บทท่ี 1ความรู้เบอื้ งต้นเก่ยี วกบั การบญั ชภี าษอี ากร
1. สาระการเรียนรู้ 1.1. ความหมายของการบญั ชีภาษีอากรและการบญั ชีการเงิน 1.2. วตั ถุประสงคข์ องการบญั ชีภาษีอากร 1.3. ความสาคญั ของการบญั ชีภาษีอากร 1.4. ความแตกตา่ งของการบนั ทึกรายการบญั ชีการเงินกบั บญั ชีภาษีอากร2. สาระสาคญั 2.1. การบญั ชีภาษีอากร หมายถึง การปรับปรุงรายการในส่วนที่เก่ียวกบั รายไดแ้ ละรายจา่ ยในบญั ชีการเงินซ่ึงไดบ้ นั ทึกไวแ้ ลว้ ตามหลกั การบญั ชีที่ยอมรับทวั่ ไป เฉพาะรายการที่ขดั แยง้ กบักฎหมายภาษีอากรเพ่ือใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การภาษีอากร 2.2. การบญั ชีภาษีอากรมีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ สร้างความเป็ นธรรมระหวา่ งหน่วยภาษีดว้ ยกนั ทาให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีไดอ้ ยา่ งเตม็ เมด็ เตม็ หน่วย และเพ่อื ป้องกนั การหลีกเล่ียงภาษี 2.3. การบญั ชีภาษีอากร ทาใหก้ ารเสียภาษีอากรของหน่วยธุรกิจเป็นไปดว้ ยความถูกตอ้ ง เป็ นหลกั ฐานสาหรับใชใ้ นการขจดั ขอ้ ขดั แยง้ ทางภาษีอากร เป็นเคร่ืองมือสาหรับใชใ้ นการวางแผนดาเนินธุรกิจ 2.4. การบนั ทึกรายการทางบญั ชีภาษีอากร ใหใ้ ชห้ ลกั การเดียวกบั บญั ชีการเงิน ยกเวน้ เฉพาะบางรายการท่ีกฎหมายภาษีอากรไดก้ าหนดไวแ้ ตกต่างกบั หลกั การบญั ชีการเงิน ซ่ึงไดก้ าหนดไวใ้ น มาตรา65 ทวิ มาตารา 65 ตรี และมาตรา 70 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร3. สมรรถนะทพี่ งึ ประสงค์ 3.1. ด้านความรู้ 1. อธิบายความหมายของการบญั ชีภาษีอากรและการบญั ชีการเงินไดถ้ ูกตอ้ ง 2. อธิบายวตั ถุประสงคข์ องการบญั ชีภาษีอากรคืออะไร ไดถ้ ูกตอ้ ง 3. อธิบายประโยชน์ของการบญั ชีภาษีอากร ไดถ้ ูกตอ้ ง 4. อธิบายความแตกต่างของรายการบญั ชีการเงินกบั กบั การบญั ชีภาษีอากรไดถ้ ูกตอ้ ง 3.2. ด้านคุณธรรมจริยธรรม มีความรับผดิ ชอบ ความซื่อสัตย์ การตรงตอ่ เวลา4. เนื้อหา 4.1. ความหมายการบัญชีภาษอี ากร โดยทว่ั ไปในการบนั ทึกขอ้ มูลเก่ียวกบั รายได้ รายจ่าย ทรัพยส์ ินและหน้ีสินของหน่วยธุรกิจ
ต่าง ๆ จะมีกฎเกณฑท์ ่ีเขา้ มาเกี่ยวขอ้ งอยู่ 2 กฎเกณฑด์ ว้ ยกนั ไดแ้ ก่ 4.1.1 กฎเกณฑ์ทางการบัญชีทีย่ อมรับโดยทวั่ ไป กฎเกณฑน์ ้ีเป็นการบงั คบั ใหห้ น่วยธุรกิจตา่ ง ๆ ตอ้ งบนั ทึกรายการที่เกี่ยวขอ้ งกบั รายได้ รายจ่าย ทรัพยส์ ิน และหน้ีสิน ตามหลกั การบญั ชีที่ยอมรับโดยทว่ั ไป ท้งั น้ีเพื่อนาขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการบนั ทึกและประมวลผลมาใหผ้ บู้ ริหารไดใ้ ชใ้ นการบริหารกิจการ เช่น การวางแผน การตดั สินใจ การแกไ้ ขปัญหา การควบคุมและประเมินผล เพอ่ื ให้การดาเนินกิจการบรรลุเป้าหมายที่กาหนดไว้ และนอกจากน้ีการบนั ทึกขอ้ มูลตามหลกั การบญั ชีท่ียอมรับโดยทวั่ ไปยงั ใชเ้ ป็นรายงานเพือ่ เสนอผลการดาเนินงานต่อกลุ่มบุคคลอ่ืนที่มิใช่กลุ่มผบู้ ริหารกิจการอีกดว้ ย เช่นผถู้ ือหุน้ เจา้ หน้ี หน่วยงานของราชการ ตลอดจนประชาชนทว่ั ไปท่ีสนใจการดาเนินงานของกิจการ ซ่ึงเรียกว่าการบัญชีการเงิน 4.1.2 กฎเกณฑ์ทางภาษอี ากร กฎเกณฑน์ ้ีเป็นการบงั คบั ใหห้ น่วยธุรกิจตา่ ง ๆ ตอ้ งบนั ทึกรายการที่เกี่ยวกบั รายไดร้ ายจ่ายตามกฎหมายภาษีอากร ท้งั น้ีเพอื่ นาขอ้ มูลท่ีไดไ้ ปใชส้ าหรับการคานวณภาษีเป็ นสาคญั การบนั ทึกรายการเกี่ยวกบั รายไดแ้ ละรายจา่ ยตามหลกั ของกฎหมายภาษีอากรน้ี เรียกวา่ การบัญชีภาษอี ากร การบญั ชีภาษอี ากร หมายถึง การปรับปรุงรายการในส่วนที่เก่ียวกบั รายไดแ้ ละร่ายจ่ายในบญั ชีการเงินซ่ึงไดบ้ นั ทึกไวแ้ ลว้ ตามหลกั การบญั ชีท่ียอมรับโดยทว่ั ไป เฉพาะรายการท่ีขดั แยง้ กบักฎหมายภาษีอากรเพื่อใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การภาษีอากร จากความหมายของการบญั ชีภาษีอากรขา้ งตน้ จะเห็นวา่ การบญั ชีภาษีอากรมิไดเ้ ป็นการบงั คบั ใหห้ น่วยธุรกิจตอ้ งบนั ทึกรายการเก่ียวกบั รายได้ รายจ่าย ทรัพยส์ ิน และหน้ีสินทุกรายการต้งั แต่เริ่มตน้ จนสุดทา้ ยข้ึนมาใหม่อีก 1 ชุด นอกเหนือจากการท่ีไดบ้ นั ทึกไปแลว้ ตามหลกั การบญั ชีท่ียอมรับโดยทวั่ ไปหรือเรียกวา่ หลกั การบัญชีการเงิน การบญั ชีภาษีอากรเป็นแต่เพียงการปรับปรุงรายการตวั เลขในส่วนของรายไดแ้ ละรายจ่ายที่กฎหมายภาษีอากรกาหนดใหม้ ีการบนั ทึกที่แตกตา่ งไปจากวธิ ีการทางบญั ชีการเงิน ซ่ึงผลของกฎหมายภาษีอากรที่บญั ญตั ิใหว้ ธิ ีการบนั ทึกบญั ชีบางรายการแตกตา่ งจากวธิ ีการบนั ทึกตามหลกั การบญั ชีที่ยอมรับทวั่ ไป จะส่งผลใหก้ าไรสุทธิทางบญั ชีภาษีอากรแตกตา่ งจากกาไรสุทธิทางบญั ชีการเงิน 4.2. วตั ถุประสงค์ของการบัญชีภาษีอากร วตั ถุประสงคท์ ี่กฎหมายภาษีอากรตอ้ งบญั ญตั ิใหว้ ธิ ีการบนั ทึกรายการแตกตา่ งจากวธิ ีการบนั ทึกตามหลกั การบญั ชีท่ียอมรับทว่ั ไปมี 3 ประการคือ 4.2.1 เพอ่ื สร้างความเป็นธรรมระหวา่ งหน่วยเสียภาษีดว้ ยกนั โดยการกาหนดเกณฑ์มาตรฐานที่ใชส้ าหรับการบนั ทึกรายการ เช่น การหกั คา่ สึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพยส์ ิน การตีราคาสินคา้ คงเหลือ เป็นตน้ 4.2.2 เพื่อให้รัฐสามารถจดั เก็บภาษีไดอ้ ยา่ งเตม็ เมด็ เตม็ หน่วย
4.2.3 เพอ่ื ป้องกนั การหลีกเลี่ยงภาษีอากร เช่นการตีราคาทรัพยส์ ินเพม่ิ ข้ึน กฎหมายภาษีอากรหา้ มมิใหห้ น่วยธุรกิจนารายการที่เกิดจากการตีราคาทรัพยส์ ินเพ่ิมข้ึนมาคานวณกาไรสุทธิ ซ่ึงการตีราคาทรัพยส์ ินเพ่ิมข้ึนจะมีผลทาใหร้ ายจ่ายในการคานวณกาไรสุทธิเพ่ิมข้ึนท้งั ท่ีมิไดม้ ีการจ่ายออกไปจริง ทาใหก้ าไรสุทธิต่าลง 4.3. ความสาคัญของการบัญชีภาษอี ากรต่อหน่วยธุรกจิ การบญั ชีภาษีอากรมีความสาคญั ต่อหน่วยธุรกิจในส่วนของการเสียภาษีหลายประการซ่ึงสรุปไดด้ งั น้ี 4.2.1 ทาให้การเสียภาษีอากรของหน่วยธุรกจิ เป็ นไปด้วยความถูกต้อง เน่ืองจากหน่วยธุรกิจทุกหน่วยมีหนา้ ที่ตอ้ งเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร ในการคานวณภาษีน้นั จะตอ้ งนาฐานภาษีมาคูณดว้ ยอตั ราภาษี ซ่ึงฐานภาษีท่ีนาใชค้ านวณภาษีจะแตกตา่ งกนั ไปข้ึนอยกู่ บั วา่ หน่วยธุรกิจน้นัตอ้ งเสียภาษีประเภทใด หากเป็นภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา ฐานภาษีไดแ้ ก่เงินไดส้ ุทธิ และหากเป็นภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลฐานภาษีจะไดแ้ ก่ กาไรสุทธิ ฐานภาษีที่นามาใชค้ านวณภาษีน้ีหามาจากบญั ชีท่ีมีการบนั ทึกรายการตามหลกั การบญั ชีภาษีอากรซ่ึงเรียกวา่ บญั ชีภาษีอากร มิไดห้ ามาจากบญั ชีที่บนั ทึกรายการตามหลกั การบญั ชีท่ียอมรับโดยทวั่ ไป ดงั น้นั เพ่ือใหก้ ารเสียภาษีของหน่วยธุรกิจเป็นไปดว้ ยความถูกตอ้ ง จึงจาเป็นที่หน่วยธุรกิจตอ้ งทาความเขา้ ใจ ใหค้ วามสาคญั และปฎิบตั ิตามหลกั เกณฑท์ างภาษีใหถ้ ูกตอ้ ง 4.2.2 เพ่ือเป็ นหลกั ฐานสาหรับใช้ในการขจัดข้อขัดแย้งทางภาษอี ากร การจดั เก็บภาษีอากรตามประมวลรัษฎากรส่วนใหญไ่ มว่ า่ จะเป็ นภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลภาษีมูลค่าเพ่มิ จะกาหนดให้ผมู้ ีหนา้ ท่ีเสียภาษียนื่ ประเมินตนเอง โดยกาหนดใหผ้ มู้ ีหนา้ ท่ีเสียภาษีทาการบนั ทึกรายการเพ่อื แสดงวา่ ตนเองมีรายไดห้ รือรายรับ พร้อมท้งั คานวณภาษีท่ีตอ้ งชาระเป็นเท่าใดและยนื่ ชาระภาษีตามจานวนท่ีคานวณได้ และเม่ือใดก็ตามที่เจา้ พนกั งานประเมินไม่เช่ือวา่ จานวนภาษีที่ผมู้ ีหนา้ ท่ีเสียภาษีไดช้ าระไวด้ ว้ ยวธิ ีการยน่ื ประเมินตนเองเป็นส่ิงท่ีถูกตอ้ งแลว้ เจา้ พนกั งานประเมินกม็ ีอานาจท่ีจะออกหมายเรียกเพ่อื ตรวจสอบหาความผดิ หลกั ฐานท่ีใชพ้ สิ ูจน์ความถูกผดิ ที่สาคญั ท่ีสุดกค็ ือสมุดบญั ชีและเอกสารประกอบการลงบญั ชีท่ีมีการบนั ทึกรายการตามหลกั กฎหมายภาษีอากรนนั่ เอง สมุดบญั ชีและเอกสารประกอบการลงบญั ชีจะเป็นหลกั ฐานสาคญั ในการขจดั ความขดั แยง้ ในเชิงภาษีอากรทุกข้นั ตอนไม่วา่ จะอยใู่ นข้นั ตอนการตรวจสอบภาษี การอุทธรณ์ภาษี หรือการพิจารณาในช้นั ศาลสถิตยตุ ิธรรม 4.2.3 เป็ นเคร่ืองมือสาหรับใช้ในการวางแผนการดาเนินงาน กฎหมายภาษีอากรในส่วนท่ีเกี่ยวกบั หลกั เกณฑใ์ นการลงบญั ชีมีส่วนสาคญั ต่อการวางแผนในการดาเนินธุรกิจ ท้งั ในส่วนที่เก่ียวกบั การตดั สินใจวา่ จะลงทุนประกอบการในธุรกิจประเภทใด และตดั สินใจถึงลกั ษณะของการประกอบธุรกิจ ซ่ึงในการตดั สินใจน้นั กฎเกณฑเ์ ก่ียวกบั การบนั ทึกบญั ชีภาษีอากรเขา้ มามีผลกระทบดงั น้ี
4.2.3.1 การตัดสินใจว่าจะลงทุนประกอบการในธุรกจิ ประเภทใด นอกจากการวเิ คราะห์ความเป็นไปไดท้ างการตลาดแลว้ การวเิ คราะห์ถึงภาระทางภาษีอากรยงั เป็ นเคร่ืองบง่ ช้ีที่สาคญั อีกอนั หน่ึงสาหรับตดั สินใจในการเลือกประเภทธุรกิจท่ีเหมาะสมและสมควรที่จะลงทุน และธุรกิจบางประเภทยงั ไดร้ ับยกเวน้ ภาษีอีกดว้ ย ผลของการเก็บภาษีในอตั ราท่ีแตกต่างกนั ส่งผลใหเ้ กิดความไดเ้ ปรียบเสียเปรียบระหวา่ งกิจการเกิดข้ึน ฉะน้นั ก่อนท่ีจะลงทุนในธุรกิจ ประเภทใดจาเป็นอยา่ งยงิ่ ที่ผลู้ งทุนจะตอ้ งพจิ ารณาไตร่ตรองถึงภาระภาษีในการประกอบธุรกิจแตล่ ะประเภทก่อน ท้งั น้ีเพ่ือท่ีจะทาใหก้ ารลงทุนไดร้ ับผลตอบแทนสูงสุดน้นั เอง 4.2.3.2 การตดั สินใจถึงลกั ษณะของการประกอบธุรกิจ ตามหลกั เกณฑห์ ลกั ของภาษีมูลคา่ เพ่ิม ผู้ประกอบการทจี่ ดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพมิ่ มีสิทธินาภาษีซ้ือไปหกั ออกจากภาษีขาย จึงมีผลทาใหต้ น้ ทุนการผลิตหรือตน้ ทุนขายลดต่าลง ส่วนผปู้ ระกอบการท่ีมิไดจ้ ดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพิ่มไม่มีสิทธินาภาษีซ้ือไปหกั ออกจากภาษีขายซ่ึงจะส่งผลต่อตน้ ทุนการผลิตหรือตน้ ทุนขายท่ีสูงข้ึนจากผลของกฎหมายภาษีมูลคา่ เพ่มิ ดงั กล่าวหน่วยธุรกิจต่าง ๆ ตอ้ งตระหนกั และนาภาระภาษีมูลค่าเพ่ิมมาพิจารณาวางแผนกาหนดลกั ษณะของธุรกิจเพื่อใหเ้ กิดประโยชน์มากที่สุด 4.4. ความแตกต่างของการบัญชีการเงินกบั กบั การบัญชีภาษอี ากร โดยหลกั การทว่ั ไปการบนั ทึกรายการในบญั ชีภาษีอากร จะใชห้ ลกั การเดียวกนั กบั การบนั ทึกรายการในบญั ชีการเงิน จะมีเฉพาะบางรายการที่กฎหมายภาษีอากรกาหนดวธิ ีการบนั ทึกใหแ้ ตกต่างจากหลกั การในบญั ชีการเงินซ่ึงจะส่งผลใหก้ าไรสุทธิ หรือเงินไดส้ ุทธิในบญั ชีภาษีอากรแตกตา่ งจากบญั ชีการเงิน รายการที่กฎหมายภาษีอากรกาหนดหลกั การบนั ทึกรายการแตกตา่ งกบั บญั ชีการเงินน้นักฎหมายไดก้ าหนดไวใ้ นมาตรา 65 ทวิ มาตรา 65 ตรี และมาตรา 70 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร
ตารางเปรียบเทยี บความแตกต่างระหว่าง รายการ การบ1. การส่งสินคา้ ออกไปตา่ งประเทศโดยไม่มีการ ไมต่ อ้ งรับรู้รายได บนั ทึกเป็นรายไดห้ เรียกเก็บคา่ ตอบแทน กาไรสุทธิ2. การตีราคาทรัพยส์ ินท่ีมิใช่สินคา้ คงเหลือและ บนั ทึกเป็นรายได การตีราคาทรัพยส์ ินเพ่มิ ข้ึน3. การตีราคาสินคา้ คงเหลือในวนั สุดทา้ ยของรอบ ระยะเวลาบญั ชี4. การบนั ทึกรายไดป้ ระเภทเงินปันผลท่ีไดร้ ับ จากบริษทั ท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย5. การบนั ทึกรายไดก้ รณีดอกเบ้ียเงินกยู้ มื ที่อยใู่ น บนั ทึกเป็นรายได บงั คบั ตอ้ งถูกหกั ภาษี ณ ท่ีจ่ายตามกฎหมาย ไมบ่ นั ทึกเป็นค่าใ ภาษีเงินไดป้ ิ โตรเลียม6. ผลขาดทุนสุทธิที่ยกมาไม่เกิน 5 ระยะเวลา บญั ชีก่อนปี ปัจจุบนั
งการบัญชีการเงินกบั การบัญชีภาษอี ากรบญั ชีการเงนิ การบญั ชีภาษอี ากรด้ ตอ้ งรับรู้รายไดต้ ามราคาตลาดหรือค่าใชจ้ ่ายในการคานวณ มิใหบ้ นั ทึกเป็นค่าใชจ้ า่ ยในการคานวณกาไรสุทธิดท้ ้งั จานวน ราคาทุนหรือราคาตลาดแลว้ แตอ่ ยา่ งใดจะต่ากวา่ดท้ ้งั จานวนใชจ้ า่ ย - บริษทั ท่ีจ้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย บนั ทึกเป็น รายไดก้ ่ึงหน่ึง - บริษทั จดทะเบียน ไดร้ ับยกเวน้ ภาษีท้งั จานวน - บนั ทึกเป็นรายไดเ้ พียงส่วนที่เหลือจากภาษีหกั ณ ท่ีจ่าย - บนั ทึกเป็นค่าใชจ้ า่ ยได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: