Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore IDPlan ๒๕๖๔

IDPlan ๒๕๖๔

Published by กิติศักดิ์ ส., 2021-06-01 14:33:59

Description: IDPlan ๒๕๖๔

Search

Read the Text Version

1

ก คำนำ นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ได้มุ่งเน้นให้ครูและบุคลากร พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการประเมิน สมรรถนะ (Competency – Based Approach) จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อย และ ความสามารถในการปฏิบัติงานของตนเอง ตลอดทั้งสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็น ของหน่วยงาน และของตนเองอย่างแท้จริง ดังน้ัน ครูจึงต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนที่มีคุณภาพ (Individual Development Planning : IDP) เพ่ือเป็นการพัฒนาตนเอง ท่ีสนองตอบความต้องการแต่ละบุคคลสนอง ความสนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนา ซึ่งจะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ท่ีมีประสิทธิภาพต่ อไป รวมท้ังเป็นการพัฒนาท่ีต่อเน่ืองจนทำให้การปฏิบัติหน้าที่มีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล สูงสุดในการปฏิบัติงาน อันนำไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพท่ีมีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่าง แทจ้ ริง สามารถตรวจสอบได้และพัฒนาสู่ความเปน็ วิชาชีพอยา่ งย่ังยนื ต่อไป ลงชอื่ (นายกิตศิ ักด์ิ สุขวโรดม) ตำแหน่ง ครู

0 สารบญั หน้า วิสัยทศั น์ .........................................................................................................................................................๑ พนั ธกิจ ...........................................................................................................................................................๑ ค่านิยมขององค์การ.........................................................................................................................................๑ เป้าประสงค์ ....................................................................................................................................................๑ กลยทุ ธ์............................................................................................................................................................๑ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้เรยี น โรงเรียนวัดเขียนเขต มี 8 คณุ ลักษณะ คือ...........................................๒ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน .............................................................................................................................๒ ผูเ้ รียนมคี ุณลักษณะตามโรงเรียนมาตรฐานสากล ............................................................................................๒ แผนพฒั นาตนเองรายบุคคล............................................................................................................................๓ ภาคผนวก .................................................................................................................................................... ๑๙

๑ วิสัยทัศน์ โรงเรียนวัดเขียนเขตเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ท่ีมีความสุข สร้างคนดี มีคุณภาพระดับมาตรฐานสากล บนวิถีชวี ิตแบบไทย และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเพื่อก้าวสปู่ ระชาคมอาเซยี น และประชาคมโลก พันธกิจ พัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ เป็นคนดี มีความสุข ในบรรยากาศการเรียนรู้ที่หลากหลาย บนวิถีชีวิตแบบไทยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีคุณภาพระดับมาตรฐานสากลส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพได้อย่าง สมบูรณ์ ค่านยิ มขององคก์ าร W Worth ความมีคุณคา่ K Knowledge ความรู้ K Kindness ความกรุณา S Standard ความมมี าตรฐาน องค์กรมาตรฐานสร้างคุณคา่ พฒั นาความรู้ ส่ผู ้เู รยี นด้วยความรักและเอ้ืออาทร อัตลักษณ์โรงเรียนวัดเขียนเขต “เดก็ ไทยไหว้สวย” เอกลกั ษณ์โรงเรียนวัดเขียนเขต “โรงเรยี นน่าอย่”ู เป้าประสงค์ 1. ผเู้ รยี นทุกคนมีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษาขนั้ พน้ื ฐานและมาตรฐานสากล เพอื่ พฒั นาสคู่ วามเปน็ เลศิ 2. ผูเ้ รียนมวี ิถชี วี ติ แบบไทยตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3. ผเู้ รยี นในเขตพื้นที่บริการทุกคนได้รบั โอกาสทางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน ตงั้ แต่อนบุ าลจนจบการศกึ ษา ข้ันพนื้ ฐานอย่างมีคุณภาพท่วั ถงึ และเสมอภาค 4. ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา สามารถปฏิบตั ิงานได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ เต็มตามศกั ยภาพ 5. สมาชกิ ในองค์กรสามารถบรหิ ารจัดการความรู้เพื่อพฒั นาองค์ความรู้และคุณภาพชีวิตท่ดี ี 6. สถานศกึ ษามีความเข้มแข็งตามหลกั ธรรมาภิบาล และเป็นกลไกขับเคล่ือนการศกึ ษา ข้ันพื้นฐานส่รู ะดับคุณภาพมาตรฐานสากล กลยทุ ธ์ 1. พัฒนาหลกั สตู รและกระบวนการจดั การเรยี นรู้เทยี บเคียงมาตรฐานสากล 2. พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ีคุณภาพระดบั มาตรฐานสากล 3. ปลกู ฝงั คณุ ธรรม ความสำนกึ ในความเป็นชาติไทยและวิถชี ีวิตตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง 4. พัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษาสมู่ าตรฐานวิชาชีพและมคี วามเปน็ สากล

๒ 5. สร้างเครอื ข่าย ส่งเสรมิ และพฒั นาความรว่ มมือในการจดั การศึกษาระหวา่ งเครือข่าย กบั สถานศึกษา 6. บรหิ ารจดั การดว้ ยระบบคุณภาพ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผเู้ รียน โรงเรยี นวัดเขยี นเขต มี ๙ คุณลักษณะ คือ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอ่ื สัตย์สจุ รติ 3. มีวินยั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 6. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะ 9. กตญั ญู สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ผ้เู รียนมีคณุ ลกั ษณะตามโรงเรยี นมาตรฐานสากล 3.1 เปน็ เลศิ ทางวชิ าการ 3.2 สื่อสารไดอ้ ย่างนอ้ ย 2 ภาษา 3.3 ล้ำหน้าทางความคดิ 3.4 ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์ 3.5 ร่วมกันรับผดิ ชอบต่อสงั คมโลก

๓ ID Plan (Individual Development Plan) แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล แผนพฒั นาตนเองรายบคุ คล (ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากร) ......................................................................................... แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล เป็นการพัฒนาบุคลากรโดยยึดหลักการประเมินสมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของความสามารถในการ ปฏิบัติงานของตนและสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของหน่วยงาน และของตนเอง อย่างแท้จริงอีกท้ังจะทำให้การพัฒนาครูดำเนินไปอย่างประหยัด และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดย สมรรถนะจะแบ่งเป็น 2 สมรรถนะ คอื 1. สมรรถนะหลัก (Core Competency) หมายถึง สมรรถนะที่ทุกคนต้องมีหรือปฏิบัติได้ เป็น คุณลกั ษณะรว่ มกนั ของบคุ คลทุกตำแหน่ง ซ่ึงสมรรถนะหลักของครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ประกอบดว้ ย 1.1 การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏบิ ตั งิ าน 1.2 การบรกิ ารท่ดี ี 1.3 การพัฒนาตนเอง 1.4 การทำงานเป็นทมี 1.5 จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชีพ 2. สมรรถนะประจำสายงาน (Functional Competency) เป็นสมรรถนะทก่ี ำหนดเฉพาะสำหรับแต่ ละตำแหนง่ เพื่อใหบ้ ุคคลท่ีดำรงตำแหนง่ นั้น แสดงพฤติกรรมทเี่ หมาะสมกับหน้าทีแ่ ละสามารถปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ได้ดี ยิง่ ขึ้น ซ่ึงสมรรถนะประจำสายงานของครู ประกอบด้วย 2.1 การบริหารจดั การหลักสูตรและการจดั การเรียนรู้ 2.2 การพฒั นาผู้เรยี น 2.3 การบริหารจดั การช้ันเรียน 2.4 การวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวจิ ัย เพอ่ื การพัฒนาผู้เรียน 2.5 ภาวะผูน้ ำครู 2.6 การสร้างความสัมพนั ธ์และความรว่ มมือกับชุมชน

๔ ID Plan (Individual Development Plan) แผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล (ของข้าราชการครแู ละบุคลากร) ตอนที่ 1 ข้อมูลทัว่ ไป 1.1 ชื่อ – สกุล นายกติ ศิ ักดิ์ สขุ วโรดม . 1.2 เกดิ วันท่ี 11 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2538 ปัจจบุ นั อายุ 2๖ ปี 1.3 ท่ีอยูต่ ามทะเบียนบา้ น ๕๔/๑๙๘ หมู่ ๔ ตำบล คลองส่ี อำเภอ คลองหลวง จังหวดั ปทมุ ธานี 12๑๒๐ . 06-2525-8551 1.4 เบอรโ์ ทรท่ีตดิ ต่อได้ 1.5 E - mail [email protected] 1.6 วันเดือนปที ี่บรรจุรบั ราชการ 16 พฤษภาคม 2562 อายรุ าชการ ๒ ปี 1.7 วนั เดอื นปที ี่มาปฏิบัติราชการ ณ โรงเรียนวดั เขียนเขต 16 พฤษภาคม 2562 รวมระยะเวลา ๒ ปี 1.8 ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ - ระดับเงินเดือน ระดบั ค.ศ. - ขัน้ ๑๘,๑๙๐ บาท ตำแหน่งเลขท่ี 498 สังกัดกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย 1.9 คณุ วฒุ ทิ างการศึกษา ท่ี วฒุ ิการศึกษา ปี พ.ศ. ที่ จบ วิชาเอก วิชาโท สถาบนั ท่ีจบ - มหาวิทยาลยั ๑ ศึกษาศาสตร ๒๕๖๒ การสอนภาษาไทย รามคำแหง - มหาบณั ฑิต มหาวทิ ยาลยั รามคำแหง (ศษ.ม.) ๒ ศึกษาศาสตร 2560 ภาษาไทย บัณฑิต (ศษ.บ.) ตอนท่ี 2 ข้อมูลการปฏบิ ัตงิ าน ปีการศกึ ษา 256๔ 2.1 ด้านการสอน ภาคเรียนท่ี 1/256๔ ท่ี รายวิชา รหัสวชิ า ชั้น ห้อง จำนวน หมายเหตุวชิ า นกั เรียน คาบ/สปั ดาห์ 1 ภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ท๑๖๑๐๑ ป.๖ ๑ - ๓ ๑๒๕ ๑๒ 2 กจิ กรรมแนะแนว - ป. ๖ ๓ ๔๖ ๑ 3 ลูกเสือ - ป. ๖ ๓ ๔๖ ๑ 4 ชมุ นุม - ป.๖ ๑-๓ ๑๕ ๑ รวม ๖ ๒๓๒ 1๘

๕ ภาคเรยี นที่ 2/256๔ ท่ี รายวิชา รหสั วชิ า ชัน้ หอ้ ง จำนวน หมายเหตุวชิ า นกั เรยี น คาบ/สัปดาห์ 1 ภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ท๑๖๑๐๑ ป.๖ ๑ - ๓ ๑๒๕ ๑๒ 2 กิจกรรมแนะแนว - ป. ๖ ๓ ๔๖ ๑ 3 ลูกเสือ - ป. ๖ ๓ ๔๖ ๑ 4 ชุมนมุ - ป.๖ ๑-๓ ๑๕ ๑ รวม ๖ ๒๓๒ 1๘ 2.2 การจดั การเรยี นการสอน ระดับช้ัน จำนวน 2.2.1 จดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้ ดังน้ี ป.๖ (แผน) ท่ี รายวชิ า ๑๖๐ 1 ภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ (ท๑๖๑๐๑) 2.2.2 การผลิตสอ่ื / นวัตกรรม เอกสารประกอบการสอน ฯ ได้แก่ จำนวน ที่ ช่อื ส่ือ/นวตั กรรม ๑๐ 1 ชดุ กจิ กรรมสไลด์ สำนวน สภุ าษิต ๑ ๒ Power point หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ อ่านแลว้ ไดข้ ้อคิด ๑ ๓ Power point หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ อกั ษรไทยพาเพลนิ ๑ ๔ Power point หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๓ ประโยคดีมีสาระ ๑ ๕ Power point หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๔ ชนดิ ของคำ จำให้ดี ๑ ๖ Power point หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๕ ประโยคสอื่ สารใจ ๑ ๗ Power point หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๖ กลอนไทย ซาบซึ้งใจ

ที่ ชอ่ื สื่อ/นวัตกรรม ๖ ๘ Power point หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๗ สำนวนไทยสอนให้คิด จำนวน ๙ Power point หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๘ สนกุ กับนทิ าน เพลงพื้นบ้าน ๑๐ Power point หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๙ พดู ดี รู้สอ่ื สาร ๑ ๑๑ Power point หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑๐ เขียนสวยดว้ ยมอื เรา ๑ ๑๒ Power point หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๑ ฟงั ดู รู้ให้ถีถ่ ้วน ๑ ๑๓ Power point หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๑๒ คำไทยจากตา่ งแดน ๑ ๑๔ Power point หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๓ สบื ค้นเสาะหา ๑ ๑๕ Power point หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๔ รู้รักษ์ภาษาไทย ๑ ๑๖ Power point การเขียนจดหมายถึงผู้ปกครอง ๑ ๑๗ Power point การอ่านจบั ใจความสำคญั ๑ ๑ ๑

๗ 2.2.3 รปู แบบ / เทคนิควธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้ทู ่ีครใู ช้ คอื ข้อใดบ้าง (ตอบได้มากกวา่ 1 ข้อ)  การอธิบาย  การสบื สวนสอบสวน  การสาธิต / ทดลอง  กลุม่ สบื คน้ ความรู้  การใชเ้ กมประกอบ  กลุ่มสมั พันธ์  สถานการณ์จำลอง  การเรยี นรแู้ บบร่วมมอื  กรณีตัวอยา่ ง  ความคดิ รวบยอด  บทบาทสมมตุ ิ  อรยิ สัจ 4  การแกไ้ ขสถานการณ์  การศกึ ษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง  โปรแกรมสำเรจ็ รูป  การทศั นศึกษานอกสถานท่ี  ศนู ยก์ ารเรยี น  การเรียนรู้จากหอ้ งสมุด  ชุดการสอน  การพัฒนากระบวนการคิด  คอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน  การใช้ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น  โครงงาน  อน่ื ๆ ระบุ………………  การถามตอบ  อ่นื ๆ ระบุ……………  การอภปิ รายกลุ่มยอ่ ย  อ่ืน ๆ ระบุ……………  การแกป้ ญั หา  อน่ื ๆ ระบุ………… สรุป จำนวนรปู แบบ / วิธกี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนท่ีครใู ช้………๑๕………….วิธี

๘ 2.3. การทำวจิ ัยในช้ันเรียน จำนวน ๒ เรอื่ ง ได้แก่ ระดับชั้น ป.๖ ที่ งานวจิ ยั เรอื่ ง ป.๖ 1 การพฒั นาความสามารถการเขยี นเรยี งความ ของนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ โรงเรยี นวัดเขยี นเขต โดยใชช้ ุดกจิ กรรมจากการเรยี นแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค CIRC ๒ การแกป้ ัญหาการอ่านจบั ใจความสำคัญของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ โรงเรยี นวัดเขยี นเขต โดยใชแ้ บบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ 2.4 งานพิเศษทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 2.4.1 ครเู วรประจำวัน หนา้ ท่ีรบั ผิดชอบ เวรประจำวันอังคาร 2.4.2 หนา้ ทีพ่ ิเศษในสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย 2.4.3 หน้าที่อ่นื ๆ ตามกลมุ่ งานต่าง ๆ 3. การพฒั นาสมรรถนะตนเอง 3.1 การเขา้ รว่ มกิจกรรมทางวชิ าการ (การเขา้ รว่ มอบรม / ประชุมสัมมนา / ศึกษาดูงาน /การแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ฯลฯ) ท่ี วัน / เดอื น รายการ / เร่อื ง สถานที่ หน่วยงานทจ่ี ัด จำนวนชว่ั โมง / ปี 1 22 โครงการอบรม “เสรมิ สร้าง โรงเรยี นวัด สำนักงานเขต 6 ชวั่ โมง มถิ ุนายน ประสิทธิภาพการปฏิบัตหิ นา้ ท่คี รู เขียนเขต พืน้ ทกี่ ารศกึ ษา 2562 ผชู้ ว่ ยมืออาชีพ”ตามโครงการอบรม ประถมศึกษา เสริมสร้างประสิทธภิ าพการปฏบิ ัติ ปทุมธานี เขต 2 หน้าที่ครูผูช้ ว่ ยมอื อาชีพ ๒ ๑๓ “สุจริตไทย” หลกั สูตรสำหรับ โรงเรยี นวัด สำนักงานใหญ่ - กันยายน ขา้ ราชการ (ประเภทออนไลน์) เขียนเขต บรษิ ทั สจุ รติ ไทย ๒๕๖๒ จำกดั ๓ ๒๒ การคดิ สรา้ งสรรค์ Creative โรงเรยี นวัด โครงการ - กันยายน Thinking (ประเภทออนไลน)์ เขยี นเขต มหาวิทยาลยั ไซ ๒๕๖๒ เบอร์ไทย สำนกั งาน ปลัดกระทรวง อดุ มศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และ นวัตกรรม

ที่ วนั / เดือน รายการ / เร่อื ง สถานท่ี ๙ โรงเรยี นวัด หน่วยงานทจ่ี ดั จำนวนชั่วโมง เขยี นเขต / ปี โรงเรยี นวัด ๔ ๑๘ อบรมหลักสตู รการลดความเส่ียงภัย เขยี นเขต มูลนธิ ศิ ภุ นมิ ติ ๒๐ แห่งประเทศไทย กันยายน พบิ ัติธรรมชาตแิ ละการปรับตัวรบั การ ๒๕๖๒ เปลย่ี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ สำหรับ บคุ ลากรในสถานศึกษา (ประเภทออนไลน)์ ๕ ๒๕ อบรม “การให้คำปรึกษาวยั รุ่นผ่าน กรมสขุ ภาพจติ ๑ สถาบนั กันยายน ระบบ Training Online หลกั สูตร สุขภาพจิตเดก็ และเยาวชนราช ๒๕๖๒ การใหก้ ารปรึกษาวยั ร่นุ กรณีความ นครนิ ทร์ รุนแรง” (ประเภทออนไลน)์ ๖ ๒๔ อบรม “การใหค้ ำปรึกษาวยั รุ่นผา่ น โรงเรยี นวัด กรมสุขภาพจิต ๑ กันยายน ระบบ Training Online หลักสตู ร เขียนเขต สถาบนั ๒๕๖๒ การให้การปรึกษาวัยรุ่น กรณี สุขภาพจิตเดก็ บทเรยี นเบ้ืองต้น” และเยาวชนราช (ประเภทออนไลน)์ นครินทร์ ๗ ๒๘ อบรม “การออกแบบบทเรียน โรงเรยี นวัด โครงการ ๖ พฤศจิกายน มัลตมิ เี ดียและแอนเิ มชนั เพื่อ เขยี นเขต มหาวิทยาลยั ไซ ๒๕๖๒ การศกึ ษา” (ประเภทออนไลน์) เบอรไ์ ทย สำนกั งาน ปลดั กระทรวง อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและ นวัตกรรม สรปุ จำนวนคร้งั / ชั่วโมงที่ไดร้ ับการพัฒนา (ปีการศึกษา 256๓) ๓๔ ชว่ั โมง

๑๐ 4.2 ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในการส่ือสาร (  ) ได้ ( ) ไมไ่ ด้ 4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการจัดการเรียนรู้ (  ) ใช้ได้ ( ) ใช้ไม่ได้ 4.4 ผลงานทเ่ี กิดจากการปฏิบตั ิหน้าท่ีในตำแหนง่ ปัจจุบัน 4.4.1 ผลที่เกิดจากการจดั การเรียนรู้ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และ นำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียน มีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง โดยใช้ แฟ้มสะสมผลงาน ช้ินงาน แบบฝึก สื่อเทคโนโลยีมาประกอบการจัดการเรียนรู้ โดยการวัดผลประเมินผล ดังกล่าวครอบคลุมทุก ๆ ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ การปฏิบัติ กระบวนการและคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ทั้งน้ีเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการของนักเรียนทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา และมีคุณธรรม จริยธรรม ทั้งนี้เพ่ือให้นักเรียนมีความรู้ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ตลอดจนมีการบันทึก หลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรูอ้ ย่างสมำ่ เสมอ ทง้ั นเ้ี พอ่ื จะได้จดั ซ่อมเสรมิ ใหก้ ับนกั เรยี นท่ีมีปญั หา 4.4.2 ผลทเี่ กดิ จากการพัฒนาวิชาการ ผลท่ีเกิดจากการพัฒนาทางด้านวิชาการ ได้รับรางวัล ครูผู้ฝึกซ้อมนักเรียน รายการ แข่งขันจากงานศิลปหัตกรรมนักเรียน และพัฒนางานด้านแนะแนวการศึกษาต่อ ประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ ข้อมูลให้กับนักเรียนในการศึกษาต่อ โดยพัฒนาผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรมความมีวินัยในตนเองใช้เทคนิค แบบกลุ่มเพ่ือนช่วยเพ่ือน เป็นสื่อในการพัฒนา ซ่ึงมีผลงานนักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้ในระดับท่ีดีข้ึน นอกจากนั้นโรงเรียนยังสนบั สนุนและส่งเสรมิ ให้บคุ ลากรได้พัฒนาสื่อและนวัตกรรม 4.4.3 ผลที่เกิดกบั ผู้เรยี น การจัดกิจกรรมการการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการให้นักเรียนได้ฝึก การปฏิบัติจริง เพ่ือให้นักเรียนได้มีทักษะต่าง ๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงาม ความมีวินัยใน ตนเอง ส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัยในตนเอง มีสัมมาคารวะ มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย มีความสามารถในการใช้ภาษาในการสื่อสาร และการมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นส่ิงท่ีผู้เรียน สามารถนำความรู้ความเขา้ ใจและทักษะไปบูรณาการและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นการเพ่ิมพูนสมรรถนะ ตนเองให้มากขึ้นและส่งผลให้การใช้ชีวิตภายหน้า บนพ้ืนฐานคุณธรรม นำความรู้ และเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนการอย่รู ่วมกนั ในสงั คมได้อยา่ งมีความสุข 4.4.4 ผลทเ่ี กิดกบั สถานศึกษา จากการที่สถานศึกษามีแผนกลยุทธ์ในการพัฒนา มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ท่ีชัดเจน เพื่อพัฒนาสถานศึกษา และพัฒนาผู้เรียน โดยมีโครงการ และสนับสนุนกิจกรรม ต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนักเรียนและครูมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรม ทำให้ผลการดำเนินงานเป็นท่ียอมรับของผู้ปกครอง ชมุ ชนท้องถิน่ นอกจากน้ันสถานศึกษายังได้รบั การยอมรับจากผู้ปกครองและชุมชนในด้านการดูแลเอาใจใส่ของ ครูท่ีมีต่อนักเรียนในด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การดูแลด้านพฤติกรรม คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ด้านกริ ิยา มารยาท ความมวี นิ ัยในตนเอง ความรับผิดชอบ

๑๑ 4.4.5 ผลทเี่ กิดกบั ชมุ ชน สถานศึกษามีส่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดปีการศึกษา โดยเฉพาะ กิจกรรมที่เก่ียวกับวัฒนธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทางศาสนา เช่น ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์ การทอดผ้าป่า ทอดกฐิน เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมที่เป็น ประโยชน์ กิจกรรมวันสำคัญ ได้แก่ กิจกรรมวนั แม่ กิจกรรมส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถ่ิน จนทำให้เกิดความ ร่วมมือ ความเข้าใจท่ีดีต่อกัน เกิดความรกั และความภาคภูมิใจในโรงเรยี นและทอ้ งถ่ิน นอกจากนี้โรงเรียน ยังได้จัดกิจกรรมการประชุมผู้ปกครอง ประชุมคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานในแต่ละภาคเรียนเพื่อ ช้แี จงนโยบายของโรงเรยี นและเพอื่ หาแนวทางในการร่วมพัฒนาโรงเรียนทงั้ พัฒนาอาคารสถานท่ีและพัฒนา ทางวชิ าการให้เป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน 5. ผลการประเมินสมรรถนะ ปีการศึกษา 2561 คะแนนเฉลย่ี ระดบั คุณภาพ สมรรถนะ 4.33 สงู 1. สมรรถนะหลกั (Core Competency) 4.00 ปานกลาง 1.1 การมุ่งผลสัมฤทธิใ์ นการปฏบิ ัตงิ าน 4.28 1.2 การบรกิ ารทดี่ ี 4.00 สงู 1.3 การพฒั นาตนเอง 4.58 ปานกลาง 1.4 การทำงานเปน็ ทมี 1.5 จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ 4.26 สูง 2. สมรรถนะประจำสายงาน (Functional Competency) 4.41 2.1 การบริหารจดั การหลกั สูตรและการจัดการเรียนรู้ 4.12 สูง 2.2 การพัฒนาตนเอง 4.12 สูง 2.3 การบริหารจัดการชัน้ เรียน สูง 2.4 การวิเคราะห์ สงั เคราะห์และการวจิ ัยเพ่ือพฒั นาผ้เู รยี น 4 สูง 2.5 ภาวะผู้นำครู 4 ปานกลาง 2.6 การสร้างความสมั พันธแ์ ละความร่วมมือกบั ชุมชน ปานกลาง สรุปผล สมรรถนะระดับคุณภาพดี จำนวน 2 สมรรถนะ สมรรถนะระดบั คุณภาพพอใช้ จำนวน....................................สมรรถนะ สมรรถนะระดบั คุณภาพปรบั ปรงุ จำนวน....................................สมรรถนะ 4.2 ความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษในการสื่อสาร ( ) ได้ ( ) ไมไ่ ด้ 4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการจัดการเรียนรู้ ( ) ใช้ได้ ( ) ใช้ไม่ได้

แผนพัฒนาตนเอง ขา้ ราชการครู ID Plan (Individual Development Plan) ส่วนที่ 1 การพัฒนาตนเอง ปีการศกึ ษา 256๓ อันดับ ที่ สมรรถนะท่ีพัฒนา ความ วิธกี าร/รปู แบบการพัฒ สำคญั สมรรถนะหลัก 1 การม่งุ ผลสัมฤทธ์ิ 1 การเข้ารบั การอบรมตามที่หน่ว ภายนอกจัดอบรม 2 การบริการทด่ี ี 4 ให้โรงเรยี นจดั ทำโครงสร้างการ องค์กร 3 การพฒั นาตนเอง 2 ศึกษาค้นควา้ ผา่ นระบบอนิ เทอ 4 การทำงานเปน็ ทีม 5 ให้โรงเรียนจัดทำโครงสร้างการ องค์กร 5 จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพครู 3 ให้โรงเรยี นจัดทำโครงสร้างการ องค์กร

๑๒ โรงเรยี นเขยี นเขต สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 ฒนา ระยะเวลาใน การขอรับการ ประโยชน์ การพฒั นา สนับสนนุ จาก ที่ได้รบั หนว่ ยงาน วยงาน พ.ค. 6๔ – ต.ค. 6๕ โรงเรยี นวดั เขียนเขต ครแู ละบคุ ลากรไดร้ บั การพฒั นาตนเอง รพฒั นา พ.ค. 6๔ – มี.ค. 6๕ โรงเรียนวัดเขยี นเขต ครแู ละบคุ ลากรได้รบั การพฒั นาตนเอง อร์เน็ต พ.ค. 6๔ – มี.ค. 6๕ โรงเรยี นวดั เขียนเขต ครแู ละบุคลากรได้รบั การพัฒนาตนเอง รพัฒนา พ.ค. 6๔ – ม.ี ค. 6๕ โรงเรยี นวัดเขียนเขต ครแู ละบุคลากรไดร้ บั การพัฒนาตนเอง รพฒั นา พ.ค. 6๔ – ม.ี ค. 6๕ โรงเรยี นวดั เขียนเขต ครูและบคุ ลากรได้รบั การพัฒนาตนเอง

แผนพัฒนาตนเอง ขา้ ราชการครู ID Plan (Individual Development Plan) โ ส่วนท่ี 1 การพัฒนาตนเอง ปกี ารศึกษา 256๓ อันดบั ท่ี สมรรถนะทีพ่ ัฒนา ความ วธิ กี าร/รปู แบบการพ สำคญั สมรรถนะประจำสายงาน 1 การบริหารหลักสูตรและการจดั การ 1.จดั ประชมุ หวั หน้ากลมุ่ สาระก เรยี นรู้ 2.โรงเรยี นจัดอบรมการทำหลัก วดั ผลประเมนิ ผล 3.จดั ทำหลกั สตู รกลมุ่ สาระการ 4.จัดทำหลกั สูตรสถานศกึ ษา 5.จัดทำหนว่ ยและแผนการจัดก 2 การพัฒนาผู้เรยี น 1.ดำเนนิ การเรียนรูต้ ามแนวทา ดงั นี้ 1) คน้ หาปญั หา 2) หาส แนวทางแก้ไข 4) ออกแบบกิจ นำสกู่ ารปฏบิ ตั แิ ละการสะท้อน 3.2 สรปุ รายงานผล และจดั กิจ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ 3 การบริหารจดั การชั้นเรยี น 1.โรงเรียนจดั อบรม เรอื่ งการบ ช้นั เรียน 2.ดำเนนิ การตามกระบวนการบ จดั การชน้ั เรียน ดังน้ี 1) การเตรยี มการ 2) การวางแผนจดั การ 3) การดำเนินการในช้ันเรยี น

๑๓ โรงเรยี นเขยี นเขต สำนักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 พฒั นา ระยะเวลาใน การขอรับการ ประโยชน์ การพฒั นา สนบั สนนุ จาก ท่ีไดร้ บั หน่วยงาน การเรียนรู้ พ.ค. 6๔ – มี.ค. 6๕ โรงเรยี นวัดเขียนเขต ครแู ละบคุ ลากรไดร้ บั กสตู รและการ การพฒั นาตนเอง รเรียนรู้ การเรยี นรู้ พ.ค. 6๔ – มี.ค. 6๕ โรงเรยี นวดั เขียนเขต ครูและบคุ ลากรได้รบั การพัฒนาตนเอง าง PLC สาเหตุ 3) จกรรมและ 5) นผล จกรรม บริหารจัดการ พ.ค. 6๔ – ม.ี ค. 6๕ โรงเรียนวัดเขียนเขต ครูและบคุ ลากรไดร้ บั บรหิ าร การพัฒนาตนเอง

ท่ี สมรรถนะที่พัฒนา อันดับ ความ วธิ ีการ/รปู แบบการพ 4 การวเิ คราะห์ สงั เคราะหแ์ ละการ สำคัญ วิจยั เพื่อพัฒนาผเู้ รียน 1.โรงเรยี นจัดอบรม เร่อื งการว 5 ภาวะผูน้ ำครู พัฒนาผเู้ รียน โรงเรียนจดั ทำโครงสร้างการพ 6 การสรา้ งความสัมพันธแ์ ละความ โรงเรยี นจดั ทำโครงสรา้ งการพ ร่วมมอื กับชุมชนเพื่อการจดั การ เรยี นรู้

พฒั นา ระยะเวลาใน การขอรับการ ๑๔ วิจยั เพ่ือ การพัฒนา สนบั สนุนจาก หน่วยงาน ประโยชน์ ที่ไดร้ บั พ.ค. 6๔ – มี.ค. 6๕ โรงเรียนวดั เขยี นเขต ครแู ละบคุ ลากรไดร้ บั พฒั นาองค์กร พ.ค. 6๔ – มี.ค. 6๕ โรงเรียนวัดเขยี นเขต การพัฒนาตนเอง ครแู ละบุคลากรได้รบั การพัฒนาตนเอง พัฒนาองคก์ ร พ.ค. 6๔ – ม.ี ค. 6๕ โรงเรยี นวดั เขยี นเขต ครแู ละบคุ ลากรไดร้ บั การพัฒนาตนเอง

ส่วนท่ี 2 สรุปแผนพัฒนาตนเอง ปีการศึกษา 256๓ อนั ดับ เปา้ หมายการพัฒนา วิธ ความ สมรรถนะที่พัฒนา สำคญั เพอื่ ให้มีความสามารถในการ - เขา้ ร 1 การจดั การเรยี นรู้ สร้างและพัฒนาหลักสตู ร ศกึ ษา 2 การพฒั นาผเู้ รยี น ออกแบบจดั การเรียนรูโ้ ดยเนน้ เกี่ยวก ผู้เรียนเป็นสำคญั พฒั นาส่ือ การเร นวตั กรรมเทคโนโลยี และการ ประส วัด ประเมินผลการเรยี นรเู้ พื่อ ประเม พฒั นาผเู้ รียนอยา่ งมี - เขา้ ร ประสิทธิภาพและเกิด ผลติ ส ประสทิ ธิผลสงู สุด หน่วย เพื่อปลูกฝงั ใหผ้ ู้เรยี นมคี ุณธรรม - จัดก จรยิ ธรรม พฒั นาทกั ษะชวี ติ คณุ ธร และจัดระบบดูแลช่วยเหลอื และ ผ้เู รียน พฒั นาผเู้ รียนใหม้ คี ุณภาพ เสาธง สดุ สัป คณุ ธร - ส่งเส ความส

๑๕ ธกี าร/รปู แบบการพัฒนา ระยะเวลาใน การขอรบั การ ผลการพัฒนา การพัฒนา สนับสนนุ จาก ทค่ี าดว่าจะได้รับ รบั การอบรม สัมมนา ตลอดปี หน่วยงาน าดูงาน ศึกษาเอกสาร การศึกษา กับหลกั สูตร การออกแบบ โรงเรยี น ตนเองมีความสามารถใน รยี นรู้ การเขยี นแผนการจดั ตลอดปี สบการณ์ การวัดผล การศึกษา การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ มินผลเพ่ือพัฒนาตนเอง รบั การอบรมเกย่ี วกบั การ โดยมคี วามรูเ้ ร่ืองการเขยี น สื่อ การใชส้ ื่อประเภท ICT ที่ ยงานจัดขนึ้ ทกุ ๆ คร้ัง แผนการจดั ประสบการณ์ กจิ กรรมสง่ เสริม ปลกู ฝงั รรม จริยธรรมทดี่ งี ามให้กับ การวดั ผลประเมนิ ผล นอยเู่ สมอโดยการอบรมหน้า ง กิจกรรมโฮมรูม กิจกรรม ตลอดจนการผลติ ส่อื การ ปดาห์การเลา่ นทิ านสง่ เสรมิ รรม ใชส้ อ่ื ประเภท ICT สง่ ผล สริมผเู้ รยี นตามความถนัด สามารถ ตอ่ การจัดกจิ กรรมใหก้ ับ ผเู้ รยี นอยา่ งสูงสุด โรงเรยี น ผเู้ รยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ มที ักษะชีวติ เป็น ทยี่ อมรบั ของสังคม

อันดับ เป้าหมายการพัฒนา วิธ ความ สมรรถนะทีพ่ ัฒนา สำคัญ เพอ่ื จัดบรรยากาศการท่สี ง่ เสริม -จดั บร การเรียนรู้อย่างมคี วามสุขและ ต่อกา ๓ การบริหารจัดการ ความปลอดภัยของผเู้ รยี น -จดั มมุ ชั้นเรียน เพื่อให ๔ การบรหิ ารจัดการ -จัดปา้ ชัน้ เรยี น ขา่ วสา -จดั ทำ เรียนใ -จดั ระ ผเู้ รียน พฒั นา เพอื่ จัดบรรยากาศการทสี่ ่งเสรมิ -จัดบร การเรยี นรอู้ ย่างมีความสุขและ ต่อกา ความปลอดภัยของผเู้ รียน -จัดมมุ เพือ่ ให -จดั ปา้ ขา่ วสา -จดั ทำ เรยี นใ -จดั ระ ผู้เรยี น พฒั นา

๑๖ ธกี าร/รูปแบบการพัฒนา ระยะเวลาใน การขอรับการ ผลการพฒั นา การพัฒนา สนับสนุนจาก ทค่ี าดวา่ จะไดร้ ับ รรยากาศในช้นั เรียนให้เออื้ หน่วยงาน ารเรียนรู้ ตลอดปี มประสบการณต์ า่ ง ๆ การศกึ ษา โรงเรยี น หอ้ งเรยี นมบี รรยากาศทเ่ี อื้อ ห้เปน็ แหล่งเรยี นรู้ ายนเิ ทศเพือ่ เปน็ ข้อมูล ต่อการเรียนรู้ ผเู้ รยี นมี ารสำหรับการเรียนรู้ ำเอกสารงานธุรการในชั้น ความสุขในการเรยี นรู้ ครูมี ให้เป็นปัจจุบัน ะบบการดูแลช่วยเหลือ ข้อมูลต่าง ๆ อย่างเปน็ นและนำข้อมลู ไปใช้ในการ าผเู้ รียน ปจั จุบันทสี่ ามารถเปน็ รรยากาศในช้นั เรยี นใหเ้ อ้ือ ารเรยี นรู้ แบบอย่างได้ มประสบการณต์ ่าง ๆ ห้เปน็ แหล่งเรียนรู้ ตลอดปี โรงเรยี น หอ้ งเรียนมบี รรยากาศท่ีเอื้อ ายนเิ ทศเพ่อื เปน็ ขอ้ มูล การศึกษา ตอ่ การเรยี นรู้ ผู้เรยี นมี ารสำหรับการเรียนรู้ ความสุขในการเรียนรู้ ครมู ี ำเอกสารงานธรุ การในชั้น ขอ้ มูลตา่ ง ๆ อยา่ งเป็น ให้เปน็ ปจั จบุ นั ปัจจุบันท่ีสามารถเป็น ะบบการดแู ลช่วยเหลือ แบบอย่างได้ นและนำข้อมลู ไปใช้ในการ าผเู้ รยี น

อนั ดบั เป้าหมายการพัฒนา วิธ ความ สมรรถนะทพี่ ัฒนา สำคัญ เพอ่ื ใช้วิจยั ในการพฒั นาผเู้ รยี น - เขา้ ร รวมไปถึงสามารถวเิ คราะห์ กิจกรร ๕ การวิเคราะห์ สงั เคราะหแ์ ละการ องค์กรหรอื งานในภาพรวมและ เรยี นร วจิ ยั ในชน้ั เรียน ดำเนนิ การแกป้ ญั หาอยา่ งเปน็ และผ ระบบ - ศึกษ ๖ การพฒั นาตนเอง จัดทำ - ดำเน แกป้ ัญ เพอื่ พฒั นาตนเองและพฒั นา - เข้าร งาน แลกเปล่ยี นเรียนรอู้ งค์ หนว่ ย ความรู้ใหม่ๆทางวิชาการและ อน่ื ๆ วิชาชีพ - ศกึ ษ บุคลา ตนเอง -แลกเ โรงเรยี -ศึกษา วชิ ากา - สืบค

๑๗ ธีการ/รูปแบบการพฒั นา ระยะเวลาใน การขอรบั การ ผลการพฒั นา การพัฒนา สนบั สนนุ จาก ที่คาดวา่ จะได้รับ รบั การอบรม พฒั นาการจัด หน่วยงาน รมการเรยี นรู้ จัดทำสื่อการ ตลอดปี รู้ เพื่อพฒั นาคุณภาพของครู การศึกษา -โรงเรียน ผเู้ รยี นมคี วามสนใจ ตั้งใจ มี ผูเ้ รยี น ษาเอกสาร ตำราในการ -สำนักงานเขต ความกระตอื รือรน้ ที่จะ ำเอกสารทางวชิ าการ นนิ การวจิ ยั ในช้นั เรียนเพอ่ื พื้นทก่ี ารศึกษา เรยี นรู้ มผี ลสัมฤทธ์ิ ญหาตลอดจนพฒั นาผเู้ รียน ทางการเรียนท่ีดีข้นึ มี ทักษะในการปฏบิ ัติ กจิ กรรมตามศักยภาพของ แต่ละบคุ คล รับการอบรม สมั มนาที่ ตลอดปี -โรงเรียน ตนเองเปน็ ผมู้ ีคณุ ภาพ ยงานตน้ สงั กัด หน่วยงาน การศึกษา -สำนกั งานเขต ได้รับการพฒั นาไปใน จัดขึน้ พ้ืนทกี่ ารศกึ ษา ทศิ ทางที่ดขี ้ึนสง่ ผลและเกดิ ษาดงู านโรงเรยี นตน้ แบบ ากรต้นแบบเพ่ือนำมาพัฒนา ประโยชน์ตอ่ ผู้เรยี น ง โรงเรียน เปล่ียนเรยี นรกู้ บั บุคลากรใน ยน าเอกสาร ผลงานทาง ารจากตำรา วารสาร คน้ ความรทู้ างอินเตอรเ์ น็ต

สว่ นที่ 3 : คำรบั รอง ข้าพเจา้ ขอเสนอแผนการพฒั นาตนเองน้ีเพอ่ื เสนอพจิ ารณาและขออนุมตั ิ เมอ่ื วนั ท่.ี ............../................./.................... ลงชือ่ ..............................................................เจ้าของประวตั ิ (นายกติ ิศกั ดิ์ สุขวโรดม ) ไดท้ ำการปรับปรุง/แก้ไข แผนนี้ คร้งั ท่ี 1 เมอื่ วนั ท่ี............/................./............. ได้พจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบตามแผนพฒั นาตนเองนี้ เมื่อวันท่.ี ......../............/............. ลงชื่อ................................................. (นางลดั ดา จำปาแดง) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการกลมุ่ งานบุคลากร

๑๘ ได้พิจารณาใหค้ วามเหน็ ชอบตามแผนพัฒนาตนเองนี้ เมื่อวันท.ี่ ............../................./.................... ลงชอื่ ....................................................หัวหน้าโครงการส่งเสรมิ และพัฒนาบุคลากร. (นางสาวอลญิ า สนิ ภกั ดี) พจิ ารณาแลว้ อนุมัติ  ไม่อนุมตั ิ แผนพฒั นาตนเองนี้ ว่าท่รี ้อยตร.ี ................................................ (อรรถสทิ ธ์ิ เนตรทพิ วัลย์) ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวัดเขยี นเขต

๑๙ ภาคผนวก ภาคผนวก

๒๐ แบบประเมนิ สมรรถนะครูผูส้ อนระดับการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน สังกัด สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน ชื่อ-นามสกุล นายกิตศิ ักดิ์ สุขวโรดม โรงเรยี นวัดเขียนเขต สำนักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 คำช้ีแจง 1. แบบประเมินสมรรถนะในการปฏิบตั ิงานฉบบั นสี้ ำหรบั ครูผู้สอนทำการประเมินสภาพการปฏิบตั งิ าน ของตนเอง เพอื่ นครผู ู้สอน และผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา รว่ มประเมนิ ตามสภาพความเปน็ จริง เพ่อื เป็น ขอ้ มูลพนื้ ฐานในการพฒั นาคุณภาพการปฏิบัติงานของผูส้ อนในแตล่ ะคน โดยจะมีผู้บริหารสถานศึกษา เป็นผู้รับรองผลการประเมินอีกครงั้ หนง่ึ 2. แบบประเมนิ สมรรถนะฉบับนี้ แบง่ ออกเป็น 2 ตอน ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ครูผสู้ อน ตอนท่ี 2 การประเมนิ สมรรถนะของครูผสู้ อน ประกอบดว้ ยสมรรถนะ 5 สมรรถนะและสมรรถนะ ประจำสายงาน 6 สมรรถนะ 3. ใหผ้ ปู้ ระเมนิ อา่ นรายการคำถามในแตล่ ะสมรรถนะให้ดีก่อนท่จี ะทำการประเมนิ สมรรถนะการ ปฏิบตั งิ าน 4. วธิ ีการประเมนิ สมรรถนะในการปฏบิ ัติงาน ให้ทา่ นเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งสภาพการปฏบิ ตั ิงานใน แต่ละรายการคำถามของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเป็นจรงิ ตอนท่ี 1 ข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับการประเมิน 1. เพศ  ชาย  หญงิ 2. ตำแหน่งปจั จบุ ันของผรู้ บั การประเมิน  ครูผชู้ ่วย  ครู คศ.1  ครู คศ.2  ครู คศ.3  ครู คศ.4  ครู คศ.5 3. ระดบั การศกึ ษาสงู สุด  ตำ่ กวา่ ปริญญาตรี  ปริญญาตรี  ปริญญาโท  ปรญิ ญาเอก 4. อายรุ าชการ ๒ ปี - เดอื น (นบั ถงึ 16 พฤษภาคม 256๔) 5. กลมุ่ สาระการเรียนรทู้ ่ีถนัดหรอื เชีย่ วชาญ คอื ภาษาไทย

๒๑ ตอนที่ 2 การประเมนิ สมรรถนะในการปฏิบัติงานของครูผู้สอน (ผรู้ บั การประเมนิ ) ให้ทา่ นพจิ ารณาสภาพการดำเนนิ งานในแตล่ ะประเดน็ ย่อยในแตล่ ะสมรรถนะของผู้รับการประเมนิ แลว้ ทำ เคร่ืองหมาย 3 ลงในชอ่ งสภาพการปฏิบัติงานของครผู สู้ อนในประเดน็ ย่อยของแตล่ ะสมรรถนะตามสภาพความเปน็ จริง รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ยที่สุด ระดบั การปฏิบัติ มากท่ีสุด 1 นอ้ ย ปานกลาง มาก 5 1. สมรรถนะการมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบตั ิงาน 23 4  (Working Achievement Motivation)  1. วเิ คราะหภ์ ารกิจงานเพื่อวางแผนการแก้ปัญหาอยา่ งเป็นระบบ  2. กำหนดเป้าหมายในการปฏิบัติงานทุกภาคเรียน   3. กำหนดแผนการปฏบิ ัตงิ านและการจัดการเรียนรอู้ ย่างเป็น ข้นั ตอน  4. ใฝเ่ รยี นรเู้ กี่ยวกบั การจดั การเรียนรู้ 5. ริเร่มิ สรา้ งสรรค์ในการพัฒนาการจดั การเรียนรู้  6. แสวงหาความรูท้ ี่เกยี่ วกบั วิชาชีพใหม่ ๆ เพ่ือการพฒั นาตนเอง 7. ประเมินผลการปฏิบตั ิงานของตนเอง  8. ใช้ผลการประเมนิ ในการปฏบิ ตั ิงานมาปรบั ปรงุ /พฒั นาการทำงาน ใหด้ ยี ิ่งขึ้น  9. พัฒนาการปฏบิ ตั งิ านเพ่ือตอบสนองความต้องการของผเู้ รยี น ผู้ปกครองและชมุ ชน  2. สมรรถนะการบรกิ ารทด่ี ี (Service Mind) 1. ทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ เพ่อื ประโยชนส์ ว่ นรวมเม่อื มีโอกาส  2. ศกึ ษาความต้องการของผรู้ ับบรกิ ารและนำขอ้ มูลไปใชใ้ นการ  ปรับปรงุ 3. ใหบ้ ริการดว้ ยความยิ้มแย้ม ใจใส่ เห็นอกเหน็ ใจผมู้ ารบั บรกิ าร  4. ให้บริการอยา่ งรวดเรว็ ทนั ใจ ไม่ลา่ ชา้  5. ใหบ้ ริการอยา่ งมีความเคารพยกย่อง อ่อนนอ้ มให้เกียรติ ผูร้ ับบริการ  6. ใหบ้ ริการดว้ ยความมงุ่ มั่น ต้ังใจและเต็มอกเต็มใจ 7. แกป้ ัญหาให้กับนักเรียนและผู้ปกครองหรือผมู้ าขอรับบริการ  8. ให้บริการโดยยึดความตอ้ งการของผ้รู ับบริการเป็นหลัก  9. ให้บริการเกนิ ความคาดหวัง แม้ต้องใชเ้ วลาหรอื ความพยายาม  อยา่ งมาก  3. สมรรถนะการพฒั นาตนเอง (Self Development) 1. ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ มุง่ มน่ั และแสวงหาโอกาสพฒั นาตนเอง  ดว้ ยวธิ ที ี่หลากหลาย 2. วเิ คราะหจ์ ดุ แขง็ และจดุ อ่อนเกยี่ วกับการจัดการเรียนรขู้ องตนเอง อยา่ งต่อเนอ่ื ง

๒๒ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อยทสี่ ุด ระดบั การปฏิบตั ิ มากทส่ี ดุ 1 นอ้ ย ปานกลาง มาก 5 3. ศึกษา ค้นควา้ หาองค์ความรูใ้ หม่ ๆ ทางวชิ าการเพ่ือพัฒนาตนเอง 23 4  และวชิ าชีพ 4. แลกเปลยี่ นเรียนรกู้ ับผอู้ ่นื เพื่อการพัฒนาตนเองทุกครั้งท่ีมโี อกาส   5. เข้ารบั การอบรมเพ่ือพฒั นาตนเองจากหน่วยงานตา่ ง ๆ อย่าง ตอ่ เนือ่ ง  6. ใหค้ ำปรึกษา แนะนำ นเิ ทศ และถา่ ยทอดความรปู้ ระสบการณ์  ทางวิชาชพี แกผ่ ู้อืน่ 7. มีการสรา้ งเครอื ขา่ ยการเรียนร้เู พื่อการพัฒนาตนเองทง้ั ในและ  นอกสถานศกึ ษา  4. สมรรถนะการทำงานเป็นทมี (Team Work)  1. สรา้ งสมั พันธภาพท่ีดีในการทำงานร่วมกบั ผู้อนื่ 2. ทำงานร่วมกบั ผู้อน่ื ตามบทบาทหนา้ ท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย  3. ชว่ ยเหลือเพ่อื นรว่ มงานเพ่ือสเู่ ปา้ หมายความสำเร็จร่วมกนั  4. ใหเ้ กียรติ ยกย่องชมเชย ใหก้ ำลังใจแก่เพื่อนร่วมงานในโอกาสท่ี เหมาะสม  5. มีทักษะในการทำงานรว่ มกบั บคุ คล/กล่มุ บุคคลได้อยา่ งมี  ประสิทธิภาพทัง้ ภายในและภายนอกสถานศึกษา และในทุก  สถานการณ์ 6. แสดงบทบาทผนู้ ำหรอื ผูต้ ามในการทำงานร่วมกบั ผู้อน่ื ได้ เหมาะสมในทุกโอกาส 7. แลกเปลี่ยน/รบั ฟังความคิดเห็นและประสบการณภ์ ายในทมี งาน 8. ร่วมกับเพ่ือนรว่ มงานในการสรา้ งวัฒนธรรมการทำงานเป็นทมี ให้ เกิดขึ้นในสถานศึกษา

๒๓ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ยท่สี ุด ระดับการปฏิบัติ มากทส่ี ดุ 1 นอ้ ย ปานกลาง มาก 5 5. สมรรถนะจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู (Teacher’s 234 Ethics and Integrity)  1. ยดึ มัน่ ในอดุ มการณ์ของวิชาชพี ปกปอ้ งเกยี รติและศักด์ศิ รีของ   วิชาชพี  2. เสยี สละ อุทิศตนเพื่อประโยชนต์ อ่ วชิ าชพี และเป็นสมาชิกทดี่ ขี อง   องค์กรวชิ าชพี  3. ยกยอ่ ง ชื่นชมบุคคลท่ีประสบความสำเร็จในวชิ าชีพ  4. ซ่อื สตั ยต์ ่อตนเอง ตรงต่อเวลา วางแผนการใชจ้ า่ ยและใชท้ รัพยากร  อย่างประหยดั 5. ปฏิบัตติ นตามกฎ ระเบียบ ข้อบงั คับ ขนบธรรมเนยี มประเพณีและ  วัฒนธรรมท่ีดีขององค์กร  6. ปฏิบัติตนและดำเนนิ ชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง  ไดเ้ หมาะสมกับสถานะของตน 7. รกั ษาสิทธปิ ระโยชน์ของตนเองและไมล่ ะเมดิ สิทธิของผู้อ่นื 8. เอื้อเฟื้อเผอื่ แผ่ ชว่ ยเหลือ และไมเ่ บยี ดเบียนผ้อู ่นื 9. มีความเปน็ กัลยาณมิตรต่อผเู้ รยี น เพ่ือรว่ มงานและผู้รับบรกิ าร 10. ยอมรบั ผลอันเกดิ จากการปฏบิ ัติหนา้ ท่ีของตนเองและหาแนว ทางแก้ไขปัญหา อุปสรรค 11. ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั การครองตน ครองคน ครองงานเพื่อให้การ ปฏบิ ตั งิ านบรรลุผลสำเรจ็ 12. เปน็ แบบอย่างท่ดี ใี นการส่งเสริมผูอ้ ่ืนให้ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั จริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชพี ครู

๒๔ 1. สมรรถนะประจำสายงาน (Functional Competency) รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ยท่สี ุด ระดับการปฏบิ ตั ิ มากทส่ี ดุ 1 น้อย ปานกลาง มาก 5 1. สมรรถนะการบริหารจดั การหลักสูตรและการจัดการเรยี นรู้ 234 (Curriculum and Learning Management)  1. จดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้อย่างเป็นระบบ โดยบรู ณาการอย่าง   สอดคลอ้ งเชื่อมโยงกัน  2. รว่ มพฒั นาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่สอดคล้องกบั หลกั สูตร  แกนกลางและท้องถิ่น  3. กำหนดผลการเรียนรขู้ องผู้เรียนท่เี น้นการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์  และทักษะการคิดเชงิ ระบบ  4. ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้อยา่ งหลากหลายสอดคล้องกบั วยั  ความต้องการของผู้เรยี น ชมุ ชน  5. เปดิ โอกาสให้ผูเ้ รียนมีส่วนร่วมในการกำหนดกิจกรรมและ  การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  6. ใชร้ ปู แบบ/เทคนคิ วธิ กี ารสอนอย่างหลากหลายเพื่อใหผ้ ู้เรียน  พัฒนาเต็มตามศักยภาพ  7. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ทปี่ ลูกฝัง/ส่งเสรมิ คุณลกั ษณะ  พงึ ประสงค์และสมรรถนะของผ้เู รียน  8. ใช้หลกั จิตวิทยาในการจดั การเรยี นรใู้ หผ้ ู้เรยี นเรยี นรูอ้ ย่างมี  ความสขุ และพัฒนาเต็มศักยภาพ 9. ใช้แหล่งเรียนรู้และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ในชุมชนในการจดั การเรยี นรู้ 10. ใชส้ ื่อ นวตั กรรมและเทคโนโลยหี ลากหลายและเหมาะสมกับ เน้อื หาและกิจกรรมการเรียนรู้ 11. ใชเ้ ทคโนโลยคี อมพิวเตอรใ์ นการสืบคน้ ข้อมูล/ผลิตส่ือ/ นวตั กรรมเพื่อพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ 12. ออกแบบวธิ กี ารวัดและประเมินผลหลากหลายเหมาะสมกบั เนอ้ื หาและกจิ กรรมการเรียนรแู้ ละผเู้ รียน 13. สรา้ งและนำเครือ่ งมอื วัดและประเมนิ ผลไปใช้อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม 14. วัดและประเมินผลผเู้ รียนตามสภาพจริง 15. นำผลการประเมนิ การเรียนรมู้ าใช้ในการพฒั นาการจดั การเรียนรู้ 2. สมรรถนะการพัฒนาผูเ้ รียน (Student Development) 1. สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรมแก่ผเู้ รยี นในการจัดการเรียนรู้ ใน ชัน้ เรียน 2. จดั กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จรยิ ธรรมใหแ้ ก่ผูเ้ รียนโดยให้ผูเ้ รียน

๒๕ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ยทส่ี ดุ ระดบั การปฏิบตั ิ มากทส่ี ดุ 1 น้อย ปานกลาง มาก 5 มีสว่ นร่วมในการวางแผนกิจกรรม 234  3. จดั ทำโครงการ/กจิ กรรมที่สง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมให้แกผ่ เู้ รยี น   4. จัดกจิ กรรมเพ่ือพฒั นาผ้เู รียนดา้ นการดูแลตนเอง มีทักษะในการ  เรียนรู้ การทำงาน การอยรู่ ว่ มกันในสังคมและรู้เทา่ ทนั การ  เปลีย่ นแปลง   5. สอดแทรกความเป็นประชาธิปไตย ความภูมิใจในความเปน็ ไทย ให้แก่ผเู้ รียนในการจดั การเรียนรู้  6. จัดทำโครงการ/กจิ กรรมท่ีสง่ เสริมความเป็นประชาธปิ ไตยความ  ภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย 7. ใหผ้ ปู้ กครองมีส่วนร่วมในการดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี นรายบคุ คล  8. นำขอ้ มูลนักเรยี นไปใช้ชว่ ยเหลือ/พัฒนาผู้เรยี นทั้งดา้ น  การเรียนรู้และปรบั พฤติกรรมเป็นรายบคุ คล 9. จัดกิจกรรมเพ่ือป้องกนั แก้ไขปญั หาและสง่ เสริมพฒั นาผู้เรียน  ใหแ้ กน่ กั เรียนอยา่ งทั่วถงึ  10. ส่งเสริมให้ผเู้ รยี นปฏบิ ตั ติ นให้ถูกต้องเหมาะสมกบั ค่านยิ ม  ทด่ี งี าม  11. ดูแลนักเรียนทุกคนอยา่ งท่วั ถึง ทนั เหตุการณ์  12. มีส่วนรว่ มกบั ผ้ปู กครองในการดูแลช่วยเหลือนักเรยี นเป็น  รายบคุ คล  3. สมรรถนะการบรหิ ารจดั การชั้นเรยี น (Classroom Management) 1. จัดสภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกห้องเรยี นทีเ่ อ้ือต่อ การเรยี นรู้ 2. ส่งเสรมิ การมปี ฏิสัมพันธท์ ี่ดรี ะหวา่ งครกู ับผ้เู รยี นและผเู้ รียนกบั ผเู้ รียน 3. ตรวจสอบสง่ิ อำนวยความสะดวกในหอ้ งเรียนให้พรอ้ มใชแ้ ละ ปลอดภัยเสมอ 4. จดั ทำขอ้ มลู สารสนเทศของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คลและเอกสาร ประจำชน้ั เรยี นครบถ้วน เป็นปจั จบุ นั 5. นำข้อมูลสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียนไดอ้ ย่างเต็ม ศกั ยภาพ 6. ใหผ้ เู้ รียนมีสว่ นร่วมในการกำหนดกฎ กติกา ข้อตกลงใน ช้นั เรียน 7. แก้ปัญหา/พัฒนานักเรยี นดา้ นระเบียบวินัยโดยการสร้างวินัยเชงิ บวกในชนั้ เรยี น 8. ประเมิน การกำกับดูแลช้นั เรียนและนำผลการประเมนิ ไปใชใ้ น

๒๖ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม ระดับการปฏบิ ตั ิ มากที่สดุ น้อยทีส่ ุด น้อย ปานกลาง มาก 5 การปรบั ปรงุ และพฒั นา 4. สมรรถนะการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการวจิ ัยเพ่อื พฒั นา 12 3 4 ผู้เรียน (Analysis & Synthesis and Classroom Research) 1. สำรวจปญั หาเก่ยี วกับนกั เรียนทเ่ี กดิ ขนึ้ ในชนั้ เรียนเพ่ือวางแผน  การวิจัยเพื่อพัฒนาผ้เู รียน  2. วเิ คราะหส์ าเหตขุ องปัญหาเก่ียวกบั นักเรียนทีเ่ กิดข้นึ ในชั้นเรียน  เพ่ือกำหนดทางเลือกในการแก้ไขปัญหาระบสุ ภาพปัจจุบนั  3. รวบรวม จำแนกและจัดกลุ่มของสภาพปญั หา แนวคิดทฤษฎี  และวิธีการแก้ปัญหาเพื่อสะดวกต่อการนำไปใช้  4. มกี ารประมวลผลหรอื สรุปข้อมูลสารสนเทศท่เี ปน็ ประโยชนต์ อ่  การแก้ไขปญั หาในชั้นเรียนโดยใช้ขอ้ มลู รอบดา้ น  5. มกี ารวิเคราะห์จุดเดน่ จุดด้อย อุปสรรคและโอกาสความสำเรจ็ ของการวิจัยเพ่ือแกป้ ัญหาท่เี กิดขนึ้ ในชั้นเรยี น 6. จดั ทำแผนการวจิ ยั และดำเนินกระบวนการวิจยั อยา่ งเปน็ ระบบ ตามแผนดำเนนิ การวิจัยท่ีกำหนดไว้ 7. ตรวจสอบความถกู ต้องและความน่าเชื่อถือของผลการวิจยั อยา่ ง เปน็ ระบบ 8. มีการนำผลการวจิ ยั ไปประยกุ ต์ใชใ้ นกรณศี กึ ษาอนื่ ๆ ที่มีบรบิ ท ของปญั หาทคี่ ลา้ ยคลงึ กนั รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อยทีส่ ุด ระดับการปฏบิ ตั ิ มากทส่ี ดุ 1 นอ้ ย ปานกลาง มาก 5 5. สมรรถนะภาวะผ้นู ำครู (Teacher Leadership) 234 1. เห็นคณุ ค่า ให้ความสำคญั ในความคดิ เห็นหรือผลงานและให้ เกียรตผิ ู้อื่น  2. กระตนุ้ จูงใจ ปรบั เปลีย่ นความคิดและการกระทำของผอู้ ่ืนใหม้ ี  ความผกู พันและมุ่งม่ันต่อเปา้ หมายในการทำงานรว่ มกนั  3. มีปฏิสมั พันธใ์ นการสนทนาอยา่ งสรา้ งสรรค์กบั ผอู้ น่ื โดยมุ่งเนน้  ในการเรยี นร้แู ละการพฒั นาวชิ าชพี 4. มที ักษะการฟัง การพดู และการต้ังคำถามเปดิ ใจกวา้ ง ยืดหย่นุ  ยอมรบั ทัศนะท่ีหลากหลายของผู้อนื่ เพือ่ เป็นแนวทางใหม่ ๆ ในการ ปฏบิ ัติงาน 5. ให้ความสนใจตอ่ สถานการณต์ า่ ง ๆ ทเี่ ป็นปัจจบุ ันโดยมีการ วางแผนอย่างมีวสิ ัยทัศน์ซ่งึ เช่ือมโยงกบั วิสยั ทัศน์ เป้าหมาย และ พันธกจิ ของโรงเรียน

๒๗ รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ยท่ีสุด ระดับการปฏิบตั ิ มากทส่ี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก 5 1 234 6. ริเริ่มการปฏบิ ตั ิท่นี ำไปส่กู ารเปลยี่ นแปลงและพฒั นานวัตกรรม   7. กระตนุ้ ผอู้ ่นื ให้มีการเรียนรู้และความร่วมมือกนั ในวงกว้างเพือ่   พัฒนาผเู้ รียน สถานศึกษาและวิชาชีพ   8. ปฏบิ ัติงานร่วมกับผูอ้ น่ื ภายใต้ระบบ/ขั้นตอนทีเ่ ปล่ยี นแปลงไป  จากเดิมได้   9. สนับสนุนความคิดรเิ ร่มิ ซง่ึ เกิดจากการพจิ ารณาไตรต่ รองของ  เพือ่ นรว่ มงาน และมีสว่ นร่วมในการพัฒนานวตั กรรมต่าง ๆ   10. ใชเ้ ทคนคิ วิธกี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมินการ   ปฏิบตั ิงานของตนเองและผลการดำเนนิ งานสถานศกึ ษา  11. กำหนดเปา้ หมายและมาตรฐานการเรยี นรทู้ ่ที ้าทาย  ความสามารถของตนเองตามสภาพจรงิ และปฏบิ ัติให้บรรลุผลสำเร็จ ได้ 12. ยอมรบั ข้อมลู ป้อนกลบั เกีย่ วกบั ความคาดหวงั ด้านการเรยี นรู้ ของผเู้ รยี นจากผู้ปกครอง 13. ให้ข้อมลู และข้อคิดเห็นรอบดา้ นของผูเ้ รียนต่อผปู้ กครองอย่าง เปน็ ระบบ 14. ปรบั เปลยี่ นบทบาทและการปฏบิ ัตงิ านของตนเองใหเ้ ออ้ื ต่อการ พัฒนาผลสมั ฤทธ์ขิ องผูเ้ รียน 6. สมรรถนะการสร้างความสมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชน เพ่ือการจดั การเรยี นรู้ (Relationship & Collaborative for Learning) 1. มปี ฏิสัมพนั ธท์ ่ีดีกับผปู้ กครองและชมุ ชนในการติดต่อสอื่ สารเพือ่ การจดั การเรยี นรู้ 2. ประสานงานกับผปู้ กครองและชมุ ชนใหเ้ ข้ามามีสว่ นร่วมในการ จดั การเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่องตลอดปีการศกึ ษา 3. เปดิ โอกาสใหผ้ ู้มสี ่วนเก่ยี วขอ้ งเข้าร่วมวางแผนการจัดกิจกรรม การเรยี นรู้ในระดับชน้ั เรยี น 4. เปดิ โอกาสใหผ้ ูป้ กครองและชมุ ชนเขา้ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกี่ยวกับการจดั การเรียนการสอนในสถานศึกษา 5. สรา้ งเครอื ข่ายความรว่ มมือระหว่างครู ผ้ปู กครอง ชุมชน และ องค์กรอน่ื ๆ ทั้งภาครฐั และเอกชน เพือ่ สนบั สนนุ สง่ เสรมิ การ จัดการเรยี นรู้ 6. จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ีให้ปราชญช์ าวบา้ นหรือภูมปิ ัญญาใน ทอ้ งถิ่นเขา้ มามสี ว่ นรว่ ม 7. มกี ารเปิดโอกาสใหผ้ ู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสียของสถานศกึ ษาเข้ามามี สว่ นรว่ มในการประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษา

๒๘ รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อยท่ีสุด ระดับการปฏบิ ตั ิ มากท่สี ดุ 1 5 8. มีการเสนอผลการจดั การเรียนร้ตู ่อฝ่ายต่าง ๆ ของชมุ ชนเพอ่ื น้อย ปานกลาง มาก แลกเปลี่ยนเรยี นรูแ้ ละแกไ้ ขปัญหารว่ มกนั ในทุกภาคเรียน 234  ลงช่ือ...........................................................ผูป้ ระเมิน (นายกิตศิ ักดิ์ สุขวโรดม) ตำแหนง่ ครู

๒๙ แนวทางการประเมินการให้คะแนนและการแปลผลการประเมินสมรรถนะครู 1. การประเมินตามแนวทางนี้ใช้แบบประเมนิ สมรรถนะสำหรับครผู ูส้ อนทำการประเมินสมรรถนะใน การปฏิบตั งิ านตามสภาพจรงิ เพอ่ื จะไดท้ ราบข้อมลู เกย่ี วกบั สมรรถนะของครูผู้สอน และนำผลการ ประเมินไปใชใ้ นการกำหนดกรอบการพัฒนาสมรรถนะครใู ห้มีประสิทธิภาพและเกิดประสทิ ธผิ ล สูงสุดต่อการพัฒนาผู้เรยี น สถานศึกษา และวิชาชพี ผูใ้ ช้แบบประเมินสมรรถนะครู ดงั นี้ 1. ครูผสู้ อน : ประเมินตนเอง 2. เพ่ือนครผู สู้ อนในสถานศกึ ษาเดียวกัน : ประเมินครผู ูส้ อน 3. ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา : ประเมินครผู ู้สอน 2. การให้คะแนนการประเมินสมรรถนะครู 2.1 การใหค้ ะแนนในแตล่ ะข้อรายการจะมีระดับคณุ ภาพของสภาพการปฏิบัติงาน 5 ระดบั ได้แก่ ปฏบิ ัตนิ ้อยที่สดุ ปฏบิ ัตนิ ้อย ปฏิบัติปานกลาง ปฏิบตั ิมาก และปฏบิ ตั มิ ากท่สี ุด โดยกำหนดค่า คะแนนเปน็ 1, 2, 3 , 4 และ 5 ตามลำดับ 2.2 การตดั สนิ ผลในแต่ละสมรรถนะ ให้ทำการคำนวณหาคะแนนเฉล่ยี รายสมรรถนะ และทั้งฉบบั ของ ครเู ป็นรายบุคคล โดยนับจำนวนความถขี่ องระดบั การปฏบิ ัติ แล้วนำจำนวนความถ่ที ่ีไดน้ ับได้ ทัง้ หมดมาคำนวณหาคะแนนรวม โดยการนำจำนวนความถี่ในแต่ละระดับการปฏิบตั มิ าคณู คะแนนในแตล่ ะระดบั คณุ ภาพการปฏบิ ตั งิ าน ดังนี้ คือ ปฏิบัติน้อยทส่ี ุดคูณด้วย 1 ปฏบิ ตั นิ ้อยคูณ ดว้ ย 2 ปฏบิ ัตปิ านกลางคูณด้วย 3 ปฏิบัติมากคณู ด้วย 4 และปฏิบตั มิ ากทส่ี ดุ คณุ ด้วย 5 แลว้ นำ คะแนนมารวมกนั จากนน้ั นำคะแนนรวมทไ่ี ด้คำนวณหาคะแนนเฉลย่ี 3. การแปลผลการประเมินสมรรถนะครูเป็นการนำคะแนนเฉล่ียมาเปรยี บเทียบกบั เกณฑก์ ารแปลผลที่ กำหนดไว้ โดยกำหนดเกณฑจ์ ากผลการวเิ คราะหค์ ่าเฉล่ยี ของข้อมลู ท่เี ก็บรวบรวมได้ท้ังหมด ดังน้ี คา่ คะแนนเฉลยี่ ระดบั คณุ ภาพ 4.01 – 5.00 สงู 3.01 – 4.00 ต้ังแต่ 3.00 ลงมา ปานกลาง ควรปรับปรงุ

๓๐ คำอธิบายการกรอกแผนพฒั นาตนเอง สว่ นที่ 1 การพัฒนาตนเองปีการศึกษา 256๓ 1. ลำดับความสำคญั ให้ระบุลำดับความสำคัญในการพัฒนาของแตล่ ะสมรรถนะ ตามความเห็นของตนเอง 2. สมรรถนะที่พฒั นา มี 5 สมรรถนะ เรยี งตามลำดบั คอื การมงุ่ ผลสัมฤทธ์ิ การบรกิ ารทีด่ ี การพฒั นาตนเอง การทำงานเป็นทีม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู 3. วธิ กี าร/รปู แบบการพฒั นา ให้ระบุวิธีการพัฒนาในปีการศกึ ษาทผี่ ่านมา เช่น การเรียนรูจ้ ากการปฏบิ ตั ิ (Action learning) การสอนงาน ( Coaching) พบผู้เช่ยี วชาญ ( Expert Briefing) ศกึ ษาดูงาน ( Field Trip) แลกเปลีย่ นงาน (Job Swap) ใช้พ่ีเล้ยี ง (Mentoring) มอบหมายงาน (Project Assignment) ศึกษาด้วยตนเอง (Self Study) ฝึกอบรม/ประชมุ ปฏิบตั กิ าร ( Training/Workshop) ตดิ ตามผู้มีประสบการณ์ (Work Shadowing) การปฏิบัตใิ นงาน (On the job training) อื่น ๆ ............................ 4. ระยะเวลาในการพฒั นา หมายถงึ ระยะเวลาทดี่ ำเนนิ การพัฒนา เช่น ตลอดปีการศึกษา 2561 หรือระบุชว่ งระยะเวลาท่ี ดำเนนิ การพัฒนา 5. การขอรับการสนบั สนนุ จากหน่วยงาน หมายถงึ ทรพั ยากรทีต่ อ้ งใช้ เช่นงบประมาณ วสั ดอุ ุปกรณ์ท่จี ำเป็น หรอื อื่น ๆ 6. ประโยชน์ทีไ่ ดร้ ับ หมายถึง ประโยชน์หรอื ผลงานท่ีเกิดขึ้นจากการพัฒนาตนเองในแต่ละสมรรถนะในปกี ารศึกษาที่ผา่ นมา ส่วนท่ี 2 สรปุ แผนพัฒนาตนเอง ปกี ารศกึ ษา 256๓ 1. ลำดบั ความสำคัญ ให้เรียงลำดบั ความสำคัญในการพฒั นาตนเองของแต่ละสมรรถนะ โดยพิจารณาจากคะแนนการประเมิน ของแตล่ ะสมรรถนะ จากส่วนท่ี 1 2. สมรรถนะท่ีพัฒนา ประกอบดว้ ย 5 สมรรถนะ คอื การมงุ่ ผลสมั ฤทธิ์ การบรกิ ารทดี่ ี การพัฒนาตนเองการทำงานเป็นทีม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชีพครู 3. เป้าหมายในการพัฒนา ใหร้ ะบเุ ปา้ หมายการพัฒนาสมรรถนะดา้ นนี้ ทสี่ ่งผลใหก้ ารปฏบิ ัตงิ านทีด่ ีขน้ึ 4. วธิ ีการ/รูปแบบการพัฒนา ให้ระบวุ ิธีการพัฒนาตนเองในปีการศึกษาที่ 256๓ การเรยี นรู้จากการปฏบิ ตั ิ (Action learning) การสอนงาน ( Coaching) พบผ้เู ชย่ี วชาญ ( Expert Briefing) ศกึ ษาดงู าน ( Field Trip) แลกเปลยี่ นงาน (Job Swap) ใชพ้ ่ีเลย้ี ง (Mentoring)

๓๑ มอบหมายงาน (Project Assignment) ศกึ ษาด้วยตนเอง (Self Study) ฝึกอบรม/ประชมุ ปฏิบัติการ ( Training/Workshop) ติดตามผู้มีประสบการณ์ (Work Shadowing) การปฏบิ ัติในงาน (On the job training) อ่นื ๆ ............................ 5. ระยะเวลาในการพฒั นา หมายถึง ระยะเวลาท่ีจะดำเนินการพฒั นา เช่น ตลอดปีการศึกษา 2560 หรือระบุช่วงระยะเวลาทจ่ี ะ ดำเนินการพฒั นา 6. การขอรบั การสนบั สนนุ จากหน่วยงาน หมายถงึ ทรัพยากรที่ต้องใช้ เช่นงบประมาณ วัสดุอปุ กรณท์ ีจ่ ำเป็น หรืออนื่ ๆ 7. ผลการพัฒนาที่คาดว่าจะได้รับ หมายถึง ประโยชนห์ รือผลงานหรอื นวัตกรรมใหม่ท่ีเกิดขน้ึ จากการพฒั นาตนเองในแตล่ ะสมรรถนะ เมอื่ มีการดำเนินการพัฒนาตามแผนทเ่ี สนอขออนมุ ัติ สว่ นท่ี 3 คำรับรอง - ผูจ้ ดั ทำแผนพฒั นา เสนอแผนน้ตี ่อหวั หน้าโครงการสง่ เสริมและพฒั นาบุคลากร โดยลงลายมอื ช่อื /วันที่ กำกับไว้ - ผู้ช่วยผู้อำนวยการกล่มุ งานบุคลากร พจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบแผนพฒั นาตนเองของบุคลากร แล้วลงลายมือชอื่ /วนั ที่ กำกบั ไว้ - ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการส่งเสรมิ และพัฒนาบุคลากรรวบรวมแผนพฒั นาตนเองของบคุ ลากรตามระยะเวลาที่ กำหนด แลว้ นำเสนอผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นเพื่อพจิ ารณาอนุมตั แิ ผนพัฒนาตนเองของบุคลากร

๓๒


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook