สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วชิ าการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ช่วั โมง บทที่ 1 บทนา ความเปน็ มาและความสาคัญ จากสถานการณ์เศรษฐกิจและความเหลือ่ มลา้ ทมี่ อี ยู่ในสงั คมปจั จุบัน แสดงถงึ ฐานเศรษฐกจิ ของประเทศ ท่ียงั ไมเ่ ขม้ แขง็ ประชาชนระดับฐานรากยงั มรี ายได้น้อย สว่ นใหญ่มอี าชพี ภาคการเกษตร จึงไมม่ โี อกาสท่จี ะเติบโต เป็นชนชน้ั กลาง การขาดโอกาสและความรเู้ กี่ยวกับทักษะดา้ นอาชพี ทาให้เกิดปญั หาในการประกอบอาชีพ เพอ่ื สร้างรายไดจ้ ากผลผลิตของตนเอง จากสภาวะการดังกลา่ ว รัฐบาลจึงไดใ้ หค้ วามสาคัญตอ่ การพัฒนาประเทศดา้ น เศรษฐกิจพื้นฐานของประชาชนกลุม่ ดังกลา่ ว โดยพยายามท่ีจะส่งเสริมอาชีพเพ่ือสร้างงานและผลผลิต ทีม่ ีคุณภาพ ให้แก่ประชาชนอย่างท่วั ถึงและทกุ ระดบั ชัน้ ซงึ่ การพัฒนาประเทศจะตอ้ งพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ ของประเทศ ดังนน้ั การจดั การศึกษาจงึ เป็นปัจจยั สาคญั อันจะนาไปสู่การบรรลเุ ป้าหมายในการพฒั นาประเทศอย่างมคี ุณภาพ และยัง่ ยืน เพ่อื ตอบสนองยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ดา้ นการสร้างโอกาส และ ความเสมอภาคทาง สังคมเพือ่ เร่งกระจายโอกาสการพัฒนาให้ทว่ั ถงึ ลดความเหล่ือมลา้ ไปสู่สังคมเสมอภาค และเปน็ ธรรม สานกั งาน กศน. ซ่ึงเปน็ หน่วยงานทางการศกึ ษาทมี่ สี ถานศึกษาตงั้ อยใู่ นระดบั อาเภอ/เขต จานวน 928 แหง่ และ กศน. ตาบล จานวน 7,424 แหง่ ได้ขับเคลอื่ นโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน เพอื่ พฒั นาความรู้และฝึกอาชพี แก่ประชาชน โดยการจดั กจิ กรรมฝกึ อาชีพภายใต้ 5 หลกั สตู รกลุ่มอาชีพไดแ้ ก่ กลุ่มอาชพี ดา้ นเกษตรกรรม กล่มุ อาชีพด้าน อตุ สาหกรรมหรือหตั ถกรรม กลุ่มอาชพี ดา้ นพาณชิ ยกรรมและบริการ กลมุ่ อาชีพด้านความคดิ สรา้ งสรรค์ และกลุ่ม อาชพี เฉพาะทาง เชน่ การจักสานจากไม้ไผ่ ฯลฯ โดยมุ่งหวงั ให้ประชาชน ทเ่ี ขา้ รบั การฝึกอาชพี สามารถนาความรู้ ไปใชป้ ระกอบอาชีพได้ มกี ารพัฒนาตอ่ ยอดผลติ ภัณฑ์/บริการ ใหม้ ีคุณภาพ เปน็ การสรา้ งมลู คา่ เพ่ิม มสี ง่ เสริมการ ขายและขยายชอ่ งทางการจาหนา่ ยสนิ ค้าไปยังผูบ้ รโิ ภคท่ีหลากหลาย ภายใต้ Brand กศน. ในอนาคต กศน.ตาบลบุญทนั สังกัดศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณ คูหา ไดส้ ารวจความต้องการด้านอาชีพของชมุ ชนตาบลบุญทนั เรียบร้อยแล้ว จงึ ไดด้ าเนนิ งานตามโครงการขนึ้ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ 1.เพอ่ื ให้ประชาชนมีความรู้และทักษะในการประกอบอาชพี สามารถสร้างรายไดท้ ่ีมนั่ คง มง่ั คง่ั 2.เพ่อื ใชใ้ นการตัดสนิ ใจประกอบอาชพี ให้สอดคล้องกบั ศกั ยภาพของตนเอง ชมุ ชน สงั คม และสิง่ แวดล้อม อย่างมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 3.เพอ่ื ให้ประชาชนมีโครงการประกอบอาชีพเพ่อื ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาอาชพี ของตนเอง ขอบเขตของโครงการ 1. ดา้ นเน้ือหา โครงการน้ีมุง่ ใหผ้ ู้เรยี นกลมุ่ เป้าหมายทเี่ ข้ารบั การอบรมสามารถนา ความรู้ ทกั ษะ และประสบการณก์ ารเรยี นรตู้ า่ งๆ ไปใช้ในการประกอบอาชพี ท่ีเปน็ การเข้าสอู่ าชีพ สร้างงาน สร้าง รายได้ หรือพฒั นาอาชพี หรือต่อยอดอาชพี เดิม กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หน้า 1
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วชิ าการจักสานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชวั่ โมง 2. ดา้ นระยะเวลา ระยะเวลาในการดาเนินงาน วันท่ี 13 ธันวาคม 2564 ถึง 19 ธนั วาคม 2564 ณ บา้ นเลขที่ 101 หมทู่ ่ี 3 ตาบลบญุ ทนั อาเภอสุวรรณคหู า จังหวดั หนองบัวลาภู 3. ด้านประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง ประชาชนตาบลบญุ ทัน จานวน 12 คน และครู กศน.ตาบลบญุ ทนั จานวน 2 คน ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รบั - ประชาชนตาบลบุญทันกลุม่ เปา้ หมายมีอาชีพใหม่มีการพฒั นาต่อยอดอาชีพเดมิ เพิม่ ทักษะการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ มรี ายได้ มงี านทา มีความมนั่ คง ย่ังยนื - เพือ่ ใหผ้ เู้ ขา้ รับการอบรมสามารถนาความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ไปใช้ในการ ประกอบอาชีพท่ีเปน็ การเขา้ สูอ่ าชีพ สรา้ งงาน สรา้ งรายได้ หรือพฒั นาอาชีพ หรอื ต่อยอดอาชีพเดิม ตัวชว้ี ดั ตวั ช้วี ดั ผลผลติ ร้อยละ 80 ของประชาชน ตาบลบญุ ทนั ท่ีเขา้ รว่ มโครงการมอี าชพี มงี านทา มีรายได้ทีม่ นั่ คงยิ่งขนึ้ ตัวช้วี ัดผลลพั ธ์ ประชาชนตาบลบุญทัน ทเ่ี ข้าร่วมโครงการมีความรู้ ทักษะ และประสบการณก์ ารเรียนรตู้ ่างๆ ไปใชใ้ นการ ประกอบอาชพี ทีเ่ ปน็ การเขา้ สอู่ าชพี สรา้ งงาน สรา้ งรายได้ หรอื พฒั นาอาชพี หรอื ตอ่ ยอดอาชีพเดิม กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 2
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลกั สูตรพฒั นาอาชีพ วชิ าการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชวั่ โมง บทที่ 2 เอกสารทเี่ กี่ยวข้อง ความหมายและความสาคญั ของการพัฒนาอาชพี โดยท่วั ไป อาชีพ (Career) หมายถงึ ส่งิ ทีบ่ ุคลากรทาเพ่อื การดารงชีวติ โดยใชค้ วามรู้ ทักษะ และ ความสามารถของตนที่ได้รบั จากการศึกษาและฝึกอบรม เช่น อาชพี แพทย์ พยาบาล นักวทิ ยาศาสตร์ การจกั สานจากไม้ไผ่ ชา่ งไม้ เป็นต้น แต่ในท่นี ี้จะให้ความหมายของคาวา่ อาชีพ คือ “ลาดบั ของตาแหนง่ ซึง่ บคุ คลดารง อยู่ภายในชว่ งชวี ติ ของเขา” (De Cenzo & Robbins, 1994) ดังนนั้ บุคลากรทุกคนทีท่ างานโดยไดร้ ับหรือไม่ ได้รับคา่ ตอบแทน จะถอื วา่ เปน็ บคุ คลท่ีมอี าชีพท้ังสนิ้ การพฒั นาอาชีพ (Career development) จึงหมายถึง กระบวนการซึง่ องคก์ ารจดั ขึน้ เพ่ือชว่ ยเหลือ บคุ ลากรในการจดั การกับอาชีพของตนเอง (De Cenzo & Robbins, 1994) ซงึ่ อาจจะได้แกก่ ารประเมนิ ศักยภาพของบคุ คล กาหนดเสน้ ทางอาชีพท่ีเหมาะสม วางแผน และฝึกอบรม เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหบ้ ุคลากรมีกร พัฒนาและความกา้ วหน้าในงาน ประโยชน์ของการพฒั นาอาชพี การพัฒนาอาชีพของบคุ ลากร มีความสาคญั และก่อให้เกิดประโยชน์แกอ่ งคก์ ารหลายประการ ดงั ตอ่ ไปนค้ี อื - ช่วยรบั ประกนั วา่ บคุ ลากรทม่ี คี วามสามารถจะอยกู่ บั องคก์ ารตอ่ ไป บคุ ลากรทมี่ ีความสามารถ และประสบการณ์ ย่อมเปน็ ท่ตี ้องการขององคก์ ารทกุ แห่งและบุคคลเหลา่ นีส้ ามารถที่จะหางานใหมไ่ ด้อยา่ งรวดเร็ว และงา่ ยดาย หากพวกเขารู้สกึ วา่ องคก์ ารไมไ่ ด้ใหค้ วามสาคัญแก่พวกเขา และไมไ่ ด้รับนโยบายหรือมาตรการใด ๆ ท่จี ะส่งเสรมิ ความก้าวหนา้ ในอาชีพแก่พวกเขาแล้ว โอกาสทพ่ี วกเขาจะลาออกจากงานก็มีสูง ย่งิ ขึน้ ดงั นัน้ โครงการด้านการพัฒนาอาชพี จะเปน็ สิ่งเหน่ียวร้ังมใิ หบ้ คุ ลากรที่มคี วามสามารถเหลา่ นอ้ี อกจาก องค์การไป - ชว่ ยใหอ้ งคก์ ารสามารถดงึ บคุ ลากรทมี่ คี วามสามารถสงู เขา้ มาทางานไดม้ ากขนึ้ บคุ คลทม่ี ี ความสามารถสงู มกั จะพจิ ารณาเลอื กทางานกบั องคก์ าร ซึง่ ใหค้ วามสาคัญต่ออนาคตและความกา้ วหนา้ ของ บุคลากร ดงั น้นั หากองค์การใดทม่ี ีโครงการด้านการพัฒนาอาชีพ กย็ ่อมจะมีความได้เปรียบในการดงึ ดูดบุคลากร เหล่าน้ันใหเ้ ขา้ มาทางานกบั ตนเอ - ช่วยสรา้ งภาพลกั ษณท์ ด่ี ีใหก้ บั องคก์ าร องค์การท่ใี ห้ความสาคญั และความสนใจแก่อนาคตและ ความก้าวหนา้ ของบุคลากร ย่อมจะทาใหท้ ัง้ บคุ ลากรภายในองคก์ ารและบคุ ลากรภายนอกองค์การน้นั ด้วย ความรู้สึกท่ดี ี ซงึ่ จะชว่ ยสง่ เสริมภาพลักษณ์และชื่อเสียงใหอ้ งค์การเป็นอยา่ งดี - ช่วยใหบ้ ุคลากรมีการพัฒนาตนเองและลดความลา้ สมยั การทางานในตาแหน่งหนงึ่ ๆ อนั อาจจะทาใหบ้ ุคลากรล้าหลังตอ่ ความเปลยี่ นแปลงตา่ ง ๆ ดงั นั้น การพฒั นาอาชีพจะช่วยให้บคุ ลากรมีการพฒั นา ตนเองอย่ตู ลอดเวลา ทง้ั นเ้ี พราะบคุ ลากรเหล่าน้ันจาเป็นตอ้ งเพ่มิ พนู ความร้แู ละความสามารถต่าง ๆท่จี าเปน็ กอ่ นทจี่ ะสามารถก้าวข้นึ สูต่ าแหนง่ อน่ื ๆ กศน.ตาบลบุญทนั ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 3
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ วิชาการจักสานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง ความหมายและความสาคญั ของอาชพี อาชีพ หมายถงึ การทางานซึง่ มีผลตอบแทนออกมาในรูปของรายไดเ้ พื่อบคุ คลนาไปดารงชีพทั้งของตนและครอบครวั งานทีท่ นั้นตอ้ งเปน็ งานทส่ี จุ รติ กอ่ ให้เกิดประโยชน์แกส่ ังคมโดยส่วนรวม โดยไมท่ าใหต้ นเอง และผ้อู ืน่ เดอื ดร้อน ความสาคญั ของการประกอบอาชีพ 1. ทาให้มรี ายได้ประจาเล้ียงตนเองและครอบครวั โดยซ้ือหรอื จดั หาสงิ่ จาเป็นสาหรบั การดารงชีวิต 2.ทาให้มีโอกาสใชค้ วามรู้ความสามารถทมี่ อี ยู่ทางานใหเ้ ป็นประโยชนต์ ่อสังคมและประเทศชาติ 3.ทาใหม้ ีโอกาสสรา้ งช่อื เสียงใหแ้ ก่ตนเองและวงศต์ ระกูล เป็นทยี่ อมรับของบุคคลในสังคม 4.ทาใหม้ ีหลกั ฐานมน่ั คง เป็นทเ่ี คารพนบั ถือของบคุ คลอืน่ ๆ 5.ทาให้รู้จักใช้เวลาวา่ ให้เป็นประโยชน์ จะไดไ้ มป่ ระพฤตติ นไรส้ าระ 6.ทาให้บุคคลเกิดความภาคภมู ใิ จในตนเอง ทีส่ ามารถพึ่งตนเองได้ และยงั ทาประโยชน์แก่สังคมโดยสว่ นรว่ มดว้ ย เรอ่ื ง ความสาคญั และความจาเปน็ ในการพฒั นาอาชพี ความสาคญั และความจาเป็นของการพฒั นาอาชพี วเิ คราะหล์ กั ษณะขอบขา่ ยการงานอาชีพ กระบวนการ ทางาน การบริหารจดั การของอาชีพตา่ ง ๆ ในชมุ ชน สงั คม ประเทศ และโลก เพอ่ื การพฒั นาอาชีพจากการงาน อาชพี ต่างๆ การพฒั นาอาชพี หมายถึง การพัฒนาอาชีพที่ดาเนินอยใู่ ห้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด การพฒั นาอาชีพที่ มปี ระสทิ ธิภาพจะต้องพัฒนาความรู้ ความสามารถในการวางแผนกาหนดยทุ ธศาสตรต์ า่ งๆ ทง้ั ดว้ ยตนเองและ กระบวนการกลุ่ม โดยเฉพาะผปู้ ระกอบอาชีพเดียวกัน เพือ่ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ซงึ่ กันและกัน แลว้ นาไปตดั สินใจเพ่ือ นาไปสู่การปฏิบตั ิ นอกจากน้คี วรมีการบรหิ ารจดั การแบบองคร์ วมบูรณาการปัจจัยตา่ งๆ ให้เปน็ หนึ่งเดียว สามารถ เกื้อหนุนซ่งึ กนั และกันได้ เชน่ ทนุ ทางสังคม ทรัพยากรตา่ งๆ ได้แก่ ความรู้ ความสามารถในกระบวนการผลิต และ กระบวนการการตลาด การพฒั นาอาชพี มคี วามสาคัญและจาเปน็ ดงั น้ี 1. ด้านเศรษฐกจิ จากการแขง่ ขันทางธรุ กิจทม่ี กี ารแขง่ ขนั ทางการตลาดสูง จงึ เกิดการรวมกลุ่ม การค้าตา่ งๆ เชน่ เขตการคา้ เสรอี าเซียน เขตเศรษฐกิจยุโรป ดงั น้นั การพัฒนาอาชีพจึงจาเป็นต้องมีการพัฒนา สินคา้ ให้สามารถเขา้ สู่ตลาดการแข่งขัน และเป็นทย่ี อมรับของตา่ งประเทศ 2. ดา้ นสังคม ประเทศที่มเี ศรษฐกจิ ดีจะส่งผลใหส้ ภาพของสังคมดขี น้ึ เชน่ ปราศจากโจรผู้ร้าย 3. ดา้ นการศึกษา ครอบครัวทีม่ ีเศรษฐกิจดีจะสามารถสง่ บุตรหลานเขา้ รับการศึกษาได้ตามความ ต้องการ และในอนาคตเยาวชนเหลา่ นก้ี จ็ ะเป็นประชากรทีม่ ีคุณภาพ มีความสามารถในการประกอบอาชพี ส่งผล ต่อเศรษฐกจิ สงั คมให้มีความเจริญกา้ วหน้าต่อไป ความสาคญั ในการพัฒนาอาชพี การพัฒนาอาชพี เป็นส่งิ ทีส่ าคญั ในวิถีชีวติ และการดารงชีพในปัจจบุ นั เพราะอาชีพเปน็ การสร้างรายได้เพอ่ื เล้ยี งชพี ตนเองและครอบครัว อาชพี กอ่ ใหเ้ กดิ ผลผลติ และการบริการ ซง่ึ สนองตอบต่อความต้องการของผบู้ รโิ ภค กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา หน้า 4
สรุปผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วชิ าการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง และท่ีสาคญั คือ การพัฒนาอาชพี มคี วามสาคญั ต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติ ความสาคัญจงึ เปน็ ฟันเฟืองในการ พัฒนาคุณภาพชวี ิต เศรษฐกิจ ชุมชน ส่งผลถงึ ความเจริญกา้ วหนา้ ของประเทศชาติ อาชีพกบั การพัฒนาอาชพี เรื่องราวของอาชพี อาชพี ก็คือการหาเลี้ยงชวี ิตให้มีกินมอี ยู่ การเข้ารบั ศกึ ษาของทุกคน ๆ ก็เพ่ือนาไป ประกอบอาชพี แตใ่ นยุคปจั จบุ นั อาชพี มีมากมาย และอาชีพใหม่กน็ า่ สนใจมากข้ึน ในการพฒั นาอาชพี ของแตล่ ะ อาชพี นน้ั มแี นวทางทต่ี ่างกนั ไปตามสายงาน แต่ทุกอาชพี สามารถพัฒนาได้ท้ังหมด นักเรยี นนกั ศกึ ษาจบใหมๆ่ บาง คนอาจมีแนวคดิ แปลกๆ ที่ไมเ่ หมอื นคนอน่ื เชน่ อยากทาอาชีพอิสระ ซึง่ คนปัจจุบันคดิ แบบน้ีมากขน้ึ เพราะเหตุ ทีว่ า่ อาชีพในยุคปจั จุบนั ไมถ่ ูกตีกรอบแคบๆ อีกตอ่ ไป อาชีพนัน้ ไม่ว่าจะเปน็ อาชีพอะไรกต็ าม ทง้ั อาชพี ท่ใี ชแ้ รงกาย อาชีพท่ีใช้แรงสมอง สามารถพัฒนาได้ทง้ั นน้ั ทศิ ทางการพฒั นาอาชพี 1. ตอ้ งรูจ้ กั อาชีพของตนเองให้ดพี อ 2. รทู้ ศิ ทางของอาชีพของตน 3. รูโ้ ลกท่เี ปลย่ี นแปลงตลอดเวลา 4. วางแผนชวี ิตและการทางาน 5. กาหนดนโยบายการพัฒนาอาชพี ของตนเอง (มีวิสยั ทัศน์) 6. ตง้ั เป้าหมาย แบ่งระยะให้เหน็ เปน็ รูปธรรม 7. วางกลยุทธพฒั นาอาชีพ 8. ลงมือปฏบิ ตั ิ 9. ประเมินผลให้เป็น 10. ปรบั ปรุง 11. พฒั นา แนวทางการพฒั นาอาชพี ทกี่ ล่าวมาท่ีจรงิ แลว้ กค็ ือหลักพืน้ ฐานทั่วไป ซ่ึงคนประกอบอาชีพนน้ั ๆ ควรรู้ เช่น อาชพี แมบ่ ้าน สามารถพฒั นาได้จนถงึ ขัน้ สงู และเป็นอาชีพท่ีทรงคณุ คา่ ได้ เรียกว่า แม่บา้ นมอื อาชพี อาชพี แม่บา้ นสมัยก่อน คือ อาชีพคนรบั ใช้ แตใ่ นยุคปจั จุบันอาชพี คนรบั ใช้หรือคนทาความ สะอาดภายในบา้ นไมใ่ ช่อาชีพท่ีตอ้ ยต่าอีกตอ่ ไป เพราะปจั จุบันมีบรษิ ัทเปิดใหบ้ รกิ ารสาหรับลูกค้าที่ต้องการ แม่บ้านแบบมืออาชพี ไป ช่วยเหลอื ในการจัดการภายในบ้านหรอื อาคารตา่ ง ๆ ตลอดจนถึงโรงแรม ซ่ึงการเพ่มิ มลู ค่าและคณุ ค่าคือการพัฒนาอาชีพของตนเอง การยกระดบั แม่บา้ นสกู่ ารเป็นแมบ่ า้ นมืออาชีพ อย่างเชน่ การจัดโต๊ะ การวางช้อน การวางผ้าสาหรบั โตะ๊ รับประทานอาหาร มแี นวปฏบิ ตั ทิ ีเ่ ปน็ แบบแผนสากล การมคี วามรู้ในด้านนีจ้ งึ มีความจาเปน็ และในเรือ่ งอืน่ ๆ อีก อย่างเชน่ การปผู ้าปเู ตยี งให้ตงึ ก็มีเทคนิค การทาความสะอาดเครือ่ งใช้ตา่ งๆ อยา่ งเชน่ เสอื้ ผ้าไหม สทู หรอื เส้ือผ้า ที่ทาจากขนสัตว์ก็มีเทคนคิ การดูแลพิเศษกวา่ ผา้ ชนิดอืน่ ๆ นีค้ อื แนวทางการพฒั นาอาชีพให้เป็นแบบมืออาชีพ แมบ่ ้านมืออาชีพสมัยน้ตี อ้ งชานาญในเรอ่ื งที่กล่าวมา และมลู ค่าของค่าจ้างจงึ สูงกวา่ แมบ่ า้ นแบบธรรมดา เพราะมี กศน.ตาบลบุญทัน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หน้า 5
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วชิ าการจักสานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชัว่ โมง ความรูค้ วามชานาญพิเศษ ค่าแรงจึงสงู ตามไปดว้ ย เหน็ ดว้ ยหรือไมว่ ่าอาชพี ท่ธี รรมดาแต่ไม่ธรรมดามูลคา่ กเ็ พ่ิมขึน้ ได้ เขาเรยี กวา่ การพัฒนาสายงานของตนเอง ฉะน้ันทกุ สายอาชพี สามารถพัฒนาได้หมด มคี วามกา้ วหน้าไดท้ ุกหนทกุ แห่ง อยา่ ได้น้อยใจวา่ อาชีพของเราไม่มีคา่ ไมม่ รี าคา ถ้าเราใสค่ วามรู้ ใสค่ วามรกั กบั งาน งานทีเ่ ราทากจ็ ะชว่ ยพฒั นาคุณภาพชวี ิต และ เจรญิ ก้าวหนา้ ไดต้ ลอดอาชพี ทกุ อาชีพมหี นทางพฒั นาในแบบของตน ความจาเปน็ ในการพัฒนาอาชพี ความจาเปน็ ในการพฒั นาอาชพี ในชมุ ชน สังคม ประเทศ และโลก ทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง วิเคราะห์ความ เปน็ ไปได้ตา่ ง ๆ ได้แก่ การลงทุน การตลาด กระบวนการผลติ การขนสง่ การบรรจุหบี ห่อ การแปรรูป และ ผลกระทบต่อชุมชน และสง่ิ แวดลอ้ ม ความร้คู วามสามารถของตนเองต่อสง่ิ ท่ีต้องการพัฒนา การลาดบั ความสาคญั ของการพฒั นาที่มคี วามเป็นไปได้ เพ่อื นาขอ้ มลู ท่ีวิเคราะห์ไว้นาไปปรกึ ษาผรู้ ู้ การตดั สนิ ใจเลอื กพฒั นาอาชพี ท่ี เหมาะสมกับตนเอง โดยวเิ คราะห์ความพรอ้ มของตนเอง ความต้องการของตลาด เทคนิคความรู้ ทกั ษะในอาชีพ และความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม ประโยชนใ์ นการพฒั นาอาชพี 1. มกี ารใชท้ นุ ทางสงั คมอยา่ งคมุ้ ค่า เน่ืองจากสามารถใชว้ สั ดุทดแทน ใช้วัสดุทอ้ งถิ่นลดการขนส่ง และทุนบางชนิดสามารถใช้ร่วมกนั ได้ เช่น เคร่ืองมือทางการเกษตรสามารถใช้ในกิจกรรมการเกษตรด้วยกนั เปน็ ตน้ 2. มกี ารเพิม่ ผลผลิต เนือ่ งจากมีการพฒั นาสนิ คา้ ทต่ี รงความตอ้ งการของลูกค้าทาให้ยอด จาหนา่ ยมากข้นึ 3. มีการขยายตลาด สามารถขยายเครือขา่ ยด้านการตลาดให้กวา้ งขึ้น โดยผผู้ ลิตจะตอ้ งมกี าร ประชาสัมพนั ธอ์ ย่างต่อเนือ่ ง 4. พฒั นารปู แบบผลิตภัณฑเ์ พือ่ บรรจหุ บี หอ่ ต้องพัฒนารูปแบบอยตู่ ลอดเวลาทาให้สินคา้ มกี าร พัฒนารูปแบบผลิตภณั ฑ์หรือบรรจุภณั ฑ์อยู่เสมอ 5. เกดิ เศรษฐกจิ ชุมชน จากการท่มี ีการพฒั นาผลติ ภัณฑ์สินคา้ ท้ังด้านคุณภาพและปริมาณทาให้ ตลาดกว้างขวางขนึ้ เศรษฐกจิ ชุมชนเจริญเตบิ โต 6. ชมุ ชนเข้มแข็ง เมื่อชมุ ชนมีเศรษฐกจิ ดีขึ้น ส่งผลต่อการพฒั นาคุณภาพชีวิตดีขึ้น ครอบครัว อบอุ่น ลกู หลานไดเ้ รยี นหนงั สือ ปราศจากโจรผ้รู า้ ยและยาเสพตดิ 7. มีอาชีพมั่นคง เน่ืองจากผปู้ ระกอบอาชพี มกี ารพฒั นาอาชพี อยู่ตลอดเวลาในด้านการใชท้ นุ พฒั นารปู แบบ จัดหาตลาดใหก้ วา้ งขวาง ทาให้มีอาชพี มั่นคง ประเภทของภมู ิปญั ญา 1. ภมู ปิ ัญญาพนื้ บ้าน เปน็ องคค์ วามรู้ ความสามารถและประสบการณ์ทสี่ ่งั สมและสืบทอดกนั มา เปน็ ความสามารถและศกั ยภาพในเชิงการแกป้ ญั หา การปรับตัวเรยี นรแู้ ละสืบทอดไปสคู่ นรุ่นต่อไปเพื่อการ ดารงอยู่ของเผ่าพันธ์ุ จึงเปน็ มรดกทางวฒั นธรรมชาติ ของเผา่ พนั ธห์ุ รอื เปน็ วิถีชวี ติ ของชาวบ้าน กศน.ตาบลบญุ ทัน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 6
สรุปผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชพี วชิ าการจักสานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง 2. ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น เป็นวธิ ีการปฏบิ ัตขิ องชาวบ้าน ซ่ึงไดม้ าจากประสบการณ์ แนวทางแกป้ ัญหาแตล่ ะ เรื่องแต่ละประสบการณ์ แตล่ ะสภาพแวดลอ้ มซง่ึ จะมเี งอ่ื นไขปัจจยั เฉพาะแตกตา่ งกันไปนามาใช้แกไ้ ขปญั หาโดย อาศยั ศกั ยภาพท่มี อี ยโู่ ดยชาวบ้านคดิ เองเป็นความรู้ทสี่ รา้ งสรรคแ์ ละมีส่วนเสรมิ สรา้ งการผลติ หรอื เป็นความรูข้ อง ชาวบา้ นที่ผา่ นการปฏิบตั มิ าแลว้ อย่างโชกโชน เป็นส่วนหนงึ่ ของมรดกทางวฒั นธรรม เป็นความรทู้ ่ปี ฏิบตั ไิ ดม้ ีพลัง และสาคัญยง่ิ ชว่ ยใหช้ าวบา้ นมชี ีวิตรอดสรา้ งสรรคก์ ารผลติ และช่วยในด้านการทางาน เปน็ โครงสร้างความรู้ทีมี หลกั การ มเี หตุ มีผลในตัวเอง 3. ภมู ปิ ํญญาทอ้ งถ่นิ เปน็ ความรทู้ ีเ่ กิดจากประสบการณ์ในชีวิตของคน ผ่านกระบวนการศกึ ษาสังเกตคดิ ว่าวเิ คราะหจ์ นเกดิ ปญั ญาและตกผลึกเป็นองค์ความรูท้ ปี่ ระกอบกนั ขนึ้ มาจากความรู้เฉพาะหลายๆเรื่องจดวา่ เป็น พนื้ ฐานขององค์ความรู้สมัยใหม่ท่ีจะช่วยในการเรียนรู้ การแก้ปญั หาจดั การและการปรบั ตวั ในการดาเนินชีวิตของ เรา ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ เปน็ ความร้ทู ี่มีอยทู่ ัว่ ไปในสงั คมชุมชนและในตัวผู้รู้เองจึงควรมกี ารสบื ค้น รวบรวม ศึกษา ถ่ายทอดพัฒนาและนาไปใชป้ ระโยชน์ได้อยา่ งกว้างขวาง 4.ภูมิปญั ญาไทย หมายถึง องคค์ วามรู้ความสามารถ ทกั ษะของคนไทยทเี่ กดิ จากการสง่ เสริมประสบการณ์ท่ผี า่ นกระบวนการ การเลือกสรร เรยี นรู้ปรุงแตง่ และถ่ายทอดสืบต่อกนั มา เพ่ือใช้แก้ไขปัญหาและพัฒนาวิถชี ีวติ ของคนไทยให้สมดลุ กับสภาพแวดล้อมและ เหมาะสมกับยุคสมัย ลกั ษณะของภมู ิปัญญาท้องถ่นิ ลักษณะสาคัญของภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น พอสรปุ ไดด้ ังน้ี 1.เป็นเรือ่ งราวของการใชค้ วามรู้ ทกั ษะ ความเชือ่ และพฤตกิ รรม 2. แสดงถงึ ความสมั พันธร์ ะหว่าง คนกบั คน คนกบั ธรรมชาติ คนกับสิง่ เหนือธรรมชาติ 3. เปน็ องค์รวมหรือกิจกรรมทกุ อย่างใรวิถชี วี ิต 4. เปน็ เร่อื งของการแกไ้ ขปญั หา การจัดการ การปรับตวั การเรยี นรู้เพอ่ื ความอยรู่ อดของบคุ คลชุมชนและ สังคม 5.เปน็ แกนหลกั หรือกระบวนทศั น์ในการมองชีวิตเปน็ พน้ื ความรใู้ นเร่อื งต่างๆ กศน.ตาบลบุญทนั ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 7
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รพฒั นาอาชีพ วชิ าการจักสานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง การจัดทาโครงงานอาชีพ บทนา โครงงานอาชีพ เป็นการจดั การเรียนรูง้ านอาชีพท่ีใหผ้ เู้ รียนไดล้ งมอื ปฏิบตั ิจริงอยา่ งครบวงจร ตง้ั แต่ การวเิ คราะห์ การวางแผน การปฏบิ ตั ิงาน การจดั การกบั ผลผลิต การจาหนา่ ย การบริการ รวมท้งั รายไดจ้ ากการ จาหนา่ ยผลผลิตหรือบริการ โดยเน้นการผลิต การบริการ การบริหารจดั การ การตลาด และการใชเ้ ทคโนโลยีใน การปฏบิ ตั ิงาน ลกั ษณะของงานอาชพี ตามโครงงานท่ีปฏบิ ตั ติ ้องเป็นงานอาชพี สุจริตท่ีมอี ยูใ่ นท้องถิ่น หรืองาน อาชพี ทเี่ ป็นความตอ้ งการของผเู้ รียน เป็นงานอาชพี ทมี่ ลี กั ษณะเป็นงานผลิตและหรืองานบริการ การปฏิบตั ิงาน อาชพี ผเู้ รียน ตอ้ งเป็นผูป้ ฏิบตั ิเองท้งั หมด ต้งั เริ่มตน้ จนส้ินสุดการปฏิบตั ิงาน โดยมคี รู อาจารยท์ าหน้าที่เป็นที่ ปรึกษาและการปฏบิ ตั โิ ครงงานอาชพี ให้ปฏิบตั ิรวมกนั เป็นกลุม่ 3 - 5 คน โดยใช้ บา้ น สถานประกอบการ สถานประกอบอาชีพ รวมทง้ั สถานศึกษา เป็นสถานที่ปฏบิ ตั ิงานและในการจดั ทาโครงงานอาชพี ของผูเ้ รียน ควรมผี ูท้ รงคณุ วฒุ หิ รือผปู้ ระสบความสาเร็จในสาขาอาชพี ที่มีอยูใ่ นท้องถนิ่ รว่ มวางแผนและให้คาปรึกษาใน การปฏบิ ตั ิงานอาชีพของผเู้ รียนดว้ ย ความเป็ นมา ในการสอนโครงการหรือโครงงานในสถานศกึ ษา นกั การศกึ ษาปฐมวยั สว่ นมากกลา่ วถงึ การใช้ โครงการกบั เดก็ บางคนแนะนาวา่ การสอนแบบโครงการเป็นวธิ ีการหน่ึงในหลายวธิ ีที่สามารถสง่ เสริมให้เด็ก รู้จกั ตดั สินใจ เห็นผลการกระทาทช่ี ดั เจนเป็นรูปธรรม และเดก็ จะมปี ระสบการณ์จากการปฏิสัมพนั ธ์กบั บุคคล วตั ถุสิ่งของและสิ่งแวดลอ้ มการสอนแบบโครงการมมี านานแลว้ มใิ ชเ่ป็นเร่ืองใหมใ่ นการศึกษา แต ่ กลบั มาไดร้ ับความสนใจอยา่ งมากในประเทศสหรฐั อเมริกาและอีกหลายประเทศ ทง้ั น้ีเน่ืองมาจากผลการวจิ ยั ที่ ทาให้เขา้ ใจยง่ิ ข้ึนวา่ เดก็ เรียนรูอ้ ยา่ งไร และความจาเป็นท่ีจะตอ้ งพฒั นาทกั ษะการคิดแกป้ ัญหาของเดก็ เพอื่ ให้ ทนั กบั ความเปล่ยี นแปลงท่ีทา้ ทายของสังคม เทคโนโลยี โครงการ หมายถึง การวางแผนดาเนินงานหรือกจิ กรรมลว่ งหนา้ โดยมกี ารกาหนดวตั ถปุ ระสงค์ ขน้ั ตอนการดาเนินงานอยา่ งชดั เจน กาหนดการใชท้ รพั ยากรอยา่ งคมุ้ คา่ เพ่ือนาไปสูเ่ ป้าหมายทีต่ อ้ งการ อาชีพ หมายถงึ งานทท่ี าเป็นประจา เพอื่ ใหม้ รี ายไดใ้ นการเล้ยี งชพี แบง่ เป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก ่ 1. อาชีพอสิ ระ หมายถงึ อาชีพท่ีผปู้ ระกอบอาชีพเป็นเจา้ ของกจิ การ มกี ารวางแผน มกี ารจดั การ และ ดาเนินการดว้ ยตนเอง แบง่ เป็น 2 ลกั ษณะของการประกอบอาชีพ คอื อาชพี ผผู้ ลติ เป็นอาชพี ท่ผี ดู้ าเนิน กจิ การ/ผูป้ ระกอบอาชีพ ผลติ ชนิ้ งานเพ่ือจาหนา่ ย กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 8
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชว่ั โมง อาชีพบริการ เป็นอาชีพท่ีผดู้ าเนินการอานวยความ สะดวก หรือใหบ้ ริการแกผ่ บู้ ริโภค เชน่ ชา่ งตดั ผม ชา่ งซอ่ มวทิ ยโุ ทรทศั น์ บริกร ฯลฯ 2. อาชพี รับจา้ ง หมายถงึ อาชพี ทีผ่ ปู้ ระกอบอาชพี ไมไ่ ดเ้ ป็นเจา้ ของกจิ การ แตท่ างานภายใตร้ ะบบ หรือ ขอ้ กาหนดของหนว่ ยงาน หรือนายจา้ งทต่ี นสังกดั หลักการประกอบอาชีพอิสระ 1. เป็นการจดั การศกึ ษาเพอ่ื ชวี ติ ชมุ ชน และสังคม 2. สง่ เสริมการพ่งึ ตนเอง และความมอี สิ ระแกต่ นเอง 3. สง่ เสริมใหม้ คี วามสามารถในการจดั การ การนาความรู้ และประสบการณม์ าประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชวี ติ ประจาวนั 4. สง่ เสริมใหม้ กี ารเรียนรู้จากสภาพปัญหา ส่ิงแวดลอ้ ม และการปฏิบตั จิ ริง 5. สง่ เสริมใหม้ กี ารตดั สินใจในการเลือกอาชีพท่สี อดคล้องความสภาพทอ้ งถิ่น ความสนใจ ความถนัด และความสามารถของตนเอง การสง่ เสริมใหน้ กั เรียนไดส้ มั ผสั กบอาชีพด้วยการทาโครงงานอาชีพ จะพฒั นา นกั เรียนให้เจริญเตบิ โต เป็นพลเมอื งดี มคี ณุ ภาพ สามารถปรับตวั ใหด้ ารงชีวิตอยูอ่ ยา่ งมคี วามสุข ในภาวะท่ี สังคมและเศรษฐกจิ ท่เี ปลย่ี นแปลงไปอยา่ งรวดเร็ว ประโยชน์ต่อนักเรียน หน้า 9 1. ไดป้ ระสบการณก์ ารทางาน 2. รู้จกั การทางานเป็นกลมุ่ 3. มองเห็นชอ่ งทางประกอบอาชีพ 4. ไดน้ าความรู้ที่ไดร้ ับมาใชใ้ นการประกอบอาชพี 5. มกี ารวางแผนและปฏิบตั งิ านอยา่ งเป็นระบบ 6. ไดเ้ รียนรูค้ ณุ ธรรม จริยธรรมจากการปฏบิ ตั ิจริง 7. ไดร้ บั การพฒั นาใหเ้ กดิ กระบวนการคิดเป็น ทาเป็น แกป้ ัญหาเป็น กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา
สรุปผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรพัฒนาอาชพี วชิ าการจักสานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชวั่ โมง โครงงานอาชีพ จะสง่ เสริมให้นักเรียนดาเนินการ นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ จะประกอบอาชีพหลากหลาย ตา่ งกนั ตามความถนัด และความสนใจ นักเรียนจะไดร้ ับผลการเรียนเหมอื นรายวชิ า อ่ืน ๆ และใน 1 รายวชิ า จะ มอี าจารย์ที่ปรึกษาหลายคน ตามกลมุ่ อาชพี ทนี่ กั เรียนสนใจปฏิบตั ิ สาหรับเร่ือง ท่คี วรจะใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนรู้ เชน่ 1. อาชีพตา่ ง ๆ ทีม่ ใี นปัจจุบนั 2. คณุ ธรรม จริยธรรมของผปู้ ระกอบอาชพี 3. การเลือกอาชพี ทส่ี อดคลอ้ งกบความตอ้ งการของผูบ้ ริโภค และความถนดั ของตนเอง 4. กระบวนการดาเนินงานของอาชพี ทีส่ นใจเลอื ก 5. การจดั การกจิ การธุรกจิ อาชพี ให้ประสบความสาเร็จ 6. การทางานกลมุ่ / การทางานรว่ มกนั / การบริหารบคุ คล 7. เทคนิคการเพม่ิ ประสิทธิภาพของการประกอบอาชพี 8. การจดั การผลผลติ 9. เทคนิคการสื่อสาร (พดู ฯลฯ) กบั ผบู้ ริโภค (ลูกคา้ ) 10. การคดิ ตน้ ทุน การกาหนดราคาจาหนา่ ย / คา่ บริการ 11. ระบบบญั ชีอยา่ งงา่ ยสาหรบั กจิ การขนาดเล็ก 12. เทคนิคการโฆษณา ประชาสมั พนั ธ์อาชีพของตนสูผ่ บู้ ริโภค 13. การนาผลผลิตสูผ่ บู้ ริโภค และการบริการหลงั ขาย กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 10
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วชิ าการจักสานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชวั่ โมง ความสาคัญของโครงงานอาชีพ โครงงานมวี ตั ถุประสงคห์ ลากหลายประการ เชน่ ตอ้ งการให้นกั เรียนมคี วามรูพ้ นื้ ฐานท่ีจาเป็นเกยี่ วกบั ความเป็นอยใู่ นชีวติ ประจาวนั สามารถปฏบิ ตั ิงานไดถ้ กู ตอ้ งตามกระบวนการ ประหยดั ปลอดภยั และได้ ประโยชน์ โดยรู้จกั วเิ คราะห์และวางแผนการทางาน สามารถปรบั ปรุงและพฒั นางานมวี สิ นั ทศั น์ที่กวา้ งไกล รกั การทางาน ซ่งึ เป็นรากฐานของการดารงชพี สามารถพ่ึงพาตนเองไดร้ วมท้งั มคี ุณธรรมในการทางาน สามารถ ทางานรว่ มกบั ผูอ้ ื่นได้ เป็นตน้ นกั เรียนจะตอ้ งศกึ ษาและฝึกปฏบิ ตั ิจริงเพมิ่ เติม โดยอาศยั ความรูพ้ ืน้ ฐานจาก รายวชิ าอ่ืน ๆ ในหมวดวชิ าการงานและอาชพี นักเรียนมสี ิทธิเสรีภาพอยา่ งเตม็ ทีใ่ นการตดั สิ นใจเลือกอยา่ งฉลาด ท่ีจะดาเนินงานตามความถนดั และความสนใจของตน ในสว่ นท่ีเกยี่ วกบั โรงเรียนและครูอาจารย์น้ัน จะได้ ประโยชน์อยา่ งยงิ่ จากการเปิดโอกาสให้นกั เรียนไดฝ้ ึกปฏบิ ตั จิ ริงตามจดุ หมายของหลกั สูตรและการจดั กจิ กรรม การเรียนการสอน ท้งั ในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน ซ่ึงจะกอ่ ให้เกดิ การประสานสมั พนั ธ์อยา่ งแนน่ เหนียว ระหวา่ งนกั เรียนและครูอาจารยป์ ระจาวชิ าตา่ ง ๆ รวมทง้ั การใชเ้ คร่ืองมอื และวสั ดอุ ุปกรณ์ตา่ ง ๆ ให้เป็น ประโยชน์อยา่ งคมุ้ คา่ นอกจากน้ีในสิ่งทเี่ กยี่ วกบั ทอ้ งถน่ิ และชมุ ชนยอ่ มจะไดป้ ระโยชน์อยา่ งมากมาย ในแงข่ อง การให้นกั เรียนไดม้ โี อกาสรว่ มพฒั นาอาชีพตา่ ง ๆ ในทอ้ งถน่ิ ซ่งึ เป็นผลพลอยไดท้ ตี่ ามมาก็คือ ทาให้นักเรียนเกดิ ความรกั ความภาคภูมใิ จในท้องถน่ิ ของตนเองดว้ ย ในสว่ นของการจดั การเรียนการสอนและการจดั กจิ กรรมตามหลักสูตรข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2544 ดงั น้ี คอื 1. ดา้ นผเู้ รียน กอ่ ใหเ้ กดิ คณุ คา่ ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก ่ชว่ ยสรา้ งความหวงั ใหมใ่ นการริเริ่มงาน สรา้ งเสริม ประสบการณจ์ ากการปฏิบัตจิ ริง ไดม้ โี อกาสทดสอบความถนัดของตนเอง กอ่ ใหเ้ กดิ ความรักความเขา้ ใจและ ความสมั พนั ธ์อนั ดีภายในกลมุ่ พรอ้ มทง้ั เกดิ ความรู้ทางวชิ าการทกี่ วา้ งขวางข้นึ และเกดิ ความภาคภูมใิ จในความ สาเร็จของงาน 2. ดา้ นสถาบนั และครูอาจารยท์ ี่ปรึกษากลุม่ กอ่ ให้เกดิ คณุ คา่ ทางการประสานงาน โดยเกดิ ความเขา้ ใจ ท่ตี รงกนั วา่ การเรียนการสอนในปัจจุบนั ข้ึนอยูก่ บั การ ปฏิบตั จิ ริงในโครงงานของผเู้ รียนมากกวา่ ท่ีจะเรียนอยใู่ น หอ้ งเรียนเทา่ น้ัน 3. ดา้ นชมุ ชน / ทอ้ งถิน่ กอ่ ให้เกดิ คณุ คา่ ทางการเผยแพรแ่ ละประชาสัมพนั ธ์ชมุ ชน อีกทง้ั ชมุ ชนไดม้ ี สว่ นรว่ มในการขยายผลทางความรู้ความสามารถทีม่ ีอยู่ ใหแ้ กผ่ เู้ รียนรุน่ ตอ่ ไป โดยสร้างนิสัยรักการทางานเกดิ งานอาชพี ที่หลากหลายและมกี ารพฒั นาอาชพี ในชมุ ชนดว้ ย หลกั การสาคัญของการเขียนโครงงานอาชีพ กศน.ตาบลบุญทัน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 11
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝึกอาชพี ชุมชน หลักสูตรพัฒนาอาชพี วิชาการจักสานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง การปฏบิ ตั งิ านตามโครงงานอาชีพของนกั เรียน เพื่อใหบ้ รรลุตามจุดหมายของหลกั สูตร และจุดมงุ่ หมาย การจดั ทาโครงงาน จงึ ไดก้ าหนดหลกั การท่สี าคญั เกย่ี วกบั โครงงาน ไวด้ งั น้ี 1. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ มสี ิทธิและเสรีภาพในการตัดสินใจเลือกทาโครงงานอาชพี ใด กไ็ ด้ จานวน 1 โครงงาน หรือมากกวา่ กไ็ ด้ ตามความถนัด ความสนใจ และความพร้อมของนกั เรียนในกรณีที่ โครงงานมปี ริมาณงานมากกส็ ามารถเลือกได้โดย ตดั แบง่ ข้นั ตอนการปฏิบตั งิ านออกเป็น 2 สว่ นให้ ปฏิบตั ิ 2 ภาคเรียน หรือจะเลือกโครงงานอาชพี ใหม ่ โดยไมซ่ ้ากนั ในแตล่ ะภาคเรียนตลอดปี การศึกษากไ็ ด้ 2. นักเรียนในห้องเรียนเดยี วกนั ควรเลือกโครงงานอาชพี แตกตา่ งกนั ไดต้ ามความถนัด ความพร้อมและ ความสนใจ ตลอดจนคานึงถึงตามความจาเป็นในการใชป้ ระโยชน์ชิ้นงานหรือรายไดจ้ ากการ ปฏบิ ตั ิงาน 3. ให้คานึงถึงทรัพยากรในทอ้ งถน่ิ ท้งั ทรัพยากรทีใ่ ชเ้ ป็นวตั ถดุ บิ ในการผลิตช้ินงานและทรัพยากรบุคคล ในทอ้ งถ่นิ ตลอดจนภมู ปิ ัญญาชาวบา้ นเพ่ือการอนุรักษ์และพฒั นาเทคโนโลยีในทอ้ งถ่นิ 4. นักเรียนสามารถนาทกั ษะการทางานพืน้ ฐานหลายประเภทรวมไวใ้ นโครงงานเดยี วได้ เชน่ โครงงาน ปลูกกระเจี๊ยบ ใชท้ กั ษะการทางานดา้ นเกษตรและคหกรรมเกี่ยวกบั คณุ คา่ ทางโภชนาการมาผสมผสานกนั ได้ 5. ในแตล่ ะโครงงานอาจกาหนดคาบเวลาแตกตา่ งกนั ได้ตามความยากงา่ ยของลกั ษณะงาน 6. ครูอาจารยผ์ สู้ อนหรือท่ีปรึกษา อาจจดั ใหม้ สี ื่อการสอนในลกั ษณะใบงานหรือใบความรูห้ รือขอ้ มลู ทางวชิ าการ เพอ่ื ชว่ ยให้นกั เรียนสามารถปฏิบตั งิ านไดด้ ว้ ยตนเองกไ็ ด้ 7. ในการประเมนิ โครงงาน ให้ครูอาจารย์ผสู้ อนหรือท่ปี รึกษาเป็ นผูป้ ระเมนิ โดยคานึงถึงความรู้ ความ เขา้ ใจ กระบวนการทางาน เจตคติในการปฏิบตั งิ าน และการนาชน้ิ งานไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจาวนั และ ตอ้ งประเมนิ ผลการเรียนเป็น รายภาคเรียน สาหรับผเู้ รียนท่ีเลอื กหลายโครงงานใน ๑ ภาคเรียน ให้ประเมนิ ผล โดยให้คะแนนแตล่ ะโครงงานกอ่ น แลว้ นามารวมกนั เพอ่ื ตดั สินใหร้ ะดับคะแนนโดยคานึงถึงคาบเวลาของแต่ ละโครงงาน โดยจดั สดั สว่ นน้าหนกั โครงงานตา่ งกนั ตามคาบเวลา กศน.ตาบลบญุ ทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 12
สรุปผลโครงการ ศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลักสตู รพฒั นาอาชพี วชิ าการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชว่ั โมง องค์ประกอบของโครงงานอาชีพ ถา้ พจิ ารณาโครงสรา้ งของรา่ งกายมนุษย์ พบวา่ ประกอบดว้ ยสว่ นตา่ ง ๆ ทส่ี าคญั คือ ศรี ษะ ไหลล่ าตวั แขน ขา มอื และเทา้ นอกจากน้ีรา่ งกายของมนุษย์ยงั มอี วยั วะอนื่ ๆ อกี มากมายทปี่ ระกอบกนั ทาใหเ้ ป็นรา่ งกาย ของมนุษย์สมบรู ณ์ เชน่ หู ตา ปาก น้ิวมอื อวยั วะสืบพนั ธุ์ ฯลฯ ซ่งึ ทาให้มนุษยส์ ามารถดารงชวี ิตอยูไ่ ดใ้ นสงั คม โครงงานกม็ ลี กั ษณะเชน่ เดยี วกนั คอื หมายถึงระบบโครงสรา้ งและองค์ประกอบตา่ ง ๆ ทง้ั หมดของกจิ การ หรือ ชิน้ งานตา่ ง ๆ ทเ่ี ราจะตอ้ งดาเนินการ หรือผลิตใหส้ าเร็จลุลว่ งไปตามจดุ ประสงคท์ ่ีกาหนดไว้ องคป์ ระกอบที่ สาคญั ของโครงงาน มดี งั น้ี 1. เจา้ ของโครงงานหรือผจู้ ดั ทาโครงงาน อาจจะเป็นบุคคลคนเดียวหรือเป็นกลุม่ บคุ คลกไ็ ด้ สาหรับการ ปฏบิ ตั ิงานตามโครงงานอาชพี ทห่ี ลกั สูตรกาหนดให้นักเรียนจะตอ้ ง ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั กลุม่ ละ ๓-๕ คน 2. ความสาคญั ของโครงงาน หรือของงานน้นั ๆ วา่ มเี หตุผลอะไร มคี วามจาเป็น มคี ณุ คา่ และประโยชน์ มากน้อยเพียง 3. จุดประสงค์ของโครงงาน ระบุวา่ มงุ่ ทีจ่ ะใหเ้ กดิ ผลอะไร อยา่ งไร หรือแกใ่ คร ใหม้ ปี ริมาณและ คณุ ภาพมากน้อยเพียงใด 4. เคร่ืองมอื วสั ดอุ ปุ กรณท์ ีใ่ ช้ สถานท่ปี ฏิบตั ิงาน งบประมาณคา่ ใชจ้ า่ ยหรืองบลงทนุ กาหนดวา่ มี อะไรบา้ ง มากน้อยเพียงใด และจะจดั ซอื้ หามาได้ อยา่ งไร 5. วธิ ีดาเนินการ ระบุวา่ มขี น้ั ตอนสาคญั ๆ ในเรื่องใดทีจ่ ะตอ้ งนามาพจิ ารณา และปฏบิ ตั ติ ามระยะเวลาที่ กาหนดไว ้ 6. แผนปฏิบตั ิการ ระบกุ จิ กรรมตา่ ง ๆ ทจ่ี ะตอ้ งปฏิบตั ิโดยละเอยี ดตามลาดบั ตามระยะเวลาทีก่ าหนด ไว ้ 7. ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั ระบุส่ิงที่คาดหวงั วา่ จะเกดิ ข้นึ จากการดาเนินงานตามข้นั ตอนตา่ ง ๆ ท่ีกา หน 8. การตดิ ตามผลและประเมนิ ผล จะตอ้ งมวี ธิ ีการตรวจสอบเป็นระยะ ๆ กอ่ นปฏบิ ตั โิ ครงงาน ขณะ ปฏิบตั งิ านและเมอ่ื ส้ินสุดการปฏิบตั ิโครงงาน เพื่อประโยชน์ในการแกไ้ ขปรับปรุงและพฒั นางานตอ่ ไป ประเภทของโครงงานอาชีพ หน้า 13 กศน.ตาบลบญุ ทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วชิ าการจักสานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ช่ัวโมง โครงงาน แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก ่โครงงานตามสาระการเรียนรู้ และ โครงงานตามความสนใจ 1. โครงงานตามสาระการเรียนรู้ เป็นการใชบ้ รู ณาการรว่ มกบั การเรียนรู้ ทกั ษะ และเป็นพ้นื ฐานในการกาหนด โครงงาน การปฏิบตั ิ 2. โครงงานตามความสนใจ เป็นโครงงานท่ผี เู้ รียนกาหนดข้นั ตอน ความถนัด ความสนใจ ความตอ้ งการ โดยใชท้ กั ษะความรู้ จาก กลมุ่ สาระการเรียนรูต้ า่ ง ๆ มาบูรณาการ เป็นโครงงาน โครงงานอาชพี เป็นกจิ กรรมทางการศึกษา ที่นาเนื้อหาสาระทางวชิ าการ งานและอาชีพ รวมท้งั วชิ าอื่น ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง ทง้ั โดยตรงและโดยออ้ ม ท้งั ทางดา้ นทฤษฎแี ละปฏิบตั มิ าจดั เป็นระบบ เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียนไดฝ้ ึก ปฏบิ ตั ิงานในลกั ษณะของโครงการ โครงงานแบง่ ออกเป็น 4 ประเภท คอื 1. โครงงานประเภททดลอง (Experimental Research Project) โครงงานประเภทน้ี เป็นโครงงานที่เกดิ ข้นึ จากการศึกษาหลักการตา่ ง ๆ ทางวชิ าการแลว้ นามาทดลอง คน้ ควา้ เพอ่ื ยืนยนั ทฤษฎหี รือหลกั การหรือตอ้ งการทราบแนวทางเพิ่มคณุ คา่ และการใชป้ ระโยชน์ให้มากยิง่ ข้นึ เชน่ - การศกึ ษาสูตรอาหารเล้ยี งปลาน้าจืด - การทดลองปลูกพืชในน้ายาหรือการปลกู พชื โดยไมใ่ ชด้ นิ - การควบคมุ การเจริญเติบโตของไมป้ ระดบั ประเภทเถา - การใชฮ้ อร์โมนกบั กงิ่ มะลิ - การศึกษาขนมอบชนิดตา่ ง ๆ โครงงานประเภททดลอง (Experimental Research Project) เป็นโครงงานทีต่ อ้ งทาการทดลองเพือ่ ศึกษา ตวั แปรใดตวั แปรหน่ึง (เรียกวา่ “ตวั แปรตน้ ” ) วา่ จะมผี ลตอ่ ตวั แปรอีกตัวแปรหน่ึง (เรียกวา่ “ตวั แปร ตาม” ) อยา่ งไร แตใ่ นความเป็นจริง จะมตี วั แปรหลาย ๆ ตวั ท่มี ผี ลตอ่ ตวั แปรท่ีศกึ ษา ในการทดลอง ผทู้ าการ ทดลองจะตอ้ งเลอื กตวั แปรที่สาคญั ทีส่ ุดเพยี งตวั เดียวมาศึกษา ดงั น้ันจงึ ตอ้ งทาการควบคมุ ตวั แปรอื่น ๆ เพอื่ กศน.ตาบลบุญทนั ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หน้า 14
สรุปผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง ไมใ่ ห้เกดิ ผลแทรกซอ้ นตอ่ ตวั แปรตาม ป้องกนั ไมใ่ หผ้ ลการศึกษามคี วามคลาดเคลื่อน ตวั แปรทเ่ี ราตอ้ งควบคุม เรียกวา่ “ตวั แปรควบคมุ ” กลา่ วโดยสรุป โครงงานแบบทดลองจะตอ้ งมกี ารระบุตวั แปร 3 ประเภท ดงั น้ี ตวั แปรตน้ คอื สาเหตหุ รือเหตุของการทดลอง ตวั แปรตาม คือ ผลทเี่ กดิ ข้ึน หรือผลทเ่ี กดิ จากการเปลย่ี นแปลง ตวั แปรควบคมุ คือ ส่ิงทตี่ อ้ งควบคมุ ใหเ้ หมอื นๆกนั ตัวอย่าง ในความเป็นจริง (ตามธรรมชาต)ิ อธิบายการเจริญเตบิ โตของตน้ ไมว้ า่ “ตน้ ไมส้ ามารถเจริญเติบโตไดด้ ีน้ัน จะตอ้ งรดน้า พรวนดนิ ใสป่ ๋ ุย และต้งั ไวใ้ นทม่ี แี สงแดด” สามารถระบุตวั แปรตา่ ง ๆ ได้ ดงั น้ี ตวั แปรตาม คือ การเจริญเติบโตของตน้ ไม้ ตวั แปรตน้ คือ การรดน้า พรวนดิน แสงแดด คาอธิบาย การรดน้า พรวนดิน และ แสงแดด สง่ ผลตอ่ การเจริญเตบิ โตของตน้ ไม้ การระบุตวั แปรควบคุม ถา้ เราตอ้ งการศกึ ษาวา่ ตวั แปรตน้ ตวั ใด ระหวา่ ง การรดน้า พรวนดนิ แสงแดด จะสง่ ผลตอ่ การ เจริญเตบิ โตของตน้ ไมม้ ากกวา่ กนั เรากต็ อ้ งทาการศกึ ษาทลี ะตัวแปรตน้ โดยทาการควบคุมตวั แปรตน้ อืน่ ๆ อกี 2 ตวั เชน่ เราตอ้ งการศกึ ษาเฉพาะตวั แปรการรดน้าวา่ จะมีผลตอ่ การเจริญเติบโตของตน้ ไมม้ ากน้อย เพยี งใด เรากต็ อ้ งออกแบบการทดลองโดยการควบคุมตวั แปรอีก 2 ตวั คือ พรวนดนิ และ แสงแดด โดยให้ตน้ ไมท้ ี่ทาการทดลองท้งั หมดไดร้ ับการพรวนดนิ และ แสงแดด ในปริมาณท่ี เทา่ กนั หรือถา้ ไมใ่ ห้กไ็ มใ่ หเ้ หมอื น ๆ กนั การพรวนดิน และ แสงแดด เรียกวา่ ตัวแปรควบคมุ ข้นั ตอนในการทาโครงงานทดลอง หน้า 15 1. กาหนดปัญหา 2. ตง้ั จุดประสงคใ์ นการศึกษา กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการจักสานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ช่ัวโมง 3. ต้งั สมมตุ ฐิ าน 4. ออกแบบการทดลอง 5. ดาเนินการทดลอง 6. เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 7. บนั ทึกผลการทดลอง 8. แปลผล 9. สรุปผลการทดลอง 2. โครงงานประเภทสารวจ โครงงานประเภทน้ี เป็นโครงงานการศึกษาสารวจข้อมลู สาหรับดาเนินงานพฒั นาปรับปรุงเพ่ิมเติม ผลงานและสง่ เสริมผลผลิตใหม้ คี ณุ ภาพดียิ่งข้นึ ขอ้ มลู ดงั กลา่ ว อาจมผี ูจ้ ดั ทาข้นึ แตม่ กี ารแปรเปลี่ยนไป แลว้ ตอ้ งทาการสารวจจดั ทาข้นึ ใหมใ่ ห้ทนั สมยั อยูเ่สมอ เชน่ - การสารวจราคาผลผลิตเกษตรในทอ้ งถ่นิ - การสารวจราคาสินคา้ อุปโภคบริโภคในทอ้ งถ่นิ - การสารวจแหลง่ วชิ าการและสถานประกอบการในท้องถน่ิ - การสารวจงานบริการในทอ้ งถนิ่ - การสารวจปริมาณการปลกู ขา้ วโพดในทอ้ งถิ่น - การสารวจปริมาณการเล้ยี งไกเ่น้ือในทอ้ งถนิ่ - การสารวจปริมาณการเล้ียงหา่ นในทอ้ งถ่นิ - การสารวจคลองแมร่ าพนั สุโขทยั 3. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ กศน.ตาบลบญุ ทนั ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หน้า 16
สรุปผลโครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลักสูตรพัฒนาอาชีพ วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง โครงงานประเภทน้ีเป็นโครงงานสร้างสรรคส์ ิ่งประดษิ ฐ์ใหม ่ ๆ ข้นึ มาหลงั จากทีไ่ ดศ้ ึกษาทางทฤษฎี หรือพบเห็นผลงานของผอู้ นื่ แลว้ เกดิ ความคิดสร้างสรรค์ทจี่ ะพฒั นาตอ่ ไป จงึ ประดษิ ฐ์คิดคน้ ให้สามารถใช้ ประโยชน์ไดด้ ีย่ิงข้นึ เชน่ การควบคมุ ระบบการให้น้าในแปลงเพาะชา - การประดษิ ฐ์หัวฉีดพน่ น้าในแปลงปลกู ผัก - การประดษิ ฐ์ของชารว่ ย - การประดษิ ฐ์เคร่ืองรบั วทิ ยุ - การประดษิ ฐ์เครื่องเสีย - การออกแบบเส้ือผา้ ชาย หญงิ 4. โครงงานประเภทพฒั นาผลงาน โครงงานประเภทน้ีเป็นโครงงานท่ีเกดิ จากการศกึ ษาเน้ือหาทางวชิ าการ หรือหลกั ทฤษฎเี กย่ี วกบั วชิ าการงานและอาชีพหรือวชิ าสามญั ตา่ ง ๆ แลว้ นามาปรบั ปรุงและพฒั นาใหส้ อดคลอ้ งกบั แนวทางทฤษฎี ดงั กลา่ ว สง่ ผลให้มผี ลงานเป็นรูปธรรมยิง่ ข้นึ ตวั อยา่ งเชน่ เมอื่ นกั เรียนไดศ้ ึกษาทางทฤษฎเี กย่ี วกบั พลังงานแสงอาทติ ย์ : โครงงานสรา้ งเครื่องอบกลว้ ยดว้ ยแสงแดด ตูอ้ บเนื้อสัตวต์ า่ ง ๆ เครื่องทาน้า รอ้ น ฯลฯ พชื สมนุ ไพร : โครงงานการใชย้ าปราบศตั รูพชื ดว้ ยพชื สมนุ ไพร กาจดั เพล้ยี หนอนแมลงปีกแข็ง ฯลฯ การถนอมอาหาร : โครงงาน การแปรรูปผลผลิต การทาผกั กาดดองสามรส การทาไส้กรอก การดอง พชื ผกั ผลไมต้ า่ ง ๆ ฯลฯ การเลี้ยงปลา : โครงงานการเล้ยี งปลาสวยงาม การเปลยี่ นสีปลาออสกา้ ลกั ษณะของโครงการ 1. มจี ดุ มงั่ หมายเฉพาะหน่ึงจุดมงุ่ หมาย มกี ารกาหนดวตั ถปุ ระสงคอ์ ยา่ งชดั เจน มผี ลผลิต (output) กศน.ตาบลบุญทนั ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 17
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ วิชาการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชั่วโมง บริการและผลลพั ธ์ (outcome) ที่มลี กั ษณะเฉพาะ 2. เป็นการปฏิบตั งิ านชว่ั คราว (temporary) มเี วลาเร่ิมตน้ – ส้ินสุด 3. ตอ้ งการทรัพยากรหลายประเภท ไดแ้ ก ่บุคลากร วสั ดุ อปุ กรณ์ โปรแกรมสาเร็จรูป 4. ควรมผี สู้ นบั สนุนงบประมาณ/ลูกคา้ 5. เกย่ี วขอ้ งกบั ความไมแ่ นน่ อน เพราะมลี กั ษณะเฉพาะ ยากลาบากในการกาหนดวตั ถุประสงคใ์ ห้ ชดั เจน ทง้ั เวลา / คา่ ใชจ้ า่ ย ข้นั ตอนการปฏบิ ัตขิ องนกั เรยี น 1. นกั เรียนรวมกลมุ่ กบั เพื่อนทาโครงการอาชีพ 2. ศึกษาขอ้ มลู รายละเอียดงานอาชพี ที่สนใจ 3. ปรึกษา อ.ทป่ี รึกษาและผมู้ ีประสบการณ์ 4. เขียนโครงการอาชีพ >> ระดมทุน 5. ประชมุ ปรึกษาหารือ << ดาเนินการตามโครงการ >> บนั ทกึ การปฏิบตั ิงาน 6. สรุปรายงานผลการปฏบิ ตั ิโครงการอาชีพ การพจิ ารณาจดั ทาโครงงานอาชีพ การพจิ ารณาจดั ทาโครงงาน เป็นการดาเนินงานท่ตี อ้ งตดั สินใจทาโครงงานใหบ้ รรลุตามจุดประสงค์ท่ี กาหนดไว้ มอี งคป์ ระกอบสาคญั ไดแ้ ก ่ 1. การเลือกหัวขอ้ เร่ืองโครงงาน 2. การศกึ ษาขอ้ มลู โครงงาน 3. สังเกตสภาพแวดลอ้ ม ข้ันตอนการทาโครงงาน – โครงงานอาชีพ กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 18
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชีพชุมชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชวั่ โมง ขน้ั ตอนท่ี 1 การคดิ และเลอื กหัวเร่ือง เป็นการหาหวั ขอ้ ในการทดลอง ในการทีอ่ ยากทราบ ขน้ั ตอนท่ี 2 การศึกษาเอกสารทีเ่ กยี่ วข้อง รวมไปถงึ การขอคาปรึกษา ขอแนะนา หรือขอ้ มลู ตา่ ง ๆ จากผคู้ ณุ วฒุ ิท่ีเกย่ี วขอ้ ง ข้นั ตอนท่ี 3 การเขียนเคา้ โครงของโครงงาน โดยทวั่ ไปเคา้ โครงของโครงงานจะมหี ัวขอ้ ดงั ตอ่ ไปน้ี หัวข้อ รายละเอียดทตี่ ้องระบุ 1. ช่ือโครงงาน ทาอะไร กบั ใคร เพือ่ อะไร 2. ชอ่ื ผทู้ าโครงการ ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ 3. ชือ่ ทีป่ รึกษาโครงงาน ผทู้ รงคณุ วฒุ ิตา่ ง ๆ 4. ระยะเวลาดาเนินการ ระยะเวลาดาเนินโครงานตง้ั แตต่ น้ จนจบ 5. หลกั การและเหตผุ ล เหตุผลและความคาดหวงั 6. จดุ หมาย / วตั ถุประสงค์ ส่ิงท่ตี อ้ งการให้เกดิ เมอ่ื สิ้นสุดการทาโครงงาน 7. สมมตุ ฐิ านของการศึกษาโครงงาน ส่ิงทค่ี าดวา่ จะเกดิ เมอ่ื ส้ินสุดการทาโครงงาน 8. ข้นั ตอนการดาเนินงาน ข้นั ตอนการทางาน วสั ดุ อปุ กรณ์ สถานที่ 9. ปฏิบตั โิ ครงงาน วนั เวลา กจิ กรรมดาเนินงาน เร่ิมจนส้ินสุด 10. ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั สภาพของผลทต่ี อ้ งการใหเ้ กดิ ท้งั ทีเ่ ป็น ผลผลติ กระบวนการ และผลกระทบ 11. บรรณานุกรม ชือ่ เอกสาร ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากแหลง่ ตา่ ง ๆ กศน.ตาบลบุญทัน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 19
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วชิ าการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชว่ั โมง ขน้ั ตอนท่ี 4 การปฏิบตั ิโครงงาน เป็นการดาเนินงานตามแผนทไี่ ดก้ าหนดไวใ้ นเคา้ โครงของโครงงาน และตอ้ งมกี ารจดบนั ทกึ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ อยา่ งละเอียด จดั ทาอยา่ งเป็นระบบ เป็นระเบียบ เพ่ือที่จะไดใ้ ชเ้ ป็นขอ้ มลู ตอ่ ไป ขน้ั ตอนที่ 5 การเขียนรายงาน ควรใชภ้ าษาที่เขา้ ใจงา่ ย กระชบั ชดั เจน และครอบคลุมประเดน็ สาคญั ของโครงงาน โดยสามารถ เขียนใหอ้ ยใู่ นรูปแบบตา่ ง ๆ เชน่ การสรุป รายงานผล ซ่งึ ประกอบไปดว้ ยหัวขอ้ ตา่ ง ๆ เชน่ บทคดั บอ่ บทนา เอกสารทีเ่ กย่ี วขอ้ ง เป็นตน้ ข้นั ตอนที่ 6 การแสดงผล เป็นการนาเสนอผลงาน สามารถจดั ไดห้ ลายรูปแบบ เชน่ การจดั นิทรรศการ หรือ สิ่งตีพิมพ์ การ สอนแบบเพื่อนสอนเพ่ือน ตามความเหมาะสมของโครงงาน ข้อจากัดของการจัดทาโครงงาน การจดั ทาโครงงานจะประสบความสาเร็จได้ มขี อ้ จากดั ดงั น้ี 1. การจดั โครงงานตา่ ง ๆ ท้งั ผสู้ อนและผเู้ รียน จะตอ้ งมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจในเร่ืองทท่ี าคอ่ นขา้ งมาก ตอ้ ง มกี ารศึกษาคน้ ควา้ เอกสาร ความรู้ตา่ ง ๆ เพื่อใชเ้ ป็นขอ้ มลู สนบั สนุน ระหวา่ งทาการทดลอง 2. เรื่องท่ที าตอ้ งเป็นส่ิงทีใ่ กลต้ วั ผลท่ีไดค้ วรเกดิ ประโยชน์แกต่ วั ผเู้ รียน หรือบุคคลในทอ้ งถิ่น 3. เร่ืองที่ทาตอ้ งเหมาะสมกบั วยั ของผเู้ รียน ผเู้ รียนสามารถทดลองได้ 4. การออกแบบทดลอง จะตอ้ งครอบคลมุ จดุ หมายที่กาหนดไว้ 5. ระหวา่ งทาโครงงาน จะตอ้ งมกี ารแกไ้ ขปัญหา ผเู้ รียนจะตอ้ งมคี วามรู้ความเขา้ ใจเรื่องของ กระบวนการแกป้ ัญหา และกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสารวจวิเคราะห์ก่อนตดั สินใจเลือกโครงการ กอ่ นการตดั สินเลือกทาโครงการใดๆ จาเป็นท่จี ะตอ้ งใชก้ ารคดิ วเิ คราะห์ วนิ ิจฉัย อยา่ งรอบคอบดว้ ยการ สารวจขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วข้องใหม้ ากท่ีสุด เพ่ือป้องกนั ความผดิ พลาดในการตดั สินใจ เพ่อื ให้เกดิ ประโยชน์สูงสุด กศน.ตาบลบญุ ทัน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 20
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชีพ วชิ าการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชัว่ โมง ดงั น้ัน ควรสารวจและวเิ คราะห์ขอ้ มลู ตา่ งๆทเี่ ป็นองค์ประกอบสาคญั คอื สารวจขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตัวนักเรียน สารวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั สงั คมส่ิงแวดลอ้ ม และสารวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั โครงการตา่ ง ๆ 1. สารวจขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง สารวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตวั นักเรียน ในการสารวจขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเองน้นั มีปัจจยั หลายประการ เชน่ สตปิ ัญญา ความสามารถ ความถนัด ความสนใจ ทกั ษะและความพร้อมในวชิ าสาขาอาชพี รวมท้งั วชิ าอื่น ๆ ท่ีเกยี่ วขอ้ ง โดยเฉพาะ วชิ าโครงการท่ี เลอื กจะเป็นปัจจยั พื้นฐานทส่ี าคญั ในการพฒั นาหรือจดั ทาโครงการให้มีประสิทธิภาพมากยง่ิ ข้ึน 2. การสารวจขอ้ มลู เกยี่ วกบั สภาพแวดลอ้ มและสังคม ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ น้นั มสี ว่ นผลกั ดนั ใหโ้ ครงการสาเร็จลุลว่ งไปไดด้ ว้ ยดี เชน่ ความเห็นชอบของบคุ คล รอบตวั คนในครอบครวั อาจารย์ทปี่ รึกษา เพอ่ื นรว่ มงานเป็นตน้ ทง้ั น้ียงั รวมไปถึงความตอ้ งการของคนใน ทอ้ งถ่นิ แหลว่ งความรู้ตา่ งๆที่จะเป็นความรูเ้ พิ่มเติม แหลง่ จดั หาวสั ดอุ ปุ กรณ์สาธารณปู โภคที่เอื้ออานวยความ สะดวกในการเดนิ ทางและการขนสง่ เป็นตน้ 3. สารวจขอ้ มลู เกย่ี วกบั โครงการ โครงการมสี ว่ นสง่ เสริมสนับสนุนผลกั ดนั ใหเ้ กดิ เป็นแนวความคดิ และประสบการณอ์ ยา่ งหลากหลาย ซ่งึ สามารถศึกษาและสารวจขอ้ มลู ไดจ้ ากแหลง่ ตา่ ง ๆ เชน่ แหลง่ วชิ าชพี ฟาร์มเล้ยี งสตั ว์ สวนผลไม้ วนอทุ ยาน ศูนยธ์ ุรกจิ การคา้ ศนู ย์ศิลปาชีพ ฯลฯ นอกจากน้ีขอ้ มลู สามารถนามาได้ จากการบรรยาย ประชมุ สมั มนา รายการวทิ ยโุ ทรทศั น์ การศึกษาผลงานของผอู้ นื่ หรือจากการสนทนา สมั ภาษณ์ จากบคุ คลทมี่ คี วามรูเ้ ฉพาะดา้ นน้ัน ๆ ท้งั น้ีการสงั เกตสิ่งตา่ งๆทพี่ บเห็นในชวี ติ ประจาวนั หรือจาก งานอดเิ รกจะเป็นขอ้ มลู และประสบการณ์ ท่มี คี ณุ ภาพ การเขยี นโครงการฝึ กอาชีพ หลักการสาคัญในการเขยี นโครงการ การปฏิบตั ิงานตามโครงงานอาชีพของผเู้ รียน เพอ่ื ใหบ้ รรลตุ ามจุดหมานของหลกั สูตรและจุดมงุ่ หมาย การจดั ทาโครงการ จึงไดก้ าหนดหลกั การทสี่ าคญั เกยี่ วกบั โครงการไว้ ดงั น้ี 1. ใหผ้ เู้ รียนแตล่ ะกลมุ่ มเี สรีภาพในการตดั สินใจ เลอื กทาโครงงานอาชีพใดกไ็ ด้ ตามความถนัด ความ สนใจ และคามพรอ้ มของผเู้ รียน 2. ผเู้ รียนในหอ้ งเรียนเดยี วกนั ควรเลอื กโครงการอาชพี แตกตา่ งกนั ไดต้ ามความถนัด ความพรอ้ ม และ ความสนใจ ตลอดจนคานึงถงึ ความจาเป็นในการใชป้ ระโยชน์ช้นิ งาน หรือรายไดจ้ ากการปฏิบัติงาน กศน.ตาบลบญุ ทัน ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 21
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลักสตู รพัฒนาอาชีพ วชิ าการจักสานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ช่ัวโมง 3. ใหค้ านึงถงึ ทรัพยากรในทอ้ งถิ่น ท้งั ทรพั ยากรทีใ่ ชเ้ ป็นวตั ถดุ บิ ในการผลิตชิ้นงาน และทรัพยากร บุคคลในทอ้ งถ่ิน ตลอดจนภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น เพ่อื การอนุรกั ษ์ และพฒั นาเทคโนโลยีในทอ้ งถ่นิ 4. ผเู้ รียนสามารถนาทกั ษะการทางาน พ้ืนฐานหลายประเภท รวมไวใ้ นโครงการเดียวได้ 5. ในแตล่ ะโครงการ อาจกาหนดคาบเวลาแตกตา่ งกนั ได้ ตามความยากงา่ ยของลกั ษณะงาน 6. ครูอาจารย์ ผสู้ อน หรือทีป่ รึกษา อาจจดั สื่อการสอนในลกั ษณะของใบงาน หรือใบความรู้ หรือขอ้ มลู ทางวชิ าการ เพื่อชว่ ยให้นกั เรียน สามารถปฏิบตั งิ านไดด้ ว้ ยตนเอง 7. ในการประเมนิ โครงการ ใหค้ รู อาจารยผ์ สู้ อน หรือทปี่ รึกษาเป็นผปู้ ระเมนิ โดยคานึงถึงความรูค้ วาม เขา้ ใจ กระบวนการทางาน เจตตใิ นการปฏิบตั งิ าน และการนาชิ้นงานไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั และตอ้ ง ประเมนิ ผลการเรียนเป็นรายภาคเรียน สาหรับผเู้ รียนท่เี ลอื กหลายโครงการใน 1 ภาคเรียน ให้ประเมนิ ผลโดยให้ คะแนนในแตล่ ะโครงการกอ่ น แลว้ นามารวมกนั เพ่อื ตดั สินให้ระดบั คะแนน โดยคานึงถึงคาเวลาในแตล่ ะ โครงการ โดยจดั สดั สว่ นน้าหนกั โครงการแตกตา่ งกนั ตามคาบเวลา กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 22
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลกั สูตรพัฒนาอาชพี วิชาการจักสานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชวั่ โมง ส่วนประกอบและวิธีการเขยี นโครงการฝึ กอาชีพ สว่ นประกอบและวธิ ีเขยี นโครงการฝึ กอาชีพ มรี ายะเอยี ด ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ช่ือโครงงาน ควรต้งั ชือ่ โครงการอาชพี ใหส้ ่ือความหมายไดช้ ดั เจน ครอบคลุมความหมายของกจิ กรรมอาชพี ที่ทาให้ ชดั เจนวา่ ทาอะไร ตอ้ งเป็นช่ือที่เหมาะสม ชดั เจน ดึงดูดความสนใจ และเฉพาะเจาะจงวา่ จะทาอะไร ไมค่ วรต้งั ชือ่ โครงการทีม่ คี วามหมายกวา้ งเกนิ ไปตวั อยา่ งเชน่ โครงการปลูกมนั สัมปะหลงั โครงงานทา ส่ิงประดษิ ฐ์ 2. ชื่อผ้ทู าโครงงาน เป็นชอื่ ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงงาน ในกรณงี านกลมุ่ ตอ้ งระบหุ น้าที่ความรบั ผดิ ชอบของแตล่ ะคนใหช้ ดั เจน พิจารณาความเหมาะสมในดา้ นความสามารถ โอกาสในการทางาน กาลงั ทนุ ทรัพย์สินของแตล่ ะบุคคล ท้งั น้ีเพ่ือ จะไดท้ ราบวา่ โครงงานอยใู่ นความรับผิดชอบของใครและสามารถติดตามไดท้ ใ่ี ด หรือโครงการน้ีอยใู่ นความ รบั ผิดชอบของใคร เมอื่ มปี ัญหาจะไดต้ ดิ ตอ่ ประสานงานไดอ้ ยา่ งงา่ ย 3. ชื่อทป่ี รกึ ษาโครงงาน เป็นผทู้ รงคณุ วฒุ ติ า่ ง ๆ 4. หลักการและเหตผุ ลหรือความสาคัญของโครงการ ควรกลา่ วถึงสภาพชมุ ชนและความตอ้ งการของตลาดที่เกย่ี วขอ้ งกบั อาชพี ตามที่ได้ ศกึ ษามา และอธิบาย วา่ โครงงานน้ีจะสนองความตอ้ งการของชมุ ชนไดอ้ ยา่ งไร แสดงใหเ้ ห็นถึงความจาเป็นหรือความสาคญั ซ่งึ ผู้ เสนอโครงงานจะตอ้ งระบถุ งึ เหตผุ ลและขอ้ มูล หรือทฤษฎตี า่ ง ๆ มาสนบั สนุนโครงการให้ปรากฏชดั เจนอยา่ ง สมเหตสุ มผล การเขียนหลกั การและเหตผุ ลในสว่ นน้ีประกอบดว้ ยสว่ นสาคัญ 3 สว่ นคอื 1. ความเป็นมาของโครงการยอ่ ๆ 2. เหตผุ ลและความจาเป็นทต่ี อ้ งมโี ครงการน้ัน ๆ 3. วธิ ีการดาเนินโครงการยอ่ ๆ กศน.ตาบลบุญทนั ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หน้า 23
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรพัฒนาอาชพี วิชาการจักสานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชวั่ โมง 5. วตั ถุประสงค์ จะตอ้ งกาหนดวตั ถุประสงคใ์ หช้ ดั เจนวา่ โครงงานอาชพี น้ี ผเู้ รียนจะทาอะไรโดยเขียนใหเ้ ห็นวา่ กจิ กรรมหรือพฤติกรรมที่จะดาเนินการมี อะไรบา้ ง หากมวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลายประการก็ควรเขียนเป็นขอ้ ๆ ตามลาดบั ความสาคญั การเขียนวตั ถุประสงคม์ คี วามสาคญั ตอ่ แนวทาง การศกึ ษา ตลอดจนข้อความรู้ที่คน้ พบ หรือสิ่งประดษิ ฐ์ทคี่ น้ พบน้ันจะมคี วามสมบูรณ์ครบถ้วน ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคท์ ุก ๆ ขอ้ ไมเ่ปิด โอกาสใหต้ คี วามไดห้ ลายอยา่ งอนั จะทาใหค้ วามหมายบิดเบือนไปจากเจตนารมณ์ท่ีแท้จริง และสามารถ ประเมนิ ผลและวดั ได้ 6. เป้าหมาย เป้าหมาย (Targets) หมายถงึ การแสดงผลผลติ ขน้ั สุดทา้ ยในแงป่ ริมาณ จานวนหรือการวดั ความสาเร็จ ในชว่ งระยะเวลาหน่ึง ๆ กาหนดเป้าหมายของผลผลิตในชว่ งเวลาใหช้ ดั เจนคือ อะไร มปี ริมาณเทา่ ใดและ คณุ ภาพเป็นอยา่ งไร เป้าหมายจึงคลา้ ยกบั วตั ถุประสงค์แตม่ ลี กั ษณะเฉพาะเจาะจงมากกวา่ มกี ารระบุส่ิงท่ี ตอ้ งการกระทาหรือการไปถงึ ชดั เจนกวา่ และระบุเวลาท่ีตอ้ งการบรรลุ วา่ จะแลว้ เสร็จในวนั ท่ีเทา่ ไร เดือนอะไร ปีใด โดยใคร และอยา่ งไร นอกจากน้นั อาจมกี ารกาหนดเป้าหมายเชงิ คณุ ภาพควบคไู่ ปด้วยก็ได้ 7. ระยะเวลาดาเนนิ การ การระบรุ ะยะเวลาและสถานท่ีหรือพนื้ ทเ่ี ปา้ หมายที่จะจัดกิจกรรม ต้งั แตเ่ร่ิมตน้ โครงการจนกระทง่ั เสร็จส้ินโครงงานและในกรณที ี่เป็นโครงงานระยะยาวมหี ลายขน้ั ตอน กจ็ ะตอ้ งแสดงชว่ งเวลาในแตล่ ะขน้ั ตอน น้ันดว้ ย ทง้ั น้ีเพอ่ื ใชป้ ระกอบการพจิ ารณาเพื่ออนุมตั ิโครงงาน ตวั อยา่ งเชน่ ระยะเวลา : 1 เดือน วนั ท่ี 1 – 30 เมษายน 2558 สถานทีด่ าเนินงาน : โรงเรียนสารคามพทิ ยาคม 8. งบประมาณ จดั ทารายละเอียดรายจา่ ยทีเ่ กดิ ข้นึ ในการดาเนินโครงงาน เป็นการระบถุ งึ จานวนเงิน จานวนบคุ คล จานวน วสั ดุ-ครุภณั ฑ์ และปัจจยั อ่นื ๆ ทจ่ี าเป็นตอ่ การดาเนินงาน การจัดทางบประมาณและทรพั ยากรในการดาเนินงาน โครงการ ผวู้ างแผนโครงการควรตอ้ งคานึงถึงหลกั สาคญั 4 ประการในการจดั ทาโครงการ โดยจะตอ้ งจดั เตรียม ไวอ้ ยา่ งเพียงพอและจะตอ้ งใชอ้ ยา่ งประหยดั ดงั น้ี 1. ความประหยดั (Economy) 2. ความมปี ระสิทธิภาพ (Efficiency) หนา้ 24 กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง 3. ความมปี ระสิทธิผล (Effectiveness) 4. ความยุติธรรม (Equity) 9. ขัน้ ตอนวธิ ดี าเนนิ งาน เขียนเป็นรายละเอียดขัน้ ตอนของการทางาน ตง้ั แต่เรมิ่ ตน้ จนสน้ิ สุดโครงงานโดยเขยี นเป็นแผนปฏบิ ตั ิงาน ซ่งึ ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ กจิ กรรม ระยะเวลา สถานศึกษา ทรพั ยากร/ปัจจัยเป็นต้น รายละเอยี ดดังกลา่ วจะทาให้ผูท้ ่ี ปรกึ ษาหรอื ผ้ดู าเนนิ งานตดิ ตามกากับงานได้ อย่างมีระบบแก้ไขปัญหาไดท้ ันทว่ งที 10. การตดิ ตามและการประเมนิ ผล เป็นวิธีการหรอื เทคนิคในการดูแลและควบคุมการปฏบิ ัตงิ านให้บรรลุวตั ถุประสงค์ ทัง้ นีต้ อ้ งบอกให้ชัดเจนว่าก่อน เริ่มทาโครงงาน ระหว่างทาโครงงานและหลังการทาโครงงาน จะมกี ารตดิ ตามและประเมนิ ผลอย่างไร เป็นการระบุ ว่ามกี ารติดตาม การควบคมุ การกากบั และการประเมนิ ผลโครงงานอยา่ งไร จะประเมินความสาเร็จของการ ดาเนินงานโครงงานได้อย่างไรใครเป็นผ้รู ับผดิ ชอบ โดยระบวุ ิธหี รอื เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการประเมินด้วย ทงั้ น้ีหัวข้อ ของการประเมินจะต้องสอดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงคต์ ามโครงงานดว้ ย ดังน้นั เพื่อให้การตดิ ตามและประเมนิ ผล โครงการสอดคลอ้ งระหว่างการวางแผนกบั การปฏบิ ัตงิ าน ควรพิจารณาดาเนนิ การเป็น 3 ระยะ คอื 1. ประเมินผลกอ่ นการทาโครงการ หรอื ก่อนการปฏบิ ตั ิงาน 2. ประเมนิ ผลระหวา่ งทม่ี ีการทาโครงงาน 3. ประเมินผลภายหลังการทาโครงงาน 11. ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั ใหร้ ะบผุ ลทีจ่ ะเกิดข้นึ เมอ่ื เสรจ็ ส้นิ โครงงาน เป็นผลท่ไี ดร้ บั โดยตรงและผลพลอยได้หรอื ผลกระทบจาก โครงงานเปน็ ผลในดา้ นดีท่ี คาดว่าจะไดร้ บั จะต้องสอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์และเป้าหมาย แสดงถงึ ผลประโยชน์ทีผ่ ู้ ดาเนนิ โครงการและผูท้ เี่ กยี่ วข้องจะไดร้ บั หลังโครงการส้ินสุดลง ซงึ่ หมายถงึ ผลกระทบในทางท่ีดี ทคี่ าดวา่ จะ เกิดข้นึ ทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม นอกจากนี้จะระบุไวช้ ัดเจนว่าใครจะไดร้ บั ผลประโยชน์และผลกระทบในลักษณะ อยา่ งไร ทัง้ ด้านปรมิ าณ และดา้ นคุณภาพ 12. ปญั หาและอปุ สรรค การดาเนินงานตามโครงการน้ี จะมีปญั หาและอุปสรรคใดบา้ ง ท้ังในด้านตวั บุคคลทรี่ ว่ มงาน ข้นั ตอนการ ปฏิบัติ ภัยธรรมชาติ ตลาดจาหน่ายและอืน่ ๆ ทเ่ี หน็ วา่ นา่ จะเกิดข้นึ พรอ้ มชแี้ จงสาเหตุท่อี าจเกิดขน้ึ ดว้ ย รวมทัง้ แนวทางแก้ไข ปัญหาและอปุ สรรคทไ่ี ม่เป็นไปตามแผนข้นั ตอนการปฏิบตั ิงานทกุ ข้ันตอน ระยะเวลา วตั ถุประสงค์ และเปา้ หมายทีก่ าหนดดว้ ย กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา หน้า 25
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชีพ วชิ าการจักสานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ช่ัวโมง บทที่ 3 วธิ ีการดาเนนิ การ ในการดาเนนิ งานจดั โครงการศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นาอาชีพ วชิ าการจกั สานจากไมไ้ ผ่ กศน.ตาบลบญุ ทัน มีรายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี ขนั้ ตอนการวางแผน (plan) ขั้นตอนการลงมือทา (Do) ขัน้ ตอนการตรวจสอบ (Check) ขัน้ ตอนการปรบั ปรุงแกไ้ ข (Act) ขั้นตอนการวางแผน (plan) 1. ดาเนินการประชาคมกลุ่มผู้สนใจพฒั นาอาชีพ 2. ได้กล่มุ เปา้ หมาย 3. เตรยี มหลกั สูตร เสนอโครงการเพอื่ ขออนมุ ตั ิ 4. แตง่ ต้งั คณะทางานภายในตาบล คณะกรรมการนเิ ทศกจิ กรรม 5. ประสานวทิ ยากร ขั้นตอนการลงมอื ทา (Do) 1. ดาเนินการประสานงานผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ ง ครู กศน.ตาบล ครู ศรช. ผูน้ าชุมชน คณะกรรมการหมูบ่ า้ นและชาวบา้ นจดั เตรียมสถานที่ 2. นาประชาชนที่สนใจมาเขา้ ร่วมกจิ กรรม 3. ประเมนิ ผลโครงการโดยให้ผ้เู ข้าร่วมโครงการออกแบบประเมนิ ความพึงพอใจในการเขา้ ร่วม โครงการ 4. รวบรวมข้อมลู จากแบบประเมนิ 5. สรุปผลความพึงพอใจของผเู้ ข้ารว่ มโครงการ ขนั้ ตอนการตรวจสอบ (Check) 1.เคร่อื งมือทใี่ ช้ในการตรวจสอบ แบบประเมินความพึงพอใจของผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ 2. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู กศน.ตาบลบุญทัน ไดด้ าเนนิ การเก็บรวบรวมขอ้ มูลจากผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ - ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย จานวน 12 คน 3.การวเิ คราะห์ข้อมูล การประเมินผลการดาเนนิ งานของโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลักสูตรพัฒนา อาชพี การจกั สานจากไมไ้ ผ่ กศน.ตาบลบุญทนั ดาเนินการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ดังน้ี 3.1 แบบประเมินตอนที่ 1 ข้อมลู ทัว่ ไป วเิ คราะหห์ าค่ารอ้ ยละ กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หน้า 26
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ช่วั โมง 3.2 แบบประเมินตอนที่ 2 ความพึงพอใจตัวบง่ ช้ีของโครงการ 3.2.1 ให้คะแนนตามนา้ หนักแบบประเมนิ ฉบบั สมบรู ณ์ ตามเกณฑ์ มาตรฐานของ สมศ. โดยมีเกณฑใ์ ห้คะแนน ดังน้ี ระดับ 5 หมายถึง ดาเนินงานได้ตามเกณฑ์ของตัวบ่งชด้ี มี าก ระดบั 4 หมายถงึ ดาเนินงานไดต้ ามเกณฑข์ องตัวบ่งชด้ี ี ระดับ 3 หมายถงึ ดาเนนิ งานได้ตามเกณฑ์ของตวั บง่ ช้พี อใช้ ระดับ 2 หมายถงึ ดาเนินงานได้ตามเกณฑข์ องตวั บ่งชี้ปรับปรุง ระดับ 1 หมายถงึ ดาเนนิ งานได้ตามเกณฑ์ของตวั บ่งช้ตี ้องปรบั ปรุง 3.2.2 วิเคราะหข์ ้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยร้อยละความพึงพอใจ 3.3 แบบประเมนิ ตอนท่ี 3 ข้อคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะอื่นๆ วิเคราะห์ด้วยเน้ือหา (Content analysis) กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 27
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชัว่ โมง บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน การจัดกิจกรรมโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชนหลักสูตรพฒั นาอาชพี วชิ าการจักสานจากไมไ้ ผ่ ณ 101 บา้ นน้าโมง ม.3 ตาบลบญุ ทนั อาเภอสวุ รรณคหู า จังหวัดหนองบวั ลาภู สรปุ ผลการดาเนนิ งานได้ดงั นี้ ช่อื โครงการ วันท่ดี าเนินการ เป้าทไี่ ด้รบั จดั สรร ผล คิดเปน็ รอ้ ยละ โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน 13 -19 ธันวาคม 11 12 100 หลักสตู รพฒั นาอาชพี 2564 วชิ าการจักสานจากไม้ไผ่ การประเมนิ ความพงึ พอใจในการดาเนินงานตามโครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลกั สตู รพัฒนาอาชพี วิชาการจักสานจากไม้ไผ่ กศน.ตาบลบญุ ทัน ของผรู้ ับบริการทีเ่ ข้าร่วมโครงการ โดยเสนอรายละเอียดตามลาดบั คอื สัญลักษณ์ทใ่ี ช้ในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ลาดับขั้นตอนในการวเิ คราะหข์ ้อมลู ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู และการ แปลความหมายข้อมลู ดงั ตอ่ ไปนี้ สัญลักษณ์ท่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมูล การเสนอผลการประเมินครง้ั นีไ้ ด้กาหนดสญั ลักษณท์ ่ีใช้ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดังนี้ N แทน ขนาดของกลุ่มผู้ประเมนิ การใช้คมู่ ือ (Sample size) % แทน คา่ รอ้ ยละ (Percentage) ลาดบั ข้นั ตอนในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู การวเิ คราะหข์ ้อมูล ผู้ประเมนิ ได้เสนอผลการวเิ คราะห์ข้อมูลเป็นตอนๆ เรียงลาดบั ดงั น้ี ตอนท่ี 1 การวิเคราะห์ขอ้ มูลเก่ียวกับขอ้ มูลทั่วไป ตอนท่ี 2 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดา้ นความพึงพอใจของผรู้ ับบริการ ตอนที่ 3 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ในการสรุปผลการดาเนนิ งานโครงการศูนยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน หลกั สูตรพัฒนาอาชีพ วชิ าการจกั สานจากไม้ ไผ่ ณ บ้านเลขที่ 101 ม.3 ตาบลบุญทัน อาเภอสวุ รรณคหุ า จงั หวดั หนองบัวลาภู ได้จดั ทาเคร่อื งมือเป็น แบบสอบถาม วัดระดบั ความคิดเหน็ และความพงึ พอใจในการดาเนนิ การพฒั นาซึ่งแบ่งออกเปน็ 3 ส่วนคอื ส่วน แรกเปน็ คาถามปลายเปิด มาตราส่วนประมาณคา่ (Rating scales) ส่วนที่ 2 มาตราส่วนประมาณค่าของลิ เคิรท์ likert’s Scales 5 ระดับ สว่ นที่สามเปน็ คาถามปลายเปิด ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ ส่วนทส่ี ามเป็นคาถาม ปลายเปดิ เนือ้ หาสาระทีต่ อ้ งการพัฒนาในคร้งั ตอ่ ไป ซึ่งในการเกบ็ รวบรวมนัน้ ได้แจกแบบสอบถามแกผ่ เู้ ข้าร่วม โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลักสูตรพฒั นาอาชพี วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 12 คน ไดแ้ บบสอบถาม กศน.ตาบลบญุ ทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 28
สรุปผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพฒั นาอาชีพ วชิ าการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชว่ั โมง คืนจานวน 12 ฉบับ จากผ้เู ขา้ ร่วมโครงการฯ คิดเป็นรอ้ ยละ 100 กระทาการวเิ คราะหข์ ้อมูลตามประเภทและ ลักษณะของขอ้ มลู โดยหาค่าเฉล่ียเปน็ ค่ารอ้ ยละ ซึง่ ได้วดั ระดบั ความคิดเหน็ และความพึงพอใจท่ีมตี อ่ โครงการจะ ปรากฏดังน้ี สรุปผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู ความพงึ พอใจ โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการจักสานจากไม้ไผ่ ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทวั่ ไป รายการขอ้ มูลพน้ื ฐาน จานวน ร้อยละ (ƒ) (%) 1.เพศ 1.1 ชาย 3 25.00 1.2 หญงิ 9 75.00 รวม 12 100.00 2.อายุ 2.1 ตา่ กวา่ 15 ปี 00 2.2 อายุ 15 – 39 ปี 1 8.33 2.3 อายุ 40 – 59 ปี 5 41.67 2.4 อายุ 60 ปีขึ้นไป 6 50.00 รวม 12 100.00 3.ระดบั การศกึ ษา 3.1 ป.4 9 75.00 3.2 ป.6 3 25.00 3.3 ม.ต้น 00 3.4 ม.ปลาย 00 3.5 ปวช. 00 3.6 ปวส. 00 3.7 ปรญิ ญาตรี 00 3.8 อน่ื ๆ 00 รวม 12 100.00 4.อาชีพ 4.1 ผนู้ าทอ้ งถน่ิ 00 4.2 อบต/เทศบาล 00 4.3 พนกั งานรฐั วสิ าหกิจ 00 กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 29
สรุปผลโครงการ ศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน หลกั สูตรพัฒนาอาชพี วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ช่ัวโมง 4.4 ทหารกองประจาการ 00 4.5 เกษตรกร 12 100 4.6 รับราชการ 00 4.7 คา้ ขาย 00 4.8 รับจ้าง 00 4.9 อสม. 00 4.10 แรงงานตา่ งดา้ ว 00 4.11 ว่างงาน 00 4.12 อ่ืนๆ 00 รวม 12 100.00 จากตาราง ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลความพงึ พอใจของผู้เขา้ รว่ มโครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสตู รพฒั นาอาชีพ วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ ผลการวิเคราะหป์ รากฏวา่ ผู้เขา้ รว่ มโครงการ 123 คน ด้านเพศ สว่ นมากเปน็ เพศหญงิ จานวน 9 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 75.00 เพศชาย 25.00 ด้านอายุ ส่วนมากอายุ 60 ปี ขนึ้ ไป จานวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 50.00 อายุ 40-59 ปี จานวน 5 คน คิดเปน็ ร้อยละ 41.67 ดา้ นการศกึ ษา ส่วนมาก ระดบั ป.4 จานวน 9 คน คดิ เป็นร้อยละ 75.00 ระดับ ป.6 จานวน 3 คน คิด เปน็ รอ้ ยละ 25.00 ด้านอาชพี เกษตรกร จานวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 100 กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 30
สรุปผลโครงการ ศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ วิชาการจักสานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง ตอนที่ 2 ความพึงพอใจในการใหบ้ รกิ าร ระดบั ความพึงพอใจ/จานวน หมาย ตารางท่ี 2.1 จุดมงุ่ หมาย/เน้อื หาหลักสตู ร มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย เหตุ ท่สี ดุ กลาง ทีส่ ดุ ข้อ รายการประเมนิ ความพงึ พอใจ 48 ตอนท่ี ๑ ความพงึ พอใจดา้ นเนอื้ หา 33.33 66.67 1 เนอ้ื หาตรงตามความตอ้ งการ 66 2 เนอื้ หาเพียงพอต่อความตอ้ งการ 50.00 50.00 3 เนื้อหาปจั จบุ ันทนั สมัย 57 41.67 58.33 4 เนอ้ื หามปี ระโยชน์ตอ่ การนาไปใชใ้ นการพัฒนาคุณภาพชีวิต 57 รวม ความพงึ พอใจดา้ นเนอื้ หา 41.67 58.33 ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม 41.67 58.33 5 การเตรยี มความพร้อมกอ่ นอบรม 48 6 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ 33.33 66.67 7 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา 66 50.00 50.00 8 การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย 57 9 วธิ กี ารวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ 41.67 58.33 รวมความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกจิ กรรมการอบรม 57 ตอนที่ 3 ความพงึ พอใจต่อวทิ ยากร 41.67 58.33 10 วทิ ยากรมคี วามร้คู วามสามารถในเรอื่ งท่ีถา่ ยทอด 48 11 วทิ ยากรมเี ทคนคิ การถ่ายทอดใช้ส่อื เหมาะสม 33.33 66.67 44.00 56.00 471 33.33 58.33 8.34 651 กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 31
สรุปผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วิชาการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชั่วโมง 12 วิทยากรเปดิ โอกาสให้มสี ่วนรว่ มและซักถาม 50.00 41.67 8.34 57 รวมความพึงพอใจต่อวทิ ยากร ตอนที่ 4 ความพงึ พอใจด้านการอานวยความสะดวก 41.67 58.33 13 สถานท่ี วสั ดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก 41.66 52.78 5.56 14 การสอื่ สาร การสรา้ งบรรยากาศเพอ่ื ให้เกิดการเรยี นรู้ 48 33.33 66.67 15 การบริการ การช่วยเหลอื และการแก้ปญั หา 66 รวมความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก 50.00 50.00 รวมทงั้ 4 ดา้ น 57 41.67 58.33 41.66 58.33 42.24 56.37 1.39 สรปุ ความคดิ เห็นและความพงึ พอใจของผู้รับบริการ โครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลกั สูตรพฒั นาอาชพี วิชาการจักสานจากไมไ้ ผ่ สรปุ ได้ดงั นี้ ตอนท่ี 1 ความพงึ พอใจดา้ นเนอ้ื หา สรปุ ไดว้ ่าผทู้ ีต่ อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจระดบั ดีมาก คิดเปน็ รอ้ ยละ 41.67 มีความพงึ พอใจใน ระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 58.33 ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจดา้ นการจดั กจิ กรรมการอบรม สรปุ ได้ว่าผู้ทีต่ อบแบบสอบถามมีความพงึ พอใจระดับดีมาก คิดเปน็ รอ้ ยละ 44.00 มคี วามพึงพอใจใน ระดับมาก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 56.00 ตอนท่ี 3 ความพึงพอใจตอ่ วทิ ยากร สรุปไดว้ า่ ผทู้ ีต่ อบแบบสอบถามมคี วามพึงพอใจระดบั ดีมาก คิดเปน็ รอ้ ยละ 41.66 มีความพึงพอใจใน ระดับมาก คดิ เป็นรอ้ ยละ 52.78 มีความพงึ พอใจในระดับพอใช้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.56 ตอนท่ี 4 ความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก สรปุ ได้วา่ ผทู้ ี่ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจระดบั ดีมาก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 41.66 มีความพึงพอใจใน ระดับมาก คิดเปน็ รอ้ ยละ 58.33 สรุปภาพรวมจากการประเมินผลการดาเนนิ งาน โครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรพัฒนาอาชพี วชิ าการจกั สานจากไม้ไผ่ กศน.ตาบลบุญทัน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณ คหู า ทงั้ 4 ดา้ น มผี ลการดาเนินกิจกรรม บรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ โดยผทู้ เ่ี ขา้ ร่วมโครงการไดต้ อบแบบสอบถาม กศน.ตาบลบุญทนั ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หน้า 32
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลักสูตรพฒั นาอาชีพ วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชว่ั โมง ในระดับความพึงพอใจดมี าก มีคา่ เฉลีย่ เทา่ กบั 42.24 ระดับมากมีค่าเฉล่ยี จานวนร้อยละ 56.33 ระดับพอใช้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.39 เมื่อนาความพงึ พอใจระดับดขี ึน้ ไปมารวมกันแลว้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 98.61 ซึ่งอยู่ในระดบั ดมี าก กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา หน้า 33
สรุปผลโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลกั สูตรพัฒนาอาชีพ วิชาการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ช่วั โมง บทท่ี 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ การดาเนินงานโครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลักสูตรพัฒนาอาชีพ วิชาการจักสานจากไมไ้ ผ่ สรปุ ผล การดาเนนิ งานได้ดังน้ี วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ 1.เพ่อื ให้ประชาชนมีความรแู้ ละทกั ษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายไดท้ ม่ี ัน่ คง มัง่ ค่ัง 2.เพ่อื ใชใ้ นการตัดสนิ ใจประกอบอาชพี ใหส้ อดคลอ้ งกบั ศักยภาพของตนเอง ชมุ ชน สังคม และส่งิ แวดล้อม อยา่ งมคี ุณธรรมจริยธรรม 3.เพื่อให้ประชาชนมโี ครงการประกอบอาชพี เพอื่ ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาอาชพี ของตนเอง ขอบเขตของโครงการ 1. ด้านเนอ้ื หาโครงการน้ีม่งุ ให้ผู้เรียนกลมุ่ เป้าหมายท่ีเขา้ รบั การอบรมสามารถนาความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การเรียนรูต้ า่ งๆ ไปใช้ในการประกอบอาชีพทเี่ ปน็ การเข้าสอู่ าชพี สร้างงาน สร้างรายได้ หรือพัฒนาอาชีพ หรือต่อยอดอาชีพเดิม 2. ดา้ นระยะเวลาระยะเวลาในการดาเนินงาน วันที่ 13 ธันวาคม 2564 ถงึ 19 ธันวาคม 2564 ณ 101 บา้ นนา้ โมง หมทู่ ี่ 3 ตาบลบุญทนั อาเภอสวุ รรณคูหา จังหวัดหนองบัวลาภู 3. ดา้ นประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชาชนตาบลบุญทนั จานวน 12 คน ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รบั - ประชาชนตาบลบญุ ทนั กลุ่มเปา้ หมายมีอาชพี ใหม่มีการพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิม เพิม่ ทักษะการเปน็ ผปู้ ระกอบการ มรี ายได้ มีงานทา มีความมัน่ คง ย่งั ยนื - เพือ่ ใหผ้ เู้ ขา้ รับการอบรมสามารถนาความรู้ ทักษะ และประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ไปใช้ในการ ประกอบอาชีพทีเ่ ป็นการเขา้ ส่อู าชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ หรอื พฒั นาอาชพี หรือต่อยอดอาชีพเดิม ตวั ชวี้ ัด ตวั ช้วี ดั ผลผลติ รอ้ ยละ 80 ของประชาชน ตาบลบุญทัน ทเ่ี ข้าร่วมโครงการมอี าชีพ มีงานทา มีรายได้ท่มี ัน่ คงยิ่งข้ึน ตวั ช้ีวดั ผลลพั ธ์ ประชาชนตาบลบุญทัน ทเี่ ขา้ รว่ มโครงการมีความรู้ ทักษะ และประสบการณก์ ารเรียนรตู้ ่างๆ ไปใช้ในการ ประกอบอาชพี ที่เปน็ การเข้าสอู่ าชพี สรา้ งงาน สรา้ งรายได้ หรือพฒั นาอาชีพ หรือต่อยอดอาชีพเดมิ กศน.ตาบลบญุ ทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 34
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ช่วั โมง ผลการดาเนนิ โครงการ ประชาชนตาบลบญุ ทัน ทเี่ ขา้ ร่วมโครงการศนู ย์ฝึกอาชพี ชมุ ชนหลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการจักสานจาก ไมไ้ ผ่ มคี วามพอใจในการจัดกจิ กรรมในระดับดขี ้ึนไป ร้อยละ 98.61 และประชาชนที่เข้ารว่ มกิจกรรมสามารถนา ความรู้ที่ไดไ้ ปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน ปัญหา-อปุ สรรค - แนวทางแกไ้ ขปญั หา - ขอ้ เสนอแนะ -เมื่อผ้เู รียนไดเ้ รียนจบหลกั สตู รไปแล้ว อยากใหน้ าความรทู้ ่ีไดไ้ ปใช้ในการพัฒนาอาชีพของตนเอง กศน.ตาบลบุญทนั ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสวุ รรณคูหา หนา้ 35
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง ภาพกจิ กรรม กศน.ตาบลบญุ ทัน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 36
สรปุ ผลโครงการ ศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน หลกั สตู รพฒั นาอาชพี วิชาการจกั สานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ชั่วโมง ภาพประกอบกิจกรรมโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชพี วิชาการจักสานจากไม้ไผ่ ดาเนินการระหว่างวันที่ 13 - 19 ธนั วาคม 2564 ณ 101 บา้ นนา้ โมง หมู่ 3 ตาบลบญุ ทนั อาเภอสวุ รรณคหู า กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 37
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชีพ วชิ าการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชั่วโมง กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 38
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชีพ วชิ าการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชั่วโมง กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 39
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชีพ วชิ าการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชั่วโมง กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 40
สรปุ ผลโครงการ ศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รพัฒนาอาชีพ วชิ าการจักสานจากไม้ไผ่ จานวน 31 ช่วั โมง การฝึกปฏิบตั ิ กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 41
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชีพ วชิ าการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชั่วโมง กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 42
สรปุ ผลโครงการ ศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสตู รพัฒนาอาชีพ วชิ าการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชั่วโมง กศน.ตาบลบุญทัน ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 43
สรปุ ผลโครงการ ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลกั สูตรพัฒนาอาชีพ วิชาการจกั สานจากไมไ้ ผ่ จานวน 31 ชว่ั โมง ภาคผนวก กศน.ตาบลบญุ ทนั ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุวรรณคูหา หนา้ 44
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: