Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ศาสนพิธีและพิธีกรรมทางศาสนา

ศาสนพิธีและพิธีกรรมทางศาสนา

Published by mooneungsiya, 2020-06-09 02:33:13

Description: ศาสนพิธี

Search

Read the Text Version

สถาบันพัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) พระพทุ ธศาสนา ม.๔-๖ ศาสนพธิ ีและพธิ กี รรมทางศาสนา

ศาสนพธิ ีและพธิ ีกรรมทางศาสนา ศาสนพิธี ศาสนพิธี คือ พิธีกรรมหรือระเบียบแบบแผนต่าง ๆ ท่ีดีงามท่ีพึงปฏิบัติ ในทางศาสนา ศาสนพิธใี นพระพทุ ธศาสนาแบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท ได้แก่

ศาสนพธิ ีและพธิ กี รรมทางศาสนา ศาสนพิธเี นื่องด้วยพุทธบญั ญัติ พธิ ีเวียนเทียน พธิ ถี วายสังฆทาน พธิ ีถวายผา้ อาบน้าฝน พธิ ที อดกฐิน พธิ ปี วารณา

ศาสนพธิ ีและพธิ ีกรรมทางศาสนา พธิ เี วยี นเทยี น ในวนั ส้าคัญทาง พระพุทธศาสนา มอี ยู่ ๔ วนั ได้แก่ วันวิสาขบชู า (วันพระพทุ ธเจ้า) วนั มาฆบูชา (วนั พระธรรม) วนั อาสาฬหบชู า (วนั พระสงฆ์) และวนั อัฐมีบชู า ระเบียบพธิ ีในการเวยี นเทียนในวันส้าคัญทงั ๔ วันนัน ปฏิบัตติ ามลา้ ดบั ดังนี เมื่อถงึ ก้าหนดเวลาแลว้ ให้ทกุ คนถือดอกไมแ้ ละ ธปู เทยี นมาประชมุ พรอ้ มกนั ทห่ี นา้ พระอโุ บสถหรือ ลานพระเจดยี ์ จดั ใหพ้ ระภิกษุ สามเณรอยู่แถวหน้า ต่อจากนนั ให้เปน็ เหลา่ พทุ ธศาสนกิ ชน

ศาสนพิธแี ละพธิ กี รรมทางศาสนา ประธานสงฆจ์ ุดธปู เทียนใหท้ กุ คนจดุ ตาม ประธานสงฆก์ ล่าวน้า นะโม... แลว้ วา่ ตาม พร้อมกนั ๓ จบ ตอ่ จากนนั กล่าวนา้ ค้าถวายดอกไม้ ธูปเทียน และกลา่ วคา้ บูชาพระรตั นตรยั หัวหนา้ สงฆ์เดินนา้ เวียนไปทางขวามอื ของสถานทเี่ วียนเทียนนนั ทุกคนเดนิ ตาม ขณะเดนิ เวียนเทียน รอบทห่ี นึ่งให้ระลกึ ถงึ พระพุทธคณุ โดยสวดบท “อติ ิปิ โส ภะคะวา ...” รอบที่ สองระลกึ ถึงพระธรรมคณุ โดยสวดบท “สวากขาโต...” และรอบทสี่ ามระลกึ ถงึ พระสงั ฆคณุ โดยสวดบท “สุปะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ...” จะสวดออกเสยี งหรอื นกึ ในใจกไ็ ด้ เมือ่ เดนิ ครบสามรอบแลว้ ใหน้ า้ ดอกไม้ ธูปเทียนไปปกั บูชาตามท่ีทจ่ี ดั ไว้ แล้วจึงเข้าไป ประชุมพรอ้ มกันในพระอุโบสถเพ่อื ทา้ วัตรคา้่ และสวดมนต์ ก่อนจะมกี ารเทศนพ์ เิ ศษ แสดงเรอ่ื งพุทธประวัติ และเรอื่ งเกย่ี วกบั วนั สา้ คัญนัน ๑ กัณฑ์ เปน็ อนั เสร็จพิธี

ศาสนพธิ แี ละพธิ กี รรมทางศาสนา พิธีถวายสังฆทาน มรี ะเบียบพิธี ดังนี ๑. จัดเตรยี มภัตตาหารใสภ่ าชนะใหเ้ รยี บรอ้ ย จะถวายกร่ี ปู ก็ไดแ้ ล้วแตศ่ รทั ธา การถวาย มี ๒ วธิ ี คือ ถวายพระรูปที่ออกบิณฑบาตในตอนเช้า หรอื นา้ ไปถวายท่ีวดั กไ็ ด้ ๒. สถานทีถ่ วายสงั ฆทาน ถา้ เปน็ บา้ นควรเลอื กจดั ในหอ้ งที่เหมาะสม ถ้ามพี ระพทุ ธรูป ควรตังบูชาด้วย เมือ่ พระสงฆม์ าพรอ้ มแลว้ ใหน้ า้ ภตั ตาหารทจ่ี ัดเตรยี มไว้มาตงั ตรงหน้าพระสงฆ์ แล้ว สมาทานศีลตามที่ประธานสงฆ์ให้ จบแล้วกลา่ วคา้ ถวายร่วมกันโดยให้หัวหน้ากลา่ วน้า ควรกล่าวทัง คา้ บาลีและคา้ แปล ๓. ในขณะกล่าวค้าถวายใหป้ ระนมมอื พอกลา่ วคา้ ถวายจบ ให้รับ “สาธุ” พรอ้ มกนั แล้วประเคนภตั ตาหารและของบรวิ ารแกพ่ ระสงฆ์ ๔. ขณะพระสงฆ์วา่ ยถา... ใหก้ รวดนา้ แล้วประนมมอื รบั พรตอ่ ไปจนจบ

ศาสนพธิ ีและพธิ กี รรมทางศาสนา คำถวายสงั ฆทาน (ประเภทสามัญ) คาบาลี อิมานิ มะยงั ภันเต ภัตตานิ สะปะริวารานิ ภกิ ขุสงั ฆสั สะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภนั เต ภิกขสุ ังโฆ อมิ านิ ภัตตานิ สะปะริวารานิ ปะฏคิ คณั หาตุ อัมหากัง ทีฆะรตั ตงั หติ ายะ สขุ ายะ. คาแปล ขา้ แตพ่ ระสงฆผ์ ้เู จรญิ ขา้ พเจ้าทงั หลาย ขอน้อมถวาย ภตั ตาหาร กับทงั บริวารเหล่านี แด่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับภัตตาหารกับทังบริวารเหล่านีของข้าพเจ้าทังหลาย เพื่อประโยชนแ์ ละความสขุ แกข่ า้ พเจา้ ทังหลาย สนิ (ตลอด) กาลนาน เทอญฯ

ศาสนพิธีและพธิ กี รรมทางศาสนา พิธถี วายผ้าอาบนาฝน ผา้ วัสสิกสาฎก หรอื ผา้ อาบน้าฝน คือ ผ้าที่ พระภกิ ษสุ งฆใ์ ช้สา้ หรบั นงุ่ ในเวลาอาบน้าฝน หรอื อาบนา้ ทัว่ ไป ซึ่งในการถวายมรี ะเบียบปฏบิ ัติ ดงั นี ๑. ในวันก้าหนดถวายผา้ อาบน้าฝนนี ให้ภิกษุ สามเณร และอบุ าสก อุบาสกิ ามา พรอ้ มกันที่อโุ บสถหรือศาลาการเปรยี ญ ก่อนถวายเจ้าอาวาสหรอื ภกิ ษรุ ูปหน่ึงแสดงธรรม อนุโมทนาวัสสิกสาฎกทานของทายก ๑ กัณฑ์ ถ้าถวายในวันธรรมสวนะ (วันพระ) เมื่อเทศกัณฑว์ นั ธรรมสวนะแลว้ ควรต่อทา้ ยอนุโมทนาวสั สิกสาฎกทานดว้ ย

ศาสนพิธีและพธิ ีกรรมทางศาสนา ๒. เมอ่ื แสดงธรรมจบแลว้ หัวหน้าผถู้ วายนา้ กราบพระและวา่ นะโมพร้อมกัน ๓ จบกอ่ น แล้วนา้ กลา่ วคา้ ถวายผ้าวสั สิกสาฎกซ่ึงตังไว้เบืองหน้าพระสงฆ์ ทังคา้ บาลแี ละคา้ แปล ๓. ระหว่างผถู้ วายกลา่ วคา้ ถวายพระสงฆ์ทงั หมดประนมมอื พอกล่าวจบพระสงฆร์ บั สาธุพร้อมกนั แล้วเจา้ อาวาสหรือภิกษุผแู้ จกจีวรของวัดนันออกรับผา้ แทนพระสงฆ์ ๔. ประเคนเสรจ็ แลว้ พระสงฆ์อนุโมทนาบท วเิ สสอนุโมทนา ในทานนใี ช้บท กาเลททนฺติ.. ๕. ระหวา่ งพระว่า ยถา...ผู้ถวายทงั หมดกรวดนา้ แลว้ ประนมมอื รบั พรไปจนจบ

ศาสนพิธีและพิธกี รรมทางศาสนา พธิ ีทอดกฐิน การทอดกฐนิ หรอื การถวายผา้ กฐิน นยิ มท้ากันตงั แต่ วันแรม ๑ คา้่ เดอื น ๑๑ ไปจนถึงวนั ขนึ ๑๕ ค่้า เดอื น ๑๒ คา้ วา่ กฐนิ แปลว่า กรอบไม้หรือสะดึง ซง่ึ เปน็ แมแ่ บบสา้ หรับเยบ็ ผ้าจีวรของภกิ ษุ กฐินมี ๒ ชนิด คอื จลุ กฐนิ กฐินท่ที กุ ฝา่ ยตอ้ งชว่ ยกันทาใหเ้ สร็จภายในกาหนดหนงึ่ วนั มหากฐนิ หรือกฐินสามัคคี เป็นกฐินท่อี าศยั ปจั จยั ไทยธรรมจานวนมากที่ ไม่รีบดว่ น

ศาสนพิธีและพธิ กี รรมทางศาสนา การแบง่ ประเภทของกฐิน แบง่ ตามประเภทของวัดที่จะนา้ กฐินไปทอด ได้แก่ พระอารามหลวง และวดั ราษฎร์ โดยแยกประเภทได้ ดังนี ๑. กฐินหลวง คือ ผ้าพระกฐินพระราชทานท่ีพระมหากษัตริย์เสด็จพระราชด้าเนินไป พระราชทาน หรือโปรดเกลา้ ฯ ให้พระบรมวงศานุวงศผ์ ู้ใหญ่ไปพระราชทาน ๒. กฐินต้น คือ ผ้าพระกฐินที่พระมหากษัตริย์เสด็จพระราชด้าเนินไปพระราชทาน ยังวดั ราษฎรเ์ ป็นการสว่ นพระองค์ ๓. กฐินพระราชทาน คือ ผ้าพระกฐินท่ีพระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน และเครื่องกฐินแก่พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ส่วนราชการ สมาคม หรือเอกชนใหไ้ ปทอดท่พี ระอารามหลวง ๔. กฐินราษฎร์ คือ กฐนิ ทปี่ ระชาชนท่ัวไปมีศรทั ธาจะถวายผ้าแกพ่ ระภิกษผุ อู้ ยู่ จ้าพรรษาครบไตรมาส ณ วัดราษฎร์แหง่ ใดแห่งหนงึ่ ได้แก่ จลุ กฐนิ หรอื มหากฐิน

ศาสนพิธแี ละพธิ ีกรรมทางศาสนา พิธีปวารณา ค้าว่า ปวารณา หมายถึง การยอมให้ว่ากล่าวตักเตือนหรือ เปิดโอกาสให้ว่ากล่าวตักเตือน เป็นสังฆกรรมท่ีพระสงฆ์ท้าในวันสุดท้ายของการจ้าพรรษา คือ ในวันขึน ๑๕ ค่้า เดือน ๑๑ เรียกว่า วันมหาปวารณา โดยภิกษุทุกรูปจะว่ากล่าวปวารณา คือ เปิดโอกาสให้ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ปวารณาเป็นสังฆกรรมประเภทญัตติกรรม คอื ทา้ โดยตังญัตตอิ ยา่ งเดียว ไม่ต้องสวดคา้ ขอมติ ท้าโดยมีภกิ ษตุ ังแต่ ๕ รปู ขนึ ไป

ศาสนพิธีและพิธกี รรมทางศาสนา ศาสนพิธีท่นี าพระพทุ ธศาสนาเข้าไปเกี่ยวขอ้ ง การท้าบุญเลยี งพระเน่ืองในโอกาสตา่ ง ๆ ทา้ บญุ ในงานมงคล ท้าบญุ งานอวมงคล

ศาสนพธิ ีและพธิ กี รรมทางศาสนา ๑. นิมนต์พระ งานมงคล มักนยิ มจ้านวนค่ี เช่น ๕-๗-๙ รปู งานอวมงคล มกั นิยมจา้ นวนคู่ เช่น ๔ รูป ๑๐ รูป วิธีนมิ นต์ ใหน้ ิมนต์ดว้ ยวาจาหรอื ทา้ หนังสอื อาราธนา โดยระบวุ า่ นิมนต์ไปงานอะไร กา้ หนดเวลา สถานท่ี พระก่รี ูป จะจัดรถมารับหรือใหท้ า่ นไปเอง ระวงั เวลานมิ นตฉ์ นั อย่าระบุ อาหาร เพราะผดิ พระวินัย

ศาสนพิธีและพิธกี รรมทางศาสนา ๒. จัดสถานที่ มีหลกั การกว้าง ๆ ดงั นี •กว้างขวางพอแก่ผมู้ ารว่ มพธิ ี •สะอาด อากาศถ่ายเทไดด้ ี ไมม่ เี สียงดังรบกวน •สะดวก สบาย ทงั ทางเข้าออก ท่ีจอดรถ และห้องนา้ •มีความเหมาะสมกบั งาน เช่น งานมงคล หรืออวมงคล จะจดั บริเวณใด ชนั บนหรือชนั ล่าง ๓. การเตรียมอุปกรณ์ มี ๒ ประเภท คือ ๑) อปุ กรณท์ ว่ั ไป เช่น พระพุทธรปู แจกนั โตะ๊ หมู่บชู า อาสนะ ๒) อปุ กรณเ์ ฉพาะพธิ ี - งานพิธีมงคล เช่น สายสญิ จน์ ขนั ท้านา้ มนต์ - งานพธิ อี วมงคล เช่น ภษู าโยง ธูปไม้ระก้า

ศาสนพิธแี ละพธิ ีกรรมทางศาสนา ๔. การเตรยี มบุคลากร คอื เตรยี มบุคคลทตี่ อ้ งปฏบิ ตั ใิ นพธิ ี ได้แก่ พระสงฆ์ ประธานพธิ ี ประชาสัมพนั ธ์ ศาสนพิธีกร ตลอดจนผทู้ ี่จะเชญิ มารว่ มงาน ๕. การเตรยี มเวลา ตอ้ งมกี ารจัดลา้ ดบั เวลาของพิธีใหเ้ หมาะสม เชน่ เวลาฤกษ์ เวลาพระสงฆ์ ฉันภตั ตาหาร เวลาเรม่ิ ตน้ พธิ ี เวลาสินสุดงาน ๖. การเตรยี มกาหนดการ ก้าหนดการคือ เอกสารทบ่ี อกลกั ษณะงาน สถานที่ วนั เวลาในการ จัดงาน บอกล้าดับขันตอน และการแต่งกาย เพอ่ื ใหผ้ ู้เกย่ี วขอ้ งไดเ้ ข้าใจตรงกัน

ศาสนพธิ แี ละพิธกี รรมทางศาสนา บุญพธิ ี ทานพิธี กุศลพิธี ปกณิ กพิธี ๑. บญุ พธิ ี ได้แก่ พิธีการท้าบุญเนื่องในโอกาสตา่ ง ๆ ๒. ทานพธิ ี เป็นพิธีถวายทาน ซงึ่ ระยะเวลาการถวายทานมักแบง่ เปน็ ๒ โอกาส คอื - กาลทาน หมายถึง ถวายในกาลท่คี วรถวายสงิ่ นัน - อกาลทาน หมายถึง ถวายไมเ่ น่อื งด้วยกาล คือ นอกกาล การถวายทานในพระพทุ ธศาสนามี ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ - ปาฏิบุคลกิ ทาน หมายถึง ทานทีถ่ วายเจาะจงพระสงฆร์ ปู ใดรปู หนง่ึ - สงั ฆทาน หมายถงึ ทานทถ่ี วายไมเ่ จาะจง คอื ถวายใหพ้ ระสงฆเ์ ฉลย่ี กันใช้สอย หรอื เป็นของสว่ นรวมภายในวดั

ศาสนพิธแี ละพิธกี รรมทางศาสนา ๓. กศุ ลพิธี เปน็ พิธีบา้ เพญ็ กุศล เชน่ พิธเี วยี นเทียน ๔. ปกิณกพิธี ไดแ้ ก่ พธิ ีเบ็ดเตล็ดทไี่ มอ่ ยู่ใน ๓ ประเภทแรกข้างต้น เชน่ พธิ ีพทุ ธาภิเษก พิธมี ังคลาภิเษก พิธีวางศิลาฤกษ์ พธิ ยี กช่อฟ้า

ศาสนพธิ ีและพธิ ีกรรมทางศาสนา คุณค่าและประโยชนข์ องศาสนพธิ ี ๑. ประโยชนท์ างใจ ช่วยให้เกดิ คณุ ธรรมขนึ ในตวั ผปู้ ฏบิ ัติ ได้แก่ •ความมีสติ •ความสามัคคี •ความเปน็ ระเบียบประณีตงดงาม •เกิดความช่มุ ชนื่ เบกิ บานใจ •เกิดความฉลาด ๒. รักษาเอกลกั ษณ์ของชาติ ทไี่ ม่มีชาตใิ ดเหมอื น เพราะศาสนพิธีแสดงถึงความเปน็ ไทย ซง่ึ ไม่เคยตกเป็นทาสของชาตใิ ด ทังยังปอ้ งกันมใิ หช้ าติถกู ลืม ๓. ชว่ ยธารงพระพทุ ธศาสนา ศาสนพธิ เี ปน็ ขนั ตอนชักจูงให้ผปู้ ฏบิ ัตซิ าบซงึ เกิดศรัทธา ในพระพทุ ธศาสนา มใี จมงุ่ มัน่ ท่ีจะศึกษาแกน่ แท้ของพระพทุ ธศาสนาในขันลกึ ต่อไปนไี ดด้ ี

ศาสนพิธแี ละพธิ ีกรรมทางศาสนา พิธีบรรพชาอปุ สมบท พิธบี รรพชาอุปสมบท หรอื การบวชเปน็ ประเพณสี า้ คญั ของชาวพุทธทม่ี มี าแต่ โบราณกาล การบวช แบง่ เปน็ ๒ ลกั ษณะ คอื บวชเป็นสามเณร เรยี กว่า บรรพชา ต้องรกั ษาศีล ๑๐ ขอ้ บวชเป็นพระ เรยี กวา่ อุปสมบท ตอ้ งรกั ษาศีล ๒๒๗ ขอ้

ศาสนพธิ ีและพิธกี รรมทางศาสนา คุณสมบัตขิ องผู้ที่จะบรรพชาอุปสมบท คณุ สมบัตขิ องผู้ทจ่ี ะบรรพชา ผู้ที่จะบรรพชาเป็นสามเณรต้องมีคุณสมบตั หิ ลายประการ เชน่ ไม่เปน็ เด็กเกนิ ไป ไมเ่ ป็นโรคตดิ ต่อ มอี วัยวะสมบรู ณไ์ มม่ อี วยั วะพิการ เชน่ มือขาด เท้าขาด ตาบอด หหู นวก คนง่อยเปลีย คุณสมบัตขิ องผู้ทีจ่ ะอุปสมบทจะตอ้ งประกอบดว้ ยคุณสมบตั หิ ลายประการ คอื ไมเ่ ปน็ คนทต่ี ้องหา้ ม เชน่ ๑) อายไุ มค่ รบ ๒๐ ปี ๒) บณั เฑาะก์ (กะเทย คนไม่ปรากฏชดั ว่าเปน็ เพศชายหรอื เพศหญิง ไดแ้ ก่ กะเทย โดยกา้ เนิด ชายผู้ถูกตอนท่ีเรยี กว่า ขนั ที ชายมรี าคะกล้าประพฤตินอกจารีตในทางเสพกามและ ยัว่ ยวนชายอน่ื ให้เป็นเช่นนนั )

ศาสนพธิ ีและพธิ ีกรรมทางศาสนา เครอ่ื งอฐั บรขิ าร คณุ สมบัตทิ ีจ่ ะขาดไมไ่ ด้อีกประการหนึง่ คอื ผ้จู ะบรรพชาอปุ สมบทตอ้ งมเี ครื่อง อฐั บรขิ ารครบบรบิ ูรณ์ บริขารของสามเณร ได้แก่ ๑) สบง ๒) จีวร ๓) ประคดเอว ๔) อังสะ ๕) ผา้ รดั อก ๖) บาตร เครื่องอฐั บรขิ าร ๘ อยา่ ง สา้ หรบั ผู้จะอปุ สมบท ไดแ้ ก่ ๑) บาตร ๒) สบง (ผา้ นงุ่ ) ๓) จวี ร (ผ้าห่ม) ๔) สังฆาฏิ (ผา้ พาดบ่า) ๕) ประคดเอว ๖) ผา้ กรองนา้ ๗) มีดโกน ๘) กล่องเข็มพรอ้ มดา้ ยและเข็ม

ศาสนพธิ แี ละพธิ กี รรมทางศาสนา ลำดบั พธิ กี ารบรรพชาอุปสมบท พธิ บี รรพชาอปุ สมบท มลี ้าดบั ส้าคญั ดงั นี ๑) การลาญาติผ้ใู หญห่ รือผทู้ ่เี คารพนบั ถือ ๒) การปลงผม ๓) การนา้ นาคเข้าโบสถ์ (นาค หมายถึง บรุ ุษที่เตรียมจะบวชเปน็ ภิกษสุ ามเณรในพระพทุ ธศาสนา) ๔) พธิ บี รรพชาอุปสมบท ๕) การกรวดน้าหลงั จากพิธีบรรพชาอุปสมบท

ศาสนพิธีและพธิ ีกรรมทางศาสนา ประโยชนข์ องการบรรพชาอปุ สมบท ในสังคมชาวพุทธ การบรรพชาอปุ สมบทเป็นการทา้ ความดที ่ปี ระเสรฐิ อยา่ งยงิ่ ผู้บรรพชา อุปสมบทจะไดร้ ับการยกยอ่ งและยอมรบั ว่าเป็นผตู้ อบแทนคุณบิดามารดา ซ่งึ มผี ลานิสงสส์ ูงกว่า การตอบแทนดว้ ยวธิ ีอน่ื นอกจากนแี ล้วการบรรพชาอปุ สมบทยงั มีประโยชน์ ดงั นี ๑) เปน็ การปอ้ งกันการถูกชักนา้ ไปทางเสอ่ื มเสยี ๒) เปน็ การปลกู ฝังคณุ ธรรม ศลี ธรรม วฒั นธรรม และประเพณอี ันดงี ามให้คงอยตู่ ลอดไป ๓) เปน็ การชว่ ยสืบตอ่ อายพุ ระพุทธศาสนา ๔) เปน็ การรักษาจารตี ประเพณีอนั ดงี ามของไทย ๕) เปน็ การช่วยแกป้ ญั หาสงั คมเกยี่ วกับเยาวชนทเี่ หนิ ห่างจากศีลธรรมและวฒั นธรรม ๖) เปน็ การเปิดโอกาสใหเ้ ยาวชนไดศ้ ึกษาและปฏิบตั ิธรรมอย่างแท้จรงิ

ศาสนพิธีและพธิ ีกรรมทางศาสนา การแสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ คือการประกาศตนของผแู้ สดงตนวา่ เป็นผยู้ อมรับ นับถอื พระพทุ ธเจ้าเปน็ ของตน เปน็ การแสดงตนใหป้ รากฏว่ายอมรบั นบั ถอื พระพทุ ธศาสนาเป็น ศาสนาประจ้าชวี ติ ของตน พธิ แี สดงตนเป็นพุทธมามกะเปน็ พิธีทท่ี า้ กนั มาตังแต่ครงั พุทธกาล เพ่อื แสดงให้ร้วู ่าตนละลทั ธเิ ดมิ และรบั เอาพระพุทธศาสนาไว้เป็นทนี่ บั ถอื การปฏญิ าณตนเป็นผู้นบั ถือพระพุทธศาสนา ในครงั พทุ ธกาลไมไ่ ด้ทา้ คราวเดยี ว แต่ได้ ทา้ ซ้า ๆ ตามกา้ ลังแห่งศรัทธาและความเลอ่ื มใส จนเปน็ ประเพณนี ยิ มแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ สืบตอ่ เน่ืองกนั มาจนถึงปจั จบุ นั

ศาสนพิธีและพธิ กี รรมทางศาสนา การเตรยี มพธิ แี สดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ การเตรียมพธิ สี าหรบั ผูท้ ่จี ะแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ มีดงั นี ๑) การมอบตัว ผู้ทีป่ ระสงค์จะประกอบพธิ ตี อ้ งไปมอบตวั กับพระอาจารย์ท่ีตน เคารพนบั ถอื และมงุ่ หมายจะใหเ้ ป็นประธานสงฆ์ในพิธกี อ่ น ถ้าเปน็ เด็กตอ้ งมผี ปู้ กครองนา้ ไป แต่ถ้าเปน็ พธิ แี สดงหมู่ เชน่ นักเรียนให้ครูหรอื ผแู้ ทนโรงเรยี นเปน็ ผนู้ า้ บญั ชีรายชอื่ ของนกั เรียน ทจี่ ะเขา้ พธิ มี อบกบั พระอาจารย์ การมอบตัวควรมีดอกไม้ ธปู เทียน ใสพ่ านไปถวายพระอาจารย์ ตามธรรมเนียมทม่ี มี าแตค่ รงั โบราณ ๒) การเตรียมการในการประกอบพธิ ีนี ต้องมีการเตรียมใหพ้ ร้อมทงั ฝา่ ยสงฆแ์ ละ ฝ่ายผู้แสดงตน ดังนี

ศาสนพธิ ีและพิธกี รรมทางศาสนา ฝ่ายสงฆ์ พระอาจารยผ์ เู้ ปน็ ประธานสงฆท์ ่ีไดร้ บั รายชื่อผู้มอบตวั แสดงตนเปน็ พุทธมามกะแลว้ ต้องจดั เตรยี มบริเวณพิธีภายในวดั ไว้ใหพ้ ร้อมกอ่ นกา้ หนดนัด เพราะพิธี แสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะนี ประกอบขนึ ทีพ่ ระอโุ บสถในวดั จะเหมาะทส่ี ดุ เพราะเปน็ สถานท่ี สา้ คญั อันเป็นหลกั ของวดั แตถ่ า้ ในพระอโุ บสถไมส่ ะดวก ควรจัดในวิหารหรอื ศาลาการเปรยี ญ ไมค่ วรจดั ในที่กลางแจง้ ตังโต๊ะบชู าโดยมพี ระพทุ ธรูปเปน็ ประธาน บริเวณพธิ ีจดั ให้สะอาดเรียบร้อย ถัดจาก โต๊ะบชู ามาทางซ้ายให้จดั ตงั อาสนส์ งฆแ์ ลว้ ปอู าสนะพระสงฆ์หนั หนา้ ออกตามพระประธานนนั อาสนะพระอาจารย์อยู่ขา้ งหนา้ เฉพาะองค์เดยี ว อาสนะพระสงฆอ์ ยูด่ า้ นหลงั พระอาจารย์ เรยี งเป็นแถวหน้ากระดาน ถ้าเป็นการแสดงตนหมูค่ วรเตรยี มท่ปี ักธูปเทยี นและท่ีวางดอกไม้ บูชาพระสา้ หรบั ผแู้ สดงตนไวข้ ้างหนา้ ให้พรอ้ ม ถา้ สถานที่ไมอ่ า้ นวยทจ่ี ะจดั เช่นนไี ด้

ศาสนพิธแี ละพธิ ีกรรมทางศาสนา กจ็ ัดอาสนะของพระอาจารย์และพระสงฆ์ใหอ้ ยู่ทางขวามอื ของพระประธาน และหนั หน้าไปทางซา้ ย ของพระประธาน วธิ จี ัดคอื ใหอ้ าสนะพระอาจารย์อยูด่ า้ นหนา้ อาสนะพระสงฆเ์ รียงแถวอยูด่ า้ นหลงั พระอาจารย์ การจดั อยา่ งนีกเ็ พ่อื ให้ผแู้ สดงตนเขา้ แสดงตนตอ่ พระสงฆ์ โดยหนั หน้าตรงกบั พระอาจารย์แลว้ ได้หนั มอื ขวาเขา้ หาพระประธานนบั เป็นการแสดงความเคารพอกี ประการหน่ึงดว้ ย ฝ่ายผู้แสดงตน จะต้องเตรยี มผา้ ขาวสา้ หรบั นุ่งผืนหนึง่ ผู้ชายควรนุ่งโจงกระเบน ผ้หู ญิงควร นุ่งผา้ ถงุ หรอื กระโปรงกไ็ ดแ้ ล้วแตค่ วามเหมาะสม สวมเสอื สีขาวแบบสภุ าพ และตอ้ งมผี า้ ขาวสา้ หรบั หม่ สไบเฉียงอกี หนง่ึ ผนื เหมอื นกนั ทังชายและหญิง ถา้ เปน็ การแสดงตนหมู่ เชน่ นักเรียน หรอื ขา้ ราชการ หากไมน่ ่งุ ขาวห่มขาวก็ใหแ้ ตง่ เครอ่ื งแบบของตนเองให้เรยี บร้อย และตอ้ งถอดรองเทา้ ในเวลาเข้าร่วมพธิ ี อีกประการหนง่ึ คือ ต้องเตรียมเคร่อื งสกั การะส้าหรบั ถวายพระอาจารยใ์ นพธิ ดี ้วย คือ ดอกไม้ ธูปเทียน ใสพ่ าน ๑ ท่ี กบั ดอกไม้ ธปู เทียน สา้ หรบั จุดบูชาพระในพธิ ี ๑ ท่ี หากจะมี เครอ่ื งไทยธรรมถวายพระสงฆใ์ นพธิ ดี ว้ ย กแ็ ล้วแต่ศรัทธา

ศาสนพิธแี ละพิธีกรรมทางศาสนา คาปฏญิ าณ เอสาห้ ภนเฺ ต สจุ ิรปรนิ พิ พฺ ตุ มปฺ ิ ต้ ภควนตฺ ้ สรณ้ คจฉฺ ามิ ธมมฺ ญจฺ สงฺฆญฺจ พุทธมามโกติ ม้ สงฺโฆ ธาเรตุ คาแปล ขา้ แตพ่ ระสงฆ์ผเู้ จรญิ ข้าพเจ้าถึงพระผมู้ พี ระภาคเจา้ พระองคน์ นั แมป้ รินิพพานไปนานแลว้ ทงั พระธรรมและพระสงฆ์ เปน็ สรณะที่ระลึกนบั ถือ ขอพระสงฆ์จงจ้าข้าพเจา้ ไวว้ ่าเป็นพทุ ธมามกะ ผู้รบั เอาพระพุทธเจ้าเป็นของตน คือ ผ้นู ับถอื พระพุทธเจ้า


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook