วชิ าภาษาไทย หน่วยท่ี 5 เรอื่ ง การใชส้ านวนโวหาร ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 (Grade 5)
การใชส้ านวนโวหาร โวหาร คอื ถ้อยคำ กลมุ่ คำ ประโยค ข้อควำม สำนวนทน่ี ำมำ เรียบเรียง เขยี นและพูดอยำ่ งมีศิลปะ เพ่ือถ่ำยทอดเรื่องรำวให้ ผู้อ่ำนหรือผฟู้ ังเกดิ ควำมเข้ำใจ และควำมร้สู กึ คลอ้ ยตำมใน เรอ่ื งรำวที่นำเสนอ บำงคร้ังเรยี กวำ่ สานวนโวหาร
ประเภทของสานวนโวหาร 1. บรรยายโวหาร คอื โวหำรท่ใี ชถ้ อ้ ยคำกระชับตรงไปตรงมำ เพ่ือชแ้ี จง บอกเลำ่ หรอื อธิบำยเรอื่ งรำว เหตกุ ำรณ์ ควำมรู้ ให้เข้ำใจเนอ้ื หำได้กระจำ่ งชัดเจน และได้สำระตรงประเดน็ อย่ำงรวดเรว็ นยิ มบรรยำยขอ้ มูล ขำ่ วสำร เหตุกำรณ์ ควำมรู้ และสำรคดี
หลกั การเขยี นบรรยายโวหาร 1. เร่อื งทเ่ี ขียนตอ้ งเป็นเร่อื งจรงิ ผเู้ ขียนควรมคี วำมรู้เกย่ี วกบั เรือ่ งทจ่ี ะเขยี นเปน็ อย่ำงดี โดย อำจรูม้ ำจำกประสบกำรณ์ หรอื กำรคน้ คว้ำกไ็ ด้ 2. เลอื กเขียนเฉพำะสำระสำคญั ไม่เนน้ รำยละเอยี ด แต่เขยี นตรงไปตรงมำไมอ่ อ้ มค้อม 3. ใชภ้ ำษำใหเ้ ข้ำใจง่ำย 4. เรียบเรียงควำมคดิ ใหต้ ่อเนื่องและสัมพนั ธ์กัน
ตัวอย่างการเขยี นบรรยายโวหาร ฉนั ยนื ตน้ อยใู่ นปำ่ ลึก ฉนั มีลำตน้ สงู ใหญ่ กง่ิ ก้ำนใบแนน่ หนำและ แผก่ ว้ำง แสงอำทติ ยไ์ มอ่ ำจส่องลอดได้ เบอ้ื งลำ่ งจงึ ร่มรืน่ ลำธำรนอ้ ย ๆ ไหลผ่ำนใกล้ลำต้นฉนั ไป นำ้ ในลำธำรใสจนเห็นกรวดทรำย ท้องธำร และปลำว่ำยเวยี น ทุกวันจะมีสัตวป์ ำ่ นำนำชนดิ มำกนิ น้ำ ท่ีลำธำรสำยนี้ บำงตวั จะอำศยั ใตร้ ่มใบของฉัน นอนหลบั อย่ำงเปน็ สขุ
ประเภทของสานวนโวหาร 2. พรรณนาโวหาร คอื โวหำรท่ใี ช้ถอ้ ยคำประณีต ไพเรำะ เพ่อื ใหเ้ กดิ จินตภำพ บรรยำกำศ สะเทอื นอำรมณ์ และเกิด อำรมณ์คลอ้ ยตำมได้ นิยมพรรณนำอำรมณ์ ควำมรู้สึก บรรยำกำศ และสถำนที่ รวมท้ังควำมงำม
หลักการเขียนพรรณนาโวหาร 1. ต้องใช้คำดี หมำยถึง กำรเลอื กสรรถอ้ ยคำ เพ่อื ใหส้ ื่อควำมหมำย สื่อภำพ ส่อื อำรมณ์ เหมำะสมกบั เนื้อเรื่องท่ตี อ้ งกำรบรรยำย ควรเลอื กคำท่ีให้ควำมหมำยชัดเจน ท้งั อำจต้องเลือกใหเ้ สียงสัมผัสกัน เพ่อื เกิดเสยี งเสนำะอยำ่ งสมั ผัสสระ สัมผัสอักษร ในงำนร้อยกรอง 2. ตอ้ งมีใจควำมดี แม้จะพรรณนำยดื ยำว แตใ่ จควำมต้องม่งุ ให้เกิดภำพ และอำรมณ์ ควำมรู้สึกสอดคลอ้ งกบั เน้อื หำทกี่ ำลังพรรณนำ
หลักการเขียนพรรณนาโวหาร 3. อำจตอ้ งใช้กำรเปรียบเทยี บเพือ่ ใหไ้ ดภ้ ำพชดั เจน และมักใช้ศลิ ปะกำรใชค้ ำทเี่ รียกวำ่ ภำพพจน์ประเภทตำ่ ง ๆ ทง้ั นเ้ี ปน็ วิธกี ำรทจ่ี ะทำให้พรรณนำโวหำรเดน่ ทั้งกำรใชค้ ำ และกำรใชภ้ ำพทีแ่ จ่มแจ้ง อำ่ นแล้วเกดิ จินตนำกำรและควำมรู้สึกคล้อยตำม 4. ยกตวั อย่ำงเพอ่ื ให้เกิดควำมแจ่มแจง้ โดยยกสงิ่ ทีล่ ะมำ้ ยคล้ำยคลงึ กนั เพอื่ ใหเ้ กิดภำพและ อำรมณ์เดน่ ชดั พรรณนำโวหำรมกั ใชก้ ับกำรชืน่ ชม ควำมงำมอน่ื ๆ เชน่ ชมสถำนที่ สรรเสรญิ บคุ คล หรอื ใช้พรรณนำอำรมณ์ ควำมรสู้ ึก เชน่ รัก เกลียด เศร้ำสลด เป็นตน้
ตวั อยา่ งการเขียนพรรณนาโวหาร ...หมอกมัวซวั ทัว่ ทุกแหง่ หน ลมหนาวกรูเกรียวมาจนร่างเขาสั่นสะท้าน ต้นไมใ้ บหญ้า ทพี่ อมอี ย่บู ้างตามริมทาง สัมผัสละอองหมอกที่พราวพร่างจนใบกลายเปน็ สขี าวหม่น แลว้ ไหลตามรอ่ งใบหยดลงดงั เปาะแปะเม่อื กระทบใบไม้ท่เี กลือ่ นตามใตต้ น้ ...
ประเภทของสานวนโวหาร 3. อปุ มาโวหาร คอื โวหำรที่มีถ้อยคำเปรียบเทยี บสิ่งหน่งึ กบั อีกส่งิ หนึ่ง เพื่อให้เขำ้ ใจหรอื มองเห็นภำพไดช้ ัดเจนย่งิ ข้นึ มกั มีคำแสดงควำมเปรยี บเทยี บปรำกฏอยู่ เช่นคำว่ำ ดุจ ประดุจ เหมอื น ดัง คลำ้ ย เท่ำ เพียง ประหนึ่ง เชน่ “อันว่าแก้วกระจกรวมอยกู่ บั สุวรรณ ย่อมได้แสงจบั เปน็ เล่ือมพรายคล้ายมรกต ผทู้ โี่ ง่ เขลาแม้ไดอ้ ยู่ใกล้นักปราชญ์ กอ็ าจเป็นคนเฉลยี วฉลาดไดฉ้ นั เดยี วกัน”
แบบฝึกหดั คาชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนนาภาพพจน์ทก่ี าหนดใหไ้ ปเตมิ ลงในข้อความให้ถูกตอ้ ง บรรยายโวหาร พรรณนาโวหาร อปุ มาโวหาร .......................... 1. เวลำคำ่ เดือนหงำย ถนิ่ ของพรำยไมส้ ว่ำงกระจ่ำงแจ้ง พวกพรำยไม่ได้มำประชมุ กนั ครั้นไดเ้ วลำ เล่นสนกุ นำงพรำยนำ้ แจกกระเช้ำแก่พวกพรำยไมต้ ัวละใบ... .......................... 2. สำยลมโบกเรื่อย ๆ เฉ่อื ย ๆ มำปะทะยอดหญำ้ ให้พลว้ิ ไหวโอนเอนไปตำมลม
.......................... 3. โดยปกตแิ ล้วร่ำงกำยของคนเรำตอ้ งกำรวิตำมนิ หลำยชนิด เพ่ือสร้ำงควำมแข็งแรงแกร่ ำ่ งกำย แหล่งวิตำมนิ ตำมธรรมชำติน้นั กม็ มี ำกมำย ทงั้ ในพชื ผกั และผลไม้ .......................... 4. เสยี งสนน่ั คร่ันครนื้ โพยมหน มืดมนทวั่ ทิศำศำล ปำนด่ังฤดเู หมันต์ เยือกเยน็ ไปทัง้ บำดำล .......................... 5. ขำ้ วเปน็ ธัญพชื ท่อี ยู่คู่วิถีชีวิตคนไทย เสมอื นสำยเลอื ดหล่อเลีย้ งชีวติ ทกุ ชวี ติ ใหอ้ ยรู่ อด .......................... 6. เม่ือปี พ.ศ.2482 ประเทศไทยมีกำรเปล่ียนแปลงชือ่ จำกคำว่ำ “สยำม” เปน็ “ไทย” ทำใหต้ ้องแก้ไข เพลงชำตใิ หม่ โดยให้มีกำรประกวดแต่งเพลงชำติ ผลปรำกฏวำ่ พันเอก หลวงสำรำนุประพันธ์ ซ่ึงเปน็ ผู้แต่งเนื้อร้องส่งเข้ำ ประกวดเปน็ ผ้ชู นะ สว่ นผปู้ ระพันธท์ ำนองเพลงคอื พระเจนดรุ ยิ ำงค์
.......................... 7. รุ่งเช้ำหยำดนำ้ ค้ำงเกำะตัวช่มุ ชนื้ อย่ตู ำมพ้ืนทรำยขำวเนยี น ชบำหน้ำบำ้ นอวดใบสดฉ่ำสวย สะพรง่ั อยู่ในแสงแรกของอรุณ .......................... 8. ผลเดอ่ื เมอ่ื สกุ ไซร้ มพี รรณ ชำดบ้ำย ภำยนอกแดงดูฉัน หนอนบอ่ น นอกน้นั ดงู ำม ภำยในย่อมแมลงวัน ดุจด่ังคนใจรำ้ ย .......................... 9. ครเู ปรยี บเหมอื นเรอื จ้ำง .......................... 10. ชำวนำเปน็ กระดูกสันหลังของชำติ
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: