วิถชี วี ิตไทย วถิ ชี ีวติ ไทย มคี วามสาํ คัญตอ อตุ สาหกรรมการทองเท่ียวเปน อยางยงิ่ เพราะไดช ือ่ วา เปนหน่งึ ในทรัพยากรทางการทองเทีย่ วซง่ึ มอี ยูท้งั หมด ๓ ประเภท คอื ทรพั ยากรประเภทธรรมชาติ ไดแ ก ภูเขา น้าํ ตก ถ้าํ หาดทรายชายทะเล และอุทยานแหง ชาติตาง ๆ ทรัพยากรประเภท ประวตั ิศาสตร โบราณวตั ถสุ ถานและศาสนา ไดแ ก แหลงโบราณคดี อทุ ยานประวตั ิศาสตรและวัดวาอาราม และทรพั ยากรประเภทสุดทา ย คือ ประเภทวฒั นธรรม ประเพณี และวถิ ชี ีวิต วถิ ชี ีวิตเปน สง่ิ ท่มี นษุ ยส รางขน้ึ ในรปู แบบของการดาํ เนินชีวติ ของผคู น ในสังคม ซ่งึ ยดึ ถอื และปฏิบตั สิ ืบทอดตอ ๆ กนั มาตลอดจนกิจกรรมตาง ๆ ที่มผี ลตอการดึงดูดใหคนไปเยอื นหรอื ไปทองเท่ียวยังพ้นื ทีแ่ หงนนั้ เชน สภาพชวี ติ ในชนบท หมบู า นชาวเขา ตลาดน้าํ ศนู ยวฒั นธรรม สวนสนุก การแสดงสนิ คา พ้ืนบา น การศกึ ษา และงานประเพณีตา ง ๆ ฯลฯ วิถีชีวิตของชาวเมืองทีม่ องเห็นอยา งงาย ๆ ก็คือ ความยมิ้ แยมแจม ใส และเออื้ อารตี อผูมาเยอื น มีความผูกพันในหมูเครือญาตทิ ีอ่ บอุน ความ เปนอยทู ่ีเรียบงา ยและมัน่ คงในพระพุทธศาสนา มกี ารทําบญุ ตักบาตร พระสงฆเปน เนืองนติ ย มีวถิ ชี ีวิตและความผกู พันกับแมนาํ้ ลําคลอง อยางแยกไมออก มชี นเผา ตา ง ๆ ท่ีมีเอกลกั ษณเ ปนของตนเอง สมาคมสงเสริมการทอ งเที่ยวภมู ภิ าคเอเชยี และแปซิฟก ไดเ คยทําการสํารวจนกั ทองเทีย่ ว จากสหราชอาณาจักรทีเ่ ดนิ ทางมาทอ งเทยี่ วในภาคพนื้ แปซิฟก พบวาประเทศไทยมวี ิถีชีวิตความเปน อยูทนี่ าสนใจมากกวา ประเทศอื่น ๆ นอกจากน้ีในหมูนกั ทองเทีย่ วยงัยอมรบั กนั โดยท่ัวไปวา วถิ ีชีวิตความเปนอยขู องชาวเอเชียนัน้ มเี สนห และเปน สงิ่ ดงึ ดดู ใจใหนกั ทองเท่ยี วจากทว่ั โลกเดินทางมาเยอื นภมู ภิ าคแหงน้ี เพราะเปน วถิ ีชีวติ จริง สามารถสมั ผัสได และแตกตา งจากภมู ิภาคอนื่ ๆ โดยส้ินเชงิ สาํ หรับประเทศไทยนัน้ การดาํ รงชีวิตของแตล ะภาคกย็ งั แตกตา งกันออกไปอกี หลายรูปแบบ จึงย่งิ มเี สนห นาสนใจยง่ิ ขน้ึ ไปอกี ดงั ตวั อยา งที่สามารถเหน็ ความแตกตา งกัน เชน ภาคเหนอื ซง่ึ มีภมู ปิ ระเทศประกอบไปดว ย ทวิ เขาสลบั กับพื้นทร่ี าบระหวางหุบเขาใหญนอ ยนนั้ แตเดมิ อยูในอาณาจกั รลา นนาอันเกาแก มวี ฒั นธรรมความ เปน อยขู องตนเอง มภี าษาพูดภาษาเขียนเฉพาะท่เี รยี กวาคําเมือง รวมทั้งการแตงกายของทอ งถิ่น ประชาชนมี อัธยาศยั ออ นโยน โอบออ มอารี ยดึ ม่นั ในขนบธรรมเนยี มและจารีตประเพณีสืบทอดกันมาหลายชว่ั อายคุ น นอกจากน้ยี งั มีชาวเขาเผาตาง ๆ ซ่งึ อาศยั อยตู ามเทือกดอยและขุนเขาอนั สลับซับซอนภาคอีสานหรือภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เปน บริเวณพื้นทีอ่ นั กวา งใหญข องที่ราบสงูโคราช ซึ่งเปน ภาคทมี่ ีลกั ษณะเฉพาะตัวอยา งเดน ชดั แตกตา งจากภูมภิ าคอน่ื ๆ ของประเทศ เปน ดนิ แดนอารยธรรมเกา แกแ หงหนึ่งของโลก ชาวทอ งถน่ิ ประกอบดว ยชนหลายเผาทีอ่ พยพยายถ่ินฐานมาตง้ั หลกั แหลง ทํามาหากนิ กระจายอยูทว่ั ไป และมกี ารสบืทอดวัฒนธรรมประเพณเี กา แกต ามบรรพบรุ ษุ อยางเครงครดั มลี ักษณะนสิ ัยออนโยนซอ่ื ตรง และมีมิตรไมตรีตอ คนทัว่ ไปจนมสี มญาวา “ถิน่ ไทยดี” มศี ิลปะการละเลน พืน้ บานที่สนกุ สนานมชี วี ิตชีวา และงานหตั ถกรรมอันประณตี และมีคณุ คา ภาคกลาง ประกอบดวยพื้นทรี่ าบลมุ อันกวางใหญไ พศาล นับแตล ุมแมนาํ้ เจาพระยา แมกลอง ทาจีน และบางปะกง พ้ืนที่แถบนี้อุดมสมบูรณดวยพชื พนั ธธุ ญั ญาหาร จงึ เปรยี บเสมอื นอูขาวอนู ้าํ ของประเทศสว นหน่งึ ชาวภาค กลางสว นใหญเ ปนชาวไทยแท ซึ่งตัง้ บานเรือนอยบู นพ้นื ทน่ี ีแ้ ตด้ังเดมิ อีก สวนหน่งึ มบี รรพบรุ ุษเปนชาวรามัญหรือมอญ และชาวจีนทไี่ ดอ พยพมาต้ัง บานเรือนกนั แตค รั้งสมัยกรงุ ศรีอยุธยาเปนราชธานี และยงั มชี นกลมุ อน่ื ๆ อาศยั อยเู ปน จํานวนมากดว ย เชน ไทพวน กะเหรี่ยง เปนตน ประชาชน ภาคน้ีประกอบอาชพี หลายแขนง ทง้ั ดานเกษตรกรรม ทาํ นา ทาํ สวนผลไม ทาํ การประมงนาํ้ จดื และนาํ้ เคม็ นอกจากจะเปนอูขาวอนู ้ําของประเทศแลว ยงั เปนแหลงทมี่ ีการสงั่ สมทางศิลปวัฒนธรรม ศาสนาและความเชือ่ ตา ง ๆ มากทสี่ ดุ ดว ย
ภาคใต อนั เปรยี บเสมือนดา มขวานทองนน้ั ภูมปิ ระเทศเปนทวิ เขาติดตอกนัเปนแนวยาวไปตามดามขวานหรอื คาบสมทุ ร เรมิ่ ดว ยเทอื กเขาตะนาวศรที ี่ตอ เนอื่ งมาจากเขตทร่ี าบสงู ภาคตะวนั ตกไปสนิ้ สุดลงท่จี ังหวัดระนองจากนัน้ มีเทือกเขาภเู กต็ ทอดยาวต้ังแตจ งั หวดั ชมุ พรไปจนถึงจังหวดั พงั งาและกระบ่ี ไปตอเนอ่ื งกบั เทอื กเขานครศรธี รรมราช ไปจนถงึ เทอื กเขาสันกาลาครี ีทก่ี ้นั พรมแดนไทยกับมาเลเซยี ยอดเขาท่ีสูงที่สุดในภาคใตค ือ “เขาหลวง” นอกจากน้ี ยังมชี ายฝง ทะเลของคาบสมทุ รดา นอา วไทยและทะเลอันดามนั จากลักษณะภมู ปิ ระเทศดงั กลา วนีเ้ อง ทําใหภ าคใตเปน ดินแดนที่มีทรพั ยากรการทองเท่ยี วอยมู ากมาย ท้งั ทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร และวัฒนธรรม เปน ดินแดนท่ชี าวตางชาติเดินทางผา นไปมาคา ขายหลายชาติมาแตอ ดตี จงึ รบั วฒั นธรรมมาดํารงชีวติ ของตนเองแตกตางกันออกไปท้ังทางดานความเปน อยแู ละศาสนา จึงมวี ถิ ชี ีวิตทแ่ี ตกตา งจากภาคอ่ืนโดยสิน้ เชงิจากการที่ ททท. ไดรวบรวมขอมูลของทาํ เนียบแหลงทองเที่ยวของประเทศไทย ไดระบพุ ืน้ ที่ท่สี ามารถมกี จิ กรรมศกึ ษาวิถีชีวิตไวประมาณ ๒๐๐ แหง ที่มีศกั ยภาพในระดบั สงู และอยูใ นความสนใจของนักทอ งเท่ียวดงั ตวั อยางเชน๑. หมูบ า นคีรวี ง จังหวดั นครศรีธรรมราช เปน ชุมชนเกาแกท ่ีอพยพไปอาศัยอยเู ชงิ เขาหลวง ตาํ บลกําโลน อนั เปน เสน ทางเดนิ ข้ึนสูยอดเขาหลวง ชาวบา นมีวิถีชีวิตทสี่ งบ มีสังคมแบบเครือญาติ อาชีพหลักคือการทาํ สวนผลไมผสม เรยี กวา “สวนสมรม” เชน มังคุดเงาะ ทเุ รียน สะตอ เมือ่ วันที่ ๒๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๑ ไดเกดิ มหาอุทกธรณภี ยั หมูบานถกู นํา้ พัดหายไป ๑๐๐ หลัง ซึ่งวัดและชาวครี วี งไดรกั ษาพระอโุ บสถและบานท่ปี ระสบภัย ไวเปนอนสุ รณสถานชมุ ชนครี วี งไดเ ปน ชุดตนแบบในการจัดการธุรกิจทอ งเทีย่ วเชิงนเิ วศจนไดรับ รางวัลยอดเยีย่ มอุตสาหกรรมทอ งเท่ียว ประเภทเมืองและชุมชน เน่ืองจากเปน ชุมชนท่มี ีวถิ ชี วี ิตแบบชาวสวนอยูก ับธรรมชาติ และไดพ ฒั นาบรกิ ารนักทอ งเทยี่ วขึ้นมาเปนธุรกิจใหมของชมุ ชน ประกอบดว ยการนําทางเดินปา ลกู หาบ การจัดที่พักแบบโฮมสเตย (HomeStay) นกั ทองเท่ียวสามารถจะเขาไปเทย่ี วชมวถิ ีชีวติ ของชุมชนครี ีวงไดต ลอดป โดยเฉพาะในฤดกู าลผลไม ออกชุกเดือนกรกฎาคม-กันยายน นอกจากน้กี ารเดินปาข้นึ สยู อดเขาหลวงก็ตอ งเริ่มตนท่ีหมูบานคีรวี งเชนเดียวกนั๒. ตลาดน้ําทา คา จงั หวดั สมทุ รสงคราม เปน วิถชี ีวิตชาวบา นท่ีปฏบิ ตั กิ นั สมํ่าเสมอในชว งวันขึ้นหรือแรม ๒ คํา่ ๗ คํ่า ๑๒ ค่าํ และทกุวนั เสาร-อาทติ ย ตง้ั แตเวลาประมาณ ๐๖.๐๐-๑๒.๐๐ นาฬกิ า จะมีตลาดนัดทช่ี าวบานไดพายเรือนาํ อาหาร ผัก และผลไมท อ งถิ่นมาขายและมบี ริการใหเ ชา เรอื พายสาํ หรับเที่ยวหมบู าน และสวนผลไมร อบ ๆ ตลาดน้ําทา คาเปนทศั นยี ภาพท่ีนาดูไปอีกแบบหนงึ่ รวมทัง้ วิถีชีวติ ประจาํ วันของผูคนบริเวณถน่ิ แถบนน้ั๓. หมบู านชาวเขา จังหวดั เชยี งราย ซง่ึ มอี ยดู วยกนั หลายหมูบา น เชน บนดอยแมส ลอง อาํ เภอแมจ ัน มีชาวเขาเผาเยา หมบู า นอกี อดอยแสนใจ สว นมง และมเู ซอ จะอยูทีด่ อยหัวแมคํา นอกจากน้ี ยังมหี มบู า นชาวเขาเผา ตาง ๆ ซึ่งนกั ทอ งเท่ียวสามารถแวะชมไดส ะดวกเชน หมูบ า นชาวเขาเผา อีกอ มูเซอ และจีนฮอ ซ่งึ แตละหมูบาน จะมวี ิถีชีวติ เปน เอกลักษณป ระจําเผา ของตน มกี ารทาํ หตั ถกรรมจาํ หนา ยดว ย๔. ลาํ นํ้าสะแกกรัง จงั หวัดอุทัยธานี เปนลาํ นา้ํ ที่ไหลผานตัวจังหวัดอุทัยธานีเฉพาะสว นท่อี ยใู นเขตเทศบาลเมอื งอุทัยธานี บรเิ วณสองฝง จะมีเรอื แพจอดเรียงรายอยู ฝง แมน ้าํ ดา นตะวนั ตกเปน ตลาดใหญ มีอาคารบา นเรือนอยูหนาแนน สวนฝง แมน าํ้ ดา นตะวนั ออกเปน เกาะเทโพ มสี วนผลไมและปาไมไ ผต ามธรรมชาติ เรือนแพทอ่ี ยูสองฝง แมนํา้ เปน เรอื นไมส รางครอ มบนแพลกู บวบไมไผ ชาวเรือนแพเหลา นส้ี วนใหญป ระกอบอาชีพทําการประมง ในชวงเชาหลงั จากที่ไดปลามาจะนํามาชําแหละ เสยี บไมเ ปนแผง ผง่ึ ใหแ หง ยางรมควนัทําเปน ปลาแหง ตามเรือนแพรมิ นาํ้ เหลา น้ี ยงั มีกระชงั เล้ยี งปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาแรด เปน วถิ ีชวี ิตความเปน อยูทนี่ า สนใจอกี แหงหน่งึ ทีส่ ามารถน่งั เรือชม ไดรอบตวั เกาะ๕. หมูบานกะเหรยี่ งปะละทะ จังหวดั ตาก อยูในเขตอาํ เภออุม ผาง เปน หมบู านชาวกะเหร่ยี งท่ีไดร ับการพฒั นา มีไฟฟา ใช มีสถานีอนามัยและโรงเรยี น แตยงั นิยมแตง กายแบบ วัฒนธรรมด้งั เดมิ ของตนเอง มกี ารจดุ ชมุ ชนเปน ระเบยี บ แตละบา นจะมีหกู ทอผา และเลย้ี งสัตว เชน หมแู ละไก สาํ หรับใชเ ปนอาหาร เปนวถิ ีชีวิตทนี่ ักทองเที่ยวสนใจเชนเดยี วกัน๖. หมูบานชาวเล จงั หวดั ภเู ก็ต ชาวเลหรอื ชาวนํา้ หรือชาวไทยใหม เปนชนกลมุ นอยของไทย อาศัยอยูทางภาคใตของประเทศไทยสว นใหญอยตู ามเกาะในมหาสมุทรอนิ เดีย อยกู ันเปนกลุม ๆ ตามเกาะ เชน ท่หี าดราไว จะมีวิถชี วี ติ การแตงกาย การกนิ อยู และวฒั นธรรมเปนของตนเอง๗. เรณูนคร จังหวัดนครพนม เปนถิ่นที่อยูของชาวผไู ทย ซึ่งยังคงรกั ษาขนบธรรมเนียมประเพณีทอ งถนิ่ ไวเปนอยา งดี เชน ธรรมเนียมการตอ นรับดว ยการบายศรีสูข วญั การเลย้ี งอาหารแบบพาแลง การชวนดูดอุ การฟอ นราํ ผูไทย นอกจากน้ี ยังมรี านจําหนา ยสินคาพน้ื เมืองและของทร่ี ะลึกตา ง ๆ ไวบริการนักทอ งเท่ียวและประชาชนจากจงั หวดั ใกลเคียงอกี มากมาย โดยเฉพาะบรเิ วณวดั พระธาตุเรณูนคร และตลาดอําเภอเรณูนคร หากถงึ โอกาสสําคัญมีงานบุญตาง ๆ จะมีการฟอนผไู ทยซง่ึ ชาวเรณไู ดร ับการถายทอด กนั มากเปนเวลาชานาน สมัยกอนเรียกกนั วา “ฟอนละครไทย” เปนการฟอนทแ่ี สดงออกใหเ หน็ ถงึ ความสามัคคีในหมูคณะเดยี วกัน๘. หมูบานเตา อําเภอมัญจาคีรี จงั หวัดขอนแกน เปน หมูบานทมี่ เี ตา บกชนิดหนง่ึ ชาวบานแถบนั้นเรียกกันวา เตา เพก็ ลกั ษณะกระดองจะมสี เี หลืองแกป นน้ําตาลอยูเปน จาํ นวนมาก บางก็จะอยูในบรเิ วณใตถ ุนบา นเพอ่ื รออาหารจากชาวบา น บางก็เดินอยตู ามถนนภายในหมบู า นซึง่ จะหาดูไดไมยาก เปน วถิ ีชีวิตระหวา งคนกบั สตั วซ่ึงอยกู ันไดเ ปน อยา งดี เปนเสนหอยางหนึ่งทค่ี นนยิ มเดินทางไปชมกัน
๙. หมบู านงจู งอาง อยูในเขตบานโคกสงา อาํ เภอน้ําพอง จังหวัดขอนแกน ชาวบานมีอาชพี ขายยาสมนุ ไพรควบคกู ับการทาํ นามาแตรุน ปยู า ตายาย การขายยาสมนุ ไพร ในสมยั กอ นตองเดนิ เทา ไปเรขายยาตามหมบู านตาง ๆ ดวยความยากลาํ บาก ตอมาพอใหญเ คนไดเปน ผูคิดหางูเหามาแสดงเมอื่ ป พ.ศ. ๒๔๙๔ เพ่ือเปนการดึงดดู คนมาดู แทนทจ่ี ะตองเดนิ ไปขายยาในทุกหมูบานเชน เคย ปรากฏวา การแสดงประสบความสําเรจ็ สามารถเรียกคนมาดมู ากพอสมควร แตเ นอื่ งจากงเู หา มอี นั ตรายมาก สามารถพน พษิ ไดไกลถงึ ๒ เมตร พอใหญเคนจึงเปลี่ยนมาใชงจู งอางแทน และถา ยทอดวิชาแสดงงูเพือ่ ขายยาสมนุ ไพร สวนการแสดงที่หมบู านกจ็ ะจดั ขึ้นที่บรเิ วณลานวัดศรีธรรมา และรอบ ๆ มกี ารจัดนิทรรศการเกย่ี วกับงูจงอางดวย ชาวบา นเกอื บทุกหลงั คาเรอื นจะเลยี่ งงจู งอางไวใตถ นุ บา น มีการจดั แสดงหลายรูปแบบเพ่ือดึงดูดใหค นสนใจยิง่ ข้นึ เชน การชกมวยระหวา งคนและงูจงอาง การแสดงละครงูตามจังหวะเพลงนับเปน วิถีชวี ิตของชาวบานอกี อยางหนงึ่ ท่ีนกั ทอ งเท่ียวสนใจมากการทอ งเที่ยวแหงประเทศไทยซึ่งมีหนาท่ีในการสง เสรมิ การทอ งเที่ยวโดยตรงไดรวมมือกบั หนว ยงานท่เี ก่ยี วขอ งท้ังภาครฐั และเอกชนพยายามทีจ่ ะเสาะหาแหลงทองเท่ยี ว ทเ่ี ปนเร่อื งของวิถชี ีวิตเพือ่ ดึงดูดใหน กั ทองเทีย่ วเดนิ ทางไปเยือน ซง่ึ บางแหง ก็มีศักยภาพโดยสมบรู ณใ นตัวอยูแลว แตบ างแหงซง่ึ อยูหา งไกลและมศี ักยภาพสูงก็พยายาม จะใหนักทอ งเทยี่ วไดเดนิ ทางไปสมั ผัสวิถชี วี ติ ทีน่ น่ั เปนแบบ Home Stay โดยใหป ระชาชนทกุ กลมุ มสี วนรว มในการพฒั นาการทองเที่ยวทกุ ระดบั ทง้ั ในดา นการวางแผนและการจัดการทรัพยากรการทองเที่ยวอยา งเปนระบบและเกิดความสมดลุ ทงั้ ในดานเศรษฐกิจ สงั คม และส่งิ แวดลอ มโดยตรงวธิ กี ารกค็ อื การใชกลยุทธการทอ งเท่ยี วเชงิ นเิ วศทสี่ งเสริมการอนรุ กั ษฟน ฟูศลิ ปวฒั นธรรมและทรัพยากรทอ งเที่ยวควบคูกับส่งิ แวดลอมโดยคาํ นึงถึงคุณภาพของการพัฒนาการทองเท่ียวแบบย่งั ยนื เพอ่ื ใหส ามารถรองรับการขยายตัวของนักทอ งเทย่ี วในระยะยาวและคงไวซ่ึงความ เปนเอกลักษณแ ละมรดกของชาติสืบไป อกี ทั้งยังสงเสริมความรว มมือระหวา งภาครฐั บาลและเอกชน รวมทงั้ ประชาชนในทองถ่ินใหเ ขามามบี ทบาทรวมกันในการแกไขหรอื ปองกนั ปญหาทางการทองเท่ียวตลอดจนไดรบั ประโยชนจากการทอ งเท่ียว ขณะนท้ี ่ีททท. ไดดาํ เนินการอยางเปน รปู ธรรมแลวกค็ ือ ท่ีอาํ เภออมุ ผาง จังหวัดตากผูเขียน:อาจารยสายสนุ ยี สิงหทศั น
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: