หลกั สูตรอาชีพเพอ่ื การมีงาน หลกั สูตรแปรรปู ทผลำติ ภัณฑจ์ ากต้นคลา้ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอบุ่งคล้า สำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยจังหวดั บึง กำฬ หนึ่งตำบล หน่ึงอำชีพ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอบงุ่ คล้า ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอบุ่งคล้า สำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยจงั หวดั บึงกำฬ
ก คำนำ ตามทร่ี ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (นางสาวตรนี ุช เทยี นทอง) กาหนดนโยบายการ จดั การศกึ ษาและภารกจิ แรง่ ดว่ น เพอ่ื ขบั เคลอ่ื นการจดั การศกึ ษาทม่ี ุ่งพฒั นาทกั ษะทางอาชพี สง่ เสรมิ การจดั การศกึ ษาทเ่ี น้นพฒั นาทกั ษะอาชพี ของผเู้ รยี น เพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ สรา้ งอาชพี และรายได้ รวมทงั้ เพม่ิ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ โดยมอบหมายใหส้ านกั งาน กศน.ดาเนินการสง่ เสรมิ การจดั การศกึ ษา พฒั นาอาชพี เพอ่ื การมงี านทา re-skill และ up-skill ใหแ้ ก่ประชาชนทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์การ แพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อธั ยาศยั อาเภอบุ่งคลา้ สานักงานกศน.จงั หวดั บงึ กาฬ จงึ จดั ทาหลกั สตู ร เพอ่ื พฒั นาอาชพี re-skill และ up-skill ซง่ึ ในเบอ้ื งตน้ ดาเนินการขบั เคล่อื นใน 5 กลุ่มอาชพี ไดแ้ ก่ กลมุ่ อาชพี เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พานชิ ยกรรม และการยรกิ าร ความคดิ สรา้ งสรรค์ และอาชพี เฉพาะทาง รวมจานวน 1 หลกั สตู ร เพอ่ื ใหส้ ถานศกึ ษาหรอื ผจู้ ดั กจิ กรรมนาไปใชใ้ นการขบั เคลอ่ื นการจดั การศกึ ษาตามนโยบายดงั กล่าว เอกสารประกอบหลกั สตู รกลมุ่ อาชพี ความคดิ สรา้ งสรรค์ เลม่ น้ี มจี านวน 1 หลกั สตู ร ไดแ้ ก่ หลกั สตู ร การแปรรูปผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ โดยจดั ขน้ึ ขน้ึ เพอ่ื อานวยความสะดวกใหแ้ กผ่ สู้ อน หรอื ผเู้ รยี นสามารถเรยี นรู้ ไดด้ ว้ ยตนเอง นาไปศกึ ษาและประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งใชเ้ อกสารเลม่ น้คี วบค่กู บั เอกสาร หลกั สตู รการจดั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาอาชพี re-skill และ up-skill ทส่ี อดคลอ้ งกบั บรบิ ทเชงิ พน้ื ท่ี 1 กศน.ตาบล 1หลกั สตู รอาชพี ซง่ึ มรี ายละเอยี ดของหลกั สตู รทจ่ี ะทาใหผ้ สู้ อนหรอื ผเู้ รยี นเขา้ ใจถงึ ความเป็นมา หลกั การ จุดมุ่งหมาย โครงสรา้ งเน้อื หาของหลกั สตู ร การจดั การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผล การจบหลกั สตู รและการ เทยี บโอน สาหรบั เอกสารหลกั สตู รเล่มน้ี ไดจ้ ดั ทาเน้อื หาเกย่ี วกบั แผนการจดั กระบวนการเรยี นรู้ จดั ทาสอ่ื การ เรยี นรตู้ ามแผน ซง่ึ มที งั้ เอกสารใบความรู้ คลปิ เสรมิ การเรยี นรู้ และใบงาน ทผ่ี สู้ อนหรอื ผเู้ รยี นเม่อื ไดเ้ รยี นรแู้ ละ ฝึกปฏบิ ตั ติ ามแผน จะสามารถพฒั นาตนเองใหม้ คี วามรแู้ ละทกั ษะบรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลกั สตู ร หลกั สตู รอาชพี ทพ่ี ฒั นาขน้ึ น้ี ไดป้ รบั ปรงุ จากหลกั สตู รอาชพี ทส่ี ถานศกึ ษาในแต่ละ กศน.ตาบล ทกุ อาเภอในจงั หวดั บงึ กาฬ พฒั นาเป็นต้นร่างมากอ่ นแลว้ สานกั งาน กศน.จงั หวดั บงึ กาฬ พฒั นาเน้อื หารสาระให้ ครบวงจรและกาหนดระยะเวลาในการเรยี นใหเ้ หมาะสม โดยไดร้ บั ความอนุเคราะหจ์ ากผทู้ ม่ี คี วามเชย่ี วชาญทงั้ ดา้ นเน้อื หาสา ทกั ษะและประกอบอาชพี ดา้ นน้โี ดยตรง ผทู้ รงคุณวฒุ ดิ า้ นการพฒั นาหลกั สตู ร ดา้ นสอ่ื การสอน ดา้ นวดั และประเมนิ ผลและผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง มาร่วมพจิ ารณาและตรวจสอบความถกู ตอ้ งจงึ ทาใหก้ ารดาเนนิ การ จดั ทาหลกั สตู รในครงั้ น้เี สรจ็ สน้ิ ไปดว้ ยดี ขอขอบคณุ มำ ณ โอกำสนี้ ศนู ยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอบงุ่ คล้ำ
สำรบญั ข คำนำ หน้ำ สำรบญั ก ข คาแนะนาในการใชเ้ อกสาร ผงั มโนทศั หลกั สตู รการแปรรูปผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ ความเป็นมา หลกั การ จุดมงุ่ หมาย กลุ่มเป้าหมาย ระยะเวลา โครงสรา้ งเน้อื หาหลกั สตู ร แบบทดสอบก่อนเรยี น เน้อื หาเอกสารประกอบหลกั สตู ร แบบทดสอบหลงั เรยี น แหล่งอา้ งองิ ขอ้ มลู บรรณานุกรม คณะผจู้ ดั ทา
ค คำชี้แจงกำรใช้เอกสำรหลกั สตู ร กำรแปรรปู ผลิตภณั ฑจ์ ำกต้นคล้ำ เอกสารการใชเ้ อกสารหลกั สตู ร การแปรรูปผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ เล่มน้ี จดั ทาขน้ึ เพอ่ื พฒั นาผเู้ รยี น ให้ มีความรู้ความสามารถทางด้านวิชาการ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในการศกึ ษาเอกสารเลม่ น้ผี เู้ รยี นควรปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ผเู้ รยี นสารวจวชิ าทต่ี นเองลงทะเบยี นเรยี น 2. ผเู้ รยี นศกึ ษารายละเอยี ดว่าตอ้ งเรยี นรเู้ น้อื หาในเร่อื งใดบา้ งในรายวชิ าน้ี 3. ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เพอ่ื ทราบพน้ื ฐานความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี น โดยตรวจสอบคาตอบจากเฉลย แบบทดสอบก่อนเรยี นทา้ ยเล่ม 4. ศึกษาเน้ือหาสาระในแต่ละบทเรียนให้เข้าใจ และทาแบบทดสอบท้ายบทเรยี น ผู้เรยี นสามารถ ตรวจสอบคาตอบไดจ้ ากเฉลยทา้ ยเลม่ 5. เมอ่ื ศกึ ษาเน้อื หาสาระครบทุกบทเรยี นแลว้ ใหผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นและตรวจคาตอบจาก เฉลยทา้ ยเล่ม ผเู้ รยี นควรทาแบบทดสอบหลงั เรยี นใหไ้ ดค้ ะแนนมากกว่าแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 6. ใหผ้ เู้ รยี นบนั ทกึ คะแนนผลการทดสอบรายวชิ า การใชเ้ อกสารหลกั สตู ร การแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ าก ตน้ คลา้ ในแบบบนั ทกึ การพฒั นาทกั ษะวชิ าการผูเ้ รยี นรายบุคคล เพอ่ื เป็นแนวทางในการพฒั นาตนเองอย่าง ตอ่ เน่อื ง 7. ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเพม่ิ เตมิ ไดจ้ ากแบบเรยี นรายวชิ า การใชเ้ อกสารหลกั สตู ร การแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ าก ตน้ คลา้ และสอ่ื ออนไลน์อน่ื ๆ
2. กำรสำน ผงั มโ จานวน 40 ชวั่ โมง หลกั สตู ร การแปรรูป -- พน้ื ฐานการสาน (1 ชม.) การแปรรูปผลิตภณั ฑจ์ ากต้น --การสานจากตน้ คลา้ (3 ชม.) --การทากระตบิ ขา้ ว (6 ชม.) (50ชวั่ โมง) --การทากระเป๋ าแบบต่างๆ (12 ชม.) --การถาดใสผ่ ลไม้ (6ชม.) -- กระเชา้ ใสผ่ ลไม้ (6 ชม.) -- ทใ่ี ส่กระบอกน้า (3 ชม.) - การยอ้ มคลา้ ดว้ ยน้าสม้ ควนั ไม้ (3 ชม.) 4.กำรบริหำรหนี้สินและบญั ชีเบือ้ งต้น จานวน 4 ชวั่ โมง --การคานวณตน้ ทุน กาไร (1 ชม.) --แหล่งเงนิ ทุนและการกยู้ มื (1 ชม.) --การบรหิ ารหน้สี นิ และการบรหิ ารสญั ญา(1 ชม.) --การจดั ทาบญั ชคี รวั เรอื น (1 ชม.)
โนทศั นอ์ าชพี ปผลติ ภณั ฑ์จากต้นคล้า 1.พน้ื ฐำนกำรสำนจำกต้นคล้ำ จานวน 2 ชวั่ โมง 30 นาท่ี -- ความรพู้ น้ื ฐานการสาน (30นำที) นคลา้ -- การสานจากต้นคลา้ (30นำที) -- วสั ดุอุปกรณ์ (30นำที) -- ความปลอดภยั ในอาชพี การสาน (30นำที) -- คณุ ธรรมในการประกอบอาชพี (30นำที) 3.การจดั การตลาดเบอ้ื งตน้ และการบรรจุ ง จานวน 3 ชวั่ โมง 30 นาที --การตลาดชุมชน (๓๐ นาท)ี --การออกแบบบรรจุภณั ฑ์ (1 ชม.) --มาตรฐานผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน (1 ชม.) --การตลาดออนไลน์ (1 ชม.)
แบบ กศน.ตน.๑๕ แบบฟอรม์ รำยละเอียดหลกั สูตร ช่ือสถำนศึกษำ กศน.อำเภอบุง่ คล้ำ หลกั สูตร การแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ จำนวน 50 ชวั่ โมง ควำมเป็ นมำ การจดั การศกึ ษาอาชพี ในปัจจุบนั มคี วามสาคญั มาก เพราะจะเป็นการพฒั นาประชากรของประเทศให้ มคี วามรู้ ความสามารถและทกั ษะในการประกอบอาชพี เป็นการแกป้ ัญหาการว่างงานและสง่ เสรมิ ความ เขม้ แขง็ ใหแ้ กเ่ ศรษฐกจิ ชุมชน การยกระดบั การจดั การศกึ ษาเพอ่ื เพมิ่ ศกั ยภาพและขดี ความสามารถให้ ประชาชนไดม้ อี าชพี ทส่ี ามารถสรา้ งรายได้ ทม่ี นั่ คง โดยเน้นการบรู ณาการใหส้ อดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพดา้ นตา่ งๆ มุ่งพฒั นาคนไทยใหไ้ ดร้ บั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาอาชพี และการมงี านทาอยา่ งมคี ุณภาพ ทวั่ ถงึ และเทา่ เทยี มกนั ประชาชนมรี ายไดม้ นั่ คง มงั่ คงั่ และมงี านทาอย่างยงั่ ยนื มคี วามสามารถเชงิ การแขง่ ขนั ทงั้ ในระดบั ภูมภิ าค อาเซยี นและระดบั สากล ซง่ึ จะเป็นการจดั การศกึ ษาตลอดชวี ติ ในรปู แบบใหม่ทส่ี รา้ งความมนั่ คงใหแ้ ก่ประชาชน และประเทศชาต.ิ อาชพี การจกั สานและการแปรรูปผลติ ภณั ฑจ์ ากต้นคลา้ เป็นอกี อาชพี หน่งึ ทม่ี อี ยคู่ ่กู บั สงั คมไทยมาชา้ นาน ตงั้ แต่สมยั บรรพบุรษุ และมกี ารสบื ทอดตอ่ กนั มาจากรุน่ สรู่ ุ่นจนมาถงึ ปัจจบุ นั แต่เน่อื งจากปัจจบุ นั มี เทคโนโลยที ท่ี นั สมยั เขา้ มาจงึ ทาใหก้ รรมวธิ ใี นการออกแบบลวดลายผลติ ภณั ฑแ์ บบดงั้ เดมิ ของคนไทยจงึ เปลย่ี นไปและเรมิ่ กา้ วเขา้ ไปสรู่ ะบบอุตสาหกรรมมากขน้ึ ซง่ึ อาจทาใหว้ ถิ กี ารประกอบอาชพี ทเ่ี กดิ จากภูมิ ปัญญาในทอ้ งถน่ิ เรม่ิ สญู หายไปอย่างชา้ ๆ และไม่เหลอื ไวใ้ หล้ กู หลานไดศ้ กึ ษาเพอ่ื การสบื สานและอนุรกั ษ์ อกี ต่อไป ดงั นนั้ กศน.ตาบลหนองเดนิ่ สงั กดั ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอบงุ่ คลา้ จงั หวดั บงึ กาฬ จงึ ไดท้ าโครงการจดั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาอาชพี หลกั สตู รการแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ จานวน 50 ชวั่ โมง ใหแ้ กก่ ลุ่มเป้าหมายไดพ้ ฒั นารูปแบบและลวดลายผลติ ภณั ฑจ์ ากต้นคลา้ เพอ่ื เพมิ่ มลู ค่า และตรงตามความตอ้ งการของตลาดมากขน้ึ อกี ทงั้ เป็นการสรา้ งรายไดท้ ย่ี งั่ ยนื หลกั กำรของหลกั สูตร การจดั การศกึ ษาเพอ่ื การพฒั นาอาชพี เพอ่ื การมงี านทา กาหนดหลกั การไวด้ งั น้ี 1. เป็นหลกั สตู รการประกอบอาชพี ทท่ี าใหเ้ กดิ ความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ 2. เป็นหลกั สตู รเพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถเรยี นรแู้ ละฝึกปฏบิ ตั กิ ารแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ ได้ 3. เป็นหลกั สตู รเพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถนาผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ ไปขายเพอ่ื สรา้ งไดใ้ หก้ บั ครอบครวั ได้ จดุ มงุ่ หมำย 1. เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะมคี วามรู้ ความเขา้ ใจความชานาญ เทคนิคการจกั สาน ออกแบบลวดลาย ออกแบบผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ (Up Skill)ในการประกอบอาชพี ได้ 2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถจกั สาน ออกแบบลวดลาย ออกแบบผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ ได้ 3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นไดพ้ ฒั นาอาชพี การแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ ของตนเอง และมรี ายไดท้ ย่ี งั่ ยนื
กลุ่มเป้ ำหมำย ประชาชนผตู้ อ้ งการเรยี นรูก้ ารแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ เพอ่ื ทาเป็นอาชพี และต่อยอดอาชพี ในเขต ตาบลหนองเดนิ่ 1. ผทู้ ว่ี ่างงาน 2. ผทู้ ม่ี อี าชพี แลว้ และตอ้ งการพฒั นาอาชพี ในพน้ื ทต่ี าบลหนองเดนิ่ ระยะเวลำเรียนทงั้ หมด 50 ชวั่ โมง ภาคทฤษฎี 8 ชวั่ โมง ภาคปฏบิ ตั ิ 42 ชวั่ โมง โครงสร้ำงหลกั สตู ร 1. พน้ื ฐานการจกั สาน ( 2 ชวั่ โมง 30 นาที ) 1.1 ความรพู้ น้ื ฐานการจกั สานตน้ คลา้ 1.2 ออกแบบลวดลาย 1.3 ออกแบบผลติ ภณั ฑ์ เช่น กระตบิ ขา้ ว กระเป๋ า ถาดผลไม้ โคมไฟ เป็นตน้ 1.4 วสั ดุอุปกรณ์ 1.4 ความปลอดภยั ในอาชพี จกั สาน 1.5 คุณธรรมในการประกอบอาชพี 2. การสาน ( 40 ชม. ) 2.1. พน้ื ฐานการสาน (1 ชม.) 2.2 การสานจากต้นคลา้ (3 ชม.) 2.3 การทากระตบิ ขา้ ว (6 ชม.) 2.4 การทากระเป๋ าแบบต่างๆ (12 ชม.) 2.5 การถาดใสผ่ ลไม้ (6ชม.) 2.6 โคมไฟ (6 ชม.) 2.7 ทใ่ี สก่ ระบอกน้า (3 ชม.) 2.8 การยอ้ มคลา้ ดว้ ยน้าสม้ ควนั ไม้ (3 ชม.) 3. การจดั การตลาดเบอ้ื งตน้ และการบรรจุภณั ฑ์ ( 3 ชม.30 นาท)ี 3.1 การตลาดชมุ ชน 3.2 การออกแบบบรรจุภณั ฑ์ 3.3 มาตรฐานผลติ ภณั ฑช์ ุมชน 3.4 การตลาดออนไลน์ 4. การบรหิ ารหน้สี นิ และบญั ชเี บอ้ื งตน้ ( 4 ชม.) 4.1 การคานวณตน้ ทนุ กาไร 4.2 แหลง่ เงนิ ทุนและการกู้ยมื 4.3 การบรหิ ารหน้สี นิ และการบรหิ ารสญั ญา 4.4 การจดั ทาบญั ชคี รวั เรอื น
รำยละเอียดโครงสร้ำงหลกั สตู รกำรแปรรปู ผลิตภณั ฑจ์ ำกต้นคล้ำ เร่ือง จดุ ประสงคก์ ำร เนื้อหำ กำรจดั กระบวนกำร ชวั่ โมง รวม เรียนรู้ เรียนรู้ ทฤษ ปฏิบั ฎี ติ 1. พน้ื ฐำน 1.1 บอกความสาคญั 1.1 พน้ื ฐาน 1.1วทิ ยากรอธบิ าย 30 กำรสำนจำก ของการประกอบ ความสาคญั ของการ ความรพู้ น้ื ฐานการ นาที ต้นคล้ำ อาชพี พน้ื ฐานการสาน ประกอบอาชพี การสาน สานจากตน้ คลา้ เพอ่ื (2ชวั่ โมง30 จากตน้ คลา้ ได้ จากตน้ คลา้ นาขอ้ มลู มาวเิ คราะห์ นาท)ี และใชใ้ นการประกอบ อาชพี การแปรรปู 1.2 บอกความเป็นไป ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ ไดใ้ นอาชพี หลกั สตู ร 1.2 ความเป็นไปไดใ้ น คลา้ การแปรรปู ผลติ ภณั ฑ์ การประกอบอาชพี การ 1.2 วทิ ยากรและ 30 จากตน้ คลา้ ได้ แปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ าก ผเู้ รยี นวเิ คราะหอ์ าชพี นาที ตน้ คลา้ ทจ่ี ะสามารถเลอื ก 1.2.1 ความตอ้ งการ ประกอบอาชพี การ ของตลาด แปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ าก 1.2.2 การใชแ้ รงงาน ตน้ คลา้ ไดใ้ นชุมชน 1.2.3 การจดั หาวสั ดุ จากขอ้ มลู ตา่ งๆ อปุ กรณ์ 1.2.4 การเลอื กทาเล ทต่ี งั้ 1.3 บอกถงึ แหล่งทม่ี า จดั หาวสั ดอุ ปุ กรณ์ได้ 1.3 การจดั หาวสั ดุ 1.3 วทิ ยากรให้ 30 อปุ กรณ์ ความรวู้ ธิ กี ารจดั หา นาที 1.4 บอกถงึ ความ สอ่ื และวสั ดุ ปลอดภยั ในอาชพี การ 1.4 ความปลอดภยั ใน 1.4 วทิ ยากรอธบิ าย 30 แปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ าก อาชพี การสาน ใหค้ วามรถู้ งึ ความ นาที ตน้ คลา้ ได้ ปลอดภยั ในอาชพี การ สาน 1.5คุณธรรมในการ 1.5คณุ ธรรมในการ 1.5 วทิ ยากรอธบิ าย 30 ประกอบอาชพี ประกอบอาชพี คุณธรรมในการ นาที ประกอบอาชพี
เรื่อง จดุ ประสงคก์ ำร เนื้อหำ กำรจดั กระบวนกำร ชวั่ โมง รวม เรยี นรู้ เรยี นรู้ ทฤษ ปฏิบั 2.กำรแปรรปู 2.1 ความรพู้ น้ื ฐานการ ฎี ติ ผลิตภณั ฑ์ 2.1 มคี วามรูพ้ น้ื ฐาน สานเพอ่ื เตรยี มการ 1.วทิ ยากรใหค้ วามรู้ 30 30 จำกต้นคลำ้ การสานเพอ่ื ประกอบอาชพี การแปร พน้ื ฐานการสาน นาที นาที (40 ชวั่ โมง) เตรยี มการประกอบ รปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ 1 2 ชม. อาชพี การแปรรปู คลา้ 2.วทิ ยากรใหค้ วามรู้ ชม. ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ 2.1.1 ความรพู้ น้ื ฐาน และใหผ้ เู้ รยี นไดฝ้ ึก ไดแ้ ก่ สถานท/่ี พน้ื ท่ี การสาน ปฏบิ ตั กิ ารสานจาก 1 2 ชม. คดั เลอื กตน้ คลา้ การ 2.2 การสานจากตน้ ตน้ คลา้ ชม. สานลายต่างๆ การ คลา้ 3.วทิ ยากรใหค้ วามรู้ ขน้ึ รูป การเยบ็ กระเป๋ า 2.3 การสานกระตบิ และใหไ้ ดฝ้ ึก 1 11 หรอื ยอ้ มสธี รรมชาติ ขา้ ว ปฏบิ ตั กิ ารสาน ชม. ชม. และความรูท้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง กระตบิ ขา้ ว ได้ 2.4 การสานกระเป๋ า 1 5 ชม. แบบตา่ งๆ 4.วทิ ยากรใหค้ วามรู้ ชม. 2.2 สามารถสานและ และใหไ้ ดฝ้ ึก แปรรูปผลติ ภณั ฑจ์ าก 2.5 การสานถาดใส่ ปฏบิ ตั กิ ารสาน 1 5 ชม. ตน้ คลา้ ได้ ผลไม้ กระเป๋ าแบบต่างๆ ชม. 2.6 การสานโคมไฟ 5.วทิ ยากรใหค้ วามรู้ 1 2 ชม. และใหผ้ เู้ รยี นไดฝ้ ึก ชม. 2.7 การสานทใ่ี ส่ ปฏบิ ตั กิ ารสานโคม กระบอกน้า ไฟ 5.วทิ ยากรใหค้ วามรู้ และใหผ้ เู้ รยี นไดฝ้ ึก ปฏบิ ตั กิ ารโคมไฟ 6.วทิ ยากรใหค้ วามรู้ และใหผ้ เู้ รยี นไดฝ้ ึก ปฏบิ ตั กิ ารสานทใ่ี ส่ กระบอกน้า 2.3 สามารถดแู ล 2.8 การยอ้ มคลา้ ดว้ ย 7.ฝึกปฏบิ ตั กิ ารยอ้ ม 2 ชม. รกั ษาผลผิ ลติ ภณั ฑ์ น้าสม้ ควนั ไม้ คลา้ ดว้ ยน้าสม้ ควนั ไม้ 1 จากตน้ คลา้ ได้ ชม.
เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ำร เนื้อหำ กำรจดั กระบวนกำร ชวั่ โมง รวม เรียนรู้ เรียนรู้ ทฤษ ปฏิบั ฎี ติ 3.การจดั การ 3.1 สามารถเรยี นรู้ 3.1 การบรหิ ารการ 3.1 วทิ ยากรบรรยาย 30 นาที ตลาดเบอ้ื งตน้ พน้ื ฐานการตลาดได้ การสานและการแปรรปู องคค์ วามรเู้ กย่ี วกบั 1 1ชม. การบรรจุ - การควบคมุ คุณภาพ ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ การควบคุมการสาน ชม. ภณั ฑ์ การสาน การออกแบบ การออกแบบลวดลาย 1 ชม. (3 ชวั่ โมง ลวดลายแบบตา่ งๆ แบบต่างๆและการ 1 30นาท)ี - ลดตน้ ทุน บรหิ ารการตลาด ชม. 3.2 สามารถเรยี นรถู้ งึ 3.2 การจดั การตลาด 3.2 การบรหิ าร พน้ื ฐานการพฒั นา ในการแปรรปู จดั การการตลาด บรรจุภณั ฑ์ ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ พน้ื ฐาน การพฒั นา 3.3 สามารถวาง และการพฒั นาบรรจุ บรรจภุ ณั ฑท์ ่ี แผนการกาหนด ภณั ฑ์ เหมาะสมกบั สนิ คา้ มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ 3.3 วทิ ยากรให้ ชุมชนได้ ความรกู้ ารวาง 3.3 การวางแผนการ แผนการดาเนนิ งาน ดาเนินงาน การควบคุม การควบคุมมาตรฐาน มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ ผลติ ภณั ฑข์ องชุมชน ของชุมชน การควบคุมมาตรฐาน ผลติ ภณั ฑข์ องชุมชน ใหอ้ ยรู่ ะดบั แนวหน้า และมคี วามน่าเช่อื ถอื ของผบู้ รโิ ภค 4. การบรหิ าร 1. สามารถคานวณ 1. การคานวณตน้ ทุน 1. วทิ ยากรอธบิ าย หน้สี นิ เบอ้ื งตน้ ตน้ ทนุ และกาไรได้ และบญั ชี และกาไร และศกึ ษาจากใบ เบอ้ื งตน้ (๔ ชวั่ โมง) ความรใู้ นการคานวณ ตน้ ทนุ และกาไรการ จดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษา เน้อื หาจากใบความรู้ และคน้ ควา้ จาก Google
เรอ่ื ง จดุ ประสงคก์ ำร เนื้อหำ กำรจดั กระบวนกำร ชวั่ โมง รวม เรยี นรู้ เรียนรู้ ทฤษ ปฏิบั ฎี ติ 2. รจู้ กั แหล่งเงนิ ทุน 2.แหล่งเงนิ ทุนและการ 2.จดั เวทเี สวนาและ 1 และการเขา้ ถงึ การขอ เขา้ ถงึ การขอสนิ เช่อื การแนะแนวจาก ชม. สนิ เชอ่ื จากสถาบนั จากสถาบนั การเงนิ ตวั แทนสถาบนั การเงนิ เพอ่ื ลงทนุ ใน การเงนิ เร่อื ง อาชพี แหล่งเงนิ ทุนและการ เขา้ ถงึ การขอสนิ เชอ่ื จากสถาบนั การเงนิ การบรหิ ารจดั การ หน้สี นิ และการบรหิ าร สญั ญา 3.เขา้ ใจวธิ กี ารบรหิ าร 3. การบรหิ ารจดั การ 3.ผเู้ รยี นฝึกจดั ทา 1 ชม. จดั การหน้สี นิ และการ หน้สี นิ และการบรหิ าร บญั ชคี รวั เรอื น แลว้ บรหิ ารสญั ญาได้ สญั ญา จดั กจิ กรรมการ สนทนาแลกเปลย่ี น ขอ้ มลู ความคดิ เหน็ เพอ่ื สรา้ งแนวคดิ ใน การดาเนินกจิ กรรม ๔. ผเู้ รยี นสามารถ ๔. การจดั ทาบญั ชี การเรยี นรู้ จดั ทาบญั ชคี รวั เรอื น ครวั เรอื น 4.ฝึกจดั ทาบญั ชี 1ชม. ครวั เรอื น รวม 8 42 50 ส่ือกำรเรียนรู้ ในการจดั การเรยี นรู้ ใชส้ อ่ื การเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย ไดแ้ ก่ สอ่ื สงิ่ พมิ พ์ สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ สอ่ื บคุ คล ภูมปิ ัญญา แหลง่ เรยี นรกู้ ลุ่มแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ กำรวดั และประเมินผล 1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎรี ะหว่างเรยี นและจบหลกั สตู ร 2. การประเมนิ ผลงานระหว่างเรยี นจากการปฏบิ ตั ิ ไดผ้ ลงานทม่ี คี ุณภาพสามารถสรา้ งรายได้ และจบ หลกั สตู ร
กำรจบหลกั สูตร 1. มเี วลาเรยี น ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ตลอดหลกั สตู ร ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. มผี ลงานทม่ี คี ณุ ภาพ เอกสำรหลกั ฐำนกำรศึกษำ 1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล 2. ทะเบยี นคุมวุฒบิ ตั ร 3. วุฒบิ ตั ร ออกโดยสถานศกึ ษา กำรเทียบโอน ผเู้ รยี นทจ่ี บหลกั สตู รน้สี ามารถนาไปเทยี บโอนผลการเรยี นรกู้ บั หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี วชิ าเลอื กทส่ี ถานศกึ ษาไดจ้ ดั ทาขน้ึ
แบบทดสอบก่อนเรยี น 1. ตน้ คลา้ มลี กั ษณะอย่างไร ก. มลี กั ษณะใบใหญ่ ลาตน้ เตย้ี ข. มลี กั ษณะมหี วั ใบเรยี วเลก็ ค. มลี กั ษณะมหี วั ลาตน้ สงู ใบรี ง. มลี กั ษณะลาตน้ อวบ ใบใหญ่ 2. การแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ เช่น กระตบิ ขา้ ว กระเป๋ า เสอ่ื นิยมใชส้ ว่ นไหนมาแปรรปู ผลติ ภณั ฑ์ ก. ราก ข. หวั ค. ลาตน้ ง. ใบ 3. ตน้ คลา้ ตอ้ งมอี ายุกป่ี ีถงึ นามาแปรรปู ผลติ ภณั ฑไ์ ด้ ก. 1 ปี ข. 2 ปี ค. 3 ปี ง. 4 ปี 5. ขอ้ ใดคอื ขนั้ ตอนแรกการนาตน้ คลา้ มาแปรรปู ผลติ ภณั ฑ์ ก. นาตน้ คลา้ มาตากแดด ข. ลอกเปลอื กตน้ คลา้ แลว้ นามาตากแดด ค. ยอ้ มสเี ปลอื กตน้ คลา้ ง. ถกู ทุกขอ้ 6. คนสว่ นมากนาตน้ คลา้ มาแปรรปู เป็นผลติ ภณั ฑอ์ ะไร ก. กระเป๋ า ข. เสอ่ื ค. กระตบิ ขา้ ว ง. รองเทา้ สาน
เฉลย แบบทดสอบก่อนเรียน 1. ค. มลี กั ษณะมหี วั ลาตน้ สงู ใบรี 2. ค. ลาตน้ 3. ข. 2 ปี 4. ข. ลอกเปลอื กตน้ คลา้ แลว้ นามาตากแดด 5. ค. กระตบิ ขา้ ว
1.พืน้ ฐานการสาน ความเปน็ มา ประวตั คิ วามเป็นมาของภูมปิ ัญญา ภูมปิ ัญญา คอื แบบแผนการดาเนนิ ชวี ติ ทม่ี คี ุณค่า แสดงถงึ ความ เฉลยี วฉลาดของ บคุ คลและสงั คมซง่ึ ไดส้ งั่ สม ปฏบิ ตั สิ บื ต่อกนั มากระตบิ ขา้ วของชาวอสี านเป็นภาชนะเกบ็ อาหารทท่ี าง คณุ ค่ามากดว้ ยภูมปิ ัญญา เกบ็ ความรอ้ นไดด้ ี ในขณะทย่ี อมใหไ้ อน้าระเหยออกไปได้ ทาใหข้ า้ ว เหนียวท่ี บรรจุภายในกระตบิ ไม่แฉะดว้ ยไอน้า ต่างจากกระตกิ น้าแขง็ ทพ่ี อ่ คา้ แม่คา้ ขา้ วเหนียวสม้ ตาบางรา้ น นามาใชบ้ รรจุขา้ วเหนียวเพอ่ื รอขายซง่ึ จาเป็นตอ้ งใชผ้ า้ ขาวรองอกี ทกี ่อนบรรจุข้าวเหนยี ว แตเ่ มด็ ขา้ วทอ่ี ยู่ รอบขอบกระตกิ กย็ งั แฉะอย่ดู เี คลด็ ลบั ของการสานกระตบิ ขา้ วอย่ทู ก่ี ารสานภาชนะเป็นสองชนั้ ชนั้ ในสุดจะ สานดว้ ยตอกไมใ้ หม้ คี วามห่างเลก็ น้อยเพอ่ื ใหไ้ อน้าระเหยออกจากขา้ วไปสชู่ อ่ งวา่ งภายในกอ่ งหรอื กระตบิ ขา้ วได้ ชนั้ นอกสดุ จะสานดว้ ยตอกทม่ี คี วามชดิ แน่นกว่าเพอ่ื เกบ็ ความรอ้ นเอาไว้ ไอน้าทม่ี คี วามรอ้ นอยู่ ภายในช่องวา่ งน้จี ะชว่ ยทาใหข้ า้ วเหนียวทอ่ี ยภู่ ายในกระตบิ ยงั คงความรอ้ นไดอ้ กี นาน โดยเมลด็ ขา้ วจะไม่มี ไอน้าเกาะฝากระตบิ และตวั กระตบิ จะมลี กั ษณะเหมอื นกนั เพยี งแตม่ ขี นาดทต่ี ่างกนั เลก็ น้อย สามารถสวม ใส่ กนั ไดพ้ อดี ในสว่ นตวั กระตบิ จะมฐี านรองทาจากก้านตาลขดเป็นวงกลม มขี นาดเลก็ กว่าตวั กระตบิ เลก็ น้อย ยดึ ดว้ ยหวายใหต้ ดิ กบั ตวั กระตบิ กระตบิ ขา้ วเป็นของใชป้ ระจาบา้ นทใ่ี ชบ้ รรจุขา้ วเหนียว ทกุ ครวั เรอื น ทกุ พน้ื ทท่ี ร่ี บั ประทานขา้ วเหนียว กลมุ่ ได้ 2. การแปรรูปผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ (40ชม.) 2.1 การสานกระติบข้าว กระติบข้าวเป็นของใช้ประจำบา้ นทีใ่ ชบ้ รรจุขา้ วเหนยี ว ทกุ ครวั เรอื น ทกุ พื้นที่ท่รี บั ประทานข้าว เหนียวการทำกระตบิ ข้าวจากคลา้ จะมีความทนกวา่ ไม้ไผ่ และเปน็ เงา และตอ้ งเลือกคลา้ ทม่ี ีอายุ 2 ปีขึ้นไป มาทำกระตบิ ขา้ ว เหตผุ ลทท่ี ำใหน้ ิยมใช้ กระติบขา้ วบรรจุขา้ วเหนียว 1. ทำใหข้ ้าวเหนยี วทีบ่ รรจุไมเ่ หนยี วแฉะ ไม่ติดมือ 2. พกพาสะดวก ห้ิวไปได้ทุกหนทุกแห่ง ประโยชน์ท่ีไดจ้ ากกระตบิ ข้าว 1.ใชบ้ รรจุข้าวเหนยี ว 2.เป็นของชำร่วย 3.ประดบั ตกแตง่ 4.กล่องเอนกประสงค์ 5.กล่องออมสิน 6.แจกัน 7.กล่องใส่ดินสอ รำยละเอียดผลิตภณั ฑห์ รือจำนวน / ชนิดของผลิตภณั ฑ์ กระตบิ ขา้ วคลา้ จะมี 3 ขนาดทก่ี าหนดไวเ้ ป็นมาตรฐาน ของกลุ่ม ดงั น้ี 1. ขนาดเลก็ จะมเี สน้ ผ่านศูนยก์ ลาง 5 น้วิ ราคาขาย 150 บาท
2. ขนาดกลาง จะมเี สน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 7 น้วิ ราคาขาย 250 บาท 3. ขนาดใหญ่ จะมเี สน้ ผ่านศูนยก์ ลาง 10 น้วิ ราคาขาย 500 บาท นอกเหนือจากขนาดทก่ี าหนด ลูกคา้ จะเป็นคนกาหนดขนาดเอง สว่ นการกาหนดราคาจะอย่ทู ป่ี รมิ าณการใช้ วตั ถดุ บิ ความยากง่ายของงาน และเวลาในการจกั สาน วิธีกำร / ขนั้ ตอนกำรผลิต กำรเตรียมวตั ถดุ ิบ 1. ตดั คลา้ ทม่ี อี ายุประมาณ 2 ปี ขน้ึ ไป 2. วดั ความยาวประมาณ 50 ซม. สาหรบั สานกลอ่ งขา้ วเหนยี วขนาดเลก็ (เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 5 น้วิ ) วดั ความยาวประมาณ 65 ซม. สาหรบั สานกลอ่ งขา้ วเหนียวขนาดกลาง (เสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง 7 น้วิ ) วดั ความ ยาวประมาณ 85 ซม.สาหรบั สานกลอ่ งขา้ วเหนียวขนาดใหญ่ (เสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง 10 น้วิ ) 3. ขดู ผวิ ตน้ คลา้ ทม่ี สี เี ขยี วออกใหเ้ กลย้ี ง 4. จกั เป็นเสน้ ตอก ใหม้ คี วามกวา้ งประมาณ 0.7 ซม. 5. ใชเ้ ครอ่ื งหลอมใหม้ เี สน้ ทม่ี ขี นาดเท่ากนั กวา้ งประมาณ 0.5 ซม. 6. จากทไ่ี ดเ้ สน้ ขนาดเท่ากนั แลว้ นาไปขดู ไสอ้ อกใหม้ คี วามบางเท่ากนั 7. นาไปตากแดดใหแ้ หง้ ประมาณ 10 - 15 วนั ขนั้ ตอนกำรสำนกระติบข้ำว 1. นาเสน้ คลา้ ทแ่ี หง้ สนิทแลว้ มาพรมน้าใหช้ ุ่ม 2. เรม่ิ การกอ่ โดยการพบั ครง่ึ ของเสน้ คลา้ หาจุดกง่ึ กลาง เรมิ่ ตน้ การสานทต่ี รงกลางของกลอ่ งขา้ ว ก่อนดว้ ยลายสองเวยี น ซง่ึ การกาหนดเสน้ คลา้ แต่ละขนาดจะมคี วามแตกตา่ งกนั คอื - กล่องขา้ วขนาดเลก็ (ตวั กลอ่ งขา้ ว) จะใชเ้ สน้ คลา้ ดา้ นบน 36 คู่ ดา้ นล่าง 36 คู่ - กลอ่ งขา้ วขนาดเลก็ (ตวั ฝากลอ่ งขา้ ว ) จะใชเ้ สน้ คลา้ ดา้ นบน 38 คู่ ดา้ นลา้ ง 38 คู่ - กลอ่ งขา้ วขนาดกลาง (ตวั กลอ่ งขา้ ว) จะใชเ้ สน้ คลา้ ดา้ นบน 44 คู่ ดา้ นลา่ ง 44 คู่ - กล่องขา้ วขนาดกลาง (ตวั ฝากลอ่ งขา้ ว ) จะใชเ้ สน้ คลา้ ดา้ นบน 46 คู่ ดา้ นลา้ ง 46 คู่ - กลอ่ ง ขา้ วขนาดใหญ่ (ตวั กล่องขา้ ว) จะใชเ้ สน้ คลา้ ดา้ นบน 50 คู่ ดา้ นล่าง 50 คู่ - กลอ่ งขา้ วขนาดใหญ่ (ตวั ฝากลอ่ ง ขา้ ว ) จะใชเ้ สน้ คลา้ ดา้ นบน 52 คู่ ดา้ นลา้ ง 52 คู่ 3. จากทเ่ี รมิ่ ตน้ ดว้ ยลายสองเวยี นทต่ี รงกลางกล่องขา้ วเรยี บรอ้ ยแลว้ กจ็ กั สานไปทลี ะขา้ งจนเสรจ็ สน้ิ ท่ี ลายสามเวยี นหกั เกบ็ มุมใหเ้ รยี บรอ้ ย ขนั้ ตอนกำรเยบ็ 1. เรม่ิ ตน้ ทก่ี ารพบั ครง่ึ โดยการฉีดน้าใหช้ ุ่มแลว้ ดงึ ลายสามเวยี นทอ่ี ย่รู อบนอกเขา้ หากนั จะไดก้ ระตบิ ขา้ วทม่ี สี องชนั้ 2. ถงึ มุมขอบทงั้ สองขา้ งแลว้ พบั เกบ็ มมุ ไปทางเดยี วกนั ใหม้ คี วามยาวประมาณ 2 ซม. เผอ่ื จะมกี าร วางฐานกล่องขา้ ว การทาฐานกล่องขา้ ว ฐานกล่องขา้ วของกลมุ่ จกั สานกระตบิ ขา้ วบา้ นหนองเดน่ิ จะมลี กั ษณะ พเิ ศษไมเ่ หมอื นใคร ซง่ึ มกี าร สานฐานรองทแ่ี ตกตา่ งสวยงามเป็นรปู ดาวหกแฉก ทเ่ี รยี กว่าลาย “ตาแหลว” จะ สานดว้ ยไมไ้ ผ่บา้ นทม่ี ี ขนาดบางความกวา้ งประมาณ 2 ซม.,3 ซม. แลว้ แตค่ วามสวยงามสานรอบเป็นวงกลม ใหเ้ อาแผน่ รองทส่ี าน จากคลา้ เป็นรปู สเ่ี หลย่ี มมาวางทบั ไวด้ า้ นบนของไมไ้ ผ่ จากนนั้ วดั ดว้ ยวงเวยี นไมท้ ่ี
ออกแบบเป็นพเิ ศษ ตดั เป็นรปู วงกลมใหม้ คี วามพอดกี บั ตวั กลอ่ งขา้ วโดยทไ่ี ม่เลก็ เกนิ ไปจะวางฐานไม่ไดพ้ อดี ถา้ มขี นาดเลก็ ไปฐาน จะหลดไดง้ า่ ยจะตอ้ งใหต้ ดิ กบั ปากของฐานกลอ่ งขา้ ว ฐานรองดงั กลา่ วน้ดี า้ นทอ่ี ย่ขู า้ งใน กล่องขา้ วจะเป็นคลา้ แตด่ า้ นขา้ งล่างนอกกลอ่ งขา้ วจะเหน็ เป็นไมไ้ ผ่ จากนนั้ นามาเยบ็ ดว้ ยเชอื กไนลอนทม่ี ี ความเหนียว และทนทาน จะเสรจ็ สน้ิ กระบวนการทาตวั กล่องขา้ วแลว้ กำรทำฝำกกลอ่ งขำ้ ว การทาฝากกลอ่ งขา้ วจะทาเหมอื นกบั ทท่ี าฐานกลอ่ งขา้ วแตจ่ ะมลี ายคลา้ ทงั้ สองดา้ นหรอื เฉพาะ ดา้ นบนแลว้ แต่ลกู คา้ ตอ้ งการ กำรทำตีนกลอ่ งขำ้ ว 1. เรมิ่ จากการนาก้านตาลมาตดั ตามขนาดของความกวา้ งของกล่องขา้ ว 2. นากา้ นตาลไปตากแดดใหม้ คี วามรอ้ นจงึ จะสามารถขดลอบเป็นวงกลมได้ 3. จากนนั้ เจาะรดู ว้ ยเหลก็ แหลม เยบ็ ประกบเขา้ กนั เป็นกล่องขา้ วคลา้ ทพ่ี รอ้ มใช้ ทงั้ มคี วาม สวยงามและมคี วามทนทานนานปี รบั ประกนั 3-5 ปี วิธีกำรสืบทอดภมู ิปัญญำท้องถ่ิน (จำกอดีตถึงปัจจบุ นั ) 1.การสบื ทอดภมู ปิ ัญญาดา้ นการจกั สานกระตบิ ขา้ วดว้ ยตน้ คลา้ นนั้ จะสบื ทอดกนั โดยวธิ กี าร ฝึกสอนขนั้ ตอนในการจกั สานในทกุ ขนั้ ตอนอย่างละเอยี ด โดยใหผ้ สู้ บื ทอดเป็นผสู้ าธติ การทาแต่ละขนั้ ตอนไป พรอ้ มกนั และฝึกทาไปเร่อื ยๆ จนเกดิ ความชานาญ 2. มกี ารเกบ็ รวบรวมองคค์ วามรูข้ องภูมปิ ัญญาดา้ นการจกั สานกระตบิ ขา้ วดว้ ยคลา้ น้ไี ว้ ณ ทท่ี าการกล่มุ และฝึกสอนใหฟ้ รสี าหรบั ผสู้ นใจ 3. เน้นการประชาสมั พนั ธเ์ ชญิ ชวนใหค้ นรุ่นใหม่ไดม้ คี วามสนใจ โดยชกั ชวนใหเ้ ดก็ พาเพอ่ื นมา ทาดว้ ยใหเ้ ดก็ มคี วามสนใจถา้ มเี พอ่ื นทา จดุ เด่นของผลิตภณั ฑ์ จะมีหลำกหลำยลวดลำย เช่น 1. ลายสามเวยี น (จะเป็นแนวนอนถกั เสน้ คลา้ ขา้ มสามเสน้ ) 2. ลายสองเวยี น (จะเป็นแนวนอนถกั เสน้ คลา้ ขา้ มสองเสน้ ) 3. ลายสองยนื (จะมองเหน็ เสน้ คลา้ เสน้ ค่เู รยี งกนั เป็นคตู่ ามแนวตงั้ ) 4. ลายคร๊ปู เป็นเสน้ ค่เู ฉียง ใชส้ านเป็นฐานกระตบิ ขา้ วก่อนทจ่ี ะสานไปลวดลายอน่ื 5. ลายขา้ งกระแต (จะเป็นเสน้ สลบั ลายระหว่างแนวตงั้ กบั แนวนอน) 6. ลายหน่วย (จะเป็นลายทสี วยงามเหมอื นลายผา้ ไหมมดั หมล่ี ายขดิ ) 7. ลายผสม จะมลี วดลายทแ่ี ตกต่าง เพราะมกี ารผสมผสานหลายลายเขา้ ดว้ ยกนั 8. ลายตาแหลว สาหรบั สานไมไ้ ผท่ าฐานกลอ่ งขา้ วและฝากล่องขา้ ว และสว่ นลวดลายอน่ื ๆ อกี หลายลายมากมาย สามารถดดั แปลงใหส้ วยงามตามความตอ้ งการได้
วิวฒั นำกำรกำรจดั ทำผลิตภณั ฑข์ องกลมุ่ 1. เรม่ิ ตน้ จากการเป็นกระตบิ ขา้ ว 2. เป็นถาดรองผลไม้ ใสข่ องฝาก ของชาร่วย 3. ถาดรองแกว้ 4. กระเป๋ าถอื 5. ทใ่ี สก่ ระบอกน้า 1. กระติบข้ำว . 2.กระเป๋ ำแบบต่ำงๆ (ขนั้ ตอน/วิธีกำรกำรสรำ้ งภมู ิปัญญำ) ขนั้ ตอนกำรทำกระเป๋ ำ 1. นาคลา้ ทต่ี ากไดท้ แ่ี ลว้ มาสานลาดลายตามทต่ี อ้ งการ ใชส้ ธี รรมชาติ 1 ชน้ิ สยี อ้ ม 1 ชน้ิ 2. เม่อื สานเสรจ็ นาคลา้ มาคดั ตามแบบ ทอ่ี อกแบบไวเ้ สรจ็ แลว้ 3. นามาเยบ็ ใสผ่ า้ เคมกี าวแบบแขง็ 4. นาหหู วิ มาตกแตกใหส้ วยงาม 5. ใสซ่ ปิ เยบ็ มอื
3. กำรสำนถำดใส่ผลไม้
4. โคมไฟ
5. ท่ีใส่กระบอกน้ำ
2.2 กำรย้อมคล้ำด้วยน้ำส้มควนั ไม้ น้ำส้มควนั ไม้ คอื ควนั ทเ่ี กดิ จากการเผาถา่ นในช่วงทไ่ี มก้ าลงั เปลย่ี นเป็นถ่านเม่อื ทาใหเ้ ยน็ ลงจน ควบแน่นแลว้ กลนั่ ตวั เป็นหยดน้า ของเหลวทไ่ี ดน้ ้เี รยี กว่าน้าสม้ ควนั ไม้ มกี ลนิ่ ไหมส้ ว่ นประกอบสว่ นใหญ่เป็น กรดอะซติ กิ มคี วามเป็นกรดต่ามสี นี ้าตาลแกมแดงนาน้าสม้ ควนั ไมท้ ไ่ี ดท้ ง้ิ ไวใ้ นภาชนะพลาสตกิ ประมาณ 3 เดอื นในทร่ี ่มไม่สนั่ สะเทอื นเพอ่ื ใหน้ ้าสม้ ควนั ไมท้ ไ่ี ดต้ กตะกอนและแยกตวั เป็น 3 ชนั้ คอื น้ามนั เบา (ลอยอย่ผู วิ น้า) น้าสม้ ไมแ้ ละ น้ามนั ทาร์ (ตกตะกอนอย่ดู า้ นลา่ ง) แยกน้าสม้ ควนั ไมม้ าใชป้ ระโยชน์ตอ่ ไป วิธีย้อมคล้ำ 1.นาน้าสม้ ควนั ไมเ้ ทลงภาชนะ 2. นาเสน้ คลา้ ทเ่ี ป็นเสน้ มาแช่ในน้าสม้ ควนั ไม้ ประมาณ 3 วนั เพอ่ื ใหส้ นี ้าสม้ ควนั ไมซ้ มึ เขา้ ไปในเสน้ คลา้ ทงั้ ดา้ นใน และนอกเสมอกนั ทงั้ เสน้ 3. ครบ 3 วนั นาเสน้ คลา้ มาตากใหแ้ หง้ แลว้ นาไปสานกระเป๋ า ถาด ตามลายทต่ี อ้ งการ 3. กำรจดั กำรตลำดเบอื้ งต้นและกำรบรรจุภณั ฑ์ ( 3 ชม.30 นำที) ขนั้ ตอนท่ี 1 การตลาดชุมชน การจดั การตลาดชุมชนโดยมกี ารนาสนิ คา้ ไปวางตามตลาดชมุ ชนดงั ต่อไปน้ี 1. ขายทบ่ี า้ นใหก้ บั คนในชุมชน 2. ขายสง่ โดยมพี อ่ คา้ จากต่างถน่ิ มารบั ไปขาย 3. การไปจาหน่ายตามจดุ จาหน่ายในชุมชนหรอื ไดร้ บั การสนบั สนุนจากโครงการ ภาครฐั เชน่ ศนู ย์ OTOP อาเภอบุ่งคลา้ 4. แสดงสนิ คา้ จาหน่ายตามงานประเพณีทจ่ี ดั ขน้ึ ตามจงั หวดั หรอื อาเภอต่าง ๆ 5.ขายออนไลน์ผา่ น เพจเฟสบุ๊ค Lazada ขนั้ ตอนที่ ๒ กำรออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ มกี ารออกแบบแบบบรรจุภณั ฑต์ น้ ทุนต่า สาหรบั การแปรรปู ผลติ ภณั ฑจ์ ากต้นคลา้ โดยมงุ่ เน้นเร่อื ง ของการนาวสั ดุธรรมชาตทิ ม่ี อี ยใู่ นทอ้ งถน่ิ มาออกแบบบรรจุภณั ฑต์ ามแนวความคดิ ซง่ึ วสั ดุในการศกึ ษา ทดลอง ไดแ้ ก่ กระดาษสา ผา้ ดา้ ยดบิ เศษผา้ มดั หม่ี เชอื กจากเสน้ ใยพชื ศกึ ษาการตดั เยบ็ การทาบลอ็ กอดั ขน้ึ รูปทรงทต่ี อ้ งการกราฟิกบนบรรจุภณั ฑ์ ศกึ ษาการพมิ พส์ กรนี ตรายาง บลอ็ กปัม้ ลาย การพมิ พแ์ บบองิ ค์ เจท็ ทวั่ ไป ซง่ึ กระบวนการทงั้ หมด กลมุ่ ชาวบา้ นสามารถผลติ ขน้ึ เองได้ จากนนั้ กท็ าการออกแบบพฒั นาบรรจุ ภณั ฑจ์ นไดแ้ บบทส่ี มบูรณ์ 2 แบบ คอื 1) แบบถุง 2) แบบกล่อง ขนั้ ตอนที่ 3 มำตรฐำนผลิตภณั ฑช์ ุมชน -ผลติ ภณั ฑจ์ ากตน้ คลา้ ไดร้ บั การคดั สรรคส์ ดุ ยอด 1 กศน. ตาบล 1 หลกั สตู รอาชพี - (OTOP Product Champion) ระดบั 4 ดาวเป็นสนิ คา้ ทม่ี ศี กั ยภาพเป็นทย่ี อมรบั ระดบั ประเทศและ สามารถพฒั นาสสู่ ากล ปี 2562
ขนั้ ตอนที่ 4 กำรตลำดออนไลน์ ขายออนไลน์ผ่าน เพจเฟสบุ๊ค Lazada และ เพจ OOCC กศน.อาเภอบุ่งคลา้ และกศน.ตาบล หนองเดนิ่ 4. กำรบริหำรหนี้สินและบญั ชีเบอื้ งต้น ( 4 ชม.) ขนั้ ตอนที่ 1 กำรคำนวณต้นทุน กำไร ประมำณกำรค่ำวสั ด/ุ อปุ กรณ์ หลกั สูตรอำชีพ/วิชำแปรรปู ผลิตภณั ฑ์จำกต้นคลำ้ จำนวน 50 ชวั่ โมง กศน.อำเภอบงุ่ คลำ้ สำนักงำน กศน.จงั หวดั บึงกำฬ ท่ี รำยกำร จำนวน รำคำ/หน่วย จำนวนเงิน หมำยเหตุ (บาท) 1 เสน้ หวาย 5 มว้ น 200 1,000 2 น้าสม้ ควนั ไม้ 6 ขวด 100 600 3 เชอื กไนล่อน 10 มว้ น 40 400 4 หหู ว้ิ กระเป๋ า 10 คู่ 150 1,500 5 ผา้ เคมี 10 เมตร 50 500 6 ผา้ พน้ื เมอื ง 5 เมตร 150 750 7 ซปิ 10 เมตร 100 1,000 8 เมด็ กระดุมกะลามะพรา้ ว 20 เมด็ 10 200 9 กรรไกร 10 ดา้ ม 100 1,000 10 เครอ่ื งรดี เสน้ คลา้ 3 เคร่อื ง 1,500 4,500 11 มดี 5 ดา้ ม 200 1,000 12 เหลก็ แหลม 10 อนั 50 500 13 ชุดอปุ กรณ์หลอดไฟ 10 ชุด 100 1,000 14 เลอ่ื ย(สาหรบั ทาขาตงั้ โคมไฟ) 1 ป้ืน 250 250 15 ค่าแรง(กระเป๋ า) 10 ใบ 100 1,000 16 คา่ แรง(กระตบิ ขา้ ว) 50 50 2,500 17 ค่าแรง(ถาดใสผ่ ลไม)้ 10 100 1,000 18 คา่ แรง(โคมไฟ) 10 70 700 19 ค่าแรง(ทใ่ี สก่ ระบอกน้า) 10 50 500 20 เพคเกจ เช่น ถงุ กระดาษ 50 ถุง 15 750 21 อน่ื ๆ 2,000 รวม 22,650
ขนั้ ตอนที่ 2 แหลง่ เงินทุนและกำรก้ยู ืม 1. ธนาคารออมสนิ 2. ธนาคาร ธกส. ขนั้ ตอนที่ 3 กำรบริหำรหนี้สินและกำรบริหำรสญั ญำ การเป็นหน้ไี ม่ใชส่ ง่ิ ทเ่ี ลวรา้ ยเสมอไป เพราะบางครงั้ เราอาจตอ้ งใชเ้ งนิ เพอ่ื ซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ ารท่ี จาเป็นตอ่ การดารงชวี ติ และอนาคตแตย่ งั มเี งนิ ไมพ่ อในตอนน้ี เช่น บา้ น การทากจิ การสว่ นตวั ซง่ึ หลกั การ สาคญั ในการตดั สนิ ใจเป็นหน้คี อื ควรเลอื กกอ่ หน้ดี ซี ง่ึ ไดแ้ ก่ หน้ที จ่ี ะสรา้ งอนาคตหรอื ความมนั่ คงระยะยาวและ หลกี เลย่ี งการกอ่ หน้ีทพ่ี งึ ระวงั ซง่ึ ไดแ้ ก่ หน้ที ไ่ี ม่ก่อใหเ้ กดิ รายไดเ้ พม่ิ หรอื ไม่ไดช้ ่วยเพม่ิ ความมนั่ คงทางการเงนิ เช่น หน้เี พอ่ื การอปุ โภคบรโิ ภค เป็นตน้ เพราะเม่อื เป็นหน้แี ลว้ เรามหี น้าทต่ี อ้ งใชค้ นื เงนิ ตน้ รวมถงึ ดอกเบย้ี ค่าปรบั และคา่ ใชจ้ ่ายอน่ื ๆ ทจ่ี ะตามมาทงั้ หมด ขนั้ ตอนท่ี 4 กำรจดั ทำบญั ชีครวั เรือน บญั ชีครวั เรือน คือ การทาบญั ชเี พอ่ื บนั ทกึ ขอ้ มูลรายรบั รายจ่ายประจาวนั หรอื บนั ทกึ ขอ้ มลู อ่นื ๆ ใน ชวี ติ และในครอบครวั เช่น บญั ชที รพั ยส์ นิ พนั ธพุ์ ชื พนั ธุไ์ ม้ บญั ชคี วามรคู้ วามคดิ ของเรา บญั ชผี ทู้ รงคณุ บญั ชเี ดก็ และเยาชนของเรา หรอื จะเป็นบญั ชภี ูมปิ ัญญาดา้ นตา่ งๆ ซง่ึ เราสามารถจดบนั ทกึ เรอ่ื งราว สง่ิ หรอื เร่อื งราวในชวี ติ ไดเ้ ช่นกนั เรียนร้กู ำรทำบญั ชีครวั เรือนกนั เถอะ การทาบญั ชคี รวั เรอื นถอื เป็นวธิ หี น่งึ ทจ่ี ะช่วยใหเ้ ราไดท้ ราบขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ในการใชจ้ ่ายรวมถงึ รายรบั ในแต่ละ วนั เพอ่ื เป็นขอ้ มลู ในการประเมนิ สภาวะของการเงนิ ของเราเองวา่ เป็นอยา่ งไร จะไดเ้ ป็นขอ้ มลู ในการวาง แผนการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั ข้อดีในกำรทำบญั ชีครวั เรือน การทาบญั ชคี รวั เรอื นเป็นการจดบนั ทกึ รายการการดาเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ทงั้ รายรบั ทไ่ี ดม้ ากบั รายจ่าย ซง่ึ ทา ใหท้ ราบสถานะในสภาวะทางการเงนิ งา่ ยต่อการตรวจสอบ ช่วยควบคุมรกั ษาการใชจ้ า่ ย เพอ่ื จะไดแ้ กไ้ ข ปรบั ปรุงในการใชจ้ ่ายไดท้ นั ชว่ ยในการวเิ คราะหแ์ กไ้ ขปัญหาหน้สี นิ ต่าง ๆ ได้ ขนั้ ตอนที่ ๔ กำรจดั ทำบญั ชีครวั เรือน เรมิ่ ตน้ ทาบญั ชคี รวั เรอื นไดอ้ ยา่ งไร เราสามารถเรม่ิ ตน้ ทาบญั ชคี รวั เรอื นอยา่ งงา่ ย ๆ เพยี งแค่หาสมุดมาหน่งึ เลม่ และหาปากกาหรอื ดนิ สอสาหรบั เขยี นลงไปในสมุดบญั ชคี รวั เรอื น ทาไดห้ ลากหลายรปู แบบ ปกตแิ ลว้ ควรจดั ทาตารางเป็น 5 ช่องดว้ ยกนั ประกอบดว้ ย
1.วนั เดอื นปีทเ่ี กดิ รายการนนั้ ๆ 2.รายการทป่ี ฏบิ ตั ิ 3.รายรบั 4.รายจา่ ย 5.ยอดคงเหลอื ซง่ึ เป็นช่องสรปุ ยอดเงนิ คงเหลอื ในแตล่ ะวนั ใชเ้ วลาตอ่ วนั ไมน่ าน กจ็ ะไดท้ ราบขอ้ มลู ทางการเงนิ ไว้สาหรบั นาไปวางแผนการเงนิ ของครอบครวั ได้ อยา่ งสบาย ๆ หลกั กำรในกำรบนั ทึกบญั ชีครวั เรอื น มองภาพใหญข่ องปีหน่ึง ๆ กอ่ นว่ามรี ายการอะไรบา้ ง เชน่ รายจ่ายทค่ี ่อนขา้ งคงท่ี พวกค่าเรยี น หนงั สอื ลูก ค่าอาหาร คา่ น้ามนั รถ คา่ ไฟฟ้า ฯลฯ ลาดบั ต่อไปมองภาพหน้สี นิ ทเ่ี ป็นภาพใหญ่เป็นภาระทต่ี อ้ ง ชดใชค้ นื ในอนาคต เช่น การกยู้ มื เงนิ จากธนาคารต่าง ๆ การเชา่ ซอ้ื การจานา การจานอง การขายฝาก เป็น ตน้ เงนิ คงเหลอื ทเ่ี ป็นรายการจากการนารายรบั มาหกั รายจา่ ยแลว้ หากมรี ายรบั มากกวา่ รายจ่ายจะเกดิ เงนิ ท่ี เรยี กวา่ กาไร แต่หากนารายรบั หกั รายจ่ายแลว้ พบวา่ รายจ่ายมากกว่ารายรบั และทาใหเ้ งนิ คงเหลอื ตดิ ลบ เรา จะเรยี กว่า ภาวะขาดทุน
แบบทดสอบหลังเรยี น 1. ต้นคล้ามีลักษณะอย่างไร ก. มลี ักษณะใบใหญ่ ลำตน้ เต้ีย ข. มลี กั ษณะมหี ัว ใบเรยี วเลก็ ค. มลี กั ษณะมีหัว ลำตน้ สูง ใบรี ง. มีลกั ษณะลำต้นอวบ ใบใหญ่ 2. การแปรรูปผลติ ภัณฑ์จากตน้ คลา้ เชน่ กระติบข้าว กระเปา๋ เสือ่ นยิ มใชส้ ว่ นไหนมาแปรรปู ผลติ ภัณฑ์ ก. ราก ข. หวั ค. ลำต้น ง. ใบ 3. ตน้ คล้าตอ้ งมีอายกุ ่ีปถี งึ นำมาแปรรูปผลิตภณั ฑ์ได้ ก. 1 ปี ข. 2 ปี ค. 3 ปี ง. 4 ปี 5. ขอ้ ใดคือขนั้ ตอนแรกการนำต้นคล้ามาแปรรูปผลิตภัณฑ์ ก. นำต้นคลา้ มาตากแดด ข. ลอกเปลือกตน้ คล้าแล้วนำมาตากแดด ค. ย้อมสีเปลือกตน้ คล้า ง. ถูกทุกข้อ 6. คนสว่ นมากนำต้นคล้ามาแปรรปู เป็นผลติ ภณั ฑอ์ ะไร ก. กระเปา๋ ข. เสื่อ ค. กระติบข้าว ง. รองเทา้ สาน
เฉลย แบบทดสอบหลังเรียน 1. ค. มลี กั ษณะมหี ัว ลำต้นสงู ใบรี 2. ค. ลำตน้ 3. ข. 2 ปี 4. ข. ลอกเปลือกตน้ คล้าแลว้ นำมาตากแดด 5. ค. กระตบิ ข้าว
บรรณานกุ รม การจัดทำบญั ชีครัวเรอื น https://www.google.com/search?q=%5ByP%3Du8iy%3Bginvo&oq=%5ByP%3Du8iy%3Bginvo&aqs= chrome..69i57j0i22i30.6487j0j15&sourceid=chrome&ie=UTF(วนั ทส่ี บื ค้นขอ้ มูล 2๐ ธันวาคม 2564) การบรหิ ารหน้สี ิน https://www.1213.or.th/th/moneymgt/debtmgt/Pages/debmgt.aspx?fbclid=IwAR2cfwimAxbhNI9VN CGJN-poqLX5ka6juAIJvwDMQuozERGW_-zpzy9_v_s-(วันทสี่ ืบคน้ ขอ้ มลู 2๐ ธันวาคม 2564) การเตรยี มฟืมทอผ้า https://sites.google.com/site/phahimmadhmi2/khan-txn-kar-thx-pha-(วันที่สบื คน้ ข้อมลู 2๐ ธันวาคม 25
คณะทปี่ รกึ ษา ผูจ้ ัดทำ นายประเวช เหล่าประเสรฐิ นายพทิ ักษ์ ราชาทุม ผูอ้ ำนวยการ สำนักงาน กศน.จงั หวัดบึงกาฬ นางสาวจรูญรัตน์ บุตรพรม รองผ้อู ำนวยการสำนักงาน กศน.จงั หวัดบงึ กาฬ นายอโนชา หะติ่ง ผอู้ ำนวยการ กศน. อำเภอบุ่งคลา้ คณะพัฒนาหลักสูตร ครผู ้ชู ว่ ย นางสาวจรญู รัตน์ บตุ รพรม นายอโนชา หะตง่ิ ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอบ้านฝาง นางพวงเพชร พรหมอารักษ์ ครผู ู้ชว่ ย นางสาวพชั รจิรา หนง่ึ คำมี ครู กศน.ตำบลหนองเดิ่น คณะบรรณาธิการ ครู กศน.ตำบลหนองเดนิ่ นางสาวจรูญรตั น์ บุตรพรม นางสาวกนกอร สาสอน ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอบ้านฝาง นางสาวอดุ มพร ประจกั ษโ์ ก ครู กศน.ตำบลบุ่งคล้า ออกแบบกราฟฟคิ ปก/รูปเล่ม ครบู รรณารกั ษ์ นางสาวจรูญรตั น์ บตุ รพรม นางสาวฐติ ิญาพร จงจอหอ ผ้อู ำนวยการ กศน. อำเภอบ้านฝาง นางสาวนภาพร โพนชยั ยา ครู กศน.ตำบลโคกกวา้ ง ครผู ้สู อนคนพกิ าร
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: