งานไม้ สหัสชัย ตุลย์วฒั นางกูร
1 คำนำ เอกสารน้ีใชส้ าหรับสอนภาคทฤษฎี และใชเ้ ป็นคู่มือในการปฏิบตั ิงานไมเ้ บ้ืองตน้ เพื่อให้ ผเู้ รียนและผทู้ ี่สนใจ มีความเขา้ ใจหลกั การเกี่ยวกบั การลบั ปรับแตง่ บารุงรักษา ซ่อมแซมเครื่องมือ งานไม้ งานวดั ร่างแบบ ตดั ไส เจาะ เพลาะไม้ และปฏิบตั ิงานลบั ปรับแตง่ บารุงรักษา ซ่อมแซม เคร่ืองมืองานไม้ ร่างแบบ ไส เจาะ เพลาะ ตดั ประกอบและตกแต่งชิ้นงานไดอ้ ยา่ งถกู วิธี ซ่ึงในแต่ ละข้นั ตอนของการฝึกฝีมืองานไมผ้ เู้ รียนจะตอ้ งมีความรู้พ้ืนฐานก่อนที่จะนาความรู้ดงั กล่าวไปเป็น แนวทางในการฝึกปฏิบตั ิทีละข้นั ตอนเพอ่ื ใหเ้ กิดทกั ษะ และสามารถนาไปปฏิบตั ิงานไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ ขา้ พเจา้ ไดป้ รับปรุงและพฒั นาเน้ือหาสาระใหส้ มบูรณ์ ถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ ตาม ขอ้ เสนอแนะของผเู้ ช่ียวชาญ ครูผสู้ อน ตลอดจนไดจ้ ดั ทาภาพ ประกอบ และมีใบงาน แบบทดสอบ แบบประเมินผลกิจกรรมการเรียนรู้ การปฏิบตั ิงาน แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียน ไดเ้ กิดการเรียนรู้ มีความรู้ มีทกั ษะในการปฏิบตั ิงาน และบรรลตุ ามจุดประสงคร์ ายวิชา มาตรฐาน รายวชิ า ของหลกั สูตร กิจกรรมที่มอบหมายจะเนน้ ให้ผเู้ รียนฝึกทกั ษะในการปฏิบตั ิงาน สื่อการ สอนท่ีใชเ้ ป็นสื่อหลกั ไดแ้ ก่ ตวั อยา่ งชิ้นงาน ใบความรู้ ใบงาน และ ส่ือคอมพิวเตอร์ การวดั ผล ประเมินผลเนน้ การประเมินตามสภาพจริงอยา่ งตอ่ เน่ืองควบคกู่ บั การเรียนการสอน หวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ เอกสารประกอบการสอนจะเป็นประโยชนส์ าหรับครูผสู้ อน และผเู้ รียน ตลอดจนผสู้ นใจทุกท่าน และขอขอบพระคุณอาจารยผ์ ปู้ ระสาทความรู้ เจา้ ของตารา เอกสารต่าง ๆ ท่ีใชใ้ นการเรียบเรียง ผเู้ ช่ียวชาญ ผตู้ อบแบบประเมิน ที่มีส่วนช่วยทาใหเ้ อกสารประกอบการสอนมี ความสมบูรณ์ยงิ่ ข้ึน ครูสหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร
2 สำรบัญ หน้ำ 1 คำนำ 2 สำรบญั บทที่ 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั เคร่ืองมืองานไม้ 3 - 33 บทท่ี 2 การบารุงรักษาเคร่ืองมืองานไม้ 34 - 46 บทท่ี 3 การซ่อมแซมเคร่ืองมืองานไม้ 47 - 61 บทที่ 4 การลบั ปรับแตง่ เลื่อยลนั ดา 62 - 72 บทท่ี 5 การลบั ปรับแต่งกบลา้ งกลาง 73 - 87 บทที่ 6 การไสไม้ 88 - 103 บทท่ี 7 การเขา้ เดือยแบบบากดา้ นเดียว 104 - 125 บทที่ 8 การเขา้ เดือยชนหวั ไม้ 126 - 144 บทท่ี 9 การเขา้ เดือยกรอบวงกบ 145 - 167 บทที่ 10 การเพลาะไมแ้ บบอดั กาว 168 - 182 บทท่ี 11 กำรปฏบิ ัติงำนทำเก้ำอสี้ ่ีเหล่ียม 185 - 197 ข้นั ตอนท่ี 1 การเตรียมไมส้ ่วนประกอบขาเกา้ อ้ี 198 - 209 ข้นั ตอนท่ี 2 การวดั ระยะร่างแบบส่วนประกอบขาเกา้ อ้ี 210 – 221 ข้นั ตอนท่ี 3 การเจาะร่องเดือยขาเกา้ อ้ี 222 - 234 ข้นั ตอนท่ี 4 การทาเดือยขาเกา้ อ้ีแบบบากดา้ นเดียว 235 - 246 ข้นั ตอนที่ 5 การเตรียมไมพ้ ้ืนเกา้ อ้ี 247 – 260 ข้นั ตอนท่ี 6 การประกอบแผงขาเกา้ อ้ี 261 – 280 ข้นั ตอนท่ี 7 การประกอบขาเกา้ อ้ีครบชุด 281 – 295 ข้นั ตอนท่ี 8 การประกอบพ้นื เกา้ อ้ี 296 - 308 ข้นั ตอนที่ 9 การขดั โป๊ ว อุดตกแตง่ ผวิ ชิ้นงาน 300 - 320 ข้นั ตอนท่ี 10 การทาแชลแลคยอ้ มผวิ ชิ้นงาน 321 - 328 ข้นั ตอนท่ี 11 การทาแลคเกอร์เคลือบผวิ ชิ้นงาน บรรณำนุกรม 329
3 บทท่ี 1 ควำมรู้พืน้ ฐำนเกย่ี วกบั เครื่องมืองำนไม้ หวั ข้อเรื่อง 1. ประเภทของเครื่องมืองานไม้ 2. การใชง้ าน การบารุงรักษา และขอ้ ควรระวงั ในการใช้เครื่องมืองานไม้ 2.1 เครื่องมือวดั ระยะและร่างแบบ 2.2 เคร่ืองมือตดั และผา่ ไม้ 2.3 เคร่ืองมือไสและตกแตง่ ผิวไม้ 2.4 เครื่องมืออดั จบั – ยดึ ตรึง 2.5 เคร่ืองมือเจาะ บากไม้ สำระสำคญั ในการใชเ้ ครื่องมืองานไม้ ผเู้ รียนจะตอ้ งมีความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั วิธีการใชง้ าน การ บารุง รักษา และขอ้ ควรระวงั ในการใชง้ าน ส่ิงเหลา่ น้ีถือวา่ เป็นสิ่งท่ีจาเป็นอยา่ งยง่ิ สาหรับช่างไม้ ในการฝึกปฏิบตั ิงานผเู้ รียนจึงจาเป็นท่ีจะตอ้ งมีความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั เคร่ืองมือท่ีจะใช้ ซ่ึง จะตอ้ งใชใ้ หถ้ กู กบั ประเภทของงาน รู้ถึงวิธีการบารุงรักษาเครื่องมือใหม้ ีความพร้อมใชง้ าน และ ขอ้ ควรระวงั ในการใชง้ าน ในการฝึกฝีมืองานไม้ มีเคร่ืองมือหลากหลายชนิดที่ใชท้ างานใน หนา้ ท่ีที่ตา่ งกนั เช่น งานวดั ระยะ ร่างแบบ ตดั ไสตกแตง่ เจาะ เพลาะไม้ และการประกอบ ชิ้นงาน ซ่ึงก่อนการปฏิบตั ิงาน ผเู้ รียนจะตอ้ งมีความรู้พ้นื ฐานเก่ียวกบั ใชง้ านเบ้ืองตน้ ก่อนท่ีจะทา การฝึกปฏิบตั ิงานตามข้นั ตอนเพือ่ ใหม้ ีทกั ษะและความชานาญ จุดประสงค์กำรเรียน จดุ ประสงค์ทั่วไป เพอื่ ใหผ้ เู้ รียน มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ประเภท หนา้ ท่ี วธิ ีการใชง้ าน การบารุง รักษาและขอ้ ควรระวงั ในการใชเ้ ครื่องมืองานไม้
4 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกประเภทของเคร่ืองมืองานไมไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 2. บอกช่ือ หนา้ ท่ี เคร่ืองมืองานไมไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 3. บอกวธิ ีการใชง้ านเคร่ืองมืองานไมไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 4. บอกขอ้ ควรระวงั ในการใชเ้ ครื่องมืองานไมไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 5. บอกวิธีการบารุงรักษาเครื่องมืองานไมไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง
5 ควำมรู้พืน้ ฐำนเกย่ี วกบั เคร่ืองมืองำนไม้ เครื่องมืองานไมม้ ีอยู่หลายประเภทมีวิธีการใชท้ ี่แตกต่างกนั ไปตามลกั ษณะของงาน การปฏิบัติงานฝึ กฝี มืองานไม้ สิ่งท่ีสาคัญคือผูเ้ รียนต้องมีความรู้เก่ียวกับหน้าที่และวิธีการใช้ เคร่ืองมือ ซ่ึงมีเคร่ืองมืองานไมท้ ี่จาเป็นต่อการฝึ กอยูม่ ากมายหลายชนิด ผูป้ ฏิบตั ิงานจะตอ้ งมีความรู้ พ้ืนฐานเกี่ยวกับ หน้าท่ีในการใช้งาน ข้ันตอนการใช้งานตลอดจนถึงข้อควรระวงั และการ บารุงรักษาเคร่ืองมือ โดยเคร่ืองมือท่ีจาเป็ นในงานช่างไม้ที่ทุกคนควรรู้และสามารถนาไปใช้ ประกอบการปฏิบตั ิงานประเภทตา่ ง ๆ สามารถแยกออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ไดด้ งั น้ี 1. เคร่ืองมือสาหรับวดั และร่างแบบ 2. เครื่องมือสาหรับตดั และผา่ 3. เครื่องมือสาหรับไสและตกแต่ง 4. เคร่ืองมือสาหรับอดั -จบั และยดึ ตรึง 5. เคร่ืองมือสาหรับเจาะ 1. เคร่ืองมือวดั ระยะและร่ำงแบบ เครื่องมือวดั ระยะและร่างแบบในงานไมห้ มายถึง เครื่องมือท่ีใชว้ ดั ระยะและเขียนร่าง แบบลงบนชิ้นงานเพื่อไส ตดั หรือเจาะประกอบเป็ นชิ้นงานให้สวยงามตามแบบ ถือเป็ นเครื่องมือ พ้ืนฐานท่ีมีความสาคญั และจาเป็นอยา่ งยงิ่ ในการทางานช่าง เนื่องจากผลงานหรือชิ้นงานที่ทาจะได้ ขนาดตามรูปแบบ ถูกตอ้ งก็ข้ึนอยู่กับ การวดั ระยะและร่างแบบ จึงจาเป็ นอย่างยิ่งที่ผูป้ ฏิบัติงาน จะตอ้ งมีความรู้และทกั ษะในการใช้เครื่องมือวดั ระยะเป็ นอยา่ งดี เครื่องมือในการวดั ระยะและร่าง แบบมีหลายชนิดท่ีใช้ร่วมกัน มีวตั ถุประสงค์และรูปแบบในการใช้งานที่แตกต่างกันไป ซ่ึง เครื่องมือวดั ระยะและร่างแบบท่ีมีความสาคญั ในการปฏิบตั ิงานฝึ กฝี มืองานไมห้ รืองานไมเ้ บ้ืองตน้ ท่ีใชก้ นั ทว่ั ไปไดแ้ ก่ 1. ตลบั เมตร 2. ฉากตาย 3. ดินสอ 4. ขอขีดไม้
6 1.1 ตลบั เมตร ตลบั เมตรคือ เครื่องมือที่ใชส้ าหรับวดั ระยะและขนาดของวสั ดุ มีลกั ษณะเป็ น ตลบั สี่เหล่ียม ตวั ตลบั ทาด้วยโลหะ หรือพลาสติก ส่วนแถบวดั ทาดว้ ยแผ่นเหล็กบางเคลือบสี ปลายของแถบวดั มีขอเกี่ยว เล็ก ๆ ติดอยู่ในแนวฉากกบั แถบวดั ระยะ เป็ นเคร่ืองมือวดั ระยะท่ี นิยมในกนั มากเน่ืองจากมีราคาถกู และมีความยาวหลายขนาดใหเ้ ลือกใช้ รูปท่ี 1.1.1 แสดงรูปตลบั เมตร รูปท่ี 1.1.2 แสดงการใชต้ ลบั เมตรวดั ระยะ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 1.1.1 วิธกี ำรใช้ตลบั เมตร 1.1.1.1 ใชม้ ือจบั ปลายขอเก่ียวแลว้ ดึงออกจากตลบั 1.1.1.2 ใชข้ อปลายเทปเกี่ยวหวั ไมท้ ่ีตอ้ งการวดั ดึงใหต้ รงและไดแ้ นว 1.1.1.3 ทาเคร่ืองหมายตามระยะที่ตอ้ งการ 1.1.2 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ 1.1.2.1 ระวงั รักษาขอเกี่ยวปลายเทปไมใ่ หห้ กั 1.1.2.2 เม่ือปล่อยเส้นเทปกับท่ีเดิมค่อย ๆ ผ่อน ถ้าปล่อยให้กลบั เร็ว เกินไปปลายขอท่ีเก่ียวอาจชารุดเสียหาย 1.1.2.3 ไม่ควรดึงเส้นเทปออกมาจนหมด จะทาให้สปริ งหลุดไม่ สามารถดึงเส้นเทปกลบั ได้ 1.1.2.4 ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน
7 1.2 ฉำกตำย ฉากตายหรือเรียกอีกอยา่ งหน่ึงว่า ฉากลอง ประกอบดว้ ย ดา้ มฉากและใบฉาก ยดึ ติดกนั เป็นมมุ ฉาก ใชส้ าหรับวดั และสร้างมุมฉาก 90 องศา และ 45 องศา ในส่วนของใบฉาก จะมีระยะบอกใช้วดั ระยะหรือตรวจสอบขนาดของวสั ดุหรือชิ้นงานท่ีมีขนาดความกวา้ ง ความ ยาว และความหนาที่นอ้ ยกวา่ ความยาวของใบฉากได้ ท้งั ระบบเมตริก (เมตร) และระบบองั กฤษ (นิ้ว) รูปที่ 1.1.3 แสดงรูปฉากตาย ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 1.2.1 วิธกี ำรใช้ฉำกตำย 1.2.1.1 ใชว้ ดั ขีดแนวฉาก หรือตรวจสอบมุมฉากของชิ้นงาน โดยใชม้ ือ จบั ท่ีด้ามฉาก วางแนบสนิทกับผิวงานด้านเรียบ แลว้ ทาการวดั มุมฉากหรือขีดเส้นฉากบน ชิ้นงานตามแนวที่ตอ้ งการบนใบฉาก 1.2.1.2 ใชว้ ดั ความเรียบของผิวไมท้ ่ีไส แลว้ โดยใชใ้ บฉากดา้ นบนวาง ลงบนชิ้นงาน แลว้ มองผา่ นตรงจุดท่ีใบฉากสัมผสั กบั ผิวไม้ รูปท่ี 1.1.4 แสดงการใชฉ้ ากวดั ความเรียบ รูปที่ 1.1.5 แสดงการขีดแนวฉาก ของไมท้ ่ีไสแลว้ ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552
8 รูปท่ี 1.1.6 แสดงการใชฉ้ ากวดั มมุ ฉาก ของไมท้ ่ีไสแลว้ ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 1.2.2 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ 1.2.2.1 ไม่ใชง้ านผดิ ประเภทเช่นใชด้ า้ มฉากเคาะหรือตอกแทนคอ้ น 1.2.2.2 อยา่ ใหฉ้ ากตกลงพ้ืนเพราะจะทาใหฉ้ ากหลวมคลอน 1.2.2.3 หลีกเลี่ยงการวางของหนกั ทบั ลงบนใบฉาก 1.2.2.4 ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดแลว้ เช็ดชโลมดว้ ยน้ามนั กนั สนิม ทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน 1.3 ดนิ สอ ดินสอเป็ นเครื่องมือท่ีใช้ขีดแนวหรือร่างแบบลงบนชิ้นงาน ให้สามารถ มองเห็นไดง้ ่ายและ สามารถลบออกไดง้ ่าย ดินสอมีหลายแบบที่สามารถใชไ้ ดก้ บั งานไมแ้ มแ้ ต่ ดินสอที่ใชเ้ ขียนหนงั สือ รูปท่ี 1.1.7 แสดงรูปดนิ สอแบบต่าง ๆ รูปท่ี 1.1.8 แสดงการใชด้ ินสอขดี แนวฉาก ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552
9 1.3.1 วิธกี ำรใช้ดินสอ การใช้ดินสอร่างแบบหรือขีดแนวลงบนไม้ ให้จบั ดินสอตามแบบท่ีถนดั ในขณะขดี แนวใหจ้ บั ดินสอเอียงประมาณ 45 องศา และขดี ลากเขา้ หาตวั หรือลากถอยหลงั 1.3.2 ข้อควรระวงั และกำรบำรุงรักษำ 1.3.2.1 เหลาไส้ดินสอใหม้ ีความแหลมทกุ คร้ังก่อนใชง้ าน 1.3.2.2 อยา่ ใหด้ ินสอตกลงพ้นื 1.3.2.3 ไมว่ างของหนกั ทบั บนดินสอ 1.3.2.4 ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน 1.4 ขอขีดไม้ ขอขีดไมเ้ ป็นเคร่ืองมือใช้ขีดทาแนวลงบนชิ้นงานเพื่อทาการเล่ือย ผา่ โกรกไม้ หรือทาแนวเจาะรูเดือย โดย ลกั ษณะจะประกอบดว้ ยส่วนหัวและแขน ซ่ึงยดึ ติดกนั ดว้ ยการตอก ลิ่ม ปลายแขนขา้ งหน่ึงจะมีเขม็ เหลก็ ปลายแหลมหรือตะปูติดอยู่ สาหรับขดี ทารอยหรือแนว รูปท่ี 1.1.9 แสดงรูปขอขีดไม้ ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 1.4.1 วิธกี ำรใช้ขอขีด เริ่มจากการปรับระยะขอขีดโดยการคลายล่ิมออก แลว้ วดั ระยะห่างจาก ปลายเหล็กแหลมกบั ดา้ มให้ไดข้ นาดตามที่แบบกาหนดแล้วตอกลิ่มยึดแขนให้แน่น จบั ขอขีด ดา้ นท่ีมีเขม็ ให้แนบสนิทกับไม้ ลากเขา้ หาตวั ผปู้ ฏิบตั ิงาน ให้ปลายเข็มขีดแนวลงผิวไม้ ใหไ้ ด้ ตลอดแนวที่ตอ้ งการ
10 รูปท่ี 1.1.10 แสดงการใชง้ านขอขีดไม้ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 1.4.2 ข้อควรระวงั และกำรบำรุงรักษำ 1.4.2.1 เหลก็ แหลมจะตอ้ งไม่ยนื่ ออกมาเกินไป จะทาใหแ้ ขนและส่วน หวั ของขอขดี เอียง 1.4.2.2 ใชผ้ า้ แหง้ เช็ดทาความสะอาดทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน 2. เคร่ืองมือตดั ในงานช่างไมเ้ คร่ืองมือตดั ไม้ จะหมายถึงเลื่อยชนิดต่าง ๆ ซ่ึงทาจากแผ่นเหล็กบาง แข็ง มีซ่ีฟันเล่ือยและรูปทรงขนาดต่าง ๆ กนั ตามลกั ษณะการใช้งานโดยมีมือจบั ยึดติดแน่นกบั ใบเล่ือย ซ่ึงทาให้เลื่อยมีลกั ษณะ รูปร่าง แตกต่าง ๆ กนั ตามลกั ษณะและหน้าท่ีในการใชง้ าน ซ่ึง ในส่วนของการฝึกปฏิบตั ิในรายวิชาฝึกฝีมืองานไม้ หรืองานไมข้ ้นั พ้ืนฐานไดแ้ ก่ 2.1 เล่ือยลนั ดำ เล่ือยลนั ดาเป็นเครื่องมืองานไมท้ ่ีสาคญั เป็นเลื่อยมือที่ใชใ้ นการตดั ไม้ ซอยไม้ โดยใช้ฟันเล่ือยที่เรียงกัน อย่างเป็ นระเบียบ บนแผ่นเหล็กสปริงที่มีลกั ษณะเป็ นแผ่น บางแข็ง โคนใหญ่ปลายเรียวไดร้ ูป ซ่ึงเรียกวา่ “ ใบเลื่อย ” และมีมือจบั ยดึ ติดแน่นกบั ในส่วนโคนของใบ เล่ือย เลื่อยลนั ดาแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ชนิดตามลกั ษณะการใชง้ านดงั น้ี
ใบเล่ือย 11 มือจับ รูปที่ 1.1.11 แสดงรูปเลื่อยลนั ดา ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 2.1.1 เล่ือยลนั ดำชนดิ ตัด ใชต้ ดั ขวางเส้ียนไมป้ ลายของฟันเล่ือยจะแหลม มีลกั ษณะ เหมือนปลาย มีดจานวนฟันต่อนิ้วประมาณ 8 -12 ฟัน ลกั ษณะการทางานของ ฟันจะเหมือนมีดปลายแหลม หลาย ๆ เล่มเฉือนไมเ้ วลาตดั ไมใ้ บเล่ือยจะเอียงทามุมกบั ชิ้นงานประมาณ 45 องศา และดา้ นขา้ ง ใบเล่ือยจะตอ้ งต้งั ฉากกบั ชิ้นงาน รูปที่ 1.1.12 แสดงการใชง้ านเล่อื ยลนั ดา ชนิดฟันตดั ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 รูปที่ 1.1.13 แสดงฟันเล่ือยลนั ดาชนิดฟันตดั ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 8 - 12 ฟันต่อนวิ้
12 2.1.2 เล่ือยลนั ดำชนิดโกรก ใช้เลื่อยหรือผ่าไม้ตามแนวเส้ียนไม้ มีจานวนฟัน 5 - 8 ซ่ีต่อความยาว หน่ึงนิ้ว เล่ือยชนิดน้ีมีฟันห่าง องศาเอียงของฟันจะมากกว่าความยาว ของใบเล่ือยมีต้งั แต่ 20-28 นิ้วขอบหน้าตัดของปลายฟันจะต้ังฉากกับใบเลื่อย เวลาตัดมุมเอียงกับไม้หรือวางที่จะตัด ประมาณ 60 องศา รูปที่ 1.1.14 แสดงการใชเ้ ลื่อยลนั ดาชนิดฟันโกรก หรือผา่ ไม้ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 5 - 8 ฟันต่อนิว้ รูปที่ 1.1.15 แสดงฟันเล่ือยลนั ดา ชนิดโกรกหรือผา่ ไม้ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 2.1.2.1 กำรใช้งำนเลื่อยลันดำ ใชม้ ือขา้ งท่ีถนัดจบั เลื่อย วางให้ตรงแนว ที่ตอ้ งการจะตดั หรือผา่ โดยใหเ้ ลื่อยทามุมตรงกบั ชนิดของเล่ือย ค่อย ๆ ดึงเล่ือยเขา้ หาตวั โดยใช้ นิ้วโป้งช่วยประคองใบเล่ือยให้ไดแ้ นว แลว้ ดนั เลื่อยไปขา้ งหนา้ เม่ือเลื่อยตรงแนวแลว้ ก็ไม่ตอ้ ง ใชม้ ือประคอง เลื่อยต่อไปจนถึงตาแหน่งที่ตอ้ งการหรือไมข้ าด 2.1.2.2 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำเล่ือยลนั ดำ (1) เลือกใชเ้ ล่ือยลนั ดาให้ถูกกบั ชนิดของงาน (2) ขณะใชง้ านไมค่ วรใชแ้ รงกด หรือบิดใบเลื่อย มากเกินไป จะทาใหใ้ บเล่ือยบิดงอเสียรูปทรง
13 (3) ตรวจสอบชิ้นงานก่อนทาการเล่ือย ไมใ่ หม้ ีของแขง็ เช่น เศษปูน ทราย คอนกรีต หรือ ตะปูติดอยใู่ นเน้ือไม้ (4) ไม่วางของหนกั ทบั บนใบเล่ือย (5) ระวงั คมเลื่อยจะโดนส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกาย (6) หมน่ั คดั คลองเลื่อยและลบั ปรับแต่งฟันเลื่อยใหค้ มอยเู่ สมอ (7) ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดและทาน้ามนั กนั สนิมในส่วน ท่ีเป็นโลหะทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน รูปท่ี 1.1.16 แสดงการคดั คลองฟันเล่ือยลนั ดา รูปที่ 1.1.17 แสดงการตะไบฟันเลื่อยลนั ดา ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 2.2 เล่ือยตดั ปำกไม้ เล่ือยตดั ปากไมห้ รือเรียกว่าเลื่อยสันแข็ง ท่ีเรียกว่าสันแข็งเพราะสันของใบ เลื่อยมีเหล็กหุ้มบงั คบั ให้เล่ือยตรงตลอดความยาว ทาให้ใบเล่ือยมีความแข็งแรงไม่บิดตวั ฟันถ่ี และละเอียด มีส่วนประกอบสาคญั 3 ส่วน คือ ใบเล่ือย มือจบั และสันเล่ือย ใบเลื่อยมีขนาด ความกวา้ งต้ังแต่ 5-6 นิ้ว ขนาดความยาวต้ังแต่ 10 -24 นิ้ว ขนาดของฟันเล่ือย 13 ฟันต่อนิ้ว เหมาะสาหรับงานละเอียด สาหรับการเลื่อยผ่าตดั ไมท้ ่ีตอ้ งการผิวหน้าเรียบ เช่น เขา้ ปากไม้ เขา้ เดือย รูปที่ 1.1.18 แสดงรูปเลื่อยตดั ปากไม้ ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552
14 รูปที่ 1.1.19 แสดงการใชง้ านเลอื่ ยตดั ปากไม้ ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 2.2.1 วิธกี ำรใช้งำนเลื่อยตัดปำกไม้ การใชง้ านเลื่อยตดั ปากไมจ้ ะใชง้ านเหมือนกบั เลื่อยลนั ดาชนิดฟันผา่ หรือ โกรก คือใหเ้ ลื่อยเอียงทามุมประมาณ 60 องศา 2.2.2 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ 2.2.2.1 เลือกใชเ้ ลื่อยใหถ้ ูกกบั ชนิดของงาน 2.2.2.2 ขณะใชง้ านไม่ควรใชแ้ รงกด หรือบิดใบเลื่อย ใหต้ รงแนวเล่ือย จะทาใหใ้ บเลื่อยบิดงอเสียรูปทรง 2.2.2.3 ไม่บิดใบเล่ือยใหไ้ มข้ าดออกจากกนั ขณะใชเ้ ลื่อยผา่ ไม้ 2.2.2.4 ไม่วางของหนกั ทบั บนใบเลื่อย 2.2.2.5 ระวงั คมเล่ือยจะโดนส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกาย 2.2.2.6 หมน่ั คดั คลองเลื่อยและลบั ปรับแตง่ ฟันเล่ือยใหค้ มอยเู่ สมอ 2.2.2.7 ใช้ผา้ แห้งเช็ดทาความสะอาดและทาน้ามนั กนั สนิมในส่วนที่ เป็นโลหะทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน 2.3 เล่ือยรอ เล่ือยรอ หรือ “ เลื่อยรอปากไม้ “ มีลกั ษณะคลา้ ยเลื่อยตดั ปากไมแ้ ต่ใบบางกว่า ฟันละเอียดกวา่ ดา้ มจบั คลา้ ยสิ่วความยาวของใบยาว 6-12 นิ้ว มีลกั ษณะเป็นแผ่นเหล็กบางๆ แข็ง มีฟันละเอียดมากขนาดของฟันเล่ือย 20 ฟันต่อนิ้วข้ึนไป ใบเล่ือยกวา้ ง 2 ½ นิ้ว ใช้สาหรับการ เล่ือยตดั แต่งปากไมเ้ พื่อให้ผิวหนา้ ไมท้ ่ีถูกตดั มีผิวหนา้ เรียบ หรือใชใ้ นการเล่ือยตดั แต่งผิวหน้า ของไมร้ ะหว่างแนวต่อของการเขา้ ไมใ้ ห้มีแนวต่อท่ีชนกนั ท่ีแนบสนิท นอกจากน้นั ยงั ใชส้ าหรับ สาหรับเล่ือยแต่งผิวหน้าแนวต่อของการเขา้ ไมใ้ ห้มีแนวต่อท่ีชนกนั ได้สนิท ใช้สาหรับการตดั แต่งเดือย บ่าเดือย และรูเดือยเช่น การเข้าเดือยหางเหยี่ยว ใช้เล่ือยแผ่นไม้บางๆเพื่อทา แบบจาลอง เป็นตน้
15 รูปท่ี 1.1.20 แสดงรูปเล่ือยรอ รูปท่ี 1.1.21 แสดงการใชเ้ ล่ือยรอแตง่ บ่าเดือย ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 2.2.1 วิธกี ำรใช้งำนเลื่อยรอ การใช้งานเลื่อยตดั ปากไมจ้ ะใช้งานเหมือนกบั เล่ือยลนั ดาชนิดฟันตดั หรือโกรก คอื ใหเ้ ลื่อยเอียงทามุมประมาณ 60 องศา ในขณะเล่ือยไม้ 2.3.1 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ 2.3.1.1 เลือกใชเ้ ล่ือยใหถ้ กู กบั ชนิดของงาน 2.3.1.2 ขณะใชง้ านไมค่ วรใชแ้ รงกด หรือบิดใบเลื่อย ใหต้ รงแนวเล่ือย จะทาใหใ้ บเล่ือยบิดงอเสียรูปทรง 2.3.1.3 การตดั ไมท้ กุ คร้ัง ตอ้ งยดึ จบั ชิ้นงานใหแ้ น่นอยกู่ บั แท่นเลื่อย ในขณะตดั ไมด้ ว้ ยเล่ือยตดั มุมเสมอ 2.3.1.4 ไมว่ างของหนกั ทบั บนใบเล่ือย 2.3.1.5 ระวงั คมเลื่อยจะโดนส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกาย 2.3.1.6 ต้งั โครงเลื่อยให้ มมุ ใบเลื่อยไดม้ มุ 90 องศากบั แท่นเล่ือยเสมอ 2.3.1.7 หมน่ั คดั คลองเล่ือยและลบั ปรับแต่งฟันเล่ือยใหค้ มอยเู่ สมอ 2.3.1.8 ใช้ผา้ แห้งเช็ดทาความสะอาดและทาน้ามนั กันสนิมในส่วนท่ี เป็นโลหะทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน 3. เครื่องมือไสตกแต่งไม้ เครื่องมือไสเป็นที่ใชส้ าหรับลดขนาดหรือตกแตง่ ผิวหนา้ ของไมใ้ หเ้ รียบ ก่อนที่จะ สร้างเป็ นชิ้นงาน เคร่ืองมือตกแต่งไมเ้ ป็ นเคร่ืองมือขดั ขูดหรือถูแต่งไมใ้ ห้มีขนาดและรูปทรง ตามที่ตอ้ งการ เคร่ืองมือเหล่าน้ีเป็ นส่วนสาคัญอย่างยิ่งที่จะทาให้ผลงานหรือชิ้นงานออกมา สวยงามตามตอ้ งการ โดยมีเครื่องมือท่ีจาเป็นตอ่ การฝึกปฏิบตั ิข้นั พ้นื ฐานดงั น้ี
16 3.1 กบไสไม้ กบไสไม้ เป็นเคร่ืองมือที่ใชไ้ สไมเ้ พ่ือใหผ้ วิ ไมเ้ รียบไดข้ นาด ก่อนนาไปใชง้ าน กบไสไมม้ ีหลายชนิดและมีลกั ษณะการใชง้ านที่แตกต่าง เพ่ือให้เหมาะสมกบั ประเภทของงาน ซ่ึงในส่วนของการฝึกฝีมืองานไมเ้ บ้ืองตน้ จะฝึกการใชง้ านอยู่ 2 ชนิดคือ กบลา้ ง และกบผิว 3.1.1 กบล้ำง กบลา้ งเป็ นเครื่องมือใช้เพื่อไสลา้ งผิวของเน้ือไมค้ ร้ังแรก ให้ไดร้ ะดับ ขนาด และมีผิวเรียบ ปกติไมท้ ่ีแปรรูปจะเป็ นแผ่น หรือเป็ นท่อนก็ตาม ผิวยงั หยาบ เป็ นขุย มี เส้ียนและรอยฟันเลื่อยเน่ืองจากการแปรรูปเมื่อจะนามาใชจ้ ึงตอ้ งแต่งใหเ้ รียบร้อย กบลา้ ง ใบกบ จะทามุมประมาณ 45 องศาและมีขนาดที่แตกตา่ งกนั ตามลกั ษณะการใชง้ านดงั น้ี 3.1.1.1 กบลา้ งส้ัน เป็นกบลา้ งที่มีความยาว 6 - 8 นิ้ว ใชใ้ สไมท้ ่ีผวิ ขรุขระบิด งอ ซ่ึงกบ ชนิดอ่ืนไม่สามารถใสได้ หรือใชก้ บั ผวิ งานหยาบ 3.1.1.2 กบลา้ งกลาง เป็ นกบล้างที่มีความยาว 10 -12 นิ้ว ใสไม้ได้ เรียบกวา่ กบลา้ งส้นั แตไ่ ม่เรียบและตรงเหมือนกบลา้ งยาว 3.1.1.3 กบลา้ งยาว ลกั ษณะคลา้ ยกบลา้ งส้ันแต่ตวั กบยาวกวา่ มีความ ยาว 16 - 18 นิ้ว ใชไ้ สลา้ งแนวไมใ้ หต้ รง ใชไ้ สไมก้ ่อนเพลาะไมห้ รือต่อไมด้ า้ นกวา้ ง รูปท่ี 1.1.22 แสดงรูปกบลา้ ง ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 รูปท่ี 1.1.23 แสดงส่วนประกอบกบลา้ ง ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552
17 3.1.2 กบผวิ กบผิว เป็ นเคร่ืองมือท่ีใช้ไสผิวไมใ้ ห้เรียบจริง ๆ พร้อมที่จะขดั ตกแต่ง ผิวไมด้ ว้ ยกระดาษทราย โดยกบผิวจะใช้ไสไมห้ ลงั จากที่ทาการไสลา้ งมาแลว้ เหมาะสาหรับ งานเคร่ืองเรือนท่ีตอ้ งความเรียบร้อย และความสวยงาม แต่มีขอ้ แตกต่างจากกบลา้ งคือกบผิวจะ ไม่ใชเ้ หลก็ ประกบั และ ใบกบผิวจะทามมุ ประมาณ 60 องศา มีขนาดเหมือนกบั กบลา้ งดงั น้ี 3.1.2.1 กบผวิ ส้นั เป็นกบผวิ ท่ีมีความยาว 6 - 8 นิ้ว 3.1.2.2 กบผวิ กลาง เป็นกบผิวที่มีความยาว 10 -12 นิ้ว 3.1.2.3 กบผวิ ยาว เป็นกบผวิ ที่มีความยาว 16 -18 นิ้ว รูปท่ี 1.1.24 แสดงรูปกบผวิ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 รูปท่ี 1.1.25 แสดงการใชก้ บไสไม้ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 3.1.3 วิธกี ำรใช้งำนกบไสไม้ เริ่มจากการลบั ใบกบให้คม ประกอบต้ังใบกบให้พร้อมใช้งาน จับ ชิ้นงานใหม้ นั่ คง การไสไมจ้ ะตอ้ งจบั กบใชม้ ือท้งั 2 ขา้ งจบั ท่ีหูกบ ( ดงั รูปที่ 1.1.25) เหยยี ดมือให้ ตรง สุดแขน ทิ้งน้าหนักมาขา้ งหน้า โดยย่ืนขาออกมารับเพ่ือผ่อนแรงส่งออกมาจนสุดชิ้นงาน อาจใชท้ ้งั กบผิวหรือกบลา้ ง โดยใชก้ บลา้ งก่อนแลว้ ตามดว้ ยกบผิว
18 3.1.4 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ 3.1.4.1 สารวจความคมของใบก่อนใชง้ าน 3.1.4.2 การถอดประกอบควรใชค้ อ้ นไมเ้ ทา่ น้นั 3.1.4.3 เวลาลบั คมใบกบระวงั ใบกบโดนส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกาย 3.1.4.4 ขณะใชง้ านระวงั อยา่ ใหก้ บหลน่ ลงพ้นื เพราะอาจแตกหกั เสียหาย 3.1.4.5 ไมค่ วรตอกลิ่มแรงเกินไป อาจเสียหาย และถอดยาก 3.1.3.6 ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาด ทาน้ามนั กนั สนิมในส่วนที่เป็น โลหะ และทอ้ งกบทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน 3.2 บ้งุ บุง้ เป็นเครื่องมือที่ใชถ้ ูหรือขดั เพื่อปรับระดบั ผิวไม้ ใหไ้ ดแ้ นวและรูปทรงตาม ตอ้ งการเช่น แนวตรง แนวโคง้ หรือกลมมน บุง้ ทาจากเหล็กมีลกั ษณะเป็ นเหล็กแบน ดา้ น แบนจะมีลกั ษณะเป็นครีบโคง้ เหมือนเลบ็ มือเล็ก ๆหรือเป็นเกล็ดหยาบ เรียงกนั เป็นแถว ซ่ึงเป็น ส่วนที่ใชถ้ ู หรือขดู เน้ือไมใ้ ห้ไดล้ กั ษณะรูปทรงตามตอ้ งการ บุง้ สามารถแบ่งไดต้ ามรูปทรงและ ลกั ษณะของการใชง้ าน ได้แก่ บุง้ แบน บุง้ ทอ้ งปลิง บุง้ กบ ขนาดของบุง้ จะแบ่งตามความยาว ของตวั บุง้ ไม่รวมดา้ ม โดยทวั่ ไปจะมีความยาวต้งั แต่ 6 – 16 นิ้ว แต่ขนาดที่ใชก้ นั มากคือ ขนาด 10 และ 12 นิ้ว รูปที่ 1.1.26 แสดงรูปบงุ้ ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 รูปท่ี 1.1.27 แสดงการใชบ้ ุง้ ขดั แต่งไม้ ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552
19 3.2.1 วิธีกำรใช้งำนบุ้ง จบั ดา้ มบุง้ ให้แน่นพอประมาณ ยดึ จบั ชิ้นงานให้แน่น แลว้ วางบุง้ บนชิ้นงานในส่วนที่ตอ้ งการขดั หรือแต่ง ออกแรงกดบุง้ ดันไปขา้ งหน้าเพื่อขดั แต่ง ชิ้นงาน แลว้ ดึงกลบั ทาการขดั ซ้า เพ่อื ใหไ้ ดร้ ะดบั หรือแนวตามแบบตามตอ้ งการ 3.2.2 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ 3.2.2.1 หลีกเล่ียงการใช้บุ้งที่ปราศจากด้าม หรือด้ามแตกชารุดและ หลวมอาจเกิดอุบตั ิเหตไุ ด้ 3.2.2.2 อยา่ ใหบ้ ุง้ เป้ื อนน้ามนั หรือจารบี จะทาใหเ้ กิดการลื่น และทา ความสะอาดยาก 3.2.2.3 อย่าเก็บบุ้งไวร้ วมกัน ควรแยกเก็บให้ห่างกัน เพราะฟันบุ้งมี ความคม 3.2.2.4 รักษาบุง้ ใหส้ ะอาดอย่เู สมอ โดยใชแ้ ปรงทองเหลือง แปรงเศษ โลหะที่ติดอยใู่ นร่องฟันออกทกุ คร้ังหลงั จากเลิกใชง้ าน 3.2.2.5 อยา่ ใชบ้ ุง้ เคาะบนโลหะ เพราะจะทาใหฟ้ ันบงุ้ เสียได้ 3.3 ตะไบ ตะไบเป็ นเคร่ืองมือที่ใชถ้ ูหรือขดั เพ่ือปรับระดบั ผิวไม้ ให้ไดแ้ นวและรูปทรง เหมือนกบั บงุ้ แต่มีฟันที่ละเอียดมากกวา่ โดยลกั ษณะฟันส่วนใหญ่จะเป็นฟันตดั คู่ แนวฟันตะไบ จะตดั กนั เป็นรูปขนมเปี ยกปูน จึงใชก้ บั งานท่ีละเอียดหรืองานที่ขดั ถูเพยี งเลก็ นอ้ ย ตะไบท่ีใชใ้ น งานช่างไม้ได้แก่ ตะไบแบน ตะไบท้องปลิง ตะไบกลม และตะไบสามเหลี่ยม ซ่ึงตะไบ สามเหล่ียมจะใชต้ ะไบฟันเลื่อยดว้ ย ตะไบ มีขนาดต้งั แต่ 4 นิ้ว ถึง 8 นิ้ว ท่ีนิยมใชก้ นั มากคือ ขนาด 8 , 10 และ 12 นิ้ว ตะไบแบน ตะไบกลม ตะไบสำมเหลี่ยม ตะไบท้องปลิง รูปที่ 1.1.28 แสดงรูปตะไบแบบต่าง ๆ ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552
20 รูปท่ี 1.1.29 แสดงการใชต้ ะไบแตง่ บา่ เดอื ย ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 3.3.1 วิธกี ำรใช้งำนตะไบ การใชต้ ะไบขดั ผิวไมเ้ ร่ิมจากการจบั ดา้ มตะไบให้แน่นพอประมาณ ยึด จบั ชิ้นงานให้แน่น แลว้ วางตะไบบนชิ้นงานในส่วนที่ตอ้ งการขดั หรือแต่ง ออกแรงกดตะไบดนั ไปขา้ งหนา้ เพื่อขดั แต่งชิ้นงาน แลว้ ดึงกลบั ทาการขดั ซ้า เพ่ือให้ไดร้ ะดบั หรือแนวตามแบบตาม ตอ้ งการ 3.3.2 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ 3.3.2.1 หลีกเล่ียงการใชต้ ะไบท่ีปราศจากดา้ ม หรือดา้ มแตกชารุดและ หลวมอาจเกิดอบุ ตั ิเหตไุ ด้ 3.3.2.2 หา้ มใชม้ ือปัดผิวงานที่กาลงั ตะไบควรใชแ้ ปรงปัดฝ่นุ ผงแทน เพื่อป้องกนั เส้ียนไมท้ ิ่มมือ 3.3.2.2 ระวงั ไม่ให้ตะไบเป้ื อนน้ามนั หรือจารบี จะทาใหต้ ะไบลื่น และ ทาความสะอาดไดย้ าก 3.3.2.4 ไม่ควรเก็บตะไบไวร้ วมกนั ควรแยกเก็บให้ห่างกนั เพราะฟัน ตะไบมีความคมอาจขดั หรือถกู นั จนฟันสึกหรอ 3.3.2.5 รักษาตะไบให้สะอาดอยู่เสมอ โดยใชแ้ ปรงทองเหลือง แปรง เศษโลหะที่ติดอยใู่ นร่องฟันออกทกุ คร้ังหลงั จากเลิกใชง้ าน 3.3.2.6 หา้ มใชต้ ะไบเคาะบนโลหะ เพราะจะทาใหฟ้ ันตะไบเสียได้ 4. เคร่ืองมือประเภทอดั - จบั และยึดตรึง เป็ นเครื่องมืออีกประเภทที่มีความสาคญั และจาเป็ นสาหรับงานช่างไม้ โดยเฉพาะ งานประกอบชิ้นงาน เช่น การเพลาะไม้ การประกอบขาเกา้ อ้ี หรืองานประกอบวงกบ และงาน เครื่องเรือนต่าง ๆ เมื่อจบั – อดั แลว้ ก็จะตอ้ งยึดตรึงชิ้นงานเขา้ ดว้ ยกนั โดยการตอกตะปู หรือขนั สกรูใหต้ ิดกนั ซ่ึงแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทตามลกั ษณะการใชง้ านดงั น้ี
21 4.1 เครื่องมืออดั – จบั ไม้ เป็ นเครื่องมือท่ีใช้ประกอบชิ้นงานหรือจับชิ้นงานให้มีความสะดวกในการ ทางาน มีหลายชนิด แต่ท่ีสาคญั และมีความจาเป็นในการใชง้ านหรือใชใ้ นการฝึ กฝี มือข้นั พ้ืนฐาน ไดแ้ ก่ แมแ่ รงอดั ไม้ ปากกาตวั ซี และปากกาหวั โต๊ะ 4.1.1 แม่แรงอดั ไม้ มีลกั ษณะเป็ นคานรูปตวั ไอ มีหน้าอดั สองด้านโดยดา้ นหน่ึงจะเล่ือน อดั ไมโ้ ดยใชส้ กรูท่ีมีลกั ษณะเป็นเกลียวหยาบ อีกดา้ นจะเลื่อนปรับระยะไปตามรางได้ และจะยดึ ตามระยะของการใชง้ านโดยใชส้ ลกั ยดึ กบั คานตวั ไอ ซ่ึงในส่วนน้ีจะไม่เคลื่อนที่ขณะใชง้ าน ใช้ สาหรับอดั ประกอบชิ้นงานให้แนบสนิท แม่แรงอดั ไมจ้ ะมีความยาวต้งั แต่ 2 – 10 ฟุต ที่นิยมใช้ จะมีความยาวประมาณ 4 – 6 ฟตุ รูปที่ 1.1.30 แสดงรูปแมแ่ รง ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 รูปท่ี 1.1.31 แสดงการใชแ้ ม่แรงในงานเพลาะไม้ ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552
22 4.1.1.1 วิธีกำรใช้งำนแม่แรงอดั ไม้ (1) เตรียมแม่แรงและไมร้ องหนา้ อดั ท้งั สองดา้ น (2) วางชิ้นงานท่ีตอ้ งการบีบอดั ของบนคานแม่แรง (3) ขนั แม่แรงบีบอดั ไมโ้ ดยใชแ้ รงบีบอดั พอประมาณใหช้ ิ้นงาน แนบสนิทกนั ตลอดแนว 4.1.1.2 ข้อควรระวงั และกำรบำรุงรักษำ (1) ขณะใชง้ านควรใชไ้ มร้ องหนา้ อดั ท้งั สองดา้ นเพ่อื ป้องกนั ชิ้นงานเป็ นรอย (2) หยอดน้ามนั หลอ่ ลื่นหรือจารบีท่ีเกลียวของสกรูเสมอเพื่อให้ หมุนไดค้ ลอ่ งตวั (3) ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดและทาน้ามนั กนั สนิมทกุ คร้ัง หลงั ใชง้ าน 4.1.2 ปำกกำตวั ซี ปากกาตัวซี หรือเรียกกันท่ัวไปว่า ซีแคมป์ โครงรูปตัว C ทาจาก เหล็กหล่อ มีสกรูและหน้าอัดสาหรับหมุนอัดจบั ชิ้นงานกับหน้ารับอีกด้านท่ีอยู่ปลายตัวซี เคล่ือนยา้ ยได้ง่ายเพราะมีขนาดไม่ใหญ่มาก มีขนาดต้งั แต่ 6 – 12 นิ้ว แต่ขนาดที่นิยมใช้งาน ไดแ้ ก่ขนาด 6 – 10 นิ้ว รูปที่ 1.1.32 แสดงรูปปากกาตวั ซี รูปท่ี 1.1.33 แสดงการใชง้ านปากกาตวั ซี ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552
23 4.1.2.1 ข้อควรระวงั และกำรบำรุงรักษำ (1) ควรใชไ้ มร้ องหนา้ อดั ท้งั สองดา้ นเพอ่ื ป้องกนั ชิ้นงาน เป็ นรอย (2) หยอดน้ามนั หลอ่ ลื่นที่เกลียวของสกรูเสมอเพอื่ ใหห้ มุนได้ คลอ่ งตวั (3) ไมใ่ ชแ้ รงอดั มากเกินไป อาจทาใหป้ ากกาตวั ซีหกั ได้ (4) ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดและทาน้ามนั กนั สนิมในส่วน ท่ีเป็นโลหะทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน (5) เมื่อเลิกใชง้ านขนั หนา้ อดั เขา้ ไปใหช้ ิด 4.1.3 ปำกกำหัวโต๊ะ ปากกาหัวโต๊ะ เป็ นเคร่ืองมืออดั – จบั ชิ้นงานท่ีติดอยู่กบั หัวโต๊ะปฏิบัติ งาน โดยทว่ั ไปทาจากเหล็กหล่อ หนา้ อดั จะมีไมห้ นาขนาดหน่ึงนิ้วรอง เพ่ือไม่ให้เหลก็ สัมผสั กบั ชิ้นงาน ซ่ึงเมื่ออดั อาจจะทาให้ชิ้นงานเป็นรอย หน้าอดั ดา้ นนอกจะเคล่ือนที่เขา้ ออกโดยใช้สลกั เกลียว ส่วนดา้ นในไมส่ ามารถเคล่ือนท่ีได้ ใชส้ าหรับจบั ชิ้นงานเพ่ือ ตดั ผา่ และอื่นๆ ซ่ึงเป็นงาน ขนาดเลก็ รูปท่ี 1.1.34 แสดงรูปปากกาหวั โต๊ะ ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 รูปท่ี 1.1.35 แสดงการใชง้ านปากกาหวั โตะ๊ ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552
24 4.1.3.1 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ (1) ไม่ใชป้ ากการองรับเหลก็ เพอื่ ทุบหรือตอก จะทาใหเ้ กลียว ปากกาแตกร้าว หลวมหรือเอียง (2) ขณะใชง้ านควรใชไ้ มท้ ี่หนา้ เรียบรองหนา้ อดั ท้งั สองดา้ น เพ่ือป้องกนั ชิ้นงานเป็นรอย (3) ใส่จารบีท่ีเกลียวหมนุ เสมอเพอ่ื ใหห้ มุนไดค้ ลอ่ งตวั (4) ไมใ่ ชแ้ รงอดั มากเกินไป อาจทาใหช้ ิ้นงานหกั ได้ (5) ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดและทาน้ามนั กนั สนิมในส่วน ที่เป็นโลหะทุกคร้ังหลงั ใชง้ าน (6) เม่ือเลิกใชง้ านขนั ปากกาเขา้ ไปใหช้ ิด 4.2 เคร่ืองมือยดึ ตรึงไม้ เคร่ืองมือยึดตรึงไมเ้ ป็นเครื่องมือที่ใชย้ ึดประกอบชิ้นงานให้ติดกนั และใชเ้ พ่ือ ถอดหรือแยกส่วนประกอบของชิ้นงาน หรือทางาน มีหลายชนิด แต่ท่ีมีความจาเป็ นในการใช้ งานมากหรือใชใ้ นการฝึกฝีมือเบ้ืองตน้ ไดแ้ ก่ คอ้ น ไขควง คีม เหลก็ ส่ง 4.2.1 ค้อน คอ้ นเป็นเคร่ืองมือสาหรับตอก หรือเคาะประกอบชิ้นงานต่าง ๆ ในงานช่าง ค้อนที่ใช้มากในงานช่างไม้ คือ คอ้ นหงอน และคอ้ นไม้ ซ่ึงใช้แตกต่างกันตาม ลกั ษณะของงาน 4.2.1.1 ค้อนหงอน เป็นคอ้ นที่ใชก้ บั ช่างไมโ้ ดยเฉพาะ แบ่งออกเป็น สองส่วนคือส่วนหัว และ ดา้ ม ส่วนหัวจะเป็ นเหลก็ หนา้ คอ้ นจะนูนเล็กนอ้ ย ส่วนหงอนทาเป็ น แฉกใชส้ าหรับถอนตะปู ส่วนด้ามจะเป็ นไมเ้ น้ือแข็ง ซ่ึงหากยากในปัจจุบนั จึงนิยมใช้ดา้ มไฟ เบอร์ ขนาดของคอ้ นจะ เรียกตามขนาดน้าหนกั ของหวั คอ้ น ที่นิยมใชก้ นั จะมีขนาดต้งั แต่ 13 – 16 ออนซ์ แต่คอ้ นท่ีเป็ นคอ้ นประจาตวั ช่างไมจ้ ะมีขนาด 16 ออนซ์ เส้นผ่าศูนยก์ ลางของหัวคอ้ น ประมาณ 28 มิลลิเมตร
25 รูปที่ 1.1.36 แสดงรูปคอ้ นหงอน ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 รูปที่ 1.1.37 แสดงการใชค้ อ้ นหงอนตอกตะปู ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 รูปที่ 1.1.38 แสดงการใชค้ อ้ นหงอนถอนตะปู ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 (1) วิธีกำรใช้ค้อนหงอน 1) การใชค้ อ้ นหงอนตอกตะปคู วรจบั ดา้ มคอ้ นใหก้ ระชบั มือ ดงั รูปท่ี 1.1.37 แลว้ ใช้มืออีกขา้ งจบั ตะปูวางให้ตรงจุดที่ตอ้ งการตอก ตอกตะปูเบา ๆโดยใหห้ นา้ ค้อนสัมผสั หัวตะปู ตอกให้ตะปูจมลงไปในเน้ือไม้แล้วจึงปล่อยตะปู ตอกจนได้ความลึกที่ ตอ้ งการ 2) การใชค้ อ้ นหงอนถอนตะปคู วรจบั ดา้ มคอ้ นดงั รูปท่ี 1.1.37 สอดเขา้ ไปในหัวตะปูแลว้ ดึงเขา้ หาตวั ให้ตะปูถอนออกจากไม้ หากตะปูยาวมากใหใ้ ชไ้ ม้ รองหวั คอ้ นเพอ่ื ใหถ้ อนตะปูออกไดง้ า่ ยข้นึ
26 จะทาใหล้ ื่น (2) ข้อควรระวงั และกำรบำรุงรักษำ 1) ใชค้ อ้ นใหถ้ ูกตอ้ งกบั ลกั ษณะของงาน 2) อยา่ ใชค้ อ้ นที่ดา้ มหลวม เพราะอาจหลดุ ไปถูกผอู้ ่ืนได้ 3) รักษาหนา้ คอ้ นใหเ้ รียบอยเู่ สมอ 4) หนา้ คอ้ นที่ใชต้ อกไมค่ วรเป้ื อนน้ามนั หรือจาระบีเพราะ 5) ใชผ้ า้ แหง้ เช็ดทาความสะอาดทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน 4.2.1.2 ค้อนไม้ เป็ นค้อนที่ทาจากไม้ที่มีความเหนียวมีน้ าหนัก มี ขนาดต่าง ๆ ตามลกั ษณะการใชง้ าน ในงานช่างไมจ้ ะใชข้ นาดเส้นผ่าศูนยก์ ลางประมาณ 3 นิ้ว โดยใช้ในงานตอกส่ิวเพ่ือเจาะรูเดือย บากเม้ือไม้ หรือแต่งเดือย และใช้ตอก เคาะประกอบ ชิ้นงาน รูปที่ 1.1.39 แสดงรูปคอ้ นไม้ รูปท่ี 1.1.40 แสดงการใชค้ อ้ นไมต้ อกล่ิมกบ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 รูปท่ี 1.1.41 แสดงการใชค้ อ้ นไมต้ อกส่ิว ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552
27 (1) วิธีกำรใช้ค้อนไม้ จบั ดว้ ยขอ้ มือท่ีตรงและกระชบั กบั ดา้ มคอ้ นค่อนไปทาง ปลายคอ้ น ประมาณ 3 ส่วน 4 ของความยาวด้ามคอ้ น ตอกหรือเคาะลงไปบนตาแหน่งท่ีตอ้ งการ โดยเริ่มจากเบา ๆ เป็นการเลง็ ตาแหน่งที่จะตอก และเพ่ิมน้าหนกั ในการตอกตามลกั ษณะงาน (2) ข้อควรระวงั และกำรบำรุงรักษำ 1) ใชค้ อ้ นใหถ้ ูกตอ้ งกบั ลกั ษณะของงาน 2) อยา่ ใชค้ อ้ นที่ดา้ มหลวม เพราะอาจหลดุ ไปถกู ผอู้ ื่นได้ 3) เช็ดทาความสะอาดทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน 4.2.2 ไขควง ไขควงเป็นเครื่องมือท่ีใชก้ นั ในเกือบจะทุก ๆงานช่าง ในงานไมเ้ ราจะใช้ สาหรับ ขนั หรือคลายตะปูเกลียว ท่ีประกอบหรือยึดชิ้นงาน หรือใชถ้ อดประกอบเคร่ืองมืองาน ไมเ้ ช่น เหล็กประกบั และใบกบ ในงานไมน้ ิยมใชข้ นาด 4 – 10 นิ้ว มีสองแบบคือไขควงปาก แบนและไขควงปลายแฉก ท่ีปลายของไขควงจะมีขนาดต่างกนั ใชต้ ามขนาดและลกั ษณะของหัว ตะปเู กลียว โดยใหข้ นาดของไขควงพอดีกบั ร่องท่ีหวั ตะปเู กลียว รูปท่ี 1.42 แสดงรูปไขควงแบนและไขควงแฉก ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 รูปท่ี 1.1.43 แสดงการใชไ้ ขควงแบนขนั ยดึ หรือ คลายเหลก็ ประกบั ใบกบ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552
28 4.2.2.1 วิธีกำรใช้ ไขควง ควรเลือกขนาดและชนิดของไขควงให้ เหมาะสมกบั ขนาดของหัวสกรู จบั ปลายไขควงให้กระชบั มือ วางปลายไขควงลงบน ร่องหัวสกรู ให้ขนานกบั แนวของสกรู กดน้าหนกั ลงไปให้พอเหมาะพร้อมกบั ขนั หรือ คลายสกรู (การขนั สกรูเขา้ ใหห้ มนุ ดา้ มไขควงตามแนวเขม็ นาฬิกา) 4.2.2.2 ข้อควรระวงั และกำรบำรุงรักษำ (1) ใชไ้ ขควงใหถ้ ูกตอ้ งกบั ลกั ษณะของงาน (2) เลือกใชไ้ ขควงใหม้ ีขนาดพอดีกบั ร่องตะปเู กลียว (3) ไม่ใชค้ อ้ นตอกหรือเคาะท่ีดา้ มไขควง (4) ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดและทาน้ามนั กนั สนิมในส่วน ท่ีเป็นโลหะทุกคร้ังหลงั ใชง้ าน 4.2.3 เหลก็ ส่งหวั ตะปู เป็นเคร่ืองมือท่ีมีส่วนช่วยในงานยดึ ตรึงไม้ มี ลกั ษณะเป็ นแท่งเหลก็ ยาวประมาณ 5 นิ้ว เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 5/16 นิ้ว ส่วนปลายเส้นผ่า ศูนยก์ ลาง ประมาณ 1/32 นิ้ว ใชส้ าหรับสาหรับส่งหวั ตะปูใหล้ งไปต่ากวา่ ระดบั ผวิ ของชิ้นงาน ที่ 1.1.44 แสดงรูปเหลก็ ส่งหวั ตะปู ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 รูปที่ 1.1.45 แสดงการใชง้ านเหลก็ ส่งหวั ตะปู ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552
29 4.3.2.1 วธิ ีกำรใช้เหลก็ ส่ง การส่งตะปใู หจ้ มลงไปในเน้ือไม้ จะตอ้ ง วางปลายเหลก็ ส่งอยตู่ รงกลางตะปู ใหไ้ ดด้ ิ่งหรือต้งั ฉากกบั ชิ้นงาน แลว้ ใชค้ อ้ นหงอนตอกโคน เหลก็ ส่งใหต้ ะปูจมลงไปในเน้ือไมต้ ามตอ้ งการ 4.3.2.2 ข้อควรระวงั และกำรบำรุงรักษำ (1) ใชเ้ หลก็ ส่งใหถ้ กู ตอ้ งกบั ลกั ษณะของงาน (2) ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดและทาน้ามนั กนั สนิมในส่วน ท่ีเป็นโลหะทุกคร้ังหลงั ใชง้ าน 4.2.4 คีมตัดหัวตะปู เป็นเคร่ืองมือท่ีมีส่วนช่วยในงานยดึ ตรึงไม้ อีกอยา่ งหน่ึง มีลกั ษณะคลา้ ยกบั คีมผูกเหล็ก ใช้ สาหรับตดั หัวตะปู ก่อนที่จะใชเ้ หลก็ ส่งตอกใหต้ ะปูจมลงไป ในชิ้นงาน หรือใชต้ ดั ลวดก็ไดเ้ น่ืองจากลวดมีขนาดเล็กหรือเท่ากบั ตะปู นอกจากน้ันยงั ใชถ้ อน ตะปใู นกรณีท่ีคอ้ นหงอนไม่สามารถถอนไดโ้ ดยใชแ้ รงบีบพอประมาณแลว้ ดึงหรืองดั ตะปูออก รูปที่ 1.1.46 แสดงรูปคีมตดั หวั ตะปู ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 รูปที่ 1.1.47 แสดงการใชง้ านคมี ตดั หวั ตะปู ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552
30 4.2.4.1 วิธีกำรใช้ คีมตัดหัวตะปู หัวตะปูที่จะตัดต้องโผล่ข้ึนมา ประมาณ 3 – 4 มิลลิเมตร จบั ดา้ มคีมบีบท่ีหวั ตะปูดงั รูปท่ี 1.1.47 ออกแรงบีบใหห้ วั ตะปูขาด 4.2.4.2 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ (1) ใชค้ ีมตดั หวั ตะปูใหถ้ กู ตอ้ งกบั ลกั ษณะของงาน (2) ไม่ใชค้ ีมตอกหรือเคาะโลหะ (3) ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดและทาน้ามนั กนั สนิมใน ส่วนท่ีเป็นโลหะทุกคร้ังหลงั ใชง้ าน 5. เครื่องมือเจำะ และบำกไม้ เป็นเคร่ืองมือที่มีความจาเป็ นอีกประเภทหน่ึง ในการปฏิบตั ิ งานไม้ โดยเฉพาะงาน ไมท้ ่ีมีการประกอบเป็นชิ้นงานหรือเคร่ืองเรือนต่าง ๆ เช่นการเจาะรูกลม รูเหลี่ยม นอก จาก น้นั ยงั ใช้ในการควา้ นปากรูเพ่ือฝังหัวตะปูเกลียว หรือสลกั เกลียวต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสวมงาม ดงั น้นั นกั เรียนจึงควรไดศ้ ึกษาถึงเครื่องมือที่ใชเ้ จาะ และบากไม้ ไดแ้ ก่ สวา่ น และสิ่ว 5.1 สว่ำน เป็นเคร่ืองมือเจาะรูกลม โดยใชด้ อกสวา่ นหมุนเจาะเขา้ ไปในเน้ือ ไม้ ใหไ้ ดข้ นาดตามตอ้ งการ ปัจจุบนั นิยมใชส้ วา่ นไฟฟ้าเนื่องจากมีราคาถูก มีท้งั แบบใชไ้ ฟฟ้า โดยตรงหรือเป็นแบบใชแ้ บตเตอร่ี รูปที่ 1.1.48 แสดงรูปสวา่ นไฟฟ้าอเนกประสงค์ ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552
31 รูปที่ 1.1.49 แสดงการใชง้ านสวา่ นไฟฟ้าเจาะไม้ ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 5.1.1 วธิ กี ำรใช้สว่ำน การเจาะรูโดยใชส้ วา่ นควรเลือกใชด้ อกสว่านใหเ้ หมาะสมกบั ขนาดของ รูที่ตอ้ งการส่วนใหญ่จะตอ้ งพอดีกบั ขนาดของเดือย หรืออาจจะเล็กกวา่ สกรูเล็กน้อยใน กรณีที่จะขันสกรู การเจาะรูจะตอ้ งขันดอกสว่านให้แน่น ใช้ตะปูตอกนาตรงกลาง ตาแหน่งที่ตอ้ งการเจาะ การเจาะดอกสว่านจะตอ้ งจบั สว่านให้แน่น ดอกสว่านต้งั ฉาก กบั ชิ้นงาน ดงั รูปที่ 1.1.49 5.1.2 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ (1) ในการถอดดอกสวา่ นควรถอดปลก๊ั หรือสะพานไฟทุกคร้ัง (2) เลือกดอกสวา่ นใหเ้ หมาะสมกบั งาน (3) ดอกสวา่ นจะตอ้ งต้งั ฉากกบั ชิ้นงานเสมอ (4) ขณะเจาะควรคลายใหเ้ ศษวสั ดุออกบา้ ง เพ่ือลดแรงกด ท้งั ป้องกนั มิใหด้ อกสวา่ นร้อนหรือหกั (5) ใชผ้ า้ แหง้ เช็ดทาความสะอาดและทาน้ามนั กนั สนิมในส่วนที่เป็น โลหะทุกคร้ังหลงั ใชง้ าน (6) ควรเก็บใส่กล่องใหเ้ รียบร้อย 5.2 ส่ิว เป็ นเครื่องมืองานไมท้ ่ีใช้สาหรับเจาะ หรือบาก ปาดเน้ือไม้ เซาะร่องไม้ โดยทาจากเหลก็ มีคมที่ปลาย โดยทว่ั ไปส่ิวแบ่งออกเป็นสองประเภทคอื สิ่วโคนแหลมซ่ึงโคนส่ิว จะฝังเขา้ ไปในเน้ือไม้ และสิ่วโคนกระบอกโคนส่ิวจะเป็นรูปทรงกรวยสาหรับสวมดา้ มสิ่ว นอก จากน้ีส่ิวท้งั สองประเภทยงั แบ่งออกตามลกั ษณะการใช้งานไดอ้ ีก คือ ส่ิวปากบางหรือสิ่วแต่ง และส่ิวเจาะหรือส่ิวใบหนาซ่ึงส่ิวท้งั สองประเภท มีหลายขนาด เรียกตามขนาดที่มีหน่วยเป็นนิ้ว
32 5.2.1 ส่ิวปากบาง หรือสิ่วแต่ง ใช้ขูด ปาดหรือเซาะผิวของไมใ้ ห้เรียบ โดย ทว่ั ไปจะใชม้ ือกดหรือดนั สิ่วไม่นิยมใช้คอ้ นตอก แต่ก็สามารถใช้ไดโ้ ดยเคาะ เบา ๆ มีขนาดต้งั แต่ 1/8 – 2 นิ้ว รูปท่ี 1.1.50 แสดงรูปส่ิวปากบาง ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 รูปท่ี 1.1.51 แสดงการใชง้ านสิ่วปากบาง ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 5.2.2 สิ่วเจาะ หรือส่ิวใบหนา ใชเ้ จาะรูเดือย หรือบากร่องไม้ ใบสิ่วมีความ หนาและแข็งแรงกว่าสิ่วปากบาง เพราะต้องใช้ค้อนเคาะหรือตอกเจาะเน้ือไม้ มีขนาดต้ังแต่ 1/8 – 1 นิ้ว รูปท่ี 1.1.52 แสดงรูปสิ่วเจาะ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 รูปที่ 1.1.53 แสดงการใชง้ านส่ิวเจาะ ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552
33 5.2.2.1 วิธกี ำรใช้สิ่ว (1) ส่ิวปากบางใชใ้ นการปาดแต่งเน้ือไม้ การใชง้ านจะตอ้ งจบั ดา้ มสิ่วใหก้ ระชบั มือ วางคมส่ิวดา้ นเรียบ ลงบนตาแหน่งท่ีตอ้ งการปาดแต่ง แลว้ กดส่ิวให้ขนาน กบั ชิ้นงานดนั ไปขา้ งหนา้ เพื่อปาดแต่งชิ้นงานใหไ้ ดร้ ะดบั หรือแนวท่ีตอ้ งการดงั รูปท่ี 1.1.51 (2) สิ่วเจาะ จะต้องใช้คู่กับค้อนไม้หรือคอ้ นพลาสติก การใช้ งานจะตอ้ งใชม้ ือขา้ งหน่ึงจบั ดา้ มส่ิวให้กระชบั มือ วางคมสิ่ว ลงบนชิ้นงานท่ีตอ้ งการเจาะ ทามุม ประมาณ 45 องศาใช้มืออีกขา้ งหน่ึงจบั คอ้ นไมค้ ่อยๆตอกให้ส่ิวกินเน้ือไมท้ ีละน้อยจนใกลก้ ับ ความลึกท่ีตอ้ งการแลว้ แตง่ ร่องหรือรูอีกคร้ังให้เรียบร้อย 5.2.2.2 ข้อควรระวังและกำรบำรุงรักษำ (1) ก่อนใชง้ านควรสารวจคมของส่ิวใหค้ มพร้อมใชง้ าน (2) คอ้ นท่ีใชต้ อกสิ่วควรเป็นคอ้ นไมห้ รือคอ้ นพลาสติกเท่าน้นั (3) ขณะปฏิบตั ิงานควรวางสิ่วในท่ีเหมาะสมอยา่ ใหต้ กลงพ้นื อาจทาใหค้ มส่ิวบ่ินไม่คมหรือหล่นใส่เทา้ (4) ไม่ควรใชค้ อ้ นตอกดา้ มสิ่วแรงเกินไป (5) ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดและทาน้ามนั กนั สนิมในส่วน ที่เป็น โลหะทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน
34 บทท่ี 2 กำรบำรุงรักษำเครื่องมืองำนไม้ หัวข้อเรื่อง 1. การเตรียมเคร่ืองมือ วสั ดุและอปุ กรณ์ในการบารุงรักษาเคร่ืองมือ 2. การบารุงรักษาเคร่ืองมือ 2.1 การปัด เชด็ ทาความสะอาดเคร่ืองมือ 2.2 การป้องกนั สนิม 2.3 การใส่น้ามนั หลอ่ ล่ืนชิ้นส่วนของเคร่ืองมือ สำระสำคญั เคร่ืองมืองานไมส้ ่วนใหญ่จะทาข้นึ จากโลหะหรือมีส่วนประกอบท่ีเป็นโลหะ และมี ดา้ มหรือมือจบั ที่เป็ นไมห้ รือพลาสติก การบารุงรักษาเครื่องมืออยา่ งถูกวิธี ถือว่าเป็ นส่ิงท่ีจาเป็ น อย่างยิ่งสาหรับผูท้ ี่เป็ นช่าง การบารุงรักษาเคร่ืองมืออย่างถูกวิธี จะทาให้เคร่ื องมือมีอายุการใช้ ยาวนานข้ึน ซ่ึงมีข้นั ตอนที่ไม่ยุ่งยาก ส่วนใหญ่จะเป็นการปัดเช็ดทาความสะอาด ชโลมน้ามนั เพ่ือ ป้องกนั สนิม และการหยอดน้ามนั หล่อล่ืน จดุ ประสงค์กำรเรียน จดุ ประสงค์ทั่วไป เพ่ือใหผ้ เู้ รียน มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั วิธี การบารุงรักษาเครื่องมืองานไม้ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. บอกวธิ ีการเตรียมวสั ดุ และอุปกรณ์ในการบารุงรักษาเคร่ืองมือไดถ้ ูกตอ้ ง 2. บอกช่ือ หนา้ ท่ี วสั ดุ และอปุ กรณ์ในการบารุงรักษาเครื่องมือไดถ้ กู ตอ้ ง 3. บอกวิธีการเชด็ ทาความสะอาดเครื่องมืองานไดถ้ ูกตอ้ ง 4. บอกข้นั ตอนการป้องกนั สนิมไดถ้ กู ตอ้ ง 5. บอกข้นั ตอนการหลอ่ ล่ืนชิ้นส่วนของเครื่องมือไดถ้ กู ตอ้ ง
35 6. บอกขอ้ ควรระวงั ในการบารุงรักษาเครื่องมือไดถ้ กู ตอ้ ง 7. บอกข้นั ตอนการส่งคืนเคร่ืองมือไดถ้ ูกตอ้ ง 8. ปัด เช็ดทาความสะอาดเคร่ืองมือไดถ้ กู ตอ้ ง 9. เช็ดชโลมน้ามนั กนั สนิมไดถ้ กู ตอ้ ง 10. หลอ่ ลื่นชิ้นส่วนของเคร่ืองมือไดถ้ กู ตอ้ ง 11. ส่งคนื เคร่ืองมือ วสั ดุ และอุปกรณ์ไดถ้ กู ตอ้ ง
36 กำรบำรุงรักษำเครื่องมืองำนไม้ 1. เตรียมเคร่ืองมือ วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ใน กำรบำรุงรักษำเคร่ืองมือ ใบเบกิ เคร่ืองมือ เขยี นใบเบิกเคร่ืองมือวสั ดุและอุปกรณ์ท่ีใช้ ในการบารุงรักษาเครื่องมือ นาไปเบิกที่ห้อง ชื่อ......................................ช้ัน....... แผนก..............................วันท.ี่ .......... เคร่ืองมือเรียงตามลาดบั ที่ รำยกำร จำนวน หน่วย หมำยเหตุ ข้อควรระวัง 1. ระบุรายละเอียดของเครื่องมือใหช้ ดั เจน 1 เลอ่ื นลันดำ 1 อัน 2. ตรวจส อบส ภาพความพร้อมของ 2 เล่ือยรอ 1 อนั เครื่องมือที่เบิกก่อนนาไปใชง้ าน 3 เลื่อยตัดปำกไม้ 1 อนั 4 คมี คัดคลองเลอ่ื ย 1 อัน หมำยเหตุ ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ลงชื่อ ลงช่ือ (...................................................)ผ้เู บกิ (.................................................)เจ้ำหน้ำที 1.1 กำนำ้ มนั กนั สนิมหรือนำ้ มันเคร่ือง หน้ำท่ี ใช้ใสน้ามนั เครื่องหรือน้ามนั กนั สนิมเพ่ือ รูปที่ 1.2.1 แสดงรูปกาน้ามนั เคร่ือง ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 หยอดลงบนเคร่ืองมือหรือผา้ เพื่อเช็ดชโลมบน ชิ้นส่วนของเครื่ องมือที่เป็ นโลหะ กำรบำรุงรักษำ ใชผ้ า้ เช็ดทาความสะอาดทุกคร้ังหลงั การ ใชง้ าน ข้อควรระวัง ตรวจสอบฝากาน้ามนั เคร่ืองให้แน่ใจวา่ ปิ ด สนิทก่อนใชง้ าน
37 1.2 แปรงทำสีขนำด 1 นิว้ หน้ำที่ ใชป้ ัดทาความสะอาดเคร่ืองมือ รูปที่ 1.2.2 แสดงรูปแปรงทาสี ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 กำรบำรุงรักษำ ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดทุกคร้ัง หลงั ใชง้ าน ข้อควรระวงั ไม่ควรกดขนแปรงหนักเกินไปจะทาให้ ขนแปรงบาน 1.3 แปรงทองเหลือง หน้ำที่ ใชป้ ัด ขดั ผิว ชิ้นส่วนเคร่ืองมือที่เป็นโลหะ รูปที่ 1.2.3 แสดงรูปแปรงทองเหลือง ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 เพ่ื อทาความสะอาดชิ้ นส่ วนของเคร่ื องมื อท่ี มี ลกั ษณะเป็ นฟันแหลมหรือมีครีบคม เช่น ฟัน เลื่อย ตะไบ และบุง้ กำรบำรุงรักษำ 1. เคาะด้านข้างแปรงเบา ๆ เพื่อให้เศษ โลหะหลดุ ออกจากขนแปรง 2. ใช้ผ้าสะอาดเช็ดทาความสะอาดด้าม แปรง ข้อควรระวงั ระวงั ขนแปรงโดนส่วนใดส่วนหน่ึงของ ร่างกายหรือเส้ือผา้
38 1.4 ผ้ำสะอำด 2 ผืน หน้ำท่ี ใชเ้ ช็ดทาความสะอาดเคร่ืองมือและใชเ้ ช็ด รูปท่ี 1.2.4 แสดงรูปผา้ สะอาดเชด็ เคร่ืองมือ ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 ชโลมน้ามนั กนั สนิม กำรบำรุงรักษำ ซกั ทาความสะอาดทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน ข้อควรระวงั ไม่ควรซกั ทาความสะอาดร่วมกนั ควรแยก ซักผา้ ที่ใชเ้ ช็ดทาความสะอาดเคร่ืองมือก่อนซัก ผา้ ที่ใชเ้ ช็ดชโลมน้ามนั 1.5. ฉำกตำย หน้ำที่ ใช้ขีดแนวไมใ้ ห้ไดฉ้ ากและวดั ความเรียบ รูปท่ี 1.2.5 แสดงรูปฉากตาย ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 ของผวิ ชิ้นงาน กำรบำรุงรักษำ เช็ดทาความสะอาดฝ่ ุนละออง คราบรอย เป้ื อน และชโลมน้ามนั กนั สนิมทุกคร้ังหลงั ใชง้ าน ข้อควรระวงั 1. ไมค่ วรใชต้ อกหรือเคาะ 2. ไม่ใชฉ้ ากที่ดา้ มหลวมหรือโยก
39 1.6 เล่ือยลนั ดำ หน้ำที่ ใชเ้ ล่ือยตดั และผา่ ไม้ รูปท่ี 1.2.6 แสดงรูปเลื่อยลนั ดา ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 กำรบำรุงรักษำ 1. หมนั่ คดั คลองเลื่อยและลบั ปรับแต่งฟัน 1.7 กบล้ำงกลำง เลื่อยใหค้ มอยเู่ สมอ รูปที่ 1.2.7 แสดงรูปกบลา้ ง 2. ทาความสะอาดและทาน้ามนั กันสนิม ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 ในส่วนท่ีเป็นโลหะทกุ คร้ังหลงั ใชง้ าน ข้อควรระวงั 1. ระวงั คมเลื่อยจะโดนส่วนหน่ึงส่วนใด ของร่างกาย 2. ขณะใช้งานไม่ควรใช้แรงกด หรือบิด ใบเล่ือย มากเกินไป จะทาให้ใบเล่ือยบิดงอเสีย รูปทรง หน้ำที่ ใชไ้ สตกแตง่ ผิวไมใ้ หเ้ รียบ กำรบำรุงรักษำ 1. ปัดเช็ดทาความสะอาดทุกคร้ัง หลงั ใชง้ าน 2. ในส่วนของใบกบและเหลก็ ประกบั ตอ้ ง ชโลมน้ามนั เพื่อป้องกนั สนิม ข้อควรระวัง 1. การวางกบควรวางตะแคงทางดา้ นขา้ ง เพ่ือป้องกันไม่ให้คมกบสัมผสั โลหะที่อาจจะ ทาใหค้ มกบบ่ิน ไม่คม 2. การจดั เก็บควรประกอบไวเ้ ป็ นชุดโดย ปรับคมกบยกข้ึนใหส้ ูงจากทอ้ งกบ
40 1.8 ค้อนไม้ หน้ำท่ี ใชต้ อกทา้ ยกบเพื่อถอดใบกบ และตอกยึด รูปที่ 1.2.8 แสดงรูปคอ้ นไม้ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 เพอื่ ปรับระยะใบกบและตอกดา้ มส่ิว 1.9 ไขควงแบน กำรบำรุงรักษำ ใช้ผา้ แห้งเช็ดทาความสะอาดทุกคร้ังหลงั รูปท่ี 1.2.9 แสดงรูปไขควงปากแบน ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 ใชง้ าน ข้อควรระวงั 1. ไม่เคาะหรือตอกเลน่ ในขณะปฏิบตั ิงาน 2. เลือกใชค้ อ้ นไมท้ ่ีมีขนาดและน้าหนักท่ี เหมาะสมกบั ผใู้ ช้ หน้ำที่ ใชถ้ อดและประกอบเหลก็ ประกบั กำรบำรุงรักษำ ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดและทา น้ามนั กนั สนิม ในส่วนท่ีเป็นโลหะทุกคร้ัง หลงั ใชง้ าน ข้อควรระวงั 1. ใชใ้ หถ้ ูกตอ้ งกบั ลกั ษณะของงาน 2. ไม่ใชค้ อ้ นตอกหรือเคาะที่ดา้ มไขควง
41 1.10 บุ้ง หน้ำที่ ใชถ้ ูหรือขดั เพ่ือปรับระดบั ผิวไม้ ใหไ้ ดแ้ นว รูปที่ 1.2.10 แสดงรูปคอ้ นไม้ ท่ีมา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 และรูปทรงตามตอ้ งการ 1.11 ปำกกำรูปตัวซี กำรบำรุงรักษำ รักษาบุ้งให้สะอาดอยู่เสมอ โดยใช้แปรง รูปที่ 1.2.11 แสดงรูปปากการูปตวั ซี ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 ทองเหลือง แปรงเศษโลหะที่ติดอยู่ในร่องฟัน ออกทกุ คร้ังหลงั จากเลิกใชง้ าน ข้อควรระวัง 1. หลีกเลี่ยงการใชบ้ ุง้ ท่ีปราศจากดา้ ม หรือ ดา้ มแตกชารุดและหลวมอาจเกิดอบุ ตั ิเหตุได้ 2. อย่าให้บุง้ เป้ื อนน้ามนั หรือจารบี จะทา ใหเ้ กิดการล่ืน และทาความสะอาดยาก 3. อย่าเก็บบุ้งไวร้ วมกัน ควรแยกเก็บให้ ห่างกนั เพราะฟันบงุ้ มีความคม หน้ำท่ี ใชส้ าหรับยดึ จบั ชิ้นงานหรือบีบอดั ชิ้นงาน กำรบำรุงรักษำ 1. เช็ดทาความสะอาดทุกคร้ังหลงั ใชง้ าน 2. ชโลมน้ามนั เพอ่ื ป้องกนั สนิม ข้อควรระวงั 1. ขณะใช้งานควรใช้ไม้รองหน้าอัดท้ัง สองดา้ นเพอื่ ป้องกนั ชิ้นงานเป็นรอย 2. หยอดน้ามนั หล่อล่ืนหรือจารบีที่เกลียว ของสกรูเสมอเพ่อื ใหห้ มุนไดค้ ล่องตวั
42 2. ถอดชิ้นส่วนกบล้ำงกลำง ใช้คอ้ นไม้เคาะที่ท้ายกบเพ่ือให้ชุดใบกบ คลายตวั ออกจากตวั กบ หรือใช้มือขวาจบั ท่ีใบ 2.1 ถอดใบกบ กบและใชม้ ือซ้ายจบั ตัวกบแลว้ ใช้ทา้ ยกบเคาะ ลงบนโต๊ะฝึกงานใหใ้ บกบหลดุ ออกมา รูปท่ี 1.2.12 แสดงการถอดชุดใบกบ ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 ข้อควรระวัง ใช้มือจบั ยึดใบกบและตวั กบให้แน่นเพื่อ 2.2 ถอดเหลก็ ประกบั ไม่ใหห้ ล่นลงพ้นื ในขณะเคาะท่ีทา้ ยกบ รูปที่ 1.2.13 แสดงการถอดเหลก็ ประกบั ออกจากใบกบ ใช้ไขควงแบนขนั สกรูถอดใบกบออกจาก เหล็กประกับพอหลวม แล้วขยบั เลื่อนถอดใบ ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 กบออกตรงช่องวงกลมดา้ นบนใบกบ ข้อควรระวัง ไม่ควรขันสกรู จนหลุดออกจากเหล็ก ประกบั
43 3. ปัดทำควำมสะอำดเคร่ืองมือ ใช้แป รงท าสี ปั ดท าค วาม ส ะอาด กบ ล้าง กลางโดย เฉพาะตามซอกเล็ก ๆ ท่ีไม่สามารถ 3.1 ใช้แปรงทำสีปัดทำควำมสะอำด เชด็ ได้ เครื่องมือ ข้อควรระวัง ไม่ควรกดขนแปรงหนักเกินไปจะทาให้ ขนแปรงบาน รูปที่ 1.2.14 แสดงการใชแ้ ปรงปัดทาความสะอาด ซอกเลก็ ๆ ของกบไสไม้ ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 3.2 ใช้แปรงทองเหลืองปัดทำควำมสะอำด เครื่องมือท่ีใชแ้ ปรงทองเหลืองปัดทาความ เครื่องมือ สะอาดได้แก่ ตะไบ บุ้ง และฟันเลื่อย วิธีทา ความสะอาดคือ ใช้แปรงปัดเศษไม้ ออกจาก ฟันเลื่อย ครีบฟันบงุ้ และตะไบใหส้ ะอาด ข้อควรระวงั ไม่ควรกดขนแปรงหนักเกินไปจะทาให้ ขนแปรงบาน รูปที่ 1.2.15 แสดงการใชแ้ ปรงทองเหลืองปัดทา ความสะอาดฟันบงุ้ ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552
44 4. ใช้ผ้ำแห้งเช็ดทำควำมสะอำด ใชผ้ า้ แห้งเช็ดทาความสะอาดเครื่องมือท้งั ท่ีเป็ นโลหะและไม่ใช้โลหะ รวมถึงเคร่ืองมือ รูปท่ี 1.2.16 แสดงการใชผ้ า้ เช็ดทาความสะอาด และวสั ดุอุปกรณ์ท่ีนามาใช้งาน เช่น ไขควง เครื่องมือ คอ้ นไม้ ยกเวน้ บุ้ง ตะไบ และ กาน้ามันกัน สนิม ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 ข้อควรระวงั ใน ส่ วน ข อ งเค ร่ื อ งมื อ ที่ มี ค ม ห รื อ มี ฟั น แหลมให้เช็ดจากโคนหรื อด้านท่ีไม่มีคม ออกไปหาดา้ นท่ีมีคมหรือมีความแหลม 5. ชโลมน้ำมันกนั สนมิ บีบน้ ามันจากกาน้ ามันกันสนิมลงบน ชิ้นส่วนของเคร่ืองมือท่ีเป็นโลหะเลก็ นอ้ ย 5.1 ใส่นำ้ มนั กนั สนิม ข้อควรระวัง รูปที่ 1.2.17 แสดงการบบี น้ามนั กนั สนิมลงบน 1. ใส่น้ามนั กนั สนิมใหเ้ หมาะสมกบั ขนาด เครื่องมือ ของชิ้นส่วนของเคร่ืองมือที่เป็ นโลหะ ไม่ควร ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกรู 2552 บีบน้ามนั กนั สนิมมากจนเกินไป 2. เคร่ื องมือชิ้นหลัง ๆ อาจไม่ต้องใส่ น้ามนั กนั สนิมเพราะผา้ ท่ีใชเ้ ช็ดชโลมน้ามนั มี น้ามนั ติดอยู่มากให้ใช้เช็ดชโลมน้ามันได้เลย เช่น ไขควงแบน ฉากตาย เป็นตน้
45 5.2 เช็ดชโลมนำ้ มัน ใช้ผา้ เช็ดชโลมน้ามนั ให้ท่วั ชิ้นส่วนของ เคร่ื องมือท่ีเป็ นโลหะ รูปท่ี 1.2.18 แสดงการบบี น้ามนั กนั สนิม ข้อควรระวงั ลงบนเครื่องมือ 1. เคร่ืองมือที่มีฟันแหลมหรือมีความคม ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 ควรเช็ดจากด้านโคนไปหาปลาย หรือเช็ดจาก ดา้ นโคนออกไปหารปลายท่ีมีคม 2. เครื่องมือชิ้นหลัง ๆ อาจไม่ต้องใส่ น้ามนั กนั สนิมเพราะผา้ ที่ใช้เช็ดชโลมน้ามนั มี น้ ามันติดอยู่มากให้ใช้เช็ดชโลมน้ ามันบน ชิ้นส่วนเคร่ืองมือที่เป็ นโลหะได้เลยเช่น ไข ควงแบน ฉากตาย เป็นตน้ 6. หล่อลื่นเกลยี วแม่แรงตวั ซี เค รื่ องมื อที่ จะต้องมี การบ ารุ งรั ก ษ าโด ย การใส่สารหล่อลื่น คือเคร่ืองมือที่มีเกลียว สาหรับหมุนเขา้ ออก หรือเครื่องมือบีบตดั ซ่ึง ในงานไม้จะเป็ นเคร่ืองมือประเภทยึดจบั ชิ้น งานหรือเครื่องมือ ไดแ้ ก่แม่แรงรูปตวั ซี แม่แรง หัวโต๊ะ แม่แรงบีบอัดไม้ และคีมตดั หัวตะปู การหล่อล่ืนมีข้นั ตอนดงั น้ี 1. หยอดน้ ามันหล่อล่ืนลงบนเกลียว เลก็ นอ้ ย รูปท่ี 1.2.19 แสดงการบบี น้ามนั หล่อลื่นลงบนเกลียว 2. ห มุน เกลียวเครื่ องมื อเข้าออกให้ แม่แรงตวั ซี น้ามนั เครื่องชโลมจนทวั่ เกลียว หากยงั ไม่ทว่ั ที่มา: สหสั ชยั ตลุ ยว์ ฒั นางกูร 2552 ให้ค่อย ๆ เติมน้ ามันหล่อล่ืนอีกแล้วหมุน เกลียวเขา้ ออกจนน้าหล่อลื่นชโลมจนทว่ั เกลียว ของเครื่องมือ 3. เช็ดคราบน้ามนั ท่ีไหลยอ้ ย
46 ข้อควรระวัง 1. ใส่น้ามันหล่อลื่นทีละน้อย แลว้ หมุน เกลียวเขา้ ออกแล้วค่อย ๆ เติมน้ามนั หล่อล่ืน เพอื่ ป้องกนั การไหลยอ้ ย 2. ควรวางเครื่ องมือให้เกลียวอยู่ใน แนวต้ังหรือแนวเอียง เพ่ือให้น้ามันหล่อลื่น ไหลไปตามเกลียว รูปท่ี 1.2.20 แสดงการเช็ดคราบน้ามนั หล่อล่ืนที่ไหล ยอ้ ยบนเกลียวแม่แรงตวั ซี ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 7. จดั เกบ็ เคร่ืองมือ วสั ดแุ ละอุปกรณ์ แจ้งเจ้าหน้าที่ห้องเคร่ื องมือให้ตรวจ สภาพเครื่องมือและอุปกรณ์ก่อนจดั เก็บเขา้ ท่ี รูปท่ี 1.2.21 แสดงการจดั เกบ็ เครื่องมือ ท่ีมา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกรู 2552 ข้อควรระวงั ก่ อ น จัด เก็ บ เค ร่ื อ งมื อ ให้ เจ้าห น้ าท่ี ตรวจสอบสภาพของเครื่องมือก่อนทุกคร้ัง
47 บทที่ 3 กำรซ่อมแซมเครื่องมืองำนไม้ หวั ข้อเร่ือง 1. การซ่อมแซมเครื่องมือตดั 1.1 เล่ือยลนั ดา 1.2 เลื่อยรอ 2. การซ่อมแซมเครื่องมือไสตกแต่งผิวไม้ 2.1 กบไสไม้ 2.2 ตะไบและบงุ้ 3. การซ่อมแซมสิ่วปากบาง 4. การซ่อมแซมปากกาหวั โตะ๊ สำระสำคญั การซ่อมแซมเคร่ืองมือ เป็นเร่ืองท่ีสาคญั อีกอยา่ งของช่าง เครื่องมืองานไมส้ ่วนใหญ่ จะทาข้ึนจากไม้ โลหะหรือมีส่วนประกอบที่เป็นโลหะ และมีดา้ มหรือมือจบั ที่เป็นไมห้ รือ พลาสติก เคร่ืองมือบางอย่างสามารถซ่อมแซมไดเ้ องเพราะมีข้นั ตอนท่ีไมย่ งุ่ ยากซบั ซอ้ น เช่น ดา้ มหลดุ สกรูหลวม ชิ้นส่วนสึกหรอ แต่เครื่องมือบางอยา่ งไมส่ ามารถซ่อมเองไดห้ รืออาจไม่ สามารถซ่อมไดเ้ ลยกม็ ี จดุ ประสงค์กำรเรียน จุดประสงค์ทัว่ ไป เพือ่ ใหผ้ เู้ รียน มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ข้นั ตอนและวธิ ีการซ่อมแซมเคร่ืองมือ งานไม้
48 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกวธิ ีการเตรียมวสั ดุ และอุปกรณ์ในการซ่อมแซมเครื่องมืองานไมไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 2. บอกช่ือ หนา้ ที่ วสั ดุ และอปุ กรณ์ในการซ่อมแซมเคร่ืองมือไดถ้ กู ตอ้ ง 3. บอกวธิ ีการซ่อมแซมเคร่ืองมือตดั ไมไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 4. บอกวิธีการซ่อมแซมเคร่ืองมือไสตกแต่งผิวไมไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง 5. บอกวธิ ีการซ่อมแซมเคร่ืองมือเจาะไมไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง 6. บอกวิธีการซ่อมแซมเครื่องมืออดั จบั ยดึ ตรึงไมไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง 7. บอกขอ้ ควรระวงั ในการซ่อมแซมเคร่ืองมืองานไมไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง 8. บารุงรักษาเคร่ืองมือไดถ้ กู ตอ้ ง 9. บอกข้นั ตอนการส่งคืนเครื่องมือไดถ้ ูกตอ้ ง 10. ซ่อมแซมเคร่ืองมือตดั ไมไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง 11. ซ่อมแซมเคร่ืองมือไสตกแตง่ ผวิ ไมไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 12. ซ่อมแซมเครื่องมือเจาะไมไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง 13. ซ่อมแซมเคร่ืองมืออดั จบั ยดึ ตรึงไมไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง 14. บารุงรักษาเครื่องมือไดถ้ กู ตอ้ ง 15. ส่งคนื เคร่ืองมือ วสั ดุ และอปุ กรณ์ไดถ้ กู ตอ้ ง
49 กำรซ่อมแซมเครื่องมืองำนไม้ 1. เตรียมเครื่องมือ วัสดุและอปุ กรณ์ใน เขียนใบเบิกเครื่องมือวสั ดุและอุปกรณ์ที่ กำรซ่อมแซมเครื่องมือ ตอ้ งใช้ในการซ่อมแซมเคร่ืองมือ แต่ละชนิด นาไปเบิกที่หอ้ งเคร่ืองมือเรียงตามลาดบั ใบเบกิ เคร่ืองมือ ข้อควรระวงั ชื่อ......................................ช้ัน....... แผนก..............................วันท่ี........... 1. ระบุรายละเอียดของวสั ดุและอุปกรณ์ ที่ รำยกำร จำนวน หน่วย หมำยเหตุ ใหช้ ดั เจน 2. ตรวจสอบสภาพความเสียหายของ 1 เลื่อนลนั ดำ 1 อัน 2 เลอ่ื ยรอ 1 อนั เครื่องมือที่เบิกก่อนนาไปใชง้ าน 3 เลือ่ ยตดั ปำกไม้ 1 อัน 4 คมี คัดคลองเลอื่ ย 1 อัน หมำยเหตุ ....................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ลงชื่อ ลงช่ือ (...................................................)ผ้เู บกิ (.................................................)เจ้ำหน้ำที 1.1 ไขควง หน้ำท่ี ใชข้ นั หรือคลายสกรู กำรบำรุงรักษำ ใชผ้ า้ แหง้ เชด็ ทาความสะอาดและเชด็ ชโลม น้ามันกันสนิม ในส่วนท่ีเป็ นโลหะทุกคร้ัง หลงั ใชง้ าน รูปที่ 1.3.1 แสดงรูปไขควงแบนและไขควงแฉก ข้อควรระวงั ที่มา: สหสั ชยั ตุลยว์ ฒั นางกูร 2552 1. ใชใ้ หถ้ ูกตอ้ งกบั ลกั ษณะของงาน 2. ไม่ใชไ้ ขควงตอกแทนสกดั เพราะอาจทา ใหด้ า้ มและปลายไขควงชารุด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330