สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน รปู แบบกลมุ่ สนใจ วชิ าการทาแจ่วบองสมนุ ไพร จานวน 6 ชัว่ โมง บทที่ 1 บทนา ความเปน็ มาและความสาคัญ จากสถานการณ์เศรษฐกจิ และความเหลือ่ มลา้ ท่มี อี ยู่ในสังคมปัจจุบัน แสดงถึงฐานเศรษฐกิจของประเทศ ที่ยงั ไมเ่ ข้มแข็งประชาชนระดบั ฐานรากยงั มีรายได้นอ้ ย สว่ นใหญม่ อี าชพี ภาคการเกษตร จงึ ไมม่ ีโอกาสทจ่ี ะเตบิ โต เป็นชนช้นั กลาง การขาดโอกาสและความรเู้ กย่ี วกบั ทักษะด้านอาชพี ทาใหเ้ กิดปญั หาในการประกอบอาชีพ เพ่อื สร้างรายไดจ้ ากผลผลิตของตนเอง จากสภาวะการดงั กล่าว รฐั บาลจงึ ได้ให้ความสาคัญตอ่ การพัฒนาประเทศด้าน เศรษฐกิจพืน้ ฐานของประชาชนกลมุ่ ดังกลา่ ว โดยพยายามที่จะส่งเสรมิ อาชพี เพื่อสรา้ งงานและผลผลิต ที่มคี ณุ ภาพ ให้แก่ประชาชนอยา่ งท่ัวถึงและทุกระดบั ชน้ั ซ่งึ การพัฒนาประเทศจะต้องพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ ของประเทศ ดังนัน้ การจดั การศกึ ษาจงึ เปน็ ปัจจัยสาคัญอนั จะนาไปสูก่ ารบรรลุเปา้ หมายในการพัฒนาประเทศอยา่ งมคี ุณภาพ และยง่ั ยนื เพ่ือตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ดา้ นการสร้างโอกาส และ ความเสมอภาคทาง สังคมเพอ่ื เร่งกระจายโอกาสการพัฒนาให้ทวั่ ถึง ลดความเหลือ่ มล้าไปสูส่ ังคมเสมอภาค และเป็นธรรม สานกั งาน กศน. ซึ่งเปน็ หน่วยงานทางการศึกษาท่ีมสี ถานศกึ ษาตัง้ อยใู่ นระดับอาเภอ/เขต จานวน 928 แหง่ และ กศน. ตาบล จานวน 7,424 แหง่ ไดข้ บั เคลอ่ื นโครงการศูนยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน เพื่อพฒั นาความรูแ้ ละฝกึ อาชพี แกป่ ระชาชน โดยการจัดกิจกรรมฝกึ อาชีพภายใต้ 5 หลักสตู รกลุม่ อาชพี ไดแ้ ก่ กลมุ่ อาชีพ ด้านเกษตรกรรม กลุ่มอาชพี ดา้ น อตุ สาหกรรมหรือหตั ถกรรม กลมุ่ อาชีพดา้ นพาณิชยกรรมและบริการ กลุ่มอาชีพดา้ นความคดิ สร้างสรรค์ และกลมุ่ อาชพี เฉพาะทาง เช่น ชา่ งไฟฟ้า ชา่ งซ่อมแอร์ ฯลฯ โดยมงุ่ หวงั ใหป้ ระชาชน ที่เขา้ รบั การฝึกอาชีพสามารถนา ความรไู้ ปใชป้ ระกอบอาชีพได้ มีการพัฒนาต่อยอดผลติ ภณั ฑ์/บรกิ าร ใหม้ คี ุณภาพ เป็นการสรา้ งมูลค่าเพ่ิม มี สง่ เสรมิ การขายและขยายชอ่ งทางการจาหนา่ ยสินค้าไปยังผบู้ รโิ ภคท่หี ลากหลาย ภายใต้ Brand กศน. ในอนาคต กศน.ตาบลบุญทนั สังกดั ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณ คูหา ได้สารวจความต้องการด้านอาชีพของชมุ ชนตาบลบุญทันเรยี บร้อยแลว้ จึงไดด้ าเนินงานตามโครงการขึ้น วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ 1.เพ่ือใหป้ ระชาชนมีความรูแ้ ละทักษะในการประกอบอาชพี สามารถสร้างรายไดท้ ม่ี ั่นคง ม่งั คง่ั 2.เพื่อใช้ในการตดั สนิ ใจประกอบอาชีพใหส้ อดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพของตนเอง ชุมชน สงั คม และสิง่ แวดล้อม อย่างมีคุณธรรมจริยธรรม 3.เพ่อื ใหป้ ระชาชนมีโครงการประกอบอาชีพเพอ่ื ใช้เปน็ แนวทางในการพัฒนาอาชีพของตนเอง ขอบเขตของโครงการ 1. ด้านเนื้อหา โครงการนมี้ ุ่งใหผ้ ู้เรยี นกลุ่มเปา้ หมายทเ่ี ขา้ รบั การอบรมสามารถนา ความรู้ ทกั ษะ และประสบการณก์ ารเรยี นรู้ตา่ งๆ ไปใช้ในการประกอบอาชีพทเ่ี ป็นการเขา้ สอู่ าชพี สรา้ งงาน สร้าง รายได้ หรือพัฒนาอาชีพ หรอื ตอ่ ยอดอาชีพเดมิ หน้า | 1
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน รูปแบบกล่มุ สนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ชั่วโมง 2. ดา้ นระยะเวลา ระยะเวลาในการดาเนนิ งาน วันท่ี 13 ธันวาคม 2564 ถึง 13 ธนั วาคม 2564 ณ ศาลาประชาคมบา้ นบุญทัน หม่ทู ี่ 1 ตาบลบุญทัน อาเภอสวุ รรณคหู า จงั หวดั หนองบวั ลาภู 3. ด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชาชนตาบลบุญทนั จานวน 10 คน และครู กศน.ตาบลบญุ ทนั จานวน 2 คน ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รบั - ประชาชนตาบลบุญทนั กลมุ่ เป้าหมายมอี าชีพใหม่มีการพัฒนาต่อยอดอาชีพเดมิ เพ่มิ ทกั ษะการเป็น ผู้ประกอบการ มีรายได้ มงี านทา มคี วามมน่ั คง ยง่ั ยืน - เพื่อใหผ้ ูเ้ ข้ารบั การอบรมสามารถนาความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ไปใช้ในการ ประกอบอาชีพทเี่ ปน็ การเขา้ สู่อาชีพ สรา้ งงาน สร้างรายได้ หรือพฒั นาอาชีพ หรือต่อยอดอาชีพเดมิ ตวั ชว้ี ัด ตวั ชี้วัดผลผลิต ร้อยละ 80 ของประชาชน ตาบลบญุ ทนั ทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการมอี าชีพ มงี านทา มีรายได้ทีม่ นั่ คงย่งิ ขึน้ ตัวช้วี ดั ผลลพั ธ์ ประชาชนตาบลบุญทัน ทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการมีความรู้ ทักษะ และประสบการณก์ ารเรียนร้ตู ่างๆ ไปใชใ้ นการ ประกอบอาชีพทีเ่ ป็นการเขา้ สอู่ าชพี สร้างงาน สรา้ งรายได้ หรือพฒั นาอาชีพ หรอื ต่อยอดอาชีพเดิม หนา้ | 2
สรุปผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชน รปู แบบกล่มุ สนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ชั่วโมง บทที่ 2 เอกสารทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ความหมายและความสาคญั ของการพฒั นาอาชพี โดยทัว่ ไป อาชพี (Career) หมายถึง สิง่ ที่บคุ ลากรทาเพ่อื การดารงชวี ิต โดยใชค้ วามรู้ ทักษะ และ ความสามารถของตนท่ไี ดร้ ับจากการศึกษาและฝกึ อบรม เช่น อาชีพแพทย์ พยาบาล นักวทิ ยาศาสตร์ ชา่ ง ไฟฟา้ ช่างไม้ เปน็ ต้น แตใ่ นทีน่ จ้ี ะใหค้ วามหมายของคาวา่ อาชีพ คือ “ลาดบั ของตาแหนง่ ซงึ่ บคุ คลดารงอยู่ ภายในชว่ งชวี ติ ของเขา” (De Cenzo & Robbins, 1994) ดงั นัน้ บุคลากรทุกคนท่ีทางานโดยไดร้ บั หรอื ไม่ได้รับ คา่ ตอบแทน จะถอื วา่ เปน็ บคุ คลทม่ี ีอาชีพทั้งส้นิ การพฒั นาอาชีพ (Career development) จึงหมายถงึ กระบวนการซึง่ องค์การจดั ขน้ึ เพื่อชว่ ยเหลือ บุคลากรในการจดั การกับอาชพี ของตนเอง (De Cenzo & Robbins, 1994) ซึ่งอาจจะไดแ้ ก่การประเมนิ ศักยภาพของบคุ คล กาหนดเสน้ ทางอาชีพทีเ่ หมาะสม วางแผน และฝึกอบรม เพื่อส่งเสรมิ ใหบ้ คุ ลากรมกี ร พฒั นาและความก้าวหนา้ ในงาน ประโยชนข์ องการพัฒนาอาชพี การพัฒนาอาชพี ของบุคลากร มคี วามสาคญั และกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ กอ่ งค์การหลายประการ ดังตอ่ ไปนีค้ อื - ชว่ ยรบั ประกนั วา่ บคุ ลากรทมี่ คี วามสามารถจะอยกู่ บั องค์การตอ่ ไป บคุ ลากรท่มี คี วามสามารถ และประสบการณ์ ยอ่ มเป็นที่ตอ้ งการขององคก์ ารทกุ แหง่ และบุคคลเหล่าน้สี ามารถที่จะหางานใหมไ่ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และงา่ ยดาย หากพวกเขารู้สึกวา่ องคก์ ารไมไ่ ดใ้ หค้ วามสาคญั แก่พวกเขา และไม่ไดร้ ับนโยบายหรอื มาตรการใด ๆ ที่จะสง่ เสริมความก้าวหน้าในอาชีพแก่พวกเขาแล้ว โอกาสท่ีพวกเขาจะลาออกจากงานก็มสี งู ยิง่ ข้นึ ดังน้นั โครงการดา้ นการพัฒนาอาชพี จะเป็นสิ่งเหน่ียวรัง้ มใิ หบ้ คุ ลากรท่ีมคี วามสามารถเหลา่ นี้ออกจาก องคก์ ารไป - ช่วยใหอ้ งคก์ ารสามารถดึงบคุ ลากรทม่ี ีความสามารถสงู เขา้ มาทางานไดม้ ากขนึ้ บคุ คลทม่ี ี ความสามารถสงู มกั จะพจิ ารณาเลอื กทางานกับองคก์ าร ซึง่ ใหค้ วามสาคัญต่ออนาคตและความก้าวหน้าของ บุคลากร ดงั นั้น หากองค์การใดท่มี ีโครงการดา้ นการพัฒนาอาชพี กย็ ่อมจะมคี วามได้เปรียบในการดึงดดู บุคลากร เหล่านนั้ ให้เขา้ มาทางานกับตนเอ - ชว่ ยสรา้ งภาพลกั ษณ์ทด่ี ใี หก้ บั องคก์ าร องค์การท่ใี ห้ความสาคัญและความสนใจแก่อนาคตและ ความกา้ วหน้าของบคุ ลากร ยอ่ มจะทาใหท้ ั้งบุคลากรภายในองค์การและบุคลากรภายนอกองค์การนน้ั ดว้ ย ความรู้สกึ ทดี่ ี ซง่ึ จะชว่ ยส่งเสรมิ ภาพลกั ษณแ์ ละชื่อเสยี งให้องค์การเปน็ อย่างดี - ช่วยใหบ้ ุคลากรมีการพฒั นาตนเองและลดความลา้ สมยั การทางานในตาแหนง่ หน่งึ ๆ อัน อาจจะทาให้บุคลากรลา้ หลงั ต่อความเปลย่ี นแปลงตา่ ง ๆ ดงั นน้ั การพัฒนาอาชพี จะชว่ ยให้บุคลากรมีการพัฒนา ตนเองอยตู่ ลอดเวลา ทั้งน้ีเพราะบุคลากรเหลา่ น้ันจาเป็นต้องเพม่ิ พูนความรูแ้ ละความสามารถต่าง ๆทจี่ าเปน็ กอ่ นที่จะสามารถก้าวข้ึนสตู่ าแหน่งอนื่ ๆ หนา้ | 3
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน รูปแบบกลุม่ สนใจ วชิ าการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ชั่วโมง ความหมายและความสาคญั ของอาชพี อาชีพ หมายถงึ การทางานซ่ึงมีผลตอบแทนออกมาในรปู ของรายไดเ้ พ่อื บุคคลนาไปดารงชีพทง้ั ของตนและครอบครัว งา นน้ั ต้องเป็นงานที่สจุ ริต กอ่ ใหเ้ กิดประโยชนแ์ ก่สงั คมโดยสว่ นรวม โดยไมท่ าให้ตนเอง และผอู้ ่นื เดอื ดร้อน ความสาคัญของการประกอบอาชพี 1. ทาให้มีรายได้ประจาเล้ียงตนเองและครอบครัวโดยซื้อหรือจดั หาสงิ่ จาเปน็ สาหรบั การดารงชีวติ 2.ทาให้มีโอกาสใช้ความร้คู วามสามารถทม่ี ีอยทู่ างานใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อสังคมและประเทศชาติ 3.ทาใหม้ ีโอกาสสรา้ งชอ่ื เสยี งใหแ้ ก่ตนเองและวงศ์ตระกลู เป็นที่ยอมรบั ของบคุ คลในสังคม 4.ทาให้มีหลักฐานมั่นคง เปน็ ที่เคารพนบั ถือของบคุ คลอื่นๆ 5.ทาให้ร้จู ักใช้เวลาว่าให้เปน็ ประโยชน์ จะได้ไมป่ ระพฤตติ นไรส้ าระ 6.ทาให้บุคคลเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง ทสี่ ามารถพ่งึ ตนเองได้ และยังทาประโยชน์แกส่ งั คมโดยสว่ นร่วมดว้ ย เร่อื ง ความสาคัญและความจาเปน็ ในการพฒั นาอาชพี ความสาคญั และความจาเป็นของการพฒั นาอาชพี วิเคราะหล์ ักษณะขอบข่ายการงานอาชีพ กระบวนการ ทางาน การบรหิ ารจัดการของอาชพี ตา่ ง ๆ ในชุมชน สงั คม ประเทศ และโลก เพื่อการพัฒนาอาชพี จากการงาน อาชพี ต่างๆ การพฒั นาอาชพี หมายถงึ การพัฒนาอาชีพที่ดาเนนิ อยู่ใหเ้ หมาะสมกบั ความตอ้ งการของตลาด การพัฒนาอาชีพที่ มีประสิทธิภาพจะต้องพฒั นาความรู้ ความสามารถในการวางแผนกาหนดยทุ ธศาสตรต์ ่างๆ ท้งั ดว้ ยตนเองและ กระบวนการกลุ่ม โดยเฉพาะผปู้ ระกอบอาชีพเดยี วกัน เพอื่ แลกเปลย่ี นเรยี นรซู้ งึ่ กนั และกนั แล้วนาไปตัดสินใจเพอ่ื นาไปสกู่ ารปฏบิ ัติ นอกจากนีค้ วรมกี ารบริหารจดั การแบบองคร์ วมบรู ณาการปจั จัยตา่ งๆ ใหเ้ ปน็ หนงึ่ เดยี ว สามารถ เกื้อหนุนซ่งึ กันและกนั ได้ เชน่ ทนุ ทางสงั คม ทรัพยากรตา่ งๆ ได้แก่ ความรู้ ความสามารถในกระบวนการผลิต และ กระบวนการการตลาด การพฒั นาอาชพี มคี วามสาคญั และจาเปน็ ดงั นี้ 1. ด้านเศรษฐกิจ จากการแขง่ ขนั ทางธรุ กิจทมี่ ีการแขง่ ขันทางการตลาดสงู จึงเกิดการรวมกลมุ่ การค้าตา่ งๆ เชน่ เขตการค้าเสรีอาเซยี น เขตเศรษฐกิจยุโรป ดงั น้นั การพฒั นาอาชพี จงึ จาเป็นต้องมีการพัฒนา สินค้าให้สามารถเขา้ สูต่ ลาดการแขง่ ขัน และเปน็ ที่ยอมรับของต่างประเทศ 2. ด้านสงั คม ประเทศที่มเี ศรษฐกจิ ดจี ะสง่ ผลใหส้ ภาพของสังคมดขี ึน้ เชน่ ปราศจากโจรผู้รา้ ย 3. ดา้ นการศึกษา ครอบครวั ทีม่ ีเศรษฐกจิ ดีจะสามารถสง่ บุตรหลานเข้ารบั การศกึ ษาได้ตามความ ตอ้ งการ และในอนาคตเยาวชนเหล่านก้ี จ็ ะเปน็ ประชากรทมี่ ีคุณภาพ มีความสามารถในการประกอบอาชพี สง่ ผล ตอ่ เศรษฐกจิ สงั คมให้มคี วามเจรญิ ก้าวหน้าตอ่ ไป ความสาคญั ในการพัฒนาอาชพี การพฒั นาอาชพี เป็นส่ิงทสี่ าคัญในวิถชี ีวิตและการดารงชพี ในปจั จบุ ันเพราะอาชีพเป็นการสร้างรายได้เพ่ือ เล้ยี งชพี ตนเองและครอบครัว อาชีพกอ่ ให้เกดิ ผลผลิตและการบริการ ซง่ึ สนองตอบต่อความตอ้ งการของผบู้ ริโภค หนา้ | 4
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน รูปแบบกลมุ่ สนใจ วชิ าการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ชว่ั โมง และทีส่ าคญั คอื การพฒั นาอาชพี มคี วามสาคัญต่อเศรษฐกจิ ของประเทศชาติ ความสาคัญจึงเป็นฟนั เฟืองในการ พัฒนาคณุ ภาพชีวิต เศรษฐกจิ ชมุ ชน ส่งผลถึงความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ อาชพี กบั การพฒั นาอาชพี เรอื่ งราวของอาชพี อาชีพกค็ ือการหาเล้ียงชวี ติ ให้มกี นิ มีอยู่ การเข้ารับศึกษาของทุกคน ๆ กเ็ พอ่ื นาไป ประกอบอาชพี แต่ในยุคปจั จบุ ันอาชพี มมี ากมาย และอาชพี ใหมก่ น็ า่ สนใจมากขึ้น ในการพัฒนาอาชพี ของแตล่ ะ อาชีพนน้ั มแี นวทางที่ตา่ งกนั ไปตามสายงาน แต่ทกุ อาชีพสามารถพัฒนาไดท้ ง้ั หมด นักเรียนนกั ศกึ ษาจบใหมๆ่ บาง คนอาจมีแนวคิดแปลกๆ ทไี่ มเ่ หมือนคนอืน่ เช่น อยากทาอาชีพอสิ ระ ซ่ึงคนปจั จบุ นั คดิ แบบนี้มากขึ้น เพราะเหตุ ทีว่ า่ อาชพี ในยคุ ปัจจุบนั ไมถ่ ูกตีกรอบแคบๆ อกี ต่อไป อาชีพนั้นไม่วา่ จะเป็นอาชพี อะไรกต็ าม ท้งั อาชีพทใี่ ชแ้ รงกาย อาชพี ทใ่ี ชแ้ รงสมอง สามารถพัฒนาได้ทงั้ นั้น ทศิ ทางการพฒั นาอาชพี 1. ตอ้ งรู้จกั อาชีพของตนเองใหด้ พี อ 2. รทู้ ิศทางของอาชีพของตน 3. รูโ้ ลกทีเ่ ปลย่ี นแปลงตลอดเวลา 4. วางแผนชีวิตและการทางาน 5. กาหนดนโยบายการพัฒนาอาชพี ของตนเอง (มวี ิสัยทัศน)์ 6. ตง้ั เป้าหมาย แบ่งระยะให้เห็นเป็นรูปธรรม 7. วางกลยุทธพฒั นาอาชพี 8. ลงมือปฏิบตั ิ 9. ประเมินผลให้เป็น 10. ปรับปรงุ 11. พัฒนา แนวทางการพัฒนาอาชีพทกี่ ลา่ วมาทีจ่ รงิ แลว้ กค็ ือหลักพ้นื ฐานทว่ั ไป ซ่ึงคนประกอบอาชีพนนั้ ๆ ควรรู้ เช่น อาชีพแม่บา้ น สามารถพฒั นาไดจ้ นถงึ ขั้นสงู และเปน็ อาชพี ที่ทรงคุณค่าได้ เรยี กว่า แมบ่ ้านมืออาชพี อาชีพแมบ่ า้ นสมยั กอ่ น คือ อาชีพคนรับใช้ แตใ่ นยคุ ปัจจุบนั อาชพี คนรบั ใช้หรือคนทาความ สะอาดภายในบา้ นไม่ใชอ่ าชพี ที่ต้อยตา่ อีกต่อไป เพราะปัจจบุ ันมีบริษัทเปดิ ใหบ้ รกิ ารสาหรับลูกคา้ ทต่ี ้องการ แม่บ้านแบบมืออาชีพไป ช่วยเหลือในการจดั การภายในบา้ นหรืออาคารตา่ ง ๆ ตลอดจนถึงโรงแรม ซึ่งการเพม่ิ มลู คา่ และคณุ ค่าคือการพฒั นาอาชีพของตนเอง การยกระดับแมบ่ ้านสู่การเปน็ แมบ่ ้านมอื อาชีพ อยา่ งเชน่ การจดั โตะ๊ การวางชอ้ น การวางผ้าสาหรับโต๊ะ รับประทานอาหาร มแี นวปฏิบัตทิ เ่ี ป็นแบบแผนสากล การมีความรู้ในด้านนีจ้ ึงมคี วามจาเป็น และในเรอื่ งอนื่ ๆ อีก อย่างเชน่ การปูผ้าปูเตยี งใหต้ ึงกม็ เี ทคนคิ การทาความสะอาดเครื่องใชต้ ่างๆ อยา่ งเช่น เสอื้ ผ้าไหม สทู หรือเสอื้ ผา้ ท่ีทาจากขนสตั ว์กม็ ีเทคนิคการดูแลพเิ ศษกวา่ ผ้าชนิดอน่ื ๆ น้คี ือแนวทางการพฒั นาอาชพี ใหเ้ ปน็ แบบมอื อาชีพ แม่บ้านมอื อาชพี สมัยนี้ต้องชานาญในเรื่องที่กล่าวมา และมูลคา่ ของคา่ จ้างจงึ สงู กวา่ แม่บ้านแบบธรรมดา เพราะมี หนา้ | 5
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน รปู แบบกล่มุ สนใจ วชิ าการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ชั่วโมง ความรู้ความชานาญพิเศษ คา่ แรงจึงสูงตามไปดว้ ย เหน็ ด้วยหรือไมว่ ่าอาชพี ทธี่ รรมดาแตไ่ มธ่ รรมดามลู ค่าก็เพ่ิมขนึ้ ได้ เขาเรียกวา่ การพัฒนาสายงานของตนเอง ฉะน้ันทุกสายอาชีพสามารถพฒั นาไดห้ มด มคี วามกา้ วหนา้ ไดท้ ุกหนทุกแห่ง อยา่ ได้น้อยใจว่า อาชีพของเราไม่มคี ่า ไมม่ ีราคา ถา้ เราใสค่ วามรู้ ใสค่ วามรักกบั งาน งานทีเ่ ราทาก็จะชว่ ยพัฒนาคณุ ภาพชีวิต และ เจรญิ กา้ วหนา้ ได้ตลอดอาชพี ทกุ อาชีพมหี นทางพัฒนาในแบบของตน ความจาเปน็ ในการพัฒนาอาชพี ความจาเปน็ ในการพฒั นาอาชีพในชุมชน สังคม ประเทศ และโลก ทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง วเิ คราะหค์ วาม เป็นไปได้ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ การลงทุน การตลาด กระบวนการผลิต การขนสง่ การบรรจหุ บี หอ่ การแปรรปู และ ผลกระทบตอ่ ชมุ ชน และสิ่งแวดลอ้ ม ความรู้ความสามารถของตนเองตอ่ สิง่ ทีต่ อ้ งการพัฒนา การลาดบั ความสาคญั ของการพฒั นาทีม่ คี วามเปน็ ไปได้ เพ่อื นาขอ้ มูลทีว่ ิเคราะหไ์ วน้ าไปปรกึ ษาผู้รู้ การตัดสนิ ใจเลอื กพัฒนาอาชพี ที่ เหมาะสมกบั ตนเอง โดยวเิ คราะห์ความพรอ้ มของตนเอง ความต้องการของตลาด เทคนคิ ความรู้ ทกั ษะในอาชพี และความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม ประโยชนใ์ นการพัฒนาอาชพี 1. มีการใชท้ นุ ทางสังคมอยา่ งคุม้ คา่ เนือ่ งจากสามารถใช้วัสดทุ ดแทน ใชว้ สั ดุทอ้ งถน่ิ ลดการขนส่ง และทนุ บางชนิดสามารถใชร้ ว่ มกันได้ เช่น เครื่องมือทางการเกษตรสามารถใชใ้ นกจิ กรรมการเกษตรด้วยกนั เปน็ ตน้ 2. มีการเพ่ิมผลผลติ เน่ืองจากมกี ารพฒั นาสินค้าทต่ี รงความต้องการของลูกค้าทาให้ยอด จาหนา่ ยมากข้นึ 3. มีการขยายตลาด สามารถขยายเครอื ข่ายด้านการตลาดให้กว้างข้ึน โดยผผู้ ลติ จะต้องมีการ ประชาสัมพันธอ์ ย่างต่อเนอื่ ง 4. พฒั นารูปแบบผลิตภัณฑ์เพ่ือบรรจหุ บี ห่อ ตอ้ งพฒั นารปู แบบอยตู่ ลอดเวลาทาใหส้ นิ คา้ มกี าร พฒั นารูปแบบผลติ ภณั ฑห์ รือบรรจภุ ัณฑอ์ ยเู่ สมอ 5. เกิดเศรษฐกจิ ชุมชน จากการท่มี ีการพฒั นาผลิตภัณฑส์ นิ คา้ ทั้งดา้ นคณุ ภาพและปรมิ าณทาให้ ตลาดกวา้ งขวางขนึ้ เศรษฐกิจชุมชนเจรญิ เติบโต 6. ชุมชนเขม้ แข็ง เมื่อชมุ ชนมเี ศรษฐกิจดีขนึ้ ส่งผลต่อการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตดขี ้ึน ครอบครวั อบอุ่น ลกู หลานไดเ้ รยี นหนงั สอื ปราศจากโจรผูร้ า้ ยและยาเสพตดิ 7. มีอาชพี มน่ั คง เนอื่ งจากผปู้ ระกอบอาชพี มีการพัฒนาอาชพี อยูต่ ลอดเวลาในดา้ นการใช้ทุน พัฒนารปู แบบ จดั หาตลาดใหก้ วา้ งขวาง ทาให้มอี าชีพมัน่ คง ประเภทของภมู ิปัญญา 1. ภูมปิ ัญญาพน้ื บา้ น เป็นองค์ความรู้ ความสามารถและประสบการณท์ ่ีสัง่ สมและสบื ทอดกันมา เป็น ความสามารถและศักยภาพในเชิงการแกป้ ญั หา การปรับตวั เรยี นรู้และสบื ทอดไปส่คู นร่นุ ต่อไปเพ่ือการ ดารงอยูข่ องเผ่าพันธ์ุ จึงเปน็ มรดกทางวฒั นธรรมชาติ ของเผ่าพนั ธหุ์ รือเป็นวถิ ชี ีวติ ของชาวบา้ น หน้า | 6
สรุปผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน รปู แบบกลมุ่ สนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมนุ ไพร จานวน 6 ช่ัวโมง 2. ภมู ิปญั ญาชาวบา้ น เป็นวิธกี ารปฏบิ ัตขิ องชาวบ้าน ซง่ึ ได้มาจากประสบการณ์ แนวทางแก้ปญั หาแต่ละ เร่ืองแต่ละประสบการณ์ แต่ละสภาพแวดล้อมซึ่งจะมีเงื่อนไขปัจจัยเฉพาะแตกตา่ งกันไปนามาใชแ้ ก้ไขปัญหาโดย อาศัยศักยภาพทม่ี อี ย่โู ดยชาวบา้ นคดิ เองเป็นความรู้ที่สร้างสรรคแ์ ละมีส่วนเสรมิ สร้างการผลติ หรือเป็นความร้ขู อง ชาวบา้ นทีผ่ ่านการปฏิบัตมิ าแล้วอยา่ งโชกโชน เปน็ ส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรม เปน็ ความรู้ทีป่ ฏบิ ัติได้มพี ลัง และสาคัญย่งิ ชว่ ยใหช้ าวบา้ นมีชวี ิตรอดสร้างสรรคก์ ารผลติ และชว่ ยในด้านการทางาน เป็นโครงสรา้ งความรู้ทมี ี หลักการ มเี หตุ มีผลในตัวเอง 3. ภูมิปํญญาท้องถิน่ เปน็ ความรทู้ ่เี กิดจากประสบการณ์ในชวี ติ ของคน ผ่านกระบวนการศกึ ษาสงั เกตคดิ ว่าวิเคราะห์จนเกิดปัญญาและตกผลึกเปน็ องค์ความรทู้ ป่ี ระกอบกันขนึ้ มาจากความรู้เฉพาะหลายๆเร่ืองจดว่าเปน็ พน้ื ฐานขององค์ความร้สู มยั ใหมท่ ่จี ะช่วยในการเรยี นรู้ การแก้ปัญหาจดั การและการปรบั ตวั ในการดาเนินชีวิตของ เรา ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นเป็นความรูท้ ม่ี ีอยู่ทัว่ ไปในสังคมชุมชนและในตัวผู้รู้เองจึงควรมีการสืบคน้ รวบรวม ศึกษา ถ่ายทอดพฒั นาและนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ งกวา้ งขวาง 4.ภูมิปัญญาไทย หมายถึง องคค์ วามร้คู วามสามารถ ทกั ษะของคนไทยทเี่ กดิ จากการสง่ เสริมประสบการณ์ทผ่ี า่ นกระบวนการ การเลอื กสรร เรียนรู้ปรุงแต่ง และถา่ ยทอดสบื ต่อกนั มา เพ่ือใชแ้ กไ้ ขปญั หาและพัฒนาวิถีชวี ิตของคนไทยใหส้ มดลุ กับสภาพแวดลอ้ มและ เหมาะสมกับยคุ สมยั ลักษณะของภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ ลกั ษณะสาคัญของภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ พอสรุปได้ดงั นี้ 1.เปน็ เรื่องราวของการใช้ความรู้ ทักษะ ความเช่ือและพฤติกรรม 2. แสดงถึงความสมั พนั ธร์ ะหว่าง คนกบั คน คนกับธรรมชาติ คนกบั ส่ิงเหนือธรรมชาติ 3. เป็นองค์รวมหรือกิจกรรมทกุ อยา่ งใรวถิ ีชวี ติ 4. เป็นเรือ่ งของการแกไ้ ขปญั หา การจดั การ การปรบั ตัว การเรียนรเู้ พื่อความอยรู่ อดของบคุ คลชุมชนและ สังคม 5.เป็นแกนหลักหรอื กระบวนทศั น์ในการมองชวี ติ เป็นพื้นความรูใ้ นเรอื่ งตา่ งๆ หนา้ | 7
สรุปผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชว่ั โมง การจัดทาโครงงานอาชีพ บทนา โครงงานอาชีพ เป็นการจดั การเรียนรู้งานอาชีพทใ่ี หผ้ เู้ รียนไดล้ งมอื ปฏิบตั ิจริงอยา่ งครบวงจร ต้งั แต่ การวเิ คราะห์ การวางแผน การปฏิบตั งิ าน การจดั การกบั ผลผลิต การจาหนา่ ย การบริการ รวมท้งั รายไดจ้ ากการ จาหนา่ ยผลผลิตหรือบริการ โดยเน้นการผลติ การบริการ การบริหารจดั การ การตลาด และการใชเ้ ทคโนโลยใี น การปฏิบตั ิงาน ลกั ษณะของงานอาชพี ตามโครงงานทีป่ ฏิบตั ิตอ้ งเป็นงานอาชีพสุจริตที่มอี ยูใ่ นท้องถ่ิน หรืองาน อาชพี ทีเ่ ป็นความตอ้ งการของผเู้ รียน เป็นงานอาชีพที่มลี กั ษณะเป็นงานผลติ และหรืองานบริการ การปฏบิ ตั งิ าน อาชีพ ผเู้ รียน ตอ้ งเป็นผูป้ ฏิบตั ิเองทง้ั หมด ต้งั เร่ิมตน้ จนสิ้นสุดการปฏบิ ตั งิ าน โดยมคี รู อาจารย์ทาหนา้ ท่เี ป็นที่ ปรึกษาและการปฏิบตั ิโครงงานอาชีพให้ปฏบิ ตั ิรวมกนั เป็นกลุม่ 3 - 5 คน โดยใช้ บา้ น สถานประกอบการ สถานประกอบอาชพี รวมทง้ั สถานศึกษา เป็นสถานทปี่ ฏบิ ตั ิงานและในการจดั ทาโครงงานอาชีพของผูเ้ รียน ควรมผี ทู้ รงคณุ วฒุ ิหรือผปู้ ระสบความสาเร็จในสาขาอาชีพที่มีอยใู่ นท้องถ่นิ รว่ มวางแผนและใหค้ าปรึกษาใน การปฏบิ ตั ิงานอาชพี ของผเู้ รียนดว้ ย ความเป็ นมา ในการสอนโครงการหรือโครงงานในสถานศึกษา นักการศึกษาปฐมวยั สว่ นมากกลา่ วถงึ การใช้ โครงการกบั เด็กบางคนแนะนาวา่ การสอนแบบโครงการเป็นวธิ ีการหน่ึงในหลายวธิ ีท่ีสามารถสง่ เสริมใหเ้ ด็ก รูจ้ กั ตดั สินใจ เห็นผลการกระทาที่ชดั เจนเป็นรูปธรรม และเดก็ จะมปี ระสบการณ์จากการปฏิสัมพนั ธ์กบั บุคคล วตั ถุส่ิงของและสิ่งแวดลอ้ มการสอนแบบโครงการมมี านานแลว้ มใิ ชเ่ป็นเรื่องใหมใ่ นการศกึ ษา แต ่ กลบั มาไดร้ บั ความสนใจอยา่ งมากในประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศ ท้งั น้ีเนื่องมาจากผลการวจิ ยั ท่ี ทาใหเ้ ขา้ ใจยงิ่ ข้นึ วา่ เด็กเรียนรู้อยา่ งไร และความจาเป็นที่จะตอ้ งพฒั นาทกั ษะการคิดแกป้ ัญหาของเดก็ เพ่อื ให้ ทนั กบั ความเปลยี่ นแปลงท่ีทา้ ทายของสังคม เทคโนโลยี โครงการ หมายถงึ การวางแผนดาเนินงานหรือกจิ กรรมลว่ งหน้า โดยมกี ารกาหนดวตั ถุประสงค์ ขน้ั ตอนการดาเนินงานอยา่ งชดั เจน กาหนดการใชท้ รพั ยากรอยา่ งคมุ้ คา่ เพอื่ นาไปสูเ่ ป้าหมายท่ตี อ้ งการ อาชีพ หมายถงึ งานที่ทาเป็นประจา เพ่ือให้มรี ายไดใ้ นการเล้ยี งชีพ แบง่ เป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก ่ 1. อาชีพอสิ ระ หมายถึง อาชีพทผี่ ปู้ ระกอบอาชีพเป็นเจา้ ของกจิ การ มกี ารวางแผน มกี ารจดั การ และ ดาเนินการดว้ ยตนเอง แบง่ เป็น 2 ลกั ษณะของการประกอบอาชีพ คอื อาชพี ผผู้ ลติ เป็นอาชีพท่ผี ดู้ าเนิน กจิ การ/ผูป้ ระกอบอาชีพ ผลติ ชน้ิ งานเพ่อื จาหนา่ ย หน้า | 8
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลมุ่ สนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ช่วั โมง อาชพี บริการ เป็นอาชพี ทีผ่ ดู้ าเนินการอานวยความ สะดวก หรือให้บริการแกผ่ บู้ ริโภค เชน่ ชา่ งตดั ผม ชา่ งซอ่ มวทิ ยโุ ทรทศั น์ บริกร ฯลฯ 2. อาชพี รับจา้ ง หมายถึง อาชพี ทีผ่ ปู้ ระกอบอาชีพ ไมไ่ ดเ้ ป็นเจา้ ของกจิ การ แตท่ างานภายใตร้ ะบบ หรือ ขอ้ กาหนดของหนว่ ยงาน หรือนายจา้ งท่ตี นสังกดั หลักการประกอบอาชพี อสิ ระ 1. เป็นการจดั การศึกษาเพอื่ ชีวติ ชมุ ชน และสังคม 2. สง่ เสริมการพ่งึ ตนเอง และความมอี สิ ระแกต่ นเอง 3. สง่ เสริมให้มคี วามสามารถในการจัดการ การนาความรู้ และประสบการณม์ าประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวติ ประจาวนั 4. สง่ เสริมให้มกี ารเรียนรูจ้ ากสภาพปัญหา สิ่งแวดลอ้ ม และการปฏบิ ตั จิ ริง 5. สง่ เสริมให้มกี ารตดั สินใจในการเลือกอาชพี ทสี่ อดคลอ้ งความสภาพทอ้ งถ่นิ ความสนใจ ความถนัด และความสามารถของตนเอง การสง่ เสริมให้นักเรียนไดส้ มั ผสั กบอาชีพด้วยการทาโครงงานอาชพี จะพฒั นา นกั เรียนให้เจริญเตบิ โต เป็นพลเมอื งดี มคี ณุ ภาพ สามารถปรบั ตวั ให้ดารงชีวติ อยูอ่ ยา่ งมีความสุข ในภาวะที่ สงั คมและเศรษฐกจิ ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปอยา่ งรวดเร็ว ประโยชน์ต่อนักเรยี น 1. ไดป้ ระสบการณก์ ารทางาน 2. รูจ้ กั การทางานเป็นกลมุ่ 3. มองเห็นชอ่ งทางประกอบอาชพี 4. ไดน้ าความรู้ทไ่ี ดร้ ับมาใชใ้ นการประกอบอาชีพ 5. มกี ารวางแผนและปฏิบตั ิงานอยา่ งเป็นระบบ 6. ไดเ้ รียนรู้คณุ ธรรม จริยธรรมจากการปฏบิ ตั ิจริง 7. ไดร้ บั การพฒั นาใหเ้ กดิ กระบวนการคิดเป็น ทาเป็น แกป้ ัญหาเป็น หน้า | 9
สรุปผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน รูปแบบกลมุ่ สนใจ วิชาการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ชวั่ โมง โครงงานอาชีพ จะสง่ เสริมใหน้ กั เรียนดาเนินการ นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ จะประกอบอาชพี หลากหลาย ตา่ งกนั ตามความถนดั และความสนใจ นักเรียนจะไดร้ บั ผลการเรียนเหมอื นรายวชิ า อ่นื ๆ และใน 1 รายวชิ า จะ มอี าจารย์ที่ปรึกษาหลายคน ตามกลมุ่ อาชพี ทีน่ กั เรียนสนใจปฏิบตั ิ สาหรบั เร่ือง ท่คี วรจะให้นกั เรียนไดเ้ รียนรู้ เชน่ 1. อาชพี ตา่ ง ๆ ที่มใี นปัจจุบนั 2. คณุ ธรรม จริยธรรมของผปู้ ระกอบอาชพี 3. การเลือกอาชีพทสี่ อดคลอ้ งกบความตอ้ งการของผูบ้ ริโภค และความถนัดของตนเอง 4. กระบวนการดาเนินงานของอาชพี ท่สี นใจเลือก 5. การจดั การกจิ การธุรกจิ อาชพี ใหป้ ระสบความสาเร็จ 6. การทางานกลมุ่ / การทางานรว่ มกนั / การบริหารบุคคล 7. เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพของการประกอบอาชพี 8. การจดั การผลผลิต 9. เทคนิคการส่ือสาร (พดู ฯลฯ) กบั ผบู้ ริโภค (ลกู คา้ ) 10. การคิดตน้ ทุน การกาหนดราคาจาหนา่ ย / คา่ บริการ 11. ระบบบญั ชีอยา่ งงา่ ยสาหรับกจิ การขนาดเล็ก 12. เทคนิคการโฆษณา ประชาสมั พนั ธ์อาชีพของตนสูผ่ บู้ ริโภค 13. การนาผลผลิตสูผ่ บู้ ริโภค และการบริการหลงั ขาย หนา้ | 10
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชน รปู แบบกลมุ่ สนใจ วชิ าการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ชว่ั โมง ความสาคญั ของโครงงานอาชีพ โครงงานมวี ตั ถุประสงค์หลากหลายประการ เชน่ ตอ้ งการให้นักเรียนมคี วามรูพ้ ้นื ฐานที่จาเป็นเกยี่ วกบั ความเป็นอยใู่ นชวี ติ ประจาวนั สามารถปฏบิ ตั ิงานไดถ้ ูกตอ้ งตามกระบวนการ ประหยดั ปลอดภยั และได้ ประโยชน์ โดยรูจ้ กั วเิ คราะห์และวางแผนการทางาน สามารถปรับปรุงและพฒั นางานมวี ิสนั ทศั น์ทีก่ วา้ งไกล รัก การทางาน ซ่งึ เป็นรากฐานของการดารงชีพ สามารถพ่ึงพาตนเองไดร้ วมท้งั มคี ณุ ธรรมในการทางาน สามารถ ทางานรว่ มกบั ผูอ้ ่นื ได้ เป็นตน้ นักเรียนจะตอ้ งศึกษาและฝึกปฏบิ ตั ิจริงเพมิ่ เติม โดยอาศยั ความรู้พ้ืนฐานจาก รายวชิ าอื่น ๆ ในหมวดวชิ าการงานและอาชีพ นกั เรียนมสี ิทธิเสรีภาพอยา่ งเตม็ ทใ่ี นการตดั สินใจเลือกอยา่ งฉลาด ท่จี ะดาเนินงานตามความถนัดและความสนใจของตน ในสว่ นที่เกย่ี วกบั โรงเรียนและครูอาจารย์น้นั จะได้ ประโยชน์อยา่ งยิง่ จากการเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนได้ฝึกปฏิบตั ิจริงตามจดุ หมายของหลกั สูตรและการจดั กิจกรรม การเรียนการสอน ทง้ั ในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ซ่งึ จะกอ่ ใหเ้ กดิ การประสานสมั พนั ธ์อยา่ งแนน่ เหนียว ระหวา่ งนกั เรียนและครูอาจารย์ประจาวชิ าตา่ ง ๆ รวมทง้ั การใชเ้ ครื่องมอื และวสั ดุอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ให้เป็น ประโยชน์อยา่ งคมุ้ คา่ นอกจากน้ีในส่ิงทเี่ กย่ี วกบั ทอ้ งถน่ิ และชมุ ชนยอ่ มจะได้ประโยชน์อยา่ งมากมาย ในแงข่ อง การให้นักเรียนไดม้ โี อกาสรว่ มพฒั นาอาชีพตา่ ง ๆ ในทอ้ งถน่ิ ซ่งึ เป็นผลพลอยไดท้ ่ีตามมาก็คือ ทาใหน้ ักเรียนเกดิ ความรักความภาคภูมใิ จในท้องถ่นิ ของตนเองดว้ ย ในสว่ นของการจดั การเรียนการสอนและการจดั กจิ กรรมตามหลกั สูตรข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2544 ดงั น้ี คือ 1. ดา้ นผเู้ รียน กอ่ ใหเ้ กดิ คณุ คา่ ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก ่ชว่ ยสรา้ งความหวงั ใหมใ่ นการริเร่ิมงาน สรา้ งเสริม ประสบการณ์จากการปฏิบตั จิ ริง ไดม้ โี อกาสทดสอบความถนัดของตนเอง กอ่ ใหเ้ กดิ ความรกั ความเขา้ ใจและ ความสัมพนั ธ์อนั ดีภายในกลุม่ พร้อมทง้ั เกดิ ความรูท้ างวชิ าการที่กวา้ งขวางข้ึนและเกิดความภาคภูมใิ จในความ สาเร็จของงาน 2. ดา้ นสถาบนั และครูอาจารยท์ ่ีปรึกษากลุม่ กอ่ ใหเ้ กดิ คณุ คา่ ทางการประสานงาน โดยเกดิ ความเขา้ ใจ ที่ตรงกนั วา่ การเรียนการสอนในปัจจุบนั ข้ึนอยกู่ บั การ ปฏิบตั ิจริงในโครงงานของผเู้ รียนมากกวา่ ที่จะเรียนอยูใ่ น ห้องเรียนเทา่ น้ัน 3. ดา้ นชมุ ชน / ทอ้ งถน่ิ กอ่ ให้เกดิ คณุ คา่ ทางการเผยแพรแ่ ละประชาสัมพนั ธ์ชมุ ชน อกี ทง้ั ชมุ ชนไดม้ ี สว่ นรว่ มในการขยายผลทางความรูค้ วามสามารถทมี่ ีอยู่ ใหแ้ กผ่ เู้ รียนรุน่ ตอ่ ไป โดยสรา้ งนิสัยรักการทางานเกดิ งานอาชีพท่ีหลากหลายและมกี ารพฒั นาอาชพี ในชมุ ชนดว้ ย หนา้ | 11
สรุปผลโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รปู แบบกลุ่มสนใจ วิชาการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ช่ัวโมง หลักการสาคญั ของการเขยี นโครงงานอาชีพ การปฏบิ ตั ิงานตามโครงงานอาชพี ของนกั เรียน เพือ่ ให้บรรลุตามจุดหมายของหลกั สูตร และจุดมงุ่ หมาย การจดั ทาโครงงาน จงึ ไดก้ าหนดหลกั การที่สาคญั เกยี่ วกบั โครงงาน ไวด้ งั น้ี 1. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ มสี ิทธิและเสรีภาพในการตัดสินใจเลือกทาโครงงานอาชพี ใด กไ็ ด้ จานวน 1 โครงงาน หรือมากกวา่ กไ็ ด้ ตามความถนัด ความสนใจ และความพรอ้ มของนกั เรียนในกรณีท่ี โครงงานมปี ริมาณงานมากกส็ ามารถเลือกไดโ้ ดย ตดั แบง่ ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิงานออกเป็น 2 สว่ นให้ ปฏิบตั ิ 2 ภาคเรียน หรือจะเลอื กโครงงานอาชีพใหม ่ โดยไมซ่ ้ากนั ในแตล่ ะภาคเรียนตลอดปี การศึกษากไ็ ด้ 2. นักเรียนในห้องเรียนเดยี วกนั ควรเลือกโครงงานอาชพี แตกตา่ งกนั ไดต้ ามความถนัด ความพรอ้ มและ ความสนใจ ตลอดจนคานึงถึงตามความจาเป็นในการใชป้ ระโยชน์ชน้ิ งานหรือรายไดจ้ ากการ ปฏิบตั ิงาน 3. ใหค้ านึงถึงทรัพยากรในทอ้ งถ่ิน ทง้ั ทรพั ยากรที่ใชเ้ ป็นวตั ถุดบิ ในการผลิตช้นิ งานและทรัพยากรบุคคล ในทอ้ งถน่ิ ตลอดจนภมู ปิ ัญญาชาวบา้ นเพอ่ื การอนุรกั ษ์และพฒั นาเทคโนโลยใี นทอ้ งถิ่น 4. นกั เรียนสามารถนาทกั ษะการทางานพนื้ ฐานหลายประเภทรวมไวใ้ นโครงงานเดยี วได้ เชน่ โครงงาน ปลูกกระเจ๊ียบ ใชท้ กั ษะการทางานดา้ นเกษตรและคหกรรมเกย่ี วกบั คณุ คา่ ทางโภชนาการมาผสมผสานกนั ได้ 5. ในแตล่ ะโครงงานอาจกาหนดคาบเวลาแตกตา่ งกนั ไดต้ ามความยากงา่ ยของลกั ษณะงาน 6. ครูอาจารย์ผสู้ อนหรือที่ปรึกษา อาจจดั ใหม้ สี ่ือการสอนในลกั ษณะใบงานหรือใบความรู้หรือข้อมลู ทางวชิ าการ เพอ่ื ชว่ ยให้นกั เรียนสามารถปฏบิ ตั ิงานไดด้ ว้ ยตนเองกไ็ ด้ 7. ในการประเมนิ โครงงาน ใหค้ รูอาจารยผ์ สู้ อนหรือที่ปรึกษาเป็นผู้ประเมนิ โดยคานึงถงึ ความรู้ ความ เขา้ ใจ กระบวนการทางาน เจตคติในการปฏบิ ตั ิงาน และการนาชิน้ งานไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั และ ตอ้ งประเมนิ ผลการเรียนเป็น รายภาคเรียน สาหรบั ผเู้ รียนทีเ่ ลือกหลายโครงงานใน ๑ ภาคเรียน ให้ประเมนิ ผล โดยให้คะแนนแตล่ ะโครงงานกอ่ น แลว้ นามารวมกนั เพื่อตดั สินให้ระดับคะแนนโดยคานึงถงึ คาบเวลาของแต่ ละโครงงาน โดยจดั สัดสว่ นน้าหนกั โครงงานตา่ งกนั ตามคาบเวลา หน้า | 12
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน รปู แบบกลุ่มสนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ชว่ั โมง องค์ประกอบของโครงงานอาชีพ ถา้ พิจารณาโครงสรา้ งของรา่ งกายมนุษย์ พบวา่ ประกอบดว้ ยสว่ นตา่ ง ๆ ที่สาคญั คือ ศรี ษะ ไหลล่ าตวั แขน ขา มอื และเทา้ นอกจากน้ีรา่ งกายของมนุษยย์ งั มอี วยั วะอื่น ๆ อีกมากมายท่ปี ระกอบกนั ทาใหเ้ ป็นรา่ งกาย ของมนุษย์สมบรู ณ์ เชน่ หู ตา ปาก นิ้วมอื อวยั วะสืบพนั ธ์ุ ฯลฯ ซ่ึงทาให้มนุษยส์ ามารถดารงชีวติ อยูไ่ ดใ้ นสงั คม โครงงานกม็ ลี กั ษณะเชน่ เดยี วกนั คอื หมายถึงระบบโครงสร้างและองค์ประกอบตา่ ง ๆ ท้งั หมดของกจิ การ หรือ ช้ินงานตา่ ง ๆ ทีเ่ ราจะตอ้ งดาเนินการ หรือผลิตใหส้ าเร็จลุลว่ งไปตามจดุ ประสงคท์ ่ีกาหนดไว้ องคป์ ระกอบที่ สาคญั ของโครงงาน มดี งั น้ี 1. เจา้ ของโครงงานหรือผจู้ ดั ทาโครงงาน อาจจะเป็นบคุ คลคนเดยี วหรือเป็นกลุม่ บคุ คลกไ็ ด้ สาหรบั การ ปฏบิ ตั งิ านตามโครงงานอาชพี ท่หี ลกั สูตรกาหนดใหน้ กั เรียนจะตอ้ ง ปฏิบตั งิ านรว่ มกนั กลุม่ ละ ๓-๕ คน 2. ความสาคญั ของโครงงาน หรือของงานน้ัน ๆ วา่ มเี หตุผลอะไร มคี วามจาเป็น มคี ณุ คา่ และประโยชน์ มากน้อยเพียง 3. จดุ ประสงค์ของโครงงาน ระบุวา่ มงุ่ ท่ีจะให้เกดิ ผลอะไร อยา่ งไร หรือแกใ่ คร ให้มปี ริมาณและ คณุ ภาพมากนอ้ ยเพยี งใด 4. เคร่ืองมอื วสั ดอุ ปุ กรณท์ ใี่ ช้ สถานทป่ี ฏบิ ตั ิงาน งบประมาณคา่ ใชจ้ า่ ยหรืองบลงทุนกาหนดวา่ มี อะไรบา้ ง มากนอ้ ยเพียงใด และจะจดั ซื้อหามาได้ อยา่ งไร 5. วธิ ีดาเนินการ ระบุวา่ มขี น้ั ตอนสาคญั ๆ ในเรื่องใดทจ่ี ะตอ้ งนามาพิจารณา และปฏิบตั ิตามระยะเวลาที่ กาหนดไว ้ 6. แผนปฏิบตั กิ าร ระบุกจิ กรรมตา่ ง ๆ ที่จะตอ้ งปฏิบตั ิโดยละเอียดตามลาดบั ตามระยะเวลาทีก่ าหนด ไว ้ 7. ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั ระบสุ ่ิงท่ีคาดหวงั วา่ จะเกดิ ข้นึ จากการดาเนินงานตามข้นั ตอนตา่ ง ๆ ทก่ี า หน 8. การตดิ ตามผลและประเมนิ ผล จะตอ้ งมวี ธิ ีการตรวจสอบเป็นระยะ ๆ กอ่ นปฏิบตั โิ ครงงาน ขณะ ปฏิบตั ิงานและเมอ่ื สิ้นสุดการปฏิบตั ิโครงงาน เพือ่ ประโยชน์ในการแกไ้ ขปรับปรุงและพฒั นางานตอ่ ไป หนา้ | 13
สรุปผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ชั่วโมง ประเภทของโครงงานอาชีพ โครงงาน แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก ่โครงงานตามสาระการเรียนรู้ และ โครงงานตามความสนใจ 1. โครงงานตามสาระการเรียนรู้ เป็นการใชบ้ รู ณาการรว่ มกบั การเรียนรู้ ทกั ษะ และเป็นพื้นฐานในการกาหนด โครงงาน การปฏิบตั ิ 2. โครงงานตามความสนใจ เป็นโครงงานทผ่ี เู้ รียนกาหนดขน้ั ตอน ความถนดั ความสนใจ ความตอ้ งการ โดยใชท้ กั ษะความรู้ จาก กลมุ่ สาระการเรียนรู้ตา่ ง ๆ มาบรู ณาการ เป็นโครงงาน โครงงานอาชีพ เป็นกจิ กรรมทางการศึกษา ท่ีนาเนื้อหาสาระทางวชิ าการ งานและอาชีพ รวมทง้ั วชิ าอื่น ๆ ท่ีเกยี่ วขอ้ ง ท้งั โดยตรงและโดยออ้ ม ทง้ั ทางดา้ นทฤษฎแี ละปฏบิ ตั มิ าจดั เป็นระบบ เพื่อให้ผเู้ รียนไดฝ้ ึก ปฏบิ ตั ิงานในลกั ษณะของโครงการ โครงงานแบง่ ออกเป็น 4 ประเภท คอื 1. โครงงานประเภททดลอง (Experimental Research Project) โครงงานประเภทน้ี เป็นโครงงานที่เกดิ ข้ึนจากการศึกษาหลกั การตา่ ง ๆ ทางวชิ าการแลว้ นามาทดลอง คน้ ควา้ เพ่ือยืนยนั ทฤษฎหี รือหลกั การหรือตอ้ งการทราบแนวทางเพ่มิ คณุ คา่ และการใชป้ ระโยชน์ให้มากยิ่งข้ึน เชน่ - การศกึ ษาสูตรอาหารเล้ยี งปลาน้าจืด - การทดลองปลูกพืชในน้ายาหรือการปลกู พชื โดยไมใ่ ชด้ ิน - การควบคมุ การเจริญเติบโตของไมป้ ระดบั ประเภทเถา - การใชฮ้ อร์โมนกบั กง่ิ มะลิ - การศึกษาขนมอบชนิดตา่ ง ๆ โครงงานประเภททดลอง (Experimental Research Project) เป็นโครงงานทต่ี อ้ งทาการทดลองเพ่อื ศึกษา ตวั แปรใดตวั แปรหน่ึง (เรียกวา่ “ตวั แปรตน้ ” ) วา่ จะมผี ลตอ่ ตวั แปรอีกตวั แปรหน่ึง (เรียกวา่ “ตวั แปร หนา้ | 14
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง ตาม” ) อยา่ งไร แตใ่ นความเป็นจริง จะมตี วั แปรหลาย ๆ ตวั ท่มี ผี ลตอ่ ตัวแปรท่ีศึกษา ในการทดลอง ผทู้ าการ ทดลองจะตอ้ งเลือกตวั แปรที่สาคญั ทส่ี ุดเพยี งตวั เดียวมาศึกษา ดงั น้นั จึงตอ้ งทาการควบคมุ ตวั แปรอน่ื ๆ เพ่ือ ไมใ่ หเ้ กดิ ผลแทรกซอ้ นตอ่ ตวั แปรตาม ป้องกนั ไมใ่ ห้ผลการศกึ ษามคี วามคลาดเคล่ือน ตวั แปรทีเ่ ราตอ้ งควบคมุ เรียกวา่ “ตวั แปรควบคมุ ” กลา่ วโดยสรุป โครงงานแบบทดลองจะตอ้ งมกี ารระบุตวั แปร 3 ประเภท ดงั น้ี ตวั แปรตน้ คือ สาเหตุหรือเหตขุ องการทดลอง ตวั แปรตาม คอื ผลทเ่ี กดิ ข้นึ หรือผลทเ่ี กดิ จากการเปล่ยี นแปลง ตวั แปรควบคมุ คอื ส่ิงทต่ี อ้ งควบคมุ ใหเ้ หมอื นๆกนั ตัวอย่าง ในความเป็นจริง (ตามธรรมชาติ) อธิบายการเจริญเติบโตของตน้ ไมว้ า่ “ตน้ ไมส้ ามารถเจริญเติบโตไดด้ ีน้ัน จะตอ้ งรดน้า พรวนดนิ ใสป่ ๋ ยุ และต้งั ไวใ้ นที่มแี สงแดด” สามารถระบตุ วั แปรตา่ ง ๆ ได้ ดงั น้ี ตวั แปรตาม คือ การเจริญเติบโตของตน้ ไม้ ตวั แปรตน้ คอื การรดน้า พรวนดิน แสงแดด คาอธิบาย การรดน้า พรวนดนิ และ แสงแดด สง่ ผลตอ่ การเจริญเติบโตของตน้ ไม้ การระบตุ วั แปรควบคมุ ถา้ เราตอ้ งการศกึ ษาวา่ ตวั แปรตน้ ตวั ใด ระหวา่ ง การรดน้า พรวนดนิ แสงแดด จะสง่ ผลตอ่ การ เจริญเติบโตของตน้ ไมม้ ากกวา่ กนั เรากต็ อ้ งทาการศึกษาทลี ะตวั แปรตน้ โดยทาการควบคมุ ตวั แปรตน้ อ่นื ๆ อกี 2 ตวั เชน่ เราตอ้ งการศกึ ษาเฉพาะตวั แปรการรดน้าวา่ จะมีผลตอ่ การเจริญเติบโตของตน้ ไมม้ ากนอ้ ย เพียงใด เรากต็ อ้ งออกแบบการทดลองโดยการควบคุมตวั แปรอีก 2 ตวั คือ พรวนดนิ และ แสงแดด โดยใหต้ น้ ไมท้ ีท่ าการทดลองทง้ั หมดไดร้ ับการพรวนดิน และ แสงแดด ในปริมาณที่ เทา่ กนั หรือถา้ ไมใ่ หก้ ไ็ มใ่ หเ้ หมอื น ๆ กนั การพรวนดิน และ แสงแดด เรียกวา่ ตวั แปรควบคุม หน้า | 15
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง ข้นั ตอนในการทาโครงงานทดลอง 1. กาหนดปัญหา 2. ต้งั จดุ ประสงค์ในการศกึ ษา 3. ตง้ั สมมตุ ิฐาน 4. ออกแบบการทดลอง 5. ดาเนินการทดลอง 6. เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 7. บนั ทึกผลการทดลอง 8. แปลผล 9. สรุปผลการทดลอง 2. โครงงานประเภทสารวจ โครงงานประเภทน้ี เป็นโครงงานการศึกษาสารวจข้อมลู สาหรบั ดาเนินงานพฒั นาปรบั ปรุงเพม่ิ เติม ผลงานและสง่ เสริมผลผลิตใหม้ คี ณุ ภาพดยี ่งิ ข้นึ ขอ้ มลู ดงั กลา่ ว อาจมผี จู้ ดั ทาข้นึ แตม่ กี ารแปรเปลีย่ นไป แลว้ ตอ้ งทาการสารวจจดั ทาข้ึนใหมใ่ ห้ทนั สมยั อยเู่สมอ เชน่ - การสารวจราคาผลผลิตเกษตรในทอ้ งถิน่ - การสารวจราคาสินคา้ อุปโภคบริโภคในทอ้ งถ่นิ - การสารวจแหลง่ วชิ าการและสถานประกอบการในทอ้ งถนิ่ - การสารวจงานบริการในทอ้ งถิ่น - การสารวจปริมาณการปลกู ขา้ วโพดในทอ้ งถิน่ - การสารวจปริมาณการเล้ยี งไกเ่น้ือในทอ้ งถน่ิ หนา้ | 16
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รปู แบบกล่มุ สนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ชวั่ โมง - การสารวจปริมาณการเล้ียงหา่ นในทอ้ งถนิ่ - การสารวจคลองแมร่ าพนั สุโขทยั 3. โครงงานประเภทส่ิงประดิษฐ์ โครงงานประเภทน้ีเป็นโครงงานสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม ่ ๆ ข้นึ มาหลงั จากทไ่ี ดศ้ ึกษาทางทฤษฎี หรือพบเห็นผลงานของผอู้ ่นื แลว้ เกดิ ความคิดสร้างสรรค์ท่ีจะพฒั นาตอ่ ไป จงึ ประดิษฐ์คิดคน้ ให้สามารถใช้ ประโยชน์ไดด้ ียิ่งข้ึน เชน่ การควบคมุ ระบบการให้น้าในแปลงเพาะชา - การประดิษฐ์หวั ฉีดพน่ น้าในแปลงปลูกผกั - การประดษิ ฐ์ของชารว่ ย - การประดษิ ฐ์เคร่ืองรับวทิ ยุ - การประดิษฐ์เครื่องเสีย - การออกแบบเส้ือผา้ ชาย หญงิ 4. โครงงานประเภทพฒั นาผลงาน โครงงานประเภทน้ีเป็นโครงงานท่ีเกดิ จากการศกึ ษาเน้ือหาทางวชิ าการ หรือหลกั ทฤษฎเี กย่ี วกบั วชิ าการงานและอาชพี หรือวชิ าสามญั ตา่ ง ๆ แลว้ นามาปรับปรุงและพฒั นาให้สอดคลอ้ งกบั แนวทางทฤษฎี ดงั กลา่ ว สง่ ผลใหม้ ผี ลงานเป็นรูปธรรมย่งิ ข้ึน ตวั อยา่ งเชน่ เมอ่ื นักเรียนไดศ้ ึกษาทางทฤษฎเี กี่ยวกบั พลังงานแสงอาทติ ย์ : โครงงานสรา้ งเครื่องอบกลว้ ยดว้ ยแสงแดด ตูอ้ บเน้ือสตั วต์ า่ ง ๆ เคร่ืองทาน้า รอ้ น ฯลฯ พชื สมุนไพร : โครงงานการใชย้ าปราบศตั รูพืชดว้ ยพชื สมนุ ไพร กาจดั เพล้ยี หนอนแมลงปีกแข็ง ฯลฯ การถนอมอาหาร : โครงงาน การแปรรูปผลผลติ การทาผกั กาดดองสามรส การทาไสก้ รอก การดอง พชื ผกั ผลไมต้ า่ ง ๆ ฯลฯ หนา้ | 17
สรุปผลโครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน รปู แบบกลุ่มสนใจ วิชาการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ชว่ั โมง การเล้ียงปลา : โครงงานการเล้ยี งปลาสวยงาม การเปลยี่ นสีปลาออสกา้ ลกั ษณะของโครงการ 1. มจี ุดมง่ั หมายเฉพาะหน่ึงจุดมงุ่ หมาย มกี ารกาหนดวตั ถุประสงคอ์ ยา่ งชดั เจน มผี ลผลิต (output) บริการและผลลพั ธ์ (outcome) ท่มี ลี กั ษณะเฉพาะ 2. เป็นการปฏิบตั งิ านชว่ั คราว (temporary) มเี วลาเริ่มตน้ – สิ้นสุด 3. ตอ้ งการทรพั ยากรหลายประเภท ไดแ้ ก ่บุคลากร วสั ดุ อุปกรณ์ โปรแกรมสาเร็จรูป 4. ควรมผี สู้ นบั สนุนงบประมาณ/ลูกคา้ 5. เกย่ี วขอ้ งกบั ความไมแ่ นน่ อน เพราะมลี กั ษณะเฉพาะ ยากลาบากในการกาหนดวตั ถุประสงค์ให้ ชดั เจน ทง้ั เวลา / คา่ ใชจ้ า่ ย ข้นั ตอนการปฏิบัตขิ องนักเรยี น 1. นกั เรียนรวมกลมุ่ กบั เพือ่ นทาโครงการอาชีพ 2. ศกึ ษาขอ้ มลู รายละเอียดงานอาชพี ที่สนใจ 3. ปรึกษา อ.ท่ปี รึกษาและผมู้ ีประสบการณ์ 4. เขยี นโครงการอาชีพ >> ระดมทุน 5. ประชมุ ปรึกษาหารือ << ดาเนินการตามโครงการ >> บนั ทึกการปฏิบตั ิงาน 6. สรุปรายงานผลการปฏิบตั ิโครงการอาชีพ การพิจารณาจดั ทาโครงงานอาชีพ การพิจารณาจดั ทาโครงงาน เป็นการดาเนินงานทีต่ อ้ งตดั สินใจทาโครงงานให้บรรลุตามจุดประสงค์ท่ี กาหนดไว้ มอี งคป์ ระกอบสาคญั ไดแ้ ก ่ 1. การเลอื กหัวขอ้ เรื่องโครงงาน หนา้ | 18
สรุปผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชน รปู แบบกลมุ่ สนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ชว่ั โมง 2. การศึกษาขอ้ มลู โครงงาน 3. สังเกตสภาพแวดลอ้ ม ข้นั ตอนการทาโครงงาน – โครงงานอาชีพ ข้นั ตอนท่ี 1 การคดิ และเลือกหวั เร่ือง เป็นการหาหวั ขอ้ ในการทดลอง ในการท่อี ยากทราบ ขน้ั ตอนที่ 2 การศกึ ษาเอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ ง รวมไปถงึ การขอคาปรึกษา ขอแนะนา หรือขอ้ มลู ตา่ ง ๆ จากผคู้ ณุ วฒุ ทิ เี่ กยี่ วขอ้ ง ข้นั ตอนที่ 3 การเขียนเคา้ โครงของโครงงาน โดยทว่ั ไปเคา้ โครงของโครงงานจะมหี ัวขอ้ ดงั ตอ่ ไปน้ี หวั ข้อ รายละเอียดทตี่ ้องระบุ 1. ชอ่ื โครงงาน ทาอะไร กบั ใคร เพ่ืออะไร 2. ชอ่ื ผทู้ าโครงการ ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ 3. ชอื่ ท่ีปรึกษาโครงงาน ผทู้ รงคณุ วฒุ ติ า่ ง ๆ 4. ระยะเวลาดาเนินการ ระยะเวลาดาเนินโครงานตง้ั แตต่ น้ จนจบ 5. หลกั การและเหตุผล เหตผุ ลและความคาดหวงั 6. จดุ หมาย / วตั ถุประสงค์ สิ่งที่ตอ้ งการใหเ้ กดิ เมอื่ สิ้นสุดการทาโครงงาน 7. สมมตุ ิฐานของการศกึ ษาโครงงาน สิ่งทีค่ าดวา่ จะเกดิ เมอ่ื ส้ินสุดการทาโครงงาน 8. ขน้ั ตอนการดาเนินงาน ขน้ั ตอนการทางาน วสั ดุ อุปกรณ์ สถานที่ 9. ปฏิบตั ิโครงงาน วนั เวลา กจิ กรรมดาเนินงาน เริ่มจนสิ้นสุด หนา้ | 19
สรุปผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชน รูปแบบกล่มุ สนใจ วิชาการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง 10. ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั สภาพของผลที่ตอ้ งการให้เกดิ ทง้ั ท่เี ป็น ผลผลติ กระบวนการ และผลกระทบ 11. บรรณานุกรม ช่อื เอกสาร ขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ากแหลง่ ตา่ ง ๆ ขน้ั ตอนท่ี 4 การปฏบิ ตั ิโครงงาน เป็นการดาเนินงานตามแผนทไ่ี ดก้ าหนดไวใ้ นเคา้ โครงของโครงงาน และตอ้ งมกี ารจดบนั ทึก ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ อยา่ งละเอียด จดั ทาอยา่ งเป็นระบบ เป็นระเบียบ เพ่ือท่ีจะไดใ้ ชเ้ ป็นขอ้ มลู ตอ่ ไป ขน้ั ตอนท่ี 5 การเขยี นรายงาน ควรใชภ้ าษาท่เี ขา้ ใจงา่ ย กระชบั ชดั เจน และครอบคลมุ ประเดน็ สาคญั ของโครงงาน โดยสามารถ เขยี นใหอ้ ยใู่ นรูปแบบตา่ ง ๆ เชน่ การสรุป รายงานผล ซ่งึ ประกอบไปดว้ ยหัวขอ้ ตา่ ง ๆ เชน่ บทคดั บอ่ บทนา เอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ ง เป็นตน้ ขน้ั ตอนท่ี 6 การแสดงผล เป็นการนาเสนอผลงาน สามารถจดั ไดห้ ลายรูปแบบ เชน่ การจดั นิทรรศการ หรือ ส่ิงตีพิมพ์ การ สอนแบบเพ่ือนสอนเพอื่ น ตามความเหมาะสมของโครงงาน ข้อจากัดของการจัดทาโครงงาน การจดั ทาโครงงานจะประสบความสาเร็จได้ มขี อ้ จากดั ดงั น้ี 1. การจดั โครงงานตา่ ง ๆ ท้งั ผูส้ อนและผเู้ รียน จะตอ้ งมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเรื่องทท่ี าคอ่ นขา้ งมาก ตอ้ ง มกี ารศกึ ษาคน้ ควา้ เอกสาร ความรูต้ า่ ง ๆ เพอื่ ใชเ้ ป็นขอ้ มลู สนับสนุน ระหวา่ งทาการทดลอง 2. เร่ืองที่ทาตอ้ งเป็นสิ่งท่ีใกลต้ วั ผลทีไ่ ดค้ วรเกดิ ประโยชน์แกต่ วั ผูเ้ รียน หรือบคุ คลในทอ้ งถิ่น 3. เร่ืองที่ทาตอ้ งเหมาะสมกบั วยั ของผเู้ รียน ผเู้ รียนสามารถทดลองได้ 4. การออกแบบทดลอง จะตอ้ งครอบคลมุ จุดหมายท่ีกาหนดไว้ 5. ระหวา่ งทาโครงงาน จะตอ้ งมกี ารแกไ้ ขปัญหา ผเู้ รียนจะตอ้ งมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเร่ืองของ กระบวนการแกป้ ัญหา และกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ หน้า | 20
สรุปผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน รปู แบบกลุม่ สนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ช่ัวโมง การสารวจวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจเลือกโครงการ กอ่ นการตดั สินเลอื กทาโครงการใดๆ จาเป็นทีจ่ ะตอ้ งใชก้ ารคดิ วเิ คราะห์ วนิ ิจฉยั อยา่ งรอบคอบดว้ ยการ สารวจขอ้ มลู ท่ีเกย่ี วข้องใหม้ ากทส่ี ุด เพอ่ื ป้องกนั ความผิดพลาดในการตดั สินใจ เพื่อใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุด ดงั น้นั ควรสารวจและวเิ คราะห์ขอ้ มูลตา่ งๆท่ีเป็นองค์ประกอบสาคญั คือ สารวจขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตัวนกั เรียน สารวจขอ้ มลู เกยี่ วกบั สังคมสิ่งแวดลอ้ ม และสารวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั โครงการตา่ ง ๆ 1. สารวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง สารวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตวั นักเรียน ในการสารวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเองน้นั มปี ัจจยั หลายประการ เชน่ สตปิ ัญญา ความสามารถ ความถนดั ความสนใจ ทกั ษะและความพร้อมในวชิ าสาขาอาชพี รวมทง้ั วชิ าอืน่ ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ ง โดยเฉพาะ วชิ าโครงการท่ี เลอื กจะเป็นปัจจยั พ้ืนฐานทีส่ าคญั ในการพฒั นาหรือจดั ทาโครงการให้มีประสิทธิภาพมากยง่ิ ข้นึ 2. การสารวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั สภาพแวดลอ้ มและสังคม ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ น้ันมสี ว่ นผลกั ดนั ใหโ้ ครงการสาเร็จลุลว่ งไปไดด้ ว้ ยดี เชน่ ความเห็นชอบของบคุ คล รอบตวั คนในครอบครัว อาจารย์ท่ปี รึกษา เพอื่ นรว่ มงานเป็นตน้ ทง้ั น้ียงั รวมไปถงึ ความตอ้ งการของคนใน ทอ้ งถิ่น แหลว่ งความรูต้ า่ งๆที่จะเป็นความรู้เพิ่มเติม แหลง่ จดั หาวสั ดอุ ุปกรณ์สาธารณปู โภคทเี่ อือ้ อานวยความ สะดวกในการเดินทางและการขนสง่ เป็นตน้ 3. สารวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั โครงการ โครงการมสี ว่ นสง่ เสริมสนบั สนุนผลกั ดนั ใหเ้ กดิ เป็นแนวความคิด และประสบการณ์อยา่ งหลากหลาย ซ่งึ สามารถศกึ ษาและสารวจขอ้ มูลไดจ้ ากแหลง่ ตา่ ง ๆ เชน่ แหลง่ วชิ าชพี ฟาร์มเล้ยี งสัตว์ สวนผลไม้ วนอุทยาน ศูนยธ์ ุรกจิ การคา้ ศนู ยศ์ ิลปาชพี ฯลฯ นอกจากน้ีขอ้ มลู สามารถนามาได้ จากการบรรยาย ประชมุ สมั มนา รายการวทิ ยุโทรทศั น์ การศกึ ษาผลงานของผอู้ ืน่ หรือจากการสนทนา สัมภาษณ์ จากบคุ คลท่ีมคี วามรู้เฉพาะดา้ นน้ัน ๆ ทง้ั น้ีการสังเกตสิ่งตา่ งๆทพ่ี บเห็นในชวี ติ ประจาวนั หรือจาก งานอดิเรกจะเป็นขอ้ มลู และประสบการณ์ ที่มคี ณุ ภาพ การเขียนโครงการฝึ กอาชีพ หลักการสาคัญในการเขยี นโครงการ การปฏิบตั ิงานตามโครงงานอาชีพของผเู้ รียน เพอื่ ใหบ้ รรลตุ ามจดุ หมานของหลักสูตรและจดุ มงุ่ หมาย การจดั ทาโครงการ จึงไดก้ าหนดหลกั การทีส่ าคญั เกย่ี วกบั โครงการไว้ ดงั น้ี หน้า | 21
สรุปผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง 1. ให้ผเู้ รียนแตล่ ะกลมุ่ มเี สรีภาพในการตดั สินใจ เลือกทาโครงงานอาชพี ใดกไ็ ด้ ตามความถนดั ความ สนใจ และคามพร้อมของผเู้ รียน 2. ผเู้ รียนในห้องเรียนเดยี วกนั ควรเลอื กโครงการอาชพี แตกตา่ งกนั ไดต้ ามความถนดั ความพรอ้ ม และ ความสนใจ ตลอดจนคานึงถึงความจาเป็นในการใชป้ ระโยชน์ชิ้นงาน หรือรายไดจ้ ากการปฏบิ ตั ิงาน 3. ให้คานึงถึงทรพั ยากรในทอ้ งถนิ่ ทง้ั ทรัพยากรทีใ่ ชเ้ ป็นวตั ถุดิบ ในการผลติ ชน้ิ งาน และทรพั ยากร บคุ คลในทอ้ งถ่นิ ตลอดจนภูมปิ ัญญาชาวบา้ น เพ่ือการอนุรักษ์ และพฒั นาเทคโนโลยีในทอ้ งถน่ิ 4. ผเู้ รียนสามารถนาทกั ษะการทางาน พน้ื ฐานหลายประเภท รวมไวใ้ นโครงการเดียวได้ 5. ในแตล่ ะโครงการ อาจกาหนดคาบเวลาแตกตา่ งกนั ได้ ตามความยากงา่ ยของลกั ษณะงาน 6. ครูอาจารย์ ผสู้ อน หรือท่ปี รึกษา อาจจดั สื่อการสอนในลกั ษณะของใบงาน หรือใบความรู้ หรือขอ้ มลู ทางวชิ าการ เพื่อชว่ ยใหน้ กั เรียน สามารถปฏิบตั งิ านไดด้ ว้ ยตนเอง 7. ในการประเมนิ โครงการ ให้ครู อาจารยผ์ สู้ อน หรือท่ีปรึกษาเป็นผปู้ ระเมนิ โดยคานึงถงึ ความรู้ความ เขา้ ใจ กระบวนการทางาน เจตติในการปฏบิ ตั ิงาน และการนาชิ้นงานไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั และตอ้ ง ประเมนิ ผลการเรียนเป็นรายภาคเรียน สาหรบั ผเู้ รียนที่เลือกหลายโครงการใน 1 ภาคเรียน ใหป้ ระเมนิ ผลโดยให้ คะแนนในแตล่ ะโครงการกอ่ น แลว้ นามารวมกนั เพ่ือตดั สินใหร้ ะดบั คะแนน โดยคานึงถงึ คาเวลาในแตล่ ะ โครงการ โดยจดั สัดสว่ นน้าหนักโครงการแตกตา่ งกนั ตามคาบเวลา หนา้ | 22
สรุปผลโครงการ ศูนย์ฝึกอาชพี ชุมชน รปู แบบกล่มุ สนใจ วิชาการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ชว่ั โมง ส่วนประกอบและวธิ กี ารเขยี นโครงการฝึ กอาชีพ สว่ นประกอบและวธิ ีเขียนโครงการฝึ กอาชีพ มรี ายะเอียด ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ชื่อโครงงาน ควรตง้ั ชือ่ โครงการอาชีพใหส้ ่ือความหมายไดช้ ดั เจน ครอบคลุมความหมายของกจิ กรรมอาชีพท่ีทาให้ ชดั เจนวา่ ทาอะไร ตอ้ งเป็นชอ่ื ที่เหมาะสม ชดั เจน ดงึ ดดู ความสนใจ และเฉพาะเจาะจงวา่ จะทาอะไร ไมค่ วรตง้ั ช่อื โครงการที่มคี วามหมายกวา้ งเกนิ ไปตวั อยา่ งเชน่ โครงการปลกู มนั สัมปะหลงั โครงงานทา สิ่งประดิษฐ์ 2. ช่ือผ้ทู าโครงงาน เป็นชื่อผรู้ บั ผิดชอบโครงงาน ในกรณีงานกลมุ่ ตอ้ งระบุหน้าท่ีความรับผดิ ชอบของแตล่ ะคนใหช้ ดั เจน พิจารณาความเหมาะสมในดา้ นความสามารถ โอกาสในการทางาน กาลงั ทนุ ทรพั ยส์ ินของแตล่ ะบุคคล ทง้ั น้ีเพอื่ จะไดท้ ราบวา่ โครงงานอยใู่ นความรับผิดชอบของใครและสามารถติดตามไดท้ ่ีใด หรือโครงการน้ีอยใู่ นความ รับผิดชอบของใคร เมอ่ื มปี ัญหาจะไดต้ ิดตอ่ ประสานงานได้อยา่ งงา่ ย 3. ชื่อทปี่ รึกษาโครงงาน เป็นผทู้ รงคณุ วฒุ ิตา่ ง ๆ 4. หลักการและเหตุผลหรือความสาคัญของโครงการ ควรกลา่ วถงึ สภาพชมุ ชนและความตอ้ งการของตลาดที่เกย่ี วขอ้ งกบั อาชพี ตามท่ไี ด้ ศกึ ษามา และอธิบาย วา่ โครงงานน้ีจะสนองความตอ้ งการของชมุ ชนไดอ้ ยา่ งไร แสดงให้เห็นถึงความจาเป็นหรือความสาคญั ซ่งึ ผู้ เสนอโครงงานจะตอ้ งระบถุ งึ เหตผุ ลและขอ้ มลู หรือทฤษฎตี า่ ง ๆ มาสนบั สนุนโครงการให้ปรากฏชดั เจนอยา่ ง สมเหตุสมผล การเขยี นหลกั การและเหตผุ ลในสว่ นน้ีประกอบดว้ ยส่วนสาคญั 3 สว่ นคือ 1. ความเป็นมาของโครงการยอ่ ๆ 2. เหตผุ ลและความจาเป็นที่ตอ้ งมโี ครงการน้ัน ๆ 3. วธิ ีการดาเนินโครงการยอ่ ๆ หน้า | 23
สรุปผลโครงการ ศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน รปู แบบกลมุ่ สนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ช่วั โมง 5. วัตถปุ ระสงค์ จะตอ้ งกาหนดวตั ถุประสงคใ์ ห้ชดั เจนวา่ โครงงานอาชีพน้ี ผเู้ รียนจะทาอะไรโดยเขยี นให้เห็นวา่ กจิ กรรมหรือพฤติกรรมท่ีจะดาเนินการมี อะไรบา้ ง หากมวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลายประการกค็ วรเขียนเป็นขอ้ ๆ ตามลาดบั ความสาคญั การเขยี นวตั ถุประสงค์มคี วามสาคญั ตอ่ แนวทาง การศกึ ษา ตลอดจนข้อความรู้ท่ีคน้ พบ หรือสิ่งประดษิ ฐ์ท่ีคน้ พบน้นั จะมคี วามสมบูรณ์ครบถว้ น ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์ทุก ๆ ขอ้ ไมเ่ปิด โอกาสใหต้ คี วามไดห้ ลายอยา่ งอนั จะทาให้ความหมายบิดเบือนไปจากเจตนารมณ์ทีแ่ ทจ้ ริง และสามารถ ประเมนิ ผลและวดั ได้ 6. เปา้ หมาย เปา้ หมาย (Targets) หมายถงึ การแสดงผลผลิตข้นั สุดทา้ ยในแงป่ ริมาณ จานวนหรือการวดั ความสาเร็จ ในชว่ งระยะเวลาหน่ึง ๆ กาหนดเป้าหมายของผลผลิตในชว่ งเวลาให้ชดั เจนคือ อะไร มปี ริมาณเทา่ ใดและ คณุ ภาพเป็นอยา่ งไร เป้าหมายจึงคลา้ ยกบั วตั ถุประสงคแ์ ตม่ ลี กั ษณะเฉพาะเจาะจงมากกวา่ มกี ารระบสุ ่ิงที่ ตอ้ งการกระทาหรือการไปถงึ ชดั เจนกวา่ และระบเุ วลาท่ีตอ้ งการบรรลุ วา่ จะแลว้ เสร็จในวนั ทเี่ ทา่ ไร เดือนอะไร ปีใด โดยใคร และอยา่ งไร นอกจากน้ันอาจมกี ารกาหนดเปา้ หมายเชงิ คณุ ภาพควบคไู่ ปดว้ ยก็ได้ 7. ระยะเวลาดาเนนิ การ การระบุระยะเวลาและสถานที่หรือพื้นทเี่ ปา้ หมายที่จะจัดกจิ กรรม ต้งั แตเ่ร่ิมตน้ โครงการจนกระทง่ั เสร็จสิ้นโครงงานและในกรณที เ่ี ป็นโครงงานระยะยาวมหี ลายขน้ั ตอน กจ็ ะตอ้ งแสดงชว่ งเวลาในแตล่ ะข้นั ตอน น้ันดว้ ย ท้งั น้ีเพอ่ื ใชป้ ระกอบการพิจารณาเพอ่ื อนุมตั ิโครงงาน ตวั อยา่ งเชน่ ระยะเวลา : 1 เดอื น วนั ที่ 1 – 30 เมษายน 2558 สถานท่ดี าเนินงาน : โรงเรียนสารคามพทิ ยาคม 8. งบประมาณ จดั ทารายละเอยี ดรายจา่ ยท่ีเกดิ ข้ึนในการดาเนินโครงงาน เป็นการระบถุ ึงจานวนเงิน จานวนบุคคล จานวน วสั ดุ-ครุภณั ฑ์ และปัจจยั อน่ื ๆ ทจ่ี าเป็นตอ่ การดาเนินงาน การจัดทางบประมาณและทรัพยากรในการดาเนินงาน โครงการ ผวู้ างแผนโครงการควรตอ้ งคานึงถงึ หลกั สาคญั 4 ประการในการจดั ทาโครงการ โดยจะตอ้ งจดั เตรียม ไวอ้ ยา่ งเพยี งพอและจะตอ้ งใชอ้ ยา่ งประหยดั ดงั น้ี 1. ความประหยดั (Economy) 2. ความมปี ระสิทธิภาพ (Efficiency) หน้า | 24
สรุปผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ชั่วโมง 3. ความมปี ระสิทธิผล (Effectiveness) 4. ความยตุ ธิ รรม (Equity) 9. ข้นั ตอนวธิ ดี าเนนิ งาน เขียนเปน็ รายละเอียดขน้ั ตอนของการทางาน ตั้งแตเ่ ริ่มตน้ จนสิน้ สุดโครงงานโดยเขยี นเป็นแผนปฏบิ ัติงาน ซึง่ ประกอบดว้ ยหัวขอ้ กิจกรรม ระยะเวลา สถานศึกษา ทรพั ยากร/ปัจจัยเป็นต้น รายละเอยี ดดงั กลา่ วจะทาใหผ้ ู้ท่ี ปรกึ ษาหรือผดู้ าเนินงานติดตามกากับงานได้ อย่างมีระบบแกไ้ ขปญั หาไดท้ ันทว่ งที 10. การตดิ ตามและการประเมินผล เป็นวธิ กี ารหรอื เทคนิคในการดแู ลและควบคมุ การปฏิบัติงานใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงค์ ทง้ั นตี้ อ้ งบอกให้ชดั เจนว่ากอ่ น เร่มิ ทาโครงงาน ระหวา่ งทาโครงงานและหลังการทาโครงงาน จะมีการติดตามและประเมินผลอย่างไร เป็นการระบุ วา่ มีการติดตาม การควบคุม การกากับ และการประเมนิ ผลโครงงานอยา่ งไร จะประเมนิ ความสาเรจ็ ของการ ดาเนินงานโครงงานไดอ้ ยา่ งไรใครเป็นผ้รู บั ผิดชอบ โดยระบวุ ธิ ีหรือเคร่ืองมอื ท่ใี ชใ้ นการประเมนิ ด้วย ทัง้ นี้หวั ขอ้ ของการประเมินจะตอ้ งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ตามโครงงานด้วย ดังนัน้ เพ่ือให้การติดตามและประเมินผล โครงการสอดคล้องระหว่างการวางแผนกบั การปฏบิ ตั ิงาน ควรพจิ ารณาดาเนนิ การเปน็ 3 ระยะ คือ 1. ประเมินผลก่อนการทาโครงการ หรือกอ่ นการปฏิบัติงาน 2. ประเมนิ ผลระหวา่ งท่มี ีการทาโครงงาน 3. ประเมินผลภายหลังการทาโครงงาน 11. ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั ใหร้ ะบผุ ลที่จะเกดิ ข้นึ เมอ่ื เสร็จส้ินโครงงาน เปน็ ผลทไี่ ด้รบั โดยตรงและผลพลอยได้หรือผลกระทบจาก โครงงานเปน็ ผลในดา้ นดที ี่ คาดว่าจะไดร้ ับจะตอ้ งสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์และเป้าหมาย แสดงถึงผลประโยชนท์ ีผ่ ู้ ดาเนินโครงการและผทู้ เี่ กี่ยวข้องจะได้รับหลงั โครงการสน้ิ สุดลง ซึ่งหมายถงึ ผลกระทบในทางทด่ี ี ทค่ี าดวา่ จะ เกิดขน้ึ ท้งั ทางตรงและทางออ้ ม นอกจากนจ้ี ะระบุไวช้ ดั เจนว่าใครจะไดร้ บั ผลประโยชน์และผลกระทบในลักษณะ อยา่ งไร ทัง้ ดา้ นปริมาณ และดา้ นคุณภาพ 12. ปัญหาและอปุ สรรค การดาเนนิ งานตามโครงการนี้ จะมปี ัญหาและอปุ สรรคใดบ้าง ทั้งในด้านตวั บุคคลทร่ี ่วมงาน ขั้นตอนการ ปฏบิ ัติ ภัยธรรมชาติ ตลาดจาหน่ายและอนื่ ๆ ทเี่ ห็นวา่ น่าจะเกดิ ขนึ้ พรอ้ มช้แี จงสาเหตุท่ีอาจเกดิ ขนึ้ ดว้ ย รวมทั้ง แนวทางแก้ไข ปัญหาและอุปสรรคท่ีไมเ่ ป็นไปตามแผนขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ านทกุ ขั้นตอน ระยะเวลา วตั ถุประสงค์ และเปา้ หมายท่กี าหนดดว้ ย หนา้ | 25
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินการ ในการดาเนินงานจดั โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลักสูตรพฒั นาอาชพี วชิ าการทาแจ่วบองสมนุ ไพร กศน.ตาบล บุญทนั มีรายละเอยี ดดังต่อไปนี้ ขน้ั ตอนการวางแผน (plan) ข้นั ตอนการลงมอื ทา (Do) ข้ันตอนการตรวจสอบ (Check) ข้ันตอนการปรบั ปรงุ แก้ไข (Act) ขั้นตอนการวางแผน (plan) 1. ดาเนนิ การประชาคมกลุ่มผูส้ นใจพฒั นาอาชีพ 2. ไดก้ ลุ่มเปา้ หมาย 3. เตรียมหลักสูตร เสนอโครงการเพ่อื ขออนุมัติ 4. แต่งต้ังคณะทางานภายในตาบล คณะกรรมการนเิ ทศกิจกรรม 5. ประสานวิทยากร ข้นั ตอนการลงมือทา (Do) 1. ดาเนนิ การประสานงานผู้ท่ีเกี่ยวข้อง ครู กศน.ตาบล ครู ศรช. ผนู้ าชมุ ชน คณะกรรมการหมูบ่ ้านและชาวบ้านจดั เตรยี มสถานท่ี 2. นาประชาชนทสี่ นใจมาเขา้ รว่ มกิจกรรม 3. ประเมินผลโครงการโดยให้ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการออกแบบประเมินความพึงพอใจในการเขา้ ร่วม โครงการ 4. รวบรวมขอ้ มูลจากแบบประเมนิ 5. สรปุ ผลความพึงพอใจของผ้เู ข้ารว่ มโครงการ ขน้ั ตอนการตรวจสอบ (Check) 1.เคร่อื งมอื ท่ีใช้ในการตรวจสอบ แบบประเมนิ ความพึงพอใจของผู้เข้ารว่ มโครงการ 2. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู กศน.ตาบลบญุ ทัน ได้ดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมลู จากผู้เข้าร่วมโครงการ - ประชาชนกล่มุ เปา้ หมาย จานวน 10 คน 3.การวิเคราะห์ขอ้ มูล การประเมนิ ผลการดาเนินงานของโครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลักสตู รพัฒนา อาชพี การทาแจว่ บองสมุนไพร กศน.ตาบลบญุ ทัน ดาเนินการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดังนี้ 3.1 แบบประเมนิ ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทั่วไป วิเคราะหห์ าคา่ ร้อยละ 3.2 แบบประเมนิ ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจตัวบง่ ชข้ี องโครงการ หนา้ | 26
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน รปู แบบกลมุ่ สนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ช่วั โมง 3.2.1 ให้คะแนนตามน้าหนักแบบประเมินฉบบั สมบูรณ์ ตามเกณฑ์ มาตรฐานของ สมศ. โดยมีเกณฑใ์ หค้ ะแนน ดงั นี้ ระดบั 5 หมายถึง ดาเนนิ งานไดต้ ามเกณฑข์ องตวั บง่ ชดี้ ีมาก ระดบั 4 หมายถงึ ดาเนนิ งานได้ตามเกณฑข์ องตวั บ่งชี้ดี ระดับ 3 หมายถงึ ดาเนนิ งานได้ตามเกณฑ์ของตวั บง่ ชี้พอใช้ ระดับ 2 หมายถงึ ดาเนินงานได้ตามเกณฑข์ องตัวบ่งช้ปี รับปรงุ ระดับ 1 หมายถงึ ดาเนินงานไดต้ ามเกณฑข์ องตัวบง่ ชต้ี ้องปรับปรุง 3.2.2 วเิ คราะห์ขอ้ มูลโดยการหาคา่ เฉล่ียรอ้ ยละความพึงพอใจ 3.3 แบบประเมินตอนที่ 3 ข้อคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ วิเคราะหด์ ว้ ยเนื้อหา (Content analysis) หนา้ | 27
สรุปผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน รูปแบบกลมุ่ สนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชัว่ โมง บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน การจัดกจิ กรรมโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชนหลกั สูตรพัฒนาอาชพี วิชาการทาแจ่วบองสมนุ ไพร ณ ศาลาประชาคมบา้ นบุญทัน หมู่ 1 ตาบลบุญทัน อาเภอสุวรรณคูหา จังหวดั หนองบัวลาภู สรุปผลการดาเนนิ งานได้ดังนี้ ชื่อโครงการ วันทดี่ าเนนิ การ เป้าที่ได้รบั จัดสรร ผล คดิ เปน็ ร้อยละ โครงการ ศนู ย์ฝึกอาชพี ชุมชน 13 - 14 ธันวาคม 6 10 100 หลกั สตู รพฒั นาอาชพี 2564 วิชาการทาแจ่วบองสมุนไพร การประเมินความพึงพอใจในการดาเนินงานตามโครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วชิ าการทาแจ่วบองสมุนไพร กศน.ตาบลบุญทนั ของผู้รบั บริการทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการ โดยเสนอรายละเอยี ด ตามลาดับคอื สญั ลกั ษณ์ที่ใช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมูล ลาดับขัน้ ตอนในการวเิ คราะห์ข้อมลู ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล และการแปลความหมายข้อมูลดังตอ่ ไปนี้ สญั ลักษณ์ทีใ่ ชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มลู การเสนอผลการประเมินครั้งนีไ้ ดก้ าหนดสัญลกั ษณท์ ่ใี ช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มูล ดงั น้ี N แทน ขนาดของกลุม่ ผปู้ ระเมินการใช้คมู่ ือ (Sample size) % แทน ค่าร้อยละ (Percentage) ลาดับข้นั ตอนในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ผ้ปู ระเมนิ ไดเ้ สนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเปน็ ตอนๆ เรยี งลาดบั ดงั นี้ ตอนที่ 1 การวเิ คราะห์ขอ้ มูลเก่ยี วกับขอ้ มลู ทว่ั ไป ตอนท่ี 2 การวเิ คราะหข์ ้อมลู ด้านความพงึ พอใจของผรู้ บั บรกิ าร ตอนที่ 3 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ในการสรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรพัฒนาอาชพี วิชาการแจ่วบอง สมุนไพร ณ ศาลาประชาคมบ้านบญุ ทัน ม.1 ตาบลบุญทัน อาเภอสวุ รรณคหุ า จังหวัดหนองบวั ลาภู ไดจ้ ัดทา เครอ่ื งมือเปน็ แบบสอบถาม วดั ระดับความคิดเห็นและความพึงพอใจในการดาเนนิ การพัฒนาซึ่งแบง่ ออกเป็น 3 ส่วนคือ สว่ นแรกเปน็ คาถามปลายเปดิ มาตราส่วนประมาณค่า (Rating scales) ส่วนท่ี 2 มาตราส่วน ประมาณค่าของ ลิเคริ ท์ likert’s Scales 5 ระดับ สว่ นทีส่ ามเป็นคาถามปลายเปดิ ข้อเสนอแนะอื่นๆ ส่วนท่ี สามเปน็ คาถามปลายเปดิ เนื้อหาสาระทีต่ อ้ งการพฒั นาในครงั้ ต่อไป ซึ่งในการเกบ็ รวบรวมน้นั ได้แจก แบบสอบถามแก่ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการศนู ย์ฝึกอาชพี ชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการทาแจ่วบองสมนุ ไพร จานวน 10 คน ไดแ้ บบสอบถามคนื จานวน 10 ฉบับ จากผู้เข้าร่วมโครงการฯ คิดเป็นร้อยละ 100 กระทาการ หนา้ | 28
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน รปู แบบกลุ่มสนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง วิเคราะห์ขอ้ มูลตามประเภทและลักษณะของข้อมูล โดยหาคา่ เฉลีย่ เปน็ ค่ารอ้ ยละ ซง่ึ ไดว้ ดั ระดบั ความคิดเหน็ และ ความพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ โครงการจะปรากฏดงั นี้ สรุปผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ความพึงพอใจ โครงการศูนย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วิชาการทาแจว่ บองสมุนไพร ตอนที่ 1 ข้อมลู ทวั่ ไป รายการขอ้ มูลพน้ื ฐาน จานวน ร้อยละ (ƒ) (%) 1.เพศ 1.1 ชาย 00 1.2 หญงิ 10 100 รวม 10 100.00 2.อายุ 2.1 ตา่ กว่า 15 ปี 00 2.2 อายุ 15 – 39 ปี 00 2.3 อายุ 40 – 59 ปี 7 70.00 2.4 อายุ 60 ปีขน้ึ ไป 3 30.00 รวม 10 100.00 3.ระดบั การศกึ ษา 3.1 ป.4 6 60.00 3.2 ป.6 4 40.00 3.3 ม.ต้น 00 3.4 ม.ปลาย 00 3.5 ปวช. 00 3.6 ปวส. 00 3.7 ปรญิ ญาตรี 00 3.8 อ่ืนๆ 00 รวม 10 100.00 4.อาชพี 4.1 ผนู้ าทอ้ งถ่ิน 00 4.2 อบต/เทศบาล 00 4.3 พนกั งานรฐั วสิ าหกิจ 00 4.4 ทหารกองประจาการ 00 หนา้ | 29
สรุปผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ชัว่ โมง 4.5 เกษตรกร 10 100 4.6 รบั ราชการ 00 4.7 ค้าขาย 00 4.8 รับจา้ ง 00 4.9 อสม. 00 4.10 แรงงานต่างด้าว 00 4.11 วา่ งงาน 00 4.12 อน่ื ๆ 00 รวม 10 100.00 จากตาราง ผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู ความพึงพอใจของผ้เู ข้าร่วมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชพี วิชาการทาแจว่ บองสมุนไพร ผลการวเิ คราะห์ปรากฏวา่ ผู้เขา้ รว่ มโครงการ 10 คน ด้านเพศ ส่วนมากเป็นเพศหญงิ จานวน 10 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 ดา้ นอายุ ส่วนมากอายุ 40-59 ปี จานวน 7 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 70.00 อายุ 60 ปี ขน้ึ ไป จานวน 3 คน คิดเปน็ ร้อยละ 30.00 ด้านการศกึ ษา สว่ นมากระดบั ป.4 จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 60.00 และ ประถมศึกษา จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 ตามลาดับ ดา้ นอาชพี เกษตรกร จานวน 10 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100 หนา้ | 30
สรุปผลโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน รปู แบบกลมุ่ สนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ช่วั โมง ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจในการใหบ้ รกิ าร ตารางท่ี 2.1 จุดมุง่ หมาย/เน้ือหาหลักสูตร ระดับความพึงพอใจ/จานวน หมาย เหตุ ข้อ รายการประเมินความพึงพอใจ มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย ท่ีสดุ กลาง ท่ีสุด ตอนท่ี ๑ ความพงึ พอใจดา้ นเนอ้ื หา 1 เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ 442 40.00 40.00 20.00 2 เนอื้ หาเพียงพอตอ่ ความต้องการ 442 40.00 40.00 20.00 3 เนอื้ หาปัจจบุ ันทนั สมัย 55 50.00 50.00 4 เน้อื หามีประโยชน์ต่อการนาไปใชใ้ นการพัฒนาคณุ ภาพ 5 3 2 ชีวิต 50.00 30.00 20.00 รวม ความพึงพอใจด้านเน้อื หา 45.00 30.00 15.00 ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม 5 การเตรียมความพรอ้ มกอ่ นอบรม 451 40.00 50.00 10.00 6 การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ 451 40.00 50.00 10.00 7 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา 532 50.00 30.00 20.00 8 การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย 541 50.00 40.00 10.00 9 วิธีการวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ 541 50.00 40.00 10.00 รวมความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรม 46.00 42.00 12.00 ตอนที่ 3 ความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร 10 วทิ ยากรมีความรคู้ วามสามารถในเรือ่ งท่ถี า่ ยทอด 55 50.00 50.00 11 วทิ ยากรมีเทคนคิ การถ่ายทอดใช้ส่ือเหมาะสม 55 50.00 50.00 12 วทิ ยากรเปดิ โอกาสใหม้ ีส่วนร่วมและซกั ถาม 532 หน้า | 31
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน รปู แบบกลมุ่ สนใจ วชิ าการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ชวั่ โมง รวมความพึงพอใจตอ่ วทิ ยากร 50.00 30.00 20.00 ตอนที่ 4 ความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก 50 43.34 6.66 13 สถานท่ี วสั ดุ อุปกรณ์และส่งิ อานวยความสะดวก 55 14 การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพ่อื ให้เกดิ การเรียนรู้ 50.00 50.00 15 การบรกิ าร การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา 55 50.00 50.00 รวมความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก รวมท้ัง 4 ด้าน 532 50.00 30.00 20.00 50 43.34 6.66 47.75 42.17 10.08 สรปุ ความคดิ เหน็ และความพงึ พอใจของผู้รับบริการ โครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วิชาการทาแจว่ บองสมนุ ไพร สรุปไดด้ ังน้ี ตอนท่ี ๑ ความพงึ พอใจดา้ นเนอื้ หา สรุปไดว้ า่ ผู้ท่ตี อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจระดับดีมาก คดิ เป็นร้อยละ 45.00 มคี วามพึงพอใจใน ระดบั มาก คิดเป็นร้อยละ 30.00 มีความพงึ พอใจในระดบั พอใช้ คดิ เป็นรอ้ ยละ 15.00 ตอนที่ ๒ ความพงึ พอใจดา้ นการจดั กจิ กรรมการอบรม สรุปได้ว่าผู้ท่ีตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจระดับดีมาก คิดเปน็ ร้อยละ 46.00 มคี วามพงึ พอใจใน ระดับมาก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 42.00 มีความพงึ พอใจในระดับพอใช้ คิดเป็นร้อยละ 12.00 ตอนที่ ๓ ความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร สรุปไดว้ ่าผ้ทู ีต่ อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจระดับดีมาก คดิ เป็นรอ้ ยละ 50.00 มีความพึงพอใจใน ระดบั มาก คิดเป็นร้อยละ 43.34 มีความพึงพอใจในระดับพอใช้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 6.66 ตอนท่ี ๔ ความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก สรปุ ได้วา่ ผู้ทีต่ อบแบบสอบถามมีความพึงพอใจระดับดีมาก คดิ เปน็ ร้อยละ 50.00 มีความพงึ พอใจใน ระดบั มาก คิดเปน็ รอ้ ยละ 43.34 มคี วามพงึ พอใจในระดบั พอใช้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 6.66 สรุปภาพรวมจากการประเมินผลการดาเนนิ งาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วชิ าการ ทาแจว่ บองสมนุ ไพร กศน.ตาบลบญุ ทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคหู า ทงั้ 4 ดา้ น มีผลการดาเนินกจิ กรรม บรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ โดยผทู้ เี่ ข้าร่วมโครงการได้ตอบแบบสอบถาม ใน ระดบั ความพึงพอใจดีมาก มคี า่ เฉลย่ี เทา่ กับ 47.75 ระดบั มากมีคา่ เฉลีย่ จานวนรอ้ ยละ 42.17 ระดับพอใช้ คิด เปน็ รอ้ ยละ 10.08 เม่อื นาความพงึ พอใจระดบั ดขี ึ้นไปมารวมกนั แลว้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 89.92 ซึ่งอยใู่ นระดับดี มาก หน้า | 32
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน รปู แบบกลุม่ สนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ช่ัวโมง บทท่ี 5 สรปุ ผลและขอ้ เสนอแนะ การดาเนินงานโครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพัฒนาอาชพี รูปแบบกลุ่มสนใจ วิชาการทาแจว่ บองสมุนไพร สรปุ ผลการดาเนินงานไดด้ ังนี้ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ 1.เพื่อใหป้ ระชาชนมคี วามรูแ้ ละทกั ษะในการประกอบอาชพี สามารถสรา้ งรายไดท้ ่ีมัน่ คง มง่ั คัง่ 2.เพือ่ ใช้ในการตัดสินใจประกอบอาชพี ให้สอดคล้องกบั ศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม อย่างมคี ณุ ธรรมจริยธรรม 3.เพื่อให้ประชาชนมีโครงการประกอบอาชพี เพอื่ ใช้เปน็ แนวทางในการพฒั นาอาชีพของตนเอง ขอบเขตของโครงการ 1. ด้านเนอ้ื หาโครงการนม้ี งุ่ ให้ผเู้ รยี นกลมุ่ เปา้ หมายทเ่ี ข้ารบั การอบรมสามารถนาความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์การเรียนรตู้ ่างๆ ไปใชใ้ นการประกอบอาชีพทีเ่ ปน็ การเขา้ สู่อาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ หรือพฒั นาอาชีพ หรอื ต่อยอดอาชพี เดมิ 2. ด้านระยะเวลาระยะเวลาในการดาเนินงาน วนั ที่ 13 - 14 ธันวาคม 2564 ณ ศาลาประชาคมบา้ นบุญทัน หมู่ที่ 1 ตาบลบุญทัน อาเภอสวุ รรณคหู า จังหวัดหนองบัวลาภู 3. ด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชาชนตาบลบญุ ทนั จานวน 10 คน ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รบั - ประชาชนตาบลบุญทันกลุ่มเป้าหมายมอี าชพี ใหม่มีการพัฒนาต่อยอดอาชีพเดมิ เพ่ิมทักษะการเป็น ผูป้ ระกอบการ มีรายได้ มงี านทา มีความม่นั คง ยง่ั ยืน - เพอื่ ให้ผ้เู ขา้ รับการอบรมสามารถนาความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ไปใช้ในการ ประกอบอาชีพทเ่ี ปน็ การเข้าสอู่ าชพี สร้างงาน สรา้ งรายได้ หรอื พัฒนาอาชีพ หรอื ต่อยอดอาชีพเดมิ ตัวช้ีวดั ตัวชี้วัดผลผลติ รอ้ ยละ ๘๐ ของประชาชน ตาบลบุญทนั ทเ่ี ข้ารว่ มโครงการมอี าชีพ มงี านทา มรี ายได้ที่มนั่ คงยิง่ ขึ้น ตัวชี้วดั ผลลัพธ์ ประชาชนตาบลบญุ ทัน ท่ีเข้าร่วมโครงการมีความรู้ ทักษะ และประสบการณก์ ารเรียนรตู้ า่ งๆ ไปใชใ้ นการ ประกอบอาชพี ทเ่ี ปน็ การเข้าสู่อาชีพ สร้างงาน สรา้ งรายได้ หรือพัฒนาอาชพี หรือต่อยอดอาชีพเดิม หนา้ | 33
สรุปผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน รูปแบบกลมุ่ สนใจ วิชาการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง ผลการดาเนนิ โครงการ ประชาชนตาบลบุญทัน ท่ีเขา้ ร่วมโครงการศนู ย์ฝึกอาชพี ชมุ ชนหลกั สตู รพัฒนาอาชีพ การการทาแจ่วบอง สมุนไพร มคี วามพอใจในการจัดกจิ กรรมในระดับดขี ึน้ ไป ร้อยละ 89.92 และประชาชนท่ีเขา้ ร่วมกจิ กรรม สามารถนาความรู้ที่ไดไ้ ปใช้ในชีวิตประจาวนั ปัญหา-อปุ สรรค -กลว้ ยนา้ หวา้ ทีน่ ามาทาขนมกล้วยยังไม่สกุ งอมมากนัก ทาใหก้ ารคั้นเนื้อกล้วยไมล่ ะเอียดมากพอ แนวทางแกไ้ ขปญั หา -ค้ันใหเ้ น้อื กลว้ ยแตกละเอียด ตอ้ งใช้เวลานาน ข้อเสนอแนะ -เม่อื ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นจบหลักสตู รไปแลว้ อยากให้นาความรทู้ ี่ได้ไปใช้ในการพัฒนาอาชีพของตนเอง หนา้ | 34
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน รปู แบบกลมุ่ สนใจ วิชาการทาแจว่ บองสมุนไพร จานวน 6 ชวั่ โมง ภาพกจิ กรรม หน้า | 35
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน รูปแบบกลมุ่ สนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชว่ั โมง ภาพประกอบกจิ กรรมโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชีพ รูปแบบกลมุ่ สนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร ดาเนินการระหว่างวันที่ 13 - 14 ธนั วาคม 2564 ณ ศาลาประชาคมบา้ นบญุ ทนั หมู่ 1 ตาบลบญุ ทัน อาเภอสุวรรณคหู า หนา้ | 36
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน รูปแบบกลุม่ สนใจ วิชาการทาแจ่วบองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง วิทยากรบรรยายพร้อมฝึกปฏบิ ตั ิ หนา้ | 37
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง หนา้ | 38
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง หนา้ | 39
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน รปู แบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ช่วั โมง การทาแจ่วบองสมุนไพร หนา้ | 40
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง หนา้ | 41
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง หนา้ | 42
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง หนา้ | 43
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง หนา้ | 44
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง หนา้ | 45
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง หนา้ | 46
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง หนา้ | 47
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน รปู แบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจ่วบองสมุนไพร จานวน 6 ชั่วโมง ภาคผนวก หน้า | 48
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน รูปแบบกลุ่มสนใจ วชิ าการทาแจว่ บองสมนุ ไพร จานวน 6 ชั่วโมง หนา้ | 49
Search
Read the Text Version
- 1 - 49
Pages: