Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E_Book การเสียภาษีจากฐานกำไรสุทธิ

E_Book การเสียภาษีจากฐานกำไรสุทธิ

Published by s.petnark, 2017-09-16 19:34:52

Description: E_Book การเสียภาษีจากฐานกำไรสุทธิ

Search

Read the Text Version

การเสียภาษีเงนิ ได้นิติบุคคลจากฐานกาไรสุทธิ

การเสียภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคลจากฐานกาไรสุทธิ1. สาระการเรียนรู้ 1.1. ผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากฐานกาไรสุทธิ 1.2. หลกั เกณฑใ์ นการรับรู้รายไดแ้ ละรายจา่ ยในการคานวณกาไรสุทธิตามกฎหมายภาษี 1.3. รายไดท้ ่ีไดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล 1.4. อตั ราภาษี 1.5. วธิ ีการการคานวณกาไรสุทธิเพื่อเสียภาษี 1.6. การยนื่ แบบแสดงรายการและชาระภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล2. สาระสาคญั 2.1. ผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากฐานกาไรสุทธิ ไดแ้ ก่บริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนจดั ต้งั ตามกฎหมายไทย และ นิติบุคคลที่จดั ต้งั ข้ึนโดยกฎหมายของต่างประเทศในรูปของบริษทั จากดั บริษทั มหาชนจากดั หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล และรวมถึงองคก์ ารหรือหน่วยงานของรัฐท่ีประกอบกิจการเป็นทางการคา้ หรือหากาไรในประเทศไทย 2.2. หลกั เกณฑใ์ นการรับรู้รายไดแ้ ละรายจา่ ยในการคานวณกาไรสุทธิตามกฎหมายภาษีใหใ้ ช้เกณฑส์ ิทธิ ยกเวน้ บางกรณีอาจใชเ้ กณฑเ์ งินสดได้ 2.3. ในการคานวณภาษีจากฐานกาไรสุทธิใหใ้ ชอ้ ตั ราภาษีแบบคงท่ี ซ่ึงอตั ราทวั่ ไป 30 % ของกาไรสุทธิ สาหรับบริษทั ที่จดทะเบียนกบั ตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทยไดร้ ับอนุมตั ิลดอตั ราภาษีลงเหลือ 25 % หรือ 20 % แลว้ แต่กรณี ส่วนบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลท่ีมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ลา้ นบาทใหใ้ ชอ้ ตั ราภาษีแบบกา้ วหนา้ 2.4. กาไรสุทธิเพ่อื เสียภาษี = กาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน บวก รายจา่ ยตอ้ งหา้ ม หกั รายไดท้ ี่ไดร้ ับยกเวน้ ภาษี 2.5. ผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษีจากฐานกาไรสุทธิจะตอ้ งยน่ื แบบแสดงรายการและชาระภาษีปี ละสองคร้ังคือ ยนื่ กลางปี ดว้ ยแบบ ภ.ง.ด. 51 และยน่ื ตอนสิ้นปี ดว้ ยแบบ ภ.ง.ด.503. สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ 3.1. ด้านความรู้ 3.1.1. อธิบายลกั ษณะของผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากฐานกาไรสุทธิไดถ้ ูกตอ้ ง 3.1.2.บอกหลกั เกณฑใ์ นการรับรู้รายไดแ้ ละรายจ่ายตามกฎหมายภาษีไดถ้ ูกตอ้ ง 3.1.3.อธิบายวธิ ีการคานวณกาไรสุทธิเพ่อื เสียภาษีไดถ้ ูกตอ้ ง 3.1.4.อธิบายเกี่ยวกบั อตั ราภาษีไดถ้ ูกตอ้ ง 3.1.5.อธิบายวธิ ีการยน่ื แบบแสดงรายการและชาระภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากฐานกาไรสุทธิ

ไดถ้ ูกตอ้ ง 3.2. ด้านทกั ษะ สามารถวเิ คราะห์รายการทางบญั ชีการเงินท่ีปรากฏในงบกาไรขาดทุนของกิจการต่าง ๆ วา่เป็นไปตามเง่ือนไขหลกั เกณฑ์ และวธิ ีการที่กาหนดไวใ้ นมาตรา 65 ทวิ มาตรา 65 ตรี และมาตรา 70ตรีหรือไม่ ตลอดจนสามารถแกไ้ ขและกรอกแบบ ภ.ง.ด.50 ได้ 3.3. ด้านคุณธรรมจริยธรรม มีความซ่ือสตั ย์ ความรับผดิ ชอบเสียสละ ความอดทน ตรงต่อเวลา4. เนื้อหา 4.1. ผ้มู หี น้าทเี่ สียภาษีเงินได้นิตบิ ุคคล ผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากฐานกาไรสุทธิไดแ้ ก่ 4.1.1.นิติบุคคลที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย ซ่ึงอาจจดั ต้งั ในรูปลกั ษณะตา่ ง ๆ ดงั น้ี 4.1.1.1. หา้ งหุน้ ส่วนจากดั 4.1.1.2.หา้ งหุน้ ส่วนสามญั นิติบุคคล 4.1.1.3.บริษทั จากดั 4.1.1.4.บริษทั มหาชนจากดั บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย จะตอ้ งนารายไดห้ รือกาไรท่ีไดร้ ับจาก (1) การประกอบกิจการ และ (2) เน่ืองจากการประกอบกิจการ มารวมคานวณกาไรสุทธิเพอ่ื เสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ไมว่ า่ รายไดห้ รือกาไรน้นั จะเกิดข้ึนจากแหล่งในประเทศหรือนอกประเทศ ในกรณีมีสาขาจะตอ้ งนารายไดห้ รือกาไรของสาขาตา่ ง ๆ ท้งั ท่ีต้งั อยใู่ นประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยมารวมกบั สานักงานใหญ่เพื่อเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากฐานกาไรสุทธิใหป้ ระเทศไทย 4.1.2. บริษทั หรือหา้ งกนุ้ ส่วนนิติบุคคลที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประทศท่ีประกอบกิจการในประเทศอ่ืน ๆ รวมท้งั ในประเทศไทย จะตอ้ งนากาไรสุทธิเฉพาะท่ีไดจ้ ากการประกอบกิจการในประเทศไทยมาเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล 4.1.3.บริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศมีลูกจ้างหรือผ้ทู าการแทนหรือผู้ทาการตดิ ต่อในการประกอบกจิ การในประเทศไทยไดร้ ับเงินไดห้ รือผลกาไรในประเทศไทยใหถ้ ือวา่ ลูกจา้ งหรือผทู้ าการแทนหรือผทู้ าการติดตอ่ น้นั ไม่วา่ จะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายต่างประเทศ และใหบ้ ุคคลน้นั มีหนา้ ที่และความรับผดิ ชอบในการยน่ืรายการและเสียภาษีเงินไดแ้ ละผลกาไรท่ีไดร้ ับในประเทศไทย 4.1.4.กิจการซ่ึงดาเนินการเป็ นทางการคา้ หากาไรโดยรัฐบาลต่างประเทศ องคก์ ารรัฐบาลต่างประเทศหรือนิติบุคคลอื่นท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายต่างประเทศ

4.1.5.กิจการร่วมคา้ ตามประมวลรัษฎากร 4.2. หลกั เกณฑ์ในการรับรู้รายได้รายจ่ายในการคานวณกาไรสุทธิตามกฎหมายภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 กาหนดใหบ้ ริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลเสียภาษีจากฐานกาไรสุทธิ ซ่ึงคานวณจากรายไดห้ กั ดว้ ยรายจา่ ย ซ่ึงการรับรู้รายไดแ้ ละรายจา่ ยดงั กล่าวใหใ้ ช้เกณฑ์สิทธิกล่าวคือ ใหน้ ารายไดท้ ี่เกิดข้ึนในรอบระยะเวลาบญั ชีใด แมจ้ ะยงั ไม่ไดร้ ับชาระในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั มารวมคานวณเป็นรายไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั และใหน้ ารายจ่ายท้งั สิ้นท่ีเกี่ยวกบั รายไดน้ ้นั แมจ้ ะยงั มิไดจ้ ่ายในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั มารวมคานวณเป็นรายจา่ ยของรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั “รายได”้ ในทางภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลคือ (ก) รายไดจ้ ากการประกอบกิจการโดยตรง เช่น รายไดจ้ ากการขายสินคา้ ที่ผลิตได้ (ข) รายไดเ้ น่ืองจากการประกอบกิจการ เช่น รายไดจ้ ากการขายเศษวสั ดุที่เหลือจากการผลิตดอกเบ้ียเงินฝาก จากการที่ประมวลรัษฎากรบญั ญตั ิใหบ้ ริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลคานวณรายไดต้ ามเกณฑ์สิทธิ แต่เน่ืองจากในบางกรณีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั ยงั ไม่ไดร้ ับรายได้ และบางกรณีไมม่ ีทางไดร้ ับ ถึงแมจ้ ะมีสัญญาผกู พนั บงั คบั ไวก้ ต็ าม แตต่ อ้ งชาระภาษี เพ่ือเป็ นการบรรเทาภาระภาษี กรมสรรพากรจึงไดอ้ อกคาสั่งที่ ทป. 1/2528 (แกไ้ ขล่าสุดโดยคาส่ังท่ี ทป. 155/2549)กาหนดแนวทางใหใ้ ชป้ ฏิบตั ิ เป็นหลกั เกณฑ์ ดงั น้ี ข้อ 1 การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ซ่ึงประกอบกิจการท่ีตามสภาพมีสินค้าคงเหลือ สินค้าหรืองานระหว่างทา หรือวสั ดุคงเหลือให้ใช้เกณฑ์สิทธิ ข้อ 2 บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลรายใดไดป้ ฏิบตั ิในการคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายตามขอ้ ต่าง ๆ ดังต่อไปนีต้ ้งั แต่รอบระยะเวลาบัญชีใด ให้ถือว่าการปฏิบตั ิดังกล่าวเป็ นกรณีทไ่ี ด้รับอนุมตั ิจากอธิบดกี รมสรรพากรแล้ว บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั จะตอ้ งถือปฏิบตั ิตามวธิ ีการท่ีไดร้ ับอนุมตั ิน้นั ตลอดไป เวน้ แต่จะไดร้ ับอนุมตั ิให้เปลี่ยนแปลงจากอธิบดีกรมสรรพากร 2.1 การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกิจการธนาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณชิ ย์ กจิ การธุรกจิ เงนิ ทนุ ธุรกจิ เงนิ ทนุ หลกั ทรัพย์ และธุรกจิ เครดิตฟองซิเอร์ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลกั ทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ และกิจการธุรกิจหลกั ทรัพย์ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ ให้ใช้เกณฑ์สิทธิ เว้นแต่รายไดส้ ่วนท่ีเป็นดอกเบยี้ สาหรับระยะเวลาหลงั จากท่ีไดผ้ ดิ นัดชาระติดตอ่ กนัเป็นเวลาเกนิ สามเดือนแลว้ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั จะนาดอกเบ้ียส่วนน้นั มารวมคานวณเป็นรายไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีไดร้ ับชาระกไ็ ด้

การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกจิ การประกนั ชีวติ กจิ การธุรกจิ บัตรเครดติ หรือกิจการอื่นทานองเดียวกนั ใหใ้ ชเ้ กณฑส์ ิทธิตาม เว้นแต่รายไดส้ ่วนการคานวณรายไดแ้ ละรายจา่ ยของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกิจการประกนั ชีวติ กิจการธุรกิจบตั รเครดิต หรือกิจการอ่ืนทานองเดียวกนั ใหใ้ ชเ้ กณฑ์สิทธิ เว้นแต่รายได้ส่วนท่ีเป็นดอกเบยี้ สาหรับระยะเวลาหลงั จากท่ีไดผ้ ดิ นดั ชาระติดต่อกนั เป็นเวลาเกนิ หกเดือน บริษทัหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั จะนาดอกเบ้ียส่วนน้นั มารวมคานวณเป็ นรายไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีที่ไดร้ ับชาระกไ็ ด้ เมื่อเขา้ หลกั เกณฑด์ งั น้ี ก. คาดหมายไดแ้ น่นอนวา่ จะไมส่ ามารถไดร้ ับชาระหน้ี และ ข. มีกรณีแสดงใหเ้ ห็นชดั แจง้ วา่ ลูกหน้ีไมม่ ีเงินหรือทรัพยส์ ินเพียงพอที่จะชาระหน้ีเช่น - มีหลกั ประกนั ไม่คุม้ กบั หน้ีที่ตอ้ งชาระ - ลูกหน้ีดาเนินธุรกิจขาดทุนติดต่อกนั เป็ นเวลาหลายปี หรือเลิกกิจการแลว้หรืออยรู่ ะหวา่ งการชาระบญั ชี - ไดด้ าเนินคดีแพง่ หรือไดย้ น่ื คาขอเฉล่ียหน้ีแลว้ - ไดด้ าเนินคดีลม้ ละลาย หรือไดย้ นื่ คาขอรับชาระหน้ีแลว้ 2.2 การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกิจการประกนั ชีวติ ใหใ้ ชเ้ กณฑ์สิทธิ เว้นแต่รายไดส้ ่วนที่เป็นเบีย้ ประกนั ชีวติ บริษทั หรือห้างหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั จะนารายไดส้ ่วนน้นั มารวมคานวณเป็ นรายไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีไดร้ ับชาระกไ็ ด้ 2.3 การคานวณรายไดแ้ ละรายจา่ ยของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกจิ การฝากขายสินค้าซึ่งผู้รับฝากสินค้า (Consignee) ทาหนา้ ที่ขายสินคา้ แทนผฝู้ ากสินคา้ (Consignor) ใหใ้ ช้เกณฑ์สิทธิ โดยบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั ตอ้ งนารายไดจ้ ากการขายสินคา้ มารวมคานวณเป็นรายได้ท้งั จานวนในรอบระยะเวลาบัญชีทมี่ ีการฝากขายสินค้า กรณีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกิจการฝากขาย สินคา้ น้นั ไดท้ าสัญญาการต้งั ตวั แทนผรู้ ับฝากสินคา้ (Consignee) เพอ่ื ขายเป็ นหนงั สือ โดยตวั แทนผรู้ ับฝากสินคา้(Consignee) ไดร้ ับค่าตอบแทนหรือบาเหน็จตามท่ีกาหนดไวใ้ นสัญญา บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั จะคานวณรายไดเ้ มื่อตัวแทนผ้รู ับฝากสินค้า (Consignee) ขายสินค้าให้แก่ผ้ซู ื้อกไ็ ด้ 2.4 การคานวณรายไดแ้ ละรายจา่ ยของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกจิ การให้เช่าทรัพย์สิน ใหใ้ ชเ้ กณฑ์สิทธิ โดยบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั ตอ้ งนารายไดค้ า่ เช่าหรือค่างวดและรายจา่ ยท่ีเก่ียวขอ้ งมารวมคานวณเป็นรายได้และรายจ่ายในแตล่ ะรอบระยะเวลาบญั ชีตามส่วนแห่งระยะเวลาการใหเ้ ช่าทรัพยส์ ิน

การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ซ่ึงเป็นผเู้ ช่าทรัพยส์ ินใหใ้ ชเ้ กณฑส์ ิทธิ โดยบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั จะตอ้ งนารายจ่ายคา่ เช่าหรือค่างวดและรายจ่ายท่ีเกี่ยวขอ้ งมารวมคานวณเป็นรายจา่ ยในแต่ละรอบระยะเวลาบญั ชี 2.5 การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกจิ การให้เช่าซื้อหรือขายผ่อนชาระทีก่ รรมสิทธ์ิยงั ไม่ได้โอนไปยงั ผู้ซื้อและมีอายสุ ญั ญาเกนิ หนึ่งรอบระยะเวลาบญั ชี ใหใ้ ชเ้ กณฑส์ ิทธิ โดยบริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลน้นั ตอ้ งนากาไรที่เกิดจากการขายมารวมคานวณเป็นรายไดท้ ้งั จานวนในรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีมีการใหเ้ ช่าซ้ือหรือขายผอ่ นชาระ สาหรับดอกผลเช่าซื้อหรือขายผอ่ นชาระใหน้ ามารวมคานวณเป็นรายได้แต่ละงวดตามวธิ ีการทางบญั ชีท่ีรับรองทวั่ ไป การคานวณรายไดแ้ ละรายจา่ ยของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกิจการขายผอ่ นชาระท่ีกรรมสิทธ์ิไดโ้ อนไปยงั ผซู้ ้ือทนั ที ใหน้ ารายไดจ้ ากการขายมารวมคานวณเป็นรายไดท้ ้งัจานวนในรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีมีการขายสินคา้ การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงเป็นผูเ้ ช่าซ้ือหรือผซู้ ้ือจากการขายผอ่ นชาระตามวรรคหน่ึง ใหใ้ ชเ้ กณฑ์สิทธิตาม โดยบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นัตอ้ งนาทรัพยส์ ินที่ไดม้ าโดยการเช่าซ้ือหรือขายผอ่ นชาระมาคานวณหกั ค่าสึกหรอและค่าเส่ือมราคามูลค่าตน้ ทุนของทรัพยส์ ินน้นั ใหถ้ ือตามราคาท่ีพงึ ตอ้ งชาระท้งั หมด แตค่ ่าสึกหรอและคา่ เส่ือมราคาที่จะนามาหกั ในรอบระยะเวลาบญั ชีจะตอ้ ง ไม่เกนิ ค่าเช่าซื้อหรือราคาท่ีจะตอ้ งผอ่ นชาระในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั คาวา่ “กาไรทเี่ กดิ จากการขาย” ตามวรรคหน่ึงหมายความวา่ ผลตา่ งระหวา่ งราคาขายเงินสดกบั ตน้ ทุนของทรัพยส์ ินท่ีใหเ้ ช่าซ้ือหรือขายผอ่ นชาระ คาวา่ “ดอกผลเช่าซื้อหรือขายผ่อนชาระ” ตามวรรคหน่ึงหมายความวา่ ผลตา่ งระหวา่ งจานวนเงินท้งั สิ้นท่ีตอ้ งจา่ ยตามสัญญากบั ราคาขายสด 2.6 การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกจิ การก่อสร้าง ใหใ้ ชเ้ กณฑ์สิทธิ โดยบริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลน้นั ตอ้ งนารายไดแ้ ละรายจ่ายที่เกี่ยวขอ้ งตามอตั ราส่วนของงานทที่ าเสร็จตามวธิ ีการทางบญั ชีที่รับรองทว่ั ไปมารวมคานวณเป็นรายไดแ้ ละรายจา่ ยในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั 2.7 การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกจิ การค้าอสังหาริมทรัพย์ ใหใ้ ชเ้ กณฑส์ ิทธิ โดยใหถ้ ือปฏิบตั ิเก่ียวกบั การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายในการคานวณกาไรสุทธิเพอื่ เสียภาษีเงินไดด้ งั ต่อไปน้ี

(1) ใหค้ านวณรายไดแ้ ละรายจ่ายที่เกี่ยวขอ้ งเป็ นรายได้และรายจ่ายท้งั จานวนเมื่อมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิในอสงั หาริมทรัพย์ เฉพาะการขายอสังหาริมทรัพยท์ ่ีมีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกบั อสังหาริมทรัพยใ์ นรอบระยะเวลาบัญชีเดยี วกนั กบั การขายน้นั (2) ใหค้ านวณรายไดแ้ ละรายจา่ ยที่เกี่ยวขอ้ งตามอตั ราส่วนของงานท่ีทาเสร็จในแต่ละรอบระยะเวลาบญั ชีมารวมคานวณเป็นรายไดแ้ ละรายจ่ายในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั หรือ (3) ใหค้ านวณรายไดแ้ ละรายจ่ายที่เก่ียวขอ้ งตามงวดที่ถึงกาหนดชาระโดยใหใ้ ชว้ ธิ ีการคานวณตามอตั รากาไรข้นั ตน้ การคานวณเป็นรายไดแ้ ละรายจ่ายตาม (2) และ (3) ใหใ้ ชห้ ลกั เกณฑต์ ามวธิ ีการทางบญั ชีท่ีรับรองทวั่ ไป กรณีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลไดเ้ ลือกใชว้ ธิ ีหน่ึงวธิ ีใดตาม (2) หรือ (3) เพ่อืคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายในการคานวณกาไรสุทธิเพ่ือเสียภาษีเงินไดส้ าหรับการขายอสงั หาริมทรัพย์ประเภทใดแลว้ ใหใ้ ชว้ ธิ ีน้นั ตลอดไปสาหรับการขายอสงั หาริมทรัพยป์ ระเภทน้นั เวน้ แต่จะไดร้ ับอนุมตั ิให้เปล่ียนแปลงจากอธิบดีกรมสรรพากร คาวา่ “กจิ การค้าอสังหาริมทรัพย์” ตามวรรคหน่ึงหมายความวา่ การขายท่ีดิน การขายท่ีดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง การขายส่ิงปลูกสร้างและการขายอาคารชุด 2.8 การคานวณรายไดแ้ ละรายจา่ ยของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกจิ การสนามกอล์ฟหรือกจิ การให้บริการตามสัญญาระยะยาวแก่สมาชิกใหใ้ ชเ้ กณฑ์สิทธิ โดยบริษทัหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั ตอ้ งนารายไดท้ ่ีเรียกเก็บหรือพึงเรียกเก็บในลกั ษณะเป็นเงินกอ้ นเพื่อตอบแทนการใหบ้ ริการท้งั จานวน ไม่วา่ รายไดน้ ้นั จะเกิดข้ึนจากการผอ่ นชาระหรือชาระคร้ังเดียวและไมว่ า่ จะเรียกเก็บในลกั ษณะเงินคา่ สมาชิก เงินประกนั เงินมดั จา เงินจา่ ยล่วงหนา้ เพ่ือเป็นค่าใชจ้ ่ายหรือเงินอื่นที่เรียกเก็บในลกั ษณะทานองเดียวกนั มารวมคานวณเป็นรายได้ท้งั จานวนในรอบระยะเวลาบัญชีท่ีไดเ้ ร่ิมใหบ้ ริการ หรือจะนารายได้น้ันมาเฉล่ยี ตามส่วนแห่งจานวนปี ตามสัญญา แต่ไม่เกนิ สิบปี และนามารวมคานวณเป็ นรายไดใ้ นแตล่ ะรอบระยะเวลาบญั ชีตามสัญญา แตไ่ ม่เกินสิบรอบระยะเวลาบญั ชีนบั แต่รอบระยะเวลาบญั ชีที่ไดเ้ ร่ิมใหบ้ ริการกไ็ ด้ กรณีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลไดม้ ีการจ่ายคืนเงินดงั กล่าวตามขอ้ ตกลงหรือสญั ญา ใหน้ ามาถือเป็นรายจา่ ยในการคานวณกาไรสุทธิเพ่ือเสียภาษีเงินไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีได้จา่ ยคืนเงิน 2.9 การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษทั หรือห้างหุน้ ส่วนนิติบุคคลซ่ึงประกอบกจิ การขายชอร์ต (การขายหลกั ทรัพยท์ ่ีตอ้ งยมื หลกั ทรัพยม์ าเพือ่ การส่งมอบ) ตามประกาศคณะกรรมการกากบั หลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑ์ เงื่อนไข และวธิ ีการประกอบกิจการการยมืและใหย้ มื หลกั ทรัพย์ และประกาศคณะกรรมการกากบั หลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ วา่ ดว้ ยการขายหลกั ทรัพยโ์ ดยท่ีบริษทั หลกั ทรัพยย์ งั ไม่มีหลกั ทรัพยน์ ้นั อยใู่ นครอบครอง ใหใ้ ชเ้ กณฑส์ ิทธิ โดย

บริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลดงั กล่าวตอ้ งนารายไดท้ ี่เรียกเก็บหรือพงึ เรียกเก็บจากการขายชอร์ตมาเป็นรายไดใ้ นรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั ส่วนตน้ ทุนใหใ้ ชร้ าคาปิ ดของหลกั ทรัพยใ์ นวนั ที่ทาสญั ญายมืหลกั ทรัพยน์ ้นั ถือเป็ นตน้ ทุนของหลกั ทรัพย์ และเมื่อมีการซ้ือหลกั ทรัพยม์ าคืนเมื่อใด ใหค้ านวณกาไรขาดทุนอีกคร้ัง โดยถือ ราคาปิ ดของหลกั ทรัพยใ์ นวนั ท่ีทาสญั ญายมื หลกั ทรัพย์ (ราคา ณ วนั ยมื ) เป็นเสมือนราคาขาย ส่วนตน้ ทุนใหใ้ ชร้ าคาของหลกั ทรัพยท์ ่ีซ้ือมาคืน (ในจานวนหน่วยที่เทียบเทา่ กนั ) ถือเป็นกาไรหรือขาดทุน ณ วนั ท่ีมีการคืน หลกั ทรัพยแ์ ละธุรกรรมการยมื สิ้นสุดลง ท้งั น้ี ไมว่ า่ การคืนจะอยใู่ นรอบระยะเวลาบญั ชีเดียวกบั ท่ีไดย้ มื หลกั ทรัพยม์ าหรือไม่ สาหรับค่าใชจ้ ่ายหากเกิดข้ึนในรอบระยะเวลาบญั ชีใดใหถ้ ือเป็ นรายจา่ ยของรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั 2.10 การคานวณรายไดแ้ ละรายจ่ายของบริษัทบริหารสินทรัพยต์ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยบริษทับริหารสินทรัพย์ ใหใ้ ชเ้ กณฑ์สิทธิ เว้นแต่รายไดซ้ ่ึงเกิดจากการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่รับซ้ือหรือรับโอนจากสถาบนั การเงินตามกฎหมายวา่ ดว้ ยบริษทั บริหารสินทรัพย์ บริษทั บริหารสินทรัพยจ์ ะนารายไดด้ งั กล่าวมารวมคานวณเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีทไี่ ด้รับชาระกไ็ ด้ 4.3. รายได้ทไ่ี ด้รับยกเว้นภาษเี งินได้หรือรายจ่ายทม่ี สี ิทธิหกั ได้เพมิ่ ขนึ้ 4.3.1. รายได้ทไี่ ด้รับยกเว้นภาษีเงินได้ 4.3.1.1.เงินปันผลที่ไดจ้ ากบริษทั จากดั ท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย กองทุนรวม หรือสถาบนั การเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจดั ต้งั ข้ึนสาหรับใหก้ ูย้ มื เงินเพ่ือส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม และเงินส่วนแบ่งกาไรท่ีไดจ้ ากกิจการร่วมคา้ (ดูรายละเอียดเพ่มิ เติมในบทที่ 6 ขอ้ 4.1.2) 4.3.1.2.เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งกาไรที่อยใู่ นบงั คบั ตอ้ งถูกหกั ภาษี ณ ท่ีจ่ายตามกฎหมายวา่ ดว้ ยภาษีเงินไดป้ ิ โตรเลียม ใหน้ ามารวมคานวณเป็นรายไดเ้ พยี งเทา่ ที่เหลือจากถูกหกั ภาษีณ ที่จ่ายตามกฎหมายดงั กล่าว และถา้ ผรู้ ับเป็นบริษทั จดทะเบียนหรือเป็นบริษทั ที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย ใหน้ าบทบญั ญตั ิของมาตรา 65 ทวิ (10) แห่งประมวลรัษฎากร มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม 4.3.1.3.เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งกาไรท่ีไดจ้ ากกจิ การร่วมค้าทปี่ ระกอบกจิ การในประเทศไทยไดร้ ับยกเวน้ ไม่ตอ้ งรวมคานวณเป็นรายไดเ้ พอื่ เสียภาษีเงินไดส้ าหรับ (1) บริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย (2) บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายต่างประเทศและประกอบกิจการในประเทศไทย 4.3.1.4.เงินปันผลจากกจิ การทไ่ี ด้รับการส่งเสริมการลงทนุ ซ่ึงไดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินได้นิติบุคคลได้รับยกเว้นไม่ตอ้ งรวมคานวณเป็นรายไดเ้ พื่อเสียภาษีเงินไดต้ ลอดระยะเวลาที่ผไู้ ดร้ ับการส่งเสริมการลงทุนไดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล 4.3.1.5.เงินส่วนแบง่ กาไรท่ีไดจ้ ากกองทนุ รวมท่ีจดั ต้งั ตาม พ.ร.บ. หลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลกั ทรัพย์ พ.ศ. 2535 ได้รับยกเว้นไมต่ อ้ งรวมคานวณเป็ นรายไดเ้ พ่ือเสียภาษีเงินไดส้ าหรับ

(1) บริษทั จากดั ท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย สาหรับเงินส่วนแบ่งของกาไรที่ได้จานวนคร่ึงหน่ึง (2) บริษทั จดทะเบียน สาหรับเงินส่วนแบ่งของกาไรที่ได้ท้งั จานวน ท้งั น้ี ถา้ บริษทั หรือบริษทั จดทะเบียนตาม (1) และ (2) ขา้ งตน้ มีเงินไดท้ ่ีเป็นเงินส่วนแบ่งกาไรดงั กล่าว โดยถือหน่วยลงทุนท่ีก่อใหเ้ กิดเงินส่วนแบง่ กาไรน้นั ไม่ถึง 3 เดือนนบั แต่วนั ที่ไดห้ น่วยลงทุนน้นั มาถึงวนั มีเงินไดด้ งั กล่าว หรือไดโ้ อนหน่วยลงทุนน้นั ไปก่อน 3 เดือนนบั แต่วนั ที่มีเงินได้ ก็หมดสิทธิไดร้ ับการลดหรือยกเวน้ ภาษีดงั กล่าวขา้ งตน้ 4.3.1.6. เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งกาไรที่ไดจ้ ากบริษทั หรืหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มไิ ด้ประกอบกจิ การอ่ืนนอกจากกจิ การโรงเรียนเอกชนที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชนหรือกิจการสถาบนั อุดมศึกษาเอกชนที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสถาบนั อุดมศึกษาเอกชน 4.3.1.7.เงินปันผลหรือเงินส่วนแบง่ กาไรที่ไดจ้ ากบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลท่ีมิได้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการสถานฝึกอบรมเพือ่ พฒั นาฝีมือแรงงานของลูกจา้ งของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลผจู้ ่ายเงินปันผล หรือของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกนั กบับริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลผจู้ า่ ยเงินปันผลน้นั 4.3.1.8.คา่ แห่งก๊ดู วลิ ล์ ค่าแห่งลิขสิทธ์ิหรือสิทธิอยา่ งอ่ืนที่ไดจ้ ากผทู้ ่ีไดร้ ับการส่งเสริมฯตามสัญญาที่ไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ไดร้ ับยกเวน้ ไม่ตอ้ งรวมคานวณเป็ นรายไดเ้ พ่ือเสียภาษีเงินไดม้ ีกาหนดระยะเวลา 5 ปี นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับการส่งเสริมฯ มีรายได้จากการประกอบกิจการท่ีไดร้ ับการส่งเสริมฯ ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์ และวธิ ีการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนกาหนด 4.3.1.9.ดอกเบ้ียเงินกยู้ มื ท่ีอยใู่ นบงั คบั ตอ้ งถูกหกั ภาษี ณ ที่จ่ายตามกฎหมายวา่ ดว้ ยภาษีเงินไดป้ ิ โตรเลียม ใหน้ ามารวมคานวณเป็ นรายไดเ้ พียงเท่าท่ีเหลือจากถูกหกั ภาษี ณ ที่จ่าย ตามกฎหมายดงั กล่าว 4.3.1.10. เงินปันผลซ่ึงไดร้ ับจากบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศ ท้งั น้ี บริษทั หรือบริษทั มหาชน จากดั ตอ้ งถือหุน้ ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 25ของหุน้ ท้งั หมดที่มีสิทธิออกเสียงเป็นเวลา ไมน่ อ้ ยกวา่ 6 เดือนนบั แตว่ นั ท่ีไดห้ ุน้ น้นั มาจนถึงวนั ท่ีไดร้ ับเงินปันผล และเงินปันผลดงั กล่าวตอ้ งเสียภาษีในประเทศของบริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลผจู้ า่ ยเงินปันผลไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 15 ของกาไรสุทธิ ไมว่ า่ จะมีกฎหมายลดหรือยกเวน้ ภาษีสาหรับกาไรสุทธิใหแ้ ก่บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั หรือไมก่ ็ตาม 4.3.1.11. เงินไดข้ องบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ท่ีไดร้ ับจากการขายทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรที่ใชใ้ นการประกอบกิจการเพ่ือซ้ือเครื่องจกั รใหมท่ ดแทน โดยจะตอ้ งไมน่ ามูลค่าตน้ ทุนส่วนที่เหลือของเคร่ืองจกั รท่ีขายมาหกั เป็นรายจา่ ยในการคานวณภาษีเงินไดข้ องบริษทั หรือหา้ ง

หุน้ ส่วนนิติบุคคล ท้งั น้ี เฉพาะการขายท่ีไดก้ ระทาในระหวา่ งวนั ที่ 1 มกราคม 2549 ถึงวนั ที่ 31ธนั วาคม 2553 4.3.2.รายจ่ายทมี่ ีสิทธิหกั ได้เพม่ิ ขึน้ จากรายจ่ายทจี่ ่ายจริง รายจ่ายท่ีมีสิทธิหกั ไดเ้ พิ่มข้ึนจากรายจ่ายที่จ่ายจริง ไดแ้ ก่ 4.3.2.1.รายจ่ายค่าอปุ กรณ์ทมี่ ีผลต่อการประหยดั พลงั งาน ยกเวน้ ภาษีเงินได้ สาหรับรายจ่ายท่ีจา่ ยเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยเพอ่ื การไดม้ าซ่ึงทรัพยส์ ินประเภทอุปกรณ์ท่ีมีผลต่อการประหยดั พลงั งาน ซ่ึงเป็ นการปรับเปล่ียนแทนอุปกรณ์เดิม เป็นจานวนร้อยละ 25 ของค่าใชจ้ ่ายน้นั เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 50 ลา้ นบาท เฉลี่ยเป็นจานวนเท่ากนั 5 รอบระยะเวลาบญั ชี ตามพระราชกฤษฎีฯ (ฉบบั ท่ี 436) ท้งั น้ี ตอ้ งเป็ นไปตามหลกั เกณฑ์ วกี าร และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกาหนด ตวั อยา่ ง ในรอบระยะเวลา 25x4 บริษทั ก. จากดั มีกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีที่รับรองทวั่ ไป 2,000,000 บาท จากการตรวจสอบขอ้ เท็จจริงปรากฏวา่ มีรายจ่ายคา่ ซ้ือทรัพยป์ ระเภทอุปกรณ์ท่ีมีผลต่อการประหยดั พลงั งาน 250,000 บาทรวมอยูด่ ว้ ย ให้วเิ คราะห์รายการและคานวณหากาไรสุทธิเพ่ือเสียภาษี วเิ คราะห์รายการ บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายจ่ายตามท่ีเกิดจริง หกั เป็นรายจา่ ยไดเ้ พิ่มข้ึนอีก 25%ขาอง รายจา่ ยที่เกิดจริง = 62,500 บาท = 250,000บาทคานวณกาไรสุทธิเพ่ือเสียภาษี = 2,000,000 บาท กาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชี = 62,500 บาท = 1,937,500 บาท หกั รายจ่ายท่ีเป็นค่าใชจ้ ่ายเพิม่ ข้ึน กาไรสุทธิเพือ่ เสียภาษี 4.3.2.2.รายจ่ายเพมิ่ ค่าครองชีพพเิ ศษให้แก่ลูกจ้าง ยกเวน้ ภาษีเงินได้ สาหรับจานวนเงินรายจา่ ยท่ีไดจ้ ่ายไปเป็นเงินเพมิ่ คา่ ครองชีพพเิ ศษใหแ้ ก่ลูกจา้ ง เป็นจานวนร้อยละ 50 ของรายจา่ ยที่จา่ ยไปเป็นเงินเพมิ่ ค่าครองชีพพเิ ศษแก่ลูกจา้ งตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ท่ี 438) ท้งั น้ีตอ้ งเป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการและเง่ือนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกาหนด

4.3.2.3.รายจ่ายในการส่งลกู จ้างเข้ารับการศึกษาและฝึ กอบรม ยกเวน้ ภาษีเงินได้ สาหรับรายจา่ ยที่จ่ายไปเป็นคา่ ใชจ้ ่ายในการส่งลูกจา้ งเขา้ รับการศึกษา ฝึกอบรม ฝึกเตรียมเขา้ ทางาน เป็นจานวนร้อยละ 100 ของรายจา่ ยดงั ต่อไปน้ี (1) รายจ่ายที่ไดจ้ ่ายไปเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยในการส่งลูกจา้ งของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั เขา้ รับการศึกษาหรือฝึกอบรมในสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมวชิ าชีพท่ีทางราชการจดั ข้ึนหรือท่ีรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั กาหนด ตามพระราชกฤษฎีการฯ (ฉบบั ที่ 437) (2) รายจ่ายท่ีไดจ้ ่ายไปเป็นค่าใชจ้ า่ ยในการฝึกอบรมใหแ้ ก่ลูกจา้ งของบริษทัหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั ตามพระราชกฤษฎีการฯ (ฉบบั ท่ี 437) ท้งั น้ี ตอ้ งเป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขท่ีอธิบดีกรมสรรพากรประกาศกาหนด (3) รายจา่ ยที่ไดจ้ ่ายไปเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยในการฝึกเตรียมเขา้ ทางานเพอื่ ประโยชน์ของกิจการผดู้ าเนินการฝึก ตามพระราชกฤษฎีการฯ (ฉบบั ที่ 437)4.3.2.4.รายจ่ายค่าจ้างเพื่อทาการวจิ ัยและพฒั นาเทคโนโลยี ยกเวน้ ภาษีเงินได้ สาหรับเงินไดท้ ่ีจ่ายไปเป็นค่าจา้ ง หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานวจิ ยั ของเอกชนที่กระทรวงการคลงั รับรองเพ่ือทาการวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยเี ป็นจานวนเงินร้อยละ 100 ของรายจ่ายดงั กล่าว (พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที่ 297) พ.ศ. 2539)ตวั อยา่ งท่ี บริษทั เอไอบี จากดั มีกาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน 8,000,000 บาท จากการตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริงปรากฏวา่ มีรายจา่ ยค่าจา้ งทาวจิ ยั และพฒั นาผลิตภณั ฑร์ วมอยดู่ ว้ ย 300,000 บาทกาไรสุทธิทางบญั ชีการเงินกบั กาไรสุทธิทางภาษีแตกตา่ งกนั หรือไม่วเิ คราะห์รายการ บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายจ่ายตามท่ีจา่ ยจริง หกั เป็นรายจา่ ยไดเ้ พม่ิ ข้ึนอีก 100% ของ = 300,000 บาท รายจา่ ยจริงเทา่ กบั 300,000 บาทคานวณกาไรสุทธิเพ่อื เสียภาษี กาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน = 8,000,000 บาทหัก รายจา่ ยท่ีจ่ายไดเ้ พม่ิ ข้ึน: ค่าจา้ งทาวจิ ยั = 300,000 บาท กาไรสุทธิเพอ่ื เสียภาษี = 7,700,000 บาท 4.3.2.5.รายจ่ายทไี่ ด้รับสิทธิจากการส่งเสริมการลงทุน ยกเวน้ ภาษีเงินได้ สาหรับรายจ่ายท่ีไดจ้ ่ายไปเป็นคา่ ใชจ้ ่ายในการประกอบกิจการท่ีไดร้ ับการส่งเสริมการลงทุน ตามพ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 และที่แกไ้ ขเพม่ิ เติม ไดแ้ ก่ (1) รายจา่ ยคา่ ขนส่ง ค่าไฟฟ้า และค่าประปาเป็นจานวนร้อยละ 100 ของจานวน

เงินท่ีผไู้ ดร้ ับการส่งเสริมไดเ้ สียไปเป็นค่าใชจ้ า่ ยในการประกอบกิจการท่ีไดร้ ับการส่งเสริมการลงทุน (2) รายจ่ายในการติดต้งั หรือก่อสร้างส่ิงอานวยความสะดวกในการประกอบกิจการที่ไดร้ ับการส่งเสริมการลงทุนตามหลกั เกณฑท์ ่ีคณะกรรมการพิจารณากาหนดจากกาไรไมเ่ กินร้อยละ 25 ของเงินท่ีลงทุนแลว้ 4.3.2.6.รายจ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษายกเวน้ ภาษีเงินได้ สาหรับรายจา่ ยที่ไดจ้ ่ายไปเป็นคา่ ใชจ้ ่ายเพ่อื สนบั สนุนการศึกษา ซ่ึงเป็นค่าใชจ้ ่ายสาหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการใหค้ วามเห็นชอบ 2 เทา่ ของรายจ่ายท่ีจ่ายไปเป็นรายจ่ายเพ่อื สนบั สนุนการศึกษาตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ท่ี 420) ท้งั น้ีต้องไม่เกนิ ร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิ สาหรับรายจ่ายเพ่ือสนบั สนุนการศึกษา ส่วนที่เกินร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิ ท่ีหกั เป็นรายจา่ ยไมไ่ ดแ้ ละไดจ้ ่ายไปจริง สามารถนามารวมกบั รายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา แลว้ หกัเป็นรายจ่ายไดอ้ ีกแต่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิตวั อยา่ งที่ มีกาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน 2,000,000 บาท มีรายจา่ ยคา่ บริจาคเงินเพือ่สนบั สนุนการศึกษาตามโครงการก่อสร้างอาคารเรียนของกระทรวงศึกษาธิการเป็นเงิน 300,000 บาทรวมอยดู่ ว้ ย ใหค้ านวณหากาไรสุทธิเพื่อเสียภาษีวเิ คราะห์รายการตามเง่ือนไขของกฎหมายภาษี บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีบนั ทึกเป็นรายจา่ ยเท่าท่ีจ่ายจริง - หกั เป็นรายจา่ ยไดเ้ พมิ่ ข้ึน ร้อยละ 200 ของที่จา่ ยจริงคือ= 300,000 บาท ก6=0า0ร2,ศ009ึก0,ษ009าบ0เทา.9ท่า1กแบบัต่ไ(า2ทม,0่เก0ิน01,101100000%+ข3อ0ง0ก,0า0ไ0ร)สXุทธิก่อนหกั เงินสนบั สนุน เนื่องจาก 200% ของรายจ่ายจริงมากกว่าร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิ ดงั น้นั ให้หักเป็ นรายจ่ายไดเ้ พยี ง 209,090.91 บาท สาหรับรายจ่ายเพ่ือสนบั สนุนการศึกษาส่วนที่มากกวา่ รายจา่ ยจริง (300,000 – 209,090,91) เท่ากบั 90,909.09 บาท ใหน้ าไปรวมกบั รายจา่ ยเพอื่ การศึกษาและกีฬาแลว้ หกั เป็นรายจ่ายไม่เกิน 2% ของกาไร สุทธิ 2 102 (2,000,000 + 90,909,09) X = 40,998.22 บาท ส่วนที่เกินร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิ(90,909.09 – 40,998.22) = 49,910.87 บาทใหน้ าไปบวกกลบั เป็นกาไรสุทธิเพอื่ เสีย ภาษี

คานวณกาไรสุทธิเพอ่ื เสียภาษีกาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน = 2,000,000 บาทบวก รายจา่ ยเพอ่ื สนบั สนุนการศึกษาส่วนท่ีเกินร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิ = 90,909.09 บาทรวมกาไรสุทธิ = 2,090,909.09 บาทบวก รายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือการกีฬา = 49,910.87 บาทกาไรสุทธิเพอื่ เสียภาษี = 2,049,910.87 บาท4.3.2.7.รายจ่ายเพ่ือสนับสนุนด้านการเรียนรู้และนันทนาการยกเวน้ ภาษีเงินได้ สาหรับรายจ่ายที่ไดจ้ ่ายเป็นคา่ ใชจ้ ่ายในการจดั สร้างและการบารุงรักษาสนามเดก็ เล่น สวนสาสาธารณะ หรือสนามกีฬาเอกชนท่ีเปิ ดใหป้ ระชาชนใชเ้ ป็นการทวั่ ไป โดยไม่เก็บค่าบริการใด ๆ หรือสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของทางราชการเป็นจานวนร้อยละ 200 ของรายจ่ายท่ีไดจ้ ่ายไปเป็นรายจา่ ยเพอ่ื สนบั สนุนดา้ นการเรียนรู้และนนั ทนาการ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที่ 428) แต่ท้งั น้ีตอ้ งไม่เกินร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิตวั อยา่ ง กาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีท่ีรับรองทวั่ ไป 200,000 บาท มีรายจ่ายเพื่อสนบั สนุนดา้ นการเรียนรู้และนนั ทนาการ 5,000 บาท ใหว้ เิ คราะห์รายการและคานวณหากาไรสุทธิเพ่ือเสียภาษีวเิ คราะห์รายการ บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายจ่ายตามที่เกิดจริง หกั เป็นรายจ่ายไดเ้ พม่ิ ข้ึนอีก 200%ของรายจา่ ย = 5,000บาท จริง = 10,000 บาท แตต่ อ้ งไมเ่ กินร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิ - กาไรสุทธิก่อนหกั รายจา่ ยเพื่อสนบั สนุนดา้ น การเรียนฯ = (200,000 + 5,000) = 205,000 - บาท 10 ) ร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิ (205,000 X 110 = 18,636.36 บาทรายการปรับปรุงกาไรสุทธิ: ใหน้ ารายจ่ายที่หกั ไดเ้ พิ่มข้ึนจานวน 10,000 บาทไปหกั ออกจากกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีที่รับรองทว่ั ไป

คานวณกาไรสุทธิเพือ่ เสียภาษีกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีท่ีรับรองทวั่ ไป = 200,000 บาทหกั รายจา่ ยท่ีหกั ไดเ้ พ่ิมข้ึนรายจา่ ยเพ่ือสนบั สนุนดา้ นการเรียนฯ = 10,000 บาทกาไรสุทธิเพ่ือเสียภาษี = 90,000 บาท4.3.2.8.รายจ่ายเพ่ือสนับสนุนการกฬี าตามโครงการตามยุทธศาสตร์ 4 ปี สร้างกฬี าชาติยกเวน้ ภาษีเงินได้ สาหรับรายจ่ายท่ีไดจ้ ่ายเป็นค่าใชจ้ ่ายเพื่อสนบั สนุนดา้ นการกีฬาตามโครงการตามยทุ ธศาสตร์ 4 ปี สร้างกีฬาชาติ (พ.ศ.2548 – 2551) เป็นจานวน 1.5 เท่าของรายจ่ายที่ได้จา่ ยไปเป็นคา่ ใชจ้ ่ายเพ่อื สนบั สนุนดา้ นการกีฬาตามโครงการฯ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที่ 458)ท้งั น้ีตอ้ งไม่เกินร้อยละ 20 ของกาไรสุทธิสาหรับรายจา่ ยเพ่ือสนบั สนุนการกีฬาตามโครงการฯ ส่วนทเ่ี กนิ ร้อยละ 20 ของกาไรสุทธิที่หกั เป็นรายจา่ ยไมไ่ ดแ้ ละไดจ้ า่ ยไปจริง สาสมารถนามารวมกบั รายจ่ายเพ่ือการศึกษาหรือเพื่อการกีฬา แลว้ หกั เป็นรายจา่ ยไดอ้ ีกแตไ่ มเ่ กินร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิตวั อยา่ งท่ี กาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน 3,000,000 บาท มีรายจา่ ยค่าบริจาคเงินเพือ่ สนบั สนุนการกีฬาตามโครงการฯ เป็นเงิน 100,000 บาทรวมอยดู่ ว้ ย ใหค้ านวณหากาไรสุทธิเพ่ือเสียภาษีวเิ คราะห์รายการ บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายจา่ ยตามท่ีเกิดจริง หกั เป็นรายจ่ายไดเ้ พม่ิ ข้ึนอีก 1.5 เทา่ ของรายจา่ ย จริง = 150,000 บาท แต่ตอ้ งไมเ่ กินร้อยละ 20 = 100,000บาท ของกาไรสุทธิ(400,000 X 20/120)=516,666.67รายการปรับปรุงกาไรสุทธิ: ใหน้ ารายจา่ ยที่หกั ไดเ้ พิม่ ข้ึนจานวน 10,000 บาทไปหกั ออกจากกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีท่ีรับรองทว่ั ไป 150,000 บาทวธิ ีคานวณ = 3,000,000 บาท กาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน หกั รายจ่ายที่กฎหมายใหห้ กั เพิ่ม = 50,000. บาท - เงินสนบั สนุนการกีฬาตามโครงการฯ = 2,950,000 บาท กาไรสุทธิเพื่อเสียภาษี

4.3.2.9.รายจ่ายเพ่ือการลงทุนหรือทาให้ทรัพย์สินดีขึน้ ยกเวน้ ภาษีเงินได้ สาหรับรายจา่ ยท่ีไดจ้ ่ายเป็นการลงทุนหรือการต่อเติมเปลี่ยนแปลงขยายออก หรือทาใหด้ ีข้ึนซ่ึงทรัพยส์ ิน แต่ไมใ่ ช่เป็นการซ่อมแซมใหค้ งสภาพเดิม ตามมาตรา 65 ตรี(5) แห่งประมวลรัษฎากร เป็ นจานวนร้อยละ 25 ของเงินไดท้ ่ีจา่ ยไปน้นั โดยการดาเนินการดงั กล่าวตอ้ งเก่ียวเน่ืองกบั ธุรกิจหลกั ของกิจการและจดั ทาเป็นโครงการทม่ี ีมูลค่าต้งั แต่ 5 ล้านบาทขนึ้ ไป ท้งั น้ีตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขท่ีอธิบดีกรมสรรพากรประกาศกาหนด และตอ้ งจ่ายภายใน 5รอบระยะเวลาบญั ชีที่เร่ิมในหรือหลงั วนั ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2549 เป็นตน้ ไป 4.3.2.10. รายจ่ายเพม่ิ อ่ืนทนี่ อกเหนือ ทกี่ ล่าวมาข้างต้น ไดแ้ ก่ (1) รายจา่ ยที่ไดจ้ ่ายไปเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยในการจดั อุปกรณ์ท่ีอานวยความสะดวกโดยตรงแก่คนพกิ าร (มาตรา 18 วรรคหน่ึง แห่ง พ.ร.บ. การฟ้ื นฟูสมรรถภาพคนพกิ าร พ.ศ.2534) (2) รายจ่ายที่ไดจ้ า่ ยไปเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยท่ีจ่ายใหแ้ ก่คนพิการที่รับเขา้ ทางาน(มาตรา 18 วรรคหน่ึง แห่ง พ.ร.บ. การฟ้ื นฟูสมรรถภาพคนพกิ าร พ.ศ. 2534) (3) เงินที่บริจาคใหก้ องทุนปลูกป่ าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั เน่ืองในวโรกาสทรงครองสิริราชยป์ ี ท่ี 50 ซ่ึงไดร้ ับยกเวน้ ในปี ที่ 1 ปี ท่ี 2 ปี ท่ี 3 4.4. อตั ราภาษี อตั ราภาษีเงินไดน้ ิติท่ีคานวณจากฐานกาไรสุทธิโดยทวั่ ไป ร้อยละ 30 ของกาไรสุทธิ แต่เพ่ือเป็นส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงไดม้ ีการลดอตั ราภาษีลง ซ่ึงไดส้ รุปไวใ้ นตารางขา้ งล่างน้ี

4.5. การคานวณภาษเี งินได้นิติบุคคล และการยื่นแบบแสดงรายการและ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลท่ีมีหนา้ ที่ตอ้ งเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากฐานกาไรสุทธิจะตอ้ งคานวณภาษีและยน่ื แบบแสดงรายการและชาระภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ในแต่ละรอบระยะเวลาบญั ชี 2 คร้ัง คือ (1) ยนื่ แบบแสดงรายการและชาระภาษีคร่ึงรอบระยะเวลาบญั ชี และ (2) ยนื่ แบบแสดงรายการและชาระภาษีตอนสิ้นรอบระยะเวลาบญั ชี4.5.1 การเสียภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบญั ชีตามมาตรา 67 ทวิ (1) แห่งประมวลรัษฎากร ไดก้ าหนดใหบ้ ริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลท่ีมีหนา้ ที่เสียภาษีเงินไดจ้ ากฐานกาไรสุทธิจะตอ้ งจดั ประมาณการกาไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิซ่ึงไดจ้ ากการดาเนินกิจการหรือเน่ืองจากการดาเนินกิจการในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั แลว้ ใหค้ านวณภาษีและชาระภาษีจากก่ึงหน่ึงของกาไรสุทธิในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นัตวั อยา่ ง บริษทั กอไก่ จากดั เป็นบริษทั ที่จดทะเบียนจดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย ได้จดั ทาประมาณการกาไรสุทธิในรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีสิ้นสุดเพียงวนั ที่ 31 ธนั วาคม 25x2 ดงั น้ี- ประมาณการรายรับก่อนหกั รายจ่าย = 20,000,000 บาท- ประมาณการกาไรสุทธิ = 5,000,000 บาทบริษทั กอไก่ จากดั มีทุนจดทะเบียนในวนั ท่ี 31 ธนั วาคม 25x2 จานวน 6ลา้ นบาท บริษทั ฯ จะตอ้ งเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลคร่ึงรอบระยะเวลาบญั ชีดงั น้ี- คร่ึงหน่ึงของประมาณการกาไรสุทธิ = 2,500,000 บาท- ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล 30% = (2,500,000 X 30 %) = 750,000 บาทและจะตอ้ งยนื แบบแสดงรายการและชาระภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลตามแบบ ภ.ง.ด.51 ภายในสองเดือนนบั วนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชีหกเดือนแรก ดงั น้ี



ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากประมาณการกาไรสุทธิ ใหถ้ ือเป็ นเครดิตในการเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบญั ชี คือนาไปหกั ออกจากภาษีท่ีจะตอ้ งเสียจากกาไรสุทธิของท้งั รอบระยะเวลาบญั ชี

ในกรณีที่บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลดงั กล่าว ไม่ย่ืนรายการและชาระภาษีจากประมาณการกาไรสุทธิ หรือยื่นรายการและชาระภาษีจากประมาณการกาไรสุทธิโดยแสดงประมาณการกาไรสุทธิขาดไปเกนิ ร้อยละ 25 ของกาไรสุทธิในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั โดยไม่มีเหตุผลอนั สมควรบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลน้นั จะตอ้ งถูกลงโทษเสียเงนิ เพม่ิ อกี ร้อยละ 20 ของจานวนเงินภาษีท่ีตอ้ งชาระ จากประมาณการกาไรสุทธิหรือของก่ึงหน่ึงของจานวนเงินภาษีที่ตอ้ งเสียในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั หรือของภาษีที่ชาระขาดแลว้ แตก่ รณี ตวั อยา่ ง บริษทั สยาม จากดั เป็นบริษทั ที่จดทะเบียนจดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย ไดแ้ สดงประมาณการกาไรสุทธิเป็นจานวนเงิน 6,000,000 บาท และกาไรสุทธิที่เกิดข้ึนจริง 9,000,000 บาทไดเ้ สียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลคร่ึงรอบระยะเวลาบญั ชี 900,000 บาทไปแลว้ บริษทั ฯ จะตอ้ งเสียเงินเพ่ิมดงั น้ี กาไรสุทธิท่ีเกิดข้ึนจริง = 9,000,000 บาท ประมาณการกาไรสุทธิ = 6,000,000 บาท ประมาณการกาไรสุทธิต่ากวา่ กาไรสุทธิจริง 3,000,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 33 ซ่ึงเป็นการประมาณการกาไรสุทธิขาดไปเกินร้อยละ 25 ของกาไรสุทธิที่เกิดจริง ดงั น้นั จะตอ้ งเสียเงินเพ่ิมอีกร้อยละ 20 ดงั น้ี 1) ถา้ หากคานวณจากประมาณการกาไรสุทธิตามมาตรา 67 ทวิ (1) คานวณดงั น้ี - จานวนเงินภาษีท่ีตอ้ งชาระจากประมาณการกาไรสุทธิ 30% = 900,000 บาท - เงินเพิ่มร้อยละ 20 ของ 900,000 บาท = 180,000 บาท 2) ถา้ หากคานวณจากก่ึงหน่ึงจานวนเงินภาษีที่ตอ้ งชาระในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั คานวณดงั น้ี - จานวนเงินภาษีที่ตอ้ งชาระในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั ร้อยละ 30 = 2,700,000 บาท - ก่ึงหน่ึงของจานวนเงินภาษีท่ีตอ้ งชาระในรอบฯ = 1,350,000 บาท - เงินเพม่ิ ร้อยละ 20 ของ 1,350,000 บาท = 270,000 บาท 3) ถา้ หากคานวณจากจานวนเงินภาษีท่ีชาระขาด คานวณดงั น้ี - ก่ึงหน่ึงของจานวนเงินภาษีที่ตอ้ งชาระในรอบฯ น้นั ร้อยละ 30 = 1,350,000 บาท - จานวนเงินภาษีท่ีชาระจากประมาณการกาไรสุทธิคร่ึงรอบฯ = 900,000 บาท - จานวนเงินภาษีที่ชาระขาด (1,350,000 – 900,000) = 450,000 บาท ในกรณีที่เป็นบริษทั หรือนิติบุคคลต่อไปน้ี (1) บริษทั จดทะเบียนกบั ตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย (2) ธนาคารพาณิชยต์ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยการธนาคารพาณิชย์ (3) บริษทั เงินทุน บริษทั หลกั ทรัพย์ หรือบริษทั เครดิตฟองซิเอร์ ตามกฎหมายวา่ดว้ ยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลกั ทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์

(4) บริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขท่ีอธิบดีกาหนด ใหค้ านวณภาษีเงินไดจ้ ากกาไรสุทธิของรอบระยะเวลาบัญชีหกเดือนนบั แต่วนั แรกของรอบระยะเวลาบญั ชีตามเง่ือนไขที่กาหนดไวใ้ นมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี ในกรณีที่บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล มีรอบระยะเวลาบญั ชีแรก หรือรอบระยะเวลาบญั ชีสุดทา้ ยน้อยกว่าสิบสองเดือนก็ไมต่ อ้ งเสียภาษีเงินไดค้ ร่ึงรอบระยะเวลาบญั ชี 4.5.2 การเสียภาษีเงนิ ได้นิติบุคคลตอนสิ้นรอบระยะเวลาบญั ชี บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลท่ีตอ้ งเสียภาษีจากฐานกาไรสุทธิ จะตอ้ งคานวณกาไรสุทธิจากรายไดจ้ ากกิจการ หรือเน่ืองจากกิจการ ท่ีกระทาในรอบระยะเวลาบญั ชีหกั ดว้ ยรายจ่ายตามเง่ือนไขท่ีระบุไวใ้ นมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แลว้ ยน่ื เสียภาษีภายใน 150 วนั นบั แต่วนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี เน่ืองการจดั ทาบญั ชีของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติเป็นการจดั ทาตามหลกั การบญั ชีท่ีรับรองทว่ั ไป แลว้ จึงปรับปรุงกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีที่รับรองทวั่ ไปดงั กล่าวใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขที่บญั ญตั ิไวใ้ นประมวลรัษฎากร แลว้ จึงคานวณภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากกาไรสุทธิที่ปรับปรุงแลว้ โดยมีหลกั เกณฑแ์ ละข้นั ตอนดงั ต่อไปน้ี กาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีการเงิน = xxx บวก รายไดท้ ่ีใหถ้ ือเป็ นรายไดต้ ามประมวลรัษฎากร xx รายจ่ายทีไมถ่ ือเป็นรายจ่ายตามประมวลรัษฎากร xx = xx รวมกาไรสุทธิ = xxx หกั รายไดท้ ี่กฎหมายยกเวน้ ภาษี xx รายจ่ายท่ีกฎหมายใหห้ กั เพิม่ xx ผลขาดทุนสุทธิไม่เกิน 5 ปี ตามมาตรา 65 ตรี (12) xx = xx คงเหลือกาไรสุทธิ = xxx บวก รายจ่ายเพือ่ สนบั สนุนการศึกษา รายจา่ ยเพ่ือสนบั สนุน ดา้ นการเรียนรู้และนนั ทนาการ ส่วนท่ีเกินร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิ = xx รายจ่ายเพอื่ การสนบั สนุนการกีฬาของโครงการฯส่วนที่เกิน ร้อยละ 20 ของกาไรสุทธิ = xx รายจ่ายเพื่อการกศุ ลสาธารณะ สาธารณประโยชน์ ส่วนท่ีเกิน ร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิ = xx รายจา่ ยเพ่ือการศึกษา การกีฬา ส่วนท่ีเกินร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิ = xx กาไรสุทธิตามประมวลรัษฎากร = xx ภาษีเงินได้นิตบิ ุคคลทตี่ ้องชาระ = กาไรสุทธิตามประมวลรัษฎากร X อตั ราภาษี

ตวั อยา่ ง บริษทั ประชาธิปไตย จากดั จดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย เป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพ่มิ ในรอบระยะเวลาบญั ชีที่เร่ิมตน้ วนั ที่ 1 มกราคม และสิ้นสุดวนั ท่ี 31 ธนั วาคม25x1 มีทุนชาระแลว้ 7,000,0000 บาท รายรับก่อนหกั รายจา่ ย 13,000,000 บาท กาไรสุทธิตามหลกัการบญั ชีที่รับรองทว่ั ไปจานวน 6,000,000 บาท แตจ่ ากการตรวจสอบขอ้ เท็จจริงปรากฏรายการเหล่าน้ีรวมอยดู่ ว้ ย 1) ค่ารับรองลูกคา้ ท่ีจ่ายเป็นคา่ อาหาร ค่าเคร่ืองด่ืม คา่ ที่พกั ฯ เป็นจานวนเงิน 156,000 บาท (รวมภาษีมูลคา่ เพิ่มร้อย 7) 2) ไดร้ ับเงินปันผลจากบริษทั เอกชนไทย จากดั ซ่ึงต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย 100,000 บาท และไดร้ ับส่วนแบ่งกาไรจากหา้ งหุน้ ส่วนจากดั ชลบุรี 30,000 บาท 3) ซ้ือรถยนตน์ งั่ เพื่อใชใ้ นกิจการ 1 คนั เม่ือวนั ที่ 1 กรกฎาคม 25x1 เป็นเงิน 1,320,000 บาท (รวมภาษีมูลคา่ เพิม่ ร้อยละ 7) คิดคา่ เสื่อมราคาวธิ ีเส้นตรงในอตั ราร้อยละ 20 เป็นเงิน 132,000 บาท 4) จ่ายเงินสนบั สนุนการศึกษาในโครงการก่อสร้างอาคารเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นเงิน 200,000 บาท ใหว้ เิ คราะห์รายการขอ้ เทจ็ จริงตามหลกั กฎหมายภาษีและคานวณภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลวเิ คราะห์รายการ บญั ชีภาษีอากร รายการที่ 1 ค่ารับรองลูกคา้ บญั ชีการเงินบนั ทึกบญั ชีเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยแลว้ 156,000บาท บนั ทึกเป็นค่าใชจ้ า่ ยไดไ้ ม่เกินร้อยละ 0.3 ของทุนชาระแลว้ หรือของรายรับก่อนหกั รายจ่าย แลว้ แต่อยา่ งใดจะมากกวา่ - ทุนชาระแลว้ 7 ลา้ นบาท - รายรับก่อนหกั รายจ่าย 13ลา้ นบาท - ค่ารับรองท่ีบนั ทึกเป็ นรายจา่ ยตาม ม.65 ตรี (4) ได้ (13,000,000 X 0.3%) เทา่ กบั 39,000บาท ดงั น้นั ค่ารับรองที่บนั ทึก เป็ นรายจ่ายไม่ได้ (156,000 – 39,000) = 117,000 บาทการปรับปรุงกาไรสุทธิ : จะตอ้ งนารายจา่ ยท่ีไมถ่ ือเป็นรายจ่ายบวกกลบั 117,000บาท

รายการท่ี 2 เงินปันผลที่ไดร้ ับจากบริษทั ที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทยบญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายไดท้ ้งั จานวน = 130,000 บริษทั ประชาธิปไตย จากดั เป็นบริษทั ท่ีบาท จดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย แต่ไม่ไดจ้ ด ทะเบียนกบั ตลาดหลกั ทรัพยฯ์ ดงั น้นั จึงมี สิทธิไดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินไดก้ ่ึงหน่ึง ตาม มาตรา 65 ทวิ (10) 1. ที่ไดร้ ับจากบริษทั เอกชนไทยจากดั จะไดร้ ับยกเวน้ ภาษีก่ึงหน่ึง = 50,000 บาท 2. ที่ไดร้ ับจาก หจก.ชลบุรี ไมไ่ ดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินได้การปรับปรุงกาไรสุทธิ : จะตอ้ งนารายไดท้ ่ีไดร้ ับยกเวน้ ภาษีมาหกั ออก 50,000บาทรายการที่ 3 คา่ เส่ือมราคารถยนตน์ ง่ั บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายจา่ ยแลว้ 132,000 บาท - ตน้ ทุนในการคานวณค่าเสื่อมราคา รถยนตน์ งั่ ตอ้ งไม่เกิน 1,000,000บาท (รวมภาษีมูลค่าเพ่มิ ) - คา่ เส่ือมราคารถยนตน์ ง่ั ตามหลกั กฎหมาย ภาษีเท่ากบั 1,000,000 X 20 X 184 100 365 = 100,821.92 บาท ดงั ค่าเสื่อมราคาที่นามาหกั เป็ นคา่ ใชจ้ า่ ย ไมไ่ ด้ (132,000 – 100,821.92) = 31,178.08การปรับปรุงกาไรสุทธิ : จะตอ้ งนารายจา่ ยที่ไม่ถือเป็นรายจ่ายมาบวกกลบั 31,178.08บาท

รายการท่ี 4 รายจ่ายที่จ่ายสนบั สนุนการศึกษา บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายจา่ ยแลว้ 200,000 บาท - รายจ่ายเพื่อสนบั สนุนการศึกษาใหน้ ามาบนั ทึก เป็นรายจ่ายได้ 2 เท่า ของราจ่ายท่ีไดจ้ า่ ยไปจริง (200,000 ×2 ) = 400,000บาท แต่ตอ้ งไม่เกินร้อย ละ 10 ของกาไรสุทธิ - กาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชี ( 6,000,000 + 117.000 + 31,178.08 + 200,000 – 50,000) = 6,298,178.08 - ร้อยละ 10 ของ 6,298.178.08 = 6,298.178.08 X 10 = 572,561.69 110 เม่ือเปรียบเทียบระหวา่ ง 2 เทา่ ของรายจา่ ยเพ่ือ สนบั สนุนการศึกษา ท่ีจา่ ยไปจริง กบั ร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิ ปรากฏวา่ 2 เทา่ ของรายจ่ายจริงไม่ เกินร้อยละ 10 ดงั น้นั จึงไดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินได้ สารับรายจา่ ยเพื่อสนบั สนุนการศึกษาดงั กล่าว = 2 เท่าคือ 400,000บาทการปรับปรุงกาไรสุทธิ : ใหน้ ารายจา่ ยเพื่อสนบั สนุนการศึกษาไปหกั ออกอีก 200,000บาทคานวณหากาไรสุทธิเพ่ือเสียภาษีกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีท่ีรับรองทว่ั ไป = 6,000,000 บาทบวก รายจา่ ยทีไมถ่ ือเป็นรายจ่ายตามประมวลรัษฎากร = 148,178.08 บาท = 6,148,178.08 บาท- คา่ รับรองส่วนที่เกินร้อยละ 0.3 117,000 = 250,000 บาท- คา่ เส่ือมราคาส่วนเกิน 31,178.08 = 5,898,178.08 บาท = 1,769,453.42 บาทรวมกาไรสุทธิหกั รายจ่ายที่กฎหมายใหห้ กั เพ่ิม- รายไดท้ ่ีไดร้ ับยกเวน้ ภาษี 50,000- รายจ่ายเพ่อื สนบั สนุนการศึกษา 200,000คงเหลือกาไรสุทธิเพื่อเสียภาษีภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลที่ตอ้ งชาระ (5,898,178.08 × 30%)

ตวั อยา่ ง บริษทั บูรพา (มหาชน) จากดั เป็ นบริษทั จดทะเบียน( เสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลในอตั ราร้อยละ 25 ของกาไรสุทธิ) และเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพิม่ ในรอบระยะเวลาบญั ชี25x3 มีทุนชาระแลว้ 250 ลา้ นบาท มีรายรับก่อนหกั รายจ่าย 280 ลา้ นบาท มีกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีท่ีรับรองทว่ั ไป 80 ลา้ นบาท จากการตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริงปรากฏวา่ มีรายการเหล่าน้ีรวมอยดู่ ว้ ย1) หน้ีสูญจานวน 500,000 บาท เป็นการจาหน่ายหน้ีสูญจากบญั ชีลูกหน้ีจานวน 3 รายดงั น้ี- รายท่ี 1 จานวนหน้ี 80,000 บาท- รายที่ 2 จานวนหน้ี 200,000 บาท- รายท่ี 3 จานวนหน้ี 220,000 บาทในการจาหน่ายลูกหน้ีเป็นหน้ีสูญท้งั 3 ราย น้นั กิจการไดต้ ิดตามทวงถามโดยมีหลกั ฐานตามสมควรแลว้ ไม่ไดร้ ับชาระหน้ีจึงตดั เป็ นหน้ีสูญ2) คา่ ภาษีมูลค่าเพิม่ 210,000บาท เบ้ียปรับเงินเพิม่ และคา่ ปรับทางอาญาเกี่ยวกบัภาษีมูลค่าเพม่ิ 75,000 บาท3) ค่าเช่ารถยนตน์ งั่ 1 คนั คา่ เช่าเดือนละ 38,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพม่ิ ร้อยละ 7)4) ค่าเช่ารถบรรทุก 1 คนั ค่าเช่าเดือนละ 35,000 บาท (รวมภาษีมูลคา่ เพ่มิ ร้อยละ 7)5) เงินปันผลรับ 300,000 บาท ไดร้ ับจากบริษทั ท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย6) คา่ จา้ งเพ่อื การวจิ ยั ผลิตภณั ฑแ์ ละเทคโนโลยี 300,000 บาท เป็นการหน่วยงานของมหาวทิ ยาลยั ของรัฐ7) รายจ่ายเพื่อการสนบั สนุนการศึกษา 100,000 บาท เพ่ือการกุศลสาธารณะ 250,000บาทเพอ่ื สนบั สนุนการกีฬาใหแ้ ก่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย 150,000 บาท8) ค่ารับรองลูกคา้ ท่ีเป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขท่ีกาหนดในกฎกระทรวง321,000บาท (รวมภาษีมูลคา่ เพม่ิ ร้อยละ 7)ใหว้ เิ คราะห์รายการ คานวณกาไรสุทธิเพ่อื เสียภาษีและคานวณภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลวเิ คราะห์รายการรายการที่ 1 หน้ีสูญ บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายจา่ ยแลว้ 500,000บาท ลกู หนี้รายท่ี 1 จานวน 80,000บาท ไดต้ ิดตาม ทวงถามโดยมีหลกั ฐานตามสมควรแลว้ ก็ จาหน่ายเป็นหน้ีสูญแลใหถ้ ือเป็นรายจา่ ยได้ ลูกหนี้รายท่ี 2 และรายที่ 3 ซ่ึงมีจานวนหน้ีแต่ ละรายเกิน 100,000บาทแตไ่ ม่เกิน 500,000 บาท จะตอ้ งดาเนินการฟ้องศาลและศาลไดม้ ีคาสั่งรับ ฟ้องแลว้ จึงตดั เป็นหน้ีสูญได้

รายการที่ 2 ภาษีมูลคา่ เพิม่บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากร1. ภาษีมูลค่าเพม่ิ บนั ทึกเป็นรายจา่ ยแลว้ 1.เน่ืองบริษทั บูรพา (มหาชน) จากดั เป็น 210,000 บาท ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิม่ ท่ี2. เบ้ียปรับเงินเพมิ่ ค่าปรับทางอาญา บนั ทึก คานวณจากภาษีขาย – ภาษีซ้ือ จึงตอ้ งบวกเป็นรายจา่ ยแลว้ 75,000 บาท กลบั ท้งั จานวน 2. เบ้ียปรับเงินเพ่มิ คา่ ปรับทางอาญา ไม่ถือ เป็ นค่าใช้จ่าย จึงตอ้ งบวกกลบั ท้งั จานวนการปรับปรุงกาไรสุทธิ: บวก รายจา่ ยที่ไมถ่ ือเป็นคา่ ใชจ้ า่ ย 285,000 บาทรายการที่ 3 ค่าเช่ารถยนตน์ ง่ับญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายจ่ายตามท่ีจ่ายจริง 38,000 รายจ่ายท่ีจา่ ยเป็นค่าเช่ารถยนตน์ งั่ รวมบาท ภาษีมูลคา่ เพมิ่ ใหบ้ นั ทึกเป็นค่าใชจ้ ่ายไดไ้ ม่ เกินเดือนละ 36,000 บาท ดงั น้นั ค่าเช่าส่วนท่ีเกิน 36,000 บาท จะตอ้ ง บวกกลบั (38,000 – 36,000) X 12 = 24,000 บาทการปรับปรุงกาไรสุทธิ: บวก รายจ่ายที่ไมถ่ ือเป็นคา่ ใชจ้ า่ ย = 24,000 บาทรายการท่ี 4 คา่ เช่ารถยนตบ์ รรทุก บญั ชีภาษีอากร บนั ทึกเป็นรายจ่ายตามที่จริง บญั ชีการเงินบนั ทึกเป็นรายจ่ายตามท่ีจริง การปรับปรุงกาไรสุทธิ: -

รายการท่ี 5 เงินปันผลรับบญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายไดท้ ้งั จานวน 300,000 บาท บริษทั จดทะเบียน จะไดร้ ับยกเวน้ ภาษีท้งั จานวนการปรับปรุงกาไรสุทธิ: นารายไดท้ ่ีไดร้ ับยกเวน้ ภาษี ไปหกั ออก 300,000 บาทรายการที่ 6 คา่ จา้ งเพอ่ื การวจิ ยั ผลิตภณั ฑแ์ ละเทคโนโลยีบญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายจา่ ยตามท่ีจริง300,000 บาท บนั ทึกเป็นรายจ่ายไดเ้ พิ่มข้ึนอีก 100 % ของ รายจ่ายจริง (300,000 X 100%)= 300,000บาทการปรับปรุงกาไรสุทธิ: นารายจา่ ยที่บนั ทึกเป็นรายจา่ ยไดเ้ พ่มิ ข้ึนไปหกั ออก 300,000 บาทรายการที่ 7 รายจา่ ยเพอ่ื การสนบั สนุนการศึกษา บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากร1. รายจา่ ยเพ่ือการสนบั สนุนการศึกษา บนั ทึกเป็นรายจา่ ยไดเ้ พม่ิ ข้ึนอีก 200 % ของ - บนั ทึกเป็นรายจา่ ยตามที่จริง 100,000 บาท รายจ่ายจริง (200,000 X 200%)= 400,000บาท แตไ่ ม่เกิน ร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิ - กาไรสุทธิ (80,000,000 + 420,000 + 285,000 + 24,000 +100,000 + 250,000 +150,000) = 80,929,000 บาท - Xร้อย1ล110ะ0 10 ของกาไรสุทธิ (80,929,000 ) = 7,357,181.82การปรับปรุงกาไรสุทธิ: นารายจา่ ยที่บนั ทึกเป็นรายจา่ ยไดเ้ พิม่ ข้ึนไปหกั ออก 400,000 บาท

2. รายจ่ายเพอ่ื การกุศลสาธารณะ หกั เป็นคา่ ใชจ้ ่ายไดเ้ ทา่ ที่จ่ายจริงแตไ่ ม่เกินร้อย 250,000บาท เพ่ือสนบั สนุนการกีฬา ละ 2 ของกาไรสุทธิก่อนหกั บริจาค ใหแ้ ก่คณะกรรมการการกีฬาแห่ง - ก4=0า10ไ,,ร50ส408ุท0,6ธ)3ิก=4่อ.86น02ห,5กั29บ,ร0ิจ00าคX(80,1920249,000 - ประเทศไทย 150,000 บาท - รายจ่ายเพื่อการกศุ ลสาธารณะที่จ่ายจริงไม่ เกินร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิ จึงไม่ต้อง ปรับปรุงรายการน้ี - รายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือการกีฬาท่ีจ่าย จริงไม่เกินร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิ จึงไม่ ต้องปรับปรุงรายการน้ีการปรับปรุงกาไรสุทธิ: -รายการที่ 8 ค่ารับรอง บญั ชีการเงิน บญั ชีภาษีอากรบนั ทึกเป็นรายจา่ ยตามท่ีจา่ ยจริง 321,000 บนั ทึกเป็นรายจา่ ยไดไ้ ม่เกินร้อยละ 0.3 ของบาท รายรับก่อนหกั รายจา่ ย (280,000,000 – 321,000) = 279,700,000 X 0.3% = 839,100 บาท - รายจา่ ยค่ารับรองที่จา่ ยจริง 321,000บาท เกินซ่ึงไม่เกินร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิ ดงั น้นั ไม่ตอ้ งปรับปรุงรายการน้ีการปรับปรุงกาไรสุทธิ: -

คานวณกาไรสุทธิเพื่อเสียภาษีวธิ ีคานวณกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีที่รับรองทวั่ ไป = 80,000,000 บาทบวก รายจ่ายทีไมถ่ ือเป็นรายจา่ ยตามประมวลรัษฎากร = 729,000 บาท = 80,729,000 บาท- หน้ีสูญ 420,000 = 300,000 บาท = 80,429,000 บาท- ภาษีมูลค่าเพม่ิ 210,000 = 20,107,250 บาท- เบ้ียปรับเงินเพิม่ คา่ ปรับทางอาญาฯ 75,000- ค่าเช่ารถยนตน์ ง่ั 24,000รวมกาไรสุทธิหกั รายไดท้ ่ีกฎหมายยกเวน้ ภาษี- เงินปันผลคงเหลือกาไรสุทธิเพ่อื เสียภาษีคานวณภาษีเงินได้นิติบุคคลภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลร้อยละ 25 ของ 80,429,000บาท 4.6. การย่ืนแบบแสดงรายการและชาระภาษีเงินได้นิติบุคคล บริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลท่ีเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากฐานกาไรสุทธิ จะตอ้ งยนื่แบบแสดงรายการและชาระภาษีภายในกาหนดเวลาดงั น้ี(1) การเสียภาษีเงินไดค้ ร่ึงรอบระยะเวลาบญั ชี กาหนดเวลา แบบแสดงรายการ(2) การเสียภาษีเงินไดต้ อนสิ้นรอบระยะเวลาบญั ชี ภายใน 2 เดือนนบั จากวนั สุดทา้ ย ภ.ง.ด. 51 ของหกเดือนแรกของรอบ ระยะเวลาบญั ชี ภ.ง.ด. 50 ภายใน 150 วนั นบั แตว่ นั สุดทา้ ย ของรอบระยะเวลาบญั ชี

แบบฝึ กหัดตอนที่ 1คาส่งัสมรรถนะที่พงึ ประสงคด์ า้ นความรู้1. ผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากฐานกาไรสุทธิ มีใครบา้ ง2. ใหอ้ ธิบายหลกั เกณฑใ์ นการรับรู้รายได้ รายจา่ ยตามหลกั กฎหมาภาษี3. จงอธิบายความหมายของคาวา่ “รายได”้ ตาม มาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร4. จงแหล่งที่มาของ “รายได”้ ที่จะตอ้ งเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล5. ใหอ้ ธิบายหลกั เกณฑก์ ารรับรู้รายไดต้ ามหลกั กฎหมายภาษีของกิจการต่อไปน้ี 5.1. ธนาคารและสถาบนั การเงินอื่น 5.2. บริษทั ประกนั ชีวิต 5.3. กิจการสนามกอลฟ์ 5.4. กิจการฝากขาย 5.5. กิจการรับเหมาก่อสร้าง6. ในการยกเวน้ ภาษีเงินได้ สาหรับเงินปันผลใหแ้ ก่บริษทั ที่จดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย น้นั จะตอ้ งมี หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขอยา่ งไรใหอ้ ธิบาย7. รายจา่ ยที่ใหบ้ นั ทึกเป็นค่าใชจ้ า่ ยไดเ้ พม่ิ ข้ึน ในการคานวณกาไรสุทธิเพอ่ื เสียภาษีเงินได้ มี อะไรบา้ ง8. บริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลท่ีเสียภาษีจากฐานกาไรสุทธิจะตอ้ งยน่ื แบบแสดงรายการและ ชาระภาษีปี ละก่ีคร้ัง9. ใหอ้ ธิบายวธิ ีการยน่ื แบบแสดงรายการและชาระภาษีเงินไดข้ องธนาคารพาณิชยต์ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยธนาคารพาณิชย์10. ถา้ หากบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลประมาณการกาไรสุทธิต่ากวา่ กาไรสุทธิจริงเกิน 25 % จะ มีผลในทางกฎหมายภาษีอยา่ งไร

ตอนท่ี 22.1 บริษทั ศรีราชาสนามกอลฟ์ จากดั ไดร้ ับเงินค่าบารุงสมาชิก 200,000 บาท ระยะเวลาการเป็น สมาชิก 12 ปี ตามหลกั การบญั ชีภาษีอากร จะตอ้ งรับรู้รายไดอ้ ยา่ งใหอ้ ธิบายพร้อมแสดงวธิ ีการ ลงบญั ชี2.2 บริษทั กรุงสยาม จากดั จดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย และเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียน ภาษีมูลคา่ เพม่ิ ในรอบระยะเวลาบญั ชีที่เริ่มตน้ วนั ท่ี 1 มกราคม 2550 สิ้นสุดวนั ที่ 31 ธนั วาคม 2550 มีทุนจดทะเบียนและทุนชาระแลว้ 4,000,000 บาท มีรายรับก่อนหกั รายจ่าย 7,000,000 บาท มีกาไรสุทธิตามหลกั การบญั ชีท่ีรับรองทวั่ ไป 1,500,000 บาท จากการตรวจสอบขอ้ เท็จจริง ปรากฏวา่ มีรายการเหล่าน้ีรวมอยดู่ ว้ ย 1) เงินปันผล 500,000 บาทไดร้ ับจากบริษทั ท่ีจดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย บนั ทึกเป็นรายไดแ้ ลว้ ท้งั จานวน 2) รายจา่ ยค่าวจิ ยั ผลิตภณั ฑ์และเทคโนโลยี 600,000 บาท เป็ นการจา้ งสานกั งานวจิ ยั และ พฒั นาของมหาวทิ ยาลยั ของรัฐ บนั ทึกเป็นรายจา่ ยแลว้ ท้งั จานวน 3) รายจ่ายค่ารับรองลูกคา้ 210,000 บาท(รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7) บนั ทึกเป็นรายจ่ายแลว้ ท้งั จานวน 4) รายจา่ ยในการส่งลูกจา้ งเขา้ รับการศึกษาอบรมวชิ าชีพในสถาบนั พฒั นาฝีมือแรงงาน 20,000 บาท บนั ทึกเป็นรายจา่ ยแลว้ ท้งั จานวน 5) รายจ่ายเพื่อสนบั สนุนการศึกษาของสถานศึกษาของรัฐ 200,000 บาท บนั ทึกเป็นรายจ่าย แลว้ ท้งั จานวน 6) รายจา่ ยเพอ่ื การศึกษาหรือกีฬา 300,000 บาท เป็นรายจ่ายเป็นเงินทุนการศึกษาใหแ้ ก่ นกั ศึกษาในสถานศึกษาของรัฐ 80,000 บาท และเป็นเงินบริจาคใหค้ ณะกรรมการการกีฬา แห่งประเทศไทยเพ่ือส่งเสริมการกีฬาต่าง ๆ 220,000 บาท บนั ทึกเป็นรายจ่ายแลว้ ท้งั จานวน คาสั่ง - ใหว้ เิ คราะห์รายการทางบญั ชีตามหลกั กฎหมายภาษี - ใหป้ รับปรุงกาไรสุทธิและคานวณภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลท่ีตอ้ งชาระ

2.3 บริษทั สุราษฎร์ธานี จากดั จดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย แสดงงบกาไร(ขาดทุน)สุทธิที่สิ้นสุด วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2550 ดงั น้ีรายรับขายสินคา้ ในประเทศ 5,000,000.00ส่งออก 2,000,000.00รายไดอ้ ืน่ 800,000.00กาไรจากอตั ราแลกเปล่ยี น 250,000.00รวมรายรับ 8,050,000.00รายจ่ายตน้ ทนุ ขาย 3,700,000.00คา่ ใช้จา่ ยในการขาย 700,000.00คา่ ใช้จา่ ยในการบริหาร 3,860,591.43กาไรกอ่ นดอกเบ้ยี จา่ ยและภาษีเงินได้ - 210,591.43ดอกเบ้ยี จา่ ย 500,000.00กาไรสุทธิกอ่ นภาษเี งินได้ - 710,591.43ภาษเี งินได้กาไรสุทธิหลงั ภาษเี งินได้ รายละเอียดประกอบงบ1. ตน้ ทุนขายสินคา้ คงเหลอื 1 มกราคม 2550 3,000,000 500,000บวก ซ้ือ 200,000 2,800,000 3,360,000 หกั ส่วนลดรับ 560,000 3,860,000 ซ้ือสุทธิ 160,000 คา่ ระวางและคา่ ใช้จา่ ยในการนาเขา้ 3,700,000สินคา้ ทง้ั สิ้นทม่ี เี พ่ือขายหัก สินคา้ คงเหลือ 31 ธนั วาคม 2550ตน้ ทนุ สินคา้ ทข่ี าย

2. ค่าใชจ้ ่ายในการขาย 150,000 30,000 คา่ โฆษณา 32,000 คา่ ขนส่งออก 300,000 คา่ เบ้ยี ประกนั ภยั 188,000 เงินเดอื น 700,000 คา่ ใช้จา่ ยเบด็ เตลด็ รวม 3.คา่ ใชจ้ ่ายในการบริหาร 800,000.00เงินเดอื นผบู้ ริหาร 450,000.00เงินเดือนพนักงานและ 32,000.00คา่ สาธารณูปโภค 21,000.00คา่ ภาษมี ลู คา่ เพิ่ม 80,000.00หน้ีสงสยั จะสูญ 150,000.00หน้ีสูญ 157,282.00คา่ เสื่อมราคารถยนต์ 21,333.33คา่ เสื่อมราคาเครื่องใช้สานักงาน 1,325,776.10คา่ เส่ือมราคาเคร่ืองจกั ร 183,200.00คา่ รับรอง 20,000.00คา่ ส่งเสริมกฬี า 10,000.00คา่ สนบั สนุนการศึกษา 30,000.00คา่ บริจาคเพ่ือการกศุ ลสาธารณะ 300,000.00คา่ เช่ารถบรรทกุ 280,000.00คา่ ใช้จา่ ยเบด็ เตลด็ 3,860,591.43รวมรายละเอียดเพมิ่ เติม 1. บริษทั สุราษฎร์ธานี จากดั เป็ นบริษทั ที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย จดทะเบียนเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิม แต่ไม่ไดจ้ ดทะเบียนกบั ตลาดหลกั ทรัพย์ มีทุนจดทะเบียนและทุนชาระแลว้7,000,000.-บาท

2. รายรับ : 2.1 บริษทั ฯฯรับรายรับ-รายจา่ ยดว้ ยเกณฑค์ งคา้ ง 2.2 รายไดอ้ ื่น 800,000.-บาท ประกอบดว้ ย - เงินปันผลรับ 400,000.-บาท เป็นเงินปันผลท่ีไดจ้ ากการถือหุน้ ในบริษทั กรุงเทพจากดั (มหาชน) ซ่ึงเป็นบริษทั จดทะเบียน จานวน 200,000.-บาท และไดร้ ับจากหา้ งหุ้นส่วนจากดั ไชยา เป็นเงิน 200,000.-บาท 2.3 ดอกเบ้ียเงินฝากประจาจากธนาคารพาณิชยไ์ ทยจานวน 80,000.-บาท หกั ภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 1 ตามมาตรา 3 เตรสc]h; 2.4 รายไดจ้ ากการขายเศษวสั ดุและวตั ถุดิบท่ีใชใ้ นการผลิตไม่ได้ จานวน 220,000.-บาท 2.5 ภาษีมูลคา่ เพม่ิ ท่ีไดร้ ับคืนจากกรมสรรพากร 100,000.-บาท 3. ตน้ ทุนขาย : บริษทั ฯมีนโยบายคานวณราคาทุนของสินคา้ คงเหลือดว้ ยวธิ ี FIFO สาหรับปี 2550 ราคาสินคา้ คงเหลือตามราคาตลาดเท่ากบั 140,000.-บาท 4. ค่าใชจ้ ่ายในการขายและการบริหาร : 4.1 เงินเดือนผบู้ ริหาร 800,000.-บาท มีเงินเดือนของกรรมการผจู้ ดั การรวมอยดู่ ว้ ย480,000.-บาทซ่ึงจากการเทียบเคียงกบั บริษทั อ่ืนที่มีลกั ษณะเดียวกนั มีการจ่ายเพยี ง 400,000.-บาท 4.2 ภาษีมูลค่าเพิ่มจานวน 21,000.-บาท มีค่าปรับและเงินเพม่ิ 5,250.-บาทรวมอยดู่ ว้ ยเน่ืองจากยนื่ ชาระภาษีชา้ กวา่ กาหนด 5. หน้ีสูญ 150,000.-บาทประกอบดว้ ยลูกหน้ี 2 รายๆที่ 1 จานวนหน้ี 110,000.-บาท รายที่ 2จานวนหน้ี 40,000.-บาท ลูกหน้ีท้งั สองรายเป็นลูกหน้ีที่บริษทั ไดต้ ิดตามทวงถามโดยมีหลกั ฐานแลว้ แต่ไม่ไดร้ ับชาระหน้ีจึงตดั เป็นหน้ีสูญ 6. ค่าเสื่อมราคารถยนตจ์ านวน 157,282.-บาทเป็นรถยนตน์ ง่ั เก๋งที่บริษทั ซ้ือเพื่อใชใ้ นกิจการของบริษทั เมื่อวนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2550 ราคา 1,560,000.-บาท(รวมภาษีมูลคา่ เพิม่ ) คิดค่าเส่ือมวธิ ีเส้นตรง 7. ค่าเสื่อมราคาเครื่องใชส้ านกั งานจานวน 21,333.33บาท เป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์จานวน 2เคร่ืองราคาเครื่องละ 32,000.-บาท คิดค่าเสื่อมราคาวธิ ีเส้นตรง 8. คา่ เส่ือมราคาเครื่องจกั รจานวน 1,325,776.10บาทเป็นเครื่องจกั รท่ีใชใ้ นการผลิต ซ้ือมาเมื่อวนั ที่ 1 พ.ค. 2550 ราคา 3,500,000.-บาท(รวมภาษีมูลค่าเพ่ิม) คิดคา่ เส่ือมราคาวธิ ีเส้นตรง 9. ค่ารับรอง 183,200.-บาท เป็ นคา่ รับรองท่ีเป็นไปตามเง่ือนไขและหลกั เกณฑข์ องกระทรวงคาสั่ง 1) ใหว้ เิ คราะห์รายการทางบญั ชีในงบกาไรขาดทุนและรายละเอียดเพมิ่ เติม ตามกฎหมาย 2) ใหป้ รับปรุงกาไรสุทธิและคานวณหาภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลที่ตอ้ งชาระ

ขอ้ 2.4 บริษทั พฤกษา จากดั จดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย และจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพม่ิ มีทุนจดทะเบียนและทุนชาระแลว้ 4,000,000 บาท ไดแ้ สดงรายรับ – รายจ่ายในบญั ชีกาไรขาดทุนในรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีเร่ิมตน้ วนั ที่ 1 มกราคม 2551 สิ้นสุดวนั ที่ 31 ธนั วาคม 2551 ดงั น้ีรายได้รายไดจ้ ากการขายและบริการ 33,721,872.00รายไดอ้ ื่น 540,729.00รวมรายได้ 34,262,602.00รายจา่ ยตน้ ทุนขายและบริการ 30,489,275.00คา่ ใชจ้ ่ายในการขายและบริหาร เงินเดือนพนกั งาน 634,509.00 โบนสั พนกั งาน 369,700.00 ค่าน้ามนั 54,990.00 คา่ ไฟฟ้า 294,000.00 ค่าสอบบญั ชี 10,000.00 คา่ ทาบญั ชี 24,000.00 ค่าเช่ารถ 472,000.00 คา่ เช่าอาคาร 100,000.00 เงินสมทบกองทุนประกนั สังคม 61,004.00 เงินสมทบกองทุนเงินทดแทน 2,740.00 ค่าเส่ือมราคาอุปกรณ์สานกั งาน 1,307.38 ค่าธรรมเนียมกรมพฒั นาธุรกิจการคา้ 450.00 ค่ารับรอง 145,000.00 หน้ีสูญ 120,000.00 ภาษีมูลค่าเพ่ิม เงินเพม่ิ เบ้ียปรับ 420,000.00 ค่าซ่อมแซม 12,000.00 คา่ บริจาค 350,000.00 คา่ ใชจ้ า่ ยเบด็ เตล็ด 7,405.00 3,079,105.38รวมรายจ่าย 33,568,380.38กาไร(ขาดทุน)สุทธิ 694,221.62

รายเอียดเพิ่มเติม 1. รายไดอ้ ่ืน 540,729 บาท มีเงินปันผลท่ีไดจ้ ากการถือหุน้ ในบริษทั ท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย 150,000 บาท ส่วนแบ่งกาไรจากหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล 80,000 บาท รวมอยดู่ ว้ ย 2. คา่ เช่ารถ 472,000 บาท เป็นค่าเช่ารถยนตน์ ง่ั เดือนละ 32,960 บาท เป็นเวลา 5 เดือน และ คา่ เช่ารถบรรทุกเดือนละ 25,600 บาท (รวมภาษีมูลคา่ เพ่ิม 7%) เป็นเวลา 12 เดือน 3. หน้ีสูญ 120,000บาท ไดด้ าเนินการฟ้องศาลและศาลรับฟ้องแลว้ อยใู่ นระหวา่ งพิจารณาคดี 4. ค่าบริจาค 350,000 บาท ประกอบดว้ ย รายจ่ายเพื่อสนบั สนุนการเรียนรู้และนนั ทนาการท่ี เป็นไปตาม พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ท่ี 428) เป็นเงิน 200,000 บาท และรายจา่ ยเพอ่ื สนบั สนุนการศึกษาหรือกีฬา 100,000 บาท เพื่อการกศุ ลสาธารณะ 50,000 บาท ใหว้ เิ คราะห์รายการและคานวณภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลท่ีตอ้ งชาระ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook