แนวทางการใส่ท่อช่วยหายใจ ตึกแยกโรค 3/2
แนวทางการใสท่ อ่ ชว่ ยหายใจ วัตถุประสงค์ เพอ่ื เป็นแนวทางปฏิบัตใิ นการช่วยแพทยใ์ นการใส่ทอ่ ช่วยหายใจผูป้ ว่ ยไดอ้ ย่างรวดเรว็ และปลอดภยั ข้ันตอนการเตรยี มอปุ กรณ์ เครอ่ื งมือในการใสท่ ่อชว่ ยหายใจ 1. Laryngoscope 1 อัน พร้อม Blade ตรวจสอบความสว่างของหลอดไฟ และเลือกขนาดของ Blade ใหเ้ หมาะสมดงั นี้ ผ้ปู ว่ ย ชนดิ ของ Blade ขนาดของ Blade ผ้ชู าย Blade โค้ง No. 4 ผหู้ ญงิ Blade โค้ง No. 3 เดก็ โต Blade โคง้ No. 2 เดก็ เล็ก Blade โคง้ หรือตรง No. 1 ทารก Blade ตรง No. 0-1 2. ท่อ Endotracheal tube ตามขนาดทเ่ี หมาะสม ในผ้ใู หญเ่ พศชาย ขนาดทใี่ ช้มักเปน็ ขนาด ID 8 มม. และในเพศหญิงจะใช้ขนาด ID 7-7.5 มม. สาหรบั ในเดก็ สามารถคานวณขนาดของ ID ตามอายุ โดยใช้สตู รดังนี้ ผปู้ ว่ ย ขนาดทใ่ี ช้ แรกคลอด – 3 เดอื น ID 3.0 มม. ID 3.5 มม 3 – 9 เดอื น ID 4.0 มม. 9 - 18 เดอื น ID = (อายุ/3) + 3.5 ID = (อายุ/4) + 4.5 2-6 ปี ≥ 6 ปี 3. Oral airway ขนาดทเี่ หมาะสมกับผ้ปู ่วย 4. Magill Forceps 5. Guide wire (Stylet) 6. Xylocain Jelly 7. Syringe 10 CC 8. Ambu bag
9. Oxygen 10. Face mask 11. เคร่ืองดดู เสมหะพรอ้ มอปุ กรณ์ดดู เสมหะ 12. พลาสเตอรส์ าหรับปดิ ET tube 13. N95, ถงุ มอื , แว่นตา ขอ้ บ่งชใ้ี นการใส่ Endotracheal Tube 1 ชว่ ยหายใจ 1.1 ผู้ป่วยทีไ่ ม่สามารถหายใจไดเ้ อง หรือหายใจได้ไม่เพียงพอ ทาให้คา่ PaCo2 มากกว่า 50 mmHg และ pH มคี วามเปน็ กรด 1.2 ผู้ป่วยที่มีค่าความดันออกซิเจนในเลือดแดงต่า PaCo2 น้อยกว่า 60 mmHg ขณะที่ได้รับการรักษา ด้วยการใหอ้ อกซเิ จนแล้ว 2. เพื่อป้องกันการสูดสาลักเข้าปอด ในผู้ป่วยที่หมดสติ ไม่ว่าจะมีสาเหตุจากอุบัติเหตุ หรือได้รับยาระงับ ความรสู้ กึ แบบทวั่ รา่ งกาย 3. เพ่ือทาให้ทางเดินหายใจสว่ นบนโลง่ ในผปู้ ว่ ยทจ่ี ะมีปญั หาทางเดนิ หายใจบวมหรอื มีกอ้ นอดุ กนั้ 4. เพอ่ื ดูดเสมหะภายในปอด ในผู้ปว่ ยทีไ่ มส่ ามารถไอไดเ้ อง เน่ืองจากหมดสติ หรือไมม่ แี รง 4.2 ขัน้ ตอนการใส่ Endotracheal Tube 1. อธิบายให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจถึงความจาเป็นในการใส่ท่อช่วยหายใจ เพื่อให้ผู้ป่วยร่วมมือและลดความ วิตกกังวล 2. จัดให้ผู้ป่วยนอนในท่า Sniffing คือ ท่านอนราบหนุนหมอน 10 ซม.ใต้ Occiput โดยไหลจ่ ะต้องอยู่บนพ้ืน เตียง เพื่อเป็นการ Flex คอขึ้นมาจากหน้าอก ในเด็ก จัดทา่ นอนราบปกติ ใช้หมอนหนุนบริเวณคอและหัวไหลเ่ พ่ือ ง่ายต่อการเปดิ ทางเดนิ หายใจ 3. ตรวจสอบสัญญาณชีพ คล่ืนหัวใจ และค่า O2 sat 4. Hyperventilate ผู้ปว่ ยดว้ ย Ambu bag ทต่ี อ่ ออกซิเจน โดยเปดิ ออกซิเจนในอัตรา 10-15 LPM เพอ่ื เพ่ิม ปรมิ าณออกซเิ จนให้เพยี งพอ 5. ทดสอบ Endotracheal tube วา่ กระเปาะรว่ั หรือไม่ 6. ใช้ Xylocain jelly หล่อล่ืนตลอดความยาวของ Guide wire (Stylet) ก่อนใส่ Guide wire เข้าไปใน Endotracheal Tube การใส่ Guide wire ต้องระวังไม่ให้โผล่พ้น Endotracheal Tube และงอส่วนท่ีเหลือให้ แนบกับ Tube ดดั Tube ใหม้ ลี ักษณะเป็นรูปตวั J 7. Clear air way เพอ่ื ทาใหท้ างเดินหายใจโล่ง
8. สง่ Endotracheal Tube ใหแ้ พทย์ ขณะใส่ สังเกตคล่ืนไฟฟ้าหวั ใจและ O2 sat 9. เม่ือแพทย์ใสไ่ ดแ้ ลว้ off Guide wire และ Inflated cuff 10. ฟังปอดเพ่ือให้แน่ใจว่า Endotracheal Tube อยู่ในตาแหน่งที่เหมาะสม และมีลมเข้าปอดทั้งสองข้าง เทา่ กนั 11. ตรงึ Endotracheal Tube ดว้ ยพลาสเตอร์ บนั ทกึ ขนาดและตาแหน่งของ Tube ในบนั ทึกทางการพยาบาล 12. เตรยี ม Ventilator หรือ ออกซิเจนตามอาการของผูป้ ว่ ย 13. ส่ง Portable chest X ray หลงั ใส่ Endotracheal Tube ภาวะแทรกซ้อน 1. ภาวะพร่องออกซิเจนอยู่นานขณะใสท่ อ่ หลอดลม เน่ืองจากผูป้ ว่ ยไม่ร่วมมอื หรอื ผูใ้ สไ่ ม่ชานาญ 2. ตาแหน่งของท่อหลอดลมลึกไปจนลงไปปอดด้านขวา ทาให้เกิดภาวะปอดแฟบ (atelectasis) ของปอด ข้างซา้ ย หรือถา้ ตื้นเกินไปอาจทาใหท้ ่อหลุดออกจากหลอดลม 3. ใส่ท่อหลอดลมเข้าไปในกระเพาะอาหาร ทาให้เกิดภาวะพร่องออกซิเจน และการสูดสาลักของเหลว จาก ในกระเพาะอาหารเข้าปอด 4. อันตรายต่อ glottis และ หลอดลม ซง่ึ อาจทาใหเ้ กดิ การบวมหรืออักเสบ 5. ภาวะติดเชื้อแทรกซอ้ น ได้แก่ การอกั เสบของไซนัส หูชน้ั กลาง หรือปอดอกั เสบ 6. ภาวะอุดกั้นทางเดนิ หายใจส่วนบนหลังจากการเอาทอ่ หลอดลมออก เอกสารวชิ าการทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ผศ.พญ.อริศรา เอย่ี มอรุณ. Airway management [อนิ เตอร์เนต็ ] กรงุ เทพฯ:ภาควิชาวสิ ญั ญวี ทิ ยา คณะ แพทยศาสตรศ์ ริ ิราชพยาบาล [เข้าถงึ เมื่อ 27 ก.ค. 2563]. เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://www.si.mahidol.ac.th/anesth/undergrad... แพทยห์ ญิงธิดา เอื้อกฤดาธกิ าร. การใส่ท่อช่วยหายใจ [อินเตอรเ์ นต็ ] สงขลา: ภาควิชาวสิ ญั ญวี ิทยา คณะ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ [เข้าถึงเมื่อ 27 ก.ค. 2563]. เขา้ ถึงได้จาก: medinfo2.psu.ac.th/anesth/New 1511/intubation.pdf ·
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: