Active Learning
ผู้จดั ทำโดย นำงสำวพสิ มัย สำรีคำ 63031030151
Active Learning การเรี ยนร้ ูร่ วมกนั Collaborative Learning
การเรียนรู้ร่วมกนั (Collaborative learning) เป็ นสถานการณ์ท่ีคนมากกว่า 2 คนตอ้ งการเรียนรู้ บางอยา่ งร่วมกนั ซ่ึงต่างจากการเรียนเพียงลาพงั ท่ีผูเ้ รียนสามารถ ใช้ประโยชน์จากทกั ษะหรือทรัพยากรของผูอ้ ่ืนได้ ดังน้ันองค์ ความรู้จึงเกิดไดผ้ า่ นการที่สมาชิกมีปฏิสัมพนั ธ์ระหวา่ งกนั ในการ แลกเปล่ียนประสบการณ์
กำรเรียนรู้ร่วมกนั (Collaborative learning) โดยมีความสาเร็จของกลุ่มและทุกคนเป็ น เป้าหมายสาคัญของการเรี ยนรู้ กระบวนการเรี ยนรู้ รูปแบบน้ีผูเ้ รียนจะเป็ นผูก้ าหนดเน้ือหาด้วยตนเอง ไม่ ต้องมีการคละความสามารถของสมาชิกในกลุ่ม โดย ผูส้ อนมีหน้าท่ีเป็ นเพียงแค่ที่ปรึกษาและอานวยความ สะดวกทางการเรียนใหก้ บั ผเู้ รียนเท่าน้นั
ทฤษฎกี ำรเรียนรู้แบบร่วมมือ คือ การเรียนรู้เป็ นกลุ่มย่อยโดยมีสมาชิกกลุ่มท่ีมีความสามารถ แตกต่างกนั ประมาณ 3 – 6 คน ช่วยกนั เรียนรู้เพ่ือไปสู่เป้าหมายของกลุ่ม นกั การศึกษาคนสาคญั ที่เผยแพร่แนวคิดของการเรียนรู้แบบน้ีคือ สลาวิน ( Slaving ) เดวิด จอห์นสนั ( David Johnson ) และรอเจอร์ จอห์นสัน ( Roger Johnson ) เขา กล่าวว่า ในการจดั การเรียนการสอนโดยทวั่ ไป เรามักจะไม่ให้ความสนใจ เกี่ยวกบั ความสัมพนั ธ์ระหว่างผเู้ รียน ความสัมพนั ธ์ระหว่างผูเ้ รียนเป็นมิติท่ีมกั ถูกละเลยหรือมองขา้ มไปท้งั ๆ ท่ีมีผลการวิจยั ช้ีชดั เจนว่า ความรู้สึกของผเู้ รียน ต่อตนเอง ต่อโรงเรียน ครูและเพอื่ นร่วมช้นั
ทฤษฎกี ำรเรียนรู้แบบร่วมมือ มีผลต่อการเรียนมาก จอห์นสนั และจอห์นสนั Johnson and Johnson , 1994 : 31 – 32 )กล่าววา่ ปฏิสมั พนั ธ์ ระหวา่ งผเู้ รียนมี 3 ลกั ษณะคือ 1.ลกั ษณะแข่งขนั กนั 2.ลกั ษณะต่างคนต่างเรียน 3.ลกั ษณะร่วมมือกนั หรือ ช่วยกนั ในการเรียนรู้
ในกำรจดั กำรเรียนรู้แบบร่วมมือ มีแนวทำงในกำร จดั กำรเรียนรู้ ดงั นี้ 1. ในการเรียนรู้จะต้องเกิดข้ึนโดยผูเ้ รียนเขา้ ไปเรียนรู้ได้รับ กระบวนการทางสังคมเพื่อสนบั สนุนใหเ้ กิดการแลกเปล่ียนเรียนรู้ 2. ผูเ้ รียนตอ้ งตดั สินใจในการเรียนรู้วา่ เขาอยากเรียนอะไรใหเ้ ขา วางแผนและต้งั เป้าหมายการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 3. ผเู้ รียนจะตอ้ งสร้างความเขา้ ใจดว้ ยตนเองจากความรู้ท่ีมีอยเู่ ดิม กบั ความรู้ท่ีเรียนใหม่ 4. ผเู้ รียนควรจะใชว้ ิธีการท่ีหลากหลายในการเรียนรู้ 5. สร้างบรรยากาศในการเรียนการสอนท้งั ในและนอกช้นั เรียน เพอ่ื ใหเ้ กิดการแลกเปล่ียนเรียนรู้
กำรเรียนกำรสอนแบบร่วมมือนีม้ ีเทคนิคกำรสอนต่ำงๆ อยู่ 8 เทคนิคด้วยกนั ดังนี้ 1. กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ TGT (Team Games Tournaments) 2. กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ STAD (Student Teams Achievement) 3. กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบจ๊ิกอร์(JIG-SAW) 4. กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ ที.เอ.ไอ.(TAI) 5. กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ แอล.ที (L.T) 6. กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ จี.ไอ.(G.I.) 7. กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ ซี.ไอ.อาร์.ซี.(CIRC) 8. กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบคอนเพลก็ ซ์ (Complex Instruction )
องค์ประกอบของกำรเรียนรู้แบบร่วมมือ 1. การพ่ึงพาและเก้ือกลู กนั ( positive interdependence ) 2. การปรึกษาหารือกนั อยา่ งใกลช้ ิด ( face-to-face promotive interaction ) 3. ความรับผดิ ชอบที่ตรวจสอบไดข้ องสมาชิกแต่ละคน ( individual accountability ) 4. การใชท้ กั ษะการปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งบุคคลและทกั ษะการทางานกลุ่ม ยอ่ ย ( interpersonal and small-group skills ) 5. การวเิ คราะห์กระบวนการกลุ่ม ( group processing )
ผลดขี องกำรเรียนรู้แบบร่วมมือ 1.มีความพยายามจะบรรลุเป้าหมายมากข้ึน 2.มีความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผเู้ รียนดีข้ึน 3.มีสุขภาพจิตดีข้ึน
ประเภทของกำรเรียนรู้แบบร่วมมือ 1. กลุม่ การเรียนรู้แบบร่วมมืออยา่ งเป็นทางการ ( formal cooperative learning groups ) 2. กลุม่ การเรียนรู้แบบร่วมมืออยา่ งไม่เป็นทางการ( informal cooperative learning groups ) 3. กลุม่ การเรียนรู้แบบร่วมมืออยา่ งถาวร( cooperative base groups )
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: