website : หนงั สือเรยี น www.iadth.com รายวชิ าพน้ื ฐาน เลม่ ๑ประวตั ศิ าสตรไ์ ทย: เปวรละเาดแน็ วลภิ ะายคุคบคุสคมลัยสาำทคาญั งแปลระะภวมู ัปติ ญัิศญาสาไตทยร์ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ ๗๐๑ ถนนนครไชยศรี แขวงถนน นครไชยศรี เขตดสุ ติ กรงุ เทพฯ กล่มุ ส�ระก�รเรียนรู้สงั คมศกึ ษ� ศ�สน� และวฒั นธรรม ๑๐๓๐๐ โทร. ๐-๒๒๔๓-๘๐๐๐ ต�มหลกั สูตรแกนกล�งก�รศกึ ษ�ขนั้ พืน้ ฐ�น (อัตโนมตั ิ ๑๕ ส�ย), พทุ ธศักร�ช ๒๕๕๑ ๐-๒๒๔๓-๑๘๐๕ แฟกซ์ : ทกุ หม�ยเลข, ผเู้ รยี บเรยี ง แฟกซ์อัตโนมตั ิ : ผู้ช่วยศ�สตร�จ�รย์ ดร.วงเดอื น น�ร�สัจจ์ ๐-๒๒๔๑-๔๑๓๑, ผชู้ ว่ ยศ�สตร�จ�รยช์ มพูนทุ น�ครี กั ษ์ ๐-๒๒๔๓-๗๖๖๖ อ�จ�รย์มติ รชยั กุลแสงเจรญิ สงวนลขิ สิทธ์ิ ผู้ตรวจ ส�ำ นกั พมิ พ์ บรษิ ทั พัฒน�คุณภ�พ ผชู้ ่วยศ�สตร�จ�รย์เช�วลี จงประเสรฐิ วชิ �ก�ร (พว.) จ�ำ กัด ผู้ช่วยศ�สตร�จ�รยย์ ุวดี วงศส์ ว่�ง พ.ศ. ๒๕๕๘ อ�จ�รย์อัมพร เอ็งสุโสภณ บรรณาธิการ ผู้ชว่ ยศ�สตร�จ�รยม์ �ลินี ประเสริฐธรรม
ค�ำนำ� สารบัญ หน้า หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ เล่ม ๑ ประวัติศาสตร์ไทย : เวลาและยุคสมัยทาง ตาราง ผลการวเิ คราะห์ทักษะศตวรรษท่ี ๒๑ ของนักเรียนทไี่ ด้รับการพัฒนา ๔ ประวตั ศิ าสตร์ ประเด็นวิภาค บุคคลส�ำคญั และภมู ปิ ญั ญาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา จ�ำแนกตามหน่วยการเรียนรู้ของรายวชิ าพืน้ ฐาน ประวตั ิศาสตร์ : ประวัติศาสตร์ไทย และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) เลม่ น้ี เป็นหนังสอื เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ ๕ ทสี่ อดแทรกการบรู ณาการ และเนน้ การสรา้ งความรกู้ บั คา่ นยิ มตามแนวทางปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เวลากับประวตั ศิ าสตร์ ๖ ตรงตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ยุคสมัยทางประวัติศาสตร ์ ๑๖ หน่วยการเรยี นร้แู ตล่ ะหน่วยประกอบด้วย หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ การสรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ ๓๓ • ตวั ชว้ี ัด ของเนอ้ื หาในหน่วยการเรยี นรูน้ น้ั ๆ องค์ความรทู้ างประวัตศิ าสตร ์ ๓๔ • ผงั สาระการเรียนรู้ สรปุ เนื้อหาสาระของทั้งหน่วย การใช้วธิ ีการทางประวัตศิ าสตรส์ ร้างองคค์ วามร้ทู างประวัตศิ าสตร์ ๓๙ • สาระส�ำคญั เพื่อง่ายต่อความเข้าใจของผเู้ รียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ ประเดน็ สำ� คญั ในประวตั ศิ าสตร์ไทย ๕๐ • จดุ ประกายความคิด กระตุ้นความคดิ ของผเู้ รยี นกอ่ นเขา้ สบู่ ทเรยี น ประเดน็ ท่ี ๑ ความเป็นมาของชนชาติไทย ๕๒ • เนื้อหา ถูกต้องตามหลักวิชาการ เน้นการใช้ภาษาท่ีถูกต้องและครบถ้วนตามขอบข่าย ประเดน็ ที่ ๒ การค้ากบั ต่างประเทศสมยั อยธุ ยา ๖๔ องค์ความรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ว่าด้วยการอยู่ร่วมกันในสังคม ประเด็นท่ี ๓ ที่ปรกึ ษาและข้าราชการตา่ งชาตใิ นสมัยรัชกาลที่ ๕ ๗๔ ที่มีความเช่ือมสัมพันธ์กัน และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพ่ือช่วยให้สามารถปรับตนเองกับ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ ๘๒ บรบิ ทสภาพแวดล้อม เปน็ พลเมอื งดี มคี วามรบั ผิดชอบ มคี วามรู้ ทกั ษะ คุณธรรม และคา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม สถานภาพของพระมหากษัตริย์ ๘๔ โดยได้ก�ำหนดไว้ในสาระประวตั ศิ าสตร์ เรอ่ื งแนวคิดพน้ื ฐานเก่ยี วกบั ความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม รากฐานแห่งพระราชอำ� นาจ ๘๗ ภูมิปญั ญาไทย ให้มคี วามรัก ความภูมิใจ และสามารถธ�ำรงความเปน็ ไทยไว้ได้สบื ไป บทบาทและหน้าทีข่ องกษตั ริย์ ๙๒ • ผงั สรุปสาระสำ� คัญ ผังความคดิ สรุปเนื้อหาสาระสำ� คญั ของทัง้ หน่วย การเถลงิ ถวัลยราชสมบตั ิ ๑๐๕ • จุดประกายโครงงาน ใหผ้ ู้เรยี นฝึกกระบวนการคดิ ทน่ี ำ� ไปสกู่ ารสรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ บคุ คลสำ� คญั ในประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ๑๑๖ • กิจกรรมบูรณาการอาเซียน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศสมาชิก พระราชกรณยี กิจของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทย ๑๑๗ อาเซยี น บทบาทของสตรีในประวตั ิศาสตร์ไทย ๑๓๒ • กิจกรรมการเรียนรู้และค�ำถามพัฒนากระบวนการคิด เน้นให้ผู้เรียนพัฒนาพฤติกรรมด้าน ศลิ ปินแหง่ ชาต ิ ๑๔๓ ความรู้ เจตคติ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มทด่ี ีงาม โดยมุ่งใหผ้ ู้เรยี นเกดิ สมรรถนะสำ� คญั และมุง่ พฒั นา บุคคลส�ำคญั ของไทยที่ได้รบั การยกย่องจากองค์การยเู นสโก ๑๔๖ ผู้เรยี นให้มีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ชาวต่างประเทศที่มีส่วนสรา้ งสรรคป์ ระวัตศิ าสตร์ วฒั นธรรม และความก้าวหนา้ ของสังคมไทย ๑๕๕ • เว็บไซต์แนะนำ� สง่ เสริมการใชอ้ ินเทอร์เน็ตเพือ่ การเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๖ ภมู ปิ ัญญาไทย ๑๖๒ สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) หวังว่าหนังสือเรียนเล่มนี้ จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนา ความหมายของภมู ปิ ญั ญาไทย ๑๖๓ กระบวนการเรียนรู้และกระบวนการคิดได้ สมดังเจตนารมณ์ของการปฏิรูปการศึกษาอย่างครบถ้วน สาเหตขุ องการเกิดภูมิปัญญาไทย ๑๖๔ ทุกประการ ลกั ษณะของภมู ิปญั ญาไทย ๑๖๕ ประเภทของภมู ิปญั ญาไทย ๑๖๘ สถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) สาขาของภมู ิปัญญาไทย ๑๖๙ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๗ การอนุรักษภ์ ูมปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทย ๒๐๐ นโยบายคุ้มครองและอนรุ กั ษ์มรดกวัฒนธรรมไทย ๒๐๒ การด�ำเนินการอนรุ ักษแ์ ละคุม้ ครองศลิ ปวัฒนธรรม ๒๐๖ บรรณานุกรม ๒๑๓
ตาราง ผลการวเิ คราะห์ทกั ษะศตวรรษท่ี ๒๑ ของนักเรยี นทไ่ี ดร้ ับการพัฒนา จำาแนกตามหนว่ ยการเรียนรขู้ องรายวชิ าพนื้ ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ : ประวัตศิ าสตร์ไทย คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ของผู้เรียน การเรยี นรู้ ๑หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ เวลาและยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ ในศตวรรษท่ี ๒๑ ในศตวรรษท่ี ๒๑ ตัวช้ีวัด หนว่ ยการเรยี นร/ู้ เรอ่ื ง การเรียน ู้รเพื่อ ูร้ (Learning to know) ตระหนักถงึ ความส�าคญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวัติศาสตรท์ แี่ สดงถงึ การเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้เ ่ืพอปฏิ ับติได้จ ิรง ของมนษุ ยชาติ (ส ๔.๑ ม.๔-๖/๑) (Learning to do) การเรียน ู้ร ่ีทจะอยู่ ่รวม ักน ผงั สาระการเรยี นรู้ (Learning to live together) การเรียน ู้รท่ีจะเ ็ปน (Learning to be) ัทกษะการเรียน ู้รและน ัวตกรรม ทักษะด้านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี ัทกษะ ีช ิวตและการทำางาน หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ เวลากับประวัติศาสตร์ ยุคสมัยทางประวตั ศิ าสตร์ เวลาและยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ เวลาและยุคสมัย หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ทางประวตั ิศาสตร์ การสรา้ งองค์ความร้ดู ว้ ยวิธีการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ทางประวัตศิ าสตร์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ สาระสาำ คญั ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ผศู้ กึ ษาประวตั ศิ าสตรจ์ า� เปน็ ตอ้ งเขา้ ใจเรอื่ งเวลา ซง่ึ มคี วามเกยี่ วขอ้ งกบั การศกึ ษาประวตั ศิ าสตร ์ ประเดน็ สำาคัญในประวัตศิ าสตรไ์ ทย เพื่อให้สามารถล�าดับช่วงเวลา เชื่อมโยงเหตุการณ์และวิเคราะห์หลักฐานทางประวัติศาสตร์ตาม ยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์ได้ถูกตอ้ ง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ สถาบันพระมหากษตั ริย์ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ บคุ คลสาำ คัญในประวตั ศิ าสตร์ไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ ภมู ปิ ัญญาไทย หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๗ การอนรุ ักษภ์ มู ปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทย
จดุ ประกายความคิด ๑.๑ ความส�ำคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ เวลาท่ีปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ช่วยให้ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์เข้าใจเหตุการณ ์ ทเ่ี กิดขนึ้ ในอดตี ทงั้ การล�ำดบั เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนกอ่ น-หลัง การเช่ือมโยงอดตี กับปจั จบุ นั การสรา้ งความ ตอ่ เน่อื งของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ ในอดตี และการเปรยี บเทียบเหตกุ ารณ์ร่วมสมัยในประวัติศาสตร์ เวลามีความสัมพนั ธ์ การล�ำดับเหตุการณ์ในประวตั ิศาสตร์ กบั เหตกุ ารณ์ คนส่วนใหญ่มักเรียกเหตุการณ์ท่ีผ่านมาแล้วว่า “อดีต” ทีเ่ กิดขึน้ ในอดีต หรือ “สมัยก่อน (ปัจจุบัน)” ท�ำให้บางคร้ังไม่สามารถสืบสาวได้ว่า เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนในอดีตน้ัน เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อนหรือหลัง และปัจจบุ ันอย่างไร โดยเฉพาะเหตกุ ารณท์ นี่ บั ยอ้ นหลงั ไปยาวนานและหา่ งไกลจากปจั จบุ นั มาก เนื่องจากมนุษยชาติมีพัฒนาการมายาวนานมากกว่า ๒ ล้านป ี โดยเฉพาะยคุ ประวัตศิ าสตร์ของแตล่ ะดินแดน ซ่งึ มีชว่ งเวลาแตกต่าง กนั กม็ เี หตกุ ารณป์ ระวตั ศิ าสตรเ์ กดิ ขน้ึ มากมายเกนิ กวา่ จะพรรณนาได้ ครบถ้วน ดังน้ัน นักประวัติศาสตร์จึงอาศัย “เวลา” ท่ีปรากฏอยู่ใน หลักฐานทางประวัติศาสตร์อธิบายหรือล�ำดับเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน ในแตล่ ะดินแดน ภาพพมิ พค์ ณะทตู สยามเดนิ ทางไปฝรงั่ เศสในสมยั สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช วาดโดยนโิ คลาส์ เดอ ลาร์ เมสแซง็ ตพี มิ พท์ ปี่ ารสี มขี อ้ ความบรรยายและเวลากำ� กบั ดา้ นลา่ ง การศึกษาเรื่องราวเก่ียวกับอดีตของมนุษยชาติที่มีพัฒนาการมายาวนานต้ังแต่สมัยก่อน เอกสารหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ นกั ประวตั ศิ าสตรเ์ รยี งลำ� ดบั เหตกุ ารณ์ ประวัติศาสตร์และสมัยประวัติศาสตร์จ�ำเป็นต้องใช้เวลาเป็นเกณฑ์แบ่ง เพราะจะท�ำให้ผู้ศึกษาเข้าใจ การประกาศอสิ รภาพของสหรัฐอเมรกิ า ค.ศ. ๑๗๗๖ ในประวัติศาสตร์ตามปีท่ีเกิดเหตุการณ์นั้น ๆ โดย เหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดขน้ึ ตามลำ� ดับก่อน-หลัง และสามารถเชื่อมโยงหรือเปรยี บเทียบเหตุการณ์ต่าง ๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ นับตามศักราช (ปี) ท่ีปรากฏอยู่ในหลักฐานทาง ในประวัตศิ าสตร์ของมนษุ ยชาติได้ ประวัติศาสตร์ ทั้งนี้แต่ละสังคมมีวิธีเร่ิมต้นนับ ศักราชแตกต่างกัน ส่วนใหญ่มักยึดตามเหตุการณ์ ๑. เวลากบั ประวตั ิศาสตร์ สำ� คญั ทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื เปน็ เกณฑ์ เชน่ ครสิ ต-์ ศักราช (ค.ศ.) พุทธศักราช (พ.ศ.) และฮิจเราะห์- เวลาเป็นส่ิงเช่ือมโยงอดีตกับปัจจุบัน เนื่องจากยุคประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมีพัฒนาการมา ศักราช (ฮ.ศ.) ปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่ต่างยึด ยาวนานหลายพนั ปี การศึกษาความตอ่ เนือ่ งระหว่างยคุ สมัยในประวตั ศิ าสตร์ชว่ งต่าง ๆ จงึ ตอ้ งอาศัยเวลา คริสต์ศักราชเป็นศักราชสากล แม้แต่ประเทศไทย ที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเภทต่าง ๆ ในการล�ำดับเหตุการณ์ เพ่ือให้สามารถ ซ่ึงประกาศใช้พุทธศักราชอย่างเป็นทางการต้ังแต่ เชอื่ มโยงถงึ ปจั จุบนั ดงั นน้ั เวลาจงึ มคี วามส�ำคัญตอ่ การศึกษาประวัติศาสตร์มาก พ.ศ. ๒๔๕๕ กใ็ ช้ครสิ ต์ศักราชในการติดต่อส่ือสาร กับนานาประเทศดว้ ย 6 ประวัตศิ าสตรไ์ ทย ม.๔-๖ เวลาและยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์ 7
การลำ� ดบั เหตกุ ารณใ์ นประวตั ศิ าสตรส์ ามารถล�ำดบั ทง้ั เหตกุ ารณใ์ นประวตั ศิ าสตรข์ องแตล่ ะ จารึกพ่อขุนรามค�ำแหงใช้มหาศักราช และระบุศักราช จารกึ วดั ป่าแดงสมยั สุโขทัย ชาตแิ ละเหตกุ ารณ์ในประวตั ิศาสตรส์ ากล ดงั น้ี (ศก หรอื สก) ท่ีมีการจดั ท�ำจารึกไวว้ า่ “...๑๒๑๔ ศก ปีมะโรง...” การล�ำดับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของชาติ โดยท่ัวไปนักประวัติศาสตร์สามารถล�ำดับ ตรงกบั พุทธศกั ราช ๑๘๓๕ (ม.ศ. ๑๒๑๔ + ๖๒๑ = พ.ศ. ๑๘๓๕) เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่เกิดข้ึนภายในประเทศใดประเทศหนึ่งได้โดยง่าย โดยเฉพาะประเทศท่ีใช ้ จารึกวัดป่ามะม่วงสมัยสุโขทัยมีการระบุพุทธศักราชไว้ว่า คริสต์ศักราชเพียงศักราชเดียว ดังเช่นประเทศในยุโรป สหรัฐอเมริกา ฯลฯ การล�ำดับเหตุการณ์ “...แตพ่ ระพทุ ธเจ้าเราเข้านิพพานมาเถงิ วนั บวชนั้น ไดพ้ นั เก้าร้อย- ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นก่อน-หลังในประเทศเหล่านั้นตรวจสอบได้ง่าย เนื่องจากผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ ห้าปี” ตรงกับพุทธศักราช ๑๙๐๔ (หลังจากปีท่ีปรินิพพานแล้ว สามารถเรียงลำ� ดับเหตุการณ์ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีศักราชกำ� กับ เช่น ในเหตุการณ์สงคราม ๑๙๐๔ ป)ี ปฏวิ ตั ขิ องชาวอเมรกิ นั (American Revolution War, 1775-1783) ชาวอาณานคิ มอเมรกิ นั เรมิ่ ทำ� สงคราม จารกึ วดั ปา่ แดงสมยั สโุ ขทยั ใชจ้ ลุ ศกั ราช และปรากฏศกั ราช กับอังกฤษในยุทธการทคี่ องคอรด์ (Battle of Concord, 1775) ในเดือนเมษายน ค.ศ. ๑๗๗๕ กอ่ นท่ีจะ ทีจ่ ารึกวา่ “เมอ่ื ศักราชได้ ๗๖๘ จอนักษตั ร เดือนอา้ ยแรม ๑๐ ค่ำ� ประกาศอสิ รภาพ (The Declaration of Independence) อยา่ งเปน็ ทางการในวันท่ี ๔ กรกฎาคม ค.ศ. วนั อาทติ ย์...” ตรงกับพทุ ธศกั ราช ๑๙๔๙ (จ.ศ. ๗๖๘ + ๑๑๘๑ = ๑๗๗๖ ตัวอยา่ งที่ยกมานช้ี ว่ ยให้ผู้ศึกษาล�ำดบั เหตุการณท์ ี่เกดิ ขึ้นในภาพรวมได้ถูกตอ้ ง พ.ศ. ๑๙๔๙) อย่างไรก็ตาม บางประเทศ เช่น ประเทศไทยในอดีตมีการใช้ศักราชหลายประเภท ได้แก่ พุทธศักราช (พ.ศ.) เริ่มข้ึนในอินเดียและแพร่หลายในประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเป็นหลัก ไทยใช้ พระราชพงศาวดารกรงุ ศรอี ยธุ ยาฉบบั หลวงประเสรฐิ อกั ษรนติ ใ์ิ ชจ้ ลุ ศกั ราช และมบี านแผนก พุทธศักราชตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยนับปีถัดจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานเป็นพุทธศักราชท่ี ๑ บอกปีที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีพระบรมราชโองการให้เรียบเรียงไว้ว่า “ศุภมัสดุ ๑๐๔๒ ศกวอก (ศรีลังกาและพม่านับปีท่ีพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานเป็นศักราชที่ ๑) ดังปรากฏในหลักฐานท่ี นกั ษตั ร ณ วนั พธุ เดอื น ๕ ขน้ึ ๑๒ คำ่� ...” ตรงกบั พทุ ธศกั ราช ๒๒๒๓ (จ.ศ. ๑๐๔๒ + ๑๑๘๑ = พ.ศ. ๒๒๒๓) เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เช่น จารึกสุโขทัยและต�ำนาน ต่อมามีการใช้แพร่หลายมากขึ้นตั้งแต่สมัย พระราชดำ� รขิ องพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในการปฏริ ปู การปกครองหวั เมอื ง สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช และรฐั บาลไทยไดป้ ระกาศใชพ้ ทุ ธศกั ราชอยา่ งเปน็ ทางการตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๔๕๕ ตามทโี่ ปรดเกล้าฯ ใหแ้ จ้งตอ่ ที่ประชมุ ขา้ หลวงเทศาภิบาลครั้งแรก ลงวนั ท่ี ๑๘ มกราคม รัตนโกสนิ ทรศก มหาศักราช (ม.ศ.) เริ่มขึน้ ในอนิ เดยี หลังพทุ ธศกั ราช ๖๒๑ ปี (พ.ศ. = ม.ศ. + ๖๒๑) และนำ� ๑๑๔ ตรงกบั พุทธศกั ราช ๒๔๓๘ (ร.ศ. ๑๑๔ + ๒๓๒๔ = พ.ศ. ๒๔๓๘) มาใช้ในดนิ แดนประเทศไทยต้งั แตส่ มัยก่อนสุโขทยั จนถึงอยุธยาตอนกลาง จากตัวอยา่ งขา้ งต้นพบวา่ ในสมยั สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสนิ ทร์มีการใช้ศกั ราชแตกต่าง จุลศกั ราช (จ.ศ.) เร่มิ ข้ึนในพมา่ หลังพทุ ธศกั ราช ๑๑๘๑ ปี (พ.ศ. = จ.ศ. + ๑๑๘๑) และไทย กนั ดงั นน้ั ผศู้ กึ ษาจงึ ตอ้ งนำ� ศกั ราชเหลา่ นน้ั ไปเทยี บกบั พทุ ธศกั ราชกอ่ น แลว้ จงึ จะสามารถล�ำดบั เหตกุ ารณ์ เริ่มใช้จุลศักราชต้ังแต่สมัยสุโขทัย จากนั้นได้แพร่หลายในสมัยอยุธยาตอนปลายต่อเนื่องจนถึงรัชสมัย กอ่ น-หลงั ได้ พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั การล�ำดับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์สากล นักประวัติศาสตร์สามารถล�ำดับเหตุการณ์ใน รัตนโกสินทรศก (ร.ศ.) ใน พ.ศ. ๒๔๓๒ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรง ประวัติศาสตร์สากลโดยใช้ศักราชสากล คือ คริสต์ศักราช เช่น การศึกษาพัฒนาการความเจริญของ ประกาศใชร้ ตั นโกสนิ ทรศก โดยเรม่ิ นบั รตั นโกสนิ ทรศกท่ี ๑ ในพทุ ธศกั ราช ๒๓๒๕ (พ.ศ. = ร.ศ. + ๒๓๒๔) อารยธรรมโบราณในดินแดนเมโสโปเตเมีย และอียิปต์ซึ่งเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องในช่วงหลายพันปี อน่ึง ซงึ่ เปน็ ปที พ่ี ระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ทรงสถาปนากรงุ รตั นโกสนิ ทรเ์ ปน็ ราชธานี และ ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ยังสามารถล�ำดับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในประเทศของตน ซึ่งเป็นส่วนหน่ึงใน ไทยได้ใช้รัตนโกสินทรศกจนถึง พ.ศ. ๒๔๕๕ ซ่ึงมีการประกาศใช้พุทธศักราชอย่างเป็นทางการมาจนถึง เหตกุ ารณส์ �ำคญั ของโลกทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ชะตากรรมของมนษุ ยชาตจิ �ำนวนมากได้ โดยวธิ กี ารเทยี บศกั ราชที่ ปัจจบุ ัน ใชอ้ ยใู่ นประเทศนนั้ กบั ครสิ ตศ์ กั ราช เชน่ กรณขี องประเทศไทย ใหน้ ำ� พทุ ธศกั ราชไปเทยี บกบั ครสิ ตศ์ กั ราช ปัจจบุ นั นอกจากการใชพ้ ทุ ธศกั ราชแลว้ ในสังคมไทยยังใชค้ ริสต์ศกั ราชซึ่งเปน็ ศกั ราชสากล (พ.ศ. = ค.ศ. + ๕๔๓) ในการศกึ ษาสถานะของประเทศไทยในเหตุการณส์ งครามโลกครัง้ ท่ี ๑ และ ๒ ดังน้ี และฮจิ เราะหศ์ กั ราชในการนบั ปฏทิ นิ ทางศาสนาอสิ ลามดว้ ย ดงั นน้ั เพอื่ ความสะดวกในการลำ� ดบั เหตกุ ารณ์ ในประวัติศาสตร์ไทย นักประวัติศาสตร์ต้องน�ำศักราชต่าง ๆ ท่ีปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไป เวลาและยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ 9 เทียบกับพทุ ธศักราชก่อน ดงั ตัวอย่างหลักฐานชนั้ ต้นตอ่ ไปนี้ 8 ประวัติศาสตร์ไทย ม.๔-๖
สงครามโลกครงั้ ที่ ๑ (ค.ศ. ๑๙๑๔-๑๙๑๘) เรมิ่ ขน้ึ ในยโุ รปเมอ่ื ค.ศ. ๑๙๑๔ ประเทศไทยประกาศ การเผยแพร่ข้อมูลใน พ.ศ. ๒๕๕๒ เกี่ยวกับการค้นพบลูกปัดหลากสีจ�ำนวนมากในพื้นท่ีแถบ สงครามต่อฝ่ายมหาอ�ำนาจกลางและเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรใน พ.ศ. ๒๔๖๐ หรือ ค.ศ. ๑๙๑๗ ชายทะเลฝง่ั ตะวันตกของภาคใต้ โดยเฉพาะทอี่ ำ� เภอคลองท่อม จังหวดั กระบ่ี ซ่ึงผ้เู ชยี่ วชาญวิเคราะห์ (พ.ศ. ๒๔๖๐ – ๕๔๓ = ค.ศ. ๑๙๑๗) ซ่งึ แสดงให้เหน็ วา่ ไทยดำ� เนินนโยบายเปน็ กลางมาตลอดจนถึง วา่ มีอายุมากกวา่ ๒,๐๐๐ ปี ท�ำใหน้ ักโบราณคดเี ชื่อวา่ ดนิ แดนประเทศไทยในอดตี มีการตดิ ตอ่ คา้ ขาย ช่วงท้ายของสงครามจงึ ตัดสินใจเข้าร่วมกับฝ่ายสมั พันธมติ ร กบั โลกภายนอกและมคี วามสามารถผลติ สนิ คา้ ประเภทหตั ถกรรมเปน็ สนิ คา้ ออกเชน่ เดยี วกบั ดนิ แดน สงครามโลกคร้งั ที่ ๒ (ค.ศ. ๑๙๓๙-๑๙๔๕) เริ่มในยโุ รปเมอื่ ค.ศ. ๑๙๓๙ หลังจากนน้ั ได้ขยาย อารยธรรมอื่น ๆ ของโลก ไปท่ัวโลก ในเอเชีย ญ่ีปุ่นได้เริ่มสงครามมหาเอเชียบูรพาเม่ือวันท่ี ๘ ธันวาคม ค.ศ. ๑๙๔๑ และ ข้อความในจารึกพ่อขุนรามค�ำแหงระบุศักราชท่ีประดิษฐ์ลายสือไทยว่า “...๑๒๐๕ ศกปีมะแม ยกพลขึ้นบกในประเทศไทยโดยอ้างว่าเพื่อขอยกทัพผ่านไปยังพม่าและอินเดีย ส่งผลให้ไทยต้อง พ่อขุนรามค�ำแหงหาใคร่ใจในใจ แลใส่ลายสือไทยน้ี ลายสือไทยน้ีจึ่งมีเพื่อขุนผู้นั้นใส่ไว้...” ศักราช ประกาศสงครามตอ่ ฝา่ ยพนั ธมติ รเมอ่ื วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๕ (ค.ศ. ๑๙๔๒) ๑๒๐๕ ที่ระบไุ วค้ อื มหาศกั ราช หรอื พ.ศ. ๑๘๒๖ (พ.ศ. ๑๘๒๖ = ม.ศ. ๑๒๐๕ + ๖๒๑) ตวั อย่างเหตุการณป์ ระวตั ิศาสตร์ขา้ งตน้ ชี้ให้เหน็ วา่ ข้อมูลเกี่ยวกบั เวลามีความส�ำคญั ตอ่ การ ข้อมูลที่ปรากฏในจารึกนี้เชื่อมโยงให้เห็นว่าภาษาไทยที่เราใช้กันในปัจจุบันมีพัฒนาการมา ล�ำดับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มาก ไม่ว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์จะใช้ศักราชใดก็ตาม ผู้ศึกษา นานกวา่ ๗๐๐ ปแี ลว้ ความสามารถในการประดษิ ฐ์อกั ษรไทยแสดงถึงความเจริญรงุ่ เรอื งของชนชาติไทย กส็ ามารถน�ำมาเทียบกับศักราชสากลและล�ำดับเร่ืองราวต่าง ๆ ไดต้ ่อเนื่องและถกู ต้อง เพราะอักษรไทยแสดงถึงความก้าวหน้าทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมด้านวรรณกรรมของชนชาต ิ การเชือ่ มโยงอดตี กับปจั จบุ นั นอกจากน้อี ักษรไทยยงั ทำ� ให้มกี ารบันทึกขอ้ มูลประวตั ศิ าสตร์ทีเ่ ชอื่ มโยงอดีตกับปัจจบุ ันได้ เวลาในประวัติศาสตร์ คือ อดีตทีม่ ีความเกย่ี วขอ้ งหรอื เชอ่ื มโยงถงึ ปัจจบุ ันได้ เวลาทย่ี าวไกล การสร้างความต่อเนอื่ งของเหตกุ ารณใ์ นอดีต ข้อมูลที่พบในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ช่วงเวลาต่าง ๆ มีความส�ำคัญต่อการเชื่อมโยง ในประวตั ศิ าสตรบ์ ง่ บอกถงึ อดตี ทยี่ าวนานของมนษุ ยชาติ ประเทศตา่ ง ๆ ใหค้ วามสำ� คญั กบั ประวตั ศิ าสตร์ เหตกุ ารณใ์ นอดตี มาก เพราะชว่ ยใหผ้ ศู้ กึ ษามองเหน็ ความตอ่ เนอื่ งของเหตกุ ารณจ์ ากชว่ งเวลาหนงึ่ ไปยงั อกี ของชาติ เพราะประวัติศาสตร์บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองก้าวหน้าของบรรพชนในอดีตที่สั่งสมความภูมิใจให้ ชว่ งเวลาหนง่ึ และสามารถเขา้ ใจภาพรวมของเหตกุ ารณไ์ ด้ ดงั ตวั อยา่ งการวเิ คราะหค์ ำ� วา่ “สยาม” ในหนงั สอื กับคนรุ่นปัจจุบัน อย่างไรก็ตามแต่ละสังคมมีช่วงเวลาในอดีตต่างกัน ประเทศอียิปต์ จีนและอินเดียมี เร่อื ง ความเป็นมาของค�ำสยาม ไทย ลาว และขอม และลกั ษณะทางสงั คมของชอ่ื ชนชาติ ของจติ ร ภูมศิ ักด์ิ ประวตั ศิ าสตรย์ าวนานหลายพนั ปที ส่ี ามารถเชอื่ มโยงถงึ ปจั จบุ นั ได้ สว่ นประเทศมหาอ�ำนาจในยโุ รป เชน่ องั กฤษ ซึ่งใช้ข้อมูลทางด้านนิรุกติศาสตร์ที่ปรากฏในหลักฐานสมัยต่าง ๆ อธิบายวิวัฒนาการของค�ำว่า “สยาม” ฝรง่ั เศส เยอรมนี และรสั เซยี มีประวตั ิศาสตรท์ ย่ี าวไกล ผู้ศึกษาสามารถน�ำองค์ความรู้ที่จิตร ภูมิศักดิ์ ค้นคว้าไว้มาประกอบ ไม่ถึง ๒,๐๐๐ ปี ความเจริญรุ่งเรืองที่ผ่านกาลเวลา การอธิบายภาพรวมของพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ในดินแดน ยาวนานในประวัติศาสตร์ของชาติต่าง ๆ ท่ีเช่ือมโยงถึง ประเทศไทยได้ ดงั นี้ ปัจจุบันได้สร้างเกียรติภูมิให้กับชนชาติน้ัน ๆ ดังน้ัน หลักฐานท่ีกล่าวถึงดินแดนสยามมีท้ังหลักฐานประเภท การศึกษาวิเคราะห์คุณค่าของประเทศใดประเทศหน่ึง จารึก ต�ำนาน จดหมายเหตุจีน วรรณกรรมและหลักฐานทางราชการ จงึ ตอ้ งใหค้ วามสำ� คญั ตอ่ ภมู หิ ลงั ในอดตี ทบี่ รรพชนของ ในสมยั รัตนโกสินทร์ ชนชาตนิ ั้น ๆ สัง่ สมความเจริญใหก้ ับโลกปัจจบุ นั ดว้ ย หลกั ฐานประเภทจารกึ ไดแ้ ก่ จารกึ ของเขมรโบราณและ นอกจากน้ีเวลาที่ปรากฏในหลักฐาน จาม ตำ� นานภาคเหนอื ของไทย เช่น รตั นพิมพวงศ์ (ต�ำนานพระแกว้ - ทางประวัติศาสตร์ยังเชื่อมโยงเหตุการณ์ในอดีตกับ มรกต) ซ่ึงเขยี นใน พ.ศ. ๑๙๗๒ จามเทววี งศ์ ซง่ึ เขยี นประมาณ พ.ศ. ปัจจุบันด้วย หลักฐานทางประวัติศาสตร์ท้ังหลักฐาน ๒๐๐๐ และชนิ กาลมาลีปกรณ์ ซึ่งเขยี นใน พ.ศ. ๒๐๕๙ จดหมายเหตุ ประเภทลายลกั ษณแ์ ละหลกั ฐานทางโบราณคดที ค่ี น้ พบ จีน พ.ศ. ๑๘๒๕ เรียกดินแดนของชนชาติไทยวา่ “เสยี ม” หรอื “เสยี น” หนงั สอื “ความเปน็ มาของคำ� สยาม ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา พบค�ำว่า ไทย ลาว และขอม และลกั ษณะทาง ในดินแดนตา่ ง ๆ ลว้ นบง่ บอกถงึ อดีตและความเป็นมา อนสุ าวรีย์เฉลิมฉลองครบรอบ ๑,๐๐๐ ปี สังคมของชื่อชนชาต”ิ โดย จติ ร ภูมิศักด์ิ ของมนษุ ยชาติ เชน่ ของชาวรัสเซีย ต้งั อยูท่ ่กี รงุ มอสโก ประเทศรสั เซยี “สยาม” ในวรรณกรรมเรื่องลิลิตยวนพ่าย และมหาชาติค�ำหลวง ใน ตีพิมพ์ครง้ั ท่ี ๒ พ.ศ. ๒๕๒๔ 10 ประวัตศิ าสตร์ไทย ม.๔-๖ เวลาและยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตร์ 11
สมยั อยธุ ยาและรตั นโกสนิ ทร์ สมยั สมบรู ณาญาสทิ ธริ าชยใ์ นเอกสารจดหมายเหตชุ อื่ Burney Papers ของ ผ้ศู ึกษาตระหนกั ถึงคณุ คา่ ของภูมิปัญญาท่ีมนุษยชาตใิ นอดตี ไดส้ รา้ งสรรค์ผลงานและความรงุ่ เรอื งตา่ ง ๆ นายเฮนรี เบอรน์ ยี ์ (Henry Burney) สนธสิ ัญญาทางพระราชไมตรที ่ไี ทยทำ� กับประเทศตะวนั ตกในสมยั ทก่ี ลายเปน็ รากฐานของความเจริญในปัจจบุ ัน และเพ่ือให้อนชุ นรนุ่ หลังชว่ ยกนั สบื ทอดและอนรุ กั ษม์ รดก รัตนโกสินทร์ก็ใช้ช่ือว่าสยาม เช่น “หนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี ประเทศอังกฤษ แล ประเทศสยาม ทางวัฒนธรรมเหลา่ นั้นไวไ้ มใ่ หส้ ญู สลายไปพรอ้ มกับกาลเวลา คฤษต์ศักราช ๑๘๒๖” และ “หนังสือสัญญาทางพระราชไมตรี ประเทศอเมริกา แล ประเทศสยาม การเปรยี บเทยี บวิธกี ารแก้ปัญหาของประเทศต่าง ๆ ในสถานการณ์รว่ มสมยั พฒั นาการทาง คฤษตศ์ กั ราช ๑๘๓๓” ในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกล้าเจ้าอยหู่ วั ประวตั ศิ าสตรท์ ผี่ า่ นมาชใ้ี หเ้ หน็ วา่ มนษุ ยชาตใิ นหลายดนิ แดนตา่ งเผชญิ ชะตากรรมในสถานการณร์ ว่ มสมยั หลักฐานเกย่ี วกบั คำ� ว่า “สยาม” ทีป่ รากฏในช่วงเวลาตา่ ง ๆ ทำ� ให้ผูศ้ กึ ษาทราบความตอ่ เนื่อง เปน็ ต้นว่า ภยั จากลัทธอิ าณานิคม ภัยสงคราม ภัยเศรษฐกจิ ฯลฯ ของพัฒนาการทางด้านประวัติศาสตร์ของชนชาติไทยในดินแดนประเทศไทย อีกท้ังยังท�ำให้เข้าใจถึง การศกึ ษาเปรยี บเทยี บเหตกุ ารณร์ ว่ มสมยั ในประวตั ศิ าสตรช์ ว่ ยใหผ้ ศู้ กึ ษาเรยี นรบู้ ทเรยี นจาก ภาพรวมการต้ังถิ่นฐานของชนชาติไทยที่ก่อตั้งอาณาจักรในภาคเหนือของประเทศไทย (ดินแดนล้านนา) ประวตั ศิ าสตร์ สามารถเขา้ ใจวธิ กี ารแกป้ ญั หาของผนู้ ำ� ในอดตี ทเ่ี สยี สละ อดทนและยนื หยดั ตอ่ สเู้ พอ่ื เอกราช มาเป็นเวลาช้านานก่อนที่จะเคลื่อนย้ายลงมาตั้งอาณาจักรทางตอนใต้ คือ สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และ ของชาติ อีกทั้งจะช่วยให้เกิดคุณธรรม มีความรักและยึดมั่นต่อสันติสุขของประเทศชาติมากกว่า รัตนโกสินทรใ์ นปจั จบุ ัน ผลประโยชน์สว่ นตน การเปรียบเทียบเหตกุ ารณร์ ่วมสมยั ในประวัติศาสตร์ การศึกษาเปรียบเทียบเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่เกิดข้ึนในดินแดนต่าง ๆ ช่วยให้ผู้ศึกษา ๑.๒ เวลากบั หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ เข้าใจพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติได้มากข้ึน อย่างไรก็ตามการศึกษาในลักษณะน้ีจะต้อง เปรียบเทียบกับดินแดนที่อยู่ร่วมสมัยกัน หรืออยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน หรืออยู่ในสถานการณ์ท่ีมีลักษณะ นักประวัติศาสตร์เรียนรู้เร่ืองราวในอดีตจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นเคร่ืองมือ เดยี วกนั เนอื่ งจากความแตกตา่ งในดา้ นมติ ขิ องเวลาท�ำใหไ้ มส่ ามารถศกึ ษาเปรยี บเทยี บเหตกุ ารณไ์ ดอ้ ยา่ ง ส�ำคัญในการศึกษาประวัติศาสตร์ หากขาดหลักฐานทางประวัติศาสตร์ นักประวัติศาสตร์จะไม่สามารถ ถูกต้องแท้จริง การเปรียบเทียบเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ร่วมสมัยสามารถศึกษาได้หลากหลาย เช่น การ ตรวจสอบความถูกต้องของเหตุการณ์ในอดีตได้ ขณะเดียวกันมนุษย์ก็จะไม่ทราบถึงภูมิหลังและ เปรยี บเทยี บพฒั นาการของอารยธรรมรว่ มสมยั ในดนิ แดนตา่ ง ๆ และการเปรยี บเทยี บวธิ กี ารแกป้ ญั หาของ ความเป็นมาของบรรพชน อย่างไรก็ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต้องมีเวลากำ� กับอยู่ด้วย เพราะหาก ประเทศต่าง ๆ ทเี่ ผชญิ สถานการณ์รว่ มสมยั หรอื สถานการณ์ทค่ี ล้ายคลึงกนั หลักฐานน้ันไม่ปรากฏข้อมูลเก่ียวกับเวลา ผู้ศึกษาก็จะไม่สามารถวิเคราะห์ความส�ำคัญของหลักฐานและ การเปรียบเทียบพัฒนาการของอารยธรรมร่วมสมัย การศึกษาในประเด็นน้ีไม่ได้เน้นการ ความเก่ยี วเนอ่ื งกับเหตุการณ์ในประวตั ศิ าสตรไ์ ด้ เปรียบเทียบว่าดินแดนใดเหนือกว่า หรือดีเลิศกว่าดินแดนอ่ืน ๆ แต่อย่างใด หากเป็นการเปรียบเทียบ ในการศึกษาหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ นอกเหนอื จากข้อมูลส�ำคญั อน่ื ๆ แล้ว ส่งิ ท่ผี ศู้ กึ ษา ให้เห็นว่า มนุษย์ในสมัยโบราณไม่ว่าจะมีถ่ินกำ� เนิด ณ ท่ีใด เช่น อียิปต์ เมโสโปเตเมีย อินเดีย หรือจีน ตอ้ งการทราบ คอื ข้อมลู เกย่ี วกับเวลาหรืออายุของหลกั ฐานชิ้นน้นั เชน่ หลักฐานนน้ั สร้างขึ้นเม่ือไร สมยั ใด ต่างกม็ สี ตปิ ญั ญาและความสามารถในการพฒั นาความเจริญก้าวหน้าให้กบั สังคมของตนเอง แต่ละสงั คม เกย่ี วขอ้ งกบั เหตกุ ารณใ์ นอดตี ในชว่ งเวลาใดบา้ ง ขอ้ มลู เกยี่ วกบั เวลาทปี่ รากฏในหลกั ฐานจะชว่ ยใหผ้ ศู้ กึ ษา สามารถสรา้ งสังคมเมือง มรี ะบอบการปกครองท่เี ป็นแบบแผน การศกึ ษาเปรียบเทยี บในลกั ษณะนี้ทำ� ให้ ทราบวา่ หลักฐานน้นั เกีย่ วขอ้ งกับใคร ในยคุ สมยั ใด และมคี วามต่อเนอ่ื งหรือเชอื่ มโยงกบั เหตุการณอ์ ่ืน ๆ ทงั้ กอ่ นหนา้ นนั้ และหลงั จากนนั้ อยา่ งไร อยา่ งไรกต็ ามเนอ่ื งจากหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรใ์ นแตล่ ะยคุ สมยั จารึกบนแผ่นหินของจนี (ซา้ ย) และเมโสโปเตเมยี (ขวา) แสดงถงึ สงั คมเมอื งท่พี ฒั นาอยา่ งมีแบบแผน มจี ำ� นวนมากและหลากหลาย วธิ ีการสบื ค้นขอ้ มูลเก่ยี วกับเวลาจากหลกั ฐานจึงแตกตา่ งกัน โดยเฉพาะการ สืบค้นข้อมูลเก่ยี วกบั เวลาจากหลกั ฐานประเภทลายลกั ษณ์ และหลกั ฐานทางโบราณคดี 12 ประวัติศาสตรไ์ ทย ม.๔-๖ การสืบค้นขอ้ มลู เกี่ยวกับเวลาจากหลักฐานประเภทลายลกั ษณ์ หลกั ฐานประเภทลายลกั ษณจ์ ดั เปน็ หลกั ฐานทพ่ี ดู ได้ กลา่ วคอื เปน็ หลกั ฐานทสี่ ามารถสอ่ื กบั ผศู้ ึกษาได้โดยตรงดว้ ยขอ้ ความหรอื เนอื้ หาทีป่ รากฏอยใู่ นหลกั ฐานน้นั ๆ เชน่ ศิลาจารึก เอกสารประเภท จารกึ ตา่ ง ๆ จดหมายเหตุ พงศาวดาร บนั ทกึ สว่ นบคุ คล กฎหมาย ราชกจิ จานเุ บกษา เอกสารราชการ รายงาน การประชุม รายงานการวิจัย หนังสือพิมพ์ บทความ แผ่นปลิว หลักฐานเหล่านี้ส่วนใหญ่มักให้ข้อมูล เกย่ี วกบั เวลา ดงั เชน่ ศลิ าจารกึ สมยั สโุ ขทยั มกั กลา่ วถงึ ศกั ราชทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั เหตกุ ารณท์ ปี่ รากฏอยใู่ นจารกึ นนั้ จารกึ ทมี่ กี ารระบศุ กั ราชไวช้ ว่ ยใหน้ กั ประวตั ศิ าสตรส์ ามารถเชอื่ มโยงและล�ำดบั เหตกุ ารณป์ ระวตั ศิ าสตร์ ในสมยั สโุ ขทยั ได้ นอกจากนพ้ี ระราชพงศาวดารตา่ ง ๆ กม็ กั ระบศุ กั ราชทจี่ ารหรอื เขยี นไวท้ บ่ี านแผนก (หรอื เวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์ 13
การสืบคน้ ข้อมูลเกีย่ วกับเวลาจากหลกั ฐานทางโบราณคดี หลักฐานทางโบราณคดีมีอยู่เป็นจ�ำนวนมาก เช่น ซากเมืองโบราณ พีระมิด ศาสนสถาน โบสถ์ วิหาร เจดีย์ ปรางค์ ก�ำแพงเมือง สุสานโบราณ สระน้�ำ โครงกระดูกของคนและสัตว์ เศษอิฐ เศษกระเบื้อง เคร่ืองประดับ เคร่ืองปั้นดินเผา เคร่ืองดนตรี อาวุธ เรือ เคร่ืองใช้ต่าง ๆ หลักฐานเหล่าน ้ี ให้ข้อมูลและองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์ด้วย แต่ส่วนใหญ่เป็นหลักฐานที่พูดไม่ได้ เพราะไม่ม ี การจารึกไว้ หรือจารึกอาจเลือนหายไป ดังน้ัน นักประวัติศาสตร์จึงต้องอาศัยการศึกษาวิเคราะห์และ การกำ� หนดอายุโบราณวตั ถเุ หล่านน้ั จากนกั โบราณคดี บันทกึ ส่วนบคุ คลของแอนน์ แฟรงก์ (ขวา) ถูกนำ� มาใชเ้ ปน็ หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์เกีย่ วกับ นักโบราณคดีสนใจศึกษาพัฒนาการของมนุษยชาติท้ังยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุค ชาวยวิ สมยั สงครามโลกครงั้ ท่ี ๑ ประวัติศาสตร์ ตลอดจนวถิ ีการดำ� รงชวี ติ ของมนุษย์ โดยศึกษาจากวัสดทุ ่มี นุษย์สร้างขึน้ เป็นเคร่อื งมอื ใน ซึง่ ตอ่ มาได้ตพี ิมพเ์ ผยแพร่ในช่อื เดอะไดอารีออฟอะยังเกิร์ล (ซ้าย) การดำ� รงชีวติ คือ หนิ และโลหะประเภทตา่ ง ๆ และใชว้ สั ดุเหล่านัน้ ก�ำหนดชว่ งเวลาของพฒั นาการมนุษย์ บานแพนก) ของพงศาวดารดว้ ย เชน่ พระราชพงศาวดารกรงุ ธนบุรี ฉบบั พันจันทนมุ าศ (เจมิ ) ดังข้อความ ในบานแผนก ตอ่ ไปน้ี ในแตล่ ะยคุ ซงึ่ มรี ะยะเวลายาวนานและแตกตา่ งกนั โดยทว่ั ไปนกั โบราณคดใี ชว้ ธิ กี ำ� หนดอายขุ องหลกั ฐาน ทางโบราณคดหี ลายวธิ ี ทสี่ ำ� คญั ไดแ้ ก่ วธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ และวธิ ปี ระตมิ านวทิ ยาของนกั ประวตั ศิ าสตร์ ศุภมัสดุ ศักราช ๑๑๕๗ สัปตศก (พ.ศ. ๒๓๓๗) สมเด็จพระบรมธรรมิกมหาราชาธิราช ศลิ ปะ พระเจา้ อยหู่ วั ผา่ นถวลั ยราชย์ ณ กรงุ เทพทวารวดศี รอี ยธุ ยา เถลงิ พระทนี่ งั่ ดสุ ติ มหาปราสาท ทรงชำ� ระ พระราชพงศาวดาร (ประชมุ พงศาวดาร เลม่ ๔๐ ภาค ๖๕-๖๖ เร่ืองพระราชพงศาวดารกรงุ ธนบุรี ฉบับ การกำ� หนดอายหุ ลกั ฐานทางโบราณคดดี ว้ ยวธิ วี ทิ ยาศาสตร์ การใชว้ ธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ พันจนั ทนุมาศ (เจิม), หนา้ ๑) กำ� หนดอายหุ ลกั ฐานทางโบราณคดี ไดแ้ ก่ การวเิ คราะหท์ างธรณวี ทิ ยา โดยนำ� ชนั้ ดนิ ตา่ ง ๆ ทพ่ี บวตั ถสุ งิ่ ของ หรือโครงกระดูกไปวิเคราะห์เพ่ือค�ำนวณอายุของวัตถุ นอกจากนี้ยังใช้การทดสอบทางเคมีท่ีเรียกว่า คารบ์ อน-14 (carbon-14) เพ่อื คำ� นวณอายขุ องโบราณวตั ถุต่าง ๆ เช่น การวเิ คราะหอ์ ายขุ องภาชนะดินเผา อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานจ�ำนวนไม่น้อยท่ีไม่ปรากฏข้อมูลเก่ียวกับเวลา เน่ืองจากหลักฐาน ซึง่ ขดุ พบทบ่ี า้ นเชยี ง จงั หวดั อดุ รธานี เพอื่ น�ำมาใช้กำ� หนดอายขุ องวัฒนธรรมบ้านเชียง น้ันช�ำรดุ เชน่ ศลิ าจารกึ สึกกร่อนหรือแตกหัก หินกะเทาะหลุดหายไปบางสว่ น เอกสารประเภทใบลานและ การก�ำหนดอายุหลักฐานทาง กระดาษส่วนใหญ่ผุพังและช�ำรุดสูญหาย เพราะความช้ืนของอากาศท�ำให้กระดาษเปื่อย หรือมดปลวก โบราณคดดี ว้ ยวธิ ปี ระตมิ านวทิ ยา เปน็ วธิ กี ำ� หนดอายุ กัดแทะ หรือฉีกขาด ส่งผลให้ข้อมูลขาดความต่อเน่ือง ดังน้ัน นักประวัติศาสตร์จึงต้องสืบค้นข้อมูล หลกั ฐานทางโบราณคดขี องนกั ประวตั ศิ าสตรศ์ ลิ ปะ เก่ียวกับเวลาเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการวิเคราะห์หลักฐานช้ินน้ัน ๆ การสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับอายุของ ซ่ึ ง ใ ช ้ วิ ธี ศึ ก ษ า เ ป รี ย บ เ ที ย บ กั บ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง หลักฐานประเภทลายลกั ษณท์ �ำไดห้ ลายวธิ ี เชน่ รูปแบบศิลปกรรมร่วมสมัย และประเภทของวัสดุ - การวิเคราะห์จากชื่อบุคคลหรือ ทใ่ี ชใ้ นการจดั ทำ� /กอ่ สรา้ ง เพอ่ื สรปุ อายหุ รอื สมยั ของ สถานที่ โบราณสถานหรือโบราณวัตถุน้ัน นอกจากน้ ี - การศึกษาเปรียบเทียบข้อมูล นักโบราณคดียังสามารถก�ำหนดอายุของหลักฐาน เก่ยี วกับประเพณีหรือพิธีกรรม ทางโบราณคดีอ่ืน ๆ ทั้งประเภทสถาปัตยกรรม - การวิเคราะหส์ �ำนวนภาษาทบี่ ันทึก ประติมากรรม จิตรกรรม เครื่องปั้นดินเผาสมัย ในหลักฐาน ต่าง ๆ ทีพ่ บในประเทศไทยและมีลักษณะรว่ มสมัย - การวเิ คราะหท์ างดา้ นนริ กุ ตศิ าสตร์ กับศิลปกรรมสมัยต่าง ๆ เช่น สมัยลพบุรี สมัย เป็นการวิเคราะห์จากค�ำศัพท์ต่าง ๆ ท่ีปรากฏใน เชียงแสน สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยาตอนต้น สมัย หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ เอกสารประเภทใบลาน รัตนโกสินทรต์ อนต้นไดด้ ว้ ย การศกึ ษาหลักฐานทางโบราณคดีของนกั โบราณคดี 14 ประวัตศิ าสตรไ์ ทย ม.๔-๖ เวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์ 15
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: