Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารเสริมความรู้เรื่อ ปกิณกะสาระธรรม

เอกสารเสริมความรู้เรื่อ ปกิณกะสาระธรรม

Published by mooneungsiya, 2022-09-07 07:59:25

Description: เอกสารเสริมความรู้เรื่อ ปกิณกะสาระธรรม

Search

Read the Text Version

กลยทุ ธพ์ ุทธจรยิ า ปรศิ นาธรรมธรรม ทรงบาเพ็ญ บวั 4 เหลา่ บารมีทแ่ี น่วแน่ เอกสารเสริมความรู้ เรื่อง ปกณิ กะสาระธรรม หนว่ ยการเรียนรู้เร่ือง การตรัสรู้และการกอ่ ต้งั พระพุทธศาสนา รายวิชา พระพุทธศาสนา (ส32104) บรมครู ผสู้ ั่งสอนสรรพสตั ว์ นายธรี ยุทธ์ นิจสขุ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นศรียานสุ รณ์ จังหวัดจันทบรุ ี

คานา เอกสารเสริมความรู้เร่ือง ปกิณกะสาระธรรม หน่วยการเรียนรู้เรื่อง การตรัสรู้ และการกอ่ ตั้งพระพุทธศาสนา รายวชิ า พระพทุ ธศาสนา (ส32104) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสื่อการจัดการเรียนการสอนของครูและใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ ด้วยตนเองของนักเรียนท่ีสามารถนาไปใช้นอกเวลาได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาของการเรียน ในระบบ Online เนื้อหาสาระเป็นเร่ืองเกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนา การก่อต้ัง พระพุทธศาสนา วิธีการสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาตามแนวพุทธจริยา ซึ่งจะช่วยพัฒนาให้นักเรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ มคี วามเข้าใจในเนื้อหาทีเ่ รยี นได้ดยี งิ่ ขึน้ ขอขอบพระคุณนางสาวอารีย์ ผลพฤกษา ครูเช่ียวชาญสาขาภาษาไทย นายสมพงษ์ เปรมปิยศรี ผู้อานวยการโรงเรียนศรียานุสรณ์ และนายประสิทธิ สุนา ประธานกลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ทไี่ ดก้ รุณาใหก้ ารสง่ เสริม สนับสนุนก ารจัด ทารวมท้ังก ารน าไ ปทด ลอง ปฏิ บัติ เพื่อ ให้ เหม าะ สมกั บก ารน า ไ ป ใ ช้ ประโยชน์ในการจัดการเรยี นรู้ใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงค์ของหลักสูตร นายธีรยทุ ธ์ นิจสุข 25 พฤศจกิ ายน 2564

สารบัญ หนา้ 1 เรอ่ื ง 2 คาชแี้ จง 3 คาชีแ้ จงในการใช้เอกสารเสรมิ ความรู้ 3 ขอ้ แนะนาสาหรับครผู สู้ อน 4 คาช้ีแจงสาหรบั นกั เรยี น 9 แบบทดสอบก่อนเรยี น 13 ตอนที่ 1 ปรศิ นาธรรมบัว 4 เหล่า 14 ตอนท่ี 2 ทรงบาเพญ็ บารมที ีแ่ น่วแน่ 16 18 - ชาตทิ ่ี 1 พระเตมีย์ 20 - ชาติท่ี 2 พระมหาชนก 22 - ชาตทิ ่ี 3 พระสุวรรณสาม 24 - ชาติที่ 4 พระเนมิราช 26 - ชาตทิ ่ี 5 พระมโหสถ 28 - ชาติท่ี 6 พระภรู ิทตั 30 - ชาติท่ี 7 พระจนั ทกุมาร 32 - ชาติท่ี 8 พระพรหมนารท 34 - ชาติท่ี 9 พระวธิ รู บัณฑิต 36 - ชาตทิ ี่ 10 พระเวสสนั ดร 38 ตอนที่ 3 บรมครผู ูส้ ่ังสอนสรรพสตั ว์ 40 - วธิ กี ารสอนของสมเดจ็ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 วิธี 42 - ตัวอย่างการสอน พระปฏาจาราเถรี 46 - ตัวอย่างการสอนพระองคุลมิ าล 51 ตอนท่ี 4 การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาตามกลยุทธพ์ ทุ ธจริยา 52 แบบทดสอบหลงั เรียน เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรยี น บรรณานุกรม

เอกสารเสรมิ ความรูเ้ ร่ือง ปกิณกะสาระธรรม 1 คาช้ีแจง เอกสารเสริมความรู้เรื่อง ปกิณกะสาร ะธรรม หน่วยการเรียนรู้ เร่ือง การตรัสรู้และการก่อตั้งพระพุทธศาสนา รายวิชา พระพุทธศาสนา (ส32104) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการเรียนรู้และฝึกทักษะด้วยตนเอง เต็มศักยภาพตามแนวปฏิรูปการศึกษาไทยท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ เม่ือการสอน ประสบปัญหาเรื่อง การตรัสรู้และการก่อต้ังพระพุทธศาสนา จึงจาเป็นต้องแก้ปัญหา เพื่อพฒั นาผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนของผู้เรียนให้ดีย่งิ ขน้ึ ผู้สอนจึงทดลองใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบต่างๆ แต่ผู้เรียนยังมีผลสัมฤทธ์ิ ด้านการจัดการเรียนรู้ไม่ดีเท่าที่ควร ผู้สอนจึงจัดทาเอกสารเสริมความรู้เรื่อง ปกิณกะสาระธรรม อันจะนาไปสู่การเรียนรู้ท่ีน่าสนใจ ผลปรากฏว่าผู้เรียนมีความ สนใจใครร่ ู้มีความกระตอื รือรน้ ในการเรียนรู้ดีขนึ้ เปน็ ลาดบั เกดิ การเรียนรูใ้ นการศึกษา ความรู้เพิม่ เติม สนใจศึกษาความรูด้ ้วยตนเอง ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียน จนบรรลวุ ัตถปุ ระสงคท์ ่ีกาหนดไว้ ผู้จัดทาคาดหวังว่าเอกสารเสริมความรู้เล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา การเรียนรู้เรื่อง การตรัสรู้และการก่อตั้งพระพุทธศาสนาให้มีประสิทธิภาพและ ประสทิ ธผิ ลสงู สุด ลาดับข้ันตอนการใช้เอกสารเสริมความรู้ เรื่อง ปกิณกะสาระธรรม ห น่ ว ย ก า ร เ รี ย น รู้ เ รื่ อ ง ก า ร ต รั ส รู้ แ ล ะ ก า ร ก่ อ ตั้ ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า รายวิชา พระพทุ ธศาสนา (ส32104) ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ขนั้ ตอนท่ี 1 ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ขนั้ ตอนท่ี 2 ศกึ ษาความรู้ด้วยตนเอง ข้นั ตอนที่ 3 ทาแบบทดสอบหลงั เรียน

เอกสารเสริมความรเู้ รอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 2 คาชีแ้ จงการใชเ้ อกสารเสรมิ ความรเู้ รือ่ ง ปกิณกะสาระธรรม หน่วยการเรยี นรู้ เรอื่ ง การตรสั รแู้ ละการกอ่ ตง้ั พระพทุ ธศาสนา รายวิชา พระพุทธศาสนา (ส32104) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 เอกสารเสริมความรู้เร่ือง ปกิณกะสาระธรรม จัดทาขึ้นเพ่ือใช้ประกอบการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนศรียานุสรณ์ จงั หวัดจนั ทบรุ ี เนื้อหาสาระแบ่งเป็น 4 ตอน คือ ตอนท่ี 1 เรอ่ื ง ปริศนาธรรมบัวสี่เหลา่ ตอนที่ 2 เรอ่ื ง ทรงบาเพญ็ บารมีทีแ่ น่วแน่ ตอนท่ี 3 เร่อื ง บรมครผู สู้ ั่งสอนสรรพสัตว์ และตอนท่ี 4 เรอ่ื ง การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาตามกลยทุ ธพ์ ทุ ธจรยิ า

เอกสารเสรมิ ความรู้เร่อื ง ปกิณกะสาระธรรม 3 ขอแนขะอ้ นแานคะรนผู าสู้สอานหครับวรคปรผูฏสู้ิบอัตนิดังนี้ 1. ศกึ ษาทาความเขา้ ใจเอกสารเสรมิ ความรู้เลม่ นี้ให้เข้าใจก่อนนาไปใช้ 1. 2ศ. กึ ใษหา้คทาาแคนวะานมาเขช้าี้แใจงเอใหกน้สัการเรเสียรนิมรคู้จวกั าเอมกรสู้เลาม่ รนเสใี้ รหิมเ้ ขค้าวใาจมกรอ่ ูเ้ ลนม่ นนา้ีไปใช้ 2. 3ใ.หค้ใหาแน้ นักะเรนยี านชท้แี าจแงบใหบ้นทักดเสรียอนบรกจู้ อ่ ักนเเอรกียสนารเสรมิ ความร้เู ลม่ นี้ 3. 4ใ.หน้ใหักน้เรกั ียเนรยีทนาแศบกึ ษบาทเดรสยี อนบรดู้ก้ว่อยนตเรนยี เอนง ครูผู้สอนเปน็ ผู้แนะนาและให้คาปรกึ ษา 4. 5ใ.ห้นคกัรผูเรสู้ ยี อนนศใึกหษน้ าักเเรรียยี นนรสู้ดร้วุปยเตนนื้อเหอางควราูผมู้สรอู้ทนไี่ เดป้ร็นับผจแู้ านกะกนาารแศลึกะษใาหเพ้ ือ่ เรียนรู้และ คาปทรากึคษวาามเขา้ ใจ 5. 6ค. รผูให้สู น้อักนเใรหยี น้ นักทเรายีแนบสบรทุปดเสนอ้ือบหหาคลวงั เารมยี รนู้ที่ได้รับจากการศึกษาเรียนรทู้ าความเข้าใจ 6. 7ใ.หน้ปกัรเะรเยีมนินทผาลแนบักบเรทียดนสแอลบะหใหล้คังเารแียนนะนา 7. ประเมินผลนกั เรียนและใหค้ าแนะนา คาช้แี จงคสาาชหแ้ีรับจงนสกั าเหรยีรนับคนวักรเรปียฏนิบัติดังน้ี 1. ศึกษาทาความเขา้ ใจเอกสารเสริมความรู้เรื่อง ปกณิ กะสาระธรรม 1. 2ศ. ึกฟษงัาคทาแคนวาะมนเาขแ้าลใจะคเอากชส้ีแาจรงเจสารกมิ คครวผู าสู้มอรนู้เรอ่ืใหง้นคักรเูอร้อียสนอรนู้จกัศกษิ บัยเ์พอนิ กจิสสาารรเลม่ นี้ 3ต. อทนากแาบรบอทา่ นดสจบัอบใจกค่อวนาเมรสยี านคกัญ่อใหนศ้เขกึ ้าษใจากดอ่ว้ ยนคนวาาไมปตใชั้ง้ใจและซื่อสัตย์ 2. 4ฟ. ังคเรา่มิ แศนึกะษนาาเแอลกะสคาารชเสแ้ี รจมิ งคจวาากมครู้เผรสู้่ือองนปกใหิณน้ กกั ะเสรียารนะรธู้จรักรกมบั ดเ้วอยกคสวาารมเลต่มงั้ ในจี้ และ 3. ทาแซบือ่ สบตัทยด์ สอบกอ่ นเรยี น ก่อนศึกษาด้วยความตัง้ ใจและซอ่ื สัตย์ 4. 5เ.รมิ่ สศรกึ ปุ ษสาาเรอะกคสวาารมเสรู้ทรมิ ่ีไดคร้วับามจราู้เกรก่อื างรศคึกรษูอา้อแสลอะนทศาษิ คยว์พามินเิจขสา้ าใจรเเนลม่้ือนห้ีใาหส้เาขร้าะใจจากนนั้ 6ใ.หน้ทกัาเแรบยี บนททดาชสดุอฝบึกหอล่าังนเรจียับนใดจว้คยวคามวาสมาตค้ังัญใจดแ้วยลตะซนือ่เอสงตั ยด์ ว้ ยความตัง้ ใจและซือ่ สตั ย์ 5. สรปุ สาระความรทู้ ี่ได้รบั จากการศกึ ษาทาความเข้าใจเนอ้ื หาสาระ การอา่ นจับใจความสาคัญ 6. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี นด้วยความตั้งใจและซือ่ สตั ย์

เอกสารเสรมิ ความร้เู รอ่ื ง ปกิณกะสาระธรรม 4 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรือ่ ง การตรสั รแู้ ละการก่อตง้ั พระพทุ ธศาสนา คาชแี้ จง ให้นักเรียนเลือกคาตอบทถี่ กู ตอ้ งท่ีสดุ เพยี งขอ้ เดยี ว และทาเครื่องหมาย ทับตวั อักษร ก ข ค หรอื ง 1. การที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรับคาทูลอาราธนาให้เผยแผ่พระธรรม คาสอนแ ก่เหล่าสรรพสัต ว์จากท้าวสหัมบดี พรหมเกี่ยวข้ องกับ พระ คุณธรรม ในข้อใด ก. พระวิสุทธคิ ุณ ข. พระปัญญาธิคุณ ค. พระมหากรณุ าธคิ ณุ ง. พระคุณอันประเสริฐ 2. วปิ จิตัญญู คอื บวั ประเภทใด ก. บัวพ้นนา้ ข. บวั เสมอนา้ ค. บัวใตน้ า ง. บัวใตโ้ คลนตม 3. “นายดา เป็นผมู้ มี จิ ฉาทฏิ ฐิ มีความเห็นผดิ เปน็ ชอบแม้ใครตักเตือนกไ็ มเ่ คยฟัง” จากข้อความดงั กล่าว “นายดา” เปรียบได้กับบวั ประเภทใด ก. อคุ ฆฏิตญั ญู ข. วิปจติ ญั ญู ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ 4. ผทู้ ม่ี ีสตปิ ัญญานอ้ ยแต่มีสมั มาทิฏฐิจดั เป็นบัวประเภทใด ก. อคุ ฆฏิตัญญู ข. วปิ จติ ัญญู ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ

เอกสารเสริมความรู้เรอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 5 5. ในอดตี ชาติของพระพทุ ธเจ้าที่ทรงตง้ั พระทัยอย่างแนว่ แนว่ ่าจะตอ้ งตรัสรู้เป็น พระสัมมาสมั พทุ ธเจ้าในอนาคตเป็นพระคุณธรรมท่สี อดคล้องกบั ข้อใด ก. เป็นผใู้ ฝ่รู้ใฝเ่ รียนอย่างม่ันคง ข. เป็นผ้มู พี ระปณิธานมน่ั คง ค. เป็นผู้อุทศิ ตนอย่างม่ันคง ง. เปน็ ผูต้ รสั รูโ้ ดยชอบด้วยพระองคเ์ อง 6. พระเตมียช์ าดก เปน็ การบาเพ็ญบารมใี นเรื่องใด ก. เนกขัมบารมี ข. ปัญญาบารมี ค. อธิษฐานบารมี ง. วิรยิ บารมี 7. การบาเพ็ญบารมเี พ่อื การตรสั รูข้ องสมเดจ็ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชาดกเร่อื งใด ที่เกย่ี วข้องกบั การใชป้ ัญญา ก. พระมโหสถชาดก ข. พระสุวรรณสาม ค. พระพรหมนารท ง. พระเนมิราช 8. ความเมตตาของพระโพธิสัตว์เป็นการบาเพญ็ บารมีทป่ี รากฏในชาดกเรือ่ งใด ก. พระเนมิราช ข. พระมหาชนก ค. พระพรหมนารท ง. พระสุวรรณสาม

เอกสารเสรมิ ความรูเ้ รอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 6 9. คติสอนใจทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาเร่อื ง \"พระมหาชนกชาดก\" คือข้อใด ก. ผ้ใู ห้ย่อมผูกมิตรไวไ้ ด้ ข. เมตตาธรรมเป็นสิง่ ค้าจุนโลก ค. ไฟในอยา่ นาออก ไฟนอกอยา่ นาเขา้ ง. ความเพียรพยายามนามาซึง่ ความสาเรจ็ 10. คากลา่ วใดเหมาะสมกับเรือ่ งราวในพระมโหสถชาดกมากที่สุด ก. รู้รกั ษาตวั รอดเป็นยอดดี ข. มปี ญั ญาดัง่ มีทรพั ยอ์ ยู่นับแสน ค. หนทางพิสจู น์ม้า กาลเวลาพิสจู นค์ น ง. ความพยายามอย่ทู ี่ไหน ความสาเรจ็ อยูท่ ี่นัน่ 11. เหมอื นหงายของทค่ี ว่า เหมือนเปิดของทีป่ ิดไว้ เหมือนบอกทางแก่คนหลงทาง และเหมือนจุดประทีปในทม่ี ืด เปน็ การเปรียบเทยี บความหมายในเร่ืองใด ก. การตรัสรขู้ องพระพทุ ธเจา้ ทน่ี าแสงสวา่ งทางปัญญาสู่ชาวโลก ข. การแสดงพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า ค. การปฏิบตั ิตามหลักธรรมท่ีนาความรุ่งเรอื งมาส่ชู ีวิต ง. การก่อตัง้ พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า 12. การเกดิ หรือการกอ่ ตั้งพระพุทธศาสนามีความสัมพนั ธต์ รงกับวันสาคญั ในข้อใด ก. มาฆบูชา ข. วิสาขบชู า ค. อาสาฬหบชู า ง. อัฏฐมีบชู า

เอกสารเสรมิ ความรเู้ รื่อง ปกิณกะสาระธรรม 7 13. หลังจากตรสั รู้สมเดจ็ พระสัมมาสัมพทุ ธเจา้ ทรงแสดงธรรมโปรดใคร เปน็ ลาดบั แรก ก. ปัญจวัคคีย์ ข. ยสกุลบตุ ร ค. องคุลมิ าล ง. นางปฏาจารา 14. ข้อใดกล่าวถึงพุทธลีลาในการสอน 4 ได้ถูกต้อง ก. แจม่ แจง้ จงู ใจ เร่งให้ทา ปลุกให้รา่ เริง ข. จงู ใจ แจม่ แจ้ง เร้าใหก้ ลา้ ท้าให้ทา ค. แจ่มแจง้ จงู ใจ เร้าให้กล้า ท้าให้ทา ง. แจม่ แจง้ จงู ใจ เรา้ ใหก้ ลา้ ปลกุ ใหร้ ่าเริง 15. ธรรมทสี่ มเดจ็ พระสมั มาสัมพทุ ธเจ้าทรงแสดงคร้ังแรกมีชอ่ื ว่าอะไร ก. พรหมวิหาร 4 ข. อทิ ธิบาท 4 ค. กุศลกรรม ง. ธัมมจกั กปั วตั นสูตร 16. ผู้ท่ีได้รับฟังพระธรรมคาสอน จนกลับตัวและได้รับการสรรเสริญว่าเป็นภิกษุ ท่ีต้นคดปลายตรง เบื้องต้นพลาดพลั้งต่อมากลับตัวกลับใจเป็นพระสาวกที่ดี เปน็ แบบอย่างแก่อนชุ นรุน่ หลงั และมคี ณุ ธรรมที่ควรถอื เปน็ แบบอยา่ งคือขอ้ ใด ก. ปัญจวัคคีย์ ข. ยสกลุ บตุ ร ค. องคุลมิ าล ง. นางปฏาจารา

เอกสารเสรมิ ความรเู้ รอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 8 17. การบาเพญ็ ประโยชนข์ องสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามคี วามหมายตรงกับข้อใด มากทส่ี ดุ ก. พุทธกิจ ข. พุทธจรยิ า ค. พุทธประวัติ ง. พุทธสุภาษิต 18. การบาเพ็ญประโยชน์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในขอ้ ใดตรงกับ พุทธัตถจริยามากท่ีสุด ก. การวางระเบียบและพระวนิ ัยในหมู่สงฆ์ ข. การแสดงธรรมโปรดประชาชน ค. การแนะนาใหพ้ ระญาตทิ ่จี ะทาสงครามกันเกิดความปรองดอง ง. การเสด็จออกบิณฑบาตเพื่อโปรดสัตวโ์ ลก 19. การบาเพญ็ ประโยชนข์ องพระพุทธเจา้ ในขอ้ ใด เปน็ โลกัตถจรยิ า ก. การวางระเบยี บและพระวินยั ในหมสู่ งฆ์ ข. การแสดงธรรมโปรดประชาชน ค. การแนะนาให้พระญาติทจ่ี ะทาสงครามกนั เกิดความปรองดอง ง. การเสดจ็ ไปโปรดพทุ ธบดิ าและแสดงพทุ ธปาฏิหาริยแ์ กพ่ ระประยรู ญาติ ณ กรงุ กบลิ พสั ด์ุ 20. พระอคั รสาวกเบอ้ื งขวาและเบอ้ื งซ้ายท่ีเป็นกาลังสาคญั ในการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา คือขอ้ ใด ก. พระมหากสั สปะและพระมหาโมคคลั ลานะ ข. พระสารบี ตุ รและพระมหาโมคคลั ลานะ ค. พระอานนท์และพระองคลุ มิ าล ง. พระสารีบุตรและพระโกณฑัญญะ

เอกสารเสริมความรู้เรอ่ื ง ปกิณกะสาระธรรม 9 เอกสารเสริมความรู้เร่อื ง ปกณิ กะสาระธรรม หน่วยการเรยี นรู้เร่ือง การตรสั รูแ้ ละการกอ่ ตงั้ พระพุทธศาสนา รายวชิ าพระพทุ ธศาสนา ส32104 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตอนท่ี ปริศนาธรรมบวั 4 เหล่า 1 ทีม่ า: https://m.facebook.com/khatithrrm/posts/3876503082402861. สืบคน้ 25 พฤศจกิ ายน 2564 หลังจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วทรงดาริว่าธรรมที่พระองค์ตรัสรู้ เป็นเรื่องยากแก่การเข้าใจ เป็นเหตุให้พระองค์ทรงราพึงถึงธรรมเนียมของพระพุทธเจ้า ทั้งหลายแต่ปางก่อนว่า เม่ือได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณย่อมแสดงธรรมโปรด แกเ่ หล่าสรรพสตั ว์ทั้งปวงและทรงพจิ ารณาต่อไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณว่าจะมีผใู้ ดเข้าถึง พระธรรมคุณท่ีตรัสรู้ได้บ้างหรือไม่ ทรงเห็นว่าบุคคลในโลกน้ีมีหลายจาพวก บางจาพวก สอนไดบ้ างจาพวกสอนไมไ่ ด้ พระพุทธองคไ์ ด้ทรงตรึกตรอง ทรงคานึงว่าธรรมทพี่ ระองค์

เอกสารเสรมิ ความรเู้ รอ่ื ง ปกิณกะสาระธรรม 10 ตรัสรู้นั้นลึกซึ้งมากยากท่ีสัตว์อ่ืนจะรู้ตามจึงไม่ได้รับคาทูลอาราธนาให้เผยแผ่พระธรรม ค า ส อ น แ ก่ เ ห ล่ า ส ร ร พ สั ต ว์ จ า ก ท้ า ว ส หั ม บ ดี พ ร ห ม เ ล ย ที เ ดี ย ว แ ต่ ไ ด้ ท ร ง พิ จ า ร ณ า โดยพระญาณก่อนว่าเวไนยสัตว์นั้นจาแนกเหล่าที่จะรองรับพระสัทธรรมได้เพียงใด จานวนเท่าใด ทรงจาแนกด้วยพระญาณว่าเหล่าเวไนยสัตว์และบุคคลที่จะรับรู้ พระสัทธรรมได้และไม่ได้ มี 4 จาพวกเปรียบดังดอกบัว 4 เหล่า อันหมายถึง ปัญญา วาสนา บารมี และอปุ นิสยั ทีส่ ร้างสมมาแตอ่ ดตี ของบุคคล ทมี่ า: https://th.wikipedia.org/wiki/บัวสี่เหลา่ . สืบคน้ 25 พฤศจกิ ายน 2564 บวั 4 เหล่าประกอบดว้ ย บัวประเภทที่ 1 เรียกว่า อุคคฏิตัญญู หมายถึง ดอกบัวท่ีพ้นน้าแล้วรอแสงจาก พระอาทิตยจ์ ะบานในวนั นี้ บัวประเภทท่ี 2 เรียกว่า วิปจิตัญญู หมายถึง ดอกบัวท่ีปร่ิมน้าจะบานวันพรุ่งน้ี บัวประเภทท่ี 3 เรียกว่า เนยยะ หมายถึง ดอกบัวท่ีอยู่ใต้น้า อีก 3 วันจึงจะบาน บัวประเภทที่ 4 เรียกว่า ปทปรมะ หมายถึง ดอกบัวที่พึ่งงอกใหม่จากเหง้า ในนา้ ยงั ไมพ่ ้นภยั จากเตา่ และปลา

เอกสารเสริมความรูเ้ รอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 11 ท่มี า: https://pantip.com/topic/31193072. สืบคน้ 25 พฤศจกิ ายน 2564 บัวแต่ละประเภทเปรยี บได้กบั บคุ คลแตล่ ะประเภทดงั นี้ บัวประเภทท่ี 1 เปรียบดังผู้ท่ีมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมีสัมมาทิฏฐิเม่ือได้ฟังธรรม ก็สามารถรู้และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็วเปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้ นน้ า เม่อื ต้องแสงอาทติ ย์กเ็ บง่ บานทันที บัวประเภทที่ 2 เปรียบดังผู้มีสติปัญญาปานกลางมีสัมมาทิฏฐิเม่ือได้ฟังธรรมแล้ว พิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพ่ิมเติมจะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรยี บเสมอื นดอกบวั ท่อี ยปู่ รมิ่ น้าซ่งึ จะบานในวันถดั ไป บัวประเภทที่ 3 เปรียบดังผู้ท่ีมีสติปัญญาน้อยแต่มีสัมมาทิฏฐิเม่ือได้ฟังธรรมแล้ว พิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพ่ิมเติมจะสามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่ง ขา้ งหนา้ เสมือนบัวที่อยู่ใตน้ ้าซ่ึงจะค่อยๆ โผลข่ ึน้ มาเบง่ บานในวันหนึ่ง และบัวประเภทท่ี 4 เปรียบดังผู้ท่ีไร้สติปัญญาและมีมิจฉาทิฏฐิแม้ได้ฟังธรรม ก็ ไ ม่ อ า จ เ ข้ า ใ จ ค ว า ม ห ม า ย ห รื อ รู้ ต า ม ไ ด้ ทั้ ง ยั ง ข า ด ศ รั ท ธ า ป ส า ท ะ ไ ม่ มี ค ว า ม เ พี ย ร เสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม รอวันเป็นอาหารของเต่าและปลาไม่มีโอกาสโผล่ ขึ้นพ้นนา้ เพ่ือเบง่ บาน

เอกสารเสรมิ ความรู้เรอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 12 ดอกบัวมีหลากหลายชนิดมนุษย์ก็มีหลากหลายจาพวกเช่นเดียวกัน บุคคลใด จะรับรู้ธรรมได้มากน้อยเพียงใดข้ึนอยู่กับกิเลสของตนเองเพราะมีกิเลสมากน้อยต่างกัน บุคคลท่ีเปรียบได้กับดอกบัวเหล่าต่างๆ แตกต่างกันจะสามารถบรรลุมรรคผลนิพพาน ได้เร็วช้าแตกต่างกันด้วยปัญญา วาสนา บารมี และอุปนิสัยท่ีไม่เหมือนกันส่วนบุคคล ที่เปรียบได้กับบัวเหล่าท่ี 4 ไม่สามารถบรรลุธรรมใดๆ ได้ในชาตินี้เพราะขาดปัญญาแต่จะ เป็นอุปนิสัย วาสนา บารมีต่อไปในภายหนา้ พระพุทธเจ้าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณสูงย่ิงแม้เป็นบุคคลท่ีเปรียบกับดอกบัว เหล่าที่ 4 ก็ทรงเล็งเห็นว่าโลกนี้พอมีผู้ท่ีรู้ตามธรรมได้บ้างจึงทรงส่ังสอนธรรมให้บุคคล ที่พงึ ปรารถนาร้ธู รรมโดยมิได้เลอื กชนชั้นวรรณะใดๆ สิ่งน้ีจึงเป็นเหตุผลสาคัญประการหนึ่งที่ทาให้พระพุทธศาสนาขยายวงกว้างออกไป แพร่หลายทาให้มีผู้เคารพเล่ือมใสศรัทธาในพระรัตนตรัยน้อมรับหลักธรรมคาสอน ในพระพุทธศาสนาไปประพฤติปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่ตนและสังคมเป็นสาคัญ การเผยแผ่พระธรรมคาสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในระยะเริ่มต้น เริ่มจากการสอนสาวกที่รู้ธรรมวินัยอย่างแจ่มแจ้งดีแล้ว บรรดาสาวกเหล่านั้นจะจาริกไป ทุกทิศทุกทางเพื่อประกาศคาสอนให้แพร่หลายไปในวงกว้างโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ เชน่ แควน้ มคธ เปน็ ตน้

เอกสารเสริมความรู้เรือ่ ง ปกิณกะสาระธรรม 13 ตอนที่ ทรงบาเพ็ญบารมีทแ่ี น่วแน่ 2 ทม่ี า: https://www.baanjomyut.com/library/biography_of_the_buddha.html. สบื คน้ 25 พฤศจกิ ายน 2564 ทศชาติชาดกหรือพระเจ้าสิบชาติเป็นชาดกสาคัญจานวน 10 เรื่อง แสดงถึงการ บาเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ก่อนที่จะถือกาเนิดเป็นเจ้าชายสิทธัตถะแล้วตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ทรงบาเพ็ญบารมีในชาติต่างๆ จนเต็มบริบูรณ์ ท้ัง 10 ประการเรียกว่าทศบารมีเป็นคุณธรรมท่ีประพฤติปฏิบัติอย่างย่ิงยวดเป็นความดี ท่ีบาเพ็ญอย่างพิเศษเพ่ือให้บรรลุถึงจุดหมายอันสูงสุดบารมีหมายถึงคุณธรรมท่ีทาให้ถึงฝั่ง คือนิพพาน ทศบารมีเป็นธรรมท่ีกระทาบุคคลให้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนที่จะตรัสรู้ พระสัพพญั ญุตญาณ

เอกสารเสรมิ ความรูเ้ รอ่ื ง ปกิณกะสาระธรรม 14 ทศชาตชิ าดก 10 เร่ืองดังน้ี ท่มี า: https://www.phutthathum.com/พระพุทธเจา้ /ปฐมบทเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า/ พระเจ้าสิบชาติ-พระเตมยี ใ์ บ.้ สบื ค้น 25 พฤศจิกายน 2564 ชาติท่ี 1 พระเตมยี ์ พระเตมีย์บาเพ็ญเนกขัมบารมีคือ ออกจากบ้านเรือนออกจากกาม มุ่งออกจาก พันธนาการ พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็น พระเตมีย์ราชกุมารเกรงการ ได้ ครองราชย์สมบัติเพราะทรงสลดพระทัยท่ีเห็นการสั่งลงโทษของพระบิดาผู้เป็นกษัตริย์ กบั ผทู้ าผิดรุนแรงโดยการทาร้าย จาคกุ ประหารชวี ติ อยู่เสมอก่อเกดิ ทกุ ขเวทนาจึงแสร้งทา เป็นใบ้ ง่อยเปลย้ี หหู นวกแม้จะถกู ทดลองตา่ งๆ วา่ พระเตมยี เ์ ป็นจริงหรอื ไม่พระองค์ก็ทรง อดกลั้นไม่แสดงอาการพิรุธให้ปรากฏเพ่ือเลี่ยงการข้ึนเป็นกษัตริย์ ต่อมาพราหมณ์แนะนา ให้นาพระเตมีย์ไปฝังท้ังเป็น พระราชมารดาคัดค้านแต่ไม่สาเร็จสารถีจึงนาราชกุมาร ขึ้นราชรถไปฝังขณะที่ขุดหลุมราชกุมารเสด็จลงจากพระราชรถพร้อมตรัสกับสารถีว่า พระองค์ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใดแต่ต้องการออกบวช สารถีเกิดความเลื่อมใสจึงขอ ออกบวชดว้ ยตรสั ส่งั ใหส้ ารถีนาความกลบั ไปเล่าถวายพระมารดากอ่ นเมอื่ ทราบความจรงิ

เอกสารเสริมความรูเ้ รอ่ื ง ปกิณกะสาระธรรม 15 ท้ังพระบิดาและพระมารดาเสด็จออกไปรั บกลับมาครองเมืองแต่พระเตมีย์ กลับตรัสถวายหลักธรรมให้ยินดีในเนกขัมมะ พระบิดาและพระมารดาท้ังอามาตย์ ข้าราชบรพิ ารท่ตี ดิ ตามต่างเล่อื มใสจงึ ออกบวชตามดว้ ย ชาดกเร่ืองพระเตมีย์ พระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพระเตมีย์ทรงยินดีในการ บรรพชาอย่างยิ่งทรงเห็นพระบิดาในฐานะกษัตริย์ทาหน้าท่ีพิพากษาลงโทษผู้ กระทาผิด ด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ ทาให้พระองค์ไม่พึงปรารถนาการข้ึนเป็นกษัตริย์เกิดความสลด หดหู่ใจจึงแสร้งทาตนเปน็ คนพกิ าร แม้พระเตมีย์จะถูกทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ จากพระบิดาที่ต้องการหาคาตอบว่า พระเตมยี ์เปน็ คนพิการจริงหรือไม่ พระองคไ์ ด้รบั ทุกขเวทนาตามที่ถกู ทดสอบแตท่ รงอดทน ถือขันติ ท้ายสุดเม่ือโหรทานายว่าพระเตมีย์เป็นกาลกิณีแก่ราชวงศ์พระบิดาจึงส่ังให้ นาพระองค์ไปฝังท้ังเป็น พระองค์ไม่ได้หว่ันไหวทรงมีพระปณิธานแน่วแน่ในการออก บรรพชาเป็นทีส่ ดุ สิ่งหน่ึงที่นับเป็นความยิ่งใหญ่ของพระเตมีย์ทรงตั้งอยู่ในความเป็นมหาบุรุษ โดยแท้นนั้ คือ ตง้ั ใจม่ัน มคี วามอตุ สาหะแรงกลา้ มีปัญญาแกก่ ลา้ ทาให้เกดิ ประโยชน์แก่ตน และผอู้ ่นื ไมโ่ ลภ ไม่โกรธ ไมห่ ลงทรงทาประโยชน์ในทางพระพุทธศาสนาบาเพญ็ ประโยชน์ ในทางธรรมเพื่อตรสั รใู้ นภายภาคหนา้

เอกสารเสรมิ ความรูเ้ รือ่ ง ปกิณกะสาระธรรม 16 ทมี่ า: https://www.phutthathum.com/พระพทุ ธเจา้ /ปฐมบทเก่ียวกบั พระพทุ ธเจ้า/ พระเจ้าสบิ ชาติ-พระมหาชนก. สืบค้น 25 พฤศจกิ ายน 2564 ชาติที่ 2 พระมหาชนก พระมหาชนกทรงบาเพ็ญวิริยะบารมีมีความเพียรไม่ย่อหย่อนทุกอิริยาบถ เหมือนอยา่ งสหี ราชมีความเพียรมั่นคงในอริ ยิ าบถทง้ั ปวง คร้ังท่ีพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระมหาชนกแห่งนครนิถิลาเม่ือเติบใหญ่ ทราบเร่ืองราวของพระบิดาถูกพระอนุชาคือพระเจ้าโปลชนกชิงเมืองต่อสู้จนส้ินพระชนม์ จึงขอทุนทรัพย์จากพระมารดานาไปค้าขายทางเรือสาเภาเพ่ือหาทุนไปชิงเมืองคืนมา ระหว่างเดินทางรอนแรมในมหาสมุทรเรือสาเภาอับปางลงผู้คนท่ีโดยสารมา บ้างก็ จมน้าตายบ้างก็เป็นเหย่ือของสัตว์ทะเลแต่พระมหาชนกอดทนว่ายน้าอยู่ในทะเลนานถึง 7 วัน นางมณีเมขลาผู้รักษามหาสมุทรเกิดความเลื่อมใสจึงช่วยพาส่งข้ึนฝ่ังในอุทยาน ของเมืองพระเจ้าโปลชนกผู้เป็นพระอนุชาของพระบิดาซึ่งส้ินพระชนม์ไปแล้ว ขณะน้ัน พระธดิ ากาลงั ทรงหาคูค่ รองด้วยการเสยี่ งราชรถ พระมหาชนกไขปริศนาธรรมได้จงึ ได้ข้ึน

เอกสารเสรมิ ความรเู้ ร่ือง ปกิณกะสาระธรรม 17 ครองราชย์สมบัติ ครั้งหน่ึงเมื่อเสด็จประพาสอุทยานเห็นมะม่วงต้นหน่ึงผลดกอีกต้น ไม่มีผลเลย อีกวันหน่ึงเสด็จกลับมาอีกคร้ังก็ทรงพบว่าต้นมะม่วงท่ีมีผลถูกดึงหักโค่นลงมา หมดแล้วเหลือต้นท่ีไม่มีผลยังอยู่ดีพระองค์ทรงเปรียบเทียบการครองราชย์ของพระองค์ กับตน้ มะมว่ งท่ีมีผล ทรงเหน็ โทษของการครองราชย์สมบัติเหมือนกับตน้ มะม่วงท่มี ีผลย่อม มีภัย ถ้าไม่มีผลก็ย่อมไม่มีภัยการสละราชสมบัติเพื่อออกผนวชจะเหมือนมะม่วงท่ีไม่มีผล ซ่ึงจะไม่นาภัยมาให้จงึ ตดั สนิ พระทยั ออกบวช ชาดกเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการบาเพ็ญเพียรวิริยะบารมีการที่พระมหาชนก ประสบภัยเรือแตกผู้คนจมน้าตายบางคนตายเพราะเป็นเหยื่อของสัตว์ทะเลแตพ่ ระองคไ์ ม่ ละความพยายามทรงม่งุ ม่นั ว่ายน้าโดยกาหนดทศิ ทางไปกรงุ มถิ ิลาในท่ีสุดก็รอดชวี ติ กลับถึง เมืองมิถลิ าอย่างปลอดภัยข้อคิดท่ีผอู้ ่านไดร้ บั ในข้อที่ชัดเจนทสี่ ุดคือเม่ือเกดิ มาเปน็ คนควรมี ความพากเพียรให้ถึงท่ีสุดพากเพียรจนสุดกาลังจนกว่าชีวิตจะหาไม่ไมว่ ่าปัญหาอุปสรรคใด กไ็ ม่อาจขวางก้ันความสาเรจ็ ได้

เอกสารเสริมความรเู้ ร่อื ง ปกิณกะสาระธรรม 18 ที่มา: https://www.phutthathum.com/พระพุทธเจ้า/ปฐมบทเกี่ยวกบั พระพทุ ธเจ้า/ พระเจา้ สบิ ชาติ-พระสวุ รรณสาม. สืบค้น 25 พฤศจกิ ายน 2564 ชาติท่ี 3 พระสวุ รรณสาม พระสุวรรณสามทรงบาเพ็ญเมตตาบารมีแผ่มิตรภาพไมตรีจิตไม่คิดโกรธอาฆาต มีจิตสม่าเสมอเป็นอันเดียวทั้งผู้ให้คุณ ไม่ให้คุณหรือให้โทษเหมือนน้าแผ่ความเย็นไปได้ อย่างเดยี วกนั แกค่ นทั้งดีและชั่ว สุวรรณสามชาดกพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพราหมณ์ช่ือสุวรรณสามเป็นบุตร ของพราหมณ์ทุกุลและนางปาริกาเคยก่อกรรมมาแต่ชาติปางก่อนเนื่องจากพราหมณ์ทุกุล เป็นแพทย์รักษาตาให้เศรษฐีแต่ไม่ได้ค่ารักษา ภรรยาจึงโกรธใช้ยาป้ายตาเศรษฐีจนบอด เกิดมาในชาติน้ีสองสามีภรรยาต้องรับกรรมที่ตามสนองทาให้ตาบอดเนื่องจากถูกงูเห่า พ่นพิษใส่ สุวรรณสามได้ดูแลปรนนิบัติบิดามารดาอย่างดีเลิศ วันหนึ่งถูกพระเจ้ากบิลยักษ์ กษัตริย์ผู้ครองกรุงพาราณสียิงด้วยศรอาบยาพิษเพราะเข้าใจผิด สุวรรณสามตาบอดได้รับ ทุกขเวทนาสาหัสแต่ก็มีเมตตาจิตต่อพระเจ้ากบิลยักษ์ ทูลฝากให้ช่วยดูแลบิดามารดาตน ก่อนจะสิ้นสติไป พระเจ้ากบิลยักษ์เสียพระทัยมากเมื่อไปแจ้งข่าวบิดามารดาของสุวรรณ สามแล้วกพ็ ามาพบกับสวุ รรณสาม

เอกสารเสรมิ ความรเู้ รอ่ื ง ปกิณกะสาระธรรม 19 ด้วยอานาจสัตยาธิษฐานของบิดามารดา สุวรรณสามรู้สึกตวั บิดามารดาก็หายจาก ตาบอดได้เล่าให้พระเจ้ากบิลยักษ์ฟังว่าท้ังหมดนี้เกิดจากอานิสงส์ในการเล้ียงดูบิดามารดา และแสดงธรรมถวายทาให้พระเจ้ากบิลยักษ์เลิกทาบาปบาเพ็ญกุศล ครองเมือง โดยธรรม สวุ รรณสามบาเพ็ญพรตร่วมกบั บดิ ามารดาจวบสนิ้ อายุขัย หลักธรรมสาคัญท่ีปรากฏอยู่ในชาดกเรื่องนี้ท่ีเห็นเด่นชัดคือ เมตตาบารมี สุวรรณสามมีเมตตาต่อทุกผู้ทุกนาม ไม่เบียดเบียนสัตว์สรรพสัตว์ ประการต่อมาคือ ความกตัญญูต่อบิดามารดาและตนเอง ถูกยิงจนตาบอดก็ห่วงใยบิดามารดา จะไม่มีผู้ดูแล อีกประการหนึ่งหลักกฎแห่งกรรมที่บิดามารดาของสุวรรณสามต้องตาบอด เพราะเคยทาร้ายให้ผู้อ่ืนตาบอดกรรมก็ตามสนองในอีกชาติหนึ่งเราทุกคนควรพิจารณา ให้เหน็ เป็นแบบอยา่ งของการดาเนินชวี ิต

เอกสารเสริมความรูเ้ รื่อง ปกิณกะสาระธรรม 20 ที่มา: https://www.phutthathum.com/พระพุทธเจา้ /ปฐมบทเกี่ยวกับพระพทุ ธเจ้า/ พระเจ้าสิบชาติ-พระเนมริ าช. สืบค้น 25 พฤศจกิ ายน 2564 ชาตทิ ่ี 4 พระเนมริ าช พระเนมิราชทรงบาเพ็ญอธิษฐานบารมีมีจิตใจตั้งมั่นไม่หว่ันไหวมีความเด็ดเดี่ยว แน่นอนในสิง่ ทีอ่ ธิษฐานไวเ้ หมอื นภูเขาหินไมห่ วน่ั ไหวเมื่อถูกลมพัดกระทบทกุ ทศิ เนมิราชชาดกเป็นเรื่องราวของพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระเจ้าเนมิราช ครองนครมิถิลาใส่ใจการให้ทาน ถือศีลอุโบสถ ปฏิบัติธรรมและอธิษฐานที่จะเป็นเช่นน้ี ตลอดมา เมื่อพระบิดาออกบรรพชาก็ข้ึนครองราชย์และส่ังสอนให้ประชาชนรักษาศีล ทาบุญทาทาน ผลแห่งการทาความดีเป็นที่สรรเสริญทั้งสวรรค์ นรก และมนุษย์โลก ต่อมา พระเนมิราชเกิดความสงสัยว่าการรักษาศีลกับการให้ทานส่ิงใดมีอานิสงส์มากกว่ากัน พระอินทร์เสด็จลงมาทูลว่าผลบุญของการถือศีลมีมากกว่าการให้ทานแต่ท้ังสองอย่าง ควรปฏิบัติอย่างสม่าเสมอ ขอให้พระองค์อุตสาหะถือศีล บริจาคทานพร้อมกัน พระเนมิราชจึงส่ังสอนให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินรักษาศีลเคร่งครัดเมื่อผู้คนตายจากไปต่างได้ ไปเกิดเป็นเทวดา แม้พระอินทร์ให้ราชรถมารับพระเนมิราชไปเสวยสุขบนสวรรค์

เอกสารเสรมิ ความร้เู ร่อื ง ปกิณกะสาระธรรม 21 แต่พระองค์ปฏิเสธขออยู่เมืองมนุษย์ส่ังสอนผู้คนให้ทาดีต่อไป สุดท้ายพระเนมิราช กส็ ละราชสมบัติ เสด็จออกบรรพชาที่ปา่ มะม่วงจนเสดจ็ สวรรคต บารมีที่บาเพ็ญในเรื่องน้ีคือ อธิษฐานบารมี อธิษฐานคือการตัดสินใจและตั้งมั่น ประพฤติปฏิบัติตนมุ่งสู่ผลอย่างใดอย่างหน่ึง การอธิษฐานของพระเนมิราชทรงต้ังพระทัย แน่วแน่ในการรักษาศีลและบริจาคทานอย่างมั่นคงการอธิษฐานบารมีจึงมีความสาคัญ ต่อการปรับพฤติกรรมเป็นอย่างมากหลักธรรมท่ีสนับสนุนอธิษฐานบารมีในเนมิราชชาดก ได้แก่ บุญกิริยาวัตถุ 3 สัปปุริสธรรม 7 ทศพิธราชธรรม 10 อิทธิบาท 4 พรหมวิหาร 4 อธิษฐานธรรม 4 ที่พระเนรมิราชทรงกระทาอย่างต่อเนื่องด้วยคาอธิษฐานที่ปรารถนาเป็น พระพทุ ธเจ้าในภายภาคหน้า

เอกสารเสรมิ ความรูเ้ รื่อง ปกิณกะสาระธรรม 22 ทม่ี า: https://www.phutthathum.com/พระพทุ ธเจ้า/ปฐมบทเกี่ยวกับพระพทุ ธเจ้า/ พระเจ้าสิบชาติ-พระมโหสถ-ในราชสานัก. สบื คน้ 26 พฤศจิกายน 2564 ชาตทิ ่ี 5 พระมโหสถ พระมโหสถบาเพ็ญปัญญาบารมีมุ่งศึกษาไต่ถามบัณฑิตไม่ละเว้นว่าเป็นบุคคล มีวรรณะต่า ปานกลาง หรือสูง เหมือนอย่างภิกษุเท่ียวบิณฑบาตรับไปตามลาดับ ไม่ละเวน้ แม้แมต้ ระกลู ต่า พระมโหสถคือ พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระมโหสถทรงบาเพ็ญบารมี คือ ปัญญาบารมี มีความรอบรู้ความเข้าใจชัดเจนสามารถแยกแยะเหตุและผล ดีและช่ัว คุณและโทษ ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ พระมโหสถเป็นบุตรเศรษฐีมีสติปัญญา เฉลียวฉลาดมากจึงมีผู้คนขอให้ช่วยตัดสินคดีพิพาทและแก้ไขปัญหาอยู่เสมอจึงมีชื่อเสียง เลื่องลือ เม่ือล่วงรู้ไปถึงพระเจ้าวิเทหราชแห่งกรุงมิถิลา หลังจากทรงทดลองสติปัญญา พระมโหสถจนเป็นท่ีพอพระทัยจึงขอพระมโหสถไว้เป็นราชบุตร พระมโหสถใช้สติปัญญา อันชาญฉลาดแก้ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาศึกสงคราม ที่สาคัญที่สุดคือใช้สติปัญญา ช่วยพระชนม์ของพระเจ้าวิเทหราชไว้ได้ พระมโหสถได้รับยกย่องว่าเป็นบัณฑิตผู้มีความรู้ ลึ ก ซ้ึ ง มี ส ติ ปั ญ ญ า ท่ี ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย คุณ ธ ร ร ม อั น ป ร ะ เ ส ริ ฐ ท า ใ ห้ ป ร ะ พ ฤ ติ ต น ไ ป ใ น ท าง

เอกสารเสริมความรู้เรอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 23 ท่ีถูกที่ควร การบาเพ็ญปัญญาบารมีของพระมโหสถสืบเน่ืองจากในเบ้ืองต้นได้ศึกษา เล่าเรียนวิชาความรู้จากบิดามารดาและวิชาความรู้อื่นๆ จากตารา จากมิตร และสิ่งแวดลอ้ มและพัฒนาสตปิ ญั ญาจนกลายเป็นผูม้ ีสติปัญญาเฉลยี วฉลาดไดใ้ ชส้ ติปัญญา ช่วยเหลือผู้คนมากมายตั้งแต่สามัญชนคนธรรมดาถึงพระราชามหากษัตริย์ มุ่งประโยชน์ จากสรรพสัตว์เป็นหลักโดยมีความกรุณาเป็นพื้นฐานอนุเคราะห์ผู้อ่ืนเป็นหลักสาคัญ ให้ข้อคิดสาคัญใช้เป็นแนวปฏิบัติในการดาเนินชีวิตคือ การมีปัญญาเฉลียวฉลาด ย่อมประเสริฐกว่าทรัพย์คนมีปญั ญาย่อมหาทรพั ย์ได้และรักษาไว้ได้ดว้ ย

เอกสารเสรมิ ความรู้เรื่อง ปกิณกะสาระธรรม 24 ทมี่ า: https://www.phutthathum.com/พระพทุ ธเจ้า/ปฐมบทเก่ียวกับพระพุทธเจ้า/ พระเจา้ สิบชาติ-พระภรู ิทัต. สบื คน้ 27 พฤศจิกายน 2564 ชาติที่ 6 พระภูริทตั พระภูริทัตบาเพ็ญศีลบารมี รักษาศีลย่ิงกว่าชีวิตเหมือนเน้ือทรายรักษาขน ยิ่งกวา่ ชีวิต ชาดกเร่ืองนี้พระ โ พธิสัตว์เสวยพระ ช าติเป็นภู ริทัต ตน าคร าชโ อรส ท้ าว ท ศ ร ถ แหง่ เมืองนาค วันหนงึ่ ตดิ ตามพระบดิ าไปเฝา้ พระอนิ ทร์เมื่อทรงไดเ้ หน็ ทพิ ย์วิมานกพ็ ึงพอใจ ปรารถนาจะได้เป็นเช่นน้ันบ้างจึงอธิษฐานถืออุโบสถศีลอยู่ในวังนาค ทรงต้ังสัตยาธิษฐาน ว่าหากใครปรารถนาในหนัง เอ็น กระดูก หรือเลือดเนื้อของพระองค์ก็ทรงยินดีสละให้ ท้ังหมด ขณะที่รักษาศีลมีนางนาคสาวมาห้อมล้อมไม่มีความสงบจึงออกจากเมืองนาคไป อยู่เมืองมนุษย์ ทรงอดกลั้นต่อความโกรธท่ีถูกพราหมณ์จับไปทรมานต่างๆ นาๆ แม้จะมี ฤทธกิ์ ็ไม่ไดค้ ดิ ประทษุ รา้ ยต่อพราหมณ์เหล่านั้นเพราะเกรงว่าศีลจะขาด ในที่สุดได้แสดงธรรมล้างมิจฉาทิฐิของเหล่าพราหมณ์ท่ีคิดทาร้ายต่อพระองค์ แลว้ กลับเมอื งนาคมารักษาศลี ต่อตลอดชีวติ บารมใี นชาดกเรือ่ งนี้คอื ศลี บารมี ชาดกเร่ืองนี้

เอกสารเสรมิ ความรเู้ รอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 25 นับเป็นชาดกเรื่องหน่ึงที่มีช่ือเสียงได้รับความนิยมแพร่หลาย พระพุทธเจ้าทรงยกข้ึนแสดง แก่อุบาสกผู้รักษาอุโบสถศีล ณ พระเชตวัน กรุงสาวัตถีในวันอุโบสถ สาระธรรมเกี่ยวกับ การแสดงพุทธจริยาในการสร้างสมบาเพ็ญศีลบารมีมุ่งม่ันแน่วแน่ในการปฏิบัติ แม้มี อุปสรรคมากมายกไ็ ม่ละความมุ่งม่นั ทั้งนมี้ งุ่ ประโยชนส์ ูงสดุ คือพระโพธิญาณในการบาเพ็ญ ศีลของพระภูริทัตมิได้บาเพ็ญเฉพาะศีลบารมีเท่าน้ัน แต่ได้บาเพ็ญบารมีอื่นๆ ด้วย ที่ทาให้พระองค์ไปสู่ความเป็นพระพุทธเจ้า พุทธจริยาท่ีพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในชาดก เรื่องนี้คือ การบาเพ็ญศีลบารมีเพื่อนาไปสู่การศึกษา การปฏิบัติธรรมโดยมีจุดหมายคือ การส้นิ ทุกขน์ ัน่ เอง ชาดกเรื่อง พระภูรทิ ตั ใหค้ ตสิ อนใจในเรื่องของการรักษาศีลไว้มิให้ขาด สั ง ค ม ไ ท ย มี ค ว า ม เ ชื่ อ เ ร่ื อ ง ก า ร สั่ ง ส ม บุ ญ ด้ ว ย ก า ร รั ก ษ า ศี ล ใ ห้ มี ค ว า ม ส ม บู ร ณ์ ยิ่ ง ขึ้ น นอกเหนือจากหลักคาสอนทางพระพุทธศาสนาท่ีซึมซาบอยู่ในจิตใจของชาวพุทธก่อเกิด สันตสิ ุขแก่ชีวติ และสงั คมไทย

เอกสารเสรมิ ความร้เู ร่อื ง ปกิณกะสาระธรรม 26 ท่มี า: https://www.phutthathum.com/พระพุทธเจ้า/ปฐมบทเก่ียวกับพระพุทธเจ้า/ พระเจา้ สิบชาติ-พระจนั ทราช. สืบคน้ 27 พฤศจิกายน 2564 ชาติที่ 7 พระจนั ทกมุ าร พระจันทกุมารบาเพ็ญขันติบารมีคือ ความอดทนไม่แสดงความยินดียินร้ายอดทน ตอ่ คายกย่องคาดูหมิน่ เปรียบเหมือนแผ่นดินอดทนตอ่ สิ่งท่ีเขาท้ิงลงทุกอย่างทั้งสงิ่ ที่สะอาด และไมส่ ะอาด ไมย่ นิ ดียินร้ายเปน็ ตบะธรรมนาสพู่ ระนพิ พาน พระจันทกุมารเป็นโอรสของพระเจ้าเอกราชเคยช่วยประชาชนให้พ้นจากคดี กัณฑหาลพราหมณ์ ซึง่ ราชปุโลหติ าจารย์รับสนิ บนตดั สินไมเ่ ปน็ ธรรมประชาชนพากนั เปล่ง เสียงสาธุการ กัณฑหาลพราหมณ์ได้ผูกอาฆาตพระจันทกุมาร เมื่อพระเจ้าเอกราช ทรงพระสุบินเห็นดาวดึงส์เทวโลก หลังตื่นบรรทมจึงสอบถามทางสู่เทวโลก กับกัณฑหาลพราหมณ์ซ่ึงเป็นโอกาสให้กัณฑหาลพราหมณ์แก้แค้นโดยกราบทูลแนะนาให้ ตัดพระเศียรพระโอรส พระธิดาบูชายันต์ พระเจ้าเอกราชเป็นคนเขลาก็สั่งจับ

เอกสารเสรมิ ความรู้เรือ่ ง ปกิณกะสาระธรรม 27 พระโอรส 4 พระองค์และคนอื่นๆ อีกเตรียมประหารเช่นกัน แม้มีผู้ทัดทานก็ไม่เป็นผล ร้อนถึงพระอินทร์ต้องมาข่มขู่ชี้แจงให้หายเข้าใจผิดว่าวิธีน้ีไม่ใช่ทางไปสวรรค์ ประชาชน จึงรุมฆ่าพราหมณ์ปุโรหิตและเนรเทศพระเจ้าเอกราช กราบทูลเชิญพระจันทกุมาร ข้ึนครองราชย์ปกครองบ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข พระจันทกุมารบาเพ็ญขันติบารมีโดยเอา ชีวิตเป็นเดิมพันอดทนอดกล้ันต่อส่ิงที่มากระทบ อดทนอดกล้ันต่อทุกขเวทนา ในรูปแบบต่างๆ อดทนต่อส่ิงเย้ายวน สินบน คาครหา ชาดกเร่ืองนี้ให้ข้อคิดท่ีแสดงให้เห็น วา่ การอาฆาตพยาบาทจองเวรต่อกนั ยอ่ มสง่ ผลใหท้ ุกขก์ ลบั คืนแก่ตนในท่สี ุด

เอกสารเสริมความรู้เรอ่ื ง ปกิณกะสาระธรรม 28 ที่มา: https://www.phutthathum.com/พระพทุ ธเจา้ /ปฐมบทเก่ียวกบั พระพุทธเจ้า/ พระเจ้าสิบชาติ-พระพรหมนารท. สืบคน้ 27 พฤศจกิ ายน 2564 พระชาตทิ ่ี 8 พระพรหมนารท พระพรหมนารททรงบาเพ็ญอุเบกขาบารมี มีความวางใจเป็นกลาง ความวางใจ สงบ ราบเรียบสม่าเสมอ เท่ียงธรรมและดารงอยู่ในธรรมไม่เอนเอียงหรือหว่ันไหวไปด้วย ความยินดียินร้าย ชอบชังหรือหว่ันไหวไปตามแรงยั่วยุเย้ายวนใดๆ ที่ดีและไม่ดี พระพรหมนารทชาดก พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นท้าวมหาพรหมนามว่า พระนารทได้จาแลงกายไปเป็นนักบวชมาแสดงพระธรรมเทศนาส่ังสอนพระเจ้าอังคติ กษตั รยิ ์นครมถิ ิลาท่ีเคยปกครองบ้านเมอื งอยู่เย็นเป็นสขุ ทรงศีลอุโบสถตลอดมา วันหน่ึงได้ สนทนาธรรมกับนักบวชชีเปลือยคุณาชีวกะทาให้เกิดหลงผิดละเว้นการรักษาศีลทาทาน โปรดปรานมหรสพร่ืนเริงไม่สนใจกิจการของบ้านเมือง เมื่อได้ฟังคาสั่งสอนของ พระพรหมนารทว่าการกระทาสิ่งใดควรมีอุเบกขาคือ การวางใจเป็นกลาง ใช้ปัญญา ทรงทูลพระเจ้าอังคติทรงละมิจฉาทิฏฐิ หม่ันบาเพ็ญกุศลทาทานรักษาศีลอย่างแน่วแน่ บ ร ร ด าช้ าง ม้ าโ ค ก ร ะ บื อ ที่ แ ก่ เฒ่ าก็ ใ ห้ ป ล่ อ ย เสี ย เช่ น เดี ย ว กั บ อ าม าต ย์ ช ร าใ ห้ เลี้ ย ง ดู

เอกสารเสริมความรเู้ ร่ือง ปกิณกะสาระธรรม 29 มิต้องทาราชการและให้ยึดมั่นในการรักษาศีล 5 และศีล 8 อันจะมีผลในภายภาคหน้า อย่างสูงส่งเป็นทางสู่สวรรค์ช้ันฟ้าด้วย นับแต่บัดน้ันพระเจ้าอังคติก็ครองราชย์ โดยชอบธรรม ปกครองเมืองโดยสงบร่มเย็น คติธรรมน้ีเห็นได้ชัดเจนคือ สัตว์โลกย่อม เป็นไปตามกรรมทาดีย่อมได้ผลดีทาช่ัวย่อมได้รับผลชั่วเป็นผลตอบแทนและการคบมิตร สหายก็จะสง่ ผลดีและผลชวั่ แกต่ วั บุคคลนนั้ ดว้ ย

เอกสารเสรมิ ความรู้เรอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 30 ท่มี า: https://www.phutthathum.com/พระพทุ ธเจา้ /ปฐมบทเก่ียวกบั พระพทุ ธเจ้า/ พระเจ้าสิบชาติ-พระวธิ ูรบัณฑติ . สบื คน้ 28 พฤศจิกายน 2564 ชาตทิ ่ี 9 พระวธิ ูรบัณฑิต พระวิธูรบัณฑิต บาเพ็ญสัจจะบารมี มีความตั้งใจบาเพ็ญสัจจะบารมี คือ ถือความสัตย์เป็นที่ต้ังอย่างม่ันคงมีความต้ังใจสะสมบารมี รักษาสัจจะอยู่เสมอ พูดจริงทาจริง จริงใจพระวิธูรบัณฑิต เป็นผู้ถวายคาแนะนาประจาราชสานัก พระเจ้าธนญชัยโกรพซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ประชาชนรักใคร่เคารพนับถือมาก ครั้งหน่ึง ปุณณกยักษ์มาท้าพระเจ้าธนญชัยโกรพเล่นสกา ถ้าตนพ่ายแพ้จะถวายมณีรัตนอันวิเศษ ถ้าพระเจ้าธนญชัยโกรพแพ้จะต้องพระราชทานทุกส่ิงตามที่ปุณณกยักษ์ต้องการ ยกเว้น พระวรกายของพระองค์ พระมเหสีและราชสมบัติ ปุณณกยักษ์มีชัยจึงทูลขอตัว วิธูรบัณฑิต พระเจ้าธนญชัยโกรพจะไม่พระราชทานให้ก็เกรงเสียความสัตย์ พระองค์ ตีราคาวิธูรบัณฑิต ยิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทองใดๆ ทรงหาวิธีการต่างๆ ถ่วงเวลาไว้ ในท่ีสุด

เอกสารเสรมิ ความรูเ้ รือ่ ง ปกิณกะสาระธรรม 31 ก็ ต ก ล ง ใ ห้ วิ ธู ร บั ณ ฑิ ต ตั ด สิ น ซ่ึ ง ก็ ตั ด สิ น ใ ห้ รั ก ษ า ค ว า ม สั ต ย์ แ ล ะ ยิ น ดี ไ ป กั บ ยั ก ษ์ ความจริงปุณณกยักษ์ต้องการเพียงเพื่อจะนาหัวใจของวิธูรบัณฑิตไปแลกกับธิดาพญานาค แทจ้ รงิ เปน็ เพียงอุบายของมเหสีพญานาคผู้ตอ้ งการจะไดส้ ดับธรรมของวธิ ูรบัณฑิตจึงตกลง กบั พญานาคว่าถา้ ปุณณกยักษ์ต้องการธดิ าของตนก็ขอใหน้ าหวั ใจของวธิ ูรบัณฑติ มา เม่อื ได้ ตัววิธูรบัณฑิตมาแล้ว ยักษ์พยายามทาทุกวิธีให้ตาย นอกจากวิธูรบัณฑิตจะไม่ตายแล้วยัง กลับแสดงธรรมของคนดีให้ยักษ์เลื่อมใสและได้แสดงธรรมแก่พญานาคในที่สุดก็ได้กลับ กรุงอินทปัตถ์ ชาดกเร่ืองน้ีให้คติธรรมในการรักษาความซื่อสัตย์ จริงใจ การรักษาคาพูด ของตนย่อมส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้อื่น คิดดีมีเมตตาต่อผู้อื่นย่อมได้รับ เมตตาตอบอย่างที่ปรากฏในชาดก พญานาคและมเหสีช่ืนชมในปัญญา ยึดมั่นในสัจจะ วาจาและความมั่นคงในธรรมของวิธูรบัณฑิต

เอกสารเสริมความรเู้ ร่อื ง ปกิณกะสาระธรรม 32 ท่มี า https://www.phutthathum.com/พระพุทธเจา้ /ปฐมบทเกยี่ วกบั พระพทุ ธเจ้า/ พระเจ้าสิบชาติ-พระเวสสันดร. สืบคน้ 28 พฤศจิกายน 2564 ชาติท่ี 10 พระเวสสันดร พระเวสสันดรบาเพ็ญทานบารมี ให้ทานตามความสามารถ จิตใจมีกาลังเต็มที่ ในการใหท้ าน มีความรู้สึกอยากใหอ้ ยู่เสมอโดยมไิ ด้หวงั ผลตอบแทนใดๆ ช า ด ก เ ร่ื อ ง นี้ แ ส ด ง ใ ห้ เ ห็ น ถึ ง ก า ร บ า เ พ็ ญ ท า น คื อ ก า ร บ ริ จ า ค ท า น เ ม่ื อ ค ร้ั ง พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร โอรสพระเจ้าสัญชัยและพระนางผุสดี แห่งเมืองสีพี เป็นผู้มีจิตใจดี โอบอ้อมอารี เอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่ ใจบุญสุนทาน บริจาคทุกส่ิง ตามท่ีมีผู้ร้องขอ คร้ังหน่ึงได้ประทานช้างเผือกคู่บ้านคู่เมืองให้พราหมณ์ชาวกลิงคะนาไป เพ่ือทาให้บ้านเมืองหายจากฝนแล้ง แต่ชาวเมืองนั้นเกิดความโกรธขอให้เนรเทศพระองค์ ออกจากเมือง พระบิดาจาใจต้องเนรเทศพระเวสสันดร พระนางมัทรี พระโอรส และพระธิดาได้ตามเสด็จด้วย เม่ือชูชกไปขอสองกุมารก็ประทานให้ แต่ภายหลัง พระเจ้าสัญชยั พระราชบดิ าทรงไถ่สองกมุ ารและเสดจ็ ไปรับกลับกรงุ

เอกสารเสรมิ ความรเู้ ร่ือง ปกิณกะสาระธรรม 33 เ ร่ื อ ง นี้ เ ป็ น ก า ร เ สี ย ส ล ะ ส่ ว น น้ อ ย เ พ่ื อ ป ร ะ โ ย ช น์ ส่ ว น ใ ห ญ่ คื อ ก า ร ต รั ส รู้ เป็นพระพุทธเจ้าอันจะเป็นทางให้ได้บาเพ็ญประโยชน์ส่วนรวมได้ดียิ่งข้ึน มิใช่เสียสละ โดยไม่มีเหตุผลหรือไม่มีจุดมุ่งหมาย เร่ืองพระเวสสันดรชาดกเป็นพระชาติสุดท้าย ในทศชาติท่ีนิยมกันมากและเป็นเรื่องที่ยาวท่ีสุด บางครั้งเรียกว่ามหาชาติเป็นชาดกท่ีมี ความสาคัญมากกว่าชาดกเร่ืองอ่ืนๆ เพราะพระบารมีของพระโพธิสัตว์ได้บาเพ็ญบริบูรณ์ แลว้ ในชาตินี้

เอกสารเสริมความรู้เรือ่ ง ปกิณกะสาระธรรม 34 ตอนท่ี บรมครผู ู้ส่งั สอนสรรพสตั ว์ 3 ท่ีมา:https://www.facebook.com/602134756594049/photos/a.602333379907520/6034 47126462812/?type=3. สืบค้น 28 พฤศจกิ ายน 2564 สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รับการยกย่องว่าเป็นบรมครูของมนุษย์และเทวดา ทรงเป็นศาสดาเอกของโลก พระองค์ทรงสั่งสอนให้เวไนยสัตว์ไปสู่ความหลุดพ้น เป็นครู ผู้ได้รับการยกย่องสูงสุด วิธีการสอนของพระพุทธองค์ทาให้ผู้ฟังเข้าใจแจ่มแจ้งจึงทาให้มี ผู้เปรียบเปรยการแสดงธรรมของพระองค์ว่าเหมือนหงายของที่คว่าไว้ เหมือนเปิดในสิ่ง ท่ีเคยถูกปิด เหมือนบอกทางแก่คนหลงทาง และเหมือนการจุดประทีปในท่ีมืด ทาให้มี ผู้เข้าใจธรรมและบรรลุธรรม มีคากล่าวว่าถ้าพระพุทธองค์แสดงธรรมโปรดบุคคลใด บุคคลนั้นจะบรรลุมรรคผลในระดับใดระดับหน่ึงอย่างแน่นอน ในคัมภีร์พระไตรปิฎก กล่าวถึงการแสดงธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งโดยทางตรงและโดยอ้อมด้วย หลักการและวธิ กี ารของพระองคเ์ อง สรุปโดยสังเขปดังน้ี

เอกสารเสริมความรเู้ ร่อื ง ปกิณกะสาระธรรม 35 ท่ีมา: https://palungjit.org/threads/พุทธวิธีในการสอนของพระพุทธเจ้า.725878/. สบื คน้ 28 พฤศจิกายน 2564 สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีหลักการสอนท่ีเรียกว่าพุทธลีลาในการสอน 4 ประการ ดงั นี้ ประการท่ี 1 แจ่มแจง้ หมายถงึ ทรงอธิบายได้อย่างแจ่มแจง้ ชัดเจนประหน่ึงนามา วางไวใ้ หเ้ ห็นตรงหน้า ประการที่ 2 จูงใจ หมายถึง ทรงมีวิธีพูดจูงใจให้ผู้ฟังต้องการปฏิบัติตามคาสอน ประการท่ี 3 เร้าให้กล้า หมายถึง ทรงทาให้ผู้ฟังเกิดความกล้าหาญมั่นใจที่จะ ปฏิบตั ติ ามคาสอน และประการท่ี 4 ปลุกให้ร่าเริง หมายถึง ทาให้ผู้ฟังเกิดฉันทะ พอใจ ชอบใจ ในการฟัง สนกุ สนานไปกบั คาสอนเพลิดเพลนิ ไมเ่ บ่ือหน่าย

เอกสารเสรมิ ความรเู้ รอ่ื ง ปกิณกะสาระธรรม 36 วิธีการสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา้ 4 วธิ ี ท่ีมา: https://www.matichonweekly.com/column/article_45444. สืบค้น 28 พฤศจกิ ายน 2564 วธิ ีการสอนของสมเด็จพระสมั มาสมั พุทธเจา้ มี 4 วธิ ีดังน้ี 1. การบรรยาย เป็นวิธีที่ทรงใช้อยู่เสมอๆ มีผู้ฟังเป็นจานวนมากเป็นท่ี ประชุมใหญ่ๆ ในการแสดงธรรมคร้ังแรกโปรดปัญจวัคคีย์พระพุทธเจ้าทรงใช้วิธีบรรยาย ตง้ั แตต่ น้ จนจบ 2. วิธีสนทนา วิธีน้ีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้มากเพราะผู้ฟังมีโอกาส แ ส ด ง ค ว า มคิ ด เ ห็น โ ต้ ต อ บไ ด้ ผู้ ฟั ง จ ะ รู้ สึ ก มี บ รร ย า ก า ศ ดี ส นุ ก ไ ม่ น่ า เบ่ือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงซักถาม ชี้ปัญหาให้ผู้ฟังคิดตามและจบด้วยพระองค์ ทรงสรปุ ใหเ้ ขา้ ใจไดช้ ดั เจน 3. วิธีตอบปัญหา วิธีสอนแบบนี้จะใช้สอนผู้ท่ีสงสัยในข้อธรรมต่างๆ บุคคลเหล่านี้ ส่วนใหญ่นับถือลัทธิศาสนาอ่ืนๆ เพราะต้องการรู้คาสอนของพระพุทธศาสนาแล้วนาไป เทียบเคียงกับลัทธิตน บางส่วนถามเพ่ือลองภูมิ บางส่วนถามเพื่อข่มให้จนมุม ต้องการให้พระองค์อับอาย ในการตอบของพระองค์จะดูลักษณะปัญหาและตอบ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4. วิธีตัดประเด็นหรือไม่ตอบ ปัญหาบางอย่างพระองค์จะไม่ทรงตอบ เช่น คาถามที่ว่าโลกเท่ียงหรือไม่เท่ียง เหตุผลท่ีไม่ทรงตอบแม้จะรู้หรือไม่รู้ก็มิทาให้ ทกุ ขล์ ดนอ้ ยลงหรือบางคาถามหากตอบไปแลว้ อาจก่อให้เกิดความขดั แยง้ กัน เปน็ ตน้

เอกสารเสรมิ ความรูเ้ รอ่ื ง ปกิณกะสาระธรรม 37 หลักการสอนและวิธีการสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงใช้สอน เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามแนวพุทธจริยา บุคคลทุกชนช้ัน ทุกวรรณะ ทุกเพศ ทุกวัย เม่ือพระองค์ทรงพบกับบุคคลใดก็ทรงสอนด้วยหลักการและวิธีการสอนที่ดีเย่ียม สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกาหนดจุดมุ่งหมายในการสอน และสอนจนบรรลุ เป้าหมายที่กาหนดไว้คือ ต้องมีเนื้อหาเรื่องท่ีจะสอน มีผู้รับคือผู้ฟัง และวิธีการสอน ครบถว้ น ดังจะพิจารณาให้เห็นว่าทรงสอนให้ผู้ฟังรู้แจ้งเห็นจริงเฉพาะท่ีจาเป็นสาหรับสาวก น้ันๆ ถ้าทรงเห็นว่าไม่จาเป็นสาหรับ สาวกนั้นๆ ก็จะไม่ทรงสอนแม้พระองค์ จะทรงทราบแล้ว

เอกสารเสรมิ ความรู้เร่อื ง ปกิณกะสาระธรรม 38 ตวั อยา่ งการสอนของสมเดจ็ พระสัมมาสมั พุทธเจา้ 1. ทรงสอนพระปฏาจาราเถรี 2. ทรงสอนพระองคค์ ุลมิ าล ทมี่ า https://soundcloud.com/kanlayanatam/lp_surasak_dhammasupatipanno010 8?in=kanlayanatam/sets/lp_surasak_dhammasupatipanno01. สืบค้น 28 พฤศจกิ ายน 2564 1. ทรงสอนพระปฏาจาราเถรี นางปฏาจาราเป็นธิดาเศรษฐีเมืองสาวัตถีมีรูปร่างหน้าตาสวยงามแต่หลงรักชาย รับใช้ต่าต้อยจึงหนีออกจากบ้านไปใช้ชีวิตร่วมกันในป่าด้วยความยากลาบาก เม่ือตั้งครรภ์ ลูกคนท่ีสอง จึงขอร้องให้สามีพากลับไปคลอดท่ีบ้านแต่ระหว่างเดินทางมีพายุฝนตกหนัก นางคลอดลูกคนทส่ี อง สามไี ปตดั ไมใ้ นปา่ มาบังร่มเงาใหน้ างแต่ถกู งูกัดตาย นางตอ้ งดแู ลลกู น้อยท้ังสองอย่างยากลาบาก ต่อมามีเหตุการณ์ทาให้นางต้องสูญเสียลูกทั้งสอง เมื่อกาลัง

เอกสารเสริมความรูเ้ รื่อง ปกิณกะสาระธรรม 39 กลับถึงบ้านก็พบว่าบิดามารดาเสียชีวิตแล้วทาให้นางเสียสติ เปล้ืองผ้าเปลื้องผ่อนว่ิงเตลิด ไปถึงเชตวันวิหารที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอยู่ ขณะท่ีผู้คนขับไล่นาง แต่พระพุทธองค์ทรงตรัสเรียกนางเข้าไปในวิหารและตรัสแก่นางว่า ขอให้ต้ังสติให้ดี และได้มีผู้โยนผ้าให้นางคลุมกาย จากน้ันนางน่ังฟังพระธรรมเทศนาท่ี สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงและได้พิจารณาตามพระธรรมเทศนาน้ัน นางจึงได้บรรลุ เป็นโสดาบันและขอบวชเป็นภิกษุณี พระพุทธเจ้าประทานอนุญาต หลังจากบวช ไม่นานพระภิกษุณีปฏาจาราได้บาเพ็ญตน ได้ฟังพระธรรมเทศนาว่าคนไม่เห็นความส้ินไป และความเสื่อมไปแห่งปัญจขันธ์แม้อยู่ร้อยปีก็ไม่สู้คนรู้เห็นอยู่วันเดียว นางพิจารณาธรรม ตามพระธรรมเทศนาเมื่อฟังจบก็ได้บรรลุพระอรหัตผล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงยกย่องพระปฏาจาราเถรีว่าเป็นยอดแห่งพระเถรีผู้ทรงพระวินัยคือ ทรงจาพระวินัย ได้มาก อนุเคราะห์และสงเคราะห์ผู้อื่นเช่นเดียวกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหนั ต์อื่นๆ

เอกสารเสริมความรูเ้ ร่อื ง ปกิณกะสาระธรรม 40 ท่มี า: http://dhamma.serichon.us/2017/03/17/องคุลมิ าล-อย่าใชจ้ นิ ตนา/. สืบค้น 28 พฤศจกิ ายน 2564 2. ทรงสอนพระองคุลิมาล องคุลิมาลโจรที่มีจิตใจหยาบช้าชอบปล้นฆ่า คิดฆ่าแม้แต่แม่ของตนเอง หลังจากปล้นฆ่ามนุษย์แล้วจะตัดหัวแม่มือร้อยเป็นพวงมาลัยห้อยคอไว้เพราะหลงเช่ือ อาจารย์ผู้ประสงค์ร้ายให้ฆ่าคนครบ 1,000 คน ผู้คนต่างพากันหวาดกลัวองคุลิมาล และช่วยกันห้ามสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ให้ผ่านเส้นทางโจรเมื่อพระพุทธองค์ บิณฑบาตก็ได้พบกับองคุลิมาล องคุลิมาลถืออาวุธวิ่งไล่ตามพระพุทธองค์ไปสุดกาลัง เพ่ือจะฆ่า แต่องคุลิมาลไม่อาจตามได้ทัน จึงร้องตะโกนให้พระพุทธองค์หยุดเดิน พระพุทธองค์ตรัสตอบว่าเราหยุดแล้ว เธอสิยังไม่หยุด องคุลิมาลจึงทูลถามความหมาย สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสตอบว่า เธอยังไม่หยุดทาบาปยังไม่หยุดฆ่าคน แต่เราหยุด ทาบาปแล้ว เมื่อได้คิดตามธรรมท่ีพระพุทธองค์ทรงแสดงองคุลิมาลก็รู้สึกสานึกผิดขอบวช เปน็ ภกิ ษุเมื่อออกบิณฑบาตถูกขวา้ งปาทาใหไ้ ด้รับบาดเจบ็ องคุลิมาลมาเข้าเฝ้าเพ่ือเล่าเรื่องถูกผู้คนทาร้ายให้สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงทราบ พระพุทธองค์ก็ทรงสอนให้อดทนสอนให้รู้ว่ากาลังได้รับผลกรรมที่เคยทาไว้ ในเวลาต่อมาองคุลิมาลได้รับการสรรเสริญว่าเป็นภิกษุที่ต้นคดปลายตรง เบ้ืองต้น พลาดพลั้งต่อมากลับตัวกลับใจเป็นพระสาวกท่ีดีเป็นแบบอย่างของอนุชนรุ่นหลัง มีคุณธรรมทีค่ วรถอื เปน็ แบบอยา่ ง

เอกสารเสรมิ ความรเู้ รอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 41 คาสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศาสดาแห่งพระพุทธศาสนาเป็นธรรม อันล้าค่านายุคนาสมัยเสมอมาล้วนอยู่ในวัฒนธรรมของมนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์สอนให้รู้จัก เสียสละเพื่อความสงบสุขแห่งโลกโดยส่วนรวมให้รู้จักทาจิตใจให้ผ่องแผ้ว ร่าเริง ยิ้มแย้ม แจ่มใส ให้รู้จักรักชีวิตของคนอื่นเหมือนรักชีวิตของตนเอง ให้ความโอบอ้อมอารีมีเมตตา ไม่เบียดเบียนกันและกัน ประพฤติตนในจารีตประเพณีอย่างงดงาม มีความงดงาม ทางร่างกาย งดงามทางด้านจิตใจ งามพรั่งพร้อมด้วยปัญญา สอนให้คานึงถึงวิถีทาง แห่งการดารงชีวิตถึง ให้รู้จักรักษาความบริสุทธิ์ของชีวิตท้ังทางกาย วาจา และทางจิตใจ ให้สะอาดบริสุทธ์ิในจิตใจของตัวเอง รู้จักประคองเสริมกาลังใจในยามที่จิตซึมเศร้า เหงาหงอย รู้จักข่มใจในยามที่จิตฟุ้งซ่าน วุ่นวาย รุ่มร้อน ซึ่งมีความเป็นวิทยาศาสตร์ อันล้ายุคที่สุดได้ด้วยตัวเองและผู้ประพฤติปฏิบัติตามจะรู้เห็นปรากฏการณ์อันมหัศจรรย์ แห่งขบวนการอันลึกลับซับซ้อนของวัฏฏะ เม่ือวงจรของวัฏฏะถูกทาลายแล้วย่อมเปิดเผย ทุกสิ่ง จึงควรจาไว้ว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้โง่เขลาว่าต้อง เช่ือตามพระองค์โดยไม่มอี ะไรเปน็ พน้ื ฐานแห่งปัญญา

เอกสารเสรมิ ความรเู้ รื่อง ปกิณกะสาระธรรม 42 ตอนท่ี การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาตามกลยุทธพ์ ุทธจรยิ า 4 ทีม่ า: https://th-th.facebook.com/photo/?fbid=842293955890485&set= พระยสเถระพระยสเถระขอ้ มูลทว่ั ไปชอื่ เดิม-ยสเศรษฐ-ี ยสกุลบุตรสถานที่เกิด- เมืองพาราณสี. สืบคน้ 28 พฤศจกิ ายน 2564 หลังจากท่ีพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วเสด็จไปแสดงพระธรรมเทศนาแก่ใคร ท่ีไหน อย่างไร สถานท่ีแรกในการเสดจ็ ไปคือ ปา่ อสิ ิปตนมฤคทายวนั แขวงเมอื งพาราณสีเป็นการ เผยแผ่พระธรรมเป็นครั้งแรกเรียกว่าปฐมเทศนาแก่ พระโกณฑัญญะ ปัญจวัคคีย์ ทรงแสดงพระธรรมจักรกัปปวัตนสูตรเม่ือจบพระธรรมเทศนาพระโกณฑัญญะบรรลุ เป็นพระโสดาบันกราบทูลขออุปสมบทเป็นพระสงฆ์องค์แรกของโลก ถือเป็นการก่อต้ัง พระพุทธศาสนาอย่างเป็นทางการซึ่งบังเกิดข้ึนในวันเพ็ญข้ึน 15 ค่า เดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชา นอกจากนี้ทรงแสดงธรรมอื่นๆ โปรดปัญจวัคคีย์ที่เหลือและบรรลุ เป็นพระโสดาบันรวมท้ังทรงแสดงธรรมอนัตตลักษณะสูตร ปัญจวัคคีย์ทั้งหมดบรรลุเป็น พระอรหันต์ เวลาต่อมาพระพุทธองค์เสด็จไปแสดงธรรมโปรดพระยสะและสหาย 54 คน ทั้งหมดต่างบรรลุพระอรหันต์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระดาริให้พระสาวก ทั้ง 60 องค์ รวมทั้งพระองค์เองเป็น 61 องค์ออกเดินทางประกาศศาสนาเพ่ือประโยชน์ และความสุขแก่มหาชนและเป็นการอนุเคราะห์แก่ชาวโลกเพื่อประโยชน์เก้ือกูลและ

เอกสารเสรมิ ความรูเ้ ร่อื ง ปกิณกะสาระธรรม 43 ความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์ท้ังหลาย ทรงตรัสบอกแก่พระสาวกผู้เป็นพระอรหันต์ ท้ัง 60 องค์ว่าพวกเธออย่าไปทางเดียวกัน สองรูปจงแสดงธรรมให้งามในเบื้องต้น ในท่ามกลางและในที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์พร้อมท้ังอรรถและพยัญชนะให้ครบถ้วน บริบูรณ์ สัตว์ท้ังหลายผู้มีธุลีคือ กิเลสในจักษุเพียงเล็กน้อยมีอยู่แต่เพราะข้อที่ยังไม่ได้ สดบั ธรรมจงึ ต้องเส่ือมถอยจากคณุ ประโยชน์ทพ่ี งึ จะไดร้ ับ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแยกเสด็จไปตาบลอุรุเวลาเสนานิคมเพื่อแสดงธรรม โปรดแก่ผู้คนจึงทาให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองและแผ่ขยายไปในชมพูทวีป อย่างรวดเร็ว ชาวชมพูทวีปพากันละท้ิงลัทธิเดิมแล้วหันมานับถือเล่ือมใสศรัทธา ในพระพุทธศาสนาเพิ่มมาก ทมี่ า: http://www.watpamahachai.net/watpamahachai-80.htm. สบื คน้ 28 พฤศจกิ ายน 2564 พทุ ธจรยิ า พุทธจริยา หมายถึง พระจริยวัตรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงบาเพ็ญ ประโยชน์ 3 ประการได้แก่ ประการที่ 1 โลกัตถจริยา ทรงบาเพญ็ ประโยชน์แก่ชาวโลกคอื การทีพ่ ระพุทธเจ้า ทรงอนุเคราะห์แก่ชาวโลกแสดงออกในพุทธกิจประจาวันนั่นคือ ช่วงเช้าเสด็จออก บิณฑบาตเพ่ือโปรดสัตว์ให้แก่คนที่สมควรแสดงธรรมให้ฟัง ช่วงเย็นทรงแสดงธรรม แก่อุบาสกอุบาสิกาที่มาเฝ้า ช่วงค่าประธานโอวาทแก่เหล่าภิกษุและช่วงเท่ียงคืน ตอบปญั หาของเทวดาหรือข้าราชการผใู้ หญแ่ ละพระราชา

เอกสารเสรมิ ความรู้เรื่อง ปกิณกะสาระธรรม 44 ทม่ี า: http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=46118. สบื ค้น 29 พฤศจิกายน 2564 ประการท่ี 2 ญาตัตถจริยา ทรงบาเพ็ญประโยชน์แก่พระญาติเสด็จนิวัติ เมืองกบิลพัสด์ุเพ่ือโปรดพระบิดาและพระประยูญาติหลังการตรัสรู้แล้วเสด็จไปโปรด พระมารดาบนสวรรคช์ น้ั ดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมโปรดตลอดพรรษาทรงชักนาขัตติยะ กุมารจากศากยวงศ์และโกลิยวงศอ์ อกบวชและทรงประทานอนุญาตให้ขัตติยนารแี ละญาติ ของพระองค์บวชเป็นภิกษุณี เช่น นางมหาปชาบดี นอกจากน้ีทรงระงับสงครามแย่งน้า ในแม่น้าโรหณิ ีระหวา่ งศากยวงศแ์ ละโกลิยวงศ์ทาให้ไมต่ อ้ งรบราฆา่ ฟันกนั พระญาติท้งั สอง ฝ่ายจึงเกิดความปรองดอง ชาวพุทธสร้างพระพุทธรูปปางห้ามญาติเป็นอนุสรณ์ ของเหตุการณ์ครั้งนี้ ประการท่ี 3 พุทธัตถจริยา ทรงบาเพ็ญประโยชน์ตามหน้าที่ของพระพุทธเจ้า เช่นทรงแสดงธรรมแก่เวไนยสัตว์ ทรงบัญญัติพระวินัยเพ่ือบริหารหมู่คณะ ทรงช่วย สรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ ทรงวางพื้นฐานแห่งกุศลธรรมหรืออุปนิสัยท่ีดีในภายหน้า แม้บางคนจะมีความหยาบช้าด้วยอวิชชา พระองค์ก็ไม่ได้ทรงทอดท้ิงพยายามสั่งสอนให้มี อุปนิสัยปัจจัยท่ีดีในภายหน้าเช่น ทรงบวชให้พระเทวทัตทั้งท่ีทรงรู้ด้วยพระญาณว่า พระเทวทัตจะสร้างความแตกแยกในหมู่สงฆ์แต่ก็ไม่ได้ทรงทอดทิ้ง เป็นต้น ทรงแสดง

เอกสารเสรมิ ความรู้เรอื่ ง ปกิณกะสาระธรรม 45 พระธรรมเทศนาโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายโดยไม่แยกชั้นวรรณะ ยากดีมีจนทรงก่อต้ัง พระพุทธศาสนาและบริษัทท้ัง 4 ให้ย่ังยืนตราบเท่าทุกวันน้ี จึงทรงได้รับการยกย่องเป็น ศาสดาเอกของโลก สิ่งสาคัญที่ทาให้พระพุทธศาสนาแพร่หลายไปอย่างกว้างขวางในระยะ เร่ิมต้นเพราะหลักการสอนและวิธีการสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็น ครูช้ันยอดทรงสามารถสอนให้คนเกิดความรู้ถึงข้ันสัมโพธิญาณได้ด้วยการแสดงธรรม สามารถทาให้ผู้ฟังรู้อริยสัจเกิดการเปลี่ยนแปลงถึงขั้นเป็นอริยบุคคล บังเกิดพุทธสาวก จานวนมาก พุทธสาวกคือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา มีบทบาทในการศึกษา ปฏิบัติตามหลักธรรมคาสอนของพระพุทธเจ้าแล้วนาไปสั่งสอนพุทธศาสนิกชนรวมท้ัง ปฏบิ ัตติ ามพระจรยิ วตั รอยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ท่ีมา https://th-th.facebook.com/wattamai45/photos/a.187797911400970/123955551955 8532/?type=3&theater. สืบค้น 29 พฤศจิกายน 2564 พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่จัดส่งบุคลากรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปเผยแผ่พระธรรมคาสอนในหมู่ประชาชน การประกาศคาสอนในพระพุทธศาสนา มิได้ดาเนินการโดยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียวแต่ดาเนินการไปพร้อม กบั พทุ ธสาวกผูป้ ฏิบัติตนเพ่อื ความบริสุทธแ์ิ ละดีงามเป็นผู้สอนให้ผอู้ ื่นปฏิบตั ติ ามดว้ ยความ เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ปรากฏตัวอย่างของบุคคลผู้เป็นพุทธสาวกที่เป็น แบบอย่างของคุณงามความดีและมีความเป็นเลิศในด้านต่างๆ ที่เป็นส่วนสาคัญในการ เผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างมากมาย โดยเฉพาะพระสารีบุตรอัครสาวกเบ้ืองซ้ายผู้เป็น เอตทัคคะในด้านของผู้มีปัญญา และพระมหาโมคคัลลานะอัครสาวกเบ้ืองขวาผู้เป็น เอตทัคคะในบรรดาผู้มีฤทธิ์ พระอัครสาวกทั้งสององค์ถือเป็นกาลังสาคัญในการช่วย สมเด็จพระสมั มาสัมพทุ ธเจา้ เผยแผ่พระพทุ ธศาสนา

เอกสารเสริมความรเู้ ร่อื ง ปกิณกะสาระธรรม 46 แบบทดสอบหลงั เรียน เร่อื ง การตรสั รูแ้ ละการก่อต้ังพระพุทธศาสนา คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบทีถ่ ูกต้องทสี่ ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว และทาเครอ่ื งหมาย ทบั ตัวอกั ษร ก ข ค หรอื ง 1. “นายดา เป็นผู้มีมจิ ฉาทิฏฐิ มคี วามเห็นผดิ เป็นชอบแม้ใครตักเตอื นก็ไมเ่ คยฟงั ” จากข้อความดังกล่าว “นายดา” เปรียบได้กับบัว ประเภทใด ก. อุคฆฏติ ญั ญู ข. วิปจติ ัญญู ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ 2. ผทู้ ม่ี ีสตปิ ัญญาน้อยแต่มีสมั มาทิฏฐิ จดั เป็นบัวประเภทใด ก. อุคฆฏิตญั ญู ข. วิปจติ ัญญู ค. เนยยะ ง. ปทปรมะ 3. การที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรับคาทูลอาราธนาให้เผยแผ่พระธรรม คาสอนแ ก่เหล่าสรรพสัต ว์จากท้าวสหัมบดี พรหมเก่ียวข้ องกับ พระ คุณธรรม ในข้อใด ก. พระวสิ ุทธิคุณ ข. พระปญั ญาธิคุณ ค. พระมหากรุณาธคิ ุณ ง. พระคุณอนั ประเสริฐ 4. วิปจิตัญญู คือ บัวประเภทใด ก. บวั พน้ น้า ข. บวั เสมอนา้ ค. บัวใตน้ า ง. บวั ใต้โคลนตม

เอกสารเสริมความร้เู รอ่ื ง ปกิณกะสาระธรรม 47 5. การบาเพญ็ บารมเี พ่ือการตรสั รขู้ องสมเดจ็ พระสัมมาสัมพทุ ธเจา้ ในชาดกเร่อื งใด ทเี่ กย่ี วข้องกับการใชป้ ัญญา ก. พระมโหสถชาดก ข. พระสวุ รรณสาม ค. พระพรหมนารท ง. พระเนมริ าช 6. ความเมตตาของพระโพธิสัตว์ เปน็ การบาเพ็ญบารมที ี่ปรากฏในชาดกเรือ่ งใด ก. พระเนมิราช ข. พระมหาชนก ค. พระพรหมนารท ง. พระสวุ รรณสาม 7. ในอดีตชาตขิ องพระพุทธเจ้าที่ทรงตั้งพระทัยอย่างแนว่ แน่ว่าจะตอ้ งตรสั รู้เป็น พระสมั มาสมั พุทธเจ้าในอนาคตเปน็ พระคณุ ธรรมทีส่ อดคลอ้ งกับข้อใด ก. เป็นผใู้ ฝ่รู้ใฝ่เรยี นอย่างมนั่ คง ข. เป็นผ้มู ีพระปณิธานมัน่ คง ค. เป็นผอู้ ุทศิ ตนอย่างม่นั คง ง. เป็นผ้ตู รัสร้โู ดยชอบด้วยพระองคเ์ อง 8. พระเตมีย์ชาดก เปน็ การบาเพ็ญบารมใี นเรอ่ื งใด ก. เนกขมั บารมี ข. ปญั ญาบารมี ค. อธิษฐานบารมี ง. วิรยิ ะบารมี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook