นก เเละ สวั ตป ก จดั ทํา นาํ เสนอ โดย ด.ช.ศิวกร สร้อยเพชร ระดบั ชันมธั ยมศกึ ษาปที 2/10
___________คํานํา รายงานเลม่ นี จัดทาํ ขนึ ใหผ้ ้ทู ีอา่ น อา่ นรายงานเล่มนเี พอื มคี วามเขา้ ใจลกึ ซึง การดาํ รงชีวต ชนิดของนก เเละ สตั วป์ ก เพอื ใหม้ คี วามเข้าใจมากกว่าเดิม เพือความ เปนมติ รตอ่ นก เเละ สัตวที มปี ก ผเู้ ขยี นวังว่าผอู้ ่านรายงานครังนี จะไดร้ ับความรู้อนั เปน ประโยชน์ เพือตอ่ ไปจะไดเ้ ขา้ ใจในสตั ว์ ด.ช.ศิวกร สร้อยเพชร
สารบัญ ก บทที 1 1 นก หรอ สัตวป์ ก 2 - ความหมาย ข - ความรูทัว่ ไป 3 4 บทที 2 ค ววฒั นาการ 5 - วิวัฒนาการ ของ นก 6 - กายวภิ าคเพ่ือการบิน 8 บทที 3 สภาพความเปนอยู่ - อาหารการกนิ - ถ่นิ ทอ่ี ยูอาศัย
ก บทที่ 1 นก เเละ สัตว์ปก
1 นก เเละ สตั ว์ปก ความหมาย สตั วป์ ก หรอ นก (รวมถงึ ไก,่ เปด, หา่ น, ไก่ฟา) จัดอยู่ในไฟลมั สตั วม์ ีแกนสันหลัง ชนั Aves (คาํ วา่ Aves เปนภาษาละตนิ หมายถงึ นก) โดยมี ลกั ษณะทัวไปคือ เปนสตั ว์ทวบาท เลอื ดอนุ่ ออกลกู เปนไข่ รยางค์คหู่ นา้ เปลยี นแปลงไปเปนปก มีขนนก และมกี ระดกู ทกี ลวงเบา ในปจจบุ ันทวั โลกมนี กอยู่ประมาณ 8,800 ถงึ 9,800 ชนดิ (ตามการจัดอนกุ รมวธานทีตา่ งกัน) ซึง นบั วา่ นกเปนชนั ของสตั ว์มีกระดูกสนั หลงั ทมี ีควาหลาก หลายมากทีสุด ในบรรดาชนั ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง ทงั หลายทีอาศัยอยบู่ นพนื ดิน ความหลากหลายของ นกนับเนืองไปตงั แตใ่ นเรองของขนาดตัว สีสัน เสยี ง ร้อง อาหารการกนิ และถินทอี ย่อู าศัย
2 นกเปนสัตวท์ ีมีความสาํ คัญเปนอนั มากทงั ต่อ ระบบนิเวศและต่อชีวตมนุษย์ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง คนกบั นกเปนไปอย่างแนน่ แฟน และการเกือกูลกัน ระหวา่ งนกกบั สรรพสิงตา่ ง ๆ ตามธรรมชาตกิ ็เปน ไปอยา่ งแนบแนน่ ถา้ หากปราศจากนก คงเปนเรอง ยากทจี ะจนิ ตนาการถึงการดํารงอย่ตู อ่ ไปของชีวภาค ใบนี
ข บทท่ี 2 ววัฒนาการ ของ นก
3 ววฒั นาการของนก ววฒั นาการของนกนกดกึ ดําบรรพ์ (ARCHAEOPTERYX) นกเปนสตั วเ์ ลือดอุน่ มีกระดูกสนั หลังซึงได้ววฒั นาการ มาจากสัตวเ์ ลือยคลาน ดังจะเหน็ ร่องรอยความสัมพันธด์ งั กล่าว จากโครงสร้างกระดูก และกลา้ มเนือทคี ล้ายกนั เกลด็ ขาทีมีลักษณะเหมือนกบั สัตวเ์ ลอื ยคลาน มีการวางไข่ และมตี วั อ่อน ทีมีลักษณะพเิ ศษสาํ หรับเจาะเปลือกไข่ออก มาเหมอื นกัน ได้มกี ารขุดพบซากดกึ ดําบรรพข์ องนก โดย นักวทยาศาสตร์ได้ใหช้ ือว่า อาร์คีออพเทอรกซ์ (ARCHAEOPTERYX) และขนานนามวา่ เปนบรรพบุรุษ ของนก ในปจจบุ ั
กายวภาคเพือการบนิ 4 ทกุ สว่ นในร่างกายของนกถกู ดดั แปลงเพือให้ เหมาะสมกบั การเปนเจา้ เวหาอยา่ งแท้จรง เรมจาก กระดูก ทภี ายในมีลกั ษณะกลวงคลา้ ยรวงผงึ ทาํ ให้ เบาแต่แขง็ แรง นกบางชนิดในวงศ์นกโจรสลัด เมอื กางปกจะกวา้ งถึง 2 เมตร แตน่ ําหนกั กระดูก ทังหมดเพียงแค่ 113 กรัมเท่านัน นอกจากนอี วยั วะภายในบางอย่างของนกจะถูก ตดั ทอนออกไปเพอื ลดนาํ หนกั ตวั ใหไ้ ด้มากทีสุด เชน่ รังไข่ของตวั เมยี ทเี หลือเพียงข้างเดยี ว และปากทไี ร้ ฟน โดยนกจะไมเ่ คยี วอาหาร แตก่ ลนื ลงไปยอ่ ยใน กึนแทน การบินของนกต้องใชพ้ ลังงานจากเมแทบอลิซึม เปนอย่างมาก นกจงึ มรี ะบบหายใจและระบบ หมนุ เวยนโลหติ อนั ทรงประสทิ ธิภาพ จากหวั ใจทีมี 4 หอ้ ง และท่อทเี ชอื มต่อระหวา่ งปอดกับถุงลมทวั ลาํ ตวั
5 เพอื ความปลอดภยั ในการบนิ นกจงึ ต้องมี สมั ผัสอันวอ่ งไว โดยเฉพาะสมั ผสั ทางสายตา นก บางชนิดมสี ายตาอนั คมกรบ อาจกล่าวได้วา่ เปน สายตาทดี ที ีสุดในบรรดาสายตาของสตั ว์มกี ระดกู สนั หลงั ด้วยกนั สมองส่วนรับภาพของนกพฒั นา ไปมาก เช่นเดยี วกบั สมองส่วนควบคุมการ เคลอื นไหว เพราะการบนิ ทีดตี อ้ งอาศัยการ ประสานงานทดี ีของทกุ ส่วนในร่างกายนนั เอง สิงทขี าดไปไม่ได้สําหรับการบนิ คอื ปก นกมีปก ทเี ปนไปตามหลกั อากาศพลศาสตร์ ซงึ ชว่ ยใหเ้ กดิ แรงยกขณะบนิ ในการกระพอื ปก นกจะใชก้ ล้าม เนืออกอนั แขง็ แรงทตี ิดอยกู่ บั กระดูกอก นกทีบนิ เร็วทีสดุ คือนกในวงศน์ กแอน่ บนิ เร็ว ซึงบินไดเ้ ร็ว ถงึ 170 กิโลเมตรต่อชวั โมง ส่วนขนนกนันนบั ว่าเปนพฒั นาการทีพิเศษสุด อยา่ งหนึงในบรรดาพัฒนาการของสตั ว์มีกระดกู สันหลงั ขนนกเปนส่วนประกอบของเคราตนิ มี ลักษณะเบาแต่แขง็ แรง ขนนกชว่ ยปองกัน นกจากแสงแดด ช่วยในการหาคู่ ชว่ ยในการปรับ อณุ หภมู ขิ องร่างกาย และทีสาํ คญั ทสี ุดคอื ชว่ ยใน ด้านการบินของนก
ค บทที่ 3 สภาพความเป็ นอยู
6 อาหารการกิน อาหารการกิน[แก] ในแตละวันนกตอ งการอาหารจํานวนมากเพ่ือนําไปใชใ น กระบวนการเมแทบอลิซมึ (metabolism) โดยนกแตละชนิด จะหาอาหารทีแ่ ตกตา งกนั ออกไป นกบางชนิดเลยี้ งชีพดว ยน้ํา ตอ ย บางชนิดเลยี้ งชีพดว ยธญั พืช แมลง สตั วพวกหนู สัตว พวกกงิ้ กา ปลา ซากเนา ไปจนถึงนกดวยกนั นกจะพัฒนารปู ราง ปีก ขา และปาก ใหมลี ักษณะเหมาะสมกับการหาอาหาร นกสวนใหญเป็นสัตวท ห่ี ากนิ ในเวลากลางวนั มีนกเพียงบาง ชนิดเทา นัน้ ทีห่ ากินในเวลากลางคนื นกบางชนิด หากินรว มกันเป็นฝูง เชน ฝงู นกนาง นวลทบ่ี ินรอนหาปลา ตามชายทะเล หรอื ฝงู นกเป็ดน้ํารวมตัวกันแหวกวา ยอยใู นบงึ ซ่งึ การหากนิ รวมกันเป็นฝูงใหญชวยใหน กหาอาหารงายข้นึ และไดป ริมาณมากกวาหากินตามลาํ พัง รวมทัง้ ยงั ชว ยกนั ระวงั ภยั ไดเ ป็นอยา งดี สว นนกบางชนิดกม็ ีพฤตกิ รรมการหา อาหารรว มกบั สตั วอ่ืน เชน นกเอยี้ งทีห่ ากินรว มกับวัวควาย โดยนกเอยี้ งจะคอยจับแมลงท่พี ากันบินหนีข้ึนมาเม่อื ววั ควาย เดนิ ย่ําไปบนดนิ นอกจากนี้นกเอีย้ งยังชอบเกาะบนตัวววั ควายเพ่อื จบั แมลงท่ีบินตอมตามตวั ววั ควายอกี ดว ย
7 ถินทอี ยูอ่ าศัย นกแตล ะชนิดมีการปรับตัวใหเหมาะสมกบั ถิน่ อาศัยตา ง ๆ เราจึงสามารถพบนกไดทุกหนทกุ แหง ในสภาพแวดลอ มอนั หลากหลาย ซ่ึงพอจะแบง ถน่ิ อาศัยของนกไดดังนี้ บรเิ วณชายหาดและทองทะเล มีนกหลายชนิดที่เดินหากนิ ตามแนวหาดทรายชายทะเล เชน นกหัวโตมลายู และ นกยางทะเล เป็นตน ขณะทน่ี กหลาย ชนิดโผผนิ บินรอ นอยูตามหน าผาริมทะเล หรือแมแตในทะเล ลึกกเ็ ป็นแหลง หากินของนกขนาดใหญ เชน นกโจรสลดั ซ่งึ นกโจรสลดั สามารถบินวนอยบู นทอ งฟ าไดเป็นเวลาหลายวัน โดยไมต อ งรอ นลงบนพ้ืนดิน โดยนกที่หากินในทอ งทะเลนี้ เรามกั เรียกวา นกทะเล
8 บรเิ วณปาชายเลนและปากแมน ้ํา ตามแนวชายฝั่งท่มี ไี มชายเลนข้ึนหนาแนนเป็นถ่ินอาศยั ของนก มากมาย เชน นกกนิ เปี้ยว และ เหยี่ยวแดง เป็นตน โดยเฉพาะ ในชวงฤดูหนาวจะมีนกอพยพยายถิ่นเขามาพักอาศยั เป็นจาํ นวน มาก นกที่หากินตามปาชายเลนนี้มีช่อื เรยี กโดยรวมวา นกชาย เลน นอกจากนี้ก็มฝี ูงนกนางนวลซ่งึ เป็นนกทะเลหากนิ บริเวณนี้ ดวย บริเวณทุงหญา ทีล่ ุมน้ําขงั และหนองบงึ พ้ืนท่เี กษตรกรรมแถบชานเมอื งหรือในชนบทเป็นท่ีอยูของนก หลายชนิด นกทอี่ าศยั อยตู ามทุง นาหรือทงุ หญา โลง เรามักเรียก กนั วา นกทงุ เชน นกตะขาบทุง นกกระจบิ หญา เป็นตน สว นนก ทีอ่ าศยั ตามแหลงน้ํา เชน หนอง บงึ ทะเลสาบ เรามักเรียกวา นก น้ํา เชน นกยาง นกเป็ดน้ํา และ นกกวัก เป็นตน ปาไมป ระเภทตา ง ๆ ถอื วา เป็นสถานทีท่ ี่มนี กอาศยั อยมู ากกวาแหงอ่ืน เน่ืองจากเหมาะ สาํ หรบั การดาํ รงชีวิตของนกนานาชนิด เชน นกเงอื ก นกขนุ แผน นกโพระดก และ นกแตวแลว เป็นตน นกท่อี าศยั หากนิ ในปา มชี ่ือเรียกโดยรวมวา นกปา สภาพแวดลอ มอ่ืน ๆ นกบางชนิดมกี ารปรับตวั จนสามารถอาศัยอยูในสภาพ แวดลอ มท่ีแมแตส ัตวอ ่ืนยังอาศัยอยูไดยาก เชน ทะเลทราย ขวั้ โลกใต หรือแมแ ตในเมอื ง
9 ในปัจจุบันมีการนําดีเอ็นเอมาใชจ ดั จําแนกนกแลว โดยงานที่ สําคญั คือ Sibley & Ahlquist's Phylogeny and Classification of Birds (1990) แตการจัดจําแนกนกในทนี่ ี้ ยดึ ตาม Handbook of Birds of the World ซ่งึ จัดอนั ดับนก โดยอาศยั ลักษณะทางสณั ฐานวทิ ยาเป็นหลัก และแบง นก ออกเป็นอนั ดับตา ง ๆ ดงั นี้ Paleognathae แกไข อันดบั ใหญ Paleognathae (ตามรากศัพทแปลวา ขา กรรไกรแบบเกา) ประกอบดวยนกอนั ดับตา ง ๆ ดังนี้ อนั ดับแรไทท (Struthioniformes) อันดับนกไทแนมู (Tinamiformes) Neognathae แกไข อันดบั ใหญ Neognathae (ตามรากศัพทแ ปลวา ขากรรไกร แบบใหม) ประกอบดว ยนกอนั ดบั ตาง ๆ
เเหลง อางอิง https://th.wikipedia.org/wiki/สัตว์ปีก https://pantip.com/topic/38621252 https://sites.google.com/a/hatyaiwit.ac. th/circulatory-system/the- circulatory-system/circulatory- system/satw-pik-aves https://km.dmcr.go.th/th/c_256/d_18883 https://www.pngegg.com/th/png-kossf
ด.ช.ศิวกร สร้อยเพชร
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: