สรุป บทที่ 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั เศรษฐศาสตร์ ความรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกบั เศรษฐศาสตร์ 30/08/62 COMPUTER JUSTIN-SAN
สรุป บทที่ 1 ความรู้เบอื้ งต้นเก่ียวกับเศรษฐศาสตร์ 1) ความหมายของเศรษฐศาสตร:์ เศรษฐศาสตรค์ ือศาสตรท์ ่ีศกึ ษาเก่ียวกบั การเลือกหนทางในการใช้ ปัจจยั การผลติ อนั มีอย่จู ากดั สาหรบั การผลติ สนิ คา้ และบรกิ ารเพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการที่ไมจ่ ากดั ของมนษุ ย์ 2) ทรัพยากรการผลิต (Productive Resources): แบง่ ได้ 2 ประเภท คอื (1) สง่ิ ที่คนสรา้ งขนึ้ (Man- Made Resources) และ (2) เกดิ เองโดยธรรมชาติ (Natural-Made Resources) 3) ปัจจัยการผลติ (Productive Factors): แบง่ ได้ 4 ประเภท คือ (1) แรงงาน (Labor: คา่ แรง) (2) ท่ีดนิ และทรพั ยากรณธ์ รรมชาติ (Land and Natural Resources: คา่ เช่า) (3) ทนุ (Capital: ดอกเบยี้ ) และ (4) ผปู้ ระกอบการ (Entrepreneur: กาไร) โดยในระบบทนุ นิยม ผปู้ ระกอบการจะเป็นปัจจยั ที่สาคญั ท่ีสดุ เพราะเป็นผรู้ เิ ริม่ การผลติ และเป็นผู้ รวบรวมปัจจยั การผลติ อื่นๆ นอกจากนนั้ ยงั เป็นผวู้ างนโยบายและตัดสนิ ใจในทกุ ขนั้ ตอนการผลติ ดรู ูป ที่ 1 รูปท่ี 1: ความสัมพนั ธข์ องทรัพยากรณก์ ารผลติ 4) สนิ ค้าและบรกิ าร (Goods and Services): แบง่ ได้ 2 ประเภท คือ (1) เศรษฐทรพั ย์ (Economic Goods) และ (2) ทรพั ยเ์ สรี (Free Goods) เศรษฐทรพั ยม์ ี “ตน้ ทุน” การผลติ แตท่ รพั ยเ์ สรีไม่มี
5) ปัญหาพนื้ ฐานทางเศรษฐกจิ : แบง่ ได้ 3 ปัญหา คือ (1) ผลติ อะไร (What), (2) ผลติ อยา่ งไร (How), และ (3) ผลติ เพ่อื ใคร (For Whom) ดรู ูปท่ี 1 และ 2 ประกอบ 5.1) ผลิตอะไร: เพราะทรพั ยากรมจี ากัด การเลอื กใชไ้ ปในทางใดจะมคี า่ เสียโอกาสเสมอ (Opportunity Cost) โดยท่วั ไปจะเลือกใชไ้ ปในทางที่มีคา่ เสยี โอกาสต่าสดุ เสมอ 5.2) ผลติ อย่างไร: การใชเ้ ทคโนโลยีเปลี่ยน input(s) ใหเ้ ป็น output(s) เทคโนโลยีท่ีมีประสทิ ธิภาพสงู สดุ (Efficiency) คือ เทคโนโลยีท่ีใช้ input(s) นอ้ ยกวา่ วธิ ีอ่ืน แตใ่ ห้ output(s) เท่ากบั วธิ ีอื่น หรอื เทคโนโลยีท่ีใช้ input(s) เท่ากบั วธิ ีอื่น แตใ่ ห้ output(s) มากกวา่ วธิ ีอื่น (ทงั้ สองแนวคดิ มีวธิ ีการคานวณตา่ งกนั แตใ่ หผ้ ลเหมือนกนั ) 5.3) ผลติ เพอื่ ใคร: เป็นการกระจาย (Allocation) สนิ คา้ และบรกิ ารท่ีผลติ ได้ หรือ ทรพั ยากร ไปสู่ ประชาชนหรือผบู้ รโิ ภค ถา้ การกระจายสนิ คา้ และบริการไมเ่ ป็นธรรม จะเกดิ ปัญหาความไมเ่ สมอภาค (Equity) รูปท่ี 2: ปัญหาพนื้ ฐานทางเศรษฐกจิ 6) ระบบเศรษฐกิจ: ระบบเศรษฐกจิ สามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 กลมุ่ หลกั คือ (1) แบบทนุ นยิ มหรือเสรี นยิ ม (Capitalism or Liberalism) (2) แบบวางแผน (Planned Economy) และ (3) แบบผสม (Mixed Economy) การพจิ ารณาวา่ ประเทศหนึง่ ใชร้ ะบบเศรษฐกจิ แบบใด สามารถพจิ ารณาอย่างครา่ วๆไดจ้ าก 2 สง่ิ หลกั คือ (1) เอกชนเป็นเจา้ ของปัจจยั การผลติ ไดห้ รอื ไม่ และ (2) เอกชนดาเนินกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ไดโ้ ดย เสรหี รือไม่ ถา้ คาตอบคือ “ไม”่ ประเทศนนั้ น่าท่ีจะมีระบบเศรษฐกจิ แบบวางแผน แตถ่ า้ “ใช่” ประเทศ นนั้ นา่ ที่จะมรี ะบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นยิ ม
ระบบ ลักษณะสาคัญ ขอ้ ดี ข้อเสยี เศรษฐกิจ แบบทนุ นิยม 1.เอกชนเป็นเจา้ ของปัจจยั การผลติ ถา้ เอกชน (นายทนุ ) มี ถา้ เอกชน (นายทนุ ) ไมม่ ี (เอกชนคอื ใคร 2.ใชก้ ลไกราคา และการแขง่ ขนั โดย ก็ไดท้ ี่ไมใ่ ช่ เสรีแกป้ ัญหาเศรษฐกจิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม หรอื คณุ ธรรมจรยิ ธรรม หรอื รฐั บาล) 3.เอกชนมีอิสระในการดาเนนิ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ (ใช้กาไร ผลประโยชนส์ ว่ นตวั ไมข่ ดั ผลประโยชนส์ ่วนตวั ขดั แบบวางแผน หรือความพอใจเป็ นตวั ตัดสนิ ) 4.รฐั ไมย่ งุ่ เกี่ยวกบั เรอื่ งของ กบั สว่ นรวม กบั สว่ นรวม แบบผสม เศรษฐกิจ (แตด่ แู ลใหเ้ กดิ กลไก ตลาด) 1.กาไรเป็นสง่ิ จงู ใจใหเ้ กดิ 1.ใชท้ รพั ยากรไปในทางท่ี 1.รฐั บาลเป็นเจา้ ของปัจจยั การผลติ การพฒั นา ไมเ่ กดิ ประโยชนก์ บั (และทรพั ยส์ นิ )ทงั้ หมด 2.รฐั บาลเป็นผดู้ าเนนิ กิจกรรมทาง 2.ใชท้ รพั ยากรการผลิต สว่ นรวม เศรษฐกิจ (รฐั บาลเป็นผวู้ างแผน พฒั นาทางเศรษฐกจิ ) อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 2.เกิดความเลอ่ื มลา้ ผสมระหวา่ งแบบทนุ นิยมและแบบ ทางการกระจายรายได้ วางแผน ขนึ้ อย่กู บั ใหค้ วามสาคญั รูปแบบใดมากกวา่ และการถือทรพั ยส์ นิ 1.รฐั และเอกชนเป็นเจา้ ของปัจจยั การผลติ 1.มีเสถียรภาพ 1.ขาดประสทิ ธภิ าพใน 2.ใชก้ ลไกราคา และการแขง่ ขนั โดย เสรแี กป้ ัญหาเศรษฐกิจ แตร่ ฐั 2.ไมม่ คี วามเลอื่ มลา้ การผลติ (คนไมม่ ี สามารถแทรกแซง และวางแนว ทางการดาเนนิ การทางเศรษฐกจิ ทางการกระจายรายได้ แรงจงู ใจ) ไมเ่ กดิ การ (เช่น แผนพฒั นาฯ) ได้ และการถือทรพั ยส์ นิ พฒั นา (หรือเกดิ แตช่ า้ ) 2.ใชท้ รพั ยากรไมม่ ี ประสทิ ธภิ าพ ผสมระหวา่ งแบบทนุ นยิ ม ผสมระหวา่ งแบบทนุ นยิ ม และแบบวางแผน ขนึ้ อยู่ และแบบวางแผน ขนึ้ อยู่ กบั ใหค้ วามสาคญั กบั ใหค้ วามสาคญั รูปแบบใดมากกวา่ รูปแบบใดมากกวา่ ดรู ูปที่ 3 และ 4 ซง่ึ อธบิ ายระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นยิ มและกลไกท่ีใชแ้ กป้ ัญหาของระบบเศรษฐกิจ แบบทนุ นิยม และดรู ูปท่ี 5 และ 6 ซึ่งอธิบายระบบเศรษฐกจิ แบบวางแผนและกลไกท่ีใชแ้ กป้ ัญหาของ ระบบเศรษฐกิจแบบวางแผน
รูปท่ี 3: ระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยม
รูปที่ 4: การใชก้ ลไกราคาในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยม รูปท่ี 5: ระบบเศรษฐกจิ แบบวางแผน รูปท่ี 6: การใช้กลไกของระบบเศรษฐกิจแบบวางแผนในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกจิ
7) การแก้ปัญหาพนื้ ฐานของเศรษฐกจิ ดรู ูปท่ี 4 และ 6 ท่ีอธบิ ายถงึ กลไกการแกป้ ัญหาของระบบ เศรษฐกิจแบบทนุ นยิ มและแบบวางแผน ตามลาดบั ระบบเศรษฐกจิ เคร่อื งมอื แก้ปัญหาพนื้ ฐานของเศรษฐกิจ แบบทนุ นิยม กลไกราคาหรอื กลไกตลาด (Price or Market Mechanism) (รูปท่ี 4) แบบวางแผน วางแผนจากสว่ นกลาง (รูปที่ 6) แบบผสม ใชก้ ลไกราคารว่ มกับวางแผนจากสว่ นกลาง (เชน่ ประเทศไทย) 8) วชิ าเศรษฐศาสตร:์ แบ่งเป็ น 2 สาขาหลัก คอื (1) เศรษฐศาสตรจ์ ลุ ภาค (Microeconomics) และ (2) เศรษฐศาสตรม์ หาภาค (Macroeconomics) 8.1) เศรษฐศาสตรจ์ ุลภาค: เป็นการศกึ ษาหน่วยย่อยของระบบเศรษฐกิจซึง่ ประกอบไปดว้ ย ผผู้ ลติ (Producers) และ ผบู้ รโิ ภค (Consumers) โดยใชท้ ฤษฎีของผผู้ ลติ และของผบู้ รโิ ภคในการศกึ ษา ตามลาดบั นอกจากนี้ เราจะใชก้ ลไกตลาดรว่ มในการศกึ ษาถงึ ลกั ษณะการปฎสิ มั พนั ธข์ องทงั้ สอง หน่วยยอ่ ย 8.2) เศรษฐศาสตรม์ หาภาค: เป็นการศกึ ษาเศรษฐกิจทงั้ ระบบ เชน่ รายไดป้ ระชาชาติ ระดบั ราคา สนิ คา้ และบรกิ าร การออมและการบรโิ ภคของประเทศ การใชจ้ า่ ยของรฐั บาล การลงทนุ การนาเขา้ และสง่ ออก และการจา้ งงาน เป็นตน้ 9) หน่วยเศรษฐกิจ (Economic Units): ประกอบดว้ ย 3 หน่วย คือ (1) ครวั เรือน (Household) (2) หนว่ ยธรุ กจิ (Firms) และ (3) รฐั บาล (Government) 9.1) ครัวเรือน: เป็นผบู้ รโิ ภคสนิ คา้ และบรกิ าร (ทาใหเ้ กิดอปุ สงคใ์ นตลาดสนิ คา้ และบรกิ าร) แตเ่ ป็น เจา้ ของปัจจยั การผลติ (ทาใหเ้ กดิ อปุ ทานในตลาดแรงงาน) 9.2) หน่วยธุรกิจ: เป็นผผู้ ลติ สนิ คา้ และบรกิ าร (ทาใหเ้ กดิ อปุ ทานในตลาดสนิ คา้ และบริการ) แตเ่ ป็นผู้ ซือ้ ปัจจยั การผลติ (ทาใหเ้ กิดอปุ สงคใ์ นตลาดแรงงาน) 9.3) รัฐบาล: ทาหนา้ ที่ควบคมุ การแขง่ ขนั ของเอกชนใหเ้ ป็นไปโดยเสรี และดแู ลทกุ ขส์ ขุ ของประชาชน ลกั ษณะการปฎสิ มั พนั ธข์ องทงั้ 3 หนว่ ยดไู ดใ้ นรูปที่ 7
รูปท่ี 7: การหมุนเวยี นในระบบเศรษฐกจิ (Economics Circular Flows)
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: