Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ebook20160725-02

ebook20160725-02

Published by s.petnark, 2017-10-27 11:59:07

Description: ebook20160725-02

Search

Read the Text Version

คู่มือการจัดทาเอกสารประกอบการลงบัญชี ทส่ี ามารถเปน็ รายจา่ ยทางภาษีได้ จัดทาโดย สานักมาตรฐานการสอบบญั ชภี าษอี ากร กรมสรรพากร มีนาคม 2559

-1- คานา ด้วยตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓ บัญญัติให้ผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชีที่เป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจากัด บริษัทมหาชนจากัดท่ีจัดต้ังข้ึนตามกฎหมายไทย นิติบุคคลที่ต้ังข้ึนตามกฎหมายต่างประเทศทปี่ ระกอบธรุ กจิ ในประเทศไทย และกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร (ซึ่งต่อไปในคู่มือจะใช้คาว่า “กิจการ”) ต้องจดั ทาบญั ชใี ห้ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรฐานการบญั ชี ประกอบกบั ตามมาตรา ๗ (๔) แห่งพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓ และประกาศกรมทะเบียนการค้าเรื่อง กาหนดชนิดของบัญชีท่ีต้องจัดทาข้อความและรายการทต่ี ้องมีในบัญชี ระยะเวลาท่ีต้องลงรายการในบัญชีและเอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชีพ.ศ. ๒๕๔๔ หมวด 4 ข้อ 8 ไดก้ าหนดประเภทของเอกสารท่ใี ชป้ ระกอบการลงบัญชีไว้ ๓ ประเภท คือ (๑) เอกสารทีต่ ้องใชป้ ระกอบการลงบญั ชีทจี่ ัดทาข้ึนโดยบคุ คลภายนอก (๒) เอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชีที่จัดทาข้ึนโดยผู้มีหน้าที่จัดทาบัญชีเพ่ือออกให้แก่บคุ คลภายนอก (๓) เอกสารทีต่ ้องใชป้ ระกอบการลงบญั ชที ่ีจัดทาขน้ึ โดยผมู้ ีหน้าท่ีจดั ทาบญั ชีเพ่อื ใชใ้ นกิจการของตนเอง โดยท่ัวไปเอกสารที่ใช้ประกอบการลงบัญชีท้ังสามประเภทข้างต้นสามารถเป็นรายจ่าย ได้ในทางภาษีอากร ได้แก่ ใบกากับภาษี (กรณีผู้ขายหรือให้บริการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือใบเสร็จรับเงินที่มีรายการสมบูรณ์ ซึ่งผู้รับเงินค่าสินค้าหรือบริการมีหน้าที่ต้องออกหลักฐานการรับเงินให้แก่ผู้จ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการในแต่ละคราว และผู้จ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการสามารถร้องขอให้ผู้รับเงินค่าสินค้าหรือบรกิ ารออกหลักฐานการรับเงินได้ด้วยเช่นกัน แต่กรมสรรพากรมักพบปัญหาว่า เอกสารท่ีใช้ประกอบการลงบัญชีในบางกรณีไม่สามารถเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ ทั้งที่กิจการได้มีรายจ่ายจริง เนื่องด้วยสาเหตุหลายประการตามที่จะกลา่ วดังตัวอยา่ งในค่มู อื นี้ กรมสรรพากรจึงได้จัดทา “คู่มือการจัดทาเอกสารประกอบการลงบัญชีที่สามารถเป็นรายจ่ายทางภาษไี ด้” ท้งั นี้ เพ่อื แกไ้ ขปญั หาและเสริมสรา้ งความเขา้ ใจแก่กิจการใน “ประเด็นรายจ่ายของกิจการท่ีจ่ายจริงแต่ไม่มหี ลกั ฐานท่ีเพยี งพอ” ให้สามารถเปน็ รายจา่ ยทางภาษอี ากรตามประมวลรษั ฎากรได้อยา่ งถกู ต้องสมบรู ณ์ กรมสรรพากรหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือนี้ จะเป็นประโยชน์แก่กิจการใน ด้านการจัดทาเอกสารประกอบการลงบัญชีให้เป็นไปอย่างมีเป็นระบบ สามารถเป็นรายจ่ายทางภาษีอากร และสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจรงิ ของกจิ การได้ ตอ่ ไป กรมสรรพากร มีนาคม 2559คู่มอื นเ้ี ปน็ เพียงค่มู อื และตวั อย่างเพ่ือเสรมิ ความเขา้ ใจ ซ่งึ อาจไมค่ รอบคลมุ และใชอ้ า้ งองิ ได้ทกุ กรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชีภาษอี ากร กรมสรรพากร

-2-ประเด็นรายจา่ ยของกิจการที่จา่ ยจรงิ แต่ไมม่ ีหลักฐานที่เพยี งพอ สาเกหจิตุ กรณตี ัวอย่างท่ี ๑ กรณตี ัวอย่างที่ 2 กรณตี ัวอยา่ งที่ ๓ ผ้รู ับเงิน ผู้รับเงนิ ผ้รู ับเงินไม่ออกหลกั ฐานการรบั เงินไม่ออกหลักฐานการรบั เงนิ ใหห้ ลักฐานการรับเงนิ ทไ่ี มส่ มบรู ณ์ และไมย่ อมให้หักภาษี ณ ทจ่ี า่ ยNo เข้าหลักเกณฑ์ Yes การจดั ทาเอกสารหลกั ฐาน หรือไม่ เป็นรายจา่ ยต้องหา้ มทางภาษี เป็นรายจา่ ยทางภาษไี ด้มาตรา 65 ตรี (3) (9) (13) (18) (ท้ังน้ี ต้องไมเ่ ป็นรายจ่ายตอ้ งหา้ มตามมาตรา 65 ตรี กรณีอืน่ )มาตรา 65 ตรี รายการตอ่ ไปนี้ ไม่ใหถ้ อื เป็นรายจา่ ยในการคานวณกาไรสุทธิ (3) รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการส่วนตัว การให้โดยเสน่หา หรือการกุศลเว้นแต่รายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะ หรือเพ่ือการสาธารณะประโยชน์ตามที่อธิบดีกาหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี ให้หักได้ในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิ และรายจ่ายเพื่อการศกึ ษาหรือเพื่อการกีฬาตามทอ่ี ธบิ ดีกาหนดโดยอนุมตั ริ ฐั มนตรี ใหห้ กั ได้อีกในสว่ นทไ่ี ม่เกนิ รอ้ ยละ 2 ของกาไรสทุ ธิ (9) รายจ่ายซ่ึงกาหนดข้ึนเองโดยไม่มีการจ่ายจริง หรือรายจ่ายซ่ึงควรจะได้จ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีอ่ืน เว้นแต่ในกรณีที่ไม่สามารถจะลงจา่ ยในรอบระยะเวลาบญั ชีใดก็อาจลงจา่ ยในรอบระยะเวลาบัญชีท่ีถัดไปได้ (13) รายจา่ ยซงึ่ มใิ ชร่ ายจ่ายเพื่อหากาไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ (18) รายจ่ายซึง่ ผู้จ่ายพิสจู นไ์ ม่ไดว้ า่ ใครเปน็ ผู้รับหมายเหตุ 1. กรณีผู้ขายสินค้า/ให้บริการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องออกใบกากับภาษีให้ผู้ซื้อสินคา้ /รับบรกิ ารทกุ กรณี ทงั้ นี้ ผซู้ อ้ื สนิ ค้า/รบั บริการจะต้องนาใบกากับภาษีมาเปน็ หลักฐานในการลงรายจา่ ย 2. กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่จัดทาหรือจัดทาแล้วไม่ส่งมอบใบกากับภาษี จะมีความผดิ ทางอาญาตามมาตรา 90/2 (3) แห่งประมวลรษั ฎากรคมู่ ือนเ้ี ป็นเพียงคู่มอื และตวั อย่างเพ่ือเสรมิ ความเขา้ ใจ ซึง่ อาจไมค่ รอบคลมุ และใชอ้ ้างองิ ได้ทกุ กรณี สานกั มาตรฐานการสอบบญั ชีภาษอี ากร กรมสรรพากร

-3-กรณตี วั อย่างที่ 1ผู้รับเงินไมอ่ อกหลกั ฐานการรบั เงินกรณตี วั อย่าง หลกั เกณฑ์รายจา่ ยทางภาษี หลักเกณฑ์รายจา่ ยทางภาษี เอกสารหลกั ฐานทค่ี วรมี เอกสารหลกั ฐานทีค่ วรมี (ทุกกรณ)ี (เฉพาะกรณี)1. กจิ การภัตตาคาร จัดทารายการซ้ือในแตล่ ะ 1) เอกสารการรบั เงนิ ของผู้รับเงิน อาทิรา้ นอาหาร คราว โดยมขี อ้ ความระบุดังน้ี  ใบรบั ตามมาตรา 105 ทวิ หรืออาทิ การซอ้ื วัตถุดิบปรุงอาหาร 1. รายละเอียดชอ่ื สนิ คา้  ใบสาคญั รบั เงนิ หรือ แตล่ ะรายการ  ใบรับรองแทนใบสาคัญรบั เงิน 2. มลู คา่ และปริมาณสนิ คา้ 2) ใบกากบั ภาษีหรือใบเสร็จรับเงินปรากฏเป็นชอื่ ผูอ้ น่ื แตล่ ะรายการ เชน่ ค่าไฟฟ้าหรอื คา่ น้าประปา เปน็ ตน้ แตก่ ิจการมี 3. ราคารวมสทุ ธิ หลกั ฐานที่พิสจู น์ไดว้ า่ กิจการเปน็ ผู้จ่ายเงินตาม 1)2. กิจการผู้คา้ สินค้าเกษตร 1. จัดทารายการซ้อื ในแตล่ ะ และหลกั ฐานอืน่ ๆ ประกอบ เชน่ สญั ญาเชา่ เป็นต้นอาทิ การซอ้ื สนิ ค้าจาก คราว โดยมีขอ้ ความระบุดังน้ี 3) จดั ทาใบสาคัญจ่าย (Payment Voucher) ใช้เกษตรกร 1.1) รายละเอยี ดชื่อ สาหรบั กรณไี มม่ หี ลักฐานตาม 1) สนิ ค้าแต่ละรายการ 3.1) ใบสาคญั จ่าย ต้องระบุ 1.2) มลู ค่าและปริมาณ  ช่ือ ทอี่ ยู่ เลขบตั รประจาตัวผ้เู สยี ภาษอี ากร ของผรู้ ับเงิน สินคา้ แตล่ ะรายการ  วันท่ีจา่ ยเงนิ 1.3) ราคารวมสุทธิ  ระบปุ ระเภทรายการท่ีจา่ ย และจานวนเงินทีจ่ ่าย 2. สญั ญาซอื้ ขาย (ถ้ามี)  ลงลายมอื ชอ่ื ผรู้ ับเงนิ ไวเ้ ปน็ หลักฐาน3. การกู้เงนิ จากธนาคารใน 1. มติท่ีประชมุ แจง้  มีการลงนามอนมุ ตั ิจ่ายโดยผมู้ อี านาจเทา่ น้นันามกรรมการ เน่ืองจากตดิ ความจาเปน็ ให้กรรมการไปกู้ 3.2) พรอ้ มแนบหลักฐานการจา่ ยเงิน อาทิเง่อื นไขทธี่ นาคารไมส่ ามารถให้ ธนาคารแทนกจิ การ (ก) สาเนาเช็คระบุชอื่ ผรู้ บั เงนิ ซึ่งขีดฆ่าผ้ถู ือและสนิ เช่ือต่อกิจการไดโ้ ดยตรง และ 2. สญั ญากเู้ งิน ขดี คร่อม A/C Payee only ทมี่ หี ลักฐานวา่ ได้ตัดบัญชีกรรมการมภี าระดอกเบยี้ จ่าย 2.1) คู่สญั ญาระหวา่ ง Bank statement ของผ้จู า่ ยเงนิ แล้ว หรอื ธนาคารกับกรรมการ (ข) สาเนาใบโอนเงินผา่ นธนาคารหรือช่องทาง 2.2) คสู่ ัญญาระหว่าง อิเลก็ ทรอนกิ ส์อ่นื กรรมการกับกิจการ 3.3) แนบบัตรประจาตวั ประชาชนผรู้ บั เงนิ 3. หลกั ฐานการรับเงินก้ยู ืม (เฉพาะกรณีชาระเป็นเงินสด) และการบันทึกบัญชีเจา้ หนี้ 4. หลกั ฐานท่ีกิจการจ่าย ดอกเบยี้ ให้แก่ธนาคารคู่มอื นเี้ ป็นเพยี งคมู่ อื และตวั อยา่ งเพอื่ เสรมิ ความเข้าใจ ซึง่ อาจไมค่ รอบคลมุ และใชอ้ ้างองิ ไดท้ ุกกรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชีภาษอี ากร กรมสรรพากร

-4- กรณตี ัวอยา่ ง หลักเกณฑ์รายจ่ายทางภาษี หลักเกณฑ์รายจ่ายทางภาษี เอกสารหลักฐานที่ควรมี เอกสารหลักฐานทค่ี วรมี (ทุกกรณ)ี (เฉพาะกรณ)ี4. คา่ ใชจ้ ่ายทผ่ี รู้ ับเงนิ 1. มตทิ ี่ประชมุ หรือเอกสาร หมายเหตุ :ไมส่ ามารถออกหลักฐานการรับ หลักฐานการอนุมตั จิ ากผู้มี  ผู้รับเงินตอ้ งมีพฤติกรรมประกอบอาชีพท่ีเงินได้ เชน่ ค่าใช้จา่ ยเดินทาง อานาจ ให้ถือเป็นรายจ่าย เก่ียวข้องอย่างแทจ้ รงิค่า Taxi ค่าจ้างคนส่งเอกสาร 2. จัดทาใบรับรองแทน  ผู้ใดกระทาการนาพยานหลกั ฐานเทจ็ มาแสดงเปน็ ตน้ ใบสาคัญรับเงิน เพือ่ หลกี เล่ยี งการเสียภาษีอากรหรือเพอื่ ขอคนื ภาษีอากร ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ตงั้ แต่สามเดอื นถึงเจ็ดปี และปรับต้งั แต่ สองพนั บาทถงึ สองแสนบาท (มาตรา 37)คู่มือนเี้ ปน็ เพยี งค่มู อื และตัวอยา่ งเพอ่ื เสรมิ ความเข้าใจ ซึง่ อาจไม่ครอบคลมุ และใชอ้ า้ งองิ ไดท้ ุกกรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชภี าษอี ากร กรมสรรพากร

-5-กรณตี ัวอย่างที่ 2ผ้รู บั เงินใหห้ ลกั ฐานการรับเงนิ ท่ีไมส่ มบูรณ์หลกั ฐานการรับเงนิ ทไ่ี ม่สมบรู ณ์กรณีตัวอยา่ ง หลักเกณฑ์รายจา่ ยทางภาษี หลักเกณฑ์รายจ่ายทางภาษี เอกสารหลักฐานที่ควรมี เอกสารหลักฐานทค่ี วรมี (เฉพาะกรณี) (ทุกกรณ)ีการจ่ายค่าซ้ือสนิ ค้าหรือบรกิ าร จดั ทา ใบรับรองแทนใบสาคญั 1) เอกสารการรับเงนิ ของผรู้ ับเงิน อาทิเบ็ดเตล็ดท่ผี ู้รบั เงินใหห้ ลักฐาน รบั เงิน  ใบรับ ตามมาตรา 105 ทวิ หรือเพียงใบส่งของหรือใบเสรจ็ รบั เงนิ ทม่ี ีรายการ  ใบสาคัญรบั เงิน หรือไม่สมบรู ณ์(อาทิ ไมร่ ะบุช่ือกิจการทร่ี ับเงนิ )  ใบรบั รองแทนใบสาคัญรบั เงิน 2) ใบกากบั ภาษหี รือใบเสรจ็ รบั เงนิ ปรากฏเป็นชื่อผอู้ น่ื เชน่ ค่าไฟฟา้ หรือคา่ น้าประปา เปน็ ตน้ แตก่ ิจการมี หลักฐานทพี่ สิ จู นไ์ ด้ว่า กิจการเปน็ ผู้จ่ายเงินตาม 1) และหลกั ฐานอนื่ ๆ ประกอบ เชน่ สัญญาเช่า เปน็ ต้น 3) จดั ทาใบสาคญั จ่าย (Payment Voucher) ใช้ สาหรบั กรณีไม่มหี ลกั ฐานตาม 1) 3.1) ใบสาคัญจา่ ย ต้องระบุ  ช่ือ ท่อี ยู่ เลขบตั รประจาตัวผ้เู สยี ภาษีอากร ของผรู้ บั เงนิ  วันทจ่ี ่ายเงิน  ระบปุ ระเภทรายการท่ีจ่าย และจานวนเงินทจ่ี า่ ย  ลงลายมอื ชือ่ ผ้รู บั เงนิ ไวเ้ ปน็ หลักฐาน  มกี ารลงนามอนุมตั ิจา่ ยโดยผมู้ ีอานาจเท่านนั้ 3.2) พร้อมแนบหลักฐานการจ่ายเงิน อาทิ (ก) สาเนาเชค็ ระบุชอื่ ผรู้ ับเงนิ ซง่ึ ขดี ฆา่ ผูถ้ ือและ ขีดครอ่ ม A/C Payee only ทม่ี หี ลกั ฐานว่าไดต้ ัดบญั ชี Bank statement ของผู้จ่ายเงินแลว้ หรือ (ข) สาเนาใบโอนเงนิ ผา่ นธนาคารหรอื ชอ่ งทาง อิเลก็ ทรอนิกส์อืน่ 3.3) แนบบัตรประจาตัวประชาชนผู้รับเงนิ (เฉพาะกรณีชาระเป็นเงนิ สด) หมายเหตุ :  ผรู้ ับเงนิ ตอ้ งมีพฤตกิ รรมประกอบอาชีพท่ีเก่ียวข้องอย่างแท้จรงิ  ผู้ใดกระทาการนาพยานหลักฐานเท็จมาแสดงเพอ่ื หลกี เลี่ยง การเสียภาษอี ากรหรือเพอ่ื ขอคนื ภาษอี ากร ต้องระวางโทษจาคกุ ตั้งแตส่ ามเดือนถึงเจด็ ปี และปรับตง้ั แตส่ องพนั บาทถงึ สองแสนบาท (มาตรา 37)คู่มือนเี้ ป็นเพียงคู่มอื และตวั อยา่ งเพอื่ เสรมิ ความเข้าใจ ซงึ่ อาจไม่ครอบคลมุ และใชอ้ ้างองิ ได้ทุกกรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชีภาษอี ากร กรมสรรพากร

-6-กรณตี ัวอยา่ งที่ 3ผู้รบั เงินไมอ่ อกหลกั ฐานการรับเงนิและไม่ยอมให้หกั ภาษี ณ ทีจ่ ่าย กรณีตัวอย่าง หลกั เกณฑ์รายจา่ ยทางภาษี หลกั เกณฑ์รายจ่ายทางภาษี1. คา่ เช่าอาคาร/เงนิ กนิ เปล่า2. คา่ ไฟฟ้า/ค่านา้ ประปาท่ี เอกสารหลกั ฐานท่ีควรมี เอกสารหลักฐานทคี่ วรมีไมใ่ ช่ช่ือกจิ การ (เฉพาะกรณี) (ทกุ กรณ)ี3. ดอกเบ้ยี เงินกูย้ ืมท่มี ิได้กู้จากสถาบนั การเงนิ 1) สัญญาเช่าอาคาร 1) เอกสารการรบั เงนิ ของผรู้ ับเงนิ อาทิ (หากสัญญาเกนิ 3 ปี ต้องทาเปน็  ใบรบั ตามมาตรา 105 ทวิ หรอื หนงั สอื และจดทะเบยี นตอ่ พนกั งานเจา้ หนา้ ทขี่ องกรมทดี่ ิน)  ใบสาคัญรบั เงิน หรือ  ใบรบั รองแทนใบสาคัญรับเงิน 2) หลักฐานการหักภาษี ณที่จา่ ย 2) ใบกากับภาษีหรือใบเสรจ็ รบั เงินปรากฏเป็นชือ่ ผอู้ ่นื 1) สัญญาเชา่ อาคาร ซ่ึงระบุ เชน่ ค่าไฟฟา้ หรอื คา่ น้าประปา เปน็ ตน้ แต่กิจการมี ใหผ้ ู้เชา่ เปน็ ผู้ชาระคา่ ไฟฟ้า หลักฐานที่พิสจู น์ได้ว่า กจิ การเปน็ ผู้จ่ายเงนิ ตาม 1) คา่ นา้ ประปา และหลักฐานอน่ื ๆ ประกอบ เช่น สัญญาเช่า เป็นตน้ 2) ควรตดิ ตอ่ กับการไฟฟา้ ฯ 3) จัดทาใบสาคัญจ่าย (Payment Voucher) ใช้ หรอื การประปาฯ เพื่อขอ สาหรับกรณไี มม่ หี ลกั ฐานตาม 1) เพิ่มชื่อของบริษทั ฯ ลงใน ใบกากับภาษี โดยเพิ่มเติม 3.1) ใบสาคญั จา่ ย ต้องระบุ ข้อความวา่ \"จ่ายชาระ  ชื่อ ที่อยู่ เลขบตั รประจาตัวผเู้ สยี ภาษอี ากร ของผรู้ ับเงนิ คา่ บรกิ ารโดย บริษัท...\"  วันทจ่ี า่ ยเงนิ ลงไปด้วย บริษัทฯ มีสทิ ธินา  ระบุประเภทรายการทจ่ี า่ ย และจานวนเงนิ ท่ีจ่าย ภาษีซอ้ื ตามใบกากับภาษี  ลงลายมอื ช่ือผู้รบั เงินไวเ้ ป็นหลกั ฐาน ดังกลา่ ว ไปถือเปน็ ภาษซี ้ือใน  มีการลงนามอนมุ ัติจา่ ยโดยผมู้ ีอานาจเท่านัน้ 3.2) พร้อมแนบหลกั ฐานการจ่ายเงิน อาทิ การคานวณภาษีมลู ค่าเพ่ิม ตามมาตรา 82/3 ได้ (ก) สาเนาเชค็ ระบุชื่อผู้รบั เงนิ ซึง่ ขดี ฆ่าผถู้ ือและ ขดี ครอ่ ม A/C Payee only ทมี่ ีหลกั ฐานว่าไดต้ ัดบัญชี (หนงั สอื ที่ กค 0702/พ./1319 ลงวนั ท่ี 19 กุมภาพนั ธ์ 2552) Bank statement ของผจู้ า่ ยเงนิ แล้ว หรือ (ข) สาเนาใบโอนเงินผา่ นธนาคารหรือช่องทาง 1) สัญญากยู้ มื เงนิ 2) หลักฐานการหักภาษี ณท่จี า่ ย อิเลก็ ทรอนกิ ส์อน่ื 3.3) แนบบัตรประจาตวั ประชาชนผู้รบั เงนิ (เฉพาะ หมายเหตุ คา่ ภาษหี กั ณ ทจี่ า่ ยทถ่ี กู หกั ไว้สาหรบั กรณีชาระเป็นเงนิ สด) กรณีดอกเบ้ยี เงนิ กูย้ มื ของผู้มหี นา้ ทีเ่ สยี ภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดา มสี ทิ ธิเลือก เสียโดยไม่ต้องนาไปรวมคานวณกบั เงนิ ได้อนื่คู่มือนเี้ ปน็ เพยี งคู่มอื และตวั อย่างเพอ่ื เสรมิ ความเข้าใจ ซ่งึ อาจไมค่ รอบคลมุ และใชอ้ ้างองิ ได้ทกุ กรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชีภาษอี ากร กรมสรรพากร

-7- กรณตี วั อยา่ ง หลกั เกณฑ์รายจา่ ยทางภาษี หลักเกณฑ์รายจา่ ยทางภาษี เอกสารหลักฐานทีค่ วรมี เอกสารหลักฐานทีค่ วรมี (เฉพาะกรณ)ี (ทกุ กรณ)ี4. เงินเดือนของเจ้าของกิจการ 1) สัญญาจา้ งแรงงาน หมายเหตุ :(รวมถึง คา่ ใช้จ่ายส่วนตัวของเจ้าของ 2) หลกั ฐานการหักภาษี ณท่จี ่าย  ผู้รบั เงินต้องมีพฤติกรรมประกอบอาชีพที่กิจการท่ีเบกิ จา่ ยจากกิจการ เช่น เกี่ยวข้องอยา่ งแท้จริงคา่ การศึกษาบตุ ร เป็นตน้ ซงึ่ กาหนด  ผู้ใดกระทาการนาพยานหลกั ฐานเทจ็ มาแสดงรวมอยู่ในเงินเดือนของเจา้ ของ เพอ่ื หลกี เล่ียงการเสียภาษอี ากรหรือเพ่ือขอคืนภาษีอากร ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ตั้งแตส่ ามเดอื นถึงเจด็ ปี และปรับต้งั แต่กิจการ) สองพนั บาทถึงสองแสนบาท (มาตรา 37)5. เจา้ ของกิจการให้ใช้สถานที่ หนังสอื ยนิ ยอมใหใ้ ช้ท่ีอยู่อาศัยเปน็ สถาน สถานประกอบการ/ทรัพย์สนิประกอบการของกจิ การหรอื (ทั้งน้ี ผยู้ ินยอมใหใ้ ชส้ ถานที่/ใหใ้ ช้ทรพั ย์สินโดยไม่คดิ ทรพั ยส์ ิน มภี าระภาษเี งินได้คา่ ตอบแทน บุคคลธรรมดาจากการใหใ้ ช้สถานท/่ี ทรัพยส์ ินโดยไมค่ ดิ คา่ ตอบแทน)6. กรณเี ช่าสถานประกอบการ - สญั ญาเช่าอาคารโดยผู้รับเงนิ ไมย่ อมใหห้ ักภาษี (หากสัญญาเกิน 3 ปี ต้องทาเป็น หนงั สอื และจดทะเบยี นต่อณ ท่จี า่ ย พนกั งานเจ้าหน้าทขี่ องกรมท่ดี ิน ) หมายเหตุ กรณีไม่หกั ภาษี ณ ทีจ่ ่าย ผู้จ่ายเงินมีความรับผิด ร่วมกบั ผ้มู ีเงินได้ด้วย7. รายจ่ายทีเ่ ก่ียวข้อง - สัญญาเชา่กรณีเช่าสถานประกอบการซึ่ง หมายเหตุเปน็ ทอ่ี ยอู่ าศยั ของกรรมการด้วย - ให้เฉลีย่ เป็นค่าใชจ้ า่ ยของหรอื กรณีใช้ทรพั ย์สินร่วมกัน กิจการได้ตามเกณฑท์ ีเ่ หมาะสมกับกิจการหรือบุคคลอ่ืน - ถ้าใบกากบั ภาษซี ้ือไมไ่ ด้ เปน็ ชื่อของผ้เู ช่า ภาษีซ้อื ขอคนื ไม่ได้ หมายเหตุ ใบกากับภาษที ่มี ิได้ระบุช่อื ผปู้ ระกอบการน้นั ผปู้ ระกอบการไมม่ ี สทิ ธินาใบกากับภาษีดังกลา่ วมาเป็น ภาษีซอ้ื เพือ่ หกั จากภาษีขายในการ คานวณภาษีตามมาตรา 82/3 เน่อื งจากใบกากบั ภาษดี งั กลา่ วถือเป็น ภาษซี ือ้ ตอ้ งห้าม ตามมาตรา 82/5 (1) แตผ่ ู้ประกอบการมีสิทธนิ าค่านา้ คา่ ไฟ ดังกล่าวมาเป็นคา่ ใชจ้ ่ายในการ คานวณภาษเี งินไดไ้ ด้ เนือ่ งจากเปน็ ค่าใชจ้ า่ ยเพ่ือการหากาไรหรือเพอื่ กจิ การโดยเฉพาะ ไม่ตอ้ งห้าม ตามมาตรา 65 ตรี แต่สาหรับคมู่ ือนเี้ ป็นเพยี งคมู่ อื และตวั อย่างเพ่อื เสรมิ ความเขา้ ใจ ซง่ึ อาจไม่ครอบคลมุ และใชอ้ า้ งองิ ได้ทกุ กรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชีภาษอี ากร กรมสรรพากร

กรณตี ัวอย่าง -8- หลกั เกณฑ์รายจ่ายทางภาษี เอกสารหลักฐานทคี่ วรมี หลกั เกณฑ์รายจา่ ยทางภาษี เอกสารหลักฐานทีค่ วรมี (ทกุ กรณ)ี (เฉพาะกรณี) ภาษมี ูลค่าเพมิ่ ตามใบกากบั ภาษี ดังกล่าวถือเป็นรายจา่ ยตอ้ งห้าม บรษิ ัทฯ ไมม่ ีสิทธนิ ามาเป็นรายจา่ ยใน การคานวณหากาไรสุทธไิ ด้ ตามมาตรา 65 ตรี (6 ทว)ิ ทงั้ นี้ตามมาตรา 8 ทวิ แหง่ พระราชกฤษฎีกาฯ วา่ ดว้ ยการ กาหนดคา่ ใช้จา่ ยทย่ี อมให้หกั จากเงินได้ พงึ ประเมิน(ฉบบั ที่ 11) พ.ศ. 2502 (หนงั สอื ท่ี กค 0811(กม)/พ.277 ลงวันที่ 23 กมุ ภาพนั ธ์ 2542)คูม่ ือนเ้ี ป็นเพยี งคู่มอื และตัวอย่างเพือ่ เสรมิ ความเข้าใจ ซ่งึ อาจไม่ครอบคลมุ และใชอ้ า้ งองิ ไดท้ ุกกรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชภี าษอี ากร กรมสรรพากร

-9- การจัดทาเอกสารประกอบการลงบญั ชีที่สามารถเป็นรายจา่ ยทางภาษีได้ (กรณีรายจา่ ยของกิจการทีจ่ ่ายจริงแต่ไม่มีหลักฐานทีเ่ พียงพอ)1. ประเภทของเอกสารประกอบการลงบญั ชี ตามมาตรา ๗ (๔) แห่งพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓ และประกาศกรมทะเบียนการค้าเร่ืองกาหนดชนิดของบัญชีที่ต้องจัดทา ข้อความและรายการท่ีต้องมีในบัญชี ระยะเวลาที่ต้องลงรายการในบัญชีและเอกสารทต่ี อ้ งใช้ประกอบการลงบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๔ หมวด 4 ขอ้ 8 “เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชี ได้แก่ บันทึก หนังสือ หรือเอกสารใดๆ ที่ใช้เป็นหลักฐานในการลงรายการในบญั ชี ซง่ึ แยกได้เปน็ ๓ ประเภท คอื (๑) เอกสารที่ต้องใชป้ ระกอบการลงบญั ชที จ่ี ดั ทาข้นึ โดยบุคคลภายนอก (๒) เอกสารท่ตี อ้ งใชป้ ระกอบการลงบัญชที ี่จดั ทาขน้ึ โดยผมู้ ีหน้าท่ีจดั ทาบัญชีเพ่ือออกให้แก่บุคคลภายนอก (๓) เอกสารทตี่ อ้ งใช้ประกอบการลงบญั ชที จี่ ัดทาขน้ึ โดยผมู้ ีหนา้ ที่จดั ทาบัญชเี พื่อใช้ในกจิ การของตนเอง”2. หลกั เกณฑ์การจดั ทาเอกสารประกอบการลงบัญชีทีส่ ามารถเป็นรายจ่ายทางภาษไี ด้ กรณีรายจ่ายของกิจการที่จ่ายจริงแต่ผู้รับเงินไม่มีหลักฐานการรับเงินที่เพียงพอต่อการบันทึกบัญชี กิจการสามารถจดั ทาเอกสารประกอบการลงบัญชไี ด้ โดยมรี ายละเอยี ดดังตอ่ ไปน้ี 2.1 เอกสารแสดงการรบั เงินของผรู้ บั เงนิ อาจเลือกใช้เอกสารอยา่ งใดอย่างหนงึ่ แล้วแต่กรณี ดงั ต่อไปนี้ 2.1.1 ใบรับ ตามมาตรา 105 ทวิ (ใช้ในกรณีผู้รับเงนิ ยินยอมออกใบรับเงิน) ใบรับและต้นข้ัว หรือสาเนาใบรับ อย่างน้อยต้องมีตัวเลขไทยหรืออารบิค และอักษรไทยให้ปรากฏขอ้ ความต่อไปนี้ (1) เลขประจาตวั ผู้เสยี ภาษีอากรของผู้ออกใบรบั (2) ช่ือหรอื ยี่หอ้ ของผู้ออกใบรบั (3) เลขลาดบั ของเล่มและของใบรับ (4) วันเดอื นปีท่ีออกใบรับ (5) จานวนเงินที่รบั (6) ชนิด ชื่อ จานวนและราคาสินค้า ในกรณีการขายหรือให้เช่าซ้ือสินค้า เฉพาะชนิดที่มีราคาตั้งแต่ 100 บาทขน้ึ ไป ในกรณีผ้ผู ลติ ผนู้ าเข้าหรือผู้ขายส่ง ขายสินค้าให้แก่ผู้ซ่ึงทาการค้าสินค้าประเภทเดียวกับสินค้าท่ีขายนั้น ให้แสดงชื่อหรือยี่ห้อและท่ีอยู่ของผู้ซื้อไว้ในใบรับท่ีต้องออกด้วยทุกคราวท่ีได้รับชาระเงินหรือรับชาระราคา ขอ้ ความในใบรับเชน่ ว่านถ้ี ้าทาเป็นภาษาตา่ งประเทศให้มภี าษาไทยกากบัคมู่ อื นเี้ ปน็ เพยี งคู่มอื และตวั อยา่ งเพ่ือเสรมิ ความเขา้ ใจ ซ่ึงอาจไม่ครอบคลมุ และใชอ้ ้างองิ ไดท้ ุกกรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชภี าษอี ากร กรมสรรพากร

-10- ใบรับเงิน เล่มท่.ี ...........เลขท่ี................ วนั ท.่ี ...................................ช่อื กจิ การ............................................................................. (ผู้ขายสนิ คา้ /ใหบ้ ริการ)เลขประจาตวั ผู้เสียภาษี...............................................ทอี่ ย่.ู ...........................................................................โทรศัพท์.....................................................................ไดรับเงนิ จาก .......................................................................................... (ผู้ซื้อ/ผู้รับบริการ) ดังรายการต่อไปน้ีลาดบั รายการ (ชนิด/ชอ่ื ) จานวน ราคาต่อหน่วย จานวนเงิน รวม ลงชื่อ.......................................................................ผรู้ บั เงนิ(เปน็ เอกสารตัวอย่างเพือ่ ประกอบความเข้าใจเท่านนั้ อาจไม่ครอบคลุมทกุ กจิ การ จึงต้องมกี ารปรบั ใช้ใหเ้ หมาะสม)คู่มือนเี้ ป็นเพยี งคู่มอื และตวั อยา่ งเพอื่ เสรมิ ความเขา้ ใจ ซงึ่ อาจไม่ครอบคลมุ และใชอ้ า้ งองิ ไดท้ กุ กรณี สานกั มาตรฐานการสอบบญั ชภี าษอี ากร กรมสรรพากร

-11-2.1.2 ใบสาคญั รบั เงิน ใชใ้ นกรณผี รู้ บั เงินไมส่ ามารถออกใบเสร็จรับเงินให้ได้ แตย่ ินยอมที่จะลงลายมือชื่อในช่องผรู้ บั เงิน ใบสำคญั รับเงนิ ท่ี................................................................... วนั ท่.ี ..............เดอื น.......................................พ.ศ.................... ขา้ พเจา้ .................................................................................................. (ผ้ขู ายสินค้า/ใหบ้ รกิ าร)เลขประจาตัวผู้เสียภาษี...................................................................อยู่บ้านเลขท่ี....................หมู่.................ถนน....................................แขวง/ตาบล................…………………....เขต/อาเภอ………………………..………………จงั หวัด………….....................................................................……………. ไดรับเงินจาก ............................................................ (ผู้ซ้อื /ผู้รบั บริการ) ดังรายการต่อไปนี้รำยกำร จำนวนเงนิ บำท ส.ต. รวมเปน็ เงินจานวนเงนิ (อักษร)................................................................................................................... ลงช่ือ.......................................................................ผู้รบั เงิน ลงชอ่ื ......................................................................ผจู้ า่ ยเงนิหมายเหตุ แนบสาเนาบัตรประจาตัวประชาชนผรู้ ับเงิน (ซึง่ เปน็ ผู้ประกอบอาชีพขายสนิ ค้า/ใหบ้ ริการอย่างแท้จริง)(เป็นเอกสารตวั อย่างเพอื่ ประกอบความเข้าใจเท่านน้ั อาจไม่ครอบคลมุ ทกุ กิจการ จงึ ต้องมกี ารปรับใชใ้ หเ้ หมาะสม)ค่มู อื นเ้ี ป็นเพียงคู่มอื และตัวอยา่ งเพื่อเสรมิ ความเข้าใจ ซึ่งอาจไม่ครอบคลมุ และใชอ้ ้างองิ ไดท้ ุกกรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชีภาษอี ากร กรมสรรพากร

-12- 2.1.3 ใบรบั รองแทนใบเสรจ็ รบั เงิน ใช้ในกรณีกิจการจ่ายเงินค่าซ้ือสินค้าหรือบริการเบ็ดเตล็ดแต่ไม่สามารถเรียกใบเสร็จรับเงินจากผขู้ ายหรอื ผู้ใหบ้ รกิ ารได้ ตอ้ งให้พนักงานของกจิ การเปน็ ผู้รับรองการจ่ายเงินดังกล่าว ใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน บจ. /หจก. ........................................... (ผซู้ ้ือ/ผูร้ บั บรกิ าร)วนั เดือน ปี รำยละเอยี ดรำยจ่ำย จำนวนเงนิ หมำยเหตุ รวมทั้งสน้ิ รวมทั้งส้ิน ( ตวั อักษร )………………………………………………..…………………………………………………… ข้าพเจา้ ............................................................................ (ผู้เบิกจ่าย) ตาแหน่ง.......................................................ขอรับรองว่า รายจ่ายข้างต้นนี้ไม่อาจเรียกเก็บใบเสร็จรับเงินจากผู้รับได้ และข้าพเจ้าได้จ่ายไปในงานของทางบริษัท /หา้ งหุ้นสว่ นจากัด โดยแท้ ตั้งแต่วันท่ี.......................................ถึงวันท.ี่ .......................................................... ลงช่อื ……………………………………................................(ผู้เบกิ จ่าย) ลงช่อื ……………………………………...................................(ผ้อู นุมตั ิ)(เปน็ เอกสารตวั อย่างเพ่ือประกอบความเข้าใจเทา่ นนั้ อาจไม่ครอบคลมุ ทกุ กิจการ จงึ ต้องมีการปรบั ใช้ใหเ้ หมาะสม)คูม่ ือนเี้ ป็นเพยี งคมู่ อื และตวั อยา่ งเพอ่ื เสรมิ ความเขา้ ใจ ซ่งึ อาจไมค่ รอบคลมุ และใชอ้ ้างองิ ไดท้ กุ กรณี สานกั มาตรฐานการสอบบญั ชีภาษอี ากร กรมสรรพากร

-13- 2.2 ใบกากบั ภาษีหรือใบเสรจ็ รบั เงนิ ปรากฏเป็นช่ือผู้อื่น เช่น ค่าไฟฟ้าหรือค่าน้าประปา เป็นต้น แต่กิจการมหี ลักฐานทพ่ี สิ ูจน์ไดว้ า่ กิจการเปน็ ผจู้ า่ ยเงินตาม 2.1 และหลักฐานอนื่ ๆ ประกอบ เช่น สัญญาเชา่ เปน็ ตน้ 2.3 จัดทาใบสาคญั จา่ ย (Payment Voucher) ใช้สาหรบั กรณีไมม่ หี ลกั ฐานตาม 2.1 2.3.1 ใบสาคญั จ่าย ตอ้ งระบุ • ช่อื ท่ีอยู่ เลขบตั รประจาตัวผู้เสยี ภาษีอากร ของผรู้ ับเงิน • วันทจ่ี ่ายเงนิ • ระบุประเภทรายการทจี่ า่ ย และจานวนเงนิ ที่จ่าย • ลงลายมือชื่อผู้รับเงินไว้เป็นหลกั ฐาน • มกี ารลงนามอนุมัตจิ ่ายโดยผู้มีอานาจเทา่ นน้ั 2.3.2 พร้อมแนบหลกั ฐานการจ่ายเงนิ อาทิ (1) สาเนาเช็คระบุช่ือผู้รับเงิน ซ่ึงขีดฆ่าผู้ถือและขีดคร่อม A/C Payee only ที่มีหลักฐานว่าได้ตดั บัญชี Bank statement ของผ้จู า่ ยเงินแลว้ หรือ (2) สาเนาใบโอนเงนิ ธนาคารหรอื ชอ่ งทางอเิ ล็กทรอนกิ สอ์ นื่ 2.4 แนบบัตรประจาตัวประชาชนผ้รู บั เงนิ (เฉพาะกรณีชาระเปน็ เงินสด) 2.5 เอกสารหลกั ฐานทีค่ วรมี (เฉพาะกรณ)ี ดกู รณีตัวอยา่ ง 1 ถึง 3 2.6 เอกสารการพจิ ารณาอน่ื ท่ีเก่ียวข้อง (แลว้ แต่กรณี) (1) รายงานการประชมุ ทมี่ มี ตอิ นุมตั ใิ ห้ถอื เป็นรายจ่ายได้ (2) จดหมายผู้บริหาร (3) คารบั รองอนมุ ตั ิรายจา่ ย (4) รายการเบกิ จา่ ยทีผ่ ่านการอนมุ ัตแิ ละมีลายมือชื่อผู้อนมุ ตั จิ ่าย (5) สญั ญาทเ่ี กย่ี วข้อง 2.7 หลักฐานการหกั ภาษี ณ ที่จ่าย ทั้งน้ี ผูร้ บั เงนิ จากกจิ การตามเอกสารหลักฐานทปี่ รากฏตอ้ งมีพฤติกรรมประกอบอาชพี นนั้ อยา่ งแท้จริง3. การเก็บรักษาเอกสารหลักฐานประกอบการลงบัญชี พระราชบญั ญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 “มาตรา ๑๔ ผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชีต้องเก็บรักษาบัญชีและเอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้เป็นเวลาไม่น้อยกวา่ หา้ ปนี บั แตว่ ันปดิ บญั ชีหรือจนกวา่ จะมีการส่งมอบบัญชีและเอกสารตามมาตรา ๑๗ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบบัญชีของกิจการประเภทใดประเภทหน่ึง ให้อธิบดีโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีมีอานาจกาหนดให้ผู้มีหน้าท่ีจัดทาบัญชีเก็บรักษาบัญชีและเอกสารท่ีต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้เกินห้าปีแตต่ อ้ งไมเ่ กินเจ็ดปีได้”คู่มอื นเ้ี ปน็ เพียงคูม่ อื และตวั อย่างเพ่อื เสรมิ ความเข้าใจ ซ่ึงอาจไมค่ รอบคลมุ และใชอ้ า้ งองิ ได้ทกุ กรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชภี าษอี ากร กรมสรรพากร

-14-4. บทลงโทษกรณจี ดั ทาเอกสารหลักฐานอันเปน็ เทจ็ พระราชบญั ญัตกิ ารบัญชี พ.ศ. 2543 “มาตรา ๓๙ ผใู้ ดลงรายการเท็จ แกไ้ ข ละเวน้ การลงรายการในบัญชหี รอื งบการเงิน หรือแก้ไขเอกสารท่ีต้องใชป้ ระกอบการลงบญั ชีเพือ่ ให้ผดิ ความเปน็ จรงิ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ สองปี หรือปรบั ไม่เกินส่หี มื่นบาทหรือทัง้ จาทั้งปรบั ในกรณที ผ่ี ู้กระทาความผิดตามวรรคหนงึ่ เป็นผู้มหี นา้ ท่จี ดั ทาบัญชี ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กินสามปี หรอืปรบั ไมเ่ กินหกหมน่ื บาท หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรับ” ประมวลรัษฎากร “มาตรา ๓๗ ผูใ้ ดกระทาการดงั ตอ่ ไปนี้ ตอ้ งระวางโทษจาคุกต้ังแต่สามเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถงึ สองแสนบาท (๑) โดยเจตนาแจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคาเท็จ หรือตอบคาถามด้วยถ้อยคาอันเป็นเท็จหรือนาพยานหลกั ฐานเท็จมาแสดง เพ่ือหลีกเลยี่ งการเสียภาษอี ากรหรือเพอ่ื ขอคืนภาษีอากรตามลักษณะนี้ หรือ (๒) โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอ่ืนใดทานองเดียวกัน หลีกเล่ียงหรือพยายามหลีกเล่ียงการเสียภาษอี ากรหรือขอคนื ภาษอี ากรตามลักษณะนี้”5. คาพิพากษาฎกี าหรอื ข้อหารือท่เี กีย่ วขอ้ ง 5.1 กรณเี ป็นรายจา่ ยทางภาษีได้ 5.1.1 คาพิพากษาฎีกาท่ี 2510/2530 ค่านายหน้าที่หักภาษี ณ ท่ีจ่ายและนาส่งแล้ว ถือเป็นหลักฐานการจ่ายค่านายหน้าได้ การท่ีหา้ งผ้รู บั มไิ ดน้ าคา่ นายหนา้ ไปลงบญั ชแี ละเสยี ภาษีเงนิ ได้น้นั เป็นเร่ืองของหา้ งมิใชห่ น้าท่ีโจทก์ จึงมิใช่เหตุท่ีจะนามาอ้างวา่ มิไดม้ กี ารจา่ ยคา่ นายหนา้ ให้แก่หา้ ง 5.1.2 คาพิพากษาฎีกาท่ี 4963/2536 พนักงานของโจทก์ที่ไปขายสินค้าต่างจังหวัด จะเบิกค่าใช้จ่ายไปก่อน สาหรับค่าท่ีพักโรงแรมส่วนมากจะมีใบเสรจ็ รับเงินมาแสดง ส่วนค่าอาหารและคา่ พาหนะจะไม่มีใบเสรจ็ รับเงิน เม่ือพนักงานขายของโจทก์เป็นผู้รับเงินดังกล่าวในอัตราท่ีสมควรในการไปทางานให้โจทก์ แม้ไม่มีใบเสร็จรับเงินของผู้ท่ีรับเงินจากพนักงานเหลา่ น้ันมาแสดงกถ็ อื ไดว้ ่ามผี ู้รับเงินไปจริงจึงนามาหกั เปน็ รายจา่ ยได้ 5.1.3 หนงั สือที่ กค 0802/14110 ลงวันท่ี 14 ตุลาคม 2529 บริษัทรับจ้างถมที่ และขายทราย-ดินลูกรัง ซ่ึงซ้ือมาจากจังหวัดชายทะเล แต่ผู้ขายไม่เคยออกบิลซื้อให้เลย กรณีดังกล่าวบริษัทอาจทาหลักฐานการจ่ายเงิน ระบุช่ือ ที่อยู่ เลขประจาตัวผู้เสียภาษีอากรเลขที่ในบัตรประจาตวั ประชาชน วนั เดอื นปี จานวนเงิน รายการท่ีจ่าย และให้ผู้รับเงินลงรับไว้เพ่ือเป็นหลักฐานในการหักเปน็ รายจา่ ย ซ่งึ ทาใหบ้ รษิ ัทสามารถพิสูจน์ไดว้ า่ ใครเป็นผรู้ ับ ไม่ตอ้ งหา้ มตามมาตรา 65 ตรี (18)คู่มอื นเี้ ป็นเพยี งค่มู อื และตวั อยา่ งเพ่อื เสรมิ ความเข้าใจ ซง่ึ อาจไมค่ รอบคลมุ และใชอ้ ้างองิ ได้ทกุ กรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชีภาษอี ากร กรมสรรพากร

-15- 5.1.4 หนังสือที่ กค 0802/15656 ลงวนั ที่ 4 พฤศจิกายน 2531 ห้างฯ ซ้ือผัก ผลไม้ มาจากชาวไร่ ชาวสวน ซ่ึงไม่มีทะเบียนพาณิชย์ ไม่มีการออกใบเสร็จให้ห้างฯห้างอาจทาเป็นหลักฐานการจ่ายเงิน เช่น ใบสาคัญจ่าย ระบุช่ือ ท่ีอยู่ เลขประจาตัวผู้เสียภาษีอากร เลขท่ีบัตรประชาชน วันเดือนปี จานวนเงินท่ีจ่าย รายการท่ีจ่าย และให้ผู้รับลงช่ือรับไว้เพ่ือเป็นหลักฐานในการหักเป็นรายจา่ ยได้ ซึ่งทาใหห้ ้างฯ สามารถพสิ จู นไ์ ดว้ ่าใครเป็นผู้รับไมต่ อ้ งหา้ มตามมาตรา 65 ตรี (18) 5.1.5 หนงั สอื ท่ี กค 8002/15993 ลงวนั ท่ี 15 พฤศจกิ ายน 2531 สาเนาเช็คขีดคร่อมที่ผ่านการเบิกจ่ายเงินจากธนาคารแล้วซึ่งมีข้อความปรากฏชื่อห้างฯผู้ส่ังจ่าย และผู้ทรงเช็ค (เจ้าหน้ี) ซ่ึงเป็นผู้รับเงินถือเป็นหลักฐานการจ่ายของห้างฯ ผู้สั่งจ่ายได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (18) 5.1.6 หนังสอื ที่ กค 8002/พ.6499 ลงวันที่ 19 เมษายน 2536 บรษิ ัทประกอบกจิ การรับเหมาก่อสร้าง เชา่ สานักงาน เมอ่ื จา่ ยค่าเชา่ ปรากฏว่าผู้ให้เช่าไม่ออกใบเสรจ็ รบั เงนิ หรอื หลกั ฐานอื่นใด แต่บริษัทรับเหมาก่อเสร้างได้ถ่ายสาเนาเช็คท่ีจ่ายค่าเช่า และให้ผู้เช่าเซ็นชื่อรับลงบนสาเนาเช็คน้ัน หากปรากฏว่า เช็คท่ีสั่งจ่ายผ่านการขึ้นเงินจากธนาคารแล้ว บริษัทใช้สาเนาเช็คเป็นหลักฐานในการลงบญั ชไี ด้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (18) 5.1.7 หนงั สอื ที่ กค 0804/11706 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2518 บริษัทผู้เช่าซื้อรถยนต์ได้รับสาเนาใบเสร็จแสดงการจ่ายเงินแทนใบเสร็จตันฉบับตัวจริ งโดยบรษิ ัทผูใ้ หเ้ ชา่ ซอื้ มีตวั ตนแน่นอนและได้ยืนยันถึงการรับเงินตามสาเนาใบเสร็จจริง บริษัทย่อมนาสาเนาใบเสร็จนั้นมาเปน็ หลักฐานการจ่ายในการคานวณกาไรสทุ ธิไดไ้ ม่ต้องหา้ ม ตามมาตรา 65 ตรี (18) 5.1.8 หนังสือที่ กค 0802/13894 ลงวนั ท่ี 9 ตุลาคม 2529 ลูกจ้างทาใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลหาย ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนและขอให้โรงพยาบาลออกใบรับรองให้ หนังสือรับรองดังกล่าวเป็นหลักฐานการหักค่าใช้จ่ายในกรณีที่บริษัทมีข้อผูกพันจะต้องออกค่ารักษาพยาบาลใหล้ ูกจ้างไดไ้ ม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (18) 5.1.9 หนังสือท่ี กค 0811 (กม)/1516 ลงวนั ท่ี 14 สงิ หาคม 2541 ผู้ขายออกใบเสร็จรับเงินแต่ไม่ได้ลงชื่อรับเงินเน่ืองจากเป็นการออกล่วงหน้าก่อนครบกาหนดชาระเงิน บริษัทผู้ซื้อได้โอนเงินผ่านธนาคารในภายหลัง และหลักฐานการโอนเงินผ่านธนาคารปรากฏรายละเอียดเกี่ยวกับช่อื เจ้าหน้ีผูร้ ับเงิน จานวนเงินที่ชาระ และเลขที่บัญชีของเจ้าหนี้ อันเป็นหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นผู้รับ และเป็นการชาระหนี้ท่ีเกิดจากการประกอบกิจการบริษัทย่อมนาหลักฐานการโอนและใบเสร็จดังกลา่ วเป็นหลักฐานการจ่ายเงนิ ในการคานวณกาไรสทุ ธไิ ด้ ไมต่ ้องหา้ มตามมาตรา 65 ตรี (18) 5.1.10 หนงั สอื ที่ กค 0811/63 ลงวนั ท่ี 6 มกราคม 2543 บริษัทส่งเสริมการขายโดยมอบบัตรให้ลูกค้า เมื่อสะสมบัตรครบตามจานวนท่ีกาหนดแล้วนามาแลกเป็นเงิน เพ่ือเพิ่มยอดขายของบริษัท เงินที่บริษัทได้จ่ายไปเป็นรายจ่ายเพื่อหากาไรหรือเพ่ือกิจการโดยเฉพาะจึงนามาหักเป็นรายจ่ายได้ โดยบริษัทต้องมีหลักฐานแสดงให้เห็นด้วยว่าได้จ่ายเงินแลกบัตรตามโครงการส่งเสริมการขายใหแ้ ก่ลูกคา้ คนใดเป็นจานวนเทา่ ใด เพื่อจะได้ไม่เป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (18) จึงจะนามาถือเป็นรายจา่ ยได้คมู่ อื นเี้ ป็นเพยี งคู่มอื และตัวอย่างเพ่อื เสรมิ ความเข้าใจ ซึ่งอาจไมค่ รอบคลมุ และใชอ้ า้ งองิ ไดท้ ุกกรณี สานกั มาตรฐานการสอบบญั ชภี าษอี ากร กรมสรรพากร

-16- 5.1.11 หนงั สอื ท่ี กค 0706/พ.8779 ลงวันท่ี 21 ตุลาคม 2548 กรณีบริษัทจ่ายคืนค่ารถ Taxi ให้พนักงานตามใบขอเบิกค่าใช้จ่าย ถ้าบริษัทมีเอกสารหรือหลักฐานใดท่ีแสดงว่าบริษัทได้จ่ายเงินให้แก่ผู้ใดหรือใครเป็นผู้รับเงินน้ันแล้ว บริษัทมีสิทธินารายจ่ายดังกล่าวถือเป็นคา่ ใชจ้ า่ ยได้ไมต่ อ้ งห้ามตามมาตรา 65 ตรี (18) 5.1.12 หนังสือที่ กค 0706/4259 ลงวนั ท่ี 24 เมษายน 2550 กรณีบริษัทชาระเงินให้แก่เจ้าหนี้โดยวิธีการจ่ายเงินผ่านระบบธนาคาร หากแบบฟอร์มการโอนเงินเข้าบัญชีเจ้าหน้ีธนาคารแต่ละรายของธนาคารมีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นผู้รับ และเป็นการชาระหนี้ท่ีเกิดจากการประกอบกิจการ บริษัทมีสิทธินาจานวนเงินที่จ่ายตามแบบฟอร์มน้ันมาเป็นหลักฐานในการคานวณกาไรสุทธิได้ไมต่ อ้ งห้ามตามมาตรา 65 ตรี (18) 5.1.13 หนังสือท่ี กค 0706/2373 ลงวันท่ี 23 กุมภาพันธ์ 2550 บรษิ ัทประกอบกิจการขาย ติดตัง้ ซอ่ มบารงุ อุปกรณไ์ ฟฟา้ แรงสูง ระบบโทรศัพท์ ได้ทาสัญญากับผู้ว่าจ้างเพ่ือรับติดต้ังอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบสุขาภิบาลในสถานที่ซึ่งมิใช่ท่ีต้ังของสานักงานใหญ่หรือสาขาของบริษัท โดยมีค่าใช้จ่ายในสถานท่ีรับทางาน เช่น ค่าเช่า ค่าน้าประปา ค่าไฟฟ้า ฯลฯ ตามระยะเวลาของสัญญาว่าจา้ ง ค่าใชจ้ า่ ย เช่น ค่าเช่า ค่าไฟฟ้า ค่าน้าประปาที่เกิดขึ้นตามสัญญาว่าจ้างดังกล่าว บริษัทได้รับใบเสร็จรับเงินในช่ือบริษัท แต่ทีอ่ ยรู่ ะบสุ ถานท่ตี งั้ โครงการซ่งึ มใิ ชส่ ถานทีป่ ระกอบการของบรษิ ัท หากบริษัทพิสูจน์ได้ว่าบริษัทได้จ่ายเงินจานวนดงั กลา่ วไปจรงิ คา่ ใช้จ่ายดังกล่าวเขา้ ลกั ษณะเป็นรายจา่ ยเพ่อื หากาไรหรอื เพ่ือกิจการโดยเฉพาะจึงมีสิทธิถอื เปน็ รายจา่ ยได้ไมต่ ้องหา้ มตามมาตรา 65 ตรี (13) และ (18) 5.1.14 หนังสอื ที่ กค 0706/4722 ลงวนั ท่ี 31 พฤษภาคม 2549 บริษทั จา้ งลกู จ้างรายวัน โดยจา่ ยค่าตอบแทนเปน็ เงนิ สดเดอื นละครั้ง และจัดทาใบสาคัญจ่ายเป็นหลักฐานการรับเงินของลูกจ้าง หากปรากฏว่าในใบสาคัญจ่ายเงินดังกล่าว มีข้อความที่ระบุช่ือ ที่อยู่ เลขประจาตัวประชาชนของผู้รับเงิน วันเดือนปี จานวนเงินรายการที่จ่าย และผู้รับเงินได้ลงลายมือชื่อที่รับไว้เป็นหลักฐานแล้วบริษัทยอ่ มมีสทิ ธใิ ชเ้ ป็นเอกสารเพื่อประกอบการลงบัญชีรายจ่ายในการคานวณกาไรสุทธิได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา65 ตรี (18 ) 5.1.15 หนงั สอื ที่ กค 0706/พ./3316 ลงวันที่ 24 เมษายน 2549 สถานบริการน้ามันออกใบเสร็จรับเงินค่าน้ามันเชื้อเพลิงและเป็นเอกสารฉบับเดียวกันกับใบกากับภาษีอย่างย่อให้แก่บริษัท บริษัทมีสิทธินาไปถือเป็นรายจ่ายในการคานวณกาไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ต่อเมื่อใบเสร็จรับเงินนั้น มีลักษณะเป็นใบรับตามที่กาหนดไว้ในมาตรา 105 ทวิ ซ่ึงสามารถพิสูจน์ได้ว่าใครเปน็ ผู้รบั ตามมาตรา 65 ตรี (18) 5.1.16 หนังสอื ท่ี กค 0706/1505 ลงวนั ที่ 23 กมุ ภาพันธ์ 2549 ธนาคารรับชาระคา่ บริการสาธารณูปโภค ค่าบรกิ ารยื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ต และกรณีอ่ืน ๆโดยได้รับค่าธรรมเนียมจากการให้บริการ หากธนาคารได้รับเงินเดือนหรือรับชาระรวมแต่ละคร้ังเกิน 100 บาทธนาคารมีหน้าท่ีต้องออกใบรับให้แก่ผู้จ่ายเงินตามมาตรา 105 กรณีค่าธรรมเนียมไม่เกิน 100 บาท ซ่ึงไม่ถึงเกณฑ์ที่ธนาคารจะตอ้ งออกใบรบั หากธนาคารไมอ่ อกหลกั ฐานการเรียกการโอนเงนิ ผ่านธนาคาร ผู้ขอใช้มีสิทธินาสาเนาใบโอนเงนิ ท่มี รี ายละเอียดเกย่ี วกบั การรับเงินโอนและการรับค่าธรรมเนียมของธนาคารที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นรายจ่ายซ่ึงกาหนดขึ้นเองโดยไม่มีการจ่ายจริง เป็นหลักฐานในการคานวณกาไรสุทธิได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (18 )คมู่ ือนเ้ี ป็นเพยี งคูม่ อื และตวั อย่างเพอ่ื เสรมิ ความเขา้ ใจ ซึง่ อาจไม่ครอบคลมุ และใชอ้ า้ งองิ ได้ทุกกรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชีภาษอี ากร กรมสรรพากร

-17- 5.2 กรณเี ปน็ รายจ่ายทางภาษีไม่ได้ 5.2.1 คาพิพากษาฎีกาท่ี 2301/2531 โจทก์ไม่มีใบรับเงินของผู้ขายสินค้าให้มาแสดง แต่ส่งเอกสารอ่ืนแทนใบเสร็จรับเงิน ถือได้ว่ารายจ่ายนัน้ พิสจู น์ไมไ่ ด้วา่ ใครเปน็ ผู้รับ 5.2.๒ คาพิพากษาฎกี าที่ 2528/2531 ทง้ั โจทก์ (ผเู้ สยี ภาษ)ี และจาเลยต่างก็นาสืบไม่ได้ว่ามีผู้รับเงินตามหลักฐานการจ่ายเงินค่าจ้างโจทก์ซึง่ เป็นผู้จา่ ยจงึ พสิ จู น์ไมไ่ ด้วา่ ใครเป็นผ้รู ับ 5.๒.๓ คาพพิ ากษาฎีกาท่ี 3071/2531 ใบรบั มีแต่ชอ่ื ผู้จา่ ย ไม่มนี ามสกลุ และบ้านเลขทีข่ องผู้ขายเปน็ หลักฐานลงบัญชีจ่ายไม่ได้เพราะไม่ทราบวา่ ใครเป็นผู้ขายและรับเงิน การที่เจา้ พนักงานสรรพากรกาหนดต้นทนุ ยางตามระเบียบของจาเลยจงึ ชอบแล้ว 5.2.4 คาพิพากษาฎีกาที่ 2735/2532 เมอ่ื ใบรับเงนิ ไม่ปรากฏ ช่ือ ที่อยู่ของผู้รับเงิน แม้จะยืนยันว่าจ่ายไปจริง ท้ังผู้สอบบัญชีรับอนุญาตรับรองแลว้ กห็ ามีผลลบลา้ งบทบัญญตั ขิ องกฎหมายไม่ 5.2.5 คาพิพากษาฎีกาที่ 2213/2535 บรษิ ัทจ่ายเงินค่าบริการใหแ้ กเ่ จ้าหน้าทีศ่ ุลกากรและได้ลงบัญชีไว้ แต่มิได้ระบุว่าจ่ายให้แก่ผู้ใดคา่ ใชจ้ ่ายดังกลา่ วจงึ เปน็ รายจ่ายทบ่ี รษิ ัทพสิ ูจนไ์ ม่ได้ว่าใครเป็นผู้รับ 5.2.6 คาพพิ ากษาฎกี าท่ี 4963/2536 โจทกม์ เี พียงเอกสารทีโ่ จทก์ทาข้ึนวา่ มผี รู้ บั เงินไปจากโจทก์ แต่โจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ให้รับฟังไดว้ า่ ไดจ้ ่ายเงินไปจริงและมีผ้รู ับเงินทมี่ อี ย่หู รือตวั ตนแนน่ อน จึงเป็นกรณีที่โจทก์พสิ ูจน์ไม่ไดว้ ่าใครเป็นผูร้ บั โจทก์ส่งสินค้าให้แก่โรงพยาบาลโดยมีส่วนลดให้ ส่วนลดท่ีให้โรงพยาบาลมิได้ตอบรับว่าได้รับจากโจทก์หรือไม่ โจทก์ไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ ลาพังแต่เอกสารท่ีโจทก์ทาข้ึนเองว่าได้ให้ส่วนลดแก่โรงพยาบาลไมพ่ อรบั ฟงั ได้ว่าโรงพยาบาลเปน็ ผู้รับ อันจะนามาหักเปน็ รายจ่ายได้ 5.2.7 คาพิพากษาฎีกาท่ี 551/2537 โจทก์ไม่มีใบรับเงินจากผู้ขายมาแสดงท้ังไม่นาสืบให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าซ้ือสินค้ามาจากผู้ใดค่าซอ้ื สินคา้ ดงั กลา่ วจึงเปน็ ค่าใชจ้ ่ายท่พี ิสูจนไ์ ม่ไดว้ ่าใครเป็นผู้รบั 5.2.8 คาพิพากษาฎกี าที่ 4909/2538 รายจ่ายค่ารับรองและชดเชยผลเสียหาย โจทก์ทาหลักฐานการจ่ายข้ึนเอง แต่ไม่สามารถนาบุคคลผูร้ บั เงินมายนื ยันวา่ เป็นจริงตามท่ีโจทกท์ าหลกั ฐานข้ึนไว้ ถือว่าโจทก์ไมส่ ามารถพสิ ูจน์ได้ว่าเปน็ ผรู้ ับ 5.2.9 คาพิพากษาฎกี าที่ 1933/2538 โจทก์ไม่เก็บรักษาใบเสร็จรับเงิน อันเป็นหลักฐานเกี่ยวกับการซ้ือยางพารา เมื่อโจทก์ไม่ส่งหลักฐานดังกล่าว เจ้าพนักงานประเมินจึงไม่อาจตรวจสอบชื่อและที่อยู่ของผู้ขายยางพาราให้โจทก์ได้ จึงเป็นรายจา่ ยซ่ึงโจทกผ์ ู้จ่ายพสิ ูจนไ์ มไ่ ด้วา่ ใครเปน็ ผรู้ บั ต้องหา้ มเป็นรายจ่ายตามมาตรา 65 ตรี (18)คู่มอื นเี้ ปน็ เพยี งคู่มอื และตวั อยา่ งเพื่อเสรมิ ความเข้าใจ ซึ่งอาจไม่ครอบคลมุ และใชอ้ ้างองิ ไดท้ กุ กรณี สานกั มาตรฐานการสอบบญั ชภี าษอี ากร กรมสรรพากร

-18- 5.2.10 คาพิพากษาฎีกาที่ 9067/2547 บริษัท ค. ได้ตกลงให้บริษัท ซ. เป็นตัวแทนของบริษัท ค. ในการดาเนินโฆษณาสินค้าของบริษัท ค. และจ่ายค่าโฆษณาให้แก่ผู้รับจ้าง บริษัท ค. มีภาระหน้าที่ต้องนาใบเสร็จรับเงินของผู้รับจ้างมา สืบใหเ้ หน็ วา่ ผรู้ บั จ้างโฆษณาไดร้ บั เงนิ คา่ โฆษณาไปจริงเท่าไหร่ ไม่ใช่นาสืบแต่เพียงว่าจ่ายเงินค่าโฆษณาให้แก่บริษัท ซ.แลว้ จะถอื ว่าบรษิ ัท ค. จ่ายคา่ โฆษณาไปตามจริงน้ัน เงินทดรองจ่ายค่าโฆษณาท่ีพิสูจน์ไม่ได้ว่าใครเป็นผู้รับ จึงต้องห้ามไม่ให้ถือเปน็ รายจ่ายตามมาตรา 65 ตรี (18) 5.2.11 หนังสือท่ี กค 0820/9644 ลงวนั ที่ 4 กรกฎาคม 2527 กรรมการผู้จัดการของบริษัทได้จ่ายเงินไปโดยใช้บัตรเครดิตส่วนตัว แล้วจึงนาเอาสลิปหรือหลักฐานแสดงการหกั บญั ชีของธนาคาร ซง่ึ มีลายมือชอื่ เจา้ หนา้ ที่ร้านคา้ มาเบิกคืนเงนิ จากบริษัท สลิปหรือหลักฐานดังกล่าวบริษัทไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานประกอบการบันทึกค่าใช้จ่ายของบริษัท เว้นแต่จะมีใบเสร็จรับเงินของร้านค้ามาแสดงประกอบด้วย 5.2.12 หนังสอื ท่ี กค 0802/2395 ลงวนั ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2531 รายการหักบัญชีเงินฝากธนาคาร ตลอดจนอินวอยซ์ท่ีเจ้าหนี้ส่งมาเรียกเก็บเงินเป็นหลักฐานในการบันทึกบัญชีของบริษัทไม่ได้ เว้นแต่จะมีใบเสร็จรับเงินของร้านค้า (เจ้าหน้ี) หรือมีสาเนาเช็คที่ผ่านการเบิกจ่ายเงินจากธนาคารแล้วมาแสดงประกอบดว้ ย 5.2.13 หนังสือที่ กค 0811/742 ลงวนั วันที่ 25 มกราคม 2545 บริษัทลงบัญชีว่าจ่ายค่านายหน้าให้บุคคลธรรมดา แต่ไม่ปรากฏลายมือชื่อผู้รับเงินและเช็คที่บรษิ ทั ส่ังจ่ายก็ไมร่ ะบุช่อื ผ้รู ับ เมอ่ื บรษิ ัทไมส่ ามารถพสิ ูจน์ไดว้ ่าไดม้ ีการจ่ายค่านายหน้าจริง ถือว่าบริษัทไม่มีการจ่ายเงินค่านายหน้าและบริษัทไม่มีสทิ ธินาค่านายหน้าดังกล่าวมาเป็นรายจ่ายตามมาตรา 65 ตรี (9) (18)คู่มอื นเ้ี ปน็ เพยี งคู่มอื และตวั อยา่ งเพ่ือเสรมิ ความเข้าใจ ซึง่ อาจไมค่ รอบคลมุ และใชอ้ ้างองิ ได้ทุกกรณี สานกั มาตรฐานการสอบบัญชภี าษอี ากร กรมสรรพากร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook