นาศิรพิ งษ์ พว่ งกลนิ่ ปวส.2 เลขท่ี 37 แบบฝกึ หดั เครือข่าย LAN แบบใชส้ าย1.โครงการ IEEE 802 เปน็ โครงการเก่ียวกับอะไร และจดั ตง้ั ขน้ึ เพื่อจุประสงค์ใดตอบ ในปี ค.ศ. 1985 ทางสถาบัน IEEE ได้รเิ ริ่มโครงการสาคัญโครงการหนึ่ง โดยต้งั ชื่อโครงการนว้ี ่า โครงการหมายเลข 802 หรือ Project 802 โดยโครงการดังกล่าวจัดต้ังข้ึนเพ่ือตอ้ งการให้ผลิตภณั ฑ์อุปกรณ์สื่อสารที่มาจากแหล่งผู้ผลิตต่าง ๆ สามารถสื่อสารให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน แต่โครงการนี้มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อนามาใช้ทดแทนมาตรฐาน OSI โมเดลท่ีทางหน่วยงาน ISO จัดตั้งข้ึนแต่อย่างใด เนื่องจากโครงการหมายเลข802 มวี ัตถุประสงคเ์ พ่ือกาหนดหนา้ ที่และรายละเอียดของช้นั สื่อสารฟิสิคลั ดาต้าลิงก์ และมีสว่ นขยายเพ่ิมเติมบางส่วนอีกเล็กน้อย ท่ีนามาใชง้ านเพือ่ การเชอ่ื มต่อเครือข่ายท้องถ่ินเปน็ หลักสาคญั2.จงสรุปการทางานของช้ันสอ่ื สารย่อย LLC และ MAC มาพอเข้าใจตอบ ลาดับช้ันย่อย LLCเป็นลาดับชั้นที่จัดการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์บนลิงก์ของเครือข่าย โดย LLC นี้จะถูกกาหนดข้ึนโดย IEEE 802.2 ซึง่ สนับสนนุ การเช่อื มต่อในรปู แบบทัง้ คอนเน็กชนั เลส และคอนเน็กชันโอเรยี นเต็ดเพื่อบรกิ ารใหก้ บั โปรโตคอลในลาดับสูงต่อไป ลาดับช้ันย่อย MACเป็นลาดับชั้นย่อยท่ีจัดการเก่ียวกับการเข้าถึงตัวกลางเพื่อการส่ือสารบนเครือขา่ ยโดยรายละเอียดของ LLC และ MAC3.MAC Address กบั การ์ดเครือขา่ ยมคี วามสมั พนั ธก์ ันอย่างไรตอบ การ์ดเครือข่ายมีลักษณะเป็นแผงวงจร ที่เสียบเข้ากับสล็อตภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ และถือเป็นส่วนสาคัญในการส่งแพ็กเก็ตจริงๆ ผ่านส่ือกลาง ซ่ึงเครือข่ายท้องถิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอีเทอร์เน็ต โทเค็นริง หรือFDDI จาเปน็ ต้องใช้การ์ดเครือขา่ ยทั้งส้ิน โดยการ์ดเครือข่ายจะมีหมายเลยแมคแอดเดรสที่ใช้อ้างอิงตาแหน่งท่ีอยู่เพ่ือรับส่งข้อมูลบนเครือข่าย โดยชุดหมายเลขแมคแอดเดรสนี้จะถูกบรรจุไว้ในหน่วยความจารอมบนการ
เครือข่ายที่ถูกบรรจุพร้อมเสร็จมาจากโรงงาน และเมื่อเร่ิมต้นทางาน ชุดหมายเลขแมคแอดเดรสน้ีก็จะถูกคดั ลอกไว้ในหน่วยความจาหลัก เพ่ือนาไปใชอ้ ้างองิ ตอ่ ไป4.จงบอกความแตกตา่ งระหวา่ ง MAC Address กบั IP Addressตอบ แม้ว่าท่ีอยู่ IP และท่ีอยู่ MAC จะตอบสนองวัตถุประสงค์ของการมอบรหัสเฉพาะในเครือข่ายให้กับโฮสต์แตข่ ้นึ อยกู่ ับสถานะและฟังก์ชนั ทั้งสองมีความแตกต่างกนั เมือ่ ทางานเลเยอรข์ องแอดเดรสถูกเรยี กใช้ในขณะท่ีฟังกช์ นั MAC Address ใน Data Link Layer, IP แอดเดรสจะทางานใน Network Layer ท่ีอยู่ MAC จะระบุเอกลักษณ์เฉพาะของส่วนติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครือข่ายในขณะท่ี IP Address จะระบุเฉพาะส่วนติดต่อซอฟตแ์ วร์ของเครือขา่ ย นอกจากนห้ี ากพจิ ารณาการกาหนดที่อยู่ท่ีอยู่ MAC จะได้รบั การกาหนดให้กับอะแดปเตอร์อย่างถาวรและไม่สามารถเปล่ียนแปลงได้เนื่องจากเป็นท่ีอยู่ทางกายภาพ ในทางตรงกันข้ามที่อยู่ IP ท้ังแบบคงท่ีหรือแบบไดนามิกสามารถแก้ไขได้ขึ้นอยู่กับข้อกาหนดเนื่องจากเป็นเอนทิตีหรือที่อยู่ทางตรรกะนอกจากนี้ที่อยู่ MAC มปี ระโยชนเ์ มื่อพูดถงึ Local Area Networksถา้ รูปแบบนีถ้ อื วา่ อยู่ IP จะใช้ท่ีอยู่ยาว 32หรือ 128 บิตในขณะที่ท่ีอยู่ MAC ใช้ท่ีอยู่ยาว 48 บิต ในมุมมองแบบง่ายที่อยู่ IP สามารถได้รับการพิจารณาเพ่อื สนบั สนนุ การใช้งานซอฟต์แวร์และที่อยู่ MAC ถอื ไดว้ า่ เปน็ การสนับสนุนการใช้งานฮาร์ดแวร์ของเครือข่ายแม้จะมีความแตกต่างกันก็ตามเครือข่ายไอพียังมีการทาแผนที่ระหว่างท่ีอยู่ MAC และที่อยู่ IP ของอุปกรณ์เรยี กวา่ ARP หรือ Address Resolution Protocol5.อีเทอรเ์ นต็ และ IEEE 802.3 มคี วามสัมพันธ์กนั อย่างไร จงอธบิ ายตอบ ปัจจุบนั มาตรฐาน IEEE 802.3 ไดเ้ ขา้ มาแทนที่มาตรฐานดงั้ เดิมของอีเทอร์เน็ตอยา่ งสมบูรณ์แล้วกล่าวคือคาว่าอีเทอร์เน็ตจะอ้างอิงถึงเครือข่ายที่ต้ังอยู่บนพื้นฐานของมาตรฐาน IEEE 802.3 แต่ในบางคร้ังอาจกล่าวได้วา่ IEEE 802.3 และอีเทอรเ์ น็ตมิใช่ส่งิ เดยี วกนั ซงึ่ ในเชิงเทคนิคแล้วคาตอบนีถ้ ือวา่ ไม่ผิดแต่อยา่ งใด โดยในช่วงหลายปที ่ผี ่านมาอเี ทอรเ์ น็ตเปน็ มาตรฐานดง้ั เดิมของบรษิ ัทซรี อ็ ก แตใ่ นช่วงราวปี ค.ศ. 1985 ทาง IEEE ก็ได้เริ่มพัฒนาโครงการ 802 ข้ึนมา และได้มีการประกาศนามาตรฐาน 802.3 ออกมาใช้ซึ่งมาตรฐาน IEEE 802.3 นั้นมขี อ้ งแตกต่างเพียงเล็กน้อยในด้านรายละเอยี ดเม่ือเทียบกับมาตรฐาน อีเทอร์เน็ตเดิมจากบริษัทซีร็อกซ์ ดังน้ันปจั จบุ ันจึงมกั มกี ารใชค้ าว่าอีเทอรเ์ น็ตและ IEEE 802.3 ร่วมกัน ซง่ึ หมายถงึ เปน็ คาท่ีสามารถใชแ้ ทนความหมายเดยี วกนั ได้ กล่าวคืออีเทอรเ์ นต็ จะอา้ งถึงมาตรฐานของ IEEE 802.3
6.จงสรปุ มาตรฐานการเชอื่ มตอ่ เครือข่ายแบบ Fast Ethemet มาพอเข้าใจตอบ ฟาสต์อีเทอร์เน็ตหรืออีเทอร์เน็ตความเร็วสูง จัดเป็นเวอร์ช่ันหนึ่งของอีเทอร์เน็ตที่มีความเร็ว100Mbpsโดยยังคงรูปแบบเฟรมข้อมูลเดิม รวมทั้งวิธีเข้าถึงสื่อกลางแบบเดิม ฟาสต์อีเทอร์น็ตจัดอยูในมาตรฐาน IEEE802.3u โดยเป็นอเี ทอร์เนต็ แลนทม่ี คี วามเรว็ สูงกว่าอเี ทอร์เนต็ แบบเดิม 10 Mbps ถึง 10 เท่า ฟาสต์อเี ทอร์เน็ตสามารถนามาประยุกต์ใช้กับงานด้านกราฟิกดีไซน์ อิมเมจโปรเซสซิง และระบบวิดีโอ เนื่องจากมีความเร็วในการส่งข้อมูลที่สูงกว่าเดิมถึง 10 เท่า และถือเป็นความโชคดีของอีเทอร์เน็ต ที่สามารถออกแบบให้มีความเร็วสูงข้ึนโดยไม่ยาก ด้วยการลดขนาดของ Collision Domain ลง ซึ่งโดยปกติข้อกาหนด Collision Domainของอีเทอร์เน็ตแลนแบบด้ังเดิมได้จากัดไว้บนระยะทางที่ 2500 เมตร และข้อจากัดดังกล่าวได้ตั้งอยู่บนอัตราความเร็วที่ 10 Mbps ด้วยวิธกี ารเขา้ ถงึ ข้อมลู แบบ CSMA/CD7.จงสรปุ มาตรฐานการเชือ่ มต่อเครือขา่ ยแบบ Gigabit Ethemet มาพอเข้าใจตอบ Gigabit Ethernet (IEEE802.3z)เป็นมาตรฐานใหม่ของเทคโนโลยีเครือข่ายท้องถ่ิน (LAN-Local Area-Network) ที่พัฒนามาจาก เครือข่ายแบบ Ethernet แบบเก่าท่ีมีความเร็ว 10 Mbps ให้สามารถรับส่งข้อมูลได้ท่ีระดับความเร็ว 1 Gbps ทั้งน้ีเทคโนโลยีนี้ ยังคงใช้กลไก CSMS/CD ในการร่วมใช้สื่อเหมือนEthernetแบบเก่า หากแต่มีการพัฒนาและดัดแปลงใหส้ ามารถรองรับความเรว็ ในระดับ 1 Gbps ได้Gigabit Ethernet เป็นส่วนเพิ่มขยายจาก 10 Mbps และ 100 Mbps Ethernet (มาตราฐาน IEEE 802.3และ IEEE802.3u ตามลาดับ) โดยท่ีมันยังคงความเข้ากันได้กับมาตราฐานแบบเก่าอย่าง100% GigabitEthernet ยังสนับสนุนการทางานใน mode full-duplex โดยจะเป็นการทางานในการเชื่อมต่อระหว่างSwitch กับ Switch และระหว่าง Switch กบั End Station สว่ นการเช่อื มต่อผา่ น Repeater, Hub ซ่งึ จะเปน็ลักษณะของShared-media (ซ่ึงใช้กลไก CSMA/CD) Gigabit Ethernet จะทางานใน mode Half-duplexซ่ึงสามารถจะใชส้ ายสญั ญาณได้ทงั้ สายทองแดงและเส้นใยแก้วนาแสง
8.จงสรุปมาตรฐานการเชอื่ มตอ่ เครือขา่ ยแบบ 10Gigabit Ethemet มาพอเข้าใจตอบ กิกะบิตอีเทอร์เน็ต เป็นไปตามมาตรฐานเครือข่าย 802.3ae ท่ีรองรับความเร็วสูงสุดท่ี 10 Gbps ได้พฒั นาและประกาศใช้อย่างสมบูรณ์เม่ือเดือนมถิ นุ ายน ปี ค.ศ.2002 โดยสว่ นใหญย่ งั คงไม่มีการเปล่ยี นแปลงในรายละเอียด แต่จะทางานในลักษณะฟูลดูเพล็กซ์บนเทคโนโลยีสายไฟเบอร์ออฟติกเท่าน้ัน และไม่ต้องการใช้โปรโตคอล CSMA/CD อีกต่อไปนอกจากน้ี 10 กิกะบิตอีเทอร์เน็ต ไม่ได้ออกแบบเพ่ือใช้งานบนเครือข่ายแลนเท่านั้น แต่สามารถขยายเพ่ือใช้งานบนเครือข่ายแมน และเครือข่ายแวน ดังนั้นจะพบว่าการเชื่อมต่อเครือข่าย10 กิกะบิตอีเทอร์เน็ต ทาให้เราสามารถเช่ือมต่อเครือข่ายความเร็วสูงบนระยะทางไกลมากข้ึนได้ และยังคงสามารถเช่อื มต่อเข้ากับเครอื ข่ายอีเทอร์เนต็ แบบเดิมได้9. จงสรปุ เครอื ขา่ ยแบบโทเค็นบัสมีลกั ษณะทางกายภาพเป็นแบบไหนและการเข้าถงึ ข้อมลู เปน็ แบบใดตอบ โทเคนบสั มีการต่อเช่ือมแบบเปน็ เสน้ ตรง สถานีตา่ งๆ เชือ่ มตอ่ เข้าทจ่ี ุดใดๆ แต่ในทางตรรกะ สถานจี ะถูกจัดกลุ่มในลักษณะวง แต่ละสถานีจะทราบหมายเลขที่อยู่ของสถานีที่อยู่ทางด้ายซ้ายและด้านขวา ของตนเองตลอดเวลา เม่ือเริ่มต้นการทางานสถานีท่ีมีหมายเลขสูงสุดของวงนั้นๆ สามารถส่งเฟรมข้อมูลออกมาได้เป็นลาดับแรก หลังจากนั้นกจ็ ะสง่ เฟรม โทเคน ไปยงั สถานีข้างเคียงของตนเอง Token Bus เป็นระบบเครือข่ายที่ เปิดโอกาสให้สถานีต่างๆ ผลัดเปล่ียนหมุนเวียนกันส่งเฟรมข้อมูลของตนเองโดยสามารถคานวณระยะเวลาการรอคอยสูงสุดได้ล่วงหน้า ถ้าสมมุติให้มีสถานีจานวน A แห่งอยู่ในระบบ แต่ละสถานีใช้เวลาในการส่งเฟรมข้อมูลคร้ังละ S วินาที เวลาสูงสุดที่แต่ละสถานีจะต้องรอคอย คือ Ax S วินาที ผู้ท่ีอยู่ในวงการคอมพิวเตอร์สาหรับโรงงานจึงชอบแนวความคิดของระบบเครือข่ายแบบวงแหวนแต่ก็ไม่ชอบลักษณะการเชื่อมต่อทางกายภาพเพราะการเสียหายของเคเบิลท่ีจุดใดก็ตามจะทาให้ระบบทั้งระบบใชก้ ารไม่ได้ ย่งิ กวา่ นนั้ การเดนิ สายเคเบิลแบบวงแหวนก็ไมเ่ หมาะกบั ลักษณะสายการผลิตภายในโรงงานผลท่ีได้รับคือ การพัฒนามาตรฐานใหม่เรียกว่า IEEE 802.4 (ไอ อี อี อี 802.4) ที่นาจุดเด่นของระบบ IEEE802.3 (ไอ อี อี อี 802.3)มารวมเข้ากบั ความสามารถในการคานวณระยะเวลาการรอคอยสูงสดุ ได้ล่วงหน้าของระบบวงแหวน
10. จงสรุปเครือข่ายแบบโทเค็นริงลกั ษณะทางกายภาพเปน็ แบบไหนและการเข้าถงึ ข้อมูลเปน็ แบบใดตอบ เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอรท์ ่ีบริษัทไอบีเอ็มได้พัฒนาขึ้นโดยการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท้ังหมดใช้รูปแบบวงแหวน โดยด้านหน่ึงเป็นตัวรับสญั ญาณ และอีกด้านหน่ึงเป็นตัวส่งสัญญาณการเชอ่ื มต่อแบบน้ีทาให้คอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองสามารถส่งข้อมูลถงึ กันได้ โดยผา่ นไปในเส้นทางวงแหวนน้นั การสง่ ผา่ นข้อมลู จะเวียนไปในทศิ ทางเดียวกัน การติดต่อสื่อสารระหว่างกันน้ีจะมีการจัดลาดบั ใหผ้ ลัดกนั ส่งเพื่อวา่ การรับสง่ ข้อมลู จะได้ไม่สับสนและมีรูปแบบที่ชัดเจน เครือข่ายโทเค็นริงท่ีใช้กันอยู่ในขณะนี้มีความเร็ว ในการรับส่งสัญญาณ 16ลา้ นบติ ต่อวินาทีข้อมูลจะไมช่ นกันเพราะการรบั สง่ มีลาดับแน่นอนข้อมูลท่ีรบั สง่ จะมีลกั ษณะเป็นชดุ ๆ แต่ละชุดมีการกาหนดตาแหน่งแน่นอนวา่ มาจากสถานีใด จะส่งไปยังสถานีปลายทางที่ใด ดังนั้นถ้าสถานีใดพบข้อมลู ท่ีมีการระบุตาแหน่งปลายทางมาเป็นของตัวเอง ก็สามารถคัดลอกข้อมูลน้ันเข้าไปได้และตอบรับว่าได้รับข้อมูลนน้ั แล้ว11. จงสรปุ หลักการทางานของโทเค็น เป็นอยา่ งไรตอบ โทเคน็ (Token) เปน็ ขอ้ มลู ชุดหนงึ่ ที่ถกู สง่ อยู่ในระบบเครือข่ายทีม่ ี โทโปโลจี (Topology) แบบริง (Ring)ในโทโปโลจีแบบน้ี หากคอมพิวเตอร์เครื่องใดในเครือข่ายต้องการส่งข้อมูลจะเก็บเอา โทเคน ไว้แล้วส่งข้อมูลของตนเองออกมา เพราะฉะน้ัน โทเคนเป็นเหมือนบัตรสิทธ์ิ ใครมีโทเคนก็มีสทิ ธ์ิส่งข้อมูล ใครไม่มีโทเคนก็ไมม่ ีบัตรสทิ ธิ์ส่งข้อมูลไม่ได้ เพราะในเครือข่ายแบบริง จะมี โทเคน เพยี งชดุ เดียวเท่านนั้ ทาให้คอมพวิ เตอร์ที่อยู่ในเครอื ข่ายลกั ษณะน้ี สง่ ขอ้ มลู ได้ไมช่ นกัน
12. จงสรปุ หลกั การทางานของเครอื ข่ายแบบ FDDI เปน็ อยา่ งไรตอบ คอื เครอื ข่ายความเร็วสูงรุ่นใหม่ Fiber Distributed Data Interface การเชอ่ื มตอ่ จะมคี วามเร็วประมาณ100-200 เมกะบิตต่อวินาที เครือข่าย FDDI จะใช้สายใยแก้วนาแสงโดยแปลงจาก โทโปโลยีแบบวงแหวนเพียงแต่มีวงแหวน 2 วง นิยมใช้สาหรบั งานด้านท่ีตอ้ งการเทคโนโลยสี งู เช่น วดี ทิ ศั น์แบบดจิ ิทลั , กราฟิกความละเอยี ดสงูข้อดี ความเร็วสูง มีเสถียรภาพ และความน่าเชื่อถือสูง เนื่องจากมีวงแหวน 2 วง ถ้าวงใดวงหนึ่งเสียหาย การสอ่ื สารยังสามารถดาเนนิ ต่อไปได้ในวงแหวนท่ีเหลอื ขอ้ จากัด คา่ ใชจ้ า่ ยสูง เนื่องจากใชใ้ ยแกว้ นาแสง
ใบงานรูปแบบการเช่ือมต่อเพ่ิมเติม1. ใหน้ ักศกึ ษาอธิบายเกย่ี วกับรปู แบบเครอื ข่าย 2 ประเภท1.1. Client/Server มลี กั ษณะอย่างไร และมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรclient/server คอื การที่มีเครอ่ื งผใู้ ห้บรกิ าร (server) และเครอื่ งผู้ใช้บรกิ าร (client) เชือ่ มตอ่ กันอยู่ และเครอื่ งผใู้ ชบ้ รกิ ารไดม้ กี ารตดิ ตอ่ รอ้ งขอบรกิ ารจากเคร่ืองผูใ้ หบ้ ริการ เครอื่ งผูใ้ ห้บรกิ ารก็จะจัดการตามทีเ่ ครอ่ื งผูข้ อใช้บริการร้องขอ แลว้ สง่ ข้อมูลกลบั ไปให้เครอื ขา่ ยแบบ Client / server เหมาะกบั ระบบเครือข่ายที่ตอ้ งการเชอ่ื มตอ่ กบั เครอ่ื งลกู ขา่ ยจานวนมาก โดยการรองรับจานวนเคร่อื งลูกขา่ ย (Client )อาจเป็นหลกั สบิ หลักร้อย หรอื หลักพนัเพราะฉะนัน้ เคร่อื งทีจ่ ะนามาทาหน้าที่ให้บริการจะต้องเป็นเคร่อื งท่มี ี ประสิทธิภาพสงู เนอื่ งจากถกู ตอ้ งออกแบบมาเพอ่ื ทนทานตอ่ ความผิดพลาด ( Fault Tolerance )และตอ้ งคอยใหบ้ ริการทรัพยาการให้กับเคร่อื งลกู ขา่ ยตลอดเวลาข้อดขี องการตอ่ แบบ Client / Server- ให้ประสิทธิภาพในการแบ่งปันการใช้งานทรพั ยากรแกไ่ คลเอนตไ์ ด้ดกี ว่า เนอื่ งจากคอมพวิ เตอร์ทถ่ี กู นามาใช้เปน็ เซิร์ฟเวอร์มักเป็นเครือ่ งท่มี ปี ระสทิ ธิภาพสงู- การรักษาความปลอดภัยสามารถทาไดด้ ีกวา่ เน่ืองจากการดแู ลความปลอดภัยเป็นไปในรูปแบบรวมศนู ย์ (Centralized) ผูใ้ ชง้ านท่ีจะเขา้ มาสู่เครอื ขา่ ยเพอ่ื ใชง้ านเซริ ฟ์ เวอรจ์ ะตอ้ งไดร้ ับอนุญาตเสยี กอ่ น- งา่ ยตอ่ การบริหารจดั การหากเครอื ข่ายถูกขยายขนาด รวมทั้งมีผู้ใช้งานเพิม่ ขึ้น- สามารถติดต้ังแอพพลเิ คชนั (Application) ไว้ทีเ่ ซิร์ฟเวอร์เพยี งชุดเดยี ว และแบง่ ใชง้ านแก่ผ้ใู ช้งานเปน็ จานวนมาก ทาใหป้ ระหยัดค่าใช้จ่ายในเรอ่ื งซอฟตแ์ วรไ์ ดด้ ี- สามารถสารองหรือทาสาเนาขอ้ มลู ทศ่ี นู ยก์ ลาง ทาให้สะดวกรวดเรว็ขอ้ ด้อยของการต่อแบบ Client / Server - ค่าใช้จา่ ยในการตดิ ตั้งเซิร์ฟเวอร์ 1 ตัวสงู กว่าคอมพิวเตอร์ทัว่ ไป อกี ทั้งผู้ดูแลจะต้องมี ความร้พู อสมควร - จะต้องมีผดู้ แู ลและจัดการเซิร์ฟเวอร์เป็นการเฉพาะ
1.1.1 Web Server ทาหนา้ ทอ่ี ยา่ งไรเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ทต่ี ดิ ตั้งโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงทาหนา้ ท่ใี ห้บรกิ ารขอ้ มูล แก่ Client หรือเครื่องคอมพวิ เตอรท์ ข่ี อรบั บรกิ าร ในรูปแบบ สื่อผสม ผ่านระบบเครือข่าย โดยสามารถแสดงผลผา่ นโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ หรอื อาจกลา่ วไดว้ า่ Web server คอื โปรแกรมทีค่ อยใหบ้ รกิ ารแก่Client ที่รอ้ งขอขอ้ มูลเข้ามาโดยผา่ น web browser โปรแกรมท่นี ิยมนาใช้เป็นเครือ่ งบรกิ ารเว็บได้แก่ อาปาเช่ (Apache Web Server) และไมโครซอฟทไ์ อไอเอส (Microsoft IIS = InternetInformation Server) เป็นต้น 1.1.2 Mail server ทาหน้าท่ีอย่างไรคอื เครอ่ื งบรกิ ารรับ-ส่งจดหมายสาหรับสมาชกิ บรกิ ารทม่ี ีใหใ้ ช้เช่น รบั -สง่ จดหมาย ทัง้ แบบท่ีเป็นข้อความและรปู ภาพ โดยสง่ ในรปู แบบ Attach file และมที ี่เกบ็ ข้อมลู ผู้ติดตอ่ เรียกว่า Addressbook เป็นต้นตวั อยา่ ง mail server ท่ีเป็นที่รจู้ ักท่ัวไป เชน่ hotmail.com หรอื thaimail.com เป็นตน้ 1.1.3 File Server ทาหนา้ ทอ่ี ย่างไรทาหนา้ ท่จี ัดเกบ็ ไฟล์ โดยการจดั เกบ็ ไฟล์จะทาเสมอื นเป็นฮาร์ดดิสกร์ วมศนู ย์ เสมือนว่าผ้ใู ช้งานทกุคนมที ่เี กบ็ ข้อมูลอยู่ท่ีเดียว เพราะควบคุม-บรหิ ารง่าย การสารองขอ้ มลู การ Restore งา่ ย ขอ้ มูลดังกลา่ ว Shared ใหก้ ับ Client ได้ โดยส่วนมากข้อมูลท่ีอยใู่ น File Server คือ โปรแกรมและข้อมลู (Personal Data File) โดยปกตแิ ลว้ เซริ ์ฟเวอร์ไม่มหี น้าทตี่ ้องประมวลข้อมลู เหลา่ น้ี เป็นเพียงแหล่งเก็บขอ้ มูล ปจั จุบนั File Server ไมไ่ ด้ทาหนา้ ทเี่ พียงจัดเก็บไฟล์แบบ Local แล้ว แตม่ ีผ้ใู ห้บรกิ ารพื้นท่ฟี รีในฮาร์ดดิสก์หลายๆแห่งใหบ้ รกิ ารพ้ืนทฟ่ี รผี ่านอนิ เตอร์เน็ตดว้ ย เชน่ 100 MB200 MB ซ่ึงเหมาะสาหรับการเก็บไฟลท์ ่ีต้องการสารองไว้ นอกจากนบ้ี างแหง่ เสนอรปู แบบการใหบ้ ริการ จดั เก็บรูปภาพ เป็นอัลบม้ั รปู ภาพเลย การทางานของเซิรฟ์ เวอรท์ ี่เป็น File Server น้นัในทางเทคนิคแล้วยังไม่เรียกว่าเป็น \"Client/Server\" เพราะไม่มีการแบ่งโหลดการทางานระหว่างไคลเอ็นต์กบั เซริ ฟ์ เวอร์ แตห่ น้าที่ที่ File Server จะตอ้ งจัดการคอื มี NOS (Network OperatingSystem) ทดี่ แู ลการ \"เข้าถงึ \" ไฟล์ ต้องมีกระบวน \"Lock\" ไว้ ไมใ่ หเ้ กดิ ความซ้าซ้อนในการแกไ้ ขไฟล์ เชน่ ขณะทผ่ี ู้ใช้งานคนที่ 1 เปิด ไฟล์ A และกาลงั แกไ้ ข (edit) อยู่ ผใู้ ช้งานคนท่ีสองจะเปิดไฟล์ A เพ่อื แกไ้ ขไมไ่ ด้ (แตเ่ ปิดเพอื่ อา่ น Read Only ได)้ แตถ่ า้ หากข้อมูลนัน้ เป็น Database
แทนท่ไี ฟลห์ รือฐานขอ้ มลู ทั้งฐานข้อมลู จะถกู Lock กระบวนการ Lock กอ็ าจจะเกิดเฉพาะRecord (Row) นเี้ ป็นหน้าทข่ี อง NOS และ Application ที่ใชง้ าน 1.1.4 Print Server ทาหนา้ ทอี่ ยา่ งไรมีหนา้ ที่ในการเชื่อมต่อเครื่องปริน้ ท์ให้สามารถใชง้ านกบั คอมพิวเตอรล์ กู ขา่ ย เพื่อเป็นการประหยัดทรพั ยากรน่ันเอง ซงึ่ ส่วนมากจะมใี ช้ในองคก์ รขนาดใหญ่1.2. Peer to Peer มลี ักษณะอยา่ งไร และมีข้อดี-ขอ้ เสียอย่างไรเปน็ การเชอ่ื มตอ่ แบบโครงขา่ ยโดยตรง ระหว่างเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ โดยเครื่องคอมพวิ เตอร์แต่ละเคร่ืองนัน้ จะมีความเท่าเทียมกนั สามารถทางานของตนเองและขอใชบ้ ริการเครอ่ื งอ่นื ได้ จงึ เหมาะสาหรบั นามาใช้งานเพอ่ื จุดประสงค์ ดา้ นความรวดเร็ว หรอื ติดตง้ั ได้โดยงา่ ยเมื่อไม่มีโครงสรา้ งพืน้ ฐานทีจ่ ะรองรับ ตัวอย่างเช่น ในศูนย์ประชมุ หรอื การประชุมท่จี ดั นอกสถานท่ีรูปแบบเชอ่ื มตอ่แลนไร้สาย อกี ท้ัง Peer to Peer เป็นระบบเครือข่ายขนาดเล็ก และเหมาะกับหน่วยงาน ท่ีมีคอมพิวเตอรน์ ้อยกว่า 10 เครือ่ ง ระบบ Peer to Peer นคี้ อมพวิ เตอรแ์ ตล่ ะเครื่อง สามารถเขา้ ไปใชไ้ ฟล่์ทเ่ี กบ็ บนเครื่องไหนกไ็ ด้ software ท่ใี ชค้ ือ Windows for Workgroups, Windows 95,98, 2000 การติดตั้งเพยี งแต่เพ่มิ อุปกรณท์ ่ีเรยี กว่า LAN Card ในแต่ละเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ และต่อสายแลนเข้าไปสู่ อุปกรณ์ท่เี ปน็ ตวั กลาง ซ่งึ เรียกว่า HUB ข้อดี - ไม่ต้องการระบบปฏบิ ัตกิ าร (OS) สาหรับเครือข่าย - ไม่จาเปน็ ต้องใช้ Server เพราะแตล่ ะเครอื่ งสามารถเข้าถึงขอ้ มลู ได้ - ไม่ตอ้ งใชผ้ ู้เช่ียวชาญเพราะผใู้ ช้แตล่ ะคนสามารถไฟล์ทตี่ อ้ งการแบง่ ปันได้ด้วยตนเอง - การตั้งค่าไดง้ ่ายกว่า ระบบเครอื ข่ายแบบไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server Networks)และ ไม่จาเปน็ ต้องมีความรู้เฉพาะทาง - หากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึง่ ลม้ เหลวจะไมส่ ง่ ผลกระทบตอ่ สว่ นอ่ืนๆของเครือข่ายแต่นน่ั ก็หมายความวา่ ผ้อู ืน่ จะไม่สามารถเข้าถงึ ไฟล์งานได้
ขอ้ เสยี - คอมพิวเตอร์อาจมีการเข้าถงึ โดยบคุ คลอืน่ ซง่ึ อาจทาใหป้ ระสิทธิภาพการใช้งานลดลง - ไฟล์และโฟลเดอร์ไมไ่ ด้มกี ารสารองขอ้ มลู จากส่วนกลางไฟล์และทรพั ยากรทไี่ ม่ได้อย่ใู น “พื้นทแ่ี บ่งปนั ”อาจจะยากตอ่ การเขา้ ถงึ หากผใู้ ช้มีการจัดเก็บท่ไี ม่เป็นระบบเป็นความ รบั ผิดชอบของผ้ใู ช้แต่ละคนทจี่ ะไม่ใหไ้ วรัสตดิ เข้ามาในระบบเครอื ข่าย2. ระบบเครอื ขา่ ยท้องถิน่ (Local Area Network :LAN) ท่ีนิยมสูงสดุ มีอยู่ 3 ชนดิ คือ 1. เครือข่ายส่วนบคุ คล หรือแพน ( Personal Area Network: PAN ) 2. เครือขา่ ยเฉพาะท่ี หรือแลน ( Local Area Network: LAN ) 3. เครือข่ายนครหลวง หรอื แมน (Metropolitan Area Network: MAN) 2.1 อีเทอร์เน็ต (Ethernet) ใหน้ ักศกึ ษาสรปุ ข้อแตกตา่ งรปู แบบการเชอ่ื มโยงเครอื ขา่ ยอีเทอร์เน็ต ตามมาตรฐานตอ่ ไปนี้ 2.1.1 10Base5 10 Base 5 เป็นเครือขา่ ยแบบที่มีลกั ษณะคลา้ ยกบั 10 Base 2แต่จะใช้สาย Coaxial แบบหนา เปน็ สายชนิด RG-8 ซึง่ สายจะเปน็ สีเหลืองและมีขนาดใหญ่โดยTerminator เปน็ ตัวปดิ หัว และทา้ ยของเครือขา่ ย เครือข่ายชนดิ 10 Base 5 นี้ จะมตี ่อจานวนเครือ่ งได้มากกว่า และตอ่ ในระยะ10 คือ ความเร็วในการสง่ ขอ้ มลู 10 MbpsBase คือ การส่งขอ้ มูลแบบ5 คอื ความยาวสูงสดุ 500 เมตระได้ ไกลกวา่ แบบ 10 Base 2 แต่ ในปัจจบุ นั มกั ไม่นยิ มใช้กนั เน่อื งจากต้องใชค้ ่าใชจ้ า่ ยสูง 2.1.2 10Base2 10 Base 2 เป็นแบบเครอื ข่ายทใ่ี ชส้ าย Coaxial แบบบาง ชนิดRG-58 A/U โดยจะมี Terminator (50 โอมห์) เปน็ ตวั ปิดหัวและทา้ ยของเครือขา่ ย 10 คอื ความเรว็ ในการส่งขอ้ มลู 10 Mbps
Base คือ การสง่ ข้อมูลแบบ Baseband 2 คือ ความยาวสูงสดุ 200 เมตร (185-200 เมตร) 2.1.3 10BaseT 10 Base T จดั ไดว้ ่าเปน็ เครอื ขา่ ยท่นี ยิ มใช้กนั มากในปัจจุบันเน่ืองจากเปน็ ระบบเครอื ข่ายที่ติดตัง้ ง่ายและจานวนสถานีท่ีใช้งานจะต่อได้มากกว่า ในความจรงิแล้ว 10 Base T น้ันไม่ไดจ้ ัดอยูใ่ นมาตรฐาน Ethernet โดยตรง แตเ่ ปน็ เครอื ข่ายทผ่ี สมผสานระหวา่ ง Ethernet และ Star เข้าด้วย กัน ซึง่ จะมีอปุ กรณ์ ตัวกลางที่เรยี กว่า Concentratorหรือเรยี กกันท่ัวไปว่า HUB ที่คอยรับสญั ญาณระหวา่ ง Workstation และ File Server โดยในกรณีที่มสี ายจากสถานใี ดเสียหาย ก็จะไมส่ ่งผลกระทบตอ่ ระบบ10 คือ ความเร็วในการสง่ ขอ้ มลู 10 MbpsBase คอื การส่งขอ้ มูลแบบ BasebandT คือ Twisted Pair (UTP) 2.2 ไอบเี อม็ โทเคน็ ริง (IBM Token Ring) ใหน้ ักศึกษาสรุปกลไกการสง่ ข้อมูลการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพวิ เตอรท์ ง้ั หมดใช้รูปแบบวงแหวน โดยดา้ นหน่งึ เป็นตัวรบั สัญญาณและอกี ดา้ นหนง่ึ เป็นตัวส่งสญั ญาณการเชื่อมตอ่ แบบน้ีทาใหค้ อมพิวเตอร์ทุกเคร่อื งสามารถสง่ข้อมูลถึงกนั ได้ โดยผา่ นไปในเส้นทางวงแหวนนน้ั การส่งผ่านข้อมลู จะเวียนไปในทศิ ทางเดยี วกันการตดิ ต่อสอ่ื สารระหว่างกันนี้จะมีการจัดลาดบั ใหผ้ ลัดกนั ส่งเพ่อื วา่ การรบั ส่งขอ้ มูลจะไดไ้ มส่ บั สนและมรี ูปแบบท่ชี ดั เจน เครอื ข่ายโทเค็นริงท่ีใชก้ ันอยู่ในขณะน้ีมคี วามเร็ว ในการรับส่งสญั ญาณ 16ล้านบติ ต่อวินาทีขอ้ มลู จะไมช่ นกนั เพราะการรับส่งมีลาดบั แน่นอนขอ้ มลู ท่รี บั ส่งจะมลี กั ษณะเปน็ชดุ ๆ แต่ละชดุ มกี ารกาหนดตาแหนง่ แน่นอนวา่ มาจากสถานีใด จะสง่ ไปยังสถานปี ลายทางทีใ่ ดดงั น้ันถา้ สถานีใดพบข้อมูลท่ีมีการระบุตาแหนง่ ปลายทางมาเป็นของตัวเอง ก็สามารถคัดลอกข้อมูลนั้นเขา้ ไปได้และตอบรบั วา่ ไดร้ บั ข้อมูลน้นั แล้ว
ขอ้ ดี 1. ใชส้ ายสัญญาณน้อย 2. ข้อมูลไมช่ นกนัขอ้ เสีย1. หากมเี คร่ืองคอมพิวเตอรท์ ม่ี ปี ญั หาอย่ใู นระบบจะทาให้เครอื ขา่ ยไม่สามารถทางานไดเ้ ลย2. การเช่ือมต่อเครือ่ งคอมพิวเตอรเ์ ขา้ สู่เครือข่ายอีกครั้งอาจต้องหยุดระบบทั้งหมดลงก่อน 2.3 เอฟดดี ไี อ (Fiber Data Distributed Interface :FDDI) ให้นกั ศึกษาสรปุ หน่วยงานใดเปน็ ผู้กาหนดมาตรฐาน และอธิบายลกั ษณะของการส่งข้อมลู บนเครอื ขา่ ย เอฟดดี ีไอ รวมทงั้อธบิ ายการทางานของวงแหวนทั้ง 2 วงดว้ ยเอฟดีดไี อ หรอื เรียกอกี ชือ่ เต็มวา่ Fiber Distributed Data Interface:FDDI คอื หน่วยงาน ANSIไดท้ าการกาหนดโปรโตรคลอท่ใี ช้งานบนเครอื ข่ายท้องถน่ิ โดยมกี ารควบคมุ แบบโทเคร็ ิง ด้วยการสง่ ข้อมลู ทีม่ ีความเร็วถงึ 100 เมกะบิตตอ่ วินาทีบนสายเคเบิลใยแกว้ นาแสง กลไกการส่งข้อมูลบนเครือข่ายเอฟดดี ไี อจะใช้ Token Passing เช่นเดยี วกับไอบีเอม็ โทเค็นริง แต่เอฟดีดีไอ(FDDI) จะทางานดว้ ยความเร็วท่ีสงู กว่า ประกอบกับเครอื ข่ายเอฟดีดไี อยังสามารถท่ีจะออกแบบเพอ่ื รอบรับในความเสยี หาของระบบได้ดี ด้วยการเพม่ิ วงแหวนในระบบเครอื ข่ายอีก รวมเป็น 2 วงแหวนด้วยกนั ซึง่ ประกอบดว้ ยวงแหวนปฐมภูมิและวงแหวนทุติยภมู ิ วงแหวนปฐมภมู ิ(Primary Ring) คือ วงแหวนหลักดา้ นนอกซึ่งใช้เปน็ สายสง่ ขอ้ มูลหลักภายในระบบเครอื ข่าย โดยรหสั โทเคน็ จะวงิ่ วนรอบวงแหวนทศิ ทางใดก็ทิศทางหนงึ่ วงแหวนทุติยภูมิ(Secondary Ring) คือวงแหวนสารองท่ีอยดู่ า้ นในสุด โทเคน็ ทอ่ี ยใู่ นวงแหวนดา้ นในจะวงิ่ ในทิศทางตรงกันข้ามกบั วงแหวนด้านนอก โดยวงแหวนทุตยิ ภูมิจะถกู ใชง้ านก็ตอ่ เมอ่ื วงแหวนปฐมภูมเิ กิดปญั หาเท่าน้นั เช่น สายเคเบลิ ที่วงแหวนในปฐมภมู ิเกิดการขาด และเมือ่ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึน้ วงจรภายในวงแหวนทุติยภูมกิ ็จะเรม่ิ ทางานทันทีดว้ ยการเช่ือมตอ่ เข้ากับวงแหวนปฐมภูมิ ทาให้สามารถประคบั ประคองระบบให้ยงั คงสามารถทางานตอ่ ไปได้ โดยเทเคน็ เองก็ยงั คงสามารถว่ิงภายในรอบวงแหวนไดเ้ ชน่ เดิม ทาให้เครือข่ายสามารถดาเนนิ การต่อได้ตามปกติ
อุปกรณส์ ำหรับเชื่อมต่อเครือข่ำยประเภท LANอุปกรณเ์ ครือข่ำยกำร์ด (lan)เครอื่ งพซี จี ะเชื่อต่อกันเป็นระบบ LAN ขน้ึ มำนั้น แต่ละเคร่ืองต้องติดต้งั กำรด์ LAN เครือ่ งรุน่ ใหมๆ่อำจจะมกี ำรด์ LAN ฝังตัวอยู่ในบอรด์ ให้แล้ว (Lan Onboard) หรือในโน๊ตบคุ๊ ใหมๆ่ ก็มกั จะมีพอรต์ LAN มำให้แลว้ โดยสว่ นใหญ่จะมีควำมเรว็ 1000หรอื 100 เมกกะบิต (ถ้ำเปน็ รุ่นเกำ่ จะมีควำมเร็วเพียง 10 เมกกะบติ ตอ่ วนิ ำทีเทำ่ นน้ั ) เรยี กว่ำเป็น Fast Ethernet และบำงแบบกอ็ ำจใชไ้ ด้ทง้ั 2 ควำมเร็วโดยสำมำรถปรับแบบอัตโนมัตแิ ล้วแต่จะไปเชอื่ มต่อกับอุปกรณ์ Hub หรอืSwitch แบบใดกำรด์ LAN รุ่นใหม่จะมีคุณสมบัติ Plug&Play หรอื PnP มักเสยี บเขำ้ กับสลอ๊ ตแบบ PCI (กำร์ดรุ่นเกำ่ จะใชก้ บั สล๊อตแบบ ISA ซึง่ ไมค่ อ่ ยพบแล้ว จึงไมข่ อกล่ำวถงึ ) โดยมีชอ่ งดำ้ นหลงั เครือ่ งให้เสียบสำยได้ฮบั (hub) เป็นอุปกรณ์ท่รี วมสัญญำณทมี่ ำจำกอปุ กรณ์รับสง่ หลำยๆ สถำนี เข้ำดว้ ยกนั ฮับเปรียบเสมอื นเปน็ บัสทร่ี วมอยทู่ ่ีจุดเดียวกัน ฮบั ทใี่ ชง้ ำนอยู่ภำยใตม้ ำตรฐำนกำรรบั ส่งแบบอีเทอร์เน็ต หรือ IEEE802.3 ขอ้ มูลทีร่ บั สง่ ผำ่ นฮับจำกเคร่ืองหน่งึ จะกระจำยไปยงั ทกุ สถำนที ต่ี อ่ อยู่บนฮบันั้น ดังนั้น ทกุ สถำนีจะรับสัญญำณขอ้ มูลท่กี ระจำยมำได้ทงั้ หมด แต่จะเลอื กคัดลอกเฉพำะขอ้ มลู ที่ส่งมำถึงตนเทำ่ นัน้ กำรตรวจสอบขอ้ มูลจงึ ต้องดทู ี่แอดเดรส(address)ทีก่ ำกับมำในกล่มุ ของข้อมูลหรือแพ็กเก็ต
สวติ ซ์(switch) เป็นอปุ กรณ์รวมสญั ญำณท่มี ำจำกอุปกรณร์ ับส่งหลำยสถำนีเช่นเดยี วกบั ฮับ แตม่ ีขอ้ แตกตำ่ งจำกฮบั กล่ำวคือ กำรรับสง่ ขอ้ มูลจำกสถำนี (อุปกรณ)์ ตัวหนึ่ง จะไม่กระจำยไปยังทกุสถำนี (อุปกรณ์) เหมอื นฮับ ทั้งนี้เพรำะสวิตช์จะรบั กลมุ่ ขอ้ มูล(แพก็ เกต็ ) มำตรวจสอบกอ่ น แลว้ ดูวำ่ มำ แอดเดรสของสถำนีปลำยทำงไปท่ีใด สวติ ช์จะนำแพ็กเก็ตหรอื กลมุ่ ข้อมลู น้ันส่งต่อไปยังสถำนี (อปุ กรณ์) เปำ้ หมำยใหอ้ ยำ่ งอัตโนมัติ สวติ ช์จะลดปญั หำกำรชนกันของขอ้ มูลเพรำะไมต่ ้องกระจำยขอ้ มูลไปทกุ สถำนี และยงั มขี อ้ ดใี นเร่ืองกำรป้องกันกำรดักจบั ข้อมลู ที่กระจำยไปในเครือขำ่ ยเรำเตอร์ (router) ในกำรเชอ่ื มโยงเครอื ข่ำยหลำยๆ เครอื ข่ำยเข้ำดว้ ยกัน หรอื เชอ่ื มโยงอปุ กรณ์หลำยอย่ำงเข้ำดว้ ยกัน ดงั นนั้ จงึ มเี ส้นทำงกำรเขำ้ ออกของข้อมลู ได้หลำยเส้นทำง และแตล่ ะเสน้ ทำงอำจใช้เทคโนโลยีเครอื ข่ำยท่ตี ่ำงกนั อุปกรณ์จดั เสน้ ทำงจะหำเสน้ ทำงท่ีเหมำะสมใหก้ ำรท่ีอปุ กรณจ์ ัดหำเส้นทำงเลือกเสน้ ทำงไดถ้ ูกตอ้ งเพรำะแต่ละสถำนภี ำยในเครือขำ่ ยมแี อดเดรสกำกบัอปุ กรณจ์ ดั เสน้ ทำงตอ้ งรับรตู้ ำแหน่งและสำมำรถนำขอ้ มลู ออกทำงเสน้ ทำงได้ถกู ตอ้ งตำมตำแหนง่แอดเดรสท่ีกำกับอยใู่ นเส้นทำงนนั้ รวมท้ังกำรจดั รูปแบบและนำเสนอข้อมลู โดยกำหนดสำย UTP (Unshield Twisted Pair) สำยทใ่ี ช้กับ LAN เรียกว่ำสำย UTP (Unshield TwistedPair) ซึง่ ใช้หวั ตอ่ แบบ RJ-45 ซง่ึ มีท้งั หมด 8 ขำ สำยแบบน้ีทเ่ี ข้ำหัวไว้แล้วจะหำซอื้ ไดต้ ำมรำ้ นขำยอุปกรณค์ อมพวิ เตอรท์ ่ัวไป หรอื จะซือ้ แบบเปน็ มว้ นมำตัดเขำ้ หัวเองกไ็ ด้ แต่ต้องมีเคร่อื งมือหรอื คีมเข้ำหวั RJ-45 โดยเฉพำะ มีขอ้ จำกัดคือ จะต้องยำวไมเ่ กิน 100 เมตร จำกเครื่องไปยัง Switchและแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภทตำมลกั ษณะกำรใช้งำน คือ• สำยตรง (Straight-through Cable) คือสำยปกติทใี่ ช้เชอ่ื มระหว่ำงกำรด์ LAN และ Hub /Switch
• สำยไขว้ (Crossover Cable) ใชต้ อ่ กำร์ด LAN บนคอมพวิ เตอร์ 2 เครอื่ งหรือพอร์ตของ Hubหรือ Switch 2 ตวั โดยตรง เพือ่ เพม่ิ ขยำยพอรต์ ซึ่งวิธีกำรเขำ้ หัวจะต่ำงจำกปกติบรดิ จ์ (Bridge) คือ อปุ กรณท์ เี่ หมำะสมกบั เครอื ข่ำยหลำย ๆ กลมุ่ ท่ีเชอื่ มตอ่ กนั เนอ่ื งจำกสำมำรถแบ่งเครือข่ำยที่เช่ือมต่อกันหลำย ๆ เซ็กเมนต์แยกออกจำกกนั ได้ ทำใหข้ ้อมูลในแตล่ ะเซ็กเมนต์ไม่ตอ้ งวิ่งไปทัว่ ท้ังเครือขำ่ ย กลำ่ วคอื บรดิ จส์ ำมำรถอำ่ นเฟรมข้อมลู ที่สง่ มำได้ว่ำมำจำกเคร่ืองในเซก็เมนตใ์ ด จำกน้ันจะทำกำรส่งขอ้ มลู ไปยงั เคร่อื งซง่ึ อำจอยใู่ นเซ็กเมนต์เดยี วกนั หรอื ต่ำงเซ็กเมนตก์ ็ได้ซ่งึ ควำมสำมำรถดังกลำ่ วทำให้ชว่ ยลดปัญหำควำมคับคงั่ ของข้อมลู ในระบบได้เกตเวย์ (Gateway) คอื อุปกรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ทชี่ ่วยในกำรส่ือสำรข้อมูล หน้ำทีห่ ลกั ของเกตเวย์คือ ช่วยทำให้เครอื ขำ่ ยคอมพิวเตอร์ 2 เครอื ขำ่ ย หรือมำกกวำ่ ทม่ี ีลกั ษณะไม่เหมอื นกนั คือลกั ษณะของกำรเชอื่ ต่อ (Connectivity) ของเครอื ขำ่ ยท่ีแตกตำ่ งกัน และมโี พรโตคอลสำหรับกำรส่ง - รับข้อมลู ตำ่ งกัน เช่น LAN เครือหนึ่งเป็นแบบ Ethernet และ โพรโตคอลแบบอะซงิ โครนัสรพี ตี เตอร์ (Repeater) คือ อปุ กรณ์ทวนสญั ญำณเพ่อื ให้สำมำรถส่งข้อมูลถึงกันได้ระยะไกลข้นึ คอืรพี ตี เตอรจ์ ะปรบั รปู แบบเดิม เพือ่ ได้สญั ญำณสำมำรถส่งต่อไปได้อีก เชน่ กำรเชอื่ มตอ่ เครือข่ำยแลนหลำย ๆ เซ็กเมนต์ ซ่งึ ควำมยำวของแตล่ ะเซ็กเมนตน์ ั้นจะมรี ะยะทำงทจี่ ำกัด ดังนน้ั อปุ กรณ์อย่ำงรีพตี เตอร์จะช่วยแก้ไขปัญหำเหลำ่ นไี้ ด้
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: