PULS & SWITCHING รหัสวิชา 30105-2006 ห น่ ว ย ที่ 3 ดิ ฟ เ ฟ อ ร์ เ ร น ชิ เ อ เ ต อ ร์ แ ล ะ อิ น ติ เ ก ร เ ต อ ร์ How to be successful at a young age Story to Success แผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์
แผนการจัดการเรียนรหู นว ยท่ี 3 เรื่อง อนิ ตเิ กรเตอรและดิฟเฟอรเ รนชเิ อเตอร
แผนการจัดการเรยี นรูหนว ยที่ 3 ชือ่ วชิ า วงจรพลั สแ ละสวิตชิง เวลาเรียนรวม 72 ชว่ั โมง ช่ือหนวย วงจรอินติเกรเตอรและดฟิ เฟอรเรนชิเอเตอร สอนครง้ั ท่ี 4 ชอ่ื เรือ่ ง อินติเกรเตอรแ ละดิฟเฟอรเ รนชิเอเตอร จำนวน 4 ชัว่ โมง หนว ยท่ี 3 3.1 วงจรกรองและปรับแตง รูปคล่นื แบบ RC วงจรกรองความถี่ (Filter Circuit) แบบ RC เปน วงจรทีท่ ำหนาทก่ี ำหนดยา นความถผี่ านตามตองการโดยใช ตัว R และตัว C มาประกอบวงจรรวมกนั กำหนดคา ใชง านตามตองการทำใหวงจรสามารถกำหนดการกรองผาน ยานความถคี่ ลน่ื ไซนท ี่ตองการได ท้งั ยา นความถต่ี ่ำ และยา นความถสี่ ูง วงจรปรบั แตงรูปคล่ืนสัญญาณ (Signal Wave Shaping Circuit) แบบ RC เปนวงจรที่ทำหนาทป่ี รับเปลี่ยน รูปรางสัญญาณคลนื่ ส่เี หลย่ี ม โดยใชต ัว R และตัว C มาประกอบวงจรรวมกันกำหนดคา ใชง านตามตองการทำให วงจรสามารถปรบั เปลีย่ นรปู รางสญั ญาณคลืน่ สีเ่ หลีย่ ม ใหเปลยี่ นแปลงไปเปน คลน่ื อนิ ทเิ กรตหรอื คลืน่ ดิฟเฟอเรน ชเิ อตได การทำงานของวงจรปรับแตงรูปคล่ืนแบบ RC รูปคลื่นสัญญาณที่ไดออกมา ขึ้นอยูกับคา เวลาคงท่ีของวงจร RC (RC Time Constant) ที่ตอใชงาน สามารถคำนวณหาคาได โดยนำคาความตานทานมีหนวยเปนโอหม (Ω) คูณดวยคาความจุมีหนวยเปนฟารัด (F) ผลที่ไดออกมาเปนเวลาในหนวยวินาที(s) คาเวลาคงทีว่ งจร RC เปนคา เวลาทต่ี ัว C ประจุแรงดันเก็บไวภ ายในตัว มีคา แรงดนั ประมาณ 63 % ของแรงดนั สงู สุดทปี่ อนเขา เขียนนี้เปน สมการไดด งั นี้ τ = RC s (3.1) เมือ่ τ = คาเวลาคงที่ หนวย s R = ความตา นทาน หนว ย Ω C = ความจุ หนว ย F ในวงจรเวลาคงที่RC ตวั C จะสามารถประจุแรงดันไดเพียง 63 % ท่ีชว งเวลาคงทท่ี ี่ 1(1τ) การจะทำใหตัว C จะประจุแรงดันไดถ งึ 100 % จะตอ งใชชวงเวลาคงทถี่ งึ 5 ชว งเวลา คือท่ีชวงเวลาคงที่ท่ี 5 (5τ) นัน้ หมายถึง วา คุณสมบัติในการประจุแรงดันของตัว C ในวงจรเวลาคงที่RC ตองใชคาเวลาคงที่ถึงชวงเวลาคงที่ที่ 5 ตัว C ถงึ จะประจุแรงดันได 100 % เขียนออกมาเปน กราฟมาตรฐานของเวลาคงทR่ี C แสดงดงั รูปที่ 3.1
แผนการจัดการเรียนรูหนว ยที่ 3 ช่อื วิชา วงจรพลั สและสวิตชงิ เวลาเรยี นรวม 72 ชั่วโมง ช่อื หนวย วงจรอินติเกรเตอรแ ละดิฟเฟอรเ รนชิเอเตอร สอนครงั้ ท่ี 4 ชื่อเร่อื ง อนิ ติเกรเตอรแ ละดฟิ เฟอรเ รนชิเอเตอร จำนวน 4 ชว่ั โมง รปู ท่ี 3.1 กราฟมาตรฐานของเวลาคงทแ่ี บบ RC 3.2 วงจรกรองความถ่ตี ำ่ ผานแบบ RC วงจรกรองความถี่ต่ำผานแบบ RC (RC Low - Pass Filter Circuit) เปนวงจรกรองยานความถี่ต่ำผาน แบบเบื้องตน โดยอาศัยคุณสมบัติในการทำงานของคาอุปกรณ R และC ที่ใชงานในการกำหนดยานความถี่ตำ่ ผานออกเอาตพุตในยานความถี่ที่กำหนด ถาความถี่ที่ปอนเขามามีคาสูงกวาความถี่ที่กำหนดไววงจรไมยอมให ความถ่ีนัน้ ผา นไปได ความถ่ีท่ีถูกกำหนดไมใหผา นเรียกวา ความถตี่ ัดหี รือความถ่ีคัตออฟ (Cutoff Frequency) ลักษณะวงจรและกราฟแสดงการตอบสนองความถี่ของวงจรกรองความถี่ต่ำผา นแบบ RC แสดงดงั รปู ที่ 3.2 รูปท่ี 3.2 วงจรกรองความถ่ีต่ำผานแบบ RC และกราฟตอบสนองความถ่ี
แผนการจดั การเรียนรหู นว ยที่ 3 ชือ่ วชิ า วงจรพลั สแ ละสวติ ชิง เวลาเรียนรวม 72 ชั่วโมง ชือ่ หนวย วงจรอินตเิ กรเตอรแ ละดฟิ เฟอรเ รนชเิ อเตอร สอนครั้งท่ี 4 ชอื่ เร่ือง อินตเิ กรเตอรแ ละดิฟเฟอรเ รนชเิ อเตอร จำนวน 4 ชวั่ โมง จากรูปที่ 3.2 แสดงวงจรความถี่ต่ำผานแบบ RC วงจรประกอบดวยตัวตานทาน (R) และตัวเก็บประจุ (C ) ประกอบรวมกันนี้เปนวงจรกรองความถี่ต่ำผานแบบผานโดยตรงหรือพาสซีพ (Passive) การเรียกวงจร กรองลักษณะนีว้ า วงจรกรองความถ่ีตำ่ ผา น เพราะเปน วงจรท่ีใชง านกับสญั ญาณคลื่นไซน คุณสมบัติของสัญญาณคลื่นไซนสงผานวงจรกรองความถี่ต่ำผานแลวรูปรางคลื่นสัญญาณยังคงเดิมไม ผิดเพี้ยนไป สัญญาณจายออกเอาตพุต EO คือสัญญาณที่ตกครอมตัว C คุณสมบัติของตัว C ที่ความถี่ต่ำคารี แอกแตนซของ C หรือ XC สูง (ความตานทานตานตอความถี่มีคามาก) ตานความถี่คลื่นไซนไมใหลงกราวด ความถ่ตี ำ่ ถกู สง ออกเอาตพตุ ไดมาก เมอื่ ความถี่ท่ปี อนเขามาคอย ๆ สงู ข้นึ ตามลำดบั คา รแี อกแตนซของ C (XC) จะคอย ๆ ลดลง (ความตา นทานตา นตอความถี่สูงมีคาคอย ๆ นอยลง) ความแรงของสัญญาณความถี่สูงถูกผาน ลงกราวดม ากขึ้นสง ผา นออกเอาตพุตไดน อยลง เม่อื ความแรงของสัญญาณทีส่ ง ออกเอาตพุตลดลงจนเหลือเพียง 70.7 % จาก100 % หรอื ลดลงเหลือ 0.707 จาก 1 เรียกตำแหนงนวี้ าจุดตัดทค่ี วามถี่สูงหรือจุดคัตออฟที่ ความถีส่ ูง (High Frequency Cutoff Point) คาความถีท่ ก่ี ำหนดนี้เรียกวา ความถีต่ ดั เปนความถีห่ ยดุ การทำงาน ไมมีความถี่ดังกลาวสงผานออกเอาตพุต ถาพิจารณาในรูปของคาความดังในหนวยเดซิเบล (dB) อัตราขยาย สัญญาณออกเอาตพุตลดลงจาก 0dB ลงมาเปน -3dB ณ จุดนี้ถือวาเปนจุดตัดของวงจรกรองความถี่ต่ำผาน วงจรกรองความถี่ต่ำผานดงั กลาวเปนชนิดผานโดยตรง สญั ญาณออกเอาตพตุ มีความแรงลดลงเม่ือความถ่ีสงเขา มามีคาสูงขึ้น ปกติอัตราขยายของวงจรเปน 1 จะลดลงเหลือเพียง 0.707 เมื่อถึงความถี่ตัด สามารถหา ความสัมพนั ธข องอตั ราขยายแรงดนั และความถีต่ ัดของวงจรไดดงั น้ี ������������������������������������ = ������������������������ = 1 (3.2) ������������������������ �1+��������������������������������������������������������������2 ������������������������������������ = 1 Hz 2������������������������������������ (3.3) เม่ือ AVL = อัตราขยายแรงดนั ของวงจรท่คี วามถ่ีตำ่ EO = แรงดันคลืน่ ไซนออกเอาตพ ุต หนว ย V Ei = แรงดนั คล่นื ไซนท างอินพตุ หนวย V fU = ความถใ่ี ชงาน หนวย Hz
แผนการจดั การเรียนรูหนวยที่ 3 ช่ือวชิ า วงจรพัลสและสวิตชงิ เวลาเรียนรวม 72 ชั่วโมง ชอ่ื หนวย วงจรอนิ ติเกรเตอรแ ละดฟิ เฟอรเ รนชเิ อเตอร สอนคร้งั ที่ 4 ช่ือเรอ่ื ง อินติเกรเตอรแ ละดิฟเฟอรเ รนชเิ อเตอร จำนวน 4 ชวั่ โมง fCH = ความถ่ตี ดั ทีค่ า ความถ่ีสงู หนวย Hz R = คา ความตานทานท่ีใชในวงจร หนว ย Ω C = คา ความจทุ ใี่ ชในวงจร หนว ย F จากสมการที่(3.2) ถากำหนดความถี่ใชงาน (fU) เทากับความถี่ตัดที่คาความถี่สูง (fCH) จะพบวาอัตราขยาย แรงดนั ของวงจรจะลดลงเหลือเพยี ง 0.707 พอดี ตวั อยา ง วงจรกรองความถ่ีต่ำผา นแบบ RC ตามรปู ท่ี 3.3 จงหาคา ความถตี่ ัดของวงจร รูที่ 3.3 วงจรกรองความถ่ตี ำ่ ผาน RC วิธีทำ 1 2������������������������������������ จากสตู ร ������������������������������������ = เมือ่ R = 4.7 kΩ, C = 0.002 ������������F 1 2������������×4.7������������Ω×0.002������������F แทนคา ������������������������������������ = = 1 2������������×4.7×103×0.002×10−6 ∴ FCH = 16,923.8 Hz = 16.924 kHz ตอบ ตวั อยาง 2 จากตวั อยา งดา นบน รปู ที่ 3.3 ถาสญั ญาณ EI มีความถีใ่ ชงาน 4 kHz
แผนการจดั การเรยี นรูหนว ยที่ 3 ชอื่ วชิ า วงจรพลั สแ ละสวติ ชิง เวลาเรยี นรวม 72 ชว่ั โมง ชอ่ื หนวย วงจรอนิ ตเิ กรเตอรและดฟิ เฟอรเรนชิเอเตอร สอนคร้ังที่ 4 ชอื่ เรื่อง อนิ ตเิ กรเตอรแ ละดิฟเฟอรเ รนชเิ อเตอร จำนวน 4 ช่ัวโมง จงหาอตั ราขยายแรงดัน วิธที ำ ������������������������ 1 ������������������������ �1+��������������������������������������������������������������2 จากสตู ร ������������������������������������ = = เม่อื FU = 4 kHz, FCH = 16.924 kHz 1 �1+�16.49���2���������4�������������2 แทนคา ������������������������������������ = =1 �1+�16.49×241×03103�2 = 1 √1+0.559 = 1 1.0276 ∴ AVL = 0.973 ตอบ 3.3 วงจร RC อินทิเกรเตอร วงจร RC อินทิเกรเตอร(RC Integrator) เปนวงจรที่ประกอบดวยตัวตานทาน (R) และตัวเก็บประจุ (C) จัดวงจรทำงานเหมือนกับวงจรกรองความถี่ตำ่ ผานแบบ RC ดังที่กลาวไวในหัวขอ ที่ 3.2 แตเรียกชือ่ แตกตางกัน เพราะนำไปใชงานกับสัญญาณไฟฟาในรูปคลื่นสี่เหลี่ยมหรือคลื่นพัลส วงจร RC อิทิเกรเตอรจะทำใหคล่ืน สีเ่ หลย่ี มทีส่ ง เขา มาผา นออกเอาตพ ุตเกิดเปลี่ยนแปลงรปู รางไปกลายเปนสัญญาณคลน่ื อินทิเกรต จึงเรียกวงจรน้ี วา วงจร RC อินทิเกรเตอรลักษณะวงจร RC อนิ ทเิ กรเตอรแ ละรปู คลื่นสัญญาณ แสดงดงั รูปที่ 3.4
แผนการจดั การเรียนรหู นว ยท่ี 3 ชือ่ วชิ า วงจรพลั สแ ละสวติ ชงิ เวลาเรียนรวม 72 ชัว่ โมง ชื่อหนว ย วงจรอนิ ติเกรเตอรและดฟิ เฟอรเ รนชิเอเตอร สอนคร้งั ที่ 4 ช่ือเรอ่ื ง อินติเกรเตอรแ ละดฟิ เฟอรเ รนชิเอเตอร จำนวน 4 ชั่วโมง รปู ท่ี 3.4 วงจร RC อินทเิ กรเตอร จากรูปที่ 3.4 แสดงวงจร RC อินทิเกรเตอรมีสัญญาณปอนเขามาทางอินพุต Ei เปนคลื่นสี่เหลี่ยมมุมฉาก หรือคลื่นพัลส ไดคลื่นออกเอาตพุต EO เปนคลื่นอินทิเกรต ซึ่งเกิดจากคลื่นเอกซโพเนนเชียลขาขึ้น กับคลื่น เอกซโ พเนนเชียลขาลงรวมกัน การเกดิ ผลที่ทำใหรูปคล่ืนเปล่ียนแปลงรูปรางไปนี้ มีสาเหตุมาจากคุณสมบัติของ ตวั C ในการประจุแรงดนั และคายประจุแรงดัน การทำงานของวงจรอธบิ ายไดด งั น้ี ที่ชวงเวลา t0 ถึง t1 เปนชวงเวลาที่มีสญั ญาณคลื่นส่ีเหลี่ยมพัลสบวกปอนเขามา ที่เวลา t0 ตัว C เสมือน ลัดวงจร แรงดันพัลสทั้งหมดตกครอมตัว R ไมมีสัญญาณออกเอาตพุต EO เมื่อเวลาผานไปจาก t0 ถึง t1 ตัว C เริ่มประจุแรงดันคอย ๆ มากขึ้นเปนลำดับ ลักษณะแรงดันที่ประจุไวไดมีลักษณะแรงดันเปนคลื่นเอกซโพเนน เชยี ลลาดข้ึน จนกระท่ังสัญญาณคล่ืนส่ีเหลี่ยมพัลสอ นิ พุตหยดุ การปอ นเขาตัว C จงึ หยุดการประจุ แสดงไดด ังรูป ที่ 3.4 (ข) ที่ EO ตำแหนง C ประจุ ที่ชวงเวลา t1 ถึง t2 เปนชวงเวลาที่ไมมีสัญญาณคลื่นสี่เหลี่ยมพัลสปอนเขามา ที่เวลา t1 แรงดันพัลส อินพตุ เปลย่ี นแปลงจากพัลสบวกเปน 0 V จากชวงเวลา t1 ไป t2 ไมม ีสัญญาณพลั สปอนเขามาเสมือนอนิ พุต Ei ลัดวงจร ทำใหตัว C เริ่มคายประจุผานตัว R ผานอินพุต Ei ครบวงจรที่ตัว C ลักษณะการคายประจุของตัว C เปนคลื่นเอกซโพเนนเชียลลาดลง จนกระทั้ง ตัว C คายประจุแรงดันหมดจึงหยุดการคายประจุแสดงไดดังรปู ท่ี 3.4 (ข) ทE่ี O ตำแหนง C คายประจุ การทำงานของวงจรเปน เชนนี้เร่ือยไป ไดสญั ญาณออกเอาตพุต EO เปนรปู คล่ืนอินทิเกรตแสดงไดดังรูปที่ 3.4 (ข) ที่เอาตพุต EO ตำแหนง C ประจุรวมกับตำแหนง C คายประจุ สัญญาณอินทิเกรตท่ีออกเอาตพุตอาจมี รูปรางแตกตางกันไปบาง ขึ้นอยูกับคาเวลาคงที่ RC ของวงจร RC อินทิเกรเตอรที่มีคามากนอยเปลี่ยนแปลงไป คือใชคา R และคา C มาประกอบรวมวงจรแตกตางกัน เวลาคงที่ RC ที่เปลี่ยนแปลงไปมีผลตอเวลาการประจุ และการคายประจขุ องตวั C ในวงจรการประจุและการคายประจขุ องตัว C เปลยี่ นแปลง ทำใหร ูปคล่ืนสัญญาณ ทีอ่ อกเอาตพตุ EO เกิดการเปลยี่ นแปลง การเปลย่ี นแปลงของสัญญาณเอาตพุต EO ดังกลา วแบงออกมาไดตาม คาเวลาคงที่ของวงจรแบงเปน 3 ชนิด คือเวลาคงที่นอย (Short Time Constant) เวลาคงที่ปานกลาง
แผนการจัดการเรยี นรูหนวยท่ี 3 ช่ือวชิ า วงจรพลั สแ ละสวติ ชงิ เวลาเรยี นรวม 72 ชว่ั โมง ชอ่ื หนว ย วงจรอินตเิ กรเตอรและดิฟเฟอรเรนชิเอเตอร สอนครั้งท่ี 4 ชอื่ เร่ือง อินติเกรเตอรแ ละดฟิ เฟอรเ รนชเิ อเตอร จำนวน 4 ชว่ั โมง (Medium Time Constant) และเวลาคงที่มาก (Long Time Constant) คลื่นสัญญาณอินทิเกรตมีเวลาคงที่ แตกตางกนั แสดงไดดงั รูปที่ 3.5 รปู ท่ี 3.5 คลน่ื สญั ญาณอนิ ทิเกรตมีเวลาคงท่ีแตกตา งกนั จากรูปที่ 3.5 แสดงคลื่นสญั ญาณอินทเิ กรตมีเวลาคงท่ีแตกตา งกัน คาเวลาคงที่มคี ามาก หรือนอยกำหนด ไดดงั น้ี เวลาคงที่นอย เปนเวลาคงที่ที่มีคาชวงเวลาพัลสเปน 10 เทาหรือมากกวา 10 เทาของชวงเวลาคงที่ของ วงจร RC อินทิเกรเตอรโดยใชคา R และคา C ในวงจรนอย ตัว C ประจุแรงดันไดเร็ว เกิดแรงดันตกครอ มตัว C ถึงคาสูงสุดเรว็ ไดรปู คล่นื สญั ญาณออกเอาตพตุ EO เกิดความผิดเพยี้ นไปนอย เวลาคงที่ปานกลาง เปนเวลาคงที่ที่มชวงเวลาพัลสอยูระหวาง 0.1 เทา ถึง 10 เทาของชวงเวลาคงที่ของ วงจร RC อินทิเกรเตอรโดยใชค า R และคา C ในวงจรมากข้ึนปานกลาง ตัว C ประจุแรงดันไดชาลงเกิดแรงดัน ตกครอ มตวั C ถงึ คาสงู สุดชา ลง ไดรูปคล่นื สญั ญาณออกเอาตพ ุต EO เกิดความผิดเพ้ียนไปมากขึ้น เวลาคงที่มาก เปนเวลาคงที่ท่ีมชวงเวลาพัลสไมเกิน 0.1 เทาหรือนอยกวา 0.1 เทา ของชวงเวลาคงที่ของ วงจร RC อินทิเกรเตอรโดยใชคา R และคา C ในวงจรมากขึ้นมาก ๆ ตัว C ประจุแรงดันไดยิ่งชาลงเกิดแรงดัน ตกครอมตัว C ถงึ คา สูงสุดไดชา มาก ๆ หรือประจแุ รงดันไมถึงคาสูงสดุ ไดรปู คลื่นสัญญาณออกเอาตพุต EO เกิด ความผิดเพี้ยนไปอยางมาก เปลี่ยนแปลงรูปคลื่นจากคลื่นเอกซโพเนนเชียลเปนคล่ืนเอียง ไดลักษณะรูปคลื่น ออกมาเปน คลืน่ สามเหล่ียม มีระดับ แรงดนั ออกเอาตพุตตำ่
แผนการจัดการเรยี นรหู นว ยที่ 3 ช่ือวชิ า วงจรพลั สและสวติ ชิง เวลาเรียนรวม 72 ช่วั โมง ชอื่ หนวย วงจรอนิ ติเกรเตอรแ ละดฟิ เฟอรเ รนชิเอเตอร สอนครงั้ ท่ี 4 ชอื่ เรื่อง อินตเิ กรเตอรแ ละดิฟเฟอรเ รนชเิ อเตอร จำนวน 4 ช่ัวโมง 3.4 วงจรกรองความถ่ีสงู ผา นแบบ RC วงจรกรองความถี่สงู ผานแบบ RC (RC High - Pass Filter Circuit) เปนวงจรกรองยานความถีส่ ูงผานแบบ เบื้องตน โดยอาศัยคุณสมบัตใิ นการทำงานของคาอุปกรณ R และ C ที่ใชงานในการกำหนดยานความถี่สูงผาน ออกเอาตพ ตุ ในยา นความถท่ี ี่กำหนด ถา ความถ่ที ่ปี อ นเขามามคี าต่ำกวา ความถ่ีท่ีกำหนดไววงจรไมยอมใหความถ่ี นั้นผานไปได ความถ่ีที่ถูกกำหนดไมใหผานเรียกวา ความถี่ตัด ลักษณะวงจรและกราฟแสดงการตอบสนอง ความถ่ีของวงจรกรองความถ่ีสูงผา นแบบ RC แสดงดงั รปู ที่ 3.6 รูปที่ 3.6 วงจรกรองความถี่สูงผานแบบ RC และกราฟตอบสนองความถี่ จากรูปที่ 3.6 แสดงวงจรความถี่สูงผานแบบ RC วงจรประกอบดวยตัวตานทาน (R) และตัวเก็บประจุ (C) ประกอบรวมกันนี้เปนวงจรกรองความถี่สูงผานแบบผานโดยตรง การเรียกวงจรกรองลักษณะนี้วาวงจรกรอง ความถี่สูงผาน เพราะเปนวงจรที่ใชงานกับสัญญาณคลื่นไซน ซึ่งคุณสมบัติของสัญญาณคลื่นไซน เมื่อสงผาน วงจรกรองความถี่สูงผานแลวรูปรางคลื่นสัญญาณยังคงเดิมไมผิดเพี้ยนไป สัญญาณจายออกเอาตพุต EO เปน สัญญาณท่ตี กครอ มตวั R มตี ัว C ตออนกุ รมกับวงจร คณุ สมบัติของตวั C ท่คี วามถ่ีตำ่ คา รแี อกแตนซของ C หรือ XC สูง ตานความถีค่ ล่นื ไซนไมใหส ง ออกเอาตพุต ไมมคี วามถีต่ ำ่ สงออกเอาตพุต EO ไมม ีแรงดันตกครอ ม R เมื่อ ความถ่ีที่ปอ นเขา มาคอย ๆ สูงขน้ึ คา รแี อกแตนซข อง C (XC) คอ ย ๆ ลดลง ความแรงของสัญญาณความถ่ีสูงถูก สงไปตกครอม R คอย ๆ มากขึ้นเปนลำดับ สญั ญาณความถี่ถูกสงออกเอาตพตุ EO คอ ย ๆ มากข้นึ นี้เปนลำดับที่ สญั ญาณความถสี่ ูงคา หนึ่งจะมีแรงดันสงออกเอาตพุต EO มากถึงจดุ ตดั เรียกตำแหนงนี้วาจุดตัดท่ีความถ่ีต่ำหรือ จุดคัตออฟที่ความถี่ต่ำ (Low Frequency Cutoff Point) เปนตำแหนงที่แรงดันสงออกเอาตพุต EO เพิ่มขึ้นถึง ระดบั 70.7 % จาก 100 % หรอื เพม่ิ ข้นึ ถึง 0.707 จาก 1 และเพิม่ ขนึ้ ถงึ -3dB จากระดับความแรงสูงสุด 0dB สัญญาณความถี่คลื่นไซนมีคาสูงกวาจุดตัดที่ความถี่ต่ำ (fCL) สามารถสงผานออกเอาตพุตได แสดงดังรูปที่ 3.6 (ข)
แผนการจดั การเรยี นรหู นวยท่ี 3 ชื่อวชิ า วงจรพลั สแ ละสวิตชงิ เวลาเรียนรวม 72 ชัว่ โมง ชอ่ื หนว ย วงจรอินติเกรเตอรและดฟิ เฟอรเรนชิเอเตอร สอนครงั้ ที่ 4 ชื่อเรื่อง อินติเกรเตอรแ ละดฟิ เฟอรเ รนชเิ อเตอร จำนวน 4 ช่วั โมง วงจรกรองความถี่สูงผานดังกลาวเปนชนิดสงผานโดยตรง ไมมีการขยายสัญญาณ ระดับอัตราขยายวงจรมี คา 1 และอัตราขยายจะลดลงเหลือเพียง 0.707 เมื่อคาความถี่ที่ปอนเขามาที่ความถี่คัตออฟ สามารถหา ความสัมพนั ธของอตั ราขยายแรงดนั และความถตี่ ดั ของวงจรไดดงั นี้ ������������������������������������ = ������������������������ = 1 (3.4) ������������������������ �1+��������������������������������������������������������������2 (3.5) ������������������������������������ = 1 Hz 2������������������������������������ เมอ่ื AVH = อตั ราขยายแรงดันของวงจรทค่ี วามถีส่ งู EO = แรงดนั คลืน่ ไซนอ อกเอาตพตุ หนว ย V Ei = แรงดนั คล่นื ไซนทางอนิ พุต หนว ย V fU = ความถีใ่ ชงาน หนว ย Hz fCL = ความถีต่ ัดท่คี า ความถีต่ ่ำ หนวย Hz R = คาความตานทานที่ใชใ นวงจร หนว ย Ω C = คา ความจทุ ่ใี ชในวงจร หนว ย F ตวั อยาง วงจรกรองความถสี่ ูงผานแบบ RC ตามรปู ที่ 3.3 จงหาคาความถ่ตี ดั ของวงจร รูปที่ 3.7 วงจรกรองความถี่สูงผา น RC วธิ ที ำ ������������������������������������ = 1 จากสตู ร 2������������������������������������
แผนการจัดการเรียนรหู นวยท่ี 3 ชือ่ วชิ า วงจรพลั สแ ละสวติ ชิง เวลาเรียนรวม 72 ชั่วโมง ช่ือหนวย วงจรอินตเิ กรเตอรและดิฟเฟอรเรนชิเอเตอร สอนครงั้ ที่ 4 ชอ่ื เรื่อง อนิ ตเิ กรเตอรแ ละดิฟเฟอรเ รนชิเอเตอร จำนวน 4 ชวั่ โมง เม่ือ R = 33 kΩ, C = 0.056 ������������F 1 2������������×33������������Ω×0.056������������F แทนคา ������������������������������������ = = 1 2������������×33×103×0.056×10−6 ∴ FCL = 86.1 Hz ตอบ ตัวอยาง 2 จากตวั อยา งดานบน รูปที่ 3.7 ถาสญั ญาณ EI มีความถใี่ ชงาน 450 Hz จงหาอตั ราขยายแรงดัน วธิ ที ำ ������������������������ 1 ������������������������ �1+��������������������������������������������������������������2 จากสตู ร ������������������������������������ = = เมื่อ FU = 450 Hz, FCL = 86.1 Hz 1 �1+�8465.01�2 แทนคา ������������������������������������ = = 1 √1+0.0366 = 1 1.0181 ∴ AVL = 0.982 ตอบ
แผนการจัดการเรยี นรูหนว ยท่ี 3 ชื่อวชิ า วงจรพลั สแ ละสวิตชิง เวลาเรยี นรวม 72 ชวั่ โมง ช่อื หนว ย วงจรอนิ ตเิ กรเตอรและดิฟเฟอรเรนชิเอเตอร สอนครัง้ ท่ี 4 ชือ่ เรอ่ื ง อินติเกรเตอรแ ละดฟิ เฟอรเ รนชิเอเตอร จำนวน 4 ชวั่ โมง 3.5 วงจร RC ดิฟเฟอเรนชิเอเตอร วงจร RC ดิฟเฟอเรนชิเอเตอร(RC Differentiator) เปนวงจรที่ประกอบดวยตัวตานทาน (R) และตัวเก็บ ประจุ (C) จัดวงจรทำงานเหมือนกับวงจรกรองความถี่สูงผานแบบ RC ดังที่กลาวไวในหัวขอที่ 3.4 แตเรียกชื่อ แตกตางกัน เพราะนำไปใชงานกับสัญญาณไฟฟาในรูปคลื่นสี่เหลี่ยมหรือคลื่นพัลส วงจร RC ดิฟเฟอเรนชิเอ เตอรจะทำใหคลื่นสี่เหลี่ยมที่สงเขามาผานออกเอาตพุตเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปรางไป กลายเปนสัญญาณคลื่น ดิฟเฟอเรนชิเอต จึงเรียกวงจรนีว้ า วงจร RC ดิฟเฟอเรนชิเอเตอรลักษณะวงจร RC ดิฟเฟอเรนชิเอเตอรและรูป คลน่ื สัญญาณ แสดงดังรปู ที่ 3.8 รปู ที่ 3.8 วงจร RC ดิฟเฟอเรนชิเอเตอร จากรูปที่ 3.8 แสดงวงจร RC ดิฟเฟอเรนชิเอเตอรมีสัญญาณปอ นเขามาทางอินพุต Ei เปนคลื่นสี่เหลี่ยมมมุ ฉาก ไดคล่ืนออกเอาตพ ตุ EO เปน คล่นื ดฟิ เฟอเรนชเิ อต คลนื่ เกดิ จากตวั C ยอมใหค ลื่นขัน้ บนั ไดในชวงแรกของ การเปลี่ยนสภาวะในขณะเกิดพัลสปอนเขามาผานไป ชวงแรกของคลื่นพัลสเปลี่ยนระดับตัว Cเสมือนลัดวงจร ไดแรงดันพัลสออกเอาตพุตสูงสุด และแรงดันพัลสลดลงอยางรวดเร็วเกิดจากแรงตานแรงดันไฟตรงของตัว C สงผลใหส ัญญาณข้ันบันไดลดลงเปนรูปคล่นื เอกซโ พเนนเชียลลาดลง การลาดลงจะเกดิ ความชนั มากนอยเพียงไร ขึ้นอยูกับคา R และคา C ที่นำมาใชงานในวงจร ทำใหมีเวลาคงที่RC ตามตองการลักษณะการตอบสนอง สญั ญาณข้ัน บนั ไดของวงจร RC ดฟิ เฟอเรนชิเอเตอรแสดงดงั รูปท่ี 3.9 รูปที่ 3.9 แสดงการตอบสนองสญั ญาณข้นั บนั ไดของวงจร RC ดิฟเฟอเรนชิเอเตอร
แผนการจัดการเรียนรูห นวยท่ี 3 ช่ือวิชา วงจรพัลสแ ละสวติ ชงิ เวลาเรยี นรวม 72 ชัว่ โมง ช่ือหนวย วงจรอนิ ติเกรเตอรและดฟิ เฟอรเ รนชิเอเตอร สอนครง้ั ท่ี 4 ชอื่ เรอื่ ง อินติเกรเตอรแ ละดิฟเฟอรเ รนชิเอเตอร จำนวน 4 ชว่ั โมง จากรปู ที่ 3.9 แสดงการตอบสนองสัญญาณขั้น บนั ไดของวงจร RC ดฟิ เฟอเรนชเิ อเตอรการทำงานของวงจร อธบิ ายไดด งั น้ี ที่ชวงเวลา t0 ถึง t1 เปนชวงเวลาที่มีสัญญาณคลื่นสี่เหลี่ยมพัลสบวกปอนเขามา ที่เวลา t0 ตัว C เสมือน ลัดวงจร แรงดันพัลสทั้ง หมดตกครอมตัว R มีสัญญาณออกเอาตพุตมากคาหนึ่งเมื่อเวลาผานไปจาก t0 ถึง t1 ตัว C เริ่มประจุแรงดันคอย ๆ มากขึ้นเปนลำดับ ทำใหคาแรงดันตกครอมตัว R คอย ๆ นอยลง จนถึงชวงเวลา t+1 ไมม สี ัญญาณคล่นื ส่เี หลีย่ มพัลสปอนเขา ตวั C หยุดการประจแุ รงดนั ท่ีชวงเวลา t1 ถึง t2 เปน ชวงเวลาท่ีไมมีสัญญาณคลื่นสี่เหล่ียมพลั สป อ นเขา มา ท่เี วลา t1 แรงดนั พลั สอินพุต เปลี่ยนแปลงจากพัลสบวกเปน 0V จากชวงเวลา t1 ถึง t2 ไมมีสัญญาณพัลสปอนเขามาเสมือนอินพุต Ei ลัดวงจร ทำใหแรงดันที่ประจุไวในตัว C ทั้ง หมดถูกจายไปตกครอมตัว R ทั้ง หมด เกิดแรงดันออกเอาตพุต EO มีศกั ยเปนลบสงู มากคา หนึ่ง จะมีคาเทา กับแรงดนั ท่ีประจุในตัว C ในชว งเวลา t0 ถึง t1 ท่ีผา นมาการเกิดแรงดัน ตกครอ มตัว R เปนลบคา สูงเกดิ จากขัว้ แรงดันที่จา ยมาจากตวั C จา ยใหตัว R มีดานบนเปน ลบ (-) ดานลางเปน บวก (+) เมื่อตวั C เร่มิ คายประจผุ านตวั R แรงดันทปี่ ระจไุ วในตัว C คอย ๆ นอยลง ทำใหแรงดนั ตกครอ มตัว R คอย ๆ นอยลงตามไปดวย จนถึงชวงเวลา t+2 มีสัญญาณคลื่นสี่เหลี่ยมพัลสปอนเขามาอีกครั้ง ตัว C หยุด การคายประจแุ รงดนั สภาวะการทำงานของตัว C และตัว R ในชว งเวลา t0 ถงึ t2 แสดงดังรปู ท่ี 3.10 รูปท่ี 3.10 การทำงานของตวั C และตัว R ในชว งเวลา t0 ถงึ t2 ในวงจร RC ดฟิ เฟอเรนชเิ อเตอร ที่ชวงเวลา t2 ถึง t3 เปนชวงเวลาที่มีสัญญาณคลื่นสี่เหลี่ยมพัลสบวกปอนเขามาอีกครั้งที่เวลา t2 แรงดัน พัลสอนิ พตุ เปลี่ยนแปลงจาก 0V เปนพัลสบ วก ตวั C เสมือนลัดวงจรอีกครั้ง แรงดนั พัลสที่ปอ นเขามาจา ยไปตก ครอ มตัว R ทง้ั หมดเปน สญั ญาณบวกเอาตพุต EO จากชวงเวลา t2 ถงึ t3 ตัว C เริ่มประจุแรงดันเพิ่มข้ึนอีกคร้ัง ไดสัญญาณออกเอาตพุตเหมือนกับชวงเวลา t0 ถึง t1 และที่ชวงเวลา t3 ถึง t4 เปนชวงเวลาที่ไมมีสัญญาณ
แผนการจัดการเรียนรหู นวยที่ 3 ช่ือวชิ า วงจรพัลสและสวติ ชิง เวลาเรียนรวม 72 ชั่วโมง ช่ือหนวย วงจรอินติเกรเตอรแ ละดฟิ เฟอรเ รนชเิ อเตอร สอนคร้ังท่ี 4 ชื่อเรื่อง อนิ ติเกรเตอรแ ละดฟิ เฟอรเ รนชิเอเตอร จำนวน 4 ชั่วโมง คลื่นสี่เหลี่ยมพัลสปอนเขามา ตัว C เริ่มคายประจุแรงดันผานตัว R อีกครั้ง ไดสัญญาณออกเอาตพุตเหมือนกบั ชวงเวลา t1 ถึง t2 การทำงานของวงจรจะเปนเชนนี้เรื่อยไป ไดสัญญาณจายออกเอาตพุต EO เปนรูปคลื่นดิฟ เฟอเรนชิเอต สัญญาณดิฟเฟอเรนชิเอตที่สงออกเอาตพุต อาจมีรูปรางแตกตางกันไปบางขึ้นอยูกับคาเวลา คงท่ีRC ของวงจร RC ดิฟเฟอเรนชิเอเตอรที่ใชคา R และคา C มาก หรือนอยเปลี่ยนแปลงไป เวลาคงที่ RC ที่ เปลี่ยนแปลงไป จะมีผลตอเวลาประจุและคายประจุของตัว C ในวงจร การประจุและคายประจุของตัว C เปลี่ยนแปลงทำใหรูปคลื่นสัญญาณที่ออกเอาตพุต EO เปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงของสัญญาณเอาตพุต EO ดังกลาว แบงออกไดตามคาเวลาคงที่ของวงจรเปน 3 ชนิดคือเวลาคงที่นอย เวลาคงที่ปานกลาง และเวลาคงที่ มาก ลักษณะสัญญาณดิฟเฟอเรนชิเอต แบง ออกตามคา เวลาทแี่ สดงดังรปู ที่ 3.11 รูปที่ 3.11 แสดงสัญญาณดิฟเฟอเรนชเิ อต ท่มี ีชว งเวลาคงท่ีมากนอยแตกตางกัน จากรูปที่ 3.11 แสดงสัญญาณดิฟเฟอเรนชิเอต ที่มชวงเวลาคงท่ีมากนอยแตกตางกันไปแบงออกไดเปน 3 ชนดิ คือนอย ปานกลาง และมาก เวลาคงท่แี ตละชนิดมีผลตอรูปคล่ืนสัญญาณทส่ี งออกเอาตพุตแตกตางกันไป ดงั น้ี ชวงเวลาคงที่นอย คา R และคา C ที่ใชงานมีคานอย ทำใหตัว C ประจุเต็มเร็วและคายประจุไดหมดเร็ว รูปคล่นื ดฟิ เฟอเรนชเิ อตท่ีไดจงึ มียอดแหลม ไดแรงดนั ออกเอาตพ ุตแตล ะซีกเทากบั แรงดนั อนิ พุตทีป่ อนเขา มา เวลาคงที่ปานกลาง คา R และคา C ที่ใชงานมีคามากขึ้น ทำใหการประจุและคายประจุของตัว C ตองใช เวลามากขึ้น ถาหากความถี่ของพัลสเขามามีความถี่สงู การเปลี่ยนแปลงระดับของพัลสเร็ว การประจุของตัว C
แผนการจดั การเรียนรหู นวยท่ี 3 ชอ่ื วชิ า วงจรพัลสแ ละสวติ ชิง เวลาเรยี นรวม 72 ชว่ั โมง ชอื่ หนวย วงจรอินตเิ กรเตอรแ ละดิฟเฟอรเ รนชิเอเตอร สอนคร้งั ท่ี 4 ชื่อเรอ่ื ง อินติเกรเตอรแ ละดิฟเฟอรเ รนชิเอเตอร จำนวน 4 ชว่ั โมง อาจไมถ งึ คาสูงสุดของแรงดันที่ปอนเขามา และการคายประจุของตวั C อาจคายประจุไดไมหมด ทำใหสัญญาณ ดิฟเฟอเรนชเิ อตมยี อดแหลมนอยลง และมรี ะดับ แรงดนั ออกเอาตพุตแตละซีกนอยกวาแรงดันอนิ พตุ ปอนเขามา เวลาคงที่มาก คา R และคา C ที่ใชงานมีคาเพิ่มมากขึ้นไปอีก ยิ่งทำใหการประจุและคายประจุของตัว C ตองใชเวลามากขึน้ ไปอีก ถา ความถขี่ องพัลสท ี่ปอนเขามามีความถ่ีสงู เหมือนเดิมการประจุและคายประจุแรงดัน ของตัว C ยิ่งมีระดับ แรงดนั้นอยลงอีก สัญญาณดิฟเฟอเรนชิเอตยิ่งมียอดแหลมนอยลงไปอีกระดับแรงดันเกิด การเปลีย่ นแปลงไปในลักษณะคล่นื เอียงแทนคล่ืนเอกซโ พเนนเซียล 3.6 บทสรุป วงจรกรองความถี่แบบ RC เปน วงจรทท่ี ำหนา ทก่ี ำหนดยานความถผ่ี านต่ำตามตอ งการโดย ใชต วั R และตัว C มาประกอบวงจรรวมกัน และวงจรปรับแตงรูปคล่นื สัญญาณแบบ RC เปน วงจรทีท่ ำหนาท่ีปรับเปลี่ยนรูปราง สัญญาณคลื่นสี่เหลี่ยม โดยใชตัว R และตัว C มาประกอบวงจรรวมกัน ใหเปลี่ยนไปเปนคลื่นอินทิเกรต หรือ คล่ืนดฟิ เฟอเรนชิเอต รปู คลน่ื สญั ญาณทีไ่ ดออกมา ขน้ึ อยูกับคาเวลาคงท่ีของวงจร RC ทต่ี อใชง าน วงจรกรองความถี่ต่ำผา น RC เปนวงจรกรองความถี่ต่ำผานแบบเบื้องตน อาศัยคุณสมบัติ ในการทำงานตัว R และตัว C เพื่อกำหนดยานความถี่ต่ำผานออกเอาตพุตได จุดความถี่ที่ไมยอมใหผานเอาตพุตเรียกวา จุดตัด วงจรกรองความถี่น้ใี ชง านกับความถี่คลนื่ ไซน จดุ ตัดของวงจร วิเคราะหทร่ี ะดบั แรงดนั ลดลงจากระดบั สงู สุดลง มาเหลือเพียง 70.7 % หรอื ลดลงจาก 0 dB ลงมาเปน - 3dB วงจร RC อนิ ทิเกรเตอรมลี ักษณะวงจรเหมอื นกับวงจรกรองความถ่ตี ำ่ ผา นแบบ RC นำไปใชง านกบั สญั ญาณ คลน่ื สเ่ี หล่ยี ม มีผลใหคลืน่ สีเ่ หลี่ยมมรี ูปรางออกเอาตพตุ เปลย่ี นแปลง ไปเปนคลื่นอินทิเกรต คล่ืนอินทิเกรตท่ีได ออกเอาตพุตจะมีรูปรางคลื่นแตกตางกันไป ขึ้นอยูกับ คาเวลาคงที่ของวงจร RC แบงออกได 3 ชนิด คือเวลา คงท่นี อย เวลาคงท่ปี านกลางและเวลาคงท่มี าก วงจรกรองความถี่สูงแบบผาน RC เปนวงจรความถี่สูงผานแบบเบื้องตน แบบใชตัว R และตัว C เปน ตวั กำหนดยานความถ่ีสงู ผานออกเอาตพตุ ทยี่ า นความถห่ี นึ่ง ความถที่ ีป่ อนเขา มา ถามีคาต่ำกวา ความถ่ีท่ีกำหนด จะไมสามารถผานออกเอาตพตุ ไดเรียกความถท่ี ่ีจุดนี้วาความถ่ีตัด เปนวงจรใชก บั ความถค่ี ลื่นไซน กำหนดจุดตัด ของวงจรทีร่ ะดับแรงดัน 70.7 % หรือท่ี - 3dB วงจร RC ดิฟเฟอเรนชิเอเตอรมีลักษณะวงจรเหมือนกับวงจรกรองความถี่สูงผานแบบ RC โดยนำไปใชงาน กับสัญญาณคลื่นสี่เหลี่ยม มีผลทำใหคลื่นสี่เหลี่ยมมีรูปรางสัญญาณออก เอาตพุตเปลี่ยนแปลงไปเปนคลื่นดิฟ เฟอเรนซิเอต คลื่นดิฟเฟอเรนซิเอตที่ไดออกเอาตพุตจะมี รูปรางคลื่นแตกตางกันไป ขึ้นอยูกับคาเวลาคงที่ของ วงจร RC แบง ออกได 3 ชนดิ คอื เวลาคงทน่ี อย เวลาคงทปี่ านกลาง และเวลาคงที่มาก
แบบฝกหัดประจำหนวยการเรียนท่ี 3 จดุ ประสงค 1. อธบิ ายหลักการทำงานของวงจรแปลงรูปสัญญาณไดถูกตอ ง 2. คำนวณหาคาเวลาคงทขี่ องวงจรอนกุ รม RC ไดถูกตอง 3. คำนวณหาคา เวลาคงทีข่ องวงจรอนุกรม RL ไดถกู ตอง 4. ประยกุ ตใชออสซลิ โลสโคปในการวัดคาอนุกรม RC ไดถกู ตอง แบบฝกหดั ตอนท่ี 1 1. จงอธบิ ายหลักการทำงานของวงจรแปลงรปู สญั ญาณ 2. วงจรอนกุ รมวงจรหน่งึ ประกอบดว ยตวั ตานทาน 30 kΩ ตอรว มกับตวั เกบ็ ประจุ 0.001 µF จงหาคาเวลาคงท่ีของวงจรอนุกรม RC 3. วงจรอนกุ รมวงจรหนง่ึ ประกอบดว ยตัวตานทาน 1 kΩ ตอรวมกบั ตัวเหนี่ยวนำ 5 µH จงหาคา เวลาคงที่ของวงจรอนุกรม RL
ใบงานที่ 3 ใบปฏบิ ัตงิ าน 2.2 วงจรแปลงรูปสัญญาณ เคร่อื งมือและอุปกรณ 1. เคร่อื งกำเนิดสัญญาณหลายแบบ 1 เครื่อง 2. ออสซิลโลสโคปชนิด 2 เสน ภาพพรอ มสายวดั 1 เคร่ือง 3. ตัวตานทาน 1kΩ; 0.5W 1 ตัว 4. ตวั เกบ็ ประจุ 0.033 F, 0.68 F, 2.2 F ; 25V คา ละ 1 ตัว 5. แผงประกอบวงจรและตอสายวงจร 1 ชุด ลำดบั ข้ันตอนการทดลอง 1. ประกอบวงจรตามรปู ท่ี 3.1 รปู ท่ี 3.1 วงจรอนิ ทเิ กรเตอร 2. ปรับเคร่ืองกำเนิดสัญญาณหลายแบบ ไปทีค่ ลนื่ สีเ่ หลีย่ มความถี่ 1kHz ปรับความแรงสญั ญาณประมาณ 50% ปอ นเขาทอ่ี นิ พตุ Ei ของวงจร 3. ปรับออสซิลโลสโคปใหพรอมใชง าน นำไปวัดคา ในวงจร ใหอินพตุ CH1 ของออสซิลโลสโคปวัดท่ีอินพุต Ei และใหอินพุต CH2 ของออสซิลโลสโคปวัดที่เอาตพุต EO วัดรูปคลื่นสัญญาณและระดับความแรงสัญญาณ ทั้ง อนิ พุต Ei และเอาตพตุ EO บนั ทกึ คาไวใ นรปู ท่ี 3.2
รปู ที่ 3.2 สญั ญาณ Ei และ EO ของวงจรอนิ ทิเกรเตอรท ่ี R=1kΩ, C=0.033µF 4. เปลี่ยนคาความตานทานและคาความจุดังนี้ R=1kΩ, C=0.68F ชุดหนึ่งและR=1kΩ, C=2.2F อีกชุด หนึ่งตามลำดับ วัดและบันทึกคารูปคลื่นสัญญาณและระดับความแรงสัญญาณ ทั้งอินพุต Ei และเอาตพุต EO บันทึกคาไวใ นรปู ที่ 3.3
รูปท่ี 3.3 สญั ญาณ Ei และ EO ของวงจรอินทิเกรเตอรท ่ี R=1kΩ, C=0.68µF และ C=2.2µF 5. อา นชว งเวลาการเกบ็ ประจุ และคายประจุของ C ท่เี อาตพตุ EO ท้ัง 2 คา ทคี่ า EO1 ชวงเวลา C ประจุ = ........................ s, ชว งเวลา C คายประจุ = ................................. s ที่คา EO2 ชวงเวลา C ประจุ = ........................ s, ชวงเวลา C คายประจุ = ................................. s
แบบฝกหดั ประจำหนวยการเรียนที่ 3 2.2 วงจรดฟิ เฟอเรนชิเอเตอร จุดประสงค 1. บอกความหมายของวงจรกรองความถ่สี งู ผา นแบบ RC ไดถูกตอง 2. แสดงวิธกี ารประกอบวง RC ดิฟเฟอรเรนชเิ รนชิเอเตอรไดถูกตอง 3. ประยกุ ตใ ชออสซลิ โลสโคปในการวดั วัดคาวงจรอินติเกรเตอรและวงจรดิฟเฟอรเรนชิเอเตอรไ ดถูกตอง แบบฝก หดั ตอนที่ 1 1. จงบอกความหมายของวงจรกรองความถสี่ งู ผา นแบบ RC และอธบิ ายการทำงานเบ้ืองตน 2. วงจรกรองความถ่ีสงู ผานแบบ RC ตามรูปประกอบดว ยตัวเก็บประจุ 0.01µF และตัวตา นทาน 10 kΩ จงหาคาความถี่ตัดของวงจรและอตั ราขยายแรงดัน 3. จากวงจรขอที่ 2 ถาวงจรประกอบดวยตัวเก็บประจุ 0.001µF และตวั ตานทาน 10 kΩ คาความถี่ตัดของวงจรและอัตราขยายแรงดันจะมีคาเทาใด
ใบงานท่ี 3 ใบปฏิบตั งิ าน 2.2 วงจรดฟิ เฟอเรนชิเอเตอร เคร่อื งมอื และอปุ กรณ 1. เคร่ืองกำเนดิ สัญญาณหลายแบบ 1 เครอ่ื ง 2. ออสซิลโลสโคปชนิด 2 เสนภาพพรอ มสายวัด 1 เครือ่ ง 3. ตวั ตา นทาน 1kΩ ; 0.5W 1 ตัว 4. ตวั เก็บประจุ 0.033 µF, 0.68 µF, 2.2 µF; 25V คาละ 1 ตัว 5. แผงประกอบวงจรและตอสายวงจร 1 ชดุ ลำดับข้ันตอนการทดลอง 1. ประกอบวงจรตามรปู ท่ี 3.4 รูปท่ี 3.4 วงจรดิฟเฟอเรนชเิ อเตอร 2. ปรบั เครอื่ งก าเนิดสัญญาณหลายแบบ ไปท่ีคลนื่ ส่ีเหลยี่ มความถี่ 1kHz ปรับความแรงสญั ญาณประมาณ 50% ปอนเขาท่ีอินพุต Ei ของวงจร 3. ปรับออสซิลโลสโคปใหพรอมใชง าน นำไปวดั คา ในวงจร ใหอินพตุ CH1 ของออสซลิ โลสโคปวดั ทอ่ี ินพตุ Ei และใหอ นิ พตุ CH2 ของออสซิลโลสโคปวัดทเี่ อาตพตุ EO วัดรปู คลืน่ สญั ญาณและระดับความแรงสญั ญาณ ทั้ง อินพตุ Ei และเอาตพ ุต EO และยา ยสายวัดเสน กราวดข อง CH1 ไปวัดทต่ี ัว C ขาท่ีเหลือ วัดสญั ญาณที่ตกครอมตัว C(EC) บันทกึ คา ไวในรปู ท่ี 3.5
รูปที่ 3.5 สัญญาณ Ei, EO และEC ของวงจรดฟิ เฟอเรนชเิ อเตอรที่ R=1kΩ, C=0.033µF 4. เปล่ียนคาความตานทานและคาความจุดังนี้ R=1kΩ, C=0.68µF ชุดหนึ่งและR=1kΩ, C=2.2µF อกี ชุดหนึ่ง ตามลำดับ วัดและบันทึกคารปู คลื่นสัญญาณและระดับความแรงสัญญาณ ทั้งอินพุต Ei และเอาตพุต EO บันทึกคา ไวใ นรูปที่ 3.6 และรูปที่ 3.7 รูปท่ี 3.6 สัญญาณ Ei และ EO ของวงจรดิฟเฟอเรนชิเอเตอรท่ี R=1kΩ, C=0.68µF
รปู ท่ี 3.7 สญั ญาณ Ei และ EO ของวงจรดิฟเฟอเรนชิเอเตอรท่ี R=1kΩ, C=2.2µF
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: