คูม่ อื คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดบั การศึกษา สำนกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เอกสารทางวิชาการเลขที่ 61/2552
คมู่ อื คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดับการศึกษา คณะทปี่ รกึ ษา นายอภิชาติ จรี ะวฒุ ิ เลขาธิการ กศน. นายชัยยศ อ่ิมสุวรรณ์ ผ้เู ชี่ยวชาญเฉพาะดา้ นการพัฒนาหลักสตู ร นางพรทพิ ย์ กล้ารบ ผู้อำนวยการกล่มุ พัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน ผยู้ กรา่ งต้นฉบับ นางนพรัตน์ เวโรจน์เสรีวงศ ์ กลุม่ พฒั นาการศึกษานอกโรงเรยี น ผตู้ รวจสอบข้อมลู นางนิตยา ศรีนวลนดั กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกโรงเรียน นางนพรตั น์ เวโรจนเ์ สรีวงศ์ กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกโรงเรียน นางพรทพิ ย์ พรรณนติ านนท ์ กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน นางสาวผณนิ ทร์ แซ่อึ้ง กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกโรงเรยี น พมิ พท์ ี ่ หา้ งหุ้นสว่ นจำกดั โรงพิมพอ์ กั ษรไทย (น.ส.พ.ฟา้ เมอื งไทย) เลขท่ี 85, 87, 89, 91 ซอยจรัญสนทิ วงศ์ 40 ถนนจรัญสนทิ วงศ์ แขวงบางย่ขี ัน เขตบางพลัด กรงุ เทพฯ 10700 โทร. 0-2424-4557, 0-2424-0694 โทรสาร 0-2433-2858 นายณัฐ ปวณิ ววิ ฒั น์ ผู้พิมพ์ผโู้ ฆษณา พ.ศ. 2552
คำนำ การประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จะเป็นท่ี ยอมรับของสังคม ในกระบวนการประเมินทีม่ คี ณุ ภาพ ได้มาตรฐาน โปร่งใส เป็นธรรมเพียงใดน้ัน ข้ึนอยู่กบั การดำเนนิ งานของคณะกรรมการประเมินเทยี บระดบั การศึกษาเปน็ สำคัญ สำนักงาน กศน. ได้จัดทำเอกสารน้ีข้ึน เพื่อให้คณะกรรมการประเมินเทียบ ระดับการศึกษาใช้ประกอบเป็นแนวทางการดำเนินงาน โดยมีเนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 บท คือ บทที่ 1 สาระสำคัญของการเทียบระดับการศึกษา บทท่ี 2 การดำเนินงานเทียบระดับ การศึกษา บทท่ี 3 แนวทางการประเมนิ มติ ปิ ระสบการณ์ และภาคผนวก ซ่งึ เปน็ การนำเสนอ เอกสารข้อมูลเกี่ยวกับกฎกระทรวง ระเบียบกระทรวง และเอกสารหลักฐานท่ีเกี่ยวข้องกับ การประเมินเทียบระดับการศึกษา มติ ิประสบการณ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารน้ีจะมีส่วนช่วยสร้างความเข้าใจให้แก่คณะกรรมการ ประเมินเทียบระดับการศึกษา ในการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ในการเทียบระดับการศึกษา ต่อไป สำนักงาน กศน. ใคร่ขอขอบคุณคณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษาทุกท่าน ที่ไดอ้ นเุ คราะห์ร่วมเป็นคณะกรรมการประเมินเทียบระดบั การศกึ ษาไว้ ณ โอกาสนด้ี ว้ ย (นายอภชิ าติ จีระวฒุ ิ) เลขาธิการ กศน. 15 กรกฎาคม 2552
สารบัญ คำนำ หน้า บทที่ 1 สาระสำคัญของการเทยี บระดบั การศึกษา ✤ แนวคิด 1 ✤ หลักการเทียบระดบั การศกึ ษา 1 ✤ วตั ถปุ ระสงค์ของการเทียบระดบั การศกึ ษา 1 ✤ ความเปน็ มา 2 ✤ บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศกึ ษา 2 ✤ คำท่คี วรรู้เก่ยี วกบั การเทียบระดับการศึกษา 3 บทท่ี 2 การดำเนนิ งานเทยี บระดับการศึกษา 3 ✤ ข้ันตอนการดำเนนิ งาน 5 ✤ คุณสมบัตขิ องผสู้ มัครเทียบระดับการศึกษา 5 ✤ ขอบขา่ ยการประเมนิ เทยี บระดับการศึกษา 5 ✤ เคร่ืองมือและวิธีการประเมนิ เทียบระดับการศกึ ษา 6 ✤ การตดั สนิ ผลการประเมินเทยี บระดับการศกึ ษา 7 ✤ การอนุมตั ผิ ลการประเมินเทยี บระดับการศกึ ษา 7 ✤ การออกหลักฐานการประเมินเทียบระดับการศกึ ษา 8 ✤ การเงนิ และงบประมาณ 8 ✤ การติดตามผลการเทียบระดบั การศึกษา 8 บทท่ี 3 แนวทางการประเมนิ มติ ปิ ระสบการณ ์ 8 ✤ การประเมนิ แฟม้ ประมวลประสบการณ์ 9 ✤ การประเมินโดยการสัมภาษณ์ 9 ✤ เทคนิคการสัมภาษณ ์ 9 ✤ เคล็ดลับในการดำเนินการสมั ภาษณ์ 10 บรรณานุกรม 11 ภาคผนวก 12 ✤ กฎกระทรวงศึกษาธิการ 13 ✤ ระเบยี บกระทรวงศึกษาธิการ 14 ✤ ประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ 17 ✤ คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป 208/2552 21 ✤ มาตรฐานและตวั บ่งชก้ี ารประเมินเทยี บระดบั การศกึ ษานอกระบบ 23 และการศกึ ษาตามอัธยาศัย ระดับการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน 27
บทท่ี 1 สาระสำคญั ของการเทียบระดับการศึกษา แนวคดิ การดำเนินงานประเมินเทียบระดับการศึกษา ได้นำแนวคิดของการยอมรับความรู้ และประสบการณ์ทีม่ มี าก่อนมาประยกุ ต์ใช้ (Recognition of Prior Learning Assessment) โดยประเมินเพ่ือให้ได้รับการรับรองวุฒิการศึกษาท้ังระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยใช้วิธีการประเมินที่หลากหลายประกอบกัน ซึ่งการให้คุณค่า ของผลการเรียนรู้ท่ีเกิดข้ึนจากวิถีชีวิต จากประสบการณ์ทางอาชีพ การฝึกอบรม การทำงาน การให้คุณค่าของผลการเรียนดังกล่าว จะกระตุ้นและสนับสนุนให้ประชาชนรักการเรียนรู้ แสวงหาความรูอ้ ย่างต่อเนอื่ ง ซึง่ เปน็ คุณลักษณะท่ีสำคญั ของประชาชนที่ประเทศตอ้ งการ หลักการเทียบระดับการศกึ ษา 1. เป็นการยอมรับคุณค่าของผลการเรียนรู้ที่เกิดจากการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศยั การประกอบอาชพี และจากประสบการณท์ ำงาน 2. เป็นการส่งเสริมให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาหรือจัดแหล่งการเรียนร ู้ ตลอดชีวติ 3. เป็นการส่งเสริมให้บุคคลมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตจากรูปแบบ การเรยี นรูท้ ่ีหลากหลาย 4. เป็นการดำเนินการท่ีให้ความสำคัญกับมวลประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรม ท่เี ป็นองค์รวมของบุคคล 5. เปน็ การดำเนนิ การท่ีมีมาตรฐาน มคี วามเป็นธรรม โปรง่ ใส และตรวจสอบได ้ ค่มู ือ คณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษา
วัตถปุ ระสงคข์ องการเทียบระดับการศึกษา 1. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และคุณธรรม จริยธรรม ได้รับการรับรองคุณวุฒิทางการศึกษา และมีหลักฐานการศึกษา เพือ่ ใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพ แสดงสถานะในสงั คมหรอื การศกึ ษาต่อ 2. เพ่ือสร้างแรงจูงใจให้บุคคลทั่วไปมีความกระตือรือร้นในการท่ีจะแสวงหา ความรู้ เพ่ิมทกั ษะและส่งั สมประสบการณ์อยา่ งตอ่ เน่ืองตลอดชวี ติ 3. เพ่ือตอบสนองความต้องการการยอมรับความรู้และประสบการณ์ของ ผู้เข้าประเมินเทียบระดับการศึกษา ซึ่งจะทำให้มีความมั่นใจในตนเอง ม่ันใจ ในสถานภาพทางสังคม ความเปน็ มา ตามกฎกระทรวงว่าด้วยการแบ่งระดับและการเทียบระดับการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2546 ข้อ 3 และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย การประเมินเทียบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับต่ำกว่า ปรญิ ญา พ.ศ. 2551 ขอ้ 9 ใหส้ ถานศึกษาแตง่ ตั้งคณะกรรมการประเมนิ เทียบระดบั การศกึ ษา จำนวนไม่เกินห้าคน ท้ังนี้ต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ในสาขาวิชาของการศึกษา ระดับนั้น จำนวนไม่น้อยกว่าสามคน และผู้มีความรู้ประสบการณ์ด้านวัดผลและประเมินผล จำนวนหนึ่งคน ดำเนินการประเมินเทียบระดับการศึกษา คณะกรรมการประเมินเทียบระดับ การศึกษาของสถานศึกษา อาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพ่ือพิจารณา หรือปฏบิ ัตกิ ารอยา่ งใดอย่างหนึ่งตามทค่ี ณะกรรมการมอบหมาย นอกจากนี้ ตามกฎกระทรวงข้อ 3 วรรคสอง กำหนดว่า คณะกรรมการประเมิน เทียบระดับการศึกษาจำนวนไม่เกินห้าคนนั้น ให้เลือกกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานกรรมการ และให้หัวหน้าสถานศึกษาตามวรรคหน่ึงแต่งต้ังเจ้าหน้าท่ีของสถานศึกษานั้นจำนวนหน่ึงคน เป็นเลขานุการ และกรรมการจะอยู่ในตำแหน่งคราวละส่ีปี กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับ แตง่ ตั้งอกี ได้ ดังน้ัน ในปี พ.ศ. 2546 กระทรวงศึกษาธิการ ได้อาศัยอำนาจตามความ ในมาตรา 16 วรรคส่ี และมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ออกกฎกระทรวงว่าด้วยการแบ่งระดับและการเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย และในปี พ.ศ. 2548 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศสถานศึกษาในสังกัด คูม่ ือ คณะกรรมการประเมินเทยี บระดบั การศกึ ษา
สำนกั บรหิ ารงานการศกึ ษานอกโรงเรียน จำนวน 21 แหง่ ทำหนา้ ทเี่ ทยี บระดับการศกึ ษา และ ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ส่งผลให้บทบาทหน้าท่ีของสถานศึกษาท่ีทำหน้าที่เทียบระดับ การศึกษาเปล่ียนแปลงไป กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ประกาศสถานศึกษาในสังกัดสำนักงาน กศน. ให้ทำหน้าท่ีเทียบระดับการศึกษาจังหวัดละ 1 แห่งท่ัวประเทศ รวม 75 แห่ง และ กรุงเทพมหานคร มี 4 แห่ง รวมทั้งสิน้ 79 แหง่ บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการประเมินเทยี บระดบั การศึกษา 1. แต่งตั้งคณะอนกุ รรมการและหรือคณะทำงาน 2. ชแี้ จงขอ้ มลู เกย่ี วกบั การประเมนิ เทยี บระดับการศกึ ษาใหแ้ ก่คณะอนกุ รรมการ/ คณะทำงาน 3. ร่วมกับสถานศกึ ษาวางแผนการประเมนิ เทยี บระดบั การศกึ ษา 4. อา่ นและประเมินแฟ้มประมวลประสบการณข์ องผเู้ ขา้ ประเมิน 5. สัมภาษณผ์ ู้เข้าประเมนิ ตามวนั เวลา และสถานทีท่ สี่ ถานศกึ ษากำหนด 6. ใหข้ ้อคิดเหน็ ข้อเสนอแนะแก่สถานศึกษาที่ทำหนา้ ทเี่ ทียบระดบั การศึกษา 7. ดำเนนิ การอื่น ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งตามที่ได้รบั มอบหมาย คำทคี่ วรรู้เก่ียวกบั การเทยี บระดบั การศกึ ษา คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดับการศกึ ษา หมายถงึ คณะบุคคลจำนวนไม่เกนิ ห้าคนที่สถานศึกษาแต่งต้ังจากผู้มีความรู้และประสบการณ์ในสาขาวิชาของการศึกษาระดับนั้น จำนวนไม่น้อยกว่าสามคน และต้องมีผู้มีความรู้ ประสบการณ์ด้านวัดผลและประเมินผล จำนวนหน่ึงคน ดำเนินการประเมินเทียบระดับการศึกษา ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการประเมินเทียบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับต่ำกว่า ปรญิ ญา พ.ศ. 2551 คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน หมายถึง คณะบุคคลที่คณะกรรมการประเมิน เทียบระดับการศึกษาของสถานศึกษา แต่งตั้งข้ึนเพ่ือพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามทคี่ ณะกรรมการมอบหมาย ค่มู ือ คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดบั การศึกษา
การเทียบระดับการศึกษา หมายถึง การนำผลการเรียน ความรู้ และประสบการณ ์ ที่ได้รับจากการศึกษานอกระบบท่ีจัดเป็นหลักสูตรเฉพาะ หรือหลักสูตรฝึกอบรมตามความ ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และการศึกษาตามอัธยาศัย การฝึกอาชีพ หรือจากประสบการณ์ การทำงานมาประเมนิ เพอื่ เทยี บระดับการศกึ ษาระดบั ใดระดับหนึ่ง การประเมินเทียบระดับการศึกษา หมายถึง วิธีการ กระบวนการ ในการวัดผล ประเมินผลการเรียนรู้ท่ีครอบคลุมลักษณะที่สำคัญ ท้ังด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ คุณธรรม จริยธรรม เพ่ือเป็นข้อมูลสำหรับตัดสินผลการเรียนรู้ให้เท่าระดับการศึกษาระดับใด ระดับหนึ่ง ตามเกณฑท์ สี่ ถานศึกษากำหนด แฟม้ ประมวลประสบการณ์ หมายถงึ แหลง่ รวบรวมข้อมูลความรู้ ความสามารถ และมวลประสบการณ์ของผู้เข้าประเมิน เพื่อนำเสนอหลักฐานความรู้ ความสามารถ และ มวลประสบการณ์ที่เก่ียวข้องกับการพัฒนาอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาสังคม และชุมชน ทส่ี อดคลอ้ งกบั มาตรฐานและตัวบ่งช้ีในระดับการศึกษา ผู้เข้าประเมินเทียบระดับการศึกษา หมายถึง บุคคลท่ัวไปที่พ้นเกณฑ์การศึกษา ภาคบังคับและไม่เป็นนักเรียน นักศึกษาของสถานศึกษาในระบบโรงเรียน สถานศึกษานอกระบบ โรงเรียน ที่แบ่งเป็นระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย และเป็นผู้มีประสบการณ์ในการประกอบการงานอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนา สังคมและชุมชน ถ่ินท่ีอยู่ประจำ หมายถึง ที่พักอาศัยหรือสถานที่ประกอบอาชีพปัจจุบันของ ผูเ้ ข้าประเมินเทียบระดับการศึกษา คมู่ ือ คณะกรรมการประเมนิ เทียบระดับการศึกษา
บทที่ 2 การดำเนินงานเทยี บระดับการศึกษา ในการดำเนินงานประเมินเทียบระดับการศึกษา สถานศึกษาท่ีรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้ทำหน้าท่ีเทียบระดับการศึกษา จะต้องเปิดให้มีการเทียบ ระดับการศึกษาเป็นการท่ัวไปไม่น้อยกว่าปีการศึกษาละหน่ึงครั้ง ระยะเวลาการเปิดประเมิน มติ คิ วามรูค้ วามคิด ให้เป็นไปตามทส่ี ำนกั งาน กศน. กำหนด สว่ นการประเมินมติ ิประสบการณ์ ให้ขึ้นอย่กู บั ความพรอ้ มของแต่ละสถานศึกษา โดยมีขน้ั ตอนการดำเนินงานดงั ต่อไปนี้ ขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน 1. การประชาสมั พันธ์รบั สมคั รผเู้ ข้าประเมิน 2. แนะแนวและรับสมคั ร 3. ปฐมนเิ ทศผู้เข้าประเมนิ 4. ดำเนินการประเมนิ มิติความรู้ ความคดิ และมิติประสบการณ ์ 5. ประมวลผลการประเมนิ 6. คณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษาพิจารณาให้ความเห็นชอบ ผลการประเมนิ 7. การสัมมนาวิชาการ/ปจั ฉิมนเิ ทศ 8. สถานศึกษาออกหลักฐานการศึกษาให้กับผู้ผ่านการประเมินเทียบระดับ การศกึ ษา คณุ สมบตั ิของผู้สมัครเทยี บระดบั การศกึ ษา 1. สัญชาตไิ ทยหรอื เป็นบุคคลทเ่ี ขา้ เมอื งโดยชอบด้วยกฎหมาย 2. มีภูมิลำเนาหรือถ่ินที่อยู่ประจำ หรือสถานที่ประกอบอาชีพในเขตบริการ การเทียบระดบั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา ค่มู อื คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดับการศึกษา
3. ไม่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาท่ีจัดการศึกษา ในระบบหรอื การศึกษานอกระบบที่แบ่งระดับเชน่ เดียวกับการศึกษาในระบบ 4. มีพ้ืนความรู้ในระดับที่ต่ำกว่าระดับที่ประสงค์จะขอเทียบระดับการศึกษา หนง่ึ ระดับ (ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย) ขอบข่ายการประเมินเทยี บระดับการศกึ ษา การประเมินเทียบระดับการศึกษาเป็นการประเมินแบบองค์รวม ซ่ึงมุ่งเน้นความ เป็นมนุษย์ทสี่ มบูรณ์ทั้งรา่ งกาย จติ ใจ สติปญั ญา องคค์ วามรู้และคุณธรรมมากกวา่ การประเมนิ ความรู้ตามสาระการเรียนรู้ ดังนั้น การประเมินเทียบระดับการศึกษาจึงมีขอบข่ายเน้ือหา การประเมนิ 4 องคป์ ระกอบ คอื 1. ความรูพ้ ้ืนฐาน เป็นความรู้ทางด้านวิชาสามัญ ที่จะใช้เป็นเคร่ืองมือในการศึกษาหาความรู้ ด้วยตนเอง จากสือ่ และแหลง่ วิทยาการต่าง ๆ ต่อไป เช่น ทกั ษะภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนความรู้ทีเ่ ปน็ ฐานความรูข้ องเร่ืองอืน่ ๆ ไดแ้ ก่ ความรู้ทางดา้ น คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ซ่ึงความรู้พ้ืนฐานเหล่าน้ีต้องเป็นความรู้ท่ีสอดคล้องกับ มาตรฐานและตัวบ่งชี้ท่ีกำหนด และสอดคล้องกับสภาพวิถีชีวิตของบุคคลที่จะมาขอเทียบ ระดบั การศกึ ษา 2. ความรู้และทักษะด้านพัฒนาอาชีพ เป็นความรู้ ความสามารถ และทักษะด้านการงานอาชีพ ความสามารถ ในการบรหิ ารจัดการด้านการงานอาชีพ มกี ารพัฒนากระบวนการการทำงาน หรือเปน็ ผ้มู ีความรู ้ ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ในการวางแผน การเลือกใช้เทคโนโลยีและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาใช้ดำเนินงานและพัฒนาการงานอาชีพไปสู่เป้าหมายได้อย่างสมเหตุสมผล รวมท้ังการม ี คุณธรรม จริยธรรมในการงานอาชพี 3. ความรแู้ ละทกั ษะดา้ นพัฒนาคณุ ภาพชีวติ เป็นความรู้ความสามารถท่ีสะท้อนให้เห็นว่าเป็นผู้ที่มีความเข้าใจและเห็น คณุ ค่าของชวี ติ ครอบครวั มที ักษะในการดำเนินชวี ติ การมีสุนทรยี ภาพ สามารถใช้ชีวิตอยา่ งมี ความสุข มีทักษะในการเสริมสร้างสุขภาพท้ังทางกายและจิตใจ ตลอดจนยึดหลักธรรม ตามศาสนาท่ีตนนับถือเป็นแนวทางในการดำเนนิ ชีวติ 4. ความร้แู ละทกั ษะดา้ นพฒั นาสังคมและชมุ ชน เป็นความรู้ท่ีเก่ียวกับสังคมรอบ ๆ ตัว และทักษะในการนำความร ู้ ความสามารถทม่ี ีมาใช้ในการดำเนินชีวิตครอบครัว ใหม้ คี วามมั่นคง เขม้ แข็ง อบอุน่ ตลอดจน นำศักยภาพของตนเองมาช่วยส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม คมู่ อื คณะกรรมการประเมนิ เทียบระดับการศึกษา
เพอ่ื นำไปสคู่ วามเขม้ แขง็ ของชมุ ชนและสงั คม ทงั้ ดา้ นอาชีพ ชวี ิตความเป็นอยู่ รวมท้ังส่งเสริม ใหส้ ังคมและชุมชนมีความกระตือรือรน้ ในการศกึ ษาหาความรู้อย่างต่อเนอ่ื ง เครือ่ งมอื และวธิ กี ารประเมินเทยี บระดบั การศึกษา สำนกั งาน กศน. ร่วมกบั สถาบนั ทดสอบทางการศึกษาแหง่ ชาติ (องค์การมหาชน) พิจารณาปรับปรุงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ของการเทียบระดับการศึกษา โดยสำนักงาน กศน. เป็นผู้จดั ทำเครือ่ งมอื ประเมนิ เทยี บระดับการศึกษาท่ีสอดคล้องกบั มาตรฐานและตัวบง่ ชี้ โดยใช้เคร่ืองมือการประเมินท่ีหลากหลาย เช่น แฟ้มประมวลประสบการณ์ การเสนอผลงาน การสัมภาษณ์ การปฏิบัติจริง การทดสอบ การตรวจสอบหลักฐานประกอบกัน และเพื่อให ้ การดำเนินงานการประเมินเทียบระดับการศึกษามีประสิทธิภาพ จึงแบ่งการประเมินเทียบ ระดับการศึกษาเป็น 2 มิติ คือ มิติความรู้ ความคิด และมิติประสบการณ์ โดยมีมาตรฐาน ในแตล่ ะมติ ิดงั น้ ี มิติที่ 1 มิตคิ วามรู้ ความคดิ มี 6 มาตรฐาน คือ 1) ความสามารถในการสือ่ สาร 2) ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และตัดสนิ 3) ความสามารถในการแสวงหาความรแู้ ละการใช้เทคโนโลย ี 4) ความรเู้ ก่ียวกับการดูแลสขุ ภาพกายและจิตของตน 5) ความเป็นไทย สากล และพลเมืองด ี 6) ความรู้เกี่ยวกับทรพั ยากรส่งิ แวดล้อมและการดำรงชวี ิต วิธกี ารประเมิน ใช้เครื่องมือทีเ่ ปน็ แบบทดสอบ ซง่ึ มีทง้ั แบบปรนยั และอตั นยั มติ ิท่ี 2 มิตปิ ระสบการณ์ มี 3 มาตรฐาน คือ 1) ดา้ นการพัฒนาอาชีพ 2) ด้านการพฒั นาคุณภาพชวี ิต 3) ด้านการพฒั นาสงั คมและชุมชน วิธีการประเมิน ผู้เข้าประเมินต้องนำเสนอแฟ้มประมวลประสบการณ์ และ เข้ารับการสัมภาษณ์ โดยมีคณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษาที่ได้รับการแต่งตั้งจาก ผบู้ ริหารสถานศกึ ษาดำเนนิ การประเมิน การตัดสินผลการประเมนิ เทยี บระดับการศกึ ษา มเี กณฑก์ ารตัดสนิ ดังน้ี 1. ผลการประเมินมิติความรู้ ความคิด ต้องได้คะแนนรวมทุกมาตรฐาน ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 50 คมู่ ือ คณะกรรมการประเมินเทยี บระดับการศึกษา
2. ผลการประเมินมิติประสบการณ์ ต้องได้คะแนนรายมาตรฐานไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 ผู้เข้าประเมินต้องผ่านการประเมินท้ัง 2 มิติ จึงจะตัดสินผลว่า “ผ่าน” การประเมินเทียบระดับการศึกษานั้น ๆ ผลของการผ่านและไม่ผ่านจะไม่มีระดับคะแนน และไมม่ ีคะแนนเฉลี่ยสะสม (GPAX) การอนุมตั ิผลการประเมนิ เทียบระดบั การศึกษา หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผอู้ นุมตั ผิ ลการประเมินเทยี บระดบั การศึกษา การออกหลักฐานการประเมินเทยี บระดบั การศกึ ษา เม่ือหัวหน้าสถานศึกษาอนุมัติผลการประเมินเทียบระดับการศึกษาแล้ว ให้สถานศึกษาจดั ทำเอกสารหลักฐานการประเมินเทียบระดับการศึกษา การเงนิ และงบประมาณ ผู้สมัครเข้าประเมินเทียบระดับการศึกษา ต้องชำระค่าธรรมเนียมเพ่ือขอเทียบ ระดับการศึกษา ระดับการศึกษาละ 1,500 บาทต่อคน และรายได้ท่ีได้รับน้ีสถานศึกษา สามารถนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานประเมินเทียบระดับการศึกษา เช่น ค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงานสอบมิติความรู้ ความคิด และค่าตอบแทนคณะกรรมการประเมิน มิตปิ ระสบการณ์ (ค่าอ่านแฟม้ คา่ สัมภาษณ์) การติดตามผลการเทียบระดบั การศกึ ษา การดำเนินงานเทียบระดับการศึกษาของแต่ละสถานศึกษา ผู้มีบทบาทสำคัญคือ คณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาที่ทำหน้าที่เทียบ ระดับการศึกษาจะต้องเข้าใจกระบวนการ ขั้นตอนของการดำเนินงาน โดยเฉพาะขั้นตอนของ การประเมินมิติประสบการณ์ ท่ีจะต้องติดตาม ให้กำลังใจแก่ผู้เข้าประเมินในการจัดทำ แฟ้มประมวลประสบการณ์ และเม่ือการประเมินเทียบระดับการศึกษาแต่ละครั้งดำเนินการ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่ิงสำคัญประเด็นหน่ึง น่ันก็คือ ควรมีการติดตามผลผู้ท่ีผ่านการประเมิน เทียบระดับการศึกษาไปแล้วว่าผู้น้ันได้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตดีข้ึนหรือไม่อย่างไร มีการศกึ ษาต่อในระดับที่สงู ข้ึนหรือไม่ มกี ารนำวฒุ กิ ารศึกษาไปพฒั นาหนา้ ที่การงานของตนเอง หรือไม ่ คมู่ ือ คณะกรรมการประเมินเทยี บระดบั การศกึ ษา
บทที่ 3 แนวทางการประเมนิ มิติประสบการณ ์ การประเมินมิติประสบการณ์ เป็นการประเมินของคณะกรรมการประเมินเทียบ ระดับการศึกษา หากสถานศึกษาใดมีผู้เข้าประเมินจำนวนมากเกินกว่าคณะกรรมการ ประเมินจะดำเนินการได้ ก็สามารถแต่งต้ังคณะอนุกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษา ดำเนินการได้ ซ่ึงการประเมินจะใช้หลากหลายวิธีประกอบกันตามมาตรฐานและตัวบ่งชี้ ท่ีกำหนดไว้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบและสืบค้นข้อมูล ความรู้ ความสามารถของ ผู้เข้าประเมินได้อย่างแท้จริง ปัจจุบันได้ใช้การสัมภาษณ์ การปฏิบัติจริง การตรวจสอบ หลักฐาน เอกสารรายงาน (แฟ้มประมวลประสบการณ์) รวมทั้งต้องมีการบันทึกผล การประเมินตามเกณฑ์การให้คะแนนท่ีกำหนดไว้ ทั้งน้ี เพ่ือให้การประเมินเป็นมาตรฐาน มีความยุติธรรม โปรง่ ใส ตรวจสอบได้ และเป็นทีย่ อมรบั ของสงั คม ภารกิจที่คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษา ตอ้ งดำเนินการในการประเมนิ มิตปิ ระสบการณ์ มีดังน้ ี การประเมนิ แฟม้ ประมวลประสบการณ์ 1. ทำความเขา้ ใจกบั เคร่อื งมอื การประเมินแฟม้ ประมวลประสบการณ ์ 2. อ่านแฟ้มประมวลประสบการณ์ของผู้เข้าประเมินแต่ละคน พร้อมทั้งประเมิน ผลงานแฟม้ ตามตัวบ่งชี้และเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การประเมินโดยการสัมภาษณ์ 1. ทำความเข้าใจกับเครือ่ งมือการสัมภาษณ ์ 2. ร่วมกับคณะกรรมการคนอื่นในคณะเดียวกัน ทำการสัมภาษณ์ตามตัวบ่งช้ี และเกณฑ์การให้คะแนน โดยใช้ข้อมูลแฟ้มประมวลประสบการณ์ประกอบ การสมั ภาษณด์ ว้ ย คมู่ ือ คณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษา
3. เม่ือคณะกรรมการสัมภาษณ์ผู้เข้าประเมินเสร็จหน่ึงคนแล้ว ก่อนท่ีจะ สัมภาษณ์คนต่อไป คณะกรรมการควรมีการปรึกษาหารือหรือแสดงความคิดเห็น กันก่อน จากน้ันจึงจะให้คะแนนพร้อมเหตุผลการประเมินลงในแบบฟอร์ม ท่ีสถานศึกษาจัดเตรียมไว้ให้ 4. หากผู้เข้าประเมินคนใด อธิบายประสบการณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ ประกอบอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือการพัฒนาสังคมและชุมชน ไม่ชัดเจน หรือคณะกรรมการต้องการเห็นสภาพจริง ก็สามารถกระทำได ้ จากน้ันจงึ คอ่ ยใหค้ ะแนน 5. หลังจากท่ีคณะกรรมการสัมภาษณ์ผู้เข้าประเมินเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้อง สรุปรวบรวมผลการประเมินตามแบบฟอร์มที่สถานศึกษาจัดเตรียมไว้ให้ พรอ้ มท้ังลงนามไวด้ ว้ ย ในการประเมินผลของคณะกรรมการ ส่ิงสำคัญประการหนึ่ง นั่นก็คือ การระบุ เหตุผลประกอบการให้คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นร่องรอยที่จะตรวจสอบว่าผู้เข้าประเมินผ่าน หรือไม่ผา่ นการประเมนิ เพราะเหตุใด เทคนิคการสัมภาษณ์ คำว่า “สัมภาษณ์” หมายถึง การพบกันระหว่างบุคคล 2 คน หรือมากกว่านี ้ กรณีสัมภาษณ์หมู่ กล่าวคือ ระหว่างผู้สัมภาษณ์กับผู้ถูกสัมภาษณ์เพ่ือเรียนรู้และแลกเปล่ียน ความคิดเห็นซ่ึงกันและกัน อันจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ (ลำดวน จาดใจดี 2536 : 30) การสัมภาษณ์น้ันมีวัตถุประสงค์หลักคือ เป็นการให้โอกาสแก่ท้ังผู้สัมภาษณ์และ ผู้ถกู สมั ภาษณ์ไดร้ บั ทราบขอ้ มูลซง่ึ กนั และกัน เพ่อื นำขอ้ มลู ที่ได้นัน้ มาใช้ประกอบการตัดสนิ ใจ ได้อย่างเหมาะสมที่สุด แต่เน่ืองจากเวลาท่ีใช้ในการสัมภาษณ์แต่ละคนนั้นมีจำกัด ดังนั้น การวางแผนและการกำหนดแนวทางในการสัมภาษณ์ท่ีดี จะมีส่วนช่วยให้ได้ข้อมูลท่ีชัดเจน ยิ่งขึ้นภายในเวลาที่กำหนด (ประคัลภ์ ปัณฑพลงั กูร 2550 : 29) ในการสัมภาษณ์ท่ีมีการกำหนดโครงสร้างการสัมภาษณ์ท่ีชัดเจนน้ัน ผู้สัมภาษณ์ จะถามคำถามผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ด้วยคำถามเดียวกัน ทำให้ผู้สัมภาษณ์สามารถท่ีจะ เปรียบเทียบคำตอบที่ได้รับมาจากผู้เข้ารับการสัมภาษณ์แต่ละคนได้ การสัมภาษณ์แบบมี โครงสร้างจะช่วยให้เกิดความยุติธรรมและเป็นรูปธรรมท่ีชัดเจน แต่วิธีการสัมภาษณ์แบบน้ ี 10 คู่มือ คณะกรรมการประเมินเทยี บระดับการศึกษา
อาจทำให้ผู้สัมภาษณ์ได้รับข้อมูลไม่มากพอจากผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์แบบไม่มี โครงสร้างนั้น ผู้สัมภาษณ์จะตั้งคำถามขึ้นอย่างอิสระ โดยไม่จำเป็นท่ีจะต้องใช้คำถามเดียวกัน กับผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ทุกคน การสัมภาษณ์มักจะถามกันไปเร่ือย ๆ ด้วยคำถามท่ีต่อเนื่อง และเป็นคำถามท่ีสามารถได้ข้อมูลมากท่ีสุด วิธีนี้ผู้สัมภาษณ์จะได้รับข้อมูลมากข้ึนจากผู้เข้ารับ การสัมภาษณ์ แต่ก็จะมีความยากมากข้ึนในการเปรียบเทียบคำตอบของผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ แต่ละคน และบางคร้งั อาจจะทำให้พลาดขอ้ มลู ท่ีสำคญั ทต่ี ้องใช้ในการตัดสินใจได ้ ดังน้ัน การใช้การสัมภาษณ์ท้ังสองวิธีประกอบกันนั้น น่าจะเป็นความคิดท่ีดีที่สุด กล่าวคือ ให้ความยืดหยุ่นในการเลือกใช้ชุดคำถาม แต่ก็ต้องแน่ใจว่าผู้เข้ารับการสัมภาษณ ์ ทุกคนได้ตอบคำถามหลักครบทุกคำถาม โดยการเตรียมชุดคำถามล่วงหน้าไว้สำหรับสัมภาษณ์ ผูเ้ ขา้ รบั การสัมภาษณ์ทกุ คน เคลด็ ลับในการดำเนินการสัมภาษณ์ (ประคลั ภ์ ปณั ฑพลังกรู 2550 : 45-46) ✿ ผ้สู ัมภาษณต์ อ้ งเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ในขณะทำการสมั ภาษณ์ ✿ อย่าเชอ่ื ความประทับใจแรกพบในตวั ผ้เู ขา้ รับการสัมภาษณ์ ✿ ช่วยผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ให้รู้สึกสบายใจในขณะสัมภาษณ์ เพราะจะทำให ้ ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์มีความยินดีและเต็มใจท่ีจะพูดคุยถึงเรื่องต่าง ๆ อย่าง อิสระ ✿ ให้ฟังมากกวา่ พูด ผ้สู มั ภาษณห์ ลายคนน้นั พูดมากกวา่ ฟัง ✿ ทุกคำถามท่ีถามไป ต้องมีวัตถุประสงค์ในการถามท่ีชัดเจน มิฉะนั้น จะเปน็ การเสยี เวลาท่มี คี ณุ ค่าในการทำความรู้จกั ผู้เข้ารับการสมั ภาษณ์ ✿ จดบันทึก แต่ไม่ควรให้ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์รู้สึกกระอักกระอ่วน ควรบอก ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ให้ทราบก่อนว่าจะมีการจดบันทึกบ้างในประเด็น ท่สี ำคญั ๆ ระหว่างการสัมภาษณ์ ✿ อย่าด่วนสรุป หรือรีบสรุปในสิ่งท่ียังไม่เห็นชัดเจน ให้พิจารณาถึงรูปแบบ พฤติกรรมของผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ท่ีสังเกตเห็นบ่อย ๆ ก่อนท่ีจะสรุป ประเดน็ เก่ยี วกบั ผเู้ ข้ารบั การสมั ภาษณแ์ ต่ละคน ✿ อย่าใช้การถามนำ หรือการบอกผูเ้ ข้ารับการสัมภาษณถ์ ึงคำตอบท่คี วรจะตอบ ✿ สัมภาษณอ์ ย่างเป็นระบบ ถา้ มีการสัมภาษณ์ผู้เข้ารบั การสมั ภาษณ์หลายคน คมู่ อื 11 คณะกรรมการประเมนิ เทียบระดับการศกึ ษา
บรรณานุกรม ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร. การว่าจ้างและรักษาบุคลากร. กรุงเทพฯ : บริษัทเอ็กซเปอร์เน็ท จำกดั , 2550. มณีรัตน์ อัจฉริยพันธกุล. คู่มือพัฒนาการประเมินเทียบระดับการศึกษา เพ่ือยกระดับ การศึกษา ประชากรวัยแรงงานในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์. ศูนย์การศึกษา นอกโรงเรียนจงั หวดั ประจวบครี ีขันธ์ : 2551. ลำดวน จาดใจดี. การสมัครงานและสอบสัมภาษณ์. กรุงเทพฯ : หจก.ไทยเจริญการพิมพ์, 2536. ศ.ดร.อุทมุ พร จามรมาน และคณะ. รายงานการพจิ ารณา ปรบั ปรงุ มาตรฐาน และตวั บง่ ชี้ การประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. เอกสารอัดสำเนา, มกราคม : 2551. ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย, สำนักงาน. คู่มือดำเนินงาน การประเมินเทียบระดบั การศึกษา พ.ศ. 2551. รงั ษีการพิมพ์ : 2551. สง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย, สำนกั งาน. คู่มอื ผเู้ ข้าประเมนิ เทยี บ ระดบั การศึกษา พ.ศ. 2551. รงั ษีการพิมพ์ : 2551. 12 ค่มู ือ คณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษา
ภาคผนวก 1. กฎกระทรวงศึกษาธกิ ารว่าด้วยการแบ่งระดบั และการเทยี บระดับการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2546 2. ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการว่าดว้ ยการประเมินเทียบระดบั การศกึ ษา ข้ันพื้นฐานและการศึกษาระดบั อดุ มศกึ ษา ระดับตำ่ กวา่ ปรญิ ญา พ.ศ. 2551 3. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรือ่ ง เปล่ยี นแปลง แก้ไข เพ่มิ เตมิ หลกั ฐานแสดงผลการประเมินเทยี บ ระดบั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั และแบบรายงาน ผู้ผา่ นการประเมนิ เทียบระดับการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย 4. คำสงั่ กระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป 208/2552 เร่อื ง การใชร้ ะเบียนแสดงผลการประเมนิ เทียบระดับการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ระดับการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน (กศน.1 ทศ-) 5. มาตรฐานและตวั บง่ ชีก้ ารประเมินเทยี บระดบั การศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั ระดบั การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน
กฎกระทรวงศกึ ษาธกิ าร วา่ ดว้ ยการแบ่งระดับและการเทยี บระดับการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั พ.ศ. 2546 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 วรรคสี่ และมาตรา 74 แหง่ พระราชบญั ญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีว่าการ ทบวงมหาวทิ ยาลัยออกกฎกระทรวงไวด้ ังต่อไปนี้ ขอ้ 1 การศกึ ษานอกระบบให้แบ่งออกเปน็ สองระดบั ดังน ี้ (1) การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน แบ่งออกเปน็ สามระดับ คอื (ก) การศึกษาระดับกอ่ นประถมศกึ ษา (ข) การศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษา (ค) การศึกษาระดับมัธยมศึกษา แบ่งออกเป็นสองระดับ คือ การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยแบ่ง ออกเปน็ ประเภทสามญั ศกึ ษาและประเภทอาชวี ศกึ ษา (2) การศกึ ษาระดบั อดุ มศึกษา แบง่ ออกเป็นสองระดบั คือ (ก) การศกึ ษาระดบั ตำ่ กว่าปริญญา (ข) การศึกษาระดบั ปรญิ ญา ข้อ 2 การศึกษานอกระบบท่ีจัดเป็นหลักสูตรเฉพาะหรือหลักสูตรฝึกอบรม ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และการศึกษาตามอัธยาศัย ผู้เรียนอาจนำผลการเรียน ความรู้ และประสบการณ์มาเทียบระดับการศึกษากับการศึกษาในระบบหรือการศึกษา นอกระบบตามขอ้ 1 ได้ ขอ้ 3 การเทียบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับต่ำกว่าปริญญา ให้สถานศึกษาท่ีรัฐมนตรีกำหนดแต่งต้ังคณะกรรมการจำนวนไม่เกินห้าคน ทั้งนี้ต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ในสาขาวิชาของการศึกษาระดับนั้นจำนวนไม่น้อยกว่า สามคน และผู้มีความรู้และประสบการณ์ด้านการวัดผลและการประเมินผลจำนวนหนึ่งคน 14 คมู่ อื คณะกรรมการประเมนิ เทียบระดบั การศึกษา
ดำเนินการประเมินเทียบระดับการศึกษาตามระเบียบท่ีรัฐมนตรีกำหนด ท้ังน้ีโดยพิจารณา จากจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดผลและการประเมินผล และหลกั เกณฑก์ ารจบหลักสตู รนั้น ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่งเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการ และให้หัวหน้าสถานศึกษาตามวรรคหน่ึงแต่งต้ังเจ้าหน้าที่ของสถานศึกษาน้ันจำนวนหน่ึงคน เปน็ เลขานุการ ขอ้ 4 กรรมการตามข้อ 3 อยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี กรรมการซ่ึงพ้นจากตำแหน่ง อาจได้รบั แตง่ ตัง้ อีกได้ ในกรณีที่กรรมการดำรงตำแหน่งครบตามวาระแล้ว แต่ยังมิได้มีการแต่งต้ัง กรรมการขึ้นใหม่ ให้กรรมการท่ีพ้นจากตำแหน่งตามวาระปฏิบัติหน้าท่ีไปพลางก่อน จนกว่า กรรมการที่ได้รบั แตง่ ตัง้ ใหม่จะเขา้ รับหน้าที่ ขอ้ 5 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามข้อ 4 กรรมการพ้นจาก ตำแหน่งเมื่อ (1) ตาย (2) ลาออก (3) เปน็ บุคคลลม้ ละลาย (4) เปน็ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (5) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษ สำหรับความผิดท่ีได้กระทำโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหุโทษ ในกรณีท่ีกรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ สถานศึกษาที่รัฐมนตรี กำหนดอาจแต่งตั้งคณะกรรมการแทนตำแแหน่งที่ว่างได้ และให้ผู้ท่ีได้รับการแต่งต้ังอยู่ใน ตำแหนง่ เทา่ กับวาระทีเ่ หลืออย่ขู องคณะกรรมการซง่ึ ตนแทน ในกรณีท่ีมีการแต่งต้ังกรรมการเพ่ิมขึ้นในระหว่างที่กรรมการซ่ึงแต่งต้ังไว้ แล้วยังมีวาระอยู่ในตำแหน่ง ให้ผู้ที่ได้รับการแต่งต้ังให้เป็นกรรมการเพ่ิมข้ึนอยู่ในตำแหน่ง เทา่ กบั วาระทเี่ หลืออยู่ของกรรมการที่ไดร้ บั เลือกแตง่ ตั้งไวแ้ ล้ว ข้อ 6 การประชุมของคณะกรรมการให้เป็นไปตามข้อบังคับท่ีคณะกรรมการ กำหนด ขอ้ 7 ให้คณะกรรมการเทียบระดับการศึกษาระดับอุดมศึกษาคณะหน่ึง ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาต่าง ๆ ซ่ึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้ง คูม่ ือ 15 คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดบั การศกึ ษา
จำนวนสามคน และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาต่าง ๆ ซ่ึงรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย แต่งต้ังจำนวนเจ็ดคน เปน็ กรรมการ ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานกรรมการ และให ้ ผูอ้ ำนวยการสำนกั มาตรฐานอุดมศกึ ษา ทบวงมหาวทิ ยาลัย เป็นกรรมการและเลขานุการ ขอ้ 8 วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และประชุมของคณะกรรมการ เทยี บระดบั การศึกษาระดบั อุดมศกึ ษา ให้นำขอ้ 4 ข้อ 5 และข้อ 6 มาบงั คบั โดยอนุโลม ข้อ 9 ให้คณะกรรมการเทียบระดับการศึกษาระดับอุดมศึกษา มีอำนาจหน้าท่ี ดงั ต่อไปน้ี (1) ออกระเบียบ กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการเทียบระดับการศึกษา ทงั้ นี้ โดยพจิ ารณาจากจดุ มงุ่ หมาย วิธกี ารศึกษา หลกั สตู ร ระยะเวลาของการศกึ ษา การวดั ผล และประเมินผล และหลกั เกณฑก์ ารจบหลกั สตู รนั้น (2) พิจารณาดำเนนิ การประเมนิ เทยี บระดบั การศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษา (3) ตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพ่ือพิจารณาหรือปฏิบัติการ อย่างใดอย่างหนง่ึ ตามทีค่ ณะกรรมการมอบหมาย (4) ดำเนินการอ่นื ใดตามทรี่ ัฐมนตรีมอบหมาย ขอ้ 10 การศึกษานอกระบบที่มีระดับเดียวกันกับการศึกษาในระบบ ให้ถือว่า มีมาตรฐานการศึกษาเทา่ เทียมกนั ให้ไว้ ณ วนั ท่ี 21 เมษายน พ.ศ. 2546 (นายปองพล อดิเรกสาร) รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ (นายปองพล อดเิ รกสาร) รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร รกั ษาราชการแทน รัฐมนตรวี ่าการทบวงมหาวิทยาลยั 16 คมู่ ือ คณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษา
ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธิการ ว่าดว้ ยการประเมินเทียบระดบั การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน และการศกึ ษาระดับอดุ มศึกษา ระดบั ต่ำกว่าปรญิ ญา พ.ศ. 2551 ดว้ ยกระทรวงศึกษาธกิ าร เห็นสมควรปรับปรุงระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการวา่ ด้วย การประเมินเทียบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับต่ำกว่า ปรญิ ญา ใหเ้ หมาะสมย่ิงข้ึน อาศัยอำนาจตามความในข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงว่าด้วยการแบ่งระดับและ การเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. 2546 รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ จึงวางระเบยี บไว้ดังตอ่ ไปน ้ี ขอ้ 1 ระเบียบนี้ เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการประเมินเทียบ ระดับการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานและการศึกษาระดับอดุ มศกึ ษา ระดบั ต่ำกวา่ ปรญิ ญา พ.ศ. 2551” ขอ้ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นตน้ ไป ขอ้ 3 ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการประเมินเทียบระดับ การศึกษาข้ันพน้ื ฐานและการศกึ ษาระดับอุดมศึกษา ระดบั ตำ่ กว่าปรญิ ญา พ.ศ. 2546 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ และคำส่ังอ่ืนใด ในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบน้ ี ซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนีแ้ ทน ข้อ 4 ในระเบียบนี้ “สถานศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาหรือหน่วยงานการศึกษาที่เรียกช่ือ อย่างอ่ืนที่จัดหรือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสถานศึกษาหรือ หน่วยงานการศึกษาท่ีเรียกช่ืออย่างอื่นท่ีจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับต่ำกว่าปริญญา และเป็นสถานศึกษาหรือหน่วยงานการศึกษาท่ีเรียกชื่ออย่างอื่น ท่ีรัฐมนตรีกำหนดให้ทำหน้าที่ เทียบระดับการศกึ ษา คมู่ อื 17 คณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศกึ ษา
“การเทียบระดับการศึกษา” หมายความว่า การนำผลการเรียน ความรู้ และประสบการณท์ ี่ไดร้ ับการศกึ ษานอกระบบที่จัดเปน็ หลกั สูตรเฉพาะ หรือหลกั สตู รฝกึ อบรม ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และการศึกษาตามอัธยาศัย การฝึกอาชีพ หรือ จากประสบการณ์การทำงานมาประเมนิ เพื่อเทียบระดบั การศกึ ษาระดบั ใดระดับหนงึ่ ขอ้ 5 ผขู้ อเทยี บระดบั การศกึ ษา ตอ้ งมคี ุณสมบตั ดิ งั ตอ่ ไปน้ ี (1) มสี ัญชาติไทย หรือเป็นบคุ คลท่ีเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (2) มีพื้นความรู้ในระดับการศึกษาที่ต่ำกว่าระดับที่ประสงค์จะขอเทียบ ระดับการศกึ ษาหนง่ึ ระดบั ยกเวน้ การขอเทียบระดับก่อนประถมศึกษาและระดบั ประถมศึกษา (3) มีภูมิลำเนาหรือถ่ินท่ีอยู่เป็นประจำ ในเขตบริการการเทียบระดับ การศกึ ษาของสถานศึกษา (4) ไม่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาท่ี จดั การศึกษาในระบบหรือการศึกษานอกระบบท่แี บง่ ระดับเชน่ เดยี วกบั การศกึ ษาในระบบ ขอ้ 6 การเทียบระดับการศึกษา ให้คำนึงถึงความสะดวกของผู้ขอเทียบ ระดบั การศกึ ษาและความพรอ้ มของสถานศกึ ษาเป็นสำคัญ ขอ้ 7 สถานศึกษาซึ่งมีหน้าท่ีดำเนินการเทียบระดับการศึกษา จะต้องประกาศ กำหนดให้ผู้ขอเทียบระดับการศึกษา ย่ืนคำร้องขอเทียบระดับการศึกษาและดำเนินการเทียบ ระดับการศึกษาเปน็ การท่ัวไป ไม่น้อยกวา่ ปีการศกึ ษาละหนงึ่ ครัง้ ขอ้ 8 ผทู้ ่ปี ระสงค์จะเทยี บระดบั การศึกษา ใหย้ ่ืนคำรอ้ งขอเทยี บระดบั การศกึ ษา ที่สถานศึกษาซึ่งตนมีภูมิลำเนา หรือถิ่นท่ีอยู่เป็นประจำตามวันเวลาท่ีสถานศึกษากำหนด พร้อมท้ังหลักฐานการมีคุณสมบัติท่ีจะขอเทียบระดับการศึกษา ตามข้อท่ี 5 และอาจมีหลักฐาน ท่ีแสดงความรู้ ทักษะ และประสบการณ์จากการศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย การฝกึ อาชพี หรือการทำงานตามทส่ี ถานศึกษากำหนด ขอ้ 9 ให้สถานศึกษาแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศึกษา จำนวนไม่เกินห้าคน ทั้งนี้ต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ในสาขาวิชาของการศึกษาระดับนั้น จำนวนไม่น้อยกว่าสามคน และผู้มีความรู้และประสบการณ์ด้านวัดผลและประเมินผล จำนวนหนึ่งคน ดำเนินการประเมินเทียบระดับการศึกษา คณะกรรมการประเมินเทียบ ระดับการศึกษาของสถานศึกษา อาจแต่งต้ังคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณา หรือปฏบิ ตั ิการอย่างใดอยา่ งหน่งึ ตามท่ีคณะกรรมการมอบหมาย 18 ค่มู ือ คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดบั การศึกษา
ให้หน่วยงานต้นสังกัดจัดทำมาตรฐานการเรียนรู้ระดับการศึกษาเพ่ือใช้สำหรับ ประเมินเทียบระดับการศึกษาท่ีสอดคล้องกับจุดหมายของหลักสูตร จัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ กรอบและเคร่ืองมือประเมนิ เทยี บระดบั การศกึ ษา ให้สถานศึกษาจัดทำมาตรฐานการเรียนรู้ระดับการศึกษา เพื่อใช้สำหรับการประเมิน เทียบระดับการศึกษาที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และหลักสูตรของสถานศึกษาเพ่ิมเติม รวมท้ัง จัดทำเครอื่ งมือประเมนิ ตามมาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั การศึกษาทส่ี ถานศกึ ษาจดั ทำเพิม่ เตมิ ขอ้ 10 การประเมินเทียบระดับการศึกษา ให้ประเมินมวลประสบการณ์ และความร ู้ ทเี่ ปน็ องค์รวมของบุคคล ให้ครอบคลมุ คณุ ลักษณะท่ีสำคญั ท้ังดา้ นความรู้ ทักษะกระบวนการ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยม ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั การศึกษาทีส่ อดคลอ้ งกบั จดุ มงุ่ หมายของหลักสตู ร ข้อ 11 ผู้ขอเทียบระดับการศึกษา จะต้องได้รับการประเมินผ่านมาตรฐาน การเรียนร้รู ะดับการศึกษาที่กำหนด จงึ จะถือว่าผา่ นการประเมนิ เทยี บระดับการศึกษา ผู้ขอเทียบระดับการศึกษาที่ไม่ผ่านการประเมินตามวรรคแรก สามารถเก็บสะสม ผลการประเมินในส่วนท่ีผ่านมาตรฐานการเรียนรู้ระดับการศึกษาไว้ได้ แต่ต้องเข้ารับ การประเมินเทียบระดับการศึกษาให้ผ่านครบมาตรฐานการเรียนรู้ระดับการศึกษาตามที่กำหนด ภายใน 5 ปี นับแต่วนั ทอี่ นมุ ัตผิ ลตามคำร้องขอเทียบระดับการศึกษาครั้งแรก ขอ้ 12 ใหห้ ัวหน้าสถานศกึ ษาเปน็ ผูพ้ ิจารณาอนมุ ตั ผิ ลการเทยี บระดับการศึกษา ขอ้ 13 ให้สถานศึกษาจัดทำหลักฐานแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษา เก็บไวเ้ ปน็ หลักฐานท่สี ถานศกึ ษาหนงึ่ ฉบับ และมอบใหผ้ ูข้ อเทียบระดับการศกึ ษาหน่ึงฉบับ นอกจากหลักฐานแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษาตามวรรคหนึ่ง ให้สถานศึกษาจัดทำรายงานผู้ผ่านการเทียบระดับการศึกษาส่งให้หน่วยงานท่ีสำนักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกำหนดหน่ึงฉบับ และเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทีส่ ถานศึกษาหนึ่งฉบับ หลักฐานแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษาตามวรรคหนึ่ง และรายงงาน ผผู้ ่านการเทยี บระดบั การศกึ ษาตามวรรคสอง ใหเ้ ปน็ ไปตามแบบท่ีแนบท้ายระเบียบน ี้ การเปล่ียนแปลง แก้ไข เพม่ิ เตมิ แบบ ให้จัดทำโดยประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ ข้อ 14 การออกประกาศนียบัตร ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย การออกประกาศนียบตั ร คมู่ อื 19 คณะกรรมการประเมินเทยี บระดับการศกึ ษา
ข้อ 15 ให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษา กำกับ ดูแล และตรวจสอบ การดำเนินการเทียบระดับการศึกษาให้ได้มาตรฐาน เป็นธรรม และกำหนดหลักเกณฑ ์ แนวปฏิบตั ทิ ี่สอดคลอ้ งกบั การจดั การศึกษาของหนว่ ยงานต้นสงั กดั ข้อ 16 ให้สถานศึกษาเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมการเทียบระดับการศึกษาได้ตาม หลักเกณฑท์ ่ีหน่วยงานตน้ สังกดั กำหนด ข้อ 17 ให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นหน่วยงานกลางทำหน้าท่ีจัดทำนโยบายแผนพัฒนาการดำเนินงานการเทียบระดับการศึกษา และประสานงานการเทยี บระดับการศกึ ษา ข้อ 18 ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ และให ้ มอี ำนาจตคี วามและวนิ ิจฉยั ปัญหาเกยี่ วกับการปฏิบัติตามระเบียบน้ ี ประกาศ ณ วนั ท่ี 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 สมชาย วงศส์ วสั ด ์ิ (นายสมชาย วงศส์ วัสด)์ิ รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ สำเนาถกู ตอ้ ง นพรตั น์ เวโรจนเ์ สรวี งศ ์ (นางนพรตั น์ เวโรจนเ์ สรีวงศ์) นักวิชาการศึกษา ชำนาญการพเิ ศษ 20 ค่มู ือ คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดับการศึกษา
ประกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรือ่ ง เปล่ยี นแปลง แก้ไข เพมิ่ เตมิ หลกั ฐานแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั และแบบรายงานผ้ผู า่ นการประเมนิ เทียบ ระดับการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ด้วยหลักฐานแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษา และแบบรายงานผู้ผ่าน การประเมินเทียบระดับการศึกษาตามแนบท้ายระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการ ประเมินเทียบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับต่ำกว่าปริญญา พ.ศ. 2551 ยังขาดความสมบูรณ์ในเนอื้ หาที่สำคญั เพ่อื ควบคุมการดำเนินงาน ให้เปน็ ไปด้วย ความเรียบรอ้ ย ถูกต้อง ครบถว้ น เกิดประโยชน์ตอ่ ทางราชการ จึงสมควรเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิม่ เติม ให้เหมาะสมยิ่งข้นึ ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามข้อ 13 วรรคส่ี ของระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย การประเมินเทียบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับต่ำกว่า ปรญิ ญา พ.ศ. 2551 จงึ ใหเ้ ปลีย่ นแปลง แก้ไข เพ่มิ เตมิ หลักฐานแสดงผลการประเมนิ เทียบ ระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และแบบรายงานผู้ผ่านการประเมิน เทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ท่ีแนบท้ายระเบียบดังกล่าว และ ให้ใช้หลักฐานแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย และแบบรายงานผู้ผ่านการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั แนบท้ายประกาศฉบับนแี้ ทน ดงั น ้ี 1. ระเบียบแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั ระดบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน ระดับประถมศกึ ษา 2. ระเบียบแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย ระดับการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น คมู่ ือ 21 คณะกรรมการประเมินเทยี บระดบั การศกึ ษา
3. ระเบียบแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั ระดับการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 4. แบบรายงานผู้ผ่านการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย ระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่การประเมินเทียบระดับการศึกษา ครั้งท่ี 2 ปีการศึกษา 2551 เปน็ ตน้ ไป จึงประกาศใหท้ ราบทั่วกนั ประกาศ ณ วันท่ี 30 เมษายน พ.ศ. 2552 (นายจุรินทร์ ลักษณวิศษิ ฏ)์ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร 22 คู่มอื คณะกรรมการประเมินเทียบระดบั การศกึ ษา
คำส่ังกระทรวงศึกษาธกิ าร ท่ี สป 208/2552 เรือ่ ง การใชร้ ะเบยี นแสดงผลการประเมินเทยี บระดับการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ระดบั การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน (กศน.1 ทศ-) เพ่ืออนุวัติให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการประเมินเทียบระดับ การศึกษาขัน้ พ้ืนฐานและการศกึ ษาระดับอุดมศึกษา ระดับต่ำกวา่ ปริญญา พ.ศ. 2551 ขอ้ 13 วรรคแรก เก่ียวกับการจัดทำหลักฐานแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษา ซ่ึงสถานศึกษาที่ทำหน้าท ่ี เทยี บระดับการศึกษาทุกแหง่ ตอ้ งใชเ้ หมือนกัน เพือ่ ประโยชน์ในการสอ่ื ความเข้าใจทต่ี รงกันและส่งตอ่ และเพ่ือประโยชน์ในการควบคุมการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษา ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดแบบพิมพ์ การพิมพ์ การซื้อ และการควบคุมการจัดทำระเบียนแสดงผล การประเมนิ เทียบระดับการศึกษา (กศน.1 ทศ-) ดังต่อไปน้ี 1. ระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เป็นหลักฐานแสดงผลการประเมินที่สถานศึกษาต้องออก ใหก้ บั ผ้เู ขา้ ประเมนิ ทกุ คนที่ผา่ นการเทยี บระดบั การศกึ ษาแตล่ ะระดับการศึกษา หรอื เมอื่ มีความจำเปน็ ตอ้ งออกจากสถานศกึ ษา โดยใชแ้ บบพมิ พท์ ีก่ ระทรวงศกึ ษาธิการกำหนดเท่าน้ัน 2. ลกั ษณะแบบพิมพ ์ 2.1 แบบพิมพ์ระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั จำแนกเปน็ 3 แบบ คือ 2.1.1 ระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั ระดับการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ระดบั ประถมศึกษา (กศน.1 ทศ-ถ) 2.1.2 ระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ระดับการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (กศน.1 ทศ-ต) 2.1.3 ระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย ระดับการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย (กศน.1 ทศ-ป) ในการออกระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย คู่มือ 23 คณะกรรมการประเมินเทียบระดบั การศกึ ษา
ระดบั การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน สถานศกึ ษาจะต้องใชแ้ บบพิมพ์ให้ถกู ตอ้ งตรงกับระดบั การศึกษาของผผู้ ่าน การประเมิน 2.2 แบบพิมพ์ระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ทุกระดับการศึกษาจัดทำไว้ 2 แบบ เพอื่ สถานศกึ ษาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับวิธกี ารจัดทำเอกสารของตน คอื 2.2.1 แบบพิมพ์ปกติ มีลักษณะเป็นแบบพิมพ์สมบูรณ์ครบถ้วน สำหรับ ใช้กรอกขอ้ มลู ดว้ ยการเขยี นหรือการพิมพ ์ 2.2.2 แบบพิมพ์สำหรับพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นกระดาษว่าง พิมพเ์ ฉพาะชือ่ เอกสารแต่ละระดับการศึกษาและหมายเลขควบคุมเอกสารเทา่ นัน้ 2.3 เพ่ือประโยชน์ในการควบคุมและตรวจสอบเอกสาร จึงกำหนดให้ม ี ชุดที่และเลขท่ีประจำระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย แต่ละระดับการศกึ ษา ดังนี ้ 2.3.1 ชุดท่ี ในแต่ละระดับการศึกษาให้ใช้เลข 5 หลัก โดยเริ่มใช้ต้ังแต่ 00001 จนถงึ 99999 2.3.2 เลขท่ี ประจำระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ให้ใชเ้ ลข 6 หลกั โดยเริม่ ต้งั แต่ 000001 จนถึง 999999 ใหเ้ ลขท่ปี ระจำระเบยี นเป็นเลขย่อยของเลขชุดที่แตล่ ะชดุ 3. การพิมพ์และการส่ังซ้ือแบบพิมพ์ระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ให้ปฏบิ ัตดิ ังน ี้ 3.1 ให้องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพ ครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จัดพิมพ์ภายใต้การควบคุมของสำนักงาน กศน. สำนักงาน ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 3.2 การส่ังซื้อแบบพิมพ์ ให้ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. จังหวัด หรือ กรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี เป็นผู้ส่ังซ้ือแบบพิมพ์ให้สถานศึกษาที่ทำหน้าท่ีเทียบระดับการศึกษา ในเขตพน้ื ท่ที ีร่ ับผิดชอบ 4. การควบคุมและการเก็บรักษาแบบพิมพ์ กศน.1 ทศ-ถ, กศน.1 ทศ-ต, กศน.1 ทศ-ป ให้ถอื ปฏิบัติดงั นี ้ 4.1 ให้สำนักงาน กศน. จังหวัด หรือกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี และ สถานศกึ ษาท่ที ำหน้าทเ่ี ทียบระดับการศกึ ษา จดั ทำบัญชรี ับ-จ่ายแบบพมิ พ์ไว้เปน็ หลักฐาน 4.2 กรณีแบบพิมพ์เกิดสูญหายระหว่างทางขณะทำการขนส่งหรือสูญหาย ดว้ ยเหตุอ่ืน ๆ หรอื เขยี นผิดพลาด หรือสกปรก หรอื เกิดการชำรดุ เสยี หายด้วยเหตอุ ืน่ ใด จนไมอ่ าจ ใชก้ ารได้ ใหด้ ำเนนิ การดงั น ้ี 24 คมู่ ือ คณะกรรมการประเมินเทยี บระดบั การศึกษา
4.2.1 กรณีมีความเสียหายหรือสูญหายเกิดขึ้นในส่วนกลาง ให้ผู้ทำให ้ เกิดความเสียหายหรือสูญหาย ได้แก่ สถานศึกษา หรือสำนักงาน กศน. กรุงเทพมหานคร หรือ องค์การคา้ ของ สกสค. รายงานเลขาธิการ กศน. โดยดว่ น 4.2.2 กรณีมีความเสียหายหรือสูญหายเกิดข้ึนในส่วนภูมิภาค ให้ผู้ทำให้ เกิดความเสียหายหรือสูญหาย ได้แก่ สถานศกึ ษา หรือสำนักงาน กศน. จังหวัด รายงานผูว้ ่าราชการ จงั หวดั โดยดว่ น 4.2.3 ให้เลขาธิการ กศน. หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี ดำเนินการ สอบสวนและรายงานสำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร 4.2.4 ให้สำนักงาน กศน. จังหวัด หรือกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี ประกาศยกเลิกแบบพิมพ์ฉบับที่เสียหายหรือสูญหาย พร้อมทั้งแจ้งกระทรวงศึกษาธิการ และ ส่วนราชการอ่ืน ๆ เพ่ือมิให้เจ้าหน้าที่รับพิจารณาระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับการศึกษา ฉบบั ทเ่ี สียหายหรอื สูญหายน้ัน 4.2.5 กรณีมีความเสียหายอันเนื่องจากเขียนผิดพลาดหรือจากกรณีอ่ืน ๆ จนไม่อาจใช้การได้ ให้ขีดเส้นทแยงมุมในแบบพิมพ์ระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับ การศึกษาดว้ ยหมกึ สีแดง 2 เส้น แลว้ ให้ติดไว้กบั ตน้ ขั้ว 5. ให้มีนายทะเบียน โดยใหห้ วั หนา้ สถานศึกษาเป็นผแู้ ต่งตั้ง 6. ในการออก กศน.1 ทศ-ถ, กศน.1 ทศ-ต, กศน.1 ทศ-ป จะต้องออกเลขชุดท ่ี เลขที่ และกรอกรายการต่าง ๆ ให้ตรงกับต้นฉบับ และสถานศึกษาจะต้องทำบัญชีการออก กศน.1 ทศ-ถ, กศน.1 ทศ-ต, กศน.1 ทศ-ป ไวเ้ ป็นหลักฐานในทุกกรณ ี กรณีที่ผู้ผ่านการประเมินเทียบระดับการศึกษารับเอกสารระเบียนแสดงผลการประเมิน เทียบระดับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.1ทศ-) ไปแล้ว เม่ือมีความจำเป็น ต้องขอฉบับใหม่ สถานศึกษาจะต้องกรอกเลขชุดท่ี เลขท่ี และรายการต่าง ๆ ให้ตรงกับเอกสาร ตน้ ฉบับ 7. สถานศึกษาจะต้องออกและกรอกระเบียนแสดงผลการประเมินเทียบระดับ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.1 ทศ-ถ, กศน.1 ทศ-ต, กศน.1 ทศ-ป) โดยปฏิบตั ติ ามคำอธบิ ายแนบท้ายคำสัง่ น้ ี ท้งั น้ี ตง้ั แต่บดั นี้เป็นตน้ ไป ส่งั ณ วนั ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2552 (นายจุรนิ ทร์ ลกั ษณวศิ ษิ ฏ)์ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร คูม่ ือ 25 คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดบั การศกึ ษา
มาตรฐานและตวั บ่งช ้ี การประเมนิ เทียบระดบั การศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย ระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐาน
มาตรฐานและตวั บ่งช ี้ การประเมนิ เทยี บระดบั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ระดบั การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน มติ ทิ ี่ 1 ความรู้ ความคิด มาตร ฐานต วั บง่ ช ้ี ระ ด ับประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศึกษา ระดับมธั ยมศกึ ษา ตอนตน้ ตอนปลาย 1. ความ 1.1 สรุปเรอื่ งตา่ ง ๆ 1.1 สรปุ เรอ่ื งต่าง ๆ 1.1 สรปุ เรื่องต่าง ๆ สามารถ ใหผ้ ู้อืน่ เขา้ ใจ ให้ผู้อื่นเขา้ ใจ ใหผ้ อู้ ืน่ เข้าใจ ในการ (บทความ ขอ้ มูล (บทความ ข้อมูล (บทความ ข้อมลู สื่อสารทง้ั สถิต)ิ สถิติ ยากและซับซอ้ น สถติ ิ ยากและซบั ซ้อน ภาษาไทย ขน้ึ ตามระดับ) ขึ้นตามระดบั ) และภาษา 1.2 อธบิ าย 1.2 ตคี วาม แปลความ 1.2 ตีความ แปลความ ต่างประเทศ สถานการณ์ เรือ่ งตา่ ง ๆ เร่ืองต่าง ๆ ตามหลักวชิ า 1.3 วเิ คราะห์ 1.3 วจิ ารณ ์ สถานการณ ์ ใหข้ อ้ เสนอแนะ เก่ยี วกบั เร่อื งต่าง ๆ 1.4 ใช้ภาษา 1.4 ใช้ภาษา ตา่ งประเทศในการ ตา่ งประเทศ สือ่ สารเร่ืองใกล้ตัว ในการส่อื สาร กบั บคุ คลอ่นื 2. ความ 2.1 ความรพู้ น้ื ฐาน 2.1 ความรพู้ นื้ ฐาน 2.1 ความรู้พื้นฐาน สามารถ ท่จี ำเปน็ ในการ ที่จำเป็นในการ ที่จำเป็นในการ ในการ ดำรงชวี ติ ดำรงชีวิต ดำรงชวี ิต คดิ วเิ คราะห์ 2.2 ระบปุ ัญหา 2.2 ระบุปญั หา 2.2 ระบุปัญหาของ สงั เคราะห์ สิ่งแวดลอ้ ม สภาพแวดล้อม สภาพแวดลอ้ ม และตัดสนิ สภาพแวดลอ้ ม ในประเทศ ของโลก อาชพี และสงั คม ภายในท้องถิน่ 28 คูม่ ือ คณะกรรมการประเมินเทียบระดบั การศึกษา
มาต รฐานตวั บ่งชี้ ระ ด บั ประถมศกึ ษา ระดบั มัธยมศึกษา ระดบั มัธยมศกึ ษา ตอนตน้ ตอนปลาย 2.3 วเิ คราะห์สาเหตุ 2.3 วเิ คราะห์สาเหตุ 2.3 วิเคราะหส์ าเหตุ ของปัญหา ของปญั หา ของปัญหา ในท้องถ่ิน สภาพแวดล้อม ส่งิ แวดล้อม ในประเทศ ของโลก 2.4 แก้ปญั หาโดยใช้ 2.4 แกป้ ัญหาโดยใช้ 2.4 แกป้ ญั หาโดยใช้ กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ ทางวิทยาศาสตร์ ทางวิทยาศาสตร ์ 2.5 เสนอแนวทาง 2.5 เสนอแนวทางแก้ไข 2.5 เสนอแนวทางแก้ไข แก้ไขปัญหา สภาพแวดลอ้ ม สภาพแวดลอ้ ม ท้องถน่ิ ในประเทศ ของประเทศ และของโลก 3. ความ 3.1 แสวงหาข้อมลู / 3.1 แสวงหาข้อมลู / 3.1 แสวงหาข้อมูล/ สามารถ ความรู้จาก ความรู้จาก ความรู้จาก ในการ สือ่ ต่าง ๆ ส่ือตา่ ง ๆ สอ่ื ตา่ ง ๆ แสวงหา 3.2 ตดิ ตามความ 3.2 ตดิ ตามความ 3.2 ตดิ ตามความ ความร้แู ละ เคลอ่ื นไหวขา่ วสาร เคลอ่ื นไหวข่าวสาร เคลื่อนไหวข่าวสาร เทคโนโลยี 3.3 ระบเุ ทคโนโลย ี 3.3 นำขา่ วสารความรู้ 3.3 สรา้ งองค์ความรู้ ท่เี หมาะสมกับ ไปใช้ประโยชน ์ จากขอ้ มลู และ งานอาชพี สงั คม ในชีวติ ประจำวนั สารสนเทศ และสิง่ แวดล้อม และอาชพี 3.4 นำเทคโนโลยีไปใช้ 3.4 วางแผนการใช้ 3.4 มีวจิ ารณญาณ ในการดำรงชวี ติ เทคโนโลย ี ในการเลอื กใช้ และการประกอบ ในงานอาชีพ สังคม เทคโนโลยีและ อาชีพ และสิง่ แวดล้อม เลือกรับขอ้ มลู ขา่ วสาร คมู่ ือ 29 คณะกรรมการประเมนิ เทียบระดบั การศกึ ษา
มาต รฐานตัว บ่งช ้ี ระ ด บั ประถมศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ตอนตน้ ตอนปลาย 3.5 นำเทคโนโลยีไปใช้ 3.5 นำเทคโนโลยีไปใช้ ในการหาความรู้ ในการหาความรู้ การดำรงชวี ิตและ และสรา้ ง การประกอบอาชพี นวตั กรรมในการ ดำรงชวี ิตและ ประกอบอาชพี 4. ความร ู้ 4.1 อธิบายวิธีการ 4.1 ปฏิบตั ติ นในการ 4.1 ปฏิบัติตนและ ในเรอ่ื ง รกั ษาสขุ ภาพ รักษาสขุ ภาพ เสนอแนะวธิ ีการ การดูแล และปลอดภยั จาก และปลอดภยั จาก รักษาสุขภาพ สุขภาพ พฤติกรรมเส่ยี ง พฤติกรรมเสีย่ ง และปลอดภยั จาก กายและจิต พฤตกิ รรมเสยี่ ง ของตน 4.2 เลือกบริโภคอาหาร 4.2 วิเคราะหข์ อ้ ดี 4.2 เสนอแนะวิธกี าร ตามหลกั โภชนาการ ข้อดอ้ ยของอาหาร เลือกบริโภคอาหาร ตามหลักโภชนาการ ให้ถกู หลักโภชนาการ 4.3 แสดงออกทาง 4.3 แสดงออกทาง 4.3 แสดงออกทาง อารมณ์ท่เี หมาะสม อารมณ์ทีเ่ หมาะสม อารมณท์ ีเ่ หมาะสม กบั วฒุ ภิ าวะและ กบั วฒุ ภิ าวะและ กับวฒุ ภิ าวะและ เลอื กแนวทาง เลือกแนวทาง เลือกแนวทาง จดั การอารมณ ์ จัดการอารมณ ์ จัดการอารมณ ์ และความเครยี ด และความเครยี ด และความเครยี ด ของตนเองและผอู้ ่นื ของตนเองและผอู้ ่ืน 4.4 มคี วามรูเ้ ก่ียวกบั 4.4 วางแผนเกีย่ วกบั 4.4 เสนอแนะแนวทาง การสร้างเสริมและ การสร้างเสริมและ ในการสรา้ งเสริม ดำรงสมรรถภาพ ดำรงสมรรถภาพ และดำรงสมรรถภาพ ทางกาย ทางกายที่สอดคลอ้ ง ทางกายทีส่ อดคล้อง 30 ค่มู อื คณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศกึ ษา
มาต รฐานตัว บ่งชี้ ระ ด บั ประถมศกึ ษา ระดับมัธยมศึกษา ระดบั มัธยมศึกษา ตอนตน้ ตอนปลาย กบั ผลการตรวจ กับผลการตรวจ สุขภาพประจำป ี สุขภาพประจำปี 4.5 อธิบายประโยชน์ 4.5 อธิบายวิธีการ 4.5 เสนอแนะ การออกกำลังกาย รักษาความปลอดภยั และเลน่ กฬี า หรอื เลน่ กีฬา ในการออกกำลังกาย หรือออกกำลังกาย หรือเลน่ กีฬาท่ีสนใจ อยา่ งปลอดภยั 4.6 มีความรู้เกย่ี วกับ 4.6 อธบิ ายพฒั นาการ 4.6 นำความรเู้ กย่ี วกับ พัฒนาการวัยต่าง ๆ และปจั จยั ท่ีส่งผล พัฒนาการของมนษุ ย์ ของมนษุ ย ์ ตอ่ พัฒนาการ ไปประยกุ ต์ใช ้ ด้านอารมณ์ จิตใจ ในการดำเนนิ ชวี ติ สตปิ ัญญาและสังคม 4.7 อธิบายบทบาทของ 4.7 วางแผนชีวิตของ 4.7 เสนอแนวทาง ตนเองในการทำให้ ครอบครวั และ ในการจดั การเพอื่ ครอบครวั อบอุ่น สง่ เสริมสัมพนั ธภาพ ใหค้ รอบครัวอบอุน่ มีความสขุ ทีด่ ีในครอบครัว 4.8 อธบิ ายการป้องกัน 4.8 หลกี เลย่ี งและ 4.8 เสนอแนวทางและ โรคจากพฤตกิ รรม ป้องกนั ตนจาก มสี ่วนรว่ มในการ ทางเพศและ การตดิ โรคทางเพศ ส่งเสรมิ ความ การตงั้ ครรภ ์ และการตั้งครรภ ์ เสมอภาคทางเพศ ที่ไมพ่ ึงประสงค์ ที่ไมพ่ งึ ประสงค์ และป้องกันตนเอง จากการตดิ โรค ทางเพศและ การต้งั ครรภ ์ ท่ีไมพ่ งึ ประสงค ์ 4.9 อธิบายการปฐม- 4.9 อธบิ ายการปฐม- 4.9 อธบิ ายการปฐม- พยาบาลเบ้ืองต้น พยาบาลเบือ้ งตน้ พยาบาลเบอ้ื งต้น และดแู ลผอู้ ่นื และดูแลผอู้ นื่ และดแู ลผูอ้ นื่ เมื่อเจ็บป่วย เมอื่ เจ็บป่วย เมื่อเจบ็ ปว่ ย คูม่ อื 31 คณะกรรมการประเมินเทียบระดับการศกึ ษา
มาต รฐานตัว บง่ ช ้ี ระ ด บั ประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตอนต้น ตอนปลาย 5. ความ 5.1 อธบิ ายเหตุการณ์ 5.1 ระบุเหตุการณ์ 5.1 วิเคราะห์เหตุการณ์ เป็นไทย สำคัญใน สำคัญใน สำคัญใน ความ ประวัติศาสตร ์ ประวัตศิ าสตร ์ ประวตั ศิ าสตร์ไทย เปน็ สากล ชาตไิ ทย ชาติไทย ที่มผี ลตอ่ และ และผลที่เกิดขนึ้ วฒั นธรรมการเมอื ง พลเมืองดี การปกครองหรือ เศรษฐกจิ หรอื สงั คม 5.2 แสดงความคดิ เหน็ 5.2 สะทอ้ นคณุ ค่า 5.2 ประยกุ ต์ใช ้ เก่ียวกบั คุณค่า ด้านดนตรีทเ่ี ป็น ดนตรีทเี่ ป็น ดา้ นดนตรีท่เี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม มรดกทางวฒั นธรรม มรดกทางวัฒนธรรม และภมู ิปัญญา ภูมิปัญญาไทย และภมู ปิ ญั ญา ท้องถิน่ และสากลมาใช ้ ท้องถน่ิ ภูมปิ ัญญาไทย ในชวี ติ ประจำวัน ภูมิปญั ญาไทย และสากล และสากล 5.3 มีความรู้เก่ียวกบั 5.3 สะท้อนคณุ คา่ 5.3 สะท้อนคุณคา่ นาฏศลิ ปแ์ ละ นาฏศิลป์และ นาฏศิลป์และ ศลิ ปะการแสดง ศลิ ปะการแสดง ศิลปะการแสดง เกยี่ วกบั วัฒนธรรม เกีย่ วกับวัฒนธรรม เกี่ยวกบั วฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญา และภูมปิ ัญญา และภมู ปิ ญั ญา ทอ้ งถิ่น ท้องถ่ิน ทอ้ งถิน่ ภูมปิ ญั ญาไทย ภมู ิปญั ญาไทย ภมู ิปญั ญาไทย และภูมปิ ญั ญาสากล และภมู ิปัญญาสากล และภมู ิปัญญาสากล 5.4 นำหลกั ธรรม 5.4 นำหลกั ธรรม 5.4 นำหลกั ธรรม ทางศาสนา ทางศาสนา ทางศาสนา และค่านยิ ม และค่านิยม และค่านิยม ทีด่ ีงามทางสังคม ทดี่ งี ามทางสงั คม ท่ีดีงามทางสงั คม 32 ค่มู ือ คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดบั การศกึ ษา
มาต รฐานตัว บ่งช้ี ระ ด บั ประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศึกษา ระดบั มัธยมศกึ ษา ตอนตน้ ตอนปลาย ไปใช้ในการ ไปใช้ในการ ไปใช้ในการ พัฒนาตน พฒั นาตน สงั คม พฒั นาตน สงั คม ใหอ้ ยรู่ ว่ มกัน และทอ้ งถ่ิน และท้องถิน่ อย่างสันตสิ ขุ ใหอ้ ยรู่ ว่ มกัน ให้อย่รู ว่ มกัน อยา่ งสนั ติสุข อยา่ งสนั ต ิ 5.5 นำเสนอคุณธรรม 5.5 วเิ คราะห์ลกั ษณะ 5.5 วจิ ารณ์ปัญหา จริยธรรมของ ของคนดตี าม ทางสงั คม บคุ คลในครอบครวั หลักธรรม และเสนอแนะ ชมุ ชนท้องถน่ิ ทางศาสนา แนวทางปฏิบัติ ทีส่ ามารถนำมา และนำมาเป็น โดยใช้หลักธรรม ประยุกต์ใช ้ แบบอยา่ ง ทางศาสนา เป็นแนวทางปฏบิ ตั ิ ในการปฏิบัติตาม 5.6 อธบิ ายความงาม 5.6 วเิ คราะหค์ วามงาม 5.6 วจิ ารณ์ผลงานทาง ของธรรมชาตแิ ละ ทางธรรมชาติและ ศิลปะแขนงตา่ ง ๆ ผลงานทางศลิ ปะ ผลงานทางศลิ ปะ และใหข้ อ้ เสนอแนะ 5.7 มศี ิลปะในการ 5.7 นำความร ู้ 5.7 นำความร ้ ู สรา้ งเสรมิ บุคลกิ ภาพ ทางทัศนศิลป ์ ทางทศั นศิลป ์ ประดับตกแต่ง มาสร้างเสรมิ มาสรา้ งเสริม ทีอ่ ยอู่ าศยั /ทีท่ ำงาน บคุ ลิกภาพ บคุ ลิกภาพ และเครอ่ื งใช ้ ประดับตกแต่ง ประดับตกแตง่ ทอ่ี ยู่อาศยั ท่อี ยูอ่ าศยั ที่ทำงานและ ท่ที ำงานและ เครอื่ งใช้สอย เคร่ืองใชส้ อย และวิเคราะห์ และวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ผลงานที่ วิจารณ์ผลงานที่ สรา้ งสรรคเ์ กย่ี วกับ สรา้ งสรรค์เกีย่ วกับ การประดับตกแตง่ การประดบั ตกแตง่ คู่มอื 33 คณะกรรมการประเมนิ เทียบระดับการศึกษา
มาต รฐานตัว บง่ ช ้ี ระ ด ับประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตอนต้น ตอนปลาย 5.8 สรา้ งสรรค ์ 5.8 สร้างสรรค์งาน 5.8 สร้างสรรค ์ งานศิลปะง่าย ๆ ศิลปะ และสอื่ สาร งานศิลปะได้อย่าง และสือ่ สาร ให้คนอนื่ เขา้ ใจ หลากหลาย ให้คนอ่นื เข้าใจ และสอ่ื สาร ให้คนอืน่ เขา้ ใจ 5.9 อธิบายสาระสำคญั 5.9 อธิบายสาระสำคญั 5.9 อธิบายสาระสำคญั ของกฎหมาย ของกฎหมาย ของกฎหมาย รัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนญู รัฐธรรมนญู และกฎหมายอ่ืน กฎหมายที่ใช ้ กฎหมายที่ใช ้ ท่ีเก่ียวข้อง ในชีวิตประจำวนั ในชวี ติ ประจำวนั ในชีวิตประจำวัน และกฎหมาย กฎหมายมหาชน มหาชนได ้ และกฎหมาย ความสัมพันธ์ ระหวา่ งประเทศ 5.10 อธิบายแนวคิดหลัก 5.10 อธิบายแนวคดิ หลกั 5.10 วเิ คราะหห์ ลกั การ และวธิ กี าร และวธิ ีการ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ของเศรษฐกิจ ทางเศรษฐกิจ ท่นี ำมาใช้ในการ พอเพียง พอเพียงและนำไป ดำเนนิ ชีวิต ประยุกต์ใช ้ ในชวี ติ ประจำวัน 6. ความรู้ 6.1 อธิบายวธิ ปี ระหยัด 6.1 ใช้พลังงาน 6.1 รณรงค์ถงึ เร่ือง การใช้พลงั งาน ทรพั ยากรธรรมชาติ การใช้พลังงาน ทรัพยากร ทรัพยากรธรรมชาติ สิง่ แวดล้อม ทรพั ยากรธรรมชาต ิ สิ่งแวดล้อม สง่ิ แวดล้อม อย่างประหยัด สิ่งแวดลอ้ ม และการ ในชีวิตและอาชีพ คมุ้ ค่า และถูกวธิ ี อยา่ งประหยดั ดำรงชีวติ 34 คูม่ ือ คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดับการศึกษา
มติ ทิ ี่ 2 ประสบการณ ์ ตวั บง่ ช้ ี มาตรฐาน 1. ดา้ นการพัฒนาอาชพี 1. ลกั ษณะ/วธิ ีการ/ขน้ั ตอนการประกอบอาชีพ คำอธิบายตัวบ่งช ี้ พรอ้ มแสดงหลักฐาน อธบิ ายลักษณะ/วิธีการ/ขน้ั ตอน การประกอบอาชพี การบริหารจัดการ 2. พัฒนาการของการประกอบอาชพี ตงั้ แต ่ เกีย่ วกบั รายรับ รายจา่ ย เรม่ิ ต้นจนถงึ ปจั จุบนั 3. แนวทาง/วิธีการในการแสวงหาขอ้ มูลความรู้ เกีย่ วกบั อาชีพของตน 4. การบรหิ ารจัดการเกี่ยวกับรายรับ รายจา่ ย คน วัสดุ อปุ กรณ์ในงานอาชพี (ประกอบด้วยองคป์ ระกอบ 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ การบรหิ ารเงนิ การบรหิ ารบคุ ลากร และการบริหารวัสด/ุ อปุ กรณ)์ 5. คณุ ธรรม จรยิ ธรรมที่นำมาใช้ในการ ประกอบอาชีพ (องคป์ ระกอบ 3 ด้าน ไดแ้ ก่ จำนวนคณุ ภาพ วิธกี ารนำคณุ ธรรม และผลทีเ่ กดิ จากการใชค้ ณุ ธรรมในการ ประกอบอาชพี ) 6. สามารถแก้ปัญหาในการทำงาน (มี 3 องคป์ ระกอบ ไดแ้ ก่ สภาพปญั หา ที่เกดิ ขึน้ จากการทำงาน แนวทางแก้ไข และผลท่ีไดร้ ับ) 7. ผลทีเ่ กิดจากการประกอบอาชพี ท่ีมีต่อตนเอง ชมุ ชน และสังคม (มี 3 องคป์ ระกอบ ไดแ้ ก่ ผลท่เี กดิ กับตนเอง ผลทเี่ กิดกบั ชุมชน และผลทีเ่ กดิ กบั สังคม) คู่มอื 35 คณะกรรมการประเมนิ เทยี บระดับการศึกษา
มาตรฐาน ตัวบ่งช ้ี 2. ดา้ นการพฒั นาคณุ ภาพชีวิต 1. ลักษณะ/วิธีการ/ขั้นตอนการดูแลสุขภาพของ ตนเองและครอบครัว พรอ้ มแสดงหลักฐาน เชงิ ประจกั ษ์ 2. การดแู ลและสร้างเสริมสุขภาพจติ 3. ผลท่เี กิดจากการดูแลและสร้างเสรมิ สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิต 4. การป้องกันและแก้ไขในสถานการณเ์ สย่ี ง ต่อชวี ติ และทรพั ยส์ ิน 3. ด้านการพัฒนาสงั คมและชุมชน 5. การปฏบิ ตั ิตนในเรอื่ งศิลปะ ดนตรี นาฏศลิ ป์ คำอธบิ ายตวั บ่งช ี้ ผู้เข้าประเมนิ สามารถพูดและ/หรือเขียน 1. ลักษณะ/วิธกี าร/ข้ันตอนการมีส่วนรว่ มในการ อธิบายถงึ ลกั ษณะ/วธิ ีการ/ขัน้ ตอนการม ี สว่ นร่วมในการพัฒนาสงั คมและชุมชน พัฒนาสงั คมและชุมชน พร้อมแสดงหลักฐาน พรอ้ มแสดงทั้งหลักฐานประกอบในแฟม้ ผลงาน คำอธิบายตวั บง่ ช ี้ 2. ผลทเ่ี กดิ จากการมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมพฒั นา ผเู้ ขา้ ประเมินสามารถพูดและ/หรอื เขยี นถงึ สังคมและชมุ ชน ผลดีหรือประโยชนข์ องการเขา้ รว่ มกิจกรรม พร้อมทง้ั ระบถุ งึ บทบาทหน้าทีท่ ่เี ข้าร่วม กิจกรรมพฒั นาสังคมและชุมชนได้ คำอธิบายตัวบง่ ช ี้ 3. ปฏิบตั ติ นตามหลกั ของทางศาสนาทต่ี นนับถือ ผูเ้ ขา้ ประเมินสามารถพูดและ/หรือเขยี น มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม เกยี่ วกบั พฤตกิ รรมในชวี ติ ประจำวนั ทีพ่ ึงประสงค ์ ที่สะท้อนถึงการปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรม ทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ พรอ้ มทงั้ ยกตวั อยา่ ง 36 ค่มู ือ คณะกรรมการประเมนิ เทียบระดับการศึกษา
มาตรฐาน ตวั บง่ ช ้ี คุณธรรมในการประกอบวิชาชพี จรยิ ธรรม และคา่ นิยมทแ่ี สดงถงึ ความเป็นคนดขี องตนเอง คำอธิบายตวั บง่ ช ี้ 4. จติ สำนึกในการอนุรกั ษ์ศิลปะ ให้ผูเ้ ข้าประเมนิ เขยี น/พดู นำเสนอขอ้ มูล วัฒนธรรมประเพณี ทรัพยากรธรรมชาต ิ ท่แี สดงถงึ การมีจติ สำนึกในการเป็นผู้อนุรกั ษ ์ และสิ่งแวดล้อม ศิลปะ วฒั นธรรมประเพณี ทรัพยากรธรรมชาต ิ และสิ่งแวดลอ้ ม โดยได้เคยปฏบิ ตั ิตน ในเรอ่ื งนั้น ๆ อย่างไร เช่น 1. การร่วมกจิ กรรมทีเ่ ป็นศิลปะ วฒั นธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี โดยเปน็ ผูส้ ่งเสริม ผเู้ ผยแพร่ ให้มีการสืบทอด กจิ กรรมน้ัน ๆ ต่อไป 2. การเป็นผู้อนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ การพัฒนาสงิ่ แวดลอ้ ม และเปน็ ผู้ใช้ พลังงานอย่างประหยัด คำอธบิ ายตวั บง่ ช ้ี ให้ผเู้ ข้าประเมินเขียน/พดู แสดงความคิดเห็น 5. แสดงความรสู้ กึ ความคิดเห็นในการ ความรูส้ กึ ชื่นชม ความภาคภมู ิใจ เข้ารว่ มกจิ กรรมการพฒั นาสงั คมและชมุ ชน ในประสบการณ์การมีสว่ นรว่ มกจิ กรรม การพัฒนาสังคมและชุมชน พรอ้ มท้งั ยกตวั อยา่ งประกอบ หรือ แสดงความคิดเหน็ ความรู้สึก ช่ืนชม ภาคภมู ิใจในประสบการณข์ องชีวติ ทป่ี ระมวลมานำเสนอทั้งในด้านชีวิตสว่ นตัว ครอบครวั การงานอาชีพ การพัฒนา คุณภาพชวี ติ และการพฒั นาสงั คม และชุมชน พรอ้ มทง้ั ยกตวั อย่างประกอบ คู่มอื 37 คณะกรรมการประเมินเทียบระดบั การศกึ ษา
✿ แบบบันทกึ คะแนนประเมนิ มติ ิประสบการณ์ : แฟ้มประมวลประสบการณ ์ ✿ แบบบนั ทึกคะแนนประเมินมิติประสบการณ์ : การสัมภาษณ ์ ✿ แบบสรุปผลการประเมนิ เทียบระดับการศึกษา : มิตปิ ระสบการณ์ ครั้งท.ี่ .......ปกี ารศกึ ษา.................... ✿ แบบสรปุ ผลการประเมนิ เทยี บระดับการศกึ ษา : มติ คิ วามรู้ ความคดิ คร้งั ท.ี่ .......ปีการศึกษา.................... ✿ แบบสรปุ ผลการประเมนิ เทยี บระดบั การศกึ ษา ครง้ั ท่ี........ปกี ารศกึ ษา.................... คูม่ อื 39 คณะกรรมการประเมนิ เทียบระดบั การศกึ ษา
แบบบนั ทกึ คะแนนประเมนิ มติ ิประสบการณ์ : แฟม้ ประมวลประสบการณ ์ 1. กรรมการรายบุคคล 40 ด้านการพัฒนาอาชีพ ด้านการพัฒนาคณุ ภาพชีวิต ดา้ นการพฒั นาสงั คมและชุมชน ระดบั ประถมศกึ ษา มัธยมศึกษาตอนตน้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ค่มู อื สถานศกึ ษาเทียบระดบั การศึกษา กศน. อำเภอ...................................จงั หวัด..................................... คณะกรรมการประเมินเทยี บระดบั การศกึ ษา ล ำทดี ่ บั ชื่อ-สกลุ 1 2 3ค ะแนน4ร ายตวั บ5ง่ ชี้ 6 7 รวม เหตผุ ลประกอบการให้คะแนน หมายเหตุ ลงช่ือ.......................................................................กรรมการคนท่ี.................... (.......................................................................)
แบบบันทกึ คะแนนประเมนิ มติ ิประสบการณ์ : การสัมภาษณ ์ 2. กรรมการรายบุคคล ดา้ นการพฒั นาอาชีพ ดา้ นการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต ดา้ นการพัฒนาสงั คมและชมุ ชน ระดับ ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย สถานศกึ ษาเทยี บระดบั การศึกษา กศน. อำเภอ...................................จงั หวัด..................................... สมั ภาษณว์ นั ท.่ี ..............เดือน.......................................พ.ศ. ............................. ล ำท ดี่ บั ชือ่ - ส กุลผู้เข้าประเมิน ตัวบ่งชี้ ค ะเตแม็น น คะทแ่ีไดน้ น เหตผุ ลประกอบการให้คะแนน 1 คมู่ อื 2 3 คณะกรรมการประเมินเทียบระดบั การศกึ ษา 4 5 6 7 1 2 3 4 5 6 7 41 ลงช่ือ.......................................................................กรรมการคนที่.................... (.......................................................................)
42 แบบสรุปผลการประเมนิ เทยี บระดับการศึกษา : มิตปิ ระสบการณ์ ครัง้ ท.ี่ ......ปกี ารศึกษา................ 3. สถานศึกษา ด้านการพัฒนาอาชพี ด้านการพัฒนาคุณภาพชวี ิต ดา้ นการพฒั นาสังคมและชมุ ชน ค่มู อื ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น มธั ยมศึกษาตอนปลาย คณะกรรมการประเมินเทยี บระดบั การศกึ ษา สถานศึกษาเทียบระดับการศกึ ษา กศน. อำเภอ...................................จงั หวัด..................................... ล ำทด ่ี ับ ช อ่ื -สกุล ก ค คระนร4 แม ท0นกี่ 1นาร กคค ร ะนร4แมท 0นกี่ 2นาร คะก คคแ ร ะนรน4แมทน0นก่ีแ 3นาฟร ้ม คค แ1ะะร แแฟว2มนน0้ม นน คคเะะ ฉ 4แแ ล 0 นนย่ี นน กค คร ะนร 6 แมท 0นกี่ 1นาร ก คคระนร6แ มท 0 นก่ี 2นาคร ะ แกนคครนะนร6สแม ท0 มันก ี่ 3ภนาร า ษสณ คคมั ์1ะะรภแแว8า มนน0ษ นน ณ ์ คค เ ะะฉ6แแล0นนย่ี นน ส คคัมแ 1ะะรภฟแแว0า ้มมนน0ษ+ นน ณ ์ ครอ้ะทขแยอี่ไ นดลง ้ะน ผลกไผาม รา่่ผปน่าร/นะ เ มนิ ลงชอื่ .............................................ผกู้ รอกคะแนนและประมวลผล ลงช่ือ............................................ผตู้ รวจ ลงชื่อ............................................ประธาน (.............................................) (.............................................) (.............................................)
4. สถานศกึ ษา แบบสรปุ ผลการประเมินเทียบระดบั การศึกษา : มิตคิ วามรู้ ความคิด ครง้ั ท.ี่ ......ปกี ารศกึ ษา................ ระดบั ประถมศกึ ษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สถานศึกษาเทียบระดับการศกึ ษา กศน. อำเภอ...................................จงั หวดั ..................................... ลำ ดับที ่ รผ หู้เขสั ้าป ปรระ ะจเ ำม ตนิ ัว เ ลปข รปะ รชะ าจชำนต ัว ชือ่ -สกลุ 1 2ผ ล ค ะ แน3น ร า ย ม า4ต ร ฐ าน 5 6 คะร แวมน น ค รอ้ะแย นลนะขทอี่ไดง ้ ผ ปา่ ผนรล/ะไกเมมาผ่ รินา่ น คมู่ อื ลงชอ่ื .............................................ผู้กรอกคะแนนและประมวลผล ลงช่อื ............................................ผตู้ รวจ ลงช่ือ............................................ประธาน คณะกรรมการประเมินเทียบระดบั การศกึ ษา 43 (.............................................) (.............................................) (.............................................)
44 5. สถานศกึ ษา แบบสรุปผลการประเมินเทยี บระดบั การศกึ ษา ครงั้ ท่ี.......ปีการศึกษา................ ค่มู อื ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษาตอนต้น มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สถานศกึ ษาเทยี บระดบั การศึกษา กศน. อำเภอ...................................จังหวดั ..................................... คณะกรรมการประเมินเทยี บระดบั การศกึ ษา ลำ ดับท่ ี ร ผ ห้เู ขัส ้าป ปรระ ะจเ ำ มติน วั เ ลปข ร ปะ รชะาจชำ นต วั ช ่อื - ส ก ุล อ า ย ุ อ า ชีพ คคว วาามมค รดิ ้ ู ร้อพอ ยัฒา ลชนพีะาข อ ง คค ุณะพแ ภนฒั านพนทช า่ี ไวี ด ิต ้ พ แัฒลนะชาสมุ ังช คนม ป ผไผมรละ่าผ่ กเน่ามา/นรนิ ลงชอ่ื .............................................ผู้กรอกคะแนนและประมวลผล ลงชอ่ื ............................................ผู้ตรวจ ลงชอื่ ............................................ประธาน (.............................................) (.............................................) (.............................................)
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: