นายศริ พิ งษ์ พ่วงกลิ่น เลขท่ี 37 คอม.1 ปวส.2โครงสรา้ งเครือขา่ ย (Topology)1.ลักษณะการเชอื่ มต่อเครือข่าย 1.1 การเชือ่ มต่อแบบจดุ ต่อจุด(Point to Point) แบบจุดตอ่ จดุ (point-to-point) คือ วิธเี ชือ่ มตอ่ ส่ือสงข้อมูลระหวา่ งอุปกรณ์ 2 อุปกรณ์ โดยมี เสน้ ทางเพียง 1 เส้นเท่านนั้ เชน่ ลักษณะการเชอ่ื มต่อระหว่างเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์พซี ีแต่ละเครอ่ื งมี เพยี งสายเพยี ง 1 สายต่อเช่ือมโยงกันในการทางาน หรือในเคร่ืองที่ทาหน้าท่เี ป็นเครื่องปลายทาง 1 เครื่อง เช่ือมต่อกบั เครื่องเมนเฟรมโดยใช้สาย 1 เส้น หรอื ในอกี กรณีหนง่ึ เครื่องคอมพวิ เตอร์ 2 เครื่อง สอื่ สารกันโดยใช้การส่งข้อมูลผ่านคลื่นไมโครเวฟ ข้อดี 1. มคี วามเรว็ ในการสอ่ื สารข้อมูลสงู โปรแกรมทีใ่ ชใ้ นการควบคมุ การสอ่ื สารก็เป็นแบบพื้นฐานไม่ซบั ซ้อน 2. สามารถรับสง่ ข้อมลู ได้ปริมาณมากและไม่มีปัญหาเร่ืองการจัดการการจราจรในส่อื ส่งขอ้ มลู ไม่เหมอื นกับ แบบท่ใี ช้สือ่ สง่ ข้อมลู ร่วมกัน 3. มคี วามทนทานต่อความเสียหายเมอ่ื สือ่ สง่ ข้อมลู หรอื สายใดสายหนงึ่ เสยี หายใช้ การไม่ได้ ไม่ส่งผลต่อระบบ เครอื ข่ายโดยรวม แต่เกิดเสยี หายเฉพาะเคร่ืองต้นสายและปลายสายเทา่ น้ัน ขอ้ เสยี 1. จานวนสายท่ีใช้ตอ้ งมจี านวนมากและอนิ พุด/เอาต์พตุ พอร์ต (i/o port) ตอ้ งใช้จานวนมากเช่นกนั เพราะแต่ ละเคร่อื งต้องตอ่ เช่ือมไปยังทุก ๆ เครอื่ งทาให้การตดิ ตงั้ หรือแก้ไขระบบทาไดย้ าก 2. สายท่ใี ชม้ จี านวนมาก ทาให้สิน้ เปลอื งพ้ืนท่ีในการเดินสาย 3. เนอื่ งจากอปุ กรณ์ต้องการใช้อนิ พดุ /เอาต์พุตพอรต์ จานวนมาก ดังนั้นราคาของอปุ กรณต์ อ่ เชอ่ื มจงึ มีราคา แพงและจากขอ้ เสียขา้ งต้นทาให้โทโพ โลยแี บบสมบรู ณ์จงึ ถูกทาไปใชค้ อ่ นข้างอยใู่ นวงแค
1.2 การเช่อื มต่อแบบหลายจุด (Multipoint or Multidrop) แบบหลายจดุ หรอื มลั ติดรอปไลน์ (multidrop lime) หมายถงึ ส่ือส่งข้อมูล 1 ส่อื มีอุปกรณห์ ลายๆ อุปกรณ์ ใชส้ ื่อส่งข้อมูลหรอื สายรว่ มกันดงั รปู ที่ 2.3 นอกจากนี้ถา้ สื่อสง่ ข้อมูลเปน็ คล่ืนวทิ ยุ แบบหลายจุด ใช้คลื่นวทิ ยุในอากาศร่วมกันการใช้คลื่นวิทยรุ ่วมกัน ทาไดโ้ ดยแบง่ ความถ่ีออกเปน็ ชว่ งความถี่ของ อุปกรณ์แต่ละตวั ซึ่งถือว่าเป็นการใชส้ ่อื สงข้อมลู ร่วมกนั ในแบบแบง่ ส่วนที่เรียกว่า การแบ่งปนั สว่ น (spatially share) หรืออาจผลัดกันใชส้ ่อื ส่งข้อมูลโดยกาหนดระยะเวลาการใชท้ เี่ รียกวา่ การแบง่ ปันเวลา (time share)ข้อดี1. ประหยดั สายสง่ ขอ้ มูล2. การเพิ่มเติมโหนดสามารถเพ่ิมไดโ้ ดยง่ายดว้ ยการเชอื่ มต่อเข้ากบั สายสง่ ทีใ่ ชง้ านร่วมกันไดท้ นั ทีขอ้ เสยี1. หากสายส่งขอ้ มูลขาด จะมีผลกระทบต่อระบบเครอื ข่าย2. ไม่เหมาะกับการส่งข้อมลู แบบตอ่ เนื่องทมี่ ีขอ้ มูลคราวละมากๆในเวลาเดยี วกัน
2.โครงสรา้ งของเครอื ขา่ ย (Network Topology) แบง่ เป็น 6 ชนิด 2.1 โครงสรา้ งแบบบัส (Bus Topology) -เปน็ เครือขา่ ยทีเ่ ชื่อมต่อคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณต์ า่ ง ๆ ด้วยสายเคเบล้ิ ยาว ตอ่ เน่ืองไปเร่ือย ๆ โดย จะมีคอนเนก็ เตอร์เป็นตัวเชอ่ื มตอ่ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณเ์ ข้ากับสายเคเบล้ิ ในการส่งข้อมูล จะมี คอมพวิ เตอร์เพียงตวั เดยี วเท่าน้ันทส่ี ามารถสง่ ข้อมลู ไดใ้ นช่วงเวลาหน่งึ ๆ การจดั ส่งข้อมลู วธิ ีนจี้ ะต้อง กาหนดวธิ กี าร ท่ีจะไมใ่ ห้ทุกสถานสี ่งข้อมลู พร้อมกัน เพราะจะทาให้ขอ้ มลู ชนกัน วธิ ีการท่ีใชอ้ าจแบ่ง เวลาหรือให้แตล่ ะสถานีใชค้ วามถ่ี สัญญาณที่แตกต่างกัน การเซตอปั เครอื่ งเครอื ขา่ ยแบบบัสน้ีทาได้ไม่ ยากเพราะคอมพวิ เตอร์และอุปกรณแ์ ตล่ ะชนดิ ถูกเช่ือมต่อดว้ ยสายเคเบล้ิ เพียงเสน้ เดียวโดยสว่ นใหญ่ เครือข่ายแบบบัส มักจะใช้ในเครอื ขา่ ยขนาดเล็ก ซ่ึงอยู่ในองคก์ รทม่ี ีคอมพิวเตอรใ์ ชไ้ มม่ ากนกั ข้อดี คือ ใชส้ ื่อนาข้อมูลน้อย ช่วยให้ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ย และถา้ เครือ่ งคอมพวิ เตอรเ์ คร่ืองใดเครอื่ งหนึ่งเสยี ก็จะ ไมส่ ่งผลต่อการทางานของระบบโดยรวม แตม่ ี ขอ้ เสยี คือ การตรวจจุดที่มปี ัญหา กระทาได้ค่อนข้างยาก และถา้ มีจานวนเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ในเครือข่ายมาก เกินไป จะมกี ารสง่ ขอ้ มูลชนกันมากจนเป็นปัญหา 2.2 โครงสร้างแบบดาว (Star Topology) - เปน็ เครือขา่ ยที่เชอื่ มต่อคอมพิวเตอร์ เข้ากบั อุปกรณ์ทเี่ ป็น จุดศูนย์กลาง ของเครือข่าย โดยการนา สถานตี ่าง ๆ มาต่อรว่ มกันกบั หน่วยสลับสายกลางการตดิ ต่อส่อื สารระหว่างสถานจี ะกระทาได้ ด้วยการ ติดตอ่ ผา่ นทางวงจรของหน่วนสลบั สายกลางการทางานของหนว่ ยสลับสายกลางจงึ เปน็ ศูนยก์ ลางของ การตดิ ต่อ วงจรเชอ่ื มโยงระหว่างสถานีตา่ ง ๆ ท่ตี ้องการติดต่อกนั ข้อดี คือ ถา้ ต้องการเชือ่ มต่อคอมพวิ เตอร์เครอ่ื งใหม่ก็สามารถทาได้ง่ายและไมก่ ระทบต่อเคร่ือง คอมพิวเตอร์อื่นๆ ในระบบ ข้อเสยี คือ ค่าใชจ้ า่ ยในการใชส้ ายเคเบ้ิลจะค่อนขา้ งสูง และเม่ือฮบั ไม่ทางาน การสื่อสารของ คอมพวิ เตอร์ท้งั ระบบกจ็ ะหยุดตามไปดว้ ย ข้อจากัด ถ้าฮับเสียหายจะทาให้ท้ังระบบต้องหยดุ ซะงัก และ มีความสนิ้ เปลอื งสายสัญญาณมากกวา่ แบบอน่ื ๆ
2.3 โครงสรา้ งแบบวงแหวน (Ring Topology) -เป็นเครือข่ายทเี่ ช่อื มต่อคอมพิวเตอร์ดว้ ยสายเคเบลิ ยาวเส้นเดยี ว ในลกั ษณะวงแหวน การรบั สง่ ขอ้ มลู ในเครอื ข่ายวงแหวน จะใชท้ ิศทางเดยี วเท่านนั้ เมื่อคอมพิวเตอรเ์ ครื่องหน่งึ สง่ ข้อมูล มนั ก็จะส่งไปยงั คอมพิวเตอรเ์ ครอ่ื งถดั ไป ถ้าข้อมลู ท่ีรับมาไม่ตรงตามท่คี อมพิวเตอร์เครื่องตน้ ทางระบุ มันก็จะสง่ ผา่ นไป ยัง คอมพวิ เตอร์เครือ่ งถัดไปซึ่งจะเป็นข้นั ตอนอย่างนี้ไปเรอื่ ย ๆ จนกว่าจะถึงคอมพวิ เตอรป์ ลายทางทถี่ ูก ระบตุ ามทอ่ี ยู่ขอ้ ดี ของโครงสร้าง เครือข่ายแบบวงแหวนคือ ใชส้ ายเคเบิ้ลน้อย และถ้าตดั เคร่ืองคอมพิวเตอรท์ ่ีเสยี ออกจากระบบ กจ็ ะไม่ส่งผลต่อการทางานของระบบเครอื ขา่ ยนี้ และจะไม่มีการชนกนั ของขอ้ มูลทแี่ ต่ละเครอ่ื งส่งขอ้ เสยี ถ้าเคร่ืองใดเครื่องหนึ่งในเครือขา่ ยเสยี หาย อาจทาให้ทั้งระบบหยดุ ทางานได้ 2.4 โครงสร้างแบบต้นไม้ (Tree Topology) -มีลักษณะเช่ือมโยงคลา้ ยกบั โครงสร้างแบบดาวแตจ่ ะมีโครงสร้างแบบต้นไม้ โดยมีสายนาสญั ญาณ แยกออกไปเป็นแบบก่ิงไม่เป็นวงรอบ โครงสรา้ งแบบนจ้ี ะเหมาะกบั การประมวลผลแบบกลมุ่ จะ ประกอบดว้ ยเคร่ือง คอมพวิ เตอรร์ ะดับตา่ งๆกันอยหู่ ลายเคร่ืองแล้วต่อกนั เปน็ ชน้ั ๆ ดรู าวกับแผนภาพ องค์กร แต่ละกลมุ่ จะมโี หนดแมล่ ะโหนดลกู ในกลุ่มนนั้ ที่มีการสัมพนั ธ์กนั การส่ือสารขอ้ มูลจะผ่าน ตวั กลางไปยังสถานีอ่ืนๆได้ทั้งหมด เพราะทุกสถานีจะอยู่บนทางเชือ่ ม และรบั ส่งข้อมลู เดยี วกนั ดงั น้ัน ในแตล่ ะกลมุ่ จะสง่ ขอ้ มูลได้ทีละสถานีโดยไม่ส่งพร้อมกนัขอ้ ดี1. รองรบั การขยายเครือข่ายในแตล่ ะจดุ2. รองรับอปุ กรณจ์ ากผู้ผลติ ท่ีแตกตา่ งกนัข้อเสีย1.ความยาวของแตล่ ะเซก็ เมนตอ์ าจแตกต่างกันไปขึน้ อยู่กับสายสญั ญาณท่ใี ช้2.หากสายสญั ญาณแบ๊กโบนเสยี หาย เครือข่ายจะไม่สามารถส่ือสารกนั ได้3.การติดตงั้ ทาได้ยากกวา่ โพโลยีแบบอ่ืน
2.5 โครงสร้างแบบผสม (Hybrid Topology)-เป็นเครอื ขา่ ยทผี่ สมผสานกันทงั้ แบบดาว,วงแหวน และบัส เชน่ วิทยาเขตขนาดเลก็ ท่ีมหี ลายอาคารเครือข่ายของแต่ละอาคารอาจใชแ้ บบบสั เช่อื มต่อกับอาคารอ่นื ๆทใี่ ช้แบบดาว และแบบวงแหวนขอ้ ดี- สามารถเขา้ ถึงเครือข่ายท่ีอยู่ในระยะไกลได้- ทาให้การสอ่ื สารขอ้ มลู มปี ระสทิ ธภิ าพข้อเสยี- ดแู ลระบบยาก และเสยี ค่าใช้จ่ายในการดแู ลรักษาสูง- โครงสรา้ งมีความซบั ซ้อนมรี ูปแบบไม่แนน่ อน2.6 โครงสรา้ งแบบเมซ (Mesh Topology)- มกี ารทางานโดยเคร่อื งคอมพิวเตอร์แต่ละเคร่ืองจะมีช่องสญั ญาณจานวนมาก เพ่ือทจ่ี ะเชื่อมต่อกบัเครือ่ งคอมพิวเตอรเ์ คร่ืองอื่นๆทกุ เครื่องโครงสรา้ งเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์น้เี คร่ืองคอมพวิ เตอรแ์ ต่ละเคร่ืองจะสง่ ข้อมลู ได้อิสระไม่ต้องรอการส่งข้อมูลระหวา่ งเครื่องคอมพวิ เตอร์เครอื่ งอ่นื ๆ ทาให้การส่งขอ้ มลู มีความรวดเร็ว แตค่ ่าใช้จา่ ยสายเคเบิล้ ก็สงู ดว้ ยเช่นกันเปน็ รปู แบบท่ถี ือวา่ สามารถป้องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกดิ ขึ้นกบั ระบบได้ดีทีส่ ดุ เปน็ รูปแบบทีใ่ ชว้ ิธกี ารเดนิ สายของแต่เครอ่ื งไปเชอ่ื มการตดิ ต่อกับทกุ เคร่อื งในระบบเครือขา่ ย คือเคร่ืองทุกเคร่ืองในระบบเครือขา่ ยน้ี ต้องมสี ายไปเชื่อมกับทกุๆ เคร่อื ง ระบบนย้ี ากต่อการเดนิ สายและมีราคาแพง จงึ มีค่อยมีผู้นิยมมากนักขอ้ ดี1. อัตราความเรว็ ในการสง่ ข้อมลู ความเชอ่ื ถือไดข้ องระบบ2. งา่ ยต่อการตรวจสอบความผดิ พลาด3. ข้อมูลมีความปลอดภยั และมคี วามเป็นสว่ นตวัขอ้ เสยีค่าใช้จา่ ยสายเคเบิ้ลสงู เช่น ถ้าในกรณีท่จี านวนโหนดมากเช่นถ้าจานวนโหนดทัง้ หมดในเครอื ข่ายมีอยู่ 100 โหนด จะตอ้ งมีจานวนจดุ เชอื่ มต่อถึง 4,950 เสน้ เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: