อื บักเตรที ม่ี ขี ายเปนการคาจะมี 2 กลุม คอื 1. Kurstaki ไดแก แบคโทรฟนเอชพี ดับเบ้ลิ ยพู ี, เซ็นทาร่ียดู จี ี มีประสทิ ธภิ าพในการกาจดั หนอนในผกั หนอนกระทหู อม และหนอนคบื กะหลา่ 2. Aizawai ไดแก ฟลอรแบค เอชพี, ฟลอรแบค เอฟซี, ธรู ไี ซด เอชพมี ีประสิทธิภาพในการ กาจดั หนอนใยผัก และหนอนคืบกะหลา่ เทานัน้ การปลกู ผักปลอดภยั จากสารพษิ ❀ 9 ดงั นน้ั การทจี่ ะใชเชอ้ื บักเตรใี หไดผล ควรเลือก ชนดิ ของเชื่อใหตรงกบั แมลงศตั รู และควรฉีด พนเม่อื หนอนยังเปนตัวออนอยู หลกี เลยี่ งแสงในขณะฉีดพน และไมควร ใหนา้ หลังจากฉีดพนเชื้อบักเตรี แลว เช้ือไวรัส เช้อื ไวรัสท่ใี ชในการควบคมุ คือ เอ็นพีวี (NPV) โดยใชในการกาจดั หนอนหลอดหอมหรอื หนอน หนังเหนียว ซึ่งเชอ้ื ไวรสั ชนดิ นี้จะเขาไปทาลายระบบตางๆ ของรางกาย ทาใหหนอนลด การกินอาหาร เคล่ือนไหวชา ลาตวั มสี ีซดี ลง มจี ดุ สขี ุนหรือสม แลวจะใชขาเทยี มเกาะทีต่ นพืชหอยหวั ลงมาตายในทส่ี ุด เชื้อรา ทีใ่ ชในการควบคมุ คือ ไตรโครเดอรมาจะควบคุมเชอื้ สาเหตขุ องโรครากเนา โคนเนา เนาคอดนิ ของมะเขือเทศ และผักกาดหัว โดยจะใชเชอ้ื ราผสมกบั ราขาวและปุยหมกั ในอตั รา 1:10:40 แลวใชรอง กนหลมุ หรือโรยรอบโคนตน ไสเดอื นฝอย จะชวยควบคมุ ดวงหมัดผัก โดยชอนไชเขาสูระบบเลือดหรอื กระเพาะอาหาร เมอื่ เขาไปแลวจะถูก ยอย ทาลาย จากนั้นจะปลดปลอยเชอ้ื บกั เตรที ่เี ปนอนั ตรายตอแมลงออกมา ทาใหแมลงตายในทส่ี ดุ ใน การใชไสเดอื นฝอย กศน.ตาบลบุญทัน ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา ๘
สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาการทาเครือ่ ง ด่ืมสมนุ ไพรเพอื่ สขุ ภาพ นน้ั เกษตรกรควรเก็บรกั ษาไวในทเ่ี ย็น และใชไสเดือนฝอยในการควบคมุ หลังจาก การใหนา้ แกตนพืชชวงเวลาเยน็ ๆ เนอื่ งจากไสเดือนฝอยจะไมทนทานตอสภาพทีแ่ หงแลง หรอื ถูกแสง แดด การใชสารสกดั จากพชื พชื ท่นี ยิ มนามาใช สกัดเปนสารควบคมุ โรคและแมลง คือ สะเดา เน่ืองจากในสะเดามีสาร อะซาดิแรคติน (Azadirachtin) ซงึ่ มี คุณสมบตั ิชวยในการปองกันและกาจดั แมลงไดโดย • สามารถใชฆาแมลงไดบางชนิด • ใชเปนสารไลแมลง • ทาให แมลงไมกนิ อาหาร • ทาใหการเจรญิ เติบโตของแมลงผดิ ปกติ • ยบั ย้ังการเจริญเติบโตของแมลง • ยบั ย้งั การวางไขและ การลอกคราบของแมลง • เปนพษิ ตอไขของแมลง ทาใหไขไมฟก • ยบั ยัง้ การสรางเอนไซมในระบบยอยอาหารของ แมลง วิธกี ารใชคือ นาเอาผลสะเดาหรือสะเดาที่บดแลว 1 กโิ ลกรมั แชในนา้ 20 ลิตร ท้งิ คางคนื ไว 1 คนื แตถา เกษตรกรมเี ครือ่ งกวนสวนผสมดงั กลาว กจ็ ะลดเวลาเหลอื เพยี ง 3-4 ชวั่ โมง จากนัน้ กรอง เอาแตน้ามาผสมดวยสารจับ ใบประมาณ 1 ชอนโตะ แลวนาไปรดพชื ผกั ทันทีสวนกากของสะเดาที่เหลอื ใหนาไปโรยโคนตนเพื่อปรับปรงุ สภาพดิน และกาจดั แมลงในดินไดอกี ดวย การปลูกผกั ปลอดภยั จากสารพษิ ❀ 10 ขอควรระวัง พชื บางชนดิ เมื่อไดรับสารนี้แล วอาจเกดิ อาการใบไหมเหยี่ วยนหรือตนแคระ แกรน็ ดังนีเ้ มื่อพบอาการตางๆ เหลาน้กี ็ควรจะงดใชสารสกดั จากสะเดา ทันที ชนดิ ของแมลงทส่ี ามารถกาจดั ไดดวยสะเดา 1. ชนิดท่ีใชแลวไดผลดี ไดแก หนอนใยผัก หนอนหนงั เหนยี ว หนอนกระทูชนิดตางๆ หนอน กัดกนิ ใบ หนอนเจาะยอด หนอนชอนใบ หนอนมวนใบ หนอนหวั กระโหลก 2. ชนิดท่ี ใชแลวไดผลปานกลาง ไดแก เพล้ยี จักจน่ั หนอนเจาะ สมอฝาย หนอนตนกลาถัว่ แมลงหว่ีขาว แมลงวันทอง เพล้ยี ไก แจเพลยี้ ออน 3. ชนดิ ท่ใี ชแลวไดผลนอย ไดแก หนอนเจาะฝกถั่ว เพลีย้ ไฟ ไรแดง มวนและดวงชนดิ ตางๆ พืชผักที่ใช สารสกดั จากสะเดาไดผล ไดแก ผกั คะนา กวาง ผกั กาดหอม กะหล่าปลีกะหล่าดอก แตงกวา แตงโม แตงเทศ มะเขือ เทศ มะเขือยาว หนอไมฝร่ัง ขาวโพดออน พรกิ ขี้หนู ตาลึง มะนาว มะกรดู การใชสารแคมีปองกันและกาจัดศตั รพู ชื จากขอมูลทไ่ี ดกลาวมาแลวขางตน ในการปฏิบตั ิจรงิ ของเกษตรกรนั้น เกษตรกรตองหมั่นตรวจ แปลงปลูกพืชของ ตนอยางสมา่ เสมอ เพอ่ื เปนการพยากรณสถานการณของศตั รพู ชื ในแปลงของตน เมือ่ ทราบสถานการณแลวจึง พจิ ารณาเลือกใชวิธีการปองกันและกาจัดท่เี หมาะสม แตในกรณีที่ไมสามารถ ควบคมุ หรอื ไมมวี ธิ กี ารควบคมุ ใดท่ีใชได ผลแลว เกษตรกรอาจใชสารเคมใี นการควบคุมศตั รพู ชื นั้นๆ ได โดยพิจารณาจาก 1. เปนสารเคมที ี่เหมาะสมกบั ศัตรพู ชื ชนิดนัน้ 2. สารเคมีนน้ั สลายตวั ไดเร็ว 3. ใชในอตั ราทีเ่ หมาะสมตามคาแนะนา 4. เวนระยะการเกบ็ เกยี่ ว ผลผลิตตามคาแนะนา ทง้ั นเ้ี พือ่ ไมกอใหเกดิ อนั ตราย หรือมสี ารพษิ ตกคางในพืชผักน้นั และมคี วามปลอดภัยตอ ผู บริโภคอีกดวย จดั ทาเอกสารอิเลก็ ทรอ ผักปลอดสารพษิ คอื อะไร? ผักปลอดสาร หรือ ผักปลอดสารพิษ หมายถึง ผักทที่ าการเพาะปลกู ในฟารม์ เปดิ หรือสวนตามฤดูกาล โดยจะ หลีกเลี่ยงการใชส้ ารเคมี หรืออาจจะมีการใชส้ ารเคมีสงเคราะห์ในการบารุงรกั ษาบา้ งแตก่ ็ใช้ในปริมาณเล็กนอ้ ยเพ่อื เป็นการกระต้นุ ให้ผักมกี ารเจรญิ เติบโต และมกี ารควบคมุ ไมใ่ หม้ ีการตกคา้ งของสารเคมีเหลา่ น้นั ในปรมิ าณทเ่ี กนิ กาหนดในระหว่างเกบ็ เกีย่ วเพอ่ื ใหม้ ่นั ใจได้วา่ มีความปลอดภัยตอ่ ผู้บรโิ ภคอยา่ งสูงสุด ประโยชนข์ องผกั ปลอดสารพษิ ทมี่ ตี อ่ สขุ ภาพ 1.การบริโภคผักปลอดสารพิษเป็นประจา จะชว่ ยทาให้มีสุขภาพรา่ งกายท่ีดี มภี ูมิตา้ นทานและแข็งแรงขึ้น อกี ทง้ั ยงั ช่วยลดอัตราเส่ยี งตอ่ การเจบ็ ปุวยและการเกดิ โรคต่างๆ อนั มีผลในระยะยาวมาจากสารพษิ หรอื สารเคมีตกค้างใน ร่างกาย อยา่ งเชน่ โรคมะเรง็ เป็นตน้ กศน.ตาบลบญุ ทัน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า ๙
สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการทาเครอื่ ง ดม่ื สมนุ ไพรเพ่อื สขุ ภาพ 2.การรบั ประทานอาหารท่ีปรงุ จากผกั ปลอดสารพษิ ทาให้รา่ งกายไดร้ ับคณุ คา่ ทางสารอาหารสงู กวา่ ปกติ ส่งผลดตี อ่ สตรที ีก่ าลงั ต้ังครรภ์ และสตรีให้นมบุตรเพราะปลอดภยั จากสารพษิ ตกค้างท่ีมอี ันตรายต่อทารกในครรภ์และบุตรท่ีกิน นมแม่ 3.ผกั ปลอดสารพิษมปี ระโยชนต์ ่อผ้ปู วุ ย และผู้ท่อี ยูใ่ นภาวะรกั ษาหรอื ควบคมุ สขุ ภาพ เน่อื งจากมคี ณุ ค่าของสารอาหาร ตามธรรมชาติ และไรส้ ารพษิ ตกคา้ งท่ีอาจจะทาใหเ้ กดิ อาการแพส้ าร หรอื อาจมีปฏกิ ริ ยิ าตอ่ ยาบางตวั ทีใ่ ชใ้ นการรกั ษา โรคของผู้ปวุ ย 4.ผกั ปลอดสารพิษมรี สชาตดิ ีและอร่อย อีกทง้ั ยังให้คณุ คา่ ทางสารอาหาร อนั ไดแ้ ก่ วิตามิน เกลือแร่ เอนไซม์และสาร ต่อตา้ นอนุมลู อิสระมากกว่าผักท่ัวไปตามทอ้ งตลาด 5.ช่วยควบคมุ น้าหนักและรักษาหุ่นได้เป็นอยา่ งดี เพราะอาหารเพื่อสขุ ภาพส่วนใหญ่จะเน้นหนกั ในเรือ่ งผักปลอด สารพิษเน่อื งจากมคี วามเป็นธรรมชาตแิ ละปลอดภยั ด้วยซงึ่ เมนูเพือ่ สุขภาพยอดนยิ มท่ีทาทานได้งา่ ยๆ ตามใจผู้ทาน และประหยดั เวลาแต่มีคณุ ค่าทางสารอาหารมากมายกค็ ือ สลดั ผกั ต่างๆ น่นั เองคะ่ ประโยชนท์ วั่ ไปของพืชสมนุ ไพร 1.มีความปลอดภยั และลดความเส่ยี งต่อการไดร้ บั สารพิษตกคา้ งท้งั ตอ่ ตัวเกษตรกรและผู้บริโภค 2.ลดตน้ ทุนการผลติ และเพิ่มรายไดใ้ ห้แก่เกษตรกร เน่ืองจากมีการควบคมุ ปรมิ าณการใช้สารเคมีให้น้อยลงหรอื อาจจะ ไม่ใชเ้ ลย จึงเป็นการลดภาระคา่ ใชจ้ า่ ยในสว่ นน้ีไป อีกทั้งราคาขายของผลิตผลคอ่ นข้างดีและสงู กวา่ ผกั ทว่ั ไปตาม ท้องตลาดดว้ ย 3.ช่วยรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม เน่ืองจากมกี ารหลีกเล่ยี งหรอื ควบคมุ การใชส้ ารเคมีให้อย่ใู นปริมาณทป่ี ลอดภัย เป็นผลทาให้ ไร้สารพิษตกคา้ งในดิน นา้ หรอื อากาศนน่ั เอง 4.ชว่ ยสง่ เสรมิ เกษตรกรที่อยใู่ นกระบวนการผลิตผกั ปลอดสารพิษให้ตระหนกั เรยี นรู้ และให้ความสาคญั ในวถิ ชี วี ติ การเกษตรแบบดง้ั เดมิ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ถงึ แม้จะไดข้ น้ึ ช่ือวา่ เปน็ “ผักปลอดสารพิษ” แต่เพอ่ื สขุ อนามัยที่ดี เราต้องล้างทาความสะอาดผกั กอ่ นนาไปประกอบ อาหารเพื่อบริโภคทกุ ครัง้ ถ้าเปน็ ไปไดก้ ารปลูกผักสวนครัวเอาไวท้ านเองน่าจะเปน็ การรับรองความม่ันใจในคุณภาพ และความปลอดภยั ไดด้ ที ี่สุด กศน.ตาบลบญุ ทัน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสวุ รรณคหู า ๑๐
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการทาเคร่อื ง ดืม่ สมนุ ไพรเพ่ือสุขภาพ การปลกู พืชผกั ปลอดสารพิษ ปลกู พืชผกั ปลอดสารพษิ จะชว่ ยลดการใชส้ ารเคมีทางการเกษตรและลดสารปนเป้อื น จากการตกคา้ งของสารเคมี ในผลผลิต ลดตน้ ทุนการผลติ และ ลดปัญหาหนสี้ นิ เกษตรกรที่ขาดทุนจาก การผลติ ทตี่ อ้ งกูห้ นย้ี มื สินมาซอื้ ปจั จัยการ ผลติ นบั เปน็ องคป์ ระกอบสาคัญท่สี ามารถลดปัญหาความ ยากจนของเกษตรกรได้ จงึ เปน็ สาเหตใุ ห้ศูนย์ปราชญ์ ชาวบา้ นหลายศนู ย์ นาองค์ความรู้ในเร่ืองเกษตร ธรรมชาติ เกษตรอนิ ทรียซ์ ึ่งไดม้ าจากการเรียนรทู้ ดลองปฏิบตั ขิ อง ปราชญ์ชาวบ้าน และเกษตรกรอกี หลายๆ ท่านในพืน้ ท่ี มาถา่ ยทอดใหเ้ กษตรกรท่เี ข้ารับการอบรมโดยทั่วไป ด้วย วธิ ีการปลกู และดูแลรักษา ทงี่ ่าย ใช้ปยุ๋ หมกั ชีวภาพ น้าหมักชีวภาพ และสารไล่แมลงที่สามารถผลิตเองทั้งหมด และ วสั ดทุ หี่ าได้ใน ทอ้ งถิ่น ราคาไม่แพง ท้ังน้ี พืชผักปลอดสารพิษที่ไดจ้ ะมีสว่ นช่วยในการเพมิ่ รายไดข้ องผลผลติ และเป็น การ ใช้พ้นื ทว่ี ่างเปลา่ ใหเ้ กิดประโยชน์ เกษตรกรสามารถปลกู รบั ประทานเองและจาหนา่ ยเปน็ รายไดข้ อง ครอบครวั มี ส่วนช่วยให้ผบู้ ริโภคมโี อกาสเลือกพชื ผกั ทีป่ ลอดภัยต่อการบรโิ ภค ส่งผลให้รา่ งกายของ เกษตรกรดี รวมทั้งสขุ ภาพจติ ดตี ามมาดว้ ย โดยมีวสั ดอุ ุปกรณ์ และขัน้ ตอนวธิ ีการในการผลิต สรุปไดด้ งั นี้ วสั ดุอปุ กรณ์ 1. ป๋ยุ หมกั ชวี ภาพ 2. นา้ หมักชีวภาพ 3. นา้ หมักสมนุ ไพร 4. กากน้าตาล 5. ฟาง 6. ผ้ามุ่งไนล่อนผสมยวู ี 7. กระดาษกระสอบปุ๋ย 8. ขุยมะพร้าว 9. บัวรดนา้ 10. จอบ 11. คาด ขนั้ ตอนวธิ กี าร การเตรยี มแปลงวธิ ที ่ี 1 1. ขดุ ดินเป็นแปลงผกั ตามปกติ 2. ทารอ่ งตรงกลางแปลง 3. โรยด้วยปุย๋ หมกั ชีวภาพ ตามด้วยฟาง 4. รดดว้ ยนา้ ผสมหวั เชอื้ จุลินทรยี ์ และกากนา้ ตาล 5. กลบร่อง พร้อมเกลี่ยใหเ้ รียบ 6. โรยปยุ๋ หมกั ชีวภาพอกี ครั้ง และรดนา้ ทีผ่ สมจุลนิ ทรยี ์ T.M. และกากนา้ ตาลอกี คร้งั ทิ้งไว้ 7 วนั จึงปลูกผกั ได้ กศน.ตาบลบุญทัน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุวรรณคหู า ๑๑
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพฒั นาอาชพี วชิ าการทาเครื่อง ด่มื สมุนไพรเพอ่ื สุขภาพ การเตรยี มแปลงวธิ ที ี่ 2 1. ขุดดินทจ่ี ะทาแปลงผกั ลึกประมาณ 25 – 30 ซม.กวา้ งประมาณ 1 เมตรยาวตามต้องการ โดยเอาดนิ ท่ขี ดุ ออกไว้ ขา้ งแปลง 2. โรยปุ๋ยหมกั ชีวภาพลงในแปลงประมาณ 10 กก. ต่อ ตารางเมตร 3. เอาหนา้ ดนิ ขดุ ออกลงใส่ คลุกใหเ้ ข้ากับป๋ยุ ใหส้ งู กว่าระดับเดมิ พอประมาณ 4. นากากน้าตาลกับนา้ หมักชวี ภาพอย่างละ 1 ช้อน ผสมนา้ ทเี่ ตรียมไว้ รดแปลงให้ชมุ่ วันละคร้ัง ตดิ ตอ่ กัน 7 วนั 5. พรวนดินทแี่ ปลงคาดใหเ้ รียบ 6. รดนา้ ให้ช่มุ ทุกวนั รดน้าหมกั สมุนไพรทุก 5 วัน และพรวนดนิ ทุก 3 สัปดาห์ การเตรยี มแปลงวธิ ที ี่ 3 1. ขดุ บอ่ ใหล้ ึกบวกคันดนิ ประมาณ 4 เมตร 2. ความกว้าง 19 เมตร ยาว 29 เมตร 3. คลุมด้วยผ้ามุ่งไนลอ่ นผสมยวู ี (บนคันดนิ ) 4. ปลูกผักโดยใชก้ ระดาษกระสอบปุ๋ยปลู งบนรอ่ งผักลึก เพอ่ื ไม่ให้ความรอ้ นลงไปยงั ดนิ และเป็นการควบคมุ หญ้าอีก ทางหนึง่ หรือปลกู ผักโดยใช้ขุยมะพร้าวทผ่ี ลิตเองเพ่ือเก็บความช้นื การใชป้ ระโยชน์ 1. เปน็ แปลงผักถาวร สามารถปลูกผักติดต่อกนั ได้ตลอดทัง้ ปโี ดยไม่ใสป่ ุ๋ย 2. แปลงผักมจี ุลนิ ทรีย์ ทาใหด้ ินรว่ มซุย 3. ผักเจริญงอกงามดี แขง็ แรง ต้านทานต่อโรค มีคณุ ค่าทางโภชนาการสงู 4. ต้นทุนตา่ ไดผ้ ลผลติ สงู ปลอดภัย กศน.ตาบลบุญทนั ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคหู า ๑๒
สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการทาเครอื่ ง ดื่มสมุนไพรเพือ่ สุขภาพ บทท่ี 3 วิธกี ารดาเนนิ การ ในการดาเนนิ งานจดั โครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลักสูตรพฒั นาอาชพี วชิ าการทาเครอื่ งด่ืมสมุนไพรเพอื่ สขุ ภาพ กศน.ตาบลบุญทัน มีรายละเอียดดังต่อไปน้ี ขนั้ ตอนการวางแผน (plan) ขั้นตอนการลงมอื ทา (Do) ขน้ั ตอนการตรวจสอบ (Check) ข้นั ตอนการปรับปรงุ แกไ้ ข (Act) ข้ันตอนการวางแผน (plan) 1. ดาเนนิ การประชาคมกลมุ่ ผูส้ นใจพฒั นาอาชีพ 2. ได้กลมุ่ เปาู หมาย 3. เตรยี มหลกั สตู ร เสนอโครงการเพอ่ื ขออนมุ ัติ 4. แตง่ ตัง้ คณะทางานภายในตาบล คณะกรรมการนเิ ทศกจิ กรรม 5. ประสานวิทยากร ขั้นตอนการลงมือทา (Do) 1. ดาเนนิ การประสานงานผูท้ ี่เกยี่ วข้อง ครู กศน.ตาบล ครู ศรช. ผนู้ าชมุ ชน คณะกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้านจดั เตรียมสถานที่ 2. นาประชาชนท่สี นใจมาเขา้ รว่ มกิจกรรม 3. ประเมนิ ผลโครงการโดยให้ผู้เขา้ รว่ มโครงการออกแบบประเมนิ ความพึงพอใจในการเขา้ รว่ มโครงการ 4. รวบรวมข้อมลู จากแบบประเมิน 5. สรปุ ผลความพึงพอใจของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ขน้ั ตอนการตรวจสอบ (Check) 1.เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการตรวจสอบ แบบประเมนิ ความพึงพอใจของผู้เข้ารว่ มโครงการ 2. การเก็บรวบรวมขอ้ มูล กศน.ตาบลบุญทัน ได้ดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมลู จากผู้เข้าร่วมโครงการ - ประชาชนกลุม่ เปาู หมาย จานวน 10 คน 3.การวเิ คราะหข์ ้อมลู การประเมินผลการดาเนนิ งานของโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลักสูตรพฒั นา อาชีพ การทาเครอ่ื งด่มื สมนุ ไพรเพื่อสขุ ภาพ กศน.ตาบลบุญทัน ดาเนินการวิเคราะหข์ อ้ มูล ดงั น้ี 3.1 แบบประเมนิ ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ท่ัวไป วิเคราะหห์ าค่าร้อยละ 3.2 แบบประเมินตอนที่ 2 ความพึงพอใจตัวบง่ ชีข้ องโครงการ กศน.ตาบลบญุ ทัน ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา ๑๓
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพฒั นาอาชพี วิชาการทาเครอื่ ง ด่ืมสมุนไพรเพื่อสุขภาพ 3.2.1 ใหค้ ะแนนตามน้าหนกั แบบประเมินฉบบั สมบูรณ์ ตามเกณฑ์ มาตรฐานของ สมศ. โดยมเี กณฑ์ให้คะแนน ดังนี้ ระดบั 5 หมายถงึ ดาเนินงานได้ตามเกณฑ์ของตวั บง่ ช้ีดีมาก ระดบั 4 หมายถึง ดาเนนิ งานได้ตามเกณฑข์ องตวั บง่ ชด้ี ี ระดบั 3 หมายถึง ดาเนนิ งานไดต้ ามเกณฑข์ องตวั บ่งชี้พอใช้ ระดับ 2 หมายถงึ ดาเนนิ งานไดต้ ามเกณฑข์ องตวั บ่งช้ปี รบั ปรงุ ระดบั 1 หมายถึง ดาเนินงานไดต้ ามเกณฑ์ของตัวบ่งชต้ี อ้ งปรับปรุง 3.2.2 วเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยการหาค่าเฉลี่ยรอ้ ยละความพึงพอใจ 3.3 แบบประเมนิ ตอนที่ 3 ข้อคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ วิเคราะห์ดว้ ยเน้ือหา (Content analysis) กศน.ตาบลบญุ ทัน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า ๑๔
สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาการทาเครอ่ื ง ด่ืมสมนุ ไพรเพือ่ สขุ ภาพ บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน การจัดกจิ กรรมโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชนหลักสูตรพัฒนาอาชีพ วชิ าการทาเคร่ืองดื่มสมนุ ไพรเพอ่ื สุขภาพ ณ กศน.ตาบลบญุ ทัน หมู่ 1 ตาบลบญุ ทนั อาเภอสุวรรณคูหา จงั หวัดหนองบัวลาภู สรปุ ผลการดาเนินงานไดด้ งั น้ี ชอื่ โครงการ วันทดี่ าเนนิ การ เปูาทไ่ี ด้รับจัดสรร ผล คดิ เป็นร้อยละ โครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน 15 - 16 ธนั วาคม 6 10 100 หลักสตู รพฒั นาอาชพี วิชาการทาเคร่ืองดมื่ 2564 สมุนไพรเพอื่ สุขภาพ การประเมินความพึงพอใจในการดาเนินงานตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วชิ า การทาเคร่อื งดืม่ สมนุ ไพรเพื่อสุขภาพ กศน.ตาบลบุญทนั ของผู้รับบรกิ ารที่เขา้ ร่วมโครงการ โดยเสนอรายละเอียด ตามลาดบั คือ สญั ลักษณท์ ่ีใช้ในการวิเคราะหข์ ้อมูล ลาดับข้ันตอนในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู และการแปลความหมายขอ้ มลู ดงั ตอ่ ไปน้ี สญั ลกั ษณ์ทใี่ ช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมูล การเสนอผลการประเมินครั้งนไ้ี ด้กาหนดสัญลักษณ์ท่ีใชใ้ นการวิเคราะหข์ อ้ มูล ดังนี้ N แทน ขนาดของกลุม่ ผ้ปู ระเมนิ การใชค้ มู่ อื (Sample size) % แทน ค่าร้อยละ (Percentage) ลาดบั ขัน้ ตอนในการวเิ คราะหข์ อ้ มูล การวเิ คราะห์ขอ้ มูล ผู้ประเมินได้เสนอผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู เป็นตอนๆ เรียงลาดับดังนี้ ตอนท่ี 1 การวิเคราะหข์ ้อมลู เกีย่ วกบั ขอ้ มลู ทัว่ ไป ตอนท่ี 2 การวเิ คราะหข์ อ้ มูลดา้ นความพึงพอใจของผูร้ บั บรกิ าร ตอนที่ 3 การวเิ คราะห์ข้อมลู ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะอืน่ ๆ ในการสรปุ ผลการดาเนินงานโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน หลกั สูตรพฒั นาอาชีพ วิชาการทาเครื่องด่ืม สมุนไพรเพอ่ื สขุ ภาพ ณ ศาลาประชาคมบา้ นบุญทัน ม.1 ตาบลบุญทนั อาเภอสุวรรณคหุ า จังหวดั หนองบัวลาภู ไดจ้ ดั ทาเครื่องมอื เปน็ แบบสอบถาม วดั ระดับความคิดเห็นและความพงึ พอใจในการดาเนนิ การพัฒนาซ่งึ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนแรกเปน็ คาถามปลายเปดิ มาตราสว่ นประมาณค่า (Rating scales) สว่ นท่ี 2 มาตราสว่ น ประมาณค่าของ ลิเคริ ์ท likert’s Scales 5 ระดับ ส่วนทสี่ ามเป็นคาถามปลายเปิด ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ สว่ นท่ี สามเปน็ คาถามปลายเปิดเน้อื หาสาระท่ตี อ้ งการพัฒนาในคร้ังต่อไป ซง่ึ ในการเก็บรวบรวมนั้น ไดแ้ จกแบบสอบถาม แก่ผ้เู ข้ารว่ มโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชา การทาเครือ่ งดม่ื สมุนไพรเพือ่ สขุ ภาพ จานวน 10 คน ได้แบบสอบถามคนื จานวน 10 ฉบบั จากผเู้ ข้ารว่ มโครงการ คิดเป็นร้อยละ 100 กระทาการวิเคราะห์ กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา ๑๕
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาการทาเครอ่ื ง ด่มื สมุนไพรเพ่อื สุขภาพ ข้อมลู ตามประเภทและลักษณะของข้อมูล โดยหาค่าเฉลย่ี เปน็ คา่ ร้อยละ ซึง่ ได้วัดระดบั ความคดิ เห็นและความพึง พอใจท่ีมตี ่อโครงการจะปรากฏดังน้ี สรุปผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ความพงึ พอใจ โครงการศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการทา เคร่อื งด่มื สมุนไพรเพ่ือสุขภาพ ตอนท่ี 1 ข้อมูลทวั่ ไป รายการขอ้ มลู พ้นื ฐาน จานวน รอ้ ยละ (ƒ) (%) 1.เพศ 1.1 ชาย 00 1.2 หญิง 10 100 รวม 10 100.00 2.อายุ 2.1 ตา่ กว่า 15 ปี 00 2.2 อายุ 15 – 39 ปี 00 2.3 อายุ 40 – 59 ปี 4 40.00 2.4 อายุ 60 ปขี ้ึนไป 6 60.00 รวม 10 100.00 3.ระดับการศกึ ษา 3.1 ป.4 6 60.00 3.2 ป.6 4 40.00 3.3 ม.ตน้ 00 3.4 ม.ปลาย 00 3.5 ปวช. 00 3.6 ปวส. 00 3.7 ปรญิ ญาตรี 00 3.8 อื่นๆ 00 รวม 10 100.00 4.อาชพี 4.1 ผูน้ าท้องถน่ิ 00 4.2 อบต/เทศบาล 00 4.3 พนักงานรัฐวิสาหกิจ 00 4.4 ทหารกองประจาการ 00 4.5 เกษตรกร 10 100 กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา ๑๖
สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วชิ าการทาเครอื่ ง ดม่ื สมุนไพรเพอ่ื สขุ ภาพ 4.6 รบั ราชการ 00 4.7 ค้าขาย 00 4.8 รับจ้าง 00 4.9 อสม. 00 4.10 แรงงานตา่ งดา้ ว 00 4.11 วา่ งงาน 00 4.12 อ่ืนๆ 00 รวม 10 100.00 จากตาราง ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลความพึงพอใจของผเู้ ขา้ รว่ มโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รพัฒนา อาชพี วิชาการทาเครอ่ื งด่ืมสมนุ ไพรเพ่อื สขุ ภาพ ผลการวเิ คราะหป์ รากฏว่า ผู้เข้ารว่ มโครงการ 10 คน เปน็ เพศหญิง จานวน 10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 ด้านอายุ อายุ 60 ปีข้นึ ไป จานวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 60.00 อายุ 40-59 ปี จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 อายุ ระดบั การศกึ ษา ป.4 จานวน 6 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 60.00 ระดับ ป.6 จานวน 4 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 40.00 ด้านอาชพี เกษตรกร จานวน 10 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา ๑๗
สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการทาเครื่อง ด่ืมสมุนไพรเพื่อสขุ ภาพ สรุปผลการวิเคราะหข์ ้อมูลความพงึ พอใจโครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาการทาเครื่องดม่ื สมนุ ไพรเพื่อสขุ ภาพ ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจในการใหบ้ รกิ าร ตารางท่ี 2.1 จุดมงุ่ หมาย/เน้อื หาหลักสูตร ระดับความพึงพอใจ/จานวน หมาย เหตุ ข้อ รายการประเมินความพึงพอใจ มากทสี่ ุด มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย กลาง ท่สี ดุ ตอนที่ ๑ ความพงึ พอใจดา้ นเนอ้ื หา 1 เนอื้ หาตรงตามความตอ้ งการ 4 42 40.00 40.00 20.00 2 เนอื้ หาเพียงพอตอ่ ความต้องการ 4 42 40.00 40.00 20.00 3 เนื้อหาปัจจุบนั ทนั สมัย 55 50.00 50.00 4 เน้อื หามีประโยชน์ต่อการนาไปใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพ 5 3 2 ชีวิต 50.00 30.00 20.00 รวมตอนท่ี 1 45.00 40.00 15.00 ตอนท่ี ๒ ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม 5 การเตรียมความพร้อมกอ่ นอบรม 4 51 40.00 50.00 10.00 6 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ 4 51 40.00 50.00 10.00 7 การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา 5 32 50.00 30.00 20.00 8 การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกบั กลุ่มเปา้ หมาย 5 41 50.00 40.00 10.00 9 วธิ กี ารวดั ผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ 5 41 50.00 40.00 10.00 รวมตอนที่ 2 46.00 34.00 30.00 ตอนที่ ๓ ความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร 10 วิทยากรมีความรคู้ วามสามารถในเร่อื งทถี่ ่ายทอด 55 กศน.ตาบลบญุ ทนั ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา ๑๘
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วิชาการทาเครื่อง ดม่ื สมุนไพรเพ่ือสุขภาพ 11 วิทยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใชส้ ื่อเหมาะสม 50.00 50.00 55 12 วิทยากรเปดิ โอกาสให้มสี ว่ นรว่ มและซกั ถาม 50.00 50.00 รวมตอนท่ี 3 5 32 ตอนที่ ๔ ความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก 13 สถานท่ี วสั ดุ อุปกรณ์และสิง่ อานวยความสะดวก 50.00 30.00 20.00 50.00 43.34 6.66 14 การส่อื สาร การสรา้ งบรรยากาศเพอ่ื ให้เกดิ การเรยี นรู้ 55 15 การบริการ การช่วยเหลือและการแกป้ ัญหา 50.00 50.00 รวมตอนที่ 4 55 รวมทัง้ หมด 4 ตอน 50.00 50.00 5 32 50.00 30.00 20.00 50.00 43.34 6.66 47.75 40.17 12.08 สรปุ ความคิดเห็นและความพงึ พอใจของผู้รบั บริการ โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการ ทาเคร่ืองดม่ื สมุนไพรเพือ่ สุขภาพ สรปุ ไดด้ ังน้ี ตอนท่ี ๑ ความพงึ พอใจดา้ นเนอ้ื หา สรุปไดว้ า่ ผทู้ ีต่ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจระดบั ดีมาก คดิ เป็นร้อยละ 45.00 มีความพึงพอใจในระดบั มาก คิดเปน็ ร้อยละ 40.00 มีความพงึ พอใจในระดบั พอใช้ คดิ เป็นร้อยละ 15.00 ตอนท่ี ๒ ความพงึ พอใจดา้ นการจดั กจิ กรรมการอบรม สรุปไดว้ า่ ผทู้ ่ีตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจระดบั ดีมาก คดิ เป็นรอ้ ยละ 46.00 มคี วามพึงพอใจในระดบั มาก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 34.00 มคี วามพงึ พอใจในระดับพอใช้ คิดเปน็ ร้อยละ 30.00 ตอนท่ี ๓ ความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร สรุปไดว้ า่ ผู้ทีต่ อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจระดับดีมาก คดิ เปน็ ร้อยละ 50.00 มีความพงึ พอใจในระดับ มาก คิดเป็นร้อยละ 43.34 มีความพึงพอใจในระดับพอใช้ คิดเปน็ ร้อยละ 6.66 ตอนท่ี ๔ ความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก สรุปไดว้ ่าผู้ท่ตี อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจระดับดีมาก คิดเป็นร้อยละ 50.00 มีความพึงพอใจในระดับ มาก คิดเปน็ ร้อยละ 43.34 มีความพึงพอใจในระดบั พอใช้ คดิ เป็นร้อยละ 6.66 สรปุ ภาพรวมจากการประเมินผลการดาเนินงาน โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลักสูตรพัฒนาอาชีพ วชิ าการทาแจ่วบองสมุนไพร กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณ กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา ๑๙
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาการทาเครื่อง ดืม่ สมนุ ไพรเพื่อสขุ ภาพ คหู า ทัง้ 4 ด้าน มผี ลการดาเนินกจิ กรรม บรรลตุ ามวัตถุประสงค์ โดยผู้ที่เขา้ รว่ มโครงการไดต้ อบแบบสอบถาม ใน ระดับความพงึ พอใจดมี าก มีคา่ เฉลย่ี เท่ากบั 47.75 ระดับมากมีค่าเฉลี่ยจานวนรอ้ ยละ 40.17 ระดับพอใช้ คิดเปน็ ร้อยละ 12.08 เมือ่ นาความพงึ พอใจระดับดีขึ้นไปมารวมกนั แลว้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 87.92 ซ่งึ อยใู่ นระดับดมี าก กศน.ตาบลบญุ ทัน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา ๒๐
สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วิชาการทาเครอ่ื ง ดมื่ สมุนไพรเพอ่ื สุขภาพ บทท่ี 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ การดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ รปู แบบกล่มุ สนใจ วิชาการทาเครอื่ งดื่ม สมนุ ไพรเพอื่ สขุ ภาพ สรปุ ผลการดาเนินงานไดด้ งั น้ี วตั ถุประสงคข์ องโครงการ 1.เพื่อให้ประชาชนมคี วามรู้และทกั ษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายไดท้ ีม่ ่นั คง ม่ังคั่ง 2.เพื่อใช้ในการตดั สินใจประกอบอาชีพให้สอดคลอ้ งกบั ศักยภาพของตนเอง ชมุ ชน สังคม และสง่ิ แวดล้อม อย่างมคี ณุ ธรรมจริยธรรม 3.เพ่อื ใหป้ ระชาชนมโี ครงการประกอบอาชีพเพอ่ื ใช้เปน็ แนวทางในการพัฒนาอาชพี ของตนเอง ขอบเขตของโครงการ 1. ดา้ นเนื้อหา โครงการนี้มงุ่ ใหผ้ เู้ รียนกลมุ่ เปูาหมายที่เขา้ รับการอบรมสามารถนาความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การเรยี นรตู้ ่างๆ ไปใชใ้ นการประกอบอาชีพที่เป็นการเขา้ ส่อู าชพี สรา้ งงาน สร้างรายได้ หรือ พฒั นาอาชพี หรอื ต่อยอดอาชีพเดมิ 2. ดา้ นระยะเวลา ระยะเวลาในการดาเนินงาน วันที่ 15 - 16 ธนั วาคม 2564 ณ ศาลา ประชาคมบญุ ทนั หมทู่ ี่ 1 ตาบลบญุ ทนั อาเภอสุวรรณคหู า จังหวัดหนองบัวลาภู 3. ดา้ นประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง ประชาชนตาบลบุญทัน จานวน 10 คน ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รบั - ประชาชนตาบลบุญทนั กลุม่ เปาู หมายมอี าชีพใหม่มีการทาเคร่ืองด่มื สมนุ ไพรเพ่ือสขุ ภาพไว้รบั ประทานเอง เพือ่ ลดค่าใชจ้ ่ายภายในครัวเรือน - เพ่ือให้ผูเ้ ขา้ รับการอบรมสามารถนาความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์การเรียนรตู้ า่ งๆ ไปใช้ชวี ติ ประจาวนั ตวั ชี้วัด ตัวชว้ี ัดผลผลติ ร้อยละ 80 ของประชาชน ตาบลบญุ ทัน ที่เข้ารว่ มโครงการมอี าชีพ มีงานทา มรี ายไดท้ ีม่ ัน่ คงยง่ิ ขน้ึ ตัวช้วี ัดผลลพั ธ์ ประชาชนตาบลบุญทัน ทเ่ี ข้าร่วมโครงการมีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การเรียนรูต้ า่ งๆ ไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวัน กศน.ตาบลบุญทัน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุวรรณคหู า ๒๑
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการทาเคร่ือง ด่ืมสมนุ ไพรเพ่อื สุขภาพ ผลการดาเนนิ โครงการ ประชาชนตาบลบญุ ทัน ทเ่ี ข้ารว่ มโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ วิชาการทาเคร่ืองด่ืม สมุนไพรเพือ่ สุขภาพ มีความพอใจในการจดั กิจกรรมในระดับดีขึน้ ไป ร้อยละ 87.92 และประชาชนท่ีเขา้ ร่วม กจิ กรรมสามารถนาความรทู้ ่ไี ดไ้ ปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และนาไปเพ่ิมรายไดล้ ดค่าช้าจ่ายในครอบครัวของตนเองได้ ปญั หา-อปุ สรรค - การดาเนินกจิ กรรมอยูใ่ นช่วงฤดทู านา แนวทางแกไ้ ขปญั หา - ครแู ละวิทยากรประสานผู้เข้าอบรมทม่ี คี วามสนใจในการเข้าอบรมการทาเครือ่ งดื่มสมนุ ไพรเพ่ือ สุขภาพ จานวน 8 ชว่ั โมง ข้อเสนอแนะ - เม่ือผู้เรยี นไดเ้ รยี นจบหลักสูตรไปแล้ว สามารถนาความรูท้ ีไ่ ด้ไปลดรายจ่ายภายในครอบครัวได้ กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสวุ รรณคหู า ๒๒
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการทาเครอ่ื ง ดื่มสมนุ ไพรเพอ่ื สขุ ภาพ ภาพประกอบกิจกรรมโครงการศนู ย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพฒั นาอาชพี วิชาการทาเครอื่ งดม่ื สมุนไพรเพื่อสขุ ภาพ ดาเนนิ การ 15 - 16 ธันวาคม 2564 ณ ศาลาประชาคมบา้ นบญุ ทัน หมู่ 1 ตาบลบญุ ทนั อาเภอสุวรรณคหู า วทิ ยากรแนะนาวิธีการทาเคร่ืองดืม่ สมนุ ไพรเพื่อสขุ ภาพ กศน.ตาบลบญุ ทนั ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา ๒๓
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการทาเครอ่ื ง ด่ืมสมุนไพรเพือ่ สขุ ภาพ กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา ๒๔
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วชิ าการทาเครอื่ ง ด่มื สมนุ ไพรเพอื่ สขุ ภาพ ผู้เรยี นฝึกปฏิบตั ิ กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคหู า ๒๕
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการทาเครอ่ื ง ด่ืมสมุนไพรเพือ่ สขุ ภาพ กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา ๒๖
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาการทาเครื่อง ดื่มสมุนไพรเพื่อสขุ ภาพ วทิ ยากรอธบิ าย กศน.ตาบลบญุ ทนั ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา ๒๗
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการทาเครอ่ื ง ด่ืมสมุนไพรเพือ่ สขุ ภาพ กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา ๒๘
สรปุ ผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วิชาการทาเคร่อื ง ดื่มสมุนไพรเพ่อื สขุ ภาพ ภาคผนวก กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา ๒๙
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: