Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนคณิตศาสตร์พื้นฐาน 20000-1401

แผนคณิตศาสตร์พื้นฐาน 20000-1401

Description: แผนคณิตศาสตร์พื้นฐาน 20000-1401

Search

Read the Text Version

คำนำ แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชา คณติ ศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา 20000-1401 เลม่ น้ี เรียบเรยี งขึ้นตามจุดประสงค์ รายวิชา มาตรฐานรายวิชา และคาอธิบายรายวิชา หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ของ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แ ผ น ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ ใ น เ ล่ ม นี้ เ ป็ น แ ผ น ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ ที่ มุ่ ง เ น้ น ส ม ร ร ถ น ะ แ บ บ บู ร ณ า ห ลั ก ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3D คา่ นยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ และพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะตามความ ต้องการของสถานประกอบการ ประกอบด้วย 6 หน่วย เรมิ่ จาก สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สมการเชงิ เส้นสองตัว แปร ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสถิติ การแจกแจงความถ่ีข้อมูล การวัดแนวโน้มเขา้ สู่ส่วนกลาง การวัดการกระจายของ ขอ้ มูล รวมทั้งยังมีบันทกึ การสอน และวิจัยในชั้นเรียน เพื่อเป็นการแก้ไขปญั หาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนไม่ ผ่านเกณฑ์ หวังว่าแผนการจดั การเรยี นรู้เล่มนจ้ี ะเป็นประโยชนแ์ กน่ กั เรียน ครู-อาจารย์ ตลอดจนผใู้ ช้สมดงั เจตนารมณ์ของ ผ้เู รียบเรียง หากมีขอ้ เสนอแนะประการใด ผเู้ รยี บเรียงยินดีนอ้ มรับไวด้ ว้ ยความขอบคุณยงิ่ ผูเ้ รียบเรยี ง นางสาววจิ ติ รายา ล่ิมดุลย์

สำรบัญ หนำ้ ก เรอื่ ง 1 ลักษณะรายวิชา 5 แผนการจดั การเรยี นรู้หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง สมการเชงิ เส้นตวั แปรเดียว 8 แผนการจัดการเรียนร้หู นว่ ยท่ี 2 เรื่อง สมการเชิงเส้นสองตวั แปร 11 แผนการจดั การเรยี นรู้หนว่ ยท่ี 3 เรอ่ื ง ความรเู้ บื้องตน้ เก่ียวกับสถติ ิ 15 แผนการจัดการเรยี นรหู้ นว่ ยที่ 4 เร่อื ง การแจกแจงความถขี่ องขอ้ มลู 18 แผนการจดั การเรยี นรู้หน่วยที่ 5 เรอ่ื ง การวัดแนวโนม้ เขา้ สู่ส่วนกลาง แผนการจดั การเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 6 เรื่อง การวัดการกระจายของขอ้ มลู

ลักษณะรำยวชิ ำ รหัสวิชำ 20000-1401 รำยวชิ ำ คณิตศำสตร์พื้นฐำน ท-ป-น (2-0-2) หลกั สตู รประกำศนียบตั รวิชำชีพ 2562 ประเภทวิชำ ทักษะชีวิต จดุ ประสงค์รำยวิชำ 1. รู้และเข้าใจเกยี่ วกับสมการเชงิ เส้นตัวแปรเดียว ระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร สถิตเิ บื้องตน้ การวัด แนวโนม้ เขา้ สสู่ ่วนกลาง การวดั ตาแหนง่ และการวัดการกระจายของข้อมลู 2. มีทกั ษะกระบวนการคิดและแกป้ ญั หาเก่ยี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชิงเสน้ สองตัวแปร สถิติเบือ้ งต้น การวัดแนวโนม้ เข้าสสู่ ่วนกลาง การวัดตาแหนง่ และการวดั การวัดการกระจายของขอ้ มลู และ นาไปประยุกต์ใช้ในงานอาชีพ 3. มีเจตคติและนิสยั ทด่ี ีในการคิด วิเคราะห์ แก้ปญั หาในสถานการณต์ ่าง ๆ อย่างเป็นระบบและมีความ ละเอียดรอบคอบในการปฎบิ ัติงาน สมรรถนะรำยวิชำ 1. ประยกุ ต์ความรเู้ กี่ยวกับสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว ระบบสมการเชิงเสน้ สองตัวแปร ไปใชใ้ นสถานการณ์ หรอื ปญั หาที่กาหนด 2. สร้างตารางแจกแจงคตวามถี่ กราฟหรอื แผนภมู ิ และตคี วามหมายหรอื วเิ คราะหข์ ้อมูลจากตาร2าง กราฟ Xหรือแผนภมู ิ 3. เลอื กใช้ค่าเฉลีย่ เลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยมใหเ้ หมาะสมกบั ข้อมูล 4. วัดตาแหน่งทีข่ องขอ้ มลู โดยใช้เปอรเ์ ซ็นต์ไทล์ 5. วดั การกระจายของขอ้ มลู โดยใช้พสิ ัย สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสัทธข์ิ องพิสยั และสมั ประสทิ ธข์ิ อง การแปรผัน คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์เกี่ยวกบั สมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว ระบบสมการเชิงเส้นสอง ตัวแปร สถติ ิเบื้องต้น การวดั แนวโน้มเขา้ สู่สว่ นกลาง การวดั ตาแหน่งและการวัดการกระจายของข้อมูล และการ ประยุกตใ์ ช้ในงานอาชีพ ก คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี

1หน่วยการเรียนร้ทู ี่ สมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว สปั 1ด-า3หท์ ี่ 2+2=? (Linear Equations in One Variable) ชวั่ โมงท่ี1-6 X2 1 สาระสาคญั สมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี ว เป็นการแก้สมการทม่ี ตี วั แปรปรากฏอยู่ในสมการเพยี ง 1 ตวั และมีเลขชก้ี าลงั ของตวั แปรเป็น 1 เสมอ โดยใชส้ มบตั ขิ องการเทา่ กนั ของจานวนจรงิ รวมทงั้ การแกโ้ จทยส์ มการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว จากการกาหนดตวั แปรใหก้ บั สง่ิ ทโ่ี จทยต์ อ้ งการหาหรอื สงิ่ ทเ่ี ราไมท่ ราบ แลว้ สรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตวั แปรกบั สง่ิ ทโ่ี จทยก์ าหนดให้ และดาเนินการแกส้ มการเพอ่ื หาคาตอบ 2 สมรรถนะประจาหน่วย 1. คานวณการแกส้ มการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว 2. ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี วในสถานการณ์จรงิ หรอื ปัญหาทก่ี าหนด 3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกรูปทวั่ ไปของสมการได้ 2. บอกลกั ษณะของสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี วได้ 3. แกส้ มการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี วโดยใชส้ มบตั กิ ารเท่ากนั ของจานวนจรงิ ได้ 4. แกโ้ จทยป์ ัญหาสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี วได้ 5. มคี วามกระตอื รือร้นในการตอบคาถาม มีวนิ ัยและมีความรบั ผดิ ชอบในการทางาน ตรงต่อเวลา มคี วามสนใจใฝ่รแู้ ละมคี วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ในการแกโ้ จทยป์ ัญหา มคี วามซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ต่อการ ทางาน มคี วามรกั สามคั คแี ละมมี นุษยสมั พนั ธท์ ด่ี ตี อ่ เพอ่ื นในกลุ่ม 4 สาระการเรยี นรู้ 2. รปู แบบทวั่ ไปของสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว 4. การแกส้ มการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ท่ี 1 1. รูปแบบทวั่ ไปของสมการ แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 2 3. สมบตั กิ ารเท่ากนั ของจานวนจรงิ แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 3 5. โจทยป์ ัญหาของสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว 1 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี

5 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 1 รูปแบบการเรยี นการสอน :การจดั การเรยี นรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5Es) 1. ขนั้ กระต้นุ ความสนใจ (Engage)ผสู้ อนกระตนุ้ ความสนใจของผเู้ รยี น โดยผสู้ อนยกตวั อยา่ งสมการ แลว้ ให้ผเู้ รยี นชว่ ยกนั บอกวา่ จากสมการทก่ี าหนด สมการใดเป็นจรงิ และสมการใดเป็นเทจ็ พรอ้ ม บอกเหตุผลประกอบ 2. ขนั้ สารวจค้นหา (Explore)ผู้เรียนแต่ละคนศกึ ษาความรู้เร่อื ง รูปแบบทัว่ ไปของสมการและ รปู แบบทวั ่ ไปของสมการเชิงเส้นตวั แปรเดียวจากหนงั สอื เรยี น 3. ขนั้ อธิบายความรู้ (Explain)ผู้สอนเขยี นสมการบนกระดาน แล้วใหผ้ ู้เรียนช่วยกนั หาคาตอบของ สมการ พรอ้ มแสดงวธิ กี ารตรวจสอบคาตอบของสมการในแต่ละขอ้ 4. ขนั้ ขยายความเข้าใจ (Expand)ผเู้ รยี นแตล่ ะคนเขยี นสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว คนละ 1 ขอ้ แล้ว สุ่มผูเ้ รยี นคนอ่นื ๆ ตอบว่าสมการดงั กล่าวเป็นสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี วหรอื ไม่ พร้อมอธบิ าย เหตผุ ลประกอบผเู้ รยี นทเ่ี ป็นเจา้ ของโจทยส์ มการเฉลยคาตอบ 5. ขนั้ ตรวจสอบผล (Evaluate)ผเู้ รยี นแต่ละคนทาแบบฝึกทกั ษะที่ 1.1 เสรจ็ แลว้ ผสู้ อนสุ่มผเู้ รยี นทลี ะ 1 คน ออกมานาเสนอคาตอบของตนเองหน้าชนั้ เรยี น คนละ 1 ขอ้ ผสู้ อนตรวจสอบความถูกตอ้ ง แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ท่ี 2 รูปแบบการเรยี นการสอน :การจดั การเรียนร้แู บบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5Es) 1. ขนั้ กระต้นุ ความสนใจ (Engage)ผสู้ อนยกตวั อย่างสมการแลว้ ใหผ้ เู้ รยี นชว่ ยกนั บอกวา่ สมการใน ขอ้ ใดเป็นสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว จากนนั้ ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นตอบวา่ ผเู้ รยี นมวี ธิ กี ารหาคาตอบจาก สมการทผ่ี สู้ อนกาหนดไดโ้ ดยวธิ กี ารใดบา้ ง 2. ขนั้ สารวจค้นหา (Explore)ผู้เรยี นแต่ละคนศกึ ษาความรูเ้ ร่อื ง สมบตั ิการเท่ากนั ของจานวนจริง และการแกส้ มการเชิงเส้นตวั แปรเดียว จากหนงั สอื เรยี น 3. ขนั้ อธิบายความรู้ (Explain)ผสู้ อนและผเู้ รยี นดูตวั อย่างสมบตั กิ ารเท่ากนั ของจานวนจรงิ และการ แก้สมการเชงิ เส้นตวั แปรเดียว จากหนังสือเรยี น แล้วช่วยกนั อธบิ ายวธิ ีการหาคาตอบในแต่ละ ตวั อยา่ ง 4. ขนั้ ขยายความเข้าใจ (Expand)ผสู้ อนยกตวั อย่างสมการเพมิ่ เตมิ จากหนงั สอื เรยี น แลว้ สุม่ ผเู้ รยี น ออกมาแสดงวธิ ีการแก้สมการหน้าชนั้ เรียน เสรจ็ แล้วให้ผู้เรยี นแต่ละคนทาแบบฝึ กทกั ษะที่ 1.2 จากนนั้ ผสู้ อนสมุ่ ผเู้ รยี นทลี ะ 1 คน ออกมาแสดงวธิ กี ารแกส้ มการในแบบฝึกทกั ษะ คนละ 1 ขอ้ 5. ขนั้ ตรวจสอบผล (Evaluate)ผสู้ อนตรวจสอบผลการเรยี นรูข้ องผเู้ รยี นแต่ละคนจากการทาแบบฝึก ทกั ษะท่ี 1.2 2 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี

แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ที่ 3 รปู แบบการเรยี นการสอน :การจดั การเรียนร้แู บบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5Es) 1. ขนั้ กระตุ้นความสนใจ (Engage)ผสู้ อนเขยี นตวั อย่างคาถามบนกระดาน แล้วให้ผเู้ รยี นชว่ ยกนั คดิ วธิ ีการในการหาคาตอบ จากนัน้ ผู้สอนเฉลยคาตอบโดยเช่อื มโยงถึงวธิ ีการแก้สมการท่ีสามารถ นามาใชใ้ นการแกโ้ จทยป์ ัญหาสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี วได้ 2. ขนั้ สารวจค้นหา (Explore)ผเู้ รยี นแต่ละคนศกึ ษาความรู้เร่อื ง โจทยป์ ัญหาของสมการเชิงเส้นตวั แปรเดียวจากหนงั สอื เรยี น 3. ขนั้ อธิบายความรู้ (Explain)ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั ตงั้ โจทยป์ ัญหาเพม่ิ เตมิ จากหนงั สอื เรยี น แลว้ ให้ผู้เรยี นชว่ ยกนั แสดงวธิ ที า จากนัน้ ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นแต่ละคนทาแบบฝึ กทกั ษะที่ 1.3เสรจ็ แล้ว ผสู้ อนสุ่มผเู้ รยี นออกมานาเสนอคาตอบ พรอ้ มแสดงวธิ ที าหน้าชนั้ เรยี น คนละ 1 ขอ้ 4. ขนั้ ขยายความเข้าใจ (Expand)ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แล้วใหแ้ ต่ละกลุ่มแขง่ ขนั แกโ้ จทยป์ ัญหาของสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียว โดยให้คดิ โจทยป์ ัญหา กลุ่มละ 2 ขอ้ พร้อมเฉลย คาตอบ จากนนั้ สุ่มผเู้ รยี นกลุ่มอ่นื ออกมาตอบโจทยป์ ัญหา เสรจ็ แล้วใหผ้ เู้ รยี นแต่ละคนทาใบงานที่ 1.2 และใบมอบหมายงานที่ 1.1 5. ขนั้ ตรวจสอบผล (Evaluate) ผสู้ อนตรวจสอบผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นแต่ละคนจากการทาแบบฝึก ทกั ษะ ใบงานและใบมอบหมายงาน 6 สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าคณิตศาสตร์พ้นื ฐานอาชพี รหสั วชิ า2000-1402บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั 2. โจทยต์ วั อยา่ ง 3. ตวั อย่างคาถาม 7 หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1 หลกั ฐานความรู้ - แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน 1) แบบฝึกทกั ษะท่ี 1.1-1.3(จากหนงั สอื เรยี น) 2) ใบงานท่ี 1.1-1.2 (จากหนงั สอื เรยี น) 3) ใบมอบหมายงานท่ี 1.1 7.3 หลกั ฐานแสดงคณุ ธรรมจริยธรรม/ค่านิ ยม/คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 2) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 3) แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 3 คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี

8 การวดั และประเมินผล 8.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 8.2 การประเมินระหวา่ งเรยี น ประเมนิ รายบคุ คล 1) ตรวจแบบฝึกทกั ษะท่ี 1.1-1.3(จากหนงั สอื เรยี น) 2) ตรวจใบงานท่ี 1.1-1.2 (จากหนงั สอื เรยี น) 3) ตรวจใบมอบหมายงานท่ี 1.1 4) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 5) ประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมนิ รายกลมุ่ - สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ 8.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 4 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี

2หน่วยการเรียนร้ทู ่ี สมการเชิงเส้นสองตวั แปร สปั 4ด-า6หท์ ี่ 2+2=? (Linear Equations in Two Variables) ชวั่ โมงท่ี7-12 X2 1 สาระสาคญั สมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร เป็นสมการทม่ี ตี วั แปรสองตวั โดยท่ตี วั แปรแต่ละตวั มเี ลขชก้ี าลงั เท่ากับหน่ึง และไม่มกี ารคูณระหวา่ งตวั แปร นอกจากน้ยี งั มรี ะบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร เป็นสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรทม่ี ี สองสมการ ซ่งึ สามารถหาคาตอบของระบบสมการไดจ้ ากกราฟหรอื การแกส้ มการโดยตรง ทงั้ น้คี าตอบทไ่ี ดจ้ าก การแกร้ ะบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร อาจมคี าตอบเดยี ว หลายคาตอบ หรอื ไมม่ คี าตอบกไ็ ด้ 2 สมรรถนะประจาหน่วย 1. คานวณการแกส้ มการเชงิ เสน้ สองตวั แปรและระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร 2. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั สมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรในสถานการณจ์ รงิ หรอื ปัญหาทก่ี าหนด 3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของสมการเชงิ เส้นสองตวั แปรได้ 2. บอกความหมายของระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรได้ 3. เขยี นกราฟของระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรและหาคาตอบจากกราฟได้ 4. หาคาตอบโดยการแกร้ ะบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรโดยวธิ ตี ่างๆ ได้ 5. แกโ้ จทยป์ ัญหาระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรได้ 6. มวี นิ ยั ตรงต่อเวลา มคี วามรบั ผดิ ชอบในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายมคี วามรกั สามคั คี มนี ้าใจต่อ ผอู้ น่ื มคี วามสุภาพอ่อนน้อม มคี วามสนใจใฝ่รแู้ ละมคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรคใ์ นการแกโ้ จทยป์ ัญหา 4 สาระการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ที่ 4 1. รปู แบบทวั่ ไปของสมการและระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ท่ี 5 2. การแกร้ ะบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ที่ 6 3. โจทยป์ ัญหาระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร 5 คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี

5 การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 4 1. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง รูปแบบทวั ่ ไปของสมการและระบบสมการเชิงเส้นสองตวั แปร จากหนังสือเรยี น เพ่อื หาคาตอบเก่ยี วกบั ความแตกต่างของลกั ษณะและรูปแบบทวั่ ไปของสมการ เชงิ เสน้ สองตวั แปรกบั สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว 2. ผสู้ อนอธบิ ายเกย่ี วกบั วธิ กี ารพจิ ารณาสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร การเขยี นคาตอบของสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรในรูปคอู่ นั ดบั และกราฟ และรูปแบบทวั่ ไปของระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร ใหผ้ เู้ รยี นฟัง แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นดูตวั อยา่ งประกอบจากหนงั สอื เรยี น 3. ผเู้ รยี นแต่ละคนทาแบบฝึ กทกั ษะที่ 2.1 เสรจ็ แลว้ ผสู้ อนขออาสาสมคั รผเู้ รยี นออกมานาเสนอคาตอบ พรอ้ มแสดงวธิ ที าหน้าชนั้ เรยี น ผสู้ อนตรวจสอบความถูกตอ้ ง 4. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ กย่ี วกบั รูปแบบทวั่ ไปของสมการและระบบสมการเชงิ เสน้ สอง ตวั แปร แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ท่ี 5 1. ผเู้ รียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั วธิ ีการหาคาตอบของระบบสมการเชงิ เส้นสองตวั แปร ทผ่ี สู้ อนกาหนด จากนนั้ ผสู้ อนเฉลยคาตอบโดยเชอ่ื มโยงถงึ การหาคาตอบของระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรโดยวธิ กี ารแทนคา่ และวธิ กี ารขจดั ตวั แปร 2. ผเู้ รยี นแต่ละคนศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตวั แปร จากหนงั สอื เรยี นจากนนั้ ผสู้ อนเขยี นโจทย์เก่ยี วกบั ระบบสมการเชงิ เส้นสองตวั แปร พร้อมอธบิ ายขนั้ ตอนการหาคาตอบให้ ผเู้ รยี นฟัง 3. ผเู้ รยี นแบง่ กลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ ใหส้ มาชกิ ในกล่มุ จบั คกู่ นั เป็น 2 คู่ ใหแ้ ตล่ ะคู่ทาใบมอบหมายงาน ที่ 2.1 เสรจ็ แลว้ ให้แต่ละคู่ผลดั กนั อธบิ ายคาตอบของคู่ตนเองและช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากนนั้ ผสู้ อนส่มุ ผเู้ รยี นออกมานาเสนอคาตอบ พรอ้ มแสดงวธิ ที าหน้าชนั้ เรยี น 4. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั สรุปความรูเ้ กย่ี วกบั การแกร้ ะบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปร เสรจ็ แลว้ ผสู้ อน ใหผ้ เู้ รยี นแต่ละคนทาแบบฝึกทกั ษะที่ 2.2 เป็นการบา้ น แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ที่ 6 1. ผเู้ รยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั วธิ กี ารแก้โจทย์ปัญหาระบบสมการเชงิ เส้นสองตวั แปรท่ี ผสู้ อนเขยี นบนกะดาน จากนนั้ ผสู้ อนเฉลยคาตอบ และให้ผเู้ รยี นแตล่ ะคนศกึ ษาความรูเ้ ร่อื ง โจทย์ ปัญหาระบบสมการเชิงเส้นสองตวั แปร จากหนงั สอื เรยี น 2. ผสู้ อนอธบิ ายหลกั การแกโ้ จทยป์ ัญหาระบบสมการเชงิ เสน้ สองตวั แปรใหผ้ เู้ รยี นฟังทลี ะขนั้ ตอน จากนนั้ ให้ผูเ้ รยี นกลุ่มเดิมช่วยกนั ทาใบมอบหมายงานที่ 2.2 เสรจ็ แล้วผสู้ อนคดั เลอื กผูเ้ รยี น 4 กลุ่ม ท่หี า คาตอบไดถ้ กู ตอ้ งออกมาแสดงวธิ ที าหน้าชนั้ เรยี น กลุ่มละ 1 ขอ้ 3. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั สรุปความรู้เก่ยี วกบั การแก้โจทย์ปัญหาระบบสมการเชงิ เส้นสองตวั แปร จากนนั้ ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคนทาแบบฝึกทกั ษะที่ 2.3 และใบงานที่ 2.1-2.2 เป็นการบา้ 6 คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี

6 ส่ือการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าคณิตศาสตร์พน้ื ฐานอาชพี รหสั วชิ า2000-1402บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั 2. โจทยต์ วั อย่าง 7 หลกั ฐานการเรยี นรู้ 7.1 หลกั ฐานความรู้ - แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน 1) แบบฝึกทกั ษะท่ี 2.1-2.3(จากหนงั สอื เรยี น) 2) ใบงานท่ี 2.1-2.2(จากหนงั สอื เรยี น) 3) ใบมอบหมายงานท่ี 2.1-2.2 7.3 หลกั ฐานแสดงคณุ ธรรมจริยธรรม/ค่านิ ยม/คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 2) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 3) แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 การวดั และประเมินผล 8.1 การประเมินกอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 8.2 การประเมินระหว่างเรยี น ประเมนิ รายบคุ คล 1) ตรวจแบบฝึกทกั ษะท่ี 2.1-2.3(จากหนงั สอื เรยี น) 2) ตรวจใบงานท่ี 2.1-2.2(จากหนงั สอื เรยี น) 3) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 4) ประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมนิ รายกล่มุ 1) ตรวจใบมอบหมายงานท่ี 2.1-2.2 2) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ 8.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 7 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี

3หน่วยการเรียนรู้ท่ี ความรเู้ บอื้ งต้นเก่ียวกบั สถิติ สปั 7ด-า9หท์ ี่ 2+2=? (Introduction to Statistics) ชวั่ โมงที่13-18 X2 1 สาระสาคญั ขอ้ มลู สถติ เิ ป็นตวั เลขทไ่ี ดจ้ ากการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ ของขอ้ มลู ซง่ึ ขอ้ มูลสถติ ิ ต้องเป็นขอ้ มูลทม่ี จี านวนมากพอ และแสดงถึงลกั ษณะของกลุ่มหรอื ส่วนรวม ซ่ึงการดาเนินการทางสถติ ิจะมี ขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั โิ ดยเรม่ิ จากการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล การนาเสนอข้อมูล การวเิ คราะห์ขอ้ มูล และการแปล ความหมายขอ้ มลู 2 สมรรถนะประจาหน่วย 1. สารวจและจดั หมวดหมู่ขอ้ มลู อย่างงา่ ยในรูปสถติ ิ 2. ประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ ร่อื งสถติ ใิ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล และนาเสนอขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั งานอาชพี 3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของสถติ ไิ ด้ 2. บอกความหมายของขอ้ มูลและขอ้ มูลสถติ ไิ ด้ 3. อธบิ ายประเภทและแหลง่ ขอ้ มูลสถติ ไิ ด้ 4. อธบิ ายความหมายและขนั้ ตอนในการปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บวธิ ที างสถติ ไิ ด้ 5. บอกและแสดงวธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลสถติ ไิ ด้ 6. บอกรปู แบบการนาเสนอขอ้ มูลได้ 7. นาเสนอขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการเกบ็ รวบรวมในรปู แบบทเ่ี หมาะสมได้ 8. มเี จตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรยี นรูเ้ ก่ยี วกบั สถิติ มคี วามซ่อื สตั ย์สุจรติ ต่อหน้าท่ที ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย มนี ้าใจ ชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื มคี วามรกั สามคั ครี ่วมใจกนั ทางานใหบ้ รรลุเป้าหมาย มคี วามสนใจใฝ่รแู้ ละคดิ ริเรม่ิ วธิ กี ารท่หี ลากหลายในการแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ มมี นุษยสมั พนั ธ์ท่ีดี ช่นื ชมผอู้ ่นื เม่อื ประสบ ความสาเรจ็ 4 สาระการเรยี นรู้ 2. ขอ้ มลู สถติ ิ 4. วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 7 1. ความหมายของสถติ ิ 3. ระเบยี บวธิ ที างสถติ ิ 8 คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี

แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ที่ 8 5. การนาเสนอขอ้ มูล 5 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ที่ 7 1. ผูเ้ รยี นดูตวั อย่างแผนภาพสถิตจิ านวนประชากรไทยปี 2557 แล้วร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ถึง เหตุผลท่ตี ้องมกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลประชากรไทย และประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการเกบ็ ขอ้ มูลน้ีจากนนั้ ผสู้ อนอธบิ ายเชอ่ื มโยงกบั คาตอบของผเู้ รยี นถงึ ความเกย่ี วขอ้ งของสถติ กิ บั ชวี ติ ประจาวนั 2. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาความรเู้ กย่ี วกบั ความหมายของสถิติและขอ้ มลู สถิติจากหนงั สอื เรยี น 3. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั อภปิ รายความรูเ้ กย่ี วกบั ประเภทและแหล่งของขอ้ มูลสถติ ิ ผสู้ อนยกตวั อย่าง ขอ้ มูลสถติ ิ แลว้ ให้ผเู้ รยี นช่วยกนั ระบุประเภทของขอ้ มูลและแหล่งของขอ้ มูลในแต่ละตวั อย่างจากนนั้ ผเู้ รยี นทาแบบฝึกทกั ษะที่ 4.1 เสรจ็ แลว้ ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบ 4. ผเู้ รยี นศกึ ษาความรู้เก่ยี วกบั ระเบียบวิธีทางสถิติจากหนงั สอื เรยี น เสรจ็ แลว้ ผสู้ อนตงั้ คาถามถาม ผเู้ รยี นเกย่ี วกบั วิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาความรเู้ พมิ่ เตมิ จากหนงั สอื เรยี น 5. ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นแบ่งกลุ่มกลุ่มละ6คนใหแ้ ต่ละกลุ่มเลอื กหวั ขอ้ ทส่ี นใจ1หวั ขอ้ แล้วร่วมกนั วางแผนใน การเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วลงมือเก็บรวบรวมข้อมูลตามขนั้ ตอนท่ีวางแผนไว้(นอกเวลาเรียน) และบนั ทกึ ลงในใบมอบหมายงานที่ 4.1 6. ผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกนั สรุปความรู้เก่ยี วกบั ความหมายของสถติ ิ ความหมายของขอ้ มูลและขอ้ มูล สถติ ิ ประเภทของขอ้ มูล แหล่งของขอ้ มลู และวธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ท่ี 8 1. ผสู้ อนซักถามผเู้ รยี นเกย่ี วกบั ขอ้ มูลท่ผี เู้ รยี นแต่ละกลุ่มเกบ็ รวบรวมมาได้ (ในใบมอบหมายงานท่ี 4.1) แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ ถงึ สง่ิ ทต่ี อ้ งทาเม่อื ไดข้ อ้ มูลมาแลว้ โดยผสู้ อนอธบิ ายเชอ่ื มโยง ถงึ การนาเสนอขอ้ มูล 2. ผสู้ อนอธบิ ายเก่ยี วกบั รูปแบบการนาเสนอขอ้ มูลแล้วใหผ้ เู้ รยี นแต่ละกลุ่มศกึ ษาความรเู้ พม่ิ เตมิ จาก หนงั สอื เรยี นและทาแบบฝึกทกั ษะที่ 4.2 เสรจ็ แลว้ ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบ 3. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นแต่ละกลุ่มเลอื กรูปแบบในการนาเสนอขอ้ มูลจากขอ้ มูลทเ่ี กบ็ รวบรวมมาได้ (ในใบ มอบหมายงานท่ี 4.1) แล้วจดั ทาลงในฟิวเจอรบ์ อร์ด พร้อมตกแต่งให้สวยงาม เสรจ็ แล้วใหผ้ เู้ รยี น แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอขอ้ มูลหน้าชนั้ เรยี น ผูเ้ รยี นกลุ่มอ่นื ชว่ ยกนั ตรวจสอบและให้ คะแนนการนาเสนอขอ้ มลู 4. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ กย่ี วกบั การนาเสนอขอ้ มลู 5. ผเู้ รยี นทาใบงานที่ 4.1-4.2 เป็นการบา้ น เสรจ็ แลว้ นาสง่ ผสู้ อนตรวจนอกชวั่ โมงเรยี น 9 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี

6 ส่ือการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานรหสั วชิ า2000-1401 บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั 2. บตั รภาพ 3. ตวั อยา่ งขอ้ มลู สถติ ิ 7 หลกั ฐานการเรยี นรู้ 7.1 หลกั ฐานความรู้ - แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน 1) การนาเสนอขอ้ มลู สถติ ิ 2) แบบฝึกทกั ษะท่ี 4.1-4.2(จากหนงั สอื เรยี น) 3) ใบงานท่ี 4.1-4.2(จากหนงั สอื เรยี น) 4) ใบมอบหมายงานท่ี 4.1 7.3 หลกั ฐานแสดงคณุ ธรรมจริยธรรม/ค่านิ ยม/คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 2) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ 3) แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 การวดั และประเมินผล 8.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 8.2 การประเมินระหว่างเรียน ประเมนิ รายบคุ คล 1) ตรวจแบบฝึกทกั ษะท่ี 4.1(จากหนงั สอื เรยี น) 2) ตรวจใบงานท่ี 4.1-4.2(จากหนงั สอื เรยี น) 3) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 4) ประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมนิ รายกลมุ่ 1) ตรวจแบบฝึกทกั ษะท่ี 4.2(จากหนงั สอื เรยี น) 2) ตรวจใบมอบหมายงานท่ี 4.1 3) ประเมนิ การนาเสนอขอ้ มูลสถติ ิ 4) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ 8.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 10 คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี

4หน่วยการเรียนร้ทู ี่ การแจกแจงความถ่ีของขอ้ มลู ส1ปั 0ด-า1ห1ท์ ่ี 2+2=? (Frequency Distribution Data) ชวั่ โมงที่19-22 X2 1 สาระสาคญั แจกแจงความถเ่ี ป็นการนาขอ้ มลู มาจดั เรยี งตามลาดบั และแบง่ เป็นชว่ งเทา่ ๆ กนั แลว้ นามาสรา้ งเป็นตาราง แจกแจงความถ่ี กราฟ หรอื แผนภาพตน้ – ใบ เพ่อื ใชใ้ นการนาเสนอขอ้ มูลใหม้ คี วามชดั เจนและเขา้ ใจง่ายขน้ึ 2 สมรรถนะประจาหน่วย 1. นาเสนอขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วกบั การแจกแจงความถข่ี องขอ้ มลู 2. วเิ คราะหข์ อ้ มูลทแ่ี จกแจงความถข่ี องขอ้ มลู 3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายการแจกแจงความถโ่ี ดยวธิ จี ดั เรยี งค่าของขอ้ มลู ตามลาดบั และวธิ จี ดั ขอ้ มูลเป็นชว่ งหรอื อนั ตรภาคชนั้ ได้ 2. อธบิ ายวธิ กี ารสรา้ งตารางแจกแจงความถส่ี มั พทั ธ์ แจกแจงความถส่ี ะสม และแจกแจงความถส่ี ะสม สมั พทั ธไ์ ด้ 3. สรา้ งตารางแจกแจงความถแ่ี ละตคี วามหมายของขอ้ มลู จากตารางได้ 4. หาขอบลา่ ง ขอบบน และจดุ กง่ึ กลางชนั้ ของแตล่ ะอนั ตรภาคชนั้ ได้ 5. หาความถส่ี ะสมและตคี วามหมายของขอ้ มลู จากตารางได้ 6. หาความถส่ี มั พทั ธ์ ความถส่ี ะสมสมั พทั ธ์ และตคี วามหมายของขอ้ มูลจากตารางได้ 7. อธบิ ายการแจกแจงความถโ่ี ดยใชก้ ราฟฮสิ โทแกรมรปู หลายเหลย่ี มของความถแ่ี ละเสน้ โคง้ ความถไ่ี ด้ 8. อธบิ ายการแจกแจงความถโ่ี ดยใชแ้ ผนภาพตน้ – ใบได้ 9. สรา้ งกราฟฮสิ โทแกรมรูปหลายเหลย่ี มของความถแ่ี ละเสน้ โคง้ ความถไ่ี ด้ 10. สรา้ งแผนภาพตน้ – ใบได้ 11. มเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั การแจกแจงความถข่ี องขอ้ มลู มวี นิ ยั และมคี วามรบั ผดิ ชอบต่องาน ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย มนี ้าใจและมมี นุษยสมั พนั ธท์ ด่ี ตี ่อผอู้ น่ื มคี วามสามคั คใี นการทางานกลุม่ และมี ความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรคใ์ นการนาเสนอผลงาน 11 คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี

4 สาระการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ท่ี 10 1. วธิ กี ารแจกแจงความถข่ี องขอ้ มลู 2. การสรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ท่ี 11 3. การแจกแจงความถแ่ี ละความถส่ี ะสมโดยใชก้ ราฟ 4. แผนภาพตน้ – ใบ 5 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 10 1. ผเู้ รยี นดูตวั อยา่ งขอ้ มูลทแ่ี จกแจงความถ่ี แลว้ ชว่ ยกนั แสดงความคดิ เหน็ วา่ ทาไมถงึ ตอ้ งมกี ารแจกแจง ความถ่ขี องข้อมูล จากนัน้ ผสู้ อนเฉลยคาตอบและให้ผเู้ รียนศกึ ษาความรู้เกย่ี วกบั วิธีการแจกแจง ความถข่ี องข้อมลู จากหนงั สอื เรยี น 2. ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นยกตวั อย่างขอ้ มูลท่คี วรจดั เรยี งค่าของขอ้ มูลตามลาดบั และขอ้ มูลทค่ี วรจดั เป็นชว่ ง หรอื อนั ตรภาคชนั้ 3. ผสู้ อนแบ่งผเู้ รยี นออกเป็น 5 กลุ่ม แล้วใหแ้ ต่ละกลุ่มสารวจขอ้ มูล กลุ่มละ 1 หวั ขอ้ ตามทจ่ี บั สลากได้ จากนนั้ ใหน้ าขอ้ มลู มาสร้างเป็นตารางแจกแจงความถโ่ี ดยวธิ จี ดั ขอ้ มูลเป็นชว่ งหรอื อนั ตรภาคชนั้ ลงใน ใบมอบหมายงานที่ 5.1เสรจ็ แลว้ ออกมานาเสนอ 4. ผเู้ รยี นศกึ ษาความรเู้ กย่ี วกบั การสรา้ งตารางแจกแจงความถ่ีจากหนงั สอื เรยี น จากนนั้ ผสู้ อนอธบิ าย ถงึ วธิ กี ารหาความถส่ี มั พทั ธ์ ความถส่ี ะสม และความถส่ี ะสมสมั พทั ธจ์ ากตารางแจกแจงความถ่ี 5. ผเู้ รยี นแต่ละคนนาตารางแจกแจงความถ่ใี นใบมอบหมายงานท่ี 5.1 มาหาความถ่สี มั พทั ธ์ ความถ่ี สะสม และความถส่ี ะสมสมั พทั ธ์ แลว้ เขยี นคาตอบลงในใบมอบหมายงานที่ 5.2เสรจ็ แล้วสลบั กบั ผเู้ รยี นคนอ่นื ๆ ในกลมุ่ เปรยี บเทยี บคาตอบและแกไ้ ขในสว่ นทไ่ี ม่ถูกตอ้ ง 6. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั สรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั วธิ กี ารแจกแจงความถแ่ี ละการสรา้ งตารางแจกแจงความถ่ี จากนนั้ ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคนทาแบบฝึกทกั ษะที่ 5.1-5.2 เป็นการบา้ น เสรจ็ แลว้ นาสง่ ผสู้ อน แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ท่ี 11 1. ผู้เรยี นดูภาพการแจกแจงความถ่ขี องข้อมูลแบบตารางและแบบกราฟ แล้วร่วมกันแสดงความ คดิ เหน็ วา่ การแจกแจงความถแ่ี บบไหนทเ่ี หน็ การกระจายขอ้ มูลไดช้ ดั เจนกวา่ จากนนั้ ผสู้ อนอธบิ าย เพมิ่ เตมิ จากคาตอบของผเู้ รยี นเพ่อื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจทถ่ี ูกตอ้ ง 2. ผเู้ รยี นศกึ ษาความรูเ้ ก่ยี วกบั การแจกแจงความถี่และความถี่สะสมโดยใช้กราฟ จากหนังสอื เรยี น จากนนั้ ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นดูตารางแจกแจงความถ่ี แล้วชว่ ยกนั สร้างกราฟฮสิ โทแกรม รูปหลาย เหลย่ี มของความถ่ี และเสน้ โคง้ ความถจ่ี ากขอ้ มูลในตาราง ผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 12 คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี

3. ผสู้ อนสนทนากบั ผเู้ รยี นเกย่ี วกบั การแจกแจงความถส่ี ะสมโดยใชเ้ สน้ โคง้ ของความถห่ี รอื เสน้ โคง้ โอจฟี แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นชว่ ยกนั สรา้ งเสน้ โคง้ ของความถห่ี รอื เสน้ โคง้ โอจฟี จากขอ้ มลู ในตารางท่ีผสู้ อนยกตวั อย่าง ผสู้ อนตรวจสอบความถูกตอ้ ง 4. ผเู้ รยี นแต่ละคนทาแบบฝึกทกั ษะที่ 5.3 เสรจ็ แลว้ ผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบ 5. ผสู้ อนสนทนากบั ผูเ้ รยี นถงึ การสร้างแผนภาพต้น – ใบ แล้วให้ผูเ้ รยี นศกึ ษาเพ่มิ เตมิ จากหนังสอื เรยี น จากนนั้ ผสู้ อนยกตวั อยา่ งขอ้ มลู แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นชว่ ยกนั สรา้ งแผนภาพตน้ – ใบ 6. ผเู้ รยี นแต่ละคนทาแบบฝึ กทกั ษะที่ 5.4 เสรจ็ แลว้ ออกมานาเสนอคาตอบ พรอ้ มอธบิ ายวธิ กี ารหา คาตอบ 7. ผเู้ รยี นแต่ละคนสารวจขอ้ มูลตามความสนใจ คนละ 1 ขอ้ มูล แล้วบนั ทกึ ลงในใบมอบหมายงานที่ 5.3 พรอ้ มสรา้ งแผนภาพต้น – ใบ ประกอบขอ้ มูล เสรจ็ แล้วผสู้ อนสุ่มผเู้ รยี น 2-3 คน นาเสนอคาตอบใน ใบมอบหมายงาน ผสู้ อนและผเู้ รยี นคนอ่นื ๆ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 8. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ ก่ยี วกบั การแจกแจงความถ่แี ละความถส่ี ะสมโดยใชก้ ราฟ และ การสรา้ งแผนภาพตน้ – ใบ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ 5.1-5.2 เป็นการบา้ น 6 ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานรหสั วชิ า2000-1401 บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั 2. บตั รภาพ 3. ตวั อย่างขอ้ มลู ทม่ี กี ารแจกแจงความถ่ี 4. ตวั อย่างหวั ขอ้ ในการสารวจขอ้ มูล 7 หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1 หลกั ฐานความรู้ - แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน 1) แบบฝึกทกั ษะท่ี 5.1-5.4(จากหนงั สอื เรยี น) 2) ใบงานท่ี 5.1-5.2(จากหนงั สอื เรยี น) 3) ใบมอบหมายงานท่ี 5.1-5.3 7.3 หลกั ฐานแสดงคณุ ธรรมจริยธรรม/ค่านิ ยม/คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 2) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ 3) แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 13 คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี

8 การวดั และประเมินผล 8.1 การประเมินกอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 8.2 การประเมินระหว่างเรียน ประเมนิ รายบคุ คล 1) ตรวจแบบฝึกทกั ษะท่ี 5.1-5.4(จากหนงั สอื เรยี น) 2) ตรวจใบงานท่ี 5.1-5.2(จากหนงั สอื เรยี น) 3) ตรวจใบมอบหมายงานท่ี 5.2-5.3 4) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 5) ประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมนิ รายกลุม่ 1) ตรวจใบมอบหมายงานท่ี 5.1 2) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ 8.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 14 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี

5หน่วยการเรียนรู้ท่ี การวดั แนวโน้มเขา้ ส่สู ่วนกลาง ส1ปั 2ด-า1ห3ท์ ่ี 2+2=? (Measures of Central Tendency) ชวั่ โมงที่23-26 X2 1 สาระสาคญั การวดั แนวโน้มเขา้ สสู่ ่วนกลางสามารถทาได้โดยใชว้ ธิ กี ารหาค่าเฉลย่ี เลขคณติ การหาค่ามธั ยฐาน และการ หาฐานนิยม ซ่ึงแต่ละวธิ ีข้นึ อยู่กบั ลกั ษณะของข้อมูลและวตั ถุประสงค์ของการนาไปใช้เป็นสาคญั โดยการวดั แนวโน้มเขา้ สู่ส่วนกลางจะมหี น่วยเดยี วกบั ขอ้ มูล และโดยทวั่ ไปขอ้ มูลจะแบ่งได้เป็นขอ้ มูลท่ไี ม่ไดแ้ จกแจงความถ่ี และขอ้ มลู ทแ่ี จกแจงความถ่ี 2 สมรรถนะประจาหน่วย 1. มที กั ษะกระบวนการคดิ และการวเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยใชก้ ารวดั แนวโน้มเขา้ สูส่ ่วนกลาง 2. เลอื กใชค้ ่ากลางต่างๆ ใหเ้ หมาะสมกบั ขอ้ มลู ทก่ี าหนด 3 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ใชส้ ญั ลกั ษณ์แสดงผลบวกคานวณหาค่าสถติ ไิ ด้ 2. คานวณหาคา่ เฉลย่ี เลขคณติ ของขอ้ มูลทก่ี าหนดใหไ้ ด้ 3. บอกตาแหน่งและหาค่ามธั ยฐานของขอ้ มลู ทก่ี าหนดใหไ้ ด้ 4. บอกตาแหน่งและหาค่าฐานนยิ มของขอ้ มูลทก่ี าหนดใหไ้ ด้ 5. ใชค้ ่ากลางใหเ้ หมาะสมกบั ขอ้ มูลทก่ี าหนดใหต้ ามวตั ถุประสงคท์ ต่ี อ้ งการได้ 6. มเี จตคติท่ดี ตี ่อการเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั การวดั แนวโน้มเขา้ สู่ส่วนกลาง มีความซ่ือสตั ย์สุจริต มีความรกั สามคั คใี นการทางานกลุ่ม มนี ้าใจและมนุษยสมั พนั ธท์ ่ดี ตี อ่ ผอู้ ่นื และมคี วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรคใ์ นการ นาเสนอผลงาน 4 สาระการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ท่ี 12 1. สญั ลกั ษณแ์ สดงผลบวก 2. การหาค่าเฉลย่ี เลขคณติ ของขอ้ มลู ทไ่ี มแ่ จกแจงความถ่ี 3. การหาคา่ เฉลย่ี เลขคณติ ของขอ้ มูลทแ่ี จกแจงความถ่ี แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ที่ 13 4. การหาคา่ มธั ยฐานของขอ้ มูลทไ่ี ม่แจกแจงความถ่ี 15 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี

5. การหาค่ามธั ยฐานของขอ้ มูลทแ่ี จกแจงความถ่ี 6. การหาคา่ ฐานนยิ มของขอ้ มลู ทไ่ี ม่แจกแจงความถ่ี 7. การหาคา่ ฐานนิยมของขอ้ มูลทแ่ี จกแจงความถ่ี 5 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ท่ี 12 1. ผู้สอนสนทนากบั ผู้เรยี นเก่ียวกับสญั ลักษณ์ “  ” ท่ีใช้แสดงผลบวก แล้วให้ผูเ้ รียนศกึ ษาความรู้ เกย่ี วกบั สญั ลกั ษณ์แสดงผลบวกเพมิ่ เตมิ จากหนงั สอื เรยี น 2. ผสู้ อนสุ่มผู้เรยี นออกมาเขยี นสญั ลกั ษณ์แสดงผลบวกจากโจทย์ท่ผี ูส้ อนยกตวั อย่าง เพ่อื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ จากนนั้ ผสู้ อนเชอ่ื มโยงสญั ลกั ษณแ์ สดงผลบวกกบั การหาคา่ เฉลย่ี เลขคณติ 3. ผเู้ รยี นจบั คู่กบั เพอ่ื น แลว้ ให้แต่ละคู่แบ่งหน้าทใ่ี นการศกึ ษาความรเู้ กย่ี วกบั การหาค่าเฉลี่ยเลขคณิ ต ของข้อมูลท่ีไม่แจกแจงความถี่และการหาค่าเฉลี่ยเลขคณิ ตของข้อมูลที่แจกแจงความถ่ี จาก หนงั สอื เรยี น คนละ 1 หวั ขอ้ 4. ผเู้ รยี นแตล่ ะคชู่ ว่ ยกนั ทาใบมอบหมายงานที่ 6.1เสรจ็ แลว้ ใหผ้ สู้ อนสุ่มผเู้ รยี นทลี ะคู่ออกมานาเสนอ คาตอบในใบมอบหมายงาน คู่ละ 1 ขอ้ พรอ้ มแสดงวธิ คี านวณบนกระดานผสู้ อนและผเู้ รยี นคู่อ่นื ๆ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 5. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ กย่ี วกบั การหาค่าเฉล่ยี เลขคณิตของขอ้ มูลท่ไี ม่แจกแจงความถ่ี และการหาค่าเฉลย่ี ของขอ้ มลู ทแ่ี จกแจงความถ่ี เสรจ็ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึ กทกั ษะที่ 6.1-6.2 เป็น การบา้ น แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ที่ 13 1. ผู้สอนสนทนากับผูเ้ รยี นถงึ วธิ ีการหาความสูงของผู้เรียนทงั้ ชนั้ จากนัน้ ผู้สอนเฉลยคาตอบและ อธบิ ายเพม่ิ เตมิ ถงึ วธิ กี ารหาคา่ กลางของขอ้ มูล 2. ผสู้ อนให้ผูเ้ รยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ให้ผเู้ รยี นในกลุ่มแบ่งหน้าท่ใี นการศกึ ษาความรู้เกย่ี วกบั การหาค่ามธั ยฐานและฐานนิ ยมของข้อมลู ที่ไม่แจกแจงความถี่และข้อมลู ที่แจกแจงความถี่ จากหนังสอื เรยี น คนละ 1 หวั ขอ้ จากนัน้ ผูส้ อนยกตวั อย่างโจทย์เกย่ี วกบั การหาค่ามธั ยฐานและ ฐานนยิ ม แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นชว่ ยกนั แสดงวธิ ที า 3. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลุ่มตงั้ โจทยค์ าถามเกย่ี วกบั การหาคา่ มธั ยฐานและฐานนยิ ม กลุ่มละ 2 ขอ้ พรอ้ มแสดง วธิ กี ารหาคาตอบ โดยเขยี นลงในใบมอบหมายงานที่ 6.2เมอ่ื ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ ทาเสรจ็ แลว้ ให้ออกมา เขยี นโจทยค์ าถามของกล่มุ ตนเองบนกระดาน แลว้ เลอื กผเู้ รยี นกลุ่มอน่ื ตอบคาถาม พรอ้ มแสดงวธิ ที า 4. ผเู้ รยี นแตล่ ะคนทาแบบฝึกทกั ษะที่ 6.3-6.4 จากหนงั สอื เรยี น เสรจ็ แลว้ นาส่งผสู้ อนตรวจ 5. ผูส้ อนและผู้เรยี นร่วมกนั สรุปความรู้เก่ยี วกบั การหาค่ามธั ยฐานและฐานนิยมของข้อมูลท่ไี ม่แจกแจง ความถแ่ี ละขอ้ มูลทแ่ี จกแจงความถ่ี เสรจ็ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นทาใบงานที่ 6.1-6.2 เป็นการบา้ น 16 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี

6 ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานรหสั วชิ า2000-1401 บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั 2. โจทยต์ วั อย่าง 7 หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1 หลกั ฐานความรู้ - แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน 1) แบบฝึกทกั ษะท่ี 6.1-6.4(จากหนงั สอื เรยี น) 2) ใบงานท่ี 6.1-6.2(จากหนงั สอื เรยี น) 3) ใบมอบหมายงานท่ี 6.1-6.2 7.3 หลกั ฐานแสดงคณุ ธรรมจริยธรรม/ค่านิ ยม/คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 2) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 3) แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 การวดั และประเมินผล 8.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 8.2 การประเมินระหวา่ งเรยี น ประเมนิ รายบคุ คล 1) ตรวจแบบฝึกทกั ษะท่ี 6.1-6.4(จากหนงั สอื เรยี น) 2) ตรวจใบงานท่ี 6.1-6.2(จากหนงั สอื เรยี น) 3) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 4) ประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมนิ รายกลุ่ม 1) ตรวจใบมอบหมายงานท่ี 6.1-6.2 2) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 8.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 17 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี

6หน่วยการเรียนรู้ท่ี การวดั การกระจายของข้อมลู ส1ปั 6ด-า1ห7ท์ ี่ 2+2=? (Measures of Dispersion) ชวั่ โมงท่ี31-34 X2 1 สาระสาคญั การวดั การกระจายของขอ้ มูล เป็นการศกึ ษาลกั ษณะของขอ้ มูลว่ามกี ารกระจายหรอื แตกต่างจากคา่ กลาง ของขอ้ มลู มากน้อยเพยี งใด ซ่งึ โดยทวั่ ไปการวดั การกระจายของขอ้ มลู มที งั้ แบบการวดั การกระจายสมั บูรณ์และการ วดั การกระจายสมั พทั ธ์ 2 สมรรถนะประจาหน่วย - ดาเนินการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เกย่ี วกบั การวดั การกระจายของขอ้ มูล 3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของการวดั การกระจายขอ้ มูลได้ 2. หาค่าพสิ ยั สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน และความแปรปรวนของขอ้ มูลได้ 3. หาสมั ประสทิ ธขิ ์ องพสิ ยั และสมั ประสทิ ธขิ ์ องการแปรผนั ของขอ้ มลู ได้ 4. เลอื กใชส้ ถติ ทิ เ่ี หมาะสมกบั ขอ้ มลู และนาค่าสถติ ทิ ไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหไ์ ปประกอบการตดั สนิ ใจได้ 5. มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั การวดั การกระจายของขอ้ มูล มคี วามซ่อื สตั ย์สจุ รติ มที ่าทางสุภาพ เรียบร้อย มีความรกั สามัคคี มีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดีต่อผู้อ่ืน และมีความคิดรเิ รมิ่ สร้างสรรค์ในการ แกป้ ัญหาและการตดั สนิ ใจตา่ งๆ 4 สาระการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ท่ี 16 1. ความหมายของการวดั การกระจายของขอ้ มลู 2. การวดั การกระจายสมั บูรณ์ แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 17 3. การวดั การกระจายสมั พทั ธ์ 4. สถติ แิ ละการตดั สนิ ใจ 18 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี

5 การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 16 1. ผสู้ อนยกตวั อย่างคะแนนสอบก่อนเรยี นของผเู้ รยี นในวชิ าคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานของผเู้ รยี น 2 กลุ่ม แล้ว อธบิ ายเชอ่ื มโยงถงึ การวดั การกระจายของขอ้ มลู 2. ผูเ้ รยี นศกึ ษาความรูเ้ กย่ี วกบั ความหมายของการวดั การกระจายของข้อมูล จากหนงั สือเรยี น แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นชว่ ยกนั อธบิ ายความหมายของการวดั การกระจายของขอ้ มลู 3. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 5-6 คน ใหแ้ ต่ละกล่มุ หมุนเวยี นศกึ ษาความรเู้ กย่ี วกบั การวดั การ กระจายสัมบูรณ์ จากหนังสือเรียน ในเร่อื ง การหาพิสยั ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และความ แปรปรวน พรอ้ มทงั้ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในแต่ละศนู ยก์ ารเรยี นรู้ 4. เม่อื ผเู้ รียนแต่ละกลุ่มศกึ ษาและปฏิบตั กิ จิ กรรมในแต่ละศูนย์การเรยี นรู้เสรจ็ แล้ว ผสู้ อนและผู้เรียน รว่ มกนั เฉลยคาตอบในใบกจิ กรรม 5. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับวธิ ีการวดั การกระจายสมั บูรณ์โดยวิธีการหาพิสัย ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน และความแปรปรวน จากนัน้ ให้ผูเ้ รยี นทาแบบฝึ กทักษะที่ 8.1-8.2 เป็น การบา้ น แผนการจดั การเรียนรู้ ครงั้ ท่ี 17 1. ผสู้ อนสนทนากบั ผเู้ รยี นเก่ยี วกบั วธิ กี ารวดั การกระจายของขอ้ มูลท่มี ขี อ้ มูลตงั้ แต่สองชดุ ขน้ึ ไป โดย ผสู้ อนเชอ่ื มโยงถงึ การวดั การกระจายสมั พทั ธ์ โดยใชส้ มั ประสทิ ธขิ ์ องพสิ ยั และสมั ประสทิ ธขิ ์ องการ แปรผนั 2. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ให้ผเู้ รยี นในกลุ่มจบั คู่กนั เป็น 2 คู่ ให้แต่ละคู่ศกึ ษาความรู้ เก่ยี วกบั การวดั การกระจายสมั พทั ธ์จากหนังสอื เรยี นโดยแบ่งหน้าท่ใี นการศกึ ษาคู่ละ 1 หวั ขอ้ จากนัน้ ให้แต่ละคู่ผลดั กนั อธบิ ายความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาใหส้ มาชกิ อกี คู่ท่อี ยู่ในกลุ่มเดยี วกนั ฟัง และชว่ ยกนั ทาแบบฝึกทกั ษะที่ 8.3 3. ผสู้ อนสุ่มผเู้ รยี น 2 กลุ่ม ออกมานาเสนอคาตอบในแบบฝึกทกั ษะท่ี 8.3 กลุ่มละ 1 ขอ้ พรอ้ มแสดงวธิ ี ทาผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 4. ผสู้ อนสนทนากบั ผูเ้ รยี นถงึ การใชส้ ถิตเิ พ่อื การตดั สนิ ใจในชวี ติ ประจาวนั หรอื ในการประกอบอาชพี จากนัน้ ใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาความรู้เก่ยี วกบั สถิติและการตดั สินใจจากหนังสือเรยี น จากนนั้ ให้ผู้เรยี น รว่ มกนั บอกขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั ของการใชส้ ถติ เิ พ่อื การตดั สนิ ใจตา่ งๆ 5. ผู้เรยี นแต่ละคนทาใบงานที่ 8.1 จากหนังสอื เรยี น เสร็จแล้วผูส้ อนและผูเ้ รยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบ จากนนั้ ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั สรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั การวดั การกระจายสมั พทั ธโ์ ดยใชส้ มั ประสทิ ธขิ ์ อง พสิ ยั และสมั ประสทิ ธขิ ์ องการแปรผนั 19 คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐานอาชพี

6 สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐานรหสั วชิ า2000-1401 บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จากดั 2. ตวั อย่างขอ้ มลู 7 หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1 หลกั ฐานความรู้ - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 8 7.2 หลกั ฐานการปฏิบตั ิงาน 1) ใบกจิ กรรม ศนู ยก์ ารเรยี นรทู้ ่ี 1-3 2) แบบฝึกทกั ษะท่ี 8.1-8.3(จากหนงั สอื เรยี น) 3) ใบงานท่ี 8.1(จากหนงั สอื เรยี น) 7.3 หลกั ฐานแสดงคณุ ธรรมจริยธรรม/ค่านิ ยม/คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 2) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ 3) แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 การวดั และประเมินผล 8.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 8 8.2 การประเมินระหว่างเรียน ประเมนิ รายบุคคล 1) ตรวจแบบฝึกทกั ษะท่ี 8.1-8.3 (จากหนงั สอื เรยี น) 2) ตรวจใบงานท่ี 8.1(จากหนงั สอื เรยี น) 3) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 4) ประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมนิ รายกลมุ่ 1) ตรวจใบกจิ กรรม ศนู ยก์ ารเรยี นรทู้ ่ี 1-3 2) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ 8.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 8 20 คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐานอาชพี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook