Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการบรรยาย (โอทอปสัญจร)

เอกสารประกอบการบรรยาย (โอทอปสัญจร)

Published by IRD RMUTT, 2019-11-03 05:26:35

Description: เอกสารประกอบการบรรยาย (โอทอปสัญจร)

Search

Read the Text Version

ผลติ ภณั ฑ์ OTOP ที่ไมไ่ ดร้ ับรองมาตรฐานและการแกป้ ญั หา ผลิตภัณฑจ์ กั สาน ปญั หาทพี่ บ  เกดิ เชือ้ ราในผลิตภัณฑ์จกั สาน  ความเรยี บรอ้ ยของผลิตภัณฑ์ แนวทางการแก้ปญั หา  เทคโนโลยกี ารปอ้ งกนั เชอื้ ราใน ผลิตภณั ฑ์จักสาน  เทคนคิ การย้อมสีธรรมชาติใน ผลติ ภณั ฑ์จกั สาน กระดาษ หตั ถกรรม

ผลติ ภัณฑ์ OTOP ที่ไม่ได้รบั รองมาตรฐานและการแก้ปญั หา ผลติ ภณั ฑ์เซรามิก ปัญหาท่ีพบ  ผลิตภณั ฑม์ ปี ญั หาด้านลกั ษณะ ท่วั ไปบิดเบ้ยี ว การรว่ั ซืม การดูดซมึ นํา้ สีและลวดลายไมส่ มา่ํ เสมอ แนวทางการแกป้ ญั หา  นําผลงานวจิ ยั พัฒนาด้านเทคโนโลยกี ารผลติ เซรามิกไปถา่ ยทอดให้แกผ่ ปู้ ระกอบการ OTOP ทําการพฒั นาปรับปรุงกระบวนการ ผลิตใหด้ ีขน้ึ และพัฒนาผลิตภณั ฑ์ใหมใ่ หม้ ี มลู ค่าเพิม่ ทําใหผ้ ลิตภณั ฑ์เซรามกิ มคี ณุ ภาพ และไดม้ าตรฐาน

ผา้ และเครื่องแตง่ กาย

ผลติ ภณั ฑ์ OTOP ทไ่ี ม่ได้รับรองมาตรฐานและการแกป้ ญั หา ผา้ ทอ ปัญหาทีพ่ บ  ความคงทนและสมาํ่ เสมอของสียอ้ มผา้  ความเป็นกรด-ดา่ ง เม่อื ยอ้ มด้วยสีธรรมชาติ  การใช้ผงยอ้ มสสี งั เคราะหแ์ ละด้ายสี สําเรจ็ รูปทีไ่ มไ่ ด้มาตรฐานและไมป่ ลอดภัย แนวทางการแกป้ ญั หา  นําองคค์ วามรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปประยุกตใ์ ช้ เพ่ือพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ใหไ้ ด้ มาตรฐานทง้ั ด้านคณุ ภาพและความปลอดภัย  แก้ปัญหาเรือ่ งความเปน็ กรด-ด่าง การ ย้อมสีใหต้ ดิ ทน และถ่ายทอดเทคโนโลยกี าร บําบดั นาํ้ เสียจากสยี ้อม

ตวั อย่างผลิตภณั ฑ์ OTOP ทไ่ี ดร้ บั การพัฒนาและรบั รองมาตรฐาน มผช. ประเภทอาหารและเครอื่ งดื่ม กะหรีพ่ ฟั ไข่เคม็ วิสาหกิจชมุ ชนไข่ ไวนผ์ ลไม้ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มขนมไทยบา้ นนาโพธ์ิ เคม็ หอมแม่สมศรี กลมุ่ ผลติ อาหารและ เครื่องด่มื บ้านนายม

ตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑ์ OTOP ทไ่ี ดร้ ับการพัฒนาและรบั รองมาตรฐาน มผช. ประเภทของใช้ ของประดบั ตกแต่ง และของที่ระลกึ ผลิตภณั ฑจ์ ากเสื่อกก กลมุ่ ทอเส่ือกก กลุม่ เครอื่ งปั้นดนิ เผาบ้านกลาง

ตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑ์ OTOP ทไ่ี ดร้ บั การพฒั นาและรับรองมาตรฐาน มผช. ประเภทผา้ และแต่งกาย กลุ่มผ้ปู ระกอบการผ้าทอ กลมุ่ แม่บา้ นเกษตรกรชุมชนถนนงาม ภไู ท รุณณี (ผ้าไหมมดั หม)ี่

ตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑ์ OTOP ทไี่ ด้รบั การพฒั นาและรับรองมาตรฐาน มผช. ประเภทสมนุ ไพรท่ีไมใ่ ช่อาหาร สบู่สมุนไพร แชมพูสมุนไพร กล่มุ บา้ น ครมี ขดั ผิวสมนุ ไพร กลมุ่ กาญจนา วิสาหกจิ ชุมชนแปรรูป เทวนิ ทร์สมนุ ไพร สมุนไพรไทย สมุนไพรนครหงส์

ตวั อยา่ งนวตั กรรมของกรมวิทยาศาสตรบ์ รกิ าร

อาหารและเคร่อื งด่มื

ตวั อยา่ งนวตั กรรมของกรมวิทยาศาสตรบ์ ริการ การแปรรปู ไขเ่ ค็มดว้ ยวธิ ซี ูสวดี (Sous- Vide) เป็ นวธิ กี ารทําใหอ้ าหารสกุ โดยการควบคมุ อณุ หภมู นิ ้ําภายใตส้ ภาวะ สญุ ญากาศ เพอื่ ชว่ ยในการคงรักษาความชนื้ และลดระยะเวลาในการแปรรปู ไข่ เค็มเหลอื เพยี ง 16 ชวั่ โมง ถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารแปรรปู ไขเ่ ค็มดว้ ยวธิ ี Sous - Vide ใน หลกั สตู รการพัฒนาผลติ ภณั ฑอ์ าหารโดยใชศ้ าสตรก์ ารปรงุ อาหารแนวใหม่ : Molecular Gastronomy ใหแ้ กผ่ ปู ้ ระกอบการ OTOP จังหวดั พัทลงุ และจังหวดั ตรัง ระหวา่ งวนั ท่ี 12 - 13 กมุ ภาพันธ์ 2562 ณ สํานักงานอตุ สาหกรรมจังหวดั พัทลงุ

ตวั อยา่ งนวัตกรรมของกรมวิทยาศาสตรบ์ รกิ าร การผลติ เครอื่ งดม่ื นํา้ หวั ปลผี สมสมนุ ไพร พัฒนาสตู รผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งดมื่ น้ําหวั ปลผี สมสมนุ ไพรพรอ้ มดม่ื โดยเพมิ่ สว่ นผสมของพชื ผักสมนุ ไพรทมี่ ปี ระโยชน์ เชน่ ขงิ กระชาย และกานพลู ฯลฯ ให ้ เป็ นเครอื่ งดม่ื ทเี่ หมาะสําหรับคณุ แมท่ เ่ี พง่ิ คลอดบตุ รและผบู ้ รโิ ภคทกุ เพศทกุ วยั ทรี่ ัก สขุ ภาพ โดยพัฒนาผลติ ภณั ฑใ์ หม้ คี ณุ ภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสขุ ฉบบั ท่ี 356 พ.ศ. 2556 เรอ่ื ง เครอื่ งดม่ื ในภาชนะบรรจปุ ิดสนทิ ซง่ึ ผลติ ภณั ฑด์ งั กลา่ วได ้ ผา่ นกระบวนการฆา่ เชอื้ ดว้ ยความรอ้ นทําใหม้ อี ายกุ ารเกบ็ รักษาไมน่ อ้ ยกวา่ 1 ปี และ มแี คลเซยี มสงู ถงึ รอ้ ยละ 2 ถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารผลติ ใหแ้ กบ่ รษิ ัท อคี อน แก็ค พลัส จํากดั อําเภอ เมอื งอดุ รธานี จังหวดั อดุ รธานี ภายใตโ้ ครงการคปู องวทิ ยเ์ พอ่ื OTOP ปีงบประมาณ 2562

ตวั อย่างนวัตกรรมของกรมวิทยาศาสตรบ์ รกิ าร การผลติ ปลาสม้ เพอื่ ลดการปนเป้ื อนเชอื้ จลุ นิ ทรยี ์ พัฒนากระบวนการผลติ ปลาสม้ โดยใชเ้ ทคนคิ ลดการปนเปื้อน เชอ้ื จลุ นิ ทรยี ์ เชน่ Salmonella spp. Bacillus cereus Staphylococcus aureus Clostridium perfringens และ Escherichia coli เป็ นตน้ โดยใชส้ ารละลายน้ําเกลอื และนํ้าสม้ สายชใู นการลดปรมิ าณเชอื้ เรมิ่ ตน้ เพอ่ื ควบคมุ คณุ ภาพผลติ ภณั ฑป์ ลาสม้ ใหไ้ ดม้ าตรฐาน และมี ความปลอดภยั ตอ่ ผบู ้ รโิ ภค

ตวั อย่างนวัตกรรมของกรมวทิ ยาศาสตรบ์ ริการ ท็อปป้ิ ง มะมว่ งหาวมะนาวโห่ มะมว่ งหาวมะนาวโห่ มะมว่ งหาวมะนาวโห่ แชอ่ มิ่ อบแหง้ เชอื่ มอบแหง้ ผลติ ภณั ฑแ์ ปรรปู จากมะมว่ งหาวมะนาวโห่ พัฒนาผลติ ภณั ฑแ์ ปรรปู จากมะมว่ งหาวมะนาวโหใ่ หเ้ ป็ น ผลติ ภณั ฑเ์ พอ่ื การผลติ เชงิ พาณชิ ย์ ไดแ้ ก่ ท็อปป้ิงมะมว่ งหาวมะนาวโห่ ลดปรมิ าณน้ําตาล มะมว่ งหาวมะนาวโหแ่ ชอ่ ม่ิ อบแหง้ และมะมว่ งหาว มะนาวโหเ่ ชอ่ื มอบแหง้ โดยไมใ่ ชว้ ตั ถกุ นั เสยี ถา่ ยทอดเทคโนโลยใี หแ้ กก่ ลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชนกลมุ่ แมบ่ า้ น เกษตรกรสวนหลวงสามัคคี อําเภออมั พวา จังหวดั สมทุ รสงคราม วนั ที่ 7 มถิ นุ ายน 2562 ภายใตโ้ ครงการคปู องวทิ ยเ์ พอื่ OTOP ปีงบประมาณ 2562

ตวั อย่างนวตั กรรมของกรมวทิ ยาศาสตรบ์ รกิ าร นํา้ พรกิ ปลาทสู บั ปะรด และการยดื อายกุ ารเก็บรกั ษา พัฒนาผลติ ภณั ฑโ์ ดยใชส้ บั ปะรดเป็ นสว่ นผสมในน้ําพรกิ ปลาทเู พอ่ื เป็ นอตั ลกั ษณข์ องชมุ ชน และยดื อายกุ ารเกบ็ ผลติ ภณั ฑน์ ํ้าพรกิ ปลาทู สบั ปะรด จากเดมิ สามารถเกบ็ ไดท้ อ่ี ณุ หภมู หิ อ้ งเพยี ง 3 วนั ใหส้ ามารถเก็บ ทอี่ ณุ หภมู หิ อ้ งใหไ้ ดน้ าน 2 - 3 เดอื น โดยไมเ่ ตมิ วตั ถกุ นั เสยี ถา่ ยทอดเทคโนโลยใี หแ้ กก่ ลมุ่ สามรอ้ ยยอดฮอลเิ ดย์ อ.สามรอ้ ย ยอด จ.ประจวบครี ขี นั ธ์ ภายใตโ้ ครงการคปู องวทิ ยเ์ พอื่ OTOP ปีงบประมาณ 2562

ตวั อยา่ งนวตั กรรมของกรมวิทยาศาสตร์บรกิ าร การแปรรปู เสน้ กว๋ ยเตย๋ี วจากผลกระเจยี๊ บเขยี ว การนําองคค์ วามรทู ้ างดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นกระบวนการผลติ โดยการสกดั เมอื กจากผลกระเจ๊ ยี บเขยี ว เพอ่ื นํามาแปรรปู เป็ นผลติ ภณั ฑเ์ สน้ กว๋ ยเตย๋ี ว ถา่ ยทอดเทคโนโลยใี หก้ บั โครงการหมบู่ า้ นตน้ แบบการแปรรปู ผลผลติ เกษตรอนิ ทรยี แ์ บบชมุ ชนมสี ว่ นรว่ ม ระหวา่ งวนั ที่ 12 - 13 กรกฎาคม 2562 ณ ศนู ยก์ ลางเรยี นรปู ้ รัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งบา้ นมา่ หนกิ ต.ศรสี นุ ทร อ.ถลาง จ.ภเู กต็ ภายใตก้ ารบรู ณาการรว่ มกบั ทางคลนิ กิ เทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ภเู ก็ต

ตวั อยา่ งนวตั กรรมของกรมวทิ ยาศาสตรบ์ ริการ ผงเครื่องแกงสม้ กึง่ สาํ เรจ็ รูป วศ. ได้นําเทคโนโลยกี ารทําแห้งแบบลกู กล้ิง (Drum drying) เปน็ การระเหยนํา้ ออกจากอาหารทม่ี ี ความหนืดสูงซง่ึ อาจอยใู่ นรปู เจลสเลอรี่ (Slurries) หรือ ซุปข้น (Purees) ซง่ึ สามารถจับเป็นแผ่นฟิลม์ บางๆ รอบลกู กลิ้งได้ เพื่อใหไ้ ดผ้ ลิตภณั ฑส์ ดุ ท้ายมีลักษณะ เป็นเกลด็ หรอื แผ่นเล็กๆ การทําแหง้ ดว้ ยเครือ่ งทาํ แห้ง แบบลกู กลง้ิ เป็นการทาํ แห้งแบบต่อเนือ่ ง สามารถผลิต ได้เปน็ จํานวนมาก ใชเ้ วลาไม่นาน และผลติ ภณั ฑท์ ่ีได้มี คณุ ภาพดี

ตวั อยา่ งนวตั กรรมของกรมวทิ ยาศาสตร์บรกิ าร ครมี เทยี มผง วศ. ไดศ้ กึ ษาทดลองผลติ ภัณฑค์ รีมเทยี มท่ี ปราศจากกรดไขมนั ชนิดทรานส์ ประกอบดว้ ยการศึกษาจดุ หลอมเหลวของนา้ํ มันผสมระหว่างไขมันปาลม์ สเตยี รนิ กบั นํา้ มันปาลม์ โอเลอนิ ซงึ่ ใชเ้ ป็นสว่ นประกอบของอมิ ลั ชนั ครมี เทยี มดว้ ยวธิ ี melting point capillary tube method (AOC S, 2010) ศึกษาความคงตวั ของอมิ ัลชนั และนําอมิ ลั ชันมาผลติ ครมี เทยี มชนิดผงด้วยเครอื่ งอบแห้งแบบพน่ ฝอยโดยใชอ้ ณุ หภมู ิ ลมเข้า 180 องศาเซลเซียส อณุ หภูมลิ มออก 100 องศา เซลเซียส พบวา่ ครีมเทียมชนิดผงสตู รทดลองมปี รมิ าณกรด ไขมันชนิดทรานส์ต่ํากว่าครมี เทยี มชนิดผงทางการค้าประมาณ 40 เท่า และมีกรดไขมนั ชนดิ ทรานส์ตาํ่ กวา่ 0.5 กรมั ต่อหน่วย บรโิ ภค หรอื ถือว่าปราศจากกรดไขมันชนดิ ทรานส์

ของใช้ ของประดับตกแต่ง และของทรี่ ะลึก

ตวั อย่างนวัตกรรมของกรมวทิ ยาศาสตรบ์ ริการ ผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งประดบั จากเสน้ ใยพชื การทําใหเ้ สน้ ใยมคี วามออ่ นนุ่มและไมเ่ กดิ เชอ้ื ราในผลติ ภณั ฑ์ เครอื่ งประดับจากเสน้ ใยพชื โดยนําเสน้ ใย ไดแ้ ก่ กา้ นผักตบชวา กา้ น กลว้ ย และตน้ ข่า ทผี่ ่านการตากแหง้ มาปรับสภาพเสน้ ใย โดยเขา้ สู่ กระบวนการผลติ ดว้ ยเทคโนโลยีการทําใหเ้ สน้ ใยอ่อนนุ่ม และการ ป้ องกันเชอื้ รา จากนัน้ นําเสน้ ใยมาถักรอ้ ยผสมผสานกับวัสดุชนิดอนื่ ผลติ เป็ นเครอ่ื งประดบั จากเสน้ ใยธรรมชาติ เชน่ สรอ้ ยคอ กําไล

ตวั อยา่ งนวตั กรรมของกรมวิทยาศาสตร์บริการ การยอ้ มเสน้ ใยกกดว้ ยสธี รรมชาติ เสน้ ใยกกตดิ สคี อ่ นขา้ งยาก เนอื่ งจากผวิ ของเสน้ ใยกกถกู เคลอื บดว้ ย สารธรรมชาติ จงึ ตอ้ งมกี ระบวนการปรับใหผ้ วิ ของเสน้ ใยกกสามารถดดู ซบั สี ธรรมชาตใิ หต้ ดิ ไดอ้ ยา่ งสมํา่ เสมอ สสี วยงาม วศ. จงึ ทําการศกึ ษาวจิ ัยจนไดว้ ธิ กี ารยอ้ มสธี รรมชาตจิ ากไมฝ้ าง ขมน้ิ ชนั และผงคราม เพอื่ ใหไ้ ดส้ แี ดง สเี หลอื ง และสนี ้ําเงนิ ซงึ่ เป็ นสขี อง แมส่ ี ดว้ ยกระบวนการทเี่ ร็วขนึ้ ภายใน 1 วนั และใหเ้ ฉดสที ช่ี ดั เจน

ตวั อย่างนวัตกรรมของกรมวทิ ยาศาสตรบ์ ริการ ผลิตภณั ฑก์ ่อนการตกแต่ง ผลติ ภณั ฑ์หลงั การตกแตง่ การตกแตง่ สลี ายหนิ ออ่ นสาํ หรบั ผลติ ภณั ฑเ์ นอ้ื ดนิ แดง เครอื่ งปัน้ ดนิ เผาเนอื้ ดนิ แดง เชน่ หมอ้ น้ํา แจกนั และผลติ ภณั ฑ์ ตกแตง่ สวน สว่ นใหญเ่ ป็ นผลติ ภณั ฑท์ ไ่ี มม่ กี ารตกแตง่ ลวดลาย แต่ เนอ่ื งจากความไมส่ มํา่ เสมอของความรอ้ นระหวา่ งการเผาดว้ ยเตาฟืนท่ี อณุ หภมู ิ 800 องศาเซลเซยี ส จงึ สง่ ผลใหส้ ขี องผลติ ภณั ฑห์ ลงั เผาไม่ สมํา่ เสมอ วศ. จงึ ไดพ้ ัฒนาเทคนคิ การตกแตง่ สผี ลติ ภณั ฑ์ เพอ่ื นําผลติ ภณั ฑ์ ทมี่ สี ขี องผลติ ภณั ฑห์ ลงั เผาไมส่ มํา่ เสมอมาตกแตง่ ใหส้ วยงาม เป็ นการลด ของเสยี จากกระบวนการผลติ และเพม่ิ มลู คา่ ผลติ ภณั ฑ์

ตวั อยา่ งนวตั กรรมของกรมวิทยาศาสตร์บริการ ตกแตง่ สลี ายไมด้ ว้ ยเทคนคิ Swirl Colour เพน้ ทส์ ลี ายธรรมชาตดิ ว้ ยเทคนคิ swirl colors เป็ นการใชส้ นี ้ํามันหรอื สที สี่ ามารถลอยเหนอื ผวิ นํ้าได ้ มา ตกแตง่ ใหไ้ ดล้ วดลายตามตอ้ งการ ไมว่ า่ จะเป็ น ลายหนิ ลายไม ้ ฯลฯ ลงบนผวิ นํ้าหลงั จากนัน้ นําผลติ ภณั ฑท์ ี่ ทาสรี องพน้ื ดว้ ยสอี ะครลิ คิ มาชบุ สลี งบนผวิ นํ้า โดย ลวดลายทเี่ กดิ จากการชบุ สดี ว้ ยเทคนคิ swirl colors จะไดล้ วดลายทมี่ คี วามเป็ นธรรมชาตแิ ละสามารถ ทําไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ซงึ่ เป็ นการสง่ เสรมิ ใหผ้ ลติ ภณั ฑม์ ี มลู คา่ เพม่ิ ขน้ึ โดยคํานงึ ถงึ การผลติ และการใชว้ สั ดทุ หี่ า ไดง้ า่ ยในทอ้ งตลาดเพอื่ สะดวกในการผลติ

สมนุ ไพรที่ไมใ่ ช่อาหาร

ตวั อยา่ งนวตั กรรมของกรมวทิ ยาศาสตรบ์ ริการ ผลติ ภณั ฑส์ บเู่ หลวดว้ ยเทคนคิ สปอนนฟิ ิ เคชนั สบเู่ หลวธรรมชาติ เป็ นอกี ทางเลอื กสําหรับผบู ้ รโิ ภคทร่ี ักสขุ ภาพท่ี ไดร้ ับความนยิ มมากขนึ้ เพราะเป็ นสบทู่ ผ่ี ลติ ดว้ ยเทคนคิ สปอนนฟิ ิเคชนั ไม่ มสี ว่ นผสมของสารชาํ ระลา้ งทไี่ ปทําลายนํ้ามันตามธรรมชาตบิ นผวิ หนัง จงึ ชว่ ยรักษาความชมุ่ ชนื้ บนผวิ ได ้ มคี ณุ สมบตั เิ ป็ นไปตามทมี่ าตรฐานผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน (มผช.) กําหนด คอื เนอื้ ผลติ ภณั ฑต์ อ้ งเป็ นของเหลวเนอื้ เดยี วกนั ไมแ่ ยกชนั้ สสี มํา่ เสมอ ไมม่ สี งิ่ แปลกปลอม มปี รมิ าณรอ้ ยละของปรมิ าณไฮดรอกไซดอ์ สิ ระ ไมเ่ กนิ 0.05 ปรมิ าณจลุ นิ ทรยี ไ์ มเ่ กนิ คา่ ทกี่ ําหนด ความเป็ นกรด-ดา่ งอยใู่ นชว่ งท่ี ยอมรับไดแ้ ละผลติ ภณั ฑม์ คี วามคงสภาพทดี่ ี ไมเ่ สอื่ มสภาพเมอื่ มกี าร เปลยี่ นแปลงของอณุ หภมู ิ

ตวั อย่างนวัตกรรมของกรมวิทยาศาสตร์บริการ เครอ่ื งสาํ อางโปรตนี ไหมเพ่ือการบาํ รุงผิว วศ. ได้ดําเนินการศึกษาวิธีการสกัดโปรตีนจาก รังไหม โดยใช้สารละลายด่างซ่ึงเป็นวิธีที่ปลอดภัย ง่าย สะดวก ช่วยย่อยโปรตีนกาวไหมให้มีขนาดเล็กลง แล้ว นําไปวิเคราะห์หาปริมาณโปรตีน พบว่ารังไหมสีเหลืองมี ปริมาณโปรตีนสูงกว่ารังไหมสีขาว โดยโปรตีนจากรังไหม มีคุณสมบัติท่ีดีต่อผิวพรรณและเส้นผม เนื่องจาก ประกอบด้วยกรดอะมิโนท่ีมีความสามารถดูดซับน้ําได้ดี สามารถจับกับโปรตีนของผิวหนัง และเส้นผม สร้างเป็น ฟิลม์ ปอ้ งกันและเกบ็ ความช้ืนได้เป็นอย่างดี ทําให้ผิวชุ่มช้ืน และอ่อนนุ่ม ช่วยให้ความชุ่มช้ืน ต้านร้ิวรอย ต้านอนุมูล อิสระ ป้องกันรังสยี ูวี

ผา้ และเครื่องแตง่ กาย

ตวั อยา่ งนวตั กรรมของกรมวิทยาศาสตร์บรกิ าร เสน้ ใยหลายสจี ากรงั ไหม วศ. ได้วิจัยนวัตกรรมเส้นใยหลายสีจากรังไหม เนอ่ื งจากเกษตรกรผ้เู ล้ยี งไหมมีจาํ นวนรังไหมท่ีเหลือจากข้ันตอน การผลิตเส้นไหมจํานวนมาก ซ่ึงรังไหมเหลือทิ้งนี้สามารถใช้ เทคโนโลยีมาพัฒนาการผลิตผ่านกระบวนการดึง ยืด ตีเกลียว เพ่ือทําเป็นไหมพรมออแกนิค และการย้อมสีธรรมชาติด้วย เทคนิคการย้อมเส้นใยหลายสี เส้นใยนุ่มตามธรรมชาติ ปลอดภัย ลักษณะหลายสีแตกต่างจากท่ีมีในตลาดทั่วไป เป็นการใช้วัตถุดิบทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า ช่วยยกระดับ ฝีมอื การผลิตทําใหไ้ ดผ้ ลติ ภัณฑใ์ หมเ่ พมิ่ รายไดใ้ หเ้ กษตรกร

ตวั อย่างนวัตกรรมของกรมวทิ ยาศาสตรบ์ ริการ กระดาษจากเศษผา้ วศ. ได้วิจัยเพื่อพัฒนาสภาวะในการ เตรียมนาํ้ เย่อื ในการผลิตกระดาษจากเศษผ้า และ การผลิตกระดาษหัตถกรรมจากปอสาด้วยการ ผสมกับเศษผ้า ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาวัสดุเหลือ ใช้จากอุตสาหกรรมส่ิงทอและเคร่ืองนุ่งห่ม และ เป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมเย่ือและกระดาษ ได้ ผลิตภัณฑ์ใหม่ และสร้างรายได้ให้กับชุมชนและ ประเทศชาตติ ่อไปดว้ ย

ตวั อย่างนวตั กรรมของกรมวทิ ยาศาสตร์บรกิ าร ระบบบําบัดนา้ํ เสียจากการย้อมสี วศ. จงึ ได้ศึกษาการบําบัดน้ําเสียและออกแบบระบบบําบัด เสียอย่างง่ายสําหรับการย้อมสี โดยเป็นระบบบําบัดด้วยวิธีการ ตกตะกอนด้วยสารเคมี มี 2 ขนาด คือ 50 ลิตร และ 200 ลิตร ระบบ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนตกตะกอน และส่วนกรองตะกอน ซ่ึงมีประสิทธิภาพการบําบัดมากกว่าร้อยละ 90 สามารถใช้สารเคมี ในการตกตะกอนได้หลากหลายชนิด เป็นระบบท่ีสามารถ ถอดประกอบได้ เคล่ือนย้ายได้ น้ําหนักเบา สร้างข้ึนใช้งานเองได้ ด้วยวัสดุท่ีสมารถหาได้ในท้องถิ่น เพื่อลดผลกระทบของนํ้าเสียจาก ข้ันตอนการย้อม อันจะนําไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับ สิ่งแวดลอ้ ม

ขอบคุณ กรมวทิ ยาศาสตร์บรกิ าร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ท่อี ยู่ 75/7 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 Website www.dss.go.th โทรศัพท์ 02 2017056 02 201 7336

อภิปราย เรอ่ื ง “ยกระดับ OTOP ดว้ ย วทน. อย่างไร” ** การพฒั นาบรรจุภัณฑ์ ** วันพธุ ท่ี 6 พฤศจิกายน 2562 โดย ดร. ศริ ิวรรณ ตั้งแสงประทีป นกั วจิ ยั อาวโุ ส สถาบนั วิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งประเทศไทย (วว.) วนั พฤหสั บดี ท่ี 7 พฤศจกิ ายน 2562 โดย ดร.เพ็ญโฉม พจนธารี นักวิจยั สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย (วว.)

ยกระดบั OTOP ดวย วทน.อยา งไร : การพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ ดร.ศริ วิ รรณ ตั้งแสงประทปี ดร.เพญ็ โฉม พจนธารี ศูนยก ารบรรจุหีบหอ ไทย สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยีแหง ประเทศไทย กิจกรรมสรา งความรูความเขาใจในการพัฒนา OTOP ดว ย วทน. (กจิ กรรม OTOP สัญจร) 6-7 พฤศจิกายน 2562 จังหวัดฉะเชิงเทรา

ยกระดับ OTOP ดวย วทน.อยา งไร : การพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ 1. มปี รมิ าณการสงั่ ซอื้ บรรจภุ ณั ฑส ม่ําเสมอ และส่ังซ้อื ปรมิ าณมากในแตละครงั้ 2. มปี ริมาณการสง่ั ซอ้ื บรรจภุ ณั ฑไมแนนอน และสงั่ ซื้อปรมิ าณคอนขา งต่ําในแตล ะคร้งั สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยีแหง ประเทศไทย

ยกระดบั OTOP ดวย วทน.อยา งไร : การพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ กอ นการพัฒนา หลังการพัฒนา สถาบนั วิจัยวิทยาศาสตรและเทคโนโลยแี หง ประเทศไทย

ยกระดบั OTOP ดวย วทน.อยา งไร : การพฒั นาบรรจภุ ณั ฑ กอ นการพัฒนา หลังการพัฒนา สถาบนั วิจัยวิทยาศาสตรและเทคโนโลยแี หง ประเทศไทย

ภาพประกอบในการนําเสนอครง้ั นี้อาจมลี ิขสิทธ์ิ ใชเ พอื่ การศกึ ษาเทา น้ัน THANK YOU

สถาบันวจิ ยั และพัฒนา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี โทรศัพท์ : 02-549-4682 , โทรสาร : 02-549-4680 สถาบนั วิจัยและพัฒนา ชั้น 5 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เลขที่ 39 หมทู่ ี่ 1 ถ.รงั สิต-นครนายก ต.คลองหก อ.ธัญบรุ ี จ.ปทุมธานี 12110 เว็บไซต์ : www.ird.rmutt.ac.th


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook