Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Secret story

Secret story

Published by piboonmanisara, 2021-11-17 10:24:14

Description: Secret story

Search

Read the Text Version

LOVE W IT N H I M EB E Secret story ก ร ะ เ ป๋ า ม้ ง มิ้ ง

About the Hmong หน้า 1 หน้า 2-3 หน้า 4

ในบ้านหลังหนึ่งมีเด็กชายที่แสนจะดื้อรั้นคนหนึ่งมีชื่อว่า \"มิ๊สุ\" อาศัยอยู่กับแม่ในวันหนึ่งแม่เดินเข้าไปในป่า เพื่อหาของกินก่อนไปแม่ได้พูดกับลูกว่า \"อยู่บ้านอย่าอกไปไหนนะ\" แล้วแม่ไปเหลือแต่ลูกที่อยู่บ้านคนเดียว พอตก เย็นแล้วแม่ก็ยังไม่กลับมามิ๊สุจึงออกไปตามหาแม่พอเดินออกไปได้ไม่นานมิ๊สุก็เจอทางแยกชึ่งมิ๊สุก็นึกถึงคำสอน ของแม่ที่บอกว่า \"กี๊จ๊อไล มงชาไต\" (ซ้ายดีนำทางไปในทางที่ถูก) \"กี๊จั้งล่าง ปู้กลั้งเป่า\" (ขวาร้าย นำทางไปเจอสิ่งที่ ไม่ดี) ในเวลาเจอทางแยกที่เราไม่รู้ทาง ซึ่งมิ๊สุก็จะไม่ได้ จึงตัดสินใจไปทางขวา มิ๊สุเดินไปร้องตะโกนหาแม่ไปแล้วอ ยู่ๆก็มีเสียงตอบรับกลับมาซึ่งก็คือเสียงของผีที่มีชื่อ \"ปู้กลั้งเป่า\" เป็นผีผู้หญิงแก่ๆที่มีลักษะรูปร่างที่อ้วนเตี้ย ผม ยาวถึงพื้น (ซึ่งความเชื่อในการเดินป่าคืออย่าส่งเสียงดังและเวลาได้ยินเสียงตอบมาอย่าตอบกลับ) ผีตัวนี้จะกินมิ๊สุ แต่มิ๊สุก็เกลี้ยกล่อมผีว่าอย่าเพิ่งกินมิ้สุเลยมิ้ยังตัวเล็กและผอมมาก ถ้าจะกินก็ให้มิ๊สุกินผลท้อที่อยู่บนต้นก่อนจะได้ อ้วนๆ ซึ่งผีก็เชื่อและผีก็อยากกิน ผีจึงให้มิ๊สุปีนต้นท้อและเก็บให้มันกินด้วยมิ๊สุก็บอกให้ผีขึ้นมากินบนต้นด้วยกันจะ ได้อร่อยผีก็ปีนขึ้นไปบนต้นท้อพอกินได้สักแป๊บ มิ๊สุก็บอกว่าเห็นเหาบนหัวของผี จึงอาสาเก็บเหาบนหัวให้แต่ความ จริงคือมิ๊สุมัดผมของผีกับต้นท้อที่แผ่กิ่งก้าน พอมัดเสร็จมิ๊สุก็กระโดดลงมาและวิ่งหนีกลับบ้านไปผีก็กระโดลงมา ทำให้ผมบนหัวของผีหลุดออกไปหมดเหลือแต่หัวแดงๆที่ไม่มีผมความเจ็บปวดนี้ทำให้ผีไม่สามารถตามมิ๊สุไปได้มิ๊สุก็ กลับมาเล่าให้แม่ฟังเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดที่พบเจอ หน้า 1

ณ เมืองหนึ่งได้จัดให้มีเทศกาลเลือกคู่ ในงานนี้จะมีหญิงสาวสวยและชายหนุ่มรูปงามมากมายเพื่อมาเลือกคู่ นู้ไพล้เป็นคนหนึ่งที่ ไปร่วม งานด้วยแต่เขากลับไม่พบคนที่ถูกใจ เมื่อกลับมาบ้านเขาจึงไปขอเทวดาให้ท่านช่วยแนะนำว่าผู้หญิงคนไหนมีความเหมาะสมกับเขา เทวดาจึงแนะนำ ให้นู้ไพล้ปีนขึ้นไปบนภูเขาลูกที่สูงที่สุดแล้วมองไปสุดลูกหูลูกตาหากว่าพบเห็นหญิงสาวคนไหนเป็นคนแรกคนนั้นคือ เนื้อคู่ของเขา นู้ไพล้จึงทำตาม แล้วเขาก็ได้เจอสาวงามชื่อ อึ่นเก้าอึ่นจะ นู้ไพล้จึงไปขอและแต่งงาน และใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข วันหนึ่งเสือสมิงอยากจะมีคู่บ้างก็ไปถามเทวดา เทวดาบอกให้เสือสมิงขึ้นเขาแล้วมองไปให้สุดสายตา ถ้าเจอหญิงสาวคนไหนเป็นคนแรก คน นั้นคือเนื้อคู่ของเสือสมิง เสือจึงไปทำตาม คำที่เทวดาบอก แล้วเขาก็เห็นหญิงสาวคือ อึ่นเก้าอึ่นจะ ซึ่งเป็นภรรยาของนู้ไพล้ เสือสมิง จึงวางแผนที่ จะได้อึ่นเก้าอึ่นจะมาเป็นคู่ครอง วันหนึ่งนู้ไพล้ออกไปเดินป่า เสือสมิงจึงแปลงกายเป็นเขาแล้วพาอึ่นเก้าอึ่นจะเข้าป่าลึก พอนู้ไพล้กลับมาไม่เห็นภรรยา รู้ว่าเสือสมิงลักพาตัว เธอไป เขาจึงตีดาบมาเล่มหนึ่งซึ่งมีอานุภาพ ร้ายแรงเพื่อเอาไว้ปราบเสือสมิง นู้ไพล้ทดลองเอาไปฟันหมูและวัวของพ่อ จนแน่ใจว่าดาบคม มากพอ จึงออกเดินทางไปตามหาภรรยา เมื่อเดินสะกดรอยตามเสือสมิงไปได้สักระยะหนึ่ง รอยเท้าของเสือสมิงก็หายไป นู้ไพล้จึงเป่าใบไม้ เป็นเพลงเพื่อตาม หาภรรยา เธอเป่าตอบกลับมาว่านู้ไพล้ไม่ได้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนออกเดินทาง ทันใดนั้นมีนกตัวหนึ่งบินมาเกาะบนต้นไม้เขาจึงใช้ดาบฟันนกตัวนั้นมา บูชาเจ้าป่าเจ้าเขาเมื่อบูชาเสร็จแล้วเขาก็ตามรอยเท้าของเสือสมิงจนเจอ ตามไปถึงที่อยู่ของมัน เมื่อไปถึงมีแค่ รอยการหยุดพัก เขาจึงนอนค้างที่นั่น เพราะ เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว รุ่งเช้าเขาออกเดินทางตามเข้าไปในถ้ำซึ่งเสือสมิงจะพักตอนกลางวัน นู้ไพล้จึงแอบไปเฝ้ารออยู่หน้าปากถ้ำจนเวลากลางคืน เขาเข้าไปซ่อน ตัว อยู่จนถึงเวลาที่เสือสมิงออกไปหากิน เขาจึงเข้าไปในถ้ำแล้วไปหาภรรยา จากนั้นอึ่นเก้าอึ่นจะนำถังใส่น้ำมาวางไว้หน้าทางเข้าถ้ำ เพื่อจะดูว่า เสือ สมิงจะกลับมาหรือยัง ผลปรากฏว่าเสือสมิงกำลังเดินทางกลับมาพร้อมกับเนื้อ นู้ไพล้จึงต้องซ่อนตัวอยู่ตรงผนังด้านในถ้ำตลอดทั้งคืน ( ต่ อ ห น้ า ถั ด ไ ป ) หน้า 2

รุ่งเช้าเสือสมิงก็ได้กลิ่นมนุษย์จึงคิดว่านู้ไพล้ตามมาเจอแล้ว เสือสมิงจึงเรียกพรรคพวกมาซึ่งมีทั้งหมด 11ตัว จึงเกิดการต่อสู้กันแต่นู้ไพล้ก็ พาภรรยาออกมาจากถ้ำได้แต่หลงวนอยู่ในป่า หาทางออกไม่ได้ อึ่นเก้าอึ่นจะจึงบอกให้สามีขุดหลุมเพื่อให้เธอถอดชุดเสือออก และเมื่อเธอลงไปใน หลุมให้เขาหางไผ่มาปักไว้ข้างหลุม ถ้ากิ่งไผ่เขียวชอุ่มดีเธอจะกลับมาแต่ถ้ากิ่งไผ่เหี่ยวแห้งลง เธอก็จะไม่ได้กลับมาและเมื่อเธอลงไปแล้ว ห้ามเขาดู จนกว่าจะผ่านไปเป็นเวลาสามวันถ้าจั่ง(เครื่องดนตรีของม้ง)ดังขึ้นเธอจะกลับมา ผ่านไปสามวันแล้วกิ่งไผ่ก็ยังไม่เขียว ผ่านไปเจ็ดวันจั่งก็ไม่ดังทำให้นู้ไพล้เสียใจมาก คิดว่าภรรยาอาจจะไม่ได้กลับมาเขาจึงเดินออกมาจาก ตรงนั้นเมื่อเดินออกมาเขากลับได้ยินเสียงของภรรยา บอกว่า \"เธอฆ่าพี่น้องเสือสมิงตายหมดแล้วแล้วยังจะทิ้งเราไปอีกเหรอ \" 3 ครั้ง นู้ไพล้ จึงวิ่ง กลับมาเห็นชุดเสืออยู่ในหลุมแล้วเขาก็เก็บชุดเสือไว้ แล้วทั้งสองก็ไปใช้ชีวิตด้วยกันที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง วันหนึ่งทั้งสองออกไปทำไร่ระหว่างทางนั้นอึ่นเก้าอึ่นจะเกิดปวดท้องจะคลอดลูกขึ้นมากะทันหันแต่ไม่ได้บอกกับสามีจึงแอบไปคลอดลูกข้าง ทาง คลอดออกมาเป็นลูกเสือสามตัว นู้ไพล้เห็นว่า ภรรยาออกไปนานจึงตามไปดูเห็นว่าภรรยาคลอดลูกออกมาเป็นเสือ ทั้งสองก็พาลูกกลับไปเลี้ยง ที่ไร่ วันหนึ่งเขาออกไปทำไร่ด้วยความเหนื่อยเมื่อกลับมาถึงบ้านจึงเผลอหลับไป ลูกเสือทั้งสามจึงพูดขึ้นว่า \" จะเอาใบหูของพ่อ 2 ข้าง อีกตัวหนึ่ง เอานิ้วหัวแม่เท้า \" เมื่อนู้ไพล้ได้ยินจึงโกรธมากจับลูกเสือสองตัวมาทุบกับดินจนตาย ส่วนอีกตัวหนึ่งวิ่งหนีรอดไปได้แล้วหันมาท้าทายกับเขาว่า\" อีก สามปีเรามาต่อสู้กันว่าใครจะเก่งกว่า \" เวลาผ่านไปสามปีนู้ไพล้ออกไปทำไร่ ลูกเสือตัวนั้นก็โตเป็นหนุ่มแล้วกลับมาสู้กับเขา นู้ไพล้จึงบอกว่าให้เขาสูบบุหรี่เสร็จก่อน แล้วเขาก็ใช้ โอกาสนั้นเอาเชือกมามัดคอลูกเสือตัวไว้กับคันไถ จากนั้นเขาจึงใช้ค้อนทุบจนลูกเสือตัวนั้นตายเขาจึงบอกให้คนในหมู่บ้านมาแบ่งเนื้อเสือไปกินกัน หน้า 3

การเล่นลูกช่วงหรือที่คนม้ง เรียกกันว่า \"จุเป๊าะ\" นั้นถือว่าเป็นการละเล่นเพื่อฉลองวันปีใหม่ม้งโดยเฉพาะลูก ช่วงนั้นจะมีลักษณะกลมเหมือนลูกบอลทำด้วยเศษผ้ามีขนาดเล็กพอที่จะถือด้วยมือข้างเดียวได้การละเล่นลูกช่วงจะ แบ่งกลุ่มผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายหญิงกับฝ่ายชาย โดยที่ก่อนจะมีการละเล่นฝ่ายหญิงจะเป็นผู้ที่เอาลูกช่วงไป ให้ฝ่ายชาย หรือญาติๆของฝ่ายหญิงเป็นผู้ที่นำลูกช่วงไปให้ฝ่ายชายเมื่อตกลงกันได้ก็จะทำการโยนลูกช่วงโดยฝ่าย หญิง และฝ่ายชายแต่ละฝ่ายจะยืนเป็นแถวหน้า กระดานเรียงหนึ่ง หันหน้าเข้าหากันมีระยะห่างกันพอสมควร แล้ว โยนลูกช่วงให้กันไปมาและสามารถทำการสนทนากับคู่ที่โยนได้ คำถามที่ว่า \"เขาโยนลูกช่วงกันไปมาทำไมเหรอ\" ก็เพื่อความสนุกสนาน แล้วหนุ่มสาวยังจะได้มีเวลาคุยกัน จีบกันไป\" ว่ากันว่า การเล่นลูกช่วง นั้นถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของหนุ่มสาวชาวม้ง เพราะ เป็นการเปิดโอกาส ให้หนุ่มสาวชาวม้งได้รู้จักกันเพื่อมิตรภาพที่ดีต่อกันและที่สำคัญถ้าหนุ่มสาวพึงใจชอบพอกันแล้วก็นำไปสู่การแต่งงาน กันในอนาคตได้ \"แล้วผู้หญิงม้งที่แต่งงานแล้วสามารถเล่นลูกช่วงได้มั้ย\" ถ้าผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว เขาจะห้ามไม่ให้เล่น ลูกช่วงอีกเพราะถือว่าผิดธรรมเนียมของม้ง แต่ฝ่ายชายสามารถเล่นได้ แต่อยู่ที่ว่าฝ่ายหญิงจะทำการยินยอมเล่นกับ ตนหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายหญิงสาวคนนั้น หน้า 4

I HOPE YOU'RE GOING TO BE HAPPY ก ร ะ เ ป๋ า ม้ ง มิ้ ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook