Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทสวด ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร

บทสวด ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร

Published by Bunchana Lomsiriudom, 2020-07-30 11:50:01

Description: บทสวด ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร

Keywords: บทสวด,บทสวด ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร,ศาสนาพุทธ

Search

Read the Text Version

เม่ือทา่ นเปน็ มนษุ ย์ สว่ นดวงวญิ ญาณของทา่ นก็เลก็ เทา่ ดวงตาด�าข้างในของท่าน เมอื่ ท่านขึ้นไปเป็นพระพุทธเจ้า แล้ว ตาของทา่ นก็มีเหมือนเราเชน่ นี้ ตาธรรมกาย มญี าณ ของธรรมกาย มีดวงวญิ ญาณนัน่ แหละกลับเป็นดวงญาณ ใหญ่โตมโหฬาร ใหญ่โตขึน้ ดวงใสเท่าดวงตาด�าข้างใน แหละ ทีม่ ีความรู้อยู่ในใจนแี้ หละเขาเรียกว่าดวงวิญญาณ พอไปเปน็ ธรรมกายเขา้ แลว้ กลบั เปน็ ดวงญาณทเี ดยี ว วดั ผา่ เส้นศูนย์กลางเท่าหน้าตักธรรมกาย ดวงญาณเท่าหน้าตัก ธรรมกาย นั้นแหละเรียกวา่ จกฺขุกรณี เห็นเปน็ ปรกติ เหน็ ดว้ ยตาธรรมกาย เห็นอะไร เห็นเบญจขนั ธ์ท้ัง ๕ ในมนุษย์ โลกน้ี รปู เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณของมนษุ ย์ ของ มนษุ ยล์ ะเอยี ด รปู เวทนา สญั ญา สงั ขาร วญิ ญาณ ของกาย ทิพย์ ของกายทพิ ย์ละเอียด เหน็ รูป เวทนา สญั ญา สงั ขาร วิญญาณ ของกายรูปพรหม รูปพรหมละเอียด อรูปพรหม อรปู พรหมละเอยี ด เหน็ เบญจขันธ์ท้งั ๕ ของ ๘ กายนี้ เหน็ อนิจจัง ทกุ ขัง อนตั ตา เหน็ จริง เหน็ ด้วยตาธรรมกาย เหน็ ไมเ่ ท่ยี งจรงิ ๆ เหน็ จรงิ อยา่ งน้ี ตามนุษยเ์ ห็นไมไ่ ด้ ตา ๘ กาย ในภพน้ีเห็นไมไ่ ด้ กายมนษุ ยก์ ไ็ มเ่ หน็ อนิจจงั ทกุ ขงั อนัตตา 46

กายมนษุ ย์ละเอยี ดก็ไม่เห็น กายทพิ ย์กไ็ ม่เห็น กายทพิ ย์ ละเอียดก็ไม่เหน็ กายรูปพรหมก็ไม่เห็น กายรูปพรหม ละเอยี ดก็ไม่เหน็ อรปู พรหมกไ็ ม่เหน็ อรปู พรหมละเอียดก็ ไม่เหน็ อนจิ จงั ทุกขงั อนัตตา เหน็ ไม่ได้ ตามันไม่ดี ตามัน ไมถ่ ึงข้นั ท่ีจะไดเ้ ห็น อนจิ จงั ทกุ ขงั อนตั ตา ทา� ไมไมถ่ งึ ขนาด เล่า ก็มนั ขั้นสมถะนี่ กายมนุษย์ กายมนุษย์ละเอยี ด กาย ทพิ ย์ กายทพิ ยล์ ะเอยี ด กายรปู พรหม กายรปู พรหมละเอียด กายอรปู พรหม กายอรปู พรหมละเอยี ด น่มี นั ขัน้ สมถะ แต่ อรูปฌานเท่านัน้ เลยไปไม่ได้ พอถงึ กายธรรมมันขั้น วิปสั สนา ตาพระพุทธเจา้ ท่านก็เหน็ เบญจขนั ธ์ ทง้ั ๕ เปน็ อนิจจัง ทุกขงั อนตั ตา แทๆ้ เห็นจรงิ ๆ จังๆ อย่างน้ันละ เห็นแท้ทีเดียว เห็นชดั ๆ ไม่ได้เห็นด้วยตากายในภพ เหน็ ด้วยตาธรรมกาย รู้ด้วยญาณธรรมกาย เห็นด้วยตา พระพุทธเจา้ รดู้ ว้ ยญาณพระพุทธเจา้ เหน็ อยา่ งนแ้ี หละเหน็ ด้วยตาของพระตถาคตเจา้ รู้ดว้ ยญาณของพระตถาคตเจ้า ธรรมกายนนั่ เป็นตัวของพระตถาคตเจ้าทเี ดียว ไม่ใช่อืน่ เหน็ ชัดอย่างน่ีแหละ เห็นอย่างนี้แหละเขาเรียกวิปัสสนา เหน็ เบญจขันธท์ งั้ ๕ เป็น อนิจจัง ทกุ ขัง อนัตตา 47

เห็นเป็นอนิจจังน่ะเห็นอย่างไร เห็นตัง้ แต่กายมนุษย์ เกิด กายมนุษย์เกดิ ไม่อยู่ท่ี เกดิ เรื่อยๆ เกิดรบิ ๆ เหมอื น ไฟจดุ อยู่ มีไส้ มนี ้�ามนั มีตะเกยี ง จดุ มันกล็ กุ โพลง เราเขา้ ใจ วา่ ไฟดวงน้ันเปน็ อยา่ งน้นั แหละ ไอก้ ายมนษุ ยม์ นั กเ็ ปน็ อยา่ ง นนั้ แหละ แต่ตาธรรมกายไม่เห็นอย่างน้ัน เห็นไฟเกา่ หมด ไปไฟใหม่เดินเรือ่ ยขึ้นมา ไฟเก่าหมดไปไฟใหม่เดินเรื่อย ขนึ้ มา แลว้ ก็เอามือคล�าดูข้างบนกร็ ู้ ร้อนวบู ๆๆๆ ไป ออ้ ไฟใหม่เกดิ เรอ่ื ย กายมนษุ ยน์ ้กี เ็ ช่นเดียวกัน ไอ้เกา่ ตายไป ไอ้ใหมเ่ กิดเรอ่ื ย หนุนไมไ่ ด้หยดุ เหมือนไฟ เหมือนดวงไฟ อย่างนัน้ แหละ ไม่ขาดสาย มันเกิดหนนุ อย่างนัน้ นนั่ เห็น ขนาดน้ัน เหน็ เกิดเหน็ ตายเร่อื ย เกิดแลว้ กต็ ายไป เกิดแลว้ กต็ ายไป ไม่มหี ยดุ ละ เหมอื นกนั หมดทงั้ สากลโลก เหน็ ทีเดียววา่ มีแต่เกิดกับดบั ยงฺกิญจฺ ิ สมทุ ยธมฺม� สพพฺ นตฺ � นิโรธธมมฺ � สง่ิ ท้ังปวง มคี วามเกดิ เป็นธรรมดา ย่อมมีความเกิดเสมอ สิ่งทงั้ ปวง มเี กดิ เสมอ มีความดับเสมอ มีเกดิ กบั ดบั ๒ อยา่ งเทา่ น้ัน หมดทัง้ สากลโลก เหน็ ดว้ ยตาธรรมกาย รดู้ ้วยญาณธรรม- กายจรงิ ๆ อย่างน้ี นท้ี �าวปิ สั สนาเหน็ จริงเห็นจงั อยา่ งน้ี 48

ขนั ธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ กแ็ บบเดยี วกัน โส สมุปำทยธมฺม� เหน็ ตลอดขนั ธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อินทรยี ์ ๒๒ อรยิ สัจ ๔ ปฏิจจสมุปบาทธรรม ๘ ดวงนีเ้ หน็ ตลอดหมด เหน็ จริง เห็นจังทีเดียว เหน็ ด้วยตาธรรมกาย รู้ด้วยญาณธรรมกาย รู้ชัดอย่างนี้ นเี้ รียกว่า ส�วตฺตติ ย่อมเป็นด้วยพร้อม อปุ สมำย เพ่ือความสงบ เม่อื เหน็ เชน่ น้นั แลว้ ความยนิ ดใี น รปู เสียง กลิน่ รส สัมผสั ไมม่ ี สงบหมด หายไปหมด เงยี บ ฉีเ่ ชียว ทีย่ นิ ดีถอนไม่ออก เงียบฉี่เชียว อภิญฺญำย รู้ย่ิง ทุกสิง่ ทุกอย่าง สมฺโพธำย รู้พร้อมรู้จริงทกุ สิง่ ทกุ อย่าง นิพฺพำนำย ดบั หมด ราคะ โทสะ โมหะ ดบั หมด ปรากฏ อย่างนี้ ดังความจริงอย่างนี้ นที่ ไี่ ปถงึ พระตถาคตเจ้า อย่างนี้ ไปถึงธรรมกายเช่นนี้ ไม่ได้ไปทางอืน่ เลย ไปทาง ปฐมมรรค ไปกลางดวงธมั มานปุ สั สนาสตปิ ฏั ฐาน ดวงศลี ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิมตุ ติ วมิ ุตติญาณทัสสนะ ดวงศลี คอื อะไร ดวงศลี นะคอื สัมมาวาจา สมั มากมั มนั โต สัมมาอาชโี ว อรยิ มรรค ๓ องคน์ ้ันเรยี กวา่ ดวงศลี ดวงสมาธิ สัมมาวายาโม สมั มาสติ สัมมาสมาธิ อรยิ มรรคอกี ๓ องค์ ดวงปัญญา สัมมาทฏิ ฐิ สัมมาสังกปั โป เป็น ๘ องค์ใน 49

อริยมรรคนนั้ ทงั้ สนิ้ อยู่ในนัน้ จึงได้เข้าถึงธรรมกายนี้ได้ ถึงพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ แท้ๆ นีแ้ หละให้ แนว่ แนล่ งไว้ เรากเ็ กดิ มาประสพพบพระพุทธศาสนา พทุ ธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ไมไ่ ด้ ถงึ ตัวจรงิ ของศาสนาไมไ่ ด้ มี ตวั จรงิ ศาสนา น่ีแกน่ ศาสนา อยใู่ นตวั ของเราเปน็ ลา� ดบั ของ กายเขา้ ไป อยา่ ไปทางอ่ืนนะ ไมไ่ ด้ ตอ้ งไปทางหยดุ ทางเดยี ว จะยุ่งยากอยา่ งหนึง่ อย่างใดเข้าให้ถงึ หยดุ ใหถ้ กู สว่ น หยดุ ใหเ้ ขา้ กลาง หยดุ ใหถ้ ูกเปา้ หมายใจด�าของพระพุทธศาสนา ทา� ตามท่พี ระองคร์ บั ส่งั ไวใ้ นปฐมเทศนา ใหแ้ นน่ อนอยา่ งน้ี จะไดเ้ ขา้ ถงึ ตวั จรงิ เชน่ น้ี ถา้ เขา้ ถงึ ตวั จรงิ เชน่ นแ้ี ลว้ กพ็ งึ รู้ ออ้ ทแ่ี สดงมานี้ เว้นเสยี จากที่สุดทงั้ ๒ สิ่ง ไม่เสพทสี่ ุดท้งั ๒ น้ัน เดนิ ตามมัชฌมิ าปฏปิ ทา ไปทาง ศลี สมาธิ ปญั ญา วมิ ตุ ติ วมิ ตุ ติญาณทสั สนะ ไปเป็นล�าดับนนั้ จึงเข้าถงึ ตรัสรู้เป็น พระพทุ ธเจา้ เปน็ ตถาคตเจ้าแทๆ้ ดงั ท่ไี ดแ้ สดงมาน้ีตง้ั แต่ ต้นจนอวสานนี้ ผู้มีปรีชาญาณมนสิการก�าหนดไว้ในใจ ทกุ คนทุกถ้วนหนา้ 50

วันน้ีเป็นวันปีใหม่ ได้แสดงปฐมเทศนา พระองค์ทรง ตรัสเทศนาเปน็ เบื้องตน้ เปน็ ทีแรกเรียกว่าปฐมเทศนา พอ เป็นเคร่อื งประคบั ประคองฉลองศรัทธา ประดบั สติปญั ญา คุณสมบัติของทา่ นพทุ ธบรษิ ัท คฤหัสถบ์ รรพชติ บรรดามา สโมสรในสถานท่นี ี้ทกุ ถว้ นหนา้ ว่าเราท่านทง้ั หลาย ผูเ้ ปน็ เมธีมปี ญั ญาตอ้ งการส่งิ ท่เี ปน็ มงคล ตอ้ งการความเจรญิ แลว้ ต้งั ใจใหแ้ นแ่ นว่ ใหถ้ ึงพระรตั นตรยั วนั น้เี ปน็ วันใหม่ ช่วั รา้ ย ด้วยกายวาจาใจตดั ขาด อยา่ กระทา� ท�าใจใหห้ ยดุ ใหถ้ กู เป้า หมายใจด�าทางพระพทุ ธศาสนาทีไ่ ด้ชี้แจงแสดงมา มนุษย์ แท้ๆ ถึงจะไม่เข้าใจอย่างดี มนุษย์ธรรมดาเหน็ จะดีกว่า คา้ งคาวแน่ ฟงั เทศนเ์ อาบญุ กนั ไมฟ่ งั เทศนเ์ อาเร่อื งเอาราว กัน คนแก่คนเฒ่าเป็นอย่างน้ัน คนทีส่ นใจฟังธรรมจริงๆ เรยี นธรรมจรงิ ๆ รธู้ รรมจรงิ ๆ เป็นอกี พวกหนึ่ง ต้องเรียน เอาเร่อื งเอาราวกันจรงิ ๆ จงึ จะปฏบิ ตั ธิ รรมกันในพระพุทธ- ศาสนาได้ ดงั นี้ 51

ทช่ี แ้ี จงแสดงมานเ้ี ปน็ ต�ารบั ตา� ราแนน่ อนในทางพระ- พทุ ธศาสนา ตามวาระพระบาลีคล่ีความเปน็ สยามภาษาตาม มตยาธบิ ายพอสมควรแก่เวลา นตฺถิ เม สรณ� อญฺญ สงิ่ อนื่ ไม่ใช่ทพี่ งึ่ อนั ประเสริฐของเราท่านทั้งหลาย สรณ� เม รตนตฺตย� พระรัตนตรัยเป็นทีพ่ งึ่ อนั ประเสริฐของเรา ท่านทงั้ หลาย เอเตน สจฺจวชฺเชน ด้วยอ�านาจความสตั ย์ ทีไ่ ด้อ้างธรรมปฏิบัติมาตัง้ แต่ต้นจนอวสานนี้ สทำ โสตฺถี ภวนฺตุ เต ขอความสขุ สวสั ดีจงบังเกิดแก่ท่านท้ังหลาย บรรดามาสโมสรในสถานทน่ี ้ีทุกถ้วนหนา้ อาตมภาพช้แี จง แสดงมาพอสมควรแก่เวลา ขอสมมตธิ รรมิกถาโดยอรรถ- นิยมความเพยี งเท่าน้ี เอว� กม็ ีด้วยประการฉะน้ี ฯ 52

ทบทวนโอวำท เรือ่ งสวดธัมมจกั กัปปวตั ตนสูตร ควำมส�ำคัญของบทสวดธัมมจักกัปปวตั ตนสูตร บทสวดธรรมจักรส�าคัญนะ หลงั จากทพี่ ระสัมมา- สมั พทุ ธเจ้าตรัสรู้ธรรมใหม่ๆ พระองค์ทรงเลือกว่าจะเอา หมวดธรรมไหนใน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธ์ เพ่อื จะมาโปรด ปัญจวัคคยี ์อุปัฏฐากเก่าตอนสมยั ทพี่ ระองค์ทรงบา� เพญ็ ทุกรกริ ยิ า ซึ่งพระองค์ทรงเลอื กบทน้ี ดงั น้ัน..ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู รจงึ เปน็ ประดจุ หวั ขบวน จักร นอกนัน้ เปน็ โบก้ี คอื ตอ้ ง ๑ กอ่ นถึงจะไป ๘๔,๐๐๐ เพราะฉะนนั้ ..ใครสวดบทนี้ได้ ได้บญุ มากๆ เลย เสมือน เปน็ ประดจุ ผทู้ อ่ี ยใู่ นยคุ น้นั นง่ั ตอ่ หนา้ พระพกั ตรข์ องพระ- สัมมาสมั พุทธเจ้าหลังจากท่พี ระองค์ตรัสรู้เป็นพระสัมมา- สมั พทุ ธเจ้าใหมๆ่ ซึ่งบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสตู รนี้เปน็ คา� ส่งั สอนของผรู้ ู้ ผตู้ น่ื ผเู้ บกิ บานแลว้ จงึ จะไดค้ �าเหลา่ น้ีมา 53

ซึง่ ไม่ใช่ง่ายนะ ดังนั้น..ใครได้สวดให้ดีใจเถดิ สวดเถิด ประเสรฐิ นัก ปลม้ื เถดิ ประเสริฐนัก ท่องเถิดประเสรฐิ นัก เพราะแต่ละค�า..เอาประเทศมาตีค่าไม่ได้เลย ไม่ใช่ แค่ค่าควรเมือง แต่ละค�าคณุ ค่าเกนิ เมอื ง อีกทัง้ แต่ละ ประโยคมคี ุณคา่ มากกวา่ เมอื งหรอื ประเทศท้งั หลาย เพรำะ ทรพั ย์ทั้งประเทศยังท�ำให้หลุดพ้นจำกกิเลสไม่ได้ แต่ บทสวดนี.้ .แต่ละค�ำท�ำให้หลดุ พ้นจำกกำรครอบงำ� ของ พญำมำรได้ ใครสวดบุญจะเกิด อกี ทัง้ “ทิพยสมบัติ” บนเทวโลก กจ็ ะเกิดข้นึ เปน็ บญุ ตดิ ตวั เราไป เพราะบญุ เปน็ บอ่ เกิดแหง่ สมบัตทิ ้งั หลาย อกี ท้งั เสยี งเราจะไพเราะ ชาวสวรรคจ์ ะหยดุ ฟังเลย ชาวสวรรค์จะอนุโมทนาสาธุการ เพราะเป็น ปฐมเทศนาทีพ่ ระสมั มาสัมพุทธเจ้าทรงเปล่งเสียงออกมา จากพระโอษฐ์ ใครไดย้ นิ ถือวา่ มบี ุญมาก ใครได้สวดกย็ ิ่งมี บญุ มาก เนือ้ หาทีพ่ ระสมั มาสัมพทุ ธเจ้าเทศน์โปรดปัญจวัคคีย์ ไม่ธรรมดานะ ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นีอ้ งค์ เดียวทเี่ ทศน์ทางสายกลาง แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทกุ ๆ 54

พระองคล์ ว้ นเทศน์บทน้ีทง้ั ส้นิ แตจ่ ะเทศนโ์ ปรดใครนน้ั อกี เรื่องหนงึ่ สิ่งนไ้ี ม่ใช่ของพอดพี อรา้ ย อีกท้งั ยังมหัศจรรย์ เพราะ กวา่ ท่ีพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ จะแสดงธรรมบทนไ้ี ด้ พระองค์ ต้องสรา้ งบารมถี ึง ๒๐ อสงไขยกับแสนมหากัปเลยทีเดยี ว เราจึงต้องมาทบทวนให้มนุษย์และเทวดาทงั้ หลายได้ฟัง เพราะกวา่ จะไดบ้ ทน้ีมา พญามารกันหนกั กันหนาใหท้ า่ นยดื เวลาตัง้ ๒๐ อสงไขยกบั แสนมหากัป ซึ่งกว่าทา่ นจะแสดง บทน้ีได้ ทา่ นตอ้ งสละอวยั วะ ชวี ติ ควกั ลกู นยั นต์ า สละราช- สมบตั ิและทรัพย์ต่างๆ เยอะแยะมากมายแบบนับไม่ถ้วน รวมกนั ๒๐ อสงไขยแสนมหากัป ดงั นนั้ พญามารจงึ กลวั บท น้ีมากเลย และในท่สี ุดทา่ นอัญญาโกณฑญั ญะก็บรรลธุ รรม การจะเป็นพระบรมศาสดาได้สมบรู ณ์กต็ ้องมพี ระ- สาวก การมีพระสาวกได้..กด็ ้วยธรรมบทแรก คอื “ธัมม- จกั กปั ปวตั ตนสูตร” เพราะการเปน็ พระบรมศาสดาไดต้ อ้ ง มีนกั เรยี น และตอ้ งเป็นนักเรียนดเี ด่นดว้ ย คอื ต้องบรรลุ ธรรมตาม 55

ดงั น้ัน..ใครสาธยายบทนจี้ ะไดบ้ รรลุธรรมอยา่ งรวดเรว็ แค่รอฟังธรรมบทนปี้ ุ๊บกบ็ รรลุธรรมเลย ให้สาธยายไป เรือ่ ยๆ สวดไปเร่ือยๆ เดย๋ี วปุบ๊ ..เขา้ ถึงธรรมเลย อย่าง “อุปกำชีวก” ได้พบพระพุทธเจ้าเป็นคนแรก หลงั จากพระองค์ตรัสรู้ อกี ทัง้ ยังได้เห็นพระรัศมขี อง พระองค์ด้วยก็จริง แต่เขาไม่ได้ฟงั ธรรม เขาจึงไดแ้ ต่ช่ืนชม แลว้ กแ็ ลบล้นิ จากไป แสดงวา่ ..แคเ่ หน็ อยา่ งเดยี วไมพ่ อ ตอ้ ง ไดฟ้ งั ธรรมด้วยจงึ จะบรรลุธรรมได้ ดงั น้นั ..ธรรมบทน้จี งึ สา� คัญ มีอานิสงสท์ า� ใหค้ วามเปน็ พระสมั มาสมั พุทธเจา้ ท้ังปญั ญาธิกะ สัทธาธกิ ะ วริ ิยาธิกะ บรบิ ูรณ์ 56

ควำมสำ� คัญของกำรมำสวด ทีห่ นำ้ พระมหำธรรมกำยเจดยี ์ เราต้องสวดไปด้วยใจทปี่ ลมื้ ปีตใิ นกระแสธารแหง่ บญุ และให้มาสวดทพี่ ระมหาธรรมกายเจดยี ์ เพราะท่ตี รงน้ันมี ความศักดิส์ ิทธ์ิ ส�าคญั มาก และเปน็ จุดทีส่ ว่างท่ีสุด เพราะ ผสู้ วดจะไปเชอื่ มสายบุญกับพระพทุ ธเจา้ ลา้ นพระองค์ สวด ๑ จบกม็ ีสายบุญเชือ่ มกบั พระพุทธเจ้าล้าน พระองค์ สวด ๒ จบก็คณู เขา้ ไป ไม่ธรรมดาหรอก ซึ่งพระ ต้องเป็นผู้น�าสวด และไม่ว่าผู้มบี ญุ ท่านไหนเป็นผู้น�าสวด ต่อไปจะได้เปน็ ผนู้ �าดว้ ยอานภุ าพแห่งบุญนี้ ท่ตี รงน้นั ..กระแสธารแหง่ บุญไหลเช่อื มตลอดชว่ งการ สวดต่อเนื่องเป็นสายเลย เชื่อมกับพระพทุ ธเจ้าทงั้ ล้าน พระองค์ ธาตแุ หง่ ความบรสิ ทุ ธ์จิ ะเขา้ มาสตู่ วั เรา สา� คัญนะ.. บทนมี้ ารกนั นักกนั หนาเลยทเี ดียว สวดธมั มจักกัปปวัตตนสูตรแล้วจะทา� ให้เข้าถึงธรรม ด้วยใจที่ใสสบาย แล้วเดย๋ี วกระแสโลกจะพลกิ เลย 57

ยงิ่ ถ้าสวดรวมกันเยอะๆ ย่ิงมพี ลัง จิตจะถูกกลัน่ ให้ใส ให้สะอาดยิ่งๆ ขนึ้ ไป ซ่ึงถา้ ใจบริสทุ ธ์ิ ธาตุบรสิ ุทธิ์ที่อยู่รอบ กายกจ็ ะมารวมกัน เปน็ พลังมวลแหง่ ความบรสิ ุทธ์ทิ ่จี ะสรา้ ง สิ่งดๆี ให้บังเกิดขึ้นแก่โลก และจะท�าให้ดนิ อากาศ ฟ้า ทุก อย่างสมบูรณ์ขึน้ โดยกระแสธาตุแห่งความบริสุทธิจ์ ะไป ปรับสภาพดิน อากาศ ฟ้า จากทแี่ ปรปรวนให้กลับเข้าสู่ สภาวะปกตแิ ละดีขน้ึ ไปเรอ่ื ยๆ อกี ทัง้ ศีลธรรมก็จะหวนคืน กลับมาสจู่ ติ ใจมวลมนุษยชาติและสรรพสตั ว์ทั้งหลาย ทีต่ รงนัน้ เป็นจุดศูนย์กลางทีส่ ว่างมากๆ ถ้าจิตเรา ละเอียดจะเหน็ ความสา� คญั ของค�าวา่ “ส�าคัญ” มากเพ่ิมข้นึ ซึง่ ความเข้าใจของเราตอนนีม้ ีแค่ระดับผิวๆ แต่ถ้าจิตเรา ละเอียดจะมีความเข้าใจเพิม่ ขึ้น ถ้าเข้าใจตรงนี.้ .ก็จะเป็น แรงบนั ดาลใจในการสวด เพราะยิ่งสวด ใจย่งิ สว่าง จติ ยง่ิ บริสทุ ธิ์ กลนิ่ ศีลกลนิ่ ธรรมกจ็ ะออก เกิดเป็นกระแสคลนื่ แหง่ ความบรสิ ทุ ธ์ิ ย่งิ สวดไปเร่อื ยๆ กายจะเบา ใจจะเบา จติ จะยงิ่ บรสิ ุทธ์ิ ซึง่ เทวดาจะชอบอย่ใู กลผ้ ทู้ ี่บรสิ ุทธิ์ ย่งิ สวด..ย่งิ ท�าใหจ้ ติ เปน็ สมาธิ จะมีกระแสความบรสิ ทุ ธ์ิ เกิดขึ้น ยิ่งมำสวดกนั เยอะๆ กระแสแห่งควำมบรสิ ุทธก์ิ ็ 58

ยิง่ มำก แล้วเดย๋ี วปญั หำต่ำงๆ จะหมดไปเอง เพรำะใน เวลำน้สี ่งิ สำ� คัญกค็ ือ “บญุ ” บุญสวดธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร นี่แหละส�ำคญั เลย จะชว่ ยทำ� ให้ทกุ อยำ่ งดขี ึ้นได้ 59

วิธกี ำรสวดอยำ่ งถูกหลักวชิ ชำ เมื่อมาสวดก็ต้องท�าให้ถกู หลักวชิ ชา ใหไ้ ดท้ ัง้ ปริมาณ และคณุ ภาพ ใหม้ ีความสขุ มีความบรสิ ุทธิ์ มคี วามปลื้ม จะ ไดเ้ ปน็ แรงบนั ดาลใจใหม้ าสวดกันเพ่ิมข้นึ เพ่ือจะไดม้ ีความ สุขเพมิ่ ขึน้ มคี วามบริสุทธิเ์ พิม่ ขึน้ มคี วามปลืม้ เพมิ่ ขึ้น มี บญุ เพิ่มขนึ้ ขนาด “สวดมนตจ์ นเห็นธรรม” การสวด..ถ้าสวดจบนี้ยังไม่ปลืม้ ..กส็ วดต่อไปจนกว่า จะปลมื้ คอื ใหย้ ิ่งสวดยงิ่ ปลมื้ ถ้าจา� อะไรไมไ่ ด้กใ็ หจ้ า� คา� วา่ “พระมหำธรรมกำยเจดีย์ พระมหำเจดีย์พระพทุ ธเจ้ำ ล้ำนพระองคส์ �ำคัญมำก” การสวด..ต้องปลื้ม และมคี วามสุขความบริสุทธิ์ ทุกจบ คอื ต้องปลืม้ ตัง้ แต่คา� แรกของบทขัด คอื ค�าว่า.. “อะนตุ ตะรงั ” ไลเ่ รอ่ื ยไปเลย ไมใ่ ช่สวดเรง่ ๆ เพอื่ จะเอา เปา้ ตอ้ งทา� ให้ถกู หลักวชิ ชา ทเ่ี ราไปสวดเพือ่ ไปบชู าพระ- พทุ ธเจา้ ลา้ นพระองค์ และบูชาธรรมพระเดชพระคณุ หลวง- ปู่ ตอ้ งปล้ืมทุกจบนะ 60

อำนิสงส์ที่เกิดขึน้ จำกกำรสวดธมั มจกั กัปปวัตตนสตู ร บทสวดธมั มจักกัปปวัตตนสตู ร แต่ละตัวอักษรเป็น สมบตั ิ ซ่ึงเขาเรยี กว่า “อรยิ ทรพั ย์” คอื ทรัพยท์ ีจ่ ะทา� ให้ เป็นพระอริยเจ้า แต่ละค�ากลัน่ ออกมาจากใจทบี่ ริสทุ ธิ์ หลดุ พ้นจากกเิ ลสอาสวะซึง่ เป็นสงิ่ ทหี่ ลุดพ้นได้ยากของ พระสัมมาสมั พุทธเจา้ ฉะนนั้ ..เราต้องสวดให้ได้ เพราะแต่ละค�าเป็นทรัพย์ ทงั้ ส้นิ การท่เี ราสวดธัมมจกั กัปปวัตตนสูตร เหมือนเราด่มื กิน ถอ้ ยค�าของพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ เราจะไดร้ สแหง่ ธรรมของ พระองค์ ซึ่งต้องดืม่ กนิ ด้วยใจทีใ่ สสะอาดบริสทุ ธิ์ แล้วจะ เกดิ ปตี สิ ขุ ทว่ มทน้ ลน้ ใจ บุญใหญจ่ ะเกดิ ขน้ึ และมหาสมบัติ คอื “อรยิ ทรพั ย์” จะเกิดขึน้ เป็นสุดยอดยงิ่ กว่า มนุษย์ สมบตั ิ ทพิ ยสมบตั ิ ซึ่งก็คือ “นพิ พำนสมบัติ” 61

ดงั น้นั ..อยา่ ปลอ่ ยให้หลุดแม้สักค�า แม้ตวั อกั ษรเดยี ว เพราะกว่าจะได้ค�าหนงึ่ ต้องรอยาวนานถงึ ๒๐ อสงไขยเศษ แสนมหากัป บวกไปอีก ๒,๕๐๐๐ กว่าปี เพราะแค่เหน็ ตัวอักษรกเ็ ปน็ บุญตา เม่ืออ่านกเ็ ปน็ บุญใจ ถา้ ท่องไดก้ ็เปน็ บญุ ท้งั หมดท้งั ตวั และหัวใจ บุญจะทว่ มทน้ ทุกขมุ ขนทุกสว่ น ของกายทงั้ ภายนอกและภายใน ท้งั กายหยาบ กายทพิ ย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม กายธรรม ปนู้ เลย... ใครสวดธัมมจกั กปั ปวัตตนสตู รได้ บุญจะท่วมใจ ล้นิ เหงอื ก ฟัน ปากชาติต่อไปจะสวย สะอาด มีกลิน่ ศลี กลิน่ ธรรมหอมหวนทวนลม ทงั้ เนือ้ ทัง้ ตัวจะเป็นสมบัติเรียก ว่า “รปู สมบตั ิ” เทวดาเขาเห็นเพชรพลอยในโลกมนษุ ย์เขายังเฉยๆ แตจ่ ะเลง็ แลผทู้ ่สี วดธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร เพราะแตล่ ะค�า สวา่ งยิง่ กวา่ ถ้อยเพชรถอ้ ยพลอย มอ้ บๆ แม้บๆ เป็นคา� ท่ี มีคุณคา่ และเปน็ รัตนะอันเลศิ การสวดธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู รน้นั จะทา� ใหบ้ ุญเกิดขน้ึ มาก บญุ ไมใ่ ชแ่ คส่ ะกดวา่ ..บอ-อ-ุ ยอ..บุญนะ บุญเปน็ สาย 62

เลย สายบญุ เกิดขึน้ ภายในตวั จะเห็นใสเปน็ สายเลย และ บุญน.ี้ .จะเป็นบ่อเกดิ แห่งสมบัติทงั้ หลาย ทงั้ มนุษย์สมบตั ิ สวรรคส์ มบัติ และนพิ พานสมบัติ ย่ิงมาสวดเยอะ..ย่ิงไดบ้ ุญเยอะ และเหมอื นสวดอยบู่ น กองสมบัตจิ รงิ ๆ เพราะเราประกอบเหตใุ นการสรา้ งบญุ ซ่งึ บญุ น้จี ะสง่ ไปในเทวโลกและในเมอื งมนษุ ย์ เปน็ บอ่ เกิดแหง่ โลกียทรัพย์และอริยทรัพย์ อย่างค�าว่า..ให้นกึ ถงึ บุญนนั้ ไม่ใช่แค่ค�าสวยหรู แต่เพียงแค่นึกถงึ กม็ าเลย บุญมาเป็น สายเลย... เพราะฉะนัน้ ..สวดไปก็ให้ทา� ใจสบายๆ ทกุ จบมีความ สา� คญั เด๋ยี วจะเห็นธรรมะอยา่ งงา่ ยๆ ซ่งึ โอกาสแบบนไ้ี มไ่ ด้ เกิดขน้ึ งา่ ยๆ นะ สวดไปเรอ่ื ยๆ เด๋ยี วจะรวยท้ังทรพั ยภ์ ายใน และทรัพย์ภายนอก ไมใ่ ชว่ า่ ใครจะมาสวดก็ไดน้ ะ ตอ้ งเฉพาะ “ผมู้ บี ญุ ” ผมู้ ี บญุ มบี ารมมี ากถงึ จะมาสวดบทนีไ้ ด้ ให้ลองคดิ ดูสิ คน ๗,๐๐๐ กวา่ ลา้ นคนทว่ั โลก เกิดเปน็ ชาวพทุ ธแคก่ ระจกุ เดยี ว แตม่ โี อกาสไดม้ าสวดแคก่ ระจด๊ิ เดยี วเทา่ นน้ั ดงั น้นั ..ผทู้ ่มี าได้ 63

จงึ เปน็ ผมู้ ีบุญมาก เปน็ ผทู้ ่ไี ดก้ ลา่ วสาธยายธรรมบทแรกของ พระสมั มาสัมพุทธเจา้ เปน็ หนง่ึ ในไมก่ ่ีคนบนโลก ดงั น้นั ..ไป ชกั ชวนกันมาสวดเยอะๆ นะ “ส�ำคัญมำก” !!! ใครมาสวดจะประสบแตค่ วามสา� เรจ็ ท้งั ทางโลกและทาง ธรรมเลยละ่ ตอ้ งกระทงุ้ บอ่ ยๆ วา่ “เรำเปน็ หนง่ึ ในไมก่ ่คี น บนโลกน”้ี จะมอี ำนสิ งส์ คอื เสยี งจะไพเรำะ มที ง้ั ดวง ปญั ญำ มอี ปุ กรณใ์ นกำรพดู และกำรเปลง่ เสียงทด่ี ี ล้นิ ท่ใี ช้ สัมผสั รสจะดี ฟนั สวย ปำกสวย กล่นิ ปำกจะหอมฟงุ้ ดว้ ย กล่ินศีลกล่ินธรรม เสยี งจะไพเรำะ จะมเี สยี งท่กี อ้ งกงั วำน ไมแ่ หบ ไมเ่ ครอื ไมพ่ รำ่ หฟู งั เสยี งกจ็ ะดี คือ หจู ะไมต่ งึ จะมหี ทู ส่ี วยงำมและจะมอี ปุ กรณฟ์ งั เสียงท่ดี ี จะไดย้ ินเสียง หยำบและละเอยี ด จนกระทง่ั ไดย้ นิ เสยี งทพิ ยเ์ ลย ไมเ่ พียงแค่น้นั ดวงตำกจ็ ะเหน็ แตส่ ง่ิ ดๆี เห็นอยำ่ ง ตำทพิ ย์ และเหน็ ดว้ ยธรรมจกั ขเุ ลยทเี ดียว มือท่ีพนมใน กำรสวดธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู รจะสวยงำมและมนี ้วิ สวย กว่ำลำ� เทียน มีมือเป็นทิพย์ เพรำะพนมมอื ผ่ำนดวงใจ บูชำธรรมพระสัมมำสัมพทุ ธเจ้ำ เมอื่ จะหยิบจะจับอะไร ก็เป็นสมบัติ ได้รบั กำรเคำรพนับถือ กรำบไหว้บูชำ 64

ทั้งหลำย ด้วยอำนุภำพแห่งบญุ ทีม่ ำสวดธัมมจักกัป- ปวตั ตนสูตร จะมีแตเ่ รือ่ งดๆี ทั้งนน้ั แหละ ย่งิ มาสวดเปน็ ทีม จะมพี รรคมพี วก เม่อื มพี รรคมพี วก.. ความสะดวกกม็ ี มบี ริวารสมบัติ และพรรคพวกแตล่ ะคนก็ จะมีศลี มธี รรม เกง่ และดที ้งั นั้น ยิง่ ชวนมาสวดเยอะๆ ก็จะ มพี รรคพวกทดี่ ี นอกจากน้นั ..กำรสวดธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู รยงั เปน็ กำรรักษำไข้ใจได้ดี เป็นธรรมโอสถ คือ สวดมนต์เป็น ยำทำ ภำวนำเปน็ ยำกนิ ถำ้ ท้งั กนิ ท้งั ทำไมต่ อ้ งฉดี กห็ ำย แลว้ หำยหมดเลย ทั้งไข้กำยและไขใ้ จ มบี างคนเจ็บป่วยนอนในโรงพยาบาลเป็นมะเร็งขั้น สุดท้าย กย็ งั มีอารมณ์เบกิ บาน ไมไ่ ดส้ นใจเรอื่ งอาการเจ็บ ไข้ได้ป่วย และได้ใช้โรงพยาบาลเป็นสถานทีส่ วดธมั ม- จกั กัปปวตั ตนสตู ร คือ นอกจากใชเ้ ปน็ สถานท่พี กั รกั ษาตวั แลว้ ยงั ใช้สวดมนต์ด้วยจิตทีร่ ื่นเริง ซึง่ แตกต่างจากผู้ป่วยทัว่ ๆ ไป เพราะเขามีทพ่ี ่ึง ไดส้ วดมนตร์ ะลกึ ถึงพระสมั มาสมั พุทธ- เจา้ ท�าใหใ้ จมีปตี ิ แมก้ ายจะเจบ็ ปว่ ย แตใ่ จใสและท�าหนทาง ไปสู่สคุ ติให้งดงามยงิ่ ขึน้ ไม่ว่าเขาจะเดินทางไปตอนไหน 65

กายหยาบก็จะไปอยา่ งสงบ เสงยี่ ม สง่างาม โดยไม่ไดอ้ าลัย อาวรณแ์ ละไมเ่ สยี อกเสยี ใจเลย เพราะกายหยาบท่ีเอาไวใ้ ช้ อาศัยสรา้ งบารมกี ็เปน็ เพยี งประดจุ เรอื นท่พี ักช่วั คราวเทา่ นน้ั ผมู้ ีบญุ เทา่ น้ัน จงึ จะไดม้ าสวดธัมมจกั กัปปวตั ตนสตู ร บุญนี.้ .จะถึงแก่หมู่ญาติทลี่ ะโลกไปแล้ว ผู้ทมี่ ีทกุ ข์กจ็ ะพ้น ทกุ ข์ ผู้ทมี่ ีสขุ น้อย..ก็จะสุขมาก ผู้ทีม่ สี ุขมาก..กจ็ ะมีความ สขุ ยิ่งๆ ขน้ึ ไปด้วยบญุ ที่สวดธมั มจักกปั ปวัตตนสตู ร ทุกขใ์ นอบายมันมาก การที่จะชว่ ยใหใ้ ครพ้นจากทุกข์ ในอบายไดน้ ้นั ไมธ่ รรมดานะ ถา้ มบี ญุ ..จะสามารถฉดุ ขน้ึ มา จากนรกไดเ้ ลยทีเดยี ว แมท้ า่ นเหลา่ นน้ั จะหมดโอกาสในการ สรา้ งบุญ แต่ก็ยังไม่หมดโอกาสในการได้รับบุญ 66

วิธปี รบั ใจให้ละเอยี ด จติ ท่ียงั หยาบๆ เพราะใจอยกู่ บั ภารกิจงานหยาบ จะให้ ปุ๊บปั๊บละเอยี ดเลยก็ทา� ได้ยาก จิตทหี่ ยาบจะถูกปรับให้ ละเอยี ดได้ ต้องขัดเกลาดว้ ยเสียงสวดมนต์ เมอ่ื สวดไปก็ จะกลัน่ จิตกลัน่ ใจไปเรือ่ ยๆ พอถึงจุดก็กึก๊ เอง ใครสวดที่ ตรงนัน้ ..ก็จะได้เห็นธรรมกันทงั้ นัน้ แหละ จะเข้าถงึ ธรรม จะเหน็ ธรรมกนั ทุกคนเลย ไมใ่ ชบ่ ทธรรมดาๆ หรอก เราอาจจะได้ยนิ พระสวด หรือพระอาจารย์ทสี่ วดเอง แม้ยังไม่เขา้ ใจ แตถ่ า้ สวดไปเร่อื ยๆ จะซึ้ง วนั ใดทจ่ี ิตหยดุ น่งิ จะกกึ๊ เลย สวดใหมๆ่ กจ็ ะหยาบก่อน พอสวดเยอะๆ ก็ ซึง้ ตรึงใจให้ติดแน่นในตรงกลาง เดีย๋ วก็ได้ ส�าคญั นะ.. สา� คญั มาก สวดแลว้ จะชว่ ยใหท้ ุกๆ อยา่ งดขี น้ึ อยา่ งแนน่ อน 67

ทำ� โลกใหเ้ ปน็ ดงั สวรรค์ ถ้าเราไม่สวด เรากไ็ ปพูดเร่อื งอืน่ เรือ่ งเยอะแยะ ปาก ไมว่ ่าง ถ้าไม่สวด เรากไ็ ปคุยเรื่องสพั เพเหระ เร่อื งทที่ �าให้ เราเครยี ด เรื่องท่ีท�ารา้ ยตวั เราเอง แล้วจะดไี ดอ้ ย่างไร ตอ้ ง มาสวดธัมมจกั กัปปวตั ตนสูตรดกี วา่ เพราะเปน็ ถอ้ ยค�าอนั ประเสรฐิ บรสิ ุทธ์ิ สะอาด สงู สง่ ท่ีนา� ไปสสู่ ่ิงท่ดี ี ทา� ส่งิ ท่ดี ใี ห้ เกิดขนึ้ สภาวะโลกร้อนกจ็ ะถูกปรบั ให้ดขี ึ้น ใหเ้ ปน็ สวรรค์บน ดิน Heaven On Earth จนโลกและสวรรคไ์ มแ่ ตกตา่ งกนั เลย ต้องสวดให้เทวดาลงมาบนโลกมนุษย์เยอะๆ เพราะ รสู้ ึกวา่ ..โลกมนุษยม์ คี วามสขุ กว่าสวรรค์ ตอนน.ี้ .มนุษยอ์ ยากจะไปอย่บู นสวรรค์ เรากท็ า� โลกนี้ ให้มีความสขุ กว่าบนสวรรค์ ชาวสวรรค์จะได้ลงมา ซึ่ง การสวดธัมมจักกปั ปวัตตนสูตรนีส้ ามารถทา� ให้เกิดขึ้นได้ เทวดาลงมาแล้วมคี วามสขุ มาสวดธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร ทพี่ ระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพทุ ธเจ้าล้าน พระองค์ แล้วมีความสุข จนทิพยสมบัตเิ กิด เพราะอย่บู น 68

สวรรคก์ ค็ ุยกนั แทนทจ่ี ะคยุ กัน ก็ลงมาสวดกันท้งั หมด ตอ้ ง ใหไ้ ด้อยา่ งน้ีสิ ทา� ยุคน้ี..ใหเ้ ป็นยุคแรกตัง้ แตส่ รา้ งโลกนม้ี า เป็นโลกมนุษย์ทีม่ คี วามสุขกว่าสวรรค์ จนไปดึงดูดให้ชาว สวรรคล์ งมาสวด ให้เกิดกลน่ิ ศีลกลนิ่ ธรรม ปกติแล้วมนุษยจ์ ะมกี ลิ่นเหมน็ ปฏกิ ูล แตพ่ อสวดแล้ว กลิน่ จะหายไป เพราะถกู กลบด้วยกลิน่ ศีลกลิ่นธรรม ด้วย การสวดธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร ผูท้ ไ่ี ปสวดตรงนนั้ ถูกกลั่น หมดทุกคนเลย ลองคดิ ดสู วิ า่ ..กวา่ พระสมั มาสมั พุทธเจา้ จะ ไดส้ วดธรรมบทน้ีทา่ นตอ้ งใชเ้ วลายาวนาน แต่เราประหยัด เวลาไปเยอะทไี่ ดม้ าสาธยายธรรมบทนี้ กะของเราเป็นกะทแี่ ตกต่าง คอื กะทสี่ วดแล้ว ชาว สวรรค์อยากลงมา ดนี ะ..ลงมาเพราะกลิ่นศีลกลิ่นธรรม ท่ี เกิดจากการสวดธมั มจักกปั ปวตั ตนสูตรไปถงึ บนสวรรค์ ที่ ชาวสวรรคส์ ัมผัสไดด้ ว้ ยใจและมคี วามสขุ กวา่ อยบู่ นสวรรค์ เราต้องสร้างแรงบนั ดาลใจให้ชาวสวรรค์ลงมาด้วย กล่ินศีลกล่นิ ธรรม เพราะเทวดาบนสวรรคก์ ม็ กี เิ ลส กิเลสของ ชาวสวรรคก์ ็มี ท่ไี ปเกดิ เปน็ ชาวสวรรค์ ไมใ่ ชท่ ุกทา่ นท่จี ะเหน็ องคพ์ ระกนั หมด บางคนไปดว้ ยทานก็มี ไปดว้ ยศลี ก็มี ไป 69

ด้วยบญุ กริ ิยาวตั ถทุ านกม็ ี แต่ผู้ทสี่ วดทีพ่ ระมหาธรรมกาย เจดยี ์ บางทา่ นกเ็ หน็ องคพ์ ระ ถา้ ใจใส..เหน็ ดวงก็มี เหน็ องค์ พระในองคพ์ ระกม็ ี แลว้ มาสวดสาธยายธมั มจกั กัปปวตั ตน- สูตร ผทู้ ส่ี วดมกี ล่นิ ศลี กลน่ิ ธรรมออก มธี รรม คอื มธี รรมกาย ไปถงึ ชาวสวรรค์ กด็ ดู ชาวสวรรคล์ งมา แปลวา่ กลน่ิ ศลี กล่นิ ธรรมท่พี ระมหาธรรมกายเจดยี ม์ แี รงดงึ ดดู ใหช้ าวสวรรคล์ ง มาท่ีพระมหาธรรมกายเจดยี ์ เพราะฉะน้นั ..ท่ตี รงนส้ี า� คญั มาก อกี ทงั้ ผู้ทไี่ ปสาธยายธรรมกเ็ ห็นองค์พระกนั ตั้งหลาย คน และอกี หลายคนเหน็ องคพ์ ระในองคพ์ ระ พอเหน็ องค์ พระ ๑ องค์ กล่นิ ศลี กลน่ิ ธรรมแรงไปถงึ บนสวรรคเ์ ลย แลว้ ก็ดดู ชาวสวรรค์ลงมา พอเหน็ ๒ องค์ ก็เอา ๒ คูณ ๓ องค์ ๔ องค์ ๕ องค์ เหน็ หลายๆ องค์ เพราะกลน่ิ ศีลกลน่ิ ธรรม เทวดากีช่ นั้ ก็ลงมาหมด เพราะฉะน้นั ..ไมใ่ ชเ่ ร่อื งเลก็ นะ การท่ขี ยายตวั เลขสวด เพ่มิ ลงไป กย็ ังเปน็ การขยายอาณาจกั รแหง่ ธรรมใหก้ วา้ งไกล กระแสกล่นิ ศีลกล่ินธรรมกก็ ระจายและดดู ชาวสวรรคล์ งมา เราอยู่ในสายตาของท่านผู้รู้ทั้งหลาย ผู้มรี ู้มญี าณมอง มาตลอด ต้องปลมื้ ในทกุ จบ ไม่งั้นขาดทนุ สวดแล้วต้อง 70

ปล้มื ต้งั แต่ “เอวัมเม...” ไลเ่ รอ่ื ยไปเลย ปล้มื ตง้ั แตป่ ระโยค แรก ไม่ปลืม้ กข็ าดทนุ ย่งิ สวดยงิ่ ปล้ืมไปเร่ือยๆ สา� คัญมาก ส�าคัญจริงๆ แต่หลวงพ่อเพิง่ พดู ว่า..ส�าคญั มากแค่กระจึง๋ เดียว ยังไม่ได้พูดถงึ ส�าคญั มากทสี่ มบรู ณ์ น่ีเพงิ่ แค่จัว่ หวั เทา่ น้ัน เปน็ การพาดหวั ขา่ ววา่ สา� คญั มาก สา� คญั มากอยา่ งไร ต้องอยู่ในเนือ้ ใน ให้ไปสวดทีพ่ ระมหาธรรมกายเจดีย์ ทุกคนท่ไี ปสวดจะถูกกล่นั ให้บริสทุ ธิ์ ให้ใสไปดว้ ยเลย ปากเราก็มี เป้าเราก็มี เพราะฉะนัน้ ..สวดไปเรือ่ ยๆ ดว้ ยจติ ท่เี กษม จติ ท่เี กษมเปน็ จติ ท่มี คี วามสขุ บรสิ ทุ ธ์ิ สงู สง่ เบิกบาน บญุ บันเทงิ ผทู้ ่ีสวดดว้ ยจติ ท่ีเกษมจะแตกตา่ งจาก คนท้ังโลก เป็นจติ ทีใ่ สบริสทุ ธิ์ มีความสุข กระแสธารแห่ง บุญจะหล่อเลย้ี งตลอด 71

หนงั สอื บทสวดธมั มจกั กัปปวตั ตนสตู ร ท่ปี รกึ ษา : พระมหาสมเกยี รติ วรยโส ป.ธ.๙ พระครใู บฎกี าอ�านวยศักด์ิ มนุ สิ กโฺ ก, บรรณาธิการบรหิ าร : พระมหาสทุ ธชิ ยั สุทธฺ ิชโย, กองบรรณาธิการ : พระสมบตั ิ รกฺขติ จติ โฺ ต, พระสนทิ วงศ์ วฑุ ฒฺ วิ โ� ส, พสิ ูนจอ์ กั ษร : พระมหาจตรุ งค์ จตตฺ มโล, ภาพ : พระมหานพพร ปญุ ฺญชโย ป.ธ.๙ รปู เลม่ : พระสหวจั น์ กวิทตโฺ ต ประสานงาน : พระมหาอรรถพล กลุ สทิ โฺ ธ ป.ธ.๙, ผจู้ ดั ท�า : พระมหาธรี ะชยั ธชี ชโย ป.ธ.๙ พมิ พท์ ่ี : รดั เกลา้ ล่ิวเฉลมิ วงศ์ อมรพรรณ ทองสมบูรณ,์ พรรณนิภา ทองเตม็ , ปยิ ธดิ า เกตสุ ถล, ณัฎฐป์ ภสั ทุนดี พระศริ พิ งษ์ สิรวิ โ� ส สพุ ตั รา ปญั ญาแสง พรรณี โอษฐน์ ภาพร ใจ...หยดุ ๒๔ น. บรษิ ัท รงุ่ ศลิ ปก์ ารพิมพ์ (๑๙๗๗) จา� กดั 72

บทสวดธมั มจกั กัปปวัตตนสูตรนี้ ท�ำ ใหม้ นุษย์พน้ จ�กคว�มทกุ ขท์ รม�นของชวี ิต หลดุ พ้นจากกิเลสอาสวะท้งั หลาย จนสามารถก้าวขา้ มไปสู่หนทางแหง่ พระนพิ พาน ทสี่ �ำ คัญ ทุกครงั้ ทเี่ ร�สวดมนต์ บญุ กจ็ ะเกดิ กบั ตวั เร� เพราะใจเราจะถูกกล่นั ใหส้ ะอาดบริสุทธ์ิ วบิ ากกรรมที่ติดมาข้ามภพขา้ มชาตกิ จ็ ะถูกกลน่ั แกไ้ ปด้วย จากหนกั ก็จะเปน็ เบา จากเบาก็จะหาย จิตใจท่ีขุ่นมัวกจ็ ะใสสว่าง ดังนั้นเร�ต้องสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรกันทกุ วัน...


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook