Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วารสารวิจัย มทร.ธัญบุรี ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2562)

วารสารวิจัย มทร.ธัญบุรี ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2562)

Published by IRD RMUTT, 2021-02-01 08:04:40

Description: วารสารวิจัย มทร.ธัญบุรี ปีที่ 18 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2562)

Search

Read the Text Version

วารสารวิจัย มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี ปที ่ี 18 ฉบับท่ี 1 มกราคม-มิถุนายน 2562 วตั ถุประสงค์ วารสารวิจัยของมหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RJ-RMUTT) เป็นวารสารท่ีเผยแพร่องค์ความรู้ และ ประสบการณ์ทางด้านวิชาการและวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีจุดหมายและวัตถุประสงค์ของ วารสารวจิ ยั ดังน้ี 1. เพอ่ื เผยแพร่แนวความคดิ งานวิจัย การพัฒนาและประเดน็ สาคญั ในด้านวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 2. เพ่อื กระตุ้นใหเ้ กิดการอภปิ รายทางดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที ุกสาขาวชิ า ซึ่งเปน็ ทงั้ งานวจิ ยั พ้ืนฐาน และงานวจิ ยั ประยุกต์ ทั้งนี้วารสารวิจัยของมหาวิยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีอยู่ในฐานข้อมูลดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (Thai Journal Citation Index Centre, TCI Centre) โดยผ่านการรับรองคุณภาพจาก TCI และจะมุ้งเน้นพัฒนา คณุ ภาพเพื่อเขา้ สู่ฐานขอ้ มูลสากลตอ่ ไป นายวิรชั ท่ีปรกึ ษา ผู้ชว่ ยศาตราจารย์ ดร. สมหมาย โหตระไวศยะ อธิการบดี นายพงศ์พชิ ญ์ ผิวสอาด รองอธิการบดี ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร. สิริแข ตว่ นภูษา รองอธกิ ารบดี Prof.Dr. Sean พงษส์ วสั ดิ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน Prof.Dr. Hee Young Danaher Northumbria University (UK) Prof. Dr. Seiichi Lee Yeungnam University (Korea) Kawahara Nagaoka University of Technology (Japan) ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร. วารุณี บรรณาธิการ อริยวิรยิ ะนันท์ ผอู้ านวยการสถาบันวจิ ัยและพัฒนา ศาสตราจารย์ ดร. ผดุงศกั ด์ิ กองบรรณาธกิ ารภายนอก ศาสตราจารย์ ดร. พิเชษฐ รัตนเดโช มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร. คมสัน ลิม้ สวุ รรณ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกลา้ ธนบุรี ศาสตราจารย์ ดร.สนอง มาลสี ี สถาบันเทคโนโลยพี ระจอมเกล้าเจา้ คุณทหารลาดกระบงั ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ เอกสิทธ์ิ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย รองศาสตราจารย์ ดร. วสกร ลมิ ปิจานงค์ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี บลั ลงั ก์โพธ์ิ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์

กองบรรณาธกิ ารภายใน รองศาสตราจารย์ ดร.บุญยงั ปลัง่ กลาง คณะวิศวกรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร. จตุรงค์ ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. จกั รี ลังกาพนิ ธ์ุ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. สรพงษ์ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. อมร ศรนี นท์ฉัตร คณะวศิ วกรรมศาสตร์ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.นรศิ ร์ ภวสุปรยี ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ไชยสตั ย์ คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี บาลทพิ ย์ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดทาโดย สถาบนั วิจัยและพัฒนา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี เลขท่ี 39 หม่ทู ่ี 1 ตาบลคลองหก อาเภอธญั บรุ ี จงั หวัดปทุมธานี 12110 โทรศัพท์ 0 2549 4681 โทรสาร 0 2577 5038 และ 0 2549 4680 Website: http://www.ird.rmutt.ac.th คณะผูจ้ ดั ทา นางสาวกชกร ดาราพาณิชย์ สถาบันวจิ ัยและพฒั นา นางสาวสรญั ญา นางสาวฉตั รวดี จนั ทรแ์ ตง สถาบนั วิจยั และพัฒนา นางสาวณฐั วรรณ นางสาวมนตท์ ิชา สายใยทอง สถาบันวิจยั และพัฒนา ธรรมวัชรากร สถาบันวิจัยและพัฒนา รัตนพันธ์ สถาบนั วิจยั และพัฒนา ออกแบบปก นางสาวเบญสิรย์ า ปานปุณญเดช สานักวทิ ยบริการและเทคโนโลยสี ารสนเทศ นางสาวสรญั ญา จนั ทร์แตง สถาบนั วิจัยและพัฒนา จดั ทารูปเล่ม นางสาวสรญั ญา จนั ทร์แตง สถาบนั วจิ ยั และพัฒนา

คานา วารสารวิจยั ของมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี (RJ-RMUTT) เปน็ วารสารทส่ี ง่ เสริมงานด้านวจิ ัยและ ดาเนนิ งานวิจยั ทางด้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีซง่ึ อยูใ่ นฐานขอ้ มูลของศูนย์ดชั นกี ารอา้ งองิ วารสารไทย (Thai Journal Citation Index, TCI Centre) รับตีพิมพ์บทความวจิ ัย บทความวชิ าการ เปดิ รบั บทความทงั้ เปน็ ภาษาไทยและ ภาษาองั กฤษ โดยครอบคลมุ ในสาขาวิชาต่างๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ งกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีจุดม่งุ หมายเพื่อเผยแพร่ และถ่ายทอดผลงานวิจยั และวชิ าการ รวมถงึ แนวคิดในการพัฒนางานวจิ ัย เพื่อกระตนุ้ ใหเ้ กดิ เป็นแนวทางการอภปิ ราย ทุกสาขาซง่ึ เป็นท้งั งานวจิ ัยพื้นฐาน และวจิ ัยประยุกต์ ท้งั ภายใน และภายนอกมหาวทิ ยาลัย สาหรบั วารสารวจิ ัยปีที่ 18 ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม-มถิ ุนายน 2562) ได้รวบรวมผลงานทางวิชาการจากผลการวิจัย ท้ังสนิ้ จานวน 6 บทความ ประกอบด้วยบทความจากผลงานวิจยั จากหลากหลายสาขา ซงึ่ ได้ผ่านการกลน่ั กรองจาก ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ (peer review) ทงั้ ภายนอกและภายในมหาวิทยาลยั กองบรรณาธกิ ารหวังเปน็ อย่างยง่ิ ว่าทุกบทความจะ เป็นประโยชนแ์ ละสามารถชว่ ยพฒั นางานวจิ ัยแก่ผ้ทู ่สี นใจใหก้ ้าวหน้าต่อไปได้ กองบรรณาธกิ าร

สารบัญ ผลของการแช่เยือกแขง็ ตอ่ ความคงตวั ของกาบาและแอนโทไซยานนิ ในขา้ วกลอ้ งงอกหงุ สุกพันธุไ์ รซ์เบอรี่ 1 Effect of Freezing on the Stability of GABA and Anthocyanin Content of Cooked Germinated สนุ นั ปานสาคร, จตรุ งค์ ลงั กาพินธุ์ และ รตั นา ม่วงรตั น์ การพัฒนาเว็บไซต์เพ่ือส่งเสรมิ การทางานของสถาบันสอนภาษาตา่ งประเทศ คิว เอด็ ดูเคชั่น 14 The Development of website for promotional Queue Education International Language Center สธุ ีธดิ า สร้อยพวง, รมย์ธรี า วฒั นวิกย์กรรม, หทัยรตั น์ เกตมุ ณีชยั รตั น์ และ อานนท์ จนั ทร ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและการวิเคราะห์ปริมาณฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ของสารสกัดจากสมุนไพรไทย 25 พื้นบ้านสะคา้ นและมะแขวน่ ในเขตทอ้ งถิ่นภาคเหนือ Anti-oxidant activity, phenolic and flavonoid constituents of Crude extracts from Piper ribesioides and Zanthoxylum limonella traditional herbal medicine in Northern Thailand สวุ ดี โพธิ์วิจติ ร, ปิยานี รตั นชานอง, อุดมลกั ษณ์ มาตย์สถติ ย์ และ วีระศกั ด์ิ อศั ววงศ์อารยะ การออกแบบและสรา้ งเครอ่ื งยอ่ ยและอดั หญ้าอาหารสัตวส์ าหรบั เกษตรกรรายย่อย 40 Design and fabrication of Green Fodder Shredding and Compressing Machine for Small Scale Farmer รงุ่ เรือง กาลศริ ศิ ลิ ป,์ ณพล เหลอื งพิพัฒนส์ ร และ จตุรงค์ ลงั กาพนิ ธ์ุ โฟโตอิเล็กโตรคะตะไลตกิ สาหรับผลิตออกซเิ จนจากการแยกน้าโดยใช้ขัว้ ไฟฟ้าแอโนดทงั สเตนออกไซดท์ ่ี 52 เตรียมดว้ ยเทคนิคการจุม่ เคลือบ Photoelectrocatalytic oxygen production from water splitting using WO3 photoanode fabricated by dip coating technique ฟารจุ น์ สภุ นันทนิ , ณัฐพงษ์ เพชรแสน, อนุรตั น์ ภูวานคา และ ฉตั รชยั พลเชย่ี ว การศกึ ษาสมบัติทางกลและโครงสร้างจุลภาคของมดี โต้ท่ีผลิตจากภูมปิ ัญญาท้องถิน่ ของชมุ ชนตีมีด 60 4 จังหวัดของประเทศไทย The mechanical properties and microstructure’s study of the big knives of folk wisdom of knife forging community in 4 provinces of Thailand ณรงคศ์ กั ดิ์ ธรรมโชติ, วรรณา หอมจะบก, อมรศักดิ์ มาใหญ่ และ สมบัติ น้อยมิ่ง

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 1 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ผลของการแชเ่ ยือกแขง็ ต่อความคงตัวของกาบาและแอนโทไซยานนิ ในข้าว กลอ้ งงอกหุงสุกพนั ธุ์ไรซ์เบอรี่ Effect of Freezing on the Stability of GABA and Anthocyanin Content of Cooked Germinated สนุ นั ปานสาคร1* จตรุ งค์ ลงั กาพินธุ์1 และ รตั นา ม่วงรัตน์2 Sunan Parnsakhorn1*, Jaturong Langkapin1 and Ratana Muangrat2 1ภาควิชาวศิ วกรรมเกษตร คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี ต. คลองหก อ.ธญั บรุ ี จ.ปทมุ ธานี 12110 2สาขาวิชาวศิ วกรรมอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ จงั หวัดเชียงใหม่ 50110 1Department of Agricultural Engineering, Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani 12110, THAILAND 2 Department of Food Engineering, Faculty of Agro-Industry, Chiang Mai University, Chiang Mai 50100, THAILAND *Corresponding Author E-mail: sunan.p@en.rmutt.ac.th ARTICLE INFO ABSTRACT Article history: The aim of this research was to study the effect of freezing Received16November2018 on the stability of GABA and anthocyanin content of cooked Accept 20 March 2019 germinated riceberry rice. The freezer (still air freezer) and IQF Online 13 June 2019 freezer (belt freezer) were selected as the methods to prepare doi.org/10.14456/rj-rmutt.2019.1 cooked rice freezing at - 40 °C and -80 °C. After freezing treatment Keywords: Riceberry, the cooked rice was defrosted in microwave, and the effect of Freezing, Germinated freezing and thawing methods on moisture content, color values, brown rice, consumer satisfaction, the number of microorganisms, anthocyanin Anthocyanin, GABA content and GABA content were studied. The results showed that

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 2 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) the number of microorganisms was increased from 3.1×103 CFU/g to 9.7x107 CFU/g after germination process. The anthocyanin content was decreased from 17.53 mg/g dry weight to 2.82 mg/g dry weight, while the amount of GABA content was increased 7 times (1.86 mg/100 g to 11.63 mg/ 100g). From color analysis, it was found that L* values were decreased while a* and b* values were slightly increased after germination process. After that, germinated brown rice was cooked with rice to water ratio at 1:0.5, 1:0.75 and 1:1. The results revealed that consumers were satisfied with the quality of cooked germinated riceberry rice when cooked with the ratio of rice to water at 1: 0.75. After that, cooked germinated riceberry rice was frozen. As a result, the product frozen with IQF freezer used less freezing time than still air freezer and the freezing point of the product was approximately -1 to -2 oC. After thawing, it was found that cooked germinated brown rice had anthocyanin content of 2.67- 2.76 mg/g dry weight and the GABA content of 1.92-2.02 mg/100 g. Considering that, freezing with IQF (Fast freezing) showed higher GABA and anthocyanin stability content than freezing with still air freezer (Slow freezing). In conclusion, all conditions of frozen cooked germinated riceberry rice were safe for consumption. บทคดั ย่อ ปริมาณกาบา จากการทดลองพบว่าข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ หลังกระบวนการเพาะงอกมีปริมาณจุลินทรีย์โดยรวม งานวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการ เพิ่มข้ึนจาก 3.1×103 CFU/g เป็น 9.7x107 CFU/g แช่เยือกแข็งต่อความคงตวั ของกาบาและแอนโทไซยานนิ ปริมาณสารแอนโทไซยานินลดลง จาก 17.53 เป็น 2.82 ในข้าวกล้องงอกหุงสุกพันธุ์ไรซ์เบอรี่ โดยเลือกใช้วิธีการ mg/g dry weight ในขณะท่ีปริมาณสารกาบาเพิ่มขึ้น แช่เยือกแขง็ ข้าวหุงสุกด้วยเคร่ืองแช่เยอื กแข็งแบบอากาศ ประมาณ 7 เท่า (จากปริมาณ 1.86 mg/100 g เป็น น่ิง (Still air freezer) และการแช่เยือกแข็งด้วยเคร่ือง 11.63 mg/100 g) และจากการวิเคราะห์ค่าสี พบว่า IQF แบบสายพาน (Belt freezer) ทีอ่ ณุ หภูมิ -40°C และ กระบวนการเพาะงอกส่งผลต่อการลดลงของค่า L* -80oC จากน้ันทาละลายกลับผลิตภัณฑ์ด้วยไมโครเวฟ ในขณะท่ีค่า a* และ b* มีค่าเพิ่มขึ้นเลก็ น้อย เมื่อนาข้าว และพิจารณาผลของการแช่เยือกแข็งและการทาละลาย กล้องงอกมาหุงสุกท่ีอัตราส่วนข้าวต่อน้า 1:0.5, 1:0.75 ต่อการเปล่ียนแปลงสมบัติทางกายภาพและเคมีของ และ 1:1 พบว่าผู้บริโภคมีความพึงพอใจต่อคุณภาพข้าว ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ค่าความช้ืน ค่าสี ความพึงพอใจของ กล้องไรซ์เบอรี่เพาะงอกหุงสุกเม่ือนาไปหุงด้วยอัตราสว่ น ผู้บริโภค ปริมาณจุลินทรีย์ ปริมาณแอนโทไซยานิน และ

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 3 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ข้าวต่อน้าที่ 1:0.75 จากน้ันนาข้าวกล้องงอกหุงสุก ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 ดังกล่าวมาผ่านการแช่เยือกแข็งซ่ึงผลิตภัณฑ์ที่แช่เยือก ลกั ษณะเปน็ ขา้ วเจ้าสมี ่วงเขม้ รปู ร่างเมลด็ เรียวยาว (3) มี แข็งด้วยเครื่อง IQF ใช้เวลาในการแช่เยือกแข็งน้อยกว่า สมบัติเด่นทางด้านโภชนาการ คือ มีสารต้านอนุมูลอิสระ การใช้เครื่องแช่เยือกแข็งแบบอากาศน่ิง และมีผลิตภณั ฑ์ สูง ได้แก่ เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี มี มจี ดุ เยอื กแขง็ ทีป่ ระมาณ –1 ถึง -2oC หลังการทาละลาย ดัชนีน้าตาลต่าถงึ ปานกลาง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีสาร พบวา่ ขา้ วกล้องงอกหงุ สกุ ใหป้ รมิ าณแอนโทไซยานินให้ค่า แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) เป็นสารต้านอนุมูล 2.67-2.76 mg/g dry weight และปริมาณสารกาบา อิสระ ช่วยชะลอความเส่ือมของเซลล์ ช่วยลดอัตราเสี่ยง 1.92-2.02 mg/100 g ทั้งนี้พิจารณาได้ว่าการแช่เยือก ของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมอง ด้วย แข็งด้วยเครื่อง IQF (การแช่เยือกแข็งแบบเรว็ ) ให้ค่าการ การยบั ยัง้ ไมใ่ ห้เลอื ดจบั ตวั เปน็ กอ้ น ชะลอความเสอื่ มของ คงอยู่ของสารกาบาและแอนโทไซยานินสูงกว่าการแช่ ดวงตา ช่วยยับยัง้ จลุ ินทรยี ก์ อ่ โรคในระบบทางเดนิ อาหาร เยือกแข็งด้วยตู้แช่เยือกแข็ง (การแช่เยือกแข็งแบบช้า) (3) ถึงแม้ว่าข้าวสายพันธุ์ไรซ์เบอรี่จะมีคุณประโยชน์ รวมถึงปริมาณจุลินทรีย์โดยรวมของผลิตภัณฑ์ข้าวกล้อง ค่อนข้างสูง แต่ด้วยข้อจากัดในด้านเน้ือสมั ผัส และกลิน่ ท่ี ไรซ์เบอร่ีเพาะงอกหุงสุกแช่เยือกแข็งทุกสภาวะอยู่ใน แตกต่างจากข้าวขาว (3) ดังน้ันการนาไปแปรรูปเพื่อการ เกณฑม์ าตรฐานปลอดภยั สาหรบั การบริโภค พัฒนาคุณลักษณะทั้งทางกายภาพและเคมีจึงเป็นเร่ืองท่ี นา่ สนใจ ในทีน่ ้ีคือการแปรรปู เป็น “ข้าวกล้องงอก” คำสำคัญ: ขา้ วกล้องไรซเ์ บอรี่ การแชเ่ ยือกแขง็ ขา้ วกล้องงอก แอนโทไซยานนิ กาบา ข้าวกล้องงอก (Germinated brown rice หรือ “GABA-rice”) ซง่ึ ถือเปน็ นวตั กรรมหนึง่ ทไี่ ด้รับความนยิ ม บทนา มาอย่างยาวนาน เนอ่ื งจากเมือ่ ข้าวกล้องผา่ นกระบวนการ งอก จะช่วยส่งเสริมให้ข้าวกล้องมีสารอาหารเพ่ิมมากข้นึ ข้าวนับเปน็ อาหารหลักของทั้งคนไทยและคนส่วน จากเดิมซึ่งมีอยู่แล้วในข้าวกล้อง เช่น ใยอาหาร กรดไฟติก ใหญ่ในโลก รวมถึงเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตท่ีให้พลังงาน วิตามินซี วิตามินอี (4) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง GABA และความอบอ่นุ แกผ่ ู้บริโภค การนาขา้ วมาบรโิ ภคมีหลาย (Gamma aminobutyric acid) ซึ่งช่วยป้องกันโรคต่างๆ รูปแบบ เช่น การบริโภคแบบหุงสุกหรือการแปรรูปให้ เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน และช่วยในการควบคุมน้าหนกั เป็นอาหารสาเร็จรูปหรือกึ่งสาเร็จรูปก่อนนาไปบริโภค ตัว เป็นต้น นอกจากน้ียงั พบว่าข้าวกล้องงอกที่หงุ สกุ จะมี ประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพ เนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่ม รับประทานได้ง่ายกว่าข้าวกล้อง มากขนึ้ ดังน้นั ความนิยมบรโิ ภคขา้ วที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือ ทว่ั ไป (5) ขา้ วกลอ้ งงอกส่วนใหญ่ทีว่ างขายตามทอ้ งตลาด ที่เรียกว่า “ข้าวกล้อง” จึงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น มักพบในรูปแบบข้าวกล้องงอกที่ผ่านการอบแห้งลด เน่ืองจากข้าวท่ีไม่ผ่านการขัดสี มีคุณค่าทางโภชนาการ ความช้ืนแล้วก่อนส่งถึงมือผู้บริโภค ทั้งน้ีการทาแห้งด้วย มากกว่าข้าวท่ีผ่านการขัดสี (1) และมีหลากหลายสาย อุณหภูมิสูงจะเปน็ การทาลายและก่อให้เกิดการสูญสลาย พนั ธใุ์ หเ้ ลอื กบริโภค ปัจจบุ นั มกี ารคดิ คน้ สายพนั ธ์ุข้าวเพ่ิม ของสารกาบาที่เพ่ิมข้ึนในข้าวกล้องงอกรวมถึงธัญพืชงอก มากข้ึนเพ่ือช่วยในเร่ืองต้านทานโรคเพื่อการเพาะปลกู ใน ชนิดอ่ืนๆ (6) ดังนั้น การบริโภคข้าวกล้องงอกท่ีผ่านการ ที่แล้ง (2) รวมถึงสายพันธุ์ท่ีมีคุณค่าทางอาหารเพ่ิมข้ึน หุงสุกทันทีไม่ผ่านการอบแห้ง น่าจะได้คุณประโยชน์ท่ีสงู และท่ีกาลังเป็นท่ีนิยมของกลุ่มผู้รักสุขภาพ คือ ข้าวสาย กว่า ประกอบกับเป็นการลดข้ันตอนของการทาแห้งลง พันธุ์ไรซ์เบอรี่ เป็นข้าวท่ีพัฒนามาจากการผสมข้ามพันธ์ุ

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 4 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ด้วย ดังน้ันงานวิจัยนี้จึงเกิดแนวความคิดแปรรูป จัดซื้อข้าวกล้องพันธ์ุไรซ์เบอรี่ คุณภาพดี เมล็ด ข้าวกล้องงอกหุงสุกพร้อมบริโภคสายพันธุ์ไรซ์เบอรี่ให้ สมบูรณ์ สะอาด จากพื้นท่ีเพาะปลูกในจังหวัดปทุมธานี สะดวกในการบริโภคและยังคงคุณค่าทางโภชนาการ นามาตรวจวัดสมบัติทั้งทางกายภาพและเคมีเบ้ืองต้น โดยเฉพาะสารแอนโทไซยานินและกาบา ท่ีมีอยู่มากใน เพือ่ เตรียมการเพาะงอกในขน้ั ตอนตอ่ ไป ข้าวไรซ์เบอรี่ดังรายละเอียดที่กล่าวมาแล้ว เน่ืองด้วยทุก วันนี้สังคมเมืองเต็มไปด้วยความรีบเร่ง ผู้บริโภคต้องการ เตรยี มขา้ วกล้องไรซ์เบอรี่เพาะงอก ความสะดวก ลดระยะเวลาในการเตรยี มอาหารให้น้อยลง แต่ได้อาหารท่ีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ดังนั้นผลิตภัณฑ์ นาข้าวกล้องไรซเ์ บอร่แี ชน่ ้าด้วยอัตราข้าว 1 ส่วน ดังกล่าวน่าจะตอบโจทย์ตรงน้ีได้เป็นอย่างดี เข้ากับยุค ตอ่ น้า 2 สว่ น ทีอ่ ุณหภมู ิ 30±2◦C เปน็ เวลา 4 hr จากนั้น สมัยท่รี วดเร็ว เหมาะกบั ผทู้ ่สี นใจดแู ลสขุ ภาพเป็นอยา่ งยง่ิ นาข้าวกล้องไรซ์เบอร่ีล้างด้วยน้าสะอาดและห่อด้วยผ้า ทั้งนี้การแปรรูปข้าวพร้อมบริโภคมีหลายเทคนิคด้วยกัน ขาวบางบรรจุในกลอ่ งนาไปเก็บไว้ทีอ่ ุณหภมู ิเดมิ เปน็ เวลา ผู้วิจัยจึงมีความสนใจการแปรรูปข้าวกล้องงอกพันธุ์ 24 hr เรียกขั้นตอนน้ีว่า “การบ่ม” ระหว่างกระบวนการ ไรซ์เบอรี่แบบหุงสุกแช่เยือกแข็ง เน่ืองด้วยการแช่เยือก บ่มนาข้าวกล้องล้างด้วยน้าสะอาดทุก 4 hr เพื่อป้องกัน แ ข็ ง เ ป็ น วิ ธี ก า ร ถ น อ ม รั ก ษ า อ า ห า ร ท่ี ส่ ง ผ ล ต่ อ ก า ร การหมักทาให้เกิดกล่ินเหม็น เม่ือเวลาครบ 24 hr จะได้ เปล่ียนแปลงคุณภาพของผลิตภัณฑ์หลังกระบวนการ ข้าวกล้องงอกที่มีความยาวของจมูกข้าวประมาณ 0.5-1 ค่อนข้างน้อยเม่ือเทียบกับการแปรรูปแบบอื่นๆ และ mm จากน้ันนาข้าวกล้องงอกพันธ์ุไรซ์เบอร่ีหุงสุกด้วย สามารถเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ได้เป็นเวลานาน เนื่องจาก หม้อหุงข้าวไฟฟ้าในอัตราส่วนข้าวต่อน้าที่ 1:0.5, 1:0.75 อุณหภูมิท่ีต่าจะทาให้การทางานของเอนไซม์ในจุลินทรีย์ และ 1:1 ตามลาดับ พร้อมทั้งตรวจวัดสมบัติท้ังทาง ลดลง ปฏิกิริยาของเอนไซม์ลดลง น้าในอาหารกลายเปน็ กายภาพและเคมี เพื่อเตรียมนาไปใช้ในข้ันตอนการแช่ น้าแข็งทาให้อาหารมีปริมาณน้าที่จุลินทรีย์จะนาไปใช้ เยือกแข็งต่อไป ลดลงมีผลให้จุลินทรีย์ขาดอาหารและอาจตายได้ (7) อย่างไรก็ตามเทคนิคการแช่เยือกแข็งมีหลายรูปแบบซึ่ง กระบวนการแช่เยอื กแข็งข้าวกลอ้ งงอกหงุ สกุ ไรซ์เบอรี่ อาจส่งผลได้บ้างกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ อัตราการแช่เยือกแข็งหรือผลของอัตราเร็วในการลด จากข้ันตอนการหุงสุกเลือกอัตราส่วนของข้าวต่อ อุณหภูมิ ท่ีเรียกกันว่าการแช่เยือกแข็งแบบช้าและแบบ น้าที่เหมาะสมในการหุงข้าวกล้องงอกไรซ์เบอร่ี และทา เร็ว และยังไม่มีการรายงานผลวิจัยในส่วนน้ี ดังน้ัน การแช่เยือกแข็งตัวอย่างข้าวทันทีโดย ศึกษาการ งานวิจัยจึงทาการศึกษาผลของอัตราการแช่เยือกแข็งต่อ เปล่ียนแปลงอุณหภูมิระหว่างกระบวนการแช่เยือกแข็ง ความคงตัวของกาบาและแอนโทไซยานินในข้าวกล้อง เพื่อเปรียบเทียบผลของคุณภาพผลิตภัณฑ์ด้วยการแช่ งอกหุงสุกพันธุ์ไรซ์เบอรี่ เพื่อจะได้นาผลการทดสอบมา เยือกแข็งแบบช้า (Slow freezing) ด้วยตู้แช่เยือกแข็ง ประยุกต์ใช้กับการผลิตในระดับอตุ สาหกรรมตอ่ ไป แบบไม่มีลมเป่า (Still air freezer) และการแช่เยือกแข็ง แบบเร็ว (Quick freezing) ด้วยเคร่ืองแช่เยือกแข็งชนิด วธิ ดี าเนนิ การวิจัย ไอคิวเอฟ (IQF) แบบสายพาน (Belt freezer) โดยชั่ง ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่งอกที่ผ่านการหุงสุก 150 g บรรจุใน เตรยี มขา้ วกล้องพนั ธไ์ุ รซ์เบอร่ี กล่องพลาสติกขนาด 10x10x5 cm (กxยxส) ปิดด้วย กระดาษฟอยล์และติดตั้งสายเทอร์โมคัปเปิลชนิด k ณ. ตาแหน่งกึง่ กลางของตวั อย่างขา้ วท่บี รรจใุ นภาชนะเพื่อวดั

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 5 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) อุณหภูมิ โดยบันทึกอุณหภูมิด้วยเครื่องบันทึก (Data แอนโทไซยานนิ (mg/g of dry weight) = AxMWxDFx1,000 e (1) logger) ยห่ี อ้ Fuke รนุ่ 2625A กอ่ นนาภาชนะพรอ้ มสาย เทอร์โมคัปเปิลวางในเคร่ืองแช่เยือกแข็งแบบอากาศนิ่ง A  ( A520  A700)KCl pH1.0  ( A520  A )700 CH3COONapH4.5 (Still air freezer) และเคร่อื งแชแ่ ข็งชนิดไอควิ เอฟ (IQF) ควบคมุ อุณหภูมทิ ่ี –40 oC และ -80 oC (2) ข้นั ตอนการละลายกลบั โดยกาหนดให้ MW = 449.2 g/mol (มวลโมเลกลุ ) ทาละลายกลับ โดยการให้ความร้อนด้วย DF = 15 (Dilution factor) ไมโครเวฟกาลงั 1,100 W เวลา 2.30 min e = 26,900 (Molar absorptivity) การวิเคราะห์สมบัตทิ างกายภาพและเคมี 5. การวิเคราะห์หาค่ากรดแกมมาอะมิโนบิวทีริก 1. ปริมาณความชื้น (Moisture content): ช่ัง (GABA) : อ้างอิงกระบวนการทดสอบจากมาตรฐาน น้าหนักตัวอย่างข้าว 2 g อบท่ีอุณหภูมิ 105oC เป็นเวลา Mustafa et al. (11) โดยนาตวั อยา่ งข้าวบดดว้ ยเคร่ืองบด 16 hr (8) ความละเอียด 0.5 mm นามาสกัดด้วยแอลกอฮอลล์ 50%, 50oC ก่อนนาไปเขย่าด้วยเครื่องเขย่าในอ่างน้า 2. ปริมาณจุลินทรีย์โดยรวม (Total viable ควบคุมอุณหภูมิ 50oC อัตราการเขย่า 30 คร้ังต่อนาที count) : อ้างอิงวิธีการทดสอบจาก Maturin และ เปน็ เวลา 20 min หลงั จากน้ันเหวยี่ งแยกด้วยเคร่อื งเหวย่ี ง Peeler (9) ความเร็วสูงท่ี 1,350 g เป็นเวลา 20 min แยกส่วนใสทไี่ ด้ วิเคราะห์คา่ กรดแกมมาอะมิโนบวิ ทีรกิ (GABA) ดว้ ยเครอื่ ง 3. ค่าสี (Color): วัดค่าสีด้วยเคร่ือง Color Gas chromatography (GC) Difference Meter (Model JC801, Tokyo, Japan) รายงานผลในรปู ของ L*, a*, b* ซงึ่ ทั้ง 3 ค่าเปน็ การแสดง 6. การทดสอบทางประสาทสัมผัส (Sensory การวัดค่าสีเฉพาะเจาะจงโดยที่ค่า L* คือ ค่าความสว่าง evaluation): การประเมินคุณลักษณะด้านประสาท (Lightness) มีค่าต้ังแต่ 0-100 โดย 0 คือ สีดา และ 100 สัมผัสของข้าวกล้องงอกหุงสุกพันธ์ุไรซ์เบอรี่พิจารณาที่ คือ สีขาว สาหรับค่า a* คือค่าความเป็นสีเขียว 5-point hedonic scale (1 = ไมช่ อบมากทสี่ ดุ 5= ชอบ (Greenness) เม่ือมีค่าเป็นลบและมีค่าความเป็นสีแดง มากท่ีสุด) ในด้านสี กลิ่น รส เน้ือสัมผัส และความชอบ (Redness) เม่ือมีค่าเป็นบวก และค่า b* คือ ค่าความเปน็ โดยรวม โดยใช้ผู้ทดสอบท่ัวไป จานวน 30 คน (12) สเี หลอื ง (Yellowness) เมื่อมคี ่าเปน็ บวกและค่าความเปน็ สนี ้าเงิน (Blueness) เมอ่ื มีคา่ เป็นลบ ซ่งึ ก่อนทาการวัดค่า การวเิ คราะห์ข้อมลู สี เคร่ืองวัดสีจะถูกปรับเทียบความเท่ียงตรงของค่าสีด้วย ใช้โปรแกรม SPSS ท่ีระดับความแตกต่างทางสถติ ิ Standard Calibration Plate ค่า L*,a* และ b* เท่ากับ 95% (One–way analysis of variance (ANOVA)) และ 98.11, -0.11 and -0.08 ตามลาดบั ทาการเปรียบเทียบค่าเฉล่ียตามวิธีของ Duncan New’s 4 . ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ห า ค่ า แ อ น โ ท ไ ซ ย า นิ น Multiple Range Test (DMRT) (Anthocyanin) : ด้วยวิธี pH Differential method (10) โดยคานวณปริมาณแอนโทไซยานนิ ดว้ ยสมการที่ (1) และ (2)

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 6 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ผลการศกึ ษาและอธปิ รายผล ประสิทธิภาพของการงอกท้ังน้ีหากความชื้นไม่เหมาะสม ประสิทธิภาพการงอกจะลดลง (13, 14) นอกจากน้ียัง การเปลี่ยนแปลงสมบัติทางกายภาพและเคมีของข้าว พบว่าขั้นตอนการเพาะงอกเมล็ดข้าวกล้องส่งผลต่อการ กล้องไรซ์เบอรีก่ ่อนและหลงั เพาะงอก ลดลงของปริมาณสารแอนโทไซยานิน จาก 17.53 เป็น 2.82 mg/g dry weight เน่ืองมาจากเมล็ดข้าวกล้อง ข้าวกล้องไรซ์เบอร่ีเพาะงอกเป็นข้าวท่ีถูกพัฒนา ไรซ์เบอรี่ต้องผ่านข้ันตอนการแช่และการล้างด้วยน้า ด้านคุณภาพ เพ่ือให้เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคท้ังด้าน สะอาดในหลายช่วงเวลา จึงส่งผลต่อการละลายตัวของ คุณค่าทางโภชนาการ คุณภาพด้านรสชาติ สี และมีกล่ิน เม็ดสีที่ผิวของเมล็ดข้าว สังเกตได้จากน้าหลังการแช่และ หอม ซ่ึงมีขั้นตอนการผลิตข้าวกล้องไรซ์เบอรี่เพาะงอก การล้างจะเป็นสีม่วงอย่างชัดเจน ทั้งนี้เน่ืองจากสมบัติ ดว้ ยการเพ่มิ ความช้นื ของเมล็ดข้าว โดยแชเ่ มลด็ ขา้ วในนา้ ของแอนโทไซยานินท่ีสามารถละลายได้ในน้า ไม่เสถียร ตามด้วยขั้นตอนการบ่ม เพื่อให้จมูกข้าวงอกออกมาท่ี ดังน้นั ปริมาณแอนโทไซยานินจึงมีคา่ ลดลง (15) ในขณะ ความยาวประมาณ 0.5-1 mm และทาการทดสอบสมบตั ิ ทพี่ บว่าหลงั การเพาะงอกข้าวกล้องไรซเ์ บอร่ีมีปรมิ าณสาร ทางกายภาพและเคมีที่เปล่ียนแปลงแสดงดังตารางที่ 1 กาบาเพ่ิมขึ้นประมาณ 7 เท่า เม่ือเทียบกับข้าวกล้องไรซ์ พบว่าข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ (BR) ความชื้นเร่ิมต้น 15%wb เบอร่ีที่ไม่ผ่านการเพาะงอก (จากปริมาณ 1.86 mg/100 g และเพ่ิมข้ึนหลังกระบวนการเพาะงอกเป็น 38.49%wb เพ่ิมข้ึนเป็น 11.63 mg/100 g) โดยที่สารกาบาเป็นสารที่ ความชื้นมีผลต่อการเสื่อมเสียของอาหารโดยเฉพาะการ มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการย่อยสลายในเมล็ดข้าว เสื่อมเสียเนื่องจากจุลินทรีย์ อาหารที่มีความชื้นหรือ และถูกสังเคราะห์จากกระบวนการดีคาร์บอกซิเลชัน ปริมาณน้าสูงจะเป็นอาหารที่เสื่อมเสียง่ายเน่ืองจากมี (Decarboxylation) ของกรดกลตู ามคิ (Glutamic Acid) สภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญของจุลินทรีย์ สังเกตได้ ด้วยเอนไซม์กลูตาเมทคาร์บอกซิเลส (Glutamate จากปริมาณจุลินทรีย์โดยรวม พบว่าก่อนการเพาะงอกมี Decarboxylase) ซ่ึงจะเปลย่ี นจาก กรดแอลกลูตามกิ (L- ค่า 3.1×103 CFU/g และเพ่ิมขึ้นเป็น 9.7x 107CFU/g glutamic acid) เป็นสารกาบา (16) พบว่ามีค่าเพ่ิมข้ึน หลังการเพาะงอก อีกท้ังความชื้นมีผลต่อสมบัติทาง หลังกระบวนการเพาะงอก นอกจากนั้นกระบวนการงอก กายภาพและสมบัติเชิงความรอ้ นของอาหารดา้ นตา่ งๆ ใน ยังส่งผลต่อการลดลงของค่า L* ในขณะท่ีค่า a* และ b* ส่วนกระบวนการเพาะงอกขา้ วกล้องพันธุ์ไรซ์เบอร่ี (GBR) มคี า่ เพมิ่ ข้นึ เล็กนอ้ ย พ บ ว่ า ป ริ ม า ณ ค ว า ม ช้ื น เ ป็ น ปั จ จั ย ส า คั ญ ย่ิ ง ต่ อ ตารางที่ 1 ผลการทดสอบการเปล่ยี นแปลงคุณสมบตั ิทางกายภาพ เคมี และทางจุลินทรยี ์ของข้าวกลอ้ งไรซ์เบอรก่ี อ่ น และหลังทางอก ตัวอยา่ ง ความช้นื * แอนโทไซยา กาบา* จุลนิ ทรีย์ ค่าสี* (% wb ) นนิ * (mg/g (mg/100g) โดยรวม L* a* b* dry weight) (CFU/g) BR 15.00±0.78 17.53±0.54 1.86±0.01 3.1×103 16.57±0.06 1.10±0.10 5.10±0.00 GBR 38.49±0.10 2.83±0.38 11.63±0.02 9.7x107 14.27±0.06 1.57±0.06 5.60±0.10 * คา่ เฉลย่ี จากการทดลอง 3 ซ้า (ค่าเฉลย่ี ±SD.) โดยกาหนดให้ BR = ข้าวกล้องไรซเ์ บอร่ี GBR = ข้าวกลอ้ งงอกพนั ธ์ไุ รซเ์ บอร่ี

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 7 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ระดบั ความพึงพอใจของผู้บรโิ ภคทีม่ ีต่อตัวอย่างข้าวกล้อง ด้วยอัตราข้าวต่อน้าเท่ากับ 1:0.75 จึงเป็นปริมาณน้าท่ี ไรซเ์ บอรี่หงุ สุกด้วยอตั ราส่วนขา้ วและน้าระดบั ต่างๆ เหมาะสมและได้นาไปเตรยี มตัวอย่างขา้ วหงุ สกุ ในข้นั ตอน ต่อไป ก่อนขั้นตอนการแช่เยือกแข็ง ต้องนาข้าวกล้อง ไรซ์เบอรี่เพาะงอกมาหุงสุกโดยการศึกษาอัตราส่วน รูปที่ 1 ระดับความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อตัวอย่าง ระหวา่ งข้าวต่อน้าทีเ่ หมาะสมพจิ ารณาจากความพึงพอใจ ข้าวกล้องไรซ์เบอร่ีหุงสุกด้วยอัตราส่วนข้าวและ ของผู้บริโภคจานวน 30 คน ท่ีระดับคะแนนสูงสุด 5 น้าระดับต่างๆ (abletters indicate differences คะแนน ในด้านสี กล่ิน รส เนื้อสัมผัส และความชอบ among each treatment (P<0.05) by DMRT) โดยรวม ให้ผลการทดสอบแสดงดังรูปท่ี 1 พบว่าข้าว กล้องไรซ์เบอร่ีเพาะงอกท่ีหุงสุกโดยใช้อัตราส่วนข้าวต่อ นา้ เท่ากบั 1:0.75 ผู้บรโิ ภคมีความพึงพอใจในดา้ น สี กล่ิน รส เน้ือสัมผัส และความชอบโดยรวม ที่ระดับ 3.90, 3.76, 3.76, 4.00 และ 4.10 ตามลาดับ ซึ่งให้ค่าสูงกว่า การใช้อตั ราสว่ นข้าวตอ่ นา้ เทา่ กับ 1:0.5 และ 1:1 อย่างมี นัยสาคัญทางสถิติ (P0.05) ในทุกปัจจัยที่ทดสอบ ทั้งน้ี เนื่องจากเป็นปริมาณน้าท่ีเหมาะสมไม่สงผลให้เนื้อสมั ผัส แข็งและนุ่มจนเกินไป รวมทั้งสี กลิ่น รส เป็นท่ีพึงพอใจ ของผู้บริโภค ดังนั้นการหุงข้าวกล้องไรซ์เบอร่ีเพาะงอก รปู ท่ี 2 การเปลีย่ นแปลงอณุ หภูมิข้าวกล้องไรซเ์ บอรห่ี ุงสกุ ระหวา่ งกระบวนการแชเ่ ยือกแข็ง Freezer (-40oC) =การแช่เยือกแข็งด้วยตู้แช่เยือกแข็งอุณหภูมิ -40oC; IQF (-40oC) = การแช่เยือกแข็งด้วยเคร่ืองแช่เยือกแข็ง ชนิดไอคิวเอฟอุณหภูมิ -40oC; Freezer (-80oC) = การแช่เยือกแข็งด้วยตู้แช่เยือกแข็งอุณหภูมิ -80oC; IQF (-80oC) = การ แชเ่ ยือกแข็งดว้ ยเครอ่ื งแชเ่ ยือกแขง็ ชนดิ ไอคิวเอฟอุณหภมู ิ -80oC

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 8 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) การเปลย่ี นแปลงอณุ หภมู ิขา้ วกลอ้ งไรซเ์ บอรห่ี งุ สกุ แอนโทไซยานินเป็นสารสีท่ีมีหลายสีตั้งแต่สี ระหวา่ งกระบวนการแชเ่ ยือกแขง็ น้าเงิน ม่วง จนถึงสีแดง พบในถุงเซลล์ของผัก ผลไม้และ ดอกไม้ โครงสร้างพ้ืนฐานของแอนโทไซย า นิน จากข้ันตอนท่ีผ่านมาเม่ือนาข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ ประกอบด้วยฟลาวเี ลยี มแคทไอออน (Flavyliumcation) เพาะงอกมาหุงสุก (GBR (C)) ตามปริมาณน้าท่ีเหมาะสม แอนโทไซยานินมีสมบัติละลายได้ในน้า ไม่เสถียร (17) จากนั้นลดอุณหภูมิด้วยกระบวนการแช่เยือกแข็งทันที ดังน้ันเม่ือข้าวกล้องไรซ์เบอร่ีแช่ในน้าจะมีสีซีดลงและ ด้วยเครื่องแช่เยือกแข็งแบบอากาศน่ิงอุณหภูมิ -40oC แ อ น โ ท ไ ซ ย า นิ น จ ะ สู ญ ส ล า ย ไ ด้ ง่ า ย ด้ ว ย ค ว า ม ร้ อ น (Freezer (-40oC) และ -80oC (Freezer (-80oC) พร้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีออกซิเจนอยู่ด้วย อัตราการ ทั้งเปรียบเทียบกับเทคนิคการแช่เยือกแข็งด้วยเครื่อง สลายตัวของแอนโทไซยานินจะเร็วข้ึน (18) จากการ แช่เยือกแข็งชนิดไอคิวเอฟอุณหภูมิ -40oC (IQF(-40oC) ทดลองหาค่าการเปล่ียนแปลงปริมาณแอนโทไซยานิน และ -80oC (IQF(-80oC) เม่ือข้าวกล้องไรซ์เบอรี่งอก ของข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ที่สภาวะต่างๆ แสดงดังรูปท่ี 3 หุงสุกผ่านการแช่เยือกแข็งทั้งสองกระบวนการให้ผลการ พบว่า ข้าวกล้องไรซ์เบอร่ีก่อนการเพาะงอกให้ปริมาณ เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิระหว่างกระบวนการดังแสดงในรปู แอนโทไซยานินสูงสุดเท่ากับ 17.53 mg/g dry weight ที่ 2 โดยอุณหภูมิตัวกลางและชนิดของเครื่องแช่เยอื กแข็ง และลดลงอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (P0.05) หลังผ่าน มีผลต่ออัตราการลดลงของอณุ หภมู ิ ทง้ั นก้ี ารแช่เยอื กแข็ง กระบวนการเพาะงอกให้ค่าเท่ากับ 2.82 mg/g dry ที่ IQF(-80oC) พบว่าจากอุณหภูมิเร่ิมต้นของผลติ ภณั ฑ์ท่ี weight ซึ่งสอดคล้องกับการลดลงของค่าความสว่าง (L*) 30oC ใช้เวลาเพียง 1 hr สามารถลดอุณหภูมิลงไปยัง ในขณะท่ีค่า a* และ b* เพ่ิมข้ึนเล็กน้อย เมื่อนาข้าวกล้อง เป้าหมายท่ี -80oC จึงจะมีแนวโน้มคงที่ของอุณหภูมิ ซึ่ง ไรซเ์ บอรี่เพาะงอกไปหงุ สกุ พบว่าปรมิ าณแอนโทไซยานิน ถือว่าเป็นลักษณะการแช่เยือกแข็งแบบเร็วที่จะช่วยคง ลดลงอย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถิติ (P>0.05) ที่ 2.63 คุณภาพของผลิตภัณฑ์ (17) ในขณะท่ีการแช่เยือกแข็ง mg/g dry weight จากน้ันข้าวกล้องงอกหุงสุกผ่าน ด้วยเคร่ืองแช่เยือกแข็งแบบอากาศนิ่ง Freezer (-80oC) ก ร ะ บ ว น ก า ร แ ช่ เ ยื อ ก แ ข็ ง แ ล ะ ท า ล ะ ล า ย ก ลั บ ด้ ว ย ใช้เวลา 4.0 hr นอกจากนี้การทดลองยังให้ผลลักษณะ ไมโครเวฟและนามาตรวจสอบปริมาณแอนโทไซยานิน เดียวกับที่อุณหภูมิเป้าหมาย -40oC แต่การลดลงของ พบว่ามีค่า ระหว่าง 1.67-2.76 mg/g dry weight อุณหภูมิใช้เวลานานกว่าเล็กน้อย โดยใช้เวลา 1.5 hr อยา่ งไรกต็ ามหากพจิ ารณาเทคนคิ การแช่เยอื กแข็ง พบว่า สาหรับการแช่เยือกแข็งแบบ IQF(-40oC) และใช้เวลา การแช่เยือกแข็งด้วยระบบ IQF หรือการแช่เยือกแข็ง 5.0 hr สาหรับการแช่เยือกแข็งด้วยเครื่องแช่เยือกแข็ง แบบเร็ว ให้ค่าความคงตัวของปริมาณแอนโทไซยานิน แบบอากาศน่ิง Freezer (-40oC) ตามลาดับ จาก มากกว่าการแช่เยือกแข็งด้วยเคร่ืองแช่เยือกแข็งแบบ ความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิและเวลาพบว่าจุดเยือก อากาศน่ิงหรือการแช่เยือกแข็งแบบช้า ทั้งน้ีเนื่องมาจาก แขง็ ของข้าวกล้องไรซ์เบอรีง่ อกหงุ สกุ อยู่ที่ประมาณ -1 ถงึ การแช่เยือกแข็งข้าวกล้องงอกไรซ์เบอร่ีจะกระทาทันที -2oC หลังการหุงสุก โดยที่ข้าวหลังการหุงสุกยังคงมีอุณหภูมิ ค่อนข้างสูงซ่ึงพบว่าแอนโทไซยานินจะสูญสลายได้ง่าย การเปลี่ยนแปลงปริมาณแอนโทไซยานินของข้าวกล้อง ด้วยความร้อน ดังนั้นการแช่เยือกแข็งด้วยระบบ IQF ซ่ึง ไรซ์เบอรที่ ีส่ ภาวะต่างๆ ใช้เวลาส้ันและรวดเร็วจึงช่วยลดการสูญสลายแอนโท

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 9 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ไซยานินได้เมื่อเทียบกับการแช่เยือกแข็งด้วยตู้แช่เยือก แข็งทีใ่ ชเ้ วลาค่อนข้างนาน รปู ที่ 3 การเปล่ยี นแปลงปริมาณแอนโทไซยานินของข้าวกล้องไรซ์เบอร่ที ่สี ภาวะต่างๆ BR = ข้าวกลอ้ งไรซ์เบอรี่ ; GBR = ขา้ วกล้องงอกพันธ์ุไรซ์เบอร่ี; GBR (C) = ข้าวกลอ้ งงอกหุงสกุ พนั ธ์ุไรซเ์ บอรี่; Freezer (-40oC) =การแช่เยือกแข็งด้วยตู้แช่เยือกแข็งอุณหภูมิ -40oC; IQF (-40oC) = การแช่เยือกแข็งด้วยเคร่ืองแช่เยือกแข็ง ชนิดไอคิวเอฟอุณหภูมิ -40oC; Freezer (-80oC) = การแช่เยือกแข็งด้วยตู้แช่เยือกแข็งอุณหภูมิ -80oC; IQF (-80oC) = การ แชเ่ ยือกแขง็ ดว้ ยเคร่อื งแชเ่ ยอื กแข็งชนดิ ไอคิวเอฟอุณหภูมิ -80oC abletters indicate differences among each treatment (P<0.05) by DMRT การเปล่ียนแปลงสารกาบา (GABA) ของข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ เป็นสารประเภทคาร์โบไฮเดรตท่ีมีโมเลกุลเล็กลงและ ท่สี ภาวะต่างๆ น้าตาลรีดิวซ์ โปรตีนภายในเมล็ดข้าวจะถูกย่อยให้เกิด เป็นกรดอะมิโนและเปปไทด์ รวมทงั้ พบการสะสมสารเคมี กาบาเป็นสารที่มีความเก่ียวข้องกับกระบวนการ ที่สาคัญ คือ กรดแกมมาอะมิโนบิวทีริก (Gamma- ย่อยสลายในเมล็ดข้าว และมักมีปริมาณเพ่ิมสูงข้ึนเมื่อ aminobutyric acid) หรือสารกาบา (GABA) (16) ทั้งน้ี เมล็ดข้าวผ่านกระบวนการงอก (13, 14, 16) จากการ เมื่อการงอกสิ้นสุดท่ีเวลาการแช่น้าระดับหนึ่ง เอนไซม์ ทดสอบหาปริมาณสารกาบา แสดงดังรูปที่ 4 พบว่าค่า กาบาทรานสมิเนสจะกระตุน้ ให้เกดิ การผนั กลบั ของกาบา ปริมาณสารกาบาของข้าวกล้องไรซ์เบอร่ีก่อนการเพาะ ไปเป็นซกั ซนิ กิ เซมิแอลดไี ฮด์ (Succinic semialdehyde) ง อ ก มี ค่ า เ ท่ า กั บ 1.86 mg/100 g แ ล ะ เ ม่ื อ ผ่ า น ส่งผลต่อการลดลงของสารกาบาและอาจเกดิ กระบวนการ กระบวนการเพาะงอกพบว่าปริมาณสารกาบาเพ่ิมสูงข้ึน หมักเกิดข้ึน (13, 14, 16) เม่ือนาข้าวกล้องงอกมาหุงสุก กว่า 7 เท่า (11.63 mg/100 g) ท้ังนี้พบว่าระหว่าง ด้วยอัตราส่วนข้าวต่อน้าท่ีเหมาะสม (1:0.75) พบว่า กระบวนการเพาะงอกเม่ือนาข้าวกล้องไรซ์เบอร่ีมาผ่าน ความร้อนจากการหุงส่งผลต่อการลดลงของปริมาณสาร การแช่น้าควบคุมอุณหภูมิ 30±2°C เป็นเวลา 4 hr กาบาอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (P0.05) ทั้งน้ีเน่ืองจาก ร่วมกับการบ่มท่ีอุณหภูมิเดิมเป็นเวลา 20 hr เมล็ด ความร้อนจากการหุงข้าวกล้องงอกส่งผลให้เอนไซม์ ข้าวกล้องจะเร่ิมงอก สารอาหารท่ีถูกเก็บไว้ในเมล็ดข้าว Glutamate decarboxylase (GAD) ซ่ึงเป็นเอนไซม์ที่ จะถูกย่อยสลายไปตามกระบวนการทางชีวเคมีจนเกิด

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 10 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) เร่งปฏิกิริยาในการสังเคราะห์สารกาบาถูกทาลาย (19) ตารางท่ี 2 ผลการประเมินคุณภาพทางจุลินทรีย์ ส่งผลให้กาบาคงเหลือท่ี 1.86 mg/100 g จากน้ันนามา ผ่านการแช่เยือกแข็งทั้งแบบช้าและแบบเร็วท่ีอุณหภูมิ โดยรวมของขา้ วไรซ์เบอร่ีท่สี ภาวะต่างๆ –40oC และ –80oC พบว่า ปริมาณสารกาบาเพม่ิ ขึ้นอยา่ ง มีนัยสาคัญทางสถิติระหว่าง 1.92-2.08 mg/100 g ท้ังน้ี ตัวอย่าง *ปรมิ าณจลุ นิ ทรีย์ (CFU/g) อาจเน่ืองมาจากหลังการแช่เยือกแข็งทั้งแบบช้าและแบบ เรว็ ผลิตภัณฑ์จะเกดิ การสญู เสียนา้ ดังน้นั ความเข้มข้นของ BR 3.1×103 สารต่างๆ ภายในจึงเพ่ิมขึ้นและให้ผลดีในกรณีของการ แช่เยือกแข็งแบบรวดเร็ว เน่ืองจากการแช่เยือกแข็ง GBR 9.6×107 แบบช้าผลึกน้าแข็งท่ีเกิดขึ้นจะมีขนาดใหญ่ จึงไปดันหรือ ท่ิมแทงผนังเซลล์ของอาหารทาให้เกิดการฉีกขาด เมื่อ GBR(C) 25x100 นามาทาละลายน้าแขง็ จงึ ทาใหเ้ กดิ การสญู เสยี น้ามากกว่า การแช่เยือกแข็งแบบเร็วท่ีผลึกน้าแข็งมีขนาดเล็กผนัง Freezer (-40oC) 7.4×102 เซลล์ของอาหารไม่เกิดการฉีกขาดเกิดการสญู เสยี น้าน้อย กว่า เมื่อนามาทาละลายจึงลดการสูญเสียสารอาหาร IQF(-40oC) 15 x100 ตา่ งๆ ท่ลี ะลายออกมากบั นา้ (20) จงึ สง่ ผลใหก้ ารแชเ่ ยอื ก แข็งแบบเรว็ ใหค้ า่ ความคงตวั ของปริมาณสารกาบาสูงกว่า Freezer (-80oC) 4.6×102 การแช่เยือกแข็งแบบช้า IQF(-80oC) 15 x100 *คา่ เฉลย่ี จากการทดลอง 3 ซ้า BR = ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ ; GBR = ข้าวกล้องงอกพันธ์ุไรซ์เบอรี่; GBR (C) = ขา้ วกล้องงอกหุงสุกพันธไ์ุ รซเ์ บอรี่; Freezer (-40oC) =การแช่เยือกแข็งด้วยตู้แช่เยือกแข็งอุณหภูมิ -40oC; IQF (-40oC) = การแช่เยือกแข็งด้วยเคร่ืองแช่เยือกแข็ง ชนิดไอคิวเอฟอุณหภูมิ -40oC; Freezer (-80oC) = การแช่เยือก แข็งด้วยตู้แช่เยือกแข็งอุณหภูมิ -80oC; IQF (-80oC) = การแช่ เยอื กแข็งดว้ ยเคร่อื งแช่เยือกแข็งชนิดไอควิ เอฟอุณหภมู ิ -80oC รูปท่ี 4 การเปล่ยี นแปลงปรมิ าณสารกาบาของขา้ วกลอ้ งไรซเ์ บอร่หี งุ สกุ หลังการทาละลายทส่ี ภาวะตา่ งๆ BR = ขา้ วกลอ้ งไรซ์เบอร่ี ; GBR = ข้าวกล้องงอกพันธไุ์ รซ์เบอร่ี; GBR (C) = ขา้ วกล้องงอกหงุ สุกพนั ธ์ไุ รซ์เบอร่ี; Freezer (-40oC) =การแช่เยือกแข็งด้วยตู้แช่เยือกแข็งอุณหภูมิ -40oC; IQF (-40oC) = การแช่เยือกแข็งด้วยเครื่องแช่เยือกแข็ง ชนิดไอคิวเอฟอุณหภูมิ -40oC; Freezer (-80oC) = การแช่เยือกแข็งด้วยตู้แช่เยือกแข็งอุณหภูมิ -80oC; IQF (-80oC) = การ แชเ่ ยอื กแข็งด้วยเครื่องแช่เยือกแขง็ ชนิดไอคิวเอฟอณุ หภมู ิ -80oC abletters indicate differences among each treatment (P<0.05) by DMRT

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 11 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) การผลิตอาหารเพ่ือการบริโภค ส่ิงหนึ่งท่ีต้อง ยังส่งผลต่อการลดลงของค่า L* ในขณะท่ีค่า a* และ b* คานึง คอื ความปลอดภัยของผูบ้ รโิ ภค ดงั นั้นงานวิจยั นี้จึง มีค่าเพิ่มข้ึนเล็กน้อย และผู้บริโภคมีความพึงพอใจต่อ ต้องทาการทดสอบปริมาณจุลินทรีย์โดยรวมท่ีมีอยู่ใน คุณภาพข้าวกล้องไรซ์เบอรี่เพาะงอกหุงสุกโดยใช้ปรมิ าณ ผลิตภัณฑ์ข้าวกล้องงอกหุงสุกแช่เยือกแข็งพันธ์ุไรซ์เบอรี่ น้าท่ีเหมาะสมท่ีอัตราส่วนข้าวต่อน้า 1:0.75 เมื่อนาข้าว ซ่ึงให้ผลการทดลองดังตารางที่ 2 ผลการประเมิน พบว่า กล้องงอกหุงสุกผ่านการแช่เยือกแข็ง ด้วยเทคนิคการแช่ จุลินทรีย์ในข้าวกล้องไรซ์เบอร่ีก่อนการเพาะงอกให้ค่าท่ี เยือกแข็งด้วยเครื่องแช่เยือกแข็งแบบอากาศน่ิง(Still air 3.1× 103CFU/g และเพ่ิมข้ึนเป็น 9.6× 107CFU/g เม่ือ freezer) และการแช่เยือกแข็งดว้ ยเครื่อง IQF ที่อุณหภูมิ นาไปเพาะงอก ทั้งน้ีเน่ืองจากระหว่างกระบวนการเพาะ -40°C และ –80oC พบว่าการแช่เยือกแข็งดว้ ยเคร่ือง IQF งอกมกี ารยอ่ ยสลายของโครงสรา้ งโปรตนี และเปน็ สภาวะ ใช้เวลาในการแช่เยือกแข็งน้อยกว่าการใช้เคร่ืองแช่เยือก ท่ีเหมาะสมต่อการเจริญของจุลินทรีย์ (14, 16) ดังน้ันจึง แข็งแบบอากาศน่ิงและมีค่าจุดเยือกแข็งท่ีประมาณ –1 ส่งผลให้เมล็ดข้าวกล้องงอกมีกลน่ิ คล้ายอาหารหมกั ท้ังน้ี ถึง -2oC หลังการทาละลายกลบั ดว้ ยไมโครเวฟพบวา่ การ สามารถลดปัญหาดังกล่าวได้โดยการล้างตัวอย่างข้าวทุก แช่เยอื กแข็งดว้ ยระบบ IQF หรอื การแช่เยอื กแขง็ แบบเร็ว 4 hr อย่างไรก็ตามเมื่อนาข้าวกล้องไรซเ์ บอรี่เพาะงอกมา ให้ค่าการคงอยู่ของปริมาณแอนโทไซยานินมากกว่าการ ให้ความร้อนด้วยการหุงสุก พบว่าปริมาณจุลินทรีย์ แช่เยือกแข็งด้วยเคร่ืองแช่เยือกแข็งแบบอากาศน่ิงหรือ โดยรวมลดลงและอยู่ในเกณฑ์ท่ีสามารถบริโภคได้อย่าง การแช่เยือกแข็งแบบช้า ในส่วนปริมาณสารกาบามี ปลอดภยั ซ่ึงการหงุ สุกร่วมกบั แชเ่ ยือกแข็งทาใหจ้ ลุ ินทรีย์ แนวโน้มลดลงหลังการนาข้าวกล้องงอกไปหุงสุกและเมื่อ โดยรวมลดลง เวลาในการแช่เยือกแข็งจึงมีส่วนสาคัญถ้า นามาผ่านการแช่เยือกแข็งทั้งแบบช้าและแบบเร็วท่ี ใ ห้ ค ว า ม เ ย็ น ใ น เ ว ล า ที่ ร ว ด เ ร็ ว จ ะ ห ยุ ด ก า ร เ จ ริ ญ ข อ ง อุณหภูมิ –40oC และ –80oC พบว่าปริมาณสารกาบา จุลินทรีย์ได้ดีมากข้ึน ดังนั้นการแช่เยือกแข็งด้วยระบบ เพ่ิมข้ึนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติระหว่าง 1.92-2.08 IQF หรือการแช่แข็งแบบเร็ว (Quick freezing) จะทาให้ mg/100 g ซึ่งการแช่เยือกแข็งแบบเร็วให้ค่าความคงตัว จลุ ินทรียโ์ ดยรวมในผลติ ภณั ฑ์น้อยลงกวา่ การแช่เยอื กแขง็ ของปรมิ าณสารกาบาสูงกวา่ การแช่เยอื กแขง็ แบบชา้ และ ด้วยเคร่ืองแช่เยือกแข็งแบบอากาศนิ่งหรือการแช่แข็ง ป ริ ม า ณ จุ ลิ น ท รี ย์ โ ด ย ร ว ม ข อ ง ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ข้ า ว ก ล้ อ ง แบบช้า (Slow freezing) ไรซ์เบอรี่เพาะงอกหุงสุกแช่เยือกแข็งทุกสภาวะอยู่ใน เกณฑท์ ี่สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภยั สรุปผล กิตติกรรมประกาศ ข้าวกล้องไรซเ์ บอรี่ความช้นื เรมิ่ ตน้ 15%wb และ เพ่ิมขึ้นหลังกระบวนการเพาะงอกเป็น 38.49%wb ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ความช้ืนมีผลต่อการเส่ือมเสียของอาหาร สังเกตได้จาก ธัญบุรี ที่สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ สถานที่ในการทาวิจัย ปริมาณจุลินทรีย์โดยรวมเพ่ิมขึ้นเมื่อผ่านกระบวนการ และสานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ที่ เพาะงอกจาก 3.1×103 CFU/g เป็น 9.7x107 CFU/g สนับสนนุ ทุนวจิ ัย หลังการเพาะงอกพบว่าปริมาณแอนโทไซยานินลดลง จ า ก 17.53 เ ป็ น 2.82 mg/g dry weight ใ น ข ณ ะ ท่ี ปริมาณสารกาบาเพิ่มขน้ึ กว่า 7 เท่า (จาก 1.86 mg/100 g เป็น 11.63 mg/100 g) นอกจากนั้นกระบวนการงอก

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 12 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) เอกสารอา้ งองิ 7. บษุ กร อตุ รภิชาต.ิ จลุ ชวี วิทยาทางอาหาร. พมิ พ์ คร้ังท่ี 5 ฉบับปรับปรุง. จังหวัดสงขลา: ศูนย์หนังสือ 1. ศภุ นาถ เห็นสวา่ ง. ขา้ ว ความสาคัญทางอาหาร มหาวิทยาลยั ทักษณิ ; 2555. และการปนเป้ือน. วารสารส่ิงแวดล้อม. ม.ค.-มี.ค. 2560;21(1):15-18. 8. AOAC. Official Methods of Analysis. Association of Official Analytical Chemists. 15th 2. ก ร ม ก า ร ข้ า ว . อ ง ค์ ค ว า ม รู้ เ ร่ื อ ง ข้ า ว Ed. Arlington, Virginia, USA; 1990. [อินเทอร์เน็ต]. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2561. จาก: http://www.ricethailand.go.th/rkb/varieties/inde 9. Maturin L, Peeler J.T. Chapter 3. Aerobic x.php.htm Plate Count,” In: Food and Drug Administration (FDA), Bacteriological Analytical Manual Online. 3. ศู น ย์ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ข้ า ว . ข้ า ว ไ ร ซ์ เ บ อรี่ 8th ed. Silver Spring, Berlin; 2001. [อินเทอร์เน็ต].สืบค้นเมื่อวันท่ี 20 ก.ย. 2561. จาก: https://dna.kps.ku.ac.th/index.php/news-articles-rice-rsc- 10. Lee J, Durst R, Wrolstad R. Determination rgdu-knowledge/rice-breedinglab/riceberry-variety of total monomeric anthocyanin pigment content of fruit juices, beverages, natural 4. อังคณา เหลืองศิโรรัตน์, เครือวัลย์ อัตตะวิริยะ colorants, and wines by the pH differential สขุ . เรอื่ งของเมลด็ ขา้ ว ข้าว :ความรู้คชู่ าวนา. ใน: เอกสาร method: collaborative study. J AOAC Int. 2005; วิชาการครบรอบ 80 ปี,ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี, 88(50):1269-1278. สถาบันวิจัยข้าว, กรมวิชาการเกษตร, กระทรวงเกษตร และ สหกรณ์. กรุงเทพมหานคร: 2539. 11. Mustafa A, Aman P, Andersson R, Kamal- Eldin A. Analysis of free amino acid in cereal 5. Komatsuzaki N, Tsukahara K, Toyoshima products. Food Chem. 2007;105(1):317-324. H, Suzuki T, Shimizu N, Kimura T. Effect of soaking and gaseous treatment on GABA content in 12. ปราณี อ่านเปรื่อง. หลักการวิเคราะห์อาหาร germinated brown rice. J Food Eng. 2007; ด้วยประสาทสัมผสั . พมิ พ์ครงั้ ท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: โรง 78(2):556-560. พมิ พ์แห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ; 2551. 6. สุนัน ปานสาคร, จตุรงค์ ลังกาพินธุ์, กาญจนา 13. Varanyanond W, Tungtrskul P, กลัดแสม และ วรรณภสั เซ่ียงหวอง. พฒั นากระบวนการ Surojanametakul V, Watanasiritham L, Luxiang ผลิตผลิตภัณฑ์งางอกร่วมกับการคั่วเพื่อการเพ่ิมมูลค่า W. Effects of water soaking on gamma- ผลผลิตทางการเกษตร [Value augmentation to aminobutyric acid (GABA) in germs of different sesame sprouts through production method Thai rice varieties. Kasetsart Journal (National improvement and roast process] . ว า ร ส า ร แ ก่น Science). 2005;39(3):411-415. เกษตร. ก.ค.-ก.ย. 2556;41(3):305-316. 14. Komatsuzaki N, Tsukahara K, Toyoshima H, Suzuki T, Shimizu N, Kimura T. Effect of soaking

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 13 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) and gaseous treatment on GABA content in 20. Judith A.E. Frozen food science and germinated brown rice. J Food Eng. technology. First published. Australia: Blackwell 2007;78(2):556-560. Publishing Ltd.; 2008. 15. Sutharut J. Sudarat J. Total anthocyanin content and antioxidant activity of germinated colored rice. International Food Research Journal. 2012;19(1):215-221. 16. Komatsuzaki N, Tsukahara K, Toyoshima H, Suzuki T, Shimizu N, Kimura T. Effect of soaking and gaseous phase sprout processing on the GABA content of pre-germinated brown rice. Am Soc Agric and Biol Eng. Paper number: 036073. ASAE Annual Meeting; 2003. 17. Leong S.Y, Oey I. Effect of processing on anthocyanins, carotenoids and vitamin C in summer fruits and vegetables. Food Chem. 2012;63(4): 435-440. 18. วริพัสย์ อารีกุล, กชรัตน์ วงศ์ณรัตน์ และ สิริ พรรณ กิตตวรพัฒน.์ ความคงตัวของแอนโทไซยานนิ และ ความสามารถในการทาลายอนุมูลอิสระในน้าบลูเบอร์รี่ และบลูเบอร์ร่ีเข้มข้น. ใน: การประชุมทางวิชาการของ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ครง้ั ที่ 48: สาขาอุตสาหกรรม เกษตร; 17-20 มี.ค. 2552; กรุงเทพ; สานักพิมพ์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์; 2552. น. 499-506. 19. ฤทัยรัตน์ สวัสดิวงศ์. ข้าวกล้องงอกจากข้าว พื้นเมืองภาคใต้ของไทย: สภาวะในการงอกและสมบัติ การต้านออกซิเดชัน [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาหาร]. จังหวัดสงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 2552.

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 14 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) การพฒั นาเวบ็ ไซต์เพือ่ สง่ เสรมิ การทางานของสถาบันสอนภาษาตา่ งประเทศ ควิ เอด็ ดูเคชั่น The Development of website for promotional Queue Education International Language Center สุธธี ิดา สร้อยพวง1* รมยธ์ ีรา วัฒนวิกยก์ รรม1 หทัยรตั น์ เกตมุ ณชี ัยรัตน์1 และ อานนท์ จันทร1 Suteetida Soipoung1*, Romtheera Wattanawikkam1, Hathairat Ketmaneechairat1 and Arnon Janthorn1 1ภาควชิ าการจัดการเทคโนโลยกี ารผลิตและสารสนเทศ วิทยาลยั เทคโนโลยอี ตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยี พระจอมเกลา้ พระนครเหนือ กรงุ เทพมหานคร 10800 1Department of Information and Production Technology Management, College of Industrial Technology, King Mongkut's University of Technology North Bangkok , Bangkok 10800, THAILAND *Corresponding Author E-mail: s.suteetida@gmail.com ARTICLE INFO ABSTRACT Article history: Website development for Queue Education International Received 7 January 2019 Language Center has been created with the objectives of developing Accept 25 May 2019 website for Queue Education International Language Center, and Online 13 June 2019 seeking out the user satisfaction of the website for the institution . doi.org/10.14456/rj-rmutt.2019.2 Development tools include Sublime Text 2, PhotoScape 3.7, XAMPP, Keywords: Website FileZilla, and jQuery as well as PHP, HTML, CSS, JavaScript, and SQL Development, Foreign language programs, and also MySQL program is used for collecting the Language, Language data into database.The results of the test found that the system was Center divided into 3 parts according to the functions of users :administrator, member, and general user .The system can be used for applying for membership and taking various courses .Information was stored in order, and all historical data can be checked online .Quizzes can be

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 15 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) performance online with the instant scores, and also the enrollment history can be detected through the website .The evaluation of user satisfaction was divided into 5 aspects :the quality of the website, the user satisfaction level was “ fair” (X̄ = 3.18, S.D = 0.54) . The level of user satisfaction on the convenience of website using was “ fair” (X̄ = 3.39, S.D = 0.55). For the design of website, the user satisfaction level was “good” (X̄ = 3.42, S.D = 0.64). For the information aspect, the level of user satisfaction was “fair” (X̄ = 3.32, S.D = 0.64). Finally, for the website objectives aspect, the user satisfaction level was “ good” (X̄ = 3.51, S.D = 0.66). บทคัดย่อ เ นื่ อ ง จ า ก บ น เ ว็ บ ไ ซ ต์ มี ร ะ บ บ เ ว็ บ บ อ ร์ ด ใ น ก า ร พูด คุ ย ปรึกษาหรือเสนอความคิดเห็นต่าง ๆ ซ่ึงสามารถสรุปผล การพัฒนาเว็บไซต์เพ่ือส่งเสริมการทางานของ การประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้ต่อเว็บไซต์ โดยแบ่ง สถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคชั่น จัดทาข้ึน ออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ ด้านคุณภาพของเว็บไซต์ ผู้ใช้มี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเว็บไซตส์ าหรับสถาบันสอน ความพึงพอใจ อยู่ในระดับ “พอใช้” (X=̄ 3.18 , S.D. = ภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคช่ัน และเพื่อหาความพึง 0.54) ด้านอานวยความสะดวกตอ่ การใช้งานเว็บไซต์ ผใู้ ช้ พ อ ใ จ ข อ ง ผู้ ใ ช้ ต่ อ เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อ น มีความพึงพอใจอยู่ในระดับ “พอใช้” (X=̄ 3.39 , S.D. = ภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคชั่น การพัฒนาเว็บไซต์ 0.55) ด้านรูปแบบของเว็บไซต์ ผใู้ ชม้ ีความพึงพอใจ อยู่ใน สาหรับสถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดดูเคชั่น มี ระดับ “ดี” (X̄= 3.42 , S.D. = 0.64) ด้านข้อมูลขา่ วสาร เครื่องมือท่ีใช้ ในการพัฒนา ได้แก่ โปรแกรม Sublime ผู้ใช้มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับ “พอใช้” (X=̄ 3.32, Text 2 , PhotoScape 3 . 7 , XAMPP, FileZilla แ ล ะ S.D.= 0.57) และด้านวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ ผู้ใช้มี เทคโนโลยี jQuery รวมท้ังโปรแกรมภาษา PHP, HTML, ความพึงพอใจอยใู่ นระดบั “ด”ี (X̄ = 3.51 , S.D. = 0.66) CSS, JavaScript, SQL และโปรแกรม MySQL มาช่วย ในการจัดก็บข้อมูลลงฐานข้อมูล (1-3) ผลการพัฒนา คำสำคัญ: การพัฒนาเวบ็ ไซต์ ภาษาต่างประเทศ สถาบนั เวบ็ ไซตม์ กี ารออกแบบโครงสรา้ งเปน็ 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ผู้ดแู ล สอนภาษา ระบบ สมาชิก และผู้ใช้งานท่ัวไป โดยสามารถสมัคร สมาชิก สมัครคอร์สเรียนต่าง ๆ ผ่านเว็บไซต์ได้ ระบบมี บทนา การจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระเบียบ ผู้ใช้งานสามารถ ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้ท้ังหมดผ่านระบบออนไลน์ ปัจจุบันการทางานของเว็บไซต์เข้ามามีบทบาท รวมถึงการทาแบบทดสอบออนไลน์พร้อมทราบผล และมีความสาคัญต่อชีวิตประจาวันของเราเป็นอย่างมาก คะแนนทันที โดยสามารถตรวจสอบประวัติการสมัคร โดยเฉพาะกลุ่มคนเจนวาย (Generation Y) หรือ “เด็ก เรียนผ่านทางเว็บไซต์ได้อีกด้วย และสิ่งสาคัญคือทาให้ รุ่นใหม่” ท่ีเกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523-2543 อายุ 13-33 การติดต่อกับทางสถาบันทาได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ปี เป็นกลุ่มคนท่ีโตมาพร้อมกับคอมพวิ เตอร์ อินเทอร์เนต็

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 16 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) และเทคโนโลยีไอที ทาให้วิถีชีวิตต้องการความทันสมัย โดยตรง อีกทั้งยังมีแบบทดสอบออนไลน์เกี่ยวกับทักษะ และทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ เว็บไซต์จึงเป็นแหล่ง ทางภาษา รวมถึงมีเว็บบอร์ดไว้สอบถาม พูดคุยหรือ สารสนเทศท่ีสาคัญสาหรับทุกคน เพราะสามารถเข้าถึง แบ่งปันข่าวสารกับผู้อ่ืน มีรูปภาพกิจกรรมของทาง ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ดังน้ันเว็บไซต์จึงมีบทบาทสาคัญ สถาบันให้ชม ท้ังนี่ทาให้มีช่องทางการติดต่อส่ือสารท่ี เป็นอย่างมาก ทุกองค์กรได้ให้ความสาคัญของการมี สะดวกระหว่างผู้สอนและนักเรียน พร้อมมีข่าวสาร เว็บไซต์เพ่ิมมากย่ิงขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อการ อัพเดตตลอดเวลา ผู้สมัครสามารถเข้ามาดูรายละเอียด ประชาสัมพันธ์ หรือเพื่อการค้าขาย และหากมีการ ของคอร์สตา่ ง ๆ ไดต้ ลอด (5, 6) นาเสนอเว็บไซต์ในรูปแบบสวยงาม ค้นหาข้อมูลง่าย มี ความนา่ เชือ่ ถือกจ็ ะไดร้ บั ความนิยมอยา่ งรวดเรว็ ช่วยเพ่มิ วิธีดาเนนิ การวิจยั จานวนผู้เข้าชมหรือลูกค้าได้มากกว่าส่ือประเภทอื่น ๆ อกี ดว้ ย การวิจัยคร้ังนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาเว็บไซต์ สาหรับสถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคช่ัน สถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคช่ัน โดยมรี ายละเอยี ดในการดาเนนิ งานวิจยั ดังตอ่ ไปน้ี เป็นสถาบันกวดวิชาภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส โดยเปดิ ทา การมาแล้ว 5-6 ปี ในการเปิดรับสมัครนักเรียนของ การศกึ ษาและวเิ คราะหร์ ะบบงาน สถาบันน้ี มีผู้มาสมัครเป็นจานวนมาก โดยข้ันตอนการ ดาเนินการรับสมัครมีความซับซ้อน และยุ่งยากเนื่องจาก การศึกษาและวิเคราะห์ระบบงาน เนื่องจากการ นักเรียนมีจานวนมาก ประมาณ 600-800 คน ทาให้เกิด ดาเนินงานในอดีตของสถาบันสอนภาษาต่างประเทศ ความล่าช้า การดาเนินการขัดขอ้ ง ไมร่ าบรนื่ เสยี เวลา ใน คิว เอ็ดยูเคชั่น มีวิธีการรับสมัครนักเรียนท่ีค่อนข้าง การรอลาดับคิวและการเดนิ ทาง นอกจากน้ียังมีปัญหาใน ซบั ซ้อน โดยการสมคั รสามารถสมคั รไดเ้ พยี งทีละ 1-2 คน ด้านการจัดเก็บข้อมูลของนักเรียนในสถาบัน เนื่องจาก ต่อช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ตั้งแต่การรับบัตรคิว เลือกท่ีน่ัง เลือก การบันทึกข้อมูลของสถาบันใช้วิธีเขียนใส่สมุด ทาให้การ คอร์สเรียน และวันเวลาที่ต้องการเรียนตามลาดับ แต่ บันทึก แก้ไข หรือค้นหา ข้อมูลของนักเรียนแต่ละคนทา เนื่องจากนักเรียนมจี านวนมาก ทาให้เกิดความล่าชา้ และ ได้ไม่สะดวก และข้อมูลมีการจัดวางอย่างไม่เป็นระเบียบ ส่งผลให้ผู้สมัครช่วงหลังได้คอร์สเรียนท่ีไม่ตรงตามความ อีกทั้งการติดต่อระหว่างนักเรียนและผู้สอนทางสถาบัน ต้องการและอาจต้องเปลี่ยนคอร์สกะทันหัน ทาให้เกิด ยังใช้วิธีการสื่อสารทางโทรศัพท์ หรือมาติดต่อที่สถาบัน การขัดข้องและความไม่พึงพอใจของผู้สมัคร นอกจากน้ี โดยตรง ซ่ึงในบางครั้งอาจทาให้เกิดการเสียเวลา และไม่ การจัดเก็บข้อมูลของทางสถาบันเป็นการจัดเก็บแบบ สะดวกสาหรบั ทัง้ สองฝ่าย เอกสาร ซึ่งไม่สะดวกต่อการค้นหา เพราะมีข้อมูลของ นกั เรียนจานวนมาก เมื่อตอ้ งการคน้ หาข้อมูลของนักเรียน คณะผู้จัดทาจึงสนใจท่ีจะพัฒนาเว็บไซต์สาหรับ แต่ละคน จะต้องทาการเปิดแฟ้มเอกสารจากข้อมูล สถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคชั่น ด้วยการ ทั้งหมด ท้ังนี้จุดประสงค์ของการพัฒนาเว็บไซต์ ได้แก่ นาเทคโนโลยีท่ีใช้ในการสร้างเว็บไซต์ข้ันสูงมาบริหาร การเพ่ิมช่องทางการรับสมัครนักเรียน ช่องทางในการ จัดการการดาเนินงานของสถาบัน เน่ืองจากเว็บไซต์น้ี ลงทะเบียนเรียน ระบบฐานข้อมูลสาหรับจัดเก็บข้อมูล สามารถจองวัน เวลา และเลือกท่ีน่ังของการสมัครคอร์ส ต่างๆ รวมถึงแบบทดสอบออนไลน์ เอกสารการเรียน นั้น ๆ ได้ด้วยตนเอง โดยชาระเงินผา่ นเคาน์เตอร์ธนาคาร เว็บบอร์ด และรายงานภาพรวมของระบบ คณะผู้จัดทา จึงมีแนวคิดในการพัฒนาเว็บไซต์และออกแบบระบบ

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 17 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ฐานข้อมูลขึ้นมาเพื่อให้การดาเนินการของสถาบันเปน็ ไป อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมถึงการจัดเก็บข้อมูล ของผู้มาสมัครเรียน โดยรายละเอียดการทางานของ เว็บไซต์สาหรับสถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ด ยูเคช่ัน ในส่วนของผู้ใช้ทั่วไป สมาชิก และผู้ดูแลระบบ ดังรูปที่ 1 , 2 และ 3 ตามลาดับ สาหรับการออกแบบ แผนภาพบริบท (Context Diagram) สามารถอธิบายการ ทางานของระบบดงั รูปท่ี 4 (4-6) รูปท่ี 2 Flow Chart การทางานของระบบในส่วนของ ผู้ดแู ลระบบ รูปที่ 1 Flow Chart การทางานของระบบในส่วนของ รูปที่ 3 Flow Chart การทางานของระบบในส่วนของ สมาชิก ผใู้ ช้งานท่วั ไป

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 18 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) - กาหนดสิทธิผใู้ ชง้ านได้ สมาชิก - เพม่ิ แกไ้ ข ลบ และคน้ หาขอ้ มูลของผใู้ ชง้ านได้ - เพิ่ม แกไ้ ข ลบ และคน้ หาขอ้ มูลของหลกั สูตรได้ - คน้ หาขอ้ มูลของหลกั สูตรได้ - เพิ่ม แกไ้ ข ลบ และคน้ หาขอ้ มูลของขา่ วประกาศได้ - เพ่ิม แกไ้ ข ลบ และคน้ หาขอ้ มูลบนกระดานข่าวได้ - เพม่ิ แกไ้ ข คน้ หา ประวตั ิส่วนตวั ได้ - เพิ่ม แกไ้ ข ลบ และคน้ หาผลการสอบของสมาชิกได้ - เพิม่ แกไ้ ข ลบ และคน้ หาเอกสารการจดั เกบ็ - คน้ หาแบบทดสอบออนไลนไ์ ด้ - เพิ่ม แกไ้ ข ลบ และคน้ หาขอ้ มูลบนกระดานขา่ วได้ - คน้ หาและดาวนโ์ หลดเอกสารการเรียนได้ - ดูประกาศขา่ วได้ - แสดงขอ้ มูลหลกั สูตรท้งั หมด - แสดงขอ้ มูลประวตั ิส่วนตวั -แสดงแบบทดสอบออนไลน์ ผดู้ ูแลระบบ - แสดงขอ้ มูลบนกระดานขา่ ว 0 - แสดงไฟลเ์ อกสารการเรียน เวบ็ ไซตส์ ถาบนั สอน - แสดงขอ้ มูล เน้ือหา ข่าวประกาศ ภาษาต่างประเทศ คิว เอด็ ดูเคชน่ั - แสดงเน้ือหาข่าวประกาศ - แสดงขอ้ มูลหลกั สูตรได้ - แสดงรายช่ือผสู้ มคั รออนไลน์ -สามารถเขา้ ชมเวบ็ ไซตไ์ ด้ - แสดงผลการสอบของแบบทดสอบออนไลน์ -สามารถสมคั รสมาชิกได้ - กาหนดสิทธ์ิผูใ้ ช้ - สามารถดูขอ้ มูลเน้ือหาข่าวประกาศ - แสดงขอ้ มูลบนกระดานขา่ ว โปรโมชน่ั ได้ - แสดงขอ้ มูลหลกั สูตร - สามารถคน้ หาขอ้ มูลหลกั สูตรได้ ผใู้ ชง้ านทว่ั ไป รปู ท่ี 4 แผนภาพบรบิ ท (Context Diagram) ของระบบ ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะและความคิดเหน็ เพ่ิมเตมิ การสร้างเคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการวิจัย 4 1. ศึกษาจากเอกสาร หนังสือ และงานวิจัยท่ี ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง เกยี่ วข้องกับการพัฒนาเว็บไซต์ ป ร ะ ช า ก ร แ ล ะ ก ลุ่ ม ตั ว อ ย่ า ง ท่ี ใ ช้ ใ น ก า ร ห า 2. วิเคราะห์และออกแบบระบบของเว็บไซต์ ป ร ะ สิ ทธิภ า พของเ ว็บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถา บั น ส อ น สาหรับสถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคช่ัน ภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคชั่น ได้แก่ นักเรียน เป็นการออกแบบกระบวนการทางานและออกแบบ เจา้ หน้าท่ี และผดู้ แู ลระบบของสถาบันจานวน 35 ท่าน ฐานข้อมูล โดยมีการออกแบบฐานข้อมูลให้มีความ เหมาะสมกับระบบงาน เพ่อื ใช้ในการจดั เกบ็ ข้อมูลสาหรับ เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั ผใู้ ชง้ าน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมิน 3. ส ร้ า ง เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อ น ความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อเว็บไซต์สาหรับสถาบัน ภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคช่ัน พัฒนาข้ึนโดยใช้ สอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคชั่น แบ่งออกเป็น 3 ตอน ดังตอ่ ไปน้ี ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 แบบสอบถามความพงึ พอใจของผูใ้ ช้

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 19 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) โปรแกรม Sublime Text 2 สาหรับการเขียนโค้ด ผ ล ก า ร พั ฒ น า เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อ น โ ป ร แ กร ม Photoscape3. 7 ใช้ ในกา ร ตั ดต่อภาพ ภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคชั่น พบว่า ระบบสามารถ โปรแกรม XAMPP ใช้ในการจาลองเคร่ืองเซิร์ฟเวอร์ ใช้งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์ท่ีกาหนดไว้ โดยเว็บไซต์ท่ี โปรแกรม FileZilla ใช้ในการอัพโหลดไฟล์เว็บไซต์ขึ้น ถูกพัฒนาข้ึนมาสามารถแก้ไขปัญหาในการลงทะเบียน เซิร์ฟเวอร์จริง เทคโนโลยี jQuery ใช้ในการเขียน เรียนและสมัครสมาชิกไดเ้ ปน็ อย่างดี ทาใหล้ ดเวลาในการ JavaScript เพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ และ กรอกใบสมัคร เนื่องจากผู้สมัครแต่ละคนสามารถ phpMyadmin ในการจัดการฐานขอ้ มลู ของระบบ (1-5) ลงทะเบียนเรียนผ่านออนไลน์ได้โดยไม่ต้องมีการรอ ลาดบั คิว รวมถึงสามารถเข้าใช้งานได้ทกุ ทีท่ ุกเวลา หากมี 4. วิเคราะห์และออกแบบแบบประเมินความพึง การใช้งานพร้อมกันหลายคน ระบบสามารถตอบสนองได้ พ อ ใ จ ข อ ง ผู้ ใ ช้ ง า น ต่ อ เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อ น อย่างเสถียรภาพ นอกจากน้ียังช่วยแก้ไขปัญหาในการ ภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคชั่น ซึ่งเป็นแบบสอบถาม จัดการและค้นหาข้อมูล โดยสามารถกรองข้อมูลท่ี แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ต้องการค้นหาได้จากระบบฐานข้อมูล สามารถพิมพ์ รายงานเพื่อตรวจสอบข้อมูลได้อีกด้วย การทา 5. สร้างแบบประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งาน แบบทดสอบออนไลน์ทางานได้ดี ซ่ึงผู้ใช้งานสามารถทา ตอ่ เวบ็ ไซต์สาหรับสถาบนั สอนภาษาต่างประเทศ ควิ เอด็ แบบฝึกหัดได้ครบทุกทักษะ ได้แก่ การเขียน การอ่าน ยเู คช่นั และการฟังได้จากไฟล์เสียง และมีระบบเว็บบอร์ดเพ่ือ การติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าของสถาบันรวมถึงผู้ใช้งาน 6. นาแบบประเมินความพึงพอใจไปใช้กับ คนอื่นๆ เป็นแหล่งพูดคุย ปรึกษา หรือให้คาแนะนาใน ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง การใช้งานหรือการเรียนการสอนกับทางสถาบัน โดย ผู้ใช้งานสามารถเข้า สู่เว็บไซต์ของสถาบั นส อน วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคช่ันจะแสดงเมนูต่าง ๆ เพ่อื ให้ผใู้ ชง้ านเลอื กดขู อ้ มลู ได้ ดงั ตอ่ ไปนี้ เมื่อทาการพัฒนาเว็บไซต์สาหรับสถาบันสอน ภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคช่ันเรียบร้อยแล้ว นา 1.1 หน้าแรก ซ่ึงจะแสดงหน้าของเว็บไซตส์ าหรบั เว็บไซต์ไปทดลองกับนักเรียน เจ้าหน้าท่ีและผู้ดูแลระบบ สถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคชั่น ดงั รปู ท่ี 5 ของสถาบันจานวน 35 คน หลังจากท่ีกลุ่มตัวอย่างได้ ทดลองใช้งานแล้ว มีการทาแบบสอบถามประเมินความ พึงพอใจของผู้ใช้งานต่อเว็บไซต์ เพ่ือทาการเก็บรวบรวม ข้อมลู ความพงึ พอใจของผู้ใช้งานทีม่ ีตอ่ ระบบ การวเิ คราะห์ข้อมลู การวิเคราะห์ข้อมูลการพัฒนาเว็บไซต์สาหรับ สถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคช่ัน จะทาการ วิเคราะห์ค่าเฉล่ีย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ผลการศึกษาและอธิปรายผล รปู ที่ 5 หน้าหลักของเวบ็ ไซต์ ผลการพฒั นาเวบ็ ไซต์

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 20 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) 1.2 หน้าจอการทางานของเว็บไซต์ในการทางาน แตล่ ะเมนู ดังรูปท่ี 6-12 โดยมรี ายละเอียดดังตอ่ ไปน้ี รูปท่ี 9 แสดงหน้ากระดานขา่ ว รปู ที่ 6 หน้าหลกั สูตร รูปที่ 10 หน้าดาวน์โหลดเอกสาร รูปท่ี 7 หนา้ เกี่ยวกบั สถาบนั รปู ท่ี 11 หนา้ สมัครสมาชิก รูปที่ 8 หนา้ แบบทดสอบออนไลน์

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 21 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) รูปที่ 12 หน้าประวตั สิ มาชิก ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.55 มีความพึงพอใจโดย รวมอย่ใู นระดับ “พอใช้” ดงั ตารางที่ 2 ผลการประเมินความพงึ พอใจของผู้ใช้งาน สรุปผลการประเมินความพงึ พอใจของผใู้ ชง้ านที่มี ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานต่อ ต่ อ เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อ น ภ า ษ า ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ เว็บไซต์สาหรับสถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว คิว เอ็ดยูเคชั่น พบว่า ความพึงพอใจด้านรูปแบบของ เอด็ ยเู คช่ัน สรปุ ผลขอ้ มลู ดา้ นตาแหนง่ ดงั รปู ที่ 13 เว็บไซต์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.42 มีค่าส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐานเท่ากับ 0.64 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ใน ขอ้ มูลดา้ นตาแหน่ง ระดับ “ด”ี ดังตารางที่ 3 ผดู้ แุ ลระบบ สรุปผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานท่ีมี เจ้าหน้าที่ ต่ อ เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อ น ภ า ษ า ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ นกั เรยี น คิว เอ็ดยูเคช่ัน พบว่า ความพึงพอใจด้านข้อมูลข่าวสารมี ค่าเฉล่ียเท่ากับ 3.32 มีค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.57 มคี วามพงึ พอใจโดยรวมอยใู่ นระดบั “ด”ี ดังตารางท่ี 4 สรปุ ผลการประเมินความพึงพอใจของผ้ใู ช้งานท่ีมี ต่ อ เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อ น ภ า ษ า ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ คิว เอ็ดยูเคช่ัน พบว่า ความพึงพอใจด้านวัตถุประสงค์ ของเว็บไซต์มีค่าเฉล่ียเท่ากับ 3.51 มีค่าส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐานเท่ากับ 0.66 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ใน ระดบั “ด”ี ดังตารางท่ี 5 0 10 20 30 40 สรปุ ผล รูปที่ 13 สรุปขอ้ มลู ทั่วไปด้านตาแหนง่ งาน ก า ร พั ฒ น า เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อ น ภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคช่ัน ซึ่งระบบงานเดิมของ แบบสอบถามความพึงพอใจของผใู้ ช้งาน สถาบัน มีปัญหาในการจัดเก็บข้อมูลและการลงทะเบียน เรียน เน่ืองจากมีนักเรียนจานวนมาก จึงทาให้เกิดความ สรุปผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้ใชง้ านท่ีมี ล่าช้าในการลงทะเบียนเรียนแต่ละคร้ัง และมีข้อมูลท่ี ต่ อ เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อ น ภ า ษ า ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ต้องการจัดเกบ็ ในปรมิ าณมากซึง่ ถูกจัดเก็บในรปู แบบของ คิว เอ็ดยูเคชั่น พบว่า ความพึงพอใจด้านคุณภาพของ เอกสาร ทาให้เกิดความไม่สะดวกในการค้นและ เว็บไซต์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.18 มีค่าส่วนเบ่ียงเบน ตรวจสอบข้อมูล ทั้งนี้คณะผู้จัดทาจึงได้พัฒนาเว็บไซต์ มาตรฐานเท่ากับ 0.54 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ใน สาหรับสถาบันสอนภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยูเคชั่น ระดบั “พอใช้” ดงั ตารางท่ี 1 เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพ และความเป็นระเบียบในการ จัดเรียงข้อมูล โดยผู้ใช้งานทั่วไปท่ีสนใจจะสมัครเรียนที่ สรุปผลการประเมินความพงึ พอใจของผใู้ ช้งานท่ีมี สถาบันนี้ สามารถเข้าชมเว็บไซต์ของทางสถาบันได้และ ต่ อ เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อ น ภ า ษ า ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ คิว เอ็ดยูเคชั่น พบว่า ความพึงพอใจด้านอานวยความ สะดวกต่อการใช้งานเว็บไซต์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.39 มีค่า

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 22 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) สมัครสมาชิกเพื่อเป็นนักเรียนของสถาบัน ซึ่งจะมีสิทธ์ิใน ในด้านภาษาอังกฤษของตนเอง ในส่วนของผู้ดูแลระบบ การลงทะเบียนเรียนในคอร์สต่าง ๆ ของสถาบัน สามารถจัดการระบบของเว็บไซต์ได้ทั้งหมด และ นอกจากน้ีนักเรียนที่เป็นสมาชิกของสถาบันอยู่สามารถ ตรวจสอบใบเสร็จชาระเงินของนักเรียนได้ทุกคร้ังเม่ือมี เข้าชมเว็บไซต์ ลงทะเบียนเรียน ตั้งกระทู้กระดานข่าว การอัพโหลดสลิปเข้าสู่เว็บไซต์ โดยผลท้ังหมดน้ีได้ เพื่อพูดคุยกับสมาชิกท่านอ่ืน ๆ และยังสามารถทา สามารถทางานได้ตรงตามวัตถุประสงค์และขอบเขตที่ตงั้ แบบทดสอบออนไลน์ในทกั ษะต่าง ๆ เชน่ ทักษะด้านการ ไ ว้ ข อ ง ก า ร พั ฒ น า เ ว็ บ ไ ซ ต์ ส า ห รั บ ส ถ า บั น ส อน อา่ น ฟัง คาศัพท์ และการเขียน เพอ่ื ทดสอบความสามารถ ภาษาต่างประเทศ คิว เอ็ดยเู คชัน่ ตารางที่ 1 ด้านคุณภาพของเว็บไซต์ (X)̄ (S.D.) สรุปผล รายการประเมิน 3.74 0.82 ดี ดา้ นคุณภาพของเว็บไซต์ เว็บไซตต์ อบสนองรวดเรว็ ต่อการใชง้ านทุกดา้ น 3.34 0.58 พอใช้ แถบขอ้ มูลต่าง ๆ ง่ายต่อการใชง้ าน คาศพั ท์ทใ่ี ช้เป็นศพั ทท์ ีง่ ่ายและค้นุ เคย 3.45 0.48 ดี มคี วามน่าสนใจในเว็บไซตโ์ ดยรวม รวม 2.20 0.54 นอ้ ย 3.18 0.54 พอใช้ ตารางท่ี 2 ด้านอานวยความสะดวกในการใช้งาน (X̄) (S.D.) สรุปผล รายการประเมิน 3.42 0.52 ดี ดา้ นอานวยความสะดวกในการใชง้ านเวบ็ ไซต์ ชอ่ งทางการติดตอ่ กับพนักงาน 3.54 0.59 ดี การเผยแพร่ข้อมลู ขา่ วสารของสถาบนั การเข้าถงึ แบบทดสอบออนไลน์ 3.57 0.65 ดี เวบ็ ไซตม์ คี วามสะดวกในการใชบ้ รกิ าร รวม 3.05 0.43 พอใช้ 3.39 0.55 พอใช้ ตารางท่ี 3 ด้านรปู แบบของเวบ็ ไซต์ (X)̄ (S.D.) สรปุ ผล รายการประเมิน 3.34 0.49 พอใช้ ด้านรูปแบบของเวบ็ ไซต์ ตัวอักษรอ่านง่าย ชัดเจน 3.31 0.61 พอใช้ ภาพ สี และการออกแบบมคี วามเหมาะสม ความเหมาะสมในการใชข้ อ้ ความอธบิ าย 3.62 0.82 ดี รวม 3.42 0.64 ดี

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 23 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ตารางท่ี 4 ด้านขอ้ มูลขา่ วสาร (X)̄ (S.D.) สรุปผล รายการประเมิน 3.11 0.62 พอใช้ ด้านข้อมลู ข่าวสาร 3.42 0.57 ดี ระบุวนั ท่ลี ่าสุดท่มี กี ารอพั เดทข่าวสาร 3.45 0.52 ดี ระบวุ ันท่ีปรับปรงุ การอพั เดทขา่ วสาร 3.32 0.57 ความเหมาะสมในการใช้ขอ้ ความอธบิ าย พอใช้ รวม สรุปผล ตารางที่ 5 ด้านวัตถปุ ระสงคข์ องเวบ็ ไซต์ (X̄) (S.D.) รายการประเมนิ ดี 3.68 0.75 พอใช้ ด้านวตั ถุประสงคข์ องเวบ็ ไซต์ 3.51 0.57 เพอ่ื ใหส้ มาชิก และผสู้ นใจเขา้ ใจไดง้ า่ ย 3.36 0.60 ดี ง่ายตอ่ การมาใช้บรกิ ารที่สถานศึกษา รวม กิตติกรรมประกาศ 3. ชนานันท์ อุตมัง, ณัฐกานต์ สนานคุณ, มลนที คนภู. เว็บไซต์การจัดการฐานข้อมูลของนักกีฬา งานวิจัยฉบับน้ี สามารถสาเร็จลุล่วงไปได้ด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ความช่วยเหลืออย่างดีย่ิงจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. [ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: หทัยรัตน์ เกตุมณิชัยรัตน์ อาจารย์ที่ปรึกษาหลักงานวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ; และอาจารย์อานนท์ จันทร อาจารยท์ ีป่ รกึ ษารองงานวิจัย 2556. ที่ได้ให้คาแนะนาข้อมูลความช่วยเหลือ และแสดงความ คดิ เห็นตา่ ง ๆ ตลอดจนการตรวจสอบและแก้ไข จนทาให้ 4. ปาโมกข์ รัตนตรัยาภิบาล. ต้นแบบเว็บท่ี งานวิจัยฉบบั นี้เสรจ็ สมบูรณ์ สามารถทางานในสภาวะออฟไลน์โดยใช้เอชทีเอ็มแอล5 [สารนิพนธ์วิทยาศาสตรบณั ฑติ ]. กรงุ เทพฯ: มหาวิทยาลยั เอกสารอา้ งองิ เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าพระนครเหนือ; 2556. 1. ชาญชัย ศุภอรรถกร, ชิษณุพงศ์ ธัญญลักษณ์. 5. รัตนนั สิรอิ ร อย่ทู รพั ย์, จิราพชั ร คมุ้ ไข.่ เวบ็ ไซต์ การจัดการฐานข้อมูลด้วย MySQL. 4. กรุงเทพฯ: ซิลพลิ ลงทะเบียนประวัติบุคลากรสาหรับวิทยาลัยเทคโนโลยี ฟาย; 2556. อุตสาหกรรม [ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรบัณฑิต] กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระ 2. จีราวุธ วารินทร์. พัฒนาเว็บไซต์สมัยใหม่ด้วย นครเหนือ; 2558. HTML5+CSS3+JavaScript ฉบับสมบูรณ์. 1.กรุงเทพฯ: รีไวว่า; 2555.

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 24 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) .6 วราพร นิ่มนวล, ณัฐชญา อมฤกษ์การพัฒนา . เวบ็ ไซตแ์ ละระบบจัดการฐานข้อมูลสาหรับสถาบันพัฒนา ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตร] ภาษาไอจีเนียส เอ็ดดูเคชั่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม :กรุงเทพฯ .[บัณฑิต เกล้าพระนครเหนอื ; 2557

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 25 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ฤทธติ์ า้ นอนุมลู อสิ ระและการวิเคราะหป์ รมิ าณฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ของสาร สกดั จากสมุนไพรไทยพ้ืนบา้ นสะคา้ นและมะแขว่นในเขตท้องถ่นิ ภาคเหนอื Anti- oxidant activity, phenolic and flavonoid constituents of Crude extracts from Piper ribesioides and Zanthoxylum limonella traditional herbal medicine in Northern Thailand สวุ ดี โพธว์ิ จิ ิตร1 ปยิ านี รัตนชานอง2 อุดมลักษณ์ มาตยส์ ถิตย์3 และ วรี ะศกั ด์ิ อัศววงศอ์ ารยะ1* Suwadee Phowichit1, Piyanee Ratanachamnong2, Udomlak Matsathit3 and Weerasak Ussawawongaraya1* 1ภาควิชาฟิสกิ สอ์ ุตสาหกรรมและอุปกรณ์การแพทย์ คณะวทิ ยาศาสตร์ประยกุ ต์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ จงั หวัดกรงุ เทพมหานคร 10800 2ภาควชิ าเภสชั วทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล จงั หวดั กรุงเทพมหานคร 10400 3ภาควชิ าพรคี ลนิ กิ คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตปตั ตานี จังหวดั ปัตตานี 94000 1Department of Industrial Physics and Medical instrumentation, Faculty of Applied Science, King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, Bangkok 10800, THAILAND 2Department of Pharmacology, Faculty of Science, Mahidol University, Bangkok 10400, THAILAND 3Department of Preclinic, Faculty of Science and Technology, Prince of Songkla University, Pattani Campus, Pattani 94000, THAILAND *Corresponding Author E-mail: weerasak.u@sci.kmutnb.ac.th ARTICLE INFO ABSTRACT Article history: The objective of current study was to evaluate an anti- Received 25 January 2019 oxidant activity with different solvent polarities (methanol, ethyl Accept 21 May 2019 acetate, dichloromethane, and hexane) derived from stem of Piper Online 13 June 2019 ribesioides together with stalk and seed of Zanthoxylum limonella doi.org/10.14456/rj-rmutt.2019.3

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 26 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) Keywords: traditional herbal medicine in Northern Thailand. Natural antioxidant Piper ribesioides, in medicinal plants were defined for provide antioxidant activity by Zanthoxylum limonella, DPPH scavenging assay together with quantification of the phenolic total phenolic content, and flavonoid constituents using Folin Ciocalteau and Aluminium total flavonoid content, chloride method, respectively. The polar methanol extract showed anti-oxidant activity greatest antioxidant effect, while ethyl acetate was the second order reaction both in P. ribesioides and Z. limonella. The ability of methanol extract from stem of P. ribesioides exhibited strongest antioxidant DPPH radical scavenging with IC50 values as 0.2 mg/ml, which was correlated with maximum value of total phenolic acid (68.83 ± 0.38 mg equivalent of gallic acid per gram, mgGAE/g) and flavonoid content (37.13± 0.47 mg equivalent of quercetin per gram, mgQE/g). Similarly, the highest anti-oxidant activity of Z. limonella stalk and seed extract on methanol extract showed IC50 values as 0.26 and 0.37 mg/ml, respectively. Stalk showed higher phenolic content (53.67 ± 0.45 mgGAE/g) than seed (24.15 ± 0.48 mgGAE/g) as well as total flavonoid content of stalk (25.76 ± 0.43 mgQE/g) and seed (10.25 ± 0.63 mgQE/g). A relationship between antioxidant activities and increasing levels of total phenolic compounds -or flavonoids was found to be active based on solvent polarities in the extraction of these medicinal plants. Our findings revealed the preliminary scientific evidence for develop traditional herbal medicine into a valuable source for the future of human health care. บทคัดย่อ สารสกัดหยาบท้ังสองชนิดในเมทานอลมีประสิทธิภาพใน การยับยั้งอนุมูลอิสระได้ดีที่สุด รองลงมาคือในเอทิล งานวิจยั นม้ี ีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษาฤทธต์ิ า้ นอนุมลู อะซีเตท สารสกดั จากลาต้นสะค้านในเมทานอลออกฤทธิ์ อิสระของพืชสมุนไพรท้องถ่ินเขตภาคเหนือของประเทศ ต้านอนุมูลอิสระได้ดีที่สุด มีค่า IC50 = 0.2 mg/ml มี ไทยภายใต้ตัวทาละลายต่างข้ัว คือ ลาต้นสะค้าน ส่วน ปริมาณฟีนอลิกสูงสุด (68.83 ± 0.38 mgGAE/g) และ ก้านและส่วนเมล็ดมะแขว่น ทดสอบฤทธิต์ า้ นอนุมลู อิสระ ปริมาณฟลาโวนอยด์สูงสุด (37.13 ± 0.47 mgQE/g) โดยใช้สารอนุมูลอิสระ 2,2-ไดฟีนิล-1-ไพคริลไฮดราซิล ขณะที่สารสกัดจากก้านและเมล็ดมะแขว่นในเมทานอล (DPPH) พร้อมวิเคราะห์ปรมิ าณฟีนอลกิ และฟลาโวนอยด์ สามารถยับย้ังอนุมูลอิสระ มีค่า IC50 = 0.26 และ 0.37 ท้ังหมดด้วยวิธีโฟลินซิโอแคลตู (Folin Ciocalteau) และ mg/ml ตามลาดับ โดยก้านมะแขว่นมีปริมาณฟีนอลิก วธิ อี ลมู เิ นยี มคลอไรด์ (Aluminium chloride) ตามลาดบั

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 27 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) (53.67 ± 0.45 mgGAE/g) มากกว่าเมล็ดมะแขว่น อ ง ค์ ป ร ะ ก อบ ( Radical reactive oxygen species: (24.15 ± 0.48 mgGAE/g) สอดคล้องกับปริมาณ ROS) ไ ด้ แ ก่ ซู เ ป อร์ ออกไ ซด์ ( Superoxide anion ฟลาโวนอยด์ของก้าน (25.76 ± 0.43 mgQE/g) และ radical:O2•-) ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogenperoxide: เมล็ดมะแขวน่ (10.25 ± 0.63 mgQE/g) ฤทธต์ิ ้านอนุมูล H2O2) ไ ฮ ด ร อ ก ซิ ล ( Hydroxyl radical: OH• ) แ ล ะ อิสระของสารสกัดมีความสัมพันธ์โดยตรงกับปรมิ าณรวม เพอร์รอกไซด์ (Peoxide radical: ROO•) 2) กลุ่มท่ีมี ฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ที่เพิ่มข้ึนและให้ผลที่ดีในตัวทา ไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ ( Reactive nitrogen ละลายท่ีมีข้ัวสูง ข้อมูลการศึกษาน้ีจะเป็นองค์ความรู้ species: RNS) ได้แก่ ไนตริกออกไซด์ (Nitric oxide พ้ืนฐานในการพัฒนาสมุนไพรพ้ืนบ้านให้เกิดมูลค่าต่อ radical; NO) เพอร์รอกซีไนเตรท (Peroxy nitrate: อตุ สาหกรรมการรักษาตอ่ ไปในอนาคต ONOO-) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (Peroxy nitrate: NO2) และไดไนโตรเจนไตรออกไซด์ (Dinitrogen trioxide: คำสำคัญ: สะค้าน มะแขว่น ปริมาณฟีนอลิกทั้งหมด N2O3) (2) ในแต่ละวันร่างกายได้รับปัจจัยเส่ียงต่างๆ ปริมาณฟลาโวนอยดท์ งั้ หมด ฤทธ์ติ า้ นอนมุ ูลอสิ ระ มากมายที่ทาให้เกิดอนุมูลอิสระและมีผลทาลายสุขภาพ ของมนุษย์ ดังนั้น การศึกษาวิจัยเพ่ือหาสารต้านอนุมูล บทนา อิสระจากพืชธรรมชาติ (Natural antioxidants) จึงเข้า มามีบทบาทที่สาคัญเนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระหลาย สารอนุมูลอิสระ (Free radical) คือ อะตอม ชนิดท่ีพบในพืชสามารถเข้ากาจัดออกซิเจนที่อยู่ในรูป โมเลกุล หรือ ไอออนที่ไม่เสถียร ที่เกิดข้ึนจากระบบ อนุมูลอสิ ระได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ อกี ทงั้ ยังมผี ลขา้ งเคยี ง ภายในร่างกายมีการหล่งั สารอนมุ ลู อิสระออกมาเอง หรือ ต่าต่อสุขภาพมนุษย์ เมื่อเปรียบเทียบกับสารต้านอนุมูล ได้รับจากปัจจัยภายนอก เช่น พฤติกรรมการสูบบุหรี่ อิสระสังเคราะห์จาพวกฟีนอลิก ได้แก่ Butylated มลภาวะทางสง่ิ แวดล้อม และอนื่ ๆ ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อการ hydroxytoluene (BHT) และ Butylated hydroxyanisole เกิดพยาธิสภาพร้ายแรงในมนุษย์ เช่น ความเส่ือมของ (BHA) ท่ีนิยมนามาใช้ในอตุ สาหกรรมอาหาร เคร่ืองสาอาง เซลล์ประสาท ความชรา โรคเบาหวาน โรคมะเร็งและ และการรักษา เนอ่ื งจาก พบว่ากระบวนการเมตาบอไลท์ โรคหัวใจและหลอดเลอื ด ความรุนแรงของโรคเกิดขน้ึ จาก สาร BHT และ BHA ก่อให้เกิดสารท่ีมีคุณสมบัติเป็นสาร ระดับของสารอนุมูลอิสระสูงกว่าสารต้านอนุมูลอิสระจน ก่อมะเร็งและหากได้รับสารในปริมาณที่สูงเกินไปจะ ร่างกายไม่สามารถควบคุมสมดุลได้ ทาให้เกิดสภาวะ สะสมในร่างกายจนเป็นพิษต่อ ปอด ตบั และไต (3) ความเครียดของออกซิเจน เรียกว่า “Oxidative stress” กระทบต่อกระบวนการเมตาบอไลท์ธาตุออกซิเจนใน สารตา้ นอนมุ ูลอสิ ระ (Antioxidant) แบง่ ออกเป็น ร่างกายจนเกิดอิเล็กตรอนโดดเดี่ยวท่ีวงนอกสุดและ 2 กลุ่ม คือ 1) สารต้านอนุมูลอิสระท่ีเป็นเอนไซม์ กลายเป็นอนุมูลอิสระที่ไม่เสถียร มีความว่องไวต่อการ (Enzyme) ได้แก่ superoxide dismutase, catalase, เกิดปฏิกิริยา โดยพยายามเข้าแย่งดึงอิเล็กตรอนจาก และ glutathione peroxidase 2) สารต้านอนุมูลอิสระ โมเลกุลข้างเคียง ส่งทาให้โมเลกุลข้างเคียงขาด ที่ไม่ใช่เอนไซม์ (Nonenzymatic) โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม อิเล็กตรอนถัดไปเร่ือยๆแบบปฏิกิริยาลูกโซ่ ท้ายที่สุด ที่มักพบในพืชธรรมชาติ ได้แก่ ascorbic acid หรือ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสารชีวโมเลกุลในร่างกาย ท้ัง วิตามินซีและกลุ่มสารประกอบฟีนอลิก (phenolic สารไขมัน โปรตีนและ DNA (1) สารอนุมูลอิสระ แบ่ง compounds) จ า พ ว ก ฟี น อ ล ( phenol) ฟี น อ ลิ ค ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มท่ีมีออกซิเจ นเ ป็ น

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 28 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) (phenolic acids) ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) แทนนิน lactam ก ลุ่ ม Miscellaneous compounds ไ ด้ แ ก่ ( tannins) ไ ก ล โ ค ไ ซ ด์ ( glycosides) อั ล ค า ล อย ด์ crotepoxide, methyl2E,4E,6E- 7- phenylheptatri (alkaloids) ลิกนิน (lignins) และอ่ืนๆ (1) กลไกการ enoate, senediol, stearic acid (CH3(CH2)16COOH), ทางานของสารต้านอนุมูลอิสระเกิดข้ึนจากการท่ีสารเข้า bornyl p-coumarate, 3,7-Dimethyl-3-hydroxy- 4- ไปชะลอเวลาหรือยับยั้งการทาลายเซลล์ผ่านกระบวนให้ (p-coumaroyloxy-1,6-octa diene), palmitic acid, อิเล็กตรอนแก่อนุมูลอิสระในระบบหรือเข้ากาจัดสาร และ methyl piperate (11) นอกจากนี้ยังมีพฤกษเคมี อนุมูลอิสระ โดยหยุดปฏิกิริยาลูกโซ่ให้ได้ก่อนท่ีโมเลกุล ในน้า มั นห อม ร ะ เ ห ย ชนิด monoterpenes และ สาคัญจะถูกทาลาย (4, 5) จากงานวิจัยทางการแพทย์ sesquiterpenes จากรายงานการวิจัย พบว่า สารสกัด พบว่า พืชสมุนไพรไทยหลายชนิดมีสรรพคุณทางเภสัช จ า ก ใบ ของส ะ ค้ า น ( leaves) มี คุ ณ ส ม บั ติขับลม วิทยาในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยกตัวอย่างเช่น (carminative) ขบั เสมหะ (expectorant) แก้อาการปวด ขี้เหล็ก (Senna siamea) (6) พลูคาว (Houttuynia ท้อง (abdominal pain) หอบหืด (asthma) แก้ท้องเสีย cordata) (7) กาลังวัวเถลิง (Anaxagorea luzonensis (diarrhea) ต้านเชื้อรา (antifungal) (12) และฆ่าเหา A. Gray) (8) พริกไทย (Piper nigrum) (9) และอ่ืนๆ (pediculicidal) (13) สารสกัดหยาบจากลาต้นและเมล็ด นอกจากนี้ ยังมีพืชสมุนไพรของไทยอีกหลายชนิดที่ยังไม่ สะค้านในตัวทาละลาย methanol (MeOH) ethyl มีรายงานศึกษาวิจัยทั้งที่ชาวบ้านนิยมนามาปรุงอาหาร acetate ( EtOAc) dichloromethane ( DCM) แ ล ะ เพื่อรับประทาน เช่น สะค้าน (Piper ribesioides) และ hexane (Hx) สามารถยับย้ังเพลี้ยกระโดดสีน้าตาล มะแขว่น (Zanthoxylum limonella) จัดเปน็ พืชท้องถิ่น สายพันธ์ุ Nilaparvata lugens stal (14) สารสกัดหยาบ ท่พี บมากเขตภาคเหนอื ของประเทศไทย มกี ารนาพชื ไปใช้ จากใบสะค้านด้วยตัวทาละลาย MeOH EtOAc และ Hx ประโยชน์อย่างแพร่หลาย แต่กลับพบว่ายังขาดข้อมูล สามารถยับย้ังการเกิดภาวะอัลไซเมอร์ได้ผ่านกลไกการ พ้ื น ฐ า น ใ น แ ง่ มุ ม ข อ ง ก า ร ต้ า น อ นุ มู ล อิ ส ร ะ จ า ก ยับย้ังการทางานของเอนไซม์ butyrylcholine sterase ส่วนประกอบต่างๆในพืช โดยส่วนใหญ่จะเน้นศึกษาฤทธิ์ (BchE) แต่ไม่สามารถยั บยั้งผ่านวิถีของเอนไซม์ ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากพืชท้ังสองชนิดใน acetylcholinesterase (AchE) (12) รปู แบบนา้ มนั หอมระเหย (essential oil) เท่าน้ัน (10) มะแขว่น (Z. limonella) มีชื่อท้องถ่ินเรียกว่า สะค้าน (P. ribesioides) มีช่ือท้องถิ่นเรียกว่า “พริกหอม” จัดเป็นไม้ยืนต้น วงศ์ส้ม หรือ Family \"ตะค่าน\" จัดเป็นไม้เถาขนาดกลาง วงศ์พริกไทย หรือ Rutaceae ชาวบ้านนาเมล็ดและผลแห้งมาปรุงอาหาร Family Piperaceae ชาวบ้านนิยมรับประทานส่วนของ เป็นเคร่ืองเทศน์ รสเผ็ดรอ้ น เมล็ดสดกินแก้ลมวิงเวียน มี ลาต้นโดยนามาปรุงอาหารประเภทแกงเพ่ือใหม้ กี ล่นิ หอม สรรพคุณขับลมในลาไส้ ส่วนผลและเมล็ดมักนามาสกัด ใช้เป็นเคร่ืองเทศน์ปรุงอาหารเพ่ือให้รสขมและเพิ่มความ น้ามันหอมระเหย เพื่อนวดคลายความเม่ือยล้า (muscle เผ็ดร้อน มีสารในกลุ่มต่างๆดังต่อไปนี้ กลุ่ม Lignans strain) มีสารสาคัญ sabinene, terpinene-4-ol และ ไ ด้ แ ก่ cubebin, hinokinin ก ลุ่ ม Terpenes ไ ด้ แ ก่ limonene (15) มี ฤ ท ธ์ิ ไ ล่ ยุ ง ( mosquito- repellant activity) (16, 17) และฆ่าเหา (pediculicidal) (15) α- Elemol ก ลุ่ ม Steroids ไ ด้ แ ก่ sitosterol ก ลุ่ ม สารสกัดน้ามันจากเมล็ด (essential oil from seed) Alkaloids/amides ได้แก่ (2E,4E)-N-Isobutyldecadi ช้ัน MeOH มีฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระ DPPH ที่ดีกว่า enamide, 4-Hydroxy-3-methoxy-N-methylpipero

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 29 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) พริกไทย (Piper nigrum) และ ผักชี (Coriandrum (ได้แก่ MeOH , EtOAc, DCM, และ Hx) ด้วยวิธี DPPH sativum) (18) ขณะที่ช้ัน water ออกฤทธิ์ต้านอนุมูล scavenging assay จากนั้นวิเคราะห์หาปริมาณฟีนอลิก อิสระ ด้วยวิธี trolox equivalent antioxidant capacity ทั้ ง ห ม ด ( total phenolics content: TPC) แ ล ะ มีคา่ TEAC= 5.05 mM trolox/gdw (19) สารสกดั น้ามนั ปริมาณฟลาโวนอยดท์ ้ังหมด (total flavonoid content: จากผลมะแขว่น (essential oil from fruits) ออกฤทธ์ิ TFC) ด้ ว ย วิ ธี Folin Ciocalteau แ ล ะ Aluminium ต้ า น อ นุ มู ล อิ ส ร ะ ไ ด้ ทั้ ง วิ ธี (DPPH, β- carotene chloride colorimertic ตามลาดับ การนาสมุนไพร bleaching, Ferric reducing antioxidant power พื้นบ้านประจาถิ่นมาทดสอบฤทธ์ิทางเภสัชวิทยา จะช่วย assay และ Superoxide anion scavenging) เมื่อให้ การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางวิทยาศาสตร์ ทาให้ทราบถึง ร่วมกับอบเชย (Cinnamomum verum) มีการเสริม คุณประโยชน์จากพืชสมุนไพรไทย ตลอดจนสามารถนา ฤทธ์ิแบบ Synergistic effect ในการยับยั้งแบคทีเรีย ข้อมูล พ้ืนฐานไ ปต่อยอดหาโคร งส ร้ า งส าร ส าคั ญ เ พื่ อ สายพันธ์ุ Staphylococcus aureus, Pseudomonas พัฒนางานวิจัยทางการแพทย์ท่ีสัมพันธ์กับฤทธ์ิต้านสาร fluorescens แ ล ะ Salmonella risen (20) อนมุ ลู อิสระตอ่ ไปในอนาคต Tangitijareonkun et al., 2012 ทาการเปรียบเทียบ ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ DPPH พบว่า สารสกัดหยาบจาก วิธีดาเนนิ การวิจัย ลาต้นมะเเขว่นชั้น DCM > สารสกัดหยาบจากลาต้นชั้น MeOH > สารสกัดน้ามนั จากผลมะแขว่น และเมอื่ นามา สารเคมี (Chemicals) ท ด ส อ บ ฤ ท ธิ์ ใ น ก า ร ยั บ ยั้ ง อ นุ มู ล อิ ส ร ะ malondialdehyde (MDA) ในเซลล์มะเรง็ ต่อมลูกหมาก วิตามินซี (L-ascorbic acid) 2,2-ไดฟีนิล-1-ไพค ชนิด PC-3 และ DU-145 พบว่า สารทั้งสามชนิดไม่ ริลไฮดราซิล (1,1–diphenyl-2 picryl hydrazyl: DPPH) สามารถต้านอนุมูลอิสระจากกระบวนการ lipid ไดเมตทอกซิลซัลฟอกไซด์ ( Dimethyl sulfoxide: peroxidation ท่ีเย่ือหุ้มเซลล์ได้ แต่หากให้สารก่อนเกิด DMSO) และตวั ทาละลายอนิ ทรีย์ ได้แก่ MeOH, EtOAc, อนุมูลอิสระเป็นเวลา 24 ชั่วโมง พบว่า สามารถลดระดบั DCM และ Hx จาก (Merck, Germany) โฟลินซิโอแคล อนุมูลอิสระ MDA ในเซลล์ลงได้ โดยสารสกัดหยาบจาก ทูรีเอเจนต์ (Folin Ciocalteu’s reagent) กรดแกลลิก ลาต้นช้ัน DCM และ ช้ัน MeOH ช่วยเพิ่มระดับสารต้าน (Gallic acid: GAE), โซเดียมคาร์บอเนต (Na2CO3) อนุมูลอิสระ glutathione และ catalase ในเซลล์มะเร็ง โพแทสเซยี มอะซิเตต (Potassium acetate), อะลมู ิเนยี ม ต่อมลูกหมากทั้งสองชนิด ขณะที่สารสกัดน้ามันจากผล ไตรคลอไรด์ (AlCl3) โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) และ มะแขว่นเพ่ิมระดับเอนไซม์ catalase เป็นหลัก (21) เคอรซ์ ติ นิ (quercetin) จาก (Sigma-Aldrich, USA) ในการศึกษาครั้งน้ี ผู้วิจัยต้องการศึกษาและ พืชสมุนไพรและการสกัดสารจากพืช (Plant materials เปรียบเทียบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของส่วนต่างๆในพืชท่ี and Extraction) ชาวบ้านนิยมนามาบริโภค ได้แก่ ลาต้นสะค้าน (Stems of P. ribesioides) ก้ า น ม ะ แ ข ว่ น ( Stalk of Z. เก็บตัวอย่างพืชสมุนไพรพื้นบ้านในเขตท้องถ่ิน limonella) แ ล ะ เ ม ล็ ด ม ะ แ ข ว่ น ( Seeds of Z. ภาคเหนือ จังหวัดน่าน ประเทศไทย ได้แก่ ส่วนลาต้น limonella) ที่สกัดหยาบด้วยตัวทาละลายต่างชนิด สะค้าน ส่วนก้านมะแขว่น และส่วนเมล็ดมะแขว่น เพ่ือ สกัดสารหยาบ (crude extract) โดยวิธีการสกัดแบบแช่ (Soaking) ในตัวทาละลาย 4 ชนิด ได้แก่ MeOH, EtOAc,

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 30 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) DCM และ Hx เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ทาการสกัด แกลลิคต่อกรัมของสารสกัดหยาบในตัวทาละลายแต่ละ แบบต่อเนื่องด้วยเทคนิค Soxhlet method จากนั้นนา ชนิด (mg gallic acid equivalent (GAE)/g of crude สารสกัดท่ีได้ไประเหยเพื่อเอาตัวทาละลายออกโดยใช้ extract) วิเคราะห์ความแตกต่างของข้อมูลโดยใช้ One- เคร่ืองระเหยแห้งแบบลดความดัน (Vacuum Rotary way Anova ชนิด Tukey’s test (23) Evaporator, BUCHI B-850) ที่อุณหภูมิ 60 °C นาสาร ตัวอย่างเข้าตู้อบให้แห้งและเก็บที่อุณหภูมิ 4 °C ใส่ใน การตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีของฟลาโวนอยด์ ภาชนะทึบแสงเพ่ือคงคุณสมบัติสาหรับนาไปใช้ในการ ( Total flavonoid contents; TFC by Aliminium ทดลองต่อไป จากน้ันวิเคราะห์หาปริมาณของสารสกัด Chloride method) หยาบ (the yields of the extracts) ต่อปรมิ าณนา้ หนัก แห้งของพืช 100 g จากสมการ ปริมาณของสารสกัด การศึกษาครั้งนี้จะใช้เคอร์ซิตินเป็นสารละลาย หยาบ (g/100 g ของนน.แห้งของพืช) = (นน.ของสาร มาตรฐานท่ีความเข้มข้นต้ังแต่ 0-200 ไมโครกรัม/ หลังระเหยตวั ทาละลาย x 100)/ นน.แห้งของพืช (22) มิลลิลิตร วิธีการคือ เตรียมสารสกัดหยาบจากพืชที่ ต้องการทดสอบ ปริมาตร 500 ไมโครลิตร ผสมกับ การตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีของฟีนอลิกทั้งหมด สารละลายโพแทสเซียมอะซิเตต ความเข้มข้น 1 โมลาร์ (Total phenolic contents; TPC by Folin-Ciocalteu ปริมาณ 100 ไมโครลิตรของเอทานอล 95% ปริมาณ 1.5 reagent: FCR) มิลลิลิตร จากน้ันเติมสารละลายอลูมิเนียมไตรคลอไรด์ ความเข้มข้น 10% ปริมาณ 100 ไมโครลิตร และน้า การหาปริมาณฟีนอลิกทั้งหมดเกิดขึ้นจากสาร บริสุทธ์ิปริมาณ 2.8 มิลลิลิตร ผสมให้เข้ากันด้วยเครื่อง ฟีนอลในพืชมีฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระสูงจึงเข้าทาปฏิกิริยา เขย่าสาร จากนัน้ บม่ ที่มดื อุณหภูมหิ ้องเป็นเวลา 30 นาที กับสารละลาย Folin Ciocalteu’s reagent เกิดสีม่วง เม่ือครบเวลานาสารละลายทไี่ ดไ้ ปวดั คา่ การดดู กลืนแสงที่ หรือนา้ เงนิ ของ Molybdate ในการศึกษาครั้งนจ้ี ะใช้กรด ความยาวคล่ืน 415 นาโนเมตร โดยใชต้ ัวทาละลายในการ แกลลิกเป็นสารละลายมาตรฐานที่มีความเข้มข้นต้ังแต่ สกัดสารตัวอย่างเป็น blank คานวณหาค่าปริมาณของ 0-200 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร วิธีการคือ เตรียมสารสกัด สารฟลาโวนอยด์ท้ังหมดเทียบกับกราฟมาตรฐานของ หยาบจากพชื ทตี่ ้องการทดสอบ ปริมาตร 100 ไมโครลติ ร เคอร์ซิติน (R2=0.995) รายงานผลในหน่วยมิลลิกรัม ผสมกับสารละลาย Folin Ciocalteu reagent ความ สมมูลของของเคอร์ซิตินต่อกรัมของสารสกัดหยาบในตัว เข้มข้น 10% โดยปริมาตร ปริมาณ 500 ไมโครลิตร ทาละลายแต่ละชนิด (mg quercetin equivalent (QE) จากนั้นบ่มท่ีอุณหภูมิห้องเป็นเวลา 1 นาที แล้วเติม /g of crude extract) วิเคราะหค์ วามแตกต่างของข้อมลู สารละลายโซเดียมคาร์บอเนต ความเข้มข้น 7.5% โดยใช้ One-way Anova ชนดิ Tukey’s test (23) ปริมาตร 100 ไมโครลิตร และน้าบริสุทธ์ิปริมาตร 300 ไมโครลิตร ผสมให้เข้ากันด้วยเคร่ืองเขย่าสาร บ่มท่ี การตรวจสอบฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดหยาบ อุณหภูมิห้องในท่ีมืดเป็นเวลา 2 ช่ัวโมง แล้ววัดค่าการ ด้วยวิธี DPPH assay (Antioxidant activity by DPPH ดูดกลืนแสงที่ความยาวคล่ืน 765 นาโนเมตร ด้วยเคร่ือง assay) UV Spectrophotometer คานวณหาค่าปริมาณสาร ฟีนอลิกท้ังหมดเทียบกับกราฟมาตรฐานของกรดแกลลิก ทดสอบฤทธิต์ ้านอนุมูลอิสระของสารสกดั ตวั อย่าง (R2=0.995) รายงานผลในหน่วยมิลลิกรัมสมมูลของกรด ในการรีดิวซ์อนุมูลอิสระ DPPH ซึ่งเป็นอนุมูลอิสระแบบ เ ส ถี ย ร ใ น ก ลุ่ ม RNS ท่ี มี สี ม่ ว ง DPPH radical จะ

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 31 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) เกิดปฏิกิริยากับสารตัวอย่างท่ีมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชันและ ผลการศกึ ษาและอธปิ รายผล เปล่ียนเป็นสีเหลือง วิธีการคือ เตรียมสารสกัดหยาบจาก การหาปริมาณสารสกัดสารจากพืช (Determination of พืชที่ระดับความเข้มข้นต่างกัน จากนั้นหยอดสารตัวอย่าง Plant Extract Yield) ในแต่ละกลุ่มปริมาตร 10 ไมโครลติ ร/หลุม ลงใน 96 well ผลการสกัดสารจากพืชสมุนไพรด้วยวิธีการสกัด plate ทาการเติม DPPH solution ในเอทานอลที่มีความ เข้มข้น 80 ไมโครโมลาร์ ปริมาตร 190 ไมโครลิตร/หลุม แบบแชข่ องลาต้นสะค้าน ก้านมะแขว่น และเมล็ดมะแขว่น ผสมให้เข้ากัน ต้ังทิ้งไว้ในท่ีมืดที่อุณหภูมิห้อง เป็นเวลา 90 ภายใต้ตัวทาละลายต่างข้ัว เรียงลาดับความมีข้ัวของตัวทา นาที วัดค่าการดูดกลืนแสงด้วย เครื่อง Automated ละลายจากมากไปน้อยสุด ดังน้ี MeOH > EtOAc > DCM microplate reader ที่ความยาวคล่ืน 517 นาโนเมตร โดย > Hx ปรมิ าณของสารสกดั หยาบจากลาต้นสะค้าน (Stems เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (ท่ีไม่มีสารสกัดจากพืช) และ of P. ribesioides) คิดเป็นร้อยละ 0.21 0.38 0.32 และ ใช้วิตามินซี เป็นสาร Positive control แล้วนาค่าท่ีได้มา 0.50 ของน้าหนักแห้งของพืชตามลาดับ ลักษณะของสาร คานวณหาเปอร์เซ็นต์การยับยั้งและความเข้มข้น จากสูตร สกัดข้นหนืดสีดาและสีน้าตาลเข้ม ขณะท่ีปริมาณของสาร สกัดหยาบจากก้านมะแขว่น (Stalk of Z. limonella) คิด % inhibition = [(Acontrol - Asample)/ Acontrol x 100] เมอื่ เป็นร้อยละ 3.34 1.38 1.74 และ 4.14 ของน้าหนักแห้ง กาหนดให้ Acontrol คือ ค่าการดูดกลืนแสงในกลุ่มควบคุม ของพืชตามลาดับ ลักษณะของสารสกัดมีสีน้าตาลและ และ Asample คือ ค่าการดูดกลืนแสงในกลุ่มตัวอย่างของ เหลืองอ่อนใส และปริมาณของสารสกัดหยาบจากเมล็ด สารที่นามาศึกษา สร้างกราฟเปอร์เซนต์การยับยั้งและ ความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อหาค่า 50% มะแขว่น (Seeds of Z. limonella) คิดเป็นร้อยละ 7.09 Inhibition หรอื ค่า IC50 จากน้ันนาคา่ IC50 ของ DPPH ไป 1.27 3.84 และ 6.08 ของน้าหนักแห้งของพืชตามลาดับ หาค่าสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson ลักษณะของสารสกัดค่อนมีสีเหลืองใส ดังตารางที่ 1 ผล correlation coefficient, r) โดยเปรยี บเทยี บกับปริมาณ ของการสกดั สารจากพชื ตัวอยา่ ง พบวา่ สารสกัดจากพืชทุก สารฟีนอลิกและปรมิ าณสารฟลาโวนอยด์ทั้งหมด หากค่า ชนิดประกอบด้วยสารมีข้ัวและไม่มีข้ัวเป็นองค์ประกอบจึง r เข้าใกล้ 1 แสดงว่ามีความสัมพันธ์กันมาก วิเคราะห์ สกัดได้ในปริมาณท่ีไม่ต่างกันมากนักเม่ือใช้ตัวทาละลาย ความแตกต่างของข้อมูลโดยใช้ One-way Anova (ชนิด ชนิดข้ัวสูงและข้ัวต่า แต่หากเปรียบเทียบปริมาณสารสกัด หยาบท่ไี ด้จากพืชทงั้ สามชนดิ (% yields of the extracts) Dunnett’s test) (20) จะเห็นว่าสารสกัดหยาบจากเมล็ดมะแขว่นมีปริมาณสูงสุด การวิเคราะห์สถติ ิ (Statistical analysis) ทั้งการสกัดด้วยตัวทาละลายชนิดข้ัวสูงและขั้วต่า (ร้อยละ ทุกการทดลองต้องมีการทดสอบอย่างน้อย 3 คร้ัง 7.09 และ 6.08 ตามลาดับ) แสดงให้เห็นว่าวิธีการสกัดสาร แสดงข้อมูลในรูปแบบของค่าเฉลี่ยและส่วนเบ่ียงเบน แบบต่อเนื่องด้วยเทคนิค Soxhlet method เหมาะสมใน มาตรฐานของค่าเฉลี่ย (mean ± SEM) วิเคราะห์ความ การสกัดสารที่ส่วนเมล็ดของมะแขว่นมากที่สุด ใน แตกต่างของข้อมูลโดยใช้ One-way Anova ด้วยระดับ การศึกษาครั้งต่อไปอาจต้องพัฒนาวิธีการสกัดท่ีเหมาะสม นัยสาคัญที่ P-values < 0.05, P-values < 0.01,และ P- กับสะค้านและก้านมะแขว่นเพื่อให้ได้สารออกฤทธ์ิปริมาณ values < 0.001 โดยใช้โปรแกรมสถิติวิเคราะห์สาเร็จรูป มากข้ึน โดยพิจารณาปัจจัยที่มีผลต่อการสกัดทั้งหมด คือ Graphpad prism version 5 ( GraphPad software, องค์ประกอบของตัวทาละลาย อัตราส่วนของตัวทาละลาย San Diego, CA, USA) และตัวถกู ละลายทเี่ ป็น solid และอุณหภูมิทใี่ ช้ (24)

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 32 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) การตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีของฟีนอลิกทั้งหมด of Z. limonella) พบค่าสูงสุดในช้ัน MeOH เท่ากับ 53.67± (Total phenolic contents; TPC) 0.45 และ 24.15 ± 0.48 mgGAE/g ตามลาดับ ซ่ึงค่าท่ีได้มี ความแตกต่างจากชั้นตวั ทาละลายชนดิ อืน่ อยู่ราว 3 เท่าอย่าง พืชสมุนไพรทุกชนิดในทุกช้ันตัวทาละลายมีสาร มีนัยสาคัญทางสถติ ิ (p< 0.001) โดยปรมิ าณฟีนอลิกทงั้ หมด ฟีนอลิก โดยพบปริมาณสารฟีนอลิกทั้งหมดสูงสุดในตัวทา จากก้านมะเเขว่นในทุกชั้นตวั ทาละลายมีมากกว่าในเมลด็ มะ ละลายที่มีขั้วสูงสุดและลดลงในตัวทาละลายท่ีมีขั้วต่า แขว่นประมาณ 2 เท่า (รูปท่ี 1) แต่อย่างไรก็ตาม พบว่า สาร (รูปที่ 1) จากตารางที่ 1 แสดงปริมาณสารสกัด 1 กรัม มี สกัดหยาบจากก้านและเมล็ดมะแขว่นยังมีปริมาณฟีนอลิก ปริมาณสารฟีนอลิกท้ังหมดเทียบเท่ากรดแกลลิกในหน่วย ท้ังหมดต่ากว่าสารสกัดน้ามันจากผลมะแขว่น (essential oil มิลลิกรัม (mgGAE/g) ปริมาณฟีนอลิกทั้งหมดของสารสกัด of Z. limonella fruit) = 75.2 mgGAE/g oil (27) หาก หยาบจากลาต้นสะค้าน (Stems of P. ribesioides) ชั้น เปรียบเทียบปริมาณสารฟีนอลิกทั้งหมดของสารสกัดหยาบ MeOH = 68.83 ± 0.38 ในขณะที่ช้นั Hx มีค่าเพยี ง 10.50 ± ตัวอย่าง พบว่า ส่วนลาต้นสะค้าน > ส่วนก้านมะแขว่น > 0.16 เท่าน้ัน ปริมาณสารฟีนอลกิ ท้ังหมดช้ัน MeOH คิดเป็น ส่วนเมลด็ มะแขว่น 2 3 และ 7 เทา่ ของชนั้ EtOAc DCM และ Hx ตามลาดับ และ แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (p< 0.001) หาก จากการศึกษาในครง้ั นี้ แสดงให้เห็นว่าฟีนอลิกทเ่ี ป็น เปรียบเทียบผลของสารฟีนอลิกชั้น MeOH ของพืชตัวอย่าง องค์ประกอบในลาต้นสะค้าน ก้านมะแขว่นและเมล็ดมะ กับพืชวงศ์เดียวกัน คือ พริกไทยดา (Piper nigrum) ราชา แขว่นเป็นโมเลกุลที่มีข้ัวจึงสามารถละลายได้ดีในตัวทา แห่งเคร่ืองเทศน์ท่ีชาวบ้านใช้ปรุงอาหารท่ัวโลก และประเทศ ละลายท่ีมีข้ัว คือ MeOH และ EtOAc บทบาทของตัวทา ไทยยังเป็นแหล่งหลักในการผลิตเพื่อส่งออก พริกไทยดาถูก ละลายข้ัวสูงจะช่วยให้การสกัดสารออกฤทธ์ิทางชีวภาพออก นามาใชท้ างการแพทย์แบบอายรุ เวท (Ayurvedic Medicine) จากพืชตัวอย่างได้ดีกว่าตัวทาละลายท่ีมีขั้วต่า จึงมักนามา อย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่ดีในการ สกดั สารออกฤทธิจ์ าพวก phenol และ polyphenol (25) ซ่งึ ต้านอนุมูลอิสระเพราะประกอบด้วยวิตามินเอ วิตามินซีและ พันธะไฮโดรเจนระหว่างสภาพขั้วตัวทาละลายและตาแหน่ง สารฟีนอลิกท้ังชนิด neutral lและ acidic (25) จากรายงาน ของหมู่ไฮดรอกซิล (-OH) ในสารประกอบฟีนอลิกมีผลต่อ การศึกษายังไม่พบการวิจัยส่วนของลาต้นของพริกไทย แต่ ประสิทธิภาพในการกาจัดอนุมูลอิสระ โดยตัวทาละลายท่ีมี พบการใช้ส่วนต่างๆ ดังน้ี สารสกัดจากใบพริกไทยดา ข้ัว (เช่น water, MeOH, EtOAc, acetonitrite, tert-butyl (P. nigrumleaf) = 6.68 ± 0.02 สารสกัดจากเมล็ดพริกไทย alcohol และ acetic) จะมีความสามารถในการต้านอนุมูล ดา (P. nigrumseed) = 4.12 ± 0.02 (26) และ สารสกดั จาก อิสระได้ดีกว่าในตัวทาละลายท่ีไม่มีขั้ว (เช่น DCM, ผลพริกไทยดา (P. nigrumfruit) = 1.728 ± 0.004(23) จะ chloroform, hexane, petroleum ether, n-decane และ เห็นไดว้ ่าสารสกดั จากลาตน้ สะค้านมปี รมิ าณฟนี อลกิ ทั้งหมด chlorobenzene) Snelgrove et al., 2001 อ ธิ บ า ย ว่ า มากกว่าใบพริกไทยดา 10 เท่า มากกว่าเมลด็ พริกไทยดา 16 เนื่องจากตวั ทาละลายจะเข้าจับกับอนุมลู อสิ ระกอ่ นท่ีหม-ู่ OH เท่า และมากกว่าผลพริกไทยดาถึง 40 เท่า จึงสรุปได้ว่าสาร ในสาร phenol จะเขา้ จบั อนมุ ลู อิสระโดยตรงและทาใหค้ วาม สกัดจากลาตน้ สะค้านมีองค์ประกอบของสารฟีนอลิกที่สงู ใน เป็นอนุมลู อสิ ระหมดไป (28) โดยสอดคล้องกบั รายงานวิจยั ใน การออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เม่ือศึกษาปริมาณฟีนอลิก สมุนไพรชนิดอ่ืนๆ เช่น ใบพลูตีนช้าง (P. umbellatumleaf) ทั้งหมดของสารสกัดหยาบจากก้านมะแขว่น (Stalk of Z. (29) ผลพริกไทยหาง (P. cubebafruit) (30) และ ผลและใบ Limonella) และ สารสกัดหยาบจากเมล็ดมะแขว่น (Seeds สมอพิเภก (Terminalia bellerica fruit and leaf) สาร

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 33 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ฟนี อลิกในพชื จะออกฤทธย์ิ ับยง้ั อนมุ ลู อสิ ระขนั้ ท่ี 2 โดยชะลอ ไซด์ท่ีเข้าทาลายโครงสร้างของเยื่อหุ้มเซลล์ก่อนจะส่งผล การเกดิ อนมุ ลู อิสระแบบดว้ ยการให้ H atom แกอ่ นมุ ูลอิสระ กระทบตอ่ กระบวนการทางชีวภาพต่างๆของรา่ งกายต่อไป (1) แย่งจับกบั ออกซเิ จน รวมท้ังกาจัดอนุมูลอิสระชนิดเพอร์รอก ตารางท่ี 1 ปรมิ าณรวมสารสกัดหยาบและปริมาณสารฟนี อลกิ และฟลาโวนอยดท์ ง้ั หมดของพืชสมนุ ไพร Scientific name Part used Solvent Yield (%) TPC (mg GAE/g) TFC (mg QE/g) Piper ribesioides Stem MeOH 0.21 68.83 ± 0.38a 37.13 ± 0.47a : Family Piperaceae EtOAc 0.38 29.29 ± 0.21b 10.78 ± 0.20b DCM 0.32 21.75 ± 0.24c 9.11 ± 0.20b Hx 0.50 10.50 ± 0.16d 5.78 ± 0.97c Zanthoxylum limonella Stalk MeOH 3.34 53.67 ± 0.45a 25.76 ± 0.43a : Family Rutaceae EtOAc 1.80 17.36 ± 0.15b 9.64 ± 0.31b DCM 1.74 10.82 ± 0.13c 5.93 ± 0.12c Hx 4.14 12.93 ± 0.14d 5.06 ± 0.24c Zanthoxylum limonella Seed MeOH 7.09 24.15 ± 0.48a 10.25 ± 0.63a : Family Rutaceae EtOAc 1.27 7.25 ± 0.33b 4.58 ± 0.13b DCM 3.84 6.07 ± 0.34b 3.86 ± 0.10b Hx 6.08 6.46 ± 0.14b 3.39 ± 0.18b Note: Yield (g/100g of dry plant material) abcd The different letters in each column indicate the significant difference at p<0.05 รปู ท่ี 1 แสดงปรมิ าณสารฟนี อลิกและฟลาโวนอยด์ทง้ั หมดของพืชสมุนไพรในตัวทาละลายตา่ งขว้ั

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 34 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) การตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีของฟลาโวนอยด์ ก้านมะแขวน่ (Stalk of Z. limonella) และ เมลด็ มะแขว่น (Total flavonoid contents; TFC) (Seed of Z. limonella) ช้ั น MeOH มี ค่ า = 25.76 ± 0.43 และ 10.25 ± 0.63 mgQE/g ตามลาดับ โดย พืชสมุนไพรทุกชนิดพบสารฟลาโวนอยด์สูงสุดใน ปริมาณฟลาโวนอยด์ท้ังหมดจากก้านมะเเขว่นมมี ากกว่าใน ตัวทาละลายทีม่ ขี ว้ั สูงสดุ และลดลงในตัวทาละลายท่ีมีข้ัวต่า เมลด็ มะแขวน่ ประมาณ 1.5 และ 2 เทา่ ในชั้นตวั ทาละลาย (รูปที่ 1) ตารางท่ี 1 แสดงปริมาณสารสกัด 1 กรัม มี ขั้วต่าและสูง ตามลาดับ (รูปที่ 1) และหากเปรียบเทียบ ปริมาณสารฟลาโวนอยด์ทั้งหมดเทียบเท่าเคอร์ซิตินใน ปริมาณสารฟลาโวนอยด์ทั้งหมดของสารสกัดหยาบพบว่า หน่วยมิลลิกรัม (mgQE/g) ดังนี้ ปริมาณสารฟลาโวนอยด์ สารสกัดหยาบจากลาต้นสะค้าน > ส่วนก้านมะแขว่น > ทั้งหมดของสารสกัดหยาบจากลาต้นสะค้าน (Stems of P. สว่ นเมลด็ มะแขว่น ribesioides) ช้ัน MeOH = 37.13 ± 0.47 และมีปริมาณ สารฟลาโวนอยด์เป็น 3 4 และ 6 เท่าของชั้น EtOAc DCM การตรวจสอบฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดหยาบด้วย และ Hx ตามลาดับ โดยแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทาง วิ ธี DPPH assay ( Antioxidant activity by DPPH สถิติ (p< 0.001) การตรวจพบสารฟลาโวนอยด์ช้ัน MeOH assay) ในปริมาณสูงสุดบ่งชี้ว่าสารฟลาโวนอยด์ในพืชตัวอย่างมี สภาพขั้วสูงใกล้เคียงกับตัวทาละลายช้ัน MeOH ตามกฎ สารสกัดหยาบจากสะค้านและมะแขว่นออกฤทธ์ิ Like dissolve like rule) ( 3 1 ) ฟ ล า โ ว น อ ย ด์ เ ป็ น ต้านอนุมูลอิสระ DPPH โดยมีประสิทธิภาพสูงสุดในตัวทา สารประกอบในกลุ่ มฟี นอลิ กกลุ่ มใหญ่ ปร ะ เ ภ ท ละลายมีข้วั สูงไปยังขัว้ ตา่ (ตารางท่ี 2) เมอ่ื เปรยี บเทยี บฤทธ์ิ polyphenol พบมากในรูปของไกลโคไซด์ ละลายในนา้ ได้ ต้านอนุมูลอิสระทั้งหมดเฉพาะชั้น MeOH พบว่า สารสกัด มีบทบาทหลักในการกาจัดอนุมูลอิสระโดยการ ให้ จากล าต้ นสะค้ าน (Stems of P. ribesioides) มี ค่ า อิเล็กตรอนหรือให้ H atom แก่อนุมูลอิสระ กาจัดโลหะ IC50 = 0.2 mg/ml > ส่วนก้านมะแขว่ น (Stalk of Z. หนกั จาพวก Fe2+ และ Cu+ ยบั ย้งั เอนไซมท์ ีก่ ระตนุ้ การเกิด Limonella) มีค่า IC50 = 0.26 mg/ml > ส่วนเมล็ดมะ อนุมูลอิสระ ตลอดจนกระตุ้นการทางานของเอนไซม์ท่ีต้าน แขว่น (Seed of Z. limonella) มีค่า IC50 = 0.37 mg/ml อนุมูลอิสระในร่างกาย (32) จากรายงานวิจัย ยังไม่พบ ตามลาดับ และมีฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระที่ไม่แตกต่างจาก การศึกษาสารฟลาโวนอยด์จากส่วนของลาต้นพริกไทย แต่ กลุ่มของกรดแอสคอร์บิกหรือวิตามินซีซึ่งเป็นสาร Positive พบสารฟลาโวนอยด์ท้ังหมดของพืชวงศ์พริกไทยชัน้ MeOH control (IC50 เท่ากับ 0.006 mg/ml) หากเปรียบเทียบ ดังน้ี สารสกัดจากใบพริกไทยดา (P. nigrumleaf) = 1.51 ฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระท้ังหมดระหว่างช้ัน MeOH กับช้ัน ± 0.01 (33) และสารสกัดจากผลพริกไทยดา ( P. อ่ืนๆ พบวา่ ฤทธติ์ ้านอนมุ ูลอิสระมคี ่าแตกต่างกับชั้นท่ีมีขั้ว nigrumfruit) = 0.002 ± 0.002 (23) เมื่อเปรียบเทียบกับ ต่าท้ังชั้น DCM และ Hx อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ผลการทดลอง พบว่า สารสกัดจากลาต้นสะค้านมีปริมาณ (p< 0.001) ผลทเี่ กดิ ข้ึนน้เี กดิ จากสารประกอบฟีนอลิกและ ฟลาโวนอยด์ทั้งหมดมากกว่าใบพริกไทยดา 24 เท่า และ สารฟลาโวนอยด์ท้ังหมดที่พบว่าเป็นสารสาคัญในพืช มากกว่าในผลพริกไทยดาถึง 18,506 เท่า จึงสรุปได้ว่าพบ สมนุ ไพรตวั อยา่ งทุกชนิดสามารถละลายในตัวทาละลายท่ีมี สารฟลาโวนอยด์สูงมากในลาต้นสะค้านเม่ือเทียบกับ ขั้วสูงได้มากกว่าในตัวทาละลายช้ันท่ีมีขั้วต่าและฤทธิ์ต้าน พริ กไทยซ่ึ งเป็ นสมุ นไพรที่ บริ โภคกั นอย่ างแพร่ หล าย อนุมูลอิสระที่เกิดข้ึนแปรผันตามปริมาณสารท่ีตรวจพบ สาหรับปริมาณฟลาโวนอยด์ท้ังหมดของสารสกัดหยาบจาก เม่ือพิจารณาผลความสัมพันธ์ด้วย Pearson correlation พบว่า ปริมาณสารฟีนอลิกและสารฟลาโวนอยด์ของสาร

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 35 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) สกั ดชั้ น MeOH ของล าต้ นสะค้ าน ( Stems of P. limonella) ช้ัน MeOH พบปริมาณสารฟลาโวนอยด์มี ribesioides) มีความสัมพันธ์กับการออกฤทธิ์ต้านอนุมูล บทบาทต่อการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ DPPH มีค่า อิสระ DPPH มากท่ีสุดมีค่า r = 0.74 และ 0.99 ตามลาดับ r= 0.97 ขณะท่ีสารสกัดจากเมล็ดมะแขว่น (Seed of Z. แสดงใหเ้ หน็ ว่าปริมาณสารฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ของลา limonella) ปริมาณสารฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ มี ต้นสะค้านมีความสัมพันธ์กับการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ความสัมพันธ์กับการออกฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระ DPPH ที่ดี DPPH ท่ีดี สาหรับสารสกัดจากก้านมะแขว่น (Stalk of Z. ในช้นั EtOAc มีคา่ r = 0.72 และ 0.99 ตามลาดับ ตารางท่ี 2 ฤทธิต์ ้านอนุมูลอสิ ระDPPH ของพชื สมุนไพรในตัวทาละลายต่างขวั้ Scientific name Part used Solvent IC50 (mg/ml) Piper ribesioides Stem MeOH 0.20 ± 0.01 ns : Family Piperaceae EtOAc 0.39 ± 0.02 *** DCM 3.32 ± 0.06 *** ### Hx 15.66 ± 0.08 *** ### Zanthoxylum limonella Stalk MeOH 0.26 ± 0.02 ns : Family Rutaceae EtOAc 1.09 ± 0.07 ns DCM 4.37 ± 0.07 *** ### Hx 22.61 ± 0.94 ***### Zanthoxylum limonella Seed MeOH 0.37 ± 0.02 ns : Family Rutaceae EtOAc 14.07 ± 1.34 ***## DCM 52.17 ± 1.09 ***### Hx 424.74 ± 2.90 ***### Ascorbic acid (Vitamin C) 0.006 ± 4.6 Note: ***p< 0.001 compared with Ascorbic acid, ##p< 0.01, ### p< 0.001 compared with MeOH solvent ก ร ะ บ ว น ก า ร ต้ า น อ นุ มู ล อิ ส ร ะ ที่ เ กิ ด ข้ึ น นี้ อนุมูลอิสระ DPPH บริเวณ N atom ทาให้อนุมูลอิสระ เกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางเคมีของสารประกอบฟีนอลิก ของ DPPH ได้รับโปรตอนหรือถูกรีดิวซ์ด้วยสารต้าน และสารฟลาโวนอยด์ท่ีมีหมู่ –OH บริเวณวงแหวน อนมุ ลู อสิ ระ จนเกดิ ความเสถียรและเปลีย่ นจากสีม่วงเป็น aromatic ring โดยเฉพาะสารฟลาโวนอยด์ท่ีพบจานวน สีเหลืองตรวจสอบได้จากค่าการดูดกลืนแสงที่ลดลง นั่น –OH ต้ังแต่ 2 วงข้ึนไป อีกท้ังหลังจากให้ H atom แก่ หมายถึง พืชสมุนไพรจะมีประสิทธิภาพในการต้านอนมุ ูล อนุมูลอิสระแล้วโครงสรา้ งยังคงความเสถียรและสามารถ อิสระมากข้ึนเมื่อหมู่ –OH มีจานวนมากและมีตาแหนง่ ท่ี เข้าทาปฏิกิริยาต่อกับอนุมูลอิสระขั้นท่ี 2 ในรูป alkoxyl เหมาะสม ประกอบกับคุณสมบัติของสารประกอบ (RO•) ได้อีกครั้ง (34) H atom ของหมู่ –OH จะกาจัด ฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ที่แม้ว่าจะสูญเสียอิเล็กตรอน อนุมูลอิสระ DPPH• โดยจับกับอิเล็กตรอนโดดเด่ียวของ ให้กับอนุมูลอิสระแต่โครงสร้างของสารประกอบฟีนอลิก

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 36 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ยังมีความหนาแน่นของอิเล็กตรอนสูงทาให้อิเล็กตรอน composition) ที่มีข้ัวนั้นสามารถดึงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สามารถย้ายไปทั่วโครงสร้าง (Delocalization) และคง ของสารพฤษเคมีในกลมุ่ ฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ประเภท ความเสถียรเอาไว้ได้ (35) อยา่ งไรกต็ าม หากเปรยี บเทยี บ phenolic acids และ polyphenol ออกจากพืชสมุนไพร ผลการทดลองคร้ังนี้กับรายงานการวิจัยก่อนหน้า ยังไม่ ท้ังหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งปริมาณของสารท่ี พบการศึกษาจากส่วนของลาต้นพริกไทย แต่พบผลจาก เพิ่มข้ึนยังมีความสัมพันธ์โดยตรงกับฤทธิ์ตา้ นอนุมูลอสิ ระ สารสกัดจากผลพริกไทยดา (P. nigrumfruit) ชั้น EtOH ที่ดี สารสกัดหยาบจากลาต้นสะค้านสามารถออกฤทธิ์ (IC50 = 1.11 mg/ml) (36) ดังน้ัน สารสกัดจากลาต้น ต้านอนุมลู อิสระได้ดที ่ีสุด รองลงมาคอื สารสกัดหยาบจาก สะค้านจึงมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระที่สูงกวา่ ก้านมะแขว่นและสารสกัดหยาบจากเมล็ดมะแขว่น ในผลพริกไทยดา ในส่วนของมะแขว่น ชั้น MeOH พบวา่ ตามลาดับ การศึกษาในครั้งนี้ได้มุ่งเน้นการทดสอบฤทธ์ิ สารสกัดน้ามันจากผลมะแขว่น (essential oil of Z. ข อ ง ส มุ น ไ พ ร ภ า ย ใ ต้ ตั ว ท า ล ะ ล า ย อิ น ท รี ย์ ต่ า ง ช นิ ด limonellafruit) (IC50 = 5.66 mg/ml) และสารสกัดจาก เปรียบเสมอื นการเปรียบเทียบความสามารถของสารสกัด ลาต้นมะแขว่น (Z. Limonellastem) (IC50 = 0.12 ภายใต้สารอินทรีย์ท่ีเป็นตัวกลางต่างขั้วกัน ซึ่งผู้วิจัยได้ mg/ml) (37) ดงั นน้ั สารสกดั หยาบจากก้านและเมลด็ มะ เลือกใช้สารตัวกลางชนิดเอทิลอะซิเตตเป็นตัวแทนของ แขว่นสามารถต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าสารสกัดน้ามัน สารที่มขี ว้ั สูงเมือ่ เข้าส่รู ่างกายสามารถผ่านกระบวนการเม จากผลมะแขว่นแต่น้อยกว่าส่วนของลาตน้ แทบอไลท์เพ่ือกาจัดออกนอกร่างกายได้ (38) แต่อย่างไร ก็ตามน้าเป็นองค์ประกอบหลักในเซลล์มนุษย์ท่ีมีความ สรุปผล ปลอดภัยสูงและกาจัดออกนอกร่างกายได้ง่ายกว่า ใน การศึกษาคร้ังต่อไปจึงควรเพ่ิมการสกัดสารตัวอย่างโดย พืชสมุนไพรเข้ามามีบทบาทสาคัญมากขึ้น จาก ใช้น้าเป็นตัวทาละลาย จะทาให้สามารถเปรียบเทียบ การมีฤทธ์ิในการต้านอนุมูลอิสระที่ดี อันช่วยป้องกันการ คุณประโยชน์ของสมุนไพรหากต้องการนาไปพัฒนาเป็น เกดิ พยาธสิ ภาพของโรคต่างๆในมนษุ ย์ คุณสมบตั ิดังกลา่ ว อาหารเสริมสาหรับบริโภคได้ดีมากย่ิงขึ้น ผลการวิจัยท่ี เกดิ ขนึ้ จาก พบสารสาคัญจาพวกฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ เกิดข้ึนจะเปน็ องค์ความร้ใู หมใ่ นการทราบฤทธ์ิตา้ นอนุมูล ได้ทั้งในส่วนของใบ ดอก ผล ลาต้น เมล็ดและเปลือกไม้ อิสระของส่วนต่างๆในพืชท่ีชาวบ้านนิยมนามาบริโภคใน ทาหน้าที่ในการให้อิเล็กตรอนแก่อนุมูลอิสระ เข้ายับยั้ง ท้องถิ่น ทาให้เห็นถึงคุณประโยชน์และนาไปต่อยอดเพื่อ การทาลายเย่ือหุ้มเซลล์ และกาจัดไอออนของโลหะหนัก ศึกษาในโมเดลทางการแพทย์ท่ีเก่ียวข้องกับฤทธ์ิต้าน ท า ใ ห้ ส า ม า ร ถ เ ข้ า ช ะ ล อ ค ว า ม รุ น แ ร ง ข อ ง ส ภ า ว ะ อนุมูลอิสระต่อไป เช่น การยับยั้งแบคทีเรีย การต้าน ความเครียดของออกซิเจนในการทาลายเซลล์ของ อัลไซเมอร์และการยบั ย้ังมะเรง็ สิ่งมีชีวิตทาให้การเจริญเติบโตและการพัฒนาดาเนินไป อย่างเป็นปกติ (1) จากการศึกษา พบว่า สารสกัดจากลา กติ ตกิ รรมประกาศ ต้นสะค้าน (Stems of P. ribesioides) ก้านมะแขว่น (Stalk of Z .limonella) และเมล็ดมะแขว่น (Seed of งานวจิ ัยได้รบั ทุนสนับสนุนจาก คณะวทิ ยาศาสตร์ Z. limonella) มีปริมาณฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์สูงสุด ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกล้าพระเหนอื ในตัวทาละลายมีข้ัวสูงคือช้ันเมทานอล รองลงมาคือใน ประจาปีงบประมาณ 2561 สัญญาเลขท่ี 6143105 เอทิลอะซีเตท ซึ่งองคป์ ระกอบของตัวทาละลาย (solvent

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 37 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) เอกสารอา้ งอิง peroxide in vitro. J Med Food. 2 0 0 5 Summer;8(2):266-8. 1. Lobo V, Patil A, Phatak A, Chandra N. Free radicals, antioxidants and functional foods: 8. Gonda R, Takeda T, Akiyama T. Studies on Impact on human health. Pharmacogn Rev. 2010 the constituents of Anaxagorea luzonensis A. GRAY. Jul;4(8):118-26. Chem Pharm Bull (Tokyo). 2000 Aug;48(8):1219-22. 2. Mah SH, Teh SS, Ee GC. Anti- 9. Gulcin I. The antioxidant and radical inflammatory, anti-cholinergic and cytotoxic scavenging activities of black pepper (Piper effects of Sida rhombifolia. Pharm Biol. 2 0 1 7 nigrum) seeds. Int J Food Sci Nutr. 2 0 0 5 Dec;55(1):920-8. Nov;56(7):491-9. 3. Papas AM. Diet and antioxidant status. Food 10. Salehi B, Zakaria ZA, Gyawali R, Ibrahim Chem Toxicol. 1999 Sep-Oct;37(9-10):999-1007. SA, Rajkovic J, Shinwari ZK, et al. Piper Species: A Comprehensive Review on Their Phytochemistry, 4. Bakkalbasi E, Mentes O, Artik N. Food Biological Activities and Applications. Molecules. ellagitannins-occurrence, effects of processing 2019 Apr 7;24(7). and storage. Crit Rev Food Sci Nutr. 2 0 0 9 Mar;49(3):283-98. 11. Virinder S, Parmar, Subhash C, Jain, Bisht S, Jain R, et al. Phytochemistry of genus Piper 5. Fantini M, Benvenuto M, Masuelli L, Phytochemistry. 1997;46(4):597-673. Frajese GV, Tresoldi I, Modesti A, et al. In vitro and in vivo antitumoral effects of combinations 12. Salleh WM, Hashim NA, Ahmad F, Heng of polyphenols, or polyphenols and anticancer Yen K. Anticholinesterase and antityrosinase drugs: perspectives on cancer treatment. Int J activities of ten piper species from malaysia. Adv Mol Sci. 2015 Apr 24;16(5):9236-82. Pharm Bull. 2014 Dec;4(Suppl 2):527-31. 6. Kaur G, Alam MS, Jabbar Z, Javed K, 13. Watcharawit R, Soonwera M. Pediculicidal Athar M. Evaluation of antioxidant activity of effect of herbal shampoo against Pediculus Cassia siamea flowers. J Ethnopharmacol. 2 0 0 6 humanus capitis in vitro. Trop Biomed. 2 0 1 3 Dec 6;108(3):340-8. Jun;30(2):315-24. 7. Toda S. Antioxidative effects of 14. Phankaen Y, Pluempanupat W, Mourad polyphenols in leaves of Houttuynia cordata on AK, Bullangpoti V. Bioefficacy of Piper Ribesioides protein fragmentation by copper-hydrogen (Piperaceae) Extracts against Nilaparvata Lugens

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 38 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) Stal. (Homoptera: Delphacidae). Commun Agric Essential Oils. Food Sci Biotechnol. 2 0 1 1 Appl Biol Sci. 2014;79(2):229-32. Feb;20(1):45-53. 15. Charoensup R, Duangyod T, Phuneerub 21. Tangjitjaroenkun J, Chavasiri W, P, Singharachai C. Pharmacognostic specification Thunyaharn S, Yompakdee C. Bactericidal effects of Zanthoxylum limonella (Dennst.) Alston: Fruits and time-kill studies of the essential oil from the and seeds in Thailand. J Adv Pharm Technol Res. fruits of Zanthoxylum limonella on multi-drug 2016 Oct-Dec;7(4):134-8. resistant bacteria. J Essent Oil Res. 2012;24(4):363-70. 16. Das NG, Dhiman S, Talukdar PK, Rabha B, Goswami D, Veer V. Synergistic mosquito-repellent 22. Stanojevic L, Stankovic M, Nikolic V, activity of Curcuma longa, Pogostemon heyneanus Nikolic L, Ristic D, Canadanovic-Brunet J, et al. and Zanthoxylum limonella essential oils. J Infect Antioxidant Activity and Total Phenolic and Public Health. 2015 Jul-Aug;8(4):323-8. Flavonoid Contents of Hieracium pilosella L. Extracts. Sensors (Basel). 2009;9(7):5702-14. 17. Pitasawat B, Champakaew D, Choochote W, Jitpakdi A, Chaithong U, Kanjanapothi D, et al. 23. Ahmad A HA, Mujeeb M, Khan AS, Aromatic plant-derived essential oil: an Alhadrami AAH, Bhandari A. Quantification of alternative larvicide for mosquito control. total phenol, flavonoid content and Fitoterapia. 2007 Apr;78(3):205-10. pharmacognostical evaluation including HPTLC fingerprinting for the standardization of Piper 18. Nakagawa K, Promjareet A, Priprem A, nigrum Linn fruits. Asian Pac J Trop Biomed. Netweera V, Hara H. Investigation of scavenging 2015;5(2):101-07. activities and distribution of paramagnetic species in Zanthoxylum limonella seeds. Free 24. Upadhya V, Pai SR, Sharma AK, Hegde Radic Res. 2016 Dec;50(12):1432-40. HV, Kholkute SD, Joshi RK. Compound Specific Extraction of Camptothecin from Nothapodytes 19. Palasuwan A, Soogarun S, Lertlum T, nimmoniana and Piperine from Piper nigrum Pradniwat P, Wiwanitkit V. Inhibition of Heinz Using Accelerated Solvent Extractor. J Anal Body Induction in an inVitro Model and Total Methods Chem. 2014;2014:932036. Antioxidant Activity of Medicinal Thai Plant. Asian Pacific J Cancer Prev. 2005;6:458-63. 25. Shanmugapriya K SPS, Payal H, Mohammed SP, Williams B. Antioxidant potential 20. Nanasombat S, Wimuttigosol P. of pepper (Piper nigrum Linn.) leaves and its Antimicrobial and Antioxidant Activity of Spice

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 39 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) antimicrobial potential against some pathogenic 32. Prochazkova D, Bousova I, Wilhelmova microbes. Indian J Nat Prod Resour. 2012;3(4):570-77. N. Antioxidant and prooxidant properties of 26. Uyoh A, Chukwurah N, Akarika C, Antia A. flavonoids. Fitoterapia. 2011 Jun;82(4):513-23. Potentials of Two Nigerian Spices—Piper nigrum and Monodora myristica as Sources for Cheap 33. Radzali M, Nur Dalila Hani MZ. Natural Antioxidant. Am J Plant Sci. 2013;4:1105-15. Antioxidant properties of leaf crude extracts of Piper nigrum L. Proceedings of the Seminar on 27. Supabphol R TJ. Chemical Constituents Medicinal and Aromatic Plants, (MAPS 2 0 0 8 ) and Biological Activities of Zanthoxylum AGRIS. 2009. limonella (Rutaceae): A Review. Trop J Pharm Res. 2014;Dec;13(12):2119-30. 34. Dugas AJ, Castaneda-Acosta J, Bonin GC, Price KL, Fischer NH, Winston GW. Evaluation of 28. Snelgrove D, Lusztyk J, Banks J, Mulder the total peroxyl radical-scavenging capacity of P, Ingold K. Kinetic Solvent Effects on Hydrogen- flavonoids: structure-activity relationships. J Nat Atom Abstractions: Reliable, Quantitative Prod. 2000 Mar;63(3):327-31. Predictions via a Single Empirical Equation. J Am Chem Soc 2001;123:469-77. 35. Pietta P. Flavonoids as antioxidants. J NatProd. 2000;63:1035-42. 29. Geetha E, Irulandi K, Mehalingam P. 36. Luanchoy S TS WY, and Temsiririrkkul R. Evaluation of antioxidant and free radical Antioxidant Activity of a Thai Traditional Formula scavenging activities of different solvent extracts for Longevity. Mahidol University Journal of of leaves of Piper umbellatum. Asian J Pharm Pharmaceutical Sciences. 2014;41(3):1-5. Clin Res. 2017;10(2):274-76. 37. Supabphol RT. Chemical Constituents 30. Nahak G, Sahu R. Phytochemical and Biological Activities of Zanthoxylum Evaluation and Antioxidant activity of Piper limonella (Rutaceae): A Review. . Trop J Pharm cubeba and Piper nigrum. J Appl Pharm Sci. Res. 2014;13(12):2119-30. 2011;8:153-7. 38. Zakhari S. Overview: how is alcohol 31. Reichardt C WT. Solvents and Solvent metabolized by the body? Alcohol Res Health. Effects in Organic Chemistry. Edition T, editor. 2006;29(4):245-54. Germany2005.

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 40 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) การออกแบบและสรา้ งเครือ่ งย่อยและอดั หญา้ อาหารสัตวส์ าหรบั เกษตรกรรายยอ่ ย Design and fabrication of Green FodderShredding and Compressing Machine for Small Scale Farmer ร่งุ เรือง กาลศิริศลิ ป1์ * ณพล เหลืองพพิ ฒั นส์ ร1 และ จตรุ งค์ ลังกาพินธ์ุ1 Roongruang Kalsirisilp1*, Napol Luengpipatsorn1 and Jaturong Langkapin1 1ภาควชิ าวิศวกรรมเกษตร คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี 1Department of Agricultural Engineering, Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Thanyaburi, Pathumthani 12110, THAILAND *Corresponding Author E-mail: Roongruang.k@en.rmutt.ac.th ARTICLE INFO ABSTRACT Article history: The research project entitled “development of green fodder Received 4 April 2019 shredding and compressing machine” was aimed to increase the Accept 22 May 2019 working capacity as well as time and labor saving for animal feed Online 13 June 2019 shredding and compressing process. The machine consists of four doi.org/10.14456/rj-rmutt.2019.6 main parts namely, steel frame, shredding unit, compressing unit and Keywords: power transmission unit. The revolution speed of motor was selected shredding and at 1,300, 1,500 and 1,700 rpm. Three shredding blade angles (15, 30 compressing, green and 40 ° ) were considered in this research. The performance fodder, blade angle parameters studied were working capacity, electrical consumption and economic analysis of green fodder shredding and compressing machine. Based on the test results, it was found that the 1,500 rpm of motor speed and 40° blade angle performed the best in terms of capacity and efficiency of the machine. The performance tests of the machine showed that working capacity and electrical consumption were 229.4 kg/hr and 1.53 kW-h, respectively. An economic analysis

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 41 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) further showed that the operation cost of the machine was 0.35 Baht/kg with the break even point of 195 hr/yr. Considering the working hour of 600 hr/yr, the pay back period of the machine was found to be 1.5 years. บทคัดยอ่ บทนา โครงการวิจัย เรื่อง การพัฒนาเครื่องย่อยและอัด ปัจจบุ นั เกษตรกรผ้เู ล้ยี งโคนมกาลังประสบปัญหา หญ้าอาหารสัตว์ ได้ถูกออกแบบและสร้างขึ้นโดยมี ในเรื่องต้นทุนการผลิตนมท่ีสูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุน วัตถุประสงค์หลักเพื่อ เพิ่มความสามารถในการทางาน ค่าอาหารสัตว์ จึงมีความจาเป็นต้องหาวิธีการลดต้นทุน ช่วยประหยัดเวลาและแรงงานคนในขั้นตอนการยอ่ ยและ เพื่อให้เกษตรกรสามารถดารงชีพอยู่ได้ แนวทางหนึ่งคือ อัดหญ้าอาหารสัตว์ เครื่องย่อยและอัดหญ้าอาหารสัตว์ท่ี การเลอื กใชอ้ าหารหยาบ คณุ ภาพดี ตน้ ทนุ การผลิตตา่ ซง่ึ ออกแบบและพฒั นา ประกอบดว้ ยโครงสร้างหลัก 4 สว่ น จากสถิติการเล้ียงโคนมของเกษตรกรในประเทศไทย ได้แก่ 1. โครงเครือ่ ง 2. ชุดย่อยหญ้า 3. ชุดอัดหญ้า และ พบว่าในปี พ.ศ. 2560 มี เกษตรกรผู้เล้ียงโคนมใน 4. ระบบถ่ายทอดกาลัง ตัวแปรท่ีศึกษาได้แก่ ความเร็ว ประเทศไทยทั้งหมดจานวน 17,348 ครัวเรือน หรือคิด รอบของมอเตอร์ท่ี 1,300 1,500 และ 1,700 รอบต่อ เป็นโคนมจานวน 584,327 ตัว ซง่ึ สว่ นใหญ่อยู่ ในจังหวัด นาที ศึกษามุมองศาใบมีดสาหรับย่อยหญา้ 3 ระดับที่ 15 สระบุรี ลพบุรี ราชบุรี นครปฐมและจังหวัดกาญจนบุรี 30 และ 40 องศา โดยมีค่าช้ีผลในการศึกษา ได้แก่ จานวน 7,437 ครัวเรือน หรือคิดเป็นโคนมจานวน ความสามารถในการอัดและย่อยหญ้าอาหารสัตว์ อัตรา 238,544 ตัว (1) อาหารที่จาเป็นสาหรับการเจริญเตบิ โต การส้ินเปลืองพลังงานไฟฟ้า และการวิเคราะห์ค่าใช้จ่าย ของโคนม ได้แก่ อาหารข้นและอาหารหยาบ หลังจาก ทางเศรษฐศาสตร์ของเครอื่ งย่อยและอัดหญา้ อาหารสัตว์ การรีดนา้ นมตอ้ งมีการใหอ้ าหารสตั วเ์ พ่ือใหโ้ คนมได้มีการ ผลการทดสอบเคร่ืองย่อยและอัดหญ้าอาหารสัตว์พบว่า ผลิตน้านมข้ึนมาใหม่ เพ่ือจะได้นาน้านมมาบริโภคและ ความเร็วรอบของมอเตอร์และมุมองศาของใบมีดที่ จาหน่าย สิ่งสาคัญได้แก่ อาหารข้น แร่ธาตุ วิตามินและ เหมาะสมในการอัดและย่อยหญ้าอาหารสัตว์ เท่ากับ อาหารหยาบ เช่น หญ้าสด หญ้าหมัก หรือหญ้าแห้ง จาก 1,500 รอบต่อนาที และ 40 องศา ตามลาดับ เอกสารของกองอาหารสัตว์กรมปศุสัตว์ พบว่าโคและ ความสามารถในการทางานเฉล่ียเท่ากับ 229.4 กิโลกรัม กระบือมีความสามารถในการกินอาหารแห้งได้วันละ 7 ต่อชั่วโมง อัตราการส้ินเปลืองพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 1.53 กิโลกรัมต่อตัว ซึ่งจะเห็นว่าประเทศไทยมีความต้องการ กิโลวัตต์-ชั่วโมง ผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมเชิง อาหารโค กระบือ ประเภทหญา้ แหง้ ในปรมิ าณมากถงึ วัน เศรษฐศาสตร์วิศวกรรมพบว่ามีค่าใช้จ่ายในการทางาน ละ 60,000 ตัน หรอื 21.9 ล้านตันตอ่ ปี (2) เฉล่ีย 0.35 บาทต่อกิโลกรัม จุดคุ้มทุนในการทางาน 195 ชั่วโมงต่อปี และเม่ือพิจารณาการทางานที่ 600 ชั่วโมง หญ้าเนเปียร์ (Napier grass) (รูปท่ี 1) จัดเป็น ตอ่ ปี จะมรี ะยะเวลาในการคืนทุน 1.5 ปี หญ้าอาหารสัตว์ที่นิยมปลูกกันมาก ลาต้นและใบมีขนาด ใหญ่ ลาต้นเติบโตได้เร็วและให้ผลผลิตต่อไร่สูงมาก มี คำสำคัญ: เคร่ืองย่อยและอัดหญ้า อาหารสัตว์ มุมองศา คุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสาหรับเป็นอาหารหยาบ ของใบมดี เลี้ยงสัตว์ ลาต้นแตกกอใหม่ได้เร็วให้ผลผลิตได้ทั้งปีและ

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 42 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) เก็บผลผลิตได้นาน 5-7 ปี ให้ผลผลิตน้าหนักสดประมาณ (ก) การสบั หญา้ เนเปยี ร์ดว้ ยมดี 100 ตัน/ไร/่ ปี ลาต้นและใบ มีปริมาณแป้งและนา้ ตาลสูง (ข) การอดั หญา้ ใหแ้ น่นเพ่ือไลอ่ ากาศ ลาต้นและใบแก่ช้า และมีความอ่อนนุ่ม สัตว์เค้ียวได้ง่าย ไม่พบโรคและแมลงทาลาย ทนต่อสภาพแห้งแล้ง เติบโต ได้ดีในทุกสภาพอากาศ ทนต่อดินเปรี้ยวและดินเค็ม เหมาะสาหรับการให้สัตว์กินสดและการทาหญ้าหมัก (3) หญ้าหมัก เป็นพืชอาหารสัตว์ที่เก็บถนอมในสภาพ ความชื้นสูง และไมม่ อี อกซเิ จนเพื่อใหเ้ กิดการหมกั แบบไม่ มอี ากาศ (anaerobic fermentation) โดยเกบ็ ในภาชนะ หมักที่เรียกว่าไซโล หญ้าหมักที่ดีจะมสี ภาพเป็นกรด โดย มี pH ประมาณ 4.2 และอยู่ในรูปของกรดแลคติก 1.5-2.5% กรดอาซีติค 0.5-0.8% แต่ต้องมีกรดบิวทีลิค น้อยกว่า 0.01% มีกลิ่นหอมของกรดและแอลกอฮอล์ ไม่ มีเชื้อราหรอื จลุ ินทรยี ์ที่ตอ้ งการอากาศอ่ืน ๆ ปนอยู่ พืชท่ี เหมาะสาหรับทาหญ้าหมกั จะมีแปง้ หรือคารโ์ บไฮเดรทสูง เช่น ข้าวฟ่าง ข้าวโพด เนเปียร์ มิลเลท หญ้าขน หญ้า แพรก โดยควรตัดในระยะท่ีพืชเร่ิมติดเมล็ดไปบางส่วน แล้ว (grain filling stage) หญ้าหมักสามารถทาได้ใน สภาพท่ีอากาศช้ืน โดยไม่ต้องรอสภาพอากาศแห้ง แต่ถ้า พืชอาหารสัตว์ที่ตัดมาทาหญ้าหมักมีความชื้นสูงมากกว่า 85% ก็ทาให้เกิดการสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการโดย การร่ัวซมึ (Seepage loss) ได้ง่าย รปู ที่ 1 แปลงปลกู หญา้ เนเปียร์ (ค) ปิดภาชนะให้สนทิ เพือ่ ปอ้ งกนั อากาศเข้า

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 43 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) การศึกษาได้แก่ ความสามารถในการทางานของเครื่อง ย่อยและอัดอาหารสัตว์ อัตราการสิ้นเปลืองพลังงาน ตลอดจนการประเมินความเหมาะสมในการใช้งานทาง เศรษฐศาสตร์วิศวกรรม วธิ ีดาเนินการวิจัย (ง) หมกั หญ้าในทรี่ ่ม 3-4 สปั ดาห์ ก่อนนามาเลยี้ งสตั ว์ งานวิจัยนี้มุ่งเน้นศึกษาการทาหญ้าหมักในระดับ รูปท่ี 2 วิธที าหญ้าหมกั แบบใช้แรงงานคน เกษตรกร และการพัฒนาเคร่ืองต้นแบบเครื่องย่อยและอัด หญ้าอาหารสัตว์สาหรับเกษตรกรรายย่อย ซ่ึงมีวิธีการวิจัย ดังรายละเอียดต่อไปนี้ ออกแบบและสร้างเครอื่ งตน้ แบบ การทาหญ้าหมัก (Silage) เป็นวิธีการหน่ึงท่ีนิยม รายละเอียดในการออกแบบเคร่ืองย่อยและอัด ทากันทั่วไป เพ่ือเตรียมไว้เป็นอาหารสัตว์ในช่วงฤดูแล้ง ห ญ้ า อ า ห า ร สั ต ว์ ส า ห รั บ เ ก ษ ต ร ก ร ร า ย ย่ อ ย โ ด ย มี ซ่งึ เป็นชว่ งที่ขาดแคลนหญา้ สด ข้อดขี องการทาหญ้าหมัก ส่วนประกอบหลักได้แก่ โครงสร้างเครื่อง ช่องป้อนหญ้า คือ สามารถทาได้ทุกฤดูการ ใช้ทุกส่วนของพืชให้เป็น ชุดย่อยหญ้า ชุดอัดหญ้า ระบบต้นกาลังและระบบ ประโยชน์ และใช้พื้นท่ีในการเก็บรักษาน้อย กรรมวิธีการ ไฮดรอลิกส์ รายละเอียดในการออกแบบมดี ังน้ี หมักหญ้าในระดับเกษตรกรจะเริ่มจากการย่อยหรือสับ หญ้าด้วยมีดให้มีขนาด 2-3 เซนติเมตรและนาไปหมักใน 1. โครงสร้างเคร่ืองทาจากเหล็กฉากขนาด กระสอบหรือถุงพลาสติกโดยการอัดและมัดกระสอบให้ 1.5 น้ิว หนา 5 มิลลิเมตร นามาเชื่อมติดกันโดยมีขนาด แน่นสนิทเพ่ือไล่อากาศออกให้หมด และเป็นการป้องกัน กว้าง 500 มิลลิเมตร ยาว 900 มิลลิเมตร สูง 600 ไม่ให้อากาศและน้าเข้าถังหมัก ทาการหมักหญ้า มิลลิเมตร ใช้เหล็กกล่องขนาด 1 นิ้ว เชื่อมต่อข้ึนด้านบน 3-4 สัปดาห์หญ้าจะกลายเป็นหญ้าหมักใช้สาหรับเลี้ยง เพ่ือทาหน้าที่เป็นชุดยึดสาหรับชุดอัดหญ้า ชุดป้อนหญ้า สัตว์ได้ (รูปที่ 2) (4) ซึ่งในข้ันตอนน้ีจะใช้แรงงานคนและ และระบบส่งกาลัง เปน็ ตน้ ดงั รูปท่ี 3 ค่าใช้จ่ายสูง เพ่ือช่วยทุ่นแรง เพ่ิมความสะดวกรวดเร็วใน การทางาน ตลอดจนลดคา่ ใช้จ่ายในการทาหญา้ หมักของ รูปที่ 3 โครงสร้างเครอ่ื ง เกษตรกร จึงมีแนวคิดในการพัฒนาเคร่ืองย่อยและอัด หญ้าอาหารสัตว์สาหรับเกษตรกรรายย่อย โดยตัวเครื่อง ประกอบด้วยโครงสร้างหลักได้แก่ ชุดสาหรับป้อนหญ้า อาหารสัตว์ ชุดใบมีด ชุดถังสาหรับอัดและชุดอัดหญ้า ใช้ มอเตอร์เป็นต้นกาลังโดยปัจจัยท่ีทาการศึกษาได้แก่ ความเร็วรอบ มุมองศาของใบมีดที่เหมาะสม ค่าช้ีผล

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 44 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) ขนาดฐานยาว 400 มิลลิเมตร สูง 570มิลลิเมตร กว้าง 185 มิลลิเมตร ชุดส่งกาลังเป็นมอเตอร์ขนาด 3 แรงม้า เป็นต้นกาลัง โดยใช้พูลเลย์และสายพานขับใบมีดสาหรบั ยอ่ ยหญ้า (รปู ที่ 5) ใบมดี สาหรับย่อยหญา้ ชุดอัดหญา้ กระบอกไฮดรอลิกส์ รูปที่ 4 ชุดอัดหญ้า ชุดยอ่ ยหญา้ มอเตอรส์ ่งกาลัง (ก) ช้นิ สว่ นชุดใบมดี สาหรับย่อย (ข) ใบมดี มมุ คม 15 องศา รูปท่ี 5 ชดุ ยอ่ ยหญา้ 2. ชุดอัดหญ้าในส่วนโครงชุดอัดหญ้าประกอบ (ค) ใบมีดมุมคม 30 องศา เชื่อมติดด้วยเหลก็ แผ่นหนา 5 มลิ ลิเมตร ขนาดกว้าง 310 มิลลิเมตร ยาว 600 มิลลิเมตร สูง 310 มิลลิเมตรต่อกับ (ง) ใบมีดมมุ คม 40 องศา ชุดกระบอกไฮดรอลิกส์ และวาล์วควบคมุ ทศิ ทางการไหล รปู ท่ี 6 ช้ินส่วนชดุ ใบมดี ในชุดอัดจะมีถังอัดขนาด กว้าง 300 มิลลิเมตร ยาว 300 มิลลิเมตร สูง 300 มิลลิเมตร ก้อนหญ้าท่ีอัดได้ จะมี รูปทรงเป็นรปู ลกู บาศก์ ขนาด 300x300x300 มลิ ลเิ มตร เหมาะสาหรับเก็บรักษาเพ่ือทาเป็นหญ้าหมัก แสดง ดังรปู ท่ี 4 3. ชดุ ยอ่ ยหญา้ นาใบมดี สาหรบั ยอ่ ยหญา้ มาเชอ่ื ม ติดเข้ากับโครงและนาชุดครอบใบมีดมาเชื่อมติด โดย โครงสร้างชุดยอ่ ยหญา้ ทาจากเหล็กแผน่ หนา 3 มิลลิเมตร

Research Journal Rajamangala University of Technology Thanyaburi, Vol 18, Issue 1, 2019 45 ISSN: 1686-8420 (Print), 2651-2289 (Online) 4. ช้ินส่วนชุดใบมีด นามายึดติดกับชุดปรับองศา ตารางท่ี 1 รายละเอยี ดสว่ นประกอบของเคร่อื งย่อยและ ใบมีดและนามาประกอบกับเหลก็ แผ่นหนา 25 มิลลเิ มตร อดั หญ้าอาหารสัตว์ ยึดต่อกับเพลาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 33 มิลลิเมตร ยาว 600 มิลลิเมตร ใบมีดที่เป็นปัจจัยในการศึกษาครั้งนี้ รายการ รายละเอียด ทามมุ 15 30 และ 40 องศา ตามลาดับ แสดงดังรูปท่ี 6 1. ขนาดเคร่อื งท่ีประกอบ 675x1,080x1,138 รูปที่ 7 แสดงแบบและเคร่ืองต้นแบบเครื่องย่อย สมบูรณ์ (กว้างxยาวxสงู ) (มิลลเิ มตร) และอัดหญ้าอาหารสัตว์ ที่ได้พัฒนาข้ึน มีโครงสร้างการ ทางานที่ไม่ซับซ้อน ใช้วัสดุท่ีหาได้ง่ายในท้องถ่ิน 2. ขนาดเส้นผา่ นศูนย์กลาง 260 (มิลลเิ มตร) บารงุ รักษางา่ ย มคี วามแขง็ แรงและทนทานในการทางาน ของชุดประกอบใบมดี 120x120 (มลิ ลิเมตร) ชดุ ปอ้ นหญา้ 3. ขนาดช่องป้อนหญา้ 300x300x300 4. กล่องอัดหญา้ (มลิ ลเิ มตร) ชดุ ย่อยหญา้ (กวา้ งxยาวxสงู ) (1) แบบเครือ่ งยอ่ ยและอัดหญา้ อาหารสตั ว์ ดว้ ย โปรแกรมด้าน CAD ผลการออกแบบเครื่องย่อยและอัดหญ้าอาหาร ชุดป้อนหญา้ สัตว์สาหรับเกษตรกรรายย่อย สรุปได้ดังนี้ ตัวเคร่ืองแบ่ง ออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ชุดย่อยหญ้าเนเปียร์และชุดอัด ชดุ อัดหญ้า หญ้า ต้นกาลังในการทางานเลือกใช้มอเตอร์ขนาด (2) เครือ่ งต้นแบบเครอื่ งย่อยและอัดหญ้าอาหารสตั ว์ 3 แรงมา้ สง่ กาลงั ไปยังชดุ ใบมีดโดยใช้พูลเลย์และสายพาน รปู ท่ี 7 แบบและเครือ่ งตน้ แบบเครื่องยอ่ ยและอดั หญา้ ชุดใบมีดย่อยหญ้ามีจานวน 4 ใบ ใบมีดทาจากวัสดุชนิด เหล็กชุบแข็ง HRC 60-61 ส่วนชุดอัดหญ้าเป็นรูปทรง อาหารสตั ว์ ส่ีเหล่ียมลูกบาศก์ สามารถอัดได้ก้อนหญ้าหมักน้าหนัก 20 กิโลกรัมต่อหนึ่งก้อน ชุดอัดหญ้าประกอบด้วย กระบอกไฮดรอลิกส์ วาล์วควบคุมทิศทางการไหล และ ป้ัมไฮดรอลิกส์ หลักการทางานของเครื่องย่อยและอัด หญ้าอาหารสัตว์เริ่มจาก นาหญ้าเนเปียร์ป้อนใส่ในชุด ป้อนหญ้า หญ้าจะถูกย่อยออกมาเป็นช้ินและจะถูกปัด ด้วยครีบปัดหญ้าที่ย่อยแล้วลงสู่ถังอัด ระบบไฮดรอสคิ จะ ทาการอัดหญ้าจนเต็มถังให้ได้น้าหนัก ประม าณ 20 กิโลกรัม นาหญ้าท่ีอัดเป็นก้อนทรงส่ีเหล่ียมลูกบาศก์ ออกมัดปากถุงหรือซีลให้แน่นเพื่อป้องกันน้าและอากาศ เข้า และนาไปหมักเก็บไว้ 3-4 สัปดาห์ หญ้าจะกลายเป็น หญ้าหมักใชส้ าหรบั เลยี้ งสัตว์ได้ รายละเอียดสว่ นประกอบ ท่สี าคัญแสดงในตารางท่ี 1