มโหสถชาดกเป็ นเรื่องราวในอดตี ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็ นเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ ชาตทิ ่ี ๕ ในทศชาติที่ทรงบำเพญ็ ปัญญำบำรมี ดว้ ยกำรใชป้ ัญญำอนั เฉียบแหลม ท่ีทรงสง่ั สมมำนบั ภพนบั ชำติไม่ถว้ น ในกำรแกไ้ ขปัญหำต่ำง ๆ ซ่ึงกำรใชป้ ัญญำอยเู่ สมอ ๆ น้ี เป็นกำรช่วยใหส้ ติปัญญำปรำดเปร่ืองยง่ิ ๆ ข้ึน ถือเป็นกำรช่วยเพิ่มพนู ปัญญำบำรมีไดว้ ธิ ีหน่ึง ในพระชำติน้ี มโหสถบณั ฑิตไดใ้ ชป้ ัญญำเปลี่ยนวกิ ฤตใหเ้ ป็นโอกำสโดยยดึ หลกั ศีลธรรม จนในท่ีสุดกส็ ำมำรถฟันฝ่ำอุปสรรคของชีวติ นำพำตนเองใหป้ ระสบควำมเจริญรุ่งเรืองยงิ่ ๆ ข้ึนไปและสร้ำงสนั ติภำพแก่เพ่อื นมนุษยใ์ หส้ ำมำรถอยรู่ ่วมกนั ไดอ้ ยำ่ งมีควำมสุขปรำศจำกกำรเบียดเบียนซ่ึงกนั และกนั
กาลคร้ังหนึ่งนานมาแล้วในพระรำชสำนกั ของพระเจำ้ วเิ ทหะ เมืองมิถิลำ มีรำชบณั ฑิตอยู่ ๔ คน คือ เสนกะ ปุกกุสะ กำมินทะ และ เทวนิ ทะมีบำ้ นอยทู่ ี่ประตูเมืองท้งั ๔ ทิศ ครำวน้นั พระโพธิสตั วเ์ กิดเป็นบุตรของสิริวฒั กเศรษฐีและนำงสุมนำเทวี ในหมู่บำ้ นอนั ต้งั อยทู่ ำงทิศตะวนั ออกของเมืองมิถิลำ ในวนั ถือปฏิสนธิในครรภม์ ำรดำน้นั พระรำชำทรงสุบินวำ่ ที่มุมสนำมหลวง ๔ มุมมีกองเพลิงใหญ่เท่ำกำแพงเมือง ๔ กอง ในท่ำมกลำงมีกองไฟเท่ำหิ่งหอ้ ย ๑ กอง แต่กลบั ส่องสวำ่ งไสวมำกกวำ่ กองเพลิงท้งั ๔ กองน้นั โหรหลวงจำทำนำยวำ่ จกั มีบณั ฑิตคนสำคญั มำเกิดในเมืองน้ีมโหสถกมุ ำรไดแ้ สดงควำมเป็นบณั ฑิตต้งั แต่อำยไุ ด้ ๗ ขวบเท่ำน้นั มีควำมสำมำรถออกแบบสร้ำงศำลำและใหป้ ระดบัตกแต่งศำลำพร้อมกบั ปลูกไมด้ อกไมป้ ระดบั ได้ และไดแ้ สดงควำมอจั ฉริยะทำงสติปัญญำหลำยประกำร ไดแ้ ก่แสดงวธิ ีชิงเอำชิ้นเน้ือจำกปำกเหยย่ี วท่ีบินอยบู่ นทอ้ งฟ้ำได้ ไดต้ ดั สินคดีเร่ืองกำรแยง่ เป็นเจำ้ ของววั ไดต้ ดั สินคดีวำ่ดว้ ยเรื่องกำรแยง่ กนั เป็นเจำ้ ของสร้อยประดบั เป็นตน้ ตลอดจนถึงไดแ้ กไ้ ขปัญหำต่ำงๆ ท่ีพระรำชำไดท้ ดสอบปัญญำของท่ำนดว้ ยวธิ ีกำรต่ำงๆ จนเป็นท่ีพอพระทยั ของพระรำชำ
เม่ือพระรำชำทดสอบปัญญำของมโหสถหลำยคร้ังจนเป็นที่พอพระทยั แลว้ จึงมีรับสง่ั ใหเ้ ขำ้ เฝ้ำ และทรงรับมโหสธเขำ้ รับรำชกำร อยมู่ ำวนั หน่ึง ท่ำนไดใ้ ชป้ ัญญำแกไ้ ขปริศนำปัญหำต่ำงๆ ที่เกิดข้ึนไดส้ ำเร็จลุล่วงดว้ ยดี และเม่ือมโหสถอำยไุ ด้ ๑๖ ปีกไ็ ดแ้ ต่งงำนกบั ธิดำตระกลู เศรษฐีผหู้ น่ึงชื่อวำ่ อมรำเทวี ซ่ึงนำงกม็ ีสติปัญญำเฉลียวฉลำด รักษำศีล ๕ ไดบ้ ริสุทธ์ิ เช่นเดียวกนักำรแสดงเหตุผลของมโหสถบณั ฑิตทุกคร้ัง เป็นที่ตะขิดตะขวงใจของรำชบณั ฑิตท้งั ๔ ท่ำนอยไู่ ม่นอ้ ย บำงคร้ังกม็ ีกำรหกั หนำ้ลบลำ้ งขอ้ คิดเห็นของรำชบณั ฑิต ทำใหร้ ำชบณั ฑิตท้งั ๔ พยำยำมหำเรื่องใส่ควำมท่ำน แต่ท่ำนกส็ ำมำรถแกป้ ัญหำดว้ ยปัญญำของท่ำนเองไดท้ ุกคร้ังในเร่ืองกำรวำงแผนดำ้ นยทุ ธศำสตร์น้นั มโหสถบณั ฑิตมีควำมสำมำรถเช่นเดียวกนั ดงั เช่นเมื่อคร้ังพระเจำ้ จุลนีพรมทตั แห่งเมืองอุตรปัญจำละคิดกำรใหญ่ตำมคำกรำบทูลของเกวฏั ปุโรหิต เพื่อจะยดึ ครองแวน่ แควน้ ต่ำงๆ มำเป็นเมืองข้ึน รวมท้งั เมืองมิถิลำดว้ ย พระองคไ์ ดท้ รงปรำบปรำมมีชยั ชนะเหนือพระรำชำในแควน้ ใกลเ้ คียงโดยรอบ ยดึ ครองไดถ้ ึง ๑๐๑ แควน้
และไดย้ กทพั พร้อมดว้ ยกษตั ริย์ ๑๐๑ พระองคม์ ำลอ้ มเมืองมิถิลำไว้ แต่ดว้ ยกำรวำงแผนกำรรบก่อนอยำ่ งรอบคอบหลำยช้นัของมโหสถบณั ฑิต เริ่มต้งั แต่กำรส่งสำยลบั ไปอยกู่ บั ศตั รู เพื่อทรำบควำมเคล่ือนไหวจนถึงกำรใชก้ สุ โลบำยต่ำงๆ เพื่อให้ขำ้ ศึกไม่อำจตีเมืองมิถิลำได้ แถมยงั ถูกทหำรของเมืองมิถิลำตีแตกกระเจิง จนทำใหก้ ษตั ริย์ ๑๐๑ พระองคพ์ ร้อมนกั รบเสียขวญั หนีเอำตวั รอด และดว้ ยควำมสำมำรถเชิงกำรฑูตท่ียอดเยย่ี มยงั ทำใหพ้ ระเจำ้ วเิ ทหะกบั พระเจำ้ จุลนีพรมทตั มำผกู ไมตรีกนั ได้เมื่อพระเจำ้ จุลนีพรหมทตั ยอมยกพระธิดำของพระองคใ์ หเ้ ป็นพระมเหสีของพระเจำ้ วเิ ทหะ ตำมแผนกำรของมโหสถบณั ฑิต ต่อมำเม่ือพระเจำ้ วเิ ทหะสวรรคต พระโอรสของพระองคไ์ ดค้ รองรำชสมบตั ิแทน พระเจำ้ จุลนีพรหมทตั ทรงมีพระประสงคใ์ หเ้ มืองของพระองคม์ ีบณั ฑิตอยำ่ งมโหสธบำ้ ง จึงขอใหม้ โหสถบณั ฑิตมำอยทู่ ี่เมืองของพระองคม์ โหสถบณั ฑิตจึงกรำบทูลลำพระเจำ้ กรุงมิถิลำไปรับตำแหน่งปุโรหิตในรำชสำนกั ของพระเจำ้ จุลนีพรมทตั และอยดู่ ว้ ยควำมผำสุกจนสิ้นอำยขุ ยั
มโหสถชาดก สรุปได้ว่ามโหสถ มีชำติกำเนิดเป็นบุตรของเศรษฐีช่ือ สิริวฒั กะ และนำงสุมนำเทวี แห่งเมืองมิถิลำ เหตุท่ีใชช้ ื่อวำ่ \"มโหสถ\" เพรำะเม่ือแรกคลอดมือทำรกนอ้ ยถือแท่งยำวเิ ศษของพระอินทร์ติดตวั มำซ่ึงต่อมำไดน้ ำมำรักษำคนเจบ็ ไขไ้ ดป้ ่ วย ไดผ้ ลอยำ่ งน่ำอศั จรรย์ความสามารถของมโหสถไดแ้ สดงสติปัญญำอนั เฉียบแหลมต้งั แต่วยั เดก็ จนถึงวยั หนุ่ม ไดช้ ่วยแกไ้ ขปัญหำ ขอ้ พิพำทให้เพ่อื นบำ้ นดว้ ยสติปัญญษอนั ชำญฉลำด รวมท้งั ถูกพระรำชำทดสอบกำรใชป้ ัญญำแกไ้ ขปัญหำต่ำงๆ ซ่ึงมโหสถสำมำรถทำไดด้ ว้ ยดี
ชาดกเร่ืองนีส้ อนให้รู้ว่าผมู้ ีปัญญำเพรียบพร้อมดว้ ยคุณธรรม ยอ่ มตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้คิดทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชนส์ ุขของปวงชนเป็นสำคญัประโยชน์ทไี่ ด้รับจากการศึกษาเร่ืองมโหสถชาดก๑. ผมู้ ีปัญญำและถึงพร้อมดว้ ยคุณธรรม ควำมดียอ่ มไดร้ ับกำรยอมรับจำกมหำชน และทำให้ตนเองมีควำมสุข ควำมเจริญในกำรดำเนินชีวติ๒. คุณธรรมของผมู้ ีเมตตำ คือ มีควำมเมตตำ และปรำรถนำดีต่อผอู้ ื่น มิเบียดเบียนทำร้ำยผอู้ ่ืนหรือทำใหผ้ อู้ ่ืนไดร้ ับควำมเดือดร้อน และคิดจะทำสิ่งท่ีเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: