ห น ้ า | ๔๘ แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นร้ปู ระจำฐานการเรยี นรูค้ ณุ ธรรมจริยธรรม ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มารยาทไทย เวลา ๘ ชว่ั โมง แผน่ ท่ี ๑ ผังโครงสรา้ งหนว่ ยการเรียนรูเ้ พื่อเสริมสรา้ งคุณลักษณะอยู่อยา่ งพอเพยี ง แผนที่ ๓ การยนื การเดนิ การนัง่ เวลา ๒ ช่ัวโมง แผนที่ ๑ (๒ ช่ัวโมง) เรือ่ ง การแสดงความ แผนท่ี ๒ (๒ ชว่ั โมง) เคารพ เร่อื ง การส่งและการรบั ส่งิ ของ เป้าหมาย : ๑. กราบเบญจางคประดิษฐ์ และ เป้าหมาย : ๑.ส่งส่งิ ของให้ผูใ้ หญ่และ กราบผ้ใู หญไ่ ดอ้ ย่างถูกต้อง รับสิ่งของจากผใู้ หญ่ได้ ๒. ไหวพ้ ระ ไหวผ้ ใู้ หญไ่ ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ๒. ประเคนสิ่งของแด่พระภกิ ษแุ ละ ๓. รับความเคารพ รบั ไหวไ้ ด้อย่างถูกต้อง รบั ส่งิ จากพระภิกษุได้ สาระการเรยี นรู้ : การกราบ การไหว้ สาระการเรยี นรู้ :การส่งและการรับส่งิ ของ การรับความเคารพ หนว่ ยการเรียนรู้ : มารยาทไทย ๘ ช่ัวโมง สาระสำคญั : มารยาทไทย หมายถงึ กริ ิยา วาจา ทสี่ ภุ าพเรยี บรอ้ ยท่ีบุคคลพึงประพฤติปฏิบัติ ในสังคม โดยมีระเบยี บแบบแผนอนั เหมาะสมตามกาลเทศะ มารยาทไทยครอบคลมุ ถึงกิริยา วาจาต่าง ๆ เช่น การแสดงความเคารพการส่งและการรับสิ่งของ การยืน การเดนิ การน่ัง การนอน การแสดงกริ ยิ าอาการการรับประทานอาหาร การใหแ้ ละรับบริการ การทักทาย การสนทนา การใช้ คำพดู การฟัง การใชเ้ คร่ืองมือสอื่ สาร รวมทง้ั การประพฤติปฏิบตั ิในพิธกี ารต่าง ๆ แผนท่ี ๔ ( ๒ ชั่วโมง) เร่ือง มารยาทท่ัวไปในสังคม แผนที่ ๓ ( ๑ ชว่ั โมง) เป้าหมาย : มีมารยาทท่ัวไปในสังคม ได้แก่ มมี ารยาท เรอ่ื ง การยืน การเดนิ การน่ัง ในสงั คมโดยรวม มีมารยาทในท่ีสาธารณะ มีมารยาท เป้าหมาย : ๑.มมี ารยาทในการยนื ในการรับประทานอาหาร มีมารยาทในการตอ้ นรบั ๒. มมี ารยาทในการเดนิ ผมู้ าเยือนและมารยาทในการเปน็ ผู้เย่ียมเยยี น เปน็ ตน้ ๓. มีมารยาทในการน่ัง สาระการเรียนรู้ : มารยาทท่ัวไปในสงั คม สาระการเรยี นรู้ :การยืน การเดนิ การนั่ง สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ภาระงาน/ชิ้นงาน ๑. มคี วามสามารถในการสอ่ื สาร ๑.รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๑. ใบงาน เรอื่ ง การแสดงความ ๒. มีความสามารถในการคดิ ๒.ซอื่ สตั ย์ สจุ รติ เคารพ ๓. มีความสามารถในการแก้ปัญหา ๓.มวี ินัย ๒. ใบงาน เรื่อง การสง่ และการ ๔. มคี วามสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ๔.ใฝเ่ รียนรู้ รับสง่ิ ของ ๕. มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๕.อยอู่ ย่างพอเพียง ๓. ใบงานเรือ่ ง การยืน ๖. มงุ่ มั่นในการทำงาน การเดิน การนัง่ ๗. รกั ความเป็นไทย ๓. ใบงาน เรอ่ื ง มารยาททัว่ ไป ๘. มีจิตสาธารณะ ในสงั คม โรงเรยี นบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกุดจับ จงั หวัดอุดรธานี สังกัด สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๔๙ แผน่ ท่ี ๒ การออกแบบการเรียนรแู้ บบยอ้ นกลับ (Blackward Design) แผนท่ี ๓ การยืน การเดิน การนั่ง เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. เป้าหมายการเรียนรู้ ๒. หลักฐานการเรียนรู้ เป้าหมาย ภาระงาน/ชน้ิ งาน : การยนื การเดิน และการนั่ง ๑. มีมารยาทในการยนื การวัดประเมนิ ผล เคร่อื งมอื เกณฑป์ ระเมนิ ประเดน็ วธิ กี าร ผา่ นรอ้ ยละ ๙๐ ๒. มมี ารยาทในการเดนิ แบบประเมนิ ด้าน K แบประเมนิ ผลงาน ผา่ นรอ้ ยละ ๙๐ ๓. มมี ารยาทในการน่ัง ผลงาน ผา่ นรอ้ ยละ ๙๐ แบบสังเกต สาระสำคัญ ดา้ น P แบบสงั เกต แบบสงั เกต มารยาทในการยืน ไดแ้ ก่ การยนื เคารพธงชาติ เพลงชาติ และ ด้าน A สังเกต พฤตกิ รรม ธงชัยเฉลมิ พลในที่สาธารณะ การยนื ในพธิ ตี ่างๆ และโอกาสต่าง ๆ พฤตกิ รรม มารยาทในการเดนิ ได้แก่ การเดินในกรณีทเี่ ก่ียวกบั สถาบัน ๑๒ พระมหากษตั ริย์ การเดินในพิธีทางศาสนา การเดนิ ในพิธตี ่าง ๆ การเดนิ ผ่านผูใ้ หญ่ การเดนิ นำหรอื การเดินตามผใู้ หญ่ เป็นต้น ชื่อแผน การยืน การเดนิ การน่ัง มารยาทในการนงั่ ได้แก่ การนง่ั พบั เพียบ การนัง่ ขัดสมาธิ ๓ การนง่ั หมอบ การนง่ั คุกเข้า และการนง่ั เก้าอี้ อยา่ งเหมาะสม จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๓. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. บอกวิธกี ารยนื การเดนิ การนงั่ ท่ีมีมารยาทได้ถกู ต้อง (K) กิจกรรมการเรยี นรู้ : ๒. มีมารยาทในการยนื การเดนิ และการนั่ง (P) ๑. นกั เรยี นศึกษาใบความรหู้ รือดวู ีดที ัศน์ ๓. ตระหนักถึงความสำคัญในการปฏบิ ตั ิตนตามมารยาทไทย และการอนรุ ักษ์ความเปน็ ไทย (A) เรอ่ื ง การยืน การเดนิ การน่งั สาระการเรยี นรู้ ๒. นกั เรียนการฝกึ ปฏิบตั ิ เรอ่ื ง การยนื การเดิน การยืน การเดิน การนงั่ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน และการนัง่ อย่างเหมะสม ๑. ความสามารถในการส่ือสาร(นำเสนออยา่ งมีขนั้ ตอนเขา้ ใจง่าย) ๓. นักเรยี นทำใบงาน การยนื การเดนิ การน่ัง ๒. ความสามารถในการคดิ (การคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ สื่อเรยี นร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ : การตีความอยา่ งมเี หตุผล) ๑. วดี ที ศั น์ เร่ือง การยนื การเดิน การน่งั ๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต (มที ักษะในการสำรวจ ๒. ใบความรู้เรื่อง การยนื การเดิน การนั่ง การสบื คน้ ข้อมูล กระบวนการทำงานกล่มุ และการแก้ปญั หา) ๓. ฐานการเรยี นรคู้ ณุ ธรรม จรยิ ธรรม คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เวลา : 2 ช่วั โมง ๑.รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ (จงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบัน) ๒. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต (ซือ่ สตั ยใ์ นผลงานของตน) ๓.มวี ินัย (รับผิดชอบในหนา้ ทที่ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย) ๔. ใฝ่เรียนรู้ (ค้นควา้ หาความรจู้ ากส่ือต่างๆในการทำใบงาน) ๕.อย่อู ย่างพอเพยี ง( ปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสม) ๖.มุ่งมัน่ ในการทำงาน(ตง้ั ใจฝึกปฏบิ ัติและทำใบงานให้สำเรจ็ ) ๗.รกั ความเปน็ ไทย(สบื ทอดการเขยี นเรียงความ)บงาน ๘.มจี ติ สาธารณะ(ชว่ ยเหลือเพอ่ื นในกลุ่ม) โรงเรียนบา้ นสร้างก่อ อำเภอกุดจบั จงั หวัดอดุ รธานี สังกัด สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๕๐ แผน่ ที่ ๓ กจิ กรรมการเรียนรูเ้ พื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอยูอ่ ย่างพอเพียง แผนที่ ๓ การยนื การเดนิ การนั่ง เวลา ๒ ช่ัวโมง ................................................................................................... กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรียน ๑. นักเรียนรว่ มกันแบง่ กลุ่มๆ ละ ๔ – ๖ คน และกำหนดหนา้ ท่ขี องสมาชกิ ภายในกลุ่ม เป็นหวั หนา้ กลมุ่ เลขานุการกลมุ่ และสมาชกิ ภายในกล่มุ ๒. ใหน้ กั เรยี นแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั การยืน การเดนิ การนัง่ อย่างมีมารยาท ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท่นี ักเรยี นเคยปฏิบัติ ครใู ช้คำถาม Q๑ Q๒ Q๓ ๓. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปมารยาทการยนื การเดนิ การน่งั ในสถานการณท์ น่ี ักเรยี นปฏบิ ัติ วา่ ถกู ตอ้ งเหมาะสมหรือต้องปรบั ปรุงอย่างไร ครูใชค้ ำถาม Q๔ ข้ันการจดั การเรยี นรู้ ๔. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้ หรอื ดวู ีดีทัศน์ เรื่อง การยนื การเดนิ การน่งั แลว้ ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ฝกึ ปฏบิ ตั จิ ริง ครใู ชค้ ำถาม Q๕ ๕. ให้แตล่ ะกล่มุ เลอื กนำเสนอ โดยการอธบิ าย สาธิต วิธกี ารยนื การเดิน การนง่ั อยา่ งเหมาะสม มีมารยาท ๑ วธิ ี เพอื่ นๆกล่มุ อื่นรว่ มอธิบาย แลกเปลย่ี นเรียนรู้ เพอ่ื ความรู้ ความเขา้ ใจท่ี ความถกู ต้องและสมบูรณ์ ครูใชค้ ำถาม Q๖ ขน้ั สรปุ ๖. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปการทำใบงาน สรปุ ความรู้ การยนื การเดิน การนงั่ ครูใช้คำถาม Q๗ ๗. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั วเิ คราะหก์ ารนำความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจำวนั การปฏิบตั ติ นอยา่ งถูกต้อง เหมาะสม และประโยชน์ท่ไี ดร้ บั จากการเรียนรู้ และการนำไปใช้ Q๘ โรงเรียนบา้ นสร้างกอ่ อำเภอกุดจบั จังหวดั อดุ รธานี สังกดั สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๕๑ แผ่นที่ ๔ ชุดคำถามกระตนุ้ เพือ่ ปลูกฝงั หลกั คดิ พอเพียง แผนที่ ๓ การยนื การเดนิ การนงั่ เวลา ๒ ช่ัวโมง ................................................................................................................ คำถามกระตนุ้ เพือ่ ปลกู ฝงั หลักคิดพอเพยี งก่อนเรียน Q๑. การยนื เข้าแถวเคาพรธงชาตอิ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม นักเรยี นควรทำอยา่ งไรบ้าง (พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู คิ มุ้ กันในตัวท่ีดี) Q๒. เวลานักเรียนเดินผา่ นครูนกั เรียนควรทำอยา่ งไร (พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมคิ มุ้ กันในตวั ทด่ี ี) Q๓. นักเรยี นนั่งเกา้ อเ้ี รยี นในหอ้ งเรียนอย่างไร (พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมคิ มุ้ กันในตวั ทีด่ )ี Q๔ การยนื การเดนิ การนง่ั ท่นี กั เรยี นปฏบิ ัติท่ีผา่ นมามีส่ิงทตี่ อ้ งปรบั ปรุงให้เหมาะสมอย่างไรบา้ ง (มภี ูมคิ ุม้ กันในตวั ท่ีด)ี คำถามกระตุ้นเพ่อื ปลูกฝงั หลักคิดพอเพยี งระหวา่ งเรยี น Q๕ จากการศึกษาศึกษาใบความรู้ หรือดวู ดี ีทศั น์ เรอ่ื ง การยืน การเดิน การน่ัง ท่ีถูกต้องเหมาะสม ทำอย่างไรนักเรียนจะปฏิบัติได้ถูกต้อง (พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภมู คิ ุ้มกันในตัวทีด่ ี) Q๖ กลุ่มของนักเรยี นวางแผนการฝึกปฏิบัติจรงิ และวางแผนการนำเสนอผลการทำใบงานอยา่ งไร (พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู ิค้มุ กนั ในตัวที่ด)ี คำถามกระตนุ้ เพือ่ ปลกู ฝังหลักคิดพอเพียงหลังเรียน Q๗ จากการเรยี นรูแ้ ละการฝึกปฏบิ ตั ิรว่ มกัน มารยาทในการยนื การเดนิ และการน่ัง ทีถ่ กู ตอ้ งเหมาะสมมอี ะไรบา้ ง นกั เรยี นสรุปได้วา่ อยา่ งไร (พอประมาณ มเี หตุผล มีภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ท่ีดี) Q๘ การปฏิบตั ติ นตามมารยาทไทย ในการยืน การเดิน การนงั่ นักเรยี นจะนำความรู้ท่ีได้ ไปใช้ในชวี ิตประจำวนั อย่างไร การปฏบิ ตั เิ ชน่ นน้ั มปี ระโยชน์อย่างไร (พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมคิ ุ้มกันในตวั ท่ีดี) โรงเรียนบา้ นสรา้ งกอ่ อำเภอกดุ จบั จังหวัดอดุ รธานี สังกดั สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๕๒ แผ่นที่ ๕ แนวทางที่ครูนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้จัดการเรียนรู้ แผนท่ี ๓ การยนื การเดิน การน่ัง เวลา ๒ ชั่วโมง ครูนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชจ้ ัดการเรยี นรู้ ดงั น้ี ความรู้ทค่ี รูต้องมีก่อนสอน คุณธรรมของครูในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. มารยาทในการยืน ๑.ความอดทน ๒. มารยาทในการเดนิ ๒.ความพยายาม ๓. มารยาทในการน่งั ๓.ความรับผิดชอบ ๔.จิตวิทยาการเรียนการสอน ๔.ความเมตตา ๕.การวัดผลประเมนิ ผล ๕.ความยตุ ิธรรม ประเดน็ พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี มู ิคมุ้ กันในตัวท่ีดี เนือ้ หา จัดเนื้อหาให้เหมาะสมกับ เพอื่ จัดการเรียนร้ตู ามหลักสตู ร ออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ เวลาในการจัดการเรยี นรู้ แกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน เขยี นแผนการจัดการเรยี นรู้ เหมาะสมกับมาตรฐาน บรู ณาการหลักปรชั ญาของ เตรยี มสอ่ื /แหล่งเรยี นรใู้ ห้ ตวั ชีว้ ดั เหมาะสมกบั เศรษฐกิจพอเพยี งใหผ้ เู้ รยี นเกิด พร้อมวางแผนการทำงาน ระดับช้ัน และเหมาะสมกับ ความร้แู ละมีความสามารถตาม และการจัดกิจกรรมการ ศกั ยภาพของผู้เรียน มาตรฐานและตัวชี้วดั ท่กี ำหนด เรยี นการสอนให้เป็นข้ันตอน เวลา เวลา ๒ ชว่ั โมง ทีใ่ ช้ในการ เพอ่ื การดำเนินกจิ กรรมไดต้ าม ใชเ้ วลาไดค้ ุ้มค่าในการจดั จัดกิจกรรมมีความเหมาะสม แผนทกี่ ำหนด ผู้เรยี นได้เรียนรู้ กจิ กรรมตรงตามเวลาท่ี กับเนอ้ื หาและกจิ กรรม ทกุ กจิ กรรมอย่างทั่วถึงและ กำหนด ไม่ส่งผลกระทบ เป็นระบบ ตอ่ ครูและผู้เรยี น การจัด จัดกิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้ เพื่อกระตุ้นใหผ้ ู้เรยี นเกิดความ มแี ผนการจัดการเรียนรแู้ ละ กิจกรรม เหมาะสมกับเนื้อหาในแต่ละ สนใจในการเรียนเกิดการเรียนรู้ กำหนดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ ตอนโดยเร่มิ จากง่าย อย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับมาตรฐานและ ไปหายาก ตัวชว้ี ดั เป็นระบบ ขั้นตอน สอื่ /อปุ กรณ์ เตรยี มสอ่ื การเรยี นรู้ ใบงาน เพื่อใหก้ ารจัดกจิ กรรมการ จดั เตรียม ทดลองใชส้ อื่ ให้เหมาะสมกับเน้ือหาและ เรียนรูเ้ ป็นไปตามแผนการ (วดี ที ัศน์) และใบงานให้ เพียงพอกบั จำนวนผเู้ รยี น จัดการเรยี นรูท้ ่ีกำหนด พรอ้ มในการจัดกจิ กรรม แหล่งเรยี นรู้ จดั เตรียมแหล่งเรียนรูท้ ี่อยู่ เพื่อใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษาจาก สำรวจสถานที่ ตรวจสอบ ในโรงเรยี นและชมุ ชนให้ แหลง่ เรียนรู้และไดร้ ับความรู้ ความพร้อมของแหล่งเรียนรู้ เหมาะสมกับเน้อื หา ทถี่ ูกต้อง กอ่ นจะใช้งาน ประเมินผล กำหนดเกณฑ์การประเมิน เพ่อื ให้ผลการประเมนิ ตรง ใช้วิธีการประเมินท่ี และออกแบบการประเมิน ตามตัวชีว้ ดั เหน็ พัฒนาการ หลากหลายและมีการวาง ผลให้สอดคล้องกับการจัด ของผ้เู รยี นนำผลการประเมนิ แผนการประเมินอย่างเปน็ กจิ กรรมการเรยี นรูแ้ ละ ไปพัฒนาและปรับปรงุ ต่อไป ระบบเป็นขั้นตอน ศกั ยภาพของผู้เรยี น โรงเรียนบา้ นสร้างก่อ อำเภอกดุ จับ จงั หวัดอุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๕๓ แผ่นท่ี ๖ ผลทีจ่ ะเกิดข้นึ กับผู้เรียนจากการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง แผนท่ี ๓ การยืน การเดิน การนั่ง เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. ผเู้ รยี นจะได้ฝึกคดิ และฝึกปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดังน้ี ความร้ทู ่ีนกั เรยี นตอ้ งมี คุณธรรมของนกั เรียนที่จะทำให้การเรยี นรสู้ ำเรจ็ ๑. ทักษะการสังเกต การจดจำ การพูด การเขยี น ๑.มคี วามรับผิดชอบ ๔.ขยนั ๒. มารยาทในการยนื การเดิน และการนัง่ ๒.ใฝ่เรยี นรู้ ๕. ซอื่ สัตย์ ๓. การทำงานร่วมกนั เป็นกลุม่ ๓.มคี วามพยายาม ๖. มุ่งมนั่ ในการทำงาน พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี มู คิ มุ้ กันในตัวทีด่ ี ๑.ผู้เรยี นใช้เวลาในการเขียน ๑. เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นได้รบั ความรู้ตรง ๑.มกี ารศึกษาหาความรู้ก่อนการจัด เรยี งความเหมาะสมกับเนือ้ หา ตามมาตรฐานและตวั ชวี้ ดั ของ กิจกรรมการเรียนรู้ และเวลาทีก่ ำหนดให้ หลกั สตู รและเข้าใจหลักปรชั ญา ๒.ในขณะจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ผู้เรยี น ๒.ผเู้ รียนเลือกเพ่ือนในกล่มุ ได้ ของเศรษฐกจิ พอเพียง มีการวางแผนการเรยี นรู้ การทำงาน อยา่ งเหมาะสมกบั งานท่ีไดร้ บั ๒. เพ่ือปฏบิ ตั กิ ิจกรรมได้ครบถ้วน ร่วมกันเปน็ กลมุ่ มอบหมาย ดว้ ยความรอบคอบ เห็นประโยชน์ ๓.มีการตรวจสอบและประเมินผลงาน ๓.ผูเ้ รียนใช้วัสดุอุปกรณ์ ส่ือ และสามารถนำความรู้ไปใชใ้ น ของตนเองก่อนสง่ ผลงานให้ครูตรวจ แหลง่ เรยี นรไู้ ดอ้ ย่างคุ้มค่า ชีวิตประจำวนั ได้ ๒. ผู้เรยี นจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตท่สี มดลุ และพรอ้ มรับการเปล่ียนแปลง ๔ มิตติ ามหลัก ปศพพ. ดงั น้ี ด้าน สมดลุ และพร้อมรับการเปลย่ี นแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ องค์ประกอบ วัตถุ สงั คม สงิ่ แวดล้อม วัฒนธรรม ไดร้ ับความรู้ เกี่ยวกับ มีมนษุ ยสมั พันธท์ ี่ดี เสนอแนวทางการ สบื ทอด รกั ษา ความรู้ การยนื การเดิน การน่ัง ระหว่างผูเ้ รยี นกบั ผูเ้ รยี น แก้ปญั หามารยาท มารยาทไทย อย่างถูกต้องเหมาะสม และผ้เู รยี นกับครผู ู้สอน ในสงั คมไทย ทกั ษะการปฏบิ ตั ิตนที่ มีทักษะการทำงาน มสี ่วนร่วมในการ การรบั ฟงั ความ ทกั ษะ ถูกต้องหรอื มารยาท รว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้ รกั ษาสงิ่ แวดล้อม คิดเห็นของผ้อู ่ืน ในการยืน การเดิน และ อยา่ งมีความ สุข และการอนรุ กั ษ์ มีมารยาทใน การนัง่ อย่างเหมาะสม ทรัพยากรธรรมชาติ การฟัง การพูด -ตระหนกั ถึงความสำคัญ ชื่นชมผลงานของตนเอง ตระหนกั ถึงความ เห็นคุณค่าของ คา่ นิยม คณุ ค่าของมารยาทไทย และอ่นื เห็นคุณคา่ ของ สำคัญในการรักษา การปฏบิ ัตติ น -ใช้สื่อ แหลง่ เรียนรู้ การทำงานรว่ มกนั ให้ ความสะอาดของ ตามมารยาท อย่างคุ้มค่า เหมาะสม เกียรติรบั ฟงั ความคิด ฐานการเรียนรู้ ของไทย เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ เหน็ ของผู้อ่ืน กอ่ นใช้และหลงั ใช้ โรงเรียนบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จบั จังหวดั อดุ รธานี สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๕๔ ใบความรู้ เรอ่ื ง การยืน การเดิน การนง่ั ๑. การยืน มารยาทในการยืน จดั เป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังน้ี ๑.๑ การยนื เคารพธงชาติ เพลงชาติ และธงชัยเฉลมิ พลในทสี่ าธารณะ ให้ยืนตรงแสดงความเคารพ โดยหนั หนา้ ไปทางธงชาติ เมอ่ื เพลงจบใหค้ ้อมศรี ษะคำนับ สำหรบั บคุ คลทวั่ ไป เมื่อจะผา่ นธงชยั เฉลิมพลให้หยดุ และยืนตรงแสดงความเคารพ หรือเม่อื มีการเชิญ ธงชยั เฉลมิ พลผา่ น กใ็ ห้ยืนตรงแสดงความเคารพ เช่นเดยี วกัน ๑.๒ การยืนในพิธีตา่ ง ๆ ๑.๒.๑ การยืนเคารพในพธิ ที ่มี กี ารบรรเลงเพลงมหาฤกษ์และเพลงมหาชัย เพลงมหาฤกษ์ ใช้บรรเลงในการเปิดงานทีเ่ ป็นพธิ ใี หญ่ เช่น พิธเี ปดิ สถานทท่ี ำการ ของรฐั บาล พิธีเปดิ ทางคมนาคมที่สำคัญ ฯ และงานทเี่ ปน็ มงคลท่ัวไป เพลงมหาชยั ใช้บรรเลงตอ้ นรบั ประธานของงานผู้มเี กยี รตสิ ูง นบั ตั้งแต่สมเดจ็ พระบรมราชกุมาร สมเด็จพระบรมราชกุมารี พระบรม วงศานุวงศ์ นายกรฐั มนตรี หรือเมื่อผ้เู ป็นประธานของงานกลา่ วคำปราศรัยจบ กจ็ ะบรรเลงเพลง มหาชยั เป็นพิเศษ หรือบรรเลงในงานรบั รองบุคคลสำคญั งานสโมสรสนั นิบาต เปน็ ตน้ เมื่อได้ยนิ เพลงมหาฤกษ์ หรือมหาชยั ให้ยนื ตรงจนกวา่ จะจบเพลงในกรณที เี่ ป็นพิธี ของทางราชการ ผูท้ ่เี ปน็ ทหาร หรือขา้ ราชการพลเรือนท่ีอยูใ่ นเครอื่ งแบบให้ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบของ ราชการทหาร หรอื ราชการพลเรอื น แล้วแต่กรณี โรงเรียนบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกุดจับ จังหวดั อุดรธานี สงั กัด สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๕๕ ๑.๒.๒ การยนื เคารพในพิธมี าปนกิจศพ ใหย้ นื ตรงแสดงความเคารพเม่ือมกี ารเชิญศพผา่ น หรอื ได้ยินเสยี งแตรเดย่ี วเป่าเพลงนอน หรอื เม่ือประธานวางเครอ่ื งขมา หรือจุดเพลงิ เผาศพ ไมว่ า่ จะมี เพลงประโคมหรือไม่ก็ตาม ๑.๒.๓ การยนื เมือ่ ประธานในพิธเี ดินผ่าน ให้ทุกคนในที่น้นั ยืนตรงแสดงความเคารพประธาน ๑.๒.๔ การยนื ฟงั โอวาท ให้ยนื ตรง ปล่อยมือไว้ข้างลำตวั หันหน้าไปทางผู้ใหโ้ อวาท กรณีที่ ถือประกาศนียบัตร หรือเครอื่ งราชอิสรยิ าภรณ์ ฯลฯ ถ้าถือมอื เดยี วให้ถือดว้ ยมือขวาแนบไวก้ ับอก หรอื ระดบั ตงั้ ฉากกบั ลำตัว แล้วแต่ทางพิธจี ะกำหนดถา้ ถือสองมือ ใหถ้ ือระดับตั้งฉากกบั ลำตัว ๑.๒.๕ การยืนกลา่ วคำปฏญิ าณ การกลา่ วคำปฏิญาณตอ่ หน้าธงชยั เฉลมิ พล ถวายสตั ย์ ปฏญิ าณตอ่ หน้าพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ให้ยืนตรงหันหน้าไปทางธง หรือพระองค์ท่าน แล้วกลา่ ว คำปฏิญาณตามที่กำหนดไว้ในพธิ ีการ การกลา่ วคำปฏิญาณของกลมุ่ บุคคลต่าง ๆ ให้ผ้กู ล่าวคำปฏิญาณยืนตรง โดยปฏบิ ตั แิ ละ กล่าวคำปฏิญาณตามท่ีกำหนดไว้ในพธิ กี าร ๑.๓ การยืนในโอกาสอนื่ ๆ ๑.๓.๑ การยืนรบั คำสัง่ ใหย้ นื ตรง หน้าตรง ปลอ่ ยมือไวข้ า้ งลำตวั และตงั้ ใจรับฟงั คำสั่ง ๑.๓.๒ การยนื ใหเ้ กยี รติผู้ใหญ่ เมื่อผใู้ หญเ่ ดนิ ผ่านมาใหย้ นื ตรง แสดงความเคารพ หาก ผ้ใู หญ่ข้ามา สนทนาด้วย ใหป้ ระสานมืออยู่ต่ำกวา่ ระดับเอว และคอ้ มตัวเลก็ นอ้ ย ๑.๓.๓ การยืนสนทนากับผใู้ หญ่ ให้ยืนตรง ประสานมือกนั อยตู่ ำ่ กว่าระดับเอว คอ้ มตวั เลก็ นอ้ ย ไม่ควรยืนชดิ หรือห่างผู้ใหญจ่ นเกนิ ไป ๑.๓.๔ การยืนคยุ กับเพือ่ น การยน่ื พักผ่อน และการยืนดมู หรสพใหย้ นื ในลักษณะสุภาพ ไม่ก่อ ความรำคาญหรือเกะกะกดี ขวางผูอ้ ่ืน ไม่ยนื พดู ข้ามศีรษะหรือยนื บงั ผ้อู ่ืน โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี สงั กัด สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๕๖ ๑.๓.๕ การยนื ตามลำดบั ให้ยนื เรียงแถวเป็นระเบียบ ตามลำดบั ก่อน หลงั และสุภาพ เชน่ การ ยืนขึน้ รถโดยสาร การขนึ้ เผาศพ การรดนำ้ อวยพรค่บู ่าวสาวการตกั อาหาร แบบชว่ ยตัวเอง ๑.๓.๖ การยืนปฏบิ ตั หิ น้าที่ ให้ยืนในลักษณะสุภาพ เช่น การยืนประกาศ ยนื บรรยาย ยืน แสดงปาฐกถา ๒. การเดิน ๒. ๑ การเดนิ ในกรณที ีเ่ กี่ยวกับสถาบันพระมหากษตั ริย์ ๒.๑.๑ การเดนิ นำเสด็จฯ ๑) เม่ือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว สมเดจ็ พระบรมราชินีหรอื พระบรมวงศานวุ งศ์ เสด็จฯ มาถึง ประธานจัดงานหรือเจา้ ภาพทคี่ อยรบั เสด็จฯ ถวายความเคารพ กราบบงั คมทูลถวายรายงาน ในโอกาสนีจ้ ะเบิกผู้ทีส่ มควรเข้าเฝ้าดว้ ยก็ได้ แลว้ จึงเดินนำเสด็จฯ ไปยังสถานที่ท่ีกำหนดโดยปฏิบัติดงั นี้ เดินเยอ้ื งไปข้างหน้าทง้ิ ระยะห่างพอสมควรในลักษณะสำรวม (ประสานมือ เดนิ ค้อมตวั เล็กนอ้ ย) จะอยู่ ด้านใดแลว้ แต่สถานทจ่ี ะอำนวย แต่โดยปกติผูน้ ำเสดจ็ ฯ จะอย่ดู า้ นซา้ ยของพระองค์ท่าน ในการเสดจ็ พระราชดำเนนิ บนลาดพระบาท ผูน้ ำเสดจ็ ฯ ต้องไมเ่ ดินบนลาดพระบาท เม่ือถึงท่ีประทับผ้นู ำเสดจ็ ฯ ถวายความเคารพ ถอยหลงั ๓ กา้ ว ถวายความเคารพ ก่อนจะน่งั ถวายความเคารพอีกครั้งหนงึ่ ๒) ในกรณีทก่ี ำลังนำเสด็จฯ และต้องกราบบงั คมทูลถวายคำอธิบาย ให้ทรงทราบในเร่ืองที่ เกย่ี วขอ้ ง ใหป้ ฏบิ ัติดงั น้ี เดนิ เยือ้ งไปข้างหน้าทง้ิ ระยะห่างพอสมควร พอทจ่ี ะได้ยนิ พระราชกระแส ในการนผี้ ู้นำเสดจ็ ฯ ควรศึกษาเร่ืองราวมาล่วงหน้า หรือกราบบังคมทลู เบิกตัวผใู้ ดผ้หู นึง่ ท่มี คี วามรู้ ในเร่อื งนั้นให้ถวายคำอธบิ าย ผ้นู ำเสดจ็ ฯ จะตอ้ งเดนิ ในลกั ษณะสำรวม ไม่เดนิ เสมอพระองค์ทา่ น ๒.๑.๒ การเดินตามเสดจ็ ฯ ให้เดนิ เยอื้ งด้านหลังพระองค์ทา่ นในลักษณะสำรวมไมท่ ักทาย หรือทำความเคารพผู้อื่น ถา้ มลี าดพระบาท ผู้ท่เี ดนิ ตามเสดจ็ ฯ ตอ้ งไม่เดินบนลาดพระบาท ๒.๑.๓ การเดนิ ในบริเวณทีป่ ระทบั ไม่ควรเดนิ ผา่ นท่ีประทบั เว้นแต่มีความจำเปน็ ตอ้ งเดนิ ในลักษณะสำรวม โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกดุ จับ จังหวดั อดุ รธานี สังกดั สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๕๗ ๑) การเดินผ่านหนา้ หรือหลังที่ประทับ ตอ้ งอยใู่ นระยะหา่ งและให้กระทำในกรณีที่จำเปน็ ทีส่ ุด โดยถวายความเคารพขณะที่ลุกจากทน่ี ั่งผา่ นที่ประทับ และถวายความเคารพอีกคร้ังก่อนทจี่ ะนั่ง ๒) การเดนิ ไปทำธรุ ะใด ๆ ในบริเวณทเี่ ฝา้ ขณะทีป่ ระทบั อยู่ เช่น ยก หรอื เล่ือนสิง่ ของ ให้ถวายความเคารพทุกข้ันตอนตามลำดับดงั นี้ ๒.๑ ลุกจากท่ีน่งั ๒.๒ ถงึ ทจี่ ะทำกิจธุระทำกิจธุระเสรจ็ แลว้ จะกลับท่ีน่ังเดมิ ๒.๔ กลบั เขา้ ทีแ่ ลว้ ก่อนนงั่ ลง ๓) การเดินขึ้นและลงเมรเุ ผาศพ ใหถ้ วายความเคารพทุกขน้ั ตอน ๓.๑ ลกุ จากท่ีนง่ั ๓.๒ ผา่ นทป่ี ระทบั แลว้ ขึน้ เมรุ ๓.๓ ลงจากเมรุถึงพืน้ ๓.๔ ผา่ นทีป่ ระทับ ๓.๕ กอ่ นน่งั ทงั้ ๓ กรณดี งั กล่าว ให้จัดที่นง่ั หนั หน้าไปทางทีป่ ระทบั ๒.๒ การเดนิ ในพิธีทางศาสนา การเดินที่เป็นพิธที งพุทธศาสนาทเี่ ปน็ งานมงคล ได้แก่ การเดนิ เวียนเทียนในวันสำคัญ ทางพุทธศาสนา หรอื ในโอกาสอ่ืน ๆ เช่น การเดนิ ในงานอุปสมบท แหอ่ งคก์ ฐินแห่เทยี นพรรษา เพื่อแสดงคารวะต่อปชู นียสถาน หรอื ปชู นียวัตถุ ให้ปฏบิ ัตดิ งั นี้ ๒.๒.๑ เดินเวยี นขวา (ประทักษิณ) ๓ รอบ ให้ปูชนยี สถาน หรือปูชนยี วตั ถุ อยทู่ างขวามอื ของผูเ้ ดนิ ๒.๒.๒ เดินประนมมือโดยมีดอกไม้ ธูป เทียน และระมัดระวงั อย่าให้ธูปเทียนทีจ่ ดุ ไฟ ไปถูกผู้อน่ื (กรณีผู้รว่ มขบวนในงานอุปสมบท ไมต่ ้องประนมมอื และไม่ถือดอกไม้ ธปู เทียน) ๒.๒.๓ ขณะเดินให้ระลกึ ถงึ พระพทุ ธคณุ พระธรรมคณุ และพระสงั ฆคุณ โรงเรียนบา้ นสร้างก่อ อำเภอกุดจบั จงั หวดั อุดรธานี สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๕๘ ๒.๓ การเดนิ ในพิธตี ่าง ๆ ๒.๓.๑ การเดินตามศพเวยี นเมรุใหเ้ ดินในลกั ษณะสำรวม เดินเวยี นซา้ ย ๓ รอบ โดยใหเ้ มรอุ ยทู่ างซ้ายมือของผูเ้ ดิน ๒.๓.๒ การเดินขน้ึ และลงเมรุในพิธฌี าปนกิจศพ ใหเ้ ดนิ ตามลำดบั อยา่ งสุภาพ และเปน็ ระเบยี บ ๒.๓.๓ การเดินเขา้ และออกระหวา่ งการประชมุ ผู้ทม่ี คี วามจำเป็นตอ้ งเดินเข้า หรอื ออก ระหว่างขณะท่ีมกี ารประชมุ ใหแ้ สดงความเคารพประธานในทป่ี ระชมุ ทุกคร้ังดว้ ยการไหว้ หรอื คำนบั เมอ่ื ออกจากท่ีนั่ง และเม่ือกลับเข้าที่นัง่ ๒.๔ การเดินผ่านผใู้ หญ่ ๒.๔.๑ ขณะผู้ใหญ่ยืนใหเ้ ดินผ่านระยะห่างพอสมควรในลักษณะสำรวมปล่อยมือไว้ ขา้ งลำตวั แล้วค้อมตวั เมอ่ื ใกล้ถงึ ผใู้ หญ่ โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี สังกดั สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๕๙ ๒.๔.๒ ขณะผใู้ หญ่นัง่ เกา้ อ้ี ให้เดินผ่านระยะห่างพอสมควรในลกั ษณะสำรวม ปลอ่ ยมือไว้ ข้างลำตวั แลว้ ค้อมตัวพร้อมกับยอ่ เขา่ เม่อื ใกลถ้ งึ ผู้ใหญ่ ๒.๔.๓ ขณะผูใ้ หญ่น่งั หรอื นอนกบั พ้ืน ให้เดินผา่ นระยะหา่ งพอสมควรในลักษณะสำรวม เมอื่ ใกล้ถึงผู้ใหญ่ ให้เดินเขา่ เมือ่ ผ่านไปแลว้ จงึ ลุกข้นึ เดิน โรงเรยี นบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกุดจับ จงั หวัดอดุ รธานี สงั กดั สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๖๐ ๒.๕ การเดินนำหรอื เดนิ ตามผ้ใู หญ่ ๒.๕.๑ การเดนิ นำ เดินท้ิงระยะห่างพอสมควรในลกั ษณะสำรวม ผูเ้ ดินนำจะอยู่ทาง ซ้ายมอื ของผู้ใหญ่ หากต้องเดินทางขวามือของผใู้ หญ่ให้ขึน้ อยู่กับสถานที่ ๒.๕.๒ การเดนิ ตาม เดนิ ทิ้งระยะหา่ งพอสมควรในลกั ษณะสำรวมให้เดินเยื้องไปทางชา้ ยมือ ของผู้ใหญ่ หากต้องเดินทางขวามือของผใู้ หญใ่ ห้ข้นึ อยู่กับสถานท่ี โรงเรยี นบา้ นสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจบั จังหวดั อดุ รธานี สังกัด สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๖๑ ๓. การนั่ง มารยาทในการนัง่ จัดเปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ได้ดงั นี้ ๓.๑ การนงั่ พับเพียบ คือ การนง่ั ราบกบั พน้ื พับขาใหข้ าขวาทับขาซา้ ย หรือขาซ้ายทับขาขวา แบ่งออกได้เป็น ๔ แบบ ดังต่อไปนี้ ๓.๑.๑ การนง่ั พบั เพียบธรรมดา คือ การนง่ั พับเพียบวางมือไวบ้ นหน้าขา หรอื เอามือ เท้าพน้ื กไ็ ด้ โดยใหป้ ลายนิ้วมือเหยียดไปข้างหน้า ถ้าน่ังขาขวาทบั ขาซ้ายให้ใชม้ ือซา้ ยเท้าพื้น ถ้านั่งขาซ้ายทับขาขวา ใหใ้ ชม้ ือขวาเท้าพื้นอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงแล้วแต่สะดวกและเหมาะสม ลกั ษณะน้ี ใชใ้ นการน่ังสนทนากับเพ่ือน หรอื นงั่ อยตู่ ามลำพัง ๓.๑.๒ การน่ังพับเพียบต่อหน้าผูใ้ หญ่ อาจนงั่ ท่าใดท่าหนง่ึ ตามความเหมาะสม แตไ่ ม่ควร เท้าแขน สายตาทอดลงเล็กน้อย ไม่จ้องตาผู้ใหญจ่ นเสยี กิริยาการน่ังลักษณะน้ีใชไ้ ด้ ท้ังชายและหญงิ คือ ๑) น่งั พบั เพียบตวั ตรง เกบ็ ปลายเทา้ โดยเบนปลายเท้าเขา้ หาสะโพก มือทงั้ สองข้าง ประสานกนั วางไวบ้ นหน้าขา ถา้ น่งั พบั เพยี บขาขวาทบั ขาซ้าย วางมอื ที่ประสาน บนหน้าขาซา้ ย หรอื บรเิ วณหน้าขาจดุ ใดจุดหนงึ่ ที่เหมาะสมและสวยงามวิธีประสานมอื ใหป้ ฏิบตั ิในอาการทสี่ ำรวม อาจใช้ อย่างใดอย่างหน่งึ ดังน้ี ก. ใชม้ ือซ้ายหงาย มอื ขวาคว่ำทับ หรอื มือขวาหงาย มอื ซ้ายคว่ำทบั ข. ใช้มอื ท้งั สองควำ่ ทับกนั จะเปน็ มือใดทบั มือใดก็ได้ ค. สอดนิ้วระหวา่ งชอ่ งน้ิวของแตล่ ะมือคล้ายการประนมมืออยา่ งหลวม ๆ ๒) นง่ั พับเพยี บค้อมตวั เก็บปลายเท้า วางแขนท้ังสองข้างลงบนหน้าขา ประสานมือ อยา่ งใดอย่างหนึง่ ตามข้อ ๑) โรงเรยี นบ้านสร้างก่อ อำเภอกุดจบั จังหวัดอดุ รธานี สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๖๒ ๓.๑.๓ การน่ังพบั เพียบประนมมือ เป็นการนัง่ พบั เพยี บ โดยประนมมือใหป้ ลายนิ้วมือ แนบชิดกนั ปลายนิ้วต้ังขนึ้ แขนแนบตัวระดับอก ไม่กางศอก ๓.๑.๔ การนง่ั พับเพียบในพิธีการ ให้นง่ั พับเพียบในอาการสำรวมตลอดเวลา โรงเรียนบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จับ จงั หวดั อุดรธานี สังกดั สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๖๓ ๓.๒ การน่งั ขัดสมาธิ (สะ-หมาด) คือการน่ังตามสบายอย่างหนึง่ และการนงั่ ทำสมาธ(ิ สะ-มา-ทิ) ๓.๒.๑ การนัง่ ขัดสมาธิธรรมดา คือ การนง่ั บนพ้นื ก้นแนบพ้ืนพับขาเข้าหากัน โดยใช้ขา ขา้ งหนงึ่ ซ้อนทบั อยู่บนขาอกี ข้างหนงึ่ สน้ เทา้ ท้งั สองขา้ งจะสัมผสั กับขา เปน็ อิริยาบถท่ีใช้น่งั ตามสบาย ๓.๒.๒ การน่ังขัดสมาธทิ ีใ่ ช้ทางศาสนา มี ๒ แบบ คือ การนั่งขัดสมาธิราบและการนงั่ ขัดสมาธเิ พชร การนง่ั ขัดสมาธิราบ คอื การน่ังขดั สมาธสิ องชัน้ โดยเอาขาซอ้ นทบั กัน เอาขาขวา ทับขาซ้าย มือขวาทับมือซา้ ย ให้นว้ิ แมม่ อื จรดกนั ต้งั กายสว่ นบนให้ตรงการน่งั ขัดสมาธิราบน้ี ใชน้ ั่ง ในการเจรญิ ภาวนาใหจ้ ติ ใจสงบ การนง่ั ขัดสมาธเิ พชร คือ การนงั่ บนพื้น กนั แนบพ้นื พบั ขาเขา้ กนั เอาฝ่าเทา้ ท้งั สองขดั หรอื ไขว้ข้ึนวางบนหนา้ ขา ทา่ น่งั ขดั สมาธิแบบน้ตี ้องใช้การฝึกหัดใหเ้ กิดความชำนาญ โดยการหดั นงั่ ขัดสมาธิราบ หรือขดั สมาธสิ องช้ันได้ชำนาญแลว้ วธิ ฝี กึ หดั ใหน้ งั่ ลงบนพื้น ปล่อยให้ขาพักอย่ตู รงหนา้ แลว้ จงึ ค่อยดึงขาช้าย งอมุมฉากกับ ร่างกาย ชันสนั เทา้ ซา้ ยพกั อยู่บนพ้ืน แลว้ จับเท้าขวาข้นึ วางบนตน้ ขาซา้ ย ให้ส้นเทา้ ขวาชดิ กบั หนา้ ขา อย่าให้เทา้ ขวาเปน็ ท่ีทรมานหรอื อึดอัด ขยบั เขา่ ซา้ ยที่งออยู่ให้เขา้ มาชดิ ตวั ยกขอ้ เทา้ ซ้ายขนึ้ แล้ววาง หลงั มอื ซา้ ยลงบนตน้ ขาขวาให้ส้นเทา้ จรดกบั หนา้ ขาขวา นงั่ ขัดสมาธแิ บบน้ีเรียกวา่ \"ขัดสมาธเิ พชร\" หรอื เรียกวา่ \"น่ังท่าดอกบวั \" (ปทั มาสนะ ใชน้ ง่ั บริกรรมภาวนา หรือปฏิบตั ติ ามท่าโยคะ ๓.๓ การนง่ั หมอบ เป็นการนง่ั พับเพียบเก็บปลายเทา้ หมอบลงไปใหศ้ อกทั้งสองข้าง ลงถงึ พน้ื ครอ่ มเข่าท่ยี ื่นลำ้ มาขา้ งหนา้ ประสานมอื กัน ไม่ก้มหน้า สายตาทอดลงต่ำ การนง่ั ลกั ษณะน้ีปฏบิ ตั ิได้ท้งั ชายและหญงิ เมื่อเขา้ เฝา้ ฯ หรือรอรบั เสด็จฯ โรงเรยี นบ้านสร้างก่อ อำเภอกดุ จบั จังหวัดอุดรธานี สังกัด สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๖๔ ๓.๔ การนั่งคกุ เข่า คือ การน่งั ย่อเข่าลงใหต้ ิดพน้ื มี ๔ แบบ ดงั น้ี คือ ๓.๔.๑ การน่ังคกุ เข่าปลายเท้าต้ัง นั่งตวั ตรง ปลายเทา้ ต้งั นัง่ ลงบนสน้ เทา้ มอื ท้ังสอง ข้างควำ่ เหนือเข่าทั้งสองขา้ ง (แบบเทพบุตร) การนง่ั ลักษณะนใ้ี ช้น่งั เมื่อชายจะกราบพระแบบ เบญจางคประดิษฐ์ หรือใชน้ ่ังในท่าถวายบงั คมทั้งชายและหญงิ ๓.๔.๒ การนั่งคุกเขา่ ปลายเท้าราบ นัง่ ตวั ตรง ปลายเท้าราบ นัง่ ลงบนฝา่ เท้า มือทั้งสอง ขา้ งวางควำ่ เหนือเข่าทั้งสองข้าง (แบบท่เทพธดิ า) การนัง่ ลักษณะน้ี ใชน้ ั่ง เม่ือหญิงจะกราบพระ แบบเบญจางคประดิษฐ์ ๓.๔.๓ การนั่งคุกเข่าประนมมอื เปน็ การนงั่ คกุ เข่าแบบเทพบตุ ร หรอื น่ังคกุ เข่าแบบเทพธดิ า ประนมมือ ไม่กางศอก การน่ังลักษณะนี้ใชเ้ มื่อจะกราบพระแบบเบญจางคประดษิ ฐ์ของชายและหญงิ การนง่ั คุกเข่าประนมมอื อีกวิธีหนึง่ เมอ่ื ทัง้ ชายและหญงิ จะถวายบงั คมเปน็ การนั่งคุกเข่าแบบเทพบุตร โดยประนมมือเหนอื อก ไม่กางศอก ๓.๔.๔ การนั่งคกุ เขา่ ถวายราชสดุดขี องลูกเสือ เป็นการนัง่ คุกเขา่ ตามแบบลูกเสอื ที่ปฏิบัติอยู่ เม่อื ประธานมีคำสงั่ ให้ถวายราชสดดุ ี ใหก้ ้าวเทา้ ซ้ายไปขา้ งหนา้ คร่งึ ก้าว คุกเขา่ ลง ตัง้ เขา่ ซ้าย นัง่ ลงบน สนั เท้าขวา มือขวาแบควำ่ ลงบนเขา่ ขวา แขนซ้ายวางพาดบนเข่าซา้ ย เม่ือร้องเพลงถวายราชสดุดี ให้ก้มหนา้ เลก็ น้อย และให้เงยหน้าขนึ้ ตามเดิมเม่ือเพลงจบ (ถา้ ถือหมวกอยดู่ ว้ ยใหป้ ฏบิ ตั ติ ามคมู่ ือ ระเบียบแถวของสำนักงานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาต)ิ โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกดุ จับ จงั หวดั อดุ รธานี สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๖๕ ๓.๕ การน่งั เก้าอี้ ๓.๕.๑ การนั่งเก้าอีโ้ ดยทัว่ ไป เป็นการนัง่ ตามสบาย ถา้ เปน็ เกา้ อ้ที ี่มเี ทา้ แขน จะเอาแขน วางพาดก็ได้ ไม่ควรนง่ั โยกเก้าอ้ี ๓.๕.๒ การนง่ั เก้าอี้ต่อหน้าผูใ้ หญ่ เปน็ การนงั่ โดยสำรวม ไม่ไขวห่ ้างไม่กม้ หน้า น่ังทา่ ใดท่าหน่ึงตอ่ ไปนี้ ๑) นง่ั เกา้ อตี้ ัวตรง มือทั้งสองขา้ งประสานกนั วางบนหนา้ ขา ชาย เขา่ ห่างกันเลก็ น้อย สน้ เทา้ ชิด ปลายเท้าแยกเล็กนอ้ ย หญงิ กอ่ นนงั่ ใช้มือจัดกระโปรงจากด้านหลงั เพือ่ ให้นง่ั ไดเ้ รยี บร้อย เข่าและ ปลายเท้าชิดกนั หรือปลายเท้าเหลือ่ มกันเล็กน้อย ๒) นัง่ เกา้ อี้ ค้อมตวั ใชแ้ ขนท่อนล่างท้งั สองข้างวางบนหน้าขาท้ังสอง ประสานมือ ๓.๕.๓ การน่งั เกา้ อี้ประนมมือ เปน็ การนัง่ ตัวตรง หลงั พงิ พนกั เก้าอ้ี น่งั ในลกั ษณะสำรวม ไมไ่ ขวห่ ้าง ประนมมอื ระดบั อก ไม่กางศอก การนง่ั ลักษณะน้ปี ฏบิ ตั ิ ได้ท้งั ชายและหญิง เชน่ น่ังฟงั พระแสดงธรรมเทศนา หรือฟงั พระสวดมนต์ในศาสนพธิ ี โรงเรียนบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จับ จงั หวดั อุดรธานี สงั กัด สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๖๖ ๓.๕.๔ การนงั่ เก้าอใ้ี นพธิ ีการ เปน็ การนั่งตัวตรงด้วยอาการสำรวมไม่ไขวห่ า้ ง ไม่กระดิกเทา้ ไม่สูบบหุ รี่ และไม่คุยกัน เชน่ นั่งในพระราชพิธี รฐั พธิ นี ง่ั ในทปี่ ระชุม โรงเรยี นบ้านสร้างก่อ อำเภอกุดจบั จงั หวดั อุดรธานี สงั กัด สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๖๗ ๑. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ฝึกปฏบิ ัติ ดังน้ี ( ๒๐ นาที ) ๑.๑ มารยาทการยนื ๑.๒ มารยาทการเดนิ ๑.๓ มารยาทการนัง่ ๒. ใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ สรปุ วธิ กี ารยนื การเดนิ การนงั่ อยา่ งเหมาะสม ( ๑๐ นาที ) ๓. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอวิธีการยืน การเดนิ การนัง่ อย่างเหมาะสม มีมารยาท ๑ วิธี โดยการอธบิ ายและสาธติ ( กลมุ่ ละ ๕ นาที ) (แต่ละกลมุ่ ไมซ่ ้ำกนั อาจใช้วธิ ีจับสลาก) โรงเรียนบา้ นสรา้ งก่อ อำเภอกุดจบั จังหวัดอดุ รธานี สังกัด สำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๖๘ แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนร้ปู ระจำฐานการเรียนรู้คุณธรรมจริยธรรม ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มารยาทไทย เวลา ๘ ชว่ั โมง แผ่นท่ี ๑ ผังโครงสรา้ งหนว่ ยการเรียนรูเ้ พอื่ เสริมสร้างคุณลักษณะอย่อู ย่างพอเพียง แผนที่ ๔ มารยาททวั่ ไปในสังคม เวลา ๒ ชัว่ โมง แผนที่ ๑ (๒ ชั่วโมง) เรื่อง การแสดงความเคารพ แผนที่ ๒ (๒ ชัว่ โมง) เปา้ หมาย : ๑. กราบเบญจางคประดิษฐ์ และ เรื่อง การส่งและการรับส่งิ ของ กราบผู้ใหญไ่ ด้อยา่ งถูกต้อง เป้าหมาย : ๑.สง่ สิ่งของให้ผู้ใหญ่และ ๒. ไหว้พระ ไหว้ผ้ใู หญไ่ ดอ้ ย่างถูกต้อง รบั สิ่งของจากผ้ใู หญ่ได้ ๓. รบั ความเคารพ รบั ไหวไ้ ด้อยา่ งถกู ต้อง ๒. ประเคนส่งิ ของแด่พระภกิ ษแุ ละ สาระการเรียนรู้ : การกราบ การไหว้ รบั สิง่ จากพระภกิ ษุได้ การรับความเคารพ สาระการเรยี นรู้ :การสง่ และการรับสง่ิ ของ หน่วยการเรยี นรู้ : มารยาทไทย ๘ ชั่วโมง สาระสำคัญ : มารยาทไทย หมายถงึ กิรยิ า วาจา ทส่ี ภุ าพเรยี บร้อยท่บี ุคคลพึงประพฤติปฏิบตั ิ ในสงั คม โดยมรี ะเบียบแบบแผนอันเหมาะสมตามกาลเทศะ มารยาทไทยครอบคลุมถึงกิริยา วาจาตา่ ง ๆ เชน่ การแสดงความเคารพการส่งและการรบั สงิ่ ของ การยืน การเดนิ การนงั่ การนอน การแสดงกริ ยิ าอาการการรบั ประทานอาหาร การใหแ้ ละรับบริการ การทักทาย การสนทนา การใช้ คำพดู การฟัง การใช้เคร่ืองมือส่ือสาร รวมท้งั การประพฤติปฏิบัติในพธิ กี ารตา่ ง ๆ แผนท่ี ๓ ( ๑ ชวั่ โมง) แผนท่ี ๔ ( ๒ ช่ัวโมง) เรื่อง มารยาทท่ัวไปในสงั คม เร่อื ง การยืน การเดิน การนั่ง เป้าหมาย : มมี ารยาทท่ัวไปในสังคม ไดแ้ ก่ มารยาท เป้าหมาย : ๑.มีมารยาทในการยนื ในสงั คมโดยรวม มารยาทในที่สาธารณะ มารยาทใน ๒. มมี ารยาทในการเดิน การรบั ประทานอาหาร มารยาทในการต้อนรับผมู้ า ๓. มีมารยาทในการน่ัง เยือนการเป็นผู้เย่ียมเยียน และมารยาทในการเย่ียมไข้ สาระการเรยี นรู้ :การยนื การเดนิ การนัง่ เป็นตน้ สาระการเรยี นรู้ : มารยาททวั่ ไปในสงั คม สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ภาระงาน/ชิน้ งาน ๑. มคี วามสามารถในการส่ือสาร ๑.รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๑. ใบงาน เรื่อง การแสดงความ ๒. มีความสามารถในการคดิ ๒.ซือ่ สตั ย์ สจุ รติ เคารพ ๓. มคี วามสามารถในการแก้ปญั หา ๓.มีวินยั ๒. ใบงาน เร่ือง การส่งและการ ๔. มคี วามสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๔.ใฝเ่ รียนรู้ รับสิง่ ของ ๕. มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๕.อย่อู ยา่ งพอเพียง ๓. ใบงานเรอื่ ง การยนื ๖. มุ่งมัน่ ในการทำงาน การเดนิ การน่งั ๗. รกั ความเป็นไทย ๓. ใบงาน เร่อื ง มารยาททั่วไป ๘. มจี ติ สาธารณะ ในสงั คม โรงเรียนบา้ นสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจบั จังหวดั อดุ รธานี สังกดั สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๖๙ แผ่นที่ ๒ การออกแบบการเรียนรูแ้ บบย้อนกลับ (Blackward Design) แผนท่ี ๔ มารยาททวั่ ไปในสังคม เวลา ๒ ช่วั โมง ๑. เป้าหมายการเรียนรู้ ๒. หลักฐานการเรยี นรู้ เป้าหมาย ๑. มีมารยาทในสังคมโดยรวม ภาระงาน/ชิ้นงาน : มารยาททว่ั ไปในสงั คม ๒. มมี ารยาทในท่สี าธารณะ ๓. มีมารยาทในการรบั ประทานอาหาร การวัดประเมินผล ๔. มมี ารยาทในการตอ้ นรับผมู้ าเยอื นและการเป็นผเู้ ยี่ยมเยยี น ๕. มารยาทในการเยย่ี มไข้ ประเดน็ วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑป์ ระเมนิ สาระสำคญั ด้าน K แบประเมนิ แบบประเมนิ ผ่านร้อยละ ๙๐ การปฏิบัตติ นอย่างเหมาะสม มมี ารยาทในสังคมโดยรวม ผลงาน ผลงาน มีมารยาทในที่สาธารณะ มมี ารยาทในการรบั ประทานอาหาร มีมารยาทในการต้อนรบั ผู้มาเยอื นและการเป็นผเู้ ย่ียมเยยี น ดา้ น P แบบสังเกต แบบสังเกต ผา่ นรอ้ ยละ ๙๐ และมมี ารยาทในการเยย่ี มไข้ ผ่านร้อยละ ๙๐ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ น A สงั เกต แบบสงั เกต ๑. อธบิ ายการมมี ารยาททั่วไปในสังคมได้ (K) พฤตกิ รรม พฤติกรรม ๒. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้มมี ารยาทในสงั คม (P) ๓. ตระหนกั ถงึ ความสำคัญในการปฏบิ ตั ติ นตามมารยาทไทย ๑๒ และการอนรุ กั ษค์ วามเปน็ ไทย (A) สาระการเรยี นรู้ ชือ่ แผน มารยาทวั่ ไปในสงั คม มารยาทัว่ ไปในสังคม สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ๓ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร(นำเสนออยา่ งมขี ้ันตอนเขา้ ใจงา่ ย) ๒. ความสามารถในการคิด (การคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ๓. กจิ กรรมการเรียนรู้ การตคี วามอยา่ งมเี หตผุ ล) กจิ กรรมการเรยี นรู้ : ๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ (มีทกั ษะในการสำรวจ ๑. นกั เรียนศึกษาใบความรู้หรือดูวีดที ัศน์ การสบื ค้นข้อมูล กระบวนการทำงานกลมุ่ และการแกป้ ัญหา) คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เรอ่ื ง มารยาททว่ั ไปในสงั คม ๑.รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ (จงรักภกั ดีต่อสถาบนั ) ๒. นกั เรยี นนำเสนอการมีมารยาทในสังคม ๒. ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต (ซอ่ื สตั ยใ์ นผลงานของตน) ๓. นกั เรยี นทำใบงานมารยาทท่วั ไปในสงั คม ๓.มวี ินยั (รบั ผิดชอบในหน้าทีท่ ่ีไดร้ บั มอบหมาย) ส่อื เรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้ : ๔. ใฝ่เรียนรู้ (ค้นควา้ หาความรจู้ ากส่อื ตา่ งๆในการทำใบงาน) ๑. วดี ที ัศน์ เร่อื ง มารยาทท่วั ไปในสงั คม ๕.อยอู่ ยา่ งพอเพียง( ปฏบิ ัตติ นอยา่ งเหมาะสม) ๒. ใบความรเู้ ร่อื ง มารยาททวั่ ไปในสังคม ๖.มุ่งม่ันในการทำงาน(ต้ังใจฝกึ ปฏบิ ัตแิ ละทำใบงานใหส้ ำเรจ็ ) ๓. ฐานการเรยี นรู้คุณธรรม จรยิ ธรรม ๗.รักความเป็นไทย(สืบทอดการเขยี นเรยี งความ)บงาน เวลา : 2 ชว่ั โมง ๘.มีจติ สาธารณะ(ช่วยเหลอื เพ่อื นในกลมุ่ ) โรงเรียนบา้ นสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจบั จังหวัดอุดรธานี สังกัด สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๗๐ แผ่นที่ ๓ กิจกรรมการเรยี นรเู้ พ่ือเสรมิ สร้างคณุ ลกั ษณะอย่อู ย่างพอเพียง แผนที่ ๔ มารยาทท่ัวไปในสังคม เวลา ๒ ช่ัวโมง ................................................................................................... กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขัน้ นำเขา้ สูบ่ ทเรียน ๑. นักเรยี นรว่ มกนั แบง่ กล่มุ ๆ ละ ๔ – ๖ คน และกำหนดหน้าทีข่ องสมาชกิ ภายในกลุ่ม เปน็ หวั หนา้ กล่มุ เลขานกุ ารกลุ่ม และสมาชิกภายในกล่มุ ๒. ให้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั มารยาททั่วไปในสงั คม ควรมีเก่ยี วกับเรือ่ งใดบ้าง และควรมมี ารยาทอยา่ งไร ครใู ช้คำถาม Q๑ ๓. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุป มารยาทอ่ืน ๆ เพ่ิมเติม ท่ีนักเรยี นปฏิบัตจิ รงิ ในชวี ติ ประจำวนั ครใู ชค้ ำถาม Q๒ ข้นั การจัดการเรียนรู้ ๔. นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้ หรือดูวดี ีทศั น์ เรื่อง มารยาททั่วไปในสังคม แลว้ สรุปความรู้ท่ีได้ ครูใชค้ ำถาม Q๓ Q๔ Q๕ Q๖ Q๗ ๕. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ทำใบงาน เรื่อง มารยาททวั่ ไปในสังคม ตามท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ร่วมกนั สรปุ อธิบาย และเตรยี มตัวแทนนำเสนอ มี เพ่ือนๆกลุ่มอ่ืนร่วมอธิบาย แลกเปลีย่ นเรียนรู้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ผลดใี นการนำไปใชป้ ฏบิ ัติจรงิ ครูใชค้ ำถาม Q๘ ขน้ั สรปุ ๖. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั สรปุ ผลการทำใบงาน สรปุ ความรู้จากการเรยี นรู้ มารยาทท่ัวไปในสังคม ครใู ชค้ ำถาม Q๙ ๗. นกั เรียนและครรู ว่ มกันวเิ คราะหก์ ารนำความรไู้ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน การปฏิบตั ิตนอย่างถกู ต้อง เหมาะสม และประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการเรียนรู้ และการนำไปใช้ Q๑๐ โรงเรียนบา้ นสร้างกอ่ อำเภอกดุ จับ จงั หวัดอดุ รธานี สังกัด สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๗๑ แผ่นที่ ๔ ชดุ คำถามกระต้นุ เพ่ือปลูกฝังหลกั คิดพอเพียง แผนท่ี ๔ มารยาททัว่ ไปในสังคม เวลา ๒ ชั่วโมง ................................................................................................................ คำถามกระตนุ้ เพอื่ ปลกู ฝงั หลักคิดพอเพยี งกอ่ นเรยี น Q๑. นักเรียนควรมมี ารยาทในสงั คม ในชีวติ ประจำวันควรในเร่ืองใดบา้ งและควรมีอยา่ งไร (พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู ิคมุ้ กันในตวั ท่ดี )ี Q๒. ในทสี าธารณะนักเรียนควรมีมารยาทหรือไม่ อย่างไร /การรบั ประทานอาหารรว่ มกันนักเรยี น ควรมมี ารยาทอย่างไร การรบั ประทานอาหารทโี่ รงอาหารนักเรียนควรมีมารยาทอย่างไร (พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมิค้มุ กันในตวั ทด่ี ี) คำถามกระตุน้ เพ่ือปลกู ฝงั หลักคิดพอเพยี งระหวา่ งเรียน จากการศึกษาศกึ ษาใบความรู้ หรอื ดวู ดี ที ัศน์ เร่ือง มารยาททวั่ ไปในสงั คม Q๓. นกั เรียนควรมมี ารยาทสังคมอย่างไรบ้าง (พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมคิ มุ้ กนั ในตัวทด่ี ี) Q๔ ในที่สาธารณะนักเรยี นควรปฏบิ ตั ิตนอย่างไรบา้ ง (พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี ูมคิ ุ้มกันในตวั ทด่ี ี Q๕ นักเรยี นควรมีมารยาทในการรบั ประทานอาหารอย่างไรบ้าง Q๖ เมือ่ มผี ู้อื่นมาเยย่ี มท่บี า้ นนักเรียนควรตอ้ นรบั หรือเป็นเจ้าภาพที่ดีอยา่ งไร และ Q๗ การไปเย่ยี มไขน้ ักเรียนควรปฏิบัติตนอย่างไรจงึ จะเหมาะสม Q๘ กลมุ่ ของนักเรยี นวางแผนการนำเสนอผลการทำใบงานอยา่ งไร (พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี) คำถามกระตุ้นเพอื่ ปลูกฝงั หลักคิดพอเพียงหลังเรียน Q๙ จากการเรียนรู้ มารยาททวั่ ไปในสังคม เรือ่ งใดท่นี ักเรียนจะนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ และจะนำใช้อย่างไร (พอประมาณ มเี หตุผล มีภูมคิ ุ้มกันในตัวทีด่ )ี Q๑๐ นกั เรียนคดิ ว่า มารยาทไทยทวั่ ไปในสงั คม เป็นเรอ่ื งสำคัญจำเป็น ในการนำไปประพฤติ ปฏิบตั ิ หรอื ไม่อยา่ งไร การปฏบิ ัติตนอยา่ งถูกต้องเหมาะสมตามกาละ เทศะ มปี ระโยชนอ์ ย่างไร (พอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดี) โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจบั จงั หวดั อดุ รธานี สังกัด สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๗๒ แผ่นท่ี ๕ แนวทางทีค่ รนู ำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชจ้ ดั การเรยี นรู้ แผนที่ ๔ มารยาทท่ัวไปในสังคม เวลา ๒ ช่ัวโมง ครูนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชจ้ ัดการเรียนรู้ ดังน้ี ความรูท้ ี่ครูต้องมกี ่อนสอน คณุ ธรรมของครูในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. มารยาททัว่ ไปในสงั คม ๑.ความอดทน ๒.ความพยายาม ๒. จิตวิทยาการเรียนการสอน ๓.ความรับผดิ ชอบ ๔.ความเมตตา ๓. การวดั ผลประเมินผล ๕.ความยตุ ิธรรม ประเด็น พอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมคิ ุ้มกันในตัวทด่ี ี เนื้อหา จัดเน้ือหาใหเ้ หมาะสมกับ เพื่อจัดการเรียนรตู้ ามหลักสตู ร ออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ เวลาในการจัดการเรียนรู้ แกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน เขียนแผนการจัดการเรยี นรู้ เหมาะสมกบั มาตรฐาน บรู ณาการหลกั ปรัชญาของ เตรียมส่อื /แหล่งเรียนรู้ให้ ตัวชีว้ ดั เหมาะสมกับ เศรษฐกิจพอเพยี งให้ผูเ้ รียนเกิด พรอ้ มวางแผนการทำงาน ระดบั ชั้น และเหมาะสมกับ ความรู้และมีความสามารถตาม และการจัดกจิ กรรมการ ศักยภาพของผู้เรยี น มาตรฐานและตัวชีว้ ัดทกี่ ำหนด เรยี นการสอนให้เปน็ ขนั้ ตอน เวลา เวลา ๒ ชวั่ โมง ท่ีใชใ้ นการ เพอ่ื การดำเนินกิจกรรมได้ตาม ใช้เวลาได้ค้มุ ค่าในการจดั จดั กิจกรรมมีความเหมาะสม แผนทีก่ ำหนด ผู้เรยี นไดเ้ รียนรู้ กจิ กรรมตรงตามเวลาท่ี กับเน้ือหาและกจิ กรรม ทุกกิจกรรมอย่างท่วั ถึงและ กำหนด ไม่ส่งผลกระทบ เป็นระบบ ตอ่ ครูและผ้เู รยี น การจัด จัดกจิ กรรมการเรยี นรใู้ ห้ เพื่อกระตุน้ ใหผ้ ้เู รยี นเกดิ ความ มีแผนการจัดการเรยี นรแู้ ละ กิจกรรม เหมาะสมกับเนื้อหาในแตล่ ะ สนใจในการเรยี นเกิดการเรียนรู้ กำหนดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั ตอนโดยเริม่ จากงา่ ย อยา่ งเป็นระบบ สอดคลอ้ งกับมาตรฐานและ ไปหายาก ตัวช้ีวดั เปน็ ระบบ ข้นั ตอน สื่อ/อปุ กรณ์ เตรยี มสื่อการเรียนรู้ ใบงาน เพ่ือให้การจดั กิจกรรมการ จัดเตรียม ทดลองใช้สอ่ื ใหเ้ หมาะสมกบั เน้ือหาและ เรียนรเู้ ป็นไปตามแผนการ (วดี ีทัศน์) และใบงานให้ เพยี งพอกบั จำนวนผเู้ รียน จดั การเรยี นรทู้ ี่กำหนด พร้อมในการจดั กิจกรรม แหลง่ เรียนรู้ จัดเตรยี มแหล่งเรยี นรู้ที่อยู่ เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นได้ศึกษาจาก สำรวจสถานท่ี ตรวจสอบ ในโรงเรียนและชมุ ชนให้ แหล่งเรียนรแู้ ละไดร้ บั ความรู้ ความพร้อมของแหลง่ เรยี นรู้ เหมาะสมกบั เนอ้ื หา ทีถ่ ูกต้อง ก่อนจะใชง้ าน ประเมนิ ผล กำหนดเกณฑ์การประเมิน เพอ่ื ให้ผลการประเมินตรง ใชว้ ธิ ีการประเมนิ ท่ี และออกแบบการประเมนิ ตามตัวช้ีวัดเหน็ พฒั นาการ หลากหลายและมีการวาง ผลใหส้ อดคล้องกบั การจัด ของผเู้ รียนนำผลการประเมนิ แผนการประเมนิ อยา่ งเปน็ กจิ กรรมการเรยี นรู้และ ไปพฒั นาและปรับปรุงต่อไป ระบบเป็นข้ันตอน ศักยภาพของผู้เรียน แผ่นที่ ๖ ผลท่จี ะเกดิ ขึน้ กับผู้เรยี นจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โรงเรียนบา้ นสร้างกอ่ อำเภอกดุ จับ จังหวัดอุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๗๓ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง แผนท่ี ๔ มารยาททว่ั ไปในสังคม เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. ผเู้ รยี นจะไดฝ้ กึ คดิ และฝึกปฏบิ ัตติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดงั นี้ ความรทู้ น่ี กั เรยี นตอ้ งมี คณุ ธรรมของนักเรียนทีจ่ ะทำใหก้ ารเรียนรูส้ ำเร็จ ๑. ทกั ษะการสังเกต การจดจำ การพูด การเขยี น ๑.มีความรับผิดชอบ ๔.ขยนั ๒. มารยาทท่ัวไปในสังคม ๒.ใฝ่เรยี นรู้ ๕. ซอ่ื สัตย์ ๓. การทำงานร่วมกันเปน็ กล่มุ ๓.มคี วามพยายาม ๖. มุ่งมน่ั ในการทำงาน พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมคิ ้มุ กันในตวั ทดี่ ี ๑.ผู้เรียนใช้เวลาในการเขยี น ๑. เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นไดร้ บั ความรู้ตรง ๑.มีการศกึ ษาหาความรู้ก่อนการจัด เรยี งความเหมาะสมกับเนือ้ หา ตามมาตรฐานและตัวชวี้ ัดของ กจิ กรรมการเรียนรู้ และเวลาทก่ี ำหนดให้ หลักสูตรและเข้าใจหลกั ปรัชญา ๒.ในขณะจดั กจิ กรรมการเรยี นรผู้ เู้ รยี น ๒.ผเู้ รยี นเลอื กเพื่อนในกลุ่มได้ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มกี ารวางแผนการเรยี นรู้ การทำงาน อยา่ งเหมาะสมกบั งานท่ีได้รับ ๒. เพอื่ ปฏิบัตกิ ิจกรรมได้ครบถ้วน ร่วมกนั เปน็ กลุม่ มอบหมาย ดว้ ยความรอบคอบ เห็นประโยชน์ ๓.มีการตรวจสอบและประเมินผลงาน ๓.ผู้เรยี นใช้วสั ดอุ ปุ กรณ์ สือ่ และสามารถนำความรู้ไปใชใ้ น ของตนเองกอ่ นสง่ ผลงานให้ครตู รวจ แหลง่ เรียนรู้ได้อย่างคุ้มคา่ ชีวติ ประจำวนั ได้ ๒. ผ้เู รียนจะได้เรยี นรู้การใช้ชีวติ ทสี่ มดลุ และพร้อมรับการเปลย่ี นแปลง ๔ มติ ิตามหลัก ปศพพ. ดงั น้ี ดา้ น สมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ียนแปลงในดา้ นต่าง ๆ องคป์ ระกอบ วัตถุ สงั คม สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม ได้รับความรู้ เกีย่ วกบั มมี นุษยสัมพันธท์ ดี่ ี เสนอแนวทางการ สบื ทอด รกั ษา มารยาททว่ั ไปในสงั คม ระหว่างผู้เรยี นกับผูเ้ รยี น แก้ปญั หามารยาท มารยาทไทย ความรู้ อย่างถูกต้องเหมาะสม และผู้เรียนกับครูผู้สอน ในสังคมไทย ทกั ษะการปฏิบตั ิตนที่ มีทักษะการทำงาน มีสว่ นร่วมในการ การรับฟังความ ทักษะ ถกู ต้อง เหมาะสมหรอื ร่วมกบั ผู้อื่นได้ รกั ษาสงิ่ แวดล้อม คิดเหน็ ของผู้อ่ืน การมมี ารยาทในสังคม อยา่ งมีความ สขุ และการอนุรักษ์ มีมารยาทใน ทรัพยากรธรรมชาติ การฟัง การพดู -ตระหนักถงึ ความสำคัญ ช่ืนชมผลงานของตนเอง ตระหนกั ถึงความ เหน็ คุณค่าของ ค่านยิ ม คุณคา่ ของมารยาทไทย และอ่นื เหน็ คุณคา่ ของ สำคัญในการรักษา การปฏิบตั ติ น -ใช้สอื่ แหล่งเรยี นรู้ การทำงานร่วมกัน ให้ ความสะอาดของ ตามมารยาท อย่างคุ้มคา่ เหมาะสม เกยี รตริ บั ฟงั ความคิด ฐานการเรยี นรู้ ของไทย เกดิ ประโยชน์สูงสุด เหน็ ของผู้อืน่ ก่อนใช้และหลงั ใช้ โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกดุ จบั จังหวัดอดุ รธานี สงั กัด สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๗๔ ใบความรู้ มารยาททั่วไปในสังคม ๑. มารยาทในสังคมโดยรวม ๑.๑ ตรงต่อเวลา ๑.๒ เข้าควิ รบั บรกิ ารตามลำดับก่อน - หลงั ๑.๓ ชว่ ยกนั รักษาความสะอาด ไม่ขีด เขียนฝาผนงั หรือสถานท่ธี รรมชาติต่าง ๆ ๑.๔ ชว่ ยกันรักษาสาธารณสมบัติ ใชท้ รพั ยากรธรรมชาติอย่างประหยดั ๑.๕ ไมน่ ่งิ ดดู ายเมื่อพบเหตุผิดปกติ ๑.๖ เคารพสทิ ธสิ ว่ นบุคคล ไม่รบกวนความสงบสขุ ของผ้อู ่ืน ๑.๗ มีระเบยี บวินยั มนี ้ำใจชว่ ยเหลอื ผู้อน่ื ๑.๘ รูจ้ กั กล่าวคำขอบคณุ เมื่อผู้อ่ืนช่วยเหลือ หรือทำสง่ิ ใดให้ และ กลา่ วคำว่าขอโทษ เม่ือเราทำผิด ๑.๙ รู้จกั อดทนต่อการรอคอย ไมก่ ระทำตามใจตนเอง ๑.๑๐ ขออนุญาตเมือ่ ต้องการใช้ หรอื หยิบจับสงิ่ ของของผู้อ่ืน ๑.๑๑ ควรใช้ประโยคขอร้อง ด้วยวาจาสภุ าพ เมื่อต้องการความชว่ ยเหลอื ๑.๑๒ แตง่ กายให้เหมาะสมตามกาลเทศะ และถูกต้องตามระเบยี บของแตล่ ะ สถานที่ โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจบั จงั หวดั อดุ รธานี สังกดั สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๗๕ ๒. มารยาทในที่สาธารณะ ๒.๑ ไมค่ วรหวผี ม แตง่ หน้า ตดั เลบ็ ๒.๒ ไมค่ วรขบเค้ียวหมากฝรั่งหรือส่งิ ใด ในขณะสนทนากับผ้อู ื่น ไม่ควรจมิ้ ควกั ลว้ ง แคะ แกะ เกา ร่างกาย ในท่สี าธารณะ ๒.๔ ไมห่ าว เรอ ไอ จามด้วยเสยี งอนั ดงั และไม่มกี ารป้องกัน ๒.๕ ไม่แสดงกริ ิยาล่วงละเมิดทางเพศ หรอื อนาจาร ทง้ั ทางรา่ งกายและคำพูด ๒.๖ ไมเ่ รยี กขานผู้อืน่ ดว้ ยถอ้ ยคำไม่สุภาพ ล้อเลียน ๒.๗ ควรสำรวมกิรยิ ามารยาท ทา่ ทาง คำพดู ไม่พดู คำหยาบคาย ตลกคะนอง หรอื สง่ เสยี งดงั ๒.๘ มีความเกรงใจ และเคารพสทิ ธข์ิ องผู้อื่น ๒.๙ เคารพกฎเกณฑ์ ระเบยี บ ของแตล่ ะสถานท่ี โรงเรียนบา้ นสร้างกอ่ อำเภอกดุ จบั จังหวดั อุดรธานี สังกดั สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๗๖ ๓. มารยาทในการรับประทานอาหาร ๓.๑ เมอื่ รบั ประทานอาหารร่วมกัน ควรมีชอ้ นกลาง ถ้าเป็นอาหารประเภทแกง ควรมกี ารตกั แบ่งใสถ่ ้วยสำหรับแต่ละคน ๓.๒ ในระหว่างรับประทานอาหาร ไม่ควรพูดคุยเสียงดงั ไมพ่ ดู เมื่อมีอาหารอยใู่ นปาก และไมพ่ ูดคุย เรอ่ื งท่ีก่อให้เกดิ ความขัดแย้ง ๓.๓ ตักอาหารแต่พอดีคำ ไม่แสดงกริ ิยามูมมาม ๓.๔ ไมเ่ คี้ยว หรอื ซดอาหารด้วยเสยี งอนั ดัง ๓.๕ ไม่ควรสั่งนำ้ มูก ขาก ถยุ ไอ จาม หรือแคะฟัน โดยไม่มีการป้องกนั ๓.๖ ไมค่ วรเอ้อื มหยบิ อาหาร หรือสงิ่ ของขา้ มผ้อู ื่น ๓.๗ ควรเอือ้ เฟ้ือส่งอาหารให้กบั ผู้รว่ มโตะ๊ ๓.๘ ควรตักอาหารให้พอดรี บั ประทาน ไม่เหลือท้ิง ๓.๙ เมอื่ มีความจำเปน็ ต้องคายอาหาร ควรคายใส่กระดาษเช็ดปากและวางไวข้ า้ ง ๆจาน ของตนเอง ๓.๑๐ เมอ่ื ได้รบั เชิญ ไม่ควรพาผู้อ่นื ทีไ่ ม่ไดร้ ะบใุ นการเชญิ ไปด้วย ยกเวน้ ไดร้ บั อนญุ าต จากเจ้าภาพ ๓.๑๑ เมือ่ ไดร้ ับเชญิ ควรไปใหต้ รงเวลา ๓.๑๒ ควรปฏิบัติตามธรรมเนยี มปฏบิ ตั ขิ องงานเลี้ยงประเภทนนั้ โรงเรียนบา้ นสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจบั จังหวดั อุดรธานี สงั กดั สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๗๗ ๔. มารยาทในการต้อนรบั ผู้มาเยือนและมารยาทในการเปน็ ผเู้ ย่ียมเยยี น ๔.๑ เมื่อจะไปเยือนผูใ้ ด ควรแจง้ ล่วงหน้า และไปถึงตรงตามเวลานัดหมาย ๔.๒ ไมค่ วรไปเยี่ยม หรอื นดั หมายในชว่ งเวลารบั ประทานอาหาร ๔.๓ เม่ือมีแขกมาพกั ที่บ้าน ควรตอ้ นรบั อยา่ งเหมาะสม และเตรยี มสิง่ จำเป็นสำหรับการพัก สว่ นผูเ้ ป็นแขกกค็ วรรักษาความสะอาด ความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย และไม่กระทำ ในสิง่ ท่ีกอ่ ให้เกิดความเสยี หายแกเ่ จ้าของบ้าน ๔.๔ เม่ือไปเยีย่ มเยยี นผ้ใู ดไม่ควรอยนู่ านเกินควร เพราะเจ้าของบ้านอาจมกี ิจอน่ื ตอ้ งทำ ๕. มารยาทในการเยี่ยมไข้ ๕.๑ ปฏบิ ตั ติ ามกฎ ระเบียบ และข้อบังคับของสถานทน่ี ั้น ๆ ๕.๒ หากผูป้ ่วยไมส่ ะดวกให้ไปเย่ยี ม เราสามารถแสดงความห่วงใยด้วยวิธีอ่ืน เชน่ สง่ บัตรอวยพร ข้อความ ดอกไม้ หรอื อาหาร ไปเย่ียมแทน ๕.๓ เมอ่ื ไปเย่ียมไข้ไม่ควรเลา่ เร่ืองสลดใจให้คนไข้ฟังไมค่ วรซักถามอาการป่วย อย่างละเอียดเน่ืองจากเป็นข้อมลู สว่ นตวั ๕.๔ ไมค่ วรนำเด็กเลก็ ไปเยี่ยมผู้ป่วย ๕.๕ ไม่ควรอยู่เย่ยี มไขน้ านเกินไป ๕.๖ ไม่ควรพดู คุยเสียงดัง ในขณะเย่ยี มผ้ปู ่วย ๕.๗ แต่งกายใหเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ ๕.๘ หากมกี ารเข้าเยีย่ มเป็นหมคู่ ณะ ควรทยอยกนั เข้าเยีย่ ม ********************** โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจับ จงั หวดั อดุ รธานี สังกัด สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๗๘ ภาคผนวก โรงเรยี นบา้ นสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจบั จงั หวดั อดุ รธานี สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๗๙ ใบงาน : การวิเคราะหห์ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ( 2 3 4 ) ฐานการเรียนร้.ู .............................................. 2 เง่อื นไข เงือ่ นไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. 3 หลักการ ความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล ภูมคิ มุ้ กนั ในตัวที่ดี ……………………………………….. ………………………………………………. ………………………………………………. ……………………………………….. ………………………………………………. ………………………………………………. ……………………………………….. ………………………………………………. ………………………………………………. ……………………………………….. ………………………………………………. ………………………………………………. ……………………………………….. ………………………………………………. ………………………………………………. การเชื่อมโยง ๔ มติ ิ มิติดา้ นวัตถุ มิติด้านสงั คม ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ………………………………………………………………สมดุลและพร้อ…ม…รับ………………………………………………………… มติ ดิ ้านส่งิ แวดล้อม ตอ่ การเปลี่ยนแปลง มิติดา้ นวฒั นธรรม ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ช่อื ........................................ นามสกุล ............................................. ชนั้ ................ เลขท่ี .......... โรงเรียนบ้านสร้างกอ่ อำเภอกดุ จบั จังหวัดอดุ รธานี สังกัด สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๘๐ แนวทาง : การวิเคราะห์หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ( 2 3 4 ) ฐานการเรยี นรู้คุณธรรม จรยิ ธรรม 2 เง่อื นไข เงอื่ นไขความรู้ เง่อื นไขคุณธรรม -มคี วามรเู้ กีย่ วกับมารไทย -มีคณุ ธรรม เรอื่ งมารยาทไทย -มคี วามรู้เกยี่ วกบั การแสดงความเคารพ -รจู้ กั การอ่อนน้อมถ่อมตน -มคี วามรูเ้ กี่ยวกับการกราบ -มคี วามกตญั ญู -มคี วามรู้เกยี่ วกบั การไหวร้ ะดับต่างๆ -มรี ะเบียบวินัย -มคี วามรเู้ ก่ยี วกับการรับ ส่ง สิ่งของให้ผู้ใหญ่ -มคี วามสุภาพออ่ นน้อม -มคี วามรูเ้ กี่ยวกบั การประเคนสิ่งของแด่ -รจู้ ักกาลเทศะ พระภกิ ษุ 3 หลกั การ ความพอประมาณ ความมเี หตุมีผล ภูมคิ ุ้มกนั ในตวั ทีด่ ี แสดงมารยาทต่อบุคคลอื่นด้วย กิริยาท่ีพดี และเหมาะสม ประพฤติปฏิบัติตนตาม รู้จกั กาลเทศะให้ถูกกบั บคุ คล มารยาทไทยได้อยา่ งดงี านและ เวลา และสถานท่ี การเชอ่ื มโยง ๔ มติ ิ ถูกต้อง มติ ดิ า้ นวัตถุ มิติดา้ นสงั คม -เปน็ คนมมี ารยาททด่ี ี -เปน็ แบบอยา่ งท่ดี ีต่อผู้อน่ื มติ ดิ า้ นสิง่ แวดล้อม สมดุลและพร้อมรับ มติ ดิ า้ นวัฒนธรรม -มปี ฎสิ มั พนั ธ์ทด่ี ตี ่อบคุ คลรอบขา้ ง ตอ่ การเปลี่ยนแปลง -สบื สานวัฒนธรรมที่ดีดา้ น มารยาทไทย -ดำรงตนเปน็ ชาวพทุ ธท่ดี ี โรงเรียนบ้านสร้างกอ่ อำเภอกุดจับ จงั หวดั อุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๘๑ คำสงั่ โรงเรียนบา้ นสรา้ งก่อ ที่ 63/๒๕๖๔ เรอ่ื ง แต่งต้ังคณะกรรมการดำเนนิ โครงการการขับเคล่ือนหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่สถานศึกษา (กิจกรรม การรักษาและพัฒนาสมรรถนะศนู ยก์ ารเรยี นรูต้ ามหลักปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงด้านการศกึ ษาใหต้ ่อเนื่องและยั่งยืน) .............................................................. ตามทสี่ ำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาไดด้ ำเนินการพัฒนาศูนย์การเรียนรูต้ ามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา (ศนู ย์การเรียนรูฯ้ ให้เปน็ กลไกสำคญั ในการดำเนนิ โครงการการ ขับเคลอื่ นหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงสู่สถานศึกษา ซงึ่ เปน็ กจิ กรรมภายใตโ้ ครงการตามพนั ธ กจิ การส่งเสริมการจดั การศกึ ษาให้ผู้เรียนมีความรู้ มที ักษะการเรยี นรู้ เป็นคนดี มวี นิ ยั มีความรกั ใน สถาบันหลกั ของชาติ ยดึ มน่ั การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติท่ถี ูกต้องต่อบ้านเมืองของสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ – ๒๔๖๕ น้ันเพอ่ื ให้โรงเรยี นบ้านสร้างก่อ ซง่ึ เป็นศูนยก์ ารเรียนรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งด้านการศึกษา สามารถดำเนินกระบวนการพัฒนา และรักษาระดับคุณภาพ มศี กั ยภาพ พร้อมปรบั เปลย่ี นรูปแบบการดำเนินงานและสามารถเผยแพรแ่ นวการปฏบิ ัตทิ เ่ี ปน็ เลิศของตนใหแ้ ก่ สถานศกึ ษาทั่วไปและชุมชนไดอ้ ย่างสอดคล้องกบั บรบิ ทและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๓ และ ๒๔ ของพระราชบัญญตั ริ ะเบียบข้าราชการครแู ละ บคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๓๙ (๑) แหง่ พระราชบัญญัติบริหารราชการกระทรวง ศกึ ษาธิการ พ.ศ.๒๕๔๖ และมาตรา ๒๗ (๑) แหง่ พระราชบญั ญตั ิระเบียบขา้ ราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ เรอื่ ง ให้ผอู้ ำนวยการสถานศึกษาเป็นผบู้ ังคบั บัญชาขา้ ราชการครแู ละ บุคลากรทางการศึกษาในสถานศกึ ษา โรงเรียนบ้านสร้างก่อจึงแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการ การขับเคล่ือนหลกั ปรัชญาสูส่ ถานศกึ ษา กิจกรรม การรักษาและพัฒนาสมรรถนะศูนยก์ ารเรยี นรู้ตาม หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงดา้ นการศึกษาใหต้ ่อเนื่องและยั่งยืน ดังน้ี ๑.คณะกรรมการอำนวยการ ประกอบด้วย ๑.๑ นางสาวดารุณี อคั เทพ ผอู้ ำนวยการโรงเรียน ประธานกรรมการ ๑.๒ นางกาญจนา โคตรโยธา รองผอู้ ำนวยการโรงเรียน รองประธานกรรมการ ๒.๓ นายวัลลภ อนิ ธกิ าย ครชู ำนาญการพเิ ศษ กรรมการ ๒.๔ นางบญุ ไทย พลคอ้ ครูชำนาญการพเิ ศษ กรรมการ ๒.๕ นางสภุ าพ ศรีหานิล ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการและเลขานุการ มหี น้าท่ี ให้คำปรึกษา ขอ้ เสนอแนะ กำกบั ดูแล การดำเนนิ งานให้เป็นไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย และมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเรจ็ สำเรจ็ บรรลุตามเป้าหมายของโครงการ โรงเรียนบา้ นสร้างกอ่ อำเภอกุดจับ จังหวดั อุดรธานี สงั กดั สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๘๒ ๒. คณะกรรมการดำเนนิ โครงการฯ กจิ กรรม การรักษาและพฒั นาสมรรถนะศนู ย์การเรยี นรู้ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงดา้ นการศกึ ษาให้ต่อเนือ่ งและย่งั ยืน ประกอบดว้ ย ๒.๑ ฐานการเรยี นรปู้ ลกู พชื ผักสวนครวั ๒.๑.๑ นางพรศรี ผิวผอ่ ง ครชู ำนาญการพเิ ศษ ๒.๑.๒ นางบุญไทย พลค้อ ครชู ำนาญการพิเศษ ๒.๑.๓ นายกรี ติ โทอึ้น ครผู ู้ชว่ ย ๒.๒ ฐานการเรียนร้เู ลย้ี งสุกร ๒.๒.๑ นายวัลลภ อินธิกาย ครูชำนาญการพิเศษ ๒.๒.๒ นายสุนทร ไชยสงิ หาญ ครูชำนาญการพเิ ศษ ๒.๓ ฐานการเรียนรเู้ ลี้ยงปลานิลในบอ่ ดิน ๒.๓.๑ นายสุนทร ไชยสงิ หาญ ครชู ำนาญการพิเศษ ๒.๓.๒ นายวลั ลภ อนิ ธกิ าย ครชู ำนาญการพิเศษ ๒.๔ ฐานการเรยี นรูเ้ พาะเห็ด ๒.๔.๑ นางสภุ าพ ศรหี านิล ครชู ำนาญการพเิ ศษ ๒.๔.๒ นางสาวมณั ฑนา แฝงฤทธิ์ ครูผู้ชว่ ย ๒.๕ ฐานการเรียนรู้โรงเรยี นธนาคาร ๒.๕.๑ นางอพนั ตรี พันธรุ ะ ครูชำนาญการพเิ ศษ ๒.๕.๒ นางสาวสภุ าพร คำผาย ครูชำนาญการพิเศษ ๒.๖ ฐานการเรยี นรู้สหกรณโ์ รงเรียน นางสาวธมนวรรณ วรรณประเสรฐิ ครู ๒.๗ ฐานการเรียนรหู้ ้องสมดุ ๒.๗.๑ นางสาวกญั ชลพี ร บรรเทา ครผู ้ชู ว่ ย ๒.๗.๒ นางสาวธัญลกั ษณ์ วงศ์หาจกั ร พเี่ ลี้ยงเดก็ พกิ าร ๒.๘ ฐานการเรียนรู้ธนาคารขยะ ๒.๘.๑ นางสาวยวุ รี จำปามลู ครชู ำนาญการพเิ ศษ ๒.๘.๒ นางสาวมณั ฑนา แฝงฤทธิ์ ครผู ู้ช่วย ๒.๙ ฐานการเรยี นรกู้ ารเลี้ยงไสเ้ ดอื น นางสาวชวลั ลักษณ์ โคตะพาจนั ทร์ ครูชำนาญการ ๒.๑๐ ฐานการเรียนร้สู วนส้มตำ ๒.๑๐.๑ นางบญุ ไทย พลค้อ ครูชำนาญการพิเศษ ๒.๑๐.๒ นางสงวนวัลย์ พฤษชาติ ครชู ำนาญการพิเศษ ๒.๑๐.๓ นางแดงใหม่ บญุ เวนิ ครูชำนาญการพเิ ศษ ๒.๑๑ ฐานการเรียนรู้สวนสมนุ ไพร ๒.๑๑.๑ นายกีรติ โทอึน้ ครผู ู้ชว่ ย ๒.๑๑.๒ นางสาวอัญชนา บญุ เวิน พเี่ ลีย้ งเดก็ พิการ ๒.๑๑.๓ นางสาวกัญชลีพร บรรเทา ครผู ชู้ ่วย โรงเรียนบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกุดจับ จงั หวัดอดุ รธานี สังกัด สำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๘๓ ๒.๑๒ ฐานการเรยี นร้ปู ยุ๋ หมกั ใบไมแ้ ห้ง ๒.๑๒.๑ นางรตั นา วงศห์ าจักร ครชู ำนาญการพิเศษ ๒.๑๒.๒ นางสาวธัญญลกั ษณ์ วงศห์ าจักร พี่เลย้ี งเด็กพกิ าร ๒.๑๓ ฐานการเรยี นรนู้ ้ำหมกั ชีวภาพ ๒.๑๓.๑ นางสุภาพ ศรหี านิล ครูชำนาญการพเิ ศษ ๒.๑๓.๒ นางปรยี าพร สำราญ ครูชำนาญการพิเศษ ๒.๑๔ ฐานการเรียนรกู้ ารเลย้ี งไกไ่ ข่ นายวลั ลภ อินธิกาย ครูชำนาญการพิเศษ ๒.๑๕ ฐานการเรียนรคู้ ณุ ธรรม-จริยธรรม ๒.๑๕.๑ นายสมยศ พลค้อ ครชู ำนาญการพเิ ศษ ๒.๑๕.๒ นางสาวธมนวรรณ วรรณประเสริฐ ครู ๒.๑๖ ฐานการเรียนร้โู ภชนาการดี ตามวิถีพอเพียง ๒.๑๖.๑ นางปรียาพร สำราญ ครชู ำนาญการพิเศษ ๒.๑๖.๒ นางสาวสภุ าพร คำผาย ครูชำนาญการพเิ ศษ ๒.๑๖.๓ นางอรอษุ า พนมหอม ครชู ำนาญการ ๒.๑๗ ฐานการเรียนรู้เรือ่ งกลว้ ยๆ ๒.๑๗.๑ นางสงวนวัลย์ พฤษชาติ ครชู ำนาญการพเิ ศษ ๒.๑๗.๒ นางสาวอัญชนา บญุ เวิน พเี่ ลีย้ งเด็กพกิ าร หน้าที่ ๑. พฒั นาหลักสูตร/ แนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพือ่ บ่มเพาะอุปนสิ ยั อยู่อย่าง พอเพยี งตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่อื บรรลเุ ปา้ หมายการพัฒนาที่ยง่ั ยืนแห่ง สหประชาชาติ (SDGs) ทสี่ อดคลอ้ งกับบรบิ ทการจดั การศกึ ษาในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ ๒. ผลติ /จดั หาและจดั ทำส่ือการเรียนรู้ วัสดุ อุปกรณ์ท่เี ก่ียวกับการจดั กระบวนการ เรยี นรู้ที่สอดคล้องกบั บรบิ ทการจดั การศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ เพื่อบ่มเพาะอุปนสิ ยั อยู่อยา่ งพอเพียง ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อบรรลุ เป้าหมายการพัฒนาทยี่ งั่ ยืนแหง่ สหประชาชาติ (SDGs) ๓. รวบรวมแนวทางการดำเนนิ งานและแนวการปฏบิ ัติทีเ่ ปน็ เลิศของศูนย์การเรยี นรฯู้ ท่แี สดงถึงการประยุกต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการบริหารและการจดั กระบวนการ เรียนรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒0๑๙ ๔. เผยแพร่ ประชาสมั พันธแ์ นวทางการบรหิ าร แนวการจัดการเรียนรู้ และแนวการปฏิบัติ ทเ่ี ป็นเลศิ ของศนู ย์การเรยี นรู้ฯ ในรปู แบบตา่ ง ๆ ที่สอดคล้องกบั บริบทและสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ เชน่ การจดั ทำเว็บไซต์ การเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ฯลฯ ๕. ปรับปรุงและพัฒนาศูนย์การเรยี นร้ฯู เชิงกายภาพ เช่น การปรบั ปรงุ และพฒั นาสถานที่ ฐานการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ สือ่ และอปุ กรณก์ ารจดั กระบวนการเรยี นรู้ท่ีสอดคล้องกบั หลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาและการบรรลุเปา้ หมายการพฒั นาที่ยง่ั ยืนแห่งสหประชาชาติ (SDGs) โรงเรยี นบ้านสรา้ งก่อ อำเภอกดุ จับ จังหวดั อดุ รธานี สงั กดั สำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๔
ห น ้ า | ๘๔ ๖. ประสานหนว่ ยงานภาครฐั ภาคเอกชน ภาคประชาสงั คมในท้องถ่ิน ชุมชนและ ผ้เู ก่ียวข้องเพ่อื พัฒนารักษาระดับคณุ ภาพและสริมสร้างศกั ยภาพให้พร้อมขับเคล่ือนหลักปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งสู่สถานศกึ ษาและการบรรลเุ ปา้ หมายการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื แห่งสหประชาชาติ (SDGs) ทสี่ อดคล้องกบั บริบทและสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ๓. คณะกรรมการประเมินผลและรายงาน ๓.๑ นางสุภาพ ศรีหานลิ ครชู ำนาญการพิเศษ ประธานกรรมการ ๓.๒ นางบุญไทย พลค้อ ครชู ำนาญการพเิ ศษ กรรมการ ๓.๓ นางสาวยุวรี จำปามลู ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการ ๓.๔ นางสาวชวัลลกั ษณ์ โคตะพาจันทร์ ครูชำนาญการ กรรมการ ๓.๕ นางสาววาสนา ชอ้ นผกั แวน่ เจ้าหน้าทีธ่ รุ การ กรรมการและเลขานกุ าร มีหนา้ ท่ี ๑. จัดทำแบบประเมินผลการดำเนินกิจกรรมของฐานการเรียนรู้ ๒. รวบรวมขอ้ มลู การประเมนิ ผลการดำเนนิ กจิ กรรมของฐานการเรียนรู้ ๓. รวบรวมขอ้ มูลการรายงานผลการดำเนนิ กิจกรรมของฐานการเรียนรู้ ๓. สรุปผลการประเมินการโครงการ การดำเนินโครงการและรายงานผลการดำเนนิ งาน ต่อสถานศึกษา สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต ๔ และสำนกั งานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพนื้ ฐาน/สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (ศูนยข์ บั เคล่ือนการพฒั นาตามหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียงฯ) ให้ผไู้ ดร้ บั การแต่งต้ังปฏิบตั ิหนา้ ท่ีอย่างเตม็ ความสามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ทต่ี ง้ั ไว้ หากเกดิ อุปสรรคและปญั หาใดๆ ให้รีบรายงานคณะกรรมการอำนวยการเพ่ือแก้ไขปัญหาตอ่ ไป ทัง้ น้ี ตั้งแต่บัดนี้เป็นตน้ ไป ส่งั ณ วันท่ี 25 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ (นางสาวดารณุ ี อัคเทพ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ โรงเรียนบ้านสรา้ งกอ่ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี สงั กดั สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๔
Search