Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Best practice การสานตะกร้า กศน.ตำบลนาด่าน

Best practice การสานตะกร้า กศน.ตำบลนาด่าน

Published by khotphet.bo, 2021-08-30 05:52:11

Description: Best practice การสานตะกร้า กศน.ตำบลนาด่าน อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู

Search

Read the Text Version

Best Practice การดาเนินการด้านศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลักสตู ร การสานตะกรา้ จากเชือกมดั ฟาง กศน.ตาบลนาดา่ น ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย จงั หวดั หนองบวั ลาภู

คำนำ ตามท่ี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา ได้กาหนดให้ กศน.ตาบล ดาเนินการจัดทาผลการปฏิบัติงานท่ีดี ประจาปี 2564 เพื่อเป็นแนวทางและพัฒนางานให้เกิด ประสิทธิภาพและนาเสนอผลการปฏิบัติงานท่ีดีของ กศน.ตาบลนาด่าน ได้จัดทาผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ ( Best Practices ) ช่ือผลงาน การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ / โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตร การสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง ประจาปี 2564 กศน.ตาบลนาด่าน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา จังหวดั หนองบวั ลาภู กศน.ตาบลนาด่าน จะใช้ข้อมูลจากเอกสารเล่มน้ีเพ่ือใช้พัฒนาการจัดกิจกรรม กศน.ท่ีตรงตาม ความต้องการของผู้เรียน ผู้รับบริการและชุมชน และขอขอบพระคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและให้ความรว่ มมือทุกทา่ น ไว้ ณ โอกาสน้ีด้วย กศน.ตาบลนาด่าน สงิ หาคม 2564

Best Practice กศน.ตำบลนำด่ำน ไตรมำส 3-4 ประจำปงี บประมำณ 2564 โดยกศน.ตำบลนำดำ่ น ช่อื ผลงำนกำรศึกษำเพ่อื พัฒนำอำชีพ/โครงกำรศูนย์ฝึกอำชีพชมุ ชน หลักสตู ร กำรสำนตะกร้ำจำกเชอื กมดั ฟำง ชือ่ เจำ้ ของผลงำน กศน.ตำบลนำด่ำน กศน.อำเภอสุวรรณคหู ำ จังหวัดหนองบัวลำภู 1. ควำมสำคัญและควำมเป็นมำ ตามนโยบายและแนวทางหลักในการดาเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการและโครงการสาคัญตาม แผนปฏิบัติราชการประจาปีงบประมาณพ.ศ. 2564 ของสานักงานกศน.ได้กาหนดการดาเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ คอื “คนไทยทุกช่วงวยั ไดร้ บั โอกำสทำงกำรศึกษำและกำรเรียนรตู้ ลอดชีวิตอย่ำงมีคุณภำพมีทกั ษะท่ีจำเป็นและ สมรรถนะที่สอดรับกับทิศทำงกำรพัฒนำประเทศสำมำรถดำรงชีวิตได้อย่ำงเหมำะสมบนรำกฐำนของหลัก ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยประกอบด้วยส่วนท่ี 1 คือจุดเน้นการดาเนินงานประจาปีงบประมาณพ.ศ. 2564ส่วนที่ 2 การจัดการศึกษาและการเรียนรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID – 19 ) ของสานกั งาน กศน. และส่วนที่ 3 ภารกจิ ต่อเน่ืองซง่ึ กำรศึกษำต่อเนือ่ ง จะตอ้ ง 1) จัดการศกึ ษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาอย่างยั่งยืนโดยให้ความสาคัญกับการจัดการศกึ ษาอาชีพ เพอ่ื การมี งานทาในกลมุ่ อาชพี เกษตรกรรมอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชพี เฉพาะทางหรือการบริการรวมถึง การเน้นอาชีพช่างพ้ืนฐาน ที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนความต้องการ และศักยภาพของแต่ละพื้นท่ีมี คุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับสอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศตลอดจน สร้างความเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดให้มีการส่งเสริมการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการพัฒนาหนึ่ง ตาบลหน่ึงอาชีพเด่นการประกวดสินค้าดีพรีเม่ียม การสร้างแบรนด์ ของกศน. รวมถึงการส่งเสริมและจัดหา ช่องทางการจาหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ให้มีการกากับติดตามและรายงานผลการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมี งานทาอย่างเป็นระบบและตอ่ เนอื่ ง กศน.ตาบลนาด่าน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา จึงได้นา ยุทธศาสตร์และจดุ เนน้ การดาเนินงานข้างต้นไปสู่การปฏิบตั ิ เพื่อจัดการศึกษาอาชีพตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจของ พอเพียง และการให้บริการประชาชนในพื้นท่ีอาเภอสุวรรณคูหา ดาเนินการจัดกิจกรรมให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความสามารถก้าวส่เู ศรษฐกิจขบั เคลอื่ นนวตั กรรม 2. วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือเผยแพรแ่ ละประชาสัมพันธโ์ ครงการศูนยฝ์ ึกอาชพี ชุมชนหลักสตู รการสานตะกร้าจากเชอื กมดั ฟาง 2. เพอ่ื ส่งเสริมใหม้ ีการสาธิตขัน้ ตอนการดาเนนิ งานหลกั สูตรการสานตะกรา้ จากเชือกมัดฟาง 3. เพ่อื ใหก้ ลุ่มเปา้ หมายสามารถนาความรูไ้ ปประกอบอาชพี สรา้ งรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครวั ได้

4. เพอ่ื เป็นการสร้างโอกาสการมีงานทา การประกอบอาชีพอิสระให้กับประชาชนใหม้ ีความรู้และทักษะฝีมือ ในวิชาชีพ 3. หลกั กำรและแนวคิด ภูมิปัญญาท้องถ่ินเป็นสิ่งที่ชุมชนได้สั่งสมประสบการณ์ใช้สติปัญญาในการปรับตัว เพ่ือการดารง ชีพท่ามกลางสภาพแวดล้อมท่ีมีความแตกต่างกันในแต่ละสงั คมและวัฒนธรรม จึงมีการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆอันเป็น รูปธรรมเพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการในการใช้สอยดารงชพี (นวลลออ ทินานนท์, 2544, น. 1) งานจกั สานเปน็ หน่งึ ในภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยที่มี ความสาคัญต่อการดาเนินชีวิตประจาวันของคนไทย ทั้งในด้านของการอานวย ความสะดวก ในการดาเนินชีวติ และด้านคุณค่าทางจิตใจจากความงามความประณีตและความเป็นท้องถ่ิน อันจะ นาไปส่คู วามภาคภมู ิใจในความเป็นไทย และพัฒนาสรา้ งสรรคง์ านในวงกว้างขึ้น สามารถสรา้ งเป็นอาชีพเสรมิ สร้าง รายได้ใหแ้ กช่ ุมชนท้องถิ่น (วิบลู ย์ ลสี้ วุ รรณ, 2532, น. 129) ภูมปิ ญั ญาในการทาผลิตภัณฑห์ ตั ถกรรม จกั สานสว่ น ใหญจ่ ะมุง่ เนน้ ในด้านประโยชนใ์ ชส้ อย ตามสภาพของสังคม อย่างไรกต็ ามในปจั จุบนั การใช้ผลิตภัณฑ์หตั ถกรรมจัก สานโดยตรงใน ชีวิตประจาวันลดน้อยลง มีการปรับเปล่ียนไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆมากข้ึน มีการพัฒนา รูปแบบ และขนาดให้แตกต่างไปจากเดิมเหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอยตามการเปล่ียนแปลง ของสังคม (ณภัทร หงษ์ทอง, 2548, น. 210) ผลิตภัณฑ์จักสานในอดีตส่วนใหญ่ใช้วัสดุท่ีหา ได้จากธรรมชาติ เช่น เชือกกล้วย ซึ่งเป็นวัสดุเหลอื ใช้ทางการเกษตรที่หาได้ง่าย สามารถนามาใช้ในการจักสานผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ แต่เน่ืองจากผลิตภัณฑ์จากเชือก กล้วยไม่ค่อยมีความคงทน ข้ึนราง่าย จึงมีการนาวัสดุอ่ืนที่มีความทนทานมาใช้จักสานผลิตภัณฑ์แทนเชือกกล้วย อาทิเช่น เชือกมดั ฟาง เปน็ ต้น “เชอื กมดั ฟาง” เป็นวัสดุทางเลือกใหม่สามารถนามาใช้แทนเชือกกล้วยได้ เป็นเชอื กท่ีไดจ้ ากการ สังเคราะห์ มีความเหนียว คงทนมาก ลักษณะคล้ายเชือกกล้วย สีสันหลากหลายและมีขนาดท่ีแตกต่างกันออกไป สามารถนามาทาเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ โดยการถัก สาน มัด ผูก หรือตัดเย็บ ผสมผสานกับการใช้วสั ดอุ ื่น เช่น ไม้ พลาสติก โครง เหล็ก ผ้า เป็นส่วนประกอบ อาจซับในด้วยวัสดุต่างๆ เช่น ผ้า หนัง พลาสติก และอาจ เคลือบ ด้วยสารเคลือบเงาด้วยน้ามันวานิช ผลิตภัณฑ์จักสานเชือกมัดฟางท่ีทาข้ึนด้วยฝีมือมนุษย์ ส่วนใหญ่เป็น ผลงานที่เปี่ยมไปดว้ ยคุณภาพ ท้ังเร่ืองของรายละเอียด ลวดลาย สีสนั ความ สวยงาม ความประณตี ท่ผี สู้ รรคส์ รา้ ง ได้ใสใ่ จลงไปในผลงานแต่ละช้ินจนออกมาเป็นงานทด่ี ี มีคุณภาพ ในแต่ละทอ้ งถ่ินจะมีการจัดตั้งกลุ่มอาชีพเพื่อเป็น การสนับสนุนให้ประชาชนได้มีการรวมกลุ่มเพื่อให้เกิดการส่งเสริมด้านการประกอบอาชีพ สร้างความสามัคคีให้ เกิดภายใน กลุ่ม สร้างรายได้เล้ียงชีพได้อย่างมั่นคง สอดคล้องกับแนวคิดการมีส่วนร่วมของ Fonaroff (1980) ที่ ได้กล่าวถึงการมีส่วนร่วมว่า คือการที่ผู้ปฏิบัติงานได้มีโอกาสในการวางแผนและการ ตัดสินใจร่วมกันดาเนินงาน ร่วมกันด้วยความพึงพอใจโดยการใช้ความรู้ความสามารถ ความคิด สร้างสรรค์ ความเช่ียวชาญ และใช้ทรัพยากร ร่วมกันในการแก้ปัญหาพัฒนางานเพ่ือให้บรรลุ ตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายการได้รับผลประโยชน์ร่วมกันเป็น สิ่งที่ตอบโจทย์ความตอ้ งการ มากทีส่ ุด ดังนั้น จากหลักการและแนวคิดเหลา่ น้ีทาให้ กศน.ตาบลนาด่าน ได้ทาการสารวจกลุ่มเป้าหมายผู้ ท่ีสนใจในการสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง เพื่อจะได้ทาเป็นอาชีพเสริมรายได้ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน จึงไดเ้ ปิดหลกั สตู รอาชีพ การสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง โดยมหี ลกั การและขัน้ ตอนดังตอ่ ไปน้ี

4. กระบวนกำรหรอื ขนั้ ตอนกำรดำเนินงำน 1. จัดทาเวทีเพ่ือสารวจความต้องการดา้ นอาชีพของประชาชน 2. จดั ทาแผนปฏิบตั กิ าร 3. แตง่ ตงั้ คณะกรรมการดาเนินงาน 4. ประสานงานวิทยากรและกลุม่ เป้าหมาย 5. ดาเนินกิจกรรมตามปฏทิ ินปฏิบัตงิ านกระบวนการทางานของกล่มุ การสานตะกรา้ จากเชือกมดั ฟาง

กำรทำงำนของกลุ่มอำชีพ กำรสำนตะกร้ำจำกเชือกมดั ฟำง มีการออกแบบขั้นตอนการทางานศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนหลักสูตร การสานตะกร้าจากเชือกมัดฟาง จานวน 31 ชัว่ โมงซง่ึ มีขัน้ ตอนการทางานกลุ่มอาชพี ดังน้ี จดั ตั้งกลมุ่ อาชพี ตามความสนใจ จดั กิจกรรมตามแผนการเรียน ไม่บรรลุ การสอนฝึกปฏิบัตจิ ริง ปรับปรงุ กำรจดั กจิ กรรม บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ หรอื ไม่ ประเมินผลรวม สรุปผลรำยงำนกำรปฏบิ ัติงำน เผยแพร่

เอกสำรท่ีเกี่ยวข้อง เชือกมัดฟำง หมายถึง เชือกท่ีได้จากการสังเคราะห์ มีความเหนียว คงทน มีลักษณะคล้ายเชือกกล้วย มี ขนาดแตกตา่ งกนั ใช้สาหรับมัดฟางขา้ ว ผลิตภัณฑ์จำกเชือกมัดฟำง หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ทาหรือประดิษฐ์ขึ้นจากเชือกมัดฟาง โดยการถัก สาน มัด ผูก หรือตัดเย็บเป็นผลิตภัณฑ์แบบต่างๆ อาจใช้วัสดุอ่ืน เช่นไม้ พลาสติก โลหะ ผ้า หนัง เป็นส่วนประกอบ อาจซบั ในด้วยวัสดุอน่ื เชน่ ผ้า หนงั พลาสตกิ และอาจจะเคลอื บดว้ ยสารเคลอื บเงาดว้ ยก็ได้ เทยี นไข หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนาไขสัตว์ไขพืช หรือไขสังเคราะห์เช่น ไขผ้ึง ไข วัวไข ปลาวาฬไข พาล์มิติก ไขสเตียริก พาราฟินปิโตรลาทุม มาผ่านความร้อนให้หลอมละลายรวมกันนาไปป้ันด้วยมือ หรือเทลง ในแบบพิมพ์ให้รอบไส้เทียนอาจผสมสีหรือกลิ่นหล่อด้วยน้าเย็นปล่อยให้แข็งตัว อยู่ในแบบพิมพ์แล้วแกะเทียนไข ออกตดั แต่ง ใชจ้ ุดไฟทีไ่ ส้ เทยี นเพอ่ื ใหแ้ สงสว่าง ลกั ษณะท่วั ไปต้องมรี ปู แบบรูปทรง ที่เหมาะสมไมแ่ ตกหักหรอื มฟี องอากาศไส้เทยี นต้องมีขนาดและ ความยาวท่ีเหมาะสมกับชิ้นงาน ไฟแชก็ ไฟแช็ก หมายถึง อุปกรณ์ท่ีใช้สาหรับจุดไฟด้วยมือและใช้ก๊าซปิโตรเลียมหรือของผสม ไฮโดรคาร์บอนเป็นเช้ือเพลิง ใช้สาหรับจุดบุหรี่ซิการ์และไปป์ หรือใช้จุดไฟกับวัสดุ ชนิดอื่นได้เช่น กระดาษ ไส้ ตะเกยี ง เทยี น และคบเพลงิ หมำยเหตุ ไฟแช็กไม่ไดอ้ อกแบบไว้สาหรบั จุดไฟเพื่อให้แสงสว่างเหมือนเทียนไข หรอื ไฟฉาย หรือการใช้ในลกั ษณะอน่ื ทต่ี ้องจดุ ไฟเป็นระยะเวลานาน ไฟแช็กประเภทบรรจุก๊าซได้ครั้งเดียว (disposable lighter) หมายถึง ไฟแช็กท่ีเม่ือใช้ ก๊าซ หมดแลว้ ผู้ใช้ไมส่ ามารถนามาบรรจกุ ๊าซใหมไ่ ด้อกี ไฟแช็กประเภทบรรจุก๊าซได้หลายคร้ัง (refillable lighter) หมายถึง ไฟแช็กท่ีเมื่อใช้ ก๊าซ หมดแล้ว ผใู้ ช้สามารถนามาบรรจกุ า๊ ซใหม่ได้อกี ความสูงเปลวไฟ หมายถึงระยะเปลวไฟวดั จากขอบบนของกะบงั ไฟ (flameguard) ถึงยอด เปลวไฟหรอื ระยะที่วดั จากรูปล่อยกา๊ ซ (orifice) ถงึ ยอดเปลวไฟในกรณที ่ีไม่มกี ะบังไฟการสลัก ( splitting orsputtering ) หมายถงึ ปรากฏการณข์ องกา๊ ซทีย่ งั ไม่ถูกเผาไหม้กระเดน็ ออกมาจากเปลวไฟ

อปุ กรณแ์ ละวธิ ีกำรทำ วสั ดุอุปกรณ์ 1. เชอื กมัดฟาง 2. เหล็ก 3. ไขควง 4. ไฟแช็ก 5. เทียนไข 6. กรรไกร ขนั้ ตอนกำรประดษิ ฐ์ ลำยพ้นื ฐำน 1. ลำยมัดตัวปูขวำ

2. มดั เกลยี วขนำนขวำ 3. มัดปมจดุ เฉลย่ี งซ้ำย

4. มัดปมจดุ เฉล่ยี งซ้ำย 5. มัดปมจดุ เฉลยี่ งขวำ 6. วิธีมัดปมจุด 2 แถว

ขน้ั ตอนกำรข้นึ รปู ตะกร้ำ 1. ออกแบบโครงเหล็กรูปแบบต่างๆ เช่น ทรงสีเ่ หล่ยี ม หกเหลี่ยม แปดเหลี่ยมฯลฯ แลว้ นาไปเช่ือมใหไ้ ด้ รปู ทรงทต่ี ้องการ เมือ่ ได้โครงเหล็กแล้วจงึ นามาทาสีกันสนิม 2. นาโครงเหล็กทที่ าสกี นั สนิมแล้วมาพนั ดว้ ยเชือกมัดฟาง เพื่อป้องกนั การลืน่ ในัขนั ตอนการ ถกั ลายและเพอื่ ไม่ให้เห็นโครงเหล็กแตจ่ ะดูเหมือนหวาย

3. เร่มิ ทาขอบตะกรา้ โดยการถกั ลายขนานซ้าย-ขวาทีข่ อบบน ขอบล่างและหูตะกรา้ 4. ในการข้นึ ลายดา้ นข้างของตะกรา้ จานวนและขนาดของเชือกจะตัดตามความเหมาะสมของขนาด ตะกรา้ (เชน่ ทรงส่เี หล่ียมตดั เชอื กขนาด 30 นิ้ว ประมาณ 30 เส้น) 5. เร่มิ จากการทาก้นตะกร้า

5. ผลกำรดำเนินงำน 1. ผลที่เกดิ กับตนเอง (กศน.ตำบลนำดำ่ น) 1.1 เกิดแนวคดิ ในการพัฒนาอย่างต่อเน่อื ง 2. ผลทเ่ี กดิ กับผู้เรยี น 2.1 ผู้เรยี นเกดิ พฤตกิ รรมทจ่ี ะพัฒนากระบวนการท่เี กิดการเชือกมัดฟาง 2.2 ผ้เู รยี นไดม้ ีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ประสบการณ์กันเองกับวิทยากรท่หี ลากหลาย 2.3 ผเู้ รียนไดร้ บั การสนับสนนุ พฒั นาดา้ นการศึกษาอย่างต่อเน่อื ง 2.4 ผเู้ รยี นไดแ้ สดงออกถงึ ศักยภาพสามารถลงมอื ปฏิบตั ิและนาความรู้ทไี่ ดร้ ับไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั เพ่ือ ก่อรายไดเ้ สรมิ ภายในครอบครวั 2.5 ผเู้ รยี นได้ตระหนักและเห็นความสาคัญในคุณค่าคุณประโยชน์จากการฝกึ อบรมหลักสูตรการสาน ตะกร้าจากเชือกมัดฟาง และสามารถนาความรู้ทีไ่ ด้ไปพฒั นาตนเองครอบครวั และชมุ ชนสง่ ผลต่อความเช่อื มนั่ ศรทั ธาและนาไปปฏบิ ัตพิ ัฒนาตนเองจนเป็นนสิ ยั 3. ผลทเ่ี กดิ กับประชำชน 3.1 ประชาชนตระหนกั เหน็ ความสาคญั ของการพฒั นากล่มุ งานการสานตะกรา้ จากเชอื กมดั ฟาง 3.2 ได้เหน็ และเรยี นรู้กิจกรรมอาชีพที่มีอยู่ในชมุ ชนนาไปสู่พลังภาคประชาชนพฒั นาตนเองพฒั นาชุมชน จากการเรยี นรู้ซง่ึ กนั และกนั ด้วยกจิ กรรมจากหลักสูตร การสานตะกรา้ จากเชือกมัดฟาง เป็นตวั เชอื่ มโยง 3.3 มสี ว่ นรว่ มกบั ภาคีเครือข่ายจดั กิจกรรมเพ่อื สร้างสังคมแหง่ การเรยี นรู้และความเข้มแขง้ ใหก้ บั ชมุ ชน 4. ผลทีเ่ กิดกับสังคม 4.1 สังคมมีแหลง่ เรียนรู้ทสี่ อดคลอ้ งกบั ความต้องการของประชาชนในทอ้ งถ่นิ 6. ปัจจยั ควำมสำเรจ็ 6.1 ประชาชนในพ้ืนท่ีตาบลนาด่านใหค้ วามสนใจและมีความกระตือรือร้นในการทาเป็นอาชพี เสรมิ 6.2 ไดร้ ับความรว่ มมือจากภาคีเครอื ข่ายจดั กจิ กรรมเพ่อื สร้างสงั คมแหง่ การเรียนรู้และความเขม้ แข้ง ให้กบั ชุมชน 7. ประโยชน์ทไี่ ดร้ ับ 7.1 เป็นประโยชน์ตอ่ ครูผสู้ อนสถานศึกษา กศน.ตาบลนาด่าน ในการพัฒนาการจัดกจิ กรรม 7.2 ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการสามารถเผยแพร่ส่งเสริมสาธิตขน้ั ตอนการดาเนินงานสามารถแลกเปล่ียนเรียนรู้การ ปฏิบัตงิ านและชว่ ยชุมชนหรือหมูบ่ ้านท่ีต้องการจัดกิจกรรมตา่ งๆให้มรี ายได้เพิ่มมากขน้ึ

9. กำรเผยแพร่ - เพจ Ooccกศน.ตาบลนาดา่ น - เพจ กศน.ตาบลนาดา่ น NFE NADAN SUWAN - สมาชิกกลมุ่ - fasbook กศน.ตาบลนาด่าน

9. ภำคผนวก ( ภำพถำ่ ยประกอบ / อื่นๆท่เี ก่ยี วขอ้ ง โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลกั สตู รระยะสน้ั การสานตะกรา้ จากเชอื กมดั ฟาง



คณะทำงำน ท่ปี รึกษำ ผู้อานวยการ กศน.อาเภอสวุ รรณคหู า ๑. นายขปี นาวธุ สเี ขียว ครผู ้ชู ่วย ๒. นางสาวพชิ ชาพมิ พ์ เพ็ชรเวยี ง ครูผชู้ ่วย ๓. นางสาวอารยา วิชาสวสั ดิ์ ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น ๔. นายอภิชาติ สทุ ธโิ สม ครู กศน.ตาบล คณะทำงำน ครู กศน.ตาบล ๑. นางฐิติพรรณ ใหมว่ งษ์ ครูศนู ย์การเรียนชุมชน ๒. นางสาววงค์เดือน พนั ธ์ลี ๓. นางสาวจุฑามาศ ดปู่ ้อง ผจู้ ัดพิมพ/์ ออกแบบปก นางฐิติพรรณ ใหมว่ งษ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook