บทที่ 1ความรู้ทั่วไป-New

บทที่ 1 LOGO ความรู้เบื้องต้นเกยี่ วกบั การเงนิ ธุรกจิ (INTRODUCTION TO BUSINESS FINANCE)

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ บทเรียนวิชา การเงินธุรกิจ สาหรับบทเรียนแรก จะเป็ นการปูพืน้ ฐานเพ่ือให้ทราบถงึ 1. วตั ถุประสงค์ของการบริหารการเงนิ 2. บทบาทของผู้บริหารทางการเงนิ 3. หน้าทแี่ ละความรับผดิ ชอบของผู้บริหารการเงนิ 4. คุณสมบตั ขิ องนักการเงนิ 5. รูปแบบขององค์กรธุรกจิ และหลงั จากศึกษาในบทเรียนนีจ้ บแล้วนักศึกษาต้องสามารถ 1. เพื่อให้เข้าใจวตั ถุประสงค์ของการบริหารการเงนิ 2. เพ่ือให้เข้าใจบทบาทของผู้บริหารการเงนิ 3. เพ่ือให้สามารถอธิบายหน้าทขี่ องการบริหารการเงนิ 4. เพ่ือทราบถงึ คุณสมบตั ิทจ่ี ะเป็ นประโยชน์ในการเป็ น นักการเงนิ ทม่ี คี วามสามารถสูง 5. สามารถระบุรูปแบบขององค์กรธุรกจิ

ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั การเงนิ ธุรกจิ เนื้อหา (Concept) 1. วตั ถุประสงค์ของการบริหารการเงนิ 2. รูปแบบขององค์กรธุรกจิ 3. บทบาทของผู้บริหารทางการเงนิ 4. สภาพแวดล้อมทางการเงนิ

ความสาคญั ของการบริหารการเงนิ การดาเนินธุรกจิ ใด ๆ น้ันจาเป็ นจะต้องใช้เงินทุนในการดาเนินงานท้ังสิ้น เพราะ เงินเปรียบเสมือนเคร่ืองหล่อลื่นให้ประสบกับความสาเร็จ ธุรกิจก็ต้องใช้เงินทุน ดังน้ันใน การดาเนินงานใด ๆ ของธุรกิจ ผู้บริหารทางการเงินมักต้องเข้าไปเกี่ยวข้องเสมอ เพราะ ผู้บริหารทางการเงินมีบทบาทสาคัญท่ีจะตัดสินใจว่าแผนการดาเนินงานใดสามารถปฎบิ ัติ ได้ นอกจากน้ันผู้บริหารทางการเงินจะต้องคอยติดตามผลการปฎิบัติงานว่าเป็ นไปตาม เป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ สาหรับวิชาการเงินธุรกิจ จะเน้นการศึกษาบทบาทและความสาคัญของ “เงินทุน (money)” ท่ีมีต่อองค์กร หลักการบริหารเงินทุน บทบาทท่ีสาคัญของผู้บริหาร การเงินขององค์กรแต่ละรูปแบบ นอกจากนี้ผู้บริหารยังต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วย ซ่ึงถือเป็ นจุดเริ่มต้นของการบริหารการเงนิ เลยทีเดยี ว

เป้าหมายของการบริหารการเงนิ เป้าหมายของการบริหารธุรกจิ คือ เพ่ือให้ได้กาไรสูงสุด เป้าหมายของการบริหารการเงนิ คือ ความมง่ั คง่ั สูงสุดของผ้ถู ือหุ้น กล่าวคือ การทาให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์สูงสุดซึ่งประโยชน์หรือ ผลตอบแทนสูงสุดท่ีผ้ถู ือหุ้นต้องการ ได้แก่ ราคาตลาดของหุ้นสามญั สูงสุด

เป้าหมายของการบริหารการเงิน เป้าหมายของการบริหารธุรกจิ คือ เพ่ือให้ได้กาไรสูงสุด เป้าหมายของการบริหารการเงนิ คือ ความมงั่ คง่ั สูงสุดของผู้ถือหุ้น กล่าวคือ การทาให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งประโยชน์หรือ ผลตอบแทนสูงสุดทผี่ ้ถู ือหุ้นต้องการ ได้แก่ ราคาตลาดของหุ้นสามญั สูงสุด

อทิ ธิพลต่อราคาตลาดหุ้นสามญั 1. เงนิ ปันผล 2. ความเส่ียง 3. กาไรจากการจาหน่ายหุ้น

รูปแบบของธุรกจิ และภาษอี ากรธุรกจิ ในการจัดต้งั องค์กรธุรกจิ สามารถจดั ต้ังได้หลายรูปแบบด้วยกนั ขึน้ อยู่กบั ขนาดของธุรกจิ ลกั ษณะและขนาดของเงนิ ทุน หรือขอบข่าย ความต้องการในการบริหารงานของเจ้าของกจิ การ โดยแต่ละรูปแบบจะ มขี ้นั ตอนการจัดต้งั ลกั ษณะองค์กรตลอดจนข้อดแี ละข้อเสียแตกต่างกนั ซ่ึงในท่ีนีจ้ ะกล่าวถงึ รูปแบบขององค์กรธุรกจิ ทส่ี าคญั 3 รูปแบบคือ 1. กจิ การเจ้าของคนเดยี ว ( Sole Proprietorship) 2. ห้างหุ้นส่วน (Partnership) 3. บริษัทจากดั (Corporation)

กจิ การเจ้าของคนเดยี ว (Sole Proprietorship) แหล่งเงนิ ทุนในส่วนของเจ้าของกจิ การจะได้มาจากเจ้าของกจิ การเพยี งคนเดยี ว เท่าน้ัน ดงั น้ันจึงเหมาะสาหรับกจิ การขนาดเลก็ โครงสร้างองค์กรไม่ยุ่งยากซับซ้อน และกจิ การจะมสี ภาพเป็ นบุคคลธรรมดา ข้อดี ข้อเสีย 1. โครงสร้างของธุรกจิ มรี ูปแบบง่าย ๆ 1. ต้องรับผดิ ชอบในหนีส้ ินโดยไม่จากดั จานวน 2. บริหารงานด้วยการตดั สินใจของคนเดยี ว 2. การจัดหาเงนิ ทุนเพม่ิ ไม่มีข้อขดั แย้ง มีความเป็ นอสิ ระ และการขยายกจิ การทาได้ค่อนข้างจากดั 3. ใช้เงนิ ทุนจานวนไม่มาก ต้นทุนขององค์กรตา่ 4. กาไรเป็ นของคนคนเดยี ว 3. การตดั สินใจเป็ นของคนคนเดยี ว 5. ความลบั ของกจิ การไม่ร่ัวไหล 6. การเลกิ กจิ การทาได้ง่าย 4. เจ้าหนีม้ ักจะไม่ค่อยให้ความสนใจ 7. เสียภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดา ทจี่ ะให้สินเช่ือแก่ธุรกจิ รูปแบบนี้ 5. เป็ นธุรกจิ ที่ขาดความยืดหย่นุ 6. เจ้าของจะต้องรู้ทุกอย่างในกจิ การ 7. ลูกจ้างไม่มีโอกาสเตบิ โตทางอาชีพ

กจิ การเจ้าของคนเดียว (Sole Proprietorship) ดงั น้ันกจิ การเจ้าของคนเดยี วจึงถือเป็ นรูปแบบขององค์กรธุรกจิ ทเี่ กดิ ขึน้ เป็ น ประเภทแรกและส่วนใหญ่จะเป็ นกจิ การขนาดเลก็ อย่างไรกต็ ามธุรกจิ ไทย ส่วนมากจะเร่ิมจากกจิ การเจ้าของคนเดยี วและแปรสภาพมาเป็ นรูปของบริษทั ในเวลาต่อมาเพื่อต้องการท่จี ะสร้างความเจริญเตบิ โตให้แก่กจิ การ เพราะกจิ การเจ้าของคนเดยี วจะมคี วามเสียเปรียบในการแข่งขนั เม่ือเทยี บกบั ธุรกจิ ในรูปแบบอ่ืน ๆ

ห้ างหุ้นส่ วน (Partnership) กจิ การทเี่ กดิ จากการจดั ทาข้อตกลงหรือสัญญาของบุคคลต้งั แต่ 2 คนขนึ้ ไป ว่าด้วยเรื่องของการ ลงทุนร่วมกนั เพ่ือประสงค์ทจ่ี ะร่วมแบ่งปันผลกาไรและผลขาดทุนอนั เกดิ จากการดาเนินกจิ การ ซ่ึง ข้อตกลงหรือสัญญาระหว่างผู้เป็ นหุ้นส่วนอาจจะมขี นึ้ ด้วยวาจาหรือลายลกั ษณ์อกั ษร การร่วมลงทุนน้ัน ผู้เป็ นหุ้นส่วนสามารถนาเอาเงนิ สดทรัพย์สินอื่น ๆ หรือแรงงานมารลงทุนกไ็ ด้ แล้วแต่ข้อตกลงหรือ สัญญาที่ระบุไว้ กจิ การห้างหุ้นส่วนสามารถแบ่งได้เป็ น 2 ประเภทคือ • ห้างหุ้นส่วนสามญั • ห้างหุ้นส่วนจากดั

ห้ างหุ้นส่ วนสามญั ห้ างหุ้นส่ วนจากดั - เกดิ จากการร่วมทุนของผู้เป็ นหุ้นส่วน  ผู้เป็ นหุ้นส่วนแบ่งเป็ น ต้งั แต่ 2 คนขนึ้ ไป 2 ประเภท จากดั ความรับผดิ ชอบ - อาจตกลงกนั ด้วยวาจาหรือจัดทาเป็ น ในหนีส้ ินจากดั จานวน ลายลกั ษณ์อกั ษรกไ็ ด้ ไม่จากดั ความ รับผดิ ขอบในหนีส้ ิน - ผู้เป็ นหุ้นส่วนรับผดิ ชอบต่อหนีส้ ิน ของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จากดั จานวน - ไม่ต้องจดทะเบยี นเป็ นนิติบุคคล - การดาเนินงานภายใต้ธุรกรรมต่าง ๆ ไม่สามารถใช้ชื่อห้างได้ อ.หทยั ทพิ ย์ โรจน์ศิริประเสริฐ

ข้อดี - ข้อเสียของกจิ การห้างหุ้นส่วน ข้อดี ข้อเสีย  ง่ายต่อการจดั ต้งั เพราะจดทะเบยี นหรือไม่จด  การท่มี ผี ้เู ป็ นหุ้นส่วนร่วมลงทุนต้งั แต่ 2 คนขนึ้ ทะเบยี นกไ็ ด้ ขนึ้ อยู่กบั ว่าจดั ต้งั ห้างหุ้นส่วน ไป ดงั น้ันผ้เู ป็ นหุ้นส่วนชนิดไม่จากดั ความ ประเภทใด รับผดิ ชอบจะมีอานาจในการบริหารงาน ซ่ึงอาจ ทาให้เกดิ ความขดั แย้ง และเกดิ ความล่าช้าในการ  สามารถจดั หาเงนิ ทุนได้มากกว่ากจิ การแบบ ตดั สินใจ เจ้าของคนเดยี ว เพราะเงนิ ทุนได้มาจากผ้เู ป็ น  กรณที เี่ ป็ นหุ้นส่วนประเภทรับผดิ ในหนีส้ ินของ หุ้นส่ วน ห้างโดยไม่จากดั จานวนจะมีความเส่ียงสูงในการ รับผดิ ชอบชดใช้หนีส้ ินของห้างด้วยสินทรัพย์ส่วน  ประสิทธิภาพในการบริหารสูงขนึ้ เพราะ ของตน ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ท่นี ามาใช้  อาจขาดความต่อเน่ืองในการดาเนินงาน ในการบริหารมไิ ด้มาจากบุคคลเพยี งคนเดยี ว ถ้าหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งตาย ถอนตวั หรือประกาศ ยกเลกิ กจิ การตามกฎหมาย  ค่าใช้จ่ายในการจดั ต้งั กจิ การห้างหุ้นส่วนตา่ อ.หทัยทิพย์ โรจน์ศิริประเสริฐ

บริษทั (Company) เป็ นกจิ การทม่ี ีวธิ ีการระดมเงนิ ทุนโดยการแบ่งทุนเป็ นหุ้น มูลค่าหุ้น ๆ ละเท่า ๆ กนั จานวนหุ้นจะมาก น้อยเพยี งใดขนึ้ อยู่กบั ขนาดของกจิ การ การจดั ต้งั ธุรกจิ ในรูปแบบของบริษทั ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจาก สามารถจดั หาหรือระดมเงนิ ทุนได้ง่าย นอกจากนีบ้ ริษทั ยงั สามารถแบ่งออกได้เป็ น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ • บริษทั จากดั (Limited Company) • บริษทั มหาชนจากดั (Public Company) บริษทั จากดั บริษทั มหาชนจากดั • ผ้ถู ือหุ้นไม่ถงึ 100 คนรวมท้งั นิตบิ ุคคลด้วย • มผี ู้ถือหุ้นต้งั แต่ 100 คนขนึ้ ไป รวมท้ังนิตบิ ุคคล • มูลค่าหุ้นไม่ตา่ กว่าหุ้นละ 5 บาท • ผ้ถู ือหุ้นรับผดิ ชอบจากดั ไม่เกนิ ค่าหุ้นท่ตี ้องชาระ • ผู้ถือหุ้นรับผดิ ชอบหนีส้ ินของบริษทั จากดั จานวนเท่า • มผี ้รู ่วมก่อการ 15 คนขนึ้ ไป ทล่ี งทุนไป • ผู้เริ่มก่อการ 7 คนขนึ้ ไป

ข้อดี - ข้อเสียของบริษทั ข้อดี ข้อเสีย  สามารถระดมเงนิ ได้ง่าย จงึ มีความได้เปรียบในเร่ือง  การก่อต้งั ทาได้ยาก เพราะต้องจดทะเบยี นเป็ นนิตบิ ุคคล ขนาดของเงนิ ทุน  เสียค่าใช้จ่ายในการก่อต้งั สูง เพราะจะต้องเสียเงนิ ค่าจด  ได้เปรียบในการแข่งขนั เพราะธุรกจิ ในรูปแบบของ ทะเบียนและเสียเวลา บริษทั จะมีขนาดกจิ การค่อนข้างใหญ่ ซึ่งจะมคี วาม  ใช้เงนิ ทุนค่อนข้างสูง ได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนต่อหน่วย  จะต้องปฏิบตั ภิ ายใต้ข้อบังคบั กฎหมาย เพราะธุรกจิ ที่  ผ้ลู งทุนจะรับผดิ ชอบจากดั จานวนเท่ากบั เงนิ ทีล่ งทุน เกดิ จากเงนิ ลงทุนคนจานวนมาก ดงั น้ันทางการจงึ ต้อง ในหุ้น เข้ามากากบั ดูแล รักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนราย ย่อยเพ่ือไม่ก่อให้เกดิ การได้เปรียบเสียเปรียบกนั ระหว่าง  ง่ายต่อการเลกิ ลงทุน โดยวธิ ีการขายหุ้นต่อให้แก่นัก ผู้ลงทุน ลงทุนรายอ่ืน ๆ  เสียภาษซี ้าซ้อน คือ จะต้องเสียภาษจี ากกาไรสุทธิของ บริษทั อกี ท้งั กาไรที่นามาจ่ายเป็ นเงนิ ปันผลให้ผู้ถือหุ้น  อายุของกจิ การค่อนข้างต่อเน่ือง เพราะกจิ การในรูป กจ็ ะต้องเสียภาษอี กี คร้ังหนึ่ง ของบริษทั มีฐานะเป็ นนิตบิ ุคคลหากผู้ถือหุ้นรายใด  จะต้องเปิ ดเผยข้อมูลประจาปี ให้สาธารณชนรับทราบ รายหนึ่งถอนหุ้น ตาย หรือผู้บริหารไร้ความสามารถ จะไม่มผี ลทาให้บริษทั ต้องเลกิ กจิ การ อ.หทยั ทิพย์ โรจน์ศิริประเสริฐ

ภาษอี ากรธุรกจิ การประกอบธุรกจิ ไม่ว่าจะเป็ น กจิ การเจ้าของคนเดยี ว ห้างหุ้นส่วน หรือบริษทั จากดั จาเป็ นต้องเสียภาษใี ห้แก่รัฐ คือ 1. ภาษอี ากร 2. ภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดา 3. ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล

บทบาทและหน้าทขี่ องผู้บริหารการเงนิ บทบาทและหน้าทข่ี องผู้บริหารทางการเงนิ ทส่ี าคญั มดี งั ต่อไปนี้ 1. บทบาทในการวเิ คราะห์ทางการเงิน 2. บทบาทในการวางแผนทางการเงิน 3. บทบาทในการตดั สินใจจดั หาเงนิ ทุนและจดั สรรเงนิ ทุน 4. บทบาทในการควบคุมทางการเงนิ

สภาพแวดล้อมทางการเงนิ การตดั สนิ ใจทางการเงนิ ผู้จดั การทางการเงนิ ตอ้ ง จดั หาแหล่งเงนิ ทุนจากภายนอกกจิ การ สามารถหาได้ 3 ทาง คอื 1. ผ่านสถาบนั การเงนิ (Financial Institutions) 2. ผ่านตลาดการเงนิ (Financial Markets) 3. ขายหลักทรัพยโ์ ดยตรง (Private Placement)

แบบฝึ กหัดบทที่ 1 LOGO 1. การบริหารการเงนิ มคี วามสาคญั อย่างไรต่อองค์กรธุรกจิ 2. เป้าหมายทางการบริหารธุรกจิ กบั เป้าหมายทางการบริหารการเงนิ แตกต่างกนั หรือไม่ อย่างไร 3. จงอธิบายความหมายของคาต่อไปนี้ 3.1 ความมง่ั คง่ั สูงสุดของผ้ถู ือหุ้น (Maximize Share Holder Wealth) 3.2 กาไรจากการจาหน่ายหุ้น (Capita Gian) 3.3 ค่าของธุรกจิ (Value of the Firm)

แบบฝึ กหัดบทท่ี 1 LOGO 4. รูปแบบพืน้ ฐานขององค์กรธุรกจิ 3 แบบ คืออะไร มลี กั ษณะแตกต่างกนั อย่างไร 5. ตลาดการเงนิ (Financial Markets) คืออะไร 6. ตลาดเงนิ (The Money Market) คืออะไร 7. ตลาดทุน (The Capital Market) คืออะไร 8. ภาษีอากรมีความสาคญั อย่างไรต่อการบริหารการเงนิ 9. บทบาทของผ้บู ริหารการเงนิ มอี ะไรบ้าง และบทบาทใดสาคญั ทส่ี ุดจงอธิบาย